เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

" การที่จะพยากรณ์ผู้ใดถึงอริยมรรคอริยผลนั้น..
ผู้ที่จะพยากรณ์ได้มีเพียงผู้เดียว คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น..
แม้พระอริยสาวกจะไปพยากรณ์หรือบอกว่าผู้นั้นเป็นโสดาบัน ผู้นี้เป็นอรหันต์ไม่ได้..
ไม่ถูกต้องตามพระวินัยบัญญัติ.."


หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

บอกคนอื่นว่าเราโง่ บอกตนเองอยู่เสมอว่าตัวเรานั้นอยู่ต่ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่จะเรียนรู้คนอื่นครับ ท่านสงบ นี้แหละครับนิสัยที่แท้จริงของผม น้ำนิ่ง ไหลลึกมั้ยครับ

 

/////////////
ฟังการสอนปฏิบัติของหลวงพ่อพุธท่าน...เข้าใจง่ายและใจสงบดี

 

มันไม่มีใครต่ำใครสูงหรอก...ดูใจตนเอง....เมื่อเห็นใจตนเองแล้วย่อมเห็นใจคนอื่น...สุดท้ายก็เมตตาคนอื่นเหมือนเมตตาตนเอง....เจริญพร

 

เห็นข่าวไทยรัฐในเฟสบุ๊ค...พนักงานโรงงานโดนขโมยเงินโบนัสในห้องตัวเอง...สูญเงินไป60,000...เห็นแล้วก็สงสาร....นั่นแหละโรงงานที่เราทำก่อนทิ้งมานี้...เราก็สูญโบนัสไป40,000...เพื่อมาคุยกับพวกท่านอยู่ทุกวันนี้แหละ...แล้วใครล่ะไปควบคุมจิตเรา...ให้เราทิ้งให้หมด....ขรัวโต พรหมรังสี....ไปตามเราถึงระยอง...แล้วพวกท่านยังมาเถียงกันเรื่องคำทำนายอยู่เลย....น่าสงสารยิ่งกว่าคนถูกขโมยเงินโบนัสเสียอีก

 

หลวงพ่อวัดไหนก็พูดแบบเนี่ยย วัยรุ่นเซ็งง

 

มันไม่มีใครต่ำใครสูงหรอก จะมีสักกี่คนท่านสงบที่คิดได้ สามแดนโลก ยังมีแบ่งชั้น ถ้าหมายถึงจิตหนึ่งจิตเดียวอ่ะใช่อยู่

 

" ผู้มีศรัทธาความเชื่อ ความเลื่อมใส บำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา ผู้นั้นจะได้บุญ ได้กุศล..
ถ้าตายไปแล้ว บุญกุศลจะให้ความสุขแก่ผู้นั้น..
ให้ไปสู่สุคติ มนุษยสุข สวรรคสุข นิพพานสุข..
ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพาน บุญกุศลที่ตนเองได้ทำไว้ ก็จะเป็นอุปนิสัยที่ตามรักษาคุ้มครองบุคคลนั้น..
ให้ประสบความสุข ความเจริญในสุคติ มีมนุษยสุข สวรรคสุข นิพพานสุข..
ถ้าบุคคลผู้นั้นหมั่นขยันเพียรบำเพ็ญไม่หยุดหย่อน..
อาจถึงนิพพานสมบัติในชาติปัจจุบัน หรือในชาติต่อๆ ไป.."

หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ
เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า

 

วันนี้วันพระ
กลับจากวัด ถ่ายบรรยากาศแถวหมู่บ้านมาให้ดู

 

ถ้าเอาธรรมมาเป็นตัวชี้...พระท่านก็บอกอยู่ว่า...ทุกสรรพสิ่งเป็นสมมุติ...ทุกสรรพสิ่งเป็นมายา...ทุกสรรพสิ่งเป็นอนัตตา...แล้วจะเอาอะไรมาเป็นต่ำเป็นสูงเล่า....ท่านชีวิน

 

แล้วรูปภาพคนถ่ายล่ะ..ไม่เห็นเลย...สวัสดีคุณครู

 

มันเปน มิจฉาทิฏฐิ ที่ขวาง การตั้งจิตให้ตรง
ต่อการรู้ทุกขสัจจ

ถ้า มองว่า หากมีธรรมแล้ว จะคอแข็ง มือแข็ง
ไม่มี อาการทางสัมมคารวะ ก้แปลว่า ยึดมั่น
มิจฉาทิฏฐิ ยึดมั่นสีลพรต

อาการทางสัมมาคารวะ จะแสดงออกมาตามปัจจัย
ตามความสมควรแก่ธรรม ไม่ใช่ไปเหนว่า หาก
ตั้งจิตให้ตรง กำหนดรู้ทุกขสัจจ แล้วจะกลาย
เปนคนจานลายคราม.....นี่แปลว่า......

หลงคำศัพท์ ไม่เคยอนุโลมการปฏิบัติแม้นแต่
เสี้ยววินาทีเดียว

อาการพินอบ พิเทา ขนคำครู อาจารย์มาแปะ
จึงเปนเพียงเลห์มารยา เก้อยาก ความสาไถย
ของโพธิสัตว์หนาเฮีย!จากระยอสะกลยะยา

คนละเรื่องกับ ทุกสรรพสิ่งสมมติ ดุจลิงที่
กระโดดขึ้นขย่ม อ้างว่า พระสมณโคดมไม่
ได้รับคำท้าทายจากพุทธเจ้าภาคปราบ
จึงสอนได้ไม่เท่า เศษเสี้ยว ตด กันทั้งอาราม
ขิหิจานโลลาย ต้นธาตุโพธิสัตวหนาเฮีย!

 

ท่านเป็นตำรวจหรือเปล่าล่ะ...ถ้าใช่ก็น่าจะเป็นท่านนั้นแหละที่เราคุยด้วย...เมื่อวานเราว่าจะถามอยู่ว่ามีใครในนี้เป็นตำรวจหรือเปล่า

 

ท่านมีความสามารถดีจัง...เรานับถือๆ...ท่านค่อนข้างชำนาญด้าการตำหนิคนอื่น...ท่านตำหนิเราเถิด...แต่ให้พึงระวังอย่าไปตำหนิคนอื่น...เพราะคนอื่นเขาอาจจะไม่เหมือนเรา55555

 

ลองดูนะฮับ คุงชีวิน

พระสารีบุตร บันลือสีหนารถไว้

กายคตาสติ บุคคลใดสมาทานอยู่ ละอัสสมิมานะ
ได้นานแล้ว เปนไปไม่ได้เลย ที่ สะบัดชายจีวร
ไปโดนผู้อื่น แล้ว ไม่รู้ตัว ไม่แสดงคำขอโทษ

สัมมาคาราวะ จะ แสดงออกมา บริบูรณ์
ไม่มีพร่อง คอแข็ง หรือ เอ๋อเหรอ เที่ยวมอง
มะอึงแค่สิ่งสมมติ

 

คำพูดมันก็แค่ลม...เกิดตรงไหนดับตรงนั้น...เกิดที่ใครดับที่คนนั้น...ใครสร้างขึ้นก็เป็นของคนนั้น...เรียกว่า...สร้างกรรมทางวาจา...กรรมทางวาจามีที่เกิดคือใจ...ถ้าการสร้างกรรมทางวาจามีปัจจัยคืออิจฉาหรืออาฆาตแล้วนั้น...ย่อมก่อเกิดเป็นไฟนรกเผาใจบุคคลนั้น...นะจ๊ะ

 

ใจท่านวาจาที่ท่านกล่าวก็เป็นเพียงสมมุติ..ไม่ได้ระคายใจเราเลย..พระพุทธองค์ทรงสอนว่า..ทำใจให้เหมือนแผ่นดิน...เราเป็นศิษย์พระพุทธองค์...เราก็ต้องปฏิบัติตามอาจารย์...เชิญท่านเหยียบย่ำจิตใจเราได้ตามสบาย...เรายินดีนะจ๊ะ

 

เริ่มเห็นภัยจากหุ้น และเห็นภัยจากในโลก และนอกโลก แล้วน่ะ ปั่นป่วนน่าดู คนไม่มีอะไรอยู่แล้ว
สบายใจเลย ขอแค่มีปัจจัย 4 ก็พอ

 

เป็นวันที่30ธันวา..เทศกาลปีใหม่ที่เงียบเหงา...เพราะคนส่วนใหญ่ยุ่งอยู่กับหวย...ส่วนเรานั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย...อากาศก็หนาว16องศา...แต่ดีที่มีแดดแล้ว..