เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

แล้วท่านปรารถนาสิ่งใด?
...บอกได้หรือเปล่า...

 

เรื่องสังเกตุมดขึ้นบ้านอันนี้น่าจะจริง เพราะตอนปี54 ก่อนน้ำจะมา มดแดงขึ้นมาห้องน้ำชั้น 2 เต็ม
ผนังจนตกใจ พอไม่นาน มดดำ ก็ขนไข่ขึ้นมาบ้าง สุดท้ายน้ำท่วม 1 ชั้น ส่วนหมาถ่ายกลางถนน
ฝนจะตก แถวบ้านนี่ ไม่รู้จะกี่กองแล้วรถเหยียบเละไปหมด ฝกไม่เห็นตกเลย

 

ขยะเทคโนโลยี ขยะมนุษย์ผู้ไม่มีปณิธานแห่งนิพพาน และพื้นแผ่นดินส่วนที่เป็นขยะ เช่น เกาะแก่งน้อยใหญ่ทั้งหลายและแผ่นดินชายฝั่งในส่วนที่ถูกถมโดยน้ำมือมนุษย์ หรือเป็นแผ่นดินที่มันงอกขึ้นมาใหม่ ล้วนต้องถูกชำระออกไปจากระบบโลกทึ้งหมด รวมทั้งจิตสำนึกของมนุษย์โลกผู้อยู่รอดจะถูกยกระดับสู่ความดีงามสูงสุดในเวลาเดียวกันด้วย

 

ในการชำระโลกครั้งที่สี่นี้ ผู้ไม่มีปณิธานแห่งนิพพานทั้งหลาย หลังจากถูกชำระให้จบสิ้นชีวิตลงแล้ว จิตวิญญาณก็จะถูกลงโทษด้วยการปล่อยให้เสมือน "วัตถุล่องลอย" หรืออาจเรียกว่า "สัมภเวสี" ก็ได้ โดยจะไม่มีโอกาสได้กลับสู่การเกิดใหม่เลยไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประจำโลกมนุษย์ หรือแม้แต่นรกชั้นต้น ๆ ก็ตาม จิตวิญญาณจะต้องล่องลอยไปมาทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสนานถึง 6 หมืนปีเต็มเท่ากับการกำหนดเวลาของยุคพลังงานใหม่ในรอบที่สองนั่นเอง พวกเขาจึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อแก้ไขตนเองใหม่อีกครั้ง

หากถามถึงระดับการทุกข์ทรมานแล้ว การไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดยังที่ใด ๆ บ้างเลยในช่วงเวลาที่ยาวนานเช่นนี้มันหนักหนายิ่งกว่าการได้ไปเกิดในภพภูมิต่ำ ๆ ด้วยซ้ำ

 

สิ่งสูงสุดคือ นิพพานค่ะ

 

ภาวนาสิ...ได้แน่ๆ...ไม่ต้องรอให้พระยาธรรมถือกำเนิดขึ้นบนโลกหรอก...ภาวนามากๆ...สิ่งที่บอกไปก็ให้ปฏิบัติให้ครบ..ให้ยิ่ง...ทุกสิ่งสำเร็จได้จากการภาวนา...

 

ก็อากาศมันแปรปรวนไปมากน่ะท่าน...คงจะเหลือที่สังเกตุได้หลักๆก็คงจะเหลือมด...รองลงไปก็แมลงสาป..และสัตว์ต่างๆที่อยู่ในรู...อยู่ใต้ดินประมาณนี้แหละ...

 

โดยโลกแค่เพียงถูกชำระเพื่อการจัดระบบองค์กรของโลกใหม่ทั้งในทางมิติทางกายภาพและมิติทางพลังงานเท่านั้น แต่สำหรับมนุษย์ภพชาติสุดท้ายในยุคพลังงานเก่า จะมีผู้ถูกชำระให้จบชีวิตลงท่ามกลางภัยธรรมชาติที่รุนแรง และภัยจากการทำร้ายหมายเอาชีวิตกันเองตามแรงแค้นอาฆาตที่ผูกพยาบาทจองเวรต่อกันไว้หลายภพชาติในอดีต นับได้จำนวนหลายล้านรูปธรรม ประชากรโลกยุคพลังงานใหม่จะลดลงจนน่าตื่นตกใจ ดวงจิตธรรมญาณของมนุษย์ที่ถูกชำระออกไปจากระบบโลกในครั้งนี้

จิตวิญญาณของมนุษย์ผู้ถูกชำระเหล่านี้ คือ ผู้กระทำตนเหลวไหล ไม่เอาไหน ไม่เอาถ่าน ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการทำหน้าที่ต่อตนเอง เมื่อเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นใคร แสดงบทบาทอะไร หากเป็นผู้ ไม่มีศีลธรรม ไร้คุณธรรมมโนธรรม ไม่มีปณิธานแห่งนิพพาน มีแต่ความโง่เขลางมงายและมักกระทำตนเป็นภัยต่อการปฏิบัติบำเพ็ญความดีงามของผู้อื่นเป็นอาจิณ ซึ่งเป็นแบบอย่างและเป็นเงื่อนไขที่ไม่ดีต่อผู้อื่นเสมอ เมื่อถูกชำระจิตวิญญาณ จะนำลงสู่นรกชั้นที่ 13 ถึง 16 ทันที เพื่อลงโทษกระทำให้สำนึกโดยวิธีทุกข์ทรมานต่าง ๆ ไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดตลอดกาล โอกาสที่จะคืนกลับสู่แดนสุญญตาด้วยสภาวะนิพพาน "หมดโอกาส" นี่เป็นสิ่งที่พอจะเปิดเผยได้เป็นสังเขป

หรือตายแล้วจิตวิญญาณจะก้าวหน้าไปไหนไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นวัตถุล่องลอยอยู่ในระบบโลก ดำรงตนเองทับซ้อนอยู่ในมิติโลกของภพภูมิมนุษย์อย่างทุกข์ยาก มีความหิวโหยอดอยากกับความเศร้าหมองเป็นคุณสมบัติแห่งตน ถ้ารูปธรรมใดที่เป็นมนุษย์สั่งสมรหัสบุรพกรรมทางอารมณ์กิเลสตัณหาเอาไว้มาก รูปธรรมนั้นก็จะมีความทุกข์ทรมานมากกว่า อีกทั้งแลเห็นบทบาทการดำเนินขีวิตของมนุษย์ยุคพลังงานใหม่ที่แข่งขันกันกระทำความดีงามด้วยปัญญาญาณ จะกระตุ้นจิตสำนึกแห่งความเสียใจและเสียดายโอกาสเมื่อครั้งได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วกระทำตนเป็นคนไม่เอาถ่านไม่เอาไหน

มันคือบทเรียนสอนเตือนจิตวิญญาณให้มีสติ

 

คนที่รอพระยาธรรมก็เพราะหวังว่า จะมีคนที่มีสติปัญญารู้แจ้งในธรรมมาชี้แนะตนนั่นแหละครับ
บางคนติดทุกข์ ติดสงสัย ติดภาวนาไม่ก้าวหน้า ก็อยากรู้ความจริงจากพญาธรรม

อย่างเจ๊.... ก็คาดหวังว่าอยากให้พระยาธรรมมาสร้างความเท่าเทียมให้

ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะเห็นว่า สิ่งที่ตนมีอยู่เป็นอยู่ทำอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถทำให้ตนพ้นจากความทุกข์ได้เลย

ส่วนผมก็อยากรู้ความจริงอะไรหลาย ๆ เรื่องน่ะนะครับ ก็เลยรอ รอแบบปรารถณาพุทธภูมิรอนี่แหละครับ

แต่ก็ช่างเถอะ ไม่มาก็ ปรารถณาเป็นพระพุทธภูมิ รู้มันให้สุดทุกเรื่องเองนี่แหละ รู้เองสอนเองดีกว่า ไม่อยากโดนหลอก อยากมีความอิสระที่สุดด้วย อยากทำให้คนอื่นพ้นทุกข์.

 

จะว่าไปนี่เราทุกข์เพราะมีตัณหา และ กิเลส สินะ = =
อยากได้อยาเป็นอยากมี อยากรู้ ไม่สมอยากก็ทุกข์
มีโมหะ ก็ทุกข์
โกรธ ก็ทุกข์ พยาบาทก็ทุกข์ อาฆาตก็ทุกข์
ไม่รู้ ก็ทุกข์

 

ท่านไฮเปอร์เศร้าทำไมคะ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ ขอให้มีปณิธานแห่งนิพพาน แล้วพร้อมจะยอมรับผิดด้วยจิตสำนึก และมีความมุ่งมั่นแน่วแน่แห่งสัจจะที่จะแก้ไขการกระทำที่ผิดค่ะ สิ่งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เหลือยู่ ณ ขณะนี้ค่ะ

 

ความจริงอยากอธิบายเรื่องนรกแบบวิทยาศาสตร์เหมือนกัน เห็นมีฝรั่งเข้าถ้ำไปสำรวจแล้ว บางพื้นที่ไม่มีอากาศให้หายใจแต่สิ่งมีชีวิตก็ยังดำรงอยู่ได้เนาะ นอกโลก นอกจักรวาลอีก เอาในโลกให้รอดก่อนพระเจ้าข้า

 

ผมว่าที่เหล่านั้นอธิบายสภาพนิพพานได้ดีเลยนะ สวรรค์ใต้โลกอะ ไม่อยากเกิดก็หนีมานไปเรื่อยจนกว่าจะเจอที่เหมาะสมสำหรับเรา

 

อาการสมองไม่ปกติเขาให้เห็นแต่นิมิตสยองขวัญอะ เนื่องจากผิดศีลข้อที่ห้า คงไม่ถึงกับกลืนน้ำทองแดงหลอก เป็นความไม่รู้ของคนสมัยก่อนที่ไม่รู้ว่าจริงๆ นิมิตคืออะไร

 

คนสมัยก่อนกินเหล้ากันเก่งกว่าผมอีก พอป่วยทางสมองไม่มีตัวช่วยก็ได้แต่โทษมั่วไปหมด มาเจอภาพทำร้ายจิตใจอีก ยิ่งเป็นอาการทางจิต โดนจิตตัวเองสั่งทำเรื่องบ้าๆ เหตุการณ์ร้ายๆ ก็มีอยู่ร่ำไป สำหรับคนที่ยังพอเยียวยาได้ก็ต้องมาฟื้นฟูสมองต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น

 

นิมิตบางทีก็มาในรูปแบบของอารมณ์กรรมก็ได้ค่ะ คือ ถ้าเป็นอาจิณกรรมแล้วส่งผลให้ การถูกครอบด้วยอารมณ์กรรมที่ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ จิตสำนึกอาจเตือนให้รู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่า ท่านต้องรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่าคะ มันเลยมาให้ท่านเห็น เพื่อเตือนสติและคลี่คลายมันออกมาค่ะ

ที่จริงแล้วการทำโทษก็คือ การกระตุ้นเตือนให้จิตสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี เมื่อมีการเกิดสำนึกขึ้นมาได้เองแล้ว พร้อมที่จะแก้ไขทัศนคติตนเองใหม่ ถือว่าสิ่งนั้นคือสติระลึกรู้ได้ เป็นพลังงานฝ่ายดีด้านบวกจึงทำให้กรรมนั้นเป็นกลางได้

เมื่อปฏิบัติได้จริง ๆ นึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตกนรกนี่ค่ะ เพราะอดีตที่ผ่านมาเราต่างก้ไม่รู้กันทั้งนั้น เมื่อคิดแก้ไขก็หมดกรรมหากไม่ทำใหม่ แต่วิบากรรมส่งผลให้เมื่อเกิดใหม่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะทำสิ่งใดไว้ต้องรับผล เช่นดื่มเหล้า เกิดใหม่อาจเป็นบ้าเสียสติ ปัญญาทึบนี้เราต้องรับผล แต่เรื่องการตกนรกแล้วถ้าสำนึกผิดได้จริง ๆ มิได้แสแสร้งนี้คงไม่ต้องกลัว เพราะการสำนึกผิดเป็นการรู้แจ้งขั้นต้นของตนเองค่ะ ก็ไม่ต้องไปดัดนิสัยจิตสำนึกเสียใหม่ในกรรมเรื่องนั้น ๆ นะค่ะ จิตยิ้มคิดอย่างนี้ค่ะ

 

ตามความเข้าใจผมนะ นิมิตคือข้อมูลสมองชนิดหนึ่ง คนธรรมดาทนไม่ไหวก็นึกว่าเรื่องจริง เกิดภาพหลอน หลอกตัวเองจนซึมเศร้าตายในที่สุด จนบางคนฝึกวิชาบรรลุจนบีบข้อมูลออกมาเป็นคลื่นชนิดหนึ่งพอไปโดนผู้โชคดีก็ทำให้มีความศิลปะขึ้นสามารถรับข้อมูลของผู้ส่งแล้วเอามาเขียนเป็นภาพศิลปะต่างๆ ตามวัดเยอะแยะ แค่ข้อมูลชนิดหนึ่งเท่านั้น ความเป็นจริงไม่โหดร้ายขนาดนั้น

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นว่ามันเป็นทุกข์...พวกเราทุกคนสามารถที่จะเรียนรู้..ลด..ละ..วาง...ได้ด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ...แม้พระพุทธเจ้าเสด็จมาด้วยพระองค์เอง...ก็ไม่สามารถแบกท่านไปนิพพานได้...ทุกอย่างพวกเรานั้นต้องฝึกเอง...เรียนรู้เอง...ปฏิบัติให้ถึงพร้อมเอง...พระพุทธเจ้าเป็นเพียงผู้ชี้ทางให้เท่านั้น...ผู้ชี้ทางจะชี้จนมือขาดก็ไม่มีประโยชน์อะไร...ถ้าพวกเราทุกคนไม่เดินไปเอง....เข้าใจนะ

 

นรกมีหลายแบบอะ ตามความรู้ความเข้าใจของผู้ฝึกวิชาอะ อย่างยุคนี้ผมเล่นคอมมากก็คงไปโลกแห่งคอมแหละ ไปตัดสินกันอีกทีในโลกดิจิตอล คงมีการดัดแปลงข้อมูลดีเอ็นเอในตัวเราให้รองรับตามเทคโนโลยีสมัยใหม่อะ จะมีใครเข้าใจมั้ยเนี่ย ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิดก็ติดกับชีวิตเดิมๆ ที่พระอินหรือพระเจ้าองค์เก่าสอนมาให้มาเสพสุขแต่เรื่องกาม แล้วมันจะหลุดพ้นมั้ยอ่า ใช้ตอนคน้อยๆ ได้ แต่นี่ประชากรเต็มโลกแล้วจึงเหลือแต่พื้นที่ในโลกไซเบอร์หาสวรรค์อีกระดับประหยัดด้วย โลกจริงจะพังทลายอยู่แล้ว

 

แบบพระพุทธเจ้าเบื่อเรื่องกามแต่มารดันส่งผู้หญิงมายั่วเรื่องกามอีก ปัดโธ่ ไม่มีไรจะทำแล้วรึไง ยุคนี้เพิ่มเป็นกิน กาม เกียรติ ใครติดกับก็เริ่มฉิบหายละ ผมถึงต้องหาทางหลุดพ้นแบบหาแทบไม่เจอเลย