เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    แหะๆ.....อ่านของพี่จ่าแล้ว มันส์จัง ตกลง ภาษานี้เขาลงเป็นคาถาอะไรเหรอครับ แล้วเกี่ยวข้องกับ เทพ สาริกา อย่างไร เผื่อได้ความรู้เพิ่ม

    แต่อย่างไรก้ตาม หลวงพ่อ ไปหยิบเอามาให้จากในห้อง ต้องมีอะไรดีแน่นอน ผมเลยวางไว้ที่โต้ะ บูชาเหล่าเทพนี้ แต่ก็เงียบน่ะครับ สาริกา ยังไม่ร้องสักเจี้ยบเดียว ไม่มีอะไรแสดง อาจจะต้องใช้ติดตัวน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2008
  2. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    นับถือครับ
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    สวัดดีครับ คุณอาทิ

    เราคุยกันออกอากาศก็ได้ ดีเหมือนกัน เพราะหลวงปู่หลวงพ่อที่เราต่างนับถือก็ล่ะสังขารไปแล้วเหมือนกันหมด จะโม้ๆ ไป ท่านก็ไม่มาเหนื่อยด้วยแล้ว เป็นการยกย่องท่านด้วย

    ๑) หลวงพ่อพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ตระกูลผมนับถือกันมาตั้งแต่รุ่นแม่ของผมยังเป็นสาวใหญ่ๆ ผมเป็นกลุ่มแรกที่เบียดเสียด ยัดเยียดเข้าไปเป่ายันต์เกราะเพชร ที่ศาลาพระพินิจ ครั้งแรก รุ่นแรก ไปนอนรอที่วัดตั้งแต่ตอนกลางคืน อันนี้เป็นเหตุการณ์เดียวในหลายเหตุการณ์ที่ผมไปหาท่านทั้งที่ซอยสายลม และวัด ท่าซุง ผมนับถือท่านมาก นับถือตั้งแต่เด็ก ฝันเห็นท่านหลายครั้ง ท่านเป็นหนึ่งไม่มีสองสำหรับผม แต่ผมไม่เคยได้ใกล้ชิดท่านจน รับปากเป็นศิษย์ แต่เพียงเป็นลูกศิษย์แบบห่าง ที่ชื่นชมท่านแม้ได้ยินเสียงจากเทปก็สุขใจ ท่านเป็นพระที่เปิดทาง ชี้ทาง เป็นแรงดลใจให้ผม มาหาแสงสว่าง

    ๒) หลวงปู่พระครูบุญศรี ได้พบจากการอธิษฐาน เพราะคิดถึงหลวงพ่อวัดท่าซุงที่ล่ะสังขารไป อยากจะได้พบพระแบบท่านอีก และมีหลักฐาน บุคคลยืนยันชัดเจนว่า หลวงปู่เป็นพระที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกให้ คุณยายแม่ชีประทุม ไปหา ตั้งแต่หลวงพ่อวัดท่าซุงยังมีสังขาร และฝากตัวเป็นศิษย์ ใครจะพูดอย่างไรก็เรื่องของเขา และผมยืนยัน ณ ที่นี้เลยว่า หลวงปู่บุญศรีไม่ใช่ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก เขาเข้าใจผิดกันไปเอง หลวงปู่พระครูบุญศรี เป็นพระที่ผม ได้ใกล้ชิด องค์แรกในชีวิต ผมนับถือท่านเหมือน พ่อ แม่ ท่านเมื่อย ผมนวด ท่านอยากไปนั่งรถเที่ยว ผมขับรถพาไปไกลแค่ไหนก็ไป ท่านชอบฉันอะไรผมทราบ ( ทราบดีด้วย เรียกว่าเห็น จะหยุด ลุกมาฉันทันที ) ท่านชอบอ่านอะไรผมซื้อ ท่านชอบสะสมอะไรผมทราบ และท่านจะเอามาอวดให้ผมดูกันแค่สองคน ตอนผมมีเคราะห์ใหญ่ ท่านสั่งให้ผมพาท่านมาที่บ้านผม มาทำพิธีให้ที่บ้าน แล้วเดินรดน้ำมนต์ทั่วบ้าน ท่านเจ็บป่วย ผมดูแลท่านสุดกำลังของผม เหมือนพ่อ เหมือนแม่ของผม ทั้งเวลาและเงิน จนท่านล่ะสังขาร ผมไปหาท่านทุกอาทิตย์ บางอาทิตย์หลายครั้ง และช่วย สร้างแพโบถส์น้ำจนสุดแรง จนเสร็จเพื่อบูชาท่าน นอกจากนั้นยังแบ่งที่วัดออกมาจนได้โฉนด จำนวน สามไร่ครึ่ง จนวัดมีโฉนดเป็นของวัดเอง หลวงปู่บุญศรีได้เมตตารับผมเป็นศิษย์ ท่านเป็นพระในดวงใจตลอดกาลของผมทีเดียว

    แต่แปลกใจว่า หลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านชอบว่านสาวหลง หรือ ฤาษีบดยา ปลูกอยู่หลังกุฏิเป็นกอๆ และชอบเอามาใส่สีผึ้งของท่าน คุณอาทิก็นำมาใส่พระจันทร์ลอยนี้ พอผมได้กลิ่น อาจจะทำให้ผมนึกถึงอาจารย์ของผมก็เป็นได้ เพราะว่ามีความผูกพันกันเรื่องว่านชนิดนี้อยู่ ส่วนน้ำมันเก้ากลิ่น ที่วัด ผมก็เป็นคนซื้อไปถวายหลวงพ่อเองครับ

    ๓) หลวงพ่อทรง วัดมอญ ได้พบ จากการอธิษฐานเหมือนกัน และเจอรูปท่านบนหนังสือพระเครื่อง ที่ศูนย์แห่งหนึ่งเอามาโปรโมท หลังจากสิ้นหลวงปู่พระครูบุญศรี ผมอธิษฐานอยู่เป็นปี หลายปี ว่าคนติดสมมุติแบบผม ถ้ายังพอมีครูบาอาจารย์ที่เกี่ยวข้องกันมาแต่อดีตชาติ ขอท่านเมตตามีนิมิตให้ผมได้รู้ด้วย จนผมมาพบท่านแล้ว แล้วได้เขียนเรื่องนี้

    เรื่องที่เล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อทรง เป็นเรื่องแบบติดสมมุติ เอามาฟังกันพอให้รู้ว่ามีพระแบบหลวงพ่ออยู่ มีของดีแบบแจกฟรีอีกหลายรายการ ส่วนอื่นมีอีกหลายเรื่องที่เล่าไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของหลวงพ่อ หรือ เป็นเรื่องส่วนตัวของผม และเล่าไปแล้วคนจะไม่เชื่อ แต่ยืนยันว่า หลวงพ่อทรง จิตท่านนิ่งมากๆ และเชี่ยวชาญในการกำหนดจิตปลุกเสก พระและเครื่องราง ท่านจะเสกพระ และเครื่องรางได้ขลัง แบบสุดๆ

    ถ้าให้เกียรติกัน ว่างๆช่วยโทรมาที่ 086 322 8619 ด้วยครับ - พี เสาวภา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2008
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ผมมีเบี้ยหลวงปู่นุ่ม หลายตัว มาเก็บเพราะมาเจอหลวงพ่อทรงนี่แหละ เบี้ยหลวงปู่นุ่มจะมีอะไรประหลาดๆ ตรงปรอทนี่แหละ เพราะเขา " เป็น "ครับ เขาเหมือนมีชีวิตน่ะครับ เขาจะเต้นๆ สั่นๆ ตอนแรกน่ะ ผมไม่ได้ศึกษา มาเจอตัวแรกงง แปลกใจเขาเอาปรอทแบบนี้มาจากไหน คิดว่าเอามาจากศพคนตาย คนตายแบบโบราณบางทีไม่มียากันเน่า เขาเอาปรอทเทกรอกปาก นึกว่าท่านไปพลีมาแล้วมาทำเบี้ย เพราะปรอทเขาทำอะไรแปลกๆ มาแน่ใจตรงเบี้ยหลวงพ่อทรงนี่แหละว่า มาจากการอธิษฐานจิตให้เป็น โดยไม่ต้องมีวิชาผีๆ เพราะแนวหลวงพ่อไม่มีแบบนี้ ปรอทผมก็ไปซื้อมาส่วนใหญ่ ไม่ใช้ปรอทมาจากไหน

    ส่วนวิชา แก้วจักพรรดิ์นี้ แก้วสว่างใสสุดประมาณนี้ น่าจะมาจากวิชชาธรรมกายครับ แนวทางของหลวงพ่อวัดปากน้ำครับ ท่านอาจจะไปฝึกมาจากหลวงพ่อวัดปากน้ำโดยตรง หรือ จากหลวงพ่อเกรียง หรือ จากหลวงพ่อผาด คนฝึกได้ถึงขั้นจะมี ของพระมหาจักรพรรดิ์ คู่บารมี เช่น แก้ว จักร ฯลฯ ผมเคยฝึกแต่ไม่ถึงขั้น โม้ได้แค่นี้แหละ การใช้วิชานี้ปลุกเสกพระเครื่องโดยเฉพาะไม่ใช้กับเครื่องราง พระเครื่องหลวงพ่อนั้นถ้าคนมีตาใน จะเห็นสว่างแบบไม่มีทางไปสุด เพราะลึก ไกลเหลือเกิน ไปเรื่อยๆ ขอให้ผ่านมือท่านเท่านั้น

    วันนี้เอาแค่นี้แหละครับ
     
  5. อาทิ

    อาทิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,559
    ค่าพลัง:
    +13,047
    ผมก็เชื่อว่าหลวงปู่บุญศรีไม่ใช่ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก เพราะหลวงพ่อท่านก็ย้ำนักย้ำหนาว่าออกมาไม่ได้ถาวรต้องอยู่ในป่าเท่านั้น และครูบาอาจารย์สั่งต้องเป็นประกาศิต ในคราวหลวงปู่บุดดาก็ทีหนึ่งที่เข้าใจกันผิด
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    การเสกปรอทนี้ ที่จริงมีมาแต่โบราณ อาจจะไม่ใช่วิชาแนวพุทธล้วนๆ แต่มีมาแต่อดีตกาล ครูบาอาจารย์แนวขาว จะใช้ในการรักษาโรคได้บางชนิด โดยการเทปรอทเข้าบนฝ่ามือ แล้วเสกจนปรอทหายเข้าไปในตัว ตอนยุคนี้ผมไม่ได้ยินใครทำแบบนี้แล้ว เพราะเรื่องที่ได้ยินมา ได้ยินมาแต่สมัยยังเด็กอยู่ ปรอทชอบกินของเน่า ก็จะเข้าไปกินพวกของเสียในร่างกาย พวก แผล ฝี หนองภายในต่างๆต่างๆ เช่น วัณโรค มะเร็ง ฯลฯ พวกนี้อาจจะรวมพวกของที่กระทำมาด้วย เช่นพวกคุณไสย ของต่ำ ของสกปรกต่างๆที่ปล่อยมาด้วยอาคม ไม่สามารถตรวจพบหาได้ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ แต่ปรอทเสกสามารถจะเข้าไปทำลายพวกเหล่านี้ได้

    นอกจากนั้น ปรอทยังเป็นปฏิปักษ์ กับพวก เวทมนต์คาถาอาคมฝ่ายดำ ยาแฝด ยาสั่ง ภูติผีปีศาจอีก ของพวกนี้เจอปรอทเข้าจะเผ่นแนบ หรือ เสื่อมไป เพราะพวกครูบาอาจารย์ฝ่ายดำ ที่คุมวิชาของเขาอยู่ก็หลีกหนีไปด้วย

    แต่พอมาประยุกต์ เข้ากับทาง ฝ่ายพุทธ ครูบาอาจารย์ รุ่นเก่าๆ ท่านไม่ใช่สำเร็จแค่วิชาไสยศาสตร์ ท่านเรียนมาเพื่อปฏิบัติในทางจิตในเบื้องต้น ตามจารีตนิยมแต่โบราณ เมื่อจิตท่านวิสุทธิ์แล้ว ของเหล่านั้นท่านปฏิบัติวิธีกรรม ตามธรรมเนียมของครูบาอาจารย์รุ่นเก่าที่กำหนดมาเท่านั้นครับ คาถาก็ว่าไปตามปาก แต่ของมาสำเร็จและตรึงด้วยการอธิษฐานจิต

    การเสกเครื่องรางนี้ คนล่ะแบบกับการเสกพระเครื่อง พวกท่านใช้เรื่องแม่ธาตุเป็นหลัก จะใช้การหนุนธาตุ ให้ธาตุหนึ่งให้เด่นออกมา ของปรกติที่เป็นอยู่ ธาตุจะครบแล้วจะนิ่ง เพราะถึงจุดสมดุลย์ ( equilibrium ) คือสภาพจะคงที่ เพราะ ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะสมดุลย์กัน แต่ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า ( ที่เน้นว่ารุ่นเก่า เพราะรุ่นใหม่ไม่แน่ใจ เพราะจะมีแต่พิธีพุทธาภิเษก ) ท่านเข้าใจถึงเรื่องแบบนี้ และฝึกสำเร็จ ท่านจะหนุน ธาตุใด ธาตุหนึ่งในนั้น ให้ เด่นออกมา แล้วอธิษฐานจิต ไปตามลักษณะของธาตุเหล่านั้น ในกรณีนี้ ทำให้ปรอท " เป็น " เหมือนมีชีวิตขึ้นมา

    ตอนเขาเปิดกรุหลวงพ่อเงิน บางคลาน เจอบาตรน้ำมนต์ในกรุ เปิดบาตรออกมา ต้องตลึง เพราะน้ำมนต์ยังเต็มบาตรอยู่ เรื่องนี้มีพยานเห็นกันหลายคน น้ำนั้น ถูกเน้นเรืองการปรับธาตุมาแล้ว ไม่เป็นไปตามกฏวิทยาศาสตร์ จึงไม่ระเหยไปตามกาลเวลา

    หลวงพ่อทรงท่านศึกษา วิชาแบบนี้มาในแนวกสิน ลม น่าจะตามแบบหลวงพ่อ มุ่ย ที่ท่านนับถือ เพราะหลวงพ่อมุ่ยท่านทรงอารมณ์นิ่งอยู่ใน ณานสมาบัติตลอดเวลาด้วยการเพ่ง ใบใม้ที่ไหวริบๆ นอกกุฏิเป็นอารมณ์ จิตจะนิ่งอยู่ในณานสมาบัติเป็นอารมณ์ เหมือนแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟอยู่ตลอดเวลา ท่านคงจะเจริญกสินลมเป็น อารมณ์ของกสิน ที่มีฤทธิ์ เมื่อถูกขอให้ทำอะไร ท่านก็จะล่ะจากการเพ่ง แต่เหมือนแบต ลูกใหญ่ที่ชาร์จไฟเต็ม เมื่อถูกขอให้เสกของให้ จิตของท่านจะมีกำลังมาก เหมือนปล่อยกระแสไฟ ท่านจะหนุนธาตุ จนของเหล่านั้นเคลื่อนไหว พวกสิงห์ งาแกะ ตะกรุด พระเครื่อง ฯลฯ จะวิ่ง ขยับกันเกรียวกราว แล้วท่านก็อธิษฐานจิต เชิญครูบาอาจารย์หนุนเข้าไป เป็นพระอธิฐานแบบหนึ่ง เป็นเครื่องรางอธิษฐานแบบหนึ่ง แยกกัน แม้ของจะวางรวมกัน เมื่อเสร็จกิจ ท่านก็กลับไปเพ่งใบใม้ไหวตามเดิม กลับไปนิ่งอยู่ในอารมณ์กสินแบบเดิม

    ผมเข้าใจว่า ที่หลวงพ่อทรง ท่านมารู้จักหลวงพ่อมุ่ย ไม่ใช่เพราะกิติศัพท์ของหลวงพ่อมุ่ยอย่างเดียว แต่ถ้าสาวไปให้ลึก หลวงพ่อทรงท่านก็เป็นศิษย์หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ซึ่งสำเร็จวิชา ปรอท หลวงพ่อนุ่ม ท่านไม่ใช่คนพื้นที่ แต่เป็นคนสุพรรณ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่อ้น วัดดอนบุบผาราม สุพรรณบุรี หลวงปู้อ้นนี้ คือพระอาจารย์ ที่บวชให้ หลวงพ่อมุ่ยนี่เองครับ ( ถ้าผมได้ยินมาผิด โปรดทักด้วย เพราะแค่สันณิฐานผูกเรื่องเอา ) คือเป็นอาจารย์หลวงพ่อมุ่ย เพราะฉนั้น หลวงพ่อนุ่ม และ หลวงพ่อมุ่ย ต้องรู้จัก มีความสัมพันธ์กัน มากว่า คนรู้จัก เพราะเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน คนสุพรรณเหมือนกัน เมื่อสิ้นหลวงพ่อนุ่มแล้ว หลวงพ่อทรงถึงไปหาหลวงพ่อมุ่ยครับ แล้วการเสกของด้วยการหนุนธาตุ จนของเป็น สั่นได้ ดิ้นได้ หรือ บินได้ ก็มาตามแนว หลวงพ่อมุ่ย และ หลวงพ่อนุ่มนี่เอง

    นอกจากนั้นแนววิชา ของหลวงพ่อมุ่ยไม่ได้มาจาก อาจารย์ของท่านคือหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขาอย่างเดียว แต่ท่านไปเรียนมาจากหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่ามาด้วย ซึ่งเป็นปรมาจารย์ทางด้าน แม่ธาตุ และท่านยังเรียนมาอีกหลายอาจารย์ หลวงพ่อทรงบอกผมเองว่า แอบเรียนมาบ้างจากหลวงพ่อมุ่ย คำว่าแอบเรียน ผมไม่ทราบว่าแค่ไหน แต่ท่านทำได้ไม่เสียชื่ออาจารย์ของท่านแน่นอน

    ของๆหลวงพ่อมุ่ยไม่ต้องบรรยาย แฟนคลับเพียบ ของปลอมบาน ของหลวงพ่อนุ่มก็เหมือนกัน หลวงพ่อนุ่มท่านยังไปเรียนมาจากหลวงพ่อเดิมอีกด้วย ซึ่งก็เป็นปรมาจารย์ทางด้านแม่ธาตุอีกเหมือนกัน ของหลวงพ่อนุ่มจึงขลัง คนวิเศษฯรุ่นเก่าๆที่ทันท่านจะนับถือท่านมาก แฟนคลับเพียบอีกเหมือนกัน แม้จะไม่ดังเท่าหลวงพ่อมุ่ย เพราะท่านมีสมณศักดิ์ เป็นถึงเจ้าคณะอำเภอ ต้องทำงานด้านบริหารด้วย ไม่ได้มาทำแต่เครื่องราง พระเครื่องอย่างเดียว

    นอกนั้นหลวงพ่อทรงต้องศึกษาแนววิชชาพระธรรมกาย มาด้วยแน่นอน ฉนั้นเมื่อเราศึกษาลึกลงไปเรื่องพระผู้เฒ่า ของวิเศษชัยชาญ องค์นี้ ประกอบด้วยที่ท่านเป็นคนนิ่ง ศีลบริสุทธ์ เป็นที่ยอมรับกันทั้งพระและฆราวาส แถววิเศษฯ เป็นพื้นฐานที่แน่นปึ้ก สำหรับความเป็นพระของท่าน จะเห็นได้ว่าหลวงพ่อทรง ท่านไม่ใช่พระหลวงตาธรรมดาเลย แต่มีประวัติน่าสนใจ และยิ่งใหญ่มาก เพราะครูบาอาจารย์สายวิชาท่าน ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เป็นระดับ Top Ten แทบทุกท่าน

    ของวัตถุมงคลของหลวงพ่อทรง ในรูปแบบที่เป็นสากลแน่นอน ที่เล่นหาได้แบบมั่นใจ วันหนึ่งจะเหมือนของพระคณาจารย์รุ่นเก่า คือ พลิกแผ่นดินหาแน่นอน เพราะอย่างไรจะเป็นทองวันยังค่ำครับ คนได้ไป ก็จะเห็นผลแล้วเก็บเงียบ แล้วหาเพิ่ม คนที่มาทราบก็หาเก็บ คนมาทีหลังพอรู้ อยากจะได้ ก็หายากซ่ะแล้ว จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยจน เป็นตำนาน ร่ำลือกัน แต่หาของยากชมัด แน่นอนครับ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแบบเดิมๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2008
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ส่วนเรื่องการจับพลัง เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แล้วแต่จะเห็นอย่างไรก็ว่ากันไป ผมเคยได้ปฐวีธาตุ จากอาจารย์อนันต์ ได้มาฟรี ท่านให้ด้วยความเอ็นดูถึงสามก้อน อดสงสัยไม่ได้ พอคนว่างแบบตัวๆสองคน ผมควัก มาให้หลวงปู่พระครูบุญศรีดู กราบเรียนท่านตรงๆว่า หลวงปู่เมตตาลูกหลานด้วยครับ เขาว่าเป็นของ ท่านเจ้าคุณนรฯ ใช่หรือไม่ครับ

    ท่านตอบว่าไงรู้ไหมครับ ท่านว่าดูยาก แล้วยิ้มๆ อันนี้ขนาดพระแบบหลวงปู่น่ะครับ ผมเลยต้องถามว่าดีไหมครับ ท่านบอกว่าดีมาก เลยเอาแค่นั้น

    ผมเจอมาแบบนี้ บอกตามตรงพระแบบหลวงปู่พระครูบุญศรี ยังไม่แน่ใจ ว่าดูยาก พระแบบท่าน ในวันพระ ถ้าไปเข้าเฝ้าสมเด็จองค์ปฐมทีพระจุฬามณี ท่านจะนั่งแถวหน้า ร่วมกับหลวงพ่อวัดท่าซุง น่ะครับ แล้ว พระอินทร์ สักกะเทวราชน่ะ มาคุยกับหลวงปู่ประจำแทบทุกวัน พระที่ท่านไปหาประจำ ไปคุยด้วย ในตอนนั้นมีสององค์ องค์หนึ่งพูดไทยไม่ได้ อยู่แถวชายแดน อีกองค์ก็หลวงปู่พระครูบุญศรี ที่อยู่ทีพยุหคีรี ผมโม้ให้ฟังเลย ไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไร ท่านก็เสียไปแล้ว ถ้าปรามาสก็ปรามาสผมก็แล้วกันที่เอามาเล่า เรื่องของหลวงปู่พระครูบุญศรีผมเลยไม่ค่อยอยากเล่าเท่าไหร่ เพราะเล่ายาก

    อันนี้นำมาเทียบให้ดูว่าขนาดพระแบบหลวงปู่พระครูบุญศรี ยังบอกว่าดูยาก แล้วไอ้ที่ดูๆกัน เล่ากันเป็นตุเป็นตะ ดีมั่ง ไม่ดีมั่ง ไม่มีอะไรบ้าง ก็ว่ากันไป....แหะๆ

    ผมเคยเอาพระของหลวงปู่พระครูบุญศรีไปให้เขาดูเหมือนกัน เขาบอกว่าไม่เห็นมีอะไร ผมเลยเลิกเอาไปให้ใครดูครับ ...แหะๆ ตัวใครตัวมันว้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2008
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เห็นลุงพูดถึงปรอท ก็ขอเล่านิดนึง ปู่ผมเป็นคนวิเศษ ท่านเสียตอนอายุแปดสิบกว่า แล้วก็กว่ามาสิบกว่าปีได้ พ่อเล่าให้ฟังว่าเคยเห็นปู่กินปรอท ปู่ชอบเล่นวิชา แต่ก็ไม่รู้ว่าปรอทที่ปู่กินเป็นแบบไหน พ่อเล่าให้ฟังว่าดังนี้

    ปู่เอาใบตองมาปูที่พื้นกระดาน แล้วท่านก็กินปรอท จากนั้นก็นอนภาวนา ปรอทก็ซึมออกมาทางผิวหนัง ตกบนใบตอง ปู่ก็ลุกขึ้นมากอบเอาปรอทจากใบตอง กลับมากินใหม่ แล้วก็นอนภาวนาไปเหมือนเดิม ทำอยู่อย่างนี้หลายเที่ยว

    พ่อบอกว่า ปู่ทำไม่สำเร็จ เพราะปรอทหนีออกมาจากตัวได้ ปู่เลยเลิก .... ฟังจากที่เล่า ก็ให้นึกถึงพระเก่งๆสายวิเศษฯที่สำเร็จปรอท ว่าสายนี้ไม่น่าแพ้ใครเลย เออ ว่าแล้วก็เสียดายปู่เราเหมือนกันแฮะ (กินปรอทแล้วไม่ตาย!)
     
  9. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
    เจอสายตรงอีกแล้วครับท่าน
    สาธุ
     
  10. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    เรื่องจับพลัง ผมเคยนำตะกรุดหลวงปู่ที่เช่ามา ให้เพื่อนท่านหนึ่งช่วยดูให้

    หลังจากเค้าจับพลังแล้ว เค้าบอกว่า เห็นแผ่น อักขระ ยืดยาว อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    ต่อมาเอาพระสมเด็จของหลวงปู่ ให้เค้าดู

    เค้าบอกว่า มวลสารแน่น และพระที่ปลุกเสกก็เก่งและฉลาดมากๆ

    เพราะท่านอัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้าลงในพระองค์นี้ด้วย

    ประสบการณ์อันเล็กน้อย มีเท่านี้ล่ะครับ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เรื่องทานปรอทนี้ ผมคิดว่า คุณปู่ของคุณสำเร็จถึงขึ้นหนึ่ง เพราะท่านอายุยืน ปรอทอาจจะไปช่วยรักษาอาการภายในบางอย่างได้ การกินเข้าไป ถ้าไม่สำเร็จวิธีฆ่าปรอท เป็นคนธรรมดา ตายแน่นอน ท้องไส้พัง เข้าโรงพยาบาลแน่ๆ แต่ท่านไม่เป็นไร

    ที่ว่าไม่สำเร็จ คงเป็น การใช้ปรอทไปในทาง วิชาอื่น เช่นคงกระพัน แคล้วคลาด มหาอุด ปล่อยใส่คู่ต่อสู้ ไม่กระหายน้ำ กำบังตัว เหาะได้ อะไรประเภทนั้น เพราะแบบนั้นคงต้องใช้จิตชั้นสูง

    ตามที่ผมได้ยินมา หลวงพ่อพัก วัดโบถส์ท่านก็ ฉันปรอท แล้วปรอทจะไหลออกมาเองเหมือนกัน ท่านคงสำเร็จวิชานี้แน่นอน และ ท่านคงจะเรียกปรอทได้ แต่หลวงพ่อพัก อายุไม่มากครับ ประมาณแค่หกสิบปีเท่านั้นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2008
  12. โอ ท่าซุง

    โอ ท่าซุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,291
    ค่าพลัง:
    +8,436
    สุดยอดทั้งนั้นเลยครับ สาธุ ขอกราบ หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ด้วยครับ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ขอดูรูปพระปิดตาหน่อยซิครับ
     
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    รูปห้องน้ำ ก็ถ่ายมาน่ะครับ....แหะๆ หลวงปู่แม้อายุจะมากแต่ชอบอยู่ชั้นบน ส่วนชั้นล่างเป็นห้องน้ำ ท่านเดินขึ้นลงสบาย

    ส่วนรูปหล่อหลวงปู่บุญศรี หล่อทีหลัง จากสำนักแม่ชีประทุม โดยป้าอิ้ด ผมไปช่วยหล่อที่สำนัก และเป็นเจ้าภาพปิดทองสำหรับ องค์นี้ที่นำไปที่วัดใหม่ฯ

    จำได้ครับ
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    แลกกันก็ได้ครับกับพระปิดตา ผมจะส่งโพธิ์เก้าใบ ครกที่หลวงปู่กดไปให้ครับ
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เป็นผมน่ะ ไปกินตั้งแต่ท่านบอกครั้งแรกแล้ว....แหะๆ เรื่องกินฟรีน่ะ ผมไม่ค่อยท่ามากเท่าไหร่....แหะๆ เจ้บะ แกก็แกง อร่อยซ่ะด้วย

    วันนั้นผมก็อยู่ พอชักเริ่มมืดๆก็กลับ เพราะเห็นหลวงพ่อ เหนื่อย และ เหี่ยวมาก แต่ดูรู้ว่าท่านลึกๆ มีความภูมิใจมาก ว่าวัดเล็กๆ แต่มีเจ้านาย และคนมาร่วมงานมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2008
  17. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    สนุกสนานมากมาย ชอบๆๆ
     
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ขุนแผนหน้า.JPG ขุนแผนหลัง.JPG

    พระขุนแผนบ้านกร่าง

    ต้องเอาพระขุนแผนสุพรรณ มาชนกับ ขุนแผนระยองซ่ะหน่อย วัดบ้านกร่างต้นตำหรับซ่ะด้วย

    ของที่หลวงพ่อเสกนั้น ถ้าเขาถวายมาเป็นถุงๆ หรือมีเยอะ ถ้าท่านจะให้ผมบางที ท่านเอาวางเลยทั้งถุงบอกหยิบเอา ผมก็เลือกๆคัดๆเท่าที่ตาจะพอมองเห็นตามกิเลสส่วนตัว ว่าชอบของสวย แล้วให้ท่านเสกซ้ำ
    <O:p</O:p
    แต่ก็มีของบางชิ้น คงมีไม่มากที่เขาถวายมา หรือ ท่านไปร่วมงานเขาถวายมา มีแค่ชิ้นสองชิ้น ท่านจะหยิบให้ พระที่ลงเป็นพระขุนแผน ท่านให้มา ผมเองไม่ทราบประวัติเลย ว่าได้มาอย่างไรที่ไหน แต่เมื่อมาจากท่าน พระนี้ต้องเกี่ยวข้องกับท่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่ และท่านคงต้องเสกให้ด้วย หรือบางทีผมอาจจะถาม แล้วท่านคงบอกแล้ว ผมคงลืมน่ะครับ เพราะไม่คิดว่าจะต้องมานั่งเขียนเรื่องหลวงพ่อ <O:p</O:p
    ตกลงว่าได้มาจากท่าน เก็บไว้อย่างดี
    <O:p</O:p
    เป็นพระขุนแผน เนื้อดำๆเทาๆ น้ำตาลๆ ล้อพิมพ์บ้านกร่าง มีแร่ใส พวกแร่กลีบม้าอยู่สะท้อนแว้บๆ เนื้อละเอียด แกร่ง เป็นเนื้อผง สูงประมาณ ๓.๘ ซ.ม. ฐาน กว้างประมาณ ๒.๐ ซ.ม. ขนาดกำลังกระทัดรัด <O:p
    <O:p</O:p<O:p</O:p

    ข้างหลังลงหัวใจขุนแผน สุนะโมโล และ บ.ก. คงไม่ใช่คำ บอกอ แต่คงเป็นจากคำว่า บ้านกร่าง
    <O:p</O:p
    วัดบ้านกร่างศรีประจันต์นั้นไม่ไกลจากที่วัดหลวงพ่อเท่าใด เป็นเขตต่อกัน ขับรถไม่นาน น่าจะประมาณครึ่ง ชั่วโมง คงเป็นวัดใดวัดหนึ่งมานิมนต์ท่านไปร่วมเสก ถ้าท่านผ่านไปและไปเจอ ก็ให้ทราบว่าพระนี้มีความเกี่ยวพันกับท่าน เก็บไว้รับรองไม่หนักบ้าน แต่จะเบาสบาย เงินทองไหลมาเทมา เอามาติดตัวก็เป็นเสน่ห์ เมตตามหานิยม แก่คนทั้งหลาย<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2008
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289

    เรื่องอุปกรณ์ สร้างพระนี้ ไม่หวงวิชาเลย ทำมาเยอะ ซื้อมาเยอะ ที่ไม่หวงเพราะไม่ได้ทำขาย ไม่กลัวใครมาแย่งตลาด แย่งลูกค้า พวกทำขาย เขาจะหวงสูตร กลัวคนเรียนแบบ แย่งตลาดเขา แต่ผมน่ะ บอกเขาเลย จะได้ทำเยอะๆ เอาให้รูปพระ เกลื่อนไปทั้งแผ่นดินสยาม ยิ่งเป็นพระที่วัดสร้างเอง แจกเอง ล่ะขอให้บอกว่าจะเอาอะไร ให้มั่นใจเถอะว่าของจริง ยิ่งวิชาไม่หวง เพราะทำมาจริง ตระเวณ ไปจริง เดินจริง เกือกสึกมาหลายคู่ ยางรถ สึกไปหลายเส้น ไม่ใช่แบบไอ้พวกนั่งเทียนมาด่าเขา รู้นั่นรู้นี่ มั่วๆ เอา แต่ทำมาอวดรู้ให้อายคนอื่นเขา

    ทั้งวัสดุ ปูน ตัวประสาน น้ำหอม สีผึ้ง น้ำมันแก้ว ตลับ อุปกรณ์ การพิมพ์ แท่นพิมพ์ แท่นโม่ ครก รางบด ช่างทำพิมพ์ ช่างหล่อ ช่างแกะสลัก ช่างแกะงา ช่างทำมีด ไทยและฝรั่ง ช่างทำกล่อง ช่างกลึง ช่างเชื่อม ช่างกะหลั่ย ช่างทำเหรียญ ช่างปั้นพระ ช่างกรมศิลป ฯลฯ ผ่านมาหมดครับ กระทบไหลมาหมด หมดเงินไปหลาย ไม่ได้ มานั่งเทียนมั่ว แต่เริ่มแก่แล้ว บางทีมันเลือนๆไปบ้าง จำสถานที่ได้ แต่ลืมชื่อ แหะๆ ลืมเบอร์โทรมั่ง เพราะไม่ใช่อาชีพ จะต้องมานั่งจำ แต่ทำด้วยใจรักและความมันส์...อิอิ

    ใครไม่ได้ทำขาย มีจิตอันอยากแจกจริง ก็โทรมาถามได้ครับ ถ้าเห็นว่าจริง บางทีจะร่วมบุญด้วยจ้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...