เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    สวัสดีครับพี่ และทุกๆท่าน

    ผมเชื่อและตามพี่พีอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไรครับ พระนักธรรมพิมพ์วัดอยู่บนคอลูกสาวผมคู่กับพระปรกฯเนื้อโคตรเศรษฐีหลวงปู่บุญศรีมาตั้งแต่ลูกสาวผมเล็กๆ เรียนอาจไม่เก่งมาก แต่ไม่เคยต้องหนักใจอะไร แต่ชอบภาษาอังกฤษมาก จน ม.6 ปีนี้ ก็ได้ภาษาอังกฤษนี่แหละ ช่วยให้ได้คณะ และมหาวิทยาลัยที่อยากเรียน สมัครคณะเดียว ก็ลุล่วงตั้งแต่รอบแรกเลย (คะแนน Toeic ไปสอบแบบไม่มีเตรียมตัว 965) ภาษาอังกฤษดีกว่าผมมากๆ

    ผมเองสะสมพระตามที่พี่พีแนะนำ หลวงปู่บุญศรีเป็นหลัก หลวงพ่อทรงบางพิมพ์ จนตอนนี้ ผมแทบไม่ได้สะสมเพิ่มเลยยกเว้นทำบุญ รู้สึกพอแล้วยกเว้นที่พี่พีเปิดให้ทำบุญ(พระที่ผมรับมาจากพี่พี ผมจะแยกไว้ต่างหากเลยครับ)

    ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามกระทู้นี้มานานมากๆ และจะติดตามต่อไปตลอดครับ อยากจะบอกว่าชีวิตผมดีขึ้นมากๆ

    ติดตามเสมอครับ
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    วัดนักธรรมพิมพ์วัด และพิมพ์วัดทุกพิมพฺ์

    เผอิญเขาไม่ได้มาคุยกันในนี้ ผมจะได้แย้งได้
    ใครที่ว่าพระชุดวัด รวมทั้งนักธรรมพิมพ์วัดหลวงพ่อไม่ได้เสก อย่าไปเชื่อครับ
    เสกมากกว่า ๑ ครั้งทั้งนั้น ที่เก็บนานในหอสวดมนต์เสกมาเป็นปีก็มี เสกแบบทับถมกันไป แน่นๆ
    ลองอ่านของผมในกระทู้ในพลังจิต ที่ผมเอาข้อมูลมาลงใน FB ( เอาข้อมูลมาเผยแพร่ความจริง ผมไปวัดมาตั้งแต่ ปี ๒๕๔๖ โดยประมาณ จน หลวงพ่อป่วย ตามดูแลช่วยค่า รักษา พยาบาลท่านจนล่ะ สังขาร ในปี ๒๕๕๐ ด้วยความเคารพ รักหลวงพ่อเหมือนญาติผู้ใหญ่ ) หมดเงินทอง รักษา ผ่าตัดต้อตาหลวงพ่อ คราวแรกผมก้แย่งโยมเขาจ่าย ค่า โรงพยาบาล ค่ารถ ค่าน้ำมัน จิปาถะ ผมก็ร่วมด้วยหมดไปหลายเงิน ไม่ได้มารักหลวงพ่อแค่ตอนขายของ ประมูลของท่านอันนี้ทีหลังหลังจากท่านล่ะสังขารไปเป็นหลายปี
    เป็นคน ไปช่วยวัด ทั้งแม่พิมพ์ และ ผง แทบทุกชนิด ......เจตนา ให้วัดอยู่ตัวได้เอง แบบพ่อหลวง ร ๙ ท่านว่า ไม่ปลาให้ แต่ให้เบ็ดตกปลา ไปช่วยตัวเอง ..... ไม่ต้องมีนายทุนหรือใครมาทำถวายมาทำให้อย่างเดียว ..... เห็นตั้งแต่ ผงไปจนขึ้นเป็นรูปพระ ยังเอาลังกระดาษไปถวายให้ใส่พระด้วย น่าจะครบวงจร รอแต่จะเอาใส่กรุเท่านั้น ที่ไม่ได้ทำ เพราะหลวงพ่อท่านล่ะสังขารไปก่อน
    โดยเห็นว่า นายทุนสร้างพระ เครื่องราง มาให้หลวงพ่อเสก แค่แบ่งไว้มั่ง แต่ ตัวเองเอาพระกลับไปแทบทั้งหมด .... ไปขายหรืออะไรก็ตาม วัดแทบไม่ได้อะไร ได้แบ่งไว้แค่นั้น พอเอาแจก ช่วยโฆษณาซ่ะอีกว่ามีรุ่นนี้จริงๆ วัดกลับเป็นเครื่องมือช่วยเขาซ่ะอีก
    ผมจึงช่วยส่งเคราะห์ ทั้ง ผง เครื่องบดทั้งมือ และ ไฟฟ้า น้ำมันตั้งอิ้ว น้ำหอม แม่พิมพ์ แทบจะทุกชนิด จนวัดยืนได้บนขาตัวเอง ทำเอง จำหน่ายเอง แจกมั่ง ขายมั่ง ตามสไตล์หลวงพ่อ จนมีเหลือเฟือ ก็ซื้อปูนหอย ซื้อปูนแม่พิมพ์ไปถวายอีก กลัววัดจะหมดของ จนหลวงพ่อบอกพอก่อน มีเยอะ ทำไม่ทันแล้ว
    รวมทั้งเครื่องราง แผ่นตะกั่ว ที่ม้วนจะกรุด ออกแบบ สร้าง ม้วนได้ ถึง ทองแดง กว้าง ๗ นิ้ว ม้วนตะกั่วได้ทุกขนาด ผมก็ช่วยสงเคราะห์วัดให้ ทำเองได้ ไม่ต้องไปพึ่งเขา
    หาซื้อเบี้ย ขนาดรวมๆหลายสิบกิโล น่าจะเป็นหลายพันตัวถึงหมื่น ตระเวณหาแถวใน กทม ชลบุรี บางแสน จนร้านเบี้ยมันจำหน้าได้ แนะนำ ว่ารอสั่งจากอินโดนีเซีย จะมาให้โทรมาถาม จะแบ่งขายให้เป็นกิโลๆ ..... ถ้ารวมตัวเล็ก ๆ เป็นหมื่นตัวแน่นอน เพราเขาขายคละกันมา แยกไม่ได้ ปรอทจากแถววัดสามปลื้ม ทุกชนิด ผมริเริ่ม หาเอาไปถวายหลวงพ่อทั้งนั้น เจตนาให้วัดทำเอง จำหน่ายเอง
    ยกเว้นอย่างเดียวที่หาไม่ได้คือ ชันนะโรงได้มาจากลูกศิษย์ คุณ ช. ลูกศิษย์ตัวจริงหลวงพ่ออีกท่านที่ทำมีดหมอรุ่นแรก มาถวายด้วยฟรีๆ คุณ ช. ที่ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับวงการพระเครื่องเลย ถวายให้ เปล่าๆ เอาแต่บุญ เอาอานิสสงค์ ไม่เอาเงิน
    ผมทั้งไปวัด แทบทุกอาทิตย์ เพราะหน้างานอยู่ที่ศูนย์ใหญ่ NGV ของ ปตท ที่ปทุมธานี ผมรับเหมาได้งานทุกศูนย์กระจายไปทั่วภาคกลาง ในตอนนั้น เพราะบางครั้ง จนแต้ม คิดไม่ออก หรือ ลังเลในการค้าขาย หลวงพ่อท่านช่วยมีอะไร ขัดข้อง มองไม่ชัดก็ไปกราบเรียนถามท่าน ทางเดียวกับวัด นั่นแหละ บ่ายๆว่าง ก็แว็บไปหาหลวงพ่อ ขากลับวิ่งตัดมาขึ้นทางด่วนกลับบ้าน ทำมาเป็นหลายร้อยๆ ครั้งจน ชำนาญทาง หลับตาเห็นโค้งครับ วิ่งจนรู้จักคนผักไห่อุดหนุน ต้มเลือดหมู ซื้อพระเขานั่นแหละ
    หมดเงินไปหลายเเสนบาท ค่าวัสดุ อุปกรณ์ ค่าน้ำมัน จิปาถะ ไม่รวมค่าแรงผม ซึ่งแพงน่ะครับ ถ้าผมไปรับงานจากใคร รถวิ่งไปมา
    ไปขน ปูนหอยจาก นครชัยศรี
    น้ำมันตั้งอิ้ว จาก แถววัดสุทัศน์
    น้ำมันหอม จาก แถววัดสามปลื้ม
    สีผึ้ง น้ำมันแก้ว จากตลาดแถววัดสามปลื้ม
    จนคนขายมันจำหน้าได้
    แผ่นตะกั่วจากตลาดน้อย สัมพันธวงศ์ ผมก้ไปเสาะหามา ผมทั้งนั้นครับ ในยุคแรกๆ จนวัดตั้งหลักได้
    จากนั้น จนมีศิษย์ใจบุญคนอื่นท่านเข้ามาช่วยพอเห็นทางวัดเอาจริง มีผลงาน ผลิตพระ ผลิตตะกรุด ผลิตเบี้ย ได้วันล่ะ หลายร้อยองค์ หลายสิบดอก เบี้ยหลายร้อยตัว จนเกินพอ หลวงพ่อ มีแจกแบบสะใจ วางจำหน่ายในนามของวัด เงินก็แบ่งไปรักษาพยาบาลหลวงพ่อหรือตามแต่ท่านปราถนา
    หลวงพ่อป่วยครับ ป่วยเป็นโรคคนรวย ตัดปลายปอดไปทีแล้ว ตาก็เป็นต้อฝ้าฟาง ไปรักษาหาหมอ ใช้เงิน ใช้ทองเยอะ ท่านจะได้ไม่ต้องไปพึ่งใคร มีญาติที่เป็นหลานหลวงพ่อมาคอยบริหารดูแล อย่างดี ทำให้การดูแลหลวงพ่อเป็นไปอย่างดีมาก ผมขอชมเชยหมู่ญาติของหลวงพ่อ
    พระทุกชนิด พอเยอะ เกินต้องการ เอาใส่ลัง ลังสังกะสี ก็เป็นของผม ลังกระดาษ เป็นกล่องกระดาษ A4 ในออฟฟิศที่ใช้แล้ว เอาใส่ท้ายรถ ไปถวายหลวงพ่อ เอาพระที่พิมพ์ เยอะจนล้นถาดที่ตากให้แห้ง เอาใส่ลัง เข้าไปทยอยเก็บในหอสวดมนต์ จนมีหลายสิบลัง น่าจะเป็นหมื่นๆองค์ มีทุกพิมพ์ ที่วัดปั้มเองทั้งสิ้น ไม่ต้องพึ่งนายทุนที่ไหน
    ในหอสวดมนต์น่ะ เข้าพรรษา พระท่านจะมาทำวัดเช้าเย็น สวดมนต์สมโภชน์องค์พระ รวมทั้งหลวงพ่อในบางครั้ง ส่วนพระปาติโมกข์ คิดว่าทำในโบสถ์ อันนี้น่าเสียดาย ถ้าของอยู่ในโบสถ์ตอนพระปาติโมกข์ น่าจะล้างพวก อาถรรพ์ไปด้วย ทำบริสุทธิ์ซ่ะในแบบพุทธ ๆ จะดีมาก แบบพระหลวงปู่ครูบาแก้ว ตะกรุดโพธิ์กลับของ หลวงพ่ออั้บ เป็นต้น และ
    ใครที่ เอาของมาเสก ถ้าขบวนใหญ่ ไม่ใช่แบบบูชาแล้วเอาใส่ถาดมาขอท่านเมตตาประสิทธิ์ให้ตรงที่รับแขก
    แต่ถ้ามีเยอะๆ เป็นเรื่องราวหลวงพ่อจะให้นำไปในหอสวดมนต์ อยู่ข้างๆ ที่หลวงพ่อรับแขกน่ะแหละ เดินแค่ประมาณ สาม สี่ก้าว ก็ถึงปากประตูหอสวดมนต์ ไม่ยากอะไร ... แล้วเสกให้ และ เสกพระในหอสวดมนต์ไปทีเดียว ทุกชนิด ทำมาหลายครั้ง หลายปี บางพิธี เขาถ่ายรูปมาเป็นหลักฐานด้วยว่าหลวงพ่อเสกให้ หลวงพ่อท่านเมตตาเขาไปทั่ว ไม่ใช่มาเมตตาแค่ผม เป็นพิเศษอะไร ผมเป็นแค่เด็กส่งของให้ท่านน่ะครับ แค่นี้ก็เป็นบุญของผมนักแล้ว
    และผมเชื่อสนิทใจว่าพระที่ขยันๆแบบหลวงพ่อ กลางคืน คนว่างท่านไปล้างห้องน้ำ สรงน้ำ สวดมนต์ ตื่นตีสี่ ท่านก็สวดมนต์ ท่านก็แผ่เมตตาให้ พวกวัตถุมงคลที่อยู่ในวัด ห้องท่านห่างออกไปนิดเดียว เดิน สิบกว่าก้าวก็ถึงแล้ว
    ท่านที่เชื่อเรื่องความเป็น อริยะ พลังจิต ญาณสมาบัติ กายทิพย์ สำหรับหลวงพ่อแล้ว ผมเชื่อว่าท่านแค่กำหนด ก็ได้แล้วตามที่ท่านต้องการ ซ้ำยังมีเทยดา มาอารักษ์ของเหล่านั้นตามบารมีของหลวงพ่อ ตามที่หลวงพ่อสงเคราะห์ ลูกหลาน ไม่ต้องเอาไปตั้งตรงหน้าท่านหรอก ท่านแก่แล้ว ป่วย แพ้ กลิ่น แพ้ ฝุ่น ตาก็เป็นต้อ ไปให้ท่านดมมากๆ สังขารจะพาลป่วย ตามืด ตามัว ไปด้วยซ่ะอีก
    พระบูชา พระหล่อ ฐานพระ เหรียญจอบ เศรษฐีใหม่ รุ่นเศรษฐีใหม่ทุกชนิด ทั้งของส่วนตัวผม ก็เอาใส่ลังสังกระสี เอาพระบูชาตั้งไว้ในหอสวดมนต์ ทิ้งไว้ที่หอสวดมนต์เป็นก่อนพรรษา ๒๔๔๙ จนทะลุพรรษา นิมนต์ให้ท่านเสกให้มาตลอด พอออกพรรษา สุดท้าย ๒๕๔๙ หลวงพ่อเริ่มป่วยมาก ต้องเข้า รพ ที่วิชัยยุทธ
    ท่านบอกผมเอง ว่าของส่วนตัวในหอสวดมนต์ให้ไปเอากลับให้หมด ท่านเสกให้ดีแล้ว อันนี้เป็นลางแล้ว ผมเองเจตนาวางทิ้งไว้ เพื่อหลวงพ่อจะได้เมตตาเสกให้ นานๆ จะวางอีก สิบปีก้ได้ หลวงพ่อจะได้อยู่เสกให้นานๆ ผมไม่มีความจำเป็นต้องถอนทุน เอาออกขาย ผมทำงานพอมีเงินเลี้ยงตัวเอง
    คนย้ายหลวงพ่อมาวิชัยยุทธ ก็ผมเองนี่แหละ แทบจะอุ้มหลวงพ่อขึ้นรถผมมา พามาหาหมอสุวิทย์ ที่วิชัยยุทธ จะไม่ย้อนเล่าว่าทำไมถึงย้าย แต่เขียนไว้หน่อยในกระทู้ แต่ญาติหลวงพ่อถามท่านว่าหลวงพ่อเอา อย่างไร? ท่านบอกเจ๊แกเองว่า
    ไปกับสันติ
    ผมก็ให้เช็คเอ้าท์ แล้วอุ้มแทบท่านมาที่วิชัยยุทธ เริ่มการรักษาแบบจริงจังทันที ขนาดยาบางชนิด เมืองไทยไม่มี ก็สั่งบินมาจากนอกมสู้กันเต็มที่ ต่อสังขารมาได้เป็นเดือน จนหมอมาบอก ว่ารักษาไม่ได้ ร่างกายหลวงพ่อ ไม่ตอบสนองพวกยานี่แล้ว หมอลองทุกวิธี จะให้ตายที่นี่ หรือ ไปตายที่บ้าน หมอคนนี้ท่านเก่งน่ะครับ คนไข้ท่านมหาศาล เพราะท่านเก่ง ละเอียด มองขาด
    ขอแทรกตรงนี้นิดนึง คนแก่นี่เปราะบางนน่ะครับ ยิ่งป่วยๆ ผมเสี่ยงที่พาหลวงพ่อท่านมา ถ้าท่านเป็นอะไรตอนมากับผม ก็อาจจะมีเรื่องได้ เพราะผมไม่ใช่ญาติสนิทของท่าน หรือพามารักษาที่โรงพยาบาลอื่นแล้วท่านเป็นอะไร คนเข้าใจก็ดีไป ไม่เข้าใจก็จะมาด่า มาว่าผมแน่อน เรื่องว่ามีแต่เจ๊งกับเจ๊า แต่ผมไม่ได้คิดว่าท่านเป็นคนอื่น แต่ผมคิดว่าท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด เป็น แม่ เป็นพ่อผม ผมก็ตัดสินแบบนี้แหละ เลยนิมนต์ท่านย้ายโรงพยาบาล
    ผมเป็นคนชอบเสกนานๆ เสกเยอะ เสกแน่นๆ เสกทีเดียวไม่ชอบ (แม้ว่า ครูบาอาจารย์บางท่าน เป่าทีเดียว ดีกว่าเขาเสกหมู่มาเป็นร้อยปี ก็มีหลายท่าน แบบหลวงพ่อจง น่ะแหละครับ เป่าพ้วงทีเดียว เอาไปรบได้ ) เป็นนิสัยผมมานานแล้วตั้งแต่เด็กๆ
    พระและของที่วางฝากในหอสวดมนต์ ผมก็ เรียนถามเป็นระยะ ว่าหลวงพ่อเสกให้แล้วน่ะครับ ถามไปเพราะชอบ เก็บไว้บ้างเพราะชอบ แต่ส่วนใหญ่อยู่ที่วัด กะว่า จะเอาเข้ากรุ ทำเจดีย์ หรือ ทำฐานเอาพระบรรจุ ( ถ้าหลวงพ่อไม่ล่ะสังขารจะมีรุ่น บรรจุกรุแน่นอน อย่างล่ะ อย่างน้อย ๘๔๐๐๐ องค์ เท่าพระธรรมขันธ์ แต่หลวงพ่อล่ะสังขารไปก่อน อดไป )
    พระในหอสวดมนต์ เสกมาหลายครั้ง จนจำไม่ได้ เพราะไม้ได้จด ที่ค้าง อยู่หลัง หลวงพ่อล่ะสังขารน่ะ หลวงพ่อเสกมาเป็นปี ทับถมกัน แยกไม่ออกว่าลังไหนมาก่อนมาหลัง แต่เสกมาเป็นปี หลวงพ่อจะเอาพระก็ให้ พระวิโรจน์ ไปเอาพระมาจากในหอสวดมนต์ เอามาแจก ชาวบ้านชอบจะๆ ท่านก็เสกให้อีกที เพราะชาวบ้านเขาอยากเห็น อยากมั่นใจ กับตา แต่เต็มมาแล้ว จากหอสวดมนต์น่ะแหละ
    คนที่บอกพิมพ์วัดหลวงพ่อไม่ได้เสกน่ะ ผมไม่ทราบเจตนา ว่ารู้จริง หรือ โกหก
    แต่ ถ้าอ่านข้อเขียนผมมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ ตั้งแต่ สวนขลัง พลังจิต จะทราบว่าผมเป็นคนจริงไหม รู้จริงไหม รักและ บูชา พยาบาลท่านจน แทบจะวันสุดท้ายที่ท่านมีสังขารจริงไหม ไปกราบท่านครั้งสุดท้าย ลากลับ วันรุ่งขั้นก็มีโทรด่วนว่าหลวงพ่ออาการหนักแล้ว ก็รีบบึ่งรถไป จนล่ะสังขาร ได้ช่วยพาศพของหลวงพ่อกลับวัด ขับตามมากับรถขนศพ ช่วยยกหลวงพ่อขึ้นศาลา ก็ผมนี่แหละอีกคน พี เสาวภา ลูกหลานนอกนามสกุลหลวงพ่อเหมือนกัน ขอยกศพหลวงพ่อด้วยคน ศพหลวงพ่อยังนิ่มๆอุ่นอยู่เลยตอนกราบที่เท้าของท่านลากลับบ้าน เพราะอยากทำอะไรถวายหลวงพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
    ตอนมีสังขาร มีอะไรติดขัด หรือ ชวนคุย หลวงพ่อโทรหาผม โทรศัพย์ผมยังถ่ายรูปไว้ และ ผมก็โทรคุยกับหลวงพ่อประจำ จะซื้อมือถือถวายให้ใหม่ ท่านก็ไม่เอา ท่านบอกยังใช้ได้ แต่เพราะถ่านมันเสื่อม
    ผมถามท่าน เอาเครื่องใหม่เสียงใสๆ เอาไหมครับ ...ท่านก็บอกว่ายังใช้ได้ๆๆ .....แต่ก็มีบ่นๆ ในบางครั้ง ว่าพึ่งอัดไฟแท้ๆ ตอนนี้ถ่านเหลือแค่ ๒ เม็ด ผมก็แค่ฟังยิ้มๆ แหะๆ เอาหลวงพ่อว่าก็แล้วกัน
    ไม่ได้เล่าทุกรายละเอียดเพราะไม่จำเป็น เพียงแต่เล่าให้ฟังว่า ร่วมสี่ปี ผมอยู่กับหลวงพ่อหลายร้อยวัน ไปนอนที่วัดก็มี ออกจากวัด สี่ ห้าทุ่ม ก็มี ถึงกลับบ้าน ทำเป็นประจำ รถ สี่ปี น่าจะวิ่งหลายหมื่นกิโล ตอนขายรถคันนั้นไป ไมล์น่ะ ประมาณ ๒๔๐,๐๐๐ กิโลครับ คนทำงานด้วยรถแบบผม ห้าปี แสนกิโลกว่าๆ เขาก็ขายแล้วไปหารถใหม่ใช้ไม่จุกจิก ผมทนใช้มาจน สองแสนสี่ เพราะจะได้ประหยัดเงิน เอาไปทำบุญดีกว่าครับ
    ยืนยันว่าของในหอสวดมนต์ เสกมาเป็นปี หลายครั้ง เสกมาตั้งแต่เป็นผง เศษดอกไม้ เสกว่าน ท่านบัญชาการเองเพราะเป็นของท่านเอง ทิ้งไว้ให้ลูกหลาน ถ้าเชื่อเรื่อง พลังจิต กายทิพย์ ญาณสมาบัติ ความเป็นอริยะของผู้ทรงศ๊ลแบบหลวงพ่อ หลวงพ่อเสกให้ทุกวัน ที่ท่านอยู่ที่วัดนะแหละครับ เพราะท่านอยากให้พระเครื่อง เครื่องรางไปสงเคราะห์เขา ไม่เสียชื่อ วัดมอญ แบบหลวงพ่อกวยน่ะแหละครับ
    ของที่คนทำของมาซ่ะอีก ทั้งนายทุนพานิช หรือ ไม่พานิช หรือ จะเรียกว่านักบุญอะไรก็ตาม ผงทำเอง เสกเอง แม่พิมพ์แกะเองหรือจ้างแกะ พิมพ์ไม่ทำลาย น่ะ ตอนนี้ อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ น่าสงสัยซ่ะมากกว่า พิมพ์ที่วัด ที่มาสงสัยซ่ะหลวงพ่อเสกให้หรือปล่าว
    ของนอกวัด เสริมหรือปล่าว ผมไม่เคยตามเก็บถ้าสงสัย ยกเว้นหลวงพ่อให้มา ... ถ้าชัดเจนจะทำบุญ เอามาให้ มาถวายหลวงพ่อเสก เสกแล้ว ก็ถ่ายรูป ทำลายพิมพ์ตรงนั้น เอาพิมพ์ถวายวัดไปเลยให้มันจบกันตรงนั้น จะได้หมดเป็นรุ่นๆกันไป ก็ไม่ทำ เก็บไว้ทำไมให้ฉงน
    เหตุผลที่ผมมาเขียนเรื่องหลวงพ่อตั้งแต่ ปี ๒๕๕๐ ก็เพราะเหตุนี้แหละ อยากให้คนฟังความจริง ไม่ใช่จากนิตยสารหรือ ปากคนเล่าไปเรื่อย ตามกิเลส ตนเอง รู้จริง เห็นจริง ทุกมุมหรือไม่ คลุกคลีกับหลวงพ่อมาจริงๆ นานเท่าใดหรือไม่ เจตนาอย่างไร ......ให้ ฟังจากปากผม อีกแง่ เอาไปพิจารณาเอาเองน่ะครับ .... จะเชื่อหรือไม่เชื่อ อันนี้อีกเรื่อง ท่านเป็นผู้รู้ลองพิจารณาเอาเองกันน่ะครับ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
    จากใจ
    พี เสาวภา

    ...........................................

    ihuzyz1UYRUsf0vSvTgcyE3fotFUaVxqi8ppkEiCZC8&_nc_ohc=ZXSZQixK8r4AX-PTLES&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg


    sr0ydK3YiVxBJZgqPW_5L4lGoF5kLXy0t_HFCZVEAA6&_nc_ohc=qd7XkT5OrZAAX8hcI_2&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg

    thOQ4zKHy9wryDB1u2-75xtWWsMy8rotmyO1g7qfigK&_nc_ohc=p7q0xRBXmm4AX854eNi&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg

    1Kct1gDtJgEziQe3pOOHNvoLrhBTHu1pdl6qu_SFvVc&_nc_ohc=nCAU7OsXBH4AX9BT7fo&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg


    พระนักธรรมกรุโยม

    น่าจะรุ่น ล่าสุดที่ออกอาละวาด ผมเอาออกให้ดูก่อน แล้วผมจะมาสรุปให้อีกที จะมีจุดที่แตกต่างจากของแท้ หลายจุด
    พระกรุโยมนี่ ไม่น่าใช่พิมพ์เหล็ก เป็นพระถอดพิมพ์มาแล้ว เป็นพิมพ์แบบประกบ ใช้มือพิมพ์ เนื้อหา มีผงปูนจุดขาวๆ กระจายไปทั่ว กดได้ดี ไม่มีกลิ่น พิจารณา และดมดูแล้วไม่ใช้น้ำมันตั้งอิ้ว น่าจะเป็นพวกกาววิทยาศาสตร์ แต่ไม่มีกลิ่น ดับกลิ่นมาแล้ว
    ผมคัดของแท้ที่มีขนาดใกล้เคียงและ เนื้อใกล้เคียง เอามา เปรียบเทียบให้ดูน่ะครับ ส่วนจุดจะดูเช็คกับของแท้หลายๆองค์
    ของเก๊กรุบ้านโยม หรือ โรงงานโยม อยู่ทางซ้ายมือ
    ทางขวาของแท้ จากกรุวัดหรือกรุหอสวดมนต์

    _oc=AQmED_nNG6EogIH6yzu_WyeHWgOz5YxpYa9ErVC5OO7IcOzoNAVXjWtwj79M-0IsTY0&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg

    As6njOsb2ki6IR2MP7rv60BVSz4T5Js161cPJ53j1vr&_nc_ohc=bYedBnzUudMAX-bYhjp&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2023
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    ส่วนกว้าง
    ของจากกรุโยม จะกว้างประมาณ ๑.๔ เซนต์
    YnK_u9liId5RaZJoDNWMQ2Ybl_5yxjFoEegVbH_MWZl&_nc_ohc=v05IrhkFWUYAX86SNOB&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg

    พระแท้กรุวัด

    lFZqPJJzwpUwd_H9Tl1WULnaDPmKZoQaQ1Ewl-UimBd&_nc_ohc=3o-jgS8Xy6AAX9O9Bjw&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    ส่วนหนา
    พระจากกรุโยมจะหนาประมาณ .7 เซนต์

    MWHzabXt47xVtwXsrctBOiD&_nc_ohc=FY3m6yi6zhEAX9pDhov&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg

    ของแท้

    bTq3onu_8zk4RBz5T0bp1H2s2uuw0xi5pH6yokJB9-C&_nc_ohc=JUY9ucuDLpQAX8IB0pg&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    น้ำหนัก
    พระจากกรุโยมจะหนักประมาณ ๓.๕ กรัม
    dJ67TVeYvSaVclk3ypHFvgMxzPiuVbCiYKx5D3lS3cF&_nc_ohc=dxG0opOT8B4AX-U_ULy&_nc_ht=scontent.fbkk22-7.jpg

    s74QVfqxwxB-1Sj_PyNwjRyraic9l7yI5_-6nB99nCH&_nc_ohc=C9SkB2OPUy4AX_p8N1T&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    เล่นพระต้องเป็นวิทยาศาสตร์ได้น่ะครับ เพราะรูปและนาม มันคงที่ ทางกายภาพ ควรบันทึกไว้ มีเซียนพิจตรท่านหนึ่งผมติดตาม ท่านชั่งรูปหล่อ ลพ เงิน ของแแท้ น้ำหนักจะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ใกล้ๆกัน ถ้าไม่สึก ไม่แต่งอะไรมาอีก เพราะเนื้อเดียวกัน พิมพ์เดียวกัน
    ที่จริงถ้าวัด สูง กว้าง หนา ก็น่าจะใกล้เคียงกัน
    ผมเลยวัดให้ดู มาก่อน เป็นกรุโยมน่ะครับ พระจะสูงประมาณ ๒.๒ เซนต์
    ROm4UoE1KEHpg9iEmvBt6rlI9_gXXwq6DYd3V-BXobL&_nc_ohc=tnPvpU0hRH0AX_w4tNY&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg

    hCld5CGyi91AKdIv3lJra1N0YIuRUWqhf0dAA-arUg1&_nc_ohc=xr1HZdBuCrgAX8e7ILt&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    แม่พิมพ์เหล็กพระนักธรรมพิมพ์วัด
    ทำลายแล้ว หลังจาก หลวงพ่อล่ะสังขาร ให้มั่นใจว่า ไม่มีพิมพ์นี้อวตารขึ้นมาอีก ปิดตำนานพระนักธรรมพิมพ์วัด

    m53WZGmZiC45e2VAfga8RD22VcLL3uZpinTv_Jnx3Xj&_nc_ohc=3p1QrTRufzwAX8H2G0Q&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พิมพ์กรุโยม เทียบ พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์
    สีแดงห้ามฝ่า
    พิมพ์กรุโยม พื้นแดง น่ะครับ ไฟแดงห้ามฝ่าจะถูกค่าปรับ
    รวมๆเลยเนื่องจากเป็นพระถอดพิมพ์ พิมพ์จะติดไม่ชัด จุดเด่นแรกเลย พระบาท จะถอดติดไม่หมด ดูสั้นมาก แค่ ข้อเท้า ( ขอใช้ศัพท์ธรรมดา เข้าใจง่าย )
    ซุ้มรัศมี จะบวม ติดไม่ชัด จะดูบวมๆทุกเส้น
    ภาพรวม...... ด้านหน้า จะติดไม่ชัดเพราะถอดพิมพ์มา
    ...........................................................................................
    สีเขียว วิ่งได้
    พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์ พื้นเขียว ของแท้ ไฟเขียววิ่งได้ ไม่โดนค่าปรับ
    ของแท้ พระบาทจะติดยาวกว่า ซุ้มรัศมี ติด ชัด คม ลึก
    ภาพรวม : ภาพรวมจะติดชัด กว่าของเก๊ แม้บางองค์จะรีบๆปั้ม ก็ยังติดชัดเพราะเป็นพิมพ์เหล็ก แบบกดกระแทก
    ...........................

    ynYpknHulW5Ig8lPFWB5EMECoQnBI8vmjfsKsrIgATi&_nc_ohc=-OMQQC6FFz0AX87hDP-&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg

    HFYZAAc17etOFsJox-9B8mU&_nc_ohc=ZywbGVG1qbUAX_RHOvK&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พิมพ์กรุโยม เทียบ พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์
    พื้นของพระกรุโยม จะลอยขึ้น กว่า ครีบ เพระากดมือ แกะพิมพ์เบ้าประกบ พื้นจะยกตัวขึ้นมา
    ...........................................................................
    ของแท้ พื้นที่จะจมตัวลงกว่า ครีบพระ ตามหลักธรรมชาติ เพราะแม่พิมพ์ตัวเมียกระแทกลงมา เนื้อก็ ทะลักปริ้นออกตามขอบข้างๆ เป็นครีบๆ

    FVsw-wnVeYuaiBxpuv7kvkF&_nc_ohc=uT3p24CSCiQAX_iehie&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    Bi42mFxBsE4q6CDO9q0OOjIVWLvqw936US08mlYUO4u&_nc_ohc=j4THSrGq63IAX85k7Ji&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พิมพ์กรุโยม เทียบ พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์
    พื้นหลังอีกด้าน ของเก๊ พื้นรูปแดง จะลอยขึ้น

    TgB0mDrJhEtRb_knirqEKGgt42RYLPXtoUNxEWp96JK&_nc_ohc=OtLZ74wepk8AX_OEFlT&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
    _oc=AQnZQmxEQMnBlHaklUDUnSmZjUO_CJvD7MkUhwlWWjmYiba7lFHXsZBMikK2Ho_OVVk&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พิมพ์กรุโยม เทียบ พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์
    ด้านบน โชว์หลายๆมุม
    fbA7dvoSXBxuGy4gOf3gXkz&_nc_ohc=p1ICA39qQMIAX9fShjc&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    aAr0GszgvvxvUqxbOjoKwp4xCke4bylPtms3K9EFYGk&_nc_ohc=dysnRSMlap0AX9UGXTU&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พิมพ์กรุโยม เทียบ พิมพ์วัดกรุหอสวดมนต์
    ด้านล่าง โชว์หลายๆมุม

    พื้นหลังกรุโยม จะ อุมและสูงกว่า ครีบ

    พื้นหลังกรุหอสวดมนต์ จะ กดลึกลงไป กว่าครีบ

    BQSi2jTlskPMB-RIO7KU6Km&_nc_ohc=kU8AexBFG1AAX99PDs_&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg

    18vVGC6HMRucD7pXaf4qcVxm5-QgnT_boIGVSFsttbS&_nc_ohc=AYSYxyo891UAX_bZ3Z1&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2023
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    กราบ กราบ กราบ
    น้อมรับคำสอนหลวงปู่พิศดู ครับ
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    พระกริ่งวิสาขาห์ ๔๙
    มีทางบ้านขอชม ของเหลือไม่มาก เก็บไว้อย่างดีมาก
    ประวัติ FC คงอ่านไปแล้ว เป็นพระกริ่งที่หลวงพ่อ เสกชนวนเองก่อนหน้าหลายเดือน เททองเอง ปลุกเสกเอง อีก ๑ พรรษา
    ผมจะเล่าเกล็ดเพิ่ม
    พระกริ่งวิสาขาห์นี่ จะมี เนื้อที่เอามาจากชนวนกริ่งแพโบสถ์น้ำ พระประธานเยอะ ชนวนพวกนี้เสกซ้ำมาร่วมสองปี เสกมาเป็นร้อยๆครั้ง เอาชนวนมาหลอมรีดใหม่ มา แผ่ ลงยันต์ ๑๐๘ ให้หลวงพ่อทรงเสกอีกร่วมปี
    พวกที่แก่เนื้อนี้ จะเป็นทองเหลืองผสมทองแก่ทอง ร่วม กิโล เหลือเป็นทองชนวนผมตามเก็บมาหมด ขอหลวงปู่พระครูบุญศรีแล้วว่าจะเอาเป็นชนวนในวันข้าง ท่านอนุญาต
    ทองจะไม่หมองตามเวลาแบบพวกทองเหลือง ตามตลาดแต่ถ้าเอาไปขัดผิว แต่งผิว ให้สวยก็จะสวยน่ะครับ ผิวจะกลับเลย ลองกันแล้วถ้าปัดผิว ผิวจะกลับ ทันที แนวๆ นาคๆ พอทิ้งไว้จะกลับดำ เป็นปฏิกิริยา ของทองคำ ผสม เงิน และ ทองแดง
    เป็นพระกริ่งสอง หลวงปู่ หลวงพ่อครับ ก้นปิดเงิน
    bwh03MWvRB6rUZWTHA7nYIkqCqvPlPorymEqYtv-psl&_nc_ohc=ZcbwsFpdNPUAX8ECUWy&_nc_ht=scontent.fbkk22-4.jpg

    EsALSpAjhO6IUnnLmiO3cZxVHJxrhMAV_zGKLk06L58&_nc_ohc=P6HlvJ-iwS4AX81tnRf&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    byiKlR1WgeI3czh2Mf8wUDVT94I_uNxfGqImd7tBcw8&_nc_ohc=PyHKZ3twN0sAX8iALMn&_nc_ht=scontent.fbkk22-4.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2023
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    รูปอัดกระจก รุ่นแรก แซยิด
    สร้างพร้อมๆ ในเวลาใกล้ๆ กับเหรียญรุ่น ๒ บล็อค ๒ ครับ

    ข้อมูลนี้กั้กไว้ในหนังสือน่ะครับ แต่เปิดเผยตรงนี้

    เมื่อก่อนก็เล่นหาตามกันมาว่าน่าจะสร้างแถวๆ เหรียญบิน แต่ตอนนั้นหลวงพ่อยังหนุ่มมาก ยังไม่ได้เป็นพระครูเลย และ เมื่อยังไม่ได้เป็นก็ยังไม่มีพัดยศน่ะครับ เป็นแค่พระอธิการ

    รูปถ่ายนี่ห่างจากเหรียญบิน เป็นสิบปีขึ้นไป ห่างกันเยอะครับ
    เป็นรูปถ่ายกับพัดยศ ฉลองพระอุปัชฌาย์ พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (ทรง ฉนฺทโสภี) ครับ หรือ ตามหลักฐาน แต่งตั้ง หรือตราตั้ง ที่ถ่ายมาจากวัดน่ะครับ

    ประวัติละเอียดผมเล่าไปแล้ว ในเหรียญรุ่น ๒ ที่มี ๒.๑ และ ๒.๒ ต้องย้อนดู

    ดวงหลวงพ่อกำลังขึ้นได้ ยศ พระครูสังฆรักษ์ ทรง ได้พัดใบตาล ได้เป็นท่านพระครูฐานานุกรม ( เหรียญรุ่น ๒.๑ )

    ต่อมาปีไล่ๆกันมาได้เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าคณะตำบล ได้พัดพุดตาน (เหรียญรุ่น ๒.๒)

    ประวัติอ่านละเอียดในช่วงเหรียญรุ่น ๒ น่ะครับที่น่าเก็บมาก เหรียญออกในวาระสำคัญ คือ ได้ ....เลื่อน ......เป็นพระครู แล้วได้ ....เลื่อน .....เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสัญญาบัตร เหมือนข้าราชการได้สองขั้น สองปีซ้อน

    เมื่อท่านอายุได้ ๕๙ ปี ย่างเข้า ๖๐ ปี ประมาณปี ๒๕๒๕ ครับ

    พัดยศ พระครูสังฆรักษ์ เป็นพัดหน้านาง หรือ ใบตาล เป็นพัดยศ ฐานานุกรม แรกของหลวงพ่อครับ อันนี้ตามประวัติประมาณ ปี ๒๕๒๔ หรือ ๒๕๒๕ แถวๆนั้น ตอนออกเหรียญ รุ่น ๒ บล็อค ๑ น่ะครับ ตามรูปถ่าย ที่ล้อมยันต์ที่ผมเอาลง
    พอได้ เป็นพระอุปัชฌาย์ก็ออกเหรียญรุ่น ๒ บล็อค ๒

    พัดในรูปถ่ายอัดกระจกรุ่นแรก เป็นพัดพุดตาน เป็นพัดวงกลม มี ๑๖ แฉก อันนี้ได้หลัง พัดใบตาล น่ะครับ

    ตกลง จะเรียกว่ารูป แซยิด ( ๖๐ ปี ) ก็ไม่น่าผิดใด พ.ศ. คงตกประมาณ ๒๕๒๕ หรือ ๒๕๒๖ ครับ

    จัดว่าเป็นรุ่นสำคัญ ออกมามีวาระ น่าสะสมติดตัวและ หายากครับ

    และมีของปลอมออกมาแล้วน่ะครับ

    อ้างอิง เรื่องพัดยศ

    http://www.s-sangkapan.com/category-79-%E0%B8%9E%E0%B8%B1...

    WL_7kyLpoiuBh5BepVfpokO70ttCGNMCAZS1_gkS3U_&_nc_ohc=Td-c-nuSynwAX_qccoy&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    RbDJqw66xQOmVBMefzIxqOFgQS5EZDDNCrkG1TCA9XV&_nc_ohc=vPSlgfGT_b4AX-1EjsK&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg

    oVn0pXGkCRI_uSsJn2y0F_R&_nc_ohc=UeoynwhxOiQAX8B-tSm&tn=jDjVcvd9z9yZRT81&_nc_ht=scontent.fbkk22-7.jpg

    lgJIcQet6eTb6rQWB6eNmk_GK-2t012oNHlN-H77bCo&_nc_ohc=aV6WWcWX5hsAX_oXoiE&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2023
  17. parukoh

    parukoh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +387
    รุ่นนี้มีพระชัยด้วยใช่ไหมครับพี่ ขอบคุณครับ
     
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    ก้นยาหลวงพ่อคูณ
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    หลวงพ่อคูณกับปลาสลิดบางบ่อ

    หลายเรื่องเกี่ยวกับหลวงพ่อมันเลือนลางไป ตอนนั้นน่าจะ พ.ศ. ๒๕๒๘/๓๐ แต่หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆมันชัดเจน เล่าทางโน้นที ทางนี้ที ตามสไตล์ผมก็แล้วกันน่ะครับ อย่าว่ากันเลย

    ในช่วงที่ผมไปหาหลวงพ่อบ่อยๆ เรียกว่าพอคุ้นหน้าบ้างไปแทบทุกอาทิตย์ แต่ก็ยังไม่เท่าศิษย์ใกล้ชิดชาวบ้านแถววัด พวกนั้นจะเข้านอกออกในได้ เรียกว่าผมยังไม่ถึงขั้นคนใน แต่ก็ไปหาบ่อย แทบทุกอาทิตย์ ออกจากบ้านประมาณ ตีสาม ถึงวัด ประมาณตี๕กว่าๆ หรือ ๖โมงเช้า ไปบางที ท่านยังไม่ออกมาเลย บางทีไปถึงบ่ายๆ เรียกว่าว่างก็ไป และถ้าท่านว่าง ท่านก็นั่งคุยด้วย ผมสังเกตุคนรอบข้างตามนิสัย ในตอนหนึ่งที่นั่งคุยกันอยู่ ว่างๆ ท่านก็พูดเปรยๆมาแบบ ไม่มองหน้าว่า

    <O:p</O:p
    กูอยากได้ปลาสลิด

    <O:p</O:p
    ผมก็มองหลวงพ่อ นึกว่าท่านอยากฉัน เลยถามว่าหลวงพ่อจะฉันเหรอครับ จะเอากี่กิโลล่ะ ผมจะไปซื้อมาถวาย ท่านบอกว่า


    กูจะเอาเป็นๆ

    <O:p</O:p
    ผมถามท่านว่าหลวงพ่อจะเอามาทำไมครับ ท่านบอกว่า กูจะเอามาทำเชื้อ แถวนี้ ( ด่านขุนทด ) ไม่มีปลาสลิด ท่านว่าคนอีสานไม่มีใครเลี้ยงปลาสลิด อาจจะเพราะอยู่บนที่ราบสูง ตอนพ.ศ.นั้นน่ะครับ ( ประมาณ ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ตอนนี้ผมไม่ทราบ) ตอนนั้นท่านขุดบ่อหลังวัดแล้วน่ะครับ ผมไม่ทราบขนาด แต่กว้างใหญ่มาก เอาไว้เป็นแหล่งน้ำให้ชาวบ้าน มีปลาหลายชนิดอยู่ในนั้น ปลาหายากๆก็มี พวกปลาจีนต่างๆ ผมเรียกชื่อไม่ถูก ที่มีคนนำมาถวาย จรเข้ก็ได้ข่าวว่ามี อันนี้ผมไม่ทราบตอนนั้นว่าทำไมท่านถึงเลือกผมให้หาปลาสลิดให้ท่าน ผมไม่มีความรู้เรื่องปลาสลิดเลย เคยแต่กินที่เขาตากแห้ง ของชอบด้วย ไม่เคยเลี้ยงปลาสลิด อาจจะมีปลาตู้บ้างพวก ปลากัดลูกหม้อ ( เคยเพาะเป็นฟาร์มตอนรุ่นๆ ออกขายเขาหาตังค์ใช้ ) ปลากัดจีน ปลาออสการ์ ปลาเทวดา ปลาหางนกยูงในตุ่มบัว แต่เคยไปซื้อลูกปลานิลไปปล่อยหลายครั้งเพราะหาง่าย ก็นึกว่ามันง่าย เขาแค่ช้อนใส่ถุงปลาสติกใบใหญ่ เลยบอกท่านว่าเอาปลานิลไหมหลวงพ่อ ท่านบอกไม่เอากูมีเยอะแล้วแล้วมันหาง่าย ผมเลยถามหลวงพ่อจะเอาปลาสลิดกี่ตัว ท่านบอกตามใจมึงขนมาได้กี่ตัว อยากได้ตัวเมียเยอะๆ เอามาทำเชื้อ ผมก็รับปากท่านด้วย ด้วยความนึกไม่ถึง นึกว่าไปซื้อลูกปลาตามร้านให้เขาอัดแก็ส ออกซิเจนมาถวายท่านสักหลายร้อยตัว ก็แค่นั้นเอง นึกว่าของหมูๆ ท่านก็ไม่ว่าอะไรต่อ ได้แต่สูบยาต่อไป เราก็คุยกันไปตามปกติ เรื่องอะไรบ้างผมจำไม่ได้แล้ว

    <O:p</O:p
    แต่เหตุการณ์ไม่เป็นดังนั้นครับ หลังจากวันนั้นเมื่อกลับมา เมื่อผมว่างได้จำสัญญาที่ให้ไว้กับหลวงพ่อ ผมเลยขับรถไปหาบ่อปลาแถวบางบ่อ เขาบอกไม่มี ผมตระเวณหาบ่อปลาทุกบ่อแถวนั้นในตอนแรกริมถนนใหญ่( บางนา – ตราด ) ก่อน สมัยนั้นถนนยังไม่เหมือนอย่างนี้ แล้วเขามีป้ายบ่อปลาบอกไว้ ทุกแห่งมีคำตอบเหมือนกันคือไม่มีลูกปลา ลูกปลาเศรษฐกิจแทบทุกชนิดเขาหาให้ได้ ขนาดปลาบึกยังมี ( ตอนนั้นเราเพาะจากไข่ได้แล้วดังไปทั่วโลก คนไทยมีของดีๆเยอะน่ะครับ เราไม่สามัคคีกันเองน่ะแหละ ) ลูกปลาเสือตอ สัตว์น้ำต้องห้ามยังมี แต่ไม่มีปลาสลิดครับ ผมตระเวณไล่ขึ้นมาถึง ดอนเมือง รังสิต สมัยนั้นยังมีบ่อปลาน่ะครับ คำตอบคือไม่มี ปลาอื่นเขามีเพาะแทบทุกอย่างแต่ปลาสลิดไม่มี ผมช็อบหาในหน้าเหลืองทุกหน้า ทุกบ่อปลาที่ไม่ไกลเกินไป ขนาดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม คำตอบคือแบบเดียวกัน คือไม่มี ในยุคนั้นก็ยังไม่มีมือถือด้วย ผมและแฟนก็ช่วยกัน ถามเพื่อนทุกคน คนรู้จักทุกคน ลูกน้องคนที่บริษัท แต่คำตอบคือแบบเดียวกันว่า ไม่มีหาไม่ได้ ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ แต่ก็ไม่คืบหน้า เรียกว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าผมก็ไม่กล้าไปหาหลวงพ่อ เพราะรับปากกับท่านไว้ แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

    <O:p</O:p
    เรื่องชักจะยุ่งแล้วซิ ต้องมานั่งคิด ตั้งสติใหม่ อย่างที่ผมเรียนให้พวกท่านทราบ ที่ตามอ่านเรื่องของผมมาบ้าง ผมเป็นคนตั้งใจทำอะไรแล้วไม่เลิกครับ เป็นสันดานต้องทำให้ได้ ถ้าไม่สุดวิสัยแบบต้องไปหาบนดาวอังคาร เวลามีให้พยายามเสมอ ผมกลับไปบางบ่อใหม่ เพราะเป็นแหล่งปลาสลิด ค่อยๆ ขับรถตระเวณดู ค่อยๆคิดไป ตลอดระยะเวลาที่ผมหาปลาสลิดเป็นๆมาใช้เวลาเป็นอาทิตย์เพราะทำตอนว่าง งานก็ต้องทำ บางทีลาบ้าง ออกตอนบ่าย ไปขับรถตระเวณหา แต่ตลอดเวลาที่ตระเวณหา ได้ถามเขาดู ผมพอได้ความรู้มาบ้างคือ ปลาสลิดเขาไม่สามารถเพาะได้ ต้องให้มันเพาะตามธรรมชาติ เรียกว่ามันอาย พ.ศ.นั้นน่ะครับ (ส่วนพ.ศ.นี้ผมไม่ทราบครับ) คนบางบ่อบอกผมว่า คุณเขาไม่เพาะกันหรอก เขาเลี้ยงในบ่อเลย พอวิดบ่อก็จับแต่ตัวใหญ่ๆ กลางๆเล็กๆก็ปล่อยกลับไป ให้มันแพร่พันธ์ในนั้น อืม ผมพึ่งรู้นี่ครับ

    <O:p</O:p
    ผมกลับไปบางบ่อ ที่นี้เข้าไปจากถนนใหญ่ บางนา - ตราด ขับไปตามถนนเส้นทางข้างในแถวตัวไร่นา บริเวณเขตบางบ่อเลย สมัยนั้นยังเป็นถนนลูกรัง ผมไม่ได้ไปหาปฐวีธาตุที่บางบ่อตามที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณนรฯ สั่งลูกหลานมาหาน่ะครับ.....แฮะๆ แต่มาหาปลาสลิดเป็นๆตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อคูณสั่ง ระยะเวลาคงห่างกันหลายสิบปี ตอนนั้นขับรถไป ผมยังคิดเลย ว่ามาหาปฐวีธาตุถ้าจะยังง่ายกว่าเพราะเห็นมีกองทรายหลายกอง มันก็มีบ่อเลี้ยงปลาสลิดข้างทางเยอะ แต่เอาตัวไม่ได้ จะเอาอย่างไร ที่นี้ต้องหยุดแล้วเดินเข้าไป ถามเขาด่ะไป คำตอบก็คือเหมือนกัน มันอยู่ในบ่อ ต้องรอหน้าเขา รอเวลาเขาวิดขาย เขาถึงวิด แล้วขายกันทีเขาขายทั้งบ่อ หรือ บางบ้านก็อาจจะทำเค็มเอง ตากเอง

    <O:p</O:p
    ท่านที่ไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาสลิด คงสงสัยทำไมไม่ให้เขาเอา แห หรือสวิงช้อน ....แหะ มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะครับ เพราะบ่อปลาสลิดแต่ล่ะบ่อ ขนาดใหญ่มาก มีเนื้อที่หลายไร่ อาจจะเป็นที่นาเก่า และจะไม่ลึกมา เกือบเมตร หรือ เมตรกว่าหน่อยๆ ปลูกด้วยหญ้าเต็มไปหมด อาจจะมีรอบๆ ตรงขอบๆ ที่เขาจะขุดร่องไว้ เอาไว้วิดน้ำ หรือเอาไว้พายเรือ ตรวจดู แต่โดยปกติบ่อจะเดินรอบได้ เพราะมีคันดิน ท่านที่เห็นบ่อแล้วจะรู้ว่าการลงไปจับปลาสลิดสัก ร้อยสองร้อยตัวไม่ใช่เริ่องง่ายเลย แล้วเขาจะทำ ทำไมแค่จับไม่กี่ร้อยตัว วิดทั้งบ่อขายเป็นพันเป็นหมื่นตัวดีกว่า คุ้มกว่า

    <O:p</O:p
    ผมคงไม่มีปัญญาไปซื้อปลาสลิดเป็นๆ หมื่นตัวแล้วขนไปด่านขุนทดได้ และอีกอย่างเพราะหญ้าเยอะ เขาไม่ทำกัน เมื่อถึงหน้าเขา หรือถึงเวลาเขาจะวิดทั้งบ่อ ซึ่งใช้เวลาหลายวัน ส่วนการปลูกหญ้าท่านคงสงสัยว่าทำไม ไม่ถอนให้เรียบเหมือนบ่อปลาธรรมดา บอกเลยก็ได้ ปลาสลิดชอบกินหญ้าเน่าครับ อันนี้อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม่เนื้อมันถึงอร่อย.....แหะๆ เขาเลยปล่อยให้มันขึ้น และเน่าอยู่อย่างนั้น อันนี้ที่ต้องเล่าเพราะมันมีเรื่องตอนหลังครับ ส่วนเรื่องที่ผมเล่าถ้าไม่ใช่หรือจำเลือนไป ท่านที่มีความรู้ทักมาได้น่ะครับ ผมอาจจะลืมเรื่องลายละเอียดไปบ้าง แต่เค้าโครงเรื่องไม่มีทางลืมจนวันตายครับ

    <O:p</O:p
    ต้องปูพื้นเรื่องอีกนิดน่ะครับ บ่อแต่ล่ะบ่อน่ะ จะมีบ้านอยู่ห่างๆกันแบบบ้านนอก ใน พ.ศ.นั้น คงเป็นที่นาเดิมๆ ไม่ใช่รวมกันแบบหมู่บ้าน และแต่ละบ้านจะเลี้ยงหมาไว้ บางบ้านไม่ใช่ตัวสองตัว แต่หลายตัว และแต่ล่ะตัวโคตรมหาดุเลยครับ เอาไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าขโมย เป็นหมาไทยตัวโตสูงประมาณหัวเข่านี่แหละ ถ้าตัวๆไม่น่ากลัวเท่าไหร่ เตะกระเด็นได้ แต่มาเป็นฝูงล่ะก็โทษทีน่ะครับ ผมว่าถ้าล้มแล้วมันรุมทึ้งได้ อาจจะถูกหมาฟัดตายได้ ท่านที่ปลูกสวน มีหมาเฝ้าสวน จะรู้ว่าหมาพวกนี้ดุมาก เพราะไม่คุ้นคน ดุแบบไม่กลัวคนน่ะครับ เห็นคนแปลกหน้าเป็นศัตรูมันหมด ยกเว้นเจ้าของถ้าดุมันๆ จะหงอแล้วกระดิกหางให้ แค่นั้น ถ้าเป็นคนอื่นอย่าแหยมครับ ยิ่งหมาหมู่แล้วผมว่าเหมือนพวกไฮยีนาที่ดูในหนังสารคดีอาฟริกาน่ะครับ

    <O:p</O:p
    เมื่อผมไปตระเวณแถวนั้นบ่อยเข้ายังไม่สำเร็จก็มีอยู่วัน ขับรถไปเรียบๆเคียงๆเผื่อเขาวิดบ่อจะได้เข้าไปซื้อ มีน้าคนหนึ่งแกโบกรถให้หยุด แกจำรถผมได้น่ะ แล้วคงสงสารผมน่ะครับ เห็นมาหลายวันแล้ว แล้วแกรู้ว่าจะเอาไปถวายวัดหลวงพ่อคูณ เพราะผมบอกเอง บอกทุกที่ ที่ไปถาม เรียกว่าเอาบารมีหลวงพ่อนำหน้า แกบอกทางว่า มีบ้านอยู่หลังกำลังวิดบ่อชื่ออย่างนั้น อยู่ที่นั้น คุณลองไปติดต่อสิ อาจจะสำเร็จ ผมเหมือน วานรได้แก้ว รีบบึ่งรถไปทันที ชื่อแกน่ะ ตอนนี้ผมลืมไปเรียบร้อยแล้ว พอไปถึงสถานที่ที่เขาบอก ผมจอดรถ ถามเขาไป บ้านจุดหมายน่ะไกลจากถนนใหญ่เป็นกิโล ต้องเดินไปตามทาง และคันนา มือถือไม้ยาวๆสองอันคอยไล่หมา ขอโทษ ผมพกปืนไปกระบอกด้วยเพราะมันเปลี่ยว เป็นสมิทชีพ .๓๘ ลูกโม่ห้านัด เพราะพกแล้วมิดชิดดี กระบอกไม่ใหญ่ แค่ขับรถเข้ามาก็เปลี่ยวแล้ว แล้วยังเดินมาจากถนนใหญ่อีก ยิ่งเปลี่ยวใหญ่ ถ้าเป็นยุคน้ำมันแพงนี่ ผมว่าผมคงโดนจี้แล้ว ปืนน่ะแค่เอามาแค่ให้อุ่นใจ เกิดมีอะไรมาจะได้แลกกันได้ แล้วประการสำคัญเอาไว้ยิงขู่หมาได้ ผมกะว่าแค่เอาเสียงขู่เลยใส่ลูกซ้อม หัวตัดมา แต่ถ้ายิงคนน่ะ ถ้าไม่ตกใจลนลานล่ะก็ และยิงถูกที่สำคัญ นัดเดียวอยู่แน่นอนน่ะครับ

    <O:p</O:p
    การไล่หมานี่ต้องมีวิธีด้วยน่ะครับ เพราะผมชำนาญขึ้นเรื่อยๆ เพราะไปบ่อย เมื่อโผล่ไป พวกหมามันเห็นเราเห็นแต่ไกลก็จะเห่าเรียกพวกและแห่กันมา วิ่งกรูกันมาเชียว อย่าวิ่งน่ะครับ ผมท่องคาถากันหมา ที่จริงท่องกันงู ที่พ่อสอนไว้ด้วย เป็นคาถาหลวงพ่ออี๋วัตสัตหีบ อาจารย์พ่อผม เวลาท่องให้เอาลิ้นดุนเพดานปาก ( อันนี้บอกใครไม่ได้น่ะครับ เขาห้าม แต่ถ้าอยากรู้จริงๆ เจอกันจะแอบบอกให้ แล้วตอนนั้นผมไม่มีตะกรุดกันงูหลวงปู่อั้บน่ะครับ ยังไม่รู้จักท่าน แต่แถวนั้นน่ะ งูชุมครับ ขนาดเดินไป ยังพอเห็นเลื้อยผ่านไปบ้าง จำไว้น่ะครับ ถ้าเลื้อยเร็วน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเลื้อยช้าๆน่ะ ระวังตัวไว้น่ะครับ เรียกว่าชุมทั้งหมาทั้งงูพอสมควร) พอหมามาใกล้ ทำเป็นก้มลงเก็บหินน่ะครับ จะมีหินหรือเปล่าช่างมัน อันนี้เป็นเคล็ด หมามันจะกลัวก้อนหิน เป็นธรรมชาติมัน พอมันเห็นเราเก็บหินมันจะหยุดกึก และเราทำเดินใส่เข้าไปเรื่อยๆ ทำใจดีสู้เสือน่ะ ว่าไม่กลัวมัน เรียกว่าใจข่มใจ มือก็แยกถือไม้ยาวๆที่เตรียมไปสองอัน พอมันหายตกใจ มันก็กรูเข้ามา เราก็เหวี่ยงไม้ไล่ แต่อย่าตีให้ถูกตัวน่ะครับ อย่าทำให้มันเจ็บ ขู่ให้มันกลัวเฉยๆ เพราะถ้าบางตัวถ้ามันเจ็บขึ้นมาละอาจจะเป็นเรื่อง ดีไม่ดี มันสู้แล้วงับไม้ได้ แล้วรุมเข้ามาล่ะ แย่เลย เรียกว่าคอยกวาดตีไล่ อย่าให้มันเข้าใกล้ อย่าตกใจ ปากก็ตะโกนเรียกเจ้าของเขาให้ดูหมาด้วย ว่าพี่ๆ มาดูหมาด้วยครับๆ พอหยุดตะโกนต้องเอาลิ้นดุนเพดานปากไว้ ท่องคาถาไป เจ้าของเขาพอได้ยินเสียงคนเขาก็รีบมาดู เพราะกลัวหมาเขาจะกัดเราตาย ท่าทางพวกเขาแปลกใจแน่ที่ ผมคนแปลกหน้าบุกมาคนเดียวจนถึงบ้านเขา กว่าจะมาถึง ผ่านมาหลายบ้าน หมาหลายกลุ่ม ใช้วิธีเดียวกันน่ะครับ คืออย่ากลัวมัน ทำก้มหยิบหิน ทำเดินใส่พวกมันซ่ะอีก หมามันจะงง หยุกกึก ท่าทางลังเล เราก็เดินไปเรื่อยๆ มันจะเห่าปล่อยมันไป มือก็ถือไม้สองอันกวาดไปมากันมันเข้าใกล้ หลวงพ่อก็พกไปด้วยน่ะครับ เผื่อต้องให้ท่านช่วย...แหะๆ

    <O:p</O:p
    พอเจ้าของมาที่นี้สบายหน่อยแต่ก็ต้องระวังมองซ้ายมองขวาไว้ ห้ามนุ่งขาสั้นเดี่ยวมันงับน่องเหวอะ หรือได้ลองของ นุ่งกางเกงยีนท์หนาๆแล้วใส่รองเท้าผ้าใบเผื่อต้องวิ่ง พอเจ้าของเขามากันหลายคน กันหมาได้ ผมก็แจ้งความจำนง ท่าทางเขางงๆมากเมื่อผมบอกว่าต้องการซื้อปลาตัวใหญ่ๆ เป็นๆ ขนาดฝ่ามือ สองร้อยตัว เอาตัวเมียเกือบหมด ตัวผู้แค่สิบกว่าตัว แต่พอผมอธิบายถึงหลวงพ่อคูณ ว่าจะเอาไปถวายท่าน เอาไปเลี้ยง ท่าทางเขาเข้าใจ คนไทยน่ะครับ คุยเรื่องพระล่ะง่ายขึ้น เพราะตอนนั้นท่านเริ่มดังมากๆ ใครไม่รู้จักหลวงพ่อคูณนี่เชยแหลกเลย มีบางคนพอรู้เรื่อง แนๆ ยังจะมาขอเหรียญหลวงพ่อก่ะผมซ่ะอีก

    <O:p</O:p
    เขามีกันหลายคนกำลังวิดบ่อกัน ด้วยเครื่อง วิดน้ำจากอีกบ่อไปยังอีกบ่อ เขาพาผมไปดูบ่อปลาที่กำลังวิด โอ้โฮ้ มันใหญ่หลายไร่ ท่าทางเขาแปลกใจในความบ้าของผมที่บุกมาถึงบ้านเขา มาซื้อปลาสลิดเป็นๆแค่สองร้อยตัว เขาบอกว่าอีกสามวันน้ำถึงจะหมด เขาจะคัดปลาไว้ ใส่ตุ่มไว้ให้ เราตกลงราคา ผมลืมไปแล้ว แต่สองร้อยตัวน่ะไม่กี่ร้อยบาท ตกลงเรานัดเวลากัน ผมวางมัดจำกลัวแกเบี้ยว ย้ำแล้วย้ำอีก เขารับปากแน่นอน ผมวางเงินมัดจำให้เขา ตอนนั้นมันไม่มีโทรน่ะครับบ้านนอก มือถือก็ไม่มี จะโทรจี้ก็ไม่ได้ ต้องไว้ใจกัน สามวันน่ะผมรอตลอดเวลา นึกถึงหลวงพ่อว่าอย่าให้เขาเบี้ยว เพราะมันไม่กี่ตังค์สำหรับเขาเลย ต้องมาแยก มาคัด เก็บไว้ให้เราอีก เรียกว่าลำบากเขา เขาเหมาขายน่ะ คงได้หลายหมื่นกับแค่ของเราไม่กี่ร้อยบาท ขากลับเขาให้คนพายเรือมาส่ง ที่สะพานผมเดินกลับมาที่รถ สบายใจขึ้นหน่อย ตอนนี้ต้องหาวิธีขนไปไม่ให้ปลามันตาย

    <O:p</O:p
    ผมซื้อเครื่องปั้มลมแบบใส่ถ่าน พร้อมถ่านอัลคาไลด์หลายชุด ตุ่มปลาสติกสองใบ แบบใส่หลังรถ มาสด้า ๓๒๓ ได้ ผมไม่มีรถกะบะ น่ะครับ ไม่เคยคิดมี แต่ถ้ามีจะง่ายมากขึ้นเลยล่ะ ผมกะจะถ่ายปลาใส่บ่อบัวของผมไว้ก่อน เป็นบ่อที่คุณแม่ผมขุดไว้ปลูกบัว ไม่ลึกมาก กว้างสักสองเมตร ยาวประมาณสามเมตร พอถึงเวลาค่อยวิดน้ำด้วยสูบน้ำเครื่องไดรโว่ล์ ของพ่อผมที่มีไว้ตอนฝนตก น้ำจะท่วมบ้านบางส่วน เรียกว่าวางแผนไว้ แต่เวลาจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะครับ

    <O:p</O:p
    พอถึงวันนัด ผมไปถึงตอนสายๆ จะตัดตอนเหตุการณ์เดิมเกี่ยวกับเรื่องหมาน่ะครับ แต่ตอนนี้พอพวกหมามันเห็นผมแต่ไกลๆ กรู่เข้ามาผมชักปืนยิงขึ้นฟ้าขู่ไว้ก่อน ได้ผลครับ พวกมันหยุดกันกึก เจ้าของเขารีบออกมาดู แล้วก็กันหมาไว้ เรียกว่าสดวกขึ้น พอผมไปถึง เขาคัดปลาใส่ตุ่มไว้เรียบร้อย ขนาดใหญ่ตัวอ้วน โตเท่าฝ่ามือ เป็นตัวเมียส่วนใหญ่ ตัวจะโตและสีซีดกว่า( อันนี้ถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ ) เป็นตัวผู้ไม่กี่ตัว ผมดูแล้วพอใจมาก เขารักษาสัจจะเป็นอย่างดี คนมีสัจจะนี่น่าคบน่ะครับ คบได้ ผมเอาถุงปลาสติกใบใหญ่ที่เตรียมไปให้เขาใส่ แต่มีปัญหาอีก เพราะปลามันมีเงี่ยง มันแทงถุงทะลุ ต้องเลยตามเลย เอาปลาใส่ถุงมาแล้วรีบขึ้นเรือ เขาพายมาส่งที่รถ ผมขอแรงเขาเอาตุ่มหลังรถใส่น้ำคลองแถวนั้นแล้วเอาปลาใส่ ใส่หลังรถมา ปลาสลิดนี่มันชอบกินหญ้าเน่าน่ะครับ น้ำจะเหม็นหญ้าเน่า ปลาก็เหม็นคาว เรียกว่าเหม็นไปทั้งรถ แต่เลยตามเลย ผมกลัวแต่ปลามันจะตายซ่ะก่อนน่ะครับ พอมาถึงบ้านผมรีบเอาสวิงที่ซื้อไว้ช้อนลงไว้ในบ่อ ก็สำเร็จไปเปลาะหนึ่งไม่มีใครตายเลยดีมาก ส่วนอาหารปลาน่ะผมถามเขาแล้วเขาบอกไม่ต้องมันจะกินตะใคร่ กินหญ้าเน่าตามบ่อเอง น่ะครับ ตกลงไม่ต้องเลี้ยง จัดว่าเลี้ยงง่าย

    <O:p</O:p
    ผมจำได้ว่ารออีกสามวันจนถึงวันศุกร์ เพราะไม่งั้นต้องลางานอีก คอยมาดูปลาทุกวัน พอวันศุกร์เลิกงานผมรีบกลับบ้าน เริ่มวิดบ่อด้วย เครื่องสูบน้ำไดรโว่ร์ เอาน้ำฝนใส่ตุ่มที่หลังรถ ทั้งสองตุ่ม เมื่อน้ำในบ่อแห้งดี ผมก็จับปลามาใส่ในตุ่ม ตอนแรกหาแผ่นไม้อัดครอบไว้กันมันกระโดด พอได้ปลาหมด เอาใส่ตุ่มแยกกันสองตุ่มไม่ให้แออัดมาก เอาเครื่องปั้มลมใส่ แล้วเอาแผ่นปลาสติกใสครอบ เอาเชือกมัดไว้ กันมันกระโดดออก ปั้มลมก็อัดอากาศไปเรื่อยๆ กันมันหายใจไม่ออก กว่าจะเสร็จก็ ดึกมากประมาณ สี่ห้าทุ่ม ผมก็อาบน้ำเข้านอน ปล่อยปลาไว้ที่ท้ายรถน่ะแหละในตุ่มพร้อมทั้งเครื่องปัมลมทำงานตลอด ในที่มืดๆปลามันจะสงบน่ะครับ ไม่ดิ้นมาก

    <O:p</O:p
    ผมกับแฟนตื่นตอนตีหนึ่งกว่าๆ ที่จริงนอนไม่ค่อยหลับหรอกครับ อยากไปวัดเลย แต่ไปถึงก็ดึกมากยังมืดอยู่ ก่ะว่าถึงสักตีห้า ให้หลวงพ่อตื่นแล้ว ก่อนออกจากบ้าน นึกถึงหลวงพ่อ ขอให้รเดินทางราบลื่นเพราะระยะทางไกล น้ำในตุ่มมันจะเหวี่ยงไปมากลัวปลาเมาแล้วตาย ผมบอกพวกปลาว่า พวกเอ็งอดทนหน่อยน่ะ จะพาไปปล่อยที่วัดหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ที่นี้พวกเอ็งจะอยู่กันอย่างสบายจนแก่ตายไม่มีใครมารังแก เรียกว่าจิตวิทยาหน่อยๆ ที่จริงกับตัวเองมากกว่า

    <O:p</O:p
    ผมค่อยๆขับรถ กลัวน้ำในตุ่มมันกระฉอกไปมา กลัวปลาเมา กลัวปลาตาย หยุดดูเป็นระยะ ความมืดและอากาศเย็นเพราะแอร์ในรถช่วยได้มาก เพราะปลาอยู่อย่างสงบ ผมไปถึงวัดก็สางแล้ว ผมขับรถตรงไปที่สระท้ายวัดตรงหอฉัน จอดรถ แล้วมาดูปลา ไม่มีตัวไหนลอยตายเลยครับ เขาพร้อมกันอยู่อย่างสงบจริงๆ

    <O:p</O:p
    ผมขึ้นไปกราบหลวงพ่อ ท่านนั่งรับแขกอยู่ ( คนมาวัดหลวงพ่อจะมาแต่ตีสี่ตีห้า) พอกราบเสร็จ ก็เรียนให้ท่านทราบว่ามีปลาสลิดเป็นๆ สองร้อยตัวมาถวาย ที่แรกท่านฟังทำท่าไม่เชื่อ ( อาจจะเป็นลีลา ) ท่านรีบบอกให้พาไปดู ท่านรีบเดินตามผมมาที่รถ พร้อมด้วยลูกศิษย์ที่บนศาลาก็เดินตามกันมาหลายคน พอมาเห็นปลาในตุ่มท่าทางท่านดีใจมาก ผมดูออกเลย ผมกราบเรียนท่านว่า ปลาสลิดสองร้อยตัวนี่เขากำลังจะจับไปฆ่า ทำปลาเค็มแล้ว หลวงพ่อสั่งให้ผมไปหา ผมช่วยเขามาจากความตาย ของถวายชีวิตทั้งสองร้อยชีวิตนี้แก่หลวงพ่อ เป็นทาน


    ท่านอนุโมทนา สาธุ แล้วสั่งให้ผมเอาไปเทในสระ ท่านให้คนช่วยผมยกตุ่มเอาไปเทลงในสระเองพร้อมแฟนผม เราเทน้ำทิ้งบ้าง แล้วยกไปเทที่สระน้ำใหญ๋ ท่านยืนมองอยู่ตลอดเวลา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บอกว่ากูอยากได้มาตั้งนานแล้วแต่หาไม่ได้ ( พอผมฟังแล้วผมเข้าใจเลยว่าทำไม เพราะหลายอาทิตย์กว่าผมจะได้ ) เราเทปลาลงในสระหมด ผมขึ้นมาเก็บรถล้างมือ หลวงพ่อท่านยืนคอยอยู่ตลอด พอเสร็จท่านถามว่า พวกมึงกินอะไรกันมาหรือยัง ผมกราบเรียนบอกท่านว่ายังครับ ไม่กล้าแวะนาน เพราะกลัวปลาตาย ท่านบอกตามกูมานี่ ตอนนั้นเริ่มสว่างมากแล้วน่ะครับ

    <O:p</O:p
    ท่านพาเดินมาที่หอฉัน มีสำรับตั้งอยู่ในที่สำหรับพระฉันเป็นชั้นบน เป็นสำรับท่านเอง ท่านยกมาวางกับพื้นข้างล่าง แล้วบอกว่ามึงสองคนกินซ่ะ ผมถามว่าเป็นอาหารหลวงพ่อเหรอครับ ท่านบอกใช่ แต่กูไม่กินล่ะ กูให้มึงสองคนกิน พร้อมทั้งเปิดฝาชี ผมกราบเรียนท่านว่าของหลวงพ่อผมไม่กินล่ะ หลวงพ่อฉันก่อน เหลือแล้วผมสองคนค่อยกินก็ได้

    <O:p</O:p
    ท่านส่ายหน้าบอกว่าไม่ มึงกินกัน กูไม่กินด้อก มึงสองคนมาเหนื่อยๆ กินเดี๋ยวนี้กูจะนั่งดูพวกมึงกิน ผมอึ้ง แต่เมื่อท่านสั่ง กินก็กิน อาหารก็เป็นอาหารพื้นๆน่ะครับ ข้าวเหนียว น้ำพริก ผัก แกงอีสาน ผมเรียกไม่ถูก แล้วก็ผลไม้ ผมก็นั่งกินกัน ตรงนั้น ท่านก็นั่งยองๆสูบยามองอยู่ บอกตามตรงผมกินไม่ค่อยลง เพราะหลวงพ่อมานั่งมอง มันติดคอ เลยกินฉลองศรัทธาท่าน ตามที่ท่านสั่ง แล้วตอนนั้นมันอิ่มบุญ ไม่หิวหรอกครับ

    <O:p</O:p
    พอกินเสร็จท่านบอกให้ตามมา เราเดินตามท่านมาที่ศาลาใหญ่ ท่านไปหยิบพระรูปหล่อท่านนั่งยองๆ มาให้ผมองค์ ผมเอาพระที่เตรียมมาจากบ้านเป็นพระที่ยายผมทำมาจากสะเก็ดดาวที่เจอในจอมปลวก ให้ท่านจาร ท่านจารอยู่แต่จารไม่เข้า ท่านเลยส่งเหล็กจารพร้อมทั้งพระ มาให้ผมแล้วบอกว่ามึงลองจารซิกูจารไม่เข้า ( อันนี้ผมไม่ทราบว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่าผมพอเขียนภาษาขอมได้แต่เด็ก ) ผมอึ้งพนมมือตอบท่านว่าผมไม่กล้าจารหรอกครับ ขอหลวงพ่อจารเป็นเคล็ดเท่านั้นแหละ ท่านก็ทำให้ แต่ไม่ติดน่ะครับ แล้วจารพระรูปหล่อให้ผม องค์นี้ผมก็เก็บไว้อย่างดี แต่เราคุยกันได้ไม่นาน ท่านต้องเริ่มฝังตะกรุดเพราะเป็นวันเสาร์ ผมกับแฟนเลยลากลับมา

    <O:p</O:p
    219300-e1866dd7ff5ee0b2ae4d6786fd241ed7.jpg
    รูปที่เห็นถ้าท่านไปวัดบ้านไร่มาเมื่อสักยี่สิบปีก่อนจะเห็น หลวงพ่อเอาเหล็กจารใส่กล่องใบนี้ เพราะเหล็กจารท่านหนักเป็นเหล็กทั้งแท่ง ตกลงตำเท้าล่ะทะลุแน่เลยต้องใส่กล่องไว้ ท่านใช้มาหลายปีก่อนผมไปวัดบ้านไร่ซ่ะอีก เรียกว่าข้างนอกเปรอะไปด้วยขี้มือท่าน ส่วนข้างในก็เปรอะไปด้วยสนิมเหล็ก เหล็กจารหลวงพ่อจะเป็นเหล็กทั้งดุ้นน่ะครับ ไม่ใช่ไม้ เป็นเหล็กอย่างดีผมเคยจับ ข้างนอกแกะลายกันลื่นตอนเอามือจับ ตอนปลายฝนด้วยเครื่องจนแหลม เรียวเล็กน้ำหนักกำลังดี ผมไม่กล้าขอเหล็กจารหรือทำอันใหม่ไปเปลี่ยนเพราะเห็นท่านใช้เหล็กจารอันนี้สร้างบารมี แต่ตอนหลังผมก็เห็นท่านใช้เหล็กจารอันใหม่น่ะครับ อันเก่าคงมีคนมาขอเปลี่ยนไป ผมน่าจะขอมาน่ะ ....แหะๆ

    <O:p</O:p
    ผมเลยขอแต่กล่องมาเพราะเห็นว่ากล่องนี้อยู่กับหลวงพ่อมาหลายปี เข้านอนท่านก็ถือไปด้วย ไปนิมนต์ไหนท่านก็เอาใส่ย่ามไป จัดว่าอยู่คู่กายท่านมาหลายปี ผมเก็บไว้อย่างดีเลยครับ เก็บไว้ในที่สูง ไม่เคยโชว์ใครกลัวมาขอ เอามาโชว์ที่นี่ที่เดียวครับ

    <O:p</O:p
    ส่วนรถผมน่ะ หลังเสร็จงานมันเหม็นมาก ทั้งหญ้าเน่า ทั้งคาวปลา ต้องเอาไปล้างฟอกพรมตากแดด อีกนานกว่ากลิ่นจะหมดครับ แต่อิ่มบุญมากครับงานนี้ และถ้าแถวอีสาน แถวด่านขุนทด มีปลาสลิดกินกันล่ะก็ อยากจะบอกว่าผมมีส่วนในการแพร่พันธ์น่ะครับ

    219301-dd7714ce0ac02314273e48f516ef8e5c.jpg 219303-c2b735da996be555b465f2054e9c5e35.jpg 219302-0ddd487935551f4dcc23bc9a44669c58.jpg <O:p></O:p>

    รูปรอยเท้า รอยมือ หลวงพ่อ ส่วนรอยมือนั้น ขอท่านเหยียบรอยเท้าซ้ำให้ครับ ผมเก็บไว้อย่างดี ระลึกถึงหลวงพ่อตลอดแม้จะไม่ค่อยได้ไปหาท่านแล้ว สาเหตุเพราะไม่อยากจะไปช่วยรุมท่าน สงสารท่านเวลารับแขกครับ

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2008
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,013
    ค่าพลัง:
    +146,288
    เหรียญเสด็จเตี่ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...