องค์พระศรีอาริยะเมตไตยต้องบุรพกรรม

ผมมาพิจารณาปริศนาธรรมข้างบนแล้ว ไม่น่าเป็นปราชญ์โบราณหรือพระอินทร์แต่งขึ้น เพราะมันเหมือนเด็กปฐม เด็กอนุบาลแต่งขึ้น มันไม่เห็นแก่นอะไรเลย และดูไม่ลึกซึ้งอะไรเลย

น่าจะเป็นคนในปัจจุบันแต่งขึ้น อวดภูมิจิตภุมิธรรมตนเอง มันไร้สาระมากๆ ไม่มีที่มาที่ไป

ปราชญ์โบราณแต่งเอาไว้ที่ไหนครับ จะได้ไปค้นคว้าดู หรือครูอาจารย์คนไหนเคยพูดไว้ จะได้ไปถามถึงที่เลยครับ

ถ้าฝนจะตก งูต้องไล่กินกบเขียดถึงจะตก ถ้างูกินกบเขียด ไม่มีเสียงกบเขียดฝนคงไม่ตก มันไม่ make sense เลย

ปราชญ์โบราณคงมีสติปัญญาไม่มาก ถ้าคิดเอาปฏิจสมุปปบาทธรรมอันลึกซึ้ง สุขุม ลุ่มลึก คัมภีรภาพ มาเปรียบกับนกยาง งู กบ เขียด

ถ้าพระศรีอาริย์มาแปลความหมายนี้ สติปัญญาคงต่ำพอๆกัน

ผมกล่าวตามหลักของความเป็นจริงนะครับ ถ้าคิดว่าพระศรีอาริย์ท่านมากด้วยบารมีจริง คงไม่หลบซ่อน

 

ลักษณะของพระศรีอาริยะ

เมื่อบวชอยู่เพื่อนนักบวชก็รุมชัง ฆราวาสรุมชัง สมณะชีพราหมณ์ตลอดจนฝูงท้าวพระยาที่มีใจหนาแน่นไปด้วยบาปต่างก็ไม่คบค้า สมาคมด้วย อยู่ที่ไหนไม่มั่นพลันหนีเพราะมีศีลธรรมและความประพฤติผิดกับคนทั้งหลาย จึงคบค้าสมาคมกับคนที่มีใจบาปหยาบช้าไม่ได้นาน
เมื่อเป็นทารกนอนดั่งลิงลม เมื่อบวชเรียนอยู่นอนดั่งนกกาน้ำ เมื่อเป็นฆราวาสแล้วนอนดั่งพญาช้างสาร และเมื่อปรากฏแล้ว นอนดั่งพญาสีหะ
ตำหนิรูปพรรณสัณฐานนั้น รูปร่างลักษณะท่าทางเหมือนดังครุฑ จมูกดังยักษ์ ใบหน้าดังครุฑ มีฟันเหมือนฟันม้า ตาลึก ท้องใหญ่เล็กน้อย ไหล่ขด นิ้วมือเบื้องซ้ายเป็นแผลเป็นหนึ่งแห่ง ที่แขนซ้ายมีขนยาวหนึ่งเส้น ฝ่าเท้าเบื้องขวามีแผลเป็น บนศีรษะมีแผลเป็นลักษณะ(บางที่บอกว่า มีรอยบุ๋มหรือบุบเป็นลักษณะ)ไม่สูงไม่ต่ำไม่ดำไม่ขาว สีผิวเนื้อเหลือง ยามเจรจามีเสียงแลบออกจากไรฟัน พูดจามั่นเที่ยงไม่กลับกลอก

เมื่อบวชอยู่ในเพศบรรพชิตนั้นมักมีรัศมีพุ่งออกจากศีรษะเสมอ และมักมีดวงแสงสว่างขนาดลูกมะพร้าวบ้าง ส้มบ้าง เป็นท่อเป็นลำยาวบ้าง ปรากฏแก่สายตาประชาชนอยู่ไม่ขาด นอกจากนั้นก็มักมีเสียงดนตรีและฆ้องกลองประหลาดที่ไม่เห็นผู้บรรเลงปรากฏ อยู่ครึ้มเครือ

มีปัญญาดุจมโหสถ มีความเพียรดุจมหาชนก มีสัจจะดั่งวิธุรบัณฑิต มีขันติดุจขันติวาทีดาบส มีความกล้าหาญดุจสุรยักษ์ มีใจเบาและรวดเร็วดังลิงลม มีไมตรี รักคนใจบุญและสัตย์ซื่อ เมตตากรุณาต่อคนทุกข์ไร้อนาถา ไม่ถือตัวไม่ถือชั้นวรรณะ แก่กล้าด้วยศีลและทานจนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเริ่มจะปรากฏเป็นที่พึ่งแก่โลกนั้นจึงได้นามสมัญญาอีกอย่างว่า “ทลิททกธรรมิกราชา” คือ พระราชาผู้เข็ญใจไร้ทรัพย์

วิษณุกรรมเทพบุตรจะไปนำมะม่วงกาซอจากดอยสิโนโรมาถวายพระศรี อาริย์ให้เสวยแล้วรูป

ร่างก็เปลี่ยนไปงดงามดุจท้าวสักกะองค์อินทร์ จากนั้นพระศรีอาริย์ก็จะนำเม็ดมะม่วงปลูกลงริมปราสาท มะม่วงก็เติบโต ออกดอกและผลโดยพลัน พระศรีอาริย์จะน้อมมะม่วงนั้นเข้าถวายพระผู้เฒ่า๒๔รูปที่จาริกมาจากทิศต่างๆ เมื่อพากันฉันแลัวพระผู้เฒ่าก็กลับกลายเป็นหนุ่มทั่วกัน
พระศรีอาริย์จะทำการชำระภิกษุสงฆ์ ให้สงฆ์ที่ไม่บริสุทธิ์สึกทั้งหมดแล้วนำผ้าเหลืองที่ได้จากการสึกภิกษุเหล่า นั้นไปเผา นำขี้เถ้าใส่ในตะลุ่มทองคำ นำไปฝังแล้วสร้างพระธาตุทับไว้พระองค์จะนำแก้วมณีโชติไปประดับไว้บนยอดธาตุ แสงสว่างจากแก้วมณีจะส่องสว่างไปทั่วทั้งนคร ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

ว่ากันว่า พระศรีอาริย์จะพาพุทธบริษัทไปสักการะศพของพระมหากัสสปะที่แคว้นมคธ มีการห้ามสงครามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกองทัพเทวดาเดินทางไปในอากาศ ๒ครั้ง คือ
สงครามแย่งภูเขาทอง๑ และสงครามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้๑ (หาอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก โดยรหัสยญาณ สำนักพิมพ์ลานอโศกเพรสกรุ๊ป โรงพิมพ์สหธรรมิก)<!-- google_ad_section_end -->

------------------------------------------------------------------------------

เอาข้อมูลมาจากที่ไหนครับ ใครกล่าวไว้

 

ท่านครับ
ขอบคุณมากๆๆครับสำหรับความหวังดีนะครับ
ผมเองยังไม่เคย " กล่าวหาท่านอาจารย์ ในเชิงลบหลู่ดูหมิ่น " เลยนะครับ
ท่านเองลองอ่านตัวสีชมพูดูดีๆๆสิครับ ว่าความหมายคืออะไรครับ
ส่วน คนที่กล่าวหาเชิงลบหลู่ดูหมิ่น คือคนที่พิมพ์เอา ใครก็ไม่รู้มาเปรียบเทียบพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน พระองค์อดีต และพระองค์อนาคตทั้งหลายมารวมกันต่างหากครับ คนนี้ละจะเสื่อม และตัวท่านเองที่เห็นดีเห็นงามด้วยตัวท่านเองก็จะเสื่อม ตัวผมไม่เป็นไรหรอกครับเพราะยังไม่ได้ว่าใครเลย!!!!!
ผมแนะนำท่านนะให้ท่านเองไปขอขมา พระพุทธเจ้าทั้งหลายก่อนนะครับ ก่อนที่ท่านเองจะเสื่อมนะ
ตามที่ผมเรียนวิชา แคลคูลัส แมท เทอร์โพโลจี สนามแม่เหล็กโลก คณิตศาสตร์วิศวะกร กลศาสตร์ของแข็งของเหลว กลศาสตร์การไหล ระดับป.ตรีมา สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์เหล่านั้นมาจากการคำนวณ การสร้างของคนโบราณ เริ่มตั้งแต่ สร้างปฏิทิน นาฬิกา ..................ท่านคิดว่าสมัยเมื่อ ๗,๐๐๐ ปี (ที่เขาสร้างมหาปิระมิด )ที่แล้วมีเทวดามาสร้างเหรอครับ
ส่วนพระอินทน์ท่านเองก็เป็นจอมเทพชั้นที่ ๒ ( ท่านเป็นพระโสดาบันแล้ว) พระอินทร์พระองค์นี้ท่านได้ทำบุญนอกศาสนา ( คงเคยอ่านเจอนะ ) ก่อนหน้านี้ท่าเองมีอนุภาพน้อยกว่าเทวดาอยู่ ๓ องค์(ชื่ออะไรจำไม่ได้)ตอนนี้ท่านเป็นมหาเทพที่มีอานุภาพมาก เพราะท่านได้แอบไปตักบาตพระมหากัสสปะที่พึ่งออกจากนิโรธสมาบัติ( สมาธิชั้นสูงของพระอรหันต์) ไม่มีเทวดาองค์ไหนให้พรแก่ใครได้หรอกนะครับ นอกจากจะทำบุญเอาเองนะครับ คงเข้าใจนะครับ
เรื่องภูมิของอ.กร ผมไม่เคยสงสัย แต่สงสัยคำสอนบางเรื่องเท่านั้น ( " อภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทาญาณ ๔ " ผมเองไม่นึกว่าจะมีฆราวาสสอนให้สำเร็จได้นอกจากพระพุทธเจ้า นะครับ )
แต่ที่บอกว่าเป็นมหาโพธิสัตว์ดูจากลักษณะไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าเป็นองค์อนิตยะโพธิสัตว์นะจะใช่ ( ตอบจากลักษณะ นะครับ )
คนที่มีภูมิปัญญาพอๆๆกันนะครับ ดูไม่ยากหรอกครับ ( พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า จะดูใครว่าเป็นยังงัย ให้คบกันนานๆๆ คุยกันนานๆๆ ปากเป็นเอก เลขเป็นโท )
" เรื่องพระยาธรรมิกราช ผู้อบรมตน บำเพ็ญบารมีมาดีแล้ว ย่อมเหนือสรรพสิ่ง " = บำเพ็ญมานานแค่ไหน ดีแค่ไหน ก็ไม่อยู่เหนือธรรมชาติหรอก ( ไม่เห็นคิดยากเลย )

 

ฉะนั้น พระศรีอาริยะเมตไตรย นั้นเป็นสภาวะธรรมของพระบรมมหาโพธิสัตว์องค์นึง ที่กำลังทำหรือหมุนจักรใหม่อยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งทำหน้าที่ๆหลายอย่างในเวลาเดียวกัน อีกหน่อยคงปรากฏตัวในเร็ววันนี้ สาธุๆเน้อ....

 

หา............

 

พระศรีอาริย์ ครับ พระองค์อยู่ไหน ???????????
มีคนบอกว่าพระองค์หลบซ่อน ( เขาไม่เรียกว่าหลบซ่อนหรอกครับ รอเวลานะครับ เข้าใจป่ะ )
ความเป็นจริงของท่านนี้แปลกดีจัง ตลกมากเลยอิอิ

" ถ้าพระศรีอาริย์มาแปลความหมายนี้ สติปัญญาคงต่ำพอๆกัน " คนพิมพ์ประโยคนี้ข้างบนคงสติปัญญาสูงเนอะ !!!!!!

 

ตามที่ผมเรียนวิชา แคลคูลัส แมท เทอร์โพโลจี สนามแม่เหล็กโลก คณิตศาสตร์วิศวะกร กลศาสตร์ของแข็งของเหลว กลศาสตร์การไหล ระดับป.ตรีมา สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์เหล่านั้นมาจากการคำนวณ การสร้างของคนโบราณ เริ่มตั้งแต่ สร้างปฏิทิน นาฬิกา ..................ท่านคิดว่าสมัยเมื่อ ๗,๐๐๐ ปี (ที่เขาสร้างมหาปิระมิด )ที่แล้วมีเทวดา

----------------------------------------------------

ขอโทษคุณต้นละด้วยที่เอาความรู้ ป.ตรีมาอวดอ้าง

ผมมันคนเรียนไม่สูงแค่ เปรียญ ๙ ประโยคเอง และจบพุทธปรัชญาปริญญาเอกจากอินเดีย มหาวิทยาลัยนาลันทา

เป็นพระธรรมดาๆ บวชมาแล้ว 35 พรรษา เดินบนดิน เป็นคนธรรมดา คิดแบบธรรมดา สงสัยการสอนกรรมฐานใครก็ไปพบคนนั้นเลย ไม่เห็นต้องไปถามลูกศิษย์เลย ถามอาจารย์ผู้สอนเลย ไปพบเลย ตัวเป็นๆ ว่าสอน อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ได้หรือเปล่า

คุณต้นละ ก็ไปลองเข้าเรียนดูซักชั่วโมงซิ จะได้หายสงสัย จริงมั้ย????.... โยม

 

ผู้ที่เขียนปริศนานกยาง ยังไม่แจ้ง ยังไม่ตระหนักชัดในธรรมเลย คุณ vera_p เขียนเอง แต่งเองหรือเปล่า แล้ว แก้ปริศนาเองด้วย

ถ้าจะแก้ปริศนานกยางได้ แล้วเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ หรือพระยาธรรมิกราชเลย คงจะง่ายเกินไป การสร้างบารมีต่างๆคงไม่จำเป็น ถ้าเป็นง่ายขนาดนั้น

และอีกอย่างคุณลักษณะของพระศรีอาริย์ที่เขียนมา ว่ามีคนทำนายไว้ ผมค้นหาทุกที่แล้ว สอบถามไปหมดแล้ว ไม่ปรากฏเป็นหลักฐานหรือ จารึกไว้ที่ใดเลย แต่งขึ้นเองหรือเปล่า

ต้องถามกันตรงๆ เพราะข้อมูลต่างๆที่เอามาโพส ต้องมีที่มาที่ไปที่ชัดเจนครับ

อย่าคิดนึก เออ ออ เองครับ จริงมั้ย .... ท่าน

 

ผมมันคนเรียนไม่สูงแค่ เปรียญ ๙ ประโยค(สอบความรู้พระปริยัติธรรมสายบาลีตามหลักสูตร) เอง = ใครกันแน่ที่อวด
โทษนะครับ
ไม่ได้อวดครับ
แต่เอาหลักการคำนวณเรื่องการก่อสร้างมาบอกนะครับ
ดีนะครับที่รู้ตัวเองว่าจบไม่สูงนะ ถ้าจบสูงกว่านี้คงจะแย่แน่ จบตั้ง ปธ.๙ ไม่น่าเข้าข้างคนที่ลบหลู่ถึงศาสดาตัวเองแบบนี้เลย ไปเรียนทำไมนี้
จบตั้ง ปธ.๙ ( แล้วงัย) ที่ผมถามลูกศิษย์นะผมถามว่าคืออะไร(อ่านดูดีๆๆครับ เดี๋ยวจะสื่อกันไม่รู้เรื่อง) ไม่เข้าใจเรื่อง อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ได้งัย ไปเรียนใหม่ได้แล้วมั้งครับ
ถ้าไปเรียนสัก ชม.แล้วเป็นเหมือนท่านคงไม่ไปเรียนหรอกครับ
ลองอ่านดูดีๆๆนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมอวดอีกนะ

 

เวรกรรมจริงๆ ผมไม่ได้แต่งเอง ผมคงไม่ฟุ้งซ่านบ้าบิ่นจนขนาดกล่าวกุขึ้นมาเองหรอกครับ ล๊อกคอยัดข้อหาใส่กันเลยนี้ครับ

ผมเคยได้อ่านมาจากเวปอาลิโก
นิยายสิริอริยะ ธรรมิกราชโพธิสัตต์


แต่เวปนี้เขาปิดไปแล้ว

ส่วนเวปข้างล่างนี้ที่ยังพอมีเคล้าโคลงอยู่บ้าง
PaLungJit.com - ข่าวดี ชาวโลกจะได้พบพระศรีอารย์ในปี 2549
ตอนนั้นจะมีคนพิมพ์หนังสือเล่มนี้ขึ้นมาวางจำหน่ายด้วย

ผมยังได้ยินมาอีกว่า สมัยอยุธยา แต่งเป็นทำนองร้องขึ้นมาก็มี คนที่มีอายุ 50 ขึ้นไปในสมัย บางคนก็ได้เรียน ได้ร้อง เอาไว้เหมือนกัน แต่ก็มีน้อยคนที่จำได้

อ่านแล้วทบทวนด้วยครับ ผมก๊อปปี้คำพูดของเขามา พร้อมกับสำนักโรงพิมพ์

ท่านอย่าเอาแต่อารมณ์ใส่มาสิครับ

คนรู้ธรรมมักมีอารมณ์กับคนอื่น แต่คนมีธรรมมักกำจัดสันดานอารมณ์ตัวเอง

 

เฮ้อ.... บุพกรรมของเด็กน้อย


อาตมาไม่ได้เข้าข้าง ด้วยตัวอักษร แต่อาตมา ไปปฏิบัติกับท่านอาจารย์มาแล้วหลายครั้ง เห็นการแนะนำการปฏิบติต่างๆว่า ท่านสอนได้จริง แม้กระทั่ง อภิญญา ๖ และ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ อันนี้ไม่เห็นแปลก

วิสัยของมหาโพธิสัตวืที่พร้อมตรัสรู้ ฆราวาสหรือพระ หรือนักบวช ถ้ามีคุณธรรมอย่างนี้จริงๆ ไม่ต้องแปลกและสงสัย

ท่านพ่อบัณฑูรย์สิงห์ ก็เป็นฆราวาสเหมือนกัน ท่านก็สอนได้เช่นเดียวกัน เด็กน้อยคงเกิดไม่ทัน

เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง ไปดู ไปเห็น ไปทำก่อน ว่ามัน คนนี้ สอนได้ จริงมั้ย ถ้าไม่จริง ก็ยำเลย กฏหมายบ้านเมืองมี ไม่เห้นยากอะไร

ยกเว้น คนที่ใจไม่กว้าง มีมานะทิฎฐฺมาก อ่านมากรู้มาก ศึกษามาก คิดว่าตนเองรู้ดี จึงปฏิเสธไปทุกๆสิ่ง

ที่อาตมาบอกว่า จบเปรียญ ๙ นั้น จบ ปริญญาเอกด้านพุทธปรัชญาที่อินเดียนั้น ไม่ได้โอ้อวด แต่ต้องการบอกว่า อาตมาจบมาขนาดนี้ ปกครองคณะสงฆ์ด้วย ยัง กล้ายอมรับความจริงในตนเองว่า อาตมาไม่มีภูมิจิตและภูมิธรรมเท่าที่ตนเองมีความรู้จริงๆ แม้จะเคยปฏิบัติออกธุดงค์มาทั้งชีวิตก็ตาม

อาตมาไม่ได้สนใจว่า อาจารย์ทางธรรม จะเป้นพระอย่างเดียว พรรษาน้อยกว่า ก็ตาม เป็นฆราวาสก้ตาม ถ้าคนเหล่านั้นแนะนำในทางธรรมได้จริง ก้น้อมรับเป็นครูอาจารย์ได้ทันที


พออาตมาไปพบท่านอาจารย์ สิ่งที่ค้างคาในการปฏิบัติมันก็หมดไปทันที อยู่ในสมณเพศด้วยความถูกต้องตามพระวินัยทุกอย่าง การปกครองคณะสงฆ์ก็เป็นไปด้วยดี

ให้โยมต้นละ พิจารณาแยกแยะให้ดี อย่าตัดสินคนด้วยทิฏฐิตนเอง มันจะทำให้ตนเองล่มสลาย ไปกับทิฏฐิตนเอง

 

ดีๆครับ จะได้ค้นคว้าต่อไป ไม่ได้ใส่อารมณ์แต่เป็นบทวิจารณ์ ทางความเห็นครับ ถ้าเป็นอารมณ์คงไม่ใช่แค่นี้ หนักกว่านี้แน่นอน

ขอขมาท่านด้วยถ้าทำให้จิตขุ่นมัว

 

ใบลาน : พระศรีอารย์เทศนา ๒๐กัณฐ์
โดย : ธวัช เฟื่องประภัสสร์ ป.๙ สำนักวัดเบญจมบพิตร<o></o>
ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : นายรวล รุ่งเรืองธรรม พ.ศ.๒๔๙๘ (สงวนลิขสิทธิ์)<o></o>
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์<o></o>
๑๙๕ เสาชิงช้า ถ.บำรุงเมือง พระนคร กรุงเทพฯ<o></o>

ที่เอามาแสดงนี้เป็นแค่ กัณฐ์ที่ 3 ครับ

 

บุพกรรมของ.....ลูกศิษย์( ของพระพุทธเจ้า)

อาตมาไม่ได้เข้าข้าง ด้วยตัวอักษร แต่อาตมา ไปปฏิบัติกับท่านอาจารย์มาแล้วหลายครั้ง เห็นการแนะนำการปฏิบติต่างๆว่า ท่านสอนได้จริง แม้กระทั่ง อภิญญา ๖ และ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ อันนี้ไม่เห็นแปลก = สาธุ ท่านเองคงสำเร็จ อภิญญาที่๖ (หมดกิเลส) และ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ ดูจากการตอบแล้วไม่น่าจะแตกฉานในญาณ ทั้ง ๔ เลย
วิสัยของมหาโพธิสัตวืที่พร้อมตรัสรู้ ฆราวาสหรือพระ หรือนักบวช ถ้ามีคุณธรรมอย่างนี้จริงๆ ไม่ต้องแปลกและสงสัย = จากลักษณะไม่น่าจะเป็นมหาโพธิสัตว์ ถ้าอนิตยะโพธิสัตว์น่าจะใช่

ท่านพ่อบัณฑูรย์สิงห์ ก็เป็นฆราวาสเหมือนกัน ท่านก็สอนได้เช่นเดียวกัน เด็กน้อยคงเกิดไม่ทัน = คงไม่ทันนะครับ ( พราหมณ์อายุน้อย งูตัวเล็ก ไฟนิดเดียว และพระราชอายุน้อย = อย่าคิดว่าเล็กน้อย)

เราต้องพิสูจน์ด้วยตนเอง ไปดู ไปเห็น ไปทำก่อน ว่ามัน คนนี้ สอนได้ จริงมั้ย ถ้าไม่จริง ก็ยำเลย กฏหมายบ้านเมืองมี ไม่เห้นยากอะไร = บางอย่างไม่จำเป็นหรอกครับ เกี่ยวอะไรกับกฏหมายครับคนละเรื่อง

ยกเว้น คนที่ใจไม่กว้าง มีมานะทิฎฐฺมาก อ่านมากรู้มาก ศึกษามาก คิดว่าตนเองรู้ดี จึงปฏิเสธไปทุกๆสิ่ง = ไม่ได้มีมานะทิฏฐิ อะไรเลยนะ ศึกษาก็ไม่มาก เรียนก็ไม่จบป.ตรีด้วยนะครับ ไม่ได้ปฏิเสธด้วยครับ แค่เห็นท่านยินดีกับคนที่เขาลบหลู่ศาสดาของตัวท่านเองนะ

ที่อาตมาบอกว่า จบเปรียญ ๙ นั้น จบ ปริญญาเอกด้านพุทธปรัชญาที่อินเดียนั้น ไม่ได้โอ้อวด แต่ต้องการบอกว่า อาตมาจบมาขนาดนี้ ปกครองคณะสงฆ์ด้วย ยัง กล้ายอมรับความจริงในตนเองว่า อาตมาไม่มีภูมิจิตและภูมิธรรมเท่าที่ตนเองมีความรู้จริงๆ แม้จะเคยปฏิบัติออกธุดงค์มาทั้งชีวิตก็ตาม = หลวงปู่มั่นไม่เห็นจบปธ. อะไรเลยเห็นมีลูกศิษญ์เยอะมากเลย ปกครองสงฆ์เลยเหรอ สาธุด้วยนะครับ ชื่อที่ท่านใช้นะ หน้าจะใช้คำว่า พระ ด้วยนะ กันคนอื่น ปรามาส =​ ....... )

อาตมาไม่ได้สนใจว่า อาจารย์ทางธรรม จะเป้นพระอย่างเดียว พรรษาน้อยกว่า ก็ตาม เป็นฆราวาสก้ตาม ถ้าคนเหล่านั้นแนะนำในทางธรรมได้จริง ก้น้อมรับเป็นครูอาจารย์ได้ทันที = ผมเองยังไม่เคยว่าอ. ท่านใด ของท่านเลยนะอ่านดูใหม่


พออาตมาไปพบท่านอาจารย์ สิ่งที่ค้างคาในการปฏิบัติมันก็หมดไปทันที อยู่ในสมณเพศด้วยความถูกต้องตามพระวินัยทุกอย่าง การปกครองคณะสงฆ์ก็เป็นไปด้วยดี

ให้โยมต้นละ พิจารณาแยกแยะให้ดี อย่าตัดสินคนด้วยทิฏฐิตนเอง มันจะทำให้ตนเองล่มสลาย ไปกับทิฏฐิตนเอง = ผมเองยังไม่เคยว่าใครเลย ยังไม่ได้ตัดสินใครด้วย ให้ท่านอ่านดี ๆๆๆๆ ใช้สติในการอ่าน อย่ามีทิฏฐิในการอ่าน ผมเองแยกแยะเป็นครับ ว่าในหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาลนี้มีพระพุทธเจ้า(ทุกๆๆพระองค์สูงที่สุด ประเสริฐสุด ) พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกดีที่สุดครับ
ท่านครับ ลองถามอ.กรดูนะครับ ท่านอ.กรเองท่านจบวิศวะมานะ สิ่งก่อสร้างเหล่านั้นเกิดจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ รึว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์
อย่าลืมไปขอขมาพระพุทธเจ้าทุกๆๆพระองค์ด้วยนะครับ (ผมหวังดีกับท่านนะครับ)

 

เหอๆ ไม่ได้มาชมนาน
ผมขอเตือนสติเพื่อนๆทุกท่าน
โต้เถียงกันเสร็จ ก็ควรเลิกรา
เป็นสหธรรมิกกันต่อไป

ด้วยรักและปรารถนาดีเสมอ
วสุธรรม

 

ขอบคุณท่านมากๆๆเลยนะครับ
ผมเองมี สติ ตลอดเลยนะครับ

 

เสื่อมเหลือเกิน คนนะไม่ใช่ธรรม ใครที่มีจิตเป็นคนปุถุชนอยู่ก็จะมีแต่วันเสื่อมลงๆๆๆไปจนไม่รู้ว่าอะไรคือธรรมของพระศาสดาหากพระโพธิสัตว์มีจริงจะต้องดำรงตนและกระทำตนให้อยู่ในธรรม ตามธรรมที่พระศาสดาตรัสไว้ ไม่ว่าจะเป็น บรรชิต หรือ ฆราวาส ยิ่งเป็นบรรพชิตธรรมวินัยยิ่งต้องระลึกไว้ให้มาก จะได้แบกสังขาร เข้าไปกราบพระรูปของพระศาสดาได้อย่างภาคภูมิว่า เราทั้งหลายเป็นธรรมทายาทหน่อเนื้อของพระศาสดา
ผิดหรือถูกดีหรือเลวก็ควรพิจารณากันเอาเอง ตามสมควรแก่ฐานะที่มีในตน

 

ขออนุโมทนาสาธุกับพี่ๆ ที่นำบทความดีๆมาให้สดับอ่าน

 

ขออนุโมทนา ครับ
ทุกท่าน กรุณาแสดงธรรมให้ความรู้ผมมากๆเลย
หุหุหุ