รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

..............................................................

แล้วแม่เหล็กเราเป็นอะไรละคะมั่วไปหมดพันกันนุงนังน่าสงสาร:'(

 

คุณดาวพระศุกร์เธอกระโดดหนีไปแล้วเหรอ...ปล่อยให้เราอยู่กับคุณนิบิรุสองต่อสองเหรอ...ต้องผูกมิตรกับเธอซะแล้วซินะ...;aa43

 

ทั้ง 3 รูปข้างบน เป็นกราฟและภาพจำลองของดวงอาทิตย์ครับคุณ kaewkaow หลังจากสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ได้กลับขั้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ปฏิกิริยาของดวงอาทิตย์สูงสุด หรือ solar maximum จำนวนจุดดับจะมากสุด ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 11 โดยประมาณ กว่าจะเข้าสู่ช่วงไร้จุดดับ หรือ solar minimum ก็ประมาณ 5 ปีครึ่ง ( ครึ่งหนึ่งของ 11 ปี ) ซึ่งสนามแม่เหล็กจะไม่ยุ่งเหยิง แยกเหนือใต้ชัดเจน

รูปข้างล่างเป็นภาพจำลองสนามแม่เหล็กของโลกครับ



สนามแม่เหล็กของโลกเราก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติมากมายเหมือนที่มีการออกมาปล่อยกระแสเรื่อง poleshift ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เดี๋ยวจัดให้ในโพสต์ถัดไปครับ ขอจัดเรียงข้อมูลแป๊บ

.

 

POLE SHIFT

คำว่า Pole shift ถูกนำมาใช้อย่างติดปาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่มี 2 ความหมาย คือ
1. การกลับขั้วของสนามแม่เหล็กโลก ( Magnetic Pole ) โดยขั้วแม่เหล็กเหนือและใต้ ค่อยๆเคลื่อนเปลี่ยนตำแหน่ง และอาจจะสลับขั้วกันก็ได้ เพราะมีการศึกษาจากชั้นหินใต้ท้องทะเล ซึ่งถ้าเปลี่ยนไปมากๆหรือสลับขั้ว จะส่งผลกระทบในระบบดาวเทียม GPS ต่างๆ, ระบบการบิน ตลอดจนสัตว์อีกหลายชนิด
2. การกลับขั้วของขั้วโลก ( Geographic Pole ) โดยขั้วเหนือ Arctic หมุนลงไปอยู่ทางใต้ แล้ว ขั้วใต้ Antarctic มาอยุ่แทนที่ขั้วเหนือเดิม

สิ่งที่กำลังจะเกิดและสามารถเกิดได้ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพูดกันคือ ข้อ 1 ไม่ใช่ข้อ 2 การกลับขั้วของขั้วโลกเป็นแนวความเชื่อที่มาพร้อมๆกับความเชื่อเรื่องดาวนิบิรุ ซึ่งช่วง 3-5 ปีที่แล้วกระแสแรงมาก แต่หลังคำทำนายวันสิ้นโลก2012 ไม่ได้เกิดขึ้นจริง คนทั้งโลกก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องความเชื่อที่ถูกนำมาสร้างกระแสเท่านั้น

World magnetic model เปรียบเทียบปี 2010 กับ 2015 ค่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย






ล่าสุด Magnetic North Pole ขั้วแม่เหล็กเหนือ ก็ยังไม่เปลี่ยนไปมาก ดังที่มีการสร้างกระแสเมื่อปีที่แล้ว







.

 

Global Magnetic Models

The International Association of Geomagnetism and Aeronomy maintains a standard global field model called the International Geomagnetic Reference Field. It is updated every 5 years. The 11th-generation model, IGRF11, was developed using data from satellites (Ørsted, CHAMP and SAC-C) and a world network of geomagnetic observatories.[57] The spherical harmonic expansion was truncated at degree 10, with 120 coefficients, until 2000. Subsequent models are truncated at degree 13 (195 coefficients).[58]

Another global field model, called World Magnetic Model, is produced jointly by the National Geophysical Data Center and the British Geological Survey. This model truncates at degree 12 (168 coefficients). It is the model used by the United States Department of Defense, the Ministry of Defence (United Kingdom), the North Atlantic Treaty Organization, and the International Hydrographic Office as well as in many civilian navigation systems.[59]

A third model, produced by the Goddard Space Flight Center (NASA and GSFC) and the Danish Space Research Institute, uses a "comprehensive modeling" approach that attempts to reconcile data with greatly varying temporal and spatial resolution from ground and satellite sources.[60]

Earth's magnetic field - Wikipedia, the free encyclopedia

.

 

ท่าน hiflyer เก่งสุดยอดเหมือนเดิม ชอบกระทู้นี้มากครับ

 

ขอบคุณครับท่านสุกิจ ผมแค่เสาะหาข้อมูลมานำเสนอ จะได้เป็นข้อเปรียบเทียบ ว่าอะไรน่าจะจริง อะไรน่าเชื่อถือ เพราะบางท่านอาจเชื่อและมั่นใจตัวเองว่าคิดถูก หรือเชื่อจากคนอื่น ทั้งๆที่ยังมีข้อมูลไม่มากหรือไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลจากไหน และบางทีข้อมูลที่มีอยู่อาจเป็นข้อมูลเท็จ ไม่มีแหล่งข้อมูลที่ยืนยันได้ ซึ่งส่วนใหญจะเจอในยูทูป

.

 

GIANT BODY BEHIND SATURN - HOAX EXPOSED

สำหรับบางท่านที่ยังไม่ทราบความจริงครับ







วีดีโอ :

<iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/LWQFjd-16CE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

.

 

Video : Are We Alone in the Universe ? < Zecharia Sitchin > 1992





ท้ายวีดีโอเรื่องข้างบนที่ทำขายเมื่อ 1992 ( 23 ปีที่แล้ว ) มีประโยคกราฟฟิคปิดท้าย ดังที่ hilight ด้วยสีชมพูข้างบน โดยอ้างว่า มาจาก NASA press release 1992 แต่จนถึงวันนี้ ผมยังหาสำเนาของเอกสารทางนาซ่าไม่เจอเลย ถ้าท่านใดมี กรุณานำมาแขร์ด้วยนะครับ เพราะเราจะเห็นมีการนำประโยคนี้ไปสร้างความน่าเชื่อถือในเอกสารและบทความมากมาย
ความเชื่อเดิมๆ อาจไม่จริงเสมอไป การถ่ายภาพด้วยกล้องอินฟราเรด IRAS เมื่อปี 1983-1984 ( 31 ปีที่แล้ว ) พบวัตถุขนาดใหญ่ ก็มีการประโคมข่าวว่า อาจเป็น Planet X จวบจนมาถึงปัจจุบัน ที่เรามีเทคโนโลยี่ เครื่องใม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าในอดีตมากมาย และในปัจจุบันก็ไม่สามารถค้นหาวัตถุที่ว่านั้นเจอเลย จนนักวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ โบราณคดี เจ้าของความเชื่อเหล่านั้น ทะยอยลาโลกไปเกือบหมดแล้ว

สำหรับบางท่านที่ยังเชื่ออยู่ ก็ไม่ต้องท้อใจนะครับ แต่เผื่อใจไว้หน่อยก็จะดี (f)

.

 

ตามล่าหาความจริง < ต่อ >



ประโยคบนหน้าจอข้างบน บวกกับคำบรรยายในวีดีโอเค้าบอกว่า NASA press release เดือน March 1992 ผมลองคนหาใน search ของ NASA ไม่พบ ประโยคนี้ หรือ เรื่องที่เกี่ยวกับการค้นหา planet x เลย



NASA - 1992 News Release

ผมมั่นใจ 100 % ว่าข้อมูลที่ Sitchin บอกข้างบน ได้รับมาจาก Dr. Robert Sutton Harrington ( หอดูดาว US นาวี ) ผู้ที่ค้นคว้าเกี่ยวกับ Planet x ในช่วง 1980 เป็นต้นมา และมีหลายครั้งในบทความของเขาได้พูดถึง ขนาด, ตำแหน่งและระยะห่างของ planet x ดังนั้นประโยคที่ Sitchin อ้างว่ามาจาก NASA จึงเป็นเรื่องโกหก ดังในข้อมูลข้างล่างเป็นต้น



.

 

ย้อนกลับไปดูข่าวในหนังสือพิมพ์ ช่วงปี 1983 กับ 1984 กันครับ







30 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก ...

.

 

ข้อสังเกตสำหรับท่านที่เชื่อเรื่อง planet x

บทนำ :

จุดเริ่มต้นของ planet x เกิดจากปรากฎการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ เกี่ยวกับวงโคจรของดาวยูเรนัสกับดาวเนปจูน ว่าทำไมถึงเบี่ยงเบนคลาดเคลื่อน เลยเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า น่าจะมีดาวอะไรสักดวงอยู่ถัดจากดาวเนปจูน Pickering และ Lowell เรียกมันว่า Planet X ต่อมา Dr. Van Flandern กับ Dr. Harrington แห่งหอดูดาวยูเอสนาวี ได้คำนวณขนาดและวงโคจรของ Planet X ว่ามีขนาดใหญ่ประมาณ 2-5 เท่าของโลก อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 5 พันล้านไมล์

ข้อสังเกต :

ถ้า Planet x มีจริง และถ้ามันกำลังเคลื่อนที่เข้ามาสู่ระบบสุริยะชั้นในจริง มันน่าจะส่งผลกระทบต่อวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงอื่นๆด้วย โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ชั้นนอกของระบบสุริยะ และดูเหมือนจะยังไม่มีการตรวจพบ deviation ในวงโคจรของดาวเคราะหฺเหล่านั้นเลย

.

 

12 วันที่ผ่านมา ดวงอาทิตย์ปลดปล่อยพลังงานมาทางโลกอยู่ในเกณฑ์ต่ำ





.

 

ข้างบนคือ ความเชื่อเริ่มแรกเกี่ยวกับ Planet x และความเชื่อยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อดาวเทียมติดกล้องอินฟราเรด ( IRAS ) ได้ถูกส่งขึ้นท้องฟ้าในปี 1983 เพื่อถ่ายภาพท้องฟ้าทั้งหมด ในจำนวน 8709 ภาพ มีอยู่ 9 ภาพที่น่าสนใจ เพราะไม่มีในแคตตาลอกดาว < เป็นธรรมดาครับ ภาพที่เห็นจากกล้องโทรทรรศน์ธรรมดา กับ กล้องอินฟราเรด ย่อมได้ภาพไม่เหมือนกัน เพราะคนละช่วงคลื่น > แต่หนังสือพิมพ์กลับเสนอข่าวอย่างเกลียวกราวว่า เจอ planet x แล้ว หลังจากนั้นเกือบปีที่ได้ตรวจสอบและยืนยันอย่างแน่ใจ ว่าจุดที่สงสัยในภาพทั้งหมดเป็นแสงจากกาแลคซี่ที่เรียกว่า extreme luminous ( Seyfert) Galaxy ซึ่งในยุคนั้นเป็นอะไรที่ยังใหม่มาก

เรื่องราวภาพถ่าย มันน่าจะจบไปแล้วตั้งแต่โน้น แต่ก็อีกนั่นแหละ ยังมีคนที่เชื่อและคิดว่ามันน่าจะมีดาวอะไรที่อยู่ถัดออกไปจากดาวเนปจูน และดาวพลูโต นั่นคือ Dr. Harrington (แห่งหอดูดาวยูเอสนาวี) บวกกับ Sitchin ที่มีความเชื่อเรื่อง Nibiru จากโบราณคดีของชาวสุเมเรียน และ Nancy (แห่ง Zeta+Poleshift.ning) โดยที่ 2 คนหลังเปรียบเสมือนผู้เผยแพร่ความเชื่อ Planet x / Nibiru ออกไปทั่วโลก โดยทาง หนังสือ วีดีโอ เวบไซต์ ฯลฯ

ยังมีจุดไหนที่ไม่เคลียร์อีกมั๊ยครับ ผมตามศึกษามาเยอะมากเลย จนแน่ใจ 100 % ว่า ทุกวันนี้ ในระบบสุริยะและรอบๆ ไม่มีวัตถุที่น่าสงสัย ที่มีขนาดใหญ่ และยังคาใจบรรดาเหล่านักดาราศาสตร์อยู่เลย คิดเอาง่ายๆว่า ดาวเคราะห์แคระพลูโต กับ ดวงจันทร์ชารอน เรายังมองเห็นมาตั้งแต่ปี 1930 ถ้ามีดาวอะไรที่ใหญ่กว่านั้น คงไม่สามารถรอดพ้นมาได้ตั้ง 30 ปีหรอก



.

 

เรื่อง The 12th Planet ของ Zecharia Sitchin ที่พูดถึงดาวดวงที่ 12 นั่นคือ NIBIRU โดยที่เขาเองน่าจะตีความหมายสับสนและผิดไป ระหว่างสัญญลักษณ์ของดวงกลุ่มดาว และ ดวงอาทิตย์ เพราะในสมัยนั้น(สุเมเรียน) มนุษย์รู้จักดาวเคราะห์เพียง 6 ดวงเอง












เรื่องที่ผมได้อ่านเป็นผลงานตีความหมายทางโบราณคดี ที่เค้าบอกว่า Sitchin เข้าใจและตีความหมายผิด และได้เก็บข้อมูลไว้ตั้งแต่กลางปี 2012 รอดูว่า สิ้นปี 2012 โลกจะแตกรึป่าว ยังดีครับ ที่รอดมาได้จนทุกวันนี้

.

 

CORONA HOLE มาอีกแล้วครับ







.

 

สถิติแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ M6.0 ขึ้นไป ในรอบ 7 เดือน ( ค่าเฉลี่ย 100 ปีอยู่ที่ 12.5 ครั้งต่อเดือน )

22/6 - 21/7 มีจำนวน 24 ครั้ง *********
22/7 - 21/8 มีจำนวน 10 ครั้ง
22/8 - 21/9 มีจำนวน 7 ครั้ง
22/9 - 21/10 มีจำนวน 10 ครั้ง
22/10 - 21/11 มีจำนวน 9 ครั้ง
22/11 - 21/12 มีจำนวน 9 ครั้ง

22/12 - 21/01 มีจำนวน 3 ครั้ง



.

 

ตรงประเทศไทยโล่งๆ ดีหรือไม่ดี อย่างไรบ้างคะ?

 

คำตอบอยู่ในโพสต์ข้างบนครับคุณ มะลิดำ

ผมไม่ได้เขียนขึ้นเองนะครับ เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาตร์เค้าเขียนไว้ คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่า ประเทศไทยเราก็มี Thaispaceweather.com และเราก็มี สถานีตรวจวัดนิวตรอน ( The Princess Sirindhorn neutron monitor ที่ Doi Inthanon ) ซึ่งเป็นความร่วมมือของ Mahidol University (Thailand), Chulalongkorn University (Thailand), Shinshu University (Japan), University of Delaware (United States of America) และสนับสนุนเครื่องไม้เครื่องมือโดย Iwate University (Japan)

.

 

พายุสุริยะ : ภัยธรรมชาติที่ไม่ใช่มหันตภัย

โดย ศ.ดร.เดวิด รูฟโฟโล ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล



อ่านได้ในลิงค์ข้างล่างครับ

http://www.thaispaceweather.com/news.html