มีคำทำนายภัยพิบัติ พระยาธรรมที่ท่านทั้งหลายคิดว่าเชื่อถือได้กันบ้างหรือเปล่า

เกรียน คือ ...พวกไม่รู้จักกาลเทศะ

กาลเทศะ คือ เป็นผู้รู้สมควรแก่กาล แปลง่ายๆ คือ ผู้รู้ว่าอะไรควรจะพูด อะไรควรจะทำ อะไรควรจะคิด ลำดับ โดยคิดถึงปัจจัยแวดล้อมสัมพันธ์และผลที่จะเกิด โดยพินิจพิจารณาก่อนว่าสมควรหรือเปล่า และ การกระทำใดใดจะไม่ละเมิด สิทธิ ความคิด เสรีภาพของบุคคลที่ร่วมสนทนา ทั้งที่อ้างถึงหรือไม่ได้ร่วมสนทนาด้วยก็ตาม เป็นไปด้วยมารยาทของผู้ดี

มารยาท คือ ผู้ที่มีการประพฤติกาย วาจา ใจ ตามกาลอันสมควร โดยคำนึงถึง วัย วรรณะ สถานะ
ฐานนันดร ขนบประเพณี เชื้อชาติภาษา และกฏระเบียบของกลุ่มชุมชนเป็นสำคัญ

ผู้ดี คือ ผู้คิดดี ผู้ทำความดี(ผู้ตระหนักในบาปบุญคุณโทษ ผู้มีศีลในความเชื่อและศาสนาอันดีอันเป้นจารีตที่ยอมรับ) ผู้ที่พูดดี ( ใช้ สมถะวาจาคือ วาจาอันเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดในขณะที่มีเหตุการณ์อันไปสู่ความแตกแยก วาจาอันสุภาพมีสัมมาคาราวะ ไม่เสียดสี ด่าทอ กระทบกระทั่ง หยาบคาย )

ปิยวาจา คือ สมถะวาจาเป็นพื้นฐาน วาจาอันไม่ล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องความเชื่อและความศรัทธาส่วนบุคคล ตักเตือนกันด้วยกุศลเจตนาเมื่อมีเหตุการสนทนาที่บิดเบือน ผิดเพี้ยน อันนำให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งศูนย์รวมแห่งความศรัทธาและความเชื่ออันดีงามที่มีมาแต่เก่าก่อน และเพื่อป้องกันไม่ให้ขยายความเชื่อที่ผิดพลาดนำไปสู่ผลลัพธ์ที่หายนะในอนาคต

สรุปว่า เกรียน คือ ผู้ไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่มีมารยาท ไม่รู้จัก สิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ผูกขาดทางความคิด ไม่รุ้จักยอมรับความเห็น ไม่เปิดใจ หรือ ใจพาลสันดานหยาบ นั้นเองขอรับกระผม

เกรียน เป็น สภาวะทางจิตอย่างหนึ่งที่เกิดจาก รากเหง้า ของ โทสะ โมหะ ราคะ เป็นสำคัญ

โทสะ คือ อารมณ์โกรธ ไม่พอใจ ไม่อยากได้ ไม่อยากเป็น อยากจะเอาชนะคะคานไม่ฟังเหตุผล
โมหะ คือ หลง ยึดติด อัตตา ตัวกูของกู เป็นศูนย์กลางความคิดของทุกสิ่ง น้ำล้นแก้ว
ราคะ คือ ความอยาก อยากสำคัญ อยากเด่น อยากดัง อยากยอดไลค์เยอะๆ อยากได้ อยากมี อยากเป็น ทั้งที่ทรัพยากรและสติปัญญาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย และเป็นไม่ได้

เกรียนอาจจะเกิดมาทุกภพทุกภูมิ ทุกชาติทุกประวัติศาสตร์มาแล้วก็ได้ครับ แต่ใช้สภาวะอารมณ์อันเป็นมูลเหตุมาจาก จิต ที่มี กิเลส โทสะ โมหะ ราคะ ผสมกลมกลืน
และมา ระบายโชว์ผลลัพธ์ ให้กับบุคคลรอบข้างไม่ว่า ทางกาย วาจา ใจ ทางคำพูด ทางข้อความ ทางกระทำ และนำความเดือดร้อนของเกรียนไปสู่สังคม บุคคลรอบข้างที่กระทบกระทั่ง ให้เสียประสาท สุขภาพจิตเสื่อม และเสียทรัพยากรในการ อบรมสั่งสอน ให้เข้าที่เข้าทาง เพราะ เกรียน จะสามารถชักจูงผู้คน ด้วย โมหะ อัตตา อีโก้ อะไรอีกร้อยแปดพันเก้า
เพื่อให้ คนที่สนับสนุนเกรียนนั้นทำลายบรรยากาศ มิตรภาพ ศาสนา ความเชื่อ ความสามัคคีหมู่คณะนั้นให้แตกแยกด้วยความเชื่ออันวิปลาสนั้นอย่างราบคาบ

เกรียน อาจจะเป็นสภาวะจิต ที่ดูไม่รุนแรงนัก และจะเสพสุขอย่างมากเมื่อ มีผู้มาโต้ตอบและ
ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะแค่เข้าไปดู หรือ เข้าไปตักเตือน หรือเข้าไปด่าก็ตาม
เกรียน จะเสพสุขอรรถรสตัญหาจากจำนวนคนสนใจ แม้เค้าจะด่ากันทั้งบ้านเมืองก็ตาม
เกรียนจะมีความรู้สึกว่าเป็น ฮีโร่ เป็นคนที่ใครๆต้องให้คุณค่า

เพราะในความเป็นจริงนั้น
เกรียน คือบุคคลที่ล้มเหลวในสภาพชีวิตไม่ว่าจะทางครอบครัว เรื่องส่วนตัว เรื่องงาน หรือทางธรรม ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง
เกรียน หาเรื่อง ระบายนั้นเอง คำถามของเกรียน จึงไม่ต้องการคำตอบหรอกครับ

คนรักกันจริงๆ อาจจะหยอกบ้าง แซวบ้าง ด่าอ้อมแอ้ม แต่จะไม่ทำลายน้ำใจกันครับ
จะไม่มีการเสียมารยาท ไม่มีการหยาบคาย (บ่งบอกการสั่งสอนอบรมมาแต่วัยเด็กเป็นพื้นฐาน)
รู้จักการเอาใจเขามาใส่ใจเรา มองสิ่งดีดีที่ทำให้กัน คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกครับ
เตือนแรงๆได้ ถ้าเขาหรือเธอ ยังไม่ถึง ขั้น มหาเกรียน คือสอนไม่ได้แบบนั้น ก็คงเลิกให้คะแนน
ให้คุณค่า เกรียน เอาเวลาไปทักทายเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ และหาความรู้เพิ่มเติมจะดีกว่า ถ้าการสนทนาในบอร์ดเต็มไปด้วย เกรียน .... นั่งสมาธิดีกว่าครับ หรือ ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ คนเดียวเงียบๆ จะรักษาจิตเราและอารมณ์ให้ผ่องใส ดีกว่า เอาจิตไปรับ เกรียน มาให้อารมณ์เราขุนมัวเปล่าๆ

กระผมคิดว่า ผักตบชวา ในแม่น้ำเจ้าพระยา มีค่ากว่าพวกเกรียน อีกขอรับ

 

ครับ ผมก็เกรียน ก็เลยเข้าใจ หรือย่างน้อยก็เคยเกรียนมามากกว่านี้แหละครับ ตอนนี้ขนาดว่าเบาแล้วแต่ก็ยังสร้างความไม่พอใจให้กับคนได้อยู่ เพราะผมมักจะพูดสิ่งที่ผมคิดออกมาตรง ๆ ซึ่งบางครั้ง แม้ว่าผมพูดความจริงเท่าไร ก็ไม่มีใครชอบ เพราะมันไม่เข้าหู แต่ให้ตายเถอะครับ ถ้าผมต้องอยู่ในภาพลวงตาอย่างมีความสุข ผมว่าผมยอมใช้ชีวิตแบบทุกข์ ๆ ในความเป็นจริงน่าจะดีกว่า เพราะภาพลวงตาไม่ได้ทำให้คนฉลาดขึ้นเลย
ผมเลยไม่ค่อยจะยอมเรื่องที่ผมเห็นว่ามันไม่จริงในความคิดผมเท่าไร ซึ่ง สาเหตุของความเกรียนของผมมักจะมาจากการไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมคิดว่ามันไม่จริงเป็นส่วนใหญ่

คนทั่วไปมักไม่ชอบเกรียน แต่อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนคนหนึ่งเกรียน พวกเขาไม่สนใจ ไม่ตระหนักถึง บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเลี้ยงลูกหลานให้กลายเป็นเกรียนอยู่ *0*

ไม่แปลกเลย ที่อนาคตจะเดินหน้าเข้าไปหาความมืดมน

 

คุณซือจุ้ ไม่เกรียนหรอกครับ
อย่าไปเหมาสิ ว่าการที่เราคิดต่างเขียนต่าง เราจะเกรียน นะครับ
เพราะเกรียน เค้าไม่รู้ตัวหรอกครับว่าคิดต่างไม่ต่าง เสพอัตตาอย่างเดียว
ไปอ่านที่ผมเขียนดีดีนะครับ
ตราบใดการแสดงความเห็นยังมีมารยาทกัน แซวกันได้อรรถรสการสนทนา ยอมรับและรับฟังผู้ร่วมสนทนา คิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ก็ไม่เกรียนหรอกครับ ฮา....อย่าคิดมาก

 

ครับ จิตของเราเองพิสูจน์เอง เชื่อเองครับคุณ.zalievan ไม่มีบุคคลมายืนยันได้ครับ นอกจากจิตของเราเองครับ ทำใจสบายๆได้เลยครับ ระบบฉลาดเกินกว่าที่มนุษย์จะหยั่งถึงเสมอ
ที่มนุษย์เตรียมการเพื่อพิสูจน์นั้น ไม่ได้เป็นไปตามใจของมนุษย์ครับ แต่เป็นไปตามที่ระบบได้จัดวางไว้แล้วครับ.

 

ผมเคยเกรียนครับ แต่ก็ไม่ได้มากเท่าเกรียนทั่วไป
คำว่าเกรียนนี่ผมก็ไม่ได้เกรียนในสายตาตัวเองหรอก แต่เกรียนในสายตาคนอื่นที่เขาไม่ชอบการทำตัวอย่างที่ผมเป็นครับ

เพราะผมไม่ใช่คนที่อยุ่ในสังคมแบบเขา เขาเลยไม่ชอบผม และมักเป็นคนเกรียนในสายตาพวกเขา ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเกรียนเลย ผมเลยมักเป็นคนไม่ดีในสายตาของคนที่ไม่เข้าใจ และส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเข้าใจผมซะด้วยสิครับ = = ไม่มี..

 

ผมและเพื่อนสมาชิกที่เป็นเพื่อนคุณซัลลี่ เป็นห่วงนะครับ

 

ดาราแฟร์ ก็เกรียน ในบางเวลาครับ คุณเทวิน.

 

ถ้าคุณซัลลี่ เข้าข่ายพจนานุกรม เกรียน ที่ผมเขียนไว้นะครับ
กระผมคงไม่มานั่ง ห่วงเป็นเพื่อนคุณตรงนี้หรอกนะ ^^
บ่นมาเถอะครับ จะเรื่องอะไรก็เขียนมา พระยาธรรมจะมา ดาวหางจะชนโลก
ค่ารถเมลล์จะขึ้น นายกจะมาจากการเลือกตั้ง เอ้ย ...

 

แหม ผมก็ห่วงคุณครับ คุณดาราแฟร์ อย่าน้อยใจไปครับค่อยๆต่อคิวครับ รู้สึกผมจะห่วงหลายท่านเหลือเกินแล้วสิ

 

โห....

เห็นไหมครับ มีคนเป็นห่วงเยอะแยะเลย ...แฮะ

 

ขอบคุณนะครับ ท่านเป็นอาจารย์ที่อธิบายได้เข้าใจดีมากครับผม

ผมรับชมอยู่ ใครอยากรู้ภาษาไทย ท่านมีลิงค์ใน ยูทูปครับ

 

*0*

ตอนนี้กระทู้มีความเคลื่อนไหวมากล่ะมั้งครับ คยเลยเข้ามาดูมาก

เกรียนอีกแบบหนึ่งที่ผมเคยเป็น
คือเจตนาสร้างความสนุก แต่กลับสนุกอยู่คนเดียวครับ

555


ระหว่างที่พิมพ์ไปนี่ แดดส่องมาโดนมือ
ทั้ง ๆ ที่ผมผิวคล้ำแต่ผลกลับแสบตาเพราะแสงที่สะท้อนมาจากมือ เพิ่งมาสังเกตุว่าตัวเองสามารถแสบตาเพราะมือของตัวเองได้ก็วันนี้แหละครับ

จะว่าตัวเองผิวผ่องก็ไม่ใช่นะ ออกจะดำ ๆ คล้ำ = =
แต่ผมผิวแปลกครับ เวลาออกแดด มันจะมีอะไรคล้าย ๆ พรายน้ำในผิวหนัง ทำให้มันสะท้อนแสงเป็นประกายเล็ก ๆ ยิบยับ ๆ ได้ ดูแล้วเหมือนคล้ายกำมะหยี่สีแทน ดูมีออร่า แต่เวลาเข้าร่มนี่ มืดตึ๊บเลยครับ

หรือแค่เบาหวานขึ้นตาก็ไม่รู้ 5555

 

เพราะรังสี หรือเปล่า ตอนนี้ ค่ารังสีจากแดดมากกว่าเก่าขอรับ

 

จุดดับบนดวงอาทิตย์ใหญ่จนน่ากลัว

 

น่าจะใช่มั้งครับ

 

สำหรับคนที่เห็นพระจันทร์ พระอาทิตย์ หรือหลอดไฟทรงกลด บ่อย ๆ แต่เมื่อถามคนข้าง ๆ แล้วคนข้าง ๆ ไม่เห็น แนะนำว่าไม่ควรคิดว่าเป็นปาฏิหารย์ใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองนะครับ

ให้รีบไปหาหมอเช็คความดันโดยด่วน
เพราะ สาเหตุที่เห็น อะไร ๆ ทรงกลด อาจมาจากความดันสูงเกินไป ทำให้เส้นเลือดฝอยในจอประสาทตาแตกครับ ไม่ก็จอประสาทตา หรือ อะไรสักอย่างในตาโป่งพอง ทำให้มองอะไรมัว ๆ เหมือนคนสายตาสั้นไป

 

ปะ ไปสยามกันครับ วัยรุ่น ....


แหม...กระผมอยาก 16 อีกครั้งพาเธอ อายุ 14 วุ้ย...ไปกินขนมปังหน้านม ที่ Mikyways และก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ ตามด้วยฟังเพลง ที่Tower Records เดินเล่นต่อ
ที่ Loft ^^

 

ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับคุณเทวิน.
ดาราแฟร์ ไม่ได้น้อยใจครับ ยินดีและดีใจที่มีเพื่อน-มีพี่- อย่างคุณเทวินครับ
อย่าลืมดูแลตนเองด้วยครับ ด้วยรักอย่างจริงใจและจริงจัง ในพรหมวิหาร 4 ของดาราแฟร์ที่มีต่อคุณเทวินครับ
อาการป่วยกายของคุณเทวินดีขึ้นมากหรือยังครับ.

 

ครับท่าน "0"ครับ
จริงครับ พระรัตนตรัย ประเสริฐที่สุดครับ
ดาราแฟร์ก็ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งในจิตตนเสมอ เหมือนกันกับท่าน "0"ครับ
ในส่วนของ บุคคลที่มนุษย์โลกเฝ้ารอพบกับท่านนั้น.ดาราแฟร์ คิดว่า คือของแถมมาครับ..
ความคิดเห็นของท่าน "0" ประเสริฐสุดแล้วครับท่าน.