((พระเครื่อง-พระบูชา-รวมเหรียญ-มงคล พระเกจิทั่วไทยเก่า-ใหม่ ราคามิตรภาพ ทุกจังหวัด-ลิงค์หน้าแรก))

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย namayti, 4 มกราคม 2016.

  1. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 387 ตะกรุดชุดใหญ่"ยุคแรก"ลป.เจียม อติสโย เทพเจ้าแห่งวัดอินทราสุการาม(วัดหนองยาว)จ.สุรินทร์ พร้อมเหรียญ ปี 30 เนื้อทองแดงรมดำ ไม่ผ่านใช้ เสียดาย ชุดพระแก้วมรกต ไม่อยู่เสียแล้วครับ แบ่งราคาตามสภาพ เบาๆสุดกว่าเว็ปเพื่อนบ้าน แน่นอน ขอที่ 2,550.-ฟรีส่ง EMS (พี่นอกเว็ป)
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    มาพร้อมกับเหรียญสวยๆปี 2530 ประสบการณ์ไม่ต้องบรรยายครับผม ออกสื่อมวลชนทุกแขนง แรงไม่มีวันหยุด
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    รับประกันแท้...ตลอดชีพคร้าบ
    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]
    ประวัติและปฏิปทา
    หลวงปู่เจียม อติสโย


    วัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว)
    ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์


    ๏ ชาติภูมิ

    “พระครูอุดมวรเวท” หรือ “หลวงปู่เจียม อติสโย” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสุรินทร์ เป็นพระที่มีศีลาจารวัตรดีงาม ไม่บกพร่องเสื่อมเสีย ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด กอปรด้วยวิทยาคม มีลูกศิษย์ลูกหามากมายให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก

    หลวงปู่เจียม มีนามเดิมว่า เจียม นวนสวัสดิ์ (เดือมดำ) เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2454 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 2 ปีกุน สายเลือดกัมพูชา ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านดองรุน ต.ประเตียเนียง อ.มงคลบุรี จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ท่านเป็นบุตรคนโต


    ๏ การศึกษาเบื้องต้น

    ในเยาว์วัย เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนประชาบาล อ.มงคลบุรี จ.พระตะบอง ศึกษาภาษาเขมรและภาษาฝรั่งเศส ตามหลักสูตรที่รัฐบาลกัมพูชากำหนดไว้

    เมื่อเรียนจบในระดับชั้นประถมศึกษา ได้สอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนในจังหวัดพระตะบอง แต่เรียนได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น มีเหตุให้ต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน อีกทั้งได้รับผลกระทบจากสภาวะสงครามภายในประเทศ เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว ได้ประกอบอาชีพทำนาและค้าขาย เช่น ค้าข้าว ค้าวัว รวมทั้งเป็นช่างไม้ เป็นต้น ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น ครั้นเมื่ออายุ 26 ปี ท่านได้สมรสกับหญิงสาวในหมู่บ้านเดียวกัน มีบุตรธิดารวมทั้งหมด 4 คน

    เนื่องจากขณะนั้นประเทศกัมพูชาตกอยู่ภายใต้การยึดครองของประเทศฝรั่งเศส ท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความรักชาติรักแผ่นดิน ต้องการให้ประเทศชาติบ้านเมืองเป็นเอกราช จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มชาวเขมรที่รักชาติ จัดตั้งกองกำลังเขมรเสรีเพื่อกอบกู้ประเทศชาติ โดยสู้รบกับทหารฝรั่งเศสอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และต่อมากองกำลังเขมรเสรีถูกปราบปรามอย่างหนัก จนต้องหลบหนีเข้ามายังเขตประเทศไทย โดยหวังว่าจะรวมตัวกันกลับเข้าไปต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชอีกครั้งหนึ่ง

    พ.ศ.2485 จึงตัดสินใจอพยพครอบครัว มุ่งหน้าเข้าสู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ โดยเดินทางมากับพระสงฆ์ชาวเขมรชื่อ พระครูดี ใช้วิธีเดินทางรอนแรมมาเรื่อยๆ ค่ำไหนก็พักนอนที่นั่น แล้วออกตระเวนรับจ้างชาวบ้านในพื้นที่อำเภอสังขะ เพื่อหาเลี้ยงชีพไปตามอัตภาพ ในที่สุดได้แวะพักที่วัดทักษิณวารี (วัดทักษิณวารีสิริสุข) บ้านลำดวน ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ พร้อมทั้งได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งท่านได้ประพฤติปฏิบัติตนรับใช้หลวงพ่อวางอย่างดียิ่ง จนทำให้บรรดาโยมอุปัฏฐากของหลวงพ่อวาง เกิดความรักความศรัทธา จึงขอเป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้ ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 47 ปี


    ๏ การอุปสมบท

    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ณ พัทธสีมาวัดทักษิณวารี ต.ลำดวน อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ โดยมี หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเรืองวิทยาคม เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “อติสโย” แปลว่า ผู้ประเสริฐยิ่ง

    ๏ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวาง-หลวงพ่อเปราะ

    หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านสมัครใจอยู่จำพรรษา ณ วัดทักษิณวารี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติธรรม ฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน เรียนภาษาไทย และอุปัฏฐากปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต พระอุปัชฌาย์ จนเป็นที่ยอมรับไว้เนื้อเชื่อใจ พร้อมกับฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อวาง ธัมมโชโต เพื่อขอรับการถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ อาทิ การเสกน้ำมนต์ เขียนแผ่นทอง เป็นต้น

    รวมทั้ง ในแต่ละพรรษา หลวงปู่เจียมได้มีโอกาสแวะเวียนไปนมัสการ หลวงพ่อเปราะ พุทธโชติ วัดสุวรรณรัตนโพธิวนาราม อ.ลำดวน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่ง เพื่อปรนนิบัติรับใช้และได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอรับถ่ายทอดวิทยาคม อาทิ การเขียนอักขระลงแผ่นทอง ทำตะกรุด วิชาเสริมสิริมงคล ฯลฯ ให้อย่างครบถ้วน เพื่อคอยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ชาวบ้านในถิ่นจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีผู้เจ็บป่วยด้วยวิชาไสยศาสตร์มนต์ดำเป็นจำนวนมาก

    นอกจากนี้แล้ว ท่านยังวนเวียนออกเดินธุดงค์ ปลีกวิเวก ไปตามถ้ำและป่าเขาลำเนาไพรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และชายแดนประเทศลาว โดยยึดป่าเขาเป็นสถานศึกษา ได้พบกับพระอาจารย์หลายท่านในระหว่างเดินธุดงค์ ได้สนทนาธรรมและเรียนรู้วิธีการปฏิบัติสมาธิภาวนาจากพระอาจารย์เหล่านั้น เป็นเวลายาวนานถึง 13 ปี แล้วกลับมาเข้าพรรษาที่วัดทักษิณวารี


    ๏ สร้างวัดอินทราสุการาม (วัดหนองยาว)

    ภายหลังกลับจากเดินธุดงค์ปลีกวิเวกแล้ว เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2513 กลุ่มคณะศรัทธาญาติโยมชาวบ้านหนองยาง ได้มานิมนต์หลวงปู่เจียมให้ไปสร้างวัดในเขตพื้นที่บ้านหนองยาว ถ.โชคชัย-เดชอุดม ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยตอนแรกตั้งเป็นเพียงสำนักสงฆ์ ด้วยการสร้างกุฏิเล็กๆ สำหรับการปฏิบัติธรรม หลวงปู่เจียมจึงได้มาอยู่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ตลอดมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ต่อมาสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวัดตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ นามว่า “วัดอินทราสุการาม”

    ขณะเดียวกัน ท่านก็เพียรอุทิศตนเผยแผ่พระพุทธศาสนา คอยเทศน์อบรมบรรยายธรรมให้แก่คณะศรัทธาญาติโยมและชาวบ้าน หมั่นให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติธรรม


    ๏ การสร้างวัตถุมงคล

    ต่อมา หลวงปู่เจียมได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นครั้งแรก เป็น “ตะกรุดโทน” ลักษณะม้วนแผ่นทองสอดสายยางร้อยกับสายร่ม และผูกห้อยพระแก้วมรกตและเหรียญรูปเหมือน เป็นต้น

    ปรากฏว่าผู้ที่มีวัตถุมงคลหลวงปู่เจียมไว้ในครอบครอง มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์นานัปการ ทำให้มีฝูงชนแห่แหนไปร่วมทำบุญกันอย่างเนื่องแน่น โดยมีชาวบ้านบางส่วนนิยมนำยานพาหนะส่วนตัว ตลอดทั้งรถยนต์โดยสารในท้องถิ่นสุรินทร์ หรือต่างจังหวัด ผูกห้อยตะกรูดโทนของหลวงปู่เจียม เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ขณะเดียวกัน ในแต่ละวันจะมีฝูงชนทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลไปกราบขอให้หลวงปู่เจียม เสริมสิริมงคล ถอดถอนคุณไสย ด้วยการอาบน้ำมนต์

    นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ไปกราบนมัสการขอให้เขียนตะกรุดโทนแขวนคอ ลงเหล็กจารในแผ่นทองกับมือของท่าน เพื่อสวมใส่เป็นขวัญกำลังใจ ในการออกไปรับใช้ชาติในต่างแดน อาทิ เวียดนาม ลาว และเขมร จนได้รับการกล่าวขานเลื่องลือระบือไกล ด้วยพุทธคุณเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดภยันตราย

    พ.ศ.2515 หลวงปู่เจียมอนุญาตให้คณะศิษยานุศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลกริ่งรูปเหมือน รุ่น 1 จำนวน 7,000 องค์ เหรียญรูปเหมือน รุ่น 1 จำนวน 7,000 เหรียญ พร้อมตะกรุดแขวนคอชุดใหญ่ จำนวน 7,000 เส้น

    พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมหลวงปู่เจียม ที่วัดอินทราสุการาม เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อสนทนาธรรม ในโอกาสนี้ หลวงปู่เจียมได้ทูลเกล้าฯ ถวายวัตถุมงคลพระกริ่งรูปเหมือน รุ่นรับเสด็จ ตะกรุด เป็นที่ระลึกด้วย

    พ.ศ.2546 หลวงปู่เจียมอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคล รุ่นมูลนิธิอติสโย เป็นวัตถุมงคลหล่อโบราณรูปเหมือน (เททองในวัดอินทราสุการาม)

    สรุปรวมวัตถุมงคล ทั้งวัดจัดสร้าง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนจัดสร้าง รวมทั้งสิ้นประมาณ 50 รุ่น ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมปัจจัยนำไปสร้างถาวรวัตถุมากมายและจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม
    [​IMG]
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ
    ทรงเข้ากราบมนัสการหลวงปู่เจียม อติสโย


    ๏ สมณศักดิ์ที่ได้รับ

    พ.ศ.2527 หลวงปู่เจียมได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ “พระครูอุดมวรเวท”

    ๏ พระนักพัฒนา

    นอกจากมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา ได้ช่วยสร้างวัดที่อำเภอบัวเชด จ.สุรินทร์ 2 แห่ง สร้างสถานีอนามัยที่บ้านหนองยาว มอบครุภัณฑ์ให้โรงพยาบาลสุรินทร์ สร้างศาลาประชาคม 61 แห่ง รวมทั้งสาธารณประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

    ๏ การมรณภาพ

    ย่างเข้าสู่วัยชรา หลวงปู่เจียมเริ่มมีอาการเหน็ดเหนื่อย สายตาพร่ามัว ประสาทหูฟังไม่ค่อยชัด คณะศิษยานุศิษย์ได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ ครั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาล หลวงปู่เจียมก็ยังต้องรับกิจนิมนต์จากชาวบ้านญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธา เพื่อคอยปัดเป่าทุกข์บำรุงสุขไม่เว้นแต่ละวัน บ้างต้องไปนั่งประพรมน้ำมนต์ เป่ากระหม่อมให้ลูกศิษย์ลูกหาสม่ำเสมอ

    กระทั่งเมื่อเวลา 16.59 นาฬิกา ของวันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ.2549 คณะศิษยานุศิษย์วัดอินทราสุการาม ได้ตีระฆังรัวกลองเป็นชุด เพื่อแจ้งเหตุว่า บัดนี้ชาวเมืองสุรินทร์ได้สูญเสียปูชนียสงฆ์รูปสำคัญ คือ หลวงปู่เจียมได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคไตวาย ภายในกุฏิวัดอินทราสุการาม หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการอาพาธจากโรคไตมาเป็นเวลานาน ประกอบกับวัยที่ชราภาพมาก สิริอายุรวม 96 พรรษา 47 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่เคารพนับถือเป็นยิ่งนัก

    คณะสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ รวมไปถึงชาวบ้านได้นำร่างหลวงปู่บรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งไว้ ณ ศาลาการเปรียญวัดอินทราสุการาม เพื่อให้ประชาชนกราบไหว้รำลึกถึงคุณงามความดี สำหรับกำหนดการเบื้องต้นจะมีการบรรจุศพหลวงปู่เจียมที่วัดอินทราสุการาม เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้บรรดาพุทธศาสนิกชนได้ร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกัน
    .............................................................
    [​IMG] คัดลอกเนื้อหามาจาก ::
    1. หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด
    วันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5764
    2. หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก คอลัมน์ พระเครื่อง คม ชัด ลึก
    ฉบับวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2549

    .....................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2016
  2. seaown

    seaown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +984
    โอนให้แล้วครับ 3 รายการล่าสุด 750 บาท ค่าส่ง 50 บาท รวมเป็นเงิน 800 บาท ขอบคุณครับผม
    แต่น่าจะโอนเกินไป 400(รายการ383) บาทนะครับผม 5555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2016
  3. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 388 พระผง"พระพุทธนราวันตบพิธ"พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระพุทธรูปยืนยกพระหัตถ์ทั้งสองปางห้ามสมุทร เนื้อผง ขนาดสูง 3.2 เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมายุ 72 พรรษา เนื้อพระประกอบด้วยมวลสารจากสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและปรินิพพานในเนปาลและอินเดีย และจากวัดสำคัญและเก่าแก่หลายแห่งในประเทศศรีลังกา จีนและญี่ปุ่น รวมทั้งมวลสารจากสถานที่ศักดิ์และวัดสำคัญๆทั่วประเทศ ผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ที่เคารพทั่วพระราชอาณาจักร มีมาแบ่งปันในราคามิตรภาพ ตรวจสอบราคาได้ทุกเว็ปแรงๆ กว่ากันเยอะ ขอที่ 1,250.-ฟรีส่ง EMS (นอกเว็ปเหมาแล้วครับ)
    [​IMG]
    ใหม่แกะกล่อง ไม่ผ่านใช้ รับประกันแท้ทุกวัน
    [​IMG]
    ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระ เจริญพระชนมายุ 72 พรรษา เมื่อปีพุทธศักราช 2542 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธ พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้พสกนิกรได้สักการะบูชา โดยนำรายได้ทูลเกล้าฯถวายสนับสนุนมูลนิธิชัยพัฒนา พระพิมพ์พระพุทธนราวันตบพิธเป็นพระพุทธรูปยืนยกพระหัตถ์ทั้งสองปางห้ามสมุทร เนื้อผง ขนาดสูง 3.2 เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมายุ 72 พรรษา เนื้อพระประกอบด้วยมวลสารจากสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและปรินิพพานในเนปาลและอินเดีย และจากวัดสำคัญและเก่าแก่หลายแห่งในประเทศศรีลังกา จีนและญี่ปุ่น รวมทั้งมวลสารจากสถานที่ศักดิ์และวัดสำคัญๆทั่วประเทศ ผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ที่เคารพทั่วพระราชอาณาจักร

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก

    พระอีกรุ่นที่ พิธีดี มวลสารดี อนาคตดีแน่นอน และที่สำคัญ ได้สิ่งอันเป็นมงคลอย่างสูง (เส้นพระเกศา) มาเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง และทุกคนในบ้าน จนบางท่านพูดไว้ว่า ใช้พระรุ่นนี้เปรียบเสมือนได้ใกล้ชิดองค์ในหลวง

    ตอนนี้ราคาเริ่มขยับแรงขึ้นทุกวัน...ตรวจสอบราคาทุกเว็ปได้เล้ยครับพี่น้อง...HOT แรงๆ

    ที่สำคัญยิ่งก็คือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ พระราชทานเส้นพระเกศา ( เส้นผม ) พระจีวร และมวลสาระองค์( ผงจิตรลดา )โดยพระราชทานผ่านสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชอัญเชิญมาผสมอยู่ใน เนื้อพระพุทธนราวันตบพิธนี้ด้วย.....และในบางองค์ก็เคยพบเส้นพระเกศาถึง 3 เส้นก็มี ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะพบมากน้อยแค่ไหน
    ข้อความจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ครับ


    พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ได้มีไว้เป็น สายใยกับพระองค์ท่าน เพราะมีมวลสารสำคัญ คือเส้นพระเจ้า (พระเกศา) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในมวลสารพระด้วย
    ในวาระอันเป็นมิ่งมงคลสมัยอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา ปี 2542 ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนราวันตบพิธขึ้น เนื่องจากพระองค์ทรงทราบว่า สมเด็จจิตรดาที่ทรงสร้างด้วยพระองค์เอง มีผู้ต้องการและเสาะแสวงหากันมาก เมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมจึงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างพระสำหรับ พสกนิกรผู้จงรักภักดีของพระองค์ท่าน โดยให้เป็นพระที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จเจ้าอยู่หัวที่ใครๆ ก็สามารถบูชาได้
    เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเมื่อปี พ.ศ.2499 ที่วัดบวรนิเวศวิหาร และเสด็จมาประทับ ณ พระปั้นหยา วัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงสถาปนาพระพุทธปฏิมาประจำพระองค์ไว้ในพระบวรพระพุทธศาสนา
    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้ถวายพระนามพระพุทธปฏิมานี้ว่า "พระพุทธนราวันตบพิธ" ได้เชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระปั้นหยาเป็นพระราชกุศลสืบไป
    องค์พระพุทธนราวันตบพิธ เป็นพระยืนยกพระหัตถ์ทั้งสอง ปางห้ามสมุทร อันเป็นพระประจำพระชนมวาร คือ วันจันทร์ ประทับยืนบนฐานกลมบัวคว่ำบัวหงายบนตั่งแข้งสิงห์เหนือหน้ากระดาน และมีฐานภัทรบิฐ สัญลักษณ์ประจำพระองค์รองอีกชั้นหนึ่ง ความสูงถึงสุดพระรัศมี 36.5 เซนติเมตร ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์พระและฐาน
    คณะกรรมการจัดสร้างขณะนั้น คือ พลอากาศตรีกำธน สินธวานนท์ องค์มนตรี เป็นประธานกรรมการอำนวยการ และนายวัลลภ เจียรวนนท์ กรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นกรรมการดำเนินงาน เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระ ชนมพรรษา 72 พรรษา และเพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา เมื่อนำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพิมพ์เป็นพระเนื้อผง จากต้นแบบพระพุทธนราวันตบพิธพระพุทธรูปฉลองพระองค์
    ประการสำคัญที่สุดได้พระราชทานมวลสารส่วนพระองค์ โดยเฉพาะเส้นพระเจ้า (เส้นพระเกศาของพระองค์) ให้นำมาผสมในเนื้อพระ เพื่อให้พสกนิกรได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ตลอดไป
    พระเนื้อผงที่จัดสร้างเป็นพระประทับยืนยกพระหัตถ์สองข้างบนพื้นที่ทำเป็นรูป ซุ้มโค้งแหลม สูง 3.2 เซนติเมตร ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา
    เนื้อหามวลสาร นอกจากเส้นพระเจ้าและมวลสารส่วนพระองค์แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังพระราชทานมวลสารมหามงคลอีกประการหนึ่งคือ พระจีวรที่องค์ครองคราวเสด็จออกผนวชเมื่อปี พ.ศ.2499 นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้รวบรวมมวลสารจากพระธาตุสำคัญทุกปีเกิด จากวัดสำคัญ 143 วัดทั่วประเทศ สถานที่สำคัญอันได้แก่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ในอินเดียและศรีลังกา นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ได้ทรงพระราชทานมวลสารพุทธมงคลสำคัญมาร่วมสร้างพระพิมพ์พระพุทธนราวันตบ พิธ อีกจำนวนมาก
    สำหรับการผสมมวลสารมหามงคลพระราชทานนั้น อาจารย์อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ซึ่งเป็นนายช่างแห่งกองช่างสิบหมู่ กรมศิลปกร ได้นำมวลสารมหามงคลทั้ง 3 ประการ มาซอยและย่อยให้เป็นผงละเอียดยิบ เพื่อจะได้ผสมมวลสารอย่างอื่นอย่างทั่วถึง เพราะฉะนั้นประชาชนทุกท่านมีสิทธิ์ได้รับมวลสารมหามงคลอย่างถ้วนทั่วกัน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีมหาพุทธาภิเศก เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2542 โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงมอบให้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานเจริญพระพุทธมนต์และจุดเทียนชัย มีพระเถระและพระคณาจารย์ รวม 72 รูปทั่วประเทศ อาทิ
    สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพตหนองคาย หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน เลย หลวงพ่อพวง สุวีโร วัดป่าปูลู สกลนคร หลวงพ่อบุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น หลวงปู่หงส์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี สุรินทร์ หลวงพ่อม่วง วัดยางงาม ราชบุรี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว พระนครศรีอยุธยา ฯลฯ
    พระพุทธนาราวันตบพิตร อนุสรณ์ในหลวงทรงผนวช


    พระพุทธรูปซึ่งไม่ได้รับการเรียกขานว่า "พระพุทธรูปทรงผนวช" เหมือนเช่น "เหรียญทรงผนวช" แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับพระราชพิธีทรงพระผนวชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ พระพุทธนาราวันตบพิตร

    [​IMG]

    พระพุทธนาราวันตบพิตร เป็นพระพุทธรูปศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางห้ามสมุทร ประดิษฐานบนฐานรูปกลีบบัวคว่ำบัวหงาย ซึ่งประดับอยู่เหนือฐานสิงห์ทรงกลม ฐานส่วนล่างสุดเป็นฐานปัทม์แปดเหลี่ยม จารึกประวัติการสร้างไว้ที่ท้องไม้ เนื้อพระพุทธรูปและฐานทั้งสามชั้นทำด้วยโลหะผสมทอง สูงจากพระรัศมีถึงพระบาท 15.5 นิ้ว ฐานกลีบบัวและฐานสิงห์สูงรวม 4 นิ้ว ฐานปัทม์สูง 3.5 นิ้ว

    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างตามพระราชประเพณีซึ่งเริ่มมาแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 คือ โปรดให้สร้างพระพุทธรูปเป็นพุทธบูชาเพื่อเป็นอนุสรณ์ในการที่ได้ทรงผนวชในพระพุทธศาสนา ดังนั้น ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวชเป็นพระภิกษุระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 เมื่อทรงลาผนวชแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ ให้ประติมากรของกรมศิลปากรปั้นหุ่นและหล่อพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อพระพุทธรูปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ณ พระที่นั่งราชฤดี ในพระบรมมหาราชวัง และโปรดให้จารึกที่ส่วนท้องไม้ของฐานชั้นล่างว่า

    "พระพุทธนาราวันตบพิตร ศุภมัสดุ พระพุทธศาสนากาลล่วงแล้ว ๒๔๙๙ พรรษา วันที่ ๒๒ ตุลาคมมาส พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชศรัทธาในพระบวรพระพุทธศาสนา ได้เสด็จออกทรงผนวชเป็พระภิกษุ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเสด็จมาประทับบำเพ็ญสมณปฏิบัติ ณ พระปั้นหยาวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ทรงสถาปนาพระพุทธปฏิมาพระองค์นี้ขึ้นไว้ในพระบวรพุทธศาสนา เมื่อ ณ วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ได้ถวายพระนามว่า พระพุทธนาราวันตบพิตร เชิญขึ้นประดิษฐานไว้ ณ พระปั้นหยาเป็นพระราชกุศลสืบไป"

    พระพุทธนาราวันตบพิตรประดิษฐานอยู่ที่พระตำหนักปั้นหย่า จนถึง พ.ศ.2507 ได้หายไป ทางวัดฯ ได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท แต่ต่อมาด้วยเดชะพระบารมีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระพุทธนาราวันตบพิตรได้กลับมาสู่วัดบวรนิเวศวิหารดังปาฏิหาริย์ กล่าวคือ ในคืนวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ได้มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งนำห่อของสองห่อมาฝากพระภิกษุในวัด ขอให้ถวายเจ้าอาวาส เมื่อเจ้าอาวาสแก้ห่อออกมา ปรากฏว่าเป็นพระพุทธนาราวันตบพิตรและฐานที่หายไป จึงเป็นที่ยินดีและเป็นที่ประหลาดใจของวัดและผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั่วกัน ฉะนั้น ทางวัดจึงได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตฉลองพระพุทธนาราวันตบพิตร ในคราวเดียวกับการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507

    ปี พ.ศ. 2542 ในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระพุทธนาราวันตบพิตร ให้พสกนิกรได้สักการะบูชา เพื่อนำรายได้สมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    พระพุทธนาราวันตบพิตรที่จัดสร้างขึ้นนี้ เป็นพระเนื้อผง ขนาดสูง 3.2 เซนติเมตร เนื้อพระประกอบด้วยมวลสารจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และปรินิพพาน ในประเทศเนปาลและอินเดีย และจากวัดสำคัญและเก่าแก่หลายแห่งในประเทศศรีลังกา จีน และญี่ปุ่น รวมทั้งมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ ผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ที่เคารพบูชาทั่วพระราชอาณาจักร ที่สำคัญยิ่งคือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯ พระราชทานเส้นพระเจ้า (เส้นผม) พระจีวร และมวลสารส่วนพระองค์ (ผงจิตรลดา) โดยพระราชทานผ่านสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อัญเชิญมาผสมอยู่ในเนื้อพระพุทธนาราวันตบพิตรนี้ด้วย

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก


    อ้างอิง พระพุทธรูปสำคัญ กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
    ขอขอบคุณ krusiam.com ที่เอื้อเฟื้อภาพเป็นวิทยาทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2016
  4. vingo

    vingo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +661
    บล็อกหน้าใหญ่ 1 เหรียญครับ
     
  5. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รับทราบการจองครับ..ขอบคุณมากครับ
     
  6. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 389 <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:DoNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <w:DontVertAlignCellWithSp/> <w:DontBreakConstrainedForcedTables/> <w:DontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]-->พระพิมพ์"สมเด็จพระพุทธเจ้าในวิหาร พิมพ์ใหญ่" สภาพสวย เป็นพระเนื้อผงเก่าสมเด็จวัดระฆัง+มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมายส่องแล้วจะเจอจ้า และผงวิเศษจากของหลวงพ่อเอง..ส่วนพุทธคุณนั้นครบทุกด้านทุกทางเพราะหลวงพ่อท่านเสกไว้ให้ครบ..พระสมเด็จพระพุทธเจ้าในวิหารเนื้อมวลสารแบบนี้หายากเป็นที่สุดใครมีไว้ครอบครองถือว่ามีบุญมากเพราะพิมพ์นี้หลวงพ่อสร้างน้อย แกะพิมพ์แรกๆซึ่งยังไม่คมชัดสวยงาม ไม่มีหน้ามีตา จีวร เหมือนยุคผงน้ำมันที่สร้างในยุคต่อมา มีบันทึกถึงยุคการสร้างว่าราว ปี 2500-2510 พร้อมสมเด็จแหวกม่าน เพราะมีการลงรักทอง ซึ่งในยุคหลังๆไม่มี ทั้งมวลสารก็เปลี่ยนตามยุคสมัย และสันนิษฐานว่าพิมพ์หลังๆนี่จะสร้างพร้อมกันกับพิมพ์ปรกโพธิ์เก้าใบ ที่เห็นกันเยอะมากขึ้นในปัจจุบัน น่าเก็บครับ มรดกของท่านที่หายากมากขึ้นทุกวัน <!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true" DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99" LatentStyleCount="267"> <w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false" UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/> <w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin-top:0cm; mso-para-margin-right:0cm; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0cm; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;} </style> <![endif]--> ขอที่ 950.-ฟรีส่ง EMS (พี่นอกเว็ป)
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    สร้างยุคแรกครับ ปี 2500-2510
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  7. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 390 พระผงชานหมาก"พิมพ์นางพญา"ปี 2500-2516 หายากที่สุด รับประกันแท้ตามกฏ ลป.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย ท่านเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีพลังจิตแก่กล้าระดับแนวหน้าในกลุ่มลูกศิษย์อาทิ ลป.อ่อน ลป.ขาว ลป.เทสก์ ลป.ฝั้น ลป.จูม ฯลฯ เสียดาย ท่านละสังขารไปเร็วเกินไป ลูกชายนายพลจากคนละฝากแม่น้ำโขง เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา เอามาให้หลวงปู่จันทร์ เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้น จับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี 2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน บอกได้เลยว่า ไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ มงคลชุดนี้ได้มานานมากจากหลวงลุง เมื่อครั้งผมทำงานอยู่ อ.นายูง และมีโอกาสไปกราบหลวงลุงที่ บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ในปี 2538 หายากสภาพสวยๆแบบนี้ ขอที่ 450.-ฟรีส่ง EMS (Pkongja)
    [​IMG][​IMG]
    ศักดิ์ศรีรุ่นแรก ปี 2500 หาไม่เจอแล้วครับ ณ ตอนนี้ คนสมัยก่อนจะนิยมเก็บสะสม มงคลที่เป็น พระเนื้อผง-ว่าน-ดิน เสียเป็นส่วนมาก เพราะบางทีมีโอกาสวาระสำคัญๆก็สามารถทำกันทันที พระเณร ชาวบ้านต่างช่วยกัน แป๊ปๆก็เสร็จ หลวงปู่ปลุกเสกให้พร้อมเสร็จ ค่อยแจกกันในวันบุญต่างๆ จะหาเหรียญยากครับ เพราะใช้ทุนสูง และหาคนประสานดำเนินการยาก...ซึ่งเหรียญรุ่นแรกของท่านก็พึงมาสร้างในปี 17 หลังจากที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศในยุคสมัยนั้นครับ
    [​IMG][​IMG]

    มีผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง เรื่องฉายาของท่านในหมู่พระกรรมฐานด้วยกัน คือ จันทร์ เหล็กไหล คู่กับ พวง เหล็กไหล บ้านปูลู นิทานในวงน้ำร้อนภาคบ่าย เรื่องเหล็กไหล มีพระในวงน้ำร้อนด้วยกัน บอกหลวงปู่พวงว่า ได้ข่าวว่า คนที่ตลาดหนองบัว ไปพบเหล็กไหลก้อนใหญ่มาก แต่ไม่มีความรู้ ความสามารถที่จะไปตัดเอามาได้
    หลวงปู่พวง ท่านสนใจมาก จึงถามว่า โยมคนนั้นอยู่ที่ไหน และ เหล็กไหลที่ว่านั้นอยู่ที่ใด พระองค์นั้นตอบว่า เจ็ดโมงเข้าทุกวัน จะมีเหล็กไหล ไหลมาตามรางรถไฟ ที่ตลาดหนองบัว อ.เมือง อุดรธานี ถ้าสนใจ จะติดต่อให้ แค่นั้นแหละ น้ำร้อนที๋ซดอยู่พุ่งออกทางจมูกเลย ก็ รถไฟไทยไง ครับ เหล็กทั้งแท่ง ไหลเป็นเวลาด้วย
    [​IMG]

    ประมวลภาพบางส่วนของหลวงปู่ท่านครับ

    [​IMG]

    แถวหน้า จากซ้าย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี,
    พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล),
    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ


    แถวหลัง จากซ้าย : หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ,
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน,
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    [​IMG]

    หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
    กำลังฉันภัตตาหารร่วมกับ
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    [​IMG]

    ครูบาอาจารย์พระป่ากรรมฐาน สานุศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    แถวหลัง : หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ขาว อนาลโย,
    พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล),
    หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


    แถวกลาง :
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต, หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ

    แถวหน้า : หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร

    บันทึกภาพร่วมกัน ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
    วัดโพธิสมภรณ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี


    [​IMG]

    นั่งบนพื้น : พระตั๋น รุวรรณศร

    แถวนั่งเก้าอี้ จากซ้าย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ขาว อนาลโย,
    พระธรรมเจดีย์ (หลวงปู่จูม พันธุโล),
    หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ


    แถวยืนหลังสุด จากซ้าย : หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ, พระศรีรัตนวิมล,
    พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต),
    พระครูบริหารคณานุกิจ (หลวงปู่บุญมี ปวโร) วัดทุ่งสว่าง จ.หนองคาย,
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน,
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    บันทึกภาพเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๐๓
    ในงานอุปสมบทของพระตั๋น รุวรรณศร


    [​IMG]

    จากซ้าย : หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ, หลวงปู่คำ ยสกุลปุตฺโต,
    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่กู่ ธัมมทินฺโน,

    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต, องค์สุดท้ายไม่ทราบนามฉายา

    [​IMG]

    พระเถรานุเถระศิษยานุศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
    บันทึกภาพร่วมกันในงานผูกพัทธสีมาอุโบสถ วัดอโศการาม
    บ้านนาแม่ขาว ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
    เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๐๓
    ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีกุน


    แถวนั่ง จากซ้าย : หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต, หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน,
    หลวงปู่อ่อนสี ฐานวโร, หลวงปู่แว่น ธนปาโล, หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร,
    พระเทพวรคุณ (หลวงพ่ออ่ำ ภทฺราวุโธ), ท่านพ่อลี ธมฺมธโร,
    พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่แดง ธมฺมรกฺขิโต),

    พระปลัดศรี (วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี) และ
    หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    แถวกลาง จากซ้าย : พระอาจารย์ไสว, หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ,
    พระอาจารย์สวด, พระครูพรหมวิหาร, พระอาจารย์เม้า ธมฺมุตฺตโม,
    พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร), พระมหาสมจิตร จิตฺตวโร,
    พระครูญาณวิศิษฏ์ (ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก), หลวงปู่ถวิล จิณฺณธมฺโม,
    พระอาจารย์บุญมี ปัญญาปทีโป และพระครูสัน (วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี)

    แถวหลัง จากซ้าย : พระครูธงชัย (วัดพุทธมงคลนิมิต จ.นครสวรรค์),
    หลวงปู่ฟัก สนฺติธมฺโม, พระอาจารย์ปทุม (วัดหนองบัว),
    พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม และพระใบฎีกา (ตุ๋ย)


    หมายเหตุ... ในงานฉลองกึ่งพุทธกาล ๒๕ พุทธศตวรรษ
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ยังไม่มีอุโบสถ
    ดังนั้น พระภิกษุสงฆ์ที่เข้าพิธีอุปสมบทในครั้งนั้น
    จึงได้อุปสมบทกันภายในเรือที่ลอยอยู่ในน้ำ โดยใช้เรือเป็นสิมน้ำ

    วัดจันทราราม
    บ้านร่องเม็ก ต.โพธิ์ชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

    [​IMG]
    ประตูด้านหน้าวัด

    [​IMG]

    [​IMG]
    เจดีย์พิพิธภัณฑ์บริขารหลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  8. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 391 พระผงชานหมาก"พิมพ์นางพญา"ปี 2500-2516 หายากที่สุด รับประกันแท้ตามกฏ ลป.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย ท่านเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีพลังจิตแก่กล้าระดับแนวหน้าในกลุ่มลูกศิษย์อาทิ ลป.อ่อน ลป.ขาว ลป.เทสก์ ลป.ฝั้น ลป.จูม ฯลฯ เสียดาย ท่านละสังขารไปเร็วเกินไป ลูกชายนายพลจากคนละฝากแม่น้ำโขง เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา เอามาให้หลวงปู่จันทร์ เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้น จับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี 2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน บอกได้เลยว่า ไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ มงคลชุดนี้ได้มานานมากจากหลวงลุง เมื่อครั้งผมทำงานอยู่ อ.นายูง และมีโอกาสไปกราบหลวงลุงที่ บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ในปี 2538 องค์นี้หย่อนสวยนิดๆ ขอที่ 400.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG][​IMG]
    ของดีราคาเบา..เชิญคร้าบบบ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2016
  9. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 392 พระผงว่าน-แร่เพชรหน้าทั่ง-เหล็กไหล"พิมพ์ชินราช"ปี 2500-2516 หายากที่สุด รับประกันแท้ตามกฏ ลป.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย ท่านเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีพลังจิตแก่กล้าระดับแนวหน้าในกลุ่มลูกศิษย์อาทิ ลป.อ่อน ลป.ขาว ลป.เทสก์ ลป.ฝั้น ลป.จูม ฯลฯ เสียดาย ท่านละสังขารไปเร็วเกินไป ลูกชายนายพลจากคนละฝากแม่น้ำโขง เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา เอามาให้หลวงปู่จันทร์ เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้น จับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี 2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน บอกได้เลยว่า ไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ มงคลชุดนี้ได้มานานมากจากหลวงลุง เมื่อครั้งผมทำงานอยู่ อ.นายูง และมีโอกาสไปกราบหลวงลุงที่ บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ในปี 2538 องค์นี้หย่อนสวยนิดๆ ขอที่ 400.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    โรย-ฝังแร่เพชรหน้าทั่ง-เหล็กไหล...เพิ่มพลังสุดเข้มขลัง...ที่หลวงปู่ท่านมีดำริให้นำมาฝัง-โรยลงไป...ที่เด็ดแน่นอน
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2016
  10. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 393 พระผงว่าน-แร่เพชรหน้าทั่ง-เหล็กไหล"พิมพ์ชินราช"ปี 2500-2516 หายากที่สุด รับประกันแท้ตามกฏ ลป.จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราราม จ.หนองคาย ท่านเป็นพระสายวิปัสนากรรมฐาน ในองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีพลังจิตแก่กล้าระดับแนวหน้าในกลุ่มลูกศิษย์อาทิ ลป.อ่อน ลป.ขาว ลป.เทสก์ ลป.ฝั้น ลป.จูม ฯลฯ เสียดาย ท่านละสังขารไปเร็วเกินไป ลูกชายนายพลจากคนละฝากแม่น้ำโขง เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เศษกระจกทิ่มเข้าที่ดวงตา เอามาให้หลวงปู่จันทร์ เพ่งกระแสจิตให้ไม่ถึงครึ่งนาที เศษกระจกละลายกลายเป็นน้ำตาไหลออกมา ตกที่พื้น จับตัวเป็นก้อนกลม โดยไม่ต้องผ่าตัด นี่คือ พลังศรัทธาที่ทำให้วัดจันทรารามที่เคยเป็นวัดเล็กๆ เกือบจะเรียกว่า วัดร้าง ได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานกันของชาวจังหวัดหนองคาย ในช่วงประมาณปี 2516 สายธารแห่งศรัทธาหลั่งไหลเข้าสู่วัดท่าน บอกได้เลยว่า ไม่สามารถจะหาคำพูดใดมาบรรยายได้ มงคลชุดนี้ได้มานานมากจากหลวงลุง เมื่อครั้งผมทำงานอยู่ อ.นายูง และมีโอกาสไปกราบหลวงลุงที่ บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ในปี 2538 องค์นี้หย่อนสวยนิดๆ ขอที่ 400.-ฟรีส่ง EMS (Pkongja)
    [​IMG][​IMG]
    โรย-ฝังแร่เพชรหน้าทั่ง-เหล็กไหล...เพิ่มพลังสุดเข้มขลัง...ที่หลวงปู่ท่านมีดำริให้นำมาฝัง-โรยลงไป...ที่เด็ดแน่นอน
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  11. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รายการที่ 394 พระขุนแผนพรายกุมาร ลป.ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ จ.ระยอง ปี 15 สายพันธ์ุอนุรักษ์ กำลัง HOT แรง เนื้อข้าวเหนียวสุก โทนแดงสบู่เลือด ปูนกินหมาก สภาพสวยมาก รับประกันแท้ทุกวัน ไม่แพงอย่างที่คิด ขอที่ X,XXX.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG][​IMG]

    หลังตะกรุดคู่สาริกา...งดงามสวยแท้สบายใจ..ปี 15 มาแรงทุกพื้นที่...ถูกใจสอบถามครับ...สายพันธุ์อนุรักษ์ [​IMG]
    ชอบองค์ไหน..แบ่งได้ทุกองค์ครับ
    [​IMG]
     
  12. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 395 พระขุนแผนพรายกุมาร ลป.ทิม อิสริโก วัดระหารไร่ จ.ระยอง ปี 15 สายพันธ์ุอนุรักษ์ กำลัง HOT แรง เนื้อข้าวเหนียวสุก โทนเขียว เถาวัลย์หลง สภาพสวยมาก รับประกันแท้ทุกวัน ไม่แพงอย่างที่คิด ขอที่ X,XXX.-ฟรีส่ง EMS (เจ้าของนิมนต์ไปแล้ว)
    [​IMG][​IMG]

    หลังตะกรุดคู่สาริกา...งดงามสวยแท้สบายใจ..ปี 15 มาแรงทุกพื้นที่...ถูกใจสอบถามครับ...สายพันธุ์อนุรักษ์ [​IMG]
    ชอบองค์ไหน..แบ่งได้ทุกองค์ครับ
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  13. PKongja

    PKongja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +238
    ขอจองบูชา
    1. รายการที่ 390 พระผงชานหมาก"พิมพ์นางพญา"ปี 2500-2516
    2. รายการที่ 393 พระผงว่าน-แร่เพชรหน้าทั่ง-เหล็กไหล"พิมพ์ชินราช"ปี 2500-2516

    ขอบพระคุณมากๆครับ
     
  14. PKongja

    PKongja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +238
    ขอจองบูชาเพิ่มเติมดังนี้ครับ
    1. รายการที่ 381 พระผงยา"สาลิกาคู่"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร
    2. รายการที่ 385 เหรียญคู่มหามงคล 56"รุ่นเจ้าสัวเรียกทรัพย์"และ"รุ่นเจริญนกยูงทอง"ลพ.เจริญ ฐานยุตโต
    ขอบพระคุณครับ
     
  15. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    กลับมาแล้ววว....ขอบพระคุณมากครับ...รับทราบการจองทุกรายการครับ...ขอให้รวยๆๆๆ
     
  16. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 396 พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ สภาพสวย รับประกันแท้ตามกฏ เก้คืนเงินเติมทุกสตางค์ ด่วนครับราคาแบ่งปัน ระดมทุนครับ ขอที่ X,XXX.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG]
    สวยเนื้อแห้งเก่าได้ใจ
    [​IMG]
    รอยยุบรอยย่น...ประกวดได้ครับองค์นี้
    [​IMG]
    มาพร้อมรับรองพระแท้ครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2017
  17. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 397 เหรียญ"90 ปี"ลต.มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นครับ เนื้อทองแดง ปี 2546 เก็บๆอย่าให้หลุดมือ ขอที่ 550.-ฟรีส่ง EMS (พี่นอกเว็ป)
    [​IMG][​IMG]
    ไม่มีมาง่ายๆแล้วคร้าบรุ่นนี้...ขอบอก
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2016
  18. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รายการที่ 398 เหรียญ"เลื่อนสมณศักดิ์-ฉลองพัดยศ"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร เนื้อทองแดง ปี 2558 ออกใหม่แต่แรงๆ HOT หายากมากครับ ขอที่ 250.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG][​IMG]
    สภาพสวยไม่ผ่านใช้ครับ
    [​IMG]
    อจินไตย!!!
    สัมผัสหัวใจและจิตวิญญาณของคุรุ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต
    พระผู้ทรงจิตตานุภาพเจโตปริญญาณ
    วัดป่าคูณคำวิปัสสนา บ้านกลาง ต.กุดไห อ.กุดบาก จ.สกลนคร

    [​IMG]
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สำเร็จอภิญญาสายโลกอุดร

    ...พริกน่ะมันไม่ได้เผ็ดที่คนทำ หรือคนกินแต่มันเผ็ดในตัวของมันเอง พระราชากินก็เผ็ด ขอทานกินก็เผ็ด ใครกินก็เผ็ด เพราะ ฉะนั้นคุณงามความดีของแต่ละบุคคลก็เหมือนกันไม่จำเป็นต้องให้ใครมา ประกาศว่าเราดี เราก็ดี(ถ้ามันดีจริง) ไม่จำเป็นต้องโฆษณาสรรพคุณตัวเองว่าดี มันก็ดี(ถ้าตัวเราดีจริง) เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าทำดีแล้วก็ให้มันดีเหมือนพริกขี้หนู ไม่ใช่อวดอ้างว่าเป็นพริกแต่พอมีคนมาลองกินถึงได้รู้ว่าพริกหยวกไม่ใช่พริก ขี้หนู….

    ..สาเหตุอะไรทำไมหลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต ผู้สืบธรรมแห่งอีสานของสยามประเทศเป็นถึงระดับครูบาอาจารย์แท้ๆ กลับชอบทำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังมาแจกมากกว่าสอนคนเลยนึกสบประมาทพลาด พลั้งท่าน ท่านจึงหันมากล่าวกับเรา(ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เอ่ยออกมา) ว่าน้อยเรานะทำอยู่ 2 อย่าง คือ 1.วัตถุธาตุ 2.คือวัตถุธรรม คนเราทุกวันนี้เข้าวัดมาทำบุญไม่ได้มุ่งหวังความหลุดพ้นแต่มุ่งที่จะได้รับ วัตถุ มาขอแต่เครื่องรางของขลัง ขอโชคขอลาภเราก็เลยทำวัตถุธาตุมาให้เพราะจะได้ไม่ต้องพูดมากเพราะคนพวกนี้ ไม่ค่อยจะเอาธรรมะ พอ มีใครเข้ามาขอของดีเราก็โยนให้เขาจะได้ไม่เสียเวลาได้แล้วเขาก็จะได้กลับ กันไปไม่เหนื่อย แต่ส่วนที่ 2 คือวัตถุธรรมมันไม่ค่อยมีคนมาขอ 100 คน มาขอสัก 2 คนเห็นจะได้ เราก็เลยเน้นทำวัตถุมงคลให้คนแต่อย่าเหมาว่าเราไม่ให้ธรรม เพราะเราบอกทุกคนเสมอว่าอยากดีก็ทำเอา อยากชั่วก็ทำเอา

    ..คำสอนที่ หลวงปู่ขาว ได้สอน พระอาจารย์โต้ง เจ้าอาวาสวัดศิลามงคล อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

    1.เป็นพระต้องขยันสวดมนต์-เจริญภาวนาคืองานหลัก
    2.ให้ ถือ"สัจจะ" เป็นที่ตั้ง ให้พูดจริง(ท่านไม่ชอบคนโกหก) เพราะถ้าเรามีสัจจะ พูดจริง เวลาสร้างวัตถุมงคลหรือเสกวัตถุมงคลจะเกิดแต่สิ่งที่ดีๆ ผู้ที่ได้นำไปใช้ก็จะได้แต่สิ่งที่ดีๆ
    3.ให้มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพครูบาอาจารย์
    4.อย่าสร้างความลำบากให้กับคนอื่น

    ธรรมะเหล่านี้เป็นธรรมบริสุทธิ์ของที่แสดงจากจิตด้วยความเคารพในคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของ...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต วัดคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ผู้มีสัมผัสในธรรมของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 50 ปีที่ผ่านมาเรื่องราวของหลวงปู่เทพโลกอุดร นั้นได้รับการกล่าวถึงมากมายจากผู้ที่มีประสบการณ์โดยตรงและทั้งการบอกเล่าปากต่อปาก สู่การบันทึกเก็บข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้อย่างมากมาย และมีการจดบันทึกไว้ของผู้รู้และมีประสบการณ์จริงที่ได้มีบุญบารมีสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และเรื่องราวที่หลวงปู่ขาวได้เล่าสู่คณะลูกศิษย์ได้รับทราบข้อเท็จจริงใน เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดรหรือที่ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของ ท่านคือพระอุตตระเถระ ผู้เป็นศิษย์โดยตรงของท่านพระมหากัสสปะเถระ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเลิศทางธุดงควัตร เรื่องราวที่ถูกเปิดเผยจากปากหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต ถึงความสัมพันธ์และการได้รับความเมตตาอบรมจากท่านหลวงปู่เทพโลกอุดร ในเรื่องราวต่างๆนั้นมีมากมายแต่สิ่งเหล่านี้บางอย่างบางเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นกับชีวิตจริงของหลวงปู่ขาว ก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันให้เป็นประจักษ์ ทั้งการเข้าไปพบถ้ำลับแล การเหาะหายตัวไปจากแผ่นดินราบจนไปปรากฏตัวที่ภูเขาควายประเทศลาวสิ่งที่ไม่ เคยรู้ไม่เคยเห็นก็มีเพียงหลักฐานสถานที่ที่มีอยู่จริงสามารถตรวจสอบได้ แต่เรื่องราวต่างๆรวมทั้งการหาพยานหลักฐานทางรูปธรรมเกี่ยวกับตัวตนรูปร่าง ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่จะนำมาให้ผู้คนสัมผัสจับต้องได้นั้นเป็นสิ่งที่สุดวิสัยที่หลวงปู่ขาว จะหาหลักฐานมายืนยันได้ ...สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านยืนยันนอนยันด้วยจิตในธรรม.. สำหรับหลวงปู่ขาว นั้นท่านจะมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการมีอยู่จริงของหลวงปู่เทพโลกอุดร คือเส้นเกสาของหลวงปู่เทพโลกอุดรที่ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยตรงและสิ่งที่จะแสดงยืนยันถึงคุณธรรม ส่วนตัวของหลวงปู่ขาวได้ดีคือเส้นเกสาของท่าน นั้นจับกันเป็นก้อนอย่างเด่นชัดและบางส่วนแปรสภาพเป็นพระธาตุให้เป็นที่ ประจักษ์ยืนยันตลอดจนเมตตาบารมีที่เป็นที่ประจักษ์ปรากฏแก่ผู้คนทั่วทั้ง แผ่นดินประเทศลาวและแถบอำเภอพระธาตุพนมที่มีผู้ได้พบเห็นเมตตาบารมีจากท่าน แสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นที่ประจักษ์นับครั้งไม่ถ้วน....

    หลวง ปู่ขาว ท่านให้โอวาทเสมอว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกมันตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์ ( ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีตัวตน ) คือเมื่อมีขึ้นแล้วก็เสื่อมได้ สลายไปไม่มีตัวตนในที่สุด ไม่มีอะไรอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก สิ่งต่างๆมีอายุการใช้งานเหมือนกับอายุของสัตว์นี่แหละ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือค้างโลก สร้างอีกก็เสื่อมสลายอีก จะว่าอะไรแม้แต่ผู้ประดิษฐ์คิดค้นเอง สุดท้ายมันก็ต้องตายเป็นเถ้าเหมือนกัน ส่วนแนวปฏิบัติกรรมฐานนั้น หลวงปู่ขาวจะชอบพูดว่า พุทโธตัวเดียวอย่างเดียว อย่าทิ้งองค์กรรมฐาน เพราจิตจะตกลงสู่ภวังค์ ( อารมณ์ต่างๆ ) เมื่อเราบริกรรมพุทโธจะเปรียบเหมือนกับเราทำให้อารมณ์ต่างๆเกิดขึ้นช้าลง หรือห่างออกจากเดิม ที่เกิดขึ้นเร็วจนบางครั้งตามแทบไม่ทัน ถึงแม้เราจะไม่สามารถทำจิตให้อยู่ในอารมณ์เดียวได้ ( เป็นหนึ่งอยู่คำบริกรรม ) และแม้ผู้นั้นจะเรียนรู้ธรรมะจากรู้อุบายภาวนามาก ศึกษาจากครูบาฯมามาก แต่ถ้าผู้นั้นไม่สามารถหาอุบายวิธีที่จะทำให้จิตของตนเองสงบจากอารมณ์ต่างๆ ได้แล้ว ธรรมะที่รู้มาก็ไม่มีประโยชน์ ปัญญาที่แท้ จริงไม่มีวันรู้ได้ เพราะอารมณ์ต่างๆมันจะปรุงแต่งให้จิตฟุ้งซ่าน เลื่อนลอย ไม่มีวันหยุดสงบลงได้ เรียกว่า สติยังปัญญายังอ่อน อันมีสาเหตุเนื่องมาจาก….

    1.วาสนา บารมี กระทำบำเพ็ญในอดีตยังน้อย ( พละหรืออินทรีย์ ๕ ยังอ่อน )
    2.ความเพียรพยายามในปัจจุบันไม่มีกำลัง คือไม่ค่อยทำหรือทำไม่ต่อเนื่อง
    3.ลังเลสงสัยในองค์กรรมฐาน ( คำภาวนา ) ที่ตนเองใช้
    4.ไม่เชื่อมั่นศรัทธา ไม่มั่นคงในตัวครูบาอาจารย์ที่ตนเองศึกษาอยู่
    5.ปฏิบัติผิดทางหรือปฏิบัติอยู่กับอาจารย์กรรมฐานที่ไม่รู้จริง ( ไม่มีภูมิรู้ )
    6.รู้เกินครูบาอาจารย์ อันเนื่องจากเรียนมามาก ศึกษาหลายอาจารย์จนสับสนแนวปฏิบัติและชอบอวดรู้ มีทิฐิมานะ การถือตนสูงไม่ยอมรับคำสอนของผู้อื่น

    ..นี่ คือ...อุปสรรคเกี่ยวกับการปฏิบัติที่หลวงปู่ขาวสอนเสมอ ท่านว่า.. คนที่ว่าตนเองรู้ ตนเองฉลาดแล้ว คนนั้นคือ คนโง่ที่สุด คนที่มีนิสัยถ่อมตน ไม่ถือตัว ไม่อวดความรู้ที่ตนเองมี คนนั้นคือ นักปราชญ์ผู้รู้จริง และผู้นั้นจะมีความรู้จากบุคคลต่างๆ สิ่งต่างๆอีกมาก การภาวนานั้นให้เอาปัจจุบัน พากเพียรเอาปัจจุบันเป็นหลัก อีกทั้งต้องเชื่อในกรรมว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญต้องหาครูบาฯที่รู้จริงในแนวทางปฏิบัติ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องภายใน และยิ่งปฏิบัติชั้นสูงขึ้นแล้ว ยิ่งต้องได้ครูบาฯที่รู้จริงอย่างถ่องแท้ เพราะไม่อย่างนั้นอาจนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิดและหลงยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด ครุบาฯที่ท่านมีภูมิจจิตที่แท้นั้น ท่านจะผ่านการปฏิบัติอุบายต่างๆมามาก และรู้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรปล่อย สิ่งใดควรปฏิบัติและถูกไม่ถูก…

    ..พระพุทธองค์ทรงสอนให้รู้จักว่าอันไหนบุญอันไหนบาป สิ่งใดควรทำสิ่งใดควรละเว้น ไม่ให้ทำ บุญกุศลนั้น เมื่อผู้ใดได้กระทำแล้วผู้นั้นย่อมได้รับความสุขร่มเย็น ไม่ตกต่ำ มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง แม้ขณะที่ทำหรือหลังจากที่ได้ทำไปแล้วผู้ทำยังไม่ได้รับผลก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นเอาไว้เลยว่า วันข้างหน้าตัวของเราจะต้องได้รับผลแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ตกหล่นสูญหายไปไหน
    เช่นเดียวกันกับ บาปกรรม ความชั่วที่ทำเอาไว้ วันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องได้รับผลกรรมแน่นอนยากที่จะหลีกหนีพ้น เพราะอำนาจของกรรมนั้นมีมากที่สุดในบรรดาอำนาจทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ควบคุมบัญชาการทั้งคนแลสัตว์บนโลก รวมทั้ง สาม โลก คือ มนุษย์ เทวดา นรก ไม่มีใครอยู่เหนืออำนาจกรรมไปได้

    สำหรับอำนาจการปกครองของกรรมนั้นไม่มีศาสนา ภาษา ไม่มีการแบ่งแยกเหมือนอย่างที่มนุษย์ในโลกทำกัน เวลาให้ผลก็ตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุด ไม่เอนเอียงเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใด หรือกลุ่มคณะใดก็ไม่มีการยกเว้น กรรมเมื่อถึงเวลาที่จะรับผล ไม่มีคำว่าผ่อนผันหรือผลัดวันประกันพรุ่ง เวลานั้นต้องได้รับผลทันที….

    ..ดัง นั้นเราผู้ที่มีความศรัทธาและมีความเชื่อมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ควรพึงระวังตั้งจิตของตนเองให้ดี เป็นอัปปมาทธรรม คือ มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท

    สำหรับตัวหลวงปู่ขาวเอง นั้น ไม่ว่าผู้ใดคนใดที่ได้มากระทำกรรม หรือทำอะไรต่างๆให้ ท่านไม่ถือ และไม่มีหน้าที่ต้องถือ เพราะการถือมันทำให้หนัก ทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ารู้จักวาง มันก็เบา ท่านไม่มีหน้าที่ให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หน้าที่ของท่านมีเพียงอย่างเดียวก็คือ ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สร้างคุณงามความดีให้มากที่สุด จนกว่าชีวิตจะแตกดับไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ เพราะชีวิตเป็นของน้อย ความตายเลือกให้เป็นดั่งใจไม่ได้ว่า เราจะตายอายุเท่านั้นอายุเท่านี้ เวลานั้นเวลานี้ ตายในสถานที่แห่งนั้นแห่งนี้ จึงอย่าไปด้านประมาทนิ่งนอนใจ พยายามสร้างคุณงามความดีและบุญกุศลเอาไว้ให้มากที่สุด ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อมีโอกาสอย่าประมาท แม้ว่าจะเป็นกุศลเล็กน้อยๆ เพราะน้อย ถ้าเราทำบ่อยๆ วันข้างหน้าก็มากขึ้นเอง ขอเพียงแต่อย่าท้อถอยและอ่อนแอ ให้มั่นคงหนักแน่น อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ ทำจิตให้เหมือนสัตบุรุษทั้งหลาย

    กล่าวกันว่า...หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต เจ้า อาวาส วัดป่าคูณคำวิปัสสนา อ.กุดบาก จ.สกลนคร ซึ่งเป็นสายวิปัสสนา นอกจากนี้ครั้งหนึ่งในอดีตหลายภพหลายชาติ ท่านก็คือ พระยาเกรียงไกรซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ที่สร้างพระธาตุพนม หลักฐานข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเป็นกษัตริย์นั้นยังมีปรากฏให้เห็นอยู่…ท่าน มีความเกี่ยวข้องอันใดกับหลวงปู่เทพโลกอุดรพระอรหันต์ผู้ซึ่งได้ปวารณาตัว ดูแลพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่เพื่อส่งมอบให้กับพระพุทธศาสดาองค์ต่อไป คือพระศรีอาริยเมตไตรก็ขอให้ท่านได้สัมผัสได้ด้วยใจตนเอง..

    แม้นว่า..ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ..ศรัทธาชาวพุทธต่างสั่นคลอนเป็นอย่างมากเรื่องราวมากหลาย ถูกจัดฉาก แสดงโดยผู้จิตขุ่นมัวเป็น ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังถ้าท่านใดไม่รู้ตัว ไม่ระวัง ก็ยังไม่เป็นไรมากเพราะยังมีกลุ่มผู้มีบุญบารมีต่างๆ คอยอุ้มชู ช่วยเหลือกันไว้มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสติปัญญา ตามกำลัง ตามบุญวาสนาบารมีของตนแต่เรายังโชคดีที่มี พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้ดำรงสมาธิจิตด้วยขันติ วิริยะ จิตตะ ในเอกัตคตารมณ์ มีสติรอบรู้ เป็นหนึ่งเมื่อแผ่พละธรรมความศรัทธาให้แก่หมู่ชนโดยทั่วไป หรือเจาะจงย่อมเกิดพลานุภาพ สังฆานุภาพ ปรากฎเป็นรูปธรรม แก่ผู้ปรารถนาโดยอัศจรรย์... โดยมีหลักการที่จะสร้างจิตให้เกิดฤทธิ์ได้คือ การสร้างพลังงานของจิตให้มีอานุภาพ สามารถทำให้เกิดสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้ สภาวะทั้งหลายทั้งปวงของธาตุ 4 ขันธ์5 เป็นรูปธรรม ซึ่ง เป็นแหล่งทำให้เกิดพลังงานทางจิต พลังงานของธาตุต่างๆที่หนุนเสริม เป็นการสร้างพลังงานของจิตให้สู่สภาวะของความมีอิทธิฤทธิ์ปรากฏผลสำเร็จ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2016
  19. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    รายการที่ 399 พระผงยา"สาลิกาคู่"ลป.ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสนา จ.สกลนคร รุ่นแรกยุคแรก ท่านสร้างเอง กดมือไปบริกรรมไป ทีละองค์ เพื่อแจกลูกศิษย์ลูกหา ที่มาบริจาคปัจจัยในการช่วยสร้างศาสนสถานภายในวัด ในโอกาสงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเกือบทั้งหมด หลวงปู่จะมีดำริให้สร้างเอง รวมทั้งตะกรุด พระทรงอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อตะกั่ว-ปรอทเพชร เป็นส่วนมาก แม้จะไม่สวย แต่ก็มากด้วยคุณค่า ทรงพลังและพุทธคุณที่ไม่ธรรมดา พระชุดนี้หลวงปู่นำมวลสารผงวิเศษ+ผงยาจินดามณี+ว่าน+ชานหมาก มาใช้ในการสร้าง บางองค์มีเกศา มีแร่ศักดิ์สิทธิจากแม่น้ำโขง สีสรรก็แตกต่างกันออกไป โภคทรัพย์สุดๆ ลูกศิษย์หลายคนบอก ใชักันคุณไสย์ ไล่ผีไล่ปลอบก็ได้ ทางฝั่ง สปป.ลาว เห็นไม่ได้ครับพระผงชุดนี้ ถามขอบูชาหมด เพราะฝั่งโน้น เขาเคารพศรัทธาให้เป็นพระสังฆราชของทางฝั่งลาวเลยทีเดียว แนะนำให้เก็บๆนะครับ สร้างน้อยจริงๆ และพุทธคุณแรงมั๊กมาก ขอที่ 250.-ฟรีส่ง EMS
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    หลวงปู่ท่านให้ความเมตตาต่อลูกศิษย์ลูกหา ทั่วไป นิมนต์ท่านที่ไหน ท่านไปทุกที่ทั่วไทยเหมือนกัน แม่ร่างกายจะเริ่มมีอาการไม่สู้ดีในบางเวลาท่านก็เคยปฏืเสธสักครั้งเดี่ยว
    [​IMG][​IMG]
    บรรยายกาศ..บ้านหลังนี้ที่ถูกภูตผีปิศาจ สิ่งชั่วร้าย ที่มาสิ่งสู่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน ลป.ท่านได้มาเมตตาปลดปล่อยดวงวิญญาณ ให้ไปผุดไปเกิด...ปัจจุบันอยู่อาศัย ร่มเย็น สุขสบาย แถมได้รับโชคก้อนใหญ่ด้วยจ้า
     
  20. namayti

    namayti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    17,435
    ค่าพลัง:
    +4,932
    ปิดรายการที่ 400 ล็อกเก็ต"เมตตาคุณนัง"ลต.อภิชาตบุตร(ลป.สุมา สฺจวโร)วัดป่าดอนนาวศรีสามัคคีธรรม อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พระอริยสงฆ์ ผู้มีธรรมอันบริสุทธิ์ มีวัตรปฏิบัติปฏิปทางดงามยิ่ง ศิษย์พระสร้างถวาย ผ้าป่า'59 อธิษฐานสำเร็จทันใจ ขอที่ 150.-ฟรีส่ง EMS (พี่นอกเว็ป)
    [​IMG][​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...