ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    ห้าปีจากวันที่ "บิลล์ เกตส์" รับปริญญา
    คอลัมน์ ระดมสมอง โดย ไสว บุญมา
    นสพ.ประชาชาติธุรกิจ

    วันที่ 09 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4121


    ช่วงนี้เป็นวาระครบรอบสองปีที่ บิลล์ เกตส์ รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตอนอายุเกือบ 52 ปี ปริญญาเป็นชนิดกิตติมศักดิ์เนื่องจากเขาทิ้งฮาร์วาร์ดไปก่อนเรียนจบตั้งแต่เมื่ออายุ 19 ปี ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะไป ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ในวันรับปริญญา เขาแสดงปาฐกถาแก่ผู้จบการศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารและแขกของมหาวิทยาลัย ในฐานะศิษย์เก่าที่เรียนไม่จบแต่ประสบความสำเร็จสูงยิ่ง หนังสือพิมพ์นี้นำคำแปลของปาฐกถามาลงพิมพ์ในฉบับประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2550 (หากต้องการอ่านแต่ไม่สามารถหาหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นได้ อาจส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปขอต้นฉบับจาก ดร.ไสวได้ที่ sboonma@msn.com)



    บิลล์ เกตส์ สารภาพว่า เขาทิ้งฮาร์วาร์ดไปโดยไม่ตระหนักแม้แต่น้อยเกี่ยวกับเรื่องความไม่ทัดเทียมกันอันแสนโหดร้ายที่มีอยู่ในโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านสินทรัพย์ ด้านสุขภาพ หรือด้านโอกาส การขาดสิ่งเหล่านั้นสาปทั้งชาวอเมริกันและชาวโลกให้ตกอยู่ในบ่วงกรรมไปตลอดชีวิต เวลาผ่านไปหลายทศวรรษกว่าเขาจะเรียนรู้ว่า เด็กนับล้านคนในประเทศยากจนต้องล้มตายด้วยโรคร้ายซึ่งถูกกำจัดไปจนสิ้นซากจากอเมริกาแล้ว เด็กเหล่านั้นจะไม่ตายหากพ่อแม่มีเงินจ่ายค่ายาเพียงไม่ถึงหนึ่งดอลลาร์เท่านั้น ภาคเอกชนไม่ใส่ใจเพราะระบบตลาดเสรีอันมีกำไรเป็นตัวขับเคลื่อนขาดแรงจูงใจที่จะ ผลิตยาให้คนจน รัฐบาลก็ไม่เหลียวแลเพราะพ่อแม่ของเด็กไร้ซึ่งพลังทางการเมือง



    บิลล์ เกตส์ กล่าวว่า ศาสตร์อันก้าวหน้าซึ่งค้นพบในมหาวิทยาลัยจะปราศจากความหมาย หากมันไม่ถูกนำไปใช้ลดความไม่ทัดเทียมกันดังกล่าว ผู้ฟังในที่นั้นล้วนมีพรสวรรค์ มีปัญญา มีเงิน มีโอกาส และมีอภิสิทธิ์ แต่ชีวิตจะไร้ความหมาย หากไม่ใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อการช่วย แก้ปัญหาอันแสนหนักหนาสาหัสของโลก เขาท้าทายให้บัณฑิตใหม่ซึ่งรู้อะไรต่อมิอะไรและมีความพร้อมมากกว่าเขาเมื่อตอนเขาอายุเท่าๆ กับบัณฑิตเหล่านั้น ให้เริ่มคิดช่วยแก้ปัญหาเสียตั้งแต่วันจบการศึกษาไป หลังจาก 30 ปีพวกเขาจะได้รู้สึกว่าชีวิตมีค่าสมกับที่เกิดมาเป็นผู้มีพรสวรรค์ ฯลฯ



    ปีนี้ไม่มีรายงานว่า บิลล์ เกตส์ ไปแสดงปาฐกถาในงานประสาทปริญญาของมหาวิทยาลัย แต่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ เป็นครั้งคราวถึงความเป็นไปในงานที่เขาทำ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า บิลล์ เกตส์ เกษียณตัวเองจากบริษัทไมโครซอฟท์ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ตอนนี้เขามีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการและทำงานให้บริษัทนั้นสัปดาห์ละหนึ่งวัน โดยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ในด้านการบริหารจัดการของบริษัท การรีบเกษียณตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 53 ปี มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวคือ อุทิศเวลาให้กับมูลนิธิที่เขากับภรรยาตั้งขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ด้วยทรัพย์ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์ มูลนิธิของเขามีเป้าหมายในการส่งเสริมการศึกษา แก้ปัญหาความยากจน และประจันกับโรคร้าย เขามองว่าการแก้ปัญหาเหล่านั้นยากลำบากยิ่งกว่าการทำธุรกิจมากนัก เขาจึงต้องการอุทิศทั้งพลังทางกายและมันสมองของเขาซึ่งได้รับการประเมินว่ามี ไอคิวสูงถึง 170 เพื่อความท้าทายใหม่นี้



    ในการให้สัมภาษณ์ เขาพูดถึงกิจกรรมของมูลนิธิของเขาบ้างเป็นบางเรื่อง แต่เนื่องจากกิจกรรมเหล่านั้นหลากหลาย จึงจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ ผู้ที่พออ่านภาษาอังกฤษได้อาจเข้าไปดูรายละเอียดในอินเทอร์เน็ตผ่านการค้นหาที่ Bill & Melinda Gates Foundation เมื่อไม่นานมานี้ เขาอ้างถึงการเดินทางไปพบหัวหน้ารัฐบาลและพนักงานรัฐระดับสูงในประเทศต่างๆ เพื่อชักจูงให้ประเทศเหล่านั้นคงการช่วยเหลือประเทศยากจนไว้ แม้ในขณะนี้เศรษฐกิจจะกำลังประสบวิกฤตอย่างหนักก็ตาม เขาสามารถเข้าถึงคนในระดับนั้นได้เพราะเขามีเกียรติประวัติอันโดดเด่น



    นอกจากนั้นเขายังพยายามขอความร่วมมือจากมูลนิธิอื่นและผู้มีเงินอย่างต่อเนื่อง ยังผลให้มูลนิธิใหญ่ๆ ให้ความร่วมมือกับเขา เช่น มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ให้ความร่วมมือในโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อค้นหาเมล็ดพันธุ์พืชอาหารที่ทนทานต่อความแห้งแล้งสูง ส่วนวอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์ในระดับเดียวกับเขาก็บริจาคทรัพย์กว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้มูลนิธิของเขาบริหารจัดการ ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า บิลล์ เกตส์ ไม่ได้ใช้ปาฐกถาสร้างภาพดังที่คนส่วนหนึ่งมักนิยมทำ หากเขามีความจริงใจในสิ่งที่เขาพูด พร้อมกับลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังด้วย



    สิ่งที่น่ายินดีในตอนนี้ก็คือ บิลล์ เกตส์ ไม่ใช่คนเดียวที่ลงมือทำในสิ่งที่เขาเชื่อเกี่ยวกับความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และการแก้ปัญหาต่างๆ ชาวโลกจำนวนมากขึ้นก็ทำเช่นกัน บุคคลเหล่านั้นล้วนเป็นสมาชิกใน "สุชนสโมสร" แม้ชื่อของพวกเขาจะไม่ปรากฏในสื่อต่างๆ ก็ตาม บิลล์ เกตส์ และพวกเขา คือ "ภาคที่สาม" ตามแนวคิดของศาสตราจารย์ปีเตอร์ ดรักเกอร์ สำหรับผู้ที่อาจไม่คุ้นเคยกับแนวคิดของอาจารย์ ดรักเกอร์เกี่ยวกับเรื่องภาคที่สาม ขอเรียนดังนี้ อาจารย์เชื่อว่าโลกมีปัญหามากมายในแนวที่ บิลล์ เกตส์ พูดถึงภาคเอกชนที่มุ่งแสวงหากำไรย่อมไม่ยอมช่วยแก้ แทนที่ภาครัฐจะช่วยแก้ แต่รัฐบาลของบางประเทศกลับเป็นต้นตอของปัญหาเสียเอง หรือไม่ก็ซ้ำเติมให้มันร้ายแรงยิ่งขึ้น



    ฉะนั้นการแก้ปัญหาต้องมาจากภาคประชาสังคมผ่านการเป็นสุชนตามกำลังปัญญา เวลา และสินทรัพย์จะอำนวย อาจารย์เชื่อว่าองค์กรเอกชนและมูลนิธิเพื่อการกุศลจะเป็นหัวจักรของภาคที่ สาม ท่านจึงอุทิศเวลาส่วนใหญ่ในตอนปลายชีวิตอันยาวนานของท่านช่วยมูลนิธิเหล่า นั้นเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการตามวิธีที่ท่านสอนในมหาวิทยาลัย



    กิจกรรมและความเคลื่อนไหวของสุชน หรือคนในภาคที่สาม กำลังต่อสู้กับความเลวร้ายที่อาจทำให้โลกเดินเข้าสู่จุดพลิกผันสำคัญยิ่งในปี 2555 ตามที่ เออร์วิน ลาสซโล พูดถึงในหนังสือชื่อ The Chaos Point : The World as the Crossroads (มีบทคัดย่ออยู่ในประชาชาติธุรกิจ ฉบับประจำวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2550 และในหนังสือชื่อ "กะลาภิวัตน์") ลาสซโล เป็นหนึ่งในบรรดาโหรที่ทำนายว่าในปี 2555 จะเกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ในโลกมนุษย์ เริ่ม ด้วยชาวมายา ตามด้วยนอสตราดามุส และล่าสุดคือ หลวงปู่ฐิติลาโภ ภิกขุ พระสงฆ์ไทยอายุ 108 ปี ซึ่งมีปริญญาจากฮาร์วาร์ด



    อย่างไรก็ตาม ลาสซโลเป็นโหรคนเดียวที่มีคำอธิบายว่า เหตุการณ์ใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นอย่างไร เขากล่าวว่าปัญหาหนักหนาสาหัสของโลกแสดงออกมาในรูปของปรากฏการณ์ราว 10 ด้านด้วยกัน คือประชากรและความยากจนที่เพิ่มขึ้น ความขัดแย้งทางสังคมและการเมือง สงครามน้อยใหญ่ ความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ การขาดแคลนอาหาร พลังงานและน้ำ สารพิษจากภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และการอยู่กันอย่างแออัด การทำลายชั้นบรรยากาศ การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพ การสูญเสียออกซิเจน และความเสี่ยงต่อมหันตภัยอันเกิดจากอุบัติเหตุและการรั่วไหลของพลังนิวเคลียร์ จากน้ำท่วมและพายุร้ายอันเป็นผลของ การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ และจากโรคร้ายที่เกิดจากสารพิษที่มนุษย์ทิ้งไว้ใน สิ่งแวดล้อม



    ปัญหาหนักหนาสาหัสเหล่านี้เป็นเสมือนน้ำหนักที่สะสมขึ้นบนด้านหนึ่งของกระดานหก ส่วนกิจกรรมและความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของสุชนเป็นน้ำหนักที่สะสมขึ้นบนอีกด้านหนึ่ง กระดานหกจะไปตกทางด้านไหนขึ้นอยู่กับใครจะสะสมน้ำหนักได้มากกว่ากัน ปี 2555 จะชี้ขาดว่ากระดานหกจะไปตกทางด้านไหนอย่างถาวร การไปตกทางด้านแรกหมายถึงโลกจะเดินเข้าสู่ความล่มสลายหายนะ การไปตกทางด้านหลังหมายความว่าโลกจะพัฒนาไปอย่างยั่งยืน แต่โลกมีเวลาเหลือเพียงเล็กน้อย ฉะนั้นโลกต้องการสุชนจำนวนมหาศาลให้ออกมาช่วยกัน แก้ปัญหาที่แสดงออกมาตามปรากฏการณ์ดังกล่าว โดยต้องออกมาเสียตั้งแต่วันนี้สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เริ่มต้น หากยังไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรก่อน ขอแนะนำว่ากรุณาพิจารณาลดการใช้ทรัพยากรโลก หรือการบริโภคสินค้าและบริการที่เกินความจำเป็นสำหรับดำเนินชีวิตเบื้องต้นลงเป็นอันดับแรก



    ที่มา
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เวียดนามพบดื้อยา "ทามิฟลู" ยอดป่วยหวัดสายพันธุ์ใหม่ 300 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 กรกฎาคม 2552 18:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>[COLOR=#cc00]ภาพแฟ้มเอเอฟพีวันที่ 28 เม.ย.2552 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนครโฮจิมในห์นำเครื่องสแกนเนอร์ตรวจอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสาร ที่ท่าอากาศยานเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) เช่นเดียวกับที่าอากาศยานโนยบ่าย (Noi Bai) ในกรุงฮานอย ปัจจุบันพบผู้ป่วยไม่ถึง 300 ราย ปัจจุบันเหลือเพียง 50 รายยังอยู่ในโรงพยาบาล [/COLOR]</B></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ซเวินจี๋/ไซ่ง่อนหยายฟง-- ผู้ป่วยไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 247 คน ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 52 คนที่คณะแพทย์ต้องเฝ้าติดตามอาการและให้การรักษาในโรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งในกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันพบผู้ป่วยสองรายที่มีอาการดื้อยาทามิฟลู (Tamiflu)

    เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบผู้โดยสารติดเชื้อ A/H1N1 อีกจำนวนหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (13 ก.ค.) ที่ท่าอากาศยานเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) โฮจิมินห์ และถูกนำส่งโรงพยาบาล เกือบทั้งหมดอาการดีขึ้น ไม่ได้แสดงอาการแทรกซ้อนใดๆ

    นายแพทย์หลีหง็อกกิ๋ง (Ly Ngoc Kinh) ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจและรักษาสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การรักษาผู้ป่วย A/H1N1 ในเวียดนามได้ผลดี มีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องเฝ้าระวังต่อไปเพราะการแพร่ระบาดอาจจะลุกลามใหญ่โตได้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มนุษย์ยังไม่มีภูมิต้านทาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีกำหนดประชุมหารือมาตรการต่อไปในวันอังคารที่ผ่านมา

    ตามตัวเลขขององค์การอนามัยโลกจนถึงวันที่ 12 ก.ค.2552 พบผู้ป่วย "หวัดสุกร" ทั้งหมด 94,512 รายใน 135 ประเทศกับดินแดน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 429 ราย

    สำหรับในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฟิลิปปินส์มีการยืนยันจำนวนผู้ป่วย 1,709 ราย เสียชีวิต 1 ราย สิงคโปร์ผู้ป่วย 1,217 ราย ไทย 3,475 ราย เสียชีวิต 18 และ บรูไนพบเพียง 1 ราย เสียชีวิตแล้ว

    คณะแพทย์ในนครโฮจิมินห์ยังคงเฝ้าจับตาผู้ปวยจำนวน 2 ราย ที่รับเข้ารักษาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และพบว่ามีอาการต้านทานต่อยาทามิฟลู ตัวยาต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดนก (A/H5N1) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า ไวรัสโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่อาจจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้ ขณะที่ยังไม่มีตัวยาชนิดอื่นๆ อย่างเพียงพอในการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดขณะนี้ แต่ยังไม่มีฝ่ายใดให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก

    นายแพทย์ฟาน-วัน-เงวียม (Phan Van Nghiem) แห่งสำนักงานสาธารณสุขนครโฮจิมินห์ได้แถลงเรียกร้องไปยังสาธารณชนไม่ให้ตื่นตระหนก และไม่ซื้อยาทามิฟลูไปกักตุน หรือ รับประทานโดยเชื่อว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง

    เวียดนามเป็นประเทศแรกๆ ที่สนองตอบเสียงเรียกร้องขององค์การอนามัยโลก หลังมีการประกาศแจ้งเตือนการพบเชื้อ A/H1N1 ตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยได้ติดเครื่องสแกนอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานหลักทั้งสองแห่งคือ เตินเซินเญิ๊ต โฮจิมินห์กับโนยบ่าย (Noi Bai) ในกรุงฮานอย.

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000080027
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2009
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ปัจจัยที่ทำให้เกิดผลเป็นความเสียหาย จากแผ่นดินไหวนั้นมีคร่าวๆดังนี้

    -หากแผ่นดินไหว ที่ระดับตื้นหรือใกล้ผืนดินมากเท่าไร ยิ่งทำความเสียให้กับ อาคาร บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ถนน ทางรถไฟได้มาก

    หากอยู่ลึกลงไปใต้ดินมาก ผลกระทบก็น้อยหน่อย

    -ระดับความรุนแรง ตามริกเตอร์สเกล ซึ่ง สูงสุดคือ 10 ซึ่งเท่ากับโลกแตก ทุกสิ่งบนโลกพังหมด

    ยิ่งใกล้ 10 เท่าไหร่ ความรุนแรงยิ่งสูง

    -จุดหรือตำแหน่งการเกิดแผ่นดินไหว หากใกล้ ชุมชน หรือเมือง ยิ่งส่งผลร้ายแรง

    แต่หากเกิดห่างไกลแต่เกิดในมหาสมุทรก็อาจทำให้เกิดสึนามิได้ กลายเป็นผลกระทบทางอ้อมที่อาจ แจ้งเตือนได้ทัน

    -สภาพของดินในตำแหน่งที่เกิดแผ่นดินไหว หากเป็นหินแข็งก็อาจมีผลกระทบน้อยหน่อย

    แต่หากเป็นดินอ่อนเช่น ดินของกรุงเทพ หากเกิดแผ่นดินไหว จะทำให้การไหว การกระจายแรงในรูปคลื่นมีผลรุนแรงขึ้นกว่าสภาพดินอื่นได้

    -หากแผ่นดินไหวเกิดใกล้รอยเลื่อนใหญ่ของเปลือกโลก ก็อาจส่งผลกระทบ ทำให้เกิดการปริแตก การเลื่อนของเพลทครั้งใหญ่เอาได้ ในกรณีนี้ค่อนข้างมโหฟาร เลย

    ยกตัวอย่างเช่น ที่ตั้งของญี่ปุ่นนั้น อยู่ในรอยต่อของชิ้นเพลทที่มีการหมิ่นตัวมาก

    ซึ่งนักธรณีวิทยาของญี่ปุ่นเองก็ทราบดีว่า ญี่ปุ่นมีความเสี่ยง ที่เพลทหรือชิ้นของประเทศญี่ปุ่นจะเลื่อนลงสู่มหาสมุทรได้<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --> <!-- sig --> __________________
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ดังนั้นจากข่าวนี้ เราจึงควรที่จะพยายามรักษาไข้โดยใช้สมุนไพร เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค

    ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดผลการเกิดภาวะดื้อยา ไม่งั้นพอเชื้อในโรคเราดื้อยาแล้วเรายิ่งไม่มียารักษา
     
  5. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    สังคมใหม่หลัง 2012
    เขียนโดย ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ

    มนุษยชาติต้องมีจิตวิวัฒนาการและต้องเปลี่ยนใหญ่ - ไม่ว่าอะไรจะเกิดหรือในปี 2012 เพราะไม่มีใครในโลกทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ โดยมีประชาโลกส่วนใหญ่คือ มากกว่า 2 ใน 3 หรือประมาณ 70% ขึ้นไป มีความเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์นั้นๆ จะเกิดขึ้นจริงๆ อย่างเป็นเอกภาพ ที่พูดมานั้นผู้เขียนหมายถึงคนที่มีการศึกษา หรือนักวิชาการส่วนใหญ่ของโลกในปัจจุบันวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านั้นที่อยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนาหรือใกล้พัฒนา รวมทั้งประเทศที่เพิ่งพัฒนาใหม่ๆ เช่น ประเทศไทย ฮ่องกง หรือสิงคโปร์ ทั้งนี้ ก็เพราะว่าคนเหล่านี้เรียนรู้มาก็แต่วิทยาศาสตร์กายภาพที่แยกส่วน ซึ่งเราสามารถผลิตเทคโนโลยีที่มนุษย์เอามาใช้หรือมีความสุขสนุกสะดวกสบาย เฉพาะหน้าเท่านั้น ส่วนในกาลข้างหน้า โลกและลูกหลาน (คนอื่น) หรือสิ่งแวดล้อมจะเป็นอย่างไร? ก็ช่างมันปะไร "ข้าไม่รู้นี่ เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่เกี่ยว" แต่ในระยะแรกๆ ที่ประชากรโลกยังมีน้อย


    - เช่นเมื่อร้อยกว่าปีก่อนแม้กระทั่งในตอนที่ผู้เขียนยังเป็นเด็กอยู่

    - และเทคโนโลยีกับระบบเศรษฐกิจทุนนิยมยังไม่หวือหวาสะบัดช่ออย่างในปัจจุบัน ทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างจึงดูสดใสวิลิศมาหราจนเราเคยชินกับมันและคิดว่า นั่นคือนอร์มของโลกหรือของเรา ความเคยชินจนคิดว่าโลกธรรมชาติเป็นของมนุษย์เราที่เราจะทำอะไรก็ได้ แต่ในอนาคตที่ไม่นานจากวันนี้ เราเท่าที่เหลือรอดชีวิตตามที่เจมส์ ลัฟล็อก - นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในเครือจักรภพอังกฤษ ซึ่งผู้เขียนได้เอามาลงที่นี่ในตอนนั้น

    - ประชากรของโลกที่จะมีกว่า 7-8 พันล้านคน ในตอนนั้นจะเหลือรอดชีวิต ส่วนใหญ่มากๆ เกิดจากสภาพโลกร้อนและภาวะแทรกซ้อนทั้งหลาย (เช่น โรคระบาด แผ่นดินไหว น้ำท่วมโลก ฯลฯ เป็นต้น) เพียงราวๆ 18% ของทั้งหมดเท่านั้น นอกจากนั้นจะตายไปทั้งหมดเลย - คือ ทั่วทั้งโลกจะเหลือประมาณ 1,000 ล้านคน (ประเทศไทยจะเหลือแค่ 10 ล้านคนโดยสัดส่วนนั้น) เจมส์ ลัฟล็อก ไม่ได้ระบุเวลาที่โลกจะเกิดสภาพเช่นนั้นในตอนให้สัมภาษณ์ เพียงแต่บอกว่าภายในศตวรรษนี้ แต่ในหนังสือที่ขายดีของเขา ซึ่งผู้เขียนได้อ่าน และเข้าใจว่าอาจจะเกิดขึ้นจริงๆ เร็วกว่านั้นมากนัก เช่น ภายใน 2 หรือ 3 ทศวรรษนับจากวันนี้ (James Lovelock : Vengeance of Gaia, 2007)

    ยังดีที่เจมส์ ลัฟล็อก ยังคิดว่าเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติยังคงเหลืออยู่บ้าง โดยไม่ได้สิ้นสูญพันธุ์ไปทั้งหมด ตามที่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกบางคนเชื่อ เช่น เซอร์มาร์ติน รีส หรือปีเตอร์ รัสเซล จริงๆ แล้วตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นสหัสวรรษใหม่มานี้ คงจะไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดในโลก หรือแม้แต่นักวิชาการที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์เลยก็เถอะ

    คนที่ไม่เชื่อว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้กำลังเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน หรือกำลังเชิญหน้ากับการปฏิวัติดังที่เออร์วิน ลาซโล่ กล่าวไว้ว่า "หากว่ายังมีใครที่ไม่มั่นใจหรือยังสงสัยว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้กำลัง เปลี่ยนแปลงจริงๆ หรือไม่ ใครคนนั้น ถ้าไม่ใช่ตาบอด หรือดื้อรั้นไม่รู้เรื่อง ก็ต้องโง่อย่างบัดซบ" (Ervin Lazslo : Quantum Shift in Global Brain, 2008)


    ที่เออร์วิน ลาซโล ซึ่งเป็นประธานของสโมสรแห่งบูดาเปสต์และสโมสรแห่งโรม และเป็นที่ปรึกษาของสหประชาชาติพูดคล้ายกับด่าอย่างเจ็บแสบนั้นคงหมายถึง ประชาชนหรือนักวิชาการของประเทศที่พัฒนามากๆ แล้ว เช่น อเมริกาหรือชาติเก่าเดิมที่อยู่ในยุโรปมากกว่าประชาชนที่อยู่ในประเทศของ ทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกาหรือทวีปเอเชียส่วนใหญ่ รวมทั้งประเทศไทย

    เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้ "โง่อย่างบัดซบ" (plain stupid) เลยไม่ต้องเดือดร้อน เพราะบ้านเรามีคนมากมายที่คิดว่าการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน นั้นไม่จำเป็นจะต้องมีขึ้นอย่างเร็วที่สุด การสำรวจโพลล์เมื่อไม่นานมานี้ยังปรากฏว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังคิดว่าเรื่องของ โลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศและฤดูกาลเป็นเรื่องธรรมชาติที่เป็น ไปของมันเอง (มนุษย์ไม่เกี่ยว)

    ทั้งๆ ที่ผู้เขียนเป็นแพทย์ที่เรียนมาทางวิทยาศาสตร์แบบที่คนส่วนใหญ่โลกเข้าใจ (กายภาพ) แต่กระนั้นผู้เขียนก็ยังมีความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แบบ นั้นหลังจากได้เรียนรู้โดยการได้อ่านได้ศึกษาฟิสิกส์ใหม่ โดยเฉพาะแควนตัม เม็คคานิกส์ ในทางทฤษฎีมานานนับสิบๆ ปี ทั้งนี้ เพราะผู้เขียนเชื่อตามนักฟิสิกส์ที่มีอยู่ในปัจจุบันทั่วทั้งโลกเลยว่า ความรู้ที่ให้ความจริงทางคณิตศาสตร์และจากห้องทดลองวิทยาศาสตร์นั้น มีแค่ 2 ทฤษฎีเท่านั้นซึ่งเป็นเรื่องของฟิสิกส์ใหม่ทั้ง 2 กรณี - ทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์หนึ่งกับแควนตัมอีเลคโตรไดนามิกอีกหนึ่ง

    - โดยไม่มีทฤษฎีของคลาสสิคัลฟิสิกส์ หรือวิทยาศาสตร์กายภาพใดๆ เข้าไปใกล้ๆ ความจริงแท้ได้แม้แต่ทฤษฎีเดียว และเท่าที่รู้มา แควนตัมฟิสิกส์ที่ว่าด้วยกลไกหรือเม็คคานิกส์ที่เล็กละเอียดยิ่ง

    - ระดับอะตอมหรือต่ำกว่านั้นไปอีกอันเป็นพื้นฐานทางรูปร่างกายภาพของสรรพสิ่ง สรรพปรากฏการณ์ทั้งหลายทั้งปวงของจักรวาลที่หยาบใหญ่ขึ้นมา จนเราสามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสภายนอกทั้ง 5 ของเรา

    - จนเข้าไปใกล้ๆ กับภาวะจิตที่อธิบายด้วยศาสนา โดยเฉพาะศาสนาที่อุบัติขึ้นมาจากทางตะวันออก เช่น ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาเต๋า และศาสนาพุทธเรา ตามที่นักฟิสิกส์แห่งยุคใหม่ทุกคนต่างก็กล่าวเช่นนั้น จากแควนตัมเม็คคานิกส์ทำให้เรารู้ว่าในระดับแควนตัมที่เป็นพื้นฐานของกายของ วัตถุหรือแควนตานั้น มันไม่ได้เป็นสิ่งใดโดดๆ เลย แต่มันจะอยู่ในศักยภาพของความเป็นไปได้หลายๆ อย่าง คือ เป็นสสารวัตถุหรืออนุภาคก็ได้ เป็นคลื่นที่สั่นไหวด้วยความถี่คลื่นต่างๆ หรือเป็นฟรีเควนซี่ (frequencies) ก็ได้ เป็นครึ่งๆ กลางๆ ครึ่งอนุภาคครึ่งคลื่นก็ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่ามันจะอยู่ในสภาวะไหน มันจะพัวพันอย่างอีนุงตุงนัง เป็นสนามพลังงานที่เชื่อมโยงกันและกัน

    - โดยไร้ทั้งสถานที่และเวลา

    - ชนิดที่ไม่สามารถจะแยกออกจากกันได้ (non-local interconnection) นั่นคือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกในจักรวาลมีลักษณะเป็นองค์รวมที่ซ้อนและเชื่อม โยงกันและกันอย่างซับซ้อน นั่นคือ หนึ่งที่เป็นทั้งหมดและทั้งหมดก็คือหนึ่ง ทำให้จิตรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกายกับวัตถุโดยมีพลังงานเป็นพื้นฐาน การเชื่อมโยงติดต่อและเคลื่อนที่ไปด้วยกันเป็นอนิจจัง ซึ่งทั้งหมดก็คือหนึ่งและหนึ่งคือทั้งหมด ทั้งกายพลังงาน และจิตจะรวมกันอย่างอีนุงตุงนังเป็นหนึ่งเดียวกัน (entanglement) อันเป็นความจริงทางแควนตัมกับความจริงทางศาสนา ทำให้วิทยาศาสตร์ในรายละเอียดยิ่งกว่าละเอียดกับศาสนาที่อุบัติขึ้นมาทาง ตะวันออกที่ว่ามีความละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างแนบขนาน



    ปี 2012 (the crash of 20121!) นั้นผู้เขียนได้เอ่ยถึงปีนี้มาช้านานร่วม 10 ปี คือเป็นปีที่ปฏิทินของชาวมายาที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล-หยุดหรือไม่มีต่อไป อย่างเฉยๆ การหายไปของปฏิทิน

    - ที่เขียนโดยพระ ซึ่งผู้เขียนเข้าใจว่าจากการทำสมาธิ ซึ่งทำให้คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าสังคมมนุษย์จะต้องเปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็ ต้องล่มสลายไปทั้งหมด ความเข้าใจที่ไปสอดคล้องกับคำทำนายของศาสนาใหญ่บางศาสนาและลัทธิความเชื่อ หลายหลาก รวมทั้งนอสตราดามุสและเอ็ดการ์ เคซี กระทั่งนักวิทยาศาสตร์เองอีกมากมาย เช่น เค็นเน็ต ริงก์ ที่วิจัยประสบการณ์ใกล้ตายหรือตายแล้วฟื้น (NDE) ที่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ในระหว่างนั้น ที่สำคัญ ปี 2012 คือปีที่ขบวนการนิวเอจ (New Age Movement) พูดถึง (ดูที่ต้นพารากราฟ) ขบวนการนิวเอจที่หวือหวาขึ้นมามาก หลังจากที่มาริลีน เฟอกูสัน ได้เขียนหนังสือที่ขายดีของเธอออกมา (Aquarian Conspiracy) พร้อมกับหนังสือขายดีเหมือนกันของโฮเซ อากิวเลส (Maya Factor) คือทั้งคู่ออกในปี 1987 ด้วยกัน ขบวนการนิวเอจได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นวัฒนธรรมของสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ ทศวรรษที่ 1970 วัฒนธรรมที่มีอภิปรัชญาทางตะวันออกและจิตวิญญาณเป็นฐานโดยเริ่มต้นมาจาก - ตามที่นักจิตวิทยาส่วนใหญ่เชื่อกัน

    - กลุ่มต่อต้านสังคมที่เรียกว่ากลุ่มฮิปปี้ ซึ่งกระทั่งบัดนี้คาดว่ามีอย่างน้อย 1 ใน 3 ของประชากรของอเมริกาทั้งประเทศ ส่วนหนึ่งของคนในขบวนการนี้ได้พัฒนามาปฏิบัติสมาธิเป็นประจำ ผู้เขียนไม่ได้อยู่ในขบวนการนี้ ซึ่งมีบางอย่างบางข้อปฏิบัติที่ไม่เห็นด้วยและถือศาสนาที่อุบัติขึ้นจากทาง ตะวันออก ทั้งเป็นผู้แสวงหาจิตวิญญาณอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนเชื่อในเรื่องของกรรมและเชื่อในการกระทำของบุคคลทั้งโดยปัจเจก และสังคมโดยรวม ไม่ว่าด้วยอวิชชา

    - จึงคล้อยตามระบบทุกๆ ระบบที่มีวัตถุนิยมและแยกส่วนเป็นพื้นฐาน - หรือตัณหา ซึ่งจะเป็นความคิดเฉยๆ ก็ดี วาจาคำพูดก็ดี หรือการกระทำก็ดี จะต้องใช้พลังงานทั้งนั้น และพลังงานนั้นย่อมไม่สูญหายไปไหน แต่เปลี่ยนรูปแบบได้ ดังนั้นผู้เขียนจึงเชื่อมั่นต่อผลกรรมที่มนุษย์ต้องได้รับตามมา ส่วนมันจะมีในวันที่ 22 ธันวาคม 2012 หรือไม่? ผู้เขียนไม่รู้ แต่น่าจะมี เพราะหลายคนต่างก็เห็นเหมือนๆ กัน นั่นเป็นเรื่องของแควนตัมฟิสิกส์ของความจริง คือ หนึ่ง ศักยภาพความน่าจะเป็นไปได้ สอง หนึ่งคือทั้งหมดและทั้งหมดก็คือหนึ่ง และสาม การพัวพันกันอย่างอีนุงตุงนัง ที่ทุกสิ่งสามารถติดต่อกันกับทุกสิ่งได้โดยไร้ที่ว่าง - เวลา (non-local connection)

    ก่อนที่จะลืมไป ยังมีส่วนของบทความที่ไม่ได้พูดถึง นั่นคือ สังคมหลังปี 2012 สังคมโลกจะเป็นอย่างไร? ผู้เขียนคิดว่าปี 2012 จะเป็นปีที่อารยธรรม "สมัยใหม่" ของโลกทุกๆ ระบบ ไม่ว่าสังคมเศรษฐกิจหรือการเมือง รวมทั้งการศึกษา ฯลฯ ที่เรามีอยูในวันนี้จะล่มสลายอย่างไม่เหลือหลอ ไม่จากโรคระบาดหรือการเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลก หรือน้ำท่วมโลกอย่างฉับพลันทันที หรืออุกกาบาตดาวหางวิ่งมาชน หรืออื่นๆ ซึ่งล้วนเกิดจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งทั้งนี้โลกกายภาพยังคงอยู่ แต่ประชากรโลกจะหมดไปอย่างกะทันหัน อย่างน้อยก็เท่าๆ กับที่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก เจมส์ ลัฟล็อก ที่คาดการณ์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ให้สัมภาษณ์ไว้ (ในหนังสือพิมพ์การ์เดียน 2009) ว่าที่เหลือจะมีไม่เกิน 18% (ช่วงหลัง 2012 แต่ภายในศตวรรษนี้)

    ดังได้พูดมาแล้วข้างต้น ด้วยประชากรที่เหลือน้อย ประกอบด้วยมนุษย์ที่เหลือล้วนแล้วแต่เข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติและระบบนิเวศ ผู้คนที่เหลืออยู่จะมีการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์จะต้องเป็นจากการเปลี่ยนที่จิตเสมอไป มนุษย์ทั่วทั้งโลกจะมีวิวัฒนาการทางจิตที่ไล่สูงไปกว่าที่เป็นอยู่เดี๋ยว นี้ (self rational) ส่วนหนึ่งจะมีจิตวิวัฒนาการที่ผ่านพ้นอัตตาตัวตน (transcendence) หรือไปสู่สภาวะจิตวิญญาณ (spirituality) เนื่องจากประชากรที่เหลือน้อยอย่างกะทันหัน เมืองหรือนครใหญ่ๆ จึงร้างผู้คน สังคมมนุษย์หลังจากการล้างโลกจากอวิชชากับตัณหาในครั้งนี้

    - เท่าที่ผู้เขียนมองเห็น

    - จะเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านเล็กๆ ที่ติดต่อเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันทั่วทั้งโลกด้วยระบบสหกรณ์ ที่มีจิตวิญญาณร้อยรวงทั้งหมดเข้าด้วยกัน นั่นคือหนึ่งคือทั้งหมดและทั้งหมดก็คือหนึ่ง นั่นคือ ชุมชนสังคมที่ทั้งเล็กทั้งเป็นความงามพร้อม (small is beautiful) แห่งพุทธะของชูมักเกอร์ (Schumacher).



    ที่มา นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับ 7 มิถุนายน 2552
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กรกฎาคม 2009
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post2262463" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">Sawiiika<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2262463", true); </script>
    ทีมผู้ดูแลแกลเลอรี่

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2008
    ข้อความ: 2,412
    Groans: 6
    Groaned at 10 Times in 10 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 9,962
    ได้รับอนุโมทนา 13,698 ครั้ง ใน 1,522 โพส
    พลังการให้คะแนน: 274 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2262463" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ขอบพระคุณ อ.คณานันท์ คุณทศพร พี่ Falkman และ จากทุก ๆ ท่านค่ะ จะลองไปหาซื้อทานดูนะค่ะ

    - ยาเขียวตราใบโพธิ์ ตอนเช้า 5 เม็ด ตอนค่ำ 5 เม็ดมีส่วนผสมสมุนไพรฟ้าทะลายโจนและสมุนไพร ตัวอื่น ๆ ด้วย
    - ยาไทย และ น้ำมนต์ ไม่ใช้ยาแอนตีไบโอติค เน้นยาเขียว บอระเพ็ชร์ เถาวัลย์เปรียง กระเทียม ... วิตตามินซี

    คุณแม่ให้ ทานน้ำมะนาว + น้ำผึ้ง ด้วย ค่ะ ,, ^^ ,,

    <table class="tborder" id="post2262358" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] วันนี้, 04:01 PM </td><td class="thead" style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #16774 </td></tr><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปกรณ์<!-- google_ad_section_end --><script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2262358", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 358
    Groans: 0
    Groaned at 0 Times in 0 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 929
    ได้รับอนุโมทนา 4,422 ครั้ง ใน 314 โพส
    พลังการให้คะแนน: 420 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td><td class="alt1" id="td_post_2262358" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"><!-- google_ad_section_start -->มา ยืนยันเรื่องยาเขียวและฟ้าทะลายโจร ว่าได้ผลจริง ๆ ซึ่งต้องขอบคุณ คุณFalkman ที่มาบอกกล่าวกันไว้ ตัวผมเองรอบข้างเป็นไข้หวัดกันถ้วนหน้า พอผมมีอาการเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเริ่มจะเป็นไข้ ก็ทานกันไว้ก่อน รุ่งเช้ามาก็หายเป็นปกติ เป็นอย่างนี้มาหลายรอบ จึงเชื่อแล้วว่า ได้ผลจริง ซึ่งบทพิสูจน์ก็ปรากฎกับรุ่นน้องของผมคนหนึ่งเป็นไข้หวัดก็ให้เขากินสองวัน หายครับ หายแบบตัวเขาเองยังงงว่าไม่น่าเชื่อ
    แต่ในถ้าเป็นไข้หวัดสายพันธุ์A (ชนิด2009) ยังไม่เคยลอง ครับ : )<!-- google_ad_section_end -->
    </td></tr><tr><td class="alt2" style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;">[​IMG] [​IMG]<script type="text/javascript"> vbrep_register("2262358")</script> [​IMG] </td></tr></tbody></table><!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    [COLOR=green][B]พระวิสุทธิคุณ [SIZE=5]พระปัญญาธิคุณ[U][SIZE=2][IMG]http://palungjit.org/signaturepics/sigpic214880_53.gif[/IMG][/SIZE][/U] พระมหากรุณาธิคุณ[/SIZE][/B][/COLOR]
    AbstenTion From Allevil , CultivaTion oF The WholesoMe, PuriFicaTion Of The HearT



    </td></tr></tbody></table>
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อนามัยโลกชี้อีกหลายเดือนกว่าจะได้วัคซีนป้องกันหวัด 2009

    [​IMG]

    อนามัยโลก 15 ก.ค. - องค์การอนามัยโลก ระบุต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก

    นางมาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เปิดเผยว่า การผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งขณะนี้ได้แพร่ระบาดจนไม่อาจหยุดยั้งได้นั้น คงต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าจะได้วัคซีนที่ปลอดภัย พร้อมฉีดให้กับประชาชน

    ความเห็นของนางชาน ทำให้ไม่แน่ว่า คำประกาศของประเทศต่าง ๆ ที่จะเริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากที่สุด ในราวต้นเดือนหน้า จะเป็นไปได้หรือไม่ ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่อาร์เจนตินา มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นจาก 94 คน เป็น 137 คน ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากที่สุด รองจากสหรัฐ. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 15:23:06

    ผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ในออสเตรเลียทะลุ 10,000 คนแล้ว

    [​IMG]

    เมลเบิร์น 15 ก.ค.-นิโคลา โรซอน รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในออสเตรเลีย มีจำนวน 10,387 คน หรือคิดเป็นกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกซึ่งได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลก

    รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลีย บอกว่าจำนวนของผู้ติดเชื้อที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 123 ราย และมี 58 ราย ที่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ในออสเตรเลียมีประมาณ 20 คน แต่ยังต้องได้รับคำยืนยันอย่างเป็นทางการ และว่าขณะนี้เริ่มเกิดความกังวลในเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียว่ามีการติดเชื้อในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

    องค์การอนามัยโลก รายงานว่าจนถึงขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แล้ว 94,512 ราย และมีผู้เสียชีวิต 429 ราย.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 11:43:29

    ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในญี่ปุ่นทะลุ 3,000 คน

    [​IMG]

    โตเกียว 15 ก.ค. – กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่พุ่งทะลุ 3,000 คนแล้วในญี่ปุ่น เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นรวดเดียวกว่า 1,000 คน จากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ญี่ปุ่นมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อยู่ที่ 3,122 คน ก่อนช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น แต่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่หายดีแล้ว และจนถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นยังไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากเชื้อดังกล่าว

    ญี่ปุ่นตรวจพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกเมื่อต้นเดือน พ.ค. จากนั้นเชื้อก็ได้แพร่ลามอย่างรวดเร็วในกลุ่มโรงเรียนมัธยมตามหลายเมืองแถบตะวันตก ก่อนจะแพร่ระบาดไปยังกลุ่มคนในวงกว้างขึ้นที่ญี่ปุ่น. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 11:48:32

    ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ส่งผลกระทบกับระบบหายใจมากกว่าไข้หวัดทั่วไป

    [​IMG]

    ลอนดอน 14 ก.ค. - ผลการศึกษาในสัตว์ เช่น ลิงและหนู ชี้ให้เห็นว่าเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบกับระบบทางเดินหายใจได้นานกว่าเชื้อไข้หวัดทั่วไป เนื่องจากมีการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสได้มากกว่า จึงเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้มากกว่าด้วย

    มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐ ได้ศึกษาเรื่องนี้พบว่า ตามปกติไวรัสไข้หวัดทั่วไปจะฝังตัวอยู่บริเวณโพรงจมูก แต่ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะแทรกซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของระบบทางเดินหายใจได้ลึกกว่านั้น ผู้ป่วยจึงมีแนวโน้มเป็นโรคปอดบวมได้ง่าย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในปัจจุบันจึงอาจส่งผลกระทบในวงกว้างคล้ายไวรัสไข้หวัดที่ระบาดเมื่อปี 2461 หรือเมื่อ 91 ปีที่แล้ว จนคร่าชีวิตชาวโลกไปหลายล้านคน เพราะไวรัสไข้หวัดในครั้งนั้น ก็เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจมากกว่าไวรัสไข้หวัดทั่วไปเช่นกัน

    ผลการวิจัยยังพบว่า ผู้ที่รอดชีวิตจากไวรัสไข้หวัดที่ระบาดครั้งใหญ่เมื่อปี 2461 จะมีภูมิต้านทานพิเศษต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และแม้ไวรัสไข้หวัดทั้งสองประเภทจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้รุนแรงกว่าไวรัสไข้หวัดทั่วไป แต่ยังโชคดีที่ผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง และยังรักษาให้หายได้ด้วยยาต้านไวรัส. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-14 16:28:44

    สถานการณ์อุรุมฉียังตึงเครียด

    [​IMG]

    จีน 14 ก.ค.-จนท.จีนยังคงวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในเมืองอุรุมฉี ของเขตปกครองตนเอง ซินเจียง เพื่อป้องกันเหตุความรุนแรงระลอกใหม่

    สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จนท.ตำรวจได้ปิดกั้นทางเข้าชุมชนที่ชาวมุสลิมอุยกูร์อาศัยอยู่ในเมืองอุรุมฉี ห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปภายในนอกจากชาวมุสลิมอุยกูร์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงระลอกใหม่ หลังจากที่วานนี้ตำรวจได้ยิงชาวมุสลิมอุยกูร์เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอีก 1 คน เนื่องจากกำลังจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเรเจ๊บ ทายยิบ แอร์กโดแอน ของตุรกี ถอนข้อกล่าวหาที่เคยระบุก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลจีนกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์ พร้อมกับยืนยันว่า เหตุจลาจลนองเลือดในเมืองอุรุมฉีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติมุสลิม.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-14 23:27:16

    ฝนตกหนักช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำในมุมไบ

    [​IMG]

    มุมไบ 15 ก.ค.-พายุฝนช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำของนครมุมไบ ศูนย์กลางการเงินและบันเทิงของอินเดีย แต่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่และการเดินทางเป็นอัมพาต

    ฝนตกทิ้งช่วงมานับตั้งแต่เริ่มฤดูมรสุมเมื่อเดือนมิถุนายน ทำให้น้ำในทะเลสาบหลายแห่งอยู่ในระดับต่ำเข้าขั้นอันตราย ซึ่งเป็นแหล่งจ่ายน้ำในเมืองวันละ 3,300 ล้านลิตร และส่งผลให้การจัดสรรน้ำลดลงร้อยละ 30 แต่ฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันจันทร์ มีส่วนช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำในนครมุมไบที่มีประชากร 18 ล้านคนได้ เนื่องจากปริมาณน้ำสำรองเพิ่มขึ้นจากฝนตกกระหน่ำ หลายพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วม ถนนหลายสายใช้การไม่ได้ โรงเรียนและวิทยาลัยปิดการสอน ส่วนคนทำงานต้องอยู่กับบ้านแทน ขณะที่บริการรถไฟได้รับผลกระทบ เที่ยวบินทั้งในและนอกประเทศล่าช้า

    อมิตาบ ปัชจัน ดาราบอลลีวูดชื่อดัง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกับชาวมุมไบหลายคน บอกว่า ชั้นล่างของสำนักงานเขาถูกน้ำท่วมและต้องย้ายของออก เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 14:49:28

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ฟ้าทะลายโจร" สมุนไพรต้านหวัดปกติและไข้หวัดใหม่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 15 ก.ค.- มีคำแนะนำให้คนไทยนำฟ้าทะลายโจร สมุนไพรใกล้ตัวมาใช้ดูแลสุขภาพ ป้องกันโรคและรักษาทั้งไข้หวัดปกติและไข้หวัดใหม่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 19:18:02

    ขอเชิญชมวิดีโอคลิปได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรต้านหวัด

    ที่มา http://news.mcot.net/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แต่โบราณหากเกิดสุริยคราส

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ศิษย์ธรรมเทพ<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2258322", true); </SCRIPT> สมาชิก

    แต่โบราณหากเกิดสุริยคราส ผู้ใหญ่ท่านผู้รู้ทั้งหลายมักจะสั่งเตือนว่าอย่าออกไปดู เพราะว่าหากคราสนั้นอยู่ในราศีที่เป็นอันตรายต่อเรา แล้วไปดูก็จะได้รับความรุนแรงนั้นๆ หนักเบาก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นฐานดวงของแต่ละคน

    การสวดมนต์เพื่อเชิญ อานุภาพของพระรัตนตรัย พรหมเทพ มาคุ้มครองจากพลังของสุริยคราส

    ครั้งนี้ต้องเชื่อว่าน่าจะเกิดเรื่องสูญเสียครั้งใหญ่<!-- google_ad_section_end -->

    15-07-2552, 04:49 AM

    ที่มา [URL="http://palungjit.org/posts/2257975[/COLOR][/URL]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  10. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    แค่วันเดียวผลความรุนแรงเพิ่มขึ้นมากเลย

    เมื่อวานติดไข้2009มาซะแล้ว แต่วันนี้หายแล้วละ จะขอเล่าประสบการณ์ให้ฟัง

    กันนะ

    อาการเริ่มแรกเลยคือท้องเสียอย่างหนักเลย(ตามความคิดคือเชื้อมันจะทำลายระบบภูมิคุ้มกันของคนที่แข็งแรงเพื่อที่จะได้ทำลายร่างกายได้มากขึ้น) หลังจากนั้นอาการไข้สูงก็ตามมา พอถึงขั้นนี้เราก็เอาละ กินยาเขียว ซะเลย กินไป4เม็ด
    แล้วนอนยาวเลยอยู่ในที่อากาศโปร่งสบาย ตื่นมาเช้านี้อาการไข้หายไปแล้วแต่ยังคงต้องกินยาเขียวต่อ (ไปติดเชื้อมาจากโลตัสราม2 ใครอยู่ใกล้ๆก็ระมัดระวังกันนะ) และอีกอย่างที่อยากบอกว่าจะช่วยปกป้องทุกคนจากหวัด2009ได้ก็คือ การสวดมนต์และศีล5บริสุทธิ์ เราไม่ได้สวดมนต์แค่2วันและมีความจำเป็นต้องผิดศึล1ข้อ พอศึลพร่องปุ๊บติดโรคมาปั๊บเลย- -*

    ยังไงก็ขอให้ทุกคนสวดมนต์รักษาศีลกันให้ครบทุกวันนะจ๊ะ
     
  11. ชัยมงคล

    ชัยมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2007
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +2,473
    ผมก็อยู่แถวนั้น คนเป็นไข้หวัดเยอะมากครับ แยกไม่ออก ใครไอไม่ปิดก็บอกเขา
    ผ้าปิดปากจะหมดรอบสองแล้วใครเอาเยอะก็ไม่ขาย แบ่งกัน
    ผมเริ่มเป็นห่วงเรื่องยาต่อไปอาจจะขาดแคลนและราคาคงแพงขึ้น
    ต่อไปเรามาดูกันในสภาวะบีบคั้นคนจะเห็นแก่ตัวกันมากขึ้น
    เห็นโลภโกรธหลง เห็นทุกข์กัน เต็มๆจะได้ละสมุทัยได้ง่ายขึ้น
    หาไม่ได้ง่ายๆงานนี้ได้บำเพ็ญบารมีกันเต็มที่
    โลกนี้ก็จะได้เห็นกลุ่มคนหลายๆกลุ่ม(เหล่าพระพุทธภูมิทั้งหลาย)
    ออกมาเสียสละช่วยคนที่ไม่หวังผลตอบแทนอันใด
    คนก็เกิดความสำนึกเข้าใจขึ้นว่าทำอะไรคือดีทำอะไรคือชั่ว
    โลกใหม่ฟ้าใหม่ก็เกิดขึ้น คือ "สังคมแห่งการแบ่งปัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กรกฎาคม 2009
  12. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    หายหวัดแล้วค่ะ ขอขอบคุณกัลยาณธรรมที่เป็นห่วง
    และขออนุโมทนาบุญทุกท่านที่ได้ไปทำบุญมาช่วงอาสาฬหบูชาด้วยค่ะ

    วานนี้เอาสามีไปรพ. ไปตรวจร่างกายทำงาน
    พบว่าเตียงรพ. ในกรุงเทพฯ เต็มหมด เพราะไข้หวัดใหญ่ ๒๐๐๙
    ฟังว่ารพ. เตียงเต็มนี่ไม่สบายใจค่ะ นี่ระบาดแต่เพียงแรกเริ่ม
    ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

    พักนี้แผ่นดินไหวหลายที่ใกล้เรา ไต้หวัน นิวกินี นิวซีแลนด์
    แถมใกล้สุริยคราสด้วย เลยต้องคอยชำเลือง
    เลยเอา USGS ล่าสุดมาฝากค่ะ

    <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><th> </th> <th align="center">MAG </th> <th align="center">UTC DATE-TIME
    y/m/d h:m:s
    </th> <th align="center">LAT
    deg
    </th> <th align="center">LON
    deg
    </th> <th align="center">DEPTH
    km
    </th> <th> Region</th> </tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.4 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/16 00:44:50 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -46.226 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 166.087 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 21.5 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/16 00:24:07 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -46.090 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 166.136 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 9.5 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> </tbody></table><hr> <table border="0" cellpadding="1" cellspacing="1"><tbody><tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 23:41:20 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -45.380 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 167.284 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 68.6 </td><td valign="top"> SOUTH ISLAND OF NEW ZEALAND</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 6.1 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 20:10:44 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -3.418 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 150.424 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 19.5 </td><td valign="top"> NEW IRELAND REGION, PAPUA NEW GUINEA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 15:21:27 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -20.330 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -68.814 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap">112.1 </td><td valign="top"> TARAPACA, CHILE</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.3 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 13:50:45 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -45.380 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 166.803 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.4 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 12:55:42 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -3.391 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 150.559 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 35.0 </td><td valign="top"> NEW IRELAND REGION, PAPUA NEW GUINEA</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.2 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 10:01:50 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -45.763 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 166.460 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 5.0 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.0 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 09:52:16 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -46.196 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 165.791 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 12.8 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 5.8 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 09:41:51 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -46.173 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 165.789 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 5.0 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr> <tr><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">MAP</td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap"> 7.6 </td><td valign="top" align="center" nowrap="nowrap">2009/07/15 09:22:29 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> -45.750 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 166.577 </td><td valign="top" align="right" nowrap="nowrap"> 12.0 </td><td valign="top"> OFF WEST COAST OF THE SOUTH ISLAND, N.Z.</td></tr></tbody></table>
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    แผ่นดินไหวกว่า 6 ริกเตอร์ที่ปาปัวนิวกินี

    [​IMG]

    พอร์ตมอร์สบี 16 ก.ค.-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ริกเตอร์ ที่ปาปัวนิวกินี แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.10 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 03.10 น.ตามเวลาประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากจังหวัดนิวไอร์แลนด์ ไปทางทิศใต้-ตะวันตกเฉียงใต้ 103 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 19 กิโลเมตร แต่ยังไม่มีคำเตือนการเกิดคลื่นสึนามิ หรือรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    ปาปัวนิวกินีเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเปลือกทวีปมาบรรจบกัน จึงมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 07:47:56

    เผยเครื่องบินอิหร่านตกเพราะไฟไหม้ที่เครื่องยนต์

    [​IMG]

    เตหะราน 15 ก.ค.-สถานีโทรทัศน์อาร์เมเนีย รายงานว่า เครื่องบินสายการบินแคสเปียน แอร์ไลนส์ ที่ประสบอุบัติเหตุในอิหร่านวันนี้ ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสีย 168 คนเสียชีวิตทั้งลำ มีสาเหตุมาจากเกิดไฟไหม้ที่เครื่องยนต์ ขณะที่ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาดิเนจัด ของอิหร่าน สั่งให้สอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของอิหร่าน

    ด้านสำนักข่าวอีร์นาของทางการอิหร่านรายงานอ้างตำรวจท้องถิ่นว่า ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเห็นเครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้กลางอากาศ ก่อนตกกระแทกพื้นอย่างแรง ผู้เห็นเหตุการณ์อีกรายระบุว่า เห็นเครื่องบินบินวนอยู่ระยะหนึ่งเหมือนนักบินพยายามนำเครื่องลงจอด ก่อนจะประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

    ด้านกรรมการผู้จัดการการท่าอากาศยานอิหร่านเผยกับสำนักข่าวอีร์นาว่า บทสนทนาสุดท้ายระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินดำเนินไปตามปกติ ไม่ได้บ่งชี้ว่าเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคแต่อย่างใด ขณะที่ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัด สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ พร้อมแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต

    หลังเกิดเหตุ ครอบครัวและเพื่อนของผู้โดยสารราว 30 รายไปรวมตัวกันที่ท่าอากาศยานในกรุงเยเรวาน นครหลวงของอาร์เมเนีย โดยมีทีมงานคอยให้ความช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 19:47:43

    สหรัฐแสดงความเสียใจต่อเหตุเครื่องบินตกในอิหร่าน

    [​IMG]

    วอชิงตัน 16 ก.ค. - กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ส่งสารแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต 168 คน จากเหตุเครื่องบินตกในอิหร่าน

    เอียน เคลลี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานงานกับสถานทูตสหรัฐ ในกรุงเยเรวาน ประเทศอาร์เมเนีย และ Swiss Protecting Power ซึ่งเป็นตัวแทนผลประโยชน์สหรัฐในอิหร่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีพลเมืองอเมริกันเดินทางมากับเครื่องบินลำนี้ด้วยหรือไม่

    สหรัฐไม่มีความสัมพันธ์การทูตกับอิหร่าน ดังนั้นผลประโยชน์ของสหรัฐจึงต้องผ่านนักการทูตชาวสวิสในกรุงเตหะราน ผู้เห็นเหตุการณ์และสื่อของรัฐบาลอิหร่าน กล่าวว่า เครื่องบินลุกเป็นไฟก่อนตกกระแทกพื้นและระเบิดใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเตหะราน หลังจากบินขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติโคไมนีได้ไม่นาน. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 07:34:36

    พบกล่องดำเครื่องบินโดยสารของอิหร่านแล้ว

    [​IMG]

    บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 16 ก.ค. - พบกล่องบันทึกข้อมูลการบินหรือกล่องดำของเครื่องบินตูโปลอฟ-154 เที่ยวบิน 7908 ของสายการบินแคสเปียน แอร์ไลนส์ ที่ประสบอุบัติเหตุตกแล้ว แต่สภาพกล่องได้รับความเสียหาย

    เจ้าหน้าที่พบกล่องดำ 2 ใน 3 กล่อง ตกอยู่ในบริเวณที่พบชิ้นส่วนเครื่องบินซึ่งแผ่กระจายเป็นบริเวณกว้างที่ไร่เกษตรกรรมในจังหวัดกาซวิน ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางทิศเหนือ-ตะวันตก 120 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่บอกว่า แม้สภาพกล่องได้รับความเสียหาย แต่ยังมีความหวังที่จะถอดข้อมูลออกมาได้
    ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่า พบชิ้นส่วนร่างกายของผู้เสียชีวิต แต่ก็ยากที่จะระบุได้ว่าเป็นของผู้ใด ขณะที่ชาวนาในพื้นที่เผยว่า พบศีรษะ นิ้วมือนิ้วเท้า และหนังสือเดินทางของผู้โดยสาร ผู้เห็นเหตุการณ์บางคน กล่าวว่า เห็นเครื่องบินบินวนเป็นเวลาสั้น ๆ เพื่อหาที่ลงจอดฉุกเฉิน บางคนก็บอกว่าเห็นเพลิงไหม้ที่หางขณะกำลังพุ่งโหม่งโลก

    เครื่องบินลำนี้ผลิตในรัสเซีย ใช้งานมานาน 22 ปีแล้ว เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติอิหม่าม โคไมนี ในกรุงเตหะราน ได้เพียง 16 นาที นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 3 ที่เกิดกับเครื่องบินรุ่นนี้ในอิหร่านตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝูงบินพลเรือนและทหารของอิหร่านประกอบด้วยเครื่องบินเก่าและมีสภาพแย่ตามอายุ อีกทั้งขาดการบำรุงรักษา เนื่องจากอิหร่านถูกคว่ำบาตรการค้าจากชาติตะวันตก ส่งผลให้อิหร่านต้องหันไปซื้อเครื่องบินจากรัสเซีย เพื่อนำมาใช้ทดแทนฝูงบินโบอิ้งและอื่น ๆ ที่ผลิตในสหรัฐและยุโรป.- สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 08:00:05

    เกาหลีใต้ยกเลิกจัดเทศกาล และสั่งหยุดเรียนสกัดหวัดใหญ่ 2009

    [​IMG]

    โซล 15 ก.ค.-เกาหลีใต้ประกาศยกเลิกการจัดงานเทศกาลเยาวชนโลก และให้นักเรียนหลายร้อยคนหยุดเรียนชั่วคราว เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พุ่งสูงขึ้น

    เจ้าหน้าที่เมืองเยโอซู ทางชายฝั่งตอนใต้ของเกาหลีใต้ ประกาศยกเลิกการจัดงานเทศกาลเยาวชนโลกที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า และคาดว่าตลอดช่วง 3 วันของการจัดงานจะมีผู้ร่วมงานหลายพันคน รวมทั้งชาวต่างชาติ 370 คน จาก 50 ประเทศ เนื่องจากเกรงว่า การพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายใหม่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองในการเป็นเจ้าภาพจัดงานนิทรรศการนานาชาติในปี 2555

    นอกจากนี้ ทางการยกเลิกการประกวดร้องเพลงประสานเสียงโลกที่จัดขึ้นในจังหวัดคิยองซังใต้ลงอย่างกะทันหันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังพบว่าผู้ร่วมงานชาวอินโดนีเซียหลายสิบคนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทางการจึงสั่งให้เด็กนักเรียนราว 2,000 คน จากโรงเรียน 192 โรงที่ร่วมการประกวดครั้งนี้หยุดเรียนเป็นการชั่วคราว เพราะเกรงว่าเด็กอาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
    ขณะเดียวกัน มีการยกเลิกการจัดเทศกาลนานาชาติเครื่องดนตรีประเภทตีประกอบจังหวะในเมืองซาชอน และนิทรรศการถ้วยชานานาชาติในเมืองกิมแฮ ซึ่งทั้ง 2 เมืองอยู่ในจังหวัดคิยองซังใต้

    ทั้งนี้ นับแต่เกาหลีใต้พบผู้ได้รับการยืนยันว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อพุ่งแตะ 590 รายแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 19:15:32

    สะพานถล่มในเมืองเทียนจินของจีนคร่าชีวิตผู้คน 6 ราย

    [​IMG]

    จีน 15 ก.ค. - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน จากเหตุสะพานพังถล่มในเขตเทศบาลนครเทียนจิน ทางตะวันออกของจีน

    สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า สะพานทางด่วนสายหนึ่งในเทศบาลนครเทียนจิน เกิดพังถล่มลงมาเมื่อเวลา 01.33 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 00.33 น. ตามเวลาในไทย เมื่อคืนนี้ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากท่าเรือเมืองเทียนจินเพียง 800 เมตร และในบริเวณดังกล่าวมีรถบรรทุกพลิกคว่ำอยู่ 5 คัน พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน

    หลังเกิดเหตุทำให้ทางด่วนสายหลักเชื่อมเทศบาลนครเทียนจินกับมณฑลชานซีทางเหนือต้องปิด และทำให้การจราจรแออัดอย่างหนักในย่านใจกลางเมือง สำหรับสาเหตุที่ทำให้สะพานพังถล่ม ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 16:14:03

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    ;aa34ช่วงนี้มีสัมผัสแปลกๆเข้ามาบ่อยมากจนงงไปหมด
    แต่ช่วงนี้นอนไม่สบายเลยเพราะมีพลังแปลกเข้ามารบกวนignorr
    ;k03แถมทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
    แถมรู้สึกหนักในอกเจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้pig_cryy2
    หรือผู้ล่วงลับมาขอให้ช่วยไม่แน่ใจเลย
    ;k03แถมอยู่ดีเกิดอยากร้องให้ขนลุกซูซ่าไปหมด
    อาการมันประหลาดประเลื๊อง
    แถมตัวยังสั่นรู้สึกหนาวข้างในแต่อากาศข้างนอกก็ร้อน
    ;aa34ตัวก็โยกคลอนเวลานั่งสมาธิเกิดอาการสั่น
    จนนึกว่าถูกผีเข้าแต่ก็รู้ตัวตลอด
    อย่างที่เคยเล่าจะรู้สึกได้ในเวลามีแผ่นดินไหว
    ;k03แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเมื่อไหร่
    ช่วงนี้มันแปลกจนเรียกว่ามันรู้สึกกึ๊กกึ๊ย;aa34
    คือไม่รู้จะอธิบายอย่างไรกล้ามาเล่าในห้องนี้เพราะแต่ละคนคงพอสัมผัสได้
    ไปเล่าให้ใครฟังก็หาว่าอุปทาน ;aa34กล้าบอกได้ว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ได้มีจินตนาการอะไรแล้ว;k03ก็ไม่ค่อยสนใจจำอะไร ;aa34แต่ช่วงวันพระที่แล้วกับวันพระนี้ชัดมากขึ้น
    ;k03แต่วันอื่นมันก็มีอาการแต่ไม่ค่อยเหมือนกัน
    วันพระเนี่ยเหมือนจะสัมผัสกับวิญาณที่ทุกข์ทรมาน
    ;k03ก็ไม่ร้ว่าเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรเรา
    หรือว่าต้องการให้ช่วยเมื่อวานignorr
    ;aa34พอรู้สึกก็พยายามสกดอาการแล้วแผ่เมตตา
    และไปกรวดน้ำอุทิศบุญอาการก็หายเป็นปลิดทิ้ง;aa34
    ;aa34คือไม่ใช่คนที่นั่งสมาธิเก่งอะไรติดจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ
    แต่ได้ไปเรียนพลังยูเรอัสและพลังกายทิพย์มาบ้าง
    แต่ช่วงนี้ประหลาดจริงนะมันสังหรณ์ใจว่าจะมีอะไรแต่ไม่รู้ว่าอะไร
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    กลียุค 7 ปี ช่วงระยะเวลาซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก (ค.ศ.2011-2017)

    [​IMG]

    พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"

    ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)

    พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราเอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า

    ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

    จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

    ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

    ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
    ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
    ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
    ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
    ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
    ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
    ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า​

    ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)

    แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
    แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
    แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
    แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
    แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมัน ทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
    แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
    แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์​

    ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก ​

    [​IMG]

    ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

    ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
    ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
    ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
    ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
    ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
    ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
    ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหาย.​


    ตาชั่งแห่งดุลยภาพ และวันชำระบาปของโลก
    โดย Dr.G.G.Junior

    [​IMG]

    ความเชื่อมโยงของมนุษย์กับจักรวาล เป็นธรรมชาติที่ถูกผูกเชื่อมกันมาตั้งแต่ปฐมกาล แห่งการกำเนิดโลกและจักรวาล มิใช่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น ยังรวมสิ่งที่มีชีวิตทั้งหมด และต้องถือว่าเป็นสรรพชีวิต และยังรวมสิ่งที่ไม่มีชีวิต คือสรรพสิ่งทั้งมวลล้วนเชื่อมโยงกัน เป็นธรรมชาติที่สมดุล ตั้งแต่ครั้งนั้นมา ด้วยพลังงานธรรมชาติที่สร้างขึ้น ก่อให้เกิดพลัง แห่งความเคลื่อนไหวหมุนไปพร้อมๆ กับการหมุนของกระแสคลื่นจิต ในสิ่งที่มีชีวิต คลื่นความคิด ซึ่งเป็นพลังงานของคลื่นสมอง
    ไม่ว่าสรรพชีวิตจะกระทำสิ่งใด แม้เพียงหายใจเข้าและออก ก็ส่งผลกระทบถึงตนเอง สรรพชีวิตด้วยกัน และสรรพสิ่งอื่นๆ ซึ่งในขณะนั้น ก็ส่งผลการสั่นสะเทือนกระทบไปทุกอณูของโลกและจักรวาลทั้งนั้น มากหรือน้อยตามความรุนแรงของกระแสคลื่นนั้นๆ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นสรรพชีวิต หรือแม้อณูที่เล็กที่สุดของธาตุใดใด ก็ล้วนส่งผลการกระทำ หรือปฏิกิริยาของตน ต่อเชื่อมกันไปทั้งจักรวาลทั้งสิ้น ทุกขณะเวลา ดังคำกล่าวที่ว่า “เด็ดใบไม้หนึ่งใบสะเทือนถึงจักรวาล” นั่นเอง ​

    มนุษย์พึงตระหนักถึงความสำคัญของตนว่าส่งผลยิ่งใหญ่ต่อจักรวาลเพียงใด อย่าคิดเพียงง่ายๆ ว่าลำพังกำลังการกระทำของตนจะทำอะไรได้ นั่นเป็นความคิดที่ผิด และเป็นโทษภัยอย่างมหันต์ทีเดียว เพราะมนุษย์กระทำสิ่งใดก็ตาม ในช่วงเวลาหนึ่งๆ มนุษย์อื่นก็กำลังกระทำสิ่งอื่น ที่ก่อให้เกิดพลังงานด้านมืด (พลังงานลบ) หรือสว่าง (พลังงานด้านบวก) อยู่ด้วยกันพร้อมๆ กันอีกมากมาย การกระทำใดใดก็ตาม ย่อมแสดงผลเป็นพลังงาน ซึ่งแบ่งแยกได้เป็นสองด้าน ​

    ดังนั้นมนุษย์พึงเข้าใจเสียใหม่ว่า เราเป็นส่วนหนึ่งที่กำลังร่วมสร้างพลังงานด้านใดด้านหนึ่ง ตลอดทุกลมหายใจเข้าออก ของเราทีเดียว พลังงานทั้งสองด้านนั้นหล่อเลี้ยงห่อหุ้มจิตของเราทุกคน และโลกธาตุ ทั้งมวลไว้ แล้วส่งผลสะท้อนย้อนกลับมาหาเรา ด้วยแรงของกรรมคือ กฎแห่งธรรมชาติ ที่มนุษย์ และสรรพชีวิตทุกตัวตน มิอาจหลีกพ้นกรรมของตนได้ ธรรมชาติมีการปรับตัว ดังนั้นธรรมชาติแห่งจักรวาลจึงมีนาฬิกาของการรักษาสมดุล แห่งจักรวาลที่เรียกว่า “ตาชั่งแห่งดุลยภาพ”

    ตาชั่งแห่งดุลยภาพ คือ สิ่งที่แสดงความเป็นจริง เป็นเครื่องวัดการสะสมของพลังงาน ทั้งสองด้านว่า ด้านใดจะมากกว่าน้อยกว่าหรือสมดุลกันแล้ว และส่งรหัสสัญญาณไปยัง ธรรมชาติของจักรวาลให้แสดงผลต่างๆ ตอบสนองไปตามที่ตาชั่งวัดได้ ช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่ตาชั่งแห่งดุลยภาพจะทำงานแล้วส่งรหัสไปยังธรรมชาติทั้งปวงนั้น เรียกว่า หนึ่งช่วง พีริออดิค (Periodic) เปรียบเทียบเวลากับมนุษย์นั้น เท่ากับ 60 ปี 4 เดือน 12 วัน คือ 1 รอบพีริออดิค เท่ากับ 22,047 วัน

    เมื่อถึงรอบเวลาพีรีออดิคท้ายสุดที่ผ่านมาคือ ทางจันทรคติ ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ 2550 แรม 6 ค่ำ เดือน 2 ซึ่งตรงกับทางดาราคติ วันพฤหัสที่ 22 ทุติยฤกษ์เดือน พ.ศ. 2550 แรม 5 ค่ำเดือน 2 การกระทำที่แล้วมา ในอดีตของมนุษย์ ส่งผลให้ช่วงพีริออดิคนี้ ธรรมชาติขาดความสมดุล อย่างรุนแรง จึงนำพาให้ เกิดเหตุสำคัญทางจักรวาล ที่เวียนมาบรรจบ ครบรอบขึ้น 3 ปรากฎการณ์ด้วยกัน แต่ถ้าตาชั่งแห่งดุลยภาพมีผลลัพธ์ว่า จักรวาลยังคงสมดุลอยู่ ปรากฎการณ์ทั้ง 3 นี้ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะกรรมฝ่ายสว่างจะนำพาให้ดวงดวงในจักรวาล หมุนด้วยความสมดุล และไม่หมุนทำมุมดั่ง 3 ปรากฎการณ์ดังต่อไปนี้

    1. ในรอบปีนี้เป็นปีครบรอบ 7,749 ปี พอดีที่ดาวพฤหัส ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และดวงอาทิตย์ มาเรียงตัวทำมุมกันเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า ทำให้แรงดึงดูด และสนามแม่เหล็กของดาวทั้งหมดปรวนแปร เกิดพายุใหญ่ขึ้นทั้งบนบกและมหาสมุทร กระแสไฟฟ้าในบรรยากาศผิดปกติ มนุษย์และสรรพชีวิตประสบภัยพิบัติยิ่งใหญ่ อย่างฉับพลันอยู่เนืองๆ

    2. รอบ 12,000 ปี ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ทุกดวงของระบบสุริยะจักรวาล เรียงตัวกันเป็นเส้นตรง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 5,600 แรงดึงดูดและสนามแม่เหล็ก ปรวนแปร อย่างหนักในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 3 นาที แต่ก็จะทำให้น้ำท่วมสูงในซีกโลกที่ตรงกับ แนวการเรียงตัวของดวงดาวดังกล่าว และเกิดน้ำเหือดหายในซีกโลกด้านตรงข้าม (แนวตั้งฉาก)

    3. รอบ 70,000 ปี แกนกลางดาราจักร HALO ดวงอาทิตย์ และโลกเรียงตัวกัน เป็นแนวตรง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันชำระบาปโลก” พลังงานรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ทุกสิ่งที่ประกอบไปด้วยพลังมืดต้องถูกชำระล้างไป คงเหลือแต่พลังงานฝ่ายสว่าง สร้างโลกใหม่ขึ้นเรียกว่า “ยุคพลังงานใหม่” นั่นเอง ซึ่งจะครบรอบปีที่ 70,000 ใน ค.ศ.2017 มนุษย์ที่มีดวงจิตอันสว่างใสด้วยโพธิจิตก็จะรอดชีวิต เพื่อดำเนินภารกิจการอบรม สั่งสอนให้มนุษย์ที่เกิดขึ้นใหม่ ให้มีการพัฒนาจิตให้สว่างมากกว่าการหลงในวัตถุเหมือน มนุษย์ในปัจจุบันนี้ ที่มีดวงจิตอันขุ่นมัวมืดบอดอับแสงเป็นส่วนใหญ่ ไม่สามารถปรับฟื้นจิตได้แล้ว จึงจำเป็นต้องล้างโลกกันเสียทีในปี ๒๕๖๐ นี้

    นี่คือเหตุแห่งมหันตภัยของโลกครั้งที่จะถึงนี้ โดยที่มนุษย์เป็นส่วนใหญ่ และสรรพชีวิต ได้ร่วมกันสร้างพลังงานฝ่ายมืด คือความเลวร้ายมืดดำทั้งปวง จนหลุมดำไม่สามารถ รับขึ้นไปเก็บไว้ได้อีกแล้ว สุดท้ายมนุษย์นำพาโลก และจักรวาลขึ้นสู่ตาชั่งแห่งดุลยภาพแล้ว มีผลลัพธ์สุดท้ายคือ การเกิดมหันตภัยล้างโลกในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ นี่เอง ตั้งแต่ลมหายใจนี้ ไม่คิดพยายามสร้างกรรมฝ่ายสว่างกันบ้างเลยหรือ มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่น เพื่อร่วมกันสร้าง พลังงานฝ่ายสว่างบนข้อเท็จจริงแห่งธรรมชาติกับข้า "ข้าคือสัญญาธาตุรู้ที่อยู่คู่กับทุกอณูในสรรพสิ่ง"

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _42268860_iran_416_ap.jpg
      _42268860_iran_416_ap.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.4 KB
      เปิดดู:
      16,267
    • 2017.jpg
      2017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      12,393
    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90.9 KB
      เปิดดู:
      12,396
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  16. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968


    เป็นเหมือนกันเลยค่ะ
    รู้สึกแปลกๆ หนาวข้างใน เหมือนมีไฟฟ้าสถิตย์ที่มือตลอดเวลา (ตอนแรกคิดว่าเป็นโรคหนาวสะท้าน) แต่อากาศร้อน นอนสมาธิ รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ลืมตามาดูแก้วน้ำก็ปรกติดี ไม่มีอะไร แต่พอหลับตานอนสมาธิใหม่ ก็รู้สึกว่าเตียงนอนไหว เหมือนแผ่นดินไหว (นึกว่ามีใครที่ไหนมาแกล้งเขย่าเตียงเลยไม่ได้สนใจ)

    แล้วก็รู้สึกอีกอย่างว่ากำลังถูกให้เร่งปฏิบัติ ออกนอกลู่นอกทางทีไรโดนต้อนอย่างหนักให้กลับมาเร่งปฏิบัติแทบทุกครั้ง

    Ps.พรุ่งนี้ตอนเย็นใครว่างขอเชิญฝึกสมาธิกับอาจารย์คณานันท์ รายละเอียดโครงการดูได้ที่กระทู้สอนกรรมฐานของคุณคณานันท์ค่ะ อยากให้มากับเยอะๆ เพราะว่าเดือนนี้มีสุริยุปราคาซึ่งทางโหราศาสตร์เชื่อว่าจะมีเหตุไม่ดี มาฝึกปฏิบัติกันเยอะๆนะคะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
     
  17. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    ใช่เลยอาการแบบนี้เหมือนมีอะไรซ่าๆทั้งมือบ้างตลอดตัวบ้าง
    เหมือนเหน็บแต่ไม่ใช่เหน็บหนาวข้างในแถมบนหัวก็เต้นตุ๊บๆ
    นอนสมาธิก็เป็นแบบเดียวกันเลย
    เอาล่ะแปลว่ามีพวกเป็นเหมือนกันแล้ว
    ไม่ใชเรื่องประหลาดแล้ว
     
  18. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ข่าวน่าสนใจค่ะ

    <table id="post2266124" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] วันนี้, 07:32 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->vacharaphol<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2266124", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Oct 2005
    ข้อความ: 8,182
    Groans: 0
    Groaned at 14 Times in 11 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 15
    ได้รับอนุโมทนา 21,352 ครั้ง ใน 4,520 โพส
    พลังการให้คะแนน: 2570 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2266124" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->นักวิจัยมะกันใช้ภาพถ่ายดาวเทียมติดตาม “สึนามิ”<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-0334174069738588"; /* 300x250, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 1/12/09 */ google_ad_slot = "0317131318"; google_ad_width = 300; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: inline-table; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 300px;"><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: block; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 300px;"><iframe allowtransparency="true" hspace="0" id="google_ads_frame1" marginheight="0" marginwidth="0" name="google_ads_frame" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0334174069738588&dt=1247750557244&lmt=1247750556&output=html&slotname=0317131318&correlator=1247750557244&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%258A%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%2596%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1-%25E2%2580%259C%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B4%25E2%2580%259D.197065/&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff2%2F%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A8%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595-%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%2F&frm=0&ga_vid=1098468673.1234540285&ga_sid=1247748931&ga_hid=453865228&ga_fc=true&flash=10.0.12&w=300&h=250&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_tz=420&u_his=23&u_java=true&u_nplug=25&u_nmime=105&dtd=26&xpc=hpz27DgWQy&p=http%3A//palungjit.org" style="left: 0pt; position: absolute; top: 0pt;" vspace="0" scrolling="no" width="300" frameborder="0" height="250"></iframe></ins></ins>
    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left">ASTVผู้จัดการออนไลน์</td><td class="date" valign="baseline" align="left">.</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="center" align="middle">[​IMG]</td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="top" align="middle"><table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="baseline" align="left"><table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" align="middle"><table width="345" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="top" width="345" align="middle">[​IMG] </td></tr><tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ภาพถ่ายดาวเทียมเกาะภูเก็ตของไทย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม </td></tr></tbody></table></td><td width="5">[​IMG]</td></tr><tr><td valign="top" align="middle" height="5">[​IMG]</td></tr></tbody></table> เอ เจนซี - ทีมนักวิจัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ศึกษาภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังในช่วงที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี 2004 และพบแนวเส้นขอบของคลื่นดังกล่าวชัดเจน จึงอาจเป็นหนทางใหม่ในการตรวจจับคลื่นยักษ์ได้อย่างรวดเร็วในอนาคต และประกาศเตือนประชาชนได้ทันท่วงที

    ทีมนักวิจัยดังกล่าวได้ย้อนกลับไปตรวจดูภาพถ่ายดาวเทียมในมหาสมุทรอินเดียใน ช่วงเวลาที่เกิดคลื่นสึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม 2004 ซึ่งเข้าซัดทำลายบริเวณชายฝั่งทะเลในอินโดนีเซีย ไทย ศรีลังกา และอีกหลายประเทศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 228,000 คน

    “เราพบระลอกคลื่นบนผิวน้ำ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดอย่างดีถึงความรุนแรงแท้จริงของคลื่นสึนามิตลอดแนวเส้น ขอบของคลื่น” โอเลก โกดิน แห่งสำนักงานบริหารด้านมหาสมุทรและภูมิอากาศแห่งชาติ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโบลเดอร์ มลรัฐโคโลราโดแถลง

    เหตุการณ์สีนามิดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในอินโดนีเซีย

    ที่ผ่านมา รัฐบาลหลายประเทศต่างเร่งติดตั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้าโดยอาศัยการสังเกตทุ่น ลอยกลางมหาสมุทรเป็นอุปกรณ์ตรวจจับความผิดปกติของคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่ง

    ทว่า ระบบดังกล่าวยังขาดความสมบูรณ์และยังอาจระบุเป้าหมายผิดพลาด อีกทั้งการติดตั้งทุ่นลอยก็ไม่สามารถทำได้ทุกจุด ยิ่งกว่านั้นโดยปกติแล้วคลื่นสึนามิจะตรวจพบได้ก็ต่อเมื่อเข้าสู่เขตน้ำตื้น แล้ว แต่ในเขตน้ำลึกกลางมหาสมุทรจะแทบไม่พบความผิดปกติบนผิวน้ำเลย
    ดาวเทียมสามารถตรวจพบระลอกคลื่นแม้เพียงเล็กน้อยได้ อย่างไรก็ตาม ดาวเทียมที่มีใช้อยู่ตอนนี้ ไม่ได้จับภาพครอบคลุมเขตทะเลมหาสมุทรไปหมดทั่วทั้งโลก

    ทีมนักวิจัยของโกดิน พบว่า ในขณะที่คลื่นสึนามิกำลังเคลื่อนตัวผ่านบริเวณกลางมหาสมุทร มันจะกวนให้น้ำวนและบริเวณผิวน้ำจะกลายเป็นสีคล้ำกว่าปกติไปตลอดแนวขอบของ คลื่นทีเดียว

    มีดาวเทียมธรรมดาจำนวนมากเคยตรวจพบผิวน้ำสีดำเช่นนี้ด้วยเช่นกัน และมีการรายงานไว้ในวารสาร Natural Hazards and Earth System Sciences

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table><table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td valign="center" align="middle">[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    <!-- google_ad_section_end -->
    </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("2266124")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> [​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2009
  19. Ghosty Rat

    Ghosty Rat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +365
    ขอโพสลิงค์ที่เก็บได้แล้วเผื่อคนที่อยากรู้เกี่ยวกับรอยเลื่อนหรือความรู้อื่นๆครับ ท่านไม่ชอบก็ขออภัยล่วงหน้าหรือมีแล้วก็สามารถทำการลบได้ ใครอยากเซฟหรือไปแชร์ให้คนอื่นรู้ก็ยินดีเนอะ

    อันนี้เกี่ยวกับรอยเลื่อน
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อย.ขอความร่วมมือผู้ผลิต-นำเข้า ค้าปลีก-ส่ง ไม่ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 16 ก.ค.-อย.ขอความร่วมมือผู้ผลิต-ผู้นำเข้าหน้ากากอนามัย พ่อค้าทั้งปลีก-ส่ง ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง ห้ามกักตุนสินค้า และห้ามมีข้อจำกัดในการจำหน่ายและการส่งสินค้าไปยังประชาชน พร้อมแนะนำวิธีการใช้อย่างถูกวิธีเพื่อประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อโรค

    นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้หลายคนหาซื้อหน้ากากอนามัยมาเพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ส่งผลให้หน้ากากอนามัยมีราคาสูงขึ้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิต ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยมีบริษัทที่ผลิตหน้ากากอนามัยจำนวน 7 บริษัท

    โดยทำหนังสือกำชับไปยังผู้ผลิตให้มีการผลิตอย่างเต็มกำลัง ไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้กักตุน รวมทั้งให้คงสินค้าให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศไปแล้ว และในขณะนี้ยังได้ขอความร่วมมือเพิ่มเติมไปยังผู้นำเข้าหน้ากากอนามัย ร้านขายยาที่มีการจำหน่าย รวมไปถึงพ่อค้าปลีก-ส่ง ไม่ให้ขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเกินจริง ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมประชาชน

    เลขาธิการฯ กล่าวว่า การสวมหน้ากากอนามัยนอกจากจะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อแล้ว ยังถือเป็นเกราะป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ดีอีกด้วย โดยมีวิธีการใช้ ดังนี้ ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมใส่ สวมให้คลุมทั้งปากและจมูก หน้ากากอนามัยแบบกระดาษ สวมโดยใช้ด้านสีขาวเข้าข้างใน ส่วนด้านที่เป็นสีไว้ข้างนอก และให้ด้านขอบที่มีลวดอยู่ด้านบนแนบกับสันจมูก ซึ่งหน้ากากแบบนี้นิยมใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

    แต่หากใช้งานเพียง 2-3 ชั่วโมง แบบไม่สมบุกสมบัน เช่น ใช้เฉพาะในรถโดยสาร หรือในที่ทำงาน ก็นำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ไม่ควรใช้เกิน 2-3 วัน หน้ากากอนามัยแบบผ้า สามารถป้องกันเชื้อโรคได้บ้าง เมื่อใช้แล้วนำมาซักด้วยผงซักฟอก ตากให้แห้งและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ หน้ากากชนิดนี้สามารถทำเองด้วยวิธีง่าย ๆ และประหยัดอีกด้วย การสวมและถอดหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ควรใช้มือจับตรงขอบหน้ากาก และห้ามจับตรงกลางหน้ากากที่สัมผัสปากและจมูก

    นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงหน้ากากอนามัยของประชาชน อย.จึงส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนให้หันมาผลิตหน้ากากอนามัยให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์เครื่องมือแพทย์ ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ มีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพื่อใช้ป้องกันตนเอง และป้องกันคนในชุมชนให้ห่างไกลจากไข้หวัดใหญ่ 2009 แถมยังช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายได้ดีอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 15:03:52

    โรงเรียนกวดวิชาวอนอย่าปิดเรียนอีกอ้างกระทบต่อเด็ก

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 16 ก.ค.- นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดเผยหลังหารือกับสมาคมโรงเรียนกวดวิชาและตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขกรณีขอร่นเวลาปิดการเรียนการสอนว่า

    สช.จะทำตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขและมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการหารือวันนี้พบว่าโรงเรียนกวดวิชามีปัญหาที่การจัดตารางสอนชดเชย เนื่องจากเด็กมีเวลาเรียนน้อย และที่ผ่านมาโรงเรียนกวดวิชาทุกแห่งได้ปฏิบัติตามมติ ครม.อย่างเคร่งครัด ทั้งแจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และคัดกรองเด็กป่วยไม่ให้เข้าห้องเรียน จึงไม่ต้องการให้มีการปิดโรงเรียนกวดวิชาอีกระลอกหนึ่ง หากมีการแพร่ระบาดอีกครั้ง

    ด้านนายพิสิฏฐ์ วัฒนผดุงศักดิ์ กรรมการสมาคมโรงเรียนกวดวิชา กล่าวว่า หลังปิดการสอน 1 สัปดาห์เกิดผลกระทบกับการสอบกลางภาคของเด็กในช่วงนี้ เพราะต้องสอนชดเชยหลังวันที่ 28 กรกฎาคม และตารางสอนจะกระทบต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเห็นใจอย่าปิดโรงเรียนกวดวิชาอีก เพราะที่ผ่านมาไม่มีการยืนยันแน่นอนว่าเด็กนักเรียนติดเชื้อจากโรงเรียนกวดวิชา หากได้รับการพิจารณาเปิดเร็วขึ้นก่อนวันที่ 28 กรกฎาคมนั้น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเด็กจะได้มีเวลาเรียนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 17:08:24

    เชื้อไวรัสตั้งต้น-ไข่เพาะเชื้อผลิตวัคซีนป้องกันหวัด 2009 ถึงไทยแล้ว

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 16 ก.ค.-เชื้อไว้รัสตั้งต้นจากรัสเซีย และไข่เพาะเชื้อจากเยอรมนี สำหรับผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ถึงประเทศไทยแล้ว ผอ.องค์การเภสัชฯ คาดนำฟักเชื้อและผลิตเป็นวัคซีนได้ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ต้องทดสอบก่อนนำมาใช้รักษาผู้ป่วย

    เชื้อไว้รัสตั้งต้นจากประเทศรัสเซีย และไข่เพาะเชื้อจากประเทศเยอรมนี จำนวน 350 ฟอง สำหรับผลิตวัคซีนเชื้อเป็น เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มาถึงประเทศไทยแล้ว บ่ายวันนี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลาใกล้เคียงกัน โดยมี DR.IRINA V KISELEVA ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา องค์การอนามัยโลก จากประเทศรัสเซีย เดินทางมาด้วย พร้อมกล่าวมั่นใจว่าเทคโนโลยีที่นำมาเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ประเทศรัสเซียใช้รักษาผู้ป่วยหลายร้อยล้านคน นาน 10 ปีแล้ว โดยตนเองจะอยู่ประเทศไทยนาน 2 สัปดาห์

    ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ไข่เพาะเชื้อฯ ถึงประเทศไทยแล้ว อยู่ที่สนามบิน จากนั้นจะส่งตรงไปที่โรงงานผลิต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม ต่อไป ซึ่งไข่จะถูกนำไปฟักตัวเป็นเวลา 9 วันในห้องควบคุมอุณหภูมิ ส่วนเชื้อไวรัสตั้งต้นต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส โดยเชื้อดังกล่าวอยู่ที่องค์การเภสัชกรรม คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าจะนำไปฟักเชื้อในไข่ และจะได้เป็นวัคซีนปลายเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ก่อนนำวัคซีนไปรักษาผู้ป่วย ต้องผ่านการทดสอบ สำหรับโรงงานผลิตวัคซีนแห่งนี้มีความสามารถผลิตวัคซีนได้ 600,000 โดส/สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 17:19:53

    นักเรียนปราจีนบุรีติดเชื้อไข้หวัด 2009 เพิ่มขึ้น

    [​IMG]

    ปราจีนบุรี 15 ก.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบที่โรงพยาบาลเจ้าพระอภัยภูเบศรอำเภอเมืองปราจีนบุรี ปรากฏว่า มีผู้ป่วยกลุ่มนักเรียนและวัยรุ่นป่วยเป็นไข้หวัดไปพบแพทย์เพื่อคัดกรองเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 และเขต 2 มีนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลายแห่ง ผู้บริหารโรงเรียนต้องสั่งประกาศปิดโรงเรียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

    ด้านนายพิศุทธิ์ วีระจิตต์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทุกโรงเรียนเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด มีการคัดกรองทุกวัน นักเรียนที่มีอาการป่วยไม่สบายได้แจ้งผู้ปกครอง พร้อมให้หยุดเรียนทันที ล่าสุดนักเรียนนักเรียนที่ต้องให้หยุดเรียนรวมยอดทั้งจังหวัดประมาณ 1,800 คน สั่งปิดโรงเรียน 4 แห่ง พบนักเรียนที่ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 15 คน

    นอกจากนี้ ได้ส่งการให้เจ้าหน้าที่ในโครงการระบบติดตามช่วยเหลือนักเรียนประสานกับผู้บริหารสถานศึกษาให้ติดตามดูแลนักเรียนถึงบ้านทุกคนทุกหลังคาเรือน นำผ้าปิดปากอนามัยไปแจก พร้อมแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อป้องการแพร่ระบาดของโรคอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-15 18:39:48

    ทุกพื้นที่ยังคงคุมเข้มหวัด 2009

    [​IMG]

    ภูมิภาค 16 ก.ค.- สาธารณสุขโคราชเผยมีผู้ป่วยหวัด 2009 อยู่ตามโรงพยาบาลกว่า 30 ราย ระดม อสม.ช่วยสกัดระบาด ขณะที่เรือนจำบุรีรัมย์ความสะอาดสถานที่ทุกซอกทุกมุม กันผู้ต้องขังป่วย ส่วนนักเรียนชายแดนใต้ยังขาดแคลนหน้ากากอนามัย

    นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า โรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ตัวเมืองและอีก 31 อำเภอ มีประชาชนที่เจ็บป่วยเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 100 คน โรงพยาบาลแต่ละแห่งเก็บตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยไข้หวัดไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เพื่อดูว่ามีเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ ส่วนผู้ป่วยก่อนหน้านี้มีผลยืนยันการตรวจพบเชื้อดังกล่าวและนอนรักษาตัวอยู่ในตามโรงพยาบาลขณะนี้ 31 ราย

    สาธารณสุขจังหวัดจึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกอำเภอเร่งให้ความรู้การป้องกันโรค และร่วมตรวจสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น ร้านอินเทอร์เน็ต สถานบันเทิง และห้างสรรพสินค้า จากการลงพื้นที่ประชาชนส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจดี และใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่วนสถาบันการศึกษาที่ปิดสอนชั่วคราวหลายแห่ง หลังพบผู้ป่วยและทำความสะอาดสถานที่ เช่น โรงเรียนมารีวิทยา โรงเรียนสุรนารีวิทยา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ล่าสุดเปิดเรียนตามปกติแล้ว

    นายธีรพัฒน์ หนูประดิษฐ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกตา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส กล่าวว่า ครูและนักเรียนมีความตื่นตัวในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอนั้น ได้แก้ปัญหาจัดซื้อหน้ากากอนามัยมาแจกให้นักเรียนเพียงบางส่วนจากทั้งหมด 677 คน เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ โดยเฉพาะนักเรียนชั้นอนุบาลมีภูมิต้านทานโรคน้อย

    ด้านนางประภาศรี อุยยามฐิติ ผู้อำนวยการโรงเรียนสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า วันที่ 16-17 ก.ค.นี้ โรงเรียนประกาศปิดชั่วคราว เนื่องจากช่วงวันที่ 4 – 15 ก.ค.ที่ผ่านมา พบนักเรียน 3 ราย ติดหวัด 2009 โดยอาการหายแล้ว 1 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 2 ราย และระหว่างการปิดเรียนนั้นจะเร่งทำความสะอาดสถานที่ เพราะวันที่ 18-19 ก.ค.นี้ โรงเรียนจะใช้เป็นสถานที่สอบรวม ซึ่งจะมีนักเรียนแต่ละโรงเรียนเข้าสอบจำนวนมาก

    ส่วนเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ทำความสะอาดสถานที่และเรือนนอนของผู้ต้องขัง พร้อมตรวจสุขภาพคัดกรองผู้ต้องขัง ซึ่งนายสุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ ผู้บัญชาการเรือนจำ ระบุว่าจากการตรวจคัดกรองผู้ต้องขังทั้งชายและหญิงทั้งหมด 1,222 คน ยังไม่พบผู้ต้องขังรายใดที่มีอาการไข้ ส่วนญาติที่มาเยี่ยมนั้น จะให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนเข้าพบผู้ต้องขัง เพื่อป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 11:58:08

    ทหารพรานยึดอาวุธสงคราม ซุกเชิงเขาหมู่บ้านชายแดนตาก

    [​IMG]

    ตาก 16 ก.ค.- เมื่อเวลา 14.00 น. พ.อ.นพดล วัชรกิจบวร ผู้บังคับการเฉพาะกิจ กรมทหารพราน ที่ 35 นำกำลังทหารพรานตรวจค้นบริเวณเนินเขาหลังหมู่บ้านหนองบัว ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ยึดอาวุธปืนสงคราม 13 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า 1,000 นัด และระเบิดอีก 9 ลูก

    เบื้องต้นคาดว่าเป็นอาวุธสงครามถูกลอบลำเลียงมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านช่วงมีเหตุการสู้รบประมาณเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าสองยาง เพื่อสืบหาที่มาที่ไปและผู้กระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-16 18:21:34

    ที่มา MCOT News By Thai News Agency : MCOT dot Net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...