ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    6 พ.ค. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พาเที่ยวว่าที่ฐาน เชียงคาน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คืนนี้ ผมต้องเดินทางขึ้น เชียงคาน จังหวัด เลย มีจุดหมาย 3 ประการ คือ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ซื้อแท็งค์น้ำ จากเงินที่เหลือจากการทำรางน้ำ 1 ใบ<O:p</O:p
    ดูพื้นที่ๆจะนำคนไปอยู่และติดต่อขอซื้อที่ดิน<O:p</O:p
    นัดพบกับกลุ่มฐานสูงเนิน เพื่อขอพาคนไปอยู่เบื้องต้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    รถออกจากท่ารถ รังสิต 23.15 น. ล่าช้ากว่ากำหนด ตามเวลาคือ 22.30 น. รถที่ผมขึ้นคือ บ.ข.ส. 999 เป็นรถนอน 24 ที่นั่ง ราคา 694 บาทต่อเที่ยว<O:p</O:p
    รถแวะที่ท่ารถ สีคิ้วเพื่อทานอาหาร เวลา 01.00 น.<O:p</O:p
    <O:p
    เวลา 7.00 น. รถถึง เชียงคาน ใช้เวลาในการเดินทาง 8.00 ช.ม. จากนั้นผมกับเพื่อนบ้านรุ่นพี่ทานอาหารว่างที่ตลาด เชียงคานและซื้ออาหารไว้สำหรับทานบนวัด 3 วัน<O:p
    <O:p
    ผมได้โทรฯ ให้รถบนวัดมารับผมกับเพื่อน เพื่อขึ้นวัด ระยะทาง จากตัวตลาดถึงบนวัด ประมาณ 13 ก.ม. เมื่อรถมารับผมได้บอกกับคนขับถึงจุดประสงค์ คนขับได้พาผมและเพื่อนขึ้นวัดก่อน บนวัดผมและเพื่อนได้ไปกราบพระประทาน รอยพระพุทธบาทและหลวงปู่เย็น จากนั้นก็ได้ลงมาที่บ้านผาแบ่น คนขับได้พาผมไปดูที่ๆชาวบ้านฝากขาย <O:p
    <O:p
    พื้นที่ตรงนี้ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]4 ไร่</st1:metricconverter> ไม่แบ่งขาย ราคาไร่ละ หนึ่งแสนบาท ที่ติดแม่น้ำโขง เป็นสวนเก่า ข้อดีคือติดแม่น้ำ ข้อเสียคือ ทางเข้าเป็นของส่วนบุคคลยังไม่ยกให้หลวง แต่ผมมีเงินแค่แสนเดียว ผมจึงให้คนขับพาไปดูที่อื่นๆ

    <O:pแปลงที่สอง มี <st1:metricconverter ProductID="12 ไร่" w:st="on">12 ไร่</st1:metricconverter> เป็นของคนขับเอง เป็นสวนมะม่วง ที่ตรงนี้ไม่ขาย <O:pแปลงที่สาม มี <st1:metricconverter ProductID="7 ไร่" w:st="on">7 ไร่</st1:metricconverter> เป็นของคนขับเอง ที่ติดถนนใหญ่แต่ยังเป็นลูกรังอยู่ ที่ตรงนี้สวยมาก เป็นสวนมะม่วงเช่นเดียวกัน ห่างจากอนามัยและปั้มน้ำมัน ประมาน <st1:metricconverter ProductID="200 เมตร" w:st="on">200 เมตร</st1:metricconverter> ผมคุยกับคนขับ ขอแบ่งสัก 1ไร่ เพื่อที่จะนำคนมาอยู่ เมื่อมีภัย คนขับบอกต้องถามภรรยาก่อน เมื่อไปถามตัวภรรยาก็บ่ายเบี่ยงไม่อยากขาย แต่จะแนะนำรายอื่นให้ <O:p
    <O:p
    วันต่อมาผมก็ถามและขอแบ่งซื้อที่ของคนขับอีกครั้ง ผมบอกกับเขาว่า ถ้าผมเอง ผมไม่อยากซื้อเพราะไม่รู้จะซื้อไปทำไม? ผมอยู่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เป็นคนรวย เงินที่ซื้อเป็นเงินจากประกันชีวิต ต้องรอถึงเดือนตุลาคม ถึงจะคืนให้ผมและเป็นเงินก้อนเดียวที่ผมมีอยู่ ที่จะซื้อเพราะต้องการจะช่วยเหลือผู้คน เมื่อมีภัยมา ถ้าภัยยังไม่มาก็ให้เขาเก็บผลไม้ขายต่อไป ถ้าผมไม่เริ่มต้นซื้อที่ งานที่ผมตั้งใจช่วยคนก็จะไม่เดิน <O:p

    ตกลงสามีภรรยาคู่นี้ ยอมขายที่ให้ผมและจะขายทั้งหมดถ้ามีรายอื่นๆสนใจ เรื่องซื้อที่ถือว่าสำเร็จไปขั้นที่ 1 รอเดือนตุลาคม เมื่อผมได้เงินแล้ว ผมจะขึ้นไปซื้อ ส่วนจะกี่ไร่ต้องดูเพื่อนผมด้วย ผมบอกกับคนขายว่าผมไม่วางเงินมัดจำเพราะเชื่อในคำพูดของกันและกันและเชื่อในอีกมิติเพราะท่านอยู่เบื้องหลังของงานนี้ทั้งหมด<O:p</O:p
    <O:p
    ฐานสูงเนิน<O:p
    <O:p
    เวลาประมาณ 18.00 น. รถตู้ คณะฐานสูงเนิน จากกรุงเทพฯ ขึ้นมาถึงวัดตามที่ได้นัดพบกัน ช่วงทานข้าวผมได้เอ่ยขอนำผู้คนไปอยู่สูงเนินในตอนต้นจาก เจ้าของที่ ท่านยังแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะที่ตรงนี้เป็นของลูกชาย จะต้องปรึกษากับลูกชายอีกที ถ้าเป็นผมเองท่านไม่ขัดข้องแต่ถ้าเป็นคนนอก ท่านขอคิดดูก่อน ตอนเช้าคณะนี้ได้ฝากปัจจัยถวายวัดไว้ หนึ่งหมื่นบาท เพื่อซื้อแท็งค์น้ำ ผมจึงจัดการซื้อจากตัวเชียงคาน รวม 2 ใบ ราคาใบละ เจ็ดพันห้าร้อยบาท ขนาดความจุ <st1:metricconverter ProductID="2,000 ลิตร" w:st="on">2,000 ลิตร</st1:metricconverter><O:p</O:p
    <O:p
    เป็นอันว่าภารกิจที่ตั้งใจไว้สามเรื่อง ได้ทำเสร็จ เพียงแต่รอผล เรื่องนำคนไปอยู่ที่สูงเนินและซื้อที่ดินที่เชียงคานในเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้<O:p</O:p
    <O:p
    พญานาคมีจริงหรือไม่ ? ...3<O:p
    <O:p
    คืนวันที่ 7 พ.ค. 52 ในขณะที่ผมนอนสมาธิ ผมนอนเป็นอันดับที่ 2 รองจากเพื่อนที่ไปด้วยกัน ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 เป็นเพื่อนกลุ่มสูงเนิน ผมได้ยินเสียง...ฟู่...ฟู่ ดังจากช่องว่างระหว่างที่นอน 2 ไปหา 3 เสียงดังอยู่สักพักก็เงียบ ผมรู้ทันทีว่า ท่านอยู่แถวนี้ แม้ในเวลากลางคืนขณะที่นอนหลับ ท่านก็เลื้อยอยู่ใต้ที่นอนผม ความรู้สึกคือเหมือนมีอะไร? มาดุนหลังผมให้สูงขึ้นแล้วก็หายไป<O:p</O:p
    เช้าวันใหม่ เพื่อนผมก็ได้มาเล่าให้ผมฟังถึงเรื่องเสียง...ฟู่...ฟู่ ให้ผมฟัง ผมก็บอกว่าผมได้ยินเหมือนกัน ส่วนเรื่องท่านมาดุนหลัง เพื่อนบอกกับผมว่า เมื่อคราวที่ขึ้นมาทำรางน้ำก็ได้รับรู้เหมือนกันและคราวนี้นอกจากได้ยินเสียงแล้ว ยังได้กลิ่นหมาก กลิ่นฉุนมาก<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2009
  2. aom-am 1

    aom-am 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +731
    -----

    เมื่อคืนฝันเหมือนกันค่ะ คล้ายกับคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Nakamura<!-- google_ad_section_end -->
    ในฝันเห็นน้ำสูงเข้าท่วมพื่นที่ไหนสักแห่ง(ไม่ทราบว่าที่ไหนค่ะ) แต่ตัวเองเป็นผู้ดูอยู่บนที่สูง น้ำมาเร็วมาก คิดในใจประมาณ 5 วินาทีก็ท่วมมิดหัวคนแล้วค่ะ แล้วก็เห็นคนขี่มอเตอร์ไซพยายามขี่รถฝ่าน้ำ แต่โดนหมอกสีขาวดูดทั้งคนทั้งรถเข้าไปเหมือนในหนังเลย

    อันนี้คิดมากไปป่าวคะ หรือว่าเป็นนิมิต รบกวนท่านผู้รู้ทุกท่านด้วยค่ะ

    fishh_<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568283", true); </SCRIPT><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_568283", true); </SCRIPT>
     
  3. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    ประกาศเตือน...เรื่องการบอกบุญทาง พีเอ็ม(ข้อความส่วนตัว) จากคนที่ไม่รู้จัก ขอให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ

    อ้างอิง:


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ดิฉันได้รับ PM ข้อความเดียวกันจากสอง account คือ จากคุณ (เซ็นเซอร์) (ดูข้อความข้างล่างค่ะ) และอีกท่านจะ forward ให้ใน PM อีกอันค่ะ

    พออ่านข้อความแล้วดิฉันรู้สึกสงสารและกำลังจะโอนเงินไปช่วยน้องเขา แต่พอดีเหลือบไปดูที่ข้อมูลตัว ของผู้ส่งข้อความพบว่าไม่เคยโพสต์ในเว้บนี้มาก่อน (เหมือนกับ sign up มาเพื่อมาส่นง PM อย่างเดียว)

    ดิฉันเลยเข้าไป search ชื่อดช.อุลิต ใน google จึงพบว่า มีคนมาร้องเรียนเรื่องการโพ้สต์ข้อความนี้ในเว็บต่างๆ โดยบอกว่า ดช.อุลิตนั้นจริงๆ เป็นคนอายุ 40 ปี และเจ้าของเรื่องจริงๆ ชื่อ ดช.จักกรี

    จึงรบกวน webmaster ช่วยติดตามความเคลื่อนไหวของคนที่ส่งข้อความด้วยค่ะ

    (ลิงค์ข้างล่างเป็นลิงค์ที่ search เจอข้อมูลค่ะ)
    http://www.pantown.com/board.php?id=9651&area=1&name=board1&topic=8641&action=view
    http://groups.google.com/group/siamhrm/browse_thread/thread/7f6e8cea426256c3/42f0e68a94eed9c5?lnk=raot
    http://news.buddyjob.com/social/show_news-3887-2.html
    ขอบคุณค่ะ

    อ้างอิง:

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ (เซ็นเซอร์)
    เด็ก ป.5 เรี่ยไรเงินเพื่อน หาเงินช่วยแม่ "ถ่ายเลือด"

    [​IMG]

    [​IMG]

    วันนี้ขอพักเรื่องเครียด ๆ เกี่ยวกับปัญหาการเมืองไทยสักวัน เพราะวันนี้ "คอลัมน์นิตย์" มีหนึ่งข่าวของ "ลูกกตัญญู" ที่อยากเก็บมาเล่าสู่กันฟัง ข่าวนี้เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ต้องการหาเงินไปช่วยแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ด้วยการเรี่ยไรเงินเพื่อนนักเรียนในโรงเรียน และครูอาจารย์
    <O></O>
    เรื่องดังกล่าวเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (5 ม.ค.2552) โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดปากลาน หมู่ 10 ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก เดินเรี่ยไรเงินจากเพื่อนนักเรียน และคณะครูอาจารย์ เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลมารดาที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จากการสอบถามทราบชื่อคือเด็กชายอุลิต จันทราภัย อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 กำลังเดินถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ช่วยบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือถ่ายเลือดให้แม่ผมด้วยครับ” จากนั้นก็เดินเรี่ยไรไปตามห้องเรียนต่าง ๆ โดยมีเพื่อนในชั้นเรียนถือพานใส่เงินเดินตาม สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก จนทำให้เพื่อนนักเรียนและคณะครูถึงกับน้ำตาซึมด้วยความสงสาร ก่อนจะหยิบเงินช่วยเหลือตามกำลัง
    <O></O>
    เมื่อสอบถาม ด.ช.อุลิต เล่าทั้งน้ำตาว่า แม่ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวมากว่า 3 ปีแล้ว ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการถ่ายเลือดเดือนละ 3,500 บาท แต่ด้วยฐานะที่บ้านยากจนจึงไม่สามารถหาเงินมารักษาได้ ตนจึงตัดสินใจเดินเรี่ยไรจากเพื่อนนักเรียนและอาจารย์ เพื่อขอความช่วยเหลือ ตนอยากจะเรียนให้สูงกว่านี้เพื่อจะได้หาเงินมารักษาแม่ เพื่อที่ท่านจะได้อยู่กับตนไปนาน ๆ ส่วนเงินที่ได้รับบริจาค ครูได้พาไปเปิดบัญชีแล้วที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตาก ประเภทออมทรัพย์ เลขบัญชี 744-210591-3

    ขณะที่ นายนิกูล อ่อนละมูล ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ครอบครัวของ ด.ช.อุลิต มีฐานะยากจน พ่อพิการขาซ้ายขาดด้วนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปไม่ค่อยมีรายได้ ส่วนแม่ตั้งแต่ป่วยก็ไม่สามารถทำงานได้ โดยทุกอาทิตย์ ด.ช.อุลิต จะเดินเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาแม่ของตัวเองซึ่งที่ผ่านมาก็มีครูอาจารย์ช่วยเหลือประจำ อย่างไรก็ตาม ด.ช.อุลิต มีบ้านพักอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร และต้องตื่นนอนแต่เช้าเพื่อเดินมาเรียนให้ทัน ตนจึงอยากให้ผู้ที่มีความเมตตาช่วยเหลือเด็กด้วย

    ด้าน นางสมพร แม่ของ ด.ช.อุลิต กล่าวว่า ตนมีลูกสองคน ด.ช.อุลิต เป็นลูกคนโต ส่วนคนเล็กกำลังเรียนชั้นอนุบาล หลังจากที่ตนล้มป่วยลงก็ไม่สามารถออกทำงานได้ เพราะต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ บางเดือนไม่มีเงินก็ไม่สามารถไปโรงพยาบาลเพื่อถ่ายเลือดได้ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เดินไม่ไหว ตัวเหลืองซีดและมีอาการวูบ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณผู้ให้ความช่วยเหลือที่ทำให้ตนยังมีชีวิตเลี้ยงดูลูกอยู่
    <O></O>
    แม้วันแม่จะผ่านมานานแล้ว แต่การ "ทำดีเพื่อแม่" สามารถทำได้ทุกวัน เช่นเดียวกันกับการกระทำที่น้องอุลิตที่ "ทำเพื่อแม่"...

    ***ขอเชิญร่วมบริจาคเงินให้น้องเขาหน่อยนะค่ะ มีน้อยก็ให้น้อยก็ได้ค่ะ สัก 100 บาท หรือ 200 บาท ก็ได้ค่ะ ถือว่าทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ที่ยากไร้กว่าเรานะค่ะ โดยการโอนเงินหรือการฝากเงินเข้าบัญชีของน้องเขานะค่ะ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด สาขาตาก ชื่อบัญชี อุลิต จันทราภัย บัญชีเลขที่ 744-210591-3 ประเภทออมทรัพย์ ช่วยครอบครัวน้องเขาหน่อยนะค่ะ
    ขอขอบคุณทุกท่านที่มีจิตศรัทธาเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันค่ะ***

    หมายเหตุ....ส่งเมล์หรือข้อความนี้ต่อให้เพื่อนๆ ด้วยนะค่ะน้องเขาจะได้มีคนช่วยเหลือมากขึ้นค่ะ





    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    หมายเหตุ พีเอ็ม,PM คือ ข้อความส่วนตัว:<!-- google_ad_section_end -->
    จาก... ประกาศเตือน...เรื่องการบอกบุญทาง พีเอ็ม(ข้อความส่วนตัว) จากคนที่ไม่รู้จัก ขอให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2009
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ว่าแต่เห็นแล้วครับ

    อ่านทุกกระทู้

    แต่สิ่งที่ไปเป็นการรบกวนครูบาอาจารย์ท่าน

    ส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากการ ไปหาท่านโดยมีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์ของตนเองเป็นส่วนใหญ่ เรื่องลูก เรื่องเมีย เรื่องสามี ของตน เรื่องโลก เรื่องลาภยศสรรเสริญ


    แต่หากเราไปกราบพระผู้เป็นพระสุปฏิปันโน แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมาย ในธรรม ความก้าวหน้าในการปฏิบัติบ้าง

    เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมบ้าง ส่วนใหญ่แล้วท่านเมตตาสงเคราะห์ครับ

    ดังนั้น หากเรารู้ ว่า อะไร สิ่งใด กิจใด ควรไม่ควร รู้กาละ รู้เทศะ

    ส่วนใหญ่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาครับ ยิ่งท่านที่ทราบวาระจิตด้วยแล้ว ปิดท่านไม่มิดครับ

    เท่าที่ทราบพาไปกันเยอะและไปรบกวนท่านเรื่องส่วนตัวของตนเองมากเกินไปครับ

    ต้องขอโทษคุณ กาละมัง ด้วย ที่ตอนนี้ รู้สึกไม่ดี ที่ทำให้เกิดการไปรบกวนหลวงปู่ท่านครับ

    แต่ก็ต้องยอมรับว่า กระทู้นี้ ช่วยกระตุ้นเตือนสติให้หลายต่อหลายท่าน ไม่ประมาท และเร่งปฏิบัติกันมากขึ้นครับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ภูเก็ตเตรียมซ้อมแผนอพยพผู้พิการหนีภัยสึนามิ

    [​IMG]

    ภูเก็ต 11 พ.ค.- จ.ภูเก็ตจัดซ้อมแผนอพยพคนพิการจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนพิการช่วยเหลือตัวเองออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

    นายโชตินรินทร์ เกิดสม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดให้ความเสี่ยงภัย ด้านธรณีพิบัติภัยสึนามิและแผ่นดินไหว เป็นสาธารณภัยที่มีความเสี่ยงสำคัญของจังหวัด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเจริญในทุกๆ ด้าน มีประชาชนทุกกลุ่มอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการ ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการซ้อมอพยพหนีภัยสึนามิหรือแผ่นดินไหว

    สำหรับคนพิการหรือคนที่สภาพร่างกายไม่ปกติ ปีนี้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดให้มีการซ้อมแผนอพยพประชาชนจากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิและแผ่นดินไหว สำหรับคนพิการขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ การควบคุมสั่งการ การบัญชาการเหตุการณ์ ด้านการอพยพประชาชนจากเหตุการณ์สึนามิสำหรับคนพิการ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต

    “การซ้อมแผนอพยพในครั้งนี้จะมีขึ้น 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-13 พ.ค. 52 โดยวันแรกจะเป็นการซ้อมแผนบนโต๊ะเพื่อให้ข้อมูลความรู้ทางวิชาการที่โรงแรมมิลเลเนียมป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ส่วนวันที่ 13 พ.ค นั้น จะเป็นการซ้อมแผนอพยพผู้พิการ ที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา หน้าหาดป่าตอง ซึ่งจะมีการสมมุติให้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้น และทางศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติประกาศเตือนให้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย หลังจากนั้นก็จะมีการสั่งการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ปฏิบัติการตามขั้นตอน และเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือและอพยพคนพิการหูหนวก ตาบอด พิการแขนขา และออทิสติก ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย”

    ทั้งนี้ ภายหลังการซ้อมแผนอพยพแล้วเสร็จ คาดว่าประชาชนและเจ้าหน้าที่จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอพยพประชาชนรวมทั้งคนพิการไปยังจุดปลอดภัยมากขึ้น และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งคนพิการเองก็จะมีความรู้และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างทันท่วงทีด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 12:36:55

    สสจ.กาญจน์ฯ ส่งตัวดูดเลือดคล้ายปลิงให้กรมประมงตรวจสอบ

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 10 พ.ค. – นพ.บุญนำ ชัยวิสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี (สสจ.) เปิดกรณีพบตัวดูดเลือดลักษณะคล้ายปลิงบริเวณริมแม่น้ำแควจำนวนมาก ว่า ขณะนี้ได้ส่งตัวอย่างตัวดูดเลือดฯ ที่พบบริเวณริมน้ำ ที่ชาวบ้านในพื้นที่คาดว่าจะเป็นปลิงเข็มไปตรวจสอบกับกรมประมงในพื้นที่แล้ว

    เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไม่ใช่ปลิงชนิดดูดเลือด เหมือนปลิงควาย หรือ ปลิงเข็ม แต่มีลักษณะตัวแบน ไม่มีอันตราย ลักษณะการเคลื่อนตัวของตัวดูดเลือดฯ ดังกล่าว เคลื่อนที่ในแนวราบ จึงต้องรอการตรวจสอบอย่างชัดเจนก่อน ในขณะนี้ยังไม่มีการประกาศห้ามนำน้ำจากแม่น้ำแควอุปโภค บริโภคแต่อย่างใด .- สำนักข่าวไทย

    2009-05-10 16:08:08

    ชิคุนกุนยาระบาดเมืองคอน พบผู้ป่วยแล้ว 20 คน

    [​IMG]

    นครศรีธรรมราช 11 พ.ค.-นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคชิคุนกุนยาในพื้นที่ ม.5 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ว่า พบผู้ป่วยเป็นโรคชิคุนกุนยาแล้ว 20 คน ทั้งหมดเป็นคนงานที่เพิ่งเดินทางกลับจาก จ.สงขลา ล่าสุด ได้ประสานไปยัง อสม.ในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ชาวบ้าน และหามาตรการป้องกัน เบื้องต้นแนะนำให้ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยต้องนอนในมุ้ง หรือห้องที่มีมุ้งลวด แม้เป็นเวลากลางวัน จุดยากันยุง ทายากันยุง หรือสวมใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว เป็นต้น

    “โรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดต่อนำโดยยุงลาย คล้ายกับโรคไข้เลือดออก หากผู้ป่วยได้รับเชื้อจะมีอาการไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดข้อ ข้อบวมแดงอักเสบและเจ็บ เริ่มจากบริเวณข้อมือ ข้อเท้า และข้อต่อของแขนขา อาจพบอาการปวดกล้ามเนื้อด้วย หากใครที่มีอาการป่วยเป็นไข้สูง3 - 4วัน และมีอาการคล้ายผื่นแดงและปวดตามข้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อศอกหรือข้อเท้า ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด”

    สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า เมื่อปี 2538 เคยพบผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยา จำนวน 576 ราย.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 12:46:25

    ชายแดนใต้ เฝ้าระวังเข้มไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่

    [​IMG]

    นราธิวาส 10 พ.ค.- รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา เผยยังไม่พบความเสี่ยงของการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง แต่เพื่อความไม่ประมาท เฝ้าระวังเข้มทุกด่านทั้งทางรถไฟ ทางอากาศ และทางเรือ

    นพ.นพดล ไพรบูรณ์สิน รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่12 สงขลา กล่าวถึงการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ว่า ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เช่นเดียวกับทุกภูมิภาค ที่ยังไม่ได้รับรายงานการแพร่เชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ดังกล่าว แต่เพื่อความไม่ประมาทได้มีการดำเนินการตามมาตรการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ไปประจำตามจุดผ่านแดน ครอบคลุมทั้งทางรถไฟ ทางอากาศ และทางเรือ ตามแนวชายแดน และสนามบินทุกจุดอย่างเข้มงวด แต่ยังไม่พบว่ามีบุคคลใดที่เข้าข่ายเสี่ยงต่อการเกิดโรคเข้ามาในพื้นที่

    นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ยังกล่าวถึงโรคชิคุนกุนยาที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่างด้วยว่า แม้จะมีการควบคุมจนสามารถลดพื้นที่ และจำนวนผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จนมีอัตราลดลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษต่อไป ในพื้นที่ จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยังคงพบว่า ในทุกกลุ่มวัย ยังมีการเกิดโรคชิคุนยาในหลายอำเภอ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-10 16:21:40

    พายุฤดูร้อนถล่มหลายพื้นที่ในภาคเหนือ

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 พ.ค. - หลายพื้นที่เกิดพายุพัดถล่มอย่างหนัก โดยเฉพาะในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน ประชาชนแล้วยังทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง

    เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักใน อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง แม้จะเป็นเวลาเพียง 10 นาทีเศษ แต่สร้างความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากมีทั้งลมกระโชกแรง และฝนตก ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่น โดยเฉพาะที่บ้านผาลาด ต.พระบาท ต้นมะขามต้านแรงลมไม่ไหวถอนรากลงมาล้มทับรถที่จอดอยู่ในบ้านของนายสหคร ทองทิพย์ เสียหาย 2 คัน ขณะที่บ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย หลังคาถูกลมพัดปลิวไปไกล รั้วบ้านบางหลังล้มทั้งแถบเสาไฟฟ้าหัก ทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องรีบเร่งซ่อมแซม เพื่อให้กลับมาใช้การได้ตามปกติให้ได้ภายในคืนนี้

    ส่วนที่ จ.อุตรดิตถ์ เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นเช่นกัน โดยบ้านเรือนของชาวบ้านใน ต.วังดิน อ.เมืองอุตรดิตถ์ เสียหายทั้งหลังกว่า 20 หลังคาเรือน ต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับกุฏิพระสงฆ์วัดยางจุ้ม ส่วนถนนทางเชื่อมหมู่บ้าน มีต้นยางและต้นสักขนาดใหญ่โค่นล้มขวางถนนจนรถไม่สามารถใช้เส้นทางได้ เสาไฟฟ้าหักโค่นหลายต้น ส่งผลให้ทั่วทั้งตำบลไม่มีไฟฟ้าใช้

    แต่สำหรับที่ยโสธร ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักกลับเป็นที่ถูกใจของชาวบ้าน เนื่องจากมีการจุดบั้งไฟของฝนตามประเพณีเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีวี่แววของเมฆฝนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทำให้ร้านจำหน่ายปลอดภัย ราคาถูก ที่เริ่มงานมาตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม ไม่สามารถขายต่อไปได้ และต้องปิดการจำหน่ายลงก่อนเวลาที่กำหนด. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 00:14:19

    พายุฤดูร้อนยังคงสร้างความเสียหายให้กับหลายพื้นที่ของประเทศ

    [​IMG]

    ภูมิภาค 11 พ.ค. - ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังช่วยกันเก็บสำภาระสิ่งของ ซ่อมแซมบ้านเรือน หลังเกิดพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำถล่ม 4 หมู่บ้าน ใน 2 ตำบล ของอำเภอวังโป่ง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายหลายสิบหลัง เสาไฟฟ้าริมถนนสายวังโป่ง-หนองขนาก หักโค่นลงมาจำนวน 9 ต้น ทำให้ราษฎรในเขตเทศบาลตำบลท้ายดง ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นานกว่า 5 ชั่วโมง พืชผลทางการเกษตรเสียหายเกือบ 100 ไร่ ชาวบ้านบอกว่านับเป็นพายุฤดูร้อนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี

    ส่วนที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงมีพายุฝนและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ป้ายโฆษณาล้มทับถนน กีดขวางการจราจรหลายแห่ง ถนนชำรุดหลายสาย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้ทุกอำเภอลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และรายงานข้อมูลอย่างเร่งด่วน เพื่อเร่งออกช่วยเหลือประชาชน ขณะที่สถานีอุตุนิยมวิทยาอำเภอกมลาไสย ยังเตือนให้ระวังพายุฤดูร้อนในระยะนี้ ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากการถูกฟ้าผ่า. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 14:09:58

    เซ่นพายุเมืองเพชรตาย 1

    [​IMG]

    เพชรบุรี 11 พ.ค. - เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำหลายพื้นที่ในจังหวัดเพชรบุรี ส่งผลให้ต้นไม้โค่นล้มทับคนงานหญิงชรา ที่นอนอยู่ในแคมป์คนงานเสียชีวิต

    พายุฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้นสนโค่นลงมาทับนางพัน ควารันย์ คนงานรับตัดอ้อยอายุ 60 ปี ซึ่งนอนพักผ่อนกับลูกสาวและลูกเขย ภายในแคมป์คนงาน ตำบลกลัดหลวง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี หลังเกิดเหตุญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าอย่างเร่งด่วน แต่นางพันทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากกระดูกซี่โครงหัก 9 ซี่ ปอดและช่องท้องมีเลือดออกมาก โดยญาติเตรียมรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดบุรีรัมย์. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 02:09:41

    อุตรดิตถ์ระดมกำลังทหารซ่อมแซมบ้านเรือนหลังพายุถล่ม

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 11 พ.ค.-พล.ต.พีรวัฒน์ เปรมศรี ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ นำกำลังพลจำนวน 100 นาย ลงพื้นที่ ต.วังดิน อ.เมืองอุตรดิตถ์ หลังได้รับการประสานจากนายวิรัตน์ อ้วนสะอาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วังดิน ให้ช่วยเข้ารื้อถอน และซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน 10 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.)

    เบื้องต้นพบมีบ้านเรือนของประชาชนเสียหายหลังคาบ้านถูกกระแสลมพายุพัดมากถึง 200 หลังคา ประเมินความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยทหารจะเร่งเข้ารื้อถอนและซ่อมแซมบ้านของผู้ที่ไม่มีที่พักอาศัยก่อน เพื่อให้สามารถเข้าพักได้ภายในคืนนี้ ส่วนผู้ที่สามารถไปพักอาศัยอยู่กับญาติได้ ก็จะเข้าดำเนินการในวันพรุ่งนี้

    ด้านนายวิรัตน์ อ้วนสะอาด นายก อบต.วังดิน กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ อบต.วังดิน มีงบประมาณช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเพียง 2 ล้านบาท จำเป็นต้องของบประมาณจากทางจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 13:54:44

    กัมพูชาหนีอดอยากลักลอบเข้าไทยอีก 130 คน

    [​IMG]

    สระแก้ว 11 พ.ค.-เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่๑๒ กองกำลังบูรพา (รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.๑๒ กกล.บูรพา) ได้รับการร้องเรียนจากราษฎรไทยบริเวณชายแดน ด้าน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่าได้รับความเดือดร้อนจากชาวกัมพูชาจำนวนมากที่ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทย แล้วเดินย่ำในนาข้าวและไร่มันสำปะหลัง ทำให้ผลผลิตที่กำลังปลูกได้รับความเสียหาย

    จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1201ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา นำกำลังกว่า 30 นาย เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้น 3 หมู่บ้าน ได้แก่หมู่บ้านภูน้ำเกลี้ยง ต.ป่าไร่ หมู่บ้านไทยสามารถ ต.หนองสังข์และ หมู่บ้านโนนสวรรค์ ต.เหล่าอ้อย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จับกุมชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย ได้ 130 คน เป็นชาย 56 คน หญิง 50คน เด็กชาย 12 คน และ เด็กหญิง 12 คน บริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน จึงควบคุมตัวพร้อมกระเป๋าสัมภาระ มาสอบสวนที่ กองร้อยทหารพรานที่1201

    จากการสอบสวนพบ ชาวกัมพูชาทั้งหมดเดินทางมาจากหลายจังหวัดในประเทศกัมพูชา ซึ่งรับสารภาพว่าทางบ้านยากจน จึงได้หนีความอดอยากจากบ้านเกิด อพยพมาเพื่อจะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย บางส่วนต้องการเดินทางไปหางานทำใน กทม.และ จ.ชลบุรี แต่มีบางส่วนบอกว่าต้องการเข้ามารับจ้างทำงานตามหมู่บ้านชายแดนฝั่งไทยเท่านั้น เบื้องต้น จึงประสานไปยัง กองพัน ตชด.911 ของกัมพูชา ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดน ด้านติดกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ควบคุมตัวกลับประเทศ เพื่อไปดำเนินการในกัมพูชา ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ โดยได้มีการเซ็นหนังสือรับตัวกลับไปด้วย.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 13:42:29

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 6.1 ริกเตอร์ ที่เอกวาดอร์

    [​IMG]

    วอชิงตัน 10 พ.ค. - ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแผ่นดิวไหวรุนแรงขนาด 6.1 ริกเตอร์ ที่ชายฝั่งเอกวาดอร์ แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

    ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่าแผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.16 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 08.16 น.วันอาทิตย์ในไทย บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างไปทางตะวันตกของเมืองปอร์โตวีโจราว 599 กิโลเมตร. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-10 13:45:08

    การประชุมมหาสมุทรโลกเริ่มขึ้นแล้วในอินโดนีเซีย

    [​IMG]

    มานาโด, อินโดนีเซีย 11 พ.ค.-การประชุมมหาสมุทรโลกเปิดฉากขึ้นวันนี้ในอินโดนีเซีย เพื่อหารือกำหนดปฏิญญาร่วมสำหรับการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะจัดขึ้นในเดนมาร์กเดือน ธ.ค.นี้

    การประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งนี้จัดขึ้นที่เมืองมานาโดเป็นเวลา 5 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากกว่า 70 ประเทศเข้าร่วม ถือเป็นการประชุมระดับโลกครั้งแรกว่าด้วยบทบาทของมหาสมุทรในการบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาโลกร้อน คาดว่า บรรดารัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ประมงและทรัพยากรธรรมชาติ จะผ่านปฏิญญาร่วมเพื่อวางแนวทางในการประชุมที่กรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการหารือถึงกรอบความร่วมมือระดับโลกในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนต่อจากพิธีสารเกียวโตที่จะหมดช่วงพันธกรณีแรกในเร็ว ๆ นี้

    นายเฟรดดี นัมเบรี รัฐมนตรีกิจการทางทะเลและประมงอินโดนีเซีย แสดงความหวังว่าการประชุมจะช่วยขยายขอบข่ายข้อตกลงว่าด้วยสภาพภูมิอากาศในอนาคตที่จะหมายรวมถึงสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วย

    นอกจากนี้บรรดาผู้นำจาก 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ติมอร์-เลสเต มาเลเซีย หมู่เกาะโซโลมอน ปาปัวนิวกินี จะพบปะนอกรอบการประชุมครั้งนี้ เพื่อริเริ่มแผนอนุรักษ์สามเหลี่ยมปะการัง ระบบนิเวศใต้น้ำที่เป็นบ้านของแนวปะการังกว่าครึ่งของโลก.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 12:28:15

    จีนประกาศความคืบหน้าการจัดทำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว

    [​IMG]

    จีน 11 พ.ค. - จีนประกาศความคืบหน้าในการจัดทำระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า ก่อนถึงวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในมณฑลเสฉวนในวันพรุ่งนี้

    นายตู้ เหว่ย รองผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูภัยพิบัติ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดทำระบบตรวจจับแผ่นดินไหว ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีแผนการจะสร้างระบบเตือนภัยผ่านดาวเทียม รวมทั้งมีการซักซ้อมเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว เหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.9 ริกเตอร์ ในมณฑลเสฉวนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมปีที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 8 หมื่นคน และไร้ที่อยู่อาศัยราว 4.8 ล้านคน ขณะที่รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณลงไปฟื้นฟูเป็นเงินก้อนโตถึง 1 ล้านล้านหยวน หรือราว 5 ล้านล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 16:08:11

    ชาวปากีสถานอย่างน้อย 360,000 คนอพยพหนีภัยสู้รบ

    [​IMG]

    อิสลามาบัด 11 พ.ค. - นางเอเรียน รัมเมอรี โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) ระบุวันนี้ว่า มีชาวปากีสถานอย่างน้อย 360,000 คนอพยพหนีภัยการสู้รบระหว่างทางการปากีสถานที่โจมตีกลุ่มติดอาวุธอย่างหนักทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือในช่วงกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา

    โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์ กล่าวว่า นับแต่วันที่ 2 พ.ค.มีประชาชนอย่างน้อย 360,000 คนจากเขต สวอต บูเนอร์ และโลเวอร์ ดีร์ ลงทะเบียนเข้าพักในค่ายพักพิงและนอกค่าย โดยทางการแคว้นนอร์ทเวสต์ ฟรอนเทียร์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากยูเอ็นเอชซีอาร์ได้ตั้งจุดลงทะเบียนสำหรับผู้ไร้ที่อยู่จำนวน 29 จุด ส่วนใหญ่มาจากเมืองมาร์ดัน และเมืองสวาบี ในจำนวนนั้นไม่ถึงร้อยละ 20 อาศัยอยู่ในค่ายพักพิง ส่วนอีกร้อยละ 80 อาศัยอยู่นอกค่าย อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ปากีสถานเชื่อว่า ยอดผู้หนีภัยการสู้รบที่แท้จริงอาจมากกว่า 500,000 คน ส่วนใหญ่เลือกอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง หรือเช่าบ้านอยู่

    รัฐบาลปากีสถานปฏิบัติการทางทหารโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดิน เพื่อปราบปรามกลุ่มนักรบตอลีบาน ในเขตโลเวอร์ ดีร์ ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. และในเขตบูเนอร์ ในวันที่ 28 เม.ย. ก่อนจะปะทะกับกลุ่มกบฏอย่างหนักในเขตสวอต เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 8 พ.ค. นายกรัฐมนตรียูซุฟ ราซา กิลานี ของปากีสถานเผยว่า กองทัพได้รับคำสั่งให้กวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ ส่งผลให้พลเรือนแห่อพยพออกจากพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 14:27:25

    สิงคโปร์ลดระดับเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 11 พ.ค. - รัฐบาลสิงคโปร์ได้ปรับลดระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในวันนี้ เนื่องจากสัญญาณการแพร่ระบาดของโรคน้อยกว่าที่คาดกันไว้ในตอนแรก

    กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงบนหน้าเว็บไซต์ว่าการปรับลดระดับเตือนภัยครั้งนี้ส่งผลให้มีการยกเลิกมาตรการจดบันทึกและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามโรงเรียน สำนักงาน และงานชุมนุมต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ทางการจะดำเนินมาตรการคุมเข้มการวัดอุณหภูมิร่างกายผู้ผ่านจุดตรวจทางเครื่องบิน ภาคพื้นดินและทางทะเลต่อไป รวมทั้งยังคงคำสั่งกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางไปเม็กซิโกไว้ในบ้านพักเป็นเวลา 7 วันก่อนเดินทางเข้าสิงคโปร์

    จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สิงคโปร์มีประชาชนเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อป้องกันไว้ก่อนจำนวน 33 คน แต่ผลการตรวจพบว่าทั้งหมดไม่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็น 1 ยกเว้นผู้เข้ารับการตรวจรายหนึ่งที่ยังไม่ได้รับผลการตรวจ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 11:31:21

    จีนพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก

    [​IMG]

    ปักกิ่ง 11 พ.ค.–สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขว่า จีนพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 รายแรกของประเทศ เป็นชายในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้

    รายงานระบุว่า ชายดังกล่าวอายุประมาณ 30 ปี มีชื่อว่า นายเป่า เขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมิสซูรีและเพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐ โดยออกเดินทางเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาไปยังกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น จากนั้นโดยสารเที่ยวบินของสายการบินนอร์ทเวสต์ แอร์ไลนส์ มายังกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และเดินทางต่อไปยังเมืองเฉิงตู

    ชายดังกล่าวเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากมีไข้ โดยถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลโรคติดต่อในเมืองเฉิงตู ส่วนคนที่สัมผัสใกล้ชิดเขาในระหว่างการตรวจร่างกายก็ถูกกักตัวไว้รอสังเกตอาการ นอกจากนี้ ยังมีผู้โดยสารกว่า 130 คนจาก 150 คนบนเครื่องบินลำเดียวกับที่เขาโดยสารมาถูกกักตัวไว้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 11:21:11

    อังกฤษพบผู้ติดเชื้อหวัด 2009 เพิ่มอีก 7 ราย

    [​IMG]

    อังกฤษ 11 พ.ค. - อังกฤษพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มขึ้นอีก 7 ราย ขณะที่ทางการจีนสงสัยว่าอาจพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะคนแรกบนจีนแผ่นดินใหญ่

    สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขจีนที่ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยอาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นคนแรกของจีน เป็นชายวัย 30 ปี สกุลเป๋า ที่เพิ่งกลับไปยังเมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ตั้งแต่วันเสาร์ หลังเดินทางกลับจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐ โดยเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงโตเกียวไปยังกรุงปักกิ่ง ก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองเฉิงตู แต่ยังไม่มีการเปิดเผยอาการล่าสุดของเขา

    ส่วนกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 7 คน ในจำนวนนี้ 2 คน เป็นผู้ใหญ่จากพื้นที่กรุงลอนดอนและภาคตะวันออกของประเทศ ส่วนอีก 5 คน เป็นเด็ก ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะในอังกฤษทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 55 คนแล้ว. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 02:03:15

    แคนาดาพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อีก 5 ราย

    [​IMG]

    ออตตาวา 11 พ.ค. - แคนาดาพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 5 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อในแคนาดาพุ่งเป็น 286 ราย

    สำนักงานสาธารณสุขในแคนาดา รายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ 5 รายล่าสุด 3 ราย พบในมณฑลแอลเบอร์ตาทางตะวันตก อีก 2 ราย พบที่มณฑลซัสแคตเชวัน โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้กระจายไปทั่วประเทศแคนาดา มีเพียงพื้นที่ทางเหนือและมณฑลนิวฟันด์แลนด์ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อนี้

    ส่วนมณฑลบริติชโคลัมเบีย พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไปแล้ว 79 คน ที่มณฑลแอลเบอร์ตาพบ 49 คน มณฑลซัสแคตเชวันพบ 4 คน มณฑลแมนิโทบาพบ 1 คน มณฑลออนแทรีโอ พบ 76 คน มณฑลควิเบกพบ 16 คน มณฑลนิวบรันสวิก พบ 2 คน มณฑลโนวาสโกเชีย พบ 56 คน และมณฑลพรินซ์ เอ็ดเวิร์ด ไอร์แลนด์ พบ 3 คน. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 08:31:31

    ไฟป่าในซานตา บาร์บารา ทำลายบ้านเรือนไปแล้ว 77 หลัง

    [​IMG]

    ซานตา บาร์บารา 11 พ.ค. – ทางการเขตซานตา บาร์บาราของสหรัฐเผยมีบ้านเรือนถูกไฟป่าเผาทำลายไปแล้วถึง 77 หลัง เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าสองเท่า

    โฆษกซานตา บาร์บาราเปิดเผยว่า มีบ้านเรือนถูกทำลายไปอีก 22 หลังเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เริ่มควบคุมไฟป่าไว้ได้แล้ว และสถานการณ์อันตรายน้อยลง เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปประเมินความเสียหายได้มากขึ้น ส่วนจำนวนผู้ที่ถูกสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือนมีจำนวนราว 30,000 คน ส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับไปยังบ้านเรือนได้แล้วเมื่อวานนี้ รายงานระบุเจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมไฟป่าได้ร้อยละ 65 แล้ว

    ขณะเดียวกัน มีรายงานจากเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจเกิดจากการใช้เครื่องมือเพื่อแผ้วถางพื้นที่ โดยไฟอาจเริ่มปะทุเมื่อวันจันทร์หรือวันอังคารที่ผ่านมาและลุกลามไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางอุณหภูมิร้อนระอุ ความชื้นต่ำ และกระแสลมแรง.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 11:01:59

    เวสต์เวอร์จิเนียประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำท่วม

    [​IMG]

    สหรัฐ 11 พ.ค. - ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ของรัฐ หลังเกิดน้ำท่วมอันเนื่องมาจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

    พายุฝนฟ้าคะนองที่ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่วันเสาร์ ทำให้อาคารบ้านเรือนกว่า 100 หลัง จมอยู่ใต้น้ำพังเสียหาย และอีกกว่า 1,500 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายบางส่วน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอยู่ในเขตมิงโก เคาตี้ และโลแกน เคาตี้ นายโจ แมนชิน ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนียต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ของรัฐ และร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่แนชชั่นแนลการ์ด ให้เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงส่งอาหารและน้ำให้กับชาวบ้านที่ยังติดอยู่ตามบ้านเรือน

    ทั้งนี้ ฝนตกที่ตกอย่างหนักยังทำให้ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ เกิดโคลนถล่มในหลายพื้นที่ ชาวบ้านนับหมื่นคนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 05:04:20

    พลเรือนศรีลังกาสังเวย 378 ศพ เหตุปะทะกองทัพ-กลุ่มกบฏ

    [​IMG]

    ศรีลังกา 11 พ.ค. - เจ้าหน้าที่ศรีลังกา เผยการปะทะกันระหว่างกองทัพศรีลังกาและกบฏพยัคฆ์ทมิฬตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 378 คน

    เจ้าหน้าที่แพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปะทะทางภาคเหนือของประเทศระบุว่า กระสุนปืนใหญ่ที่ยิงมาจากกองทัพเพื่อหวังโจมตีกลุ่มกบฏพยัคฆ์ทมิฬตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้ตกลงมายังพื้นที่ตั้งเต็นท์พักชั่วคราวของพลเรือน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 378 คน และอีกกว่า 1,200 คน ได้รับบาดเจ็บ นับเป็นผลพวงจากสงครามในศรีลังกาที่ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ดี กองทัพศรีลังกาออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ยิงปืนใหญ่ไปตกยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย สำหรับให้ประชาชนตั้งเต็นท์อาศัย หลังจากที่ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน อีกทั้งยังกล่าวหากลุ่มกบฏทมิฬว่าเป็นผู้ยิงปืนใหญ่มาจากจุดซ่อนตัวของกบฏพยัคฆ์ทมิฬ. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 00:15:21

    ครูหุ่นยนต์สร้างความคุ้นเคยกับเด็กญี่ปุ่นราวกับเป็นคนจริงๆ
    [​IMG]

    โตเกียว 11 พ.ค.- หุ่นยนต์ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูสอนเด็กประถมตัวแรกของโลก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สร้างความคุ้นเคยให้กับเด็กไม่แพ้ครูที่เป็นคนจริงๆ เด็กญี่ปุ่นยังชื่นชอบหุ่นยนต์ตัวนี้เป็นอย่างมาก ในวันแรกที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง

    หุ่นยนต์ซึ่งทำหน้าที่เป็นครูมีชื่อว่า “ ซายะ “ เด็กญี่ปุ่นที่ได้เรียนกับครูคนนี้ ต่างมีมุมมองต่างกันไป บางคนบอกว่า ครูหุ่นยนต์มีหน้าตาสวยดี บ้างก็บอกว่า รู้สึกกลัวนิดหน่อยแต่ก็ตลกดี ขณะที่เด็กบางคนแทบไม่อยากเชื่อว่า จะมีหุ่นยนต์มาสอนหนังสือให้

    ซายะจะทำหน้าที่สอนหนังสือเหมือนครูทั่วไป โดยครั้งแรกที่เข้าชั้นเรียน ซายะก็จะขานชื่อเด็กทีละคนจากนั้นจึงเริ่มต้นการเรียนการสอน การนำหุ่นยนต์มาสอนเด็กประถมเป็นโครงการนำร่องที่ทดลองใช้กับโรงเรียนประถมคูดัน ใกล้กับมหาวิทยาลัยโตเกียว

    ศาสตราจารย์ ฮิโรชิ โคบายาชิ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นผู้พัฒนาหุ่นยนต์สอนหนังสือตัวนี้โดยใช้เวลายาวนานถึง 15 ปี เขาบอกว่า ซายะเป็นหุ่นยนต์ที่ดูคล้ายคนมาก เด็กๆ จึงไม่รู้สึกว่า ซายะเป็นหุ่นยนต์ แต่รู้สึกเหมือนเธอเป็นคนจริงๆ เด็กยังประหลาดใจที่ซายะสามารถขานชื่อพวกเขาทีละคน

    ภายในศีรษะของหุ่นยนต์ตัวนี้ จะมีมอเตอร์ถึง 18 ตัว คอยควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้สามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย ทั้งอารมณ์ประหลาดใจ หวาดกลัว ขยะแขยง โกรธ มีความสุข และเศร้า หุ่นยนต์ซายะสามารถพูดได้หลายภาษา ทั้งยังจดจำวลีต่างๆได้มากถึง 300 วลี รวมถึงคำศัพท์ประมาณ 700 คำ ทั้งยังถูกตั้งโปรแกรมให้ตอบสนองต่อคำพูดและคำถามได้ มีการวางแผนผลิตหุ่นยนต์ทำนองนี้ขึ้นมาอีกหลายตัวเพื่อนำไปใช้สอนหนังสือในชั้นเรียนต่างๆ โดยให้ครูที่เป็นคนจริงๆ คอยควบคุมการเรียนการสอนจากศูนย์ควบคุมอีกทีหนึ่ง

    หุ่นยนต์สอนหนังสือถูกตั้งราคาขายไว้ที่ตัวละ 25,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท ศาสตราจารย์ โคบายาชิ อ้างว่า เป็นครั้งแรกที่มีการซื้อขายหุ่นยนต์หน้าตาเหมือนคน เพื่อนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยตั้งเป้าว่า เงินทุนที่ใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์จะได้คืนกลับมาภายในเวลาไม่กี่ปี.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-11 16:02:45

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักข่าวชาวอเมริกันได้รับการปล่อยตัวจากอิหร่านแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 พฤษภาคม 2552 20:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>โรซานา ซาเบรี ได้รับอิสรภาพแล้ว หลังจากศาลสั่งลดโทษจำคุก 8 ปี เป็นรอลงอาญา 2 ปี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - โรซานา ซาเบรี นักข่าวชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่าน เดินออกมาจากเรือนจำอย่างอิสระในกรุงเตหะรานแล้วในวันนี้ (11) หลังจากศาลอุทธรณ์อิหร่านสั่งลดโทษจากจำคุก 8 ปีในข้อหาจารกรรมความลับ เหลือรอลงอาญา 2 ปี

    นับเป็นการสิ้นสุดประสบการณ์อันเลวร้ายตลอด 5 เดือนของซาเบรี ซึ่งในช่วงแรกถูกกักตัวในเรือนจำอีวิน อันมีเสียงไม่ดีในกรุงเตหะราน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังถูกศาลอิหร่านสั่งจำคุก 8 ปี ในข้อหาจารกรรมข้อมูลให้แก่สหรัฐฯ

    ซาเลห์ บิกบาค ทนายความของซาเบรีเผยว่า ศาลได้พิพากษาจากโทษจำคุก 8 ปี เป็นการรอลงอาญา 2 ปี ซึ่งการตัดสินนี้สร้างความยินดีให้แก่ครอบครัวของเธอเป็นอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมอิหร่านยืนยันข่าวดังกล่าว

    ด้านแหล่งข่าวเผยกับเอเอฟพีว่า นักข่าววัย 32 ปีคนนี้อาจจะได้รับอนุญาตให้ออกจากอิหร่านได้ อย่างไรก็ตาม เธออาจถูกห้ามทำข่าวในอิหร่านเป็นเวลา 5 ปี

    ซาเบรี ซึ่งเป็นพลเมืองของทั้งสหรัฐฯและอิหร่าน ถูกจับกุมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะทำงานในอิหร่าน หลังจากใบอนุญาตหมดอายุ และต่อมาถูกตั้งข้อหาจารกรรมความลับ ซึ่งมีบทลงโทษถึงประหารชีวิต คดีนี้สร้างความกังวลให้แก่สหรัฐฯและองค์กรสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง ซึ่งระบุว่า ข้อหาจารกรรมนั้นไม่มีมูล

    ทั้งนี้ ซาเบรี มีเชื้อสายญี่ปุ่นด้วย เป็นผู้สื่อข่าวให้แก่สถานีวิทยุแห่งชาติสหรัฐฯ บีบีซีของอังกฤษ และฟอกซ์นิวส์ด้วย เธออาศัยอยู่ในอิหร่านตลอด 6 ปีที่ผ่านมา

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052564
     
  8. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    งมหาครูดำน้ำ-ศิษย์ไม่คืบ จนท.ระดมค้นหาแต่ยังไร้วี่แวว

        • [​IMG] 11 พ.ค. 52 20.18 น.
        • [​IMG] อ่าน<SCRIPT src="http://app.sanook.com/weblog/counter/js/?site_id=71&weblog_id=21&entry_id=731441" type=text/javascript></SCRIPT> 296 ครั้ง
      • เลือกขนาดตัวอักษร : [​IMG] [​IMG]
    • [​IMG]สนับสนุนเนื้อหา
    <!-- ครูพาศิษย์สอนดำน้ำข้างเกาะโรงโขน โรงหนัง อ่าวแสมสาร สัตหีบ ชลบุรี น้ำเข้าแม๊ส ปิดปาก จมูกลูกตาศิษย์ สุดยอดครูสอนดำน้ำ เสี่ยงเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่สำเร็จ ทั้งครูและศิษย์ถูกน้ำทะเลพัดหายไปต่อหน้าต่อตา
    -->[​IMG]
    งมหาครูดำน้ำ-ศิษย์ไม่คืบ

    ครูพาศิษย์สอนดำน้ำข้างเกาะโรงโขน โรงหนัง อ่าวแสมสาร สัตหีบ ชลบุรี น้ำเข้าแม๊ส ปิดปาก จมูกลูกตาศิษย์ สุดยอดครูสอนดำน้ำ เสี่ยงเข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่สำเร็จ ทั้งครูและศิษย์ถูกน้ำทะเลพัดหายไปต่อหน้าต่อตา กองทัพเรือปรับแผนลาดตระเวนออกสำรวจค้นหา สุดยอดครูช่วยศิษย์จนตัวตาย สังเวยสุสานทะเลแสมสาร สัตหีบ ยังไม่คืบ ญาติยังลุ้นรอด ลอยติดเกาะหรือออกกลางทะเล เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ เวลา 21.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา นาวาเอกศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้อำนวยการ กองกิจการพลเรือน(รอง ผอ.กพร.ทรภ.1) และหัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 (หน.ศปก.ทรภ.1)อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งและขอความช่วยเหลือจาก นายธีรยุทธ ติระรณกรกุล ผู้ช่วยครูฝึกสอนดำน้ำว่า ได้พานักเรียนฝึกดำน้ำมาสอนที่อ่าวแสมสาร พิกัดเกาะโรงโขน โรงหนัง ได้เกิดอุบัติเหตุสุดดวิสัยในทะเลขณะดำน้ำทำให้ นายวิวัฒน์ ติระรณกรกุล ครูสอนดำน้ำ อายุ 35 ปี และ นายโพช สว่างวงศ์เสรี อายุ 25 ปี นักเรียนดำน้ำ พัดหายไปกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก และคลื่นลมแรง ได้ติดตามค้นหาตามเกาะ แก่งต่าง ๆ เบื้องต้นยังไม่พบครู และนักเรียนดำน้ำแต่อย่างใด ในเบื้องต้น พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1 ทร.) ได้ส่งเรือตรวจการณ์ หมายเลข 225 เรือยาง ชุดปฎิบัติการพิเศษ โดยมี ร.อ.นิติวัฒน์ อมรพิศาล ผบ.เรือ ออกทำการค้นหาจนถึงเช้าของวันที่ 11 พ.ค. ยังไม่พบแต่อย่างใด
    ความคืบหน้าในเรื่องนี้ (11 พ.ค.) พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผบ.ทรภ.1 ทร. ได้รับรายงานจาก พลเรือตรี วรศักดิ์ จันหนู รอง ผบ.ทรภ. 1 ผู้ควบคุมดูแลการค้นหานักดำน้ำว่า เรือตรวจการณ์หมายเลข 225 และชุดปฎิบัติการพิเศษได้ค้นหาอย่างสุดความสามารถแล้วไม่พบ ครูสอนดำน้ำ และนักเรียนดำน้ำแต่อย่างใด จึงได้อนุมัติให้ น.ต. เอกชัย เกิดหนองมน นักบินที่ 1 ร.อ.จิรวัฒน์ อนุจิต นักบินที่ 2 ฝูงบิน 203 กองการบินทหารเรือ ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่บนเครื่องอีก 3 นาย นำเครื่องบินซุบเปอร์ลิ้งค์ หมายเลข 2313 ปรับแผนบินตรวจการณ์ และลาดตระเวนในอ่าวไทย มาช่วยดำเนินการค้นหาผู้สูญหายในระยะไกล ระยะใกล้ พร้อมกับให้เรือตรวจการณ์ เพิ่มจำนวนเรือในการค้นหาอีก 1 ลำ คือเรือหมายเลข 212 โดยมี เรือเอก สุทธิพงศ์ หมวดเล็ก ผู้บังคับเรือ และข้าราชการประจำเรือ พาชุดปฎิบัติการพิเศษ และเรือยางเดินทางออกไปช่วยกันค้นหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้นหายังพบผู้สูญหายแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานได้ว่า ครูสอนดำน้ำ และศิษย์ อาจเสียชีวิตจมอยู่ใต้ทะเล คงต้องรอให้ศพลอยขึ้นมาปิ่มผิวน้ำจึงจะเห็น เพราะกระแสน้ำเชี่ยวกรากมาก และไม่ทราบว่าครูและศิษย์ถอดถังก๊าซและอุปกรณ์ที่หนักออกทันหรือไม่ ถ้าถอดออกไม่ทันก็จะมีน้ำหนักถ่วงทำให้เกิดความล่าช้าไปอีกระยะหนึ่ง ต้องใช้เวลาในการติดตามค้นหาต่อไป
    พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้มีญาติบางคนยังมีความมั่นใจว่าญาติอาจยังมีชีวิตอยู่ลอยคออยู่กลาง ทะเลหรือติดเกาะต่าง ๆ จึงต้องใช้เครื่องบิน ซุบเปอร์ลิ้งค์ ออกค้นหาทั้งบริเวณรอบ ๆ เกาะ และในอ่าวสัตหีบ อ่าวแสมสาร อย่างละเอียดแล้ว นักบินรายงานว่าไม่พบศพ หรือสิ่งผิดปกติลอยอยู่ในทะเลแต่อย่างใดในขณะนี้ คงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ถ้าเสียชีวิตแล้วก็ต้องรอให้ศพลอยอืดขึ้นมาบนผิวน้ำจะง่ายต่อการค้นหา และถ้าลอย ณ พิกัดใดเรือประมงที่พบก็จะเข้ามาแจ้งให้ กองทัพเรือไปดำเนินการอย่างแน่นอน
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ขออนุญาต ลงข่าวเกี่ยวกับ งมหาครูสอนดำน้ำ ครับ

    เนื่องจาก เป็นเรื่องที่เกี่ยวกะผม หลายอย่าง

    สำหรับครูสอนดำน้ำที่สูญหาย ไป เป็นรุ่นพี่และเพื่อนผมคนหนึ่ง ที่เคยทำงานดำน้ำร่วมกันมาก่อน

    เมื่อก่อนผมเป็น Divemaster ที่คอยนำเที่ยวใต้น้ำให้กับนักท่องเที่ยวดำน้ำ ครับ ก็เลยรู้จักพี่เขา และผมยังคิดว่าพี่เขาไม่น่าจะเสียชีวิต แต่มันก็ 50/50 ครับ

    ผมก็เคยโดนกระแสน้ำพัดอย่างรุนแรง ครับ ที่เกาะบอน อช.สิมิลัน จ.พังงา ครับ หลุดกระแสน้ำไปคนเดียว กลางทะเลเปิดครับ

    และทะเลแถวนั้น ไม่มีเกาะ อย่างแน่นอนครับ

    ข้างล่าง ก็มืดสนิท สิ่งที่ช่วยเหลือตัวเองได้คือ การตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก พยายามคิดเป็นขั้นเป็นตอน ว่า เราควรเริ่มที่อะไร และผมโชคดีที่มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต อย่างบอลลูนสีส้ม เป่าลมให้พองบนผิวน้ำ เพื่อให้เรือ ได้เห็นผม ครับ

    ผมได้ข่าววงในว่า พี่เขา ไม่มีบอลลูนอย่างที่ผมว่า พี่เขาอาจจะจมน้ำตายไปเลยก็ได้ เนื่องจาก แถวนั้น กระแสน้ำแรง หินโสโครก และอวน เยอะ อาจจะทำไปให้ติด อากาศหมด และจมน้ำตายครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    สงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้ามีลิขสิทธิ์หรือ ?

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อธิมุตโต<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_302136", true); </SCRIPT>
    นักบวช

    อ่านหนังสือธรรมมะ มาก็หลายเล่ม หลายสำนักพิมพ์ บางสำนัก ก็บอกพิมพ์เป็นธรรมทาน บางสำนัก ก็บอกพิมพ์เป็นพุทธบูชา

    แต่หลาย ๆ สำนักพิมพ์บอก หากนำข้อความส่วนหนึ่งส่วนใด ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษตามกฏหมาย เพราะ เป็นลิขสิทธิ์ ของเขา

    คำสอนของ พระพุทธเจ้า เป็นลิขสิทธิ์ของเขาซะเมื่อไหร่ แล้วคนพิมพ์ไปขอลิขสิทธิ์ จากพระพุทธเจ้าด้วยตนเองหรือ ถึงบังอาจมากำหนดเป็นลิขสิทธิ์ของตนเอง

    ... ทำไม ถึงต้องมาตั้งลิขสิทธิ์กับหนังสือธรรมมะ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ ครูบาอาจารย์ รูปหนึ่งรูปใด

    บางครั้งเห็นข้อความธรรมมะ ดี ๆ ในหนังสือ อยากเผยแผ่ทางอินเตอร์เนต พอเหลือบไปเห็นคำว่า "ห้ามละเมิด ลิขสิทธิ์" .. ถึงกับเซ็งเลย

    เลยอยากจะถามสมาชิกทุก ๆ ท่านว่า ธรรมมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลิขสิทธิ์ด้วยหรือ ?

    21-08-2006, 03:53 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tamsak<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_302323", true); </SCRIPT>
    ทีม พระไตรปิฏก

    อืมมม....แสดงว่าท่านสนใจปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์มากจริงๆ จึงตั้งไว้สองกระทู้เลย เอ้า...ไม่เป็นไร ผมขอ copy แบบไม่ต้องเกรงว่าจะไปละเมิดลิขสิทธิ์ของใคร (เพราะ copy ข้อเขียนของตัวเอง) มาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งก็แล้วกันครับ

    ขออนุญาตตอบตามความรู้ความเข้าใจของผมนะครับ ผมมีความเห็นว่า

    ธรรมมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่มีลิขสิทธิ์ครับ

    แต่ที่ "แต่หลาย ๆ สำนักพิมพ์บอกว่า หากนำข้อความส่วนหนึ่งส่วนใด ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีโทษตามกฏหมาย เพราะเป็นลิขสิทธิ์ของเขา"นั้น

    ตามความเข้าใจของผม น่าจะเป็นลักษณะที่ว่า สำนักพิมพ์นั้นๆ ได้มีการนำธรรมมะของพระพุทธเจ้ามาเรียบเรียง จัดลักษณะตัวอักษร จัดทำวรรคตอน มีรูปภาพประกอบ บางครั้งมีการแปลเป็นภาษาอื่นๆ และมีการจัดทำรูปเล่ม ลักษณะดังกล่าวนี้ ผู้ที่เรียบเรียงฯ ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ มีสิทธิหวงกันไม่ให้ผู้อื่นคัดลอก ทำซ้ำ นำไปใช้ ฯลฯ ได้ แต่การได้รับความคุ้มครองนี้ ก็เฉพาะแต่ลักษณะและรูปแบบดังกล่าว ที่สำนักพิมพ์จัดทำขึ้นเท่านั้น

    อีกกรณีหนึ่งที่ได้รับความคุ้มครองคือ ผู้เขียน ผู้แต่ง หรือผู้เรียบเรียง ที่นำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาจัดทำเป็นหนังสือ มาเขียนอธิบาย ในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ถ้อยคำสำนวน และรูปแบบการเขียนของตนเอง อันนี้ก็ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

    ส่วนธรรมมะ โดยเฉพาะที่นำมาจากพระไตรปิฎกก็ดี จากพระสูตรหรือจากที่อื่นๆ ที่เป็นที่รับรู้และยอมรับกันว่า เป็นคำสั่งและคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั้น ไม่ว่าใครๆ ก็ไม่มีสิทธิ์หวงกันหรือห้ามมิให้ผู้อื่นนำไปใช้ครับ

    21-08-2006, 08:01 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ยายทองประสา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_303349", true); </SCRIPT>
    ทีมงานเว็บพลังจิต

    อีกมุมมองหนึ่ง

    1 ในโจร ของพระพุทธศาสนา คือ ผู้ที่นำเอาธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวไว้ดีแล้ว ไปอ้างว่าตนคิดขึ้นมาได้ เป็นต้นสอนต้นธรรม เป็นธรรมของตัว โดยหวังลาภผลต่างๆ การสงวนลิขสิทธิ์อาจมีขึ้นได้ในกรณีนี้ จึงห้ามก็อปปี้หนังสือขาย หรือแจก หรืออื่นๆ

    แต่ธรรมใดที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่มีใครสามารถมาอ้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ เป็นเจ้าของธรรมะนั้นได้ ดังที่กล่าวไว้แล้ว (พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศลิขสิทธิ์ไว้แล้วดังข้างต้น สงวนไว้เพียงข้อเดียวเท่านั้น) ใครจะนำไปพิมพ์ขาย พิมพ์แจก สั่งสอนต่อไป ประกาศทั่วไป ก็ไม่ถือว่าผิดครับ<!-- google_ad_section_end -->

    22-08-2006, 07:19 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->klu<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_303452", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีลิขสิทธิ์ แต่ว่าหนังสือจำเป็นต้องมีลิขสิทธิ์ เพื่อป้องกัน การที่คนบางคนเอาไปค้ากำไรเกินควร

    มันก็ขึ้นอยู่กับคนเขียนด้วยว่าอนุญาตมั้ย โดยปกติแล้วผู้ที่เขียนหนังสือธรรมะ มักจะอนุญาตให้เผยแผ่ข้อความที่เกี่ยวข้องพระพุทธศาสนา ในกรณีที่ผู้นำเอาข้อความไปใช้นั้น มีเจตนาทำเพื่อเผยแผ่ ไม่ได้แสวงหาผลกำไร

    คนดีก็มี คนชั่วมันก็ต้องมีเหมือนกัน กับคนที่เขาหากินกับพระพุทธศาสนามันก็มี เพราะฉะนั้นก็คงจะไม่แปลก ถ้าหากใครจะหวงลิขสิทธิ์อันพึงได้พึงมี<!-- google_ad_section_end -->

    22-08-2006, 11:25 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนูมาลี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_303476", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    คนที่เป็นนักเขียน มีหลายแบบคะ บางคนก็กวน บางคนก็น่ารัก นิสัยดี ไม่งก บางคนเขียนเป็นวิทยาทานไม่หวงลิขสิทธิ์ แถมทำเว็บเผยแพร่ฟรี แจกตำราฟรีด้วย อันนี้ผลบุญตรงนี้จะส่งผล เหมือนดวงดาวที่มีแสงเจิดจ้า สว่างสดใส จะส่งผลให้ภพหน้าชาติหน้าเป็นผู้มีปัญญา จะเรียนจบง่าย มีความรู้สูง

    แต่คนที่มีความรู้ แต่หวงความรู้มากๆ จนน่าเกรียด พวกนี้ชาติหน้าเจอปัญญาหนักแน่ๆ แม้จะมีสมอง แต่ก็เรียนไม่จบ มีแต่คนแกล้ง เรียนอะไรก็ไม่สำเร็จ ถึงจะเป็นคนมีความสามารถ แต่ก็ไม่มีคนสนใจจะส่งเสริม

    เขียนตำราออกมา แต่กลับหวงวิชาความรู้ จะทำให้วิชาไม่โด่งดัง ไม่เกิน 100 ปี วิชาจะถูกลืมไป ถึงจะค้นพบสูตรยารักษาโรคเอดส์ แต่ถ้าไม่เผยแพร่ไม่บอกใคร แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกัน

    เปรียบเหมือน คนมีเมล็ดพันธุ์พืช แต่กลับไม่ยอมเอาไปหว่าน ไปโรยให้ทั่ว ถึงตำราศาสนาเล่มนั้นจะ เขียนดีแค่ไหนแต่ก็จะไม่มีใครรู้จัก ไม่มีคนสนใจ

    23-08-2006, 12:58 AM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->jomr0547<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_302521", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    หนังสือหลวงพ่อฤาษีบางเล่มก็มี ลิขสิทธิ์ครับ แต่มีเหตุผลดังนี้ครับ

    "หนังสือที่อาตมาจัดเรียบเรียงขึ้นทุกเล่ม ขอมอบสิทธิ์ให่แด่ท่าน พล อ.ท.ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ เป็นผู้จัดการพิมพ์ออกเผยแพร่แต่ผู้เดียว ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันผู้ลอกแบบ และหากำไรเกินควร ด้วยมีหลายวาระแล้ว ที่มีรายงานจากสถานที่ต่างๆ รายงานมาให้ทราบว่า เมื่อหนังสือประเภทใดขาดคราว จะปรากฎมีผู้แอบอ้างว่า มีหนังสืออยู่ในปกครอง แล้วขายในราคาเล่มละ 100 บาท (หนึ่งร้อยบาท) เป็นการขูดรีดกันเกินไป เพื่อเป็นการป้องกันเหตุที่ไม่สมควรจะเป็นเช่นนี้จะมีขึ้น จึงมอบลิขสิทธิ์หนังสือนี้ให้แด่ท่าน พล อ.ท.ม.ร.ว.เสริม ศุขสวัสดิ์ เป็นผู้มีอำนาจสั่งพิมพ์ออกเผยแพร่แต่ผู้เดียว"

    นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่งที่เป็นลิขสิทธิ์ แต่อันนี้ของหลวงพ่อ แต่ของเล่มอื่นๆเพื่ออะไรก็แล้วแต่ ก็ของแต่ละเล่มกันไป<!-- google_ad_section_end -->

    21-08-2006, 01:38 PM

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Kasem_a<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_302334", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    ธรรมะคือธรรมชาติจ๊ะ ถ้าเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแล้วโดนฟ้อง ก็น่าสนุกดีนะ ผมว่าคนจดลิขสิทธิ์เขาคงจะรู้นะว่า เราเอาบทความมาเผยแผ่ด้วยใจบริสุทธิ์ หรือเอามาพิมพ์เป็นหนังสือขายเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ อยากคิดมากเลยครับ ไม่มีอะไรในกอไผ่<!-- google_ad_section_end -->

    21-08-2006, 08:10 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้ามีลิขสิทธิ์หรือ.47642/
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • maka01.jpg
      maka01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.4 KB
      เปิดดู:
      1,679
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2009
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เรื่อง ลิขสิทธิ์ นั้น จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของฟรั่งโดยสมบูรณ์

    ในแง่คนไทยนั้น ถึงแม้จะประกาศลิขสิทธิ แต่น้อยมากที่จะบังคับใช้ตามกฏหมาย
    เรียกว่า คนไทยทำเอาโก้ ทำเก๋ เออๆออๆ ไปตามความนิยมเสียเป็นส่วนใหญ่

    แต่ฟรั่งเขาไม่เหมือนเรา อะไรก็ตามที่เป็นงานประพันธ์ เขาจะบังคับใช้จริงๆ จังๆ แม้
    แต่ รูปลักษณะตัวอักขระ ( Font ) ก็ยังมีลิขสิทธิคุ้มครอง เพราะมันเป็นงานทาง
    วิจิตรศิลป

    ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คำสอนของพระพุทธเจ้า แม้จะคัดลอกตามพระไตรปิฎกก็ตาม
    หากใช้ตัวอักขระของเขา ก็จะมีกฏหมายรองรับทันที นั่นแปลว่า หากเรายังทำเล่นๆ
    เออๆ อวยๆ ไม่รู้เหนือรู้ใต้ นานวันเข้า ทุกอย่างที่เป็นบทความในพระไตรปิฏก จะถูก
    บังคับใช้โดยกฏหมายฟรั่ง ซึ่งก็คือ เราจะไม่สามารถเผยแผ่คำสอน แม้แต่ข้อความที่
    ปรากฏในใบลานได้อีกต่อไป

    ด้วยเหตุนี้ บางสำนักพิมพ์ ที่เห็นสิ่งที่กำลังปรากฏนี้ จะทำการระบุลิขสิทธิไว้ ก็เพื่อให้
    เราชาวไทย ได้มีโอกาสได้อ้างอิงประจักษ์หลักฐาน วัตถุพยาน ใช้ในชั้นศาลได้
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    บราซิลเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    [​IMG]

    เซาลูอีส 12 พ.ค. - บราซิลเร่งจัดส่งอาหาร และความช่วยเหลืออื่น ๆ แก่ประชาชนที่ถูกตัดขาดเพราะอุทกภัยครั้งใหญ่ทางภาคเหนือ ขณะที่ระดับน้ำในบางพื้นที่ยังเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ รวมทั้งน้ำในแม่น้ำสายหนึ่งที่สูงแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 50 ปี

    อุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปีในพื้นที่ภาคเหนือของบราซิลครั้งนี้ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 40 คน และมีผู้ไร้ที่อยู่กว่า 308,000 คน โดยแหล่งชุมชนส่วนใหญ่ยังคงถูกน้ำท่วม แม้ฝนจะบรรเทาลง และมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คนนอกรัฐที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้

    แม้เจ้าหน้าที่จะรายงานว่า ระดับน้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเริ่มลดลงแล้ว แต่แม่น้ำบางสายในรัฐอามาโซนัส ซึ่งรวมทั้งแม่น้ำนิโร เนโกร ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอะเมซอน กลับมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับสูงสุดเมื่อปี 2496 เพียง 74 ซม. เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ของกลุ่มเวิลด์ วิชั่น กล่าวว่า สถานการณ์ในรัฐนี้มีความรุนแรงมาก เพราะเป็นรัฐที่มีอาณาเขตกว้างขวางมาก และมีหลายพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือ อาหาร และน้ำดื่มสะอาด เพราะขณะนี้ประชาชนต้องดื่มน้ำปนเปื้อน ขณะนี้ทางกลุ่มมีแผนส่งเรือพร้อมสิ่งของบรรเทาทุกข์ และคณะแพทย์เข้าไปให้ความช่วยเหลือชุมชน 30 แห่งในแถบอะเมซอน

    ส่วนรัฐมารันเยา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดเริ่มมีเจ้าหน้าที่ใช้รถบบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินลำเลียงของทหารขนส่งอาหาร เวชภัณฑ์ เครื่องนอน และผ้าห่ม ไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย ด้านประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ระบุผ่านรายการวิทยุประจำสัปดาห์ว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมเข้าไปซ่อมแซมความเสียหายจากอุทกภัย หลังจากมั่นใจแล้วว่าได้แจกจ่ายอาหาร และเวชภัณฑ์ไปถึงมือคนบราซิลผู้หิวโหย และเจ็บป่วยเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันนี้ผู้นำบราซิลได้แสดงความเสียใจกับเหยื่อ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รีบประเมินความเสียหายเพื่อให้สามารถออกคำสั่งฉุกเฉินผ่านงบประมาณได้ ขณะเดียวกันแสดงความวิตกว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้สภาพอากาศแปรปรวนในบราซิล -สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 09:13:02

    กัมพูชาเรียกร้องไทยชดเชยเงินกรณีปะทะที่ปราสาทพระวิหาร

    [​IMG]

    พนมเปญ 12 พ.ค.-กัมพูชาเรียกร้องไทยจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องมาจากการปะทะนองเลือดบริเวณประสาทพระวิหารเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีทหารไทยและกัมพูชาเสียชีวิตรวม 7 นาย

    การปะทะกันครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เม.ย. มีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย และตลาดแห่งหนึ่งของกัมพูชาข้างประสาทพระวิหารได้รับความเสียหายจากจรวดของทหารไทยที่ยิงข้ามแดน กัมพูชาส่งหนังสือการทูตถึงไทยเมื่อวานนี้ ระบุว่า การโจมตีด้วยอาวุธหนักของทหารไทยต่อเขตแดนของกัมพูชา สร้างความเสียหายมากและทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ตลาดกัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชน 319 ครอบครัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    รัฐบาลราชอาณาจักรกัมพูชาเรียกร้องรัฐบาลไทย รับผิดชอบทุกสิ่งต่อความเสียหาย ซึ่งเกิดจากทหารไทยและขอให้จ่ายเงินชดเชย ตามความเหมาะสมกับค่าความเสียหายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 11:45:49

    อาร์เจนตินาไม่ยอมอังกฤษอ้างกรรมสิทธิ์ใต้ทะเลใกล้เกาะฟอล์กแลนด์

    [​IMG]

    บัวโนสไอเรส 12 พ.ค.-อาร์เจนตินาไม่ยอมรับอังกฤษที่จะขยายกรรมสิทธิ์ไปยังพื้นที่ก้นทะเลนอกชายฝั่งหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศเคยทำสงครามแย่งชิงหมู่เกาะดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1980

    รัฐมนตรีต่างประเทศอาร์เจนตินา กล่าวว่า คำอ้างของอังกฤษที่เสนอไปยังสหประชาชาติว่าจะขยายกรรมสิทธิ์หมู่เกาะแห่งนี้ให้ครอบคลุมไปถึงส่วนของทวีปที่จมอยู่ในทะเลเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และว่าอำนาจที่จะทำแบบนี้ได้จะต้องได้รับความยินยอมจากอาร์เจนตินาซึ่งมีอำนาจอธิปไตย

    การขยายกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ จะทำให้อังกฤษสามารถขยายการตักตวงทรัพยากรธรรมชาติไปสู่ก้นทะเลรอบ ๆ เกาะฟอล์กแลนด์ หมู่เกาะเซาท์จอร์ เจีย และหมู่เกาะเซาท์เทิร์น แซนด์วิช

    กฎหมายระหว่างประเทศระบุไว้ว่า ทุกประเทศมีขอบเขตอำนาจทางกฎหมายเหนือพื้นที่ก้นทะเล 200 ไมล์จากชายฝั่ง แต่สามารถขยายเป็น 350 ไมล์ทะเลหากได้รับความเห็นชอบจากสหประชาชาติ.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 11:10:11

    จีนรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุแผ่นดินไหวเสฉวน

    [​IMG]

    เฉิงตู 12 พ.ค. – จีนรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนในวันนี้ ขณะที่ความพยายามในการฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือนยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางการคุกคามระลอกใหม่จากทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    คาดว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะเดินทางมาร่วมในพิธีรำลึก ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่ประสบภัยในเมืองเป่ย์ฉวนในเวลาประมาณ 14.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 13.00 น. ตามเวลาในไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.9 ริกเตอร์ นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในจีนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตหรือสูญหายเกือบ 90,000 คน และไร้ที่อยู่อาศัยอีก 5 ล้านคน และจนถึงขณะนี้ ผู้ประสบภัยยังคงพักอาศัยตามที่พักชั่วคราว ขณะที่งานก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไป

    รายงานระบุว่า การจราจรนอกเมืองเป่ย์ฉวนติดขัดอย่างหนักในวันนี้ ตำรวจต้องกั้นถนนห่างจากใจกลางเมืองราว 5 กม. ทำให้ประชาชนนับร้อยต้องเดินเท้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว โดยส่วนใหญ่ออกเดินทางไปตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ส่วนที่หน้าบริเวณที่เป็นซากโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีบรรดาประชาชนไปวางดอกไม้ จุดธูปเทียนและประทัด ผู้ปกครองบางคนยังคงแสดงอาการไม่พอใจรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดถูกลงโทษหรือจับกุมในกรณีของโรงเรียน เจ้าหน้าที่ของทางการยืนยันว่ายังไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานตามที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้ปกครองร้องเรียน -สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 10:21:53

    คิวบายืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก

    [​IMG]

    ฮาวานา 12 พ.ค. - คิวบายืนยันพบนักศึกษาชาวเม็กซิโก เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของประเทศเมื่อวานนี้

    กระทรวงสาธารณสุขคิวบา แถลงว่า นักศึกษาชายชาวเม็กซิโกที่ตรวจพบติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาชาวเม็กซิโก 14 คน ที่เข้าไปศึกษาในกรุงฮาวานา ของคิวบา โดยนักศึกษากลุ่มนี้เดินทางเข้าคิวบาเมื่อวันที่ 25 เม.ย. และถูกเฝ้าสังเกตอาการหลังมีอาการไข้ ด้านสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของคิวบา รายงานว่า นักศึกษาทั้งหมดสุขภาพดี มีเพียง 1 คนที่ป่วย ทั้งนี้ คิวบาระงับให้บริการเที่ยวบินตรงสู่เม็กซิโกตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 08:09:56

    แคนาดาพบผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 รายใหม่เพิ่มอีก 40 ราย

    [​IMG]

    ออตตาวา 12 พ.ค. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคนาดา ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายใหม่เพิ่มอีก 40 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศพุ่งแตะ 331 คน

    รัฐออนแทรีโอ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 34 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดของรัฐอยู่ทั้งสิ้น 110 ราย นับแต่โรคเริ่มแพร่ระบาดในพื้นที่ ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่อื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรงและอยู่กระจัดกระจายไปทั่วแคนาดา ในจำนวนนั้นรวมทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ในรัฐควิเบก และ 3 รายในรัฐแอลเบอร์ตา ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 1 คน และได้รับการยืนยันจากทางการแคนาดาเมื่อสัปดาห์ก่อน

    สำหรับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วแคนาดาอยู่ที่ 331 ราย โดยรัฐบริติชโคลัมเบียพบผู้ติดเชื้อ 79 ราย รัฐโนวาสโกเชีย 57 คน รัฐแอลเบอร์ตา 52 คน รัฐควิเบก 17 คน รัฐซัสแคตเชวัน 10 คน รัฐปรินซ์เอดเวิร์ดไอแลนด์ 3 คน รัฐนิวบรันสวิก 2 คน และพบผู้ติดเชื้อ 1 คนในรัฐแมนิโทบา. -สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 07:33:48

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6739 ข่าวสดรายวัน


    ย้อนประวัติศาสตร์ "ไข้หวัดใหญ่"เขย่าโลก!




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปัจจุบัน แม้สถานการณ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดจนพบผู้ติดเชื้อกระทั่งล้มป่วยขั้นวิกฤตจะลดน้อยลง

    แต่องค์การอนามัยโลก (ฮู) เตือนว่า รัฐบาลแต่ละประเทศไม่ควรประมาท

    เพราะยังคงตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ที่สำคัญโรคอาจกลับมาระบาดหนักระลอกสองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและรุนแรงมากกว่าเดิม

    ทำให้มนุษยชาติเดือดร้อนถ้วนหน้าเหมือนกับมหันตภัยไข้หวัดใหญ่ที่เคยระบาดหนักหลายครั้งหลายหนในอดีต!

    เท่าที่ผ่านมา วงจรเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะ "กลายพันธุ์" เว้นระยะห่าง 20-30 ปี และทำอันตรายต่อร่างกายคนเรามากขึ้นตามลำดับ

    อย่างไรก็ตาม บางครั้งไวรัสที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษยชาติ แต่ถึงเวลาเอาเข้าจริงกลับไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด

    สาธารณชนบางส่วนจึงกล่าวโทษนักวิทยาศาสตร์ รวมถึงสื่อว่าโหมประโคมข่าวเกินจริง ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกโดยใช่เหตุ

    ประวัติศาสตร์โรคไข้หวัดใหญ่ระบาดครั้งสำคัญๆ ระดับโลกนั้นเกิดขึ้นกี่ครั้งและคร่าชีวิตมนุษย์มาก-น้อยแค่ไหน วันนี้จะพาไปทบทวนข้อมูลกันดูอีกครั้ง เพื่อเป็นบทเรียนว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราไม่ควรประมาทเป็นดีที่สุด!



    1. "ปฐมบทโรคระบาดครั้งใหญ่" ปีค.ศ.1580 (พ.ศ.2123)

    จากหลักฐานที่พิสูจน์ได้จนถึงขณะนี้พบว่า โรคไข้หวัดใหญ่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลกครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1580 มีจุดเริ่มต้นจากทวีปเอเชีย แพร่ไปยังทวีปแอฟริกา ตามด้วยยุโรป

    รายงานในวารสารจุลชีววิทยา "Applied Microbiology" ปีค.ศ.2001 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน ชี้ว่า <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โรคระบาดครั้งนี้ทำให้ประชากรในเมืองหลายแห่งของสเปนตายยกเมือง

    ส่วนในกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิต 8,000 คน และเป็นที่มาของคำว่า "Influenza" หรือ "ไข้หวัดใหญ่" ที่เราเรียกกันทุกวันนี้

    โดยมีรากศัพท์ภาษาอิตาเลียนจากคำว่า "Influenza del Freddo" แปลว่า "อาการจับไข้"

    คล้อยหลังอีก 160 ปีต่อมา คนอังกฤษจึงหยิบยืมตัดทอนคำว่า "Influenza" มาใช้เรียกคนที่ป่วยเป็นไข้รุนแรง



    2. "ไข้หวัดสเปน" ปีค.ศ.1918-1919 (พ.ศ.2461-2462)

    ไข้หวัดใหญ่สเปน นับเป็นภาวะโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

    คาดว่ามีประชากรโลกเสียชีวิต 50-100 ล้านคน

    เมื่อแยกช่วงอายุออกมาพบด้วยว่า ไข้หวัดสเปนยังทำให้ประชากรวัยหนุ่มสาวเสียชีวิตไปร้อยละ 8-10 เปอร์เซ็นต์

    ความสูญเสียมหาศาลนี้ช่วยผลักดันให้ทั่วโลกร่วมมือกันพัฒนาองค์ความรู้ทางการแพทย์และวิจัยผลิตยาสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพรับมือเชื้อไวรัสได้ดีกว่าเดิม



    3. "ไข้หวัดใหญ่เอเชีย" ปีค.ศ.1956-1958 (พ.ศ.2499-2501)

    ไข้หวัดใหญ่เอเชียมีความรุนแรงน้อยกว่าไข้หวัดสเปนหลายเท่า แต่ก็ลามจากเอเชียไปถึงสหรัฐอเมริกา

    เฉพาะในสหรัฐมีผู้เสียชีวิต 70,000 คน

    ขณะที่ยอดรวมคนติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วโลกมีสูงกว่า 2 ล้านคน

    ไวรัสกลายพัฒนามาจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ "เอช 2 เอ็น 2" พบการแพร่ระบาดครั้งแรกในประเทศรัสเซีย กระทั่งระบาดใหญ่ช่วงปีค.ศ.1889 (พ.ศ.2432)
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอเชียมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ แต่เนื่องจากโรคระบาดนานถึง 2 ปีกว่าจะยุติ

    คอยซ้ำเติมปัญหาไข้หวัดใหญ่ระบาดตามฤดูกาลอยู่แล้วให้แย่หนักขึ้นไปอีก



    4. "ไข้หวัดฮ่องกง" ปีค.ศ.1968 (พ.ศ.2511)

    ไวรัสไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง "เอช 3 เอ็น 2" กลายพันธุ์จากเชื้อไข้หวัดใหญ่เอเชีย ทิ้งห่างกันราว 10 ปี

    พบครั้งแรกในเกาะฮ่องกง ก่อนลามไปยังเวียดนาม สิงคโปร์ อินเดีย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ยุโรป แอฟริกา อเมริกาใต้ และทหารผ่านศึกอเมริกันที่เคยรบสมรภูมิเวียดนามเอาโรคกลับไปแพร่ในแผ่นดินสหรัฐ

    เชื้อไข้หวัดฮ่องกงเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์น้อยกว่าไข้หวัดสเปนและไข้หวัดเอเชีย

    แต่ก็เป็นเหตุให้ชาวโลกล้มตายไป 1 ล้านคนโดยประมาณ

    ในฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อ 500,000 คน ส่วนตัวเลขคนล้มตายไม่มากนัก เชื่อว่าเพราะร่างกายมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วตั้งแต่เมื่อครั้งเจอกับภัยไข้หวัดใหญ่เอเชียระบาด



    5. "โลกตื่นตระหนกไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หมู : Swine Flu" ปีค.ศ.1976 (พ.ศ.2519)

    เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1976 นายทหารอเมริกันประจำค่ายฟอร์ตดิกซ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เสียชีวิตหลังติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 ชนิดเดียวกับที่พบในหมู

    เนื่องจากเชื้อเอช 1 เอ็น 1 ที่ว่านี้มีสายพันธุ์ในกลุ่มเดียวกับไวรัสไข้หวัดสเปน จึงทำให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเกิดอาการ "ตื่นตูม" สั่งเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโดยด่วน แต่ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกายกลับกลายเป็นว่าอันตรายมากกว่าการติดเชื้อเสียอีก

    สรุปแล้ว ทั่วสหรัฐมีคนเสียชีวิตเพราะไวรัสตัวนี้เพียง 1 คน

    นั่นก็คือ ทหารค่ายฟอร์ตดิกซ์ ส่วนคนที่แพ้วัคซีนเสียชีวิตมีถึง 25 ราย



    6. "ไข้หวัดรัสเซีย" ปีค.ศ.1977-1978 (พ.ศ.2520-2521)

    ไข้หวัดใหญ่รัสเซีย เป็นไวรัสในกลุ่ม เอช 1 เอ็น 1 เหมือนกับไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์หมูที่ระบาดช่วงปี 1976 และไข้หวัดใหญ่สเปน

    ผู้เสียชีวิตและติดเชื้อจนป่วยหนักส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก เพราะร่างกายยังไม่เคยมีภูมิคุ้มกันเชื้อสายพันธุ์นี้มาก่อน

    ส่วนคนอายุ 25 ปีขึ้นไปไม่ค่อยเป็นอะไรมากนัก



    7. "ไข้หวัดใหญ่ เอช 5 เอ็น 1" หรือ "ไข้หวัดนก" ปีค.ศ.2003 (พ.ศ.2546)

    ปี 2003 องค์การอนามัยโลกประกาศว่าพบไวรัสไข้หวัดใหญ่ตระกูล "เอช 5 เอ็น 1" หรือ "ไข้หวัดนก" สายพันธุ์ใหม่ล่าสุดในทวีปเอเชีย มีพิษรุนแรงกว่าเชื้อไข้หวัดนกในอดีต

    ผู้ติดเชื้อมีเปอร์เซ็นต์เสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 60 คล้ายๆ กับไข้หวัดใหญ่สเปน สร้างความหวาดวิตกขนานใหญ่ไปทั่วโลก

    เคราะห์ดีที่ไวรัสจะติดจากสัตว์ปีกสู่คนเท่านั้น ไม่ติดแบบ "คนสู่คน" ทำให้มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาดทำได้ง่ายขึ้น แต่ก็ระบาดกระจายสู่หลายประเทศจนได้

    เช่น ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ไนจีเรีย อิรัก อาเซอร์ไบจาน อียิปต์ อังกฤษ ออสเตรีย อิตาลี กรีซ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส โครเอเชีย เยอรมนี

    ยอดรวมผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเฉียด 300 ราย



    ข้อมูลจากเว็บไซต์ : popsci.com

    [FONT=Tahoma,]หน้า 21[/FONT]
     
  14. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    13 พ.ค. 52 มาตามนัด

    1 พ.ค. 52 หมูนานาชาติ

    คิดว่าไม่มา แต่ก็มา ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพให้ดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2009
  15. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    โชคดีค่ะ
     
  16. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    เรื่องลิขสิทธิ์
    เราก็สนใจและใช้แต่ด้านดีของมันสิ

    สมัยนี้หนังสือธรรมมะประยุกต์เยอะแยะมากมาย การมีลิขสิทธิ์ก็ทำให้สืบค้นหาที่มาที่ไปได้สะดวก ดูอย่างหนังสือธรรมมะยุคก่อนหน้านี้สิ เนื้อหาก็ไม่รู้ว่าใครเขียน ใครแต่ง รับรู้มาจากไหน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมาด้วย จะสืบหาว่าข้อความนี้ใครพูดไว้ เป็นท่านใด ลูกศิษย์ใคร ปฏิบัติธรรมที่ไหน ก็สืบยาก ยิ่งถ้ามีการเขียนตกหล่นด้วยความไม่ตั้งใจก็ยิ่งตรวจไม่ได้เหมือนกันว่าเข้าใจผิดหรือขั้นตอนการพิมพ์ผิด การมีลิขสิทธิ์ก็ดีออก ใครจะเอามาใช้ก็ควรอ้างอิงที่มาให้มากที่สุด ถ้าคนอ่านเค้าอยากรู้เพิ่มเติมเค้าจะได้ไปสืบจากต้นทางความคิดได้สะดวก และที่สำคัญคือช่วยป้องกันความผิดผลาดจากการสื่อความที่ไม่ครบจากต้นฉบับ บางคนตัดตอนเฉพาะที่ตนอยากเผยแพร่ออกมา คนที่มาอ่านทีหลังก็มีโอกาสเข้าใจผิดในด้านต่างๆ หากคนที่ตัดข้อความออกมานั้นไม่เข้าใจจริงๆก็ไปกันใหญ่ โอกาสพลาดในการสื่อสารทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจก็มีสูง ดังนั้นมีลิขสิทธิ์ไว้นะดีแล้ว ใช้เฉพาะด้านดีของมันเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    นานๆ เจ้าของกระทู้มาปรากฏตัวซะที

    รีบจบเร็วๆนะครับ

    จะได้ช่วยส่วนรวมได้สมกับที่ตั้งใจไว้ครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พุทธทำนายในศิลาจารึก และความคลาดเคลื่อนในการนับปีพุทธศักราช

    [​IMG]

    พระพุทธพจน์ทำนาย

    คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้

    สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลก ซึ่งเกิดมาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ไกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปรินิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาลว่า

    " ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลกโลกหมุนไป ไกล้ความแตกทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕๐๐๐ ปี เมื่อโลกไปไกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒๕๐๐ ปี)มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาปให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก

    เมื่อไกล้กึ่งศาสนาของอาตมา ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้า ทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือดแผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมจากสัตว์ป่าอำมหิต

    ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมา ก็จะสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และกาสาวพัสตร์จะได้รับวิบัติเบาบางลง แต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น

    เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำสงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ราชตระกูลอำมาตย์


    ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะเกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่ง ผีเสื้อแสนหนึ่งมาปล่อยแสนหนึ่งมาปล่อยไข้เป็นไฟผลาญ

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒(ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญภาวนาดังนี้

    " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "

    ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป


    การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของอาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัย ของอาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี

    เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาบังเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้ เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

    ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไปนับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลาผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่งยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่งให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

    " พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "

    รู้แล้วอย่าประมาท ให้ท่องบ่นภาวนารักษาศีล

    ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-2.html

    ****************************************************

    การนับเวลากึ่งพุทธกาล พุทธศักราชที่นับคลาดเคลื่อนเร็วกว่าความเป็นจริงไป 58 ปี

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->monsodsai2<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1277126", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เรื่องการนับเวลากึ่งพุทธกาล พุทธศักราชที่นับคลาดเคลื่อนเร็วกว่าความเป็นจริงไป 58 ปี (โปรดใช้วิจารณญาณด้วย)

    ข้าพเจ้าโพสต์กระทู้นี้ เพราะเห็นว่า เป็นความรู้ใหม่ โพสต์เพียงเพื่อให้รู้ว่า แม้แต่ในเรื่องของปี พ.ศ. ที่ใช้กันอยู่ ณ ปัจจุบัน ก็ยังมีนักปราชญ์ผู้รู้ ได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องกันใหม่ มีการโต้แย้ง คัดค้าน และมีการหาหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ มาพิสูจน์ถึงความคลาดเคลื่อนของกาลเวลาที่ได้มีการ บรรยัติใช้กันมาถึงปัจจุบัน โดยท่านนักปราชญ์ผู้นี้ มิได้มีเจตนาและไม่มีความประสงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ปี พ.ศ. ใหม่แต่อย่างใด ท่านประสงค์เพียงเพื่อให้รู้เฉยๆ (รู้แล้ววาง) รู้ว่ามันมีความคลาดเคลื่อนอยู่นะ....เท่านั้น

    ข้าพเจ้าผู้โพสต์กระทู้นี้ ก็ไม่ได้คาดหวังให้ท่านผู้อ่านต้องเชื่อตามนี้ ขอให้ใช้วิจารณญาณกันเอง

    จากบทความตอนหนึ่ง ของผู้ถาม:-

    เมื่อประมาณเดือนกุมภา-มีนา พระอาจารย์ดร.สมชาย ท่านสอนเรื่องการนับเวลา หลังพุทธกาล ที่มีเนื้อหาว่า ปัจจุบันนี้ พุทธศักราชที่นับไว้ไม่ตรง นับเวลาคลาดเคลื่อนไปนั้น อยากDown Load ไว้ศึกษาอีกที จะขอให้ท่านผู้รู้ช่วย หาLINKให้ด้วย หัวข้อนี้มีประโยชน์มาก เพื่อนที่ไม่ได้ฟังจะได้ทบทวนอีกทีขอบคุณมาก

    คู่สนทนา :- "อ๋อ..ที่ว่าปีนี้เป็น พ.ศ.2493 ไม่ใช่ปีพ.ศ.2551 ช่ายป่ะ..อืมม์..น่าสนใจ..ตอนปีใหม่บัณฑิตถาวรแจก mp3 รายการทันโลกทันธรรม..ปีใหม่นี้น่าจะมีแจกอีก..ไว้จะลองถามพระอาจารย์ดูค่ะ

    13-06-2008, 10:17 AM

    ฟังและชมรายละเอียดได้จาก Link นี้ :
    http://www.dmc.tv/programs/the_world_and_dhamma.html#

    _____________________________________________________

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ถิ่นธรรม<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1279821", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ในยุคหลังพระเจ้าอโศก มีกษัตริย์หลายองค์ที่ไม่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา ได้กวาดล้างพระพุทธศาสนาอย่างหนัก การนับศักราชแบบพุทธก็ถูกยกเลิกไปด้วย เมื่อยุคมืดที่มีเป็นร้อยปีผ่านไป จึงมีความพยายามฟื้นฟูพระพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ และเริ่มนับศักราชแบบพุทธขึ้นมาใหม่ แต่บรรดาบัณฑิต นักปราชญ์ในพระพุทธศาสนาซึ่งอยู่ในราชสำนักก็ล้มตายไปเกือบหมด จึงไม่มีผู้รู้ว่าพุทธศักราชที่แน่นอนเป็นปีใดกันแน่ ได้แต่ประมาณเอา บางหลักฐานก็บอกว่าเริ่มนับต่อจากที่ถูกยกเลิก นี่เป็นความคลาดเคลื่อนประการแรก

    ความคลาดเคลื่อนประการที่สอง การนับศักราชแบบเอเซียทั้งไทย จีน อินเดีย ไม่ได้นับปีแบบที่เรานับทบๆกันในปัจจุบัน แต่นับเป็นวงรอบทางดาราคติ เช่นปีนักษัตร การบันทึกประวัติศาสตร์มักจะบอกว่าเป็น เดือนยี่ ปีชวด อะไรทำนองนี้ หรือไม่ก็ปีที่เท่าไรในสมัยของกษัตริย์องค์ใด ซึ่งถ้าไม่เทียบกับศักราชของศาสนาแล้ว ก็จะไม่รู้เลยว่าเป็นปีใดกันแน่ ศักราชในศาสนาจึงเหมือนเป็น Milestone ของประวัติศาสตร์ แต่พอเอาพุทธศักราชออกจากบันทึกประวัติศาสตร์ พอผ่านไปนานๆ หลายร้อยปี เราจึงไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีชวด เป็นของปีนี้ หรือ 12 ปีก่อน หรือ 24 , 36 , 48 หรือ 60 ปีก่อน ได้แต่คะเนเอาว่าช่วงนั้นช่วงนี้

    สรุปว่าการนับพุทธศักราช มีช่วงที่ขาดตอนอยู่หลายช่วง จากการทำลายล้างของชนต่างศาสนา

    ส่วนงานวิจัยที่ว่าการนับพระพุทธศาสนามากไป 58 ปี เป็นงานวิจัยที่วงการนานาชาติยอมรับว่ามีความถูกต้องทางวิชาการ (คือใช้กระบวนการสืบค้นตรวจสอบที่เป็นรูปธรรม มิใช่ยืนยันว่าถูกต้อง) เดิมการประมาณการว่าพุทธศักราชขณะนี้เป็น 2551 ก็มาจากการนับเริ่มต้นจากยุคพระเจ้าอโศก ที่มีจารึกระบุถึงเวลาเริ่มพุทธศักราชอย่างชัดเจน (นักวิชาการเชื่อว่าเป็น Milestone อันแรกในพระพุทธศาสนา) แล้วก็นับปีศักราชของกษัตริย์แต่ละองค์บวกทบๆกันเข้าไป และประมาณการช่วงยุคมืดที่ขาดตอน และสรุปออกมาว่าเป็นพุทธศักราชที่เท่าไร และก็ใช้กันมาเป็นพันปี

    งานวิจัยที่กล่าวถึง ได้เสนอหลัหกฐานใหม่เพราะว่ามี Milestone อีกอันที่สำคัญในเอเซีย นั่นคือปีที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์กรีฑาทัพบุกอินเดีย ซึ่งทั้งอินเดียและยุโรปมีการบันทึกเหตุการณ์นี้ตรงกัน แต่ทางฝั่งยุโรปมีการบันทึกปี ค.ศ. ที่ชัดเจน(การนับ ค.ศ. ในยุโรปไม่มีการขาดตอนทางประวัติศาสตร์เลย เพราะหลังจากที่ศาสนาคริสต์ลงรากในยุโรป ก็ไม่เคยถูหกกวาดล้างเลย ต่างจากฝั่งเอเซียที่ประวัติศาสตร์มักขาดห้วงเสมอ มีการถอนรากถอนโคนพระพุทธศาสนาหลายครั้ง) แต่ทางฝั่งอินเดียบันทึกแบบดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเป็นปีที่เท่าไรของกษัตริย์องค์ใดเท่านั้น ซึงจุดนี้ได้นำมมาประเมินตามหลักวิทยาศาสตร์และทางโบราณคดีเข้ามาเปรียบเทียบ ก็พบว่ามีเวลาผิดจากที่นับกันอยู่ประมาณ 58 ปี

    ก็ต้องบอกบางท่านว่า นี่เป็นแค่การศึกษาทางวิชาการ ไม่ได้ไปหักล้างความเชื่อหรือความศรัทธาของใคร ก็ต้องฟังหูไว้หู พิจารณาไปตามหลักฐานที่มีการค้นคว้า พิจารณาแบบนักวิชาการ ซึ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป การที่ปีนี้เป็นปี พ.ศ.2551 ก็เช่นกัน ย่อมมีที่มาที่ไป ไม่ใช่อยู่ดีๆก็เกิดขึ้นเอง ต้องมีหลักคิดมีเหตุมีผลที่ซ้อนอยู่เบื้องหลัง<!-- google_ad_section_end -->

    14-06-2008, 03:36 PM

    ที่มา http://palungjit.org

    *******************************************************
    หมายเหตุ

    อ้างอิงข้อความจากพุทธทำนายในศิลาจารึก

    " เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒(ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ "

    ถ้าหากว่าการนับปีพุทธศักราช คลาดเคลื่อนเร็วกว่าความเป็นจริงไป 40-50 ปี เป็นความจริงแล้ว นั่นก็แสดงว่าปี พ.ศ.2507(ปีมะโรง) ในพุทธทำนาย ความจริงอาจจะหมายถึงปี พ.ศ.2555 ซึ่งก็จะตรงกับปีมะโรงพอดี คำว่า"คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน"อาจจะหมายถึงเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงไปทั่วโลก จนทำให้การจราจรทั้งหมดในโลกกลายเป็นอัมพาต ผู้คนไม่สามารถเดินทางติดต่อไปมาหาสู่กันได้ตามปกติเหมือนในปัจจุบันนี้ หรืออาจจะหมายถึงต้องล้มลุกคลุกคลานเพราะกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงก็เป็นได้ (นักวิทยาศาสตร์อเมริกาทำนายว่าปี พ.ศ.2555 แกนขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกกลับด้าน)

    2508 (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ก็น่าจะหมายถึงปี 2556 ซึ่งตรงกับปีมะเส็ง เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จนทำให้ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศในปัจจุบันนี้ พื้นแผ่นดินแถบชายฝั่งทะเล ต้องยุบตัวจมหายลงไปในทะเลเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

    2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ ก็น่าจะหมายถึงปี พ.ศ.2560 ซึ่งตรงกับปีระกา จะเกิดเหตุการณ์"เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวัน"แห่งความมืดมิดตามที่ได้มีการทำนายกันเอาไว้ครับ

    ********************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      66.7 KB
      เปิดดู:
      1,718
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2009
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
    มาซ้อมหนีภัยกันเถอะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>
    13 พฤษภาคม 2552 09:47 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่จากสภากาชาดกำลังสอนวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่นักเรียนที่มาเข้าชมที่พิพิธภัณฑ์เมืองหันตัน มณฑลเหอเป่ย​

    [​IMG]
    นักเรียนประถมโรงเรียนไห่ซันกำลังซ้อมหนีภัยเมื่อวันที่ 12 พ.ค.​

    [​IMG]
    นักเรียนอนุบาลโรงเรียนเฮ่อฉินกำลังซ้อมหนีภัย​

    [​IMG]
    นักเรียนในมณฑลกว่างตงก็กำลังซ้อมหนีภัยเช่นกัน​

    ในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมานอกจากเป็นวันรำลึกครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 8.0 ริกเตอร์ที่มณฑลเสฉวนแล้ว ทางการยังได้กำหนดให้วันนี้เป็นวัน “ป้องกันภัย” ซึ่งปีนี้เริ่มต้นเป็นปีแรก โดยในรูปเด็กนักเรียนประถมเมืองไห่ซัน มณฑลเจ้อเีจียง กำลังฝึกซ้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นอยู่ ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้วนั้นมีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบ 87,000 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนมากถึง 5,335 คน – เอเจนซี

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9520000052932
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2009
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งสนองแนวพระราชดำริรับมือกับพายุ

    [​IMG]

    กระทรวงทรัพยากรฯ 12 พ.ค.-กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งสนองพระราชดำริรับมือพายุ เฝ้าติดตาม 24 ชั่วโมง เน้นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือ

    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหาร ทส.ว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าหารือเพื่อสนองแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งพระองค์ทรงมีความห่วงใยในการเตรียมพื้นที่สำหรับรับน้ำที่มีมากในฤดูฝน เนื่องจากในช่วงระยะนี้จะมีพายุโซนร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้พัดเข้ามาสู่ประเทศไทย

    ทั้งนี้ มีการประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อวางแผนป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะการเฝ้าระวังในเรื่องของน้ำหลากดินถล่มตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีสถานีเตือนภัยอัตโนมัติ 250 แห่ง ครอบคลุม 600 หมู่บ้านทั่วประเทศ จากพื้นที่เสี่ยงภัย 2,370 หมู่บ้าน อีกทั้งมีการทดสอบเครื่องมือและซักซ้อมประชาชนในพื้นที่ สำหรับการเตรียมรับความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากพายุโซนร้อนดังกล่าว สำหรับพื้นที่ที่ต้องให้ความสนใจเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ ภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือ ได้แก่ จ.เลย เพชรบูรณ์ อุดรธานี น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย เชียงราย เป็นต้น

    นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดหาพื้นที่รับน้ำนองและชะลอน้ำ ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำมีแผนอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อเป็นแก้มลิงธรรมชาติอย่างน้อย 6,522 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า โดยในปีนี้ดำเนินการแล้ว 1,115 โครงการ ส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 2554 คาดว่าจะทำให้จัดการน้ำได้น้ำถึง 834 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งจัดทำเป็นแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและดินนอกเขตชลประทาน 24 ล้านไร่ สำหรับดำเนินการในระยะ 10 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-05-12 18:38:34

    ที่มา http://news.mcot.net/environment/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...