ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ไม่ได้ขัดกับความเป็นจริงหรอกครับ เพราะตามธรรมดาของการชุมนุมที่ต้องใช้เวลาอย่างยาวนานติดต่อกันหลายวันนั้น ย่อมต้องมีบางช่วงเวลาที่ผู้ชุมนุมต้องผลัดเปลี่ยนกันไปทำกิจวัตรส่วนตัวบ้าง ไปพักผ่อนนอนหลับในสถานที่ใกล้เคียงบ้าง ฯลฯ

    จึงทำให้บางช่วงเวลา ดูเหมือนว่ามีผู้ชุมนุมบางตาไปบ้างก็เท่านั้นเอง และการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวบางแห่งก็ไม่ได้เป็นกลาง อย่างแท้จริง จึงนำเสนอข่าวในแง่มุมที่จะเป็นประโยชน์กับฝ่ายของตนเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร

    เพราะข่าวของคุณจตุพร ที่ผมได้หยิบยกมาโพสต์นี้ ก็เพื่อต้องการสื่อให้เห็นถึงความห่วงใยของผู้เป็นแม่ ซึ่งไม่เคยมองว่าลูกของตัวเองจะอยู่ฝ่ายไหน แต่มองเพียงว่าลูกตัวเอง จะไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครบ้างหรือเปล่า ซึ่งอาจจะทำให้ลูกของตัวเองต้องได้รับอันตรายจากการกระทำนั้นๆในที่สุด ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความรักและความห่วงใยอันบริสุทธิ์ จากดวงใจผู้เป็นแม่นั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2009
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมื่อสัตว์น้ำน่ารักกลายร่างเป็นเพชรฆาตใต้น้ำ

    [​IMG]

    ผู้จัดการออนไลน์ - เมื่อสัตว์น้ำที่น่ารักอย่าง แมวน้ำ ปลาโลมา และสิงโตทะเล ถูกฝึกให้เป็นหน่วยกล้าตายใต้มหาสมุทร ในการกู้ทุ่นระเบิดใต้ทะเลลึก แม้มันไม่ง่ายเหมือนกับการฝึกเล่นละครสัตว์ แต่เพราะพวกมันมีคุณสมบัติเหนือมนุษย์ในหลายด้าน สหรัฐจึงตั้งโครงการลับขึ้น เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

    เพราะแมวน้ำและสิงโตทะเล มีคุณสมบัติในการเป็นทหารเหนือกว่ามนุษย์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สามารถอยู่ในน้ำได้นานกว่า และไม่กลัวระดับความลึกของน้ำและความแปรปรวนของอากาศ สหรัฐก็เลยแอบมีโครงการลับๆ ในการฝึกแมวน้ำและสิงโตทะเลให้เป็นนักค้นหาและล่าทำลายทุ่นระเบิดในทะเล

    แมวน้ำและสิงโตทะเล มีความสามารถในการค้นหาปลาที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทราย หน่วยรบพิเศษของสหรัฐจึงนำหลักการนี้มาใช้ค้นหาทุ่นระเบิดรุ่นใหม่ที่ฝังตัวในทราย ซึ่งโดยปกติ การตรวจจับด้วยเครื่องมือและสายตามนุษย์เป็นเรื่องยากมาก แต่ถ้าฝึกสิงโตทะเลให้กู้ทุ่นระเบิด โดยให้มันเป็นฝ่ายตรวจจับเสียงที่มาจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นทุ่นระเบิด แล้วจึงให้คนเข้าไปติดตั้งอุปกรณ์กู้เพื่อทำลาย จะเป็นไปได้ง่ายกว่า

    [​IMG]

    แต่การฝึก แมวน้ำและปลาโลมาก็มีปัญหาในการฝึกมากกว่าการให้เล่นละครสัตว์ เพราะจะต้องให้พวกมันสามารถแยกแยะวัตถุขนาดต่าง ๆ รวมไปถึง ต้องสามารถแยกแยะสีสันของวัตถุในธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น มันจึงไม่ใช่งานหมูๆ เลย และก็ยังไม่มีรายงานจากกองทัพสหรัฐว่า จะทำดำเนินการฝึกได้อย่างไร

    การนำสัตว์น่ารักเช่นนี้ มาใช้ในด้านสงคราม ทำให้สหรัฐถูกลิเบีย กล่าวหาว่า กระทำการทารุณต่อสัตว์ เพราะฝึกให้ปลาโลมาปฏิบัติภารกิจเหมือนกับระเบิดพลีชีพ โดยให้ว่ายไปพุ่งชนเรือเป้าหมาย ทำให้มันกลายเป็นฝ่ายสังเวยชีวิต ดุจเป็นหน่วยกล้าตาย โดยที่มันไม่ได้เลือก แต่หน่วยรบพิเศษของสหรัฐ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้วว่า ไม่เป็นความจริง

    นอกจากแมวน้ำ และสิงโตทะเล สหรัฐและรัสเซีย ก็เคยฝึกปลาโลมา ให้เป็นเพชรฆาตใต้น้ำ ในการไล่ล่าสังหารทั้งมนุษย์และเรือรบมาแล้ว โดยตั้งแต่ปี 1964 เพนตากอนเป็นผู้ริเริ่มฝึกปลาโลมาให้กลายเป็นเพชรฆาตใต้น้ำ และเนื่องจากช่วงนั้นเป็นยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย ในปี 1967 รัสเซีย ก็ได้เจริญรอยตาม โดยการฝึกโลมาให้เป็นเพชรฆาตเช่นกัน

    โลมา ได้ถูกฝึกปรือให้เป็นทั้งนักสืบและนักฆ่า สามารถค้นหาตำแหน่งของมนุษย์ ถูกสอนให้โจมตีนักดำน้ำที่เป็นศัตรู สามารถค้นหาตำแหน่งเรือของฝ่ายข้าศึก ทั้งยังเรียนรู้วิธีวางกับระเบิดไว้ที่เรืออีกด้วย

    [​IMG]

    แต่หลังยุคสงครามเย็น หลังการล่มสลายของรัสเซีย โลมาในกองทัพกว่า 70 ตัว ต้องถูกเลี้ยงดูอย่างอัตคัต เพราะกองทัพขัดสนงบประมาณอย่างหนัก มัน ถูกปลดประจำการจากสนามรบ ให้กลายเป็นเพชรฆาตเสื้อกาวน์ รักษาคนไข้ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ทั้งเด็กปัญญาอ่อน เด็กขี้อาย เด็กชอบฉี่รดที่นอน เด็กบกพร่องทางสมอง และผู้ป่วยโรคดาวน์ซินโดรม โดยทุกวันนี้ มีศูนย์รักษาพยาบาลที่ให้โลมารักษาเยียวยาคนไข้ไม่ต่ำกว่า 150 แห่งในโลก

    การรักษาพยาบาลโดยโลมา โดยปกติจะให้โลมาสัมผัสเล่นหัวกับคนไข้ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปลาโลมากับคนไข้ โดยมีเครื่อง Sonic noises ติดไว้กับตัวปลา 5 ตัว เป็นอุปกรณ์สื่อสารระหว่างคนไข้กับปลา วันหนึ่งๆ โลมาต้องรักษาคนไข้ไม่ต่ำกว่า 15 ราย ทั้งๆ ที่มันควรให้การรักษาไม่เกิน 5-7 รายต่อวันเท่านั้น เพราะการรักษาดังกล่าว จะมีภาวะกดดันเกิดขึ้น เรียกว่า ภาวะกดดันจากความรู้สึกพิเศษ เนื่องจากมีรังสีที่ไม่ปกติจากตัวคนไข้ มันจึงเหนื่อยไม่น้อยเลย

    แต่ทุกวันนี้ ก็ยังมีคำถามถึงโลมา จำนวนไม่น้อยที่หายสาบสูญไปหลังสงคราม ที่ได้กลายเป็นคุณหมอใจดีเพียง 5 ตัวเท่านั้น ที่เหลือ ไม่รู้ว่าพวกมันหายไปไหนความเป็นไปได้ของปลาโลมาในการกลายเป็นเพชรฆาตใต้น้ำมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นเสมือนต้นแบบของ แมวน้ำ และสิงโตทะเล ที่วันนี้ ได้กลายเป็นเป้าหมายทางการทหารรายต่อไป

    สิ่งที่เกิดขึ้นกับโลมา ก็น่าจะแสดงให้เห็นแล้วว่า ธรรมชาติของสัตว์น้ำที่น่ารักเช่นนี้ ที่สุดแล้ว ควรมีชีวิตอยู่อย่างไร และเมื่อมันหมดหน้าที่หลังสิ้นสุดสงคราม เราจะปล่อยทิ้งมันไว้ที่ไหน ?

    ที่มา http://www.biotec.or.th
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • world1.jpg
      world1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.3 KB
      เปิดดู:
      2,046
    • cat-sea-233.jpg
      cat-sea-233.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.7 KB
      เปิดดู:
      1,523
    • imgp3164ju0.jpg
      imgp3164ju0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      1,771
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2009
  3. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2552 เวลา 17:47 น. ข่าวสดออนไลน์


    เมโทรบัส 7 สายแจ้งหยุดวิ่งจนกว่าสถานการณ์สงบ

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ศูนย์รายงานสถานการณ์การชุมนุมและข่าวสารด้านจราจร รายงานว่า 17.05 น. บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ขอแจ้งผู้โดยสารที่จะเดินทางไปใช้บริการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุณาเผื่อเวลาในการเดินทาง และตรวจสอบเส้นทางจราจร สอบถามข้อมูลได้ที่ Call center 02-132-1888 และที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ท่าอากาศยานดอนเมือง โทร 02-5351192
    ขณะที่เวลา 17.10 น. บริษัท พรีเมียร์ เมโทรบัส จำกัด ประกาศหยุดเดินรถ 7 สาย คือ สาย ปอ.พ.4 เส้นทางตลิ่งชัน-เคหะร่มเกล้า ปอ.พ.10 เส้นทางหมู่บ้านเศรษฐกิจ ประตูน้ำ ปอ.พ.17 เส้นทางสวนสยาม-สีลม ปอ.พ.24 เส้นทางบางขุนนนท์-บางกะปิ ปอ.พ.25 เส้นทางท่าราชวรดิษฐ์-สวนสยาม ปอ.พ.34 วงกลม สถานีขนส่งผู้โดยสารสายเหนือแห่งใหม่บางกะปิ ปอ.พ.35 เส้นทางปากเกร็ดและพัฒนาการ จนกว่าสถานการณ์จะสงบ


    อาจารย์สอนณัฐวุฒิวอนหยุดก้าวล่วงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายสุจินต์ พิมเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองนครศรีธรรมราช ในฐานะอดีตอาจารย์ผู้สอนวิชา ท.001 การพูด ให้กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อครั้งเรียนอยู่ในชั้นมัธยมที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช และมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงเวทีการโต้คารมมัธยมศึกษา เปิดเผยว่าตนเองได้สอนการพูดให้กับนายณัฐวุฒิและได้พยากรณ์ไว้ล่วงหน้าว่าเขาจะใช้วิชาการพูดนี้เป็นอาชีพได้อย่างดีเนื่องจากมีพรสวรรค์มาก ในฐานะอาจารย์ขอร้องว่าหากหยุดคิดได้ก็ขอให้หยุดพฤติกรรมเช่นนี้เสีย ผมเชื่อว่าชั่วดีเป็นอย่างไรเขารู้ตัวอยู่ โดยเฉพาะการไปก้าวล่วงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเช่นพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ขอบอกว่าคณาจารย์ที่เคยสอนสั่งเขาทุกคนเมื่อครั้งมัธยมไม่มีใครรับพฤติกรรมเช่นนี้ได้ ถ้าให้ผมเตือนเขามาถึงวันนี้ในฐานะอาจารย์ผมคงไม่กล้าเตือนเขาแล้วเพราะพ้นช่วงนั้นไปแล้ว ณัฐวุฒิเขาไม่ใช่คนโง่ ผมเชื่อว่าเขาทำเพื่ออาชีพ แต่ถ้าเขาคิดย้อนกลับให้ดีเขาย่อมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร คำว่าประโยชน์ทับซ้อนนั้นเป็นอย่างไร
    เสื้อแดงระดมพลยึดอนุสาวรีย์ชัยฯ-จราจรปิดตาย

    ดาวกระจายป่วนทั่วกรุง

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    [FONT=Times New Roman, Times,

    Serif] เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เป็นแกนนำจัดตั้งขบวนกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 400-500 คน เพื่อเดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์ โดย โดยตั้งขบวนที่ถนนด้านข้างวัดเบญฯ โดยมีรถ 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงนำขบวนและมีรถจักรยานยนต์ขับขี่นำหน้าเพื่อเปิดทาง โดยขบวนเคลื่อนออกจากหน้าวัดเบญฯ เข้าถนนนครปฐม ผ่านแยกวัดเบญฯ และถนนหน้าพระราชวัง โดยขบวนเสื้อแดงได้งดการใช้เครื่องขยายเสียงตลอดแนวถนนที่ผ่านหน้าพระราชวัง
    ต่อมาเวลา 12.30 น. นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำนปช.ได้นำผู้ชุมนุมประมาณ 300 คน เดินทางไปปิดล้อมที่กระทรวงการต่างประเทศ
    ก่อนหน้านี้แกนนำนปช. ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ ร่วมแถลงข่าวว่าจะเพิ่มขีดระดับความเข้มข้นในการต่อสู้มากขึ้นเพื้อล้มระบอบขุนนาง เพราะหลังจากที่ประเมินท่าทีรัฐบาล และท่าทีขององคมนตรีทั้ง 3 คน และนายกรัฐมนตรี ที่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเสนอที่ได้ยื่นไว้เมื่อวานนี้ (7 เมษายน) ฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มระดับความรุนแรงของการต่อสู้ ไม่ใช่เพิ่มความรุนแรงในการกดดันรัฐบาล และองคมนตรีทั้ง 3 คน เบื้องต้นมีรายงานว่า กลุ่มนปช.จะดาวกระจายไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ,กระทรวงการต่างประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญ [/FONT]

    [FONT=Times New Roman,

    Times, Serif] ส่วนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.30 น.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ในนามวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ประมาณ 100 คน มาปิดล้อมถนนทุกสายที่จะมุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เบื้องต้นได้ปิดถนนบริเวณฝั่งราชวิถีและพหลโยธิน ขาเข้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว หน้าบริเวณเซ็นเตอร์วัน เพื่อกดดันให้รัฐบาลลาออก ทั้งนี้ หากไม่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจก่อนเวลาประมาณ 16.00 น. จะมีการปิดถนนยืดเยื้อต่อไปอีก 3 วัน อย่างไรก็ตาม ได้มีแผนว่าจะนำรถแท็กซี่อีกประมาณ 20,000 คัน กระจายปิดถนนทั่วกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันนายชินวัฒน์ได้นำกลุ่มเสื้อแดงที่ดาวกระจายไปกระทรวงต่างประเทศร่วมสมทบกับแท็กซี่ที่บริเวณดังกล่าวแล้ว[/FONT]

    [FONT=Times New Roman, Times, Serif] เวลา 14.10 น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. (ดูแลงานจราจร) กล่าวว่า ขณะนี้เส้นทางโดยรอบทั้ง 4 ทิศถูกปิดหมดแล้ว หากผู้ไม่เกี่ยวข้องขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
    สำหรับเส้นทางการจราจรที่ถูกปิด ประกอบด้วยถนนราชวิถี จากแยกดินแดง ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกตึกชัย ,ถนนพหลโยธิน จากพล.ม.2 ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ และจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ถึงหน้าพล.ม.2 ปิดการจราจร 2 ช่องขวา, ถนนพญาไท จากแยกพญาไท ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ และถนนพระรามที่ 6 ที่จะเข้าไปยังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รวมถึงถนนกำแพงเพชร 5 ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่ไม่มีเหตุจำเป็น โปรดเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว[/FONT]

    [FONT=Times New Roman, Times,

    Serif][/FONT]

    [FONT=Times New Roman, Times,

    Serif] ด้านนพ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผอ.รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า ภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนการชุมนุมมาปักหลักอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ต้องมีการปิดถนนพระราม 6 ตั้งแต่แยกศรีอยุธยาถึงแยกตึกชัย ส่งผลทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังทำให้คนไข้ที่เข้ารับทำการรักษาพยาบาลที่รพ.และต้องการเดินทางกลับบ้านประมาณ 4,000 คน ไม่สามารถเดินทางออกจากรพ.ได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งทางรพ.พยายามประสานไปยังแกนนำผู้ชุมนุม เพื่อขอให้เปิดเส้นทางการจราจร 2 เส้นทาง แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา นอกจากนี้ยังมีคนไข้ฉุกเฉินบางส่วนที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลได้[/FONT]
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>[FONT=Times New Roman, Times,

    Serif] [/FONT]
    [FONT=Times New
    Roman,
    Times, Serif]
    เวลา 15.30 น. ที่เวทีหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ นพ.เหวง โตจิราการ และนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. ได้ขึ้นประกาศบนเวที ว่า ขอให้ผู้ชุมนุมเดินทางไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเป็นการยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1 พันคนได้ทยอยเก็บของและเดินเท้าไปที่อนุสาวรีย์ดังกล่าว โดยมีรถเวทีนำขบวนไปอย่างช้าๆ [/FONT]
    มึนมุขผู้นำอิตาลี"แคมปิ้งดินไหว"



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 8 เม.ย. เอเอฟพีรายงานว่า นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ นายกรัฐมนตรีอิตาลี ก่อเหตุปากพาจนอีกครั้ง ระหว่างเดินตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวใหญ่ในภาคกลางของประเทศ ว่า ขอให้เหยื่อแผ่นดินไหวซึ่งต้องออกมาอยู่เต็นท์ ที่พักชั่วคราว เพราะบ้านเรือนได้รับความเสียหาย คิดเสียว่ากำลังมาเที่ยวปักเต็นท์แคมปิ้ง

    นายแบร์ลุสโคนี่ให้สัมภาษณ์เอ็นทีวีของเยอรมนีว่า เหยื่อแผ่นดินไหวได้ทุกสิ่งที่จำเป็น มีหน่วยรักษาพยาบาล อาหารสุกใหม่ เต็นท์ที่อยู่ตอนนี้เป็นที่พักชั่วคราว จึงน่าจะลองคิดว่ากำลังมาแคมปิ้งสุดสัปดาห์ ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยตั้งเต็นท์ให้เหยื่อแผ่นดินไหวโดยรอบพื้นที่ประสบภัยเมืองลากวีลา จุดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และบางส่วนอาศัยนอนในรถยนต์

    สำหรับยอดผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เพิ่มเป็น 260 ราย เป็นเด็ก 16 ราย และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 17,772 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือให้อยู่ในเต็นท์ในเมืองลา-กวีลา 2,962 เต็นท์
    โสมเหนือขู่อีกเวทียูเอ็น



    บีบีซีรายงานเมื่อ 8 เม.ย.ว่า นายปัก โตฮุน รองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ขู่ว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือจะใช้มาตรการแข็งกร้าวตอบโต้ ถ้าคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นออกมติคว่ำบาตรฐานยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโลกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะถือเป็นความพยายามล่วงละเมิดอธิปไตยเกาหลีเหนือซึ่งมีสิทธิ์ใช้ห้วงอวกาศเพื่อสันติ


    เครื่องเป่าพันธุ์พิสดาร

    เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ในอังกฤษมีรายการทีวียอดนิยมอยู่รายการหนึ่ง ชื่อ "ก๊อต ทาเลนต์"

    เปิดเวทีให้คนที่มี "ความสามารถพิเศษ" ทั่วแดนผู้ดีมาแข่งขันว่าใครเจ๋งกว่ากัน

    อย่างคุณพี่คนในภาพนี้ถือว่ามาแปลกมิใช่น้อย เพราะสามารถนำเอา "อ่างล้างหน้า" มาดัดแปลงเป็นเครื่องเป่าแบบแซกโซโฟน-ทรัมเป็ตส่งเสียงไพเราะเพราะพริ้ง เยี่ยมจริงๆ จ้า!


     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <table width="600" bgcolor="white" border="1" bordercolor="blue" cellpadding="5" cellspacing="0"> <tbody><tr><td align="center" bgcolor="blue"> July 22nd 2009 another Tsumani.. </td></tr> <tr><td>
    <table width="590" align="center" border="0"> <tbody><tr><td> Below is the content on the message:
    “Hello there. I just wanted 2 let you know that please stay away from the beaches all around in the month of July. There is a prediction that there will be another tsunami hitting on July 22nd. It is also when there will be sun eclipse. Predicted that it is going 2 be really bad and countries like Malaysia (Sabah & Sarawak), Singapore, Maldives, Australia, Mauritius, Si Lanka, India, Indonesia, Philippines are going 2 be badly hit. Please try and stay away from the beaches in July. Better 2 be safe than sorry. Please pass the word around. Please also pray for all beings.
    </td></tr> </tbody></table>
    </td></tr> <tr><td> <table width="100%" align="center" border="0"> <tbody><tr><td align="left">
    </td> <td align="right"> โดยคุณ SPRING (203.155.62.32) [09-04-2009 15:04] </td></tr> </tbody></table> </td></tr> </tbody></table>

    เอามาให้ลองอ่านกันดู อ่านแล้วพิจารณาดูกันเองแล้วกัน

    http://www2.tmd.go.th/webboard/show.php?Category=meteorology&No=5925
     
  5. เฌ

    เฌ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +415
    อย่าทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์

    หยุดบิดเบือน พระไตรฯ ได้แล้ว
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    อันตรายจากคลื่นโทรศัพท์มือถือ

    [​IMG]

    9 เม.ย. - คงปฏิเสธไม่ได้ว่า โทรศัพท์มือถือเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก แต่อีกด้านหนึ่งนั้น โทรศัพท์มือถือก็แฝงไว้ด้วยภัยร้ายที่มองไม่เห็น เป็นอะไรไปชมกัน

    เพียงแค่ 1 สัปดาห์ หลังจาก มาร์ค ซิรา ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่เขามั่นใจว่าปลอดภัยจากรังสีมากที่สุดมาใช้ กระทรวงอุตสาหกรรมแคนาดา ก็เรียกเก็บโทรศัพท์รุ่นนี้ออกจากตลาดทันที หลังจากมีการสุ่มตรวจพบว่า โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ปล่อยรังสีออกมามากกว่าอัตราที่กำหนด ขณะที่ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา กระทรวงอุตสาหกรรมแคนาดา เพิ่งจะออกสุ่มตรวจเพียงแค่ 14 ครั้งเท่านั้น
    สถาบันมะเร็งของมหาวิทยาลัยพิตส์เบิร์กในสหรัฐ เตือนให้ประชาชนระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่ให้ร่างกายสัมผัสกับรังสีจากโทรศัพท์มือถือมากเกินไป

    โดยทั่วไปแล้วโทรศัพท์มือถือจะปล่อยพลังงานออกมาเป็นความถี่คลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แม้การศึกษาหลายครั้งไม่พบการเชื่อมโยงระหว่างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากับเนื้องอกในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง แต่ทางสถาบันมะเร็งฯ ก็แนะนำว่า ในการเลือกโทรศัพท์มือถือนั้น อันดับแรกจะต้องเลือกโทรศัพท์ที่มีอัตราการปล่อยรังสี หรือค่าเอสเออาร์ต่ำ และควรพูดโทรศัพท์ให้น้อยลง หากเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงไปใช้ชุดอุปกรณ์หูฟังจะดีกว่า หรือไม่ก็ใช้วิธีส่งข้อความสั้นแทนการพูดโทรศัพท์

    อย่างไรก็ตาม แม้ผลการวิจัยเมื่อปีที่แล้วของมหาวิทยาลัยยูทาห์ ที่ได้ศึกษาผู้ป่วยเนื้องอกในสมองหลายพันคน พบว่า โอกาสเสี่ยงของผู้ป่วยเนื้องอกในสมองที่ใช้โทรศัพท์มือถือไม่เพิ่มขึ้น แต่สำหรับผลในระยะยาวนั้น ยังต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมอีกในอนาคต

    ขณะที่ผลการศึกษาหลายครั้งในปี 2550 ของฝรั่งเศสและนอร์เวย์ ก็ได้ผลสรุปเช่นเดียวกัน และจากการติดตามศึกษาผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือมานานกว่า 10 ปี จำนวน 420,000 คน ไม่พบว่าโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ผลการศึกษาที่ฝรั่งเศส ในปี 2550 ยังพบว่า ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือตามปกติ ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงของเนื้องอกในสมองจะเพิ่มขึ้น แต่มีความเป็นไปได้ที่โอกาสเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นในรายที่ใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่าปกติ ซึ่งยังต้องทำการทดลองเพิ่มเติมอีกในอนาคต แม้ผลการวิจัยจะยังไม่ชี้ชัด แต่ทางที่ดีก็ควรจะกันไว้ดีกว่าแก้. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 14:26:42

    เครื่องบินตกที่อินโดฯ ดับยกลำ 6 คน

    [​IMG]

    อินโดนีเซีย 9 เม.ย. - เกิดเหตุเครื่องบินขนส่งขนาดเล็กซึ่งมีกำหนดจะนำเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปดูการเลือกตั้งในจังหวัดปาปัว ทำให้นักบินและลูกเรือที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตหมดทั้ง 6 คน

    เครื่องบินขนส่งอาหารและวัสดุก่อสร้างของสายการบินอเวีย สตาร์ ประสบอุบัติเหตุตกใกล้กับภูเขาในจังหวัดปาปัว ขณะกำลังเดินทางจากเมืองชวาปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัว ไปยังเขตวาเนมาซึ่งอยู่ไม่ไกล เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นระบุว่า ขณะนี้พบ 2 นักบิน และลูกเรืออีก 4 คนแล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เครื่องบินลำนี้มีกำหนดจะรับผู้ว่าการจังหวัดปาปัว รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจและทหารปาปัวไปเมืองวาเนมาเพื่อสังเกตการณ์เลือกตั้งด้วย

    ทั้งนี้ จังหวัดปาปัวมีถนนอยู่เพียงไม่กี่สาย และการขนส่งทางอากาศนั้นถือว่าเป็นเส้นทางที่สำคัญ แต่จังหวัดปาปัวซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางบินที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก. -สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 14:17:24

    เกิดแผ่นดินไหวบริเวณชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน

    [​IMG]

    นิวเดลี 9 เม.ย. – สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ หรือยูเอสจีเอส รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.1 ริกเตอร์ บริเวณพรมแดนระหว่างอินเดียและปากีสถานในวันนี้ ส่งผลให้โรงเรียนบางแห่งต้องอพยพผู้คน มีรายงานผู้บาดเจ็บ 3 คน

    รายงานระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองโชติปุระของอินเดียไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 250 กม. และอยู่ห่างจากเมืองราฮิมยาร์ข่านของปากีสถานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 150 กม. และลึกลงไปใต้พื้นดิน 43 กม.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 11:01:55

    ชี้เกาหลีเหนืออาจยังขายจรวดได้แม้การทดลองมีปัญหา


    [​IMG]

    โซล 9 เม.ย.- ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ว่า เกาหลีเหนืออาจยังสามารถขายจรวดพิสัยใกล้ให้แก่ประเทศที่สนใจแม้ว่ามีปัญหาในการทดลองยิงจรวดครั้งล่าสุด และอาจจะร่วมมือกับอิหร่านพัฒนาจรวดพิสัยไกล

    นายเจมส์ เลวี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกลาโหมที่ศูนย์ยุทธศาสตร์และนานาชาติศึกษาในสหรัฐระบุว่า ปัญหาคือจรวดพิสัยไกลอยู่ในมือประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ประเทศเหล่านี้ประเมินความเสี่ยงจากการแสดงพฤติกรรมที่เป็นปรปักษ์ไม่เหมือนประเทศอื่น และพร้อมจะทำในสิ่งที่ประเทศอื่นไม่ทำ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าเกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์ 8 ลูก แม้ว่ายังไม่สามารถพัฒนาให้เล็กพอติดจรวดได้ในขณะนี้

    ส่วนการทดลองยิงจรวดเมื่อวันอาทิตย์แม้เกาหลีเหนือยืนยันว่าสามารถนำดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรขณะที่ประเทศอื่นเชื่อว่าสิ่งที่บรรทุกไปกับจรวดตกลงมหาสมุทรแปซิฟิก นักวิเคราะห์มองว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าสิ่งที่บรรทุกคืออะไร แต่อยู่ที่ว่าการยิงจรวดเมื่อวันอาทิตย์ใช้เทคโนโลยีเดียวกับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล

    ขณะนี้เกาหลีเหนือมีจรวดพิสัยใกล้ที่ยิงไปถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น และอาจพยายามพัฒนาให้ยิงไปไกลถึงสหรัฐในอนาคต โดยได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าพร้อมขายจรวดให้ทุกประเทศที่พร้อมจ่ายเพื่อหาเงินสดเข้าประเทศ ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้หลายคนชี้ว่า เกาหลีเหนือขายเทคโนโลยีจรวดให้แก่อิหร่านและปากีสถาน ความสัมพันธ์กับอิหร่านเริ่มขึ้นตั้งแต่เกาหลีเหนือขายขีปนาวุธสกั๊ดให้อิหร่านทำสงครามกับอิรักช่วงคริสต์ศตวรรษหลังปี 1980.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 10:57:09

    ข่าวภายในประเทศ

    นายกฯ ประกาศให้พรุ่งนี้ เป็นวันหยุดราชการ

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 9 เม.ย.- “อภิสิทธิ์” นายกฯ ประกาศให้พรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลังเหตุวุ่นวายปิดถนนของกลุ่มคนเสื้อแดง สั่งช่อง 11 เกาะติดรายงานข่าว พร้อมขออภัยประชาชน ยันบังคับใช้ กม.แน่

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงเวลา 21.30 น. วันนี้ (9 เม.ย.) ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) ประกาศให้วันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) เป็นวันหยุดราชการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากการปิดถนนสายสำคัญๆ ของกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นการแยกแยะประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ในจุดที่มีการกระทำผิดกฎหมายหมายออก เพื่อรัฐบาลจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีการบันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ในบางจุดที่จะไม่ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งมากนักก่อน

    “ผมยืนยันว่า มาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการ จะไม่ทำให้เกิดความรุนแรง ตามที่ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องการ และเชื่อว่า เมื่อสามารถแยกแยะผู้ชุมนุมได้แล้ว รัฐบาลจะสามารถบังคับใช้กฎหมาย และนำบ้านเมืองเข้าสู่สภาวะปกติได้ในเวลาไม่นานนัก รวมทั้งสามารถเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอาเซียนได้สำเร็จลุล่วง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งเวลานี้ ผู้นำทุกคนยังยืนยันจะมาร่วมประชุม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประชุมหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลพื้นที่สาธารณะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้าย ส่วนสถานที่ราชการ ให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการที่จะดูแล ในช่วงเวลา 24-48 ชั่วโมงจากนี้ ขณะที่ขอความร่วมมือห้างร้านต่างๆ และประชาชน ให้ช่วยสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันเหตุร้าย

    “ผมยืนยันว่า สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจ และดำเนินการครั้งนี้ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นผลประโยชน์ของผม หรือคณะรัฐมนตรี หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง มีแต่ความถูกต้อง และรักษาระบบในระยะยาว ที่เชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน รัฐบาลไม่เพิกเฉย นิ่งดูดาย และขอให้ประชาชนร่วมกับรัฐบาล มีสติในการเอาชนะ นำไปสู่ความสงบโดยไม่ต้องมีความสูญเสีย ผมและเจ้าหน้าที่ทุกคนทุ่มเททำงานเต็มเวลา เพื่อให้เป็นเช่นนั้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 22:08:33

    เทพไท แฉพี่น้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมบินออกนอกประเทศ

    [​IMG]

    รัฐสภา 9 เม.ย. - นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบว่า เครือญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 6 คน บินไปต่างประเทศเกือบหมดแล้ว

    โดยเฉพาะ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชันวัตร น้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปขึ้นเวทีเสื้อแดง เมื่อวันที่ 8 เมษายน ได้จองตั๋วเครื่องบินเตรียมพร้อมที่จะบินออกนอกประเทศได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยังตั้งข้อสงสัยการลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่น่าสงสัยว่าทำไมเป้าหมายจึงเป็น นายชาญชัย.- สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 17:35:39

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ถ้าฝนตกหนักๆซักหน่อยก็คงจะดีนะ
    บรรยากาศร้อนๆ จะได้เย็นลงบ้าง

    ขอให้ความดี ความถูกต้อง อยู่คู่ประเทศไทยด้วยเทอญ สาธุ
     
  8. กฤติกร

    กฤติกร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    คนไทยจงตั้งสติ ตั้งสติ ตั้งสติ




    ผลเสียหายคือ ชาติบ้านเมือง(ประเทศไทย)

    สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะ เงิน และคนคนเดียว

    ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่ มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
    ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ
    เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า เจ้าจะเอา แต่ทรัพย์สมบัติ หรือไฉน
    เมื่อเจ้ามา มือเปล่า เจ้าจะเอาอะไร เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2009
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องเล่าของลุงจันทร์ ตอนคำทำนายดวงเมือง
    โดยคุณ moony

    [​IMG]
    วัดถ้ำกระบอก จ.สระบุรี

    บทความนี้ไม่ใช่เรื่องเล่าของ moony แต่เป็นเรื่องเล่า ของลุงจันทร์ ลุงคนนี้เป็นคนที่ moony ได้ไปพบตอน ไปวัดถ้ำกระบอก ที่ จ. สระบุรี

    ลุงจันทร์เป็นคนเชียงราย เคยทำงานให้กับคนดังทาง ภาคเหนือมาหลายปี ตอนหลังแกเกิดนิมิตให้ไปตาม สถานที่ต่าง ๆ ทั่วเมืองไทย ลุงจันทร์ออกจากบ้านมา 3 ปีแล้ว ตอนที่จากมาลูกเมียก็ร้องห่มร้องไห้ไม่อยากให้ไป แต่แกบอกว่าไม่มาไม่ได้ เคยหนีกลับไปอยู่บ้าน แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน แกบอกว่ามันร้อนไปหมด ต้องออกมาจนได้ แต่ที่วัดถ้ำกระบอกเป็นที่สุดท้าย ในนิมิตที่ต้องมา

    เมื่อมาที่วัดถ้ำกระบอก แกก็ไปตามสถานที่ต่าง ๆ ใน จังหวัดสระบุรี เช่นที่ถ้ำวิมานจักรี ถ้ำประทุน ซึ่งที่ต่างๆ เหล่านี้มีความเป็นมา เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในตอนหลัง ๆ

    คำทำนายดวงเมือง เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมือง กำลังจะเริ่มเข้าสู่ความสับสนวุ่นวายของทั้งสองฝ่าย ซึ่งลุงจันทร์ก็เล่าให้ฟังเหมือนกันว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น การที่ moony ไม่เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้น เพราะบางเรื่อง เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เริ่มส่อเค้าขึ้นมา ซึ่งอาจจะถึงเวลาที่ควรจะรู้กันสักทีก็ได้

    ลุงจันทร์เล่าให้ฟังว่า ผู้ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา มีเจตนาต้องการให้ตัวเองภายในวันหน้าเมื่อได้กลับมาจะจำเรื่องราวต่างๆ ที่ตนเองได้ทำนายไว้ จำได้ว่าตนเอง เป็นใครในชาติที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งเรื่องราวที่เล่าให้ฟังนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ถือว่าฟังเป็นเรื่องเล่าสนุก ๆ ก็แล้วกัน แต่ถ้าอยากได้ คำเฉลย คงต้องตามหา moony หรือลุงจันทร์เองละค่ะ

    ติดตามอ่านต่อได้ที่เว็บบอร์ดคนชอบเรื่องลึกลับ
    http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=pimonracha&topic=935<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. ดาบจันทรา

    ดาบจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,953
    คุณเกษม เรื่องนี้เขียนมาเป็นปีแล้วค่ะ ยังอุตส่าห์ไปค้นเจอจนได้ รายละเอียดต่าง ๆ
    มีอยู่ที่นี่ทั้งหมดค่ะ แต่เปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากจะกระทบไปถึงความมั่นคงของชาติ
    แล้วอีกอย่างเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังเฉย ๆ ซึ่งตัวเองก็ไม่เคยเจอลุงอีกเลย
    คิดถึงเหมือนกัน จากที่รู้ ๆ มาทั้งเรื่องที่ลุงจันทร์เล่า และหลาย ๆ บุคคล
    ทำให้ตัวเองสะท้อนใจจริง ๆ ว่าพระมหากษัตริย์ของเราหลาย ๆ พระองค์
    รวมทั้งบุคคลธรรมดาสามัญอย่างเรา ๆ นี่แหละ อุตส่าห์ยอมเสียสละตนเอง
    เสียสละชื่อเสียง วงศ์ตระกูล คนบางคนถูกยอมตราหน้าว่าขายชาติ
    ทรยศต่อแผ่นดิน เพื่อแลกกับการให้ประเทศไทยอยู่รอด มีความเป็นเอกราช
    มาได้จนทุกวันนี้ แต่ขณะนี้เกิดอะไรขึ้นกับคนบางกลุ่ม บางคน ที่กำลัง
    ทำลายประเทศที่ตัวเองได้มาเกิดและได้อาศัยอยู่ แล้วจะมีหน้าหรือมีคำตอบ
    ไปตอบกลับต่อผู้เสียสละเพื่อชาติทุก ๆ พระองค์ ทุก ๆ ท่านได้อย่างไร
    ช่างน่าเศร้าใจจริง ๆ

     
  11. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    คำทำนายนี้ คือการบอกเหตุการณ์ล่วงหน้า ที่ผ่านมาแล้ว กำลังเกิด และ อนาคต ซึ่ง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร ช่วยเหลืออะไรได้ อ่านแล้วก็วาง อ่านแล้วก็วาง..ยอมรับความเป็นปกติของบุคคลอื่น ยอมรับความเป็นปกติของตนเอง รู้แล้ววาง.....จงมองแล้วเปลี่ยนจากตนเองเทิด โชคดีทุกๆคนครับ
     
  12. กฤติกร

    กฤติกร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    คนกลุ่มนี้ คนคนนี้ คนตระกูลนี้ คนจำพวนนี้ คือคนหนักแผ่นดิน
    (ต้องไล่ออกนอกประเทศไทยให้หมด)

    เกิดเป็นคน ลืมตน คนใจมืด
    ลืมกำพืด ของตน คนไฉน
    ลืมบุญคุณ ของท่าน คนจัญไร
    เกิดทำไม คนถ่อย ถอยสกุล
    เลี้ยงไก่ตั้ง มันยังขัน กันตอนเช้า
    เลี้ยงหมูหมา มันยังเห่า เฝ้าใต้ถุน
    เลี้ยงคน อกตัญญู ไม่รู้คุณ
    ป่วยการขุน คนอุบาทว์ ชาติชั่วเอย ฯ
    (หลวงพ่อเณร วัดทุ่งเศรษฐี)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2009
  13. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ดันแอบได้ยินเทวดาคุยกันซะนี่ - -*
     
  14. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    อยากจะโมทนา ตอน ท่อน ยศและลาภ หาบไปไม่ได้แน่....... อิอิ :)
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โอกาสสุดท้าย ****

    ถ้ามีการประกาศสัจจะ...ก็ถือเป็นโชคดีของทุกคน
    ถ้าไม่มี ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว....คือ หมดเวลา ปิดโอกาสตนเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    วันศุกร์ที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๒
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2009
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โลกเที่ยง ****

    ทุกอย่าง...สิ้นสุดที่ "สัจจะ"
    สัจจะ....เป็นคำสอนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    พระองค์ทรงหลุดพ้นกิเลสนิสัย...ด้วย สัจจะ
    นี่คือ ....ความจริงของโลกของจักรวาล

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** พระพุทธเจ้า ไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว ****

    สัตว์โลกห่อหุ้มเต็มไปด้วยกรรม กำลังโบกสะบัด
    เราควรที่จะหยิบปัญญาในศาสนาพุทธมาพิจารณา
    เพื่อลดละ ตัดกิเลสอารมณ์ของตนให้เบาบางลง

    พระพุทธเจ้า...ไม่เอาดี ไม่เอาชั่ว
    เพราะเกรงว่าต้องเกิดดี มาเอาชั่ว....เพราะเกรงว่าต้องเกิดชั่ว มาเอาดี

    พระพุทธเจ้า....จึงไม่เอาทั้งดี ไม่เอาทั้งชั่ว ...เพราะตั้งใจไม่กลับมาเกิดใหม่อีก

    ระพุทธเจ้า...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ทั้งดีทั้งชั่ว
    ทรงอยู่เหนือนิสัยสันดานมนุษย์


    พิจารณา...เรามุ่งหลุดพ้นกัน แล้วเราจะเอาอะไร !!!
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2009
  18. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทยงามหน้าคว้าอันดับ รองแชมป์ปท.โคตรโกง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>บริษัทเพิร์คทำการสำรวจ 14 เขตเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคเอเชีย

    แต่ได้นำตัวเลขของสหรัฐกับออสเตรเลียมารวมด้วยเพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบได้ผลออกมาว่า ประเทศโปร่งใสโกงน้อยที่สุดคือ สิงคโปร์ ตามมาด้วยอันดับ 2 ฮ่องกง ส่วนของไทยติดอันดับที่ 15 ดีกว่าอินโดนีเซียประเทศเดียวเท่านั้น ระบุว่าเป็นเพราะนักลงทุนต่างชาติกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองเป็นสำคัญ


    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่า บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ หรือ เพิร์ค

    ซึ่งทำการสำรวจไว้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยสอบถามจากนักธุรกิจระดับผู้บริหารต่างชาติกว่า 1,700 คน ในเขตเศรษฐกิจ 14 เขตด้วยกันของภูมิภาคเอเชีย แต่ได้นำตัวเลขการสำรวจของสหรัฐกับออสเตรเลียมารวมอยู่ในผลการสำรวจประจำปีเรื่องเขตเศรษฐกิจที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบเท่านั้น โดยมีเกณฑ์มาตรฐานการวัดด้วยคะแนนจาก 0 ไปถึง 10 และคะแนนศูนย์ถือ เป็นคะแนนที่ดีที่สุด

    ผลการสำรวจพบว่า สิงคโปร์ติดอันดับ 1 ประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดในภูมิภาคนี้ ได้คะแนนไป 1.07

    ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ ฮ่องกง ได้ 1.89 คะแนน แม้ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการทุจริตของภาคเอกชนก็ตาม ขณะที่อันดับสุดท้ายอันดับที่ 16 เป็นของอินโดนีเซีย ได้ 8.32 คะแนน แม้ภาพลักษณ์ของอินโดนีเซียนั้นจะถูกมองในแง่ลบก็ตาม แต่เพิร์คก็ตั้งข้อสังเกตว่า มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน แห่งอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในเดือน ก.ค.ที่จะถึงนี้

    ในส่วนของประเทศไทยที่ติดอยู่อันดับที่ 15 รองสุดท้ายซึ่งได้ 7.63 คะแนนนั้น เพิร์ค ระบุว่า

    นักลงทุนต่างชาติมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมือง มีนักธุรกิจระดับผู้บริหารของต่างชาติเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่คิดว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นทำให้ประเทศไทยเป็น สถานที่ดึงดูดใจน้อยลงสำหรับการอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจ สำหรับอันดับที่ 14 เป็นของกัมพูชาได้ 7.25 คะแนน อันดับที่ 13 อินเดีย 7.21 คะแนน และเวียดนามอันดับที่ 12 ได้ 7.11 คะแนน ทั้งนี้ประเทศหรือเขตเศรษฐกิจที่ได้คะแนนเกินกว่า 7.0 ขึ้นไปถือว่า การคอร์รัปชั่นยังคงเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดที่ยังคงมีอยู่ในประเทศหรือเขตเศรษฐกิจนั้น ๆ

    สรุปรายงานตัวเลขการคอร์รัปชั่นในภูมิภาคเอเชีย


    1.สิงคโปร์ 1.07 คะแนน 2.ฮ่องกง 1.89 คะแนน 3.ออสเตรเลีย 2.40 คะแนน 4.สหรัฐ 2.89 คะแนน 5.ญี่ปุ่น 3.99 คะแนน 6.เกาหลีใต้ 4.64 คะแนน 7.มาเก๊า 5.84 8.จีน 6.16 คะแนน 9.ไต้หวัน 6.47 คะแนน 10.มาเลเซีย 6.70 คะแนน 11.ฟิลิปปินส์ 7.0 คะแนน 12.เวียดนาม 7.11 คะแนน 13.อินเดีย 7.21 คะแนน 14.กัมพูชา 7.25 คะแนน 15.ไทย 7.63 คะแนน และ 16.อินโดนีเซีย 8.32 คะแนน.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>แห่กราบไหว้หญิงร้องไห้เป็นสายเลือดแทนน้ำตา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ฮือฮา อินเดียแห่กราบไหว้หญิงประหลาดร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือดแทนน้ำตาวันละหลายรอบ

    เดอะ ซัน รายงานเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่า ชาวฮินดูต่างแห่กราบไหว้นางราชิดา คาตูน หญิงสาวในเมืองพัฒนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย ซึ่งมีอาการน้ำตาออกมาเป็นสายเลือดวันละหลายเที่ยว โดยแพทย์ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ปรากฎการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นเต้นให้แก่ชาวฮินดู ที่ระบุว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ โดยเหล่าผู้ศรัทธาต่างแห่เดินทางไปบ้านเธอ พร้อมของขวัญและของเครื่องเซ่นบูชา


    ด้านนางราชิดากล่าวว่า
    "ฉันไม่รู้สึกเจ็บใด ๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่รู้สึกช็อคเมื่อเห็นเลือดไหลออกจากตาแทนน้ำตา


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผงะพบศพเด็กทารกทิ้งกลางห้างหรูที่พัทยา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE><DD>พ.ต.ท.ทัยเลิศ ลือปือ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งพบศพเด็กทารกแรกเกิด ถูกทิ้งไว้ในถังขยะหน้าห้างเอ้าท์เล็ตมอลล์ พัทยาใต้ ถ.เทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    ที่เกิดเหตุบริเวณโรงคัดแยกขยะของห้างดังกล่าว พบพนักงานกำลังยืนมุงดูศพเด็กทารกแรกคลอดเพศหญิง ถูกห่อด้วยผ้าขนหนูลายสีขาว-เขียว ยัดอยู่ถุงพลาสติกถึง 2 ชั้น สภาพศพบริเวณใบหน้ายุบ แขนขวาท่อนบนหักผิดรูป เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชม.

    สอบปากคำ น.ส.มาลัย คงทอง อายุ 35 ปี พนักงานทำความสะอาดของห้าง อยู่บ้านเลขที่ 339/1 ม.2 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิจิตร ให้การว่า

    ก่อนเกิดเหตุได้มาเข้าเวรเมื่อตอนเวลา 06.00 น. เพื่อทำความสะอาดรอบๆ ห้าง
    ระหว่างนั้นได้เดินไปเก็บขยะในถังสีเขียวที่ตั้งอยู่หน้าห้างบริเวณริมถนนสุขุมวิท ได้กลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพแต่ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งนำขยะในถังดังกล่าวไปทิ้งที่โรงคัดแยกขยะ จึงพบว่ามีถุงพลาสติกผูกมัดปากถุงไว้อย่างดีและมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงโชยออกมา ด้วยความสงสัยจึงแกะถุงออกดูจึงพบว่ามีศพเด็กทารกดังกล่าว

    <DD>ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำศพเด็กมาทิ้ง แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นพ่อหรือแม่ของเด็กที่ไม่มีปัญญาเลี้ยง หลังจากคลอดออกมาจึงใช้ของแข็งทุบใบหน้าและตามร่างกายจนกะโหลกศีรษะยุบและแขนขวาหัก แล้วห่อด้วยผ้าขนหนูยัดใส่ถุงพลาสติกนำมาทิ้งที่ถังขยะหน้าห้างหรูดังกล่าว ซึ่งภายหลังจะได้ประสานชุดสืบสวนออกหาข่าว เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายใจโหดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ธปท.แฉแบงก์เสือนอนกิน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หลังปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยเข้าสู่แดนลบ จากวิกฤติโลกที่แรงกว่าที่คาดกระทบส่งออกรุนแรงมาก และหากการเมืองยืดเยื้อรุนแรง เศรษฐกิจไทยจะดิ่งเหวลบมากกว่าที่ปรับลดประมาณการวันนี้ ธปท.ชี้แบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีลงไม่เท่าเงินฝาก
    นางดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายการเงิน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ผ่านมาว่า นโยบายการเงินยังมีความจำเป็นในการช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง ในช่วงที่มีโอกาสที่การดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไป จากปัญหาการเมืองที่กำลังก่อตัว และเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ทั้งในและนอกประเทศที่รุนแรงมากกว่าการประมาณการในครั้งที่ผ่านมา ทำให้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ทันทีทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.25% จากการประเมินของ ธปท.พบว่าวิกฤติการเงินโลกยังคงส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวลงต่อเนื่องอย่างชัดเจนและกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างรุนแรง

    ส่งผลต่อเนื่องต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่ประมาณการไว้ในครั้งก่อน ในขณะที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าความรุนแรงและความยาวนานของวิกฤติเศรษฐกิจโลกจะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ดังนั้นในการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใหม่ในวันที่
    22 เม.ย.นี้ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กนง.แล้ว ธปท.จะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงมาอยู่ในแดนลบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    "หากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองยืดเยื้อหรือเกิดความรุนแรง จะเป็นปัจจัยลบเพิ่มขึ้นให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ดิ่งลงติดลบมากขึ้นจากตัวเลขที่เราประมาณการใหม่ได้อีก และอาจจะกระทบการบริหารงานของรัฐบาล และการเบิกจ่ายงบประมาณและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ไม่เกิดขึ้นเต็มที่หรือมีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม มาตรการรัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะส่งผลได้ในระดับหนึ่งและทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวดีกว่าไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา และหากเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ทรุดตัวลงอีกไตรมาสที่ 4 ปีนี้น่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้" นางดวงมณีกล่าวต่อว่า ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้ ธปท.ยังมีความเห็นเดิมว่า

    นโยบายการคลังควรเป็นนโยบายหลัก แต่เมื่อมีความเสี่ยงมากขึ้นในการใช้นโยบายการคลัง การใช้นโยบายการเงินช่วยพยุงเศรษฐกิจในขณะที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเฟ้อเป็นเรื่องที่ควรดำเนินการ ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้อีก
    0.25% จึงเป็นการเสริมแรงของการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้วโดยในช่วง ธ.ค.ถึง มี.ค. กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2.25% และเมื่อรวมครั้งนี้ลดลงไป 2.5% ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและลดภาระดอกเบี้ยของประชาชนและภาคธุรกิจได้มากขึ้น

    "
    ยอมรับว่าการส่งผ่านนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำได้เต็มที่เพราะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก

    ทำให้การปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างรุนแรงและการแข่งขันในด้านดอกเบี้ยลดลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เฉลี่ยไปแล้ว 70% ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือประมาณ 1.4% แต่หากแยกเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี พบว่าธนาคารพาณิชย์ลดลงไปเพียง 1.1% หรือประมาณ 50% ของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะระบบธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้ว 1.8% หรือ 80% ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่านั้น"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบปลาโลมาเกยหาดเมืองตรังตาย กำลังตั้งท้อง6ด.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้ (8 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายวินัย ชูเสียงแจ้ว อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 บ้านหาดปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง

    เมื่อเวลา 14.30 น. ระหว่างที่ชาวประมงพื้นบ้าน อ.สิเกา ออกเรือหาปลาพบปลาโลมากำลังเกยตื้นอยู่ในลักษณะผิดสังเกตในทะเล ห่างจากฝั่งชายหาดปากเมงประมาณ 100 เมตร หลังรับแจ้งจึงได้ประสาน นายวราวุธ ทองสง เจ้าหน้าที่จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จ.ตรัง ด.ต.อรรถกรณ์ ขำวิชา ตำรวจน้ำ อ.กันตังจ.ตรัง และชาวประมงพื้นบ้านอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบ และให้การช่วยเหลืออย่างเร่งดวน
    จากการตรวจสอบพบว่าเป็นปลาโลมาฟราเซอร์ อายุ 5 ปี ความยาวประมาณ 209 เซนติเมตร น้ำหนัก 120 กิโลกรัม

    ลอยอยู่เหนือน้ำในสภาพอิดโรย จึงช่วยกันประคองร่างพาลงไปในน้ำลึกแต่โลมาตัวดังกล่าวก็ไม่ยอมว่ายน้ำ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำกลับมาพักฟื้นที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ชายฝั่ง จ.ตรัง และได้โทรศัพท์ไปแจ้ง นายสัตวแพทย์สนธยามานะวัฒนา เจ้าหน้าที่จากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเล และชายเลน จ.ภูเก็ต มารักษาอาการ และตรวจสอบเพิ่มเติม

    ทั้งนี้ จากการเอกซเรย์เบื้องต้น ทราบว่าปลาโลมาฟราเซอร์ตัวนี้เป็นปลาโลมาสาวที่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน

    และพบบาดแผลจากการกระแทกกับหินเล็กน้อยที่บริเวณท้อง และจากสภาพอาการที่ป่วยหนักทำให้ปลาโลมาสิ้นใจตายในเวลาต่อมา ประมาณ 8 ชั่วโมงหลังนำขึ้นมาจากทะเล จึงได้นำซากกลับไปหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดที่สถาบันวิจัยฯ จ.ภูเก็ต โดยหลังการผ่าพิสูจน์ของทีมแพทย์สถาบันวิจัยฯ พบสาเหตุการตายของปลาโลมาฟราเซอร์ตัวนี้แล้ว เกิดจากการติดพยาธิในช่องปอด ทำให้โลมามีรูปร่างผอม ส่วนอาการบาดแผลที่เกิดจากการกระทกกับหินนั้น ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้โลมาเสียชีวิตแต่อย่างใด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้ค้าขึ้นราคาน้ำมัน60สต.-อี85พุ่งพรวดอีก4.60บ. </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 เม.ย.) ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกประเภท อีก 60 สตางค์ต่อลิตร โดยจะมีผลเวลา 05.00 น.วันนี้

    ยกเว้น น้ำมัน
    อี 85 ที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก 4.60 บาท โดยเหตุผลที่มีการปรับขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ได้ขยับขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของราคาเอทานอล ได้ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 22-23 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาแก๊สโซฮอล์ ในส่วนของอี 85 ต้องปรับขึ้นสูงตาม โดยแหล่งข่าวจากวงการค้าน้ำมันระบุว่า ราคาเอทานอลที่ขยับสูงในขณะนี้ ได้เสนอให้กระทรวงพลังงาน หาทางเข้ามาแก้ไขปัญหา เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้ใช้พลังงานทดแทนก็ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น


    สำหรับราคาน้ำมันใหม่ เป็นดังนี้

    อี 85 อยู่ที่ลิตรละ 21.29 บาท อี 20 อยู่ที่ลิตรละ 23.34 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 25.64 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 24.84 บาท เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 29.44 บาท ไบโอดีเซล บี 5 อยู่ที่ลิตรละ 20.29 บาท ดีเซล ลิตรละ 23.29 บาท


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    พัทลุงน้ำป่าทะลักท่วมฉับพลัน-เตือน 2 อำเภอเสี่ยงรับมือ

    [​IMG]

    พัทลุง 10 เม.ย. - ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ จ.พัทลุง มานานหลายวัน ล่าสุดเช้ามืดที่ผ่านมา (10 เม.ย.) น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่ม 5 ตำบล 2 อำเภอ คือ ต.ชะมวง ต.พนมวังก์ อ.ควนขนุน ต.เขาเจียก ต.โคกชะงาย ต.ปรางหมู่ อ.เมือง ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำอย่างอลหม่าน ถนนหลายสายจมน้ำ 30-40 ซม. โดยเฉพาะสายเข้าตัว อ.ควนขนุน ช่วงบ้านหัวพรุ ต.ชะมวง น้ำท่วมเกือบ 500 เมตร การสัญจรลำบาก

    ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง เตือนประชาชนในพื้นที่ อ.กงหรา และ อ.ตะโหมด เฝ้าระวังน้ำป่าและดินโคลนถล่ม เนื่องจากพบพื้นที่ถูกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมาก และประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกช่วง 2-3 วันนี้ เพื่อความปลอดภัย

    จากการสอบถามชาวบ้านระบุว่า ปกติช่วงเดือน เม.ย.ทุกปี อากาศจะร้อน แต่ปีนี้ฝนตกหนักมาหลายวัน น้ำท่วมรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ก่อนหน้านี้ช่วงปีใหม่ท่วมหนักมาแล้ว และมาครั้งนี้ห่างกันไม่กี่เดือนก็ท่วมอีก. - สำนักข่าวไทย

    2009-04-10 09:48:13

    ไฟไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนไอทีย่านปทุมฯ วอดกว่า 50 ล้านบาท

    [​IMG]

    ปทุมธานี 10 เม.ย.- พ.ต.อ.ธวัชชัย ยิ่งเจริญสุข ผกก สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมือง เทศบาลตำบลบางกะดี เทศบาลบางหลวง และ อบต.บางแขยง ระดมรถน้ำกว่า 10 คัน ระงับเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนไอที บริษัทเอลเลคแอนด์เอลเทค (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 134 ม.2 ถนนปทุมธานี-นนทบุรี ซอยศรีโยธิน ต.บางแขยง อ.เมือง เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา (10 เม.ย.)

    แต่เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นที่เก็บวัตถุเคลือบทองแดงและสารเคมีกัดกร่อนทองแดง เพลิงจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ไม่สามารถใช้น้ำดับได้ ต้องใช้โฟม ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงควบคุมได้เพียงในวงจำกัด โดยโรงงานถูกเผาวอดทั้งหลัง ขณะเกิดเหตุมีพนักงานทำงานอยู่นับร้อยคน พากันวิ่งหนีออกมารออยู่ริมถนนห่างจากโรงงานประมาณ 100 เมตร

    พ.ต.อ.ธวัชชัย คาดว่าสาเหตุเพลิงไหม้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง แม้ขณะนี้จะดับไฟได้แล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังการปะทุขึ้น เพราะภายในโรงงานยังมีกลุ่มควันอยู่จำนวนมาก ส่วนความเสียหายไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-10 09:18:38

    อพยพชาวบ้านแนวชายแดนหนีสงครามทหารพม่า-กะเหรี่ยงเคเอ็นยู

    [​IMG]

    ตาก 10 เม.ย.-การสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ตามแนวชายแดนด้าน จ.ตาก ทวีความรุนแรงขึ้น และมีการยิงกระสุนปืนใหญ่ข้ามมายังฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงเตรียมอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย

    หลังการสู้รบระหว่างกำลังทหารพม่าร่วมกับกำลังทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ เข้าโจมตีกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู บริเวณบ้านเบอะคะทะ ตรงข้ามบ้านรวมไทยพัฒนาที่ 14 ต.รวมไทย อ.พบพระ จ.ตาก ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารชุดเฉพาะกิจ ร้อย ร.401 และหมวดอาวุธหนักตรึงกำลังคุมเข้มตามแนวชายแดน เนื่องจากเกรงว่ากำลังทั้ง 2 ฝ่าย จะข้ามมายังฝั่งไทย มีรายงานว่า ขณะลาดตระเวนกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงปืน ค. 81 ข้ามมาตกฝั่งไทย ห่างจากชุดลาดตระเวนประมาณ 100 เมตร ทหารไทยจึงยิงพลุควันเตือน แต่ถูกฝ่ายตรงข้ามยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ข้ามมายังฝั่งไทยอีก 1 ลูก ทหารไทยจึงตัดสินใจยิงตอบโต้ด้วยปืน ค. 81 จำนวน 3 นัด และส่งกำลังคุมเข้มตลอดแนวชายแดน

    พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ร.4 เปิดเผยว่า การสู้รบระหว่างทหารพม่าและกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น จึงประสานกับฝ่ายปกครอง อ.พบพระ เตรียมอพยพชาวบ้านบ้านพระดี ซึ่งอยู่ใกล้กับแนวสู้รบ ไปอยู่ที่ปลอดภัย จนกว่าการสู้รบจะยุติ.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-10 02:08:03

    ลอบวางระเบิด 4 ลูกซ้อนที่นราธิวาส

    [​IMG]

    นราธิวาส 10 เม.ย.-เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด 4 ลูกซ้อน พื้นที่ 3 อำเภอ จ.นราธิวาส ตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบบริเวณลานจอดรถโรงแรมพลาซ่า เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กิโลกรัม

    ซุกซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กมธ 584 นราธิวาส ก่อนจุดชนวนด้วยโทรศํพท์มือถือ ทำให้รถผู้ที่มาพักในโรงแรมถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 2 คัน แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังทำให้กระจกของโรงแรมแตกเสียหายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบทะเบียนรถเป็นของนายจรัญ สุวรรณมณี แจ้งหายไว้ที่ตำรวจภูธรระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจเตรียมนำกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงไปตรวจสอบหาเบาะแสคนร้าย

    นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดข้างร้านจำหน่ายแก๊ส เขตเทศบาล ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ทำให้ถังแก๊สระเบิดซ้ำจนไฟลุกไหม้ร้านแก๊สเสียหายทั้งหลัง ส่วนที่ อ.แว้ง คนร้ายลอบวางระเบิด 2 ลูกซ้อน ภายในร้านขายของชำ ทำให้ทรัพย์สินภายในร้านเสียหายทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-10 01:14:45

    นราฯ ขยายผลค้นบ้านมือทำระเบิดยึดของกลางเพิ่ม

    [​IMG]

    นราธิวาส 9 เม.ย.- เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (9 เม.ย.) พ.ท.ธนิต แสงจันทร์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส 38 พร้อมตำรวจ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ใช้กฎอัยการศึกขยายผลการตรวจค้นบ้านพักของนายมะรูดี สะอิ อายุ 26 ปี ที่บ้านฮูลูปาเร๊ะ ม.1 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ

    ซึ่งเป็นมือประกอบระเบิดของกลุ่มอาร์เคเค ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา และสารภาพชั้นสอบสวนที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้สามารถยึดของกลางเพิ่มกว่า 50 รายการ มีทั้งอุปกรณ์และเครื่องมือประกอบระเบิดแสวงเครื่อง เอกสารภาษายาวี และเสื้อผ้าของนายมะรูดี ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารปนเปื้อนของวัตถุระเบิด.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 15:20:18

    เขื่อนสิริกิติ์รับสงกรานต์เริ่มปล่อยน้ำตั้งแต่วันนี้

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ 9 เม.ย.- นายนัฐจพนธ์ ภูมิเวียงศรี ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ปีนี้เขื่อนสิริกิติ์มีแผนปล่อยน้ำช่วงสงกรานต์เร็วขึ้น โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (9 เม.ย.) เป็นต้นไป วันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร

    เพื่อให้การไหลของน้ำที่ใช้เวลา 3 วัน ถึงเขตชุมชนได้ใช้ประโยชน์และมีน้ำเพียงพอเล่นสงกรานต์ เป็นการร่วมอนุรักษ์สืบสานประเพณีไทย ประกอบกับที่ผ่านมาเกิดปัญหาภัยแล้งหลายจังหวัด รวมทั้งอุตรดิตถ์ ทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด ประชาชนไม่มีน้ำเล่นสงกรานต์ ซึ่งการปล่อยน้ำของเขื่อนนั้นเชื่อว่าเทศกาลสงกรานต์นี้จะมีประชาชนหลั่งไหลมาเล่นน้ำตามริมฝั่งแม่น้ำน่านที่หลายหน่วยงานใช้เป็นสถานที่จัดงาน

    ทั้งนี้ หลังจากผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วหรือสิ้นสุดเดือนเมษายน ทางเขื่อนจะชะลอการปล่อยน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำต้นทุนในการผลิตกระแสไฟฟ้าตามแผนบริหารจัดการ.-สำนักข่าวไทย

    2009-04-09 09:40:05

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือนด่วน! แบงก์-ห้าง งัดแผนฉุกเฉินรับมือหางแดงเผาเมือง ผจก.สั่งปิดได้ทันที </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 เมษายน 2552 15:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    สมาคมธนาคารฯ ส่งหนังสือด่วนเตือนทุกแบงก์-ห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง เตรียมความพร้อมรับมือความเสี่ยงจากการชุมนุม อนุญาตให้ผู้จัดการสามารถปิดสาขาได้ทันที หากไม่มั่นใจสถานการณ์ม็อบเสื้อแดง หลังหน่วยงานความมั่นคง-วอร์รูม มหาดไทย พบสัญญาณ “หางแม้วแดง” เตรียมแผนก่อเหตุวินาศกรรมธนาคารพาณิชย์ เพื่อสร้างความปั่นป่วนในคืนนี้ พร้อมระบุ แบงก์กรุงเทพ-กรุงไทย-ไทยพาณิชย์ เสี่ยงสูง

    นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยได้ทำหนังสือเวียนไปถึงธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง ให้เพิ่มความเข้มงวดและมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของธนาคารสำนักงานใหญ่ และสำนักงานสาขาให้มากขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ดาวกระจายไปชุมนุมหน้าสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงธนาคารพาณิชย์ด้วย ในวันนี้

    “เราได้ออกหนังสือด่วนแจ้งเตือนไปยังธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพมหานคร อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในสาขาที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการชุมนุม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากผู้ที่มาชุมนุม และอนุญาตให้ผู้จัดการสาขามีอำนาจในการปิดสาขาได้ หากประเมินว่าสถานการณ์น่าวิตก”

    เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งได้มีแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ทั้งนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นก็ให้ผู้จัดการสาขามีอำนาจสั่งปิดทำการได้ทันที โดยเพาะสาขาที่อยู่ในจุดสุ่มเสี่ยงก็ควรจะปิดทำการไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

    ด้านแหล่งข่าวจาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งนั้นจะมีแผนรับมือกับภาวะเช่นนี้ไว้อยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในส่วนของ ธ.กรุงไทย หลังได้รับหนังสือจากสมาคมธนาคารไทย ก็ได้แจ้งไปยังพนักงานธนาคารทุกคนให้ช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อความปลอดภัยทั้งสถานที่และพนักงานเองด้วย

    “ทุกแบงก์จะมีแผนรับมือกับภาวะแบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งแบงก์ชาติเองก็ได้มีกฎให้จัดทำแผนในการบริหารความเสี่ยงของแบงก์พาณิชย์ ซึ่งในส่วนของแบงก์เอง ก็แจ้งให้พนักงานรับทราบและช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องหากมีการผิดสังเกตขึ้น”

    อย่างไรก็ตาม ธ.กรุงไทย คงไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้มงวดดูแล และขอความร่วมมือจากพนักงานเท่านั้น

    ก่อนหน้านี้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมือง ภายหลังการประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง และวอร์รูมของกระทรวงมหาดไทย โดยยอมรับว่า ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มตึงเครียดจริง ซึ่งทางศูนย์วอร์รูม รายงานว่า เริ่มเห็นสัญญาณของความรุนแรงที่เกิดจากการปลุกระดมของแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเห็นได้จากการเข้าล้อมกรอบผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และช่อง 7 และห่วงว่า หากยังเกิดการปลุกระดมเช่นนี้ต่อไป สถานการณ์อาจจะลุกลามบานปลายจนยากแก่การควบคุมได้

    ทั้งนี้ ทางรัฐบาลจึงต้องกำชับให้มีการตรวจอาวุธ โดยขณะนี้ได้รับการยืนยันว่าจะมีผู้ก่อเหตุโดยการเผา หรือโยนระเบิดเพลิงเข้าไปในสถานที่ราชการ องค์กรอิสระ รวมถึงธนาคารพาณิชย์บางแห่ง อาทิ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

    ที่มา http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9520000040481
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...