ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** สัจจะมาบอก มาเตือน ****

--- สัญญาณเริ่ม ----
เม็ดฝนแปลกๆ ขาวๆ ตกจากฟ้า
ตามด้วย ลูกเห็บ
ก้อนน้ำแข็งตกจากฟ้า

--- ต่อมา ----
น้ำจำนวนมหาศาล...ไหลพัดผ่าน
บนเนินเขา ภูเขาจะปลอดภัย....
มองลงไปเห็น...ยอดต้นไม้อยู่ใต้น้ำ ลู่ไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกราก
ผลการกระทำจากสัจจะ... คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น....จะช่วยให้รอดพ้นภัย

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
กันยายน ๒๕๕๐

 

เมื่อเช้าฟังข่าวร่วมด้วยช่วยกันว่ามีรอยหญ้าไหม้ไฟเป็นวงกลม4วง แต่ละวงห่างกัน 1 เมตรที่ชุมพร เจ้าของบ้านบอกว่าตอนตี 1 ได้ยินเสียงเหมือนเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ดังมาก แต่ไม่กล้าออกมาดูตอนเช้าพบรอยดังกล่าว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านขอให้นักวิชาการมาดูเข้าใจว่าเป็นรอยยานจากต่างดาว รอยนี้ที่ต่างประเทศพบบ่อยแต่ที่ผ่านมาไทยไม่มี อาจเพราะไม่ใคร่มีภัยธรรมชาติ ตอนนี้มีอาจมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นหรือไม่ มนุษย์ต่างดาวจึงมา

 

เกิดอาฟเตอร์ช็อกหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในปากีสถาน​

​

วาม 29 ต.ค. - เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.2 ริกเตอร์ ในจังหวัดบาลูชิสถานของปากีสถาน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกราว 12 ชั่วโมง แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บ

เว็บไซต์ของสำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่า อาฟเตอร์ช็อกมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเกวตตา เมืองเอกของจังหวัดบาลูชิสถาน ออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 58 กม. เมื่อเวลา 17.32 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 18.32 น.ตามเวลาในไทย

ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 6.4 ริกเตอร์ เพิ่มขึ้นเป็น 160 คนแล้ว และบาดเจ็บเกือบ 300 คน เชื่อกันว่ามีประชาชนจำนวนมากถูกฝังใต้ซากปรักหักพัง และมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นราว 20 ครั้ง ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกต่อผู้รอดชีวิต. -สำนักข่าวไทย

2008-10-29 19:40:08

ปากีสถานลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหว​

​

ปากีสถาน 30 ต.ค. - ชาวปากีสถานต่างช่วยกันค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 170 คน

เครื่องบินของกองทัพปากีสถานเริ่มลำเลียงเต็นท์ เวชภัณฑ์ และ ผ้าห่ม ไปยังจังหวัดบาลูชิสถาน ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว 6.4 ริกเตอร์ เมื่อวานนี้ จนบ้านเรือนราว 15,000 หลัง พังถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 170 คน บาดเจ็บ 375 คน และอีกราว 15,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย นอกจากกองทัพแล้ว องค์กรอิสลามอย่างน้อย 3 องค์กร ก็ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วเช่นกัน

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยต่างช่วยกันขุดหลุมขนาดใหญ่เพื่อฝังร่างผู้เสียชีวิตที่มีเป็นจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย

2008-10-30 09:15:08

พายุหิมะซ้ำทิเบตหนาวติดลบ​

​

ทิเบต 29 ต.ค.-ชาวทิเบตกำลังถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังเผชิญกับแผ่นดินไหวยังไม่ทันข้ามเดือน ก็ต้องเผชิญกับพายุหิมะ ที่ทำให้อากาศหนาวเย็นอุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส

พื้นที่ภาคตะวันออกของทิเบต ที่ยังไม่ฟื้นตัวดีจากภัยแผ่นดินไหว 6.6 ริกเตอร์ เมื่อต้นเดือนนี้ ถูกกระหน่ำ ซ้ำเติมให้ย่ำแย่หนักขึ้นด้วยพายุหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลาซาออกไป มีอุณหภูมิลดลงต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส มีรายงานว่าในช่วงกลางคืนหิมะตกหนักวัดความหนาได้ถึง 4 เซนติเมตร

ขณะนี้หน่วยงานกิจการพลเรือนกำลังเร่งจัดส่งอุปกรณ์บรรเทาทุกข์และสิ่งของประทังชีพ เช่น เต็นท์ ผ้าห่ม และอาหาร ไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเพื่อให้ผู้รอดชีวิตมีเครื่องห่มกันหนาว และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในช่วงฤดูหนาว

ทั้งนี้ รัฐบาลเขตปกครองตนเองทิเบตได้จัดสรรเงินงบประมาณ 1.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไว้เป็นกองทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-10-29 16:07:47

สหรัฐขายอาวุธเพิ่มเกือบร้อยละ 50 เมื่อปี 2550​

​

วอชิงตัน 30 ต.ค. – ยอดจำหน่ายอาวุธให้แก่หลายประเทศทั่วโลกของสหรัฐเมื่อปี 2550 เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 มีมูลค่าถึง 24,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจาก 16,700 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2549

รายงานประจำปีของสภาคองเกรสซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันที่ 23 ต.ค. ระบุว่า ข้อตกลงการสั่งซื้ออาวุธของสหรัฐเมื่อปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 48.5 มีมูลค่า 24,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นประเทศที่มีการส่งออกอาวุธมากอันดับ 1 ของโลก ส่วนประเทศที่ส่งออกอาวุธเป็นอันดับสองรองลงมาคือรัสเซีย มีมูลค่าการขายอาวุธ 10,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอังกฤษนั้นอยู่ในอันดับที่ 3 มีมูลค่าการขายอาวุธ 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2549

สำหรับประเทศที่มีการสั่งซื้ออาวุธมากที่สุดนั้น ซาอุดีอาระเบีย เป็นผู้ซื้อรายใหญ่สุดในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาเมื่อปี 2550 มีมูลค่าการสั่งซื้อ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อเครื่องบินรบซึ่งมีมูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนประเทศที่ซื้ออาวุธมากเป็นอันดับสองได้แก่ อินเดีย มูลค่าราว 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยปากีสถาน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – สำนักข่าวไทย

2008-10-30 09:14:45

ผู้นำเกาหลีเหนืออาการป่วยทรุดหนัก​

​

เกาหลีใต้ 30 ต.ค. - หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ชี้ผู้นำเกาหลีเหนืออาการทรุดหนัก จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

หนังสือพิมพ์ตอง-อา อิลโบ ของเกาหลีใต้ รายงานอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า อาการป่วยของประธานาธิบดีคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ทรุดหนักลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จนต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สอดคล้องกับความเห็นของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ผู้นำญี่ปุ่น และหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีอยู่ในโรงพยาบาลด้วยอาการไม่สู้ดีนัก แม้ยังคงสามารถตัดสินใจนโยบายต่าง ๆ ของประเทศได้ก็ตาม

ทั้งนี้ ข่าวอาการป่วยของนายคิม เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา หลังสื่อในเกาหลีใต้และสหรัฐ รายงานว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ วัย 66 ปี อาจล้มป่วยด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองตีบ แต่ทางการเกาหลีเหนือปฏิเสธข่าวมาโดยตลอด. - สำนักข่าวไทย

2008-10-30 02:22:11

กัมพูชาเพิ่มงบกลาโหมเป็น 2 เท่าหลังเกิดเหตุปะทะไทย​

​

พนมเปญ 29 ต.ค.– กัมพูชาเพิ่มงบประมาณด้านการทหารในปี 2552 ขึ้นเป็น 2 เท่าไปอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17,000 ล้านบาท) หลังเกิดเหตุปะทะกับไทยเมื่อเดือนก่อน ซึ่งคาดว่าจะสร้างความไม่พอใจให้แก่บรรดาผู้บริจาค

นายเชียม เยียบ หัวหน้าคณะกรรมาธิการการคลังกัมพูชา คาดว่า สมัชชาแห่งชาติของกัมพูชาจะอนุมัติงบประมาณใหม่ในสัปดาห์หน้า โดยงบประมาณด้านการทหารมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 25 ของงบประมาณทั้งหมด โดยจากเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาปะทะกับทหารไทยนั้น ทำให้กัมพูชาจำเป็นต้องมีความพร้อม การฝึกซ้อมที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งฐานทัพที่ใหม่กว่าเดิม และจะต้องทำให้ทหารกินดีอยู่ดี

กัมพูชามีกำลังทหารราว 100,000 นาย ถือเป็นจำนวนที่น้อยกว่ากำลังทหารไทยถึง 3 เท่า แต่ก็ถือเป็นกองกำลังขนาดใหญ่มากสำหรับประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบรรดาผู้บริจาคระหว่างประเทศพยายามให้รัฐบาลกัมพูชาปลดประจำการทหารที่มีอายุมากหลายพันนาย เพื่อให้มีเงินเหลือไปลงทุนในด้านสาธารณสุขและการศึกษา

ในช่วง 2 สัปดาห์หลังเหตุปะทะ กองกำลังทหารท้องถิ่นเผยว่า ได้รับทหารใหม่เพิ่มราว 3,000 นาย แม้ว่านายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา จะระบุว่า ต้องการเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งแนวชายแดนกับรัฐบาลไทย. -สำนักข่าวไทย

2008-10-29 16:15:19

ที่มา http://news.mcot.net

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แพลินมุ่งชิงชัยทำเนียบขาว เล็งอีก 4 ปีลงสมัครไม่ว่าศึกนี้ใครจะชนะ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 ตุลาคม 2551 09:43 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

แซราห์ แพลิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯของพรรครีพับลิกัน​

เอเอฟพี – แซราห์ แพลิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์เอบีซี ที่จะออกอากาศในวันพฤหัสบดี (30) ว่า เธอจะยังคงเล่นการเมืองในตำแหน่งสำคัญ ไม่ว่าใครจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป และอาจจะลงชิงชัยทำเนียบขาวในปี 2012 อีกด้วย

แพลินกล่าว เมื่อถูกถามว่าการทุ่มเทหาเสียงในตอนนี้ทั้งหมดทำให้เธอยากกลับไปเล่นการเมืองในรัฐอะแลสกา ซึ่งเธอเป็นผู้ว่าการรัฐหรือไม่ว่า “ฉันคิดว่าหากฉันต้องล้มเลิก และยกธงขาวยอมแพ้ให้การเมืองที่เราดำเนินมา เท่ากับว่าความพยายามที่ทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า”

แพลินให้สัมภาษณ์ ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในวันพุธ (29) ตามเวลาท้องถิ่นหลังจากมีรายงานว่า เธอแหกกฎข้อห้ามการหาเสียง และโปรโมตตัวเองมากขึ้น ขณะที่เธอเห็นโอกาสครองทำเนียบขาวของจอห์น แมคเคน คู่ชิงประธานาธิบดีของเธอลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม นักการเมืองแม่ของลูก 5 คน วัย 44 ปี บอกกับเอบีซี นิวส์ว่า เธอมั่นใจที่จะเอาชนะบารัค โอบามา และโจเซฟ ไบเดนในการเลือกตั้งวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เอบีซียังรายงานว่า แพลินตั้งใจที่จะลงเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2012 โดยไม่คำนึงถึงว่าผลการเลือกตั้งในสัปดาห์หน้าจะออกมาเป็นอย่างไรด้วย

ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000128742

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>คฤหาสน์3ชั้นกลางกรุงทรุด11ชีวิตหนีตายบาดเจ็บ3ราย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ระทึกคฤหาสน์ 3 ชั้นทรุด 11 ชีวิตหนีตายจ้าละหวั่น บาดเจ็บ 3 ราย เผยเจ้าของอยู่ต่างประเทศ ให้เช่าทำโรงงานเบเกอรี่ กทม. เข้าตรวจสอบพบดินไม่อ่อน "อภิรักษ์" คาดสาเหตุมาจากเอาเครื่องจักรขนาดใหญ่ไปไว้ในบ้าน รอกรมโยธา-วิศกรรมสถาน พิสูจน์ ก่อนตัดสินทุบหรือไม่ทุบ

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง ได้รับแจ้งว่ามีอาคารทรุดตัวและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ที่บ้านเลขที่ 1657 หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ ซอย 9 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อไปตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านเดี่ยวทรงยุโรปหลังใหญ่สูง 3 ชั้น พื้นที่ 155 ตารางวา แบ่งห้องนับสิบห้อง สภาพทรุดตัว นอกจากนี้บริเวณโรงรถ ประตูทางเข้าหน้าบ้าน กำแพงตัวบ้านด้านข้างและด้านหลัง พบปูนแตก มีรอยร้าวหลายจุด

ในที่เกิดหตุยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ได้แก่ น.ส.ศันศนีย์ อินอะราม อายุ 22 ปี บาดเจ็บที่เข่าและนิ้วเท้าทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากถีบประตูกระจกออกจากบ้าน น.ส.รัตนา บุตรแดง อายุ 18 ปี บาดเจ็บหัวเข่าขวาเล็กน้อย หลบหนีออกมาทางหน้าต่าง น.ส.พิมชนก พรมลี อายุ 34 ปี บาดเจ็บข้อเท้าเคล็ด ระหว่างที่วิ่งหนีออกจากตัวบ้าน

น.ส.จิดาภา กลมเกลียว อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นผู้เช่าบ้านดังกล่าว กล่าวว่าเช่าบ้านหลังนี้ราคาเดือนละ 3.5 หมื่นบาท เพื่ออยู่อาศัย และประกอบกิจการทำเบเกอรี่ส่งตามห้างสรรพสินค้า

โดยเช่ามาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว อาศัยอยู่ 11 คน ผู้ใหญ่ 10 คน เด็ก 1 คน ส่วนเจ้าของบ้านทราบว่าไปอยู่ต่างประเทศ ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 04.00 น. ได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่า จากนั้นได้ยินเสียงร้องเรียกกันของคนงานที่อยู่ในบ้าน และพากันวิ่งหนีออกจากบ้าน บางคนต้องถีบประตูออกไป ส่วนสามีตนเข้าไปช่วยเพื่อนอีกห้องเพราะมีเด็กอยู่ด้วย

ด้าน น.ส.ศันศนีย์ ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. กำลังจะหลับ ก็ได้ยินเสียงคล้ายฝนตก ฟ้าผ่า และได้ยินเสียงอีกครั้งประมาณ 04.00 น. เสียงดังแรงมาก

เป็นเสียงของปูนปริแตกดังเปรี๊ยะ ตนและเพื่อนต่างพากันวิ่งหนีออกจากห้อง โดยปีนออกทางหน้าต่างของห้องนอนชั้นที่ 3 ลงมาชั้นที่ 2 แล้วพังประตูกระจกชั้นที่ 2 หนีออกมา เพราะคิดว่าบ้านจะพังลงมา จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ของใช้จำเป็นก็ยังคงอยู่ข้างใน ไม่ได้นำสิ่งใดติดตัวออกมาเลย น.ส.ศันศนีย์กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็เคยได้ยินเสียงดังคล้ายฟ้าผ่าแบบนี้เช่นกัน แต่เป็นช่วงเข้าหน้าฝน จึงไม่ได้เอะใจว่าบ้านจะทรุดตัว และมีเสียงดังมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดเมื่อคืนก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นจนได้

นายนราธิป ภัทรวิมล ผอ.เขตวังทองหลาง กล่าวว่า ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในบ้าน และสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจนำเชือกมากั้นเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า

ก่อนจะประสานไปยังสำนักงานโยธาธิการมาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์หลังทราบเรื่องว่า ได้รับรายงานจากนายนราธิป ภัทรวิมล ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง ว่าบ้านดังกล่าวให้เช่า เจ้าของอยู่ต่างประเทศ โดยผู้เช่าประกอบธุรกิจโรงงานเบเกอรี่ มีคนงาน 11 คน พักอาศัยอยู่ ซึ่งมีการทรุดตัวตั้งแต่ตีสอง ทำให้คนงานตกใจ บางคนกระโดดลงมาจากบ้าน ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

"เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่ เตาอบ ตู้แช่ เข้าไปไว้ในบ้านจึงทำให้บ้านเกิดการทรุดตัว แต่จะต้องรอให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าตรวจสอบความมั่นคงและพิสูจน์สาเหตุที่ชัดเจนก่อนที่จะออกคำสั่งว่าจะต้องมีการรื้อถอนอาคารหรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นต้องรื้อถอนเจ้าของอาคารจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามขณะนี้เขตได้เข้ากั้นพื้นที่เป็นเขตอันตราย และออกคำสั่งห้ามใช้อาคารดังกล่าวแล้วเพื่อความปลอดภัย พร้อมยืนยันไม่มีผลกระทบต่อบ้านที่อยู่ข้างเคียง" นายอภิรักษ์กล่าว

ด้านนายนราธิปกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบบ้านดังกล่าวมีอายุการใช้งานกว่า 10 ปี มีการออกแบบถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีการต่อเติมผิดแบบ

เบื้องต้นไม่พบว่าสาเหตุการทรุดเกิดจากพื้นดินอ่อนแต่อย่างใด ขณะนี้ต้องรอให้วิศวกรรมสถานฯ วัดระดับการทรุดตัวที่แน่นอนก่อน เพราะอาคารยังคงทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจากการประเมินด้วยสายตาเห็นว่าอาคารไม่ปลอดภัยอาจต้องมีการรื้อถอน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>นํ้าป่าทะลักท่วมนาข้าวเสียหายยับ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่บริเวณองค์การบริหารส่วน ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

พล.อ.ต.จักรพงษ์ หอมไกรลาศ ผู้แทนพระองค์ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร ได้นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,500 ชุด มามอบให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยใน ต.แก้มอ้น ต.เบิกไพร และต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว โดยมีพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งสิ้น 4,500 ไร่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากโดยทางจังหวัดได้เร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 3 ชม.

ส่งผลให้มีน้ำป่าทะลักจากเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 30,000 ไร่ใน อ.ลาดยาว แม่วงก์ และแม่เปิน ถนนสายลาดยาว-คลองลาน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร รถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้ ขณะที่ชาวบ้าน บ้านต้นไทร ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี เขตต่อระหว่าง จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร กว่า 30 หลังคาเรือน ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ด้าน จ.อุทัยธานี น้ำที่ล้นจากทางระบายน้ำล้นฉุกเฉินของเขื่อนทับเสลา อ.ลาน สัก ยังคงไหลลงลำห้วยทับเสลา อย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับในพื้นที่ใต้เขื่อนมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ปริมาณน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร ในเขต ต.หนองสรวง ต.ทุ่งโพ ต.อุทัยเก่า อ.หนองฉาง เสียหายนับหมื่นไร่ นอกจากนี้น้ำยังได้เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรขยายวงกว้าง ชาวบ้านบางส่วนต้องนำกระสอบทรายมากั้นป้องกันไม่ให้น้ำไหลหลากเข้าบ้าน

ส่วนที่ จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฝนพัดกระหน่ำในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.ละงู ส่งผลให้ต้นมะพร้าวหักโค่นล้มทับขวางถนน และพัดหลังคาบ้านเรือนปลิ่วว่อนได้รับความเสียหาย 14 หลังคาเรือน เบื้องต้นทางจังหวัดได้เร่งให้ความ ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** พรโปรดมวลมนุษย์ ****

ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก

" เราขอประกาศไว้ว่า.......
สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น
เพราะฉะนั้น ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ
อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ

ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใดประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ
.......ฟ้าจะต่ำลงมา "

วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐
"หนุมาน ผู้นำสาร"
ผู้บันทึก

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รวบ2นาซีเล็งพลีชีพฆ่าโอบามา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อ 28 ต.ค. บีบีซีและเอพีรายงานว่า ตำรวจอเมริกันจับกุมตัวสาวกนีโอนาซี 2 คนในรัฐเทนเนสซี ฐานวางแผนลอบสังหารนายบารัก โอบามา ผู้สมัครผิวสีชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในนามพรรคเดโมแครต ด้วยการขับรถด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่และใช้อาวุธปืนกราดยิง ทั้งมีแผนสังหารหมู่นักเรียนผิวดำนับร้อยคนเพื่อบูชาฮิตเลอร์

ผู้ต้องหาทั้งสองคนมีชื่อว่า นายแดเนียล โควาร์ต วัย 20 ปี ชาวเมืองเบลส์ รัฐเทนเนสซี และนายพอล ชาเลสแมน วัย 18 ปี ชาวเมืองเวสต์เฮเลนา รัฐอาร์คันซอ รู้จักกันผ่านทางเว็บไซต์อินเตอร์เน็ตประมาณ 1 เดือนก่อน และมีแนวคิดคลั่งไคล้ลัทธินีโอนาซี ซึ่งเชิดชูคนผิวขาวและเหยียดหยามคนผิวสีอื่นๆ

นายโควาร์ตและนายชาเลสแมนโกนศีรษะแสดงออกถึงการเป็นสาวกนีโอนาซีอย่างเปิดเผย ก่อนถูกจับกุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบรถของผู้ต้องหามีการเขียนข้อความเหยียดสีผิวอย่างร้ายแรงและวาดภาพ สวัสดิกะ สัญลักษณ์กลุ่มนาซีเอาไว้ จึงเรียกมาตรวจสอบขยายผล โดยพบอาวุธปืน 5 กระบอก ขณะที่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ตามแผนของคนร้าย ก่อนลงมือลอบสังหารนายโอบามา ทั้งสองมีแผนบุกยิงสังหารหมู่นักเรียนผิวดำ 88 คน และฆ่าตัดหัวนักเรียนผิวดำอีก 14 คน ซึ่งตัวเลข 88 และ 14 เป็นสัญลักษณ์ที่สาวกลัทธินีโอนาซีใช้บูชาฮิตเลอร์และขบวนการนาซี ส่วนปฏิบัติการลอบฆ่านายโอบามา อาจทำไม่สำเร็จ แต่พร้อมยอมตาย

ด้านนายโอบามา กล่าวถึงคดีนี้ว่า ไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไรเพราะคนร้ายไม่ใช่ตัวแทนประชาชนที่แท้จริงในสังคมสหรัฐ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นายโอบามาตกเป็นเป้าขู่ฆ่าจำนวนมาก ทำให้ทางการต้องส่งหน่วยสืบราชการลับมาคอยอารักขาจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การให้ความคุ้มครองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พลังฝ่ายที่ 5</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เริ่มขยับตัวกันบ้างแล้ว สำหรับบุคคล กลุ่ม องค์กร ที่ไม่เอาด้วยกับสีเหลือง สีแดง

หลังปล่อยให้ทั้ง 2 สี แสดงอะไรต่อมิอะไรจนบ้านเมืองใกล้ลุกเป็นไฟ

170 องค์กรเครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ออกโรงเคลื่อนไหวยุติความรุนแรง

โดยใช้เสื้อสีขาวมีธงชาติอยู่กลางเป็นสัญลักษณ์?

ก่อนหน้านี้เครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้ แต่อย่าใช้ความรุนแรง

ใช้ดอกกุหลาบกับริบบิ้นขาวรณรงค์ ได้รับความสนใจจากสังคมพอสมควร

170 องค์กรเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ยุติความรุนแรง เปิดใจพูดคุยกัน เคารพในความเห็นที่แตกต่าง

พร้อมกับตั้ง 8 ตัวแทนไปประสานกับ 4 ฝ่าย

1.นปช. 2.พันธมิตร 3.รัฐบาล 4.ฝ่ายค้าน

โดยเชื่อว่าหากคนไทยส่วนใหญ่เข้าร่วมรณรงค์กับเครือข่าย เพื่อแสดงพลังของการเมืองภาคพลเมือง ผู้เป็นเจ้าของประเทศอย่างแท้จริง

สันติธรรมและสันติสุขจะกลับคืนสู่สังคมไทยในที่สุด!

จากเจตนา ความตั้งใจของฝ่าย"สีขาว"ครั้งนี้ เชื่อว่าตรงกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่

ซึ่งอดทน อึดอัด เบื่อหน่ายกับความขัดแย้ง แตกแยก ถึงขั้นแบ่งข้างฆ่ากันมาพอสมควรแล้ว

ต่อไปนี้คงได้เห็นคนส่วนใหญ่ที่เงียบมานาน ออกมาแสดงพลังเจ้าของประเทศตัวจริง

เพื่อนำสันติธรรมและสันติสุขกลับคืน

สถานการณ์ของปัญหาเวลานี้ หนักหนาสาหัสเกินกว่าจะปล่อย 4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

เล่นเอง แสดงเอง จัดการเองเหมือนที่ผ่านมา?

เพราะจากความเป็นมาเป็นไปตลอดหลายเดือน ความจริงต่างๆนานาหลั่งไหลล้นทะลัก

ถ้ารู้จัก รู้ทัน คิดเป็น พิจารณาเป็น ก็จะเห็นตัวตน นปช.-พันธมิตร-รัฐบาล-ฝ่ายค้าน ไม่ยาก

เป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร ฯลฯ

ถึงเวลาคนส่วนใหญ่ต้องแสดงพลัง"ฝ่ายที่ 5" สะท้อนไปยัง 4 ฝ่ายตัวการความขัดแย้ง

ส่วนจะแสดงแบบไหน สะท้อนอย่างไรนั้น ไม่ยากเช่นกัน

เริ่มจากคัดค้านความรุนแรง ต่อต้านความไม่ถูกต้องชอบธรรม

ปกป้องเชิดชูคนดี ไม่ยกย่องสนับสนุนคนไม่ดี

คนไม่ดีที่ว่า รวมถึงคนบ้า โรคจิต กะล่อน ปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง ยโสโอหัง กระหายเลือด ฯลฯ

แค่นี้ก็มองเห็นความหวัง!?

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พ่อวัย82ติดป้ายครวญ-ลูก2คนไม่ดูแล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พ่อเฒ่าเมืองกรุงเก่าวัย 82 ปี เขียนป้ายติดหน้าบ้านประจาน2ลูก ชายไม่มาเหลียวแลพ่อที่ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์

ทิ้งให้อยู่ตามยถากรรมกับแม่และหลาน ต้องหาอยู่หากินกันเอง ล่าสุดยังมาเอาพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ของทั้ง 2 พระองค์ ที่ได้มาสมัยทำงานในสำนักพระราชวังไปอีก เผยเหตุที่ต้องประจานลูกเพราะเจ็บปวดใจ ไม่อยากให้ลูกคนอื่นๆเป็นเหมือนลูกตัวเอง

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 62 หมู่ 1 ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า บ้านหลังดังกล่าวเขียนป้ายข้อความประจานลูกติดไว้รั้วเหล็กหน้าบ้าน เมื่อไปถึงพบป้ายกระดาษสีขาว ขนาดกว้าง-ยาวประมาณ 20 นิ้ว เขียนข้อความด้วยปากกาด่าว่าลูกชาย 2 คนด้วยถ้อยคำรุนแรง นายสมหวัง ผลประสูติ อายุ 82 ปี เจ้าของบ้านซึ่งนั่งพักอาศัยอยู่เพิงขนาดเล็กแยกจากตัวบ้านเปิดเผยว่า พักหลับนอนอยู่เพิงหลังนี้ไม่เข้าไปนอนในบ้าน เพราะเวลาเดินไปไหนมาไหนไม่สะดวก เนื่องจากเป็นอัม พฤกษ์มาประมาณครึ่งเดือนแล้ว ต้องใช้ไม้ค้ำเดิน โดยมีนางวารี ภรรยา อายุ 67 ปี และหลานช่วยพยุง

นายสมหวังเปิดเผยอีกว่า ป้ายหน้าบ้านตนเป็นคนเขียนเอง เพราะลูกทั้งสองคนไม่ค่อยมาดูแล ทั้งๆที่ตนกำลังป่วย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องขัดข้องใจกับลูกๆอีกหลายเรื่อง เจ็บปวดใจมาก ความเป็นอยู่ปัจจุบันมีภรรยาคอยช่วยเหลือทำมาหากินโดยเช่าที่ดินในเขตปฏิรูปบางไทรประมาณ 10 ไร่ ทำนา และเลี้ยงปลา ภรรยาปลูกผักนำไปขายตามหมู่บ้าน มีเงินพอเลี้ยงชีพไปวันๆไม่ได้มาก ล่าสุดลูกชายยังมานำเอาพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถขนาดใหญ่ที่ได้มาเมื่อ 20 ปีก่อน สมัยยังทำงานอยู่ในสำนักพระราชวัง ไปอีก

"ที่ต้องเขียนป้ายนี้เพื่อต้องการให้คนทั่วไปได้รู้ว่าลูกต้องมาดูแลพ่อแม่ยามเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่อยากให้ลูกๆคนอื่นทำในลักษณะนี้กับพ่อแม่ ซึ่งลูกทั้ง 2 คนขณะนี้ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ"นายสมหวังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>1</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>2</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>3</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>4</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>5</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>6</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รู้สึกว่าจะเป็นปลาที่ชื่อว่า "อะราไพม่า" (ราคาแพงนะครับ) มีต้นกำเนิดจากลุ่มน้ำอะเมซอน ตัวโตเต็มที่ประมาณ 2 เมตร มักเลี้ยงไว้โชว์ตามห้างใหญ่ๆ เดอะมอลล์ที่โคราชก็มีครับ

 

<TABLE borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ลีลาโครงกระดูก ^___^ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#98deff cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>1</TD></TR></TBODY></TABLE>ที่มา fwmail

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>2</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>3</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>4</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>5</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ระทึก! ปาบึ้ม พันธมิตรเจ็บอื้อ ตาย1 หมวด &raquo; ข่าว &raquo; ข่าวการเมือง

​

ระทึกกลางดึก ! สองคนร้ายควบ จยย.ปาระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯบริเวณสะพานมัฆวานฯเจ็บ 8 สาหัส 2 ล่าสุดตาย 1 เที่ยงคืนปาบึ้มบ้าน"จรัล ภักดีธนากุล" ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คอมเพรสเซอร์แอร์-กระจกเสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย

ผู้สื่อข่าวรายรายงานว่า เวลา 03.00 น.วันที่ 30 ตุลาคม เกิดเหตุคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์วิ่งจากแยก จปร.มุ่งสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อรถวิ่งมาถึงบริเวณเชิงสะพาน ชายที่นั่งซ้อนท้ายได้ลงจากรถแล้วขว้างระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรฯที่รักษาความปลอดภัยบริเวณสะพานมัฆวานฯจากนั้นได้วิ่งไปนั่งจยย.ขี่หลบหนีไป
เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการ์ดพันธมิตรฯถูกนำส่งรพ.วชิระพยาบาลจำนวน 6 ราย โดยบาดเจ็บเล็กน้อย 4 สาหัส 2 และที่เต็นท์พยาบาลของพันธมิตรฯจำนวน 2 ราย ล่าสุดได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิต 1 คน
จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุระเบิด พบกระเดื่องของระเบิดชนิดเอ็ม 26 ตกอยู่ นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้ถนนเป็นหลุมลึกประมาณ 3 ซม.กว้างประมาณ 6 ซม.ขณะเดียวกันยังมีรถจยย.เสียคันจำนวน 2 คัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้เกิดเหตุระเบิดภายในบ้านเลขที่ 92/37 แขวงและเขตคลองตัน กทม.ซอยปรีดี พนมยงค์ 45 ซึ่งเป็นบ้านของนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่สวนต้นไม้ภายในบ้าน แรงระเบิดทำให้ดินเป็นหลุมลึกประมาณ 20 เซ็นติเมตร กว้างประมาณ 50 เซ็นติเมตร คอมเพรสเซอร์แอร์ได้รับความเสีหาย กระจกบานเกร็ดและกระจกเลื่อนแตกกระจาย เศษดินกระจายไปทั่วบริเวณและนอกรั้วบ้าน
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.คลองตันกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาแล้วก็เสียงระเบิดขึ้น ขณะนั้นนายจรัลพักอยู่ภายในบ้านกับบุตรสาว จึงไม่ได้รับอันตราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ (30 ต.ค.)เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจสอบเนื่องขณะเกิดเหตุดินเปียกและมืด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มารักษาที่เกิดเหตุไว้เพื่อทำการตรวจสอบ


ที่มา คมชัดลึก

 

จากข้อความ 13026 ของคุณ วรเดช

ท่านมีทางแก้อย่างเดียว คือ ... "รับสัจจะ"

ผู้เป็นกลาง...สัจจะไม่เล่นการเมือง
.......สัจจะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัญญลักษณ์สัจจะดอกบัวบาน ****

สีชมพูและสีเขียว ของดอกบัว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ภัยธรรมชาติ..น่ากลัว http://video.mthai.com/player.php?id=6M1225090332M0
http://video.mthai.com/player.php?id=6M1165895868M0

 

*** การปฏิวัติตนเอง ****

ในสถานการณ์โลก...ที่กำลังวิกฤติ
ทุกอย่าง....จะเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
การตัดสินใจ...อยู่ที่ตัวเราพิจารณา
ตัวเลข....ไม่ใช่ที่พึ่ง
การกระทำของเราเอง...คือที่พึ่ง
หนุ่มสาวโรงงาน....เปลี่ยนเป็นหนุ่มสาวบ้านไร่
เจ้าของโรงงาน...เปลี่ยนเป็นเจ้าของไร่นา
ค้นหาพื้นที่เพาะปลูก....ที่ปลอดภัย
รวบรวม...วิชาการเกษตร
มองหา....วิถีชีวิตเกษตรชาวบ้าน
ประสานด้วย...ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
น้ำทะเล....จะสูงขึ้น ท่วมกรุง ที่ราบลุ่ม ชายฝั่ง
พยายาม...พึ่งตนเองให้มากที่สุด
ใช้ทุกสิ่งในประเทศ....ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กินแล้วถ่าย...ถ่ายเป็นขี้ ขี้เป็นปุ๋ย
ปุ๋ยขี้คน....คือ คำตอบ ที่สุดของ "หอมมะลิสุวรรณภูมิโบราณ"
ควายกินพืช...ขี้ไม่เหม็น
คนกินพืช....ขี้ก็ไม่เหม็น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ถูกเขาหลอกขายปุ๋ย ทำลายบ้านตัวเอง ****

เป็นชาวนาชาวไร่... มีสัจจะ ไม่เอาไฟเผาทำลายพระแม่ธรณี
รีบบอกต่อๆกัน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

น้ำชีเอ่อท่วมหลายหมู่บ้านในร้อยเอ็ด​

​

ร้อยเอ็ด 30 ต.ค. - หลายหมู่บ้านใน จ.ร้อยเอ็ด ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะระดับน้ำลำน้ำชีเพิ่มปริมาณสูงจนเอ่อล้นเข้าท่วม

ถนนหลายสายในหลายหมู่บ้านยังจมอยู่ใต้น้ำ โดยเฉพาะบ้านหนองแค ต.ม่วงลาด บ้านเลิงคา ต.ดินดำ และ ต.พระธาตุ ต.บึงงาม จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากลำน้ำชีระดับน้ำท่วมขังสูง ทำให้มีหลายโรคที่มากับน้ำ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ออกช่วยเหลือชาวบ้าน แจกสิ่งของอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค พร้อมกับเปิดเผยว่า หลังน้ำลด สำนักงานเกษตรกรอำเภอและจังหวัด จะเข้าสำรวจความเสียหายของพืชไร่ เพื่อจะจัดสรรค่าชดเชยให้กับเกษตรกร
ส่วนถนนสายร้อยเอ็ด-อ.โพธิ์ชัย ช่วงสะพานรัฐประชาปราโมทย์ ต้องถูกตัดขาด ล่าสุดระดับน้ำสูง 50-80 เซนติเมตร. - สำนักข่าวไทย

2008-10-30 04:11:09

รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เตรียมระดมคนไร้ผมทดสอบอาหารบำรุงรากผมนาโนเทคโนโลยี ​

​

ก.วิทยาศาสตร์ฯ 29 ต.ค.-รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมเรียกคนหัวล้านหนึ่งพันคนในงานนาโนไทยแลนด์ ซิมโพเซียม 2008 ร่วมทดสอบอาหารเสริมบำรุงรากผมและหนังศีรษะผลิตภัณฑ์ นาโนเทคโนโลยี หากสำเร็จจะเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก

นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกาศในระหว่างการแถลงข่าวที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เกี่ยวกับการประชุมระดับชาตินาโนไทยแลนด์ ซิมโพเซียม 2008 ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยระบุ ว่า จะชวนคนหัวล้านหนึ่งพันคน ให้มารับสารอาหารบำรุงรากผมและหนังศีรษะ ซึ่งร่วมกับภาคเอกชนในการพัฒนา อันเป็นผลิตภัณฑ์นาโนอีกสาขา เพื่อพิสูจน์ว่า ได้ผลจริง ซึ่งหากสำเร็จ จะเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก นายวุฒิพงศ์ยกตัวอย่างด้วยว่า ที่ปรึกษาคนหนึ่งของเขาได้ทดลองแล้ว จากหัวล้านไม่มีผมเลย เริ่มมีผมเส้นเล็กขึ้นประปราย ทั้งนี้จะติดตามผลว่า ผู้รับสารอาหารดังกล่าวได้ผลดีอย่างไร โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้นายวุฒิพงศ์จะแถลงเรื่องนี้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน

นายวุฒิพงศ์ระบุว่า ยังได้ร่วมกับภาคเอกชนพัฒนานาโนเทคโนโลยีหลายรูปแบบ โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้ร่วมกับภาคเอกชน ได้นำรถพยาบาลต้นแบบปลอดเชื้อมาแสดงวันนี้ ภายในรถเคลือบอนุภาคนาโนของทองคำ ซึ่งต่อต้านแบคทีเรีย ทำให้รถปลอดภัยจากเชื้อโรคที่สะสม ช่วยให้ผู้ป่วยไม่เสี่ยงกับการติดเชื้อ นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้นำการใช้ นาโนเทคโนโลยีมาใช้ในเรื่องเครื่องประดับ โดยกระบวนการสังเคราะห์คอลลอยด์น้ำความเข้มข้นสูงของอนุภาคซิลเวอร์นาโนและโกลด์นาโน ทำให้เงินบริสุทธิ์อ่อนตัวได้ไม่ต่างกับดินน้ำมัน สามารถนำไปทำเครื่องประดับที่มีความละเอียดสูงหรือชิ้นงานยากๆ ได้ และการทำให้ไข่มุกคุณภาพต่ำให้เป็นที่ต้องการเท่าไข่มุกมูลค่าสูง

การจัดงานนาโนไทยแลนด์ ซิมโพเซียม 2008 จะมีนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ 300 คนและไทย100 คนร่วมกับแลกเปลี่ยนความเห็น อันจะเป็นการสร้างเครือข่ายและพัฒนานาโนเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันหลากหลายในการประกอบและผลิตสิ่งต่างๆ โดยการจัดการระดับอะตอมหรือโมเลกุล ด้วยความแม่นยำและความถูกต้องจนมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ.-สำนักข่าวไทย

2008-10-29 19:34:09

ชาวบ้านอ่างทองร้อง โรงงานทำปลาตายจำนวนมาก​

​

กรุงเทพฯ 30 ต.ค. - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เวลา 06.00 น. เครือข่ายประชาชนเฝ้าระวังคุณภาพน้ำลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างจังหวัดอ่างทอง ประมาณ 200 คน นำโดยนายสุชิน เจริญจิตร์ ประธานเครือข่ายได้นำปลา ซึ่งอ้างว่าเป็นปลาในกระชังที่ตายจากน้ำเจ้าพระยาเน่าเสีย โดยนำมาทิ้งที่หน้ากรมโรงงานอุตสาหกรรม และยืนยันที่จะยื่นหนังสือข้อเสนอให้กับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แม้นายดำริ สุโขธนัง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม จะได้เข้าพูดคุยกับเครือข่ายตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งในที่สุดทาง พล.ต.อ.ประชา ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับนายสุชิน เพื่อให้ยื่นหนังสือกับปลัดฯ แต่นายสุชิน ยืนยันจะยื่นหนังสือให้รัฐมนตรี ซึ่งได้มีนัดหมายที่จะเดินทางมายังกระทรวงอุตสาหกรรมเวลา 14.00 น. เพื่อรับข้อเสนอของเครือข่ายฯ

สำหรับข้อเสนอ คือ 1.ขอให้ยกเลิกบันทึกข้อความของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ อก.0318/ว.191 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2551 เรื่องแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานควบคุมปริมาณความสกปรกของน้ำทิ้งจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อฟื้นฟูคุณภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากขัดต่อข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 และเป็นการปฏิบัติราชการสวนกระแสพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนให้รับผิดชอบความเสียหายจากกรณีที่ได้อนุญาตโรงงานที่มีน้ำทิ้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทุกรายรวม 9 จังหวัด นับตั้งแต่วันที่ออกบันทึกข้อความ 2.ขอให้สอบสวนเอาผิดกับผู้ที่ออกบันทึกข้อความดังกล่าว ตลอดจนการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3.ขอให้ออกกฎหมายห้ามตั้งโรงงานทุกประเภทริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง รวม 9 จังหวัดที่ไหลผ่าน และให้มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบโรงงานที่มีการปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเจ้าพระยา

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เพิ่มความเข้มงวดน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม และกำหนดค่ามาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านนายรัชดา สิงคาลวณิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (ไม่มีภาพ) กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมโรงงานฯ ในช่วงที่ผ่านมาน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เน่าเสียจะเกิดตั้งแต่สะพานกรุงเทพลงไปยังอ่าวไทย ซึ่งมีการดูแลอย่างเข้มงวด พบว่ามีปัญหา 10 โรงงาน และสั่งให้แก้ไขแล้ว ทุกวันนี้กรมโรงงานฯ ยังเข้มงวดในการดูแลแม่น้ำเจ้าพระยาเต็มที่ โดยมีโครงการรักแม่....รักษ์แม่น้ำ

ซึ่งมีการจัดกิจกรรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้โรงงานอุตสาหกรรมและชุมชนในเขตลุ่มแม่น้ำท่าจีนประสานความร่วมมือในการลดมลพิษน้ำและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมซึ่งปีนี้ได้เพิ่มดูแลอีก 3 แม่น้ำ คือ แม่น้ำท่าจีน แม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง และกรมฯ ทำหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวดรตั้งแต่ 50 ลบ.ม.ต่อวันขึ้นไป ขณะที่ระดับน้ำจริงที่ต่ำกว่านี้จะเป็นการดูแลของอุตสาหกรรมจังหวัด แต่ได้ทำงานประสานกันตลอด นอกจากนี้ โรงงานที่สกปรกสูงหรือมีน้ำทิ้งตั้งแต่ 500 ลบ.ม.ต่อวันขึ้นไปจะต้องตรวจวัดมลพิษระยะไกล ซึ่งกรมฯ สามารถตรวจสอบการระบายน้ำได้ตลอดเวลา.- สำนักข่าวไทย

2008-10-30 11:48:10

ที่มา http://news.mcot.net/