ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เห็นด้วยกับคุณพุทธเมตตาครับ

คุณหนุมาน ผู้นำสาร ไม่ได้ระบุเจาะจง

ว่าเป็นประมุขของชาติไหน ปัจจุบันตำแหน่งประธานาธิปดี

ก็หมายถึงกษัตริย์เช่นเดียวกัน จึงอาจจะหมายถึงประเทศไหนก็ได้

การออกมาเตือน ไม่ให้ดึงเอาสถาบันสูงสุดของประเทศ

เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ

ขอโมทนากับความเห็นของคุณพุทธเมตตาในครั้งนี้ด้วยครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หม่องเพี้ยนหนักห้ามชาวบ้านบริจาคช่วยชาวบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 พฤษภาคม 2551 07:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ชาวกรุงย่างกุ้งซึ่งถือเป็นเขตภัยพิบัติไปลงประชามติเมื่อวันเสาร์ บางหน่วยลงคะแนนมีการแจกใบปลิวของทางการที่สั่งให้ผู้ใจบุญเลิกบริจาคเงินกับสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการออนไลน์-- ภาพถ่ายของสำนักข่าวเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ (24 พ.ค.) นี้แสดงให้เห็นใบปลิวของทางการที่มีข้อความ ให้ชาวพม่าผู้ใจบุญทั้งหลายเลิกให้บริจาคและหยุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากพายุนาร์กิส

ใบปลิวที่มีเนื้อหาทั้งชักชวนชี้นำและห้ามปรามมิให้กระทำการดังกล่าว ออกโดยสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐในระดับท้องถิ่น และถูกนำออกแจกจ่ายแก่ราษฎรที่คูหาลงประชามติแห่งหนึ่งในย่านรอบนอกกรุงย่างกุ้ง

ใบปลิวได้เรียกร้องให้ภาคเอกชนทั่วไปหยุดการนำอาหารไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบเคราะห์จากพายุนาร์กิสเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค. แม้เวลาจะผ่านไปนาน 3 สัปดาห์แล้วแต่คนเรือนล้านก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาล และองค์การระหว่างประเทศซึ่งถูกห้ามลงสู่พื้นที่

ระยะ 2 สัปดาห์มานี้ได้มีชาวกรุงย่างกุ้งกับชาวเมืองอื่นๆ ที่เริ่มฟื้นตัวจากภัยพิบัติรวมตัวกันรับบริจาคและนำเงินตลอดจนอาหารกับน้ำดื่ม เครื่องยังชีพพื้นฐาน ออกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบเคราะห์ในเขตทราบปากแม่น้ำอิรวดี ที่อยู่ห่างออกไปนับร้อยกิโลเมตร โดยไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ยังไม่เคยเข้าไปถึง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ผู้ไปใช้สิทธิ์คนหนึ่งโชว์แผ่นปลิวที่ออกโดยหน่วยปกครองระดับท้องถิ่นและถูกนำไปแจกจ่ายถึงคูหาลงคะแนนเมื่อวันเสาร์ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะเหตุใดสภาเพื่อสันติภาพฯ ซึ่งเป็นองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จึงได้ออกใบปลิวห้ามปรามประชาชนบริจาคและช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์

นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวหลังจากพบหารือพล.อ.อาวุโสตานฉ่วย วันศุกร์ (23 พ.ค.) ที่ผ่านมา ระบุว่าผู้นำสูงสุดของพม่าได้ตกลงจะเปิดรับการช่วยเหลือทุกอย่างและอนุญาตให้บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญกู้ภัยต่างชาติเดินทางเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในเขตภัยพิบัติได้

อย่างไรก็ตามหน่วยงานระหว่างประเทศยังคงแสดงความสงสัย เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งและได้แต่รอคอย ว่าพม่าจะทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ จะให้เข้าไปที่ใดได้บ้างหรือสามารถทำอะไรได้บ้าง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ดูใกล้เข้าไปก็จะเห็นเนื้อหาได้ชัดเจน แต่ยังไม่มีฝ่ายใดทราบว่า ทางการมีเหตุผลอะไร จึงต้องห้ามประชาชนไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเคราะห์ และทำไมต้องรณรงค์เรื่องนี้ถึงคูหาลงประชามติ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วันเสาร์นี้ทางการได้จัดให้ประชาชนในเขตประสบภัยพิบัติลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเขตภัยพิบัติได้ลงไปแล้ว ตามกำหนดในวันเสาร์ที่ 10 พ.ค.

การลงประชามติมีขึ้นท่ามกลางเสียงประณามจากนานาประเทศ ที่กล่าวว่ารัฐบาลทหารพม่าควรจะเร่งให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนมากกว่าการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งฝ่ายทหารจัดร่างขึ้นมาเองโดยไม่มีฝ่ายค้านเข้าร่วมด้วย

รัฐบาลทหารประกาศว่าผลการลงประชามติคราวที่แล้ว ผู้ใช้สิทธิ์ถึง 92% ได้ให้การรับรอง ท่ามกลางเสียงกล่าวหาอย่างหนาหูว่าฝ่ายทหารเกณฑ์ราษฎรไป และกำชับให้รับร่างรัฐธรรมนูญ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 22 พ.ค.2551 วันที่เลขาธิการสหประชาชาติเดินทางไปที่นั่น พื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดียังจมน้ำ แล้วชาวบ้านจะไปลงประชามติกันอย่างไรเมื่อวันเสาร์นี้ (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำนักข่าวของต่างประเทศรายงานว่า หน่วยที่เปิดให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์หลายหน่วยได้ขยายเวลาเปิดทำการไปหลายชั่วโมงเพื่อรอประชาชนที่ถูกเกณฑ์ให้ไปลงคะแนน

เวลาผ่านไปอีกกว่า 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เลขาธิการสหประชาชาติ ได้รับคำมั่นจาก พล.อ.ต่านฉ่วย ก็ยังไม่มีการประกาศจากคณะปกครองทหารว่า จะเปิดรับเจ้าหน้ากู้ภัยได้วันใด และเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศจะเข้าไปปฏิบัติงานในเขตภัยพิบัติได้เมื่อไร

เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติไม่ว่าจะเป็น โครงการอาหารโลก แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สหพันธ์สภากาชาดสากลและสภาเสี้ยววงเดือนแดงนานาชาติ รวมนับร้อยๆ คนต่างรอวีซ่าเข้าพม่ามาตั้งแต่วันที่ไซโคลนนาร์กิสพัดถล่ม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 23 พ.ค.2551 ชาวบ้านที่หมู่บ้านกะยาดอง (Kayadaung) ในเขตเมืองกันเส็ก (Kanseik) ซึ่งอยู่ห่างไกลในเขตที่ราบอิรวดี เข้าถึงได้โดยทางเรือเพียงอย่างเดียว ยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากฝ่ายใดทั้งสิ้น ตลอด 3 สัปดาห์ผ่านมา แล้วคนเหล่านี้ไปลงประชามติได้อย่างไรเมื่อวันเสาร์นี้ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เจ้าหน้าที่โครงการอาหารโลกกล่าวว่าเมื่อวันศุกร์ว่ามีผู้ประสบเคราะห์ 2.4 ล้านคน ที่กำลังรออาหาร น้ำสะอาดกับที่พักพิง โดยที่ยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากภายนอก

องค์การ Save the Children จากอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาหน่วยงานระหว่างประเทศไม่กี่แห่งที่ได้รับอนุญาตให้เข้าปฏิบัติงานประจำในพม่ากล่าวว่า อาจจะมีเด็กอ่อนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์วันที่ 2-3 พ.ค. เสียชีวิตไปแล้วนับพันๆ คนในช่วง 3 สัปดาห์มานี้ เพราะขาดอาหาร.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000060416

 

จีนพบสารเคมีอันตรายรั่วจากเหตุแผ่นดินไหว
<OBJECT type=application/x-shockwave-flash height=260 hspace=10 width=320 data=../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/11921.flv&autostart=true&showfsbutton=true align=left vspace=5 wmode="transparent"><embed src="../flvplayer.swf?file=http://news.mcot.net/flvvdo/11921.flv&autostart=true&showfsbutton=true" loop="false" width="320" height="260" allowScriptAccess="sameDomain" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" /></OBJECT>เสฉวน 24 พ.ค.-จีนพบสารเคมีอันตรายรั่วจากโรงงาน 4 แห่งในมณฑลเสฉวน ที่พังเพราะแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ทำให้เกิดความกังวลว่าสภาพแวดล้อมในพื้นที่อาจปนเปื้อนสารเคมีอันตราย

กระทรวงสิ่งแวดล้อมของจีน กล่าวว่า กรดแอมโมเนียและกำมะถันรั่วจากโรงงาน 2 แห่ง หลังโรงงานพังถล่มลงมาในเมืองซือฟาง ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองเฉิงตู เมืองเอกของเสฉวน ทางการจีนบอกว่า ไม่พบการปนเปื้อนในอากาศและน้ำแต่ไม่เปิดเผยปริมาณสารเคมีอันตรายที่รั่วออกมา อย่างไรก็ตาม นิตยสารของจีนฉบับหนึ่งรายงานยืนยันว่าพืชและต้นไม้บนภูเขาซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานเคมีเมืองซือฟาง 5 กิโลเมตร ตายหลังเกิดแผ่นดินไหว 4 วัน
นอกจากนี้ จีนยังพบแหล่งรังสีอันตรายอีก 50 จุด โดยในจำนวนนี้ 35 จุด ถูกกู้คืนมาได้แล้ว ยังเหลือ 15 จุด ซึ่ง 3 จุดอยู่ใต้ซากหักพังและอีก 12 จุดอยู่ในอาคารที่อันตราย เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ทางการจีนยืนยันว่า ยังไม่มีรังสีรั่วออกมาและสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว ทั้งนี้ พื้นที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นที่ตั้งของห้องทดลองอาวุธนิวเคลียร์สำคัญของจีนที่เมืองเหมียนหยางและห้องทดลองนิวเคลียร์ลับอีกหลายแห่ง
หลังแผ่นดินไหวผ่านไป 11 วัน ทหารเจ้าหน้าที่กู้ภัยและประชาชนหลายแสนคนต่างมุ่งไปที่การฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่มณฑลเสฉวนบอกว่า จีนจำเป็นต้องสร้างเมืองและหมู่บ้านที่พังเสียหายขึ้นมาใหม่ทั้งหมดเพื่อเป็นที่อยู่ของประชาชนหลายล้านคนซึ่งอาจต้องใช้ทั้งหมดประมาณ 3 ปี
เวลานี้ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวเริ่มย้ายเข้าไปอยู่ในที่พักชั่วคราวที่รัฐบาลสร้างขึ้นที่เมืองตูเจียงเอี้ยน ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวประมาณ 50 กิโลเมตร เวลานี้จำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มเป็นกว่า 55,000 คนแล้ว และผู้รอดชีวิตกว่า 5 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย ปัจจุบันคนจำนวนนี้ต้องอาศัยอยู่ในที่พักชั่วคราวและเต็นท์.-สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-05-24 12:56:23

http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTExOTIxJm50eXBlPWNsaXA=

 

เกิดแผ่นดินไหว 5.6 ริกเตอร์ ที่โคลอมเบีย​

​

โคลอมเบีย 25 พ.ค. - เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.6 ริกเตอร์ ในกรุงโบโกตา เมืองหลวงของโคลอมเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และอีก 8 คนได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลัมเบีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า แผ่นดินไหวขนาด 5.6 ริกเตอร์ ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโบโกตา ราว 54 กิโลเมตร เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 14.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น วานนี้ หรือประมาณ 02.02 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ประชาชนในกรุงโบโกตาเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นนานต่อเนื่อง 40 วินาที ก่อนจะเกิดอัฟเตอร์ช็อกอีกหลายครั้ง ประชาชนวิ่งออกมาอยู่กลางแจ้งหรือตามท้องถนนกันจ้าละหวั่น

ส่วนความเสียหายนั้น รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า นับจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คน เนื่องจากพวกเขาอยู่ในรถขณะเกิดแผ่นดินไหว และอีก 8 คนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีบ้าน 10 หลัง และโบสถ์อีกหลังหนึ่งใกล้กับศูน์กลางแผ่นดินไหวได้รับความเสียหายร้ายแรง. -สำนักข่าวไทย

2008-05-25 08:10:40

แผ่นดินไหวในโคลอมเบียมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน

​

โบโกตา 25 พ.ค.- เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่ภาคกลางของประเทศโคลอมเบีย ในทวีปอเมริกาใต้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน และสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในกรุงโบโกตา หลายพันคน หนีตายออกนอกบ้านเรือนมารวมตัวในถนน

แผ่นดินไหวครั้งนี้นานหลายวินาที สำนักงานธรณีวิทยาของโคลอมเบีย รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ วัดความรุนแรงได้ 5.5 ริคเตอร์ โดยเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 02.20 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย นับเป็นแผ่นดินไหวที่เมืองหลวงของโคลอมเบีย ครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี คาดว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว อยู่ห่างจากกรุงโบโกตา ไปทางทิศตะวันออกถึงตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 54 กิโลเมตร

ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน เกิดจากรถยนต์ชนกันอย่างน้อย 3 คัน บนทางหลวงซึ่งเป็นผลมาจากแผ่นดินไหว มีรายงานว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแล้ว ยังมีแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) ตามมาหลายครั้ง อย่างไรก็ดี ความเสียหายที่เกิดกับอาคารบ้านเรือนในกรุงโบโกตา มีเพียงเล็กน้อย และได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินแล้ว แต่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ .- สำนักข่าวไทย

2008-05-25 10:11:03

เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.7 ริคเตอร์ที่อินโดนีเซีย​

ถาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต​

จาการ์ตา 24 พ.ค.

 

ผมเดานะครับ น่าจะเกิดจากรอยเลื่อยใต้ดินในทะเลนะครับ ไม่งั้น
ไม่น่าจะอยู่ๆมีน้ำจืดปริมาณมากผสมกับน้ำทะเลโดยฉับพลันหรอกครับ
หรืออีกอย่างหนึ่ง ปริมาณน้ำแข็งขั่วโลกละลายมากกว่าที่เราคิด?

 

ข่าวชาวนารับปลูกข้าว
ต่างชาติเค้าเข้ามาลงทุนเอาผลผลิตเกษตรเชิงเดี่ยวในบ้านเราครับ
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่ภูทับเบิก+เพชรบูรณ์ ปลูกกันแต่หัวกระหล่ำทั้งหมู่บ้าน
ที่ประจวบฯ ปลูกกันแต่สัปปะรดกันทั้งหมู่บ้าน มีนายทุนเป็นคนจีน
ชาวนาจะต้องลงทุนซื้อปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ จากนายทุนจำนวนมาก
เค้าก็จะปล่อยให้กู้เงิน แต่ชาวนาก็มักเอาไปซื้อรถ+บ้านจนเงินลงทุนไม่พอทำงาน
เป็นหนึ้สินพรุงพรังกับไปหลายคนแล้วครับ ทำไป 20- 30 ปีก็ไม่ก้าวหน้า
ดังนั้นฝากช่วยกันบอกต่อกับชาวนาว่าอย่าหลงทำตามกระแสหรือเห็นแก่เงินก้อนโตตรงหน้านะครับ
อีกหน่อยเค้าจะปรับราคาขึ้น-ลง อย่างไรก็ได้ จะอยู่ในมือเค้าหมด
ชาวนาทำงานเหนื่อยมาก แต่ในที่สุดก็ต้องยอมจำนนเค้าในกลไกดังกล่าว
ทำเกษตรเชิงผสมผสาน ให้อยู่ในภาพของการเกษตรพอเพียงดีที่สุดครับ

 

สมัครเป็นกัลยาณมิตร

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบศึกษาในเรื่องธรรมครับ เห็นรูปคุณแล้วทำให้นึกถึงความสวย ที่จะต้องทำบุญมาอย่างเหมาะสมทั้ง ศิล สมาธิ และ มีปัญญาด้วย ครับ มีสิ่งใดจะแน่นำผม กรุณาส่งมาที่ E-Mail ขอบคุณครับ

 

เตรียมจับจองพื้นที่ขั้วโลกเหนือ ภายหลังน้ำแข็งละลายหมด

​

กลุ่มประเทศอาร์กติกหารือข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อน

โคเปนเฮเกน 24 พ.ย.

 

เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวจีน

​

เฉิงตู 25 พ.ย.

 

*** กรรม ****

กรรม จะมารวดเร็ว
ตั้งตัวไม่ติด....
สัจจะของตน... จะคอยบอก คอยเตือน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ปากอ่าวไทย-กรุงเทพฯ ใครว่า...ไม่เสี่ยงพายุแบบนาร์กีส

25 พฤษภาคม 2551 กองบรรณาธิการ
ภายหลังพายุไซโคลนนาร์กีสถล่มพม่าคร่าชีวิตชาวบ้านไปนับแสนราย ระยะเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์แผ่นดินไหวความแรงระดับ 7.9 ริกเตอร์ เกิดขึ้นที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน


<DD>มีการประเมินกันว่ามีผู้คนล้มตาย บาดเจ็บ และหาบสาบสูญเกินกว่าแสนคนเช่นกัน จากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากภัยพิบัติธรรมชาติถึง 2 ครั้ง ทำให้มีนักวิชาการออกมาเรียกร้องมาตรการป้องกันและการเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติด้านต่างๆ ตลอดจนระบบการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพของประเทศไทย ในการรับมือกับภัยธรรมชาติแบบคาดไม่ถึง ซึ่งจากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนมนุษยชาติต้องรับมือกับภัยพิบัติที่รุงแรงมากขึ้น ผลจากการเปลี่ยนแปลงและการแปรปรวนของสภาพอากาศโลก วันนี้คำว่า "โลกร้อน" จึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น<DD>

<DD>ดร.แสงจันทร์ ลิ้มจิรกาล ผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาและความยั่งยืน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โลกร้อนขึ้นจริงหรือเป็นเพียงกระแส คำตอบนี้รายงาน IPCC ฉบับที่ 4 ยืนยันชัดเจนว่า ในระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น 0.74 องศาเซลเซียส ส่งผลให้สภาวะความรุนแรงของลมฟ้าอากาศและสภาพภูมิอากาศ มีแนวโน้มความถี่ของการเกิดบ่อยครั้งขึ้นในหลายภูมิภาคของโลก สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก<DD>

<DD>"IPCC ระบุว่า ไทยเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่มีความล่อแหลมต่อการแปรปรวนและการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ ที่สังเกตุได้ชัดเจนในปัจจุบัน คือ ไทยกำลังเผชิญกับสภาวะความรุนแรงของลมฟ้าอากาศและสภาพภูมิอากาศ ทั้งภาวะภัยแล้ง น้ำท่วม ดินถล่ม พายุไซโคลน นับวันจะทวีความรุนแรงและถี่ยิ่งขึ้น มูลค่าความเสียหายในแต่ละปีนับพันล้าน" ดร.แสงจันทร์กล่าว พร้อมทั้งให้ข้อมูลผลจากภัยพิบัติมีผู้คนล้มตายในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาพุ่งสูงขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่มีแผนรับมือระยะยาว มีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด<DD>

<DD>นักวิชาการหญิงจากจุฬาฯ ฟันธงเมืองไทยมีโอกาสเกิดพายุไซโคลนแบบนาร์กีส เนื่องจากไทยตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางความแปรปรวนของระบบภูมิอากาศโลกที่สำคัญ คือ ปรากฏการณ์เอนโซ่และลมมรสุมโซนร้อนที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างมหาสมุทร บรรยากาศ และพื้นดิน ในบริเวณเส้นศูนย์สูตรระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบภูมิอากาศโลก ที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงและความถี่ของการเกิดพายุเข้าไทยเพิ่มขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกและอุณหภูมิของโลกเช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่น่ากังวลสำหรับประเทศไทย คือ หากพายุเข้ามาทางอ่าวไทยบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีโอกาสเกิดภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล<DD>

<DD>"กรุงเทพฯ จะโดนพายุใหญ่แบบนาร์กีสหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวพายุจะลงตรงจุดไหน เพราะธรรมชาติพายุจะก่อตัวและเคลื่อนตัวตรงจุดที่มีการเคลื่อนตัวจะได้รับผลกระทบน้อย ปกติพายุจะมีการเคลื่อนตัวใน 5-6 เส้นทาง จุดที่เคลื่อนตัวผ่านก็จะมีฝนตก แต่จุดที่พายุลงก็จะเกิดผลกระทบรุนแรง" ดร.แสงจันทร์กล่าว<DD>

<DD>นักวิชาการรายนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐมีแผนการรับมือภัยพิบัติต่างที่ชัดเจน โดยให้ข้อมูลตอกย้ำอีกว่า ทุกวันนี้การก่อตัวของพายุไซโคลนเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ ไทยต้องเตรียมรับมือฝนเยอะ ฝนหนัก ฝนมาเร็ว ดินถล่มรุนแรง เราเจอแน่ แต่การลดความสูญเสียของประชาชน ก็สามารถทำได้อาศัยการเฝ้าระวังและการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ มีระบบป้องกัน เตรียมพร้อมระบบความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสียงภัย<DD>

<DD>อีกทั้งผลพวงจากโลกร้อนที่ทำให้สภาวะอากาศในประเทศมีความแปรปรวน ส่งผลให้ปริมาณฝนโดยรวมลดลงและจำนวนวันฝนตกต่อปีลดลง มีพายุโซนร้อนและไต้ฝุ่นเกิดถี่และรุนแรงขึ้น ซึ่งในรอบ 20 ปี พายุก่อความเสียหายรุนแรงมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่ภัยพิบัติอย่างน้ำท่วมมีความถี่และรุนแรงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง นอกจากฟ้าฝน ก็คือดินถล่มรุนแรงไม่แพ้กัน พื้นที่ภาคใต้มีโอกาสดินถล่มสูง 40% ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเสี่ยง 30% แล้วยังมีภัยแล้งถี่และรุนแรง พื้นที่ประสบภัยมีเพิ่มขึ้น เมื่อปี 2549 งบประมาณที่ทางรัฐช่วยเหลือภัยแล้งและน้ำท่วมรวมกว่า 11,000 ล้านบาท ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศยังส่งผลต่อระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น เกิดปัญหากัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงและสูญเสียพื้นที่ชายฝั่งในอัตราที่รวดเร็ว รวมทั้งปัญหาไฟป่า โดยปี 2550 มีพื้นที่ราว 1.5 แสนไร่เกิดไฟป่า<DD>

<DD>จาก "รายงานการประเมินสภาวะความรุนแรงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย : การวิเคราะห์ความเสี่ยงและความล่อแหลมของพื้นที่วิกฤติ" ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า พื้นที่วิกฤติเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย พายุ และดินถล่ม คือ แม่ฮ่องสอน พะเยา และนครศรีธรรมราช ตามลำดับท ส่วนพื้นที่วิกฤติภัยแล้ง คือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และฉะเชิงเทรา สำหรับการศึกษาในระยะที่สองมีขอบเขตตั้งแต่ระดับจังหวัดลงไปจนถึงระดับตำบล ซึ่งจะครอบคลุมด้านกายภาพ เศรษฐกิจ และสังคมด้วย รวมทั้งมีการจัดทำแผนที่วิกฤติของความล่อแหลม คาดว่าเมื่อโครงการศึกษาเสร็จสิ้นจะได้แนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรม โดยจะผลักดันผลงานออกไปสู่การใช้ประโยชน์ เห็นว่าภาครัฐสามารถในการนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเตือนภัยรับมือได้<DD>

<DD>ดร.สมชาย ใบม่วง ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาต้องเตรียมพร้อมทั้งก่อนและหลังเข้าสู่ฤดูกาลฝนตกหนัก ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัย ทุก 1-3 เดือน ส่งคาดหมายลักษณะอากาศล่วงหน้าไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะอากาศในช่วงฤดูแล้งและฤดูฝน รวมทั้งภัยธรรมชาติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้ เช่น พายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก เพื่อเตรียมแผนป้องกันเป็นการล่วงหน้า ทุกๆ 7 วัน ส่งคาดหมายลักษณะอากาศล่วงหน้าและคำเตือนภัยธรรมชาติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดต่างๆ เป็นประจำ เพื่อเตรียมป้องกันและบอกประชาชนในท้องที่รับผิดชอบ<DD>

<DD>ทุก 1-3 วัน มีการเฝ้าระวังและติดตามลักษณะอากาศอย่างต่อเนื่อง เมื่อคาดว่าจะมีลักษณะอากาศร้ายที่เป็นอันตรายเกิดขึ้น จะแจ้งเตือนภัยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดไปยังเครือข่ายสมาชิกอาสาสมัครของกรมอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อแจ้งชาวบ้านในพื้นที่ชนิดถึงตัวหรือเคาะประตูบ้าน เพื่อเตรียมหนีภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น ในทุกๆ 2-3 ชั่วโมง จะทำการเฝ้าระวังและติดตามลักษณะอากาศร้ายด้วยเรดาร์ตรวจอากาศ และดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาตลอดพร้อมแจ้งเตือน ซึ่งมั่นใจว่าการพยากรณ์และเตือนภัยธรรมชาติ ทางอุตุนิยมวิทยามีประสิทธิภาพสูงครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และมีความถูกต้อง แม่นยำ ถึงมืออย่างรวดเร็ว สร้างความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน<DD>

</DD>นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังทำโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้อุตุนิยมวิทยาให้กับเจ้าหน้าที่ อป.พร. อบต. มิสเตอร์เตือนภัย ซึ่งเป็นผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงภัยและนักเรียน หรือเรียกว่านักอุตุน้อยในพื้นที่ต่างๆ ให้ได้เรียนรู้ และเข้าใจปรากฏการณ์ธรรมชาติทางอุตุนิยมวิทยา ตลอดจนผลกระทบและการหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งมีการจัดทำหลักสูตรอุตุนิยมวิทยาภายใต้โครงการสมุดปกขาว ซึ่งทำร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและไจก้าให้ความรู้กับเยาวชนเรื่องปรากฏการณ์ต่างๆ

จาก http://www.thaipost.net/index.asp?bk=sunday&iDate=25/May/2551&news_id=158978&cat_id=110400

 

ไม่มีอะไรต้องวิตกกังวลครับ จันทบุรี ตราด ฝนตกทุกวัน เหตุการณ์นี้ มีเป็นประจำ ผมเห็นทุกปี บางปีก็หลายครั้งหลายหน สรุป เหตุการณ์ปรกติครับ

 

เรื่องภัยพิบัตที่มีความร้ายแรง ไม่เกิดในประเทศไทย อย่างแน่นอน ดังข่าวลือ โดยคนเมืองบัว

............................

 

*** สัจจะธรรม ****

เรื่อง การสอนให้เชื่อผิดๆ นอกสัจจะธรรม...
นอกคำสอนพระพุทธเจ้า ที่แท้จริง
คือ ตัวกระทำที่จะส่งผลให้เกิดพิบัติ ต่อไป

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ****

ขอขมา...ต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอถวายสัจจะ....ไม่ซื้อ ไม่ขายพระ ตลอดชีวิต

ค้นหาในพระไตรปิฎก...จะพบ
พระพุทธเจ้าเคยสอนไว้
การซื้อขายพระ จะทำลายศาสนา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อภัยพิบัติมาถึง ทรัพย์สิน ที่ดิน บ้าน ก็ขายไม่ได้ ถึงบอกขายก็ไม่มีคนซื้อ เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบว่า บ้าน ที่ดินของตนเองนั้นจะยังคงอยู่หรือปล่าว ส่วนตัวแล้วยิ่งคิด ยิ่งสงสารยิ่งนัก จึงขอรับผลกรรมเอาไว้เองจะดีกว่า ปล่อยให้เพื่อนร่วมโลกต้องรับผลกรรมที่เกิดจากภัยพิบัติ ที่กลัวกันนั้น ท่านใดที่คิดว่าภัยพิบัติกำลังจะเกิด ผมขอรับซื้อ บ้าน ที่ดิน ของท่านในราคาตามสมควร เพราะถ้าภัยพิบัติเกิดขึ้น ท่านจะไม่มีอะไรเหลือเลย (ซึ่งตรงนี้ผมขอรับภัยพิบัติแทนท่านทั้งหลาย) เพื่อให้ท่านจะได้มีเงินเอาไว้ใช้จ่ายในยามที่ภัยพิบัติเกิดขึ้น จะได้อพยพได้อย่างหมดห่วงกังวลและจะได้หมดห่วงเรื่องทรัพย์สิน

 

chatbox​

[01:31 AM] tanya123: Sawadee ka ^-^(rose)
[01:37 AM] ร่มโพธิ์: เกือบถอดใจครับ..เฮ้อ
[01:37 AM] กระติ๊บ: เกิดอะไรขึ้นกับเวปพลังจิตเหรอ
[01:38 AM] pinit: สวัสดีครับ ทุกท่าน (f)
[01:39 AM] กระติ๊บ: เศร้าเลยเข้าเวบไม่ได้ พยายามหาทางเข้ามาตั้งหลายครั้งก็เข้าไม่ได้
[01:39 AM] MBNY: ยินดีต้อนรับสู่เว็บพลังจิต ขออภัยในความไม่สะดวก ค่ะ
[01:39 AM] กระติ๊บ: วันนี้เข้าได้แล้วดีใจจัง
[01:40 AM] nopam: ใจหายตั้ง 3 วันเต็มว่าจะเปิดเวปดี ๆ แบบนี้ไม่ได้เสียแล้วคิดถึงมากๆๆๆๆๆคนคอเดียวกัน
[01:42 AM] MBNY: คิดถึงเหมือนกันเลย ช่วงหายไปก็ติดค่อกับทีมงานที่น่ารักผ่านเมล์อย่างเดียว ไม่มีเวลา msn เลยค่ะ ขอขอบคุณสมาชิกทุกๆท่านด้วย และที่สำคัญทีมงานที่น่ารัก คอยอยู่เคียงข้างกันตลอด
[01:43 AM] MBNY: ขอไปส่งข่าวบอกเพื่อนสมาชิก ก่อนนะคะ บุญรักษาทุกๆท่านค่ะ ({)
[01:48 AM] บุษบากาญจ์: สวัสดีค่ะ คิดถึงสมาชิกทุกท่านเลยค่ะ
[01:50 AM] sithiphong: สวัสดีครับ กลับมาแล้วเว็บพลังจิต
[01:52 AM] Komodo: หุหุ
[01:52 AM] ผ่อนคลาย: ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ คิดถึงทุกคนจ้ะ ทั้งญ.และช.ไม่เว้น:d
[01:53 AM] Komodo: รักเว็บกันให้มากๆนะครับ พอไม่มีเว็บ 2 วัน แทบลงแดง 55
[01:56 AM] Numsai: สวัสดีค่ะ เพื่อนสมาชิกและทีมงานพลังจิตทุกท่าน ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกท่านนะคะ ขอให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
[01:59 AM] ผ่อนคลาย: ขอบคุณ คุณแม่บ้านมากครับ ที่แจ้งข่าวเป็นระยะๆทำให้รู้ความเคลื่อนไหวเนืองๆ จนกระทั้งพร้อมเปิดบริการได้
[01:59 AM] MOUNTAIN: ดีใจมาก หลังจากหายหน้าหายตากันไป 2 วัน(deejai)
[02:02 AM] vnss: สวัสดียามเช้าค่ะ
[02:04 AM] เด็กท้ายแถว: เย้ เปิดเวบได้แล้ว คิ๊ดถึง คิดถึง
[02:06 AM] อธิมุตโต: หวัดดีครับ เข้าเว๊ปไม่ได้ 2 วันหงุดหงิดมาก วันนี้เข้าได้ ดีใจหนอ ^-^
[02:07 AM] kob: คน Online อยู่บนบอร์ดในขณะนี้: 1357 ( เป็นสมาชิก 182 คน และ บุคคลทั่วไป 1175 คน)
[02:13 AM] คีตเสวี: ทุกท่านดีในออกนอกหน้าเลยนะครับ^-^
[02:14 AM] อธิมุตโต: ทดลองอ่านพระไตรปิฎก http://palungjit.org/showthrea...75#post1232175
[02:16 AM] pum_anatta: (||)(f)(kiss) ดีใจจิงๆที่ได้พบกันอีก พยายามเข้าแทบแย่แน่ะ สวัสดีทุกท่านเลยค่ะ ^-^​