ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ช่วงเวลานี้ เริ่มเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงกันแล้วครับ

ราคาอาหารทุกชนิดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวสารแพงขึ้นถึง สองเท่าตัว

น้ำมันก็ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อไปก้จะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นเป็นลูกโซ่อย่างต่อเนื่อง

วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาเฉพาะตนเองและครอบครัว ก็คือ

การน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงท่านมา ปรับใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเราเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความพอเพียง

มาพิจารณาว่า "สิ่งใดเป็น สิ่งจำเป็น สิ่งใด เป็นความอยาก หากเป็นความอยากก็จงลด จงตัดออกไป"

สิ่งใดประหยัดได้ก็จงประหยัด หากรักษาศีลแปดได้ก็ประหยัดข้าวไปได้อีกเดือนละ 30 มื้อ

หากมีติดอบายมุขใด บุหรี่ เหล้า ยา หวย การพนัน ก็จงลด ละเลิกเสีย นำเงินที่สูญเปล่าและทำลาย ชีวิต ทำลายสุขภาพเหล่านี้มา เป็นเงินเก็บ เงินออม เป็นเงินไว้ซื้อ ข้าวปลาอาหารดีกว่า

นอกจากนั้น เมื่อยุคข้าวยากหมากแพงดำเนินถึงขั้นรุนแรงก็ขอจงเตรียมใจกันในเรื่องของ โจร ผู้ร้ายที่จะเพิ่มจำนวนตามไปด้วย

เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปแล้วครับ ต้องเตรียมตัว เตรีมใจ รับสถานการณ์ได้แล้ว รวมทั้งที่สำคญที่สุดก็คือ ขอจงเร่งปฏิบัติธรรมให้ธรรมมะคุ้มครองเราและครอบครัวเป็นสำคัญครับ

 

อนุโมทนา กับคำกล่าวของคุณคณานันท์อย่างยิ่ง


และขอเสริมว่า แท้จริงแล้ว วิถีแห่งความพอเพียง คือวิถีชีวิตดั้งเดิมของปู่ย่าตาทวดที่ประพฤติปฏิบัติเป็นอาจิณ


เช่น มะม่วง 1 ต้น ให้ผลผลิตหลายสิบกิโลกรัม เจ้าของต้นเก็บผลมาแล้วมอบแก่พ่อแม่


ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ ญาติวงศ์พงศา ตลอดจนเพื่อนบ้าน คนรู้จักใกล้ชิด


ครั้นเหลือจากนั้น จึงแปรรูปเพื่อเก็บงำไว้บริโภคได้นานวัน


หากมีเหลือจากการแปรรูปอีก จึงค่อยนำไปขายเก็บเงินเข้าพกเข้าห่อเป็นทุนรอนของครอบครัวต่อไป


ดังจะเห็นได้ว่า วิถีของเก่าของเขานี้ เต็มไปด้วยความเอื้ออารีมิตรจิตมิตรใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัย


ดังที่หลายคนมักพูดว่า เป็นสังคมในอุดมคติ


( คือ ยากจะมีจริง หากจะมี ก็คงจะเป็นเช่น ชุมชนของชาวลับแล ซึ่งเขารักษาศีลแปด เป็นปกติ )


ส่วนการปรับประยุกต์ให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องที่คนยุคใหม่จะต้องมีการวางแผนต่างๆ ให้รัดกุม


เนื่องด้วยบริบทหลายประการ เปลี่ยนไปมาก

 

คนกรุงสักการะ-สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ก่อนอัญเชิญกลับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

​

กทม. 15 เม.ย.- รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ลงจากมณฑปที่ประดิษฐาน ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. กลับไปประดิษฐานยังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

เวลา 15.00 น. วันนี้ นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ลงจากมณฑปที่ประดิษฐาน ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. เพื่อนำกลับไปประดิษฐานยังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร หลังจาก กทม.ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทย โดยมีข้าราชการ กทม. และประชาชนเข้าร่วมในพิธีอัญเชิญกลับ และ ปีนี้ กทม.ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐาน ณ ลานคนเมือง ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้ตลอดทั้งวันมีประชาชนทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ได้เดินทางมาสักการะและสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์เป็นจำนวนมาก

สำหรับพระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำพระราชวังบวรสถานมงคล หรือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง มาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 และการอัญเชิญพระพุทธรูปสรงน้ำได้มีประเพณีปฏิบัติมาช้านานแล้ว รวมทั้งในเทศกาลสงกรานต์ทุกปี ก็จะมีการขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์สรงน้ำรอบเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล ตามประเพณีปฏิบัติของเมืองสำคัญ ๆ.- สำนักข่าวไทย

2008-04-15 15:09:15

กาฬสินธุ์พายุถล่มบ้านนับร้อยหลัง พบเสียชีวิต 1 ราย​

​

กาฬสินธุ์ 14 เม.ย. - นายณรงค์ชัย ทิพกนก นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เร่งเข้าพื้นที่ตรวจสอบความเสียหาย หลังเกิดพายุกระหน่ำอย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 เม.ย.) ในหมู่บ้านเสียว ต.หัวงัว เบื้องต้นพบว่าเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายจุด บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 200 หลัง และมีผู้เสียชีวิตถูกหลังคาปลิวทับร่าง คือ นายชัยยงค์ ภูกระฐิน อายุ 37 ปี อยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ซึ่งจะเร่งนำเงินมาช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 40,000 บาท พร้อมรายงานความเสียหายต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่

ส่วนเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารถูกพายุกระหน่ำเสียหายเช่นกัน โดยเฉพาะเวทีงานสงกรานต์สองฝั่งโขงและเต็นท์ถูกลมพัดพัง ล่าสุดเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เร่งปรับปรุงซ่อมแซมให้แข็งแรงขึ้น เพื่อใช้ประกวดนางงามสงกรานต์ในค่ำคืนนี้ และงานจะมีไปถึงวันที่ 16 เมษายน. - สำนักข่าวไทย

2008-04-14 11:07:26

ผู้บาดเจ็บพายุกระหน่ำสตูล 8 ราย แพทย์อนุญาตกลับบ้านแล้ว​

​

สตูล 12 เม.ย.- นายขวัญชัย วงศ์นิติกร ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมเจ้าหน้าที่นำเครื่องยังชีพเข้าช่วยเหลือราษฎรใน ต.นาทอน อ.ทุ่งหว้า หลังถูกพายุพัดกระหน่ำวานนี้ (11 เม.ย.) ทำให้บ้านเรือนหลายหมู่บ้านได้รับความเสียหายถึง 118 หลัง ต้นยางพาราที่อยู่ในช่วงกรีดยางโค่นล้ม 870 ต้น สวนผลไม้ขนุนและมะม่วงเสียหาย 10 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บถูกกระเบื้องบาดและเป็นลมตกใจ รวม 8 คน อยู่ในพื้นที่ ม.1 และ ม.3

ล่าสุดแพทย์โรงพยาบาลทุ่งหว้าปฐมรักษาพยาบาลดีขึ้นและอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนตำบลอื่น ๆ เช่น ต.ทุ่งหว้า ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า มีบ้านเรือนเสียหาย 6 หลัง และอยู่ระหว่างการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้ทั้ง 3 ตำบล คือ นาทอน ทุ่งหว้า และป่าแก่บ่อหิน เป็นเขตประสบภัยพิบัติแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-04-12 18:31:14

เตือนเล่นน้ำหาดแม่รำพึงระวังจุดอันตราย​

​

ระยอง 14 เม.ย.- อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า จ.ระยอง ห่วงความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเล่นน้ำหาดแม่รำพึง ให้ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ เพราะมีจุดเสี่ยงอันตรายและเกิดเหตุบ่อย

นายสิทธิชัย เสรีสงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อ.เมือง จ.ระยอง เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนเล่นน้ำทะเลตามชายหาดแม่รำพึงตลอด 12 กิโลเมตร แต่มีจุดเสี่ยงอันตรายของการจมน้ำบ่อย โดยเฉพาะบริเวณลานหินขาว หินดำ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีร่องน้ำลึก อาจถูกคลื่นซัดและม้วนออกไปนอกชายฝั่ง ซึ่งจะทำให้จมน้ำเสียชีวิต ขอให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด

ด้านนายสุเทพ รื่นถวิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง รายงานว่า อุบัติเหตุสงกรานต์ในช่วง 7 วันเฝ้าระวัง ตลอด 3 วันที่ผ่านมา (11-13 เม.ย.) เกิดขึ้น 15 ครั้ง บาดเจ็บ 21 ราย เสียชีวิต 2 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ขณะเมาสุรา ส่วนวานนี้ (13 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุขึ้น 6 ครั้ง บาดเจ็บ 7 ราย.-สำนักข่าวไทย

2008-04-14 13:49:41

มท.3 แนะงดขายเหล้าต้องหารือหลายฝ่าย ​

​

ยโสธร 15 เม.ย.-นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่แพทย์ชนบทแนะนำให้งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสำคัญว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วย และเชื่อว่าจะสามารถลดอุบัติเหตุได้อย่างเห็นผล เนื่องจากอุบัติเหตุและการทะเลาะวิวาทส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราและของมึนเมา

แต่หากจะมีการบังคับออกเป็นกฎหมายห้ามจริงจัง คงต้องหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์สูงสุด เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือจากร้านค้าให้งดจำหน่ายสุราในบางช่วงเวลา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี สำหรับการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย. ขอชมเชย จ.ยโสธร ที่มีสถิติอุบัติเหตุลดลงจากปีที่แล้ว โดยเกิดอุบัติเหตุเพียง 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต. -สำนักข่าวไทย

2008-04-15 16:52:09

ที่มา http://news.mcot.net/social/

 

*** ย้อนยุค ****

ประสาทหินโบราณ...ในสุวรรณภูมิ
คือ ศิลปะยุคเดียวกัน
เป็นเรื่องราวของพุทธโบราณ

นานมาก...จนไม่มีใครรู้
ใบหน้าที่ประสาทหิน....คือ โลกุตตระ
ที่มาปรากฏบนโลก...ยุคโบราณ

โลกเรา...ผ่านยุครุ่งเรืองจากพุทธศาสนา
มาหลายยุค....กว่าจะถึงปัจจุบัน

สำคัญที่พระพุทธเจ้าทุกองค์
สอนด้วยสัจจะ

แต่...สัจจะ ... จะขัดกับ โลภ โกรธ หลง
คำสอนจึงถูก ทุบทำลายมาทุกยุคสมัย

ผู้หวังประโยชน์...ดึงส่วนหนึ่งของคำสอน
ไปหากิน เป็นธุรกิจแฝงเสมอ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ทำกันได้ ทำไปแล้ว ****

ทำกันไม่ได้ จึงทำลายล้างพุทธ
มีให้เห็นทั่วโลก

การกระทำ...ที่ทำลายศาสนศาสตร์เพื่อหลุดพ้น
จึงมีผลตอบแทน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิเหนาหลายร้อยตื่นอพยพหนีภูเขาไฟปะทุ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 เมษายน 2551 12:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภูเขาไฟแห่งหนึ่งจากอีกร้อยกว่าแห่งในอินโดนีเซียที่ยังคงปะทุพร้อมระเบิดออกมา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – ชาวอินโดนีเซียหลายร้อยคนอพยพหนีออกจากบ้านเรือน หลังภูเขาไฟปะทุเถ้าถ่าน และพ่นควันไปในอากาศไกลหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่จากทางการเผย

เจ้าหน้าที่เผยว่า ได้ส่งหน้ากากกันฝุ่นควัน และน้ำสะอาดไปยังเกาะฟลอร์สทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากภูเขาไฟอีกอน 1,703 กิโลเมตรอย่างเร่งด่วนแล้ววานนี้ (15)

หน่วยงานด้านภูเขาไฟของอินโดนีเซียชี้ว่า ประชาชนกว่า 600 คนในหมูบ้านใกล้เคียงปากปล่องภูเขาไฟอพยพออกไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ยังมีชาวบ้านอีกกว่า 23,000 คนอาศัยในเขตอันตรายอยู่อีก 3 เขตย่อย

“การติดต่อเบื้องต้นดับหัวหน้าเขตย่อยเหล่านั้นชี้ว่า ประชาชนหลายคนตื่นตระหนกในช่วงดึกวานนี้ (15) เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟหลังจากแผ่นดินไหว แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลข (ของผู้อพยพ)” โรเบิร์ต ไร กล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่านจากภูเขาไฟปะทุ ซึ่งมีขึ้นราว 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 20.15 น.เวลาไทย ขณะที่ พวกเขากำลังเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งในเขตดังกล่าววันนี้ (16)

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ด้านภูเขาไฟของอินโดนีเซียยังระบุว่า เจ้าหน้าที่ทีมหนึ่งถูกส่งไปดูแลภูเขาไฟอย่างใก้ลชิดแล้ว โดยที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

แผ่นเปลือกโลกบริเวณประเทศอินโดนีเซียอยู่บนวงแหวนของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งแผ่นเปลือกโลกมักจะเคลื่อนตัวปะทะกันบ่อยครั้ง รวมทั้งยังมีภูเขาไฟอีกกว่า 130 แห่งที่ยังไม่มอดด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยามภาวะคับขัน ผู้คนทั้งหลายจะเห็นคุณของวิถีพอเพียง


ว่าจำเป็น ต่อการพยุงชีวิตให้รอดต่อไปเพียงไร


อย่าประมาทมัวเพลิดเพลิน กับการเจริญชีวิตทางโลกียะ


เพราะสังขารของโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนจริงแท้


ฝึกปรือการใช้ชีวิตภายใต้กรอบ ของการรู้ออม รู้จ่าย รู้เก็บ อย่างเหมาะสม


พร้อมน้อมนำกายและใจ ให้อยู่ในเส้นทางธรรมเถิด

 

มีหน้าเวบที่มีเสียงสวดมนต์คาถาเงินล้านครับ เพื่อจะบรรเทา ความทุกข์จากเรื่องข้าวยากหมากแพงไปได้ไม่มากก็น้อยครับ

http://audio.palungjit.org/showthread.php?t=33

 

<TABLE class=tborder id=post1116492 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>~:สิกขิม*เทวาลัย:~<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1116492", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:57 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
สถานที่: โลก
ข้อความ: 790 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 23 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,364 ครั้ง ใน 889 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 618


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1116492 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อนุโมทนา กับคำกล่าวของคุณคณานันท์อย่างยิ่ง


และขอเสริมว่า แท้จริงแล้ว วิถีแห่งความพอเพียง คือวิถีชีวิตดั้งเดิมของปู่ย่าตาทวดที่ประพฤติปฏิบัติเป็นอาจิณ


เช่น มะม่วง 1 ต้น ให้ผลผลิตหลายสิบกิโลกรัม เจ้าของต้นเก็บผลมาแล้วมอบแก่พ่อแม่


ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ ญาติวงศ์พงศา ตลอดจนเพื่อนบ้าน คนรู้จักใกล้ชิด


ครั้นเหลือจากนั้น จึงแปรรูปเพื่อเก็บงำไว้บริโภคได้นานวัน


หากมีเหลือจากการแปรรูปอีก จึงค่อยนำไปขายเก็บเงินเข้าพกเข้าห่อเป็นทุนรอนของครอบครัวต่อไป


ดังจะเห็นได้ว่า วิถีของเก่าของเขานี้ เต็มไปด้วยความเอื้ออารีมิตรจิตมิตรใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัย


ดังที่หลายคนมักพูดว่า เป็นสังคมในอุดมคติ


( คือ ยากจะมีจริง หากจะมี ก็คงจะเป็นเช่น ชุมชนของชาวลับแล ซึ่งเขารักษาศีลแปด เป็นปกติ )


ส่วนการปรับประยุกต์ให้เข้ากับสมัยปัจจุบัน ก็เป็นเรื่องที่คนยุคใหม่จะต้องมีการวางแผนต่างๆ ให้รัดกุม


เนื่องด้วยบริบทหลายประการ เปลี่ยนไปมาก
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________


http://sekhiyadham.semsikkha.org/
<!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder id=post1117709 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>~:สิกขิม*เทวาลัย:~<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1117709", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 01:57 PM
วันที่สมัคร: Dec 2005
สถานที่: โลก
ข้อความ: 790 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 23 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 5,364 ครั้ง ใน 889 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 618


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1117709 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ยามภาวะคับขัน ผู้คนทั้งหลายจะเห็นคุณของวิถีพอเพียง


ว่าจำเป็น ต่อการพยุงชีวิตให้รอดต่อไปเพียงไร


อย่าประมาทมัวเพลิดเพลิน กับการเจริญชีวิตทางโลกียะ


เพราะสังขารของโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนจริงแท้


ฝึกปรือการใช้ชีวิตภายใต้กรอบ ของการรู้ออม รู้จ่าย รู้เก็บ อย่างเหมาะสม


พร้อมน้อมนำกายและใจ ให้อยู่ในเส้นทางธรรมเถิด
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________


http://sekhiyadham.semsikkha.org/
<!-- / sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

ต้องขอกราบโมทนาบุญกับคุณสิกขิมเทวาลัยด้วยเช่นกันครับ

แท้ที่จริงดินแดนแห่งสัมมาทิษฐิ ดินแดนแห่งพันธสัญญา แดนลับแล สวรรค์บนพื้นพิภพ แชงกลีร่า หรือยูโทเปียนั้น ต้องเริ่มต้นการค้นหาที่จิตใจของตัวเราเองก่อน

เราไม่อาจผ่านล่วงสู่ยุคสมัยและดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุขสงบร่มเย็นได้ หากปราศจากซึ่งหัวใจที่งดงาม มีแต่ความรัก ความปรารถนาดีให้แก่ กันและกัน

อบรมบ่มจิตใจของเราให้เต็มเปี่ยมไปด้วยพรหมวิหารสี่เอาไว้ให้เป็นปกติ

มองโลกผ่านสายตาและหัวใจที่เอื้ออาทรต่อกัน ปรารถนาในความดีของกัน

ง่ายๆเพียงแค่นี้ เราก็ใกล้ดินแดนแห่งความสุขได้ในทุกลมหายใจ

 

เมื่อวานนี้ 15 เมษา 51 ประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ เห็นการก่อตัวของพายุโซนร้อน
ที่โคราช เห็นฟ้าดำๆ รีบไปหากล้องมาถ่าย จากนั้นไม่นาน เมฆดำรวมตัวใหญ่ขึ้น
อย่างเร็วมาก น่ากลัว ไม่นานความแรงของลมและฝน ก็กระหน่ำ ถ่ายต่อไม่ได้
เพราะน้ำทะลักเข้าทางหน้าต่างและช่องแอร์ ต้องรีบไปเช็ด และขยับตู้ โต๊ะต่างๆ
เอาภาพที่ไม่ค่อยเจอที่นี้มาให้ชมกัน ในเวลาเดียวกัน อีกที่ในตัวเมือง มีเครนหล่นลงมา
โดนบ้านข้างๆ จากตึก 18 ชั้น เพราะแรงพายุนี้

 

เมื่อ 3-4 วันก่อนได้ดู Discovery channel เกี่ยวกับ ดาวหางจะมาชนโลก ชื่อรายการ Super Comet - After the Imapct เป็นรายการที่ดีมากๆ เขาสร้างเป็นสารคดีสมมติเหตุการณ์ว่าเมื่อดาวหางจะมาชนโลกแล้ว ชาวโลกจะต่อสู้ ดิ้นรนอย่างไร เพื่อความอยู่รอด เช่น ยิงจรวดนิวเคลีย์ไปชนให้แนววงโคจรเบี่ยงเบนออกไป และเมื่อพยายามแล้วไม่สำเร็จ ในที่สุด ดาวหางก็พุ่งลงมาชนโลกจนได้ เขายังสร้างเหตุการณ์จำลองให้ดูว่า เมื่อดาวหางชนโลกแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง คลื่นกระแทก ภูเขาไฟระเบิด คลื่นยักษ์ คลื่นไฟฟ้าช็อก ภัยพิบัติอื่นๆ อีกหลายๆ อย่าง ซึ่งดูแล้วเหมือนกับคำทำนายที่พวกเราเอามาโพสกันมาก มีอีกหลายประเด็นที่บางครั้งเราก็นึกไม่ถึง อยากให้เพื่อนๆชาวเวปพลังจิตลองเช็คตารางออกอากาศซ้ำของรายการนี้แล้วติดตามดูให้ได้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับพวกเราครับ เพราะเขาช่วยสร้างจินตนาการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เราจะได้สามารถคิดและเตรียมการได้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจริงได้มากขึ้นครับ

เช็คมาให้แล้วครับเวลาออกอากาศครั้งต่อไปเวลา 7.00 - 9.00 น. วันที่ 20 เมายน 2551 ครับ

 

โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน สำหรับเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ขอแจ้งให้ทราบว่าไม่มีในพุทธพยากรณ์และหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ไม่ได้บอกว่าจะเกิด ที่จะเกิดมีเพียงสงครามใหญ่เท่านั้น ซึ่งจะมีผลกระทบกับประเทศไทยด้วย แต่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนอุกาบาตจะตก แผ่นดินไทยจะหายนั้นไม่มีนับจากนี้ไปถึงพ.ศ.5000 หลังจากนั้นถึงจะเกิดครับ หลังจาก5000ปีไปแล้วก็ไปไล่เอาเองว่า ปีระกา ปีจอ ตรงกับพ.ศ.อะไร ก็นั่นแหละปีนั้นแหละ ส่วนท่านที่อยากดูอยากเห็นก็อยู่ต่อไป รอดูว่าจะเกิดมั๊ย ส่วนท่านที่ไม่อยู่รอดู ก็ขอให้ทำสมาธิ ทำจิตให้ว่าง นึกอยู่เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา เราเป็นผู้ไม่มีอะไรเลย พ่อแม่พี่น้อง ปู่ย่าตายาย ลูกหลาน เงินทอง ทรัพย์สินต่างๆนั้นไม่มีในเรา เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ มีสภาพพังทั้งหมด ตายแล้วไม่สามารถเอาอะไรไปได้สักอย่าง ให้คิดอย่างนี้ไว้ตลอดเวลา แล้วจิตจะชิน ก่อนตายจะระลึกได้แล้วเข้าพระนิพพานได้ทัน คำสอนของสมเด็จพระพุทธเจ้าองค์ปฐม

 

ใครบ้างที่พบความหมายของ...สัจจะธรรม
ไม่ใช่แต่อ้าง.... สัจจะธรรม

พ้น ไม่พ้น...อยู่ที่สัจจะ
ถือศีล แล้วไม่มีสัจจะ....แล้วจะเอาอะไรติดตัวป้องกันเมื่อกรรมมาถึง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปธน.อิหร่านย้ำสหรัฐฯจัดฉาก11กันยาเป็นข้ออ้างบุกรุกอิรักและอัฟกานิสถาน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 เมษายน 2551 04:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> มาห์มูด อะห์มาดิเนจัด ประธานาธิบดีหัวแข็งของอิหร่าน เมื่อวันพุธ(16)แสดงความสงสัยอีกครั้งว่าสหรัฐฯอาจจัดฉากโศกนาฏกรรม 11 กันยายน 2001 เพื่อเป็นข้ออ้างในการบุกรุกอัฟกานิสถานและอิรัก

แม้ว่า อิหร่าน เคยประณามอัลกออิดะห์สำหรับการโจมตีนิวยอร์กและวอชิงตันในอดีต แต่นี่นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ที่ อะห์มาดิเนจัด ตั้งคำถามเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิต ใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีและเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

"4หรือ5ปีก่อน ความสงสัยหนึ่งต่อเหตุการณ์ในนิวยอร์ก คือาคารหนึ่งถล่มลงมา พวกเขาบอกว่ามีพลเมือง 3,000 คนเสียชีวิต แต่กลับไม่เคยเปิดเผยชื่อพวกเขาต้องสาธารณชนเลย" อะห์มาดิเนจัด บอกกับชาวอิหร่านในเมืองกุม

ภายใต้ข้ออ้างนี้ สหรัฐฯ"โจมตีอัฟกานิสถานและอิรัก และนับตั้งแต่นั้นประชาชนนับล้านถูกสังหารเฉพาะแค่ในอิรัก" อาห์มาดิเนจัด ปราศรัยที่มีการถ่ายทอดสดโดยสถานีโทรทัศน์
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลับระทึก! ปรมาณูสหรัฐฯถล่มเวียดนาม-ลาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 เมษายน 2551 20:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>-B-47B ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ฝูงแรกลำนี้ในสภาพบรรทุกเต็มพิกัดกำลังทะยานขึ้นจากฐานทัพแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ โดยมีจรวดขับดันช่วย เครื่องบินชนิดนี้ถูกเลือกเป็นพาหนะนำระเบิดอะตอมไปถล่มเวียดนามและลาว โชคดีในยุคนั้นที่ยังมีคนยั้งคิด </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการออนไลน์-- เอกสารลับของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้เผยให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีแผนที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มเวียดนามถึง 2 หนคือ ในปี 2502 และ 2511 กับลาวในปี 2504 เพื่อที่จะทำลายล้างกองกำลังคอมมิวนิสต์ให้สิ้นซาก

ในปี 1959 ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.โทมัส ดี ไวท์ (Thomas D White) ได้เลือกพื้นที่เป้าหมายหลายๆ แห่งทางตอนเหนือของเวียดนาม เพื่อทำลายกลุ่มต่อต้านและเส้นทางลำเลียงต่างๆ ทั้งโจมตีด้วยกำลังภาคพื้นดินและการทิ้งระเบิด แต่ความประสงค์ดังกล่าวได้ถูกคัดค้านและระงับจากบรรดานายทหารระดับสูงบุคคลอื่นๆ

เอกสารลับที่ถูกเปิดเผยระบุว่า พล.อ.ไวท์ได้ร้องขอต่อประธานเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ เพื่อส่งฝูงบินยุทธศาสตร์ B-47 (Strategic Air Command) จากสหรัฐฯ ไปยังฐานทัพทางอากาศคลาร์คในฟิลิปปินส์ เพื่อเตรียมการโจมตีเวียดนาม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>พล.อ.โทมัส ดี ไวท์ เจ้าของความคิดใช้นิวเคลียร์เผด็จศึกเวียดนาม </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> การตัดสินใจโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดของพลเอกไวท์นี้อาจจะได้รับแรงจูงใจมาจาก การศึกษาในหัวข้อ “การใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อยุติสงครามในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

การศึกษาดังกล่าวมุ่งไปที่การใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อการควบคุมสถานการณ์ที่มีพื้นที่เป็นลักษณะของป่า หุบเขา เส้นทางลำเลียง และภูเขาต่างๆ เพื่อเป็นการสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของศัตรู ซึ่งลักษณะดังกล่าวคือพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของเวียดนามและลาว

"ถึงแม้เอกสาร พล.อ.ไวท์จะระบุให้มีการเตือนเวียดนามล่วงหน้าก่อนการโจมตี นายทหารระดับนำคนอื่นๆ ได้นำขึ้นพิจารณาทั้งนี้เนื่องจากว่ามีการใช้อาวุธนิวเคลียร์รวมอยู่ด้วย อีก 7 เดือนต่อมาข้อเสนอดังกล่าวก็ถูกถอนออกไป" เอกสารดังกล่าวระบุ

เอกสารจำนวน 400 หน้านี้มีชื่อว่า “กองทัพอากาศสหรัฐฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: สงครามในลาวตอนเหนือ 2497-2516” เขียนขึ้นในปี 2536 โดย ศูนย์ประวัติศาสตร์กองทัพอากาศสหรัฐฯ ในวอชิงตัน

ทั้งหมดถูกนำออกเผยแพร่ต่อสาธารณะวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยศูนย์เก็บเอกสาราเพื่อความมั่นคงในกรุงวอชิงตัน ภายหลังจากที่ได้มีการฟ้องร้องโดยใช้กฎหมายว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในข่าวสาร (Freedom of Information Act) ฟ้องร้องเพิ่มมากขึ้น

เอกสารดังกล่าวยังได้รวบรวมแผนลับต่างๆ อีกมากมายในช่วงสงครามซึ่งสถานที่เก็บและรวบรวมข้อมูลที่สำคัญนี้คือสถาบันวิจัยอิสระไม่สังกัดรัฐบาล ที่มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน (George Washington University)

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ดูจากเหตุการณ์ที่เมืองฮิโรชิมากับนางาซากิแล้ว คงจะพอนึกภาพออกว่า ถ้าหากเกิดมีดอกเห็นยักษ์พวยพุ่งขึ้นในคาบสมุทรอินโดจีนยุคโน้น เวียดนามและลาวในปัจจุบันจะมีรูปโฉมเป็นเช่นไร </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในสงครามดังกล่าวฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต โดยในช่วงระหว่างเดือน ธ.ค.2503 กับเดือน ม.ค. 2504 โซเวียตได้จัดส่งอาหาร เชื้อเพลิง รวมทั้งยุทโธปกรณ์ทางทหารต่างๆ ให้แก่กองกำลังในลาวโดยผ่านเวียดนาม

ในเดือน มี.ค. 2504 คณะเสนาธิการร่วมฯ ได้รับแผนการที่เสนอเพิ่มกำลังทหารขึ้นเป็น 60,000 คน พร้อมการโจมตีทางอากาศสนับสนุนอย่างครบถ้วน ซึ่งรวมทั้งการใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วย

"การใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยฝ่ายทหารนั้นเป็นมรดกสืบเนื่องมาจากสงครามเกาหลี สำหรับบรรดาผู้นำทางทหาร เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะคิดอีกต่อไปสำหรับการทำสงครามรูปแบบที่บั่นทอนความแข็งแกร่ง" เอกสารระบุ

ในปี 2511 ก่อนเทศกาลตรุษ (Tet) กองกำลังคอมมิวนิสต์เวียดนามและเหล่าพันธมิตรเวียดกงทางตอนใต้ได้ร่วมมือกันโจมตีกองกำลังสหรัฐในภาคกลางของประเทศ ซึ่งซึ่งแบ่งเวียดนามออกเป็นเหนือและใต้

ในปลายเดือน ม.ค.ปีนั้น พล.อ.วิลเลียม เวสมอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ ได้ออกคำเตือนว่าหากสถานการณ์ย่ำแย่ลงอย่างมาก ก็อาจจะมีความจำเป็นในการใช้ระเบิดนิวเคลียร์

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ระเบิดนิวเคลียร์หลากหลายขนาดมีให้เลือกใช้ในยุคนั้น เอกสารลับบอกว่าแม่ทัพฟ้าสหรัฐฯ เสนอให้ใช้ขนาดอานุภาพต่ำเพื่อลดการสูญเสียของฐานทัพสหรัฐฯ ที่อยู่ใกล้เคียง </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วาทะของ พล.อ.เวสมอร์แลนด์นี้ "ได้ทำให้ ผบ.ทอ. พล.อ.จอห์น พี แม็คคอนแนล ผลักดันต่อไป เพื่อให้คณะเสนาธิการร่วมสั่งกองกำลังแปซิฟิกเตรียมความพร้อมแผนการที่จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพต่ำเพื่อลดการสูญเสียต่อฐานทัพนาวิกโยธินสหรัฐฯ แต่ก็ไม่สำเร็จ" เอกสารลับระบุ

มีการทิ้งระเบิดอย่างมากทั้งใน เวียดนาม ลาว และกัมพูชา รวมทั้งการใช้ระเบิดนาปาล์มด้วย แต่ก็ไม่มีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์แต่อย่างใด แม้จะมีความพยายามถึง 3 ครั้ง ในสงครามที่สหรัฐฯประสบความล้มเหลวและทำให้ฝ่ายคอมมิวนิสต์ได้ขึ้นสู่อำนาจในทั้ง 3 ประเทศในปี 2518

จากสถานการณ์ดังกล่าว ผู้เขียนได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการโจมตีเวียดนามและลาว เนื่องจากไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะมีเป้าหมายที่เหมาะที่ควรสำหรับอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>พล.อ.วิลเลียม เวสต์มอร์แลนด์ ผบ.กองทัพสหรัฐฯ ในเวียดนาม เป็นอีกคนหนึ่งที่ผลักดดันอย่างแข็งขันในยุคต่อมา แต่ไม่สำเร็จ </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนั้นการโจมตียังจะเป็นเสมือนการโฆษณาชัยชนะครั้งใหญ่ให้แก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนาม รวมทั้งอาจจะทำให้สงครามแผ่ขยายไปถึงจีนซึ่งให้การสนับสนุนกองกำลังในเวียดนามเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ

นอกจากนั้นสหรัฐฯ อาจจะถูกต่อต้านจากประเทศต่างๆ ในแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งรวมทั้งฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และหมู่เกาะใกล้เคียง ที่สหรัฐฯ ใช้เป็นที่ตั้งฐานทัพในช่วงสงครามเวียดนาม.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หนุ่มงง!! เอเลียนตามถล่มถึงบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 เมษายน 2551 04:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> อนาโนวา – หนุ่มบอสเนียเชื่อถูกมนุษย์ต่างดาวตามอาฆาต หลังบ้านถูกถล่มด้วยอุกกาบาตถึง 5 รอบ

ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเบลเกรด ยืนยันว่า ก้อนหินทั้งหมดที่ราดิวอจ ลาจิก นำมามอบให้เป็นอุกกาบาต และขณะนี้กำลังตรวจสอบสนามแม่เหล็กบริเวณบ้านของลาจิกเพื่อหาสาเหตุว่า ทำไมพื้นที่ดังกล่าวจึงดึงดูดอุกกาบาตได้ปานนั้น

แต่สำหรับเจ้าทุกข์ หนุ่มหมู่บ้านกอร์เนีย ลาโมวิต มีคำอธิบายในใจเรียบร้อย

“เห็นได้ชัดเลยว่าผมเป็นเป้าหมายของอี.ที. ถึงผมจะไม่รู้ว่าไปทำให้พวกเขาเจ็บช้ำน้ำใจอะไรก็ตาม แต่คำอธิบายนี้ก็มีเหตุผลในตัวเอง เพราะโอกาสที่จะถูกอุกกาบาตตกใส่หลังคาบ้านหาได้ยากมาก แต่บ้านผมเจอไป 5 ครั้งรวด”

อุกกาบาตลูกแรกตกใส่บ้านลาจิกเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากนั้นก็มีอุกกาบาตอีก 4 ลูกทะยอยตามกันลงมาบนหลังคาบ้านหนุ่มโชคร้าย โดยทุกครั้งจะเกิดขึ้นขณะฝนตกหนัก ไม่เคยมีสักหนที่อุกกาบาตตกลงมาในวันฟ้าใส

“ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าไอ้วัตถุประหลาดหน้าตาเหมือนก้อนหินคืออะไร แต่ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัยเบลเกรดยืนยันว่ามันเป็นอุกกาบาต

“ผมตกเป็นเป้าหมายของมนุษย์ต่างดาว พวกเขากำลังเล่นเกมกับผม ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้แต่ว่าฝนตกทีไรนอนไม่หลับทุกทีเพราะกลัวโดนโจมตีอีก”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กระแสคว่ำบาตรสินค้าฝรั่งเศสรุนแรง คาร์ฟูร์ยืดอกแจงไม่เคยแทรกแซงทิเบต </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 เมษายน 2551 19:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอเอฟพี - คาร์ฟูร์ปฏิเสธข้อกล่าวหากระฉ่อนในเว็บไซต์ ยืนยันไม่ได้แทรกแซงการเมืองจีนกรณีทิเบต ขณะที่ปักกิ่งสนับสนุนเสียงเรียกร้องดังกระหึ่มให้ คว่ำบาตรสินค้าแดนน้ำหอม

หลังจากเกิดเหตุผู้สนับสนุนเอกราชทิเบตเข้าขัดขวางการส่งคบเพลิงโอลิมปิกที่กรุงปารีส ก็ได้สร้างความโกรธแค้นแก่ชาวจีน จนกระทั่งมีการส่งข้อความทางอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าและกลุ่มองค์กรต่าง ๆ ของฝรั่งเศส รวมทั้งคาร์ฟูร์ ซึ่งโดนกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มผู้เรียกร้องเอกราชทิเบต

ในบล็อคหนึ่ง ซึ่งปรากฏในหลายเว็บไซต์ รวมทั้งในWWW.china.com ซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลจีนนั้น ระบุเหตุผลถึง 10 ข้อว่า ทำไมชาวจีนจึงไม่ควรซื้อสินค้าของฝรั่งเศส และไม่เดินทางไปประเทศนั้น

“มันอาจอันตรายมาก เพราะทางการฝรั่งเศสสนับสนุนเอกราชของทิเบต”บล็อกดังกล่าวให้เหตุผล พร้อมกับเรียกร้องไม่ให้ชาวจีนคบค้ากับนักธุรกิจฝรั่งเศส

ส่วนข้อความที่ส่งทางโทรศัพท์มือถือก็ชักชวนไม่ให้ชาวจีนไปซื้อของที่ห้างคาร์ฟูร์

“เพราะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของคาร์ฟูร์บริจาคเงินมากมายให้ทะไลลามะ ฝรั่งเศสสนับสนุนพวกแบ่งแยกดินแดนทิเบต และประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังบอกว่าจะคว่ำบาตรโอลิมปิกเพราะเรื่องนี้”

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีเคยขู่ไม่ร่วมสังฆกรรมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง เนื่องจากไม่พอใจการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงในทิเบตเมื่อเดือนที่แล้ว

นอกจากคาร์ฟูร์แล้ว สินค้ายี่ห้อดังอื่น ๆ ก็พลอยตกเป็นเป้าด้วย เช่นเสื้อผ้าของหลุยส์ วิตต็อง และเครื่องสำอางของลอรีอัล
ขณะที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งเองก็แสดงการเห็นด้วยเป็นนัย ๆ กับกระแสคว่ำบาตรอุตหลุดเหล่านั้น

“เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวจีนจำนวนหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกออกมา ฉันเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีสาเหตุและมีเหตุผล” เจียง อี๋ว์โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศจีนตอบ หลังจากผู้สื่อข่าวขอความเห็นเกี่ยวกับกระแสเรียกร้องคว่ำบาตร

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของคาร์ฟูร์ชี้แจงว่า“ข้อมูลที่ส่งผ่านทางอินเตอร์เน็ตในจีน ที่ระบุว่าคาร์ฟูร์เข้าไปยุ่งการเมืองในจีน หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ไม่เป็นความจริงและไม่มีมูล”

คาร์ฟูร์ ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกยืนยันว่า บริษัทมีความเป็นธรรมมาตั้งแต่ต้น โดยให้การสนับสนุนจีนลงสมัครชิงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก นอกจากนั้น ยังแจงให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจด้วยว่าตามปกติแล้วคาร์ฟูร์ไม่มีนโยบายฝักใฝ่การเมืองฝ่ายใด

ทั้งนี้ คาร์ฟูร์ขยายกิจการบนแดนมังกรอย่างรวดเร็วในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยเปิดสาขาใหม่อย่างคร่าว ๆ แล้วทุก 2 สัปดาห์ และปัจจุบัน มีซูเปอร์มาร์เก็ต 122 แห่ง และห้างค้าปลีก 280 แห่งในจีน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำมันโลกทะลุ114ดอลล์หลังเงินสหรัฐฯอ่อนปวก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 เมษายน 2551 22:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> รอยเตอร์/เอเอฟพี/ผู้จัดการรายวัน – ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อีกแล้ว ทะยานทะลุระดับ 114 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร(15) แล้วยังขยับขึ้นต่อเมื่อวานนี้(16) สืบเนื่องจากอาการอ่อนปวกของค่าเงินดอลลาร์, การไหลทะลักเข้าตลาดของเงินเก็งกำไร, และการที่ซัปพลายอยู่ในภาวะตึงตัวมายาวนาน ด้านผู้ค้าในประเทศส่งสัญญาณราคาน้ำมันขยับอีกระลอกปลายสัปดาห์นี้ หลังค่าการตลาดต่ำหนัก ชี้ดีเซลอาจเห็น 3 ลิตร 100 บาทเร็วๆ นี้ขณะที่นักวิชาการมองยาวอาจได้ลุ้นแตะ 35 บาทต่อลิตร

สัญญาล่วงหน้าเพื่อการส่งมอบเดือนพฤษภาคมสำหรับน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของตลาดไนเม็กซ์แห่งนิวยอร์ก พุ่งขึ้นไป 2.03 ดอลลาร์ ปิดวันอังคาร ณ ระดับ 113.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แล้วระหว่างการซื้อขายด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภายหลังตลาดจริงปิด ก็ได้ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 114.08 ดอลลาร์
ต่อจากนั้น เมื่อได้ถอยลงมาบ้างในตลาดแถบเอเชีย ไลต์สวีตครูดก็พุ่งขึ้นไปทำนิวไฮใหม่ที่ 114.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงการซื้อขายตอนสายของตลาดลอนดอนวานนี้ ก่อนจะไหลลงมาอยู่แถวๆ 113.99 ดอลลาร์ในเวลาเที่ยงวันเศษๆ
ทางด้านน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ ของตลาดลอนดอน สัญญาล่วงหน้าเพื่อการส่งมอบเดือนพฤษภาคม ปิดวันอังคารสูงขึ้นมา 1.47 ดอลลาร์ อยู่ที่ 111.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากการซื้อขายระหว่างวันดังกล่าว มีช่วงหนึ่งไต่ขึ้นทำสิถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 112.08 ดอลลาร์
เนื่องจากสัญญาเพื่อการส่งมอบเดือนพฤษภาคมของเบรนต์หมดอายุลงในวันอังคาร การซื้อขายที่ตลาดลอนดอนวานนี้ สัญญาล่วงหน้าเดือนล่าสุดจึงกลายเป็นของเดือนมิถุนายน โดยในช่วงเที่ยงเศษ ซื้อขายกันที่ระดับ 111.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงขึ้นมา 9 เซ็นต์
สำหรับปัจจัยที่ดันให้ราคาน้ำมันพุ่งลิ่วเช่นนี้ พวกนักวิเคราะห์มองว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว คือตัวขับดันน้ำมันตลอดจนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด, ทองคำ, และข้าว ให้ทะยานขึ้นสร้างสถิติสูงสุดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันพวกนักลงทุนและนักเก็งกำไรก็ต้องหาแหล่งที่จะช่วยรับประกันความเสี่ยงจากค่าเงินที่ทรุดฮวบและอัตราเงินเฟ้อซึ่งเบ่งบานตามมา จึงต้องเข้าตลาดน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์นั่นแหละ นอกจากนั้นความต้องการใช้น้ำมันของโลกก็ดูยังคงแข็งแกร่ง
“ปัจจัยครอบงำยังคงเป็นเรื่องดอลลาร์สหรัฐฯ และผมคาดหมายว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกพักหนึ่ง” เป็นความเห็นของ เจอราร์ด ริกบี นักวิเคราะห์แห่งฟูเอล เฟิร์สต์ คอนซัลติ้ง ซึ่งตั้งอยู่ที่นครซิดนีย์
“ในตอนนี้เมื่อใดก็ตามที่คุณได้ข่าวเศรษฐกิจดีๆ ไม่ว่าชนิดไหนออกมาจากสหรัฐฯ เงินดอลลาร์ก็จะขึ้นและน้ำมันจะตก แล้วถ้าข่าวออกมาในอีกทางหนึ่ง คุณก็จะได้เห็นน้ำมันทำลายสถิติครั้งใหม่” เขากล่าวต่อ
ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราลอนดอนช่วงสายวานนี้ เงินสกุลยูโรพุ่งโด่งทำนิวไฮเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดย 1 ยูโร แลกได้ 1.5968 ดอลลาร์ ภายหลังการประกาศตัวเลขของทางการที่แสดงว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมของบรรดา 15 ชาติที่ใช้เงินตราสกุลยูโร อยู่ในระดับเท่ากับปีละ 3.6% นับเป็นตัวเลขสูงที่สุดตั้งแต่เริ่มใช้สกุลเงินยูโรกันมาในปี 1999
เมื่อวันอังคาร มีข่าวความตึงตัวด้านซัปพลายอยู่เช่นกัน โดยเม็กซิโกซึ่งเป็นผู้ส่งน้ำมันรายใหญ่ให้แก่สหรัฐฯ เจอสภาพอากาศเลว จึงต้องปิดท่าเรือส่งออกน้ำมันไป 4 แห่ง ทว่ามาถึงวานนี้ ก็สามารถเปิดใช้ใหม่ได้แล้ว 3 แห่ง
ทว่าบรรดาประเทศผู้บริโภคยังคงวิตกกังวลเรื่องซัปพลายน้ำมันไม่ค่อยเพียงพออยู่ดี นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ออกมาเรียกร้องในวันอังคาร ขอให้โอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มเพื่อสู้กับราคาซึ่งพุ่งลิ่วๆ
ทว่ารัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่าน โกลัมฮอสเซน โนซารี กล่าววานนี้โดยตั้งคำถามว่า ทำไมโอเปกจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อทำให้ราคาต่ำลงด้วย ในเมื่อซัปพลายน้ำมันเวลานี้มีมากกว่าดีมานด์ในตลาดเสียอีก ทว่าเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ดังเช่นค่าเงินดอลลาร์ จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น

***ระทึกดีเซล3ลิตร100บาท

นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหาร บมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มไปในทิศทางที่จะต้องปรับขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบและสำเร็จรูปตลาดโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ค่าการตลาดดีเซลที่แท้จริงที่ผู้ค้าควรจะได้รับติดลบ 1.50-2 บาทต่อลิตร เบนซินบวก 50-60 สตางค์ต่อลิตร ดังนั้นปีนี้หากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทดสอบระดับ 120 เหรียญต่อบาร์เรลโอกาสที่จะเห็นดีเซลแตะระดับ 35 บาทต่อลิตรภายในปีนี้ก็โอกาสสูงมาก
“ หากมองกันตามข้อเท็จจริงวันนี้ราคาดีเซลในบ้านเราที่เหมาะสมจริงจะต้องอยู่ระดับ 33.50 บาทต่อลิตรไปแล้วหรือก็ 3 ลิตร 100 บาทแต่การขึ้นก็ยังไม่ได้สะท้อนค่าการตลาดที่ควรได้รับ ซึ่งดูจากนี้ไปราคาในประเทศยังมีโอกาสปรับขึ้นอีกสัปดาห์นี้ ซึ่งหากดูทิศทางตลาดโลกที่ยังมีการเก็งกำไรกันอยู่โอกาสเห็นดีเซล 35 บาทต่อลิตรก็มีสูง”นายมนูญกล่าว
ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มสูงขณะนี้มาจากการที่จีนเร่งเก็บสต็อกน้ำมันไว้เตรียมต้อนรับกีฬาโอลิมปิก 2008 ประกอบกับช่วงนี้โรงกลั่นเกาหลี ไต้หวันมีการส่งออกน้อยลงเพราะความต้องการสูงขึ้นและเมื่อราคาน้ำมันตลาดยุโรปราคาสูง ทำให้มีการเทขายจากตลาดสิงคโปร์ไปยังยุโรปแทนทำให้สต็อกน้ำมันที่สิงคโปร์ลดต่ำดังนั้นจึงเป็นที่คาดหมายว่าราคาน้ำมันดิบจะมีการทดสอบระดับ 120 เหรียญต่อบาร์เรลในเร็วๆ นี้ซึ่งส่วนหนึ่งยังคงมาจากการเก็งกำไรผสมโรงด้วย
ราคาน้ำมันขายปลีกของไทยที่ถือว่าเป็นนิวไฮเท่าที่เคยมีแล้วนั้นมีความจำเป็นที่รัฐบาลคงจะต้องมองหามาตรการบังคับอย่างจริงจังได้แล้วเพราะอดีตที่ผ่านมามาตรการดังกล่าวมีการคิดกันไว้มากแต่ท้ายสุดก็ไม่มีรัฐบาลใดกล้าทำเช่น การปรับระบบขนส่งทั้งหมดอย่างเร่งด่วน การห้ามรถวิ่งเข้าชั้นในกรุงเทพฯหรือหากเข้ามาจะต้องมีคนนั่งตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปหรือการเก็บค่าเข้าเมือง ฯลฯ

*** บางจากฯเล็งขยับราคาน้ำมัน
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายตลาดค้าปลีก บมจ.บางจากปิโตรเลียม เปิดเผยว่า บางจากจะรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ในวันนี้ (17 เม.ย) ก่อนพิจารณาตัดสินใจปรับขึ้นราคาขายปลีกหรือไม่ หลังจากที่บางจากฯได้มีนโยบายตรึงราคาขายดีเซลต่ำกว่าปตท.ลิตรละ 50 สตางค์และต่ำกว่าผู้ค้าน้ำมันค่ายอื่นลิตรละ 1 บาทในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ซึ่งมีแนวโน้มว่าบางจากคงต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้นให้เท่ากับปตท. เนื่องจากขณะนี้ค่าการตลาดดีเซลติดลบอยู่ 1.20 บาท/ลิตร และคาดว่าสิงคโปร์ปิดตลาดจะบวกตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทำให้ค่าการตลาดติดลบมากกว่านี้อีก ขณะที่ค่าการตลาดเบนซินอยู่ที่50-60 สตางค์/ลิตร ซึ่งยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าเกณฑ์ จึงมีโอกาสที่จะปรับขึ้นราคาขายปลีกทั้งเบนซินและดีเซลในปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม การตรึงดีเซลบางจากต่ำกว่าค่ายอื่นๆ เว้นปตท. 1 บาทต่อลิตรตั้งแต่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บางจากขาดทุนส่วนนี้ไปประมาณ 52 ล้านบาทซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดหมายที่บางจากต้องการดูแลประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งผลจากราคาต่ำกว่าค่ายอื่นๆ 1 บาทต่อลิตรและปตท. 50 สตางค์ต่อลิตร รวมทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่นๆทำให้บางจากจำหน่ายน้ำมันเพิ่มขึ้น 22-23 % หรือเพิ่มขึ้น 1.2-1.3 ล้านลิตร/วัน พร้อมกับสำรองน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคและเพิ่มกำลังการกลั่นด้วย จึงไม่ได้รับการร้องเรียนจากลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการที่ปั๊มบางจากแล้วไม่มีน้ำมันดีเซล
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ราคาน้ำมันดิบทุบสถิติใหม่แตะระดับ $115 หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 เมษายน 2551 09:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ราคาน้ำมันดิบโลกทำสถิติใหม่ พุ่งทะลุ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังสำนักข่าวสารการพลังงานของสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขปริมาณสำรองน้ำมันดิบลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินก็ลดลงถึง 5 ล้านบาร์เรล ก่อให้เกิดความวิตกว่า สหรัฐฯ จะมีน้ำมันไม่พอใช้ในช่วงหน้าร้อนนี้ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดนิวยอร์ก พุ่งไปอยู่ที่ 115.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระหว่างการซื้อขายเมื่อวาน ก่อนจะไต่ระดับลงมาปิดที่ราคา 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน ก็ทำสถิติใหม่เช่นกัน โดยราคาได้พุ่งไปอยู่ที่ 112.79 ดอลลาร์ ก่อนจะลงมาปิดที่ 112.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่ลดลงแล้ว การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้น้ำมันดิบโลกมีราคาพุ่งขึ้น เพราะเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติสามารถซื้อน้ำมันดิบในรูปของเงินดอลลาร์ได้ถูกลงเช่นกัน แรงซื้อที่มีเข้ามามาก จึงส่งผลให้น้ำมันดิบมีราคาพุ่งขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์จากซิดนีย์ มองว่า การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันไปอีกสักระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งสูงขึ้น ยังเป็นผลมาจากปัญหาในภาคการผลิตน้ำมัน ทั้งที่ในสหรัฐฯ เม็กซิโก และไนจีเรีย โดยท่อส่งน้ำมันแคปไลน์ ของบริษัทเชลล์ ซึ่งส่งน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากแถบกัลฟ์โคสท์ ไปยังแถบมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ถูกปิดใช้งานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ส่งน้ำมันได้น้อยลง ส่วนเม็กซิโก ซึ่งเป็นผู้จัดหาน้ำมันรายหลักให้สหรัฐฯ ก็ต้องปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันไป 3 แห่ง เพราะสภาพอากาศไม่ดี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>