ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดน้ำท่วมหนักในหลายรัฐของสหรัฐ

    [​IMG]

    มินนีอาโปลิส 20 ส.ค. - เจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐรายงานว่า เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายรัฐของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และต้องเร่งช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่บนหลังคาและในรถยนต์​

    รายงานระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 คน ในรัฐมินนิโซตา ทางตอนเหนือของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเสียชีวิตในเขตฮิวสตันใกล้เคียงด้วย และมีรถยนต์มากกว่า 1 คันตกลงไปในหลุมลึก 30 ฟุตหลังจากกระแสน้ำกัดเซาะถนนพังเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีสะพาน บ้านเรือน และอาคารหลายแห่งถูกกระแสน้ำพัดได้รับความเสียหาย รายงานระบุว่า ที่รัฐวิสคอนซิน ก็มีรายงานฝนตกหนักเช่นกัน

    ขณะเดียวกัน ในรัฐโอคลาโฮมา ตอนกลางของประเทศ อิทธิพลของพายุโซนร้อนเอรินก่อให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมครั้งใหญ่ คาดว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน. - สำนักข่าวไทย

    [ 2007-08-20 : 11:07:31 ]

    ที่มา http://tna.mcot.net/#
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ข่าวด่วนจากคุณคณานันท์

    [​IMG]


    ขณะนี้ภูเขาไฟทั่วโลกได้เกิดการปะทุ เป็นจำนวนหลายร้อยแห่งทั่วโลก ที่ระเบิดและกำลังจะระเบิดอีกนับสิบลูก

    ซึ่งนั่นหมายความว่า ใต้พื้นโลกมีแรงดันปั่นป่วน ไม่เสถียร และพร้อมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทางธรณี ได้ทุกแห่งทุกที่ทั่วโลก รวมทั้งการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ๆ ในระดับที่เป็นมหาภัยพิบัติ อีกด้วย ขออย่าได้ประมาท

    เมื่อวานได้อ่านบทความหนึ่ง ในต่วยตูนพิเศษ ที่ได้กล่าวถึง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มข้นสูงที่ ผุดขึ้นมาจากทะเลสาบในแอฟริกา ที่สืบเนื่องจากลาวาใต้เปลือกโลก

    ผลกระทบเมื่อก๊าซนี้ผุดขึ้นมา ปรากฏว่าทั้งคนทั้งสัตว์ตายลงเป็นบริเวณ รัศมี 20-30 กิโลเมตรเลยทีเดียว


    ต้องระมัดระวังกันในจุดที่ใกล้กับภูเขาไฟ หรือจุดที่มีร่องรอยปริแตกของเปลือกโลก อันตรายมากเพราะก๊าซนี้ไม่มีกลิ่น และสี หนักกว่าอากาศจึงลอยอยู่ต่ำในระดับพื้นดิน การตายจะเหมือนหาสาเหตุไม่ได้ อยู่ๆ ก็หายใจไม่ออกล้มลงตาย ที่อ่านมา ตายกันทั้งหมู่บ้าน มดแมลงก็ไม่เหลือ ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้เคียงก็เข้าใจว่าเป็นผีเป็นปีศาจมาฆ่าเอา

    ที่มา http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=68851&page=12<!-- / message --><!-- sig -->
     
  4. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    อ่า ที่จริงมีแค่สิบกว่าลูกเองคะที่กำลังปะทุอยู่ อย่าเพิ่งแตกตื่นนะคะ
    SI / USGS Weekly Volcanic Activity Report

    [​IMG] [​IMG] <HR id=WeeklyBannerLine>8-14 August 2007

    New Activity/Unrest: | Fuego, Guatemala | Karangetang, Indonesia | Kilauea, USA | Llaima, Chile | Turrialba, Costa Rica
    Ongoing Activity: | Arenal, Costa Rica | Cleveland, Alaska | Karymsky, Russia | Merapi, Indonesia | Rabaul, Papua New Guinea | Shiveluch, Russia | Soputan, Indonesia | Soufri&egrave;re Hills, Montserrat | St. Helens, USA | Tungurahua, Ecuador | Ubinas, Per&uacute;
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    อยากให้เฝ้าระวัง อย่าได้ประมาท และก็อย่าได้แตกตื่น กันครับ

    ภูเขาไฟประทุ(Active) และภูเขาไฟที่ระเบิด

    รวมทั้งภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นเข้าไปดูได้จาก

    http://visz.rsoe.hu/alertmap/index.php?smp=&lang=eng
     
  6. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ----------------------------------------
    โมทนากับฟอคแมนด้วย
    กลางพระอาทิตย์ มีรูป UFO ด้วย
    เขาตามไปใช่ปล่าว?
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    มีคนถ่ายได้จ้า ลูกศิษย์หลวงปู่คนหนึ่ง เค้าเอามาอวด บอกว่าไปสถานที่ๆ หลวงปู่ทวดละขันธ์ อีกรูปมี เจดีย์ที่ครอบรูปปั้นหลวงปู่ทวดด้วย แต่ตอนนี้ถูกรื้อออก เพราะตรงนั้นเป็นพื้นที่ของมุสลิม เค้าเลยรื้อหลังคาออก เหลือแต่รูปปั้นท่านไว้ [​IMG]

    เค้าเอารูปจากโทรศัพท์มาอวด บอกว่า ดูสิ รูปนี้แปลกมาก เลยบอกให้เค้าส่งผ่าน infrared มาที่โทรศัพท์ แล้วเอามาโพสต์นี่แหล่ะ อิอิ [​IMG]
     
  8. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    [FONT=&quot]พุทธทำนายแห่งอีสานประเทศ[/FONT]<o>:p></o>:p>
    <o>:p> </o>:p>
    พุทธทำนายนี้ มีอยู่ในใบลาน
    ตั้งแต่บูฮาน มีมาก่อนเก่า
    ในศาสนาของพระพุทธเจ้า ถือเป็นเค้าแต่ก่อนมา
    *ข้าสินำมูลเค้า ความฝันอันประหลาด
    สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดเจ้าให้ฮำเพิง


    ข้อ 11 ฝันไปหน้า เห็นไม้แก่น จันทน์แดง ของที่มีราคาแพง ค่าสูงแสนตื้อ
    เขาพากัน เอาไป ซื้อ ขายกิน แลกไก่ เอาจันท์แดง ใส่กระซ้า น้อยๆ พากันดั้น เที่ยวขาย
    อันนี่ ภายหน้าพุ้น เคิ่งศาสนาพุทธ มนุษย์ มี โลภา มืดมัวเมากุ้ม
    ซูมถือศีลสร้าง เจ้าหัว จัว บ่าว เห็นผู้ สาวแล้ว กะเอิ้น เสิน เล่น ดั่งสหาย
    นอกจากนั้น กะ สิเป็นผู้ ร้าย ขาย ศาสนาพุทธ เอาพระธรรม ลงมุด จ่าย ยาย ขาย จ้าง
    ตั้ง เป็นตึกเป็นห้าง ขายกินเกลี้ยง มินหลิ่น ทั้งพระสูตร พระวินัย เขาเอาใส่กระซ้า โซนผ้าเที่ยวขาย
    นี่จั่งแม่น ต่อนฮ้าย เขาขาย ศาสนาพุทธ สัพพัญญู เล็งเห็นหน่าย สะอาง ผางฮ้าย
    ในภายหน้า ปีกุนแถมล่วง ม้ม จากนั่น แล้ว สิแววขึ้นกว่าหลัง
    ตั้งแต่นั้น คน สิค่อย มีสุข จั่ง สิ หาย ความทุกข์ หมู่ภัย สิไกลเนื้อ
    ไผผู้ ยังเหลือค้าง สิเห็นทางฟ้า ล่วง คน สิพ้นจาก บ่วงฝูง หมู่มาร บาปฮ้าย เมือฟ้าอยู่ เกษม
    เริ่ม แต่เค้า เดือน สี่ ปีกุนไผ มี บุญค่อย สิเห็นหน่อพระธรรม เด้อ ป้า
    พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ แม่ จั่ง สิ เห็น เที่ยงแท้ บ่ มี เว้น ฮ่อม ใด<o>:p></o>:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007
  9. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    [FONT=&quot]หมายเหตุโดยเอกอิสโร[/FONT][FONT=&quot] ประกอบ การถอดรหัสคำทำนายความฝันข้อที่ 11 หากหลังกึ่งพุทธกาลที่จะเกิดภัยพิบัติ เป็นรอบนักษัตรนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]ปีกุนแถมล่วงม้ม ([/FONT][FONT=&quot]end of date) หมายถึง[/FONT] [FONT=&quot]เมื่อผ่านพ้นปี กุน เข้าปีชวดไปแล้ว วันสุดท้ายของปีกุน คือวันแรม 15 ค่ำเดือน 4 ปีกุน ตรงกับ[/FONT][FONT=&quot]วันที่ 5 เมษายน 2551[/FONT][FONT=&quot] วันเริ่มต้นของปีชวด คือวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด ตรงกับ[/FONT][FONT=&quot]วันที่ 6 เมษายน 2551[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT=&quot]เริ่มแต่เค้า ([/FONT]start point) [FONT=&quot]เดือนสี่ ปีกุน หมายถึง เริ่มต้นเดือน สี่ ปี กุน หรือ วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน ตรงกับ[/FONT][FONT=&quot]วันที่ 7 มีนาคม 2551[/FONT]<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    [FONT=&quot]นั่นหมายถึงว่า จะเกิดภัยพิบัติใหญ่ที่จะชำระล้างโลกอันสกปรกโสมมใบนี้ เพื่อการเริ่มนับถึงแห่งการกลับมาของศีลธรรมอันดี หรือโลกใหม่ [/FONT](New World) [FONT=&quot]ในระหว่าง ช่วงวันที่ 7 มีนาคม 2551 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2551 เป็นระยะเวลาประมาณ 30 วัน[/FONT][FONT=&quot] และจะมีการเริ่มฟื้นฟูใหม่ ([/FONT]Renaissance) [FONT=&quot]ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2551 เป็นต้นไป.<o:p></o:p>[/FONT]
     
  10. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    เอกอิสโรคืนชีพแย้ว
     
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ไปหาเรื่อง black rain ก็เจอข่าวนี้มา แต่ข่าวนี้สองปีก่อนแล้ว ในข่าวเค้าว่าเป็นเพราะว่าโรงงานผลิตไฟฟ้าใช้ถ่านหินที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานเลยทำให้เกิดฝุ่นเยอะ แล้วฝุ่นก็จับตัวกับน้ำฝนเกิดเป็นฝนสีดำ ในข่าวไม่ได้บอกว่าฝนนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนอะไรมากแค่ไหน เหมือนแค่ว่าน้ำให้พื้นเป็นสีดำ เลยไม่รู้ว่าอาจจะเป็น black rain คนละแบบก็ได้

    black rain ที่เค้าบอกว่ากัดใบไม้ทะลุ อ่านไปก็นึกถึงฝนกรดแถวนิคมอุตสาหกรรมที่ระยอง เค้าว่าถ้ารถตากฝนสีจะลอกหมดเลย

    <img src="http://news.xinhuanet.com/english/2005-10/22/xinsrc_572100222092659326638.jpg">
    Cars covered with thin layer of dust.(Baidu photo)

    BEIJING, Oct. 22 -- Wen Shi, a 51-year-old worker at a carwash in the eastern suburbs of Sichuan Province's capital city, felt exhausted on Friday.

    "A long queue of over 100 cars was waiting for us to give them a thorough cleaning. But the station only has six staff," he said.

    Almost all the cars were covered with grey and black dust. Even after being cleaned, a car would be covered with a thin layer of dust 5 minutes after it left the carwash.

    Zhao Wu, a 36-year-old taxi driver who was waiting to have his car washed, said that a heavy rain which fell on the city in the evening was to blame.

    That evening, as Zhao was about to start work, he noticed his recently-washed car was covered with a grey, slushy substance.

    Looking around, he found all the other seven cars parked in the courtyard looked the same as if they had just come back from a desert, he said. Zhao called the city's environmental protection bureau, which said that many local residents had reported the same experience.

    The environmental protection bureau staff rushed to the area, and found that trees, flowers and buildings in many streets were covered with grey, black slurry.

    Ruling out the possibility of acid rain or a sandstorm, the bureau suspected that the nearby Jialing Thermal Power Plant was the culprit.

    <img src="http://news.xinhuanet.com/english/2005-10/22/xinsrc_062100222092793749279.jpg">
    Jialing Thermal Power Plant (Baidu photo)

    After an investigation at the plant, the bureau found that the coal used as fuel was substandard, causing dusting equipment in the boiler to malfunction, sending out an excessive amount of soot.

    The soot mixed with rain and formed "black rain," according to an employee at the bureau.


    (Source: China Daily)

    http://news.xinhuanet.com/english/2005-10/22/content_3666143.htm
     
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขณะที่โพสต์อยู่นี้ กรุงเทพ มีพายุและฝนตกอย่างแรง มากๆเลยครับ

    รักษาสุขภาพกันเอาไว้ด้วยครับผม
     
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ใช่ครับ ฝนตกหนัก มีลมกรรโชกแรง ฟ้ามืด
    ขับรถกลับบ้านต้องระมัดระวังให้มากนะครับ
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    หลังจากคำทำนายทั้ง 10 ประการได้สำเร็จแล้วนั้นพระเยซู
    จะเสด็จมาบนโลกเป็นครั้งที่ 2
    และโลกจะได้รับคำพิพากษาอันเที่ยงธรรมจากพระเจ้า
    ผู้ทรงสร้างมนุษย์และพระองค์จะรับคนของพระองค์ไปอยู่บนสวรรค์
    กับพระองค์ตลอดไป

    พระเยซู... มาแล้ว
    แต่ ....ไม่ได้ชื่อ พระเยซู และมาพร้อม "หลักสัจจะธรรม"
    ผลการกระทำจาก "สัจจะ" ... คือ การพิพากษามนุษย์
    ทำได้ ทำไม่ได้ ไม่ทำ ไม่ยอมทำ ....มีผลต่อทุกคน
    สวรรค์ที่กล่าวถึง.... คือ พระนิพพาน... มีจริง !!!!

    ขอให้สะสมการกระทำจากสัจจะ...ในช่วงเวลาที่เหลือ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258

    คุณ kananun ก็ดูแลตัวเองด้วย หัวหน้าทีม ห้ามป่วย
    ฝนแรงนะไม่เท่าไร ละอองฝนบางๆ น่ะมีไวรัส โดนมาแล้ว
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เรื่องเดียวกัน ****

    ข้อ 11 ฝันไปหน้า เห็นไม้แก่น จันทน์แดง ของที่มีราคาแพง ค่าสูงแสนตื้อ
    เขาพากัน เอาไป ซื้อ ขายกิน แลกไก่ เอาจันท์แดง ใส่กระซ้า น้อยๆ พากันดั้น เที่ยวขาย
    หมายถึง.......
    สัจจะธรรม คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีคนเห็นคุณค่า
    สัจจะปฏิบัติ คือ หนทางตรงสู่นิพพาน ไม่มีใครเห็น แม้แต่คนที่เรียกตนเองว่า...ผู้ปฏิบัติธรรม
    แต่ กลับยกย่องความเห็นต่างๆ นอกศาสนา ว่ามีคุณค่ายิ่งนัก

    อันนี่ ภายหน้าพุ้น เคิ่งศาสนาพุทธ มนุษย์ มี โลภา มืดมัวเมากุ้ม
    ซูมถือศีลสร้าง เจ้าหัว จัว บ่าว เห็นผู้ สาวแล้ว กะเอิ้น เสิน เล่น ดั่งสหาย
    นอกจากนั้น กะ สิเป็นผู้ ร้าย ขาย ศาสนาพุทธ เอาพระธรรม ลงมุด จ่าย ยาย ขาย จ้าง
    ตั้ง เป็นตึกเป็นห้าง ขายกินเกลี้ยง มินหลิ่น ทั้งพระสูตร พระวินัย เขาเอาใส่กระซ้า โซนผ้าเที่ยวขาย
    นี่จั่งแม่น ต่อนฮ้าย เขาขาย ศาสนาพุทธ สัพพัญญู เล็งเห็นหน่าย สะอาง ผางฮ้าย
    หมายถึง.......ในอนาคต...คือ ปัจจุบันนี้
    ศาสนาจะถูกทำลาย...ด้วยคนในศาสนากันเอง ที่ค้าขายพระ ค้าขายพระธรรม
    ทั้งที่พระพุทธเจ้า ในกล่าวเตือนว่า...คือ การทำลายศาสนา

    ในภายหน้า ปีกุนแถมล่วง ม้ม จากนั่น แล้ว สิแววขึ้นกว่าหลัง
    ตั้งแต่นั้น คน สิค่อย มีสุข จั่ง สิ หาย ความทุกข์ หมู่ภัย สิไกลเนื้อ
    ไผผู้ ยังเหลือค้าง สิเห็นทางฟ้า ล่วง คน สิพ้นจาก บ่วงฝูง หมู่มาร บาปฮ้าย เมือฟ้าอยู่ เกษม
    หมายถึง.......หลัง...สรรพภัยทั้งปวง ผ่านพ้นภัย
    ผู้รอดพ้นภัย จะพบกับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ...
    ได้พบ ทางฟ้า ....คือพบ สัจจะ
    โลกใหม่ จะมีแต่ความสงบสุข

    เริ่ม แต่เค้า เดือน สี่ ปีกุนไผ มี บุญค่อย สิเห็นหน่อพระธรรม เด้อ ป้า
    พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ แม่ จั่ง สิ เห็น เที่ยงแท้ บ่ มี เว้น ฮ่อม ใด
    หมายถึง.......ผู้มีบุญ คือ ผู้ที่มีการกระทำจากสัจจะสะสมไว้
    จะได้เห็น หน่อพระธรรม...
    คือ แก่นสารของศาสนศาสตร์ ของศาสนาพุทธ
    นั่นคือ หลักโลกุตตระธรรม หลักสัจจะธรรม ...คือ ธรรมเที่ยง
    นำพาให้สัตว์โลกหลุดพ้น
    พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ...ให้เข้าใจกันใหม่ว่า
    เมื่อ หลักสัจจะธรรม ปรากฏขึ้นบนโลก
    ให้รีบนำ สัจจะ มาปฏิบัติตนให้เป็นประจำ
    ตามที่ผู้นำพา ผู้บอกกล่าวแนะนำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px" align=left>"ตรินิแดด" ฮือ "ภูเขาไฟใต้ทะเล" โผล่</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px" align=left><CENTER>[​IMG]</CENTER>
    <!--detail-->

    ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา...โผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเล
    ที่นอกชายฝั่งทะเลทางตะวันออก ของประเทศตรินิแดดประมาณ 8 กิโลเมตร มี "ภูเขาไฟโคลน" ที่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ โดย "ภูเขาไฟโคลน" แห่งนี้เป็นที่สังเกตของนักจับปลาด้วยฉมวกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ข่าวแพร่ถึง "ภูเขาไฟโคลน" ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง

    แกรมห์ สกอต นักจับปลาด้วยฉมวกคนแรกที่เห็น กล่าวว่า เขาและเพื่อนชอบมาจับปลาแถวนี้ ตอนที่เห็นครั้งแรก "ภูเขาไฟโคลน" มีความสูงเพียง 5 ฟุตเท่านั้น ส่วนโคลนก็นุ่มและเนียนมาก

    เวลาผ่านไปเพียง 3 เดือน "ภูเขาไฟโคลน" สูงขึ้นเป็น 12 เมตร มีฐานกว้าง 149 เมตร น้ำทะเลในบริเวณนั้นเริ่มเชี่ยวกราก จนสำนักงานป้องกันภัยพิบัติเตือนเรือไม่ให้เข้าไปใกล้ ขณะที่นักท่องเที่ยวใจกล้า ไม่กลัวตาย ขอนั่งเรือไปส่องใกล้ๆ ส่วนพวกที่รักตัวกลัวตาย ขอดูไกลหน่อยก็ได้ ไม่เป็นไร

    ด้านนักวิทยาศาสตร์ เตือนชาวบ้านแถวนั้นว่า อย่าไปกลัว "ภูเขาไฟโคลน" เกินเหตุ เพราะมันแตกต่างไปจากภูเขาไฟทั่วๆ ไป
    โดย "ภูเขาไฟทั่วไป" นั้นมีการระเบิด มีก๊าซความร้อนสูงพุ่งขึ้นมาบนโลก มีลาวา มีแม็กม่า

    ส่วน "ภูเขาไฟโคลน" มีก๊าซธรรมชาติ ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเธน มีความร้อนและพลังงานออกมาน้อย

    นักวิทยาศาสตร์ยังย้ำว่า "ภูเขาไฟโคลน" ไม่เป็นอันตรายต่อประชาชนที่อยู่บนฝั่ง และเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ ในพื้นที่แถบประเทศตรินิแดดและโตเบโก ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกก๊าซธรรมชาติมากเป็นลำดับ 5 ของโลก

    อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2540 "ภูเขาไฟโคลน" ระเบิดขึ้นที่หมู่บ้านปิเปโร โคลนได้ฝังรถยนต์และบ้านเป็นพื้นที่ประมาณ 1 ตารางไมล์ จากนั้นโคลนได้แห้งอย่างรวดเร็วเหมือนคอนกรีต โชคดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และระหว่างพ.ศ. 2507-2544 มีเกาะเล็กเกาะน้อยที่เกิดจาก "ภูเขาไฟโคลน" นอกชายฝั่งตรินิแดดเกิดขึ้นหลายเกาะ

    ส่วน "ภูเขาไฟโคลน" ที่กำลังผลุบๆ โผล่ๆ อยู่นี้ นักวิทยาศาสตร์คาดว่า มันอาจจะขึ้นไม่พ้นพื้นผิวน้ำ เนื่องจากคลื่นได้ซัดโคลนด้านบนออกไปตลอดเวลา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.tttonline.net/news/viewDetails.php?type_id=9433
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ยูเอ็นชี้ ชาวเอเชีย-แปซิฟิกโดนธรรมชาติเล่นงานกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของทั่วโลก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">20 สิงหาคม 2550 18:20 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="200"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="200"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเอฟพี - ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา เป็นชาวเอเชีย-แปซิฟิก กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เหล่าผู้อำนวยการหน่วยงานรับมือภัยฉุกเฉินกล่าวเมื่อวันจันทร์ (20)

    ภาวะโลกร้อน, การเพิ่มขึ้นของประชากร, การเติบโตของเมือง, การที่พื้นที่แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และการลดความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดหายนะทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้คนทั่วโลกในแต่ละปีกว่า 250 ล้านชีวิต เทอเจ สคาฟดัล ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสหประชาชาติ กล่าว

    ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นบริเวณที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ สคาฟดัล กล่าวในที่ประชุมผู้อำนวยการหน่วยงานรับมือภัยฉุกเฉินจาก 21 ชาติเอเปก ที่จัดขึ้นก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อระดมความเห็นในการหาวิธีที่จะปรับปรุงการเตรียมตัวและรับมือกับหายนะทางธรรมชาติ

    สคาฟดัล กล่าวว่า ในขณะนี้ชาวเอเชียและแปซิฟิกกำลังเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยทั้งในเอเชียใต้และเอเชียกลาง, เหตุแผ่นดินไหวทั้งในเปรูและหมูเกาะโซโลมอน แล้วไหนจะพายุเฮอริเคน “ดีน” ที่กำลังทรงพลังอยู่ โดยลำพังเพียงแค่สึนามิในปี 2004 ที่โจมตี 14 ประเทศชายฝั่ง ก็ทำสถิติผู้เสียชีวิตเข้าไปแล้ว 37 เปอร์เซ็นต์ของเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งหมดตั้งแต่ปี 2000

    อย่างไรก็ตาม สคาฟดัล ผู้ประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติให้ข้อมูลว่า ทั้งที่หายนะทวีความหนักหน่วงและบ่อยครั้งขึ้น แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตกลับมีน้อยลง โดยอธิบายตัวเลขผู้เสียชีวิตที่น้อยลงน่าจะเป็นเพราะระบบการเตือนภัยแบบใหม่ที่ดีขึ้น และความพยายามในการปรับปรุงการรับมือภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ณ จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์อนาคตโลก ............ อนาคตไทย (2) <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ยุค ศรีอาริยะ</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">20 สิงหาคม 2550 17:25 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="left" height="12" valign="bottom">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#ffffff" valign="top"> <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellspacing="7" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> ชะตากรรมร่วมของคนไทยทั้งแผ่นดิน

    ปัจจุบัน มีนักวิชาการไทยน้อยคนนักที่สนใจเรื่อง อนาคตศาสตร์ หรือการวิเคราะห์ทิศทางการพลิกผันของโลกอนาคต

    เมื่อเป็นเช่นนี้ คนไทยทั่วไปก็ยก “อนาคตศาสตร์” ให้แก่บรรดาหมอดู

    บรรดาหมอดูก็มักจะมองอนาคตในกรอบของบุคคลและกรอบของประเทศเท่านั้น และอธิบายอนาคตแบบช่วงแคบๆ เช่น ปีนี้ ปีหน้าเป็นอย่างไร

    น้อยคนนักที่สามารถมองอนาคตโลกในกรอบของโลกทั้งใบ และในช่วงเวลาที่ค่อนข้างยาว

    ชนชั้นนำไทยจึงตามโลกไม่ทัน และแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าไปวันๆ

    เกิดวิกฤต ขึ้นแล้ว ก็ค่อยๆ หาวิธีแก้

    กล่าวได้ว่าคือ ปล่อยให้วัวหาย แล้วจึงล้อมคอกกันไปวันๆ

    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เรื่องวิกฤตน้ำมัน และค่าเงิน เราไม่เคยมีการคาดการณ์มาก่อนว่าจะเกิด พอเกิดแล้ว ก็หาทางแก้แบบ “เอาตัวรอดไปวันๆ”

    ความจริง ถ้าคนไทยเข้าใจและเรียนรู้เรื่อง อนาคตศาสตร์ เราจะสามารถคาดการณ์ และเตรียมรับวิกฤตก่อนที่วิกฤตจะเกิดได้

    วิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตน้ำมัน วิกฤตค่าเงิน และอื่นๆ ถ้าเราติดตามวิเคราะห์กระแสวิกฤตโลกอย่างต่อเนื่อง เราจะรู้ว่า วิกฤตเหล่านี้เริ่มก่อตัวมานานแล้ว

    ถ้าเราคาดการณ์อนาคตได้ วิกฤตปัจจุบันก็จะไม่รุนแรง อย่างเช่น ถ้าเราตระหนักรู้ว่า จะเกิดวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม เราช่วยกันรักษาป่า ปลูกป่า วิกฤตสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันก็จะลดทอนลง

    สาเหตุหนึ่งที่เราตามโลกไม่ทัน อาจเนื่องมาจากบรรดาหมอดูที่เป็นที่พึ่งพาสำคัญของบรรดาชนชั้นนำไทย น้อยคนนักที่จะเข้าใจเรื่อง ระบบเศรษฐกิจ และการเมืองโลก

    ที่น่าสงสารกว่าคือ เมื่อไม่รู้จะแก้วิกฤตอย่างไร บรรดาผู้นำไทยซึ่งตามโลกไม่ทัน มักรู้แต่วิธีแก้ปัญหาด้วยการทำบุญ และสวดมนต์ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยคุ้มครอง

    ปลายเดือนที่ผ่านมา ผมต้องไปพูดเรื่อง “การเมืองไทย ก้าวหน้า หรือถอยหลัง”

    ผมเริ่มด้วยการกล่าวว่า

    “ผมไม่คิดว่าการเมืองไทยกำลังก้าวไปข้างหลัง แต่กำลังก้าวไปข้างหน้า

    เพียงแต่ว่า เส้นทางที่เราทุกคนเดินไปข้างหน้านั้น เป็นเส้นทางที่ขรุขระทุลักทุเลอย่างยิ่ง และกำลังก้าวสู่หายนะใหญ่

    จนถึงวันนี้ คนทั่วไปยังไม่ตระหนักรู้ว่า เรากำลังเผชิญวิกฤตใหญ่ รุนแรง และยาว”


    ผมขยายความต่อว่า

    ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้น ที่กำลังจะต้องเผชิญกับวิกฤตใหญ่ ระบบโลกทั้งใบกำลังก้าวสู่วิกฤตใหญ่

    วิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตน้ำมัน วิกฤตค่าเงินบาท และอื่นๆ คือส่วนหนึ่งของวิกฤต (ลูกยาว) ดังนั้น สภาวะที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันคือ ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ยังต้องเผชิญช่วงที่หนักหน่วงกว่าช่วงนี้ อีกหลายเท่า

    แค่เริ่มต้นก็แก้กันไม่เป็นและไม่ถูกแล้ว ลองคิดดูว่า ถ้าต้องเผชิญวิกฤตที่หนักกว่านี้ จะรอดหรือ?

    จะเข้าใจเรื่องวิกฤตลูกยาวนี้ได้ ต้องศึกษาการเคลื่อนตัวของระบบโลกอย่างเป็นองค์รวมแบบเป็นพลวัตที่พลิกผัน

    ผมได้ขยายความเพิ่มต่อไปอีกว่า

    ระบบโลกมีการเคลื่อนตัวคล้ายวัฏจักรที่มีช่วงขยายตัว (ยาว) และช่วงหดตัว (ยาว)เป็นช่วงๆ

    ผมได้ยกตัวอย่างว่า

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปี ค.ศ. 1950 ถึง ค.ศ. 1968 ได้เกิดการเคลื่อนตัวแบบขยายตัวยาวถึงเกือบ 20 ปี

    ในช่วงขยายนี้ ระบบโลกได้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ นั่นคือ อุตสาหกรรมเหล็ก รถยนต์ น้ำมัน และพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งพลังงานนิวเคลียร์

    ประมาณเกือบยี่สิบปีผ่านไป การขยายตัวของกำไรเริ่มลดลง เนื่องจากความอิ่มตัวของตลาด นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นศูนย์ใหญ่ของการผลิตและการตลาดโลก เริ่มเสื่อมทรุดลงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง เพราะสหรัฐฯ ต้องติดกับสงครามที่ไม่สามารถเอาชนะได้นั่นคือ สงครามเวียดนาม

    หลังจากสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังรบออกจากเวียดนาม ช่วงจากปี ค.ศ. 1968 ถึง ค.ศ. 1987 ระบบเศรษฐกิจโลกก็ก้าวสู่ช่วงหดตัว (ยาว) ประมาณ 20 ปี

    ช่วงหดตัวยาวนี้ เป็นช่วงจังหวะที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเมือง และในที่สุด ได้นำสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบอำนาจของโลกทั้งระบบ

    เริ่มจากวิกฤตความอิ่มตัวของตลาด และการถดถอยของค่าเงินดอลลาร์ ต่อมาประมาณช่วงปี ค.ศ. 1973 ถึง 1975 ได้เกิดวิกฤตน้ำมันซึ่งเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบก็เกิดการทรุดใหญ่ในช่วงปี ค.ศ. 1980 ถึง 1985 ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ ประเทศโลกที่สามจำนวนหนึ่ง ทั้งในย่านละตินอเมริกา และแอฟริกาเกิดการทรุดใหญ่ กลายเป็นประเทศที่ล้มละลายทางเศรษฐกิจ จมกับปัญหาหนี้สินที่แก้ไม่ได้

    หลังจากนั้น ในช่วงปี ค.ศ. 1987 โครงสร้างอำนาจในระบบเศรษฐกิจโลก ก็เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่อีก ระบบโลกที่แบ่งแยกออกเป็น 2 ค่ายสิ้นสุดลง เนื่องจากสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นศูนย์กลางของค่ายสังคมนิยม ได้เกิดการเสื่อมทรุดทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจในเวลาเดียวกัน

    หลังจากช่วงวิกฤต (ยาว) ระบบทุนโลกได้ก้าวเข้าสู่ช่วงการขยายใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เริ่มจากประมาณปี ค.ศ. 1987 พลังผลักสำคัญมาจากการปฏิวัติเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า สารสนเทศ

    นี่คือ ที่มาของช่วงประวัติศาสตร์โลกที่ถูกเรียกว่า โลกาภิวัตน์

    การปฏิวัติครั้งนี้ส่งผลทำให้ระบบเศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างต่อเนื่องมา นับจากปี ค.ศ. 1987 จนถึงปัจจุบัน (2007) กินเวลาเกือบ 20 ปี เช่นเดียวกับช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมหนัก

    ปัจจุบัน นับจากปี ค.ศ. 2007 เป็นต้นไป ระบบเศรษฐกิจโลกจะเริ่มก้าวสู่ช่วงการหดตัว (ยาว) อีกครั้งหนึ่ง

    เริ่มจากการอิ่มตัวของตลาด การตกลงของค่าเงินดอลลาร์ และการไหลขึ้นของราคาทรัพยากรพื้นฐานที่ใช้ในการผลิต อย่างเช่น น้ำมัน เหล็ก ทองแดง และอื่นๆ

    ปัจจุบัน “มีปรากฏการณ์หลายๆ อย่าง” ที่คล้ายๆ กันกับช่วงวิกฤตปี ค.ศ. 1970 ถึง 1987 ที่กำลังหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ความหนักความเบาของปัญหาไม่เท่ากันเท่านั้น

    ที่คล้ายกันอีกอย่างหนึ่งคือ สหรัฐอเมริกาเริ่มแพ้สงครามในอิรักและตะวันออกกลาง ซึ่งคล้ายกับช่วงที่สหรัฐอเมริกาแพ้สงครามเวียดนาม แต่ฐานะทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐอเมริกาปัจจุบันย่ำแย่กว่าช่วงสงครามเวียดนาม

    ในขณะเดียวกัน ระบบเศรษฐกิจโลกได้เกิดวิกฤตค่าเงินดอลลาร์ และวิกฤตน้ำมันเช่นกัน

    ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างวิกฤตเศรษฐกิจใน “อดีต” กับ “ปัจจุบัน” คือ ความหนักหน่วงของวิกฤต ซึ่งปรากฏรุนแรงกว่าช่วงอดีต

    วิกฤตน้ำมัน ในปัจจุบันรุนแรงกว่าวิกฤตในช่วงปี ค.ศ. 1973 ถึง 75 กว่าเท่าตัว (พิจารณาในแง่ราคา) นอกจากนี้ ราคาทรัพยากรพื้นฐานที่ใช้ในการผลิตก็มีราคาสูงขึ้นด้วย

    วิกฤตสงคราม ถ้ามองในแง่ขนาดของพื้นที่สงครามซึ่งไร้พรมแดน และจำนวนงบประมาณที่ต้องใช้ในการทำสงคราม ก็มากกว่าช่วงสงครามเวียดนาม (มากกว่า 2 ถึง 3 เท่าตัว)

    นอกจากนี้ ในขณะที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ระบบโลกได้เกิดหายนะในด้านสิ่งแวดล้อม กับวิกฤตโรคภัยไข้เจ็บ (ไข้หวัดนก วัวบ้า หมูบ้า ไก่บ้า) ซึ่งกำลังคุกคามมนุษยชาติในลักษณะระลอกคลื่นที่ขยายตัว ในเวลาเดียวกัน

    บางประเทศ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย ซึ่งได้จมลึกเข้าสู่วิกฤตสงคราม (สงครามในตะวันออกกลาง และสงครามใน 3 จังหวัดภาคใต้) วิกฤตนี้ได้ฉุดลากเศรษฐกิจประเทศให้ทรุดหนักลงไปกว่าประเทศอื่นๆ

    ในขณะที่เกิดการหดตัวใหญ่ของระบบเศรษฐกิจโลก ประสานกับการเกิดขึ้นของวิกฤตน้ำมัน วิกฤตค่าเงินดอลลาร์ วิกฤตสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ผมคาดว่า ความหนักหน่วงของวิกฤตที่กล่าวมาข้างต้นจะดึงระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบสู่ช่วงขาลงยาว และมีลักษณะลงแบบหนัก

    ที่ผมคาดว่า “ลงแบบหนัก” เนื่องจากวิกฤตทั้งหมด ในที่สุดจะส่งผลให้ฟองสบู่ 2 ลูก ที่เบ่งบานอย่างยิ่งในช่วงปัจจุบัน มีโอกาสที่จะแตกทั้ง 2 ลูก ในเวลาใกล้เคียงกัน

    อาจจะแตกที่สหรัฐอเมริกาก่อน และตามด้วยการแตกใหญ่ของฟองสบู่จีน หรือกลับกัน

    ผมคาดว่า น่าจะประมาณช่วงปี ค.ศ. 2010 หรือก่อนหน้า หรือหลังจากนี้ไม่น่าจะเกินปี หรือ สองปี

    ถ้าจริงตามที่ผมคาด หลังจากนั้น ระบบเศรษฐกิจโลกก็จะเกิดการทรุดใหญ่ และทรุดหนักอย่างยิ่งทั้งระบบ อาจจะช่วงประมาณปี ค.ศ. 2013 ถึง 2015 เป็นอย่างน้อย

    การทรุดใหญ่ครั้งนี้จะกลายเป็น “ปรากฏการณ์การทรุดใหญ่ที่หนักหน่วงรุนแรงที่สุด” และส่งผลกระทบไปทั่วโลก

    ประเทศที่จะได้ผลกระทบรุนแรงที่สุดน่าจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องจากปัจจุบันสหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นประเทศที่มีหนี้สินมากที่สุดในโลก และขาดดุลการค้าอย่างหนักหน่วง กรณีของประทศจีน ถ้าฟองสบู่แตก ความปั่นป่วนทางการเมืองจะเกิดตามมา แต่ถึงอย่างไร จีนน่าจะมีเงินสำรองเพียงพอที่ค้ำยันเศรษฐกิจตนเองไว้ได้ในระดับหนึ่ง

    ถ้าเป็นเช่นนี้จริง วิกฤตเศรษฐกิจใหญ่ครั้งนี้จะนำมาซึ่งการพลิกผันของโครงสร้างอำนาจในระบบโลกครั้งประวัติศาสตร์ โลกตะวันออกและยุโรปน่าจะกลับกลายมาเป็นศูนย์กลางของอารยธรรมโลกครั้งใหม่

    หลังจากนั้น ในช่วงปี ค.ศ. 2015 ถึง 2030 ระบบโลกทั้งระบบจะถูกคุกคามอย่างหนักด้วยระลอกคลื่นวิกฤตอีกหลายลูก ที่สำคัญคือ วิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตโรคภัยไข้เจ็บ และวิกฤตความยากจน อาจจะเริ่มจาก “วิกฤตน้ำ” รวมทั้งสงครามช่วงชิงน้ำ และทรัพยากรอื่นๆ ประสานกับการขยายตัวขึ้นของวิกฤตความยากจน

    บรรดาวิกฤตเหล่านี้จะคุกคามระบบโลกเป็นช่วงๆ และหนักขึ้นเรื่อยๆ จนนำไปสู่การอภิวัฒน์ระบบโลกใหม่ทั้งระบบ เพื่อปรับดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติใหม่ และปรับดุลระหว่างมนุษย์กับมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง และจะนำสู่การสิ้นสุดลงของยุคเศรษฐกิจโลก(ทุนนิยม และสังคมนิยม)

    นี่คือ การเข้าใจสภาวะวิกฤต และความพลิกผันอย่างยิ่งอันเนื่องจากวิกฤต

    กล่าวโดยสรุป “วิกฤตใหญ่” ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็น “โอกาสใหญ่” ในการอภิวัฒน์โลกทั้งระบบ

    ในที่สุด ระบบโลกทั้งระบบจะก้าวสู่ยุคประวัติศาสตร์ใหม่ที่เรียกว่า “ยุควัฒนธรรมที่ยั่งยืน และพอเพียง”

    แต่ผู้อ่านต้องตระหนักว่า นี่คือ การมองโลกบนวิถีอภิวัฒน์แบบหนึ่งเท่านั้น ที่มองในแง่ค่อนข้างดีเป็นด้านหลัก ด้วยความเชื่อว่าพลวัตที่พลิกผันอย่างยิ่งจะมีพลังเพียงพอที่จะกระตุ้นคนทั่วโลกให้ตื่นขึ้น และก้าวเข้ามาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์โลกใหม่

    ความจริง อาจจะเคลื่อนไปในแบบที่ตรงกันข้ามกับที่ผมคาดก็ได้

    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9500000097954

    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  20. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791

    เจอแล้ว ให้เพื่อน หาคำว่า black rain ภาษาจีนให้

    http://news.21cn.com/nfdsb/2007/08/16/3419134.shtml

    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...