ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. บัวรองพุทธบาท

    บัวรองพุทธบาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +745
    อย่าลังเลสงสัย ในเมตตาธิคุณของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายเลยครับ พรหมวิหาร ท่านเต็มเปี่ยม เรื่องบ้างเรื่องคิดไปก็เข้าใจ บางเรื่องก็ไม่เข้าใจ บางเรื่องคิดไปเองว่าเข้าใจทั้งที่ไม่เข้าใจอะไรเลย คิดว่าเป็นเรื่องอจินไตยครับ ไม่พึงควรคิดครับ
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เพราะกายเนื้อมนุษย์นี้ต้องอาศัยเวลาแห่งการเจริญวัย กว่าจะโตเป็นหนุ่มได้ก็กินเวลาอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป ถ้าจะรอให้เกิดภัยพิบัติแล้วค่อยลงมาเกิด ก็ต้องอาศัยเวลาแห่งการเจริญเติบโตอีกตั้ง 20 ปี จึงจะเข้าวุฒิภาวะแห่งการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แล้วในสภาวะแห่งการเกิดภัยพิบัติอย่างนั้น ใครจะทนรอความช่วยเหลืออยู่ได้ คุณลองดูภัยน้ำท่วมตอนนี้ดูก็ได้ว่าเวลาที่มีผู้ประสพภัยน้ำท่วมอยู่นั้น พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนมากเพียงใด...

    ส่วนที่คุณ จอมพล GAY สงสัยว่าทำไมไม่ลงมาช่วยในขณะที่ยังเป็นเทวดาอยู่ ผมก็ขอตอบว่าถ้าอยู่กันคนละภพภูมิ มันช่วยอะไรกันไม่ได้มากนักหรอกครับ จะให้ท่านลงมาประทับทรงคนโน้นคนนี้มันก็ดูไม่เหมาะสม เหมือนยืมจมูกคนเขาอื่นหายใจ มันย่อมไม่สะดวกสบายเหมือนใช้จมูกของตัวเองครับ อีกอย่างเวลาพระโพธิสัตว์จะสร้างบารมี ก็ต้องอาศัยกายมนุษย์นี้แหละครับถึงจะสร้างบารมีได้เต็มที่ ยึ่งงานสืบต่ออายุของพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวไปจนครบ 5,000 ปี ยิ่งต้องลงมาทำด้วยตัวเอง เพราะเป็นงานหนักที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรค มีมารผจญคอยกลั่นแกล้งขัดขวาง ต้องอาศัยบุญบารมีที่สั่งสมมาแล้วอย่างมากมาย จึงจะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆไปได้ และสามารถสร้างโลกใหม่ที่มีแต่สันติสุขได้อย่างที่ใจพระองค์ท่านต้องการได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้พระศรีอาริย์

    [​IMG]

    ตามตำนานพระศรีอาริย์จุติ ได้กล่าวเอาไว้ว่า เมื่อพระศรีอาริย์ได้เข้าพิธีอุสสาราชาภิเษกแล้ว พระอินทร์จะมาเนรมิตปราสาท 3 หลังให้พระศรีอาริย์ พร้อมทั้งเนรมิตพระนครใหม่ มีบ้านเรือน 36 ล้านหลังให้ภายในพระนครใหม่นั้น ซึ่งตามตำนานกล่าวเอาไว้ว่าอยู่ที่เมืองเชียงใหม่ของประเทศไทยเรานี่เอง

    เรื่องของพระศรีอารย์ในช่วงกึ่งพุทธกาลนี้ ผมทราบดีว่าเป็นเรื่องที่คนในยุคสมัยนี้ ยากจะเชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ พระอินทร์จะมาเนรมิตปราสาท 3 หลังให้จริงหรือ และจะมาเนรมิตเมืองใหม่ที่มีบ้านเรือนตั้ง 36 ล้านหลังได้จริงหรือ ฟังดูเหมือนเป็นนิทานที่เล่าให้เด็กฟังก่อนนอน อะไรประมาณนั้น ผมจึงขออนุญาตยกเรื่องของ"พระโชติกะเถระ" ตามที่มีปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎก เป็นหลักฐานยืนยันว่า เรื่องที่พระอินทร์มาเนรมิตปราสาทให้ผู้มีบุญนั้นเป็นเรื่องจริง ในสมัยพุทธกาลก็เคยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้มาก่อนแล้ว ในพระไตรปิฎกก็มีบันทึกยืนยันไว้เป็นหลักฐานดังนี้

    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้โชติกเศรษฐี

    ท้าวสักกะทรงใคร่ครวญดูว่า "นี้เหตุอะไรหนอแล?" ทรงทราบว่า "ชน<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ทั้งหลาย<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">กำลัง<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">จับ<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">จอง<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ที่<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">ปลูก<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">เรือน<WBR style="WORD-SPACING: 0px; FONT: 16px verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; TEXT-TRANSFORM: none; COLOR: rgb(0,0,0); TEXT-INDENT: 0px; WHITE-SPACE: normal; LETTER-SPACING: normal; BACKGROUND-COLOR: rgb(239,235,239); orphans: 2; widows: 2; webkit-text-size-adjust: auto; webkit-text-stroke-width: 0px">เพื่อโชติกะ" ทรงดำริว่า "โชติกะนี้ จักไม่อยู่ในเรือนที่ชนเหล่านั่นทำแล้ว, การที่เราไปในที่นั้น ควร" แล้วเสด็จไปที่นั้นด้วยเพศแห่งนายช่างไม้ ตรัสว่า "พวกท่านทำอะไรกัน?"

    เหล่าชน. พวกฉันจับจองที่ปลูกเรือน สำหรับโชติกะ.

    ท้าวสักกะตรัสว่า "พวกท่านจงหลีกไป, โชติกะนี้จักไม่อยู่ในเรือนที่พวกท่านปลูก" แล้วทอดพระเนตรดูภูมิประเทศประมาณ ๑๖ กรีส.

    ภูมิประเทศนั้นได้เป็นที่สม่ำเสมอในทันใดนั้นนั่นเอง ดุจวงกสิณ. ท้าวเธอทรงดำริอีกว่า "ขอปราสาท ๗ ชั้นสำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงชำแรกแผ่นดินผุดขึ้น ณ ที่นี้" แล้วทอดพระเนตรดู. ปราสาท (เห็นปานนั้น) ผุดขึ้นแล้วในขณะนั้นนั่นเอง. ท้าวสักกะทรงดำริอีกว่า "ขอกำแพง ๗ ชั้น ที่สำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงผุดขึ้นแวดล้อมปราสาทนี้" แล้วทอดพระเนตรดู. กำแพงเห็นปานนั้นผุดขึ้นแล้ว.

    ครั้งนั้น ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขอต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลาย จงผุดขึ้นในที่สุดรอบกำแพงเหล่านั้น" แล้วทอดพระเนตรดู. ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ผุดขึ้นแล้ว. ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขุมทรัพย์ ๔ ขุม จงผุดขึ้นที่มุมทั้ง ๔ แห่งปราสาท" แล้วทอดพระเนตรดู. ทุกสิ่งได้มีอย่างนั้นเหมือนกัน.

    ก็บรรดาขุมทรัพย์ทั้งหลาย ขุมทรัพย์ขุมหนึ่งได้มี<WBR>ประมาณ<WBR>โยชน์<WBR>หนึ่ง, ขุม<WBR>หนึ่ง<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>ประมาณ ๓ คาวุต, ขุมหนึ่งได้มีประมาณกึ่งโยชน์, ขุมหนึ่งได้มีประมาณคาวุตหนึ่ง, ที่ซุ้มประตูทั้ง ๗ ยักษ์ ๗ ตน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ในซุ้มประตูที่ ๑ ยักษ์ชื่อยมโมลีพร้อมด้วยยักษ์พันหนึ่งที่เป็นบริวารของตน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๒ ยักษ์ชื่ออุปปละพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๒ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๓ ยักษ์ชื่อวชิระพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๓ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๔ ยักษ์ชื่อวชิรพาหุพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๔ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๕ ยักษ์ชื่อสกฏะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๕ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๖ ยักษ์ชื่อสกฏัตถะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๖ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๗ ยักษ์ชื่อทิสามุขะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๗ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ทั้งภายในและภายนอกแห่งปราสาท ได้มีการรักษาอย่างมั่นคงแล้ว ด้วยอาการอย่างนี้.

    ที่มาhttp://www.84000.org/tipitaka/attha/...25.0&i=36&p=33
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2011
  4. Ghosty Rat

    Ghosty Rat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +365
    Swiss ski resorts hit by drought

    [​IMG] Swiss mountains have remained snow-free this year ภูเขาในสวิซยังไร้หิมะปีนี้
    The traditional start of Switzerland's ski season has been marred by a shortage of snow across the Alps. เทศสกีในสวิซถูกทำลายโดยภาวะขาดหิมะ ทั่วเทือกเขาเอล์ป

    The autumn has been the driest on record in the country. เป็นฤดูใบไม้ร่วงที่แล้งที่สุดในประวัติการณ์ของประเทศ
    Correspondents say the continuing drought is bad news for the country's tourism industry which is already suffering from the strong Swiss franc. นักข่าวกล่าวว่าภาวะแล้งที่กำลังเกิดเป็นข่าวร้ายสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศซึ่งก็ย่ำแย่จากภาวะเงินแข็งตัวของสวิสฟรังค์ (เงินแข็งตัวทำให้เงินแพงและเพิ่มค่าใช้จ่ายหรับนักท่องเที่ยว)

    Big resorts such as Davos or St Moritz have been able to open a few runs with the help of snow cannons. Others have delayed the start of the season. รีสอร์ทใหญ่ๆอย่าง ดาวอส หรือ เซนต์มอริซท์ สามารถทำให้มีทางเล่นสกีหรือทำงานได้ด้วยความช่วยเหลือของปืนใหญ่หิมะ ในขณะที่เจ้าที่เหลือต้องเลื่อนเทศกาลหิมะไปก่อน

    The franc has risen sharply this year against the euro, the dollar and the British pound, making a skiing holiday in Switzerland far more expensive than in France, Italy or Austria . ค่าเงินสวิสฟรังค์ทะยานแบบโด่งในปีนี้เมื่อเทียบกับ ยูโร ดอลลาร์ กับเงินปอนด์ ทำให้การเล่นสกีในวันหยุดในสวิสแพงกว่าใน ฝรั่งเศส อิตาลี หรือออสเตรีย

    Praying for snow The BBC's Imogen Foulkes says now the lack of snow has added to the worries of hoteliers, ski instructors, and lift companies. วิงวอนหวังว่าจะมีหิมะ เจ้าหน้าที่บีบีซี อิโมเก้น โฟลเคส กล่าวว่า ภาวะขาดหิมะเพิ่มความวิตกให้กับโรงแรม ครูสอนสกี และ บริษัทลิฟท์ขนส่งขึ้นลงเล่นสกี

    There was some snow in parts of the Swiss Alps early on Saturday, but observers say this was not enough to kick-start the struggling ski season. บางที่ยังมีหิมะตกในเทือกเขาสวิสเอลป์ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมา (วันนี้ของข่าว) แต่ผู้เห็นเหตุการณืบอกว่ายังตกไม่พอที่จะเริ่มเทศกาลสกีที่ยังติดขัดอยู่

    Alpine resorts in neighbouring countries are also experiencing shortages of snow. แม้แต่รีสอร์ทบนเทือกเขาในประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบปัญหาเดียวกัน

    A hotel in Austria's Katschberg mountains has hired 15 chimney sweepers - which are associated with good luck in the country - to pray for snow.
    "We're confident things will go well now!" hotel manager Wolfgang Hinteregger said. โรงแรมในออสเตรียในเทือกเขา แคตท์เบิรค์ จ้างคนทำความสะอาดปล่องไฟ 15คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความโชคดีของประเทศ เพื่อวิงวอนหรือหวังว่าจะมีหิมะ "เราเชื่อมั่นว่าทุกอย่างต้องไปด้วยดี" โวลฟ์กัง ฮินเทอร์เรคเกอร์ กล่าว


    Reference
    BBC News - Swiss ski resorts hit by drought


    งานนี้หนักมากครับ แล้งทั่วโลกทั้งในอังกฤษและยุโรป ต่อไปอาหารคงหายากเพราะประเทศที่ผลิตได้จะน้อยลง บวกกับปลูกอย่างอื่นหรือโดนภัยธรรมชาติตัดกำลัง ผมก็หวังว่าอย่าให้เป็นจริงเลย...ทุกท่าน ผมเองก็สั่งคนของผมปลูกของกินเท่าที่ทำได้ที่บ้านพักตากอากาศที่ด่านซ้าย จังหวัดเลยไว้รับมือ เผื่อไว้ถึงผมไม่รอด จะได้ใครหนีทันจะได้ใช้ไอ้ที่ผมปลูกทิ้งไว้ในที่ได้ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเนอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  5. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ด่านซ้ายอยู่ในเขตลอยเลื่อน
     
  6. TLDC

    TLDC Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +94
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>จ้าละหวั่น! เยอรมนีสั่งอพยพคน 4.5 หมื่น หลังพบระเบิด WWII ก้นแม่น้ำไร[​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>4 ธันวาคม 2554 19:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ระเบิดน้ำหนัก 1.8 ตัน ในแม่น้ำไรน์ ลูกนี้ทำให้คน 45,000 คน กว่าครึ่งเมืองคอปเลนซ์ต้องอพยพออกจากรัศมี 1.8 กิโลเมตร ก่อนที่วันนี้ (4) ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - ชาวเมืองคอปเลนซ์ ทางตะวันตกของเยอรมนี ประมาณ 45,000 คน ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน ในวันนี้ (4) ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกพบอยู่ก้นแม่น้ำไรน์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นเปิดเผย

    ระเบิดของกองทัพอังกฤษน้ำหนัก 1.8 ตัน ลูกนี้ ถูกพบในแม่น้ำไรน์ หลังจากระดับน้ำลดลงต่ำจนเกือบแห้งขอด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะเข้าปลดชนวนระเบิดทันทีที่สามารถอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงหมดทุกคน ทั้งนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1.8 กิโลเมตร จากจุดที่พบลูกระเบิด ได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้าน เพื่อความปลอดภัย

    เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง ตำรวจ เจ้าหน้าที่พยาบาล และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองเมืองคอปเลนซ์ร่วม 2,500 คน รับหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการอพยพ โดยมีประชากรกว่าครึ่งเมืองที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งอพยพดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดของเมืองคอปเลนซ์ ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

    นอกจากนี้ โรงพยาบาล 2 แห่ง บ้านพักคนชรา 7 หลัง เรือนจำอีกหนึ่งแห่ง และโรงแรมอีกจำนวนหนึ่ง ต่างต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ มีการปิดการจราจรของถนนทุกเส้นในพื้นที่ สถานีรถไฟหลักก็หยุดให้บริการ

    อนึ่ง ระเบิดสัญชาติอังกฤษลูกนี้ ถูกพบตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน พร้อมกับระเบิดของกองทัพสหรัฐฯ น้ำหนัก 125 กิโลกรัม อีกลูกหนึ่ง ซึ่งจะมีการปลดชนวนระเบิดในวันเดียวกันนี้ ทันทีที่ได้รับคำยืนยันว่า อาคารทุกหลังในรัศมี 1.8 กิโลเมตร ได้อพยพคนออกหมดแล้ว

    เนิ่นนานกว่า 60 ปี หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ทางการเยอรมนี เชื่อว่า เฉพาะในกรุงเบอร์ลินแห่งเดียว อาจมีระเบิดถูกฝังอยู่ประมาณ 3,000 ลูก ลูกระเบิดที่ยังไม่ทำงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกค้นพบระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ต่างๆ

    เมื่อเดือนมิถุนายน 2010 ระเบิดของฝ่ายพันธมิตรน้ำหนัก 500 กิโลกรัม ลูกหนึ่งที่คาดว่าเป็นของกองทัพอังกฤษ เกิดการระเบิด กระทั่งมีทหารช่างเยอรมนีเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย ในเมืองเกิททิงเกน ขณะทหารกลุ่มนี้กำลังเตรียมตัวปลดชนวนระเบิด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    4 ธ.ค. 54

    26 ธ.ค. 54

    พื้นไหว ตามติด ชิดตัว
    อย่ามัว คิดว่า ไม่มา
    รีบเตรียม อย่าได้ ชักช้า
    มารมา แล้วจะ เสียใจ

    สวดมนต์ สมาธิ ต้องรีบ
    อย่างีบ นอนหลับ ไปวัน
    เมื่อมา แล้วจะ ไม่ทัน
    ระวัง จะไม่ หายใจ

    ฝั่งธอ อาจจะ กำหนด
    อย่าลด ความน่า เชื่อเถือ
    เมื่อมา แล้วจะ ร้องฮือ
    ร่วมมือ ร่วมใจ ป้องภัย

    เมืองใด? จังหวัดไหน? ใครตอบ?
    ขอบอก ตัวธอ ระวัง
    ประกัน ที่อยู่ ควรทำ
    ช่วยค้ำ ทรัพย์สิน ปลอดภัย

    ท่านใดสนใจจะไปร่วมด้วยช่วยกันที่ฐานผาแบ่น เชียงคาน เมืองเลย ผมขอนัดพบกันที่หน้าสถานีรถไฟดอนเมืองฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯหน้าห้องขายตั๋ว

    วันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. นี้ เวลา 11.00น. ถึง เวลา 12.00น. รายละเอียดพูดคุยกันวันนั้น

    เคอิสรา
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เทวาหรือซาตาน

    [​IMG]

    สืบเนื่องจากกระทู้ของคุณชยุต เรื่องการที่โลกของเรากำลังจะเปลี่ยนแปลงไปสู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากมนุษย์ต่างดาว และมีการกล่าวถึงการมาปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของมนุษย์ต่างดาว โดยการแนะนำของนายบารัค โอบาม่า ประธานาธิปดีของสหรัฐอเมริกาในปี 2012 นี้ด้วย​

    เมื่อผมได้นำข้อมูลนี้มาเปรียบเทียบกับข้อมูลในคัมภีร์ไบเบิ้ล ในเรื่องที่ว่าจะมีแอนตี้ไคร้ส์มาประกาศตัวเป็นพระเจ้า และสามารถแสดงฤทธิ์รักษาคนป่วยให้หายได้อย่างฉับพลัน อีกทั้งยังสามารถล่องหนหายตัวได้อย่างนักมายากล ทำให้คนเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ผมจึงรู้สึกสงสัยว่ามันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน กับเรื่องที่กลุ่มอิลลูมินาติ กำลังจะมาครอบครองโลกนี้เป็นระยะเวลา 3 ปีครึ่ง​

    อีกทั้งข้อมูลในทางลับก็ยังระบุอีกว่า กลุ่มมนุษย์ต่างดาวอิลลูมินาติกลุ่มนี้ ได้ครอบงำสหรัฐอเมริกาไว้ได้หมดแล้ว ประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงหุ่นเชิดของกลุ่มอิลลูมินาตินี้เท่านั้น

    ถ้าคุณชยุตได้มาอ่านความคิดเห็นของผมนี้ ก็อย่าเพิ่งโกรธกันเลยนะครับ คือจากการประมวลข้อมูลจากหลายๆด้าน แล้วนำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้แล้ว ผมก็เห็นว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่มนุษย์ต่างดาวคนที่กำลังจะมาเปิดเผยตัวกับชาวโลก โดยอ้างว่าจะเป็นผู้นำสันติสูขมาให้กับชาวโลกนี้ อาจจะเป็นบุตรของซาตาน ตามที่มีระบุเอาไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลก็เป็นได้นะครับ​

    สรุปเนื้อหาในกระทู้ 2012-ปีทองของยุคพลังงานใหม่-ยุคศิวิไลซ์แห่งการเลื่อนระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 โดยคุณชยุต

    1). ตอนนี้โลกเรา ตัวเรา และระบบสุริยจักรวาลของเรา กำลัง Ascension อยู่ ปี 2012 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดขึ้นมากๆ

    ทำไมถึงเชื่ออย่างนั้น

    - เพราะเขามีหลักฐานทางดาราศาสตร์ชี้บ่งอยู่ อย่างที่ได้กล่าวไปบ้างแล้ว
    - เพราะระดับพลังงานที่เปลี่ยนไป มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะตรวจวัดได้

    2). การ Ascension นี้จะทำให้วิวัฒนาการของมนุษย์เรา และสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆทั้งหมดมีร่างกาย และ ระดับจิตสำนึกที่ดีขึ้น

    ในส่วนของร่างกายเนื้อ DNA ก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อายุยืนขึ้น แข็งแรงขึ้น แก่ช้าลง เฉลียวฉลาดขึ้น

    ในส่วนของจิตใจ และจิตสำนึก ก็จะเป็นคนดีขึ้น รักสันติ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เมตตากรุณาต่อกันมากขึ้นมีความสามารถทางจิตมากขึ้น สิ่งที่เคยถูกกำจัดไว้ ก็จะกลับมาใช้ได้เหมือนเดิม เช่น การโทรจิต เป็นต้น

    สภาพแวดล้อมต่างๆของโลก ก็จะกลับมาสู่สภาวะที่ดีดังเดิม

    ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น

    - เขามีรายงานการตรวจสอบ IQ ของมนุษย์ยุคนี้ เปรียบเทียบให้เห็นถึงความเร่งของวิวัฒนาการทางสติปัญญา
    - เขามีอัตราการเจริญเติบโตด้านเทคโนโลยี และอื่นๆ เปรียบเทียบกับหลาย 100 ปีที่ผ่านมาเทียบให้ดู
    - รูปธรรมชีวิตต่างมิติที่สื่อสารผ่านทางโทรจิตมาหาคนทั่วโลก บอกมาแบบนั้น

    3). หลักฐานของสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ยิ่งกว่ามีซะอีกครับ เพราะมันมีเยอะเหลือเกินและโยงใยไปถึงศาสตร์เกือบทุกแขนงเลยทีเดียว เช่น

    3.1). มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม๊ จะมาช่วยโลก และช่วยเรา ในการ Ascension ครั้งนี้ไหม๊

    อันนี้ผมก็ได้นำเสนอไปบ้างแล้ว และเดี๋ยวอีกไม่นานผมก็จะตั้งกระทู้อีกกระทู้หนึ่ง เรื่องการจะประกาศเปิดเผยตัวตนของมนุษย์ต่างดาวทางโทรทัศน์ของอเมริกา ซึ่งประธานาธิปดี โอบาม่า อาจจะเป็นผู้ประกาศเองด้วยครับ กำหนดการของเขา เขายังไม่เปิดเผยวันเวลาให้สาธารณชนรู้ แต่เห็นบอกว่า ความยาวของรายการออกอากาศ น่าจะประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีมนุษย์ต่างดาวตัวจริงมาร่วมรายการด้วยหลายคน

    crop cycle และปรากฏการณ์ทั้งหลายบนท้องฟ้า และ UFO ต่างๆทั่วโลกที่พบเจอกันมานานนับร้อยปีแล้วนี้ก็ด้วย ถ้าเป็นคนที่ไม่โง่งมงาย หรือ หูตามืดบอดมากจนเกินไป ก็น่าจะพอระแคะระคายอะไรได้บ้างแล้วหละนะผมว่า

    3.2). ทำไมถึงบอกว่าเรากำลังอยู่ในระหว่าง Ascension

    คำตอบคือเพราะระบบสุริยจักรวาลของเราอกำลังเคลื่อนตัวเข้าไปสู่ Photon zone ซึ่งเป็นโซนของพลังงานด้านบวกระดับสูงอยู่จริง

    3.3). แล้วทำไมถึงคิดว่าพลังงานนี้ถึงจะส่งผลกระทบต่างๆต่อวิวัฒนการของเราในทางที่ดีขึ้นจริงๆ

    อันนี้ก็เพราะว่ามีผลงานวิจัยมากมาย และรู้กันแพร่หลายมานานแล้ว เกี่ยวกับ "รังสี" ที่มีผลต่อ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจริง และก็มีผลการทดลองเกี่ยวกับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ไม่ใช่รังสี ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจริง เช่น

    - การทดลองส่งคลื่นเข้าไปในไข่เป็ด แล้วนำไปฟักเป็นตัว ลูกเป็ดประมาณ 20% เปลี่ยนไป

    - การทดลองส่งคลื่นไปสู่ไข่กบหรือไงนี่แหละ แต่สรุปว่าเป็นของกบแน่ๆ แล้วทำให้กบกลายเป็นซาลาแมนเด้อได้

    - การทดลองส่งคลื่นความสั่นสะเทือนไปในกะบะทราย ทำให้ทรายฟอร์มรูปร่างที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความถี่ที่ส่งเข้าไป คือยิ่งความถี่สูง รูปแบบของรูปทรงก็ยิ่งซับซ้อนและสวยงามมากขึ้น อันนี้ค้นหาคำว่า Cymatic ใน internet นะครับ

    3.4). ทำไมถึงคิดว่าคลื่นหรือความสั่นสะเทือนที่มีผลกระทบต่อ DNA แล้วจะมาทำให้เรามีจิตสำนึกที่ดีขึ้นด้วย

    คำตอบสั้นๆคือเพราะ DNA ควบคุมร่างกาย และ DNA เป็นช่องทางผ่านเข้า-ออกของพลังงานจากจักรวาลด้วย

    ถ้าถามต่อว่า ทำไมถึงเชื่อว่า DNA เป็นช่องทางผ่านเข้า-ออกของพลังงานจากจักรวาล ก็จะตอบว่า เพราะ DNA มีคุณสมบัติของความเป็นควอนตั้มอยู่ในตัวเอง และ 97% ของ DNA ที่ปัจจุบันนี้ วงการวิทยาศาสตร์บอกว่ามันเป็น DNA ขยะ คือไม่ได้ถูกนำมาใช้งานอะไรนั้น ที่แท้คือ มันทำหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้อยู่

    และเขาก็มีการทดลองเอา DNA ใส่หลอดทดลอง แล้วปล่อยโฟตอนเข้าไปพบว่าโฟตอนจะไปเกาะอยู่รอบๆ DNA และแม้แต่เอา DNA ออกไปแล้วอนุภาคโฟตอนพวกนั้น ก็ยังทำท่าเกาะอยู่เหมือนเดิมอย่างนั้นแหละ เหมือนกับว่า DNA ยังอยู่อย่างนั้นแหละ อันนี้ก็บอกได้ว่า ตัวเราทั้งตัวเนี่ยที่มี DNA อยู่ในเซลทุกๆเซลเนี่ย มีความสัพันธ์ใกล้ชิดกับพลังงานแสงหรือโฟตอนอย่างมาก แล้วนับประสาอะไรกับที่กำลังจะเข้าไปอาบ ไปแช่อยู่ในแถบโฟตอนที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นมากกว่าเดิมอีกไม่รู้กี่ 100 กี่พันเท่าอยู่เนี่ย และถ้าถามต่อว่าทำไมถึงบอกว่า DNA มีคุณสมบัติของควอนตัมอยู่ เพราะทุกอย่างล้วนประกอบด้วยอนุภาคระดับควอนตัมทั้งนั้น

    4). แล้วทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ทำไมถึงเชื่อว่ามันจะปรากฏชัดเจน หรือเกิดขึ้นในปี 2012 ด้วย

    คำตอบสั้นๆคือ

    - เพราะค่าความแรงของสนามแม่เหล็กโลกลดลงเรื่อยๆ และจะลดเป็น 0 (ตามกราฟที่ plot ไว้) ในปี 2012 ซึ่งระดับความเข้มของสนามแม่เหล็กโลก จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักเพียงสาเหตุเดียว นั่นก็คือ "อัตราเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก" หรือจะแปลอีกอย่างก็คือว่า

    "ในปี 2012 โลกจะหยุดหมุนชั่วคราว!!"

    - ค่า Schumann resonance ของโลกค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะไปเป็นเท่าไหร่ก็จำไม่ค่อยได้ ในปี 2012 ซึ่งนั่นหมายความว่า "ขั้วแม่เหล็กโลก จะสลับขั้วกัน"

    ซึ่งในช่วงเสี้ยววินาทีที่ขั้วแม่เหล็กสลับขั้วกันนั้น โลกจะปราศจากสนามแม่เหล็กชั่วคราวและจะเป็นช่วงที่เข้าสู่ ภาวะ "Zero point" ลองไปค้นหาใน internet ดูต่อนะครับ ว่าสภาวะนี้สำคัญอย่างไร มีผลต่อร่างกาย และจิตวิญญาณ และระดับความสั่นสะเทือน และระดับพลังงานของเราอย่างไร ตอนนี้แหละที่จะแยกระหว่างคนที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกับต่ำออกจากกันได้ชัดเจนเพราะกลุ่มหนึ่งจะรอด ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งร่างกายจะทนไม่ได้ ก็จะต้องตายไป

    ข้อมูลที่สนับสนุนคำกล่าวทั้งหมดนี้ ผมมีหมดแล้ว แต่ติดที่ว่า ต้องอ่าน และแปลก่อนถึงจะเอามาเรียบเรียง และโพสต์ให้พวกท่านอ่านได้หนะครับ ซึ่งงานนี้ ก็หนักเอาการพอสมควรครับ

    ใจเย็นๆนะครับ ทุกๆโพสต์ของผม มีความหมายที่อยากจะสื่อหมดนั่นแหละครับ

    เฮ้อ...เหนื่อนแล้ว..ล่อซะยาวเหยียดเชียว..

    ที่มา http://palungjit.org/threads/2012-ป...ขึ้น-ascension-ไปสู่มิติที่-5-a.217055/page-4
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • AD3.JPG
      AD3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.9 KB
      เปิดดู:
      2,593
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2011
  9. อาแป๊ะ

    อาแป๊ะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +107
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆตรับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ถึงแกนแม่เหล็กโลกจะพลิกกลับขั้วในปี 2555-25ิ56 แล้ว เรื่องยุ่งๆก็ยังไม่จบ...

    [​IMG]

    ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ (ผู้ต่อต้านหรือแทนที่พระคริสต์)

    "ลูกทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว และตามที่ท่านทั้งหลาย ได้ยินได้ฟังมาว่า ปฏิปักษ์ของพระคริสต์จะมีมา บัดนี้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ก็มีมามากแล้ว ฉะนั้นเราจึงรู้ว่า บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว...ใครเล่าเป็นผู้ที่พูดมุสา ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้ที่ปฏิเสธว่าพระเยซูไม่ใช่พระคริสต์ ผู้ใดที่ปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร ผู้นั้นแหละเป็น ปฏิปักษ์ของพระคริสต์"
    1 ยอห์น 2 : 18-22

    "เพราะว่ามีผู้ล่อลวงเป็นอันมากเที่ยวจาริกไปในโลก คนไหนไม่รับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ คนนั้นแหละ เป็นผู้ล่อลวงและเป็นปฏิปักษ์ของพระคริสต์"
    2 ยอห์น 7

    ผู้เชี่ยวชาญในพระคัมภีร์หลายคนมีความคิดเห็นต่อคำกล่าวของยอห์น เกี่ยวกับผู้ชั่วร้ายนั้นแตกต่างกันไป คือ อาจจะตัวบุคคลจริง ๆ หรือไม่ก็ระบบที่ชั่วร้ายก็ได้ หรือบางทีอาจจะเป็นได้ทั้งสองอย่าง ยอห์นแยกแยะระหว่าง “ปฏิปักษ์ของพระคริสต์” คนหนึ่งกับ “ปฏิปักษ์ของพระคริสต์” จำนวนมากที่มีมาตั้งแต่อดีต สภาพของโลกทุกวันนี้กำลังพร้อมที่จะเปิดทางให้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ผู้นั้นก้าวขึ้นมาครอบครอง

    ดร.รีน ปาเช่ กล่าวว่า “ปฏิปักษ์ของพระคริสต์เป็นประมุขคนสุดท้ายที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ ซึ่งทั้งโลกจะสยบต่อเขาในวาระสุดท้าย และเขาจะนำในการปฏิวัติต่อต้านพระเจ้าและพระคริสต์ขั้นสุดยอด...บุคคลผู้มีอำนาจและความสามารถเหนือมนุษย์คนนี้ จะจุติมาพร้อมกับฤทธิ์อำนาจของซาตานทุกอย่าง” (ออสวอลด์ แซนเดอร์. 1992 :78-79)

    ซึ่งตามพระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่าปฏิปักษ์ของพระคริสต์เป็นใคร มีเพียงชื่อของปฏิปักษ์ของพระคริสต์ ที่แฝงไว้ในตัวเลข 666

    "ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญาให้ดี ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจ ก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น เพราะเป็นเลขของ บุคคลหนึ่ง เลขของมันคือ หกร้อยหกสิบหก"
    วิวรณ์ 13:18

    ในภาษาฮีบรู กรีก และลาติน(โรมัน) ตัวเลขต่าง ๆ จะเขียนโดยใช้ตัวอักษร VICARIUS FILII DEI (ผู้แทนพระองค์)
    V I C A R I U S F I L I I D E I
    5 - 1 -100 - - 1 - 5 - - 1 - 50 – 1 -1 - 500 - 1 = 666

    ตลอดมามีการคาดคะแนไปต่าง ๆ นานา ว่าบุคคลผู้มีอำนาจและความสามารถเหนือมนุษย์ดังกล่าวเป็นคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง แต่ก็ยังไม่ถูกต้อง

    ดร. วิลเบอร์ เอ็ม.สมิธ เขียนถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “นับตั้งแต่สมัยอัครทูตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้คิดว่าปฏิปักษ์ของพระคริสต์ คือ จักรวรรดิโรมันบ้างละ ยูดาสอิสคาริโอทที่ฟื้นจากความตายบ้างละ หรือจักพรรดิเนโรบ้างละ แต่ผิดหมด สำหรับนักปฏิรูปอย่างลูเธอร์และคาลวิน ยังคิดว่าเป็นสันตะปาปา แต่ก็ไม่ใช่อีก หลายคนเชื่อว่าเป็น นโปเลียน โบนาปาร์ท และในศตวรรษนี้บางคนคิดว่าเป็น มุสโสลินี หรือฮิตเลอร์ การคาดคะเนเหล่านี้ผิดหมด

    เรายังรอคอยให้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์เผยโฉมออกมาบนเวทีประวัติศาสตร์ (You Can Know The Future, Gospel Light. 1971:49)

    ทีนี้เรามาพูดถึงฤทธิ์อำนาจของปฏิปักษ์พระคริสต์ กันบ้าง เมื่อมันปรากฏตัวแล้ว ปฏิปักษ์ของพระคริสต์จะยึดอำนาจทั้งสามด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ และด้านศาสนา มันจะใช้อำนาจทางการเมืองบีบบังคับนานาชาติอย่างไร้ความปราณี

    "ทรงยอมให้มันทำสงครามกับธรรมิกชน และชนะเขา ทรงประทานให้มันมีอำนาจเหนือชนทุกเผ่า ทุกชาติ ทุกภาษา และทุกประชาชาติ"
    วิวรณ์ 13:7

    มันจะกุมเศรษฐกิจโลกไว้ในมืออย่างสิ้นเชิง

    "และมันยังได้บังคับคนทั้งปวง ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย คนมั่งมี และคนจน ไทและทาสให้รับเครื่องหมาย
    ไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผากของเขา เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำการซื้อขายได้ นอกจากผู้ที่มีเครื่องหมายนั้น... "
    วิวรณ์ 13:16-17

    มันใช้อำนาจด้านศาสนาบีบคั้นคนให้กราบไหว้บูชาดุจดังพระเจ้า หากขัดขืนต้องตายสถานเดียว

    "ทรงยอมให้มันมีอำนาจที่จะให้ลมหายใจแก่รูปสัตว์นั้น เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นพูดได้ และให้มีอำนาจที่จะกระทำ ให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชารูปสัตว์ร้ายนั้น ถึงแก่ความตายได้"
    วิวรณ์ 13:15

    หายไปนานโผล่มาอีกทีเขียนเรื่องหนักๆ เลยแฮะเหอเหอ เอาเป็นว่าพูดแค่คำเดียว “พระเจ้าคุ้มครองครับ ถึงคุณจะไม่ใช่คริสเตียน แต่ผมก็ขอให้พระเจ้าคอยคุ้มครองคุณเหมือนกัน ”

    โดยคุณ loji wizard February 21, 2010, 06:06:07 PM

    ที่มา http://www.gmcities.com/board/index.php?topic=3170.0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 666.jpg
      666.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.9 KB
      เปิดดู:
      2,313
    • 1255528928.jpg
      1255528928.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      118
    • AD3.JPG
      AD3.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.9 KB
      เปิดดู:
      109
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2011
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรื่องยุ่งๆนับจากปี พ.ศ.2555 ถึง พ.ศ.2561 (7 ปีกลียุค)

    [​IMG]

    ในระยะเวลาช่วง 7 ปี ก่อนถึงสงครามครั้งสุดท้ายระหว่าง สวรรค์-นรก SATAN จะมีอำนาจมากขึ้น และทำให้โลกเกิดความพินาศอย่างน่ากลัว จากบันทึกมีการกล่าวถึงสัตว์ร้าย 2 ตัว ที่มีหมายเลขประทับที่หน้าผากด้วยเลข 666


    • สัตว์ตัวแรกมี 7 หัว 10 เขา และมี อำนาจเหนือมนุษย์ทุกผู้
    • ส่วนตัวที่ 2 ได้รับอำนาจเสริมจากตัวแรก มีอำนาจให้คนทั้งโลกสยบสยบแทบเท้ามัน
    SATAN จะมีอำนาจในโลกอย่างอหังการ์นาน 7 ปี และจะถูกจองจำโดยพระเจ้า ไปนาน 1,000 ปี ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงยุคของชาววิไล ยุคแผ่นดินโลกใหม่ แต่หลังจากนั้น มันก็จะถูกปล่อยออกมาก่อกรรมอีก และคราวนี้พระเจ้าจะจับมารซาตาน โยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน รวมทั้งสัตว์ร้ายทั้งหลายที่ปลอมตัวเป็นผู้เผยพระวจนะ จะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วนิจนิรันดร์ และนั่นคือวาระสุดท้ายของ SATAN

    สงครามขั้นแตกหัก ARMAGEDDON หรือ APOCALYPSE หรือ JIHAD น่าจะเป็นการเกิด สงครามโลกครั้งที่ 3 การทำลายล้างจะทำให้เกิดการสูญเสียของชีวิตมนุษย์ ไปถึง 1 ใน 3 หรือประมาณ 2,000 ล้านคน ตามบันทึกมีการพูดถึง ดวงตราทั้ง 7 หรือ THE SEVEN SEALS เมื่อมีการเปิดผนึกดวงตราทั้ง 7 จะมีการปรากฎตัวของบุรุษลึกลับ 4 คน ขี่ม้า 4 ตัว ที่มีลักษณะเหมือนสัตว์ประหลาด มีเสียงร้องอันดังดุจสายฟ้าร้อง หรือที่เรียกกันว่า THE FOUR HORSEMEN OF THE APOCALYPSE หรือ 4 อัศวินแห่งวันโลกาวินาศ

    เหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้น ประกอบด้วย 3 สิ่งใหญ่ๆ คือ ดวงตราทั้ง 7 การเป่าแตรทั้ง 7 และการเทขันแห่งพระพิโรธทั้ง 7

    • เมื่อตราดวงแรก ถูกเปิดออก จะมีคนลึกลับขี่ม้าขาวออกมา ในมือถือคันธนู ทำให้โลกเกิดความทุกข์ยากไป 3 ปีครึ่ง และ SATAN ที่มีเครื่องหมาย 666 ก็จะเข้าครอบงำโลกมนุษย์อีก 3 ปีครึ่ง หลังจากนั้นจะเกิดสงครามมหาประลัย พระมาซีอา พระมะห์ดีร์ หรือพระศรีอาริยเมตไตรยก็จะเสด็จมา ทรงทำให้โลกเข้าสู่ยุคแผ่นดินโลกใหม่ ยุคของชาววิไล
    • เมื่อดวงตราที่ 2 ถูกเปิดผนึก จะมีคนลึกลับขี่ม้าสีแดงออกมา ในมือถือดาบเล่มใหญ่ คนๆนี้จะทำให้โลกเข้าสู่สงครามอันน่าสะพรึงกลัว มีคนล้มตายถึง 1 ใน 3 ของประชากรโลก
    • เมื่อดวงตราที่ 3 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่มาสีดำออกมา ในมือถือตราชู ทั่วโลกจะเกิดความกันดาร อดอยาก และกลียุค เขาจะมาในคราบของนักบุญที่นำสันติสุขมาสู่โลก แต่กลับนำพาผู้คนเข้าสู่สงครามมหาประลัย
    • เมื่อดวงตราที่ 4 ถูกเปิดผนึก คนลึกลับขี่ม้าสีเขียวอมดำ ออกมา คนๆนี้ถือเป็นมัจจุราช มาคร่าชีวิตผู้คนด้วยโรคระบาด ความอดอยาก ทำให้ผู้คนล้มตายไปอีก 1 ใน 4 ของที่เหลือ
    • เมื่อดวงตราที่ 5 ถูกเปิดผนึก วิญญาณของผู้ที่ล้มตายมากมาย จะได้รับเสื้อสีขาวที่พระเจ้าทรงประทานให้ และรับสั่งให้พวกเขาทนรอเพื่อให้ดวงวิญญาณที่ต้องล้มตายครบตามจำนวน
    • เมื่อดวงตราที่ 6 ถูกเปิดผนึก จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง กลางวันกลับมืดมิด กลางคืนดวงจันทร์ทอแสงเป็นสีเลือด ทุกคนจะรู้ดีว่าวันที่พระเจ้าทรงพิโรธ ได้มาถึงแล้ว วิญญาณที่ได้รับเสื้อขาว จะถูกนำตัวไปยังน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาจะไม่หิวกระหายอีกต่อไป ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป
    • เมื่อดวงตราที่ 7 ถูกเปิดผนึก ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์ประมาณครึ่งชั่งโมง
    เทวทูตทั้ง 7 องค์ ได้รับแตร 7 อัน มีอยู่หนึ่งองค์ที่ถือกระถางไฟทองคำมาด้วย และเตรียมที่จะโยนมันลงมายังโลก เพื่อเผาผลาญคนชั่วให้สิ้นซาก จากนั้นเทวทูตทั้ง 7 ก็ทำการเป่าแตร

    • องค์ที่ 1 เป่าแตร ยังผลให้โลกไหม้ไป 1 ใน 3 ส่วน
    • องค์ที่ 2 เป่าแตร ยังผลให้เกิดอุกาบาตตกลงในทะเลทำให้ทะเลกลายเป็นสีเลือดไป 1 ใน 3
    • องค์ที่ 3 เป่าแตร ยังผลให้อุกาบาตตกลงในแน่น้ำทั้งหลาย ทำให้น้ำมีรสขม ทำให้ผู้คนล้มตายเพราะน้ำนี้
    • องค์ที่ 4 เป่าแตร เป็นการเตือนว่าความพินาศจะเกิดแก่คนทั้งหลายบนโลก
    • องค์ที่ 5 เป่าแตร อุกาบาตตกลงยังพื้นดินผู้คนที่บาดเจ็บจะได้รับความทรมานแต่ไม่ตายอยู่เป็นเวลา 5 เดือน แม้อยากตายก็ตายไม่ได้
    • องค์ที่ 6 เป่าแตรทูตสวรรค์ที่เคยถูกส่งมายังโลกและถูกมารจับตัวไว้จะได้รับการปลดปล่อย และเตรียมตัวทำลายล้างมนุษย์ที่ชั่วช้าที่ถูก SATAN ครอบงำ
    • องค์ที่ 7 เป่าแตร แผ่นดินใหม่บังเกิด พระเจ้าชนะสงคราม แต่มารหรือซาตานก็ยังล่อลวงมนุษย์ต่อไป
    ทำให้เกิดการเทขันแห่งพระพิโรธขึ้น


    • ขันที่ 1 ผู้ที่บูชา SATAN จะเกิดแผลร้ายเป็นหนองไปทั้งตัว
    • ขันที่ 2 เทลงในทะเล สัตว์ที่อยู่ในทะเลก็ตายจนสิ้น เกิดโลกระบาดไปทั่ว
    • ขันที่ 3 ล้างพวกที่มีจิตใจใฝ่อธรรมจนหมดสิ้น
    • ขันที่ 4 เทลงไปที่ดวงอาทิตย์ ทำให้ดวงอาทิตย์แผดแสงมากยิ่งขึ้น เกิดความแห้งแล้ง ทุรกันดาร อดอยาก
    • ขันที่ 5 เทใส่ บัลลังก์ ของ SATAN ทำให้อาณาจักรของมันมืดมน
    • ขันที่ 6 เทลงในแม่น้ำ ทำให้แม่น้ำเหือดแห้ง ผีโสโครก 3 ตน ปรากฎกายออกมา ปลอมตัวเป็นผู้เผยวจนะของพระเจ้า ล่อลวงให้มนูษย์ทำสงครามกันเอง
    • ขันที่ 7 เทไปในอากาศ METRATON แผดเสียงแทนพระเจ้าดังกังวารว่า "สำเร็จแล้ว"ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มหานครต่างๆบนโลก แยกออกเป็น 3 ส่วนบรรดาเกาะใหญ่น้อยทั้งหลายจมลงสู่ใต่บาดาลเชกเช่นตอนที่อาณาจักร ATLANTIS ถูกพระเจ้าทำลายล้าง
    เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายจบลง SATAN และสัตว์ร้ายทั้งหลาย ถูกจับตัวและถูกโยนลงไปในบึงไฟ และถูกฆ่าตายด้วยแสงที่เปล่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า นกทั้งปวงรุมแทะกินเนื้อพวกมันจนแหลกเหลว แต่วิญญาณชั่วร้ายของมันยังคงอยู่ แต่ถูกจับมัดและกักขังในบาดาล 1,000 ปี แผ่นดินสงบสุขไป 1,000 ปี ก่อนที่วิญญาณชั่วร้ายจะถูกปลดปล่อยอีกครั้ง



    ตามทัศนะของกลุ่มก่อนพันปี (Premillenial) ได้ใช้บทที่ 17 ของพระธรรมวิวรณ์อธิบายว่า เจ็ดหัวนั้นคือกษัตริย์เจ็ดองค์ ซึ่งห้าองค์ได้ล่วงลับไปแล้ว (17:10) คงหมายถึงอาณาจักรในอดีตคือ อียิปต์โบราณ อัสซีเรีย บาบิโลน เปอร์เซีย และกรีก องค์หนึ่งกำลังเป็นอยู่ (17:10) ในช่วงของยอห์น อาณาจักรที่เป็นอยู่ คืออาณาจักรโรมและอีกองค์หนึ่งนั้นยังไม่ได้เป็น (17:10) หลังจากอาณาจักรโรมล่มสลายในปีคริสตศักราช 478 แล้ว จนถึงปัจจุบันยังไม่มีอาณาจักรที่เจ็ดเกิดขึ้น

    แต่แนวโน้มของโลกเสรีในปัจจุบัน มีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ กำลังก้าวไปสู่ความเป็นอาณาจักร แต่ก็มีผู้อธิบายว่าอาจเป็นอาณาจักรโรมที่จะได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อีกครั้งในบทที่ 17 ข้อ 10 ว่าเมื่อเป็นขึ้นมาแล้วจะต้องดำรงอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แล้วสัตว์ร้ายซึ่งเป็นอาณาจักรที่แปดที่มาจากหนึ่งในเจ็ดอาณาจักรนั้นเอง ได้ขึ้นมาเป็นใหญ่และสุดท้ายนำไปสู่ความพินาศ (17:11)

    ส่วนสิบเขานั้น คือ กษัตริย์สิบองค์ที่ยังไม่ได้เสวยราชสมบัติ แต่มีอำนาจอย่างกษัตริย์ ผู้นำเหล่านี้ต่างก็พร้อมใจกันมอบอำนาจให้สัตว์ร้าย และได้ทำสงครามกับพระเมษโปดก (17:12-14) ผู้นำเหล่านี้เป็นใคร มีผู้บอกว่าเป็นประชาคมยุโรป (United States of Europe) ซึ่งมีเจ็ดประเทศเป็นแกนนำอยู่ในขณะนี้ซึ่งจะขยายออกไปเป็นสิบประเทศในที่สุด

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2011
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เหตุผลที่ต้องฝังชิพไว้ที่หน้าผากและหลังข้อมือ

    [​IMG]

    สัญลักษณ์เลข 666 มาจากไหน?

    666 หรือสัญลักษณ์ของสัตว์ร้ายนั้นมาจากพระคำภีร์บทนี้

    วิวรณ์ 13:11-18
    ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้นดิน มีสองเขาเหมือนลูกแกะ พูดเหมือนมังกร มันใช้อำนาจทั้งหมดของสัตว์ร้ายตัวแรก เมื่อสัตว์ร้ายตัวนี้ทำให้แผ่นดินและผู้อาศัยบนแผ่นดินกราบนมัสการ สัตว์ร้ายตัวแรกที่มีบาดแผลฉกรรจ์ถึงตายแต่หายแล้ว สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ทำปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งไฟมันก็ทำให้ตกจากท้องฟ้าลงบนแผ่นดินต่อหน้ามนุษย์ได้ มันใช้ปาฏิหาริย์ที่มันได้รับอำนาจให้ทำได้ เมื่อสัตว์ร้ายตัวแรกหลอกลวงผู้อาศัยบนแผ่นดินให้หลงไป

    โดยชักชวนเขาให้สร้าง รูปปั้นถวายแด่สัตว์ร้ายที่ยังมีชีวิตอยู่แม้ถูกดาบฟันเป็นแผลฉกรรจ์แล้ว สัตว์ตัวที่สองนี้ได้รับอำนาจให้ชีวิตแก่รูปปั้นของสัตว์ร้ายตัวแรก เพื่อให้รูปปั้นนั้นพูดได้ และได้รับอำนาจประหารชีวิตทุกคนที่ไม่ยอมกราบนมัสการรูปปั้นของสัตว์ร้าย สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666

    แต่เลข 666 นั้นก็เป็นสัญลักษณ์อีกเหมือนกันซึ่งก็มีการตีความหลากหลายกันไปมีทั้งแปลออกมาได้เป็น Computer , บาร์โค้ด ฯลฯ ตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะในอนาคตอันใกล้นี้ มนุษย์จะไม่ต้องพกบัตรเครติดหรือบัตรประจำตัวแล้ว เพราะเรากำลังมีสิ่งที่เรียกว่าไมโครชิพ (mocrochip)
    <O:p</O:p
    วันที่ 31 มีนาคม 1969 ธนาคารโลกหรือ IMF ได้ประกาศระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบใหม่โดยไม่ผูกกับธนบัตรหรือทองคำ แต่ไปผูกกับระบบเครติดใหม่โดยใช้ตัวเลขชื่อว่าระบบ S.D.R (Special Drawing Right)

    ในปี 1976 SDR ได้เริ่มดำเนินการโดยใช้ทองคำสำรองการเงิน ซึ่งระบบนี้ประกอบขึ้นโดยใช้หมายเลขซึ่งในหนังสือคอมพิวเตอร์ระหว่างนานาชาติจะกำหนดเดบิตและเครติต (รายรับรายจ่าย) ของสมาชิกแต่ละชาติ ซึ่งระบบเงินตราแบบใหม่นี้ เพื่อจะใช้ได้ในระดับส่วนบุคคล มีความจำเป็นจะต้องประกอบไปด้วย

    1. รหัสระหว่างนานาชาติของผลิตภัณฑ์ (บาร์โค้ด) บาร์โค้ดของสิ้นค้านั้นทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ซื้อขายของ ทั่วโลกจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันดังนี้
    [​IMG]

    และแน่นอน แถบกลางที่เป็นเส้นคู่แบบนี้ || เมื่อถอดในComputer แล้วก็จะอ่านได้เป็นเลข 6 เป็นเหมือนกันกับสินค้าทุกชนิดทั่วโลก(ไม่เชื่อลองเอาบาร์โค้ดของสินค้าที่ซื้อมาเทียบดู จะมีเส้นที่เหมือนกันทุกอันคือเส้นของเลข 666

    2.เครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะซื้อสินค้าเข้าหรือขายสินค้าออก จำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

    3.S.D.R. จำเป็นที่ S.D.R ต้องถูกนำมาใช้ มิใช่แค่ภายในประเทศได้ประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องเป็นในระดับส่วนบุคคลด้วย(รายบุคคล) และใช้ทั่วโลก

    4.หมายเลขบัญชีประจำตัว แต่ละบุคคลต้องได้รับหมายเลขประจำตัว ซึ่งเป็นเลขบัญชีเฉพาะตัวเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์นานาชาติ

    5.หมายเลขที่ประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผาก

    เป็นเรื่องจำเป็นที่ไมโครชิพ จะต้องประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผากโดยแสงเลเซอร์ ซึ่งจะไม่เจ็บและตาเปล่ามองไม่เห็น Dr.Carl W.Sanders นักประดิษฐ์วิชาการและที่ปรึกษาขององค์กรรัฐบาล IBM General Electric,Honeywell และ Teledyne กล่าวว่า

    "การฝังไม่โครชิพนั้นต้องอาศัยพลังงานในการชาร์จไฟ ซึ่งการจะฝังในร่างกายมนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะนำออกมาชาร์จไฟได้ เราจึงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ ซึ่งจะต้องต่อวงจรของชิพให้มีการชาร์จไฟทุกครั้งที่อุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนอุณหภูมิ ได้มีการใช้เงินไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ในการค้นหาจุดของร่างกาย ที่มีการเปลี่ยนอุณหภูมิที่เร็วที่สุด ซึ่งเหมาะแก่การฝังไมโครชิพคือที่ "หน้าผาก" และ "หลังข้อมือ"

    Dr.Carl W.Sanders ยังกล่าวอีกว่า "ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมการประชุม One World เป็นจำนวน 17 ครั้งซึ่งได้มีการถกเถียงกันเรื่องไมโครชิพ การประชุมที่บรัสเซลล์และลักเซมเบิร์ก พยายามโยงการเงินของโลกเข้ามาอ้าง ขณะนี้กำลังมีพระราชบัญญัติเข้าสภา Congress ว่าจะอนุญาติให้ฝังไมโครชิพในทารกแรกเกิด ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสำหรับข้อมูลประจำตัว " นั่นทำให้เรายิ่งระลึกถึงคำทำนายที่ว่า

    " สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้าย หรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666 "

    ที่มา http://darkpun.multiply.com/journal/item/46<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ฝังชิพ.jpg
      ฝังชิพ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      22.4 KB
      เปิดดู:
      1,876
    • LabOnChip.jpg
      LabOnChip.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      100
    • 666.jpg
      666.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      1,831
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2011
  13. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    นำข่าวมาประชาสัมพันธ์ค่ะ


    บรรยายกึ่งเสวนาเรื่อง "ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นประเทศไทย"​


    เวลา
    15 ธันวาคม · 12:00 - 18:00
    สถานที่
    โรงแรมดุสิตธานี ห้องวิมานสุริยา

    สร้างโดย
    Wutikorn Yuphawatthana, Piyacheep S. Vatcharobol


    รายละเอียด
    เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน ขอเชิญชวน ผู้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติ เข้าร่วมการบรรยายเชิงเสวนาที่จะนำเสนอข้อมูลเชิงลึกของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งข้อมูลจากของไทย และอเมริกา ดำเนินรายการโดย อาจารย์ปิยะชีพ ส.วัชโรบล โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรสองท่าน

    - ดร. สมิทธ ธรรมสโรจน์ ที่จะให้ข้อมูลถึงภัยที่จะเกิดขึ้นในประเทศ และภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย ความรุนแรง แนวทางป้องกัน และบรรเทาภัย

    - ดร. ก้องภพ อยู่เย็น ที่จะให้ข้อมูลถึงสาเหตุของพิบัติภัย และการคาดการณ์ล่วงหน้าจากข้อมูลที่ได้มา

    ค่าใช้จ่ายในการร่วมเสวนา สำหรับบุคคลทั่วไป ๑,๕๐๐ บาท บริษัทจำกัด ๒,๐๐๐ บาท โดยรายได้จะนำไปใช้เพื่อ
    ๑. ทุนวิจัยและพัฒนาการเฝ้าระวังและวิเคราะห์ปฏิกิริยาดวงอาทิตย์
    ๒.ทุนปฏิบัติงานเฝ้าระวังและคาดการณ์พิบัติภัย
    ๒. ทุนการอบรมและสอนเชิงปฏิบัติการ อาสาสมัครแนวหน้าเตือนภัย ทุกชุมชนทั่วประเทศ ๘,๔๐๐ คน เพื่อเตรียมการรับมือกับพิบัติภัยที่จะเกิดขึ้นทุกชุมชน

    รับจำนวนจำกัด เพียง ๑๐๐ ท่านเท่านั้น

    สามารถโอนค่าสมัครเข้าร่วมเสวนาได้ที่บัญชี

    ธนาคารกรุงศรีอยูธยา สาขาตลิ่งชัน
    สมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ ๓๘๗-๑-๒๒๐๒๖-๖
    หรือ
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาซิลลิคเฮ้าท์
    ชื่อบัญชี นาง กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติ เลขที่ 860-0-14602-4

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 081 750 0102



    เข้าสู่ระบบ | Facebook
    Piyacheep S. Vatcharobol | Facebook
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2011
  14. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    เน้นอีกทีนะคะ ไม่แน่ใจว่านี่อาจจะเป็นการนัดครั้งสุดท้ายหรือไม่
    สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนการอพยพ และกำลังมองหากลุ่มนะคะ
    นี่เป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จะไปตั้งฐานหลบภัยกันที่ ต.ผาแบ่น อ.เชียงคาน
    จ.เลย ซึ่งเราจะมีนัดประชุมกลุ่มกันปีใหม่นี้นะคะ

    ท่านใดสนใจจะไปร่วมด้วยช่วยกันที่ฐานผาแบ่น เชียงคาน เมืองเลย
    ขอให้ ไปพบคุณอา k_97 ที่หน้าสถานีรถไฟดอนเมือง
    ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าห้องขายตั๋วนะคะ ท่านเป็นชายสูงอายุ
    ตัวเล็กๆ ปกติท่านจะสะพายย่ามไปด้วยค่ะ

    วันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. นี้ เวลา 11.00น. ถึง เวลา 12.00น.
    รายละเอียดพูดคุยกับท่านในวันนั้นเลยนะคะ

    อ่านเพิ่มเติม ฐานผาแบ่น
     
  15. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    ภัยพิบัติ จะมาแว้ว เตรียมตัวกันรึยาง พี่น้อง :cool:
     
  16. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104
    คุณ lazaza ดอนเมืองน้ำลดแล้วหรือยังคะ............อยากไปแต่กลัวน้ำคะ
     
  17. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    ไม่รู้ว่าท่าน k - 97 ต้องการเตือนอะไร..ยังไงครับ
    ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นจังหวัดที่อาจจะเกิดภัยในระยะเวลาอันใกล้
    ส่วน ตัวธอ นี้ แยกตามโซนได้ประมาณนี้

    สุราษฏร์านี , นครศรีรรมราช
    อุทัยานี , พระนครศรีอยุยา
    กาฬสินธุ์ , ยโสร , อุบลราชานี , อุดรานี

    ไม่รู้เกี่ยวข้องกันหรือเปล่านะครับ
     
  18. ยัย fame

    ยัย fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +104


    ตอนที่อ่าน นึกว่า คุณ k-97 พิมพ์ผิด ตัวธอ คิดว่าเป็นตัวเธอ
     
  19. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    อ่านรอบแรกก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
    แต่อ่านช้า ๆ อีกทีก็เห็น

    ฝั่งธอ อาจจะ กำหนด
    อย่าลด ความน่า เชื่อเถือ
    เมื่อมา แล้วจะ ร้องฮือ
    ร่วมมือ ร่วมใจ ป้องภัย

    เมืองใด? จังหวัดไหน? ใครตอบ?
    ขอบอก ตัวธอ ระวัง
    ประกัน ที่อยู่ ควรทำ
    ช่วยค้ำ ทรัพย์สิน ปลอดภัย

    เลยสะดุดตา สะดุดใจ
    และเกิดความสงสัย ขึ้นมาโดยบัดดล
    ใครพอไข ให้ความกระจ่าง โปรดชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับ
     
  20. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    6 ธ.ค. 54

    ธอธง นำหน้า หน้าบุรี
    ไม่มี อยู่ใน สารบบ
    ได้เปิด อดีต ก็พบ
    ขอจบ ทำนาย เท่านี้

    29 พ.ย. 54

    โน๊ตบุ๊ค ภรรยา อาสาซื้อ
    ร่วมมือ ช่วยเหลือ ผู้คน
    เวลา ไม่มี ให้ยล
    รอพ้น น้ำหลาก ค่อยไป

    5 ธ.ค. 54

    ต้องให้ ฉายซ้ำ ย้ำทุกข์
    ถึงลุก ขึ้นมา เตรียมการ
    แค่น้ำ ไม่พอ กระมัง
    เห็นยัง นั่งนิ่ง ดูดาย

    ฉายต่อ ดูท่า น่ากลัว
    ระรัว เต้นดัง ตุ๊บตุ๊บ
    พื้นไหว ให้เห็น ขนลุก
    ปลุกคน ให้สร้าง ความดี

    น้ำท่วม ได้แสดง แจงชัด
    ท่านยัด พึ่งพระ ไม่ได้
    ต้องช่วย ตนเอง ก่อนใคร
    แล้วไซร้ ท่านจะ ช่วยตาม

    น้ำหด ลดไป ใจหาย
    ที่ทาย ดินไหว จะตาม
    ขอยืด เวลา ให้นาน
    เตรียมการ ผาแบ่น ให้ทัน

    ช่วงนี้ มีคน ยลตาม
    สอบถาม เข้ามา หลายราย
    อยากพบ ทุกท่าน ก่อนไป
    นัดไว้ สถานี ดอนเมือง

    เวลา 11น. รอเที่ยง
    อย่าเสี่ยง เกินเลย ที่นัด
    วันที่ 11(ธ.ค.) ผมจัด
    ได้นัด ทุกท่าน พบกัน

    วันนั้น อยากถาม ให้ถาม
    ขอตาม ไปอยู่ ผาแบ่น
    ถูกใจ ถูกจิต ไม่แบน
    ร่วมแดน ผาแบ่น ด้วยกัน

    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...