ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สงครามโลกครั้งที่ 3​

​

พระฮวน พอล วัลเดส

สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจากเหตุการปลงชีพของผู้นำประเทศตะวันออกกลาง สงครามจะถึงจุดสูงสุด เมื่อประเทศตะวันตกทิศเหนือ ไม่อาจยอมทนต่อไปกับการวางระเบิดแบบสละชีพและก่อการร้าย ของชนประเทศตะวันออกกลางต่ออธิปไตยของประเทศ

สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

"การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

นอสตราดามุส

มาบูซ จะตายในไม่ช้า จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์อย่างน่าสยดสยอง ทันใดนั้น การแก้แค้น จะปรากฏขึ้นจาก ร้อยแผ่นดิน ความกระหาย อดอยาก จะเกิดขึ้นเมื่อดาวโคจรผ่านมา

 

ทราบมาว่า บิลลาเดนนี่ตายไปนานแล้ว พวกเพนตากอนนำมาเป็นข้ออ้างในการในการจัดการกลุ่มผู้ก่อการร้าย โดยใช้บิลลาเดนเป็นตัวอ้าง

 

เจอมาในเวบพันทิพครับ

ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องที่อ่านแล้วอาจจะนำความสลดหดหู่และสิ้นหวัง ขอเริ่มต้นด้วยความหวังหลัง "วันโลกาวินาศ" ก่อน จากพุทธทำนายที่ว่า

"องค์พระยาธรรมเจ้าสิลงมาครองโลก หากสิเห็นเที่ยงแท้ให้เพียรสร้างส่วนบุญ หัวทีนั้นพระองค์ทรงยั้งอยู่เมืองใหญ่สีปาด เป็นปัจจุบันเป็นเมืองลานช้างเฮาแท้เที่ยงจริง เผินจักมาเถิงแท้เดือน ๑๑ ขึ้น ๘ ค่ำ ครั้น พ.ศ. ไปเถิงสองพันห้าฮ้อยแล้วปีกุนหน้าเที่ยงจริง "

ความหมาย...หลังเกิดมหาภัยพิบัติ จะมี "พระยาธรรมิกราช" คือพระราชาผู้ทรงธรรม มาปกครองบ้านเมือง และฟื้นฟูพระธรรมคำสอน ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ใน "ปีกุน" หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ไปแล้ว ( เช่น ๒๕๑๔ ๒๕๒๖ ๒๕๓๘ ๒๕๕๐...ทุก ๑๒ ปี) ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยผู้ที่จะมาเป็น "พระยาธรรมิกราช" มีพื้นเพเป็นคน "เมืองล้านช้าง"

ข้อสังเกต...คำว่า "ล้านช้าง" คนภาคกลางมักเข้าใจว่า มีช้างเป็นล้านตัวคือมีช้างเยอะมาก และมักจะชี้ไปที่ "กรุงศรีสัตตนาคนหุต-หลวงพระบาง" ว่าเป็น "เมืองล้านช้าง" แต่ในอีกด้านหนึ่ง ใครที่เป็นคนกาฬสินธุ์ หรือเคยไปกาฬสินธุ์ จะผ่านพื้นที่หนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ภูแลนช้าง" และเรียกกันมาช้านานนานโดยอาจจะไม่รู้ที่มา แต่เมื่อมีการขุดค้นพบ "ฟอสซิลไดโนเสาร์" จึงทำให้นึกภาพออกว่า เวลาที่ คนเราเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าปรกติ ก็จะมีคำสร้อยคำขยายเช่น เมื่อครั้งเกิดสึนามิ คนไทยไม่รู้จักคำสึนามิ เราก็เรียกว่า "คลื่นยักษ์" ทำนองเดียวกับคนในสมัยโบราณ จะนานแค่ไหนไม่สามารถบอกได้ อาจจะเคยเห็น แต่น่าจะเห็นภาพนิมิตปรากฏหรือฝันเห็น "ไดโนเสาร์" ในบริเวณนั้น แต่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร รู้แต่ว่ามันเหมือน "ตัวแลนหรือตะกวด" แต่มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร จึงเรียกว่า "แลนยักษ์" หรือ "แลนช้าง" ต่อมาอาจะเพี๊ยนด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง หรือแสลงกับคำว่า "แลนคือตะกวด" จึงกลายเป็น "ลานช้าง"

ดังนั้น หาแก้ปริศนา "เมืองล้านช้าง" ได้ ก็จะรู้ที่มาของ "พระยาธรรมิกราช"

แต่ที่ยกมาก็เพื่อจะบอกว่า "ฟ้าหลังฝน จะต้องมีความสดใสเกิดขึ้น โลกใหม่ที่อุดมด้วยธรรม" <!--MsgEdited=1-->

[SIZE=-1]แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 48 01:45:46[/SIZE] <!--MsgEdited=1-->[SIZE=-1]แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 48 05:32:54[/SIZE] <!--MsgFile=1-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=1-->ศรีวรุณะอิสโร - [ <!--MsgTime=1-->10 มิ.ย. 48 05:29:43 <!--MsgIP=1-->] <!--pda content="end"-->

 

เจอมาในเวบพันทิพครับ

ก่อนที่จะเข้าสู่เรื่องที่อ่านแล้วอาจจะนำความสลดหดหู่และสิ้นหวัง ขอเริ่มต้นด้วยความหวังหลัง "วันโลกาวินาศ" ก่อน จากพุทธทำนายที่ว่า

"องค์พระยาธรรมเจ้าสิลงมาครองโลก หากสิเห็นเที่ยงแท้ให้เพียรสร้างส่วนบุญ หัวทีนั้นพระองค์ทรงยั้งอยู่เมืองใหญ่สีปาด เป็นปัจจุบันเป็นเมืองลานช้างเฮาแท้เที่ยงจริง เผินจักมาเถิงแท้เดือน ๑๑ ขึ้น ๘ ค่ำ ครั้น พ.ศ. ไปเถิงสองพันห้าฮ้อยแล้วปีกุนหน้าเที่ยงจริง "

ความหมาย...หลังเกิดมหาภัยพิบัติ จะมี "พระยาธรรมิกราช" คือพระราชาผู้ทรงธรรม มาปกครองบ้านเมือง และฟื้นฟูพระธรรมคำสอน ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ใน "ปีกุน" หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ไปแล้ว ( เช่น ๒๕๑๔ ๒๕๒๖ ๒๕๓๘ ๒๕๕๐...ทุก ๑๒ ปี) ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยผู้ที่จะมาเป็น "พระยาธรรมิกราช" มีพื้นเพเป็นคน "เมืองล้านช้าง"

ข้อสังเกต...คำว่า "ล้านช้าง" คนภาคกลางมักเข้าใจว่า มีช้างเป็นล้านตัวคือมีช้างเยอะมาก และมักจะชี้ไปที่ "กรุงศรีสัตตนาคนหุต-หลวงพระบาง" ว่าเป็น "เมืองล้านช้าง" แต่ในอีกด้านหนึ่ง ใครที่เป็นคนกาฬสินธุ์ หรือเคยไปกาฬสินธุ์ จะผ่านพื้นที่หนึ่งซึ่งมีชื่อเรียกว่า "ภูแลนช้าง" และเรียกกันมาช้านานนานโดยอาจจะไม่รู้ที่มา แต่เมื่อมีการขุดค้นพบ "ฟอสซิลไดโนเสาร์" จึงทำให้นึกภาพออกว่า เวลาที่ คนเราเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ใหญ่กว่าปรกติ ก็จะมีคำสร้อยคำขยายเช่น เมื่อครั้งเกิดสึนามิ คนไทยไม่รู้จักคำสึนามิ เราก็เรียกว่า "คลื่นยักษ์" ทำนองเดียวกับคนในสมัยโบราณ จะนานแค่ไหนไม่สามารถบอกได้ อาจจะเคยเห็น แต่น่าจะเห็นภาพนิมิตปรากฏหรือฝันเห็น "ไดโนเสาร์" ในบริเวณนั้น แต่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร รู้แต่ว่ามันเหมือน "ตัวแลนหรือตะกวด" แต่มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร จึงเรียกว่า "แลนยักษ์" หรือ "แลนช้าง" ต่อมาอาจะเพี๊ยนด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง หรือแสลงกับคำว่า "แลนคือตะกวด" จึงกลายเป็น "ลานช้าง"

ดังนั้น หาแก้ปริศนา "เมืองล้านช้าง" ได้ ก็จะรู้ที่มาของ "พระยาธรรมิกราช"

แต่ที่ยกมาก็เพื่อจะบอกว่า "ฟ้าหลังฝน จะต้องมีความสดใสเกิดขึ้น โลกใหม่ที่อุดมด้วยธรรม" <!--MsgEdited=1-->

[SIZE=-1]แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 48 01:45:46[/SIZE] <!--MsgEdited=1-->[SIZE=-1]แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 48 05:32:54[/SIZE] <!--MsgFile=1-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=1-->ศรีวรุณะอิสโร - [ <!--MsgTime=1-->10 มิ.ย. 48 05:29:43 <!--MsgIP=1-->] <!--pda content="end"-->

 

ภัยพิบัติจะเริ่มเกิดขึ้น เมื่อ พ.ศ. ล่วงเลย ๒๕๐๐ ปีไปแล้ว นับตั้งแต่ปี เถาะ..มะโรง..มะเส็ง แต่ไม่รู้ พ.ศ.เท่าไหร่? แต่ มี "ประโยคปริศนา" ที่น่าสนใจ จากพุทธทำนายที่ว่า...

"อานนท์เอ๋ยหากสิเห็นเที่ยงแท้ภายสร้อยศาสนา พอมาเถิงห้องพระยาลิงปีวอก คนสิออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล "

ความหมาย...พระพุทธองค์ตรัสกับพระอานนท์ว่า "ภัยพิบัติครั้งใหญ่" นี้ จะเกิดขึ้นเมื่อศาสนาเสื่อมโทรม (คำว่า "สร้อย" หมายถึง เสื่อมโทรม ขาดวิ่น) โดยที่ เมื่อถึง "ปีวอก" ผู้คนจะพากันออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล ประโยคนี้คงไม่ต้องแปล แต่ต้องตีความหมาย

เงื่อนเวลา...ปีวอก หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้แก่ พ.ศ. ๒๕๑๑ ๒๕๒๓ ๒๕๓๕ ๒๕๔๗ ๒๕๕๙ ๒๕๗๑ .....

"คนจะพากันออกจากบ้านเดินเข้าสู่ทะเล "

ประโยคข้างต้นนี้อาจจะตีความได้ต่างๆ นานา หากไม่เกิด เหตุการณ์ "สึนามิ" ในวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ตรงกับปี "วอก" เราจึงเห็นภาพ "คนที่อยู่ในบ้านถูกคลื่นซัดสาดและถูกกวาดถูกดึงลงไปสู่ท้องทะเล"

หรือ "ปีวอก" ในพุทธทำนายคือ "ปี พ.ศ. ๒๕๔๗" ที่ผ่านมา! <!--MsgFile=2-->

จากคุณ : <!--MsgFrom=2-->ศรีวรุณะอิสโร - [ <!--MsgTime=2-->10 มิ.ย. 48 05:50:46 <!--MsgIP=2-->] <!--pda content="end"-->

 

จับตา‘รอยเลื่อน-เขื่อนแตก’(1)ไทยพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว​

จากการศึกษาเก็บข้อมูลรอยเลื่อนที่มีผลกระทบต่อตัวเขื่อนศรีนครินทร์ ของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ครั้งล่าสุด พบข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจมากคือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อยู่ในเขตประเทศพม่า เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และมีรอยเลื่อนที่ชัดเจนมาก โดยรอยเลื่อนดังกล่าวจะค่อย ๆ เลือนหายไปเมื่อเข้ามาในเขตประเทศไทย
“พื้นที่ตามแนวรอยเลื่อน ซึ่งมีเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนเขาแหลม รวมอยู่ด้วยนั้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวอาจทำให้เขื่อนแตกได้”
การออกมาเปิดเผยข้อมูลด้านรอยเลื่อนของเปลือกโลกของนักวิชาการด้านแผ่นดินไหว ได้สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี
การตื่นตระหนกเรื่องเขื่อนแตกไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อเกิดครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกาะสุมาตราจนเป็นเหตุให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ก็ทำให้ชาวกาญจนบุรีแตกตื่นเพราะมีข่าวเขื่อนศรีนครินทร์แตกมาแล้ว
ดร.ปริญญา นุตาลัย นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว ระบุว่า ก่อนที่เขื่อนศรีนครินทร์จะถูกสร้าง วิศวกรชาวญี่ปุ่นสมัยนั้นไม่ได้นำข้อมูลเรื่องแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวมาพิจารณาในการก่อสร้างเลย เพราะยังไม่มีความรู้เรื่องแนวรอยเลื่อนเท่ากับปัจจุบัน
ในขณะที่ นายธำรง ธวัชชัยประชา อดีตวิศวกรโยธา กฟผ. ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาที่ดูแลรักษาเขื่อนศรีนครินทร์มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ก็ออกมากล่าวยอมรับว่า ขณะที่ก่อสร้างเขื่อนไม่ได้ฟังคำทัดทานของนักวิชาการเลยว่าอาจจะเกิดอันตรายได้ หากสร้างเขื่อนทับแนวรอยเลื่อนเพราะมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวสูง
พอหลังเขื่อนสร้างเสร็จ บริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดน และแคนาดาซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) จ้างมาตรวจสอบประเมินเขื่อนจากข้อมูลเรื่องการเกิดแผ่นดินไหว ก็ได้ผลสรุปออกมาเหมือนกันว่า
กาญจนบุรี อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขนาด 7.5- 8.0 ริคเตอร์ และยังแนะนำให้ กฟผ. เร่งเสริมความแข็งแรงของ เขื่อนด้วย
เพราะหากเขื่อนศรีนครินทร์แตก จะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างครอบคลุมพื้นที่ถึง 13 จังหวัด
จากข้อมูลระบุว่า จุดการเกิดแผ่นดินไหวเริ่มไล่ขึ้นมา เรื่อย ๆ จากตอนกลางของเกาะสุมาตรา ขึ้นมาตอนบน หมู่เกาะ อันดามัน และนิโคบาร์
และจากนี้นักธรณีวิทยากำลังจับตามองรอยเลื่อนของเปลือกโลก “สะแกง” (Sakaing Fault) ในพม่า ซึ่งถือเป็นรอยเลื่อนขนาดใหญ่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวสูง
นอกจากนี้ยังมีรอยเลื่อนอื่น ๆ ที่น่าเป็นห่วงอีก อย่างเช่น รอยเลื่อนเมย กับรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน ระยะห่างกัน 10 กิโลเมตร ซึ่งจะเชื่อมต่อกับที่ จ.ตาก โดยในรอยเลื่อนเมย เป็นรอยเลื่อนที่ต่อเนื่องมาจากรอยเลื่อนสะแกงของพม่า
รอยเลื่อนบริเวณนี้ถือว่าเป็นรอยเลื่อนที่ยังมีพลัง ดังจะเห็นได้จากการเกิดแผ่นดินไหวในเขตพม่าอยู่บ่อยครั้ง
และอย่างที่บอกแล้วว่า จุดการเกิดแผ่นดินไหวมันสูงขึ้นเรื่อย ๆ มาตามรอยเลื่อน ซึ่งนักวิชาการด้านแผ่นดินไหวระบุว่า รอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่นั้นจะเลื่อนลงมาถึงรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์ ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่แนวเดียวกับที่สร้างเขื่อนศรีนครินทร์นั่นเอง !!!
มีหลักฐานชี้ชัดว่ารอยเลื่อนด่านเจดีย์สามองค์เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริคเตอร์มาแล้ว และในปี 2526 ก็เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5 ริคเตอร์ จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณนี้ซ้ำอีก
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวยังระบุอีกว่า สภาพโครงสร้างของเขื่อนศรีนครินทร์เป็นเขื่อนหินทิ้ง ประกอบด้วย ดินและหินหลายประเภท มีดินเหนียวเป็นแกน เมื่อปลูกสร้างเป็นเวลานานก็ทำให้ใต้เขื่อนอ่อนลงอันเนื่องมาจากการทรุดตัวของดินอย่างช้า ๆ
หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอาจจะทำให้เขื่อนพัง แต่ถ้าไม่รุนแรงถึงก็อาจทำให้น้ำกระฉอก ทะลักออกมาและท่วมพื้นที่รอบเขื่อนได้.
(คอลัมน์:หมายเหตุประชาชน)

 

พบรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์เคลื่อนตัวตลอดเวลา จี้วางระบบเตือนภัย เตรียมแผนอพยพ

เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวยกข้อมูลล่าสุดเตือน พบรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์เคลื่อนตัวตลอดเวลา จี้วางระบบเตือนภัย เตรียมแผนอพยพ ดูแล 2 อำเภอในเมืองกาญจน์เป็นพิเศษ เชื่อแค่ไหวไม่ถึง 7.5 ริกเตอร์ เขื่อนศรีนครินทร์-เขาแหลม มีโอกาสแตกสูง อดีตวิศวกร กฟผ.อ้างข้อมูลบริษัทที่ปรึกษา 3 ประเทศ ระบุหากเขื่อนแตก น้ำจะท่วม 13 จว. </STRONG>

คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเวทีสัมมนาการเสี่ยงต่อภัยพิบัติและอันตรายจากการพิบัติของเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ขึ้นที่สำนักงาน กสม.เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มกราคม โดยมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ตัวแทนจากบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเดิมเข้าร่วม ทั้งนี้ ในเวทีสัมมนามีการเปิดเผยข้อมูลที่ค้นพบใหม่จากนักวิชาการผู้ชำนาญการเรื่องแผ่นดินไหว ที่อาจจะนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ ปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนที่มีพลังมหาศาลหากเกิดแผ่นดินไหวอาจทำให้เขื่อนแตกได้

ดร.ปัญญา จารุศิริ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหว กล่าวว่า จากการศึกษาเก็บข้อมูลรอยเลื่อนที่มีผลกระทบต่อตัวเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งทำร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ครั้งล่าสุด พบข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจมากคือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อยู่ในเขตประเทศพม่า เคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และมีรอยเลื่อนที่ชัดเจนมาก โดยรอยเลื่อนดังกล่าวจะค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเข้ามาในเขตประเทศไทย

"จากข้อมูลนี้ทำให้วิตกว่าพื้นที่ที่ถูกขนาบด้วยรอยเลื่อนคืออำเภอไทรโยค และสังขละบุรี (จ.กาญจนบุรี) ที่อยู่ติดกับชายแดนพม่าอาจได้รับอันตราย เราสำรวจพบว่าบริเวณดังกล่าวมีชุมชนอยู่ 550 หลังคาเรือน สะพาน 38 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดต่างๆ อีก 5 แห่ง รวมทั้งเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนเขาแหลม พื้นที่เหล่านี้ต้องได้รับการดูแลพิเศษเรื่องการเตือนภัย และเตรียมแผนอพยพไปสู่ที่ปลอดภัยให้พร้อม" ดร.ปัญญากล่าว

ดร.ปริญญา นุตาลัย นักวิชาการด้านแผ่นดินไหว กล่าวว่า ก่อนที่เขื่อนศรีนครินทร์จะถูกสร้างขึ้นมานั้น เคยคุยกับวิศวกรชาวญี่ปุ่น สมัยนั้นไม่ได้นำข้อมูลเรื่องแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวมาพิจารณาในการก่อสร้างเลย สำหรับข้อมูลที่ กฟผ.อ้างอยู่ตลอดเวลาที่มีการถกเถียงเรื่องแผ่นดินไหวแล้วทำให้เขื่อนแตกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเขื่อนนี้สร้างไว้รองรับการไหวของแผ่นดินได้ถึง 7.5 ริกเตอร์นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะในอดีตก่อนสร้างไม่ได้นำเรื่องนี้มาเป็นตัวตั้ง และยังไม่มีความรู้เรื่องแนวรอยเลื่อนเท่ากับปัจจุบัน

"พื้นที่ตามแนวรอยเลื่อน ซึ่งมีเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนเขาแหลมรวมอยู่ด้วยนั้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวใต้เขื่อน ไม่จำเป็นต้องถึง 7.5 ริกเตอร์ เขื่อนก็มีโอกาสแตกอยู่ดี" ดร.ปริญญากล่าว

นายธำรง ธวัชชัยประชา ซึ่งร่วมในเวทีสัมมนาครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นอดีตวิศวกรโยธา กฟผ.ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาที่ดูแลรักษาเขื่อนศรีนครินทร์มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง

"ยอมรับว่า ขณะนั้นผมมีความฮึกเหิมอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ มั่นใจระบบการก่อสร้าง และไม่เคยยอมฟังคำทัดทานของใคร โดยเฉพาะอาจารย์ปริญญาที่ค้านมาตลอดว่าอันตรายมากที่สร้างเขื่อนทับแนวรอยเลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหว กระทั่งเขื่อนสร้างเสร็จระยะหนึ่ง กฟผ.ให้บริษัทที่ปรึกษาจากสหรัฐอเมริกา สวีเดน และแคนาดา ตรวจประเมินเขื่อนจากข้อมูลเรื่องการเกิดแผ่นดินไหว ทั้ง 3 แห่ง สรุปผลออกมาเหมือนกันว่าจังหวัดกาญจนบุรีอาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขนาด 7.5-8.0 ริกเตอร์ นั่นคือ มากกว่าที่ กฟผ.ออกแบบเขื่อนไว้ 500-4,000 เท่า และทั้งหมด แนะนำให้ กฟผ.เพิ่มมาตรการเสริมความแข็งแรงของเขื่อน" นายธำรงกล่าว

นายธำรงกล่าวว่า ที่ กฟผ.บอกกับสาธารณะว่าเขื่อนรับแรงไหวของแผ่นดินได้ 7.5 ริกเตอร์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะความจริงคือ ตัวเลข 7.5 ริกเตอร์ ที่เขื่อนจะรองรับความเสียหายได้ จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว จะต้องห่างจากตัวเขื่อนมากกว่า 250 กิโลเมตร แต่จากข้อมูลใหม่และความรู้ในปัจจุบัน พบว่าแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวที่มีพลังนั้น อยู่บริเวณเดียวกับที่เขื่อนสร้างอยู่นั่นเอง

นายธำรงกล่าวว่า บริษัทที่ปรึกษาเหล่านั้นยังระบุอีกว่าหากเขื่อนศรีนครินทร์แตกแล้ว โอกาสที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุม 13 จังหวัด 65 อำเภอ เป็นพื้นที่ถึง 7,500 ตารางกิโลเมตร หรือราว 4,700,000 ไร่ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น น้ำจะไหลมาถึงเขตบางกอกน้อย ตลิ่งชัน ธนบุรี ภาษีเจริญ จอมทอง ราษฎรบูรณะ และบางขุนเทียน ภายใน 35 ชั่วโมง และ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จะเจอสภาพหนักสุด คือ น้ำจะไหลสู่ อ.เมือง ภายใน 5 ชั่วโมง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 11 ชั่วโมง

"สมัยที่ผมอยู่ กฟผ.รู้สึกสำนึกผิดที่มีส่วนร่วมให้เกิดเขื่อนแห่งนี้ขึ้น หลังจากทราบข้อมูลจากหลายๆ ฝ่ายแล้ว จึงเขียนบันทึกขึ้นมา 25 หน้า ขอให้ กฟผ.เปลี่ยนเครื่องวัดระดับน้ำที่ท้ายเขื่อน เพื่อเพิ่มมาตรการเตือนภัย เพราะมาตรวัดล้าสมัยมาก รวมทั้งข้อมูลเรื่องรอยเลื่อนต่างๆ แต่บันทึกดังกล่าว ต้องผ่านผู้ใหญ่หลายระดับ ผมพยายามติดตาม แต่กระทั่งออกมาจาก กฟผ.ก็ยังไม่ได้ข่าวว่าบันทึกที่ผมทำขึ้นมานั้น ไปอยู่ที่ไหนกับใคร แต่ผมก็สำเนาเอกสารเก็บเอาไว้" นายธำรงกล่าว

ขณะที่นายแกว่น สีตะธนี ผู้จัดการฝ่ายบำรุงรักษาโยธา กฟผ. ซึ่งนั่งในเวทีนี้ด้วย กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.มีแผนป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากเขื่อนแตกอยู่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อเกิดข้อมูลใหม่ๆ ขึ้น กฟผ.ก็ได้เพิ่มการกวดขันในการตรวจสอบรอยร้าวรอยรั่วของเขื่อนเพิ่มมากขึ้น


ที่มาหนังสือพิมพ์มติชน หน้า 1
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php
?s_tag=01p0104250149&day=2006/01/25

 

<TABLE width="100%"><TBODY><TR width="100%"><TD colSpan=2>เอารูปจาก google earth มาฝาก จุดแดงๆคือจุดที่เคยเกิดแผ่นดินไหว จะสังเกตุได้ว่าอยู่เหนือเขื่อนเลย น่ากลัวจัง...

เคยหาข้อมูลเมื่อนานมาแล้วเกี่ยวกับแผ่นดินไหวบริเวณนี้แต่จำไม่ได้ว่าเอาข้อมูลไปไว้ไหน หาไม่เจอ เลยมีแต่รูปนี้มาฝาก

ตอนนี้ขอเพียงแค่ทางการจะมีมาตรการในการรับมือให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด คงไม่เพียงแค่ออกมาปกป้องตัวเองปฎิเสธแล้วก็ไม่ทำอะไรเลย กรณีสึนามิคงเป็นตัวอย่างที่ดี ตอนที่คุณสมิทออกมาเตือน ถ้าไม่มัวมานั่งด่า แต่จัดทำเครื่องเตือนภัย ประชาชนคงตายน้อยกว่านี้
</TD></TR><TR width="100%"><TD width="90%">โดย: ปุลินท์ [29 ม.ค. 49 22:45] ( IP A:61.47.113.67 X: )</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คำเตือนจากพาราซิทัล
มนุษย์ต่างดาว
(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)​

ท่านพาราซิทัล-มนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร ได้มาเตือนภัยพิบัติในปี 2547-2548 (โดยการยิงแสงให้ถ่ายภาพบนท้องฟ้า 2 ครั้ง เมื่อ 3,21 กุมภาพันธ์ 2547)ให้ระวังไว้ให้ดี มี 3 ข้อ

1) การระเบิดบนดิน- การระเบิดของการก่อการร้ายที่จะแพร่กระจายมากขึ้น
2) การระเบิดใหญ่ใต้ดิน- แผ่นดินไหวใหญ่ใต้ดิน ซึ่งจะมีทั้งภาคใต้และกรุงเทพฯให้ระวัง
3) การถูกระเบิดตายของคนสำคัญ เขาให้คนสำคัญ(ไม่ได้ระบุชื่อ)ให้ระวังอันตรายถึงชีวิต แสดงภาพให้เห็นคนหัวขาด แขน ขา และตัวขาดจากระเบิด เขาไม่ได้บอกเวลา สถานที่ แต่ให้ระวังตลอดปี 2547-2548......

(จากหนังสือภาพผี พิสูจน์ผี ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน)



พาราซิทัล-ได้ทำนายล่วงหน้าว่า ในที่สุดประเทศไทย จะกลับไปสู่สภาพเดิมเหมือนแต่แรก คือ แผ่นดินเหลือ 3 แห่ง ที่เหลือจะกลับไปอยู่ใต้น้ำทะเลทั้งสิ้น!!!.....ตรงไหน จังหวัด อำเภอใดจะเหลืออยู่บ้าง ไม่จมน้ำหายไปก็ดูเอาเองนะครับ ใน 5 ส่วน เหลือ 3 ส่วนตรงส่วนบน-กลาง-และล่างสุด ส่วนที่หายไป คือ ภาคกลางเกือบทั้งหมดรวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑล และภาคใต้ตอนล่าง......เหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดของเมืองไทยที่กลัวกันมากนี้ ก็คงเป็นคราวนี้แหละครับ คือน้ำท่วมใหญ่ อาจเรียกว่าน้ำท่วมโลกก็ได้ เพราะหลายประเทศที่เป็นเกาะ อยู่แถวๆใกล้เมืองไทยที่โดนกวาดเรียบหมด ญี่ปุ่นเองขณะนี้ได้สร้างเมืองไว้กลางทะเลหลายแห่งเตรียมไว้แล้วเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ใช้เทคโนโลยี่ก่อสร้างชั้นสูงฝังเสาเข็มลึกมากมีลูกลอยป้องกันพายุ แผ่นดินไหว ได้ด้วย(ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการก่อวร้าง) แล้วเมืองไทยไม่มีใครคิดสร้างเตรียมการไว้บ้างหรือครับ มีหลายท่านบอกต่างกันว่าเหตุการณ์สำคัญนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต10 ปีข้างหน้า บวกลบ 2 ปี บางคนก็บอกว่าไม่เกิน 40 ปี บางคนก็บอกว่าคนที่มีลูกโตทำงานแล้ว ก็ตายก่อนที่จะได้เห็นภาพเหล่านี้(ผมเองไม่อยากเห็นหรอกนะ ไม่อยากให้เกิดขึ้นด้วยซ้ำไป).....ทราบและรู้มา ก็นำมาเล่าสู่กันฟัง จะเชื่อหรือไม่ แค่ไหนก็แล้วท่านจะพิจารณาเอาเอง......ท่านพาราซิทัล เป็นใคร มาจากไหน สำคัญอย่างไร กรุณาตามผมไปดูที่เว็บบอร์ดbuddhapoem.com นะครับ....

ผู้แสดงความคิดเห็นAdmin ( ) วันที่ลงประกาศ 13-10-2005 21:36:22

ดังหนังสือดังกล่าว ยังบอกด้วยว่า คำทำนายนี้ ตรงกับคำทำนายของนายไมเคิล กอร์ดอน สแกลอน จากสหรัฐอเมริกา และดร.ปริญญา ตันสกุล จากประเทศไทย(เขา-พาราซิทัล ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ ดร.ปริญญาฯติดต่ออยู่ด้วย เป็นผู้ที่มาจากดาวพฤหัส และติดต่อใกล้ชิดกับพวกดาวอังคารและดาวพระศุกร์........
มีอีกหลายท่านที่กล่าวเตือนภัยธรรมชาติคล้ายๆแบบที่พาราซิทัลบอกไว้ เช่น อ.ศักดา สกุลพนารักษ์ ดร.อาจอง ชุมสายฯ ธรรมญาณ และหมอประสาน(ทำนายเหตุเกิด 2012 อีก 7 ปีข้างหน้า ซึ่งใกล้เคียงในระยะลบ 2-3 ปีจากเรื่องข้างต้นที่กล่าวมา

ผู้แสดงความคิดเห็นเนิน นราธร ( nern_naratorn@hotmail.com ) วันที่ลงประกาศ 14-10-2005 06:37:01
​

อย่างเร็ว 7 ปี อย่างช้า 12 ปี แต่หากผู้มีบุญได้กระทำการค้ำยันดวงเมืองโดยอาราธนาสิ่งศักดิ์มาช่วยเสริมพลังบารมีอาจจะนานออกไปอีกหน่อย แต่ไม่เกิน 30 ปี แน่นอน
ท่านทั้งหลายที่ได้อ่านข้อความนี้ส่วนมากจะมีโอกาสเห็นภัยพิบัติครั้งนี้ ก็เร่งขวนขวายหาที่พักพิงใหม่ได้แล้ว
ที่ราบสูงโคราชน่าเป็นสถานที่ที่ควรพิจารณา จงเร่งคิดเร่งทำโดยไม่ประมาทเถิดเพราะหากภัยมาถึงตัวแล้วไม่หาทางป้องกันก็ถือว่าจบ อย่าเป็นคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
บุคคลระดับ ดร. อาจอง ไม่พูดเล่นหรือเหลวไหลแน่นอน
ท่านผู้เจริญพึงพิจารณา

ผู้แสดงความคิดเห็นมาราธิราช ( mangmohcool@yahoo.com ) วันที่ลงประกาศ 24-10-2005 15:39:18

ที่มา http://www.o2blog.com/myblog/blog.php?month=&year=&user=ufoiloveyou&page=&syear=&smonth=&sdate=&style=1&id=23

 

พาราซิทัล-เอ๊ดดี้.......บุคคลสำคัญ(มนุษย์ต่างดาว)!!!

​

ถาม-พาราซิทัลและเอ๊ดดี้ เป็นใคร? มาจากไหน? มีความสำคัญอย่างไร มีบทบาทอะไรที่เกี่ยวข้องกับโลกเราและเมืองไทย รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ? มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ?

ตอบ-ท่านพาราซิทัล เป็นมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร เป็นผู้หญิง ผู้ขับขี่ยานยูเอฟโอ ตำแหน่งเป็นรองพระเจ้าแผ่นดิน ชื่อแปลว่า"เหนือมนุษย์" ไม่ใช่เทวดา พรหมหรือผี แต่เป็นมนุษย์ต่างดาว อยู่ในชั้นใต้ดินของดาวอังคาร มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม จริยธรรมสูงกว่ามนุษย์มาก มีอายุยืนหลายพันปี สามารถพิชิตโรคทุกชนิดได้หมดแล้ว อยู่ในมิติที่ 6(เราอยู่มิติที่ 3) เขาอ้างว่า เขาเดินทางไปในอดีตและอนาคตได้ และหยุดเวลาได้ เรียกว่า"มนุษย์พิเศษ"มีหน้าที่มาช่วยโลกนี้เมื่อเกิดภัยพิบัติ เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน(ชื่อพีระติ-ดาวอังคาร) ซึ่งจากมา 5 พันปีแล้ว บ้านหมอก็ยังอยู่เป็นแก้วยอดผลึกแหลมๆปิดตายมานานแล้ว เพราะเจ้าของ ภรรยา ลูก 2 คน ได้ลงมาปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์(ประสานงานระหว่างโลกกับต่างดาว)......

เนิน นราธร ( nernnaratorn@hotmail.com ) :: 13-10-2005 22:32:58

ท่านเอ็ดดี้-มนุษย์ต่างดาวจากดาวพระศุกร์ เป็นผู้ตรวจการระหว่างดวงดาว พวกนาซ่าตั้งชื่อนี้ให้ พูดภาษาไทย แขก อังกฤษได้หมด มาจากสุดขอบจักรวาลห่างออกไป 50 ล้านปีแสง จานบินของเขาเคยมาตกที่สันกำแพง เชียงใหม่เมื่อปี 1958ตกริมภูเขา เคยมาเมืองไทยเมื่อ800ปีมาแล้วสมัยกรุงสุโขทัย รู้จักกับเจ้าอาวาสวัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูนดีมาก ติดต่อกันอยู่เสมอ ให้เบอร์โทรศัพท์กันด้วย เป็นผู้ขับขี่ยูเอฟโอ มาสมัยพญาลิไทที่เรียกว่าจักรแก้ว นั่นเขาก็มาจริง.....

ชัย วังหน้า ( ) 14-10-2005 08:24:48

​

รูปแรกเป็นชื่อของท่านพาราซิทัลและท่านเอ็ดดี้จากดาวอังคารและดาวศุกร์ รูปที่สองถัดมา เดิมเป็นสถานที่ร้าง เป็นที่ฝึกอาวุธของเทพ พรหมฝ่ายปราบปราม กล่าวว่าปัจจุบันเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว กลางทางของท่านเอ็ดดี้ ผู้ตรวจการจักรวาล คล้ายๆกับคฤหาสน์บ้านเมืองโบราณ ไม่มีแสงสว่าง แต่มีความสว่างอยู่ในตัวเอง เห็นได้โดยจิต ในอีกมิติหนึ่ง........

พรหมเรศร์ ( promres@gmail.com ) 15-10-2005 10:52:29
ที่มา http://www.o2blog.com/myblog/blog.p...you&page=&syear=&smonth=&sdate=&style=1&id=24

 

เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว....
(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ)
​

ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาว......
​

มนุษย์ต่างดาว มีจริงหรือไม่ ? อยู่ที่ไหนกันบ้าง? รูปร่างหน้าตา เทคโนโลยีเขาเป็นอย่างไรบ้าง นัยว่าพวกเขาถือศีล 8 ไม่กินเนื้อสัตว์เคร่งครัด จริงหรือไม่ แค่ไหน อย่างไร? ระบบการสื่อสารของพวกเขาไปถึงขั้นติดต่อกันด้วยจิต สั่งงานต่างๆกันด้วยจิต จริงหรือเปล่ากันครับ??

มนุษย์นอกโลก ( worldout@yahoo.com ) :: 24/01/2548


<TABLE id=AutoNumber1 style="WIDTH: 481px; BORDER-COLLAPSE: collapse; HEIGHT: 154px" borderColor=#ffff00 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=481 border=1><TBODY><TR><TD width="100%" bgColor=#00ffff>

จานบิน-จานผี ​

</TD></TR><TR><TD width="100%">

จานบินหรือจานผีจากนอกโลก ทำจากวัศดุอะไร?เครื่องยนต์ทำด้วยอะไร?มีขีดความสามารถในการบินอย่างไรแค่ไหนในการใช้งานคะ?

From: วันทนีย์ วนะภูติ [3 Nov 2004 20:19]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

**จานบิน/จานผี** ทำจากแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่มีความเบามากและถักทอกับใยแมงมุมยักษ์ที่เหนียวและนุ่ม จานบินของเขาทนต่อแรงเสียดสีของชั้นบรรยากาศ ป้องกันความร้อน ความเย็นได้ บินใต้ทะเลก็ได้ ใช้การจุดระเบิดของนิวเคลียสของน้ำเป็นพลังงานปรมาณู โดยการยิงของแสง ใช้พลังงานของแสงอาทิตย์เป็นตัวจุดชะนวนระเบิด ใช้หลักกลศาสตร์พลังงานที่ไม่รู้จบ ความรู้360องศา ใช้พลังจิตชั้นสูงได้ เครื่องยนต์Copyมาจากพลังจิต เหมือน CPUของComputer ตัวมนุษย์เองก็Copyมาจากจิตครับ........

From: ธรรมญาณ 4 Nov 2004 15:54

<TABLE id=AutoNumber1 style="WIDTH: 492px; BORDER-COLLAPSE: collapse; HEIGHT: 153px" borderColor=#ffff00 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=492 border=1><TBODY><TR><TD width="100%" bgColor=#00ffff>

มนุษย์ต่างดาว ​

</TD></TR><TR><TD width="100%">

ในจักรวาลนี้มีมนุษย์ต่างดาว ที่ดาวดวงไหนบ้างคะ มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง?

From: ช่อผกา [27 Sep 2004 18:21]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

มนุษย์ต่างดาว ส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้าเห็นก็คล้ายเราท่านทั้งหลายนี้แหละ แต่มีวิชาการและวิวัฒนาการที่ก้าวหน้ากว่ามนุษย์เยอะมาก เขาสามารถสร้างยานไร้แรงดึงดูด มีอาวุธที่ประหลาด เป็นคล้ายแสงเลเซอร์ที่มนุษย์เรียก สามารถทำร้ายอวัยวะภายในได้โดยที่ภายนอกไม่เป็นอะไร อย่างนี้เป็นต้น

From: เทวดา 28 Sep 2004 06:07

**ดาวอังคาร**.......มีมนุษย์โลกพระอังคาร ตัวจะเล็กกว่าโลกมนุษย์หนึ่งเท่า หัวจะโตกว่าของโลก ตาก็โตกว่า.......วิทยาศาสตร์ก้าวหน้ากว่าโลกเรา200ปี ความเป็นอยู่ ไม่ได้อยู่ที่เปลือกดาวเหมือนโลก แต่อยู่ในดาว เพราะอากาศเย็นจัด เก่งทางด้านวิทยาการ การสืบพันธุ์ โคลนนิ่งเป็นสิ่งธรรมดาของมนุษย์ต่างดาว มีนิ้วข้างละ6นิ้ว........

^^ดาวพระศุกร์^^........มีรูปร่างใหญ่กว่าในโลกเรา1เท่า มีนิ้วมือข้างละ3นิ้ว วิทยาศาสตร์ก้าวหน้ากว่าโลก400ปี อยู่ใต้ผิวดาวเหมือนกัน เพราะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ ใช้ CO2(คาร์บอนไดออกไซด์)เป็นอากาศในการหายใจ ความรู้ทางจิตสูง มีพลังจิตสูง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เจริญถึง 360 องศา ในขณะที่ความรู้
ทางอากาศยานของโลก ยังเป็นปลาช่อนปลาชะโดอยู่เลย มีอายุประมาณ400ปี มีสภาวะกึ่งเทพกึ่งมนุษย์ มีจิตบริสุทธิ์กว่าคนในโลก มีการสืบพันธุ์กันทางจิต เพราะโลกเขาเจริญทางจิตกว่าโลกมนุษย์มาก......

<<ดาวพุธ>>.........ก็มีมนุษย์อาศัย เป็นคนที่มีภูมิรู้ภูมิธรรมสูงมาก เราจึงเรียกดาวพุธ มีมนุษย์ที่สวยกว่ามนุษย์ในโลกมาก สืบพันธุ์กันทางจิต เป็นดาวที่สวยงามมากในจักรวาล.........

From: ธรรมญาณ 29 Sep 2004 15:49

เมื่อวานท่านธรรมญาณ กับคุณแสงจันทร์ไปประชุม ณ สถานที่แห่งหนึ่ง มีประธานที่ประชุมเป็นมนุษย์ต่างดาวจากโลกพระศุกร์ลงมาครอบกายมนุษย์ มีแสงสีเงินยวงออกจากกาย ผู้ฝึกจิตมีสมาธิดีเห็นกันตั้ง4-5คนด้วยตาเนื้อ ได้มีการพูดถึงแคปซูลแพร่พันธ์มนุษย์ต่างดาวในคนโลกเรา เพื่อยกระดับพัฒนาจิตขึ้นมาให้สามารถอยู่ในโลกใบนี้ได้ต่อไป เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้ไปฟังเห็นปรากฏการณืครั้งนี้ด้วย เสียดายครับเสียดายจริงๆ......

From: ธรรมจักร 11 Oct 2004 11:14

ตอนนี้เบื้องบนส่งมนุษย์ต่างดาวลงมาเกิดเป็นมนุษย์โลกเราจำนวนมาก มีไอคิวเกิน 1,000ทั้งสิ้น เป็นหนุ่มสาวแล้วก็มีเยอะ เดินไปมาอาจชนไหล่กับคุณบ้างก็ได้ นัยว่ามนุษย์ปัจจุบันสอนธรรมกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องแล้ว ต้องเอาพวกนี้ลงมาช่วยแจมบ้าง รูปร่างเขาจะค่อนข้างบอบบางร่างโปร่งเหมือนเด็กฮาร์ตสมัยก่อนๆนั่นแหละ พวกนี้เขาไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ฟังเหตุผลมากๆ......มีคนบอกมาหลายคนแล้ว วันหลังผมจะลองไปคุยด้วย แล้วจะเอามาเล่าสู่กันฟังบ้างครับ........

ชอบเรื่องลึกลับ ( ) 7 Mar 2005 21:15

ที่มา http://www.o2blog.com/myblog/blog.p...you&page=&syear=&smonth=&sdate=&style=1&id=26

 

​

<CENTER>โลกร้อน อาจไม่ใช่เรื่องจริง </CENTER>
<!--detail--><!--images--><!--images-->โลกร้อน อาจไม่ใช่เรื่องจริง
ผมบอกเองคงไม่เชื่อ ลองฟังความเห็นของเหล่าศจ.ดู

รองศจ.คริส นักอากาศวิทยา
ถ้าอัลกอร์หัดดูข้อมูลซะบ้าง เขาจะเห็นว่าระดับน้ำทะเลลดลงในหลายจุดของมหาสมุทรแปซิฟิก

ดอกเตอร์นิล นักธรณีฟิสิกส์โบราณและธรณีพลศาสตร์
เราไม่พบว่าระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ในที่หลายแห่งอย่างเช่นมัลดีฟ โทวาลู ฯลฯ

ดอกเตอร์พอล แผนกแมลงและโรคติดต่อ
อัลกอร์บอกว่าโลกร้อนทำให้ยุงบินขึ้นที่สูง จริงๆแล้วเราพบยุงในที่สูงมาตั้งนานแล้ว

ดอกเตอร์มิตเชล ผู้บริหารสถาบันวิจัย
จากข้อมูลของเราพบว่าหมีขาวมีจำนวนคงที่หรืออาจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ยังสรุปไม่ได้ว่าโลกร้อนมีผลใดๆ

ดอกเตอร์พีต อดีตศจ. ภาควิชาฟิสิกส์
อัลกอร์บอกว่ากรีนแลนด์ละลายอย่างมากในช่วง 1992-2005 แต่กอร์เล่นเลือกปี 1992 ที่อากาศเย็นเป็นพิเศษ
ถ้ากอร์เลือกปี 1991 เป็นตัวเทียบแล้ว เขาจะพบว่าการละลายมากกว่าแค่ 1% เท่านั้นเอง สรุปไม่ได้ว่าแผ่นน้ำแข็งกำลังละลาย

ดอกเตอร์แกรี่ ศูนย์อากาศวิทยา
มหาสมุทรกำลังจะเย็น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศไม่สามารถทำให้ปะการังตายจนหมดได้
CO2 ที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ทำให้ปะการังตายเช่นกัน เพราะว่ามันเป็นเหมือนสารอาหารพื้นฐานของปะการัง

ดอกเตอร์คาร์เตอร์ ศูนย์วิจัยธรณีฟิสิกส์ทางทะเล
น้ำแข็งขั้วโลกที่กรีนแลนด์และแอนตาร์กติกกำลังหนาขึ้น อุณหภูมิที่ขั้วโลกลดต่ำลงกว่า 1 องศาตั้งแต่ 1950
และทะเลน้ำแข็งก็เพิ่มขึ้นในช่วง 20 ปี

ดอกเตอร์มอร์แกน องค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก
จากข้อมูลพบว่าความหนาของน้ำแข็งขั้วโลกไม่ได้ลดลงตั้งแต่ปี 1970

ร็อบ ผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศป่าไม้
อัลกอร์บอกว่าต้นสน MPB เป็นพืชต่างถิ่นที่สร้างความเสียหาย ซึ่งเป็นผลจากโลกร้อน
จริงๆแล้วสนชนิดนี้ก็ขึ้นอยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว การแพร่ของสนชนิดนี้เกิดขึ้นจากการที่เราไม่ตัดไม้และควบคุมไม้ในป่า

Professor Bob Carter of the Marine Geophysical Laboratory
ข้อโต้แย้งของอัลกอร์มันห่วยจนดูน่าสมเพช เหลือเชื่อจริงๆที่มีคนสนใจหนังเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

Former University of Winnipeg climatology professor Dr. Tim Ball.
ข้อมูลที่พวกโลกร้อนกล่าวมานั้นเป็นข้อมูลเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งโลก การทำนายด้วยโมเดลนั้นเชื่อถือไม่ได้

Carleton University paleoclimatologist Professor Tim Patterson
ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างระดับ CO2 กับอุณหภูมิของโลก ที่จริงแล้วเมื่อ 450 ล้านปีก่อน CO2 สูงกว่านี้เป็น 10 เท่า
แต่โลกกลับเย็นแบบสุดขั้วในรอบ 500 ล้านปี

Dr. Boris Winterhalter, former marine researcher at the Geological Survey of Finland and professor in marine geology
การที่น้ำแข็งละลายในหนังของอัลกอร์นั้น เป็นการขยายตัวของน้ำแข็งตามปกติ ซึ่งทำให้น้ำแข็งขั้วโลกมีปริมาณสูงขึ้นต่างหาก

Dr. Wibjorn Karlen, emeritus professor, Dept. of Physical Geography
แผ่นน้ำแข็งบางส่วนของบริเวณนี้ในแหลมแอนตาร์คติกได้แตกตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติ
ถึงอุณหภูมิแถวนี้จะร้อนขึ้น แต่มวลรวมของแผ่นน้ำแข็งก็สูงขึ้น เพราะหิมะตกมากขึ้น หิมะจึงล้นไหลไปสู่ทะเล
แผ่นแอนตาร์กติกอยู่มาหลายล้านปีแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่มันจะละลาย

Dr. Dick Morgan, former advisor to the World Meteorological Organization and climatology researcher
ความหนาของแผ่นน้ำแข็งแคนาเดียนอาร์คติกลดลงบ้าง แต่ก็ยังไม่ละลาย น้ำแข็งเพิ่มๆลดๆจนเท่าเดิมในปี 2001
โลกเย็นลงในหลายส่วน massive areas of cooling are found in the North and South Pacific Ocean;
the whole of the Amazon Valley; the north coast of South America and the Caribbean;
the eastern Mediterranean, Black Sea, Caucasus and Red Sea; New Zealand and even the Ganges Valley in India
IPCC ประเมินว่าโลกร้อนขึ้นเพราะใช้มาตรฐานการประเมินที่ "ไม่ปกติ"

Dr. Roy Spencer, Principal Research Scientist at The University of Alabama in Huntsville.
เป็นเรื่องปกติที่บางจุดจากบรรดาเมืองนับพันแห่งจะมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่เฉลี่ยแล้วพบว่าอุณหภูมิเป็นปกติ
อัลกอร์เป็นความอับอายของวงการ

Dr. Ian Clark, Professor of Earth Sciences at the University of Ottawa, Canada
อัลกอร์บอกว่า CO2 เป็นมลพิษที่ทำให้โลกร้อน แต่จริงๆแล้ว CO2 เป็นอาหารของพืช สิ่งจำเป็นต่อการสังเคราะห์แสง
สมมุติฐานที่ว่าการเพิ่มขึ้นของ CO2 เกิดจากมนุษย์นั้นยังไม่ได้รับการพิสูจน์

University of Ottawa climate researcher, Professor Jan Veizer
CO2 ไม่ได้ทำให้โลกร้อน แต่โลกร้อนต่างหากที่ทำให้ CO2 เพิ่มขึ้น โลกเย็นลงในช่วง 1940 - 1980
ซึ่งเป็นเวลาที่ CO2 เพิ่มขึ้นด้วยอัตราสูงสุดในประวัติศาสตร์มนุษย์โลก อัลกอร์ไม่พูดถึงการที่ไอน้ำเป็นก๊าซเรือนกระจก
ตัวสำคัญที่ส่งผลถึง 95%

Former Environment Canada research scientist and EW specialist Dr. Madhav Khandekar found
ไม่มีสภาพอากาศรุนแรงเกิดขึ้นในแคนาดาในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาหรืออนาคต ความแห้งแล้งก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเป็นปกติในอดีต

Dr. Tad Murty, former senior research scientist, Canadian Department of Fisheries and Oceans,
ในแอ่งมหาสมุทรทั้งหกที่มักเกิดพายุโซนร้อน พบว่าจำนวนพายุน้อยลง

Dr. Max Mayfield, Director of the National Hurricane Center in Miami
โลกร้อนไม่เกี่ยวกับความถี่ของเฮอริเคนในแอตแลนติกเหนือ แต่เป็นปรากฏการณ์อื่นที่เรียกว่า North atlantic oscillation

Institut Pasteur (Paris) Professor Paul Reiter
หนังของอัลกอร์เป็นโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวงทั้งเพ


จาก http://www.canadafreepress.com/2006/harris110706a.htm
http://www.canadafreepress.com/2006/harris061206.htm

 

ผมมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไปจากความเห็นข้างบนนี้ครับ

นักวิชาการ (ที่ไร้จริยธรรม) นั้นมีอยู่มากมาย ที่จริงแล้วการทำงานวิจัยที่ก่อให้เกิดผลโน้มเอียง โดยอาศัยปัจจัยหรือตัวเลขบางตัวให้มีผลการวิจัยออกมาตามที่บริษัทผู้ให้ทุนวิจัยต้องการนั้นเป็นเรื่องปกติ ในต่างประเทศครับ

แต่ ณ เวลานี้ ทุกคนบนโลกได้พบกับความเป็นจริง ที่เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์แล้ว ที่ว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติ มีมากขึ้น ถี่ขึ้น และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

หากมนุษย์ทุกคนบนโลกยิ่งเพิกเฉย ต่อความรับผิดชอบนี้ คุณทุกคนคิดว่าจะสามารถอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุขได้หรือ

ถึงเวลานั้น ถึงมีเงินล้นฟ้า มีอำนาจคับโลก ก็ไม่อาจจะหาสถานที่ปลอดภัยจากภัยพิบัติได้

งานวิจัย และการล้อบบี้นักวิชาการ(ที่ไร้จริยธรรม) ให้ออกมากลบเกลื่อน และปิดบังความผิด นั้น เหมาะสมหรือไม่ หาก ในสมัยนั้น อัล กอร์ ไม่ถูกโกงการเลือกตั้งที่ รัฐฟลอริด้า ปัญหาโลกร้อนจะถูกแก้ไข การดำเนินการก่อสงคราม เพื่อการแย่งชิงทรัพยากรน้ำมันก็จะไม่เกิดขึ้น ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็จะไม่เกิดรุนแรงขนาดนี้ และสงครามนิวเคลียร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ก็จะยุติลง

สรุปว่าเป็นความผิดของ ... ใครดี

อัลกอร์ ....

ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งของสหรัฐ....

แอนตี้ไครท์......

กรรมของทุกๆคนบนโลก....

หรือทุกๆข้อ

 

ผมว่า นักวิทยาศาสพวกนี้กำลังจะบอกว่า การเผาผลาญเชื้อเพลิงในอุตสาหกรรมต่างๆ ในรถยนต์ สารเคมีที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจกเช่นสารcfcการขยายตัวของสังคมอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดการปล่อยกาซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก ไม่มีผลกระทบต่อโลก

 

ข้อมูลน้ำจะท่วมโลกเร็วๆนี้ โดย ดร.วรภัทร ภู่เจริญ

Manager Room สนทนาประสานักบริหาร
กระทู้ที่ 1029:MSN กับ อาจารย์ ขอนแก่น ท่านหนึ่ง

Aj. P..... says:
อาจารย์ขา สวัสดีค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:
สวัสดี



ariyachon@hotmail.com says:
เอาบุญมาฝาก จากอินเดีย



Aj. P.... says:
ขอบพระคุณค่ะ รับเต็มเลยนะค่ะ



Aj. P..... says:
ได้ 2 บุญด้วย จาก คุณทวีสิน กับอาจารย์



ariyachon@hotmail.com says:
ไปอินเดีย จิตจะ อิ่มบุญมากๆ ปิติเกิดตั้งแต่ เครื่องยังไม่ลงเลย



Aj. P..... says:
ทราบจากคุณทวีสินว่า 15-17 พค อาจารย์จะมาขอนแก่น



ariyachon@hotmail.com says:
อาทิตย์นี้ ผมจัดงาน จิบน้ำชา ฉายภาพไปอินเดีย และ สอนธรรมะ ที่ ซอยทองหล่อ ทั้งวัน



ariyachon@hotmail.com says: ใช่



Aj. P..... says:
ทำไมเกิดจ ิตอิ่มบุญเกิดได้ค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:
เกิดแล้ว ก็รู้ตัวว่าเกิด จากนั้น พิจารณาว่า ดี ก็เลยไม่ดับมัน เพราะ นานๆ เกิดที แต่ ถ้าเป็นจิตอกุศล พอรู้ ก็ตบ ข่ม ดับไปเลย



Aj. P..... says:
ที่คณะเกษตรกำลัง อยากจะเชิญอาจารย์มาเล่าเรื่อง LO+KM ค่ะ



Aj. P..... says:
คล้ายๆ เหมือนกับเรารู้สึกว่ามีความสุขมั้ยค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:
ดี เพราะ กำลัง อยาก ไป เมล็ดพืช เมืองหนาว หลังน้ำท่วม จะมีประโยชน์



Aj. P..... says:
งงค่ะ " เมล็ดพืช เมืองหนาว หลังน้ำท่วม จะมีประโยชน์" หมายความว่าอย่างไรค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่ จิตเป็นสุข ก็รับรู้ สักพัก ก็ดูว่า มัน ดับลงไป เมื่อไร แต่ จิตเป็นทุกข์เนี่ย ตบทิ้ง ตั้งแต่ ก่อตัวเลย ไม่ปล่อยให่ เยื้อนยื้อ



ariyachon@hotmail.com says:

หลังน้ำท่วมโลก เพราะ global warming เราจะกลายเป็นประเทศหนาว พืชเมืองร้อนจะ ตาย หรือแกรนหมด มีแต่ คนที่ สะสม เมล็ดพืชเมืองหนาว ที่จะเอาออกมาแจกจ่าย ให้ คนได้ปลูก จึงจะช่วยชีวิตคนที่อยู่รอดหลังน้ำท่วม ครั้งใหญ่ นี้ได้ อีก สองปี กว่าเอง



Aj. P.... says:

ค่ะ งั้นเวลาที่เราทำดีหรือได้ให้ แล้วรู้สึกว่า มีความสุข ก็คือจ ิตอิ่มบุญ มั้ยค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่ ทำดี จะ รู้สึก สบายๆ และ ถ้า นึกถึง ความดี ของ พระพุทธเจ้า ของในหลวง หลวงปู่ หลวงพ่อ เราจะเกิดปิติ



Aj. P..... says:

จะเกิดจริงๆ หรอค่ะอาจารย์ global warming... แป๋วไม่ชอบหนาวค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

หนาวประมาณ สวิส คงไมหนาวขนาด ขั้วโลก มี หลายฤดู



ariyachon@hotmail.com says:

หนาวแบบญี่ปุ่น



ariyachon@hotmail.com says:

เมษานี้ จะพา ครอบครัวไปญี่ปุ่น



Aj. P..... says:

หนาวแบบญี่ปุ่นก็ไม่ไหวค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ไปเที่ยว



ariyachon@hotmail.com says:

ไม่เคยไปเลย



Aj. P..... says:

ไปเที่ยวหรอค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่



ariyachon@hotmail.com says:

เมีย อยู่บ้าน นานๆ ต้องพาไปเที่ยว ปีละครั้ง



Aj. P.... says:

ญี่ปุ่นมี 4 ฤดู ฤดูหนาวก็เอาเรื่องเหมือนกันค่ะ



Aj. P..... says:

ดีค่ะ รับรองภรรยาอาจารย์ดีใจมากๆ



ariyachon@hotmail.com says:

ก็ไม่รู้ จะทำไง เพราะ หลังน้ำท่วมโลก ยุโรป เป็น ICe age เราก็เลย หนาวตาม



ariyachon@hotmail.com says:

อยากได้ เมล็ดพืช เมืองหนาว จาก ญี่ปุ่น เอาแบบที่ ไม่เป็นหมัน



ariyachon@hotmail.com says:

อากาศ ที่ ปากช่อง ปลูกแบบเมืองหนาวได้



ariyachon@hotmail.com says:

ไม่ทราบที่ ม ขอนแก่น มี อจ ท่านใด พอจะ เก่งเรื่อง พืชหนาวไหม เรื่องเม็ดพันธ์ไหม



ariyachon@hotmail.com says:

ดร แสวง ? ได้ไหม



Aj. P..... says:

ดร แสวงเก่งเรื่องดิน และพืชมเองร้อนมังค่ะ



Aj. P..... says:

พืชเมืองหนาวอาจเป็นอาจารย์ทางพืชสวน เช่น อ.วิไลลักษณ์



Aj. P..... says:

อาจารย์ขาแป๋วไม่แน่ใจนะค่ะ ว่าคนที่คณะเกษตรเค้าจะเชื่อเรื่อง global warmimg



ariyachon@hotmail.com says:

ก็ ไม่ต้อง บอกเขาก็ได้ เอาหนัง Inconvenient truth ไปฉาย



ariyachon@hotmail.com says:

เชื่อไม่เชื่อ แต่ ก็ทำ เพราะ การบริหารความเสี่ยง



ariyachon@hotmail.com says:

ตอนนี้ มี คน สะสม พืช เมล็ดพันธ์ แค่ 400 ราย ทั่วโลก



ariyachon@hotmail.com says:

ของไทย ก็มี คุณเดชา เก็บ พันธ์ข้าว คุณโจน จันใด ก็เก็บบ้าง ผมก็ พยายามจะ เริ่ม



Aj. P..... says:

ในหนังเป็นน้ำแข็งไปหมดเลยนะค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่



Aj. P..... says:

ข้าวพันธุ์หนาวมีด้วยหรอค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ประมาทไม่ได้ ใจ ก้ไม่อยากให้เกิด แต่ ถ้าเกิด เราไม่พร้อม ก็เรียกว่า ประมาท



ariyachon@hotmail.com says:

ข้าว ฟ่าง ข้าว บาเล่ย์ ข้าวญี่ปุ่นสั้นๆ



Aj. P..... says:

ค่ะ ใช่ข้าวญี่ปุ่นก็พันธ์หนาวแต่ก็ปลูกในฤดูที่ไม่หนาวมาก เตรียมไว้บ้างก็ดีนะค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ใน หลวง สอนเรา เรื่อง พอเพียง + พืชเมืองหนาว พอดีได้ใช้แน่ๆ



Aj. P..... says:

เวลาเกิด เค้าค่อยๆ เกิดหรือ หรือทันทีเหมือนในหนังค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ปลูก ฤดูอบอุ่น เพราะ เราจะมี สี่ ฤดู



ariyachon@hotmail.com says:

เกิดแบบฉับพลันครับ



ariyachon@hotmail.com says:

น้ำจะขึ้นแบบ สุนามิ สูง 75 เมตร วิ่ง จาก กทม ไป ถึง นครสวรรค์ ภายใน ประมาณ 8 ชม



Aj. P..... says:

มันจะร้อนทันที แล้วทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายทันทีอย่างนี้หรอค่ะ



Aj. P..... says:

คนก็ตายกันเยอะแยะซิค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

น้ำท่วม ไม่ใช่ เพราะ น้ำแข็งละลาย แต่ เกิดจาก สายพานแอตแลนติกขาด น้ำอุ่นไม่ขึ้นไปช่วยซีกโลกเหนือ ความเย็นจึงก่อตัว ทำให้ ขั้วเหนือกลับมาเป็นน้ำแข็ง ตั้งแต่ ขั้วโลก จนถึง อิตาลี



ariyachon@hotmail.com says:

ปริมาณน้ำแข็ง จะดัน ให้น้ำทะเล เขตศูนย์สูตร ปลิ้นขึ้น มาท่วมครับ



ariyachon@hotmail.com says:

ยุโรป อเมริการ ตาย กันหมด เอชียโดนท่วมสูง ขอนแก่นรอดครับ



ariyachon@hotmail.com says:

ค้นได้ที่ Atlantic conveyor ครับ เป็น วิชาการมากๆ ไม่ใช่ ไสยศาสตร์ ไม่ใช่ หมอดู



Aj. P..... says:

แล้ว สายพานแอตแลนติกขาด เกิดได้อย่างไรค่ะ



Aj. P..... says:

แล้วพวกประเทศที่เป็นเกาะอีกละค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

เพราะ น้ำแข็ง จาก กรีนแลนด์ จากขั้วโลก โดน ความร้อนที่ไม่กลับไป เนื่องจาก ชั้น CO2 ปิดกั้น



ariyachon@hotmail.com says:

ในการท่วม ครั้งหลังสุด ก็เกิดเรื่องแบบนี้ น้ำแข็งละลายเป็น ความเย็น ไปตัดประแสน้ำอุ่น gulf stream พอ gulf หยุด ก็ทำให้ ลาบาดอร์ หยุดด้วย



ariyachon@hotmail.com says:

ญี่ปุ่น ไต้หวัน ตายหมด



ariyachon@hotmail.com says:

ยกเว้น บนเขาสูง อาจรอด



Aj. P..... says:

ฟังดูน่ากลัว



Aj. P..... says:

แล้วกรุงเทพละค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ที่ ญี่ปุ่น เขาเตรียมพร้อมแล้ว มี อุปกรณ์ ยังชีพ มีเครื่องกรองน้ำแบบประจำบ้าน



ariyachon@hotmail.com says:

กทม ตายหมด



Aj. P..... says:

จะอยู่ได้กี่วันละค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

สวิส ก็พร้อม



Aj. P..... says:

แล้วอาจารย์ละค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ประชุม ทั่วโลก ไปเมื่อ เดิน มค. ที่ ปารีสแล้ว



Aj. P..... says:

เรื่องนี้หรอค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

อจ. จะ อยู่ปากช่อง ดูแล ผู้คน สอนคน



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่ ประชุม global w ระดับโลก Scientist เป็นร้อยๆ



ariyachon@hotmail.com says:

อาจารย์จุฬา ศึกษาหลายท่าน ม ขอนแก่น น่าจะมีด้วยนะ เรื่องใหญ่ขนาดนี้



Aj. P..... says:

ไม่เห็นเค้าพูดกันค่ะ



Aj. P..... says:

เคยได้ยินมาหน หนังสือพิมพ์ ก็ประโคมข่าว



ariyachon@hotmail.com says:

ไม่มีใคร กระตุ้น กลัวโดนหาว่าบ้า



Aj. P..... says:

แต่ท้ายที่สุดก็บอกว่าไม่จริง



Aj. P..... says:

ค่ะ เกรงเค้าจะว่าเพี้ยน



ariyachon@hotmail.com says:

นักข่าวไม่เชื่อ แต่ นักวิจัย เชื่อ นักข่าว ไม่เรียน วิทย์



ariyachon@hotmail.com says:

ผมก็เลย ไม่ค่อยพูดไง ทำไปเรื่อยๆ ใครไม่เชื่อ ก็ตายไป



ariyachon@hotmail.com says:

ถ้าไม่เกิด ก็เสมอตัว



Aj. P..... says:

ดีค่ะ อาจเตือน เกริ่นๆ เพราะถ้าจริงจังเกินไป เค้าจะว่าเพี้ยน เพราะเค้าไม่เชื่อกัน



Aj. P..... says:

ถ้าไม่เกิดก็แย่เลย



ariyachon@hotmail.com says:

น้ำท่วมโลก คราวก่อน ปริมาณ CO2 แค่ 300 ppm เอง แต่ ตอนนี้ วัดได้ 600 ppm แล้ว มัน น่าจะท่วมได้ ทุกวินาที



Aj. P..... says:

เพียงแต่บอกว่ามีสมมตฐาน



Aj. P..... says:

คงเหมือนล้างโลกใหม่เลยนะค่ะ



ariyachon@hotmail.com says:

ผมใช้ หลัก Risk assessment เกิดไม่เกิด เราก็ เตรียมไว้



ariyachon@hotmail.com says:

ใช่ ดร อาจอง บอกว่า โลก จะ reset เพราะ เราบริโภคนิยม ทำลายโลก มาจน ห้ามไม่ได้แล้ว



ariyachon@hotmail.com says:

โลก ต้อง รักษา สมดุล เรา ถล่มเขา โลกเขาก็ ถล่มเรา



ariyachon@hotmail.com says:

บายๆ

http://www.managerroom.com/forums/forum_posts.asp?TID=1029&KW=msn

 

เป็นข้อมูลที่เราควรรวบรวมไว้ครับ หากท่วม กทม. จนถึงนครสวรรค์ใน 8 ชม. ที่ระดับความสูง 75 เมตร โอกาศที่คน กรุงเทพจะรอดต่ำมาก นอกจากจะรู้ก่อนไปก่อนเท่านั้นครับ

 

จะมีสิ่งคัดกรองพวกท่านที่เชื่อ ออกจากพวกเขาที่หมิ่นแคลน บัญชีรายชื่อถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง

 

สาธุ ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>เส้นใยประหลาดหล่นจากฟ้าพิษณุโลกหลังฝนหยุดตก </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>19:02 น. ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกระหว่างเวลา 15.00-17.00 น. ที่ผ่านมา หลังจากฝนหยุดตกได้เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาด มีเส้นใยสีขาวคล้ายใยแมงมุมตกลงมาจากท้องฟ้า โดยล่องลอยไปตามกระแสลม และเกาะติดกับหลังคาบ้าน ต้นไม้ ประชาชนชาวพิษณุโลกที่ทราบข่าวได้มายืนเฝ้าสังเกตการณ์ภายนอกอาคาร และคอยเก็บเส้นใยมาตรวจสอบดู พบว่ามีลักษณะเป็นเส้นยาว บางๆ และมีความเหนียวคล้ายใยแมงมุม บางเส้นได้รวมตัวกันเป็นกระจุกใหญ่ ขณะที่บางเส้นยังคงสภาพเดิม คือเป็นเส้นบาง ๆ ยาว ๆ ติดอยู่บนต้นไม้</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>คลื่นยักษ์หาดแม่รำพึงคร่าเหยื่อที่2ภายใน3วัน </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>14:25 น. กลุ่มนักเรียนจากวัดทรงธรรม อ.พระประแดงจ.สมุทรปราการ เดินทางมาท่องเที่ยวชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง จำนวน 22 คน อาจารย์อีก 1 คน ได้เดินลงมาเล่นฟุตบอลบริเวณชายหาด จากนั้นได้ไปลงเล่นน้ำ และมีคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามา ซึ่งทำให้นักเรียนชั้น ม.6 ลอยกระจัดกระจายในทะเล ส่วนคนที่อยู่บนฝั่งต่างก็ไปช่วยกันนำขึ้นมายังบนฝั่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เจ้าหน้าที่นำส่งรพ.ระยองแล้ว อาการปลอดภัย ส่วน นายวัชรินท์ วัฒนา อายุ 18 ปี ที่จมน้ำสูญหายไปนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวหน่วยอาสา และหน่วยกู้ภัย ได้ช่วยกันค้นหาร่างนายวัชรินทร์ กว่า 2 ชม. พบศพนายวัชรินทร์ ใต้ท้องทะเล ห่างฝั่งประมาณ 50 เมตร และได้นำศพขึ้นมาแล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของอาจารย์และเพื่อนๆ ส่วนศพนายวัชรินทร์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ส่งชันสูตรที่ รพ.ระยอง ก่อนติดต่อญาติมารับศพต่อไป
</TD></TR></TBODY></TABLE>


ตอนนี้ถึงไม่เกิดแผ่นดินไหวก็เกิดคลื่นยักษ์ได้ เปนเรื่องปกติไปแล้วครับ