ธรรมะ สวดมนต์ สมาธิ และผลที่ได้จากการปฏิบัติ ของจริงหรืออุปาทานครับ

ถ้าจิตเราเป็นสมาธิ ทรงอารมณ์ ไม่มีนิวรณ์5 ไม่มีความกังวล เป็นอารมณ์ที่เป็นสมาธิอย่างแท้จริง ในสามธินั้นไม่มีอุปาทานไม่มีครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกไว้ครับ

 

จริงเช่นนั้นเพราะมีอุปาทานจึงต้องพิจารณาถึงเหตุให้เข้าใจได้ท่องแท้ การปฎิบัติจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ กล่าวคือจะขาดสมถะ หรือ วิปัสนาก็ไม่ได้ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ยังจะทำให้เราไปไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน หากสมถะเปรียบเป็นรถ วิปัสนาเป็นน้ำมันจะขาดสิ่งใดก็ไม่ได้ เพราะมีรถแต่ไม่มีน้ำมันรถก็ไม่วิ่ง หรือ มีแต่น้ำมันไม่มีรถก็ไปไม่ได้ หากไม่มีอุปาทานในการปฎิบัติเราจะพบหนทางดับทุกข์ได้อย่างไร ทางเหล่านี้คือทางเอกไม่มีหนทางอื่นที่จะนำเราให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

ผมก็คิดเหมือน จขกท. นะครับในส่วนนี้ เพราะถ้าเป็นแบบที่ จขกท. กล่าวสังคมเราคงจะหาคนเลวได้ยากเต็มที เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เพราะที่เราเห็นคนรวยๆ ทั้งหลายก็มาจากการทำไม่ดีทั้งนั้น ส่วนคนดีๆ ก็เป็นได้แค่เครื่องมือหากินของคนรวยๆ อีกทีหนึ่ง

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้สนใจมาก คิดเสียว่าเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า ถ้าเราเกิดมาแล้วมีความรู้สึกละอายและเกรงกลัวต่อบาปก็ถือว่าเรามีบุญแล้วนะครับ ยิ่งมาเจอศาสนาพุทธนี่แทบจะโคตรมีบุญเลย

เพราะฉนั้นอย่าไปสงสัยเรื่องนี้เลยครับ ตั้งใจปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นดีกว่า