ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    POLICY: แคนาดาทุ่มพันล้านดอลลาร์ ดันรถสาธารณะไฟฟ้า! และสถานีชาร์จทั่วประเทศ เพื่ออากาศสะอาด ลดมลพิษ
    .
    ในแคนาดา ถึงขนส่งสาธารณะอาจไม่เป็นที่ต้องการในช่วงของการแพร่ระบาดที่ผ่านมา รัฐบาลก็ตั้งใจที่จะทำให้มันกรีน เมื่อรองรับวันที่สถานการณ์กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ผ่านการให้ขนส่งของประเทศเป็นมิตรต่อโลกอย่างแท้จริง
    .
    ด้วยความต้องการนี้ รัฐจึงลงทุน 2.75 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อเปลี่ยนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถบัสและรถโรงเรียน ให้กลายเป็นรถบัสพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 5 ปี ทั้งหมดรวม 5,000 คัน เริ่มตั้งแต่ปี 2021 นี้
    .
    ซึ่งตอนนี้ทางรัฐก็ได้สนับสนุนให้มีการซื้อรถบัสไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปแล้ว 300 คัน
    .
    และจำนวนเงิน 2.75 พันล้านนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของงบ 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดาที่รัฐบาลตั้งใจใช้ไปการอัพเกรดขนส่งสาธารณะทั้งหมดของประเทศ
    .
    แน่นอน นอกจากพลังงานสะอาดแล้ว ทางรัฐบาลก็หวังว่าก้าวใหม่นี้จะสร้างงานให้กับชาวแคนาดา อย่างเช่นผู้ผลิตรถบัสยี่ห้อต่าง ๆ อย่าง Nova Bua, Green Power และ New Flyer มากขึ้น และช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในแคนาดาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานและการสื่อสารของแคนาดา Catherine McKenna เผยว่า “ขนส่งสาธารณะที่ดีขึ้น จะนำมาซึ่งอากาศที่ดีขึ้น ท้องถนนที่สงบขึ้น และโลกที่ปลอดภัยสำหรับลูกหลานเรา นั่นก็คือเป้าหมายของการลงทุนซื้อรถบัสพลังงานสะอากาศทั้งหมดในแคนาดา”
    .
    นอกจากนี้ ที่ผ่านมา แคนาดาก็พยายามที่จะให้ประชาชนใช้ชีวิตที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลง ผ่านการให้เงินสนับสนุน เพื่อเป็นแรงจูงใจในการลดการปล่อยก๊าซ และขยับเข้าสู่สังคมพลังงานสะอาดมากขึ้นอีกด้วย
    .
    Source
    1. https://www.engadget.com/canada-investment-to-electrify... (ข่าว)

    2. https://www.just-auto.com/.../canada-invests-in-electric... (ข่าว)

    3. https://electrek.co/.../canada-announces-2-75-billion.../ (ข่าว)
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    POLLUTION: ไฟป่าหายนะ วิจัยใหม่ชี้ ควันไฟป่าอันตรายต่อสุขภาพรุนแรง หนักกว่ามลพิษจากท่อรถ และอื่นๆ
    .
    งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications เผยว่ามลพิษจากควันไฟป่านั้นมีความอันตรายต่อสุขภาพมากกว่าอนุภาคมลพิษอากาศแย่ที่มาจากแหล่งอื่นๆ อย่างรถยนต์ โดยการศึกษานี้เก็บข้อมูลโดยนักวิจัยจากมหาลัย University of California ที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลปัญหาสุขภาพ
    .
    การศึกษานี้เกิดขึ้นจากที่สหรัฐอเมริกาและพื้นที่ต่างๆมีปัญหาไฟป่าเพิ่มขึ้น อย่างในปีที่ผ่านมาในหลายรัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเองก็มีวิกฤตไฟป่า และควันที่ฟุ้งไปทั่วเมืองต่างๆ
    .
    การศึกษานี้ดูข้อมูลเกี่ยวกับด้านสุขภาพใน 14 ปีที่ผ่านมา และพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของผู้คนที่เข้าโรงพยาบาลถึง 10% ในแคลิฟอร์เนียในช่วงที่มีไฟป่า Tom Corringham หนึ่งในผู้ทำงานวิจัยนี้เผยว่าโดยปกติแล้ว เมื่อไฟป่าทำลายพื้นที่ต่างๆมักจะมีการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างด้านด้านความเสียหายของทรัพย์สิน แต่ไม่ค่อยมีการศึกษาทางสุขภาพ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
    .
    ในการศึกษานี้ได้มุ่งเน้นไปด้าน PM2.5 ที่เป็นอนุภาคที่มาจากควันไฟป่า อนุภาคเล็กๆนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ และเข้าไปในปอด หรือ
    กระแสเลือดได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงในปัญหาระบบทางเดินหายใจ หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และเส้นเลือดอุดตัน
    .
    นักวิจัยเผยว่าสถานการณ์ไฟป่าเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ การที่เราจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน และทำให้สภาพภูมิอากาศมั่นคงนั้นจะเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
    .
    Source
    1. https://www.nature.com/articles/s41467-021-21708-0

    2. https://www.npr.org/.../study-finds-wildfire-smoke-more...
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภายในปี 2565 "หลอดพลาสติก" ใช้ครั้งเดียวทิ้งเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ ครม.ไฟเขียวให้ยกเลิกการใช้จากทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้วแบบบาง, กล่องโฟมบรรจุอาหาร, แก้วพลาสติกบางความหนาน้อยกว่า 100 ไมครอน และหลอดพลาสติก ยกเว้นการใช้ในกรณีจำเป็น ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้โรดแมปการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573
    .
    หลอดแบรนด์ Strawry ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเตรียมจะตั้งโรงงาน แต่บังเอิญเจอพิษโควิดจึงชะลอโครงการลงทุนออกไปก่อน ขณะนี้จึงนำเข้าหลอดจากเวียดนามมาจำหน่ายไปก่อน ซึ่ง วิวรรธน์ สุเชาว์อินทร์ เจ้าของแบรนด์ Strawry บอกที่มาของชื่อว่า หลอดกินได้คือ "หลอดที่มีเรื่องราว" เป็นการเล่นคำระหว่าง straw กับ story
    .
    เหตุที่มันกินได้เพราะทำจากแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลัง ใช้งานต่อครั้งนานถึง 6 ชั่วโมง เหมือนเส้นสปาเก็ตตี้ที่แช่น้ำที่อาจจะพอง แต่ไม่ยุ่ยหรือเปื่อย หลังการใช้งานงานสามารถทิ้งลงดินให้ย่อยสลายได้เองภายใน 30 วัน
    .
    "เราคิดว่ารักษ์โลกที่สุดแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวหรือไม่ แต่ใช้งานได้นานประมาณ 6 ชั่วโมง อยากทำความเข้าใจเรื่องการใช้งานว่าการจะรักษ์โลกมันต้องมีเงื่อนไขการใช้และการเก็บรักษาที่ต้องทะนุถนอมด้วย เพราะหลอดกินได้ก็เหมือนอาหารอย่างหนึ่งที่ต้องแคร์มันมากกว่าการใช้หลอดพลาสติก
    .
    "แต่ใช้แล้วทิ้งได้เลยไม่ต้องแยกขยะ ต่างจากหลอดพลาสติกที่ต้องแยกเพราะรีไซเคิลยาก ซึ่งเมื่อทิ้งลงทะเลสัตว์จะกินเข้าไปง่ายเพราะมันคิดว่าเป็นอาหาร แต่หลอดกินได้ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหลอดพลาสติก ซึ่งถ้าผลิตได้เองราคาก็จะถูกลง แม้จะยังสูงกว่าหลอดพลาสติกก็ตาม" วิวรรธน์กล่าวกับ IGreen

    #strawry #หลอดกินได้ #หลอดรักษ์โลก
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อึ้ง!!ผู้ต้องหาให้การ ปธน.ฮอนดูรัสช่วยลักลอบขนโคเคนหลายตันเข้าอเมริกา

    ฮวน ออร์ลันโด เฮอร์นันเดซ ประธานาธิบดีฮอนดูรัส ช่วยลักลอบนำโคเคนหลายตันเข้าสู่สหรัฐฯ อัยการรายหนึ่งของอเมริกาเปิดเผยในวันอังคาร(9มี.ค.) ระหว่างการพิจารณาคดีผู้ต้องหาคดีลักลอบค้ายาเสพติดรายหนึ่ง

    อัยการเจค็อบ กัตวิลลิง กล่าวระหว่างแถลงเปิดคดีในการพิจารณาคดีของคณะลูกขุนศาลกลางนิวยอร์ก ระบุว่าจำเลย จีโอวานนี ฟูเอนเตส รามิเรซ ผู้ถูกกล่าวหาลักลอบขนยาเสพติด ติดสินบนประธานาธิบดี 25,000 ดอลลาร์(ราว 7.7 แสนบาท) ในรูปแบบเงินสด เพื่อให้ได้รับการปกป้องจากกองกำลังด้านความมั่่นคงในฮอนดูรัส

    ระหว่างขึ้นศาลเมื่อวันจันทร์(8มี.ค.) ฟูเอนเตส รามิเรซ ปฏฺิเสธข้อกล่าวหาลักลอบขนยาเสพติดและความผิดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอาวุธ

    "เขาเป็นบุคคลที่ไม่อาจแตะต้องได้ เป็นส่วนหนึ่งของรัฐยาเสพติด (narco-state)ฮอนดูรัส" กัตวิลลิง พูดถึง ฟูเอนเตส รามิเรซ ระหว่างแถลงเปิดคดีต่อคณะลูกขุน "นี่คือพ่อค้าโคเคนหัวรุนแรงและติดอาวุธ ทำงานร่วมกับตำรวจ ทหาร นักการเมือง ในนั้นรวมถึงประธานาธิบดี เขาเป็นคนที่ทำเงินหลายล้านดอลลาร์ โดยมีประธานาธิบดีช่วยลักลอบขนโคเคน"

    เฮอร์นันเดซ ซึ่งปฏิเสธซ้ำหลายรอบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด คือพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งในสมัยของรัฐบาลประธานาธิบดีโอบามาและประธานาธิบดีทรัมป์ ในด้านคนเข้าเมืองและปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติดในภูมิภาค

    การสืบสวนครั้งนี้อาจก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่รัฐบาลใหม่ของไบเดน ที่พยายามเข้าไปลงทุน 4,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกากลาง ในนั้นรวมถึงฮอนดูรัส เพื่อจัดการกับประเด็นปัญหาผู้อพยพ

    ทาง เฮอร์นันเดซ เขียนบนทวิตเตอร์เป็นชุดในวันจันทร์(8มี.ค.) ว่าพวกลักลอบขนยาเสพติดให้การเท็จเกี่ยวกับเขาต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพื่อแก้แค้นรัฐบาลของเขา และเพื่อหวังลดบทลงโทษของตนเอง พร้อมกันนั้นก็เตือนว่าความร่วมมือต่อต้านยาเสพติดของฮอนดูรัสจะตกอยู่ในอันตราย หากว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา

    ในคำฟ้องระบุว่า เฮอร์นันเดซ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี 214 ใช้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ทหารของฮอนดูรัส คุ้มครองขบวนการค้ายาเสพติด ในนั้นรวมถึง ฟูเอนเตส รามิเรซ ซึ่งติดสินบน เฮอร์นันเดซ เป็นจำนวน 25,000 ดอลลาร์(ราว 7.78 แสนบาท)

    คณะอัยการะบุว่า ฟูเอนเตส รามิเรซ เริ่มลักลอบขนยาเสพติดด้วยจำนวนเล็กน้อยในปี 2009 จนกระทั่งปี 2013 เขาจับมือเป็นหุ้นส่วนกับ เฮอร์นันเดซ ผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น ธุรกิจมืดของเขาจึงเริ่มเฟื่องฟู

    ไบรอัน แฟร์แบงค์ส เจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้จับกุม ฟูเอนเตส รามิเรซ ในไมอามี เดือนมีนาคม 2020 ให้การกับอัยการในวันอังคาร(9มี.ค.) ว่านอกเหนือจากภาพถ่ายปืนไรเฟิลจู่โจมและเงินสดแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลการติดต่อกับเฮอร์นันเดซ ในโทรศัพท์มือถือหลายๆเครื่องของจำเลย

    หลักฐานที่ยื่นต่อคณะลูกขุน ได้มาจากโทรศัพท์มือถือของฟูเอนเตส รามิเรซ และบัญชี iCloud ของลูกชายของเขา ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่ เฮอร์นันเดซ ถ่ายรูปร่วมกับ คริสเตียน ฟูเอสเตส น้องชายของจำเลยและผู้สมัครชิงเก้าอี้รัฐสภาในปัจจุบัน เช่นเดียวกับข้อมูลการติดต่อกับอดีตประธานาธิบดี เมล เซลายา รวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจระดับสูงจำนวนหนึ่ง

    ระหว่างอยู่ในศาลในวันอังคาร(9มี.ค.) ทนายความจำเลยยอมรับว่า ฟูเอนเตส รามิเรซ รู้จักกับ เฮอร์นันเดซ ผ่าน ฟูอัด จารูเฟ เจ้าหน้าที่ธุรกิจข้าว สถานที่ที่จำเลยอ้างว่าใช้จ่ายสินบนให้ เฮอร์นันเดซ

    คณะอัยการอ้างว่า ฟูเอนเตส รามิเรซ จะคอยรายงานตรงถึง โทนี เฮอร์นันเดซ น้องชายของประธานาธิบดี ซึ่งเคยถูกศาลกลางในแมนฮัตตัน ตัดสินว่ามีความผิดมาแล้วตามข้อกล่าวหาลักลอบขนยาเสพติดและข้อกล่าวหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอาวุธในเดือนตุลาคม 2019

    ผู้นำฮอนดูรัส ยืนยันในตอนนั้นว่า ไม่เคยปกป้องน้องชายที่ถูกทางการสหรัฐดำเนินคดีพัวพันค้ายาเสพติด พร้อมระบุข้อกล่าวหาว่าน้องชายของเขามีความสัมพันธ์กับแก๊งค้ายาเสพติดไม่เป็นความจริง โดยเชื่อว่ามันเป็นการแก้แค้นของบรรดาแก๊งค้ายาเสพติดทั้งหลาย ที่ไม่พอใจมาตรการปราบปรามยาเสพติดอย่างเฉียบขาดของเขา

    ในการพิจารณาคดีครั้งนั้น คณะอัยการสหรัฐฯก็ระบุเช่นกันว่าประธานาธิบดีเฮอร์นันเดซ รับเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์จากขบวนการค้ายาเสพติด แต่เขาก็เน้นย้ำปฏิเสธข้อกล่าวหา
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ญี่ปุ่นตัดสินใจจัด ‘โอลิมปิก-พาราลิมปิก’ แบบไม่มี ‘ต่างชาติ’ เข้าชม
    .
    รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ แบบไม่มีชาวต่างชาติเข้าชม เพื่อบรรเทาความกังวลในหมู่ชาวญี่ปุ่นเกรงว่ากองเชียร์ต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามา จะทำให้โควิด-19 ระบาดหนักอีกระลอก
    .
    สถานการณ์โรคระบาดใหญ่ทำให้การแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ถูกเลื่อนออกมา 1 ปี เป็นช่วงวันที่ 23 ก.ค. - 8 ส.ค. ปีนี้ ตามมาด้วยการแข่งขันพาราลิมปิกระหว่างวันที่ 24 ส.ค. - 5 ก.ย. ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ระบุว่า รัฐบาลและคณะผู้จัดการแข่งขันจะร่วมหารือและตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องผู้ชมภายในสิ้นเดือน มี.ค.
    .
    ล่าสุด แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า การเปิดประเทศเพื่อต้อนรับผู้ชมกีฬาจากต่างชาติยังเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากคนญี่ปุ่นยังหวาดกลัวว่าสถานการณ์โรคระบาดจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในหลายๆ ประเทศ
    .
    สำนักข่าวเกียวโดซึ่งออกมาแพลมเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ระบุด้วยว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 มี.ค. ก็จะถูกจัดแบบไม่มีผู้เข้าชมเช่นกัน
    .
    “คณะผู้จัดการแข่งขันได้ตัดสินใจแล้วว่า พิธีวิ่งคบเพลิงซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดฟูกูชิมะ จำเป็นจะต้องจัดแบบปิด และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญบางคนเข้าร่วมงานเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการรวมคนหมู่มากในช่วงโรคระบาด” สำนักข่าวเกียวโดอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
    .
    คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ระบุว่า การตัดสินใจจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์การโควิด-19 ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงมาตรการควบคุมโรคและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    .
    จากตัวเลขคาดการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ธ.ค. ระบุว่า ยอดขายตั๋วเข้าชมจะสร้างรายได้ให้แก่คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกได้ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 12% ของงบประมาณที่ใช้ และจากการแข่งขันในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ยอดขายตั๋วในประเทศเจ้าภาพเองคิดเป็นสัดส่วน 70-80%
    .
    ผลสำรวจล่าสุดของหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุน พบว่า ชาวญี่ปุ่น 77% ไม่ต้องการให้รัฐบาลเปิดรับชาวต่างชาติเข้าชมการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เชื้อโควิด-19 กลับมาระบาดหนักซ้ำอีก โดยมีเพียง 18% เท่านั้นที่สนับสนุน
    .
    ผลสำรวจยังพบด้วยว่า คนญี่ปุ่น 48% ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีผู้ชมภายในสนามแข่งขัน ทว่า ผู้ที่สนับสนุนก็มีจำนวนใกล้เคียงกัน คืออยู่ที่ 45%
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พิธีกรดังอังกฤษ ‘ลาออก’ จากรายการข่าวเช้า เซ่นปมวิจารณ์บทสัมภาษณ์ ‘เมแกน’
    .
    เพียร์ส มอร์แกน ผู้สื่อข่าวและพิธีกรชื่อดังของอังกฤษ ลาออกจากรายการข่าวเช้า Good Morning Britain ทางช่อง ITV ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากเมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) หลังเกิดการปะทะคารมกลางห้องส่งกับผู้รายงานข่าวสภาพอากาศ เนื่องจาก มอร์แกน นั้นวิจารณ์ว่าสิ่งที่ ‘เมแกน มาร์เคิล’ พระชายาของเจ้าชายแฮร์รี สัมภาษณ์กับ โอปราห์ วินฟรีย์ ไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่นิดเดียว
    .
    มอร์แกน วัย 55 ปี สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ชมด้วยการเดินออกจากห้องส่งไปดื้อๆ หลังจากที่ถูก ‘อเล็กซ์ เบเรสฟอร์ด’ ผู้รายงานข่าวสภาพอากาศ วิจารณ์ว่ามีอคติกับดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์มากเกินไป
    .
    อดีตพิธีกรข่าว CNN ผู้นี้ตำหนิเจ้าชายแฮร์รีและพระชายาว่าทำลายชื่อเสียงของราชวงศ์อังกฤษและพยายามสร้างกระแสเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่กลับปฏิเสธภาระรับผิดชอบและการตรวจสอบที่มาพร้อมกับสถานะความเป็นเจ้า
    .
    มอร์แกน ถึงขั้นทวีตข้อความเย้ยหยัน เมแกน ว่าเป็น “เจ้าหญิงพินอคคิโอ” และยังระบุเมื่อวันจันทร์ (8) ว่า “ไม่เชื่อที่เธอพูดแม้แต่คำเดียว”
    .
    มาถึงตอนนี้ เบเรสฟอร์ด ซึ่งอดรนทนไม่ได้จึงพูดขึ้นมาว่า “ผมเข้าใจนะว่าคุณไม่ชอบ เมแกน มาร์เคิล คุณแสดงออกชัดเจนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนในรายการนี้ และผมก็เข้าใจว่าคุณรู้จักกับ เมแกน เป็นการส่วนตัว หรือไม่ก็เคยรู้จัก แต่เธอเลือกที่จะตัดคุณทิ้ง”
    .
    “เธอได้พูดอะไรถึงคุณบ้างไหมหลังจากที่เธอตัดคุณทิ้ง? ผมว่าไม่นะ มีแต่คุณนั่นแหละที่ยังโจมตีเธอไม่เลิก”
    .
    มอร์แกน ลุกขึ้นยืนทันที พร้อมกับพูดว่า “โอเค ผมสุดจะทนแล้ว ขอโทษที ทำต่อไปไม่ไหวละ” ก่อนจะเดินออกจากห้องส่งไป ขณะที่ ซูซานนา รีด พิธีกรหญิงซึ่งจัดรายการร่วมกัน ต้องรีบตัดบทและประกาศพักโฆษณา
    .
    ต่อมาสถานีโทรทัศน์ ITV ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า มอร์แกน ได้ขอลาออกจากการเป็นพิธีกรรายการ Good Morning Britain แล้ว และทางบริษัทยอมรับการตัดสินใจของเขา
    .
    ทั้งนี้ ว่ากันว่า มอร์แกน ถูกขอให้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่พูด ซึ่งโดนนักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพจิตรุมถล่มอย่างหนัก แต่เจ้าตัวยืนกรานปฏิเสธ
    .
    คำพูดถากถาง เมแกน ของพิธีกรชื่อดังรายนี้ทำให้มีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานกำกับการสื่อสารของอังกฤษ (Ofcom) มากกว่า 41,000 ครั้ง กระทั่ง Ofcom ประกาศจะดำเนินการสอบสวนว่าผิดกฎว่าด้วยการสร้างความเสียหายและกระทบกระเทือนจิตใจ (harm and offense) หรือไม่
    .
    มอร์แกน ซึ่งมีผู้ติดตามทางทวิตเตอร์ 7.7 ล้านคน ยังพยายามปกป้องจุดยืนของตัวเองเมื่อวานนี้ (9) โดยระบุว่า “ผมยังคงเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าสิ่งต่างๆ มากมายที่เธอ (เมแกน) ออกมาพูดนั้นมีความสัตย์จริงมากน้อยแค่ไหน แต่ก่อนอื่นผมขอชี้แจงจุดยืนของตัวเองเกี่ยวกับความป่วยไข้ทางจิตและการคิดฆ่าตัวตายเสียก่อน... สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ และหากใครก็ตามรู้สึกเช่นนี้ เขาควรจะไปพบแพทย์หรือขอความช่วยเหลือที่จำเป็น และหากพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันอย่างเช่นราชวงศ์อังกฤษ และต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาก็ควรที่จะได้รับมันทันที”
    .
    ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์กล่าวหาว่าราชวงศ์อังกฤษมีส่วนผลักดันให้เธอเครียดถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย และอ้างว่ามีบางคนในราชวงศ์เคยตั้งคำถามว่า ‘อาร์ชี’ บุตรชายของเธอกับเจ้าชายแฮร์รี จะเกิดมามีผิวสีคล้ำหรือไม่ ซึ่งคำกล่าวอ้างทั้งหมดนี้ได้จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับอนาคตของสถาบันกษัตริย์
    .
    ที่มา: รอยเตอร์, Daily Mail

    VbHi4OHs1IfQ8ODsPZqiCaP0fzt7-rbEqBmSlk-LEbk&_nc_ohc=G1Njc1QG0vkAX91Vl6B&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    51tDvdydAH6oVJGNlHMh7yYLJAD4YcKJk1_gDX9qpck&_nc_ohc=GDaoS5r7rv0AX8gteP4&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    Around the World
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจออีกเพียบ!ปรากฏการณ์'เรือลอยได้'กลางทะเล ล่าสุดเป็นเรือสำราญยักษ์

    พบอีกภาพประหลาด เรือสำราญขนาดใหญ่ เหมือนลอยอยู่กลางอากาศนอกชายฝั่งสหราชอาณาจักร ปรากฎการณ์หาดูได้ยากที่เรียกว่าภาพหลอกตา (Optical illusion)ทว่าเริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง

    ในภาพล่าสุดนี้เป็นภาพเรือสำราญขนาดใหญ่ลำหนึ่ง "กำลังลอยอยู่กลางอากาศ" บริเวณ Lyme Bay ระหว่างมณฑลเดวอนกับมณฑลดอร์เซ็ต สหราชอาณาจักร ซึ่งชัดเจนว่ามันมีต้นตอจากภาพหลอกตา

    เดฟ เมดล็อค พบเห็นเรือดังกล่าวตอนที่เขาจูงสุนัขออกไปเดินเล่นเมื่อวันเสาร์(6มี.ค.) "มันเป็นบางอย่างที่ดูเหมือนมาจากหนังเจาะเวลาหาอดีต (Back to the Future) แต่ผมรู้ว่ามันเป็นรูปแบบพิเศษบางอย่างของปรากฏการณ์ภาพลวงตา( mirage)

    แม้ดูเหมือนเรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่ความจริงแล้วมันยังคงอยู่ในน้ำ โดยที่เห็นว่ามันลอยค้างอยู่นั้น สืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า superior mirage (ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเหนือวัตถุจริง )

    mirage เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศต่างๆ เนื่องจากความหนาแน่นของชั้นอากาศต่างๆไม่เท่ากัน ทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาอยู่เหนือกว่าตำแหน่งที่แท้จริง ซึ่งในกรณีทำให้เรือสำราญ P&O ดูเหมือนกำลังลอยอยู่

    เรือสำราญ P&O เป็นหนึ่งในเรือหลายลำ ที่มีผู้พบเห็นลอยอยู่กลางอากาศในทะเล ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดวิด มอร์ริส พบเห็นเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่งเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ระหว่างเดินทางตามแนวชายฝั่งคอร์นิช ใกล้เมืองฟัลเมาท์ มณฑลคอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร เช่นกัน

    มอร์ริสบอกว่า เขาถึงกับตกตะลึงหลังเห็นภาพดังกล่าวระหว่างออกไปเดินเล่นริมทะเล เลยตัดสินใจถ่ายรูปเอาไว้ และนำมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์จนเกิดเป็นกระแสไวรัล

    ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างตั้งข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับภาพถ่ายดังกล่าว บ้างก็เชื่อว่าอาจจะเป็นภาพตัดต่อ บางส่วนสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากปรากฏการณ์ภาพลวงตาอะไรสักอย่าง หรือถึงขั้นบอกว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวก็มี

    ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ก็มีคนพบเห็นเรือสำราญหลายลำลอยอยู่เหนือน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองเพย์นตัน มณฑลเดวอน

    นอกจากนี้แล้ว คอลิน แม็คคัลลัม พบเห็นเรือสีแดงขนาดใหญ่ลอยได้ อยู่บนเส้นขอบฟ้า ขณะที่เขาเดินทางผ่านเมืองแบนฟ์ อะเบอร์ดีนเชียร์

    "ตอนที่ผมเห็นเรือครั้งแรก ผมจำเป็นต้องมองมันอีกรอบ เพราะว่าคิดจริงๆว่ามันกำลังลอยอยู่" เขากล่าว "อย่างไรก็ตามพอสังเกตเพิ่มเติม ผมสังเหตเห็นว่าข้อเท็จจริงคือมันเป็นแค่ภาพหลอกตาเท่านั้น"

    แม้ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้บนบก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบเห็นในทะเลมากกว่า เนื่องจากน้ำทะเลช่วยให้เกิดการก่อตัวของชั้นอากาศเย็น

    โฆษกรายหนึ่งของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพที่พบเห็นในคอร์นวอลล์ ว่า "ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นหลักฐานของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Fata Morgana"

    "มันเป็นรูปแบบหนึ่งของภาพลวงตาที่หายากมากๆและซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งบืดเบือนทั้งแนวตั้งและแนวนอน กลับหัวกลับหางและเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของวัตถุต่างๆ" โฆษกระบุ "ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเหนือผิวน้ำ และเกิดขึ้นจากการทับซ้อนกันของชั้นบรรยากาศหลายชั้นที่มีการหักเหของแสงต่างกัน"

    (ที่มา:เดอะซัน/เดลิเมล์)
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประเดิม!รัฐบาลไบเดนคว่ำบาตรอิหร่านครั้งแรก เล่นงานเจ้าหน้าที่2คน

    รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในวันอังคาร(9มี.ค.) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ครั้งแรกต่ออิหร่าน เล็งเป้าเล่นงานเจ้าหน้าที่สอบปากคำ 2 คน จากคำกล่าวหาล่วงละเมิดผู้ต้องขัง

    ต่างจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ไม่ได้ลงโทษเศรษฐกิจของอิหร่าน แต่มีเป้าหมายแคบๆที่เจ้าหน้าที่ทั่วไป 2 คน โดยห้ามพวกเขาและครอบครัวเดินทางมายังสหรัฐฯ

    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่า อาลี เฮมมาเตียนและมาซูด ซาฟดารี สมาชิกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน กองกำลังทรงแสนยานุภาพที่ถูกรัฐบาลทรัมป์ขึ้นบัญชีดำในฐานะกลุ่มก่อการร้าย มีส่วนเกี่ยวข้องในการทรมานและปฏิบัติอย่างไร้ความปราณีอื่นๆกับเหล่านักโทษทางการเมืองระหว่างการประท้วงปี 2019-2020

    "เราจะเดินหน้าพิจาณาทุกวิธีการที่เหมาะสม สำหรับกำหนดมาตรการต่างๆ ที่พวกผู้อยู่เบื้องหลังเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนและการข่มเหงต่างๆในอิหร่าน ต้องชดใช้" แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง พร้อมบอกว่าอเมริกา "จะเรียกร้องรัฐบาลอิหร่านปฏิบัติกับประชาชนของพวกเขา ด้วยความเคารพและให้เกียรติ"

    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในขณะที่อิหร่าน กำลังหาทางปลดมาตรการคว่ำบาตรที่กำหนดโดยทรัมป์ ในนั้นรวมถึงมาตรการสกัดการส่งออกน้ำมัน ก่อนที่จะกลับมาปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 โดยสมบูรณ์อีกครั้ง

    ไบเดน สนับสนุนการหวนคืนสู่แนวทางด้านการทูตกับอิหร่าน ในนั้นรวมถึงการเจรจาระหว่างเตะหรานกับพันธมิตรทั้งหลายของสหรัฐฯ อาทิซาอุดีอาระเบีย แต่เน้นย้ำว่าเขาจะให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในลำดับต้นๆ

    ในวันอังคาร(9มี.ค.) บลินเคน ยังได้เรียกร้องไปยังอิหร่าน ขอข้อมูลเพิ่มเติมในวาระครบรอบ 14 ปีของการหายตัวไปของ บ็อบ เลวินสัน อดีตสายลับของเอฟบีไอ

    "เราเรียกร้องรัฐบาลอิหร่าน ให้คำตอบที่น่าเชื่อถือว่าอะไรเกิดขึ้นกับ บ็อบ เลวินสัน พร้อมปล่อยตัวพลพลเมืองสหรัฐฯอย่างปลอดภัยในทันที พลเมืองสหรัฐฯเหล่านี้ถูกจับกุมโดยมิชอบในอิหร่าน" บลินเคนระบุ

    เลวินสัน ซึ่งจะมีอายุครบ 73 ปีในวันพุธ(10มี.ค.) หายตัวไปในปี 2007 ระหว่างอยู่บนเกาะคิชของอิหร่าน ว่ากันว่าเขาถูกสอบสวนฐานลักลอบนำเข้าบุหรี่ แต่ต่อมามีรายงานว่าเขาเดินทางไปที่นั่นในภารกิจของซีไอเอ

    รัฐบาลของทรัมป์สรุปในเดือนธันวาคม ว่า เลวินสัน น่าจะเสียชีวิตแล้ว และบอกว่าอิหร่านต้องรับผิดชอบ

    นอกจาก เลวินสัน แล้ว มีอเมริกันชนคนอื่นๆอีกอย่างน้อย 4 รายที่ถูกคุมขังหรือห้่มเดินทางออกจากอิหร่าน ในนั้นรวมถึง บาเกอร์ นามาซี อดีตเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟ วัย 84 ปี และลูกชายของเขา ซึ่งเป็นนักธุรกิจ

    (ที่มา:เอเอฟพี)
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โกงระดับโลก!บริษัทยักษ์ใหญ่สั่งซื้อทองแดง$36ล้าน แต่กลับได้หินทาสีเต็มตู้สินค้า

    เมื่อปีที่แล้ว เมอร์คิวเรีย เอนเนอร์จี กรุ๊ป ลิมิเต็ด กลุ่มบริษัทพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ระดับโลก บรรลุข้อตกลง 36 ล้านดอลลาร์(ราว 1,100 ล้านบาท) สำหรับซื้อทองแดงจากซัพพลายเออร์สัญชาติตุรกีเจ้าหนึ่ง แต่พอสินค้าเดินทางมาถึงจีน กลับพบว่าสินค้าที่อยู่ภายใต้ตู้คอนเทนเนอร์นั้นเต็มไปด้วยหินทาสี

    ในคดีที่ตื่นตะลึงนี้ บริษัทสินค้าโภคภัณฑ์สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ บอกว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงสินค้า โดยทองแดงบลิสเตอร์ราว 6,000 ตัน ในตู้คอนเทนเนอร์มากกว่า 300 ตู้ ถูกเปลี่ยนเป็นหินปูพื้นขรุขระพ่นสีสเปรย์ให้คล้ายกับทองแดงกึ่งบริสุทธิ์ ตั้งแต่ก่อนออกเดินทางจากท่าเรือแห่งหนึ่งใกล้เมืองอิสตันบูลของตุรกีมุ่งหน้าสู่ประเทศจีนแล้ว

    คดีแปลกประหลาดนี้เน้นย้ำให้เห็นว่าการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์นั้นมีความอ่อนแอต่อกลโกง แม้กระทั่งมีมาตรการด้านรักษาความปลอดภัยและมาตรการด้านการตรวจสอบบังคับใช้อยู่ โดยก่อนหน้านี้ในปี 2014 ถึง 2015 ทาง เมอร์คิวเรีย ก็เคยต้องเตรียมทุนสำรองชดเชยการขาดทุนมาแล้ว หลังโลหะที่อยู่ในคลังสินค้าแห่งหนึ่งในชิงเต่า เมืองท่าของจีน ถูกเจ้าหน้าที่เข้ายึด ส่วนหนึ่งในการสืบสวนเหตุฉ้อโกง

    ตำรวจตุรกีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 13 คนในความเกี่ยวข้องกับอุบายทองแดงเทียมในครั้งนี้ ขณะที่ เมอร์คิวเรีย 1 ใน 5 บริษัทผู้ค้าน้ำมันอิสระรายใหญที่สุดของโลก กำลังหาทางเรียกเงินชดเชยในการยื่นดำเนินคดีกับ Bietsan ซัพพลายเดอร์สัญชาติตุรกี ต่อทั้งศาลตุรกีและอนุญาโตตุลาการสหราชอาณาจักร

    นอกจากนี้แล้วทาง เมอร์คิวเรีย ยังยื่นร้องเรียนทางอาญาอย่างเป็นทางการกับตำรวจและอัยการตุรกี กล่าวหาว่ามีการปรับเปลี่ยนสินค้าและฉ้อโกงประกันภัย เปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง

    "พวกผู้ต้องสงสัยอยู่ภายใต้การควบคุมตัว คนเหล่านี้เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับการก่ออาญกรรมกับเมอร์คิวเรีย" เมอร์คิวเรีย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเจนีวา ระบุในถ้อยแถลงเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมกล่าวขอบคุณฝ่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินของอิสตันบูล

    เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน เมอร์คิวเรีย ตกลงซื้อทองแดงจาก Bietsan ซันพลายเออร์สัญชาติตุรกีที่เคยทำธุรกิจกันมาก่อน เบื้องต้นดูเหมือนทองแดงถูกลำเลียงขึ้นตู้คอนเทนเนอร์สำหรับส่งมอบ พร้อมกับผ่านการสำรวจของบริษัทตรวจสอบสินค้าแล้ว และมีการปิดผนึกทับตู้สินค้าเพื่อป้องกันการโกง

    อย่างไรก็ตามว่ากันว่าในช่วงกลางดึก มีคนลอบเปิดตู้สินค้าและนำหินปูทางเท้ามาใส่ไว้แทนทองแดง โดยพวกฉ้อโกงสลับกันระหว่างตู้สินค้าปลอมกับตู้สินค้าจริงในความพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ในขณะที่เรือล่องอยู่กลางทะเล เมอร์คิวเรีย แยกจ่ายเงิน 36 ล้านดอลลาร์ เป็น 5 งวด โดยงวดสุดท้ายชำระเงินไปเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2020 ทั้งนี้กว่าที่จะรู้ตัวว่าโดนโกงก็เมื่อเรือขนส่งสินค้า 8 ลำ เริ่มทยอยเดินทางถึงเหลียนยุนกัง เมืองท่าของจีน ในช่วงปลายเดือนเดียวกัน

    "ผู้ซื้อแจ้งความขอให้สืบสวนทางอาญากับผู้ขายและคนกลาง 2 ราย" ตำรวจตุรกีระบุในถ้อยแถลง "มีข้อสรุปแล้วว่าเหตุการณ์นี้เป็นผลของการกระทำผิดฉ้อโกง ในรูปแบบที่ลงมือกันเป็นหมู่คณะ"

    ปกติแล้วในคดีลักษณะนี้บริษัทที่ไม่ได้รับส่งมอบสินค้าจะสามารถทำการเคลมประกันการขนส่งสินค้า แต่ทาง เมอร์คิวเรีย พบว่าจาก 7 สัญญาที่ทางบริษัทตุรกีใช้รับประกันสินค้านั้น มีเพียงแค่ 1 สัญญาเท่านั้นที่เป็นของจริง ส่วนที่เหนือนั้นเเป็นของปลอม

    พวกผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 13 คน ถูกรวบตัวเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตามหลังปฏิบัติการจู่โจมตรวค้นหลายรอบของตำรวจ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้นบางส่วนได้รับการปล่อยตัวและอยู่ภายใต้คำสั่งกักบริเวณ ทั้งนี้คาดหมายว่าจะมีการพิจารณาคดีกันอีกรอบในสัปดาห์นี้

    (ที่มา:บลูมเบิร์ก)
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พม่าเปลี่ยนแผนสลายม็อบด่วนตัดไฟต้นลม หลังล้อมจับกลางดึก-UNวอนอดกลั้นสูงสุด
    กองกำลังความมั่นคงพม่าเข้าสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นกระจัดกระจายในจุดต่างๆ อย่างรวดเร็วเมื่อวันอังคาร (9 มี.ค.) หลังจากตลอดคืนวันจันทร์ (8) ได้เข้าปิดล้อมนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวหลายร้อยคนในเขตซานชองของเมืองย่างกุ้ง ท่ามกลางเสียงเรียกร้องของยูเอ็นและมหาอำนาจตะวันตกให้กองทัพเมียนมาใช้ความอดกลั้นระดับสูงสุด และผู้คนนับพันฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวออกไปชุมนุมเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ถูกปิดล้อม
    ในวันอังคาร ฝูงชนเริ่มรวมตัวประท้วงต่อต้านการรัฐประหารและการจับกุมอองซาน ซจี ผู้นำจากการเลือกตั้ง อีกครั้งในย่างกุ้งและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี กองกำลังความมั่นคงได้เข้าสลายการชุมนุมอย่างรวดเร็วด้วยแก๊สน้ำตาและระเบิดแสง โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คนในเมืองโมญิ่นทางเหนือ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีบาดแผลถูกยิง
    ทั้งนี้ เมื่อคืนวันจันทร์ผู้คนนับพันพากันฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวออกไปชุมนุมตามถนนในเขตต่างๆ ของย่างกุ้ง เพื่อแสดงการสนับสนุนช่วยเหลือนักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวหลายร้อยคนที่กำลังถูกตำรวจทหารถูกปิดล้อมอยู่ในเขตซานชอง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการชุมนุมประท้วงเป็นประจำทุกวัน พวกเขาพากันตะโกนขณะออกมาที่ถนนว่า “ปล่อยพวกนักศึกษาที่ซานชอง”
    ขณะเดียวกัน ตำรวจยิงปืนและใช้ระเบิดแสง เพื่อขับไล่ผู้ประท้วงเหล่านี้
    นอกจากนั้นจากวิดีโอไลฟ์สดจากย่านซานชองที่เผยแพร่ทางสื่อสังคม แสดงให้เห็นพวกผู้ประท้วงกำลังวิ่งหนีอยู่ระหว่างบ้านเรือนต่างๆ ในย่านนั้น ขณะที่มีระเบิดแสงตูมตามกันสนั่น
    ตำรวจประกาศว่า จะค้นที่พักทุกๆ ห้องในเขตดังกล่าวเพื่อหาผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหาร โดยเฉพาะห้องที่ติดธงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจีบนระเบียง และพวกที่ช่วยปิดบังหรือให้ที่ซ่อนคนเหล่านั้นจะถูกลงโทษ
    ตำรวจเริ่มบุกค้นหลังจากปิดระบบอินเทอร์เน็ตเมื่อเวลา 1.00 น. วันอังคาร และถอนกำลังออกไปในช่วงเช้ามืด ทำให้ผู้ประท้วงบางคนยังสามารถหลบหนีออกไปได้
    กลุ่มสิทธิมนุษยชนกลุ่มหนึ่งเผยว่า มีผู้ถูกจับกุมจากการตรวจค้นในเขตซานชองราวๆ 50 คน
    ทางด้านโฆษกรัฐบาลทหารพม่าไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก่อนหน้านั้นสถานีเอ็มอาร์ทีวีของทางการประกาศเสียงกร้าวว่า “ความอดทนของรัฐบาลกำลังหมดสิ้นลง และขณะที่พยายามทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุดในการหยุดยั้งการจลาจล แต่ประชาชนที่เสาะแสวงหาเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์กำลังเรีกยร้องให้ใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปราบปรามการจลาจล”
    ระหว่างที่ตำรวจปิดล้อมเขตดังกล่าวอยู่นั้น แอนโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฝ่ายสิทธิมนุษชนของยูเอ็น ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันและอังกฤษในเมียนมา ได้แถลงเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าใช้ความอดกลั้นระดับสูงสุดและปล่อยตัวผู้ประท้วงออกมาอย่างปลอดภัย
    เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ปราบปรามผู้ประท้วงอย่างสันติด้วยความรุนแรง ซ้ำยังเพิกถอนใบอนุญาตบริษัทสื่ออิสระ 5 แห่งที่ทำข่าวการประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจ
    นอกจากนั้น เมื่อวันจันทร์ เอกอัครราชทูตพม่าประจำอังกฤษ ยังตามรอยผู้แทนของพม่าในยูเอ็น ด้วยการเรียกร้องให้ปล่อยตัวซูจี
    อังกฤษ อเมริกา และตะวันตกบางชาติกำลังหรือเตรียมที่จะออกมาตรการแซงก์ชันรัฐบาลทหารพม่า และสหภาพยุโรป (อียู) กำลังเตรียมขยายมาตรการแซงก์ชันโดยพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจของทหาร
    การบุกค้นเขตซานชองมีขึ้นหลังจากมีผู้ถูกยิงตาย 3 คนใน 2 เมือง ระหว่างการประท้วงในวันจันทร์ ซึ่งห้างร้าน โรงงาน และธนาคารหลายแห่งปิดทำการเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในการนัดผละงานครั้งใหญ่เพื่อประท้วงการยึดอำนาจ และทำให้เศรษฐกิจที่เอื้อประโยชน์ให้เฉพาะกองทัพเป็นอัมพาต
    กองทัพพม่าปฏิเสธความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิตในการประท้วงซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันนับจากต้นเดือนกุมภาพันธ์ พร้อมแก้ต่างว่า ที่ต้องยึดอำนาจเนื่องจากมีการโกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในเดือนพฤศจิกายนซึ่งพรรคเอ็นแอลดีของซูจีชนะขาดลอย

    iVvtuTv2dps3FeSn0XWH5mIEL9bvLgRElYc8DKMo9uC&_nc_ohc=Y3-QqZr-06kAX_ud1RC&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    JOecRL-OnZiBVj3uO3GgGMWhU0iPfg0bNHVgku-aJKt&_nc_ohc=-BzbNueOblwAX_Eb7Y-&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    GcEYVvFbGKwQQcp38tqPwsOoV23D9hqPWnmiR4jLKJO&_nc_ohc=KlIDEup6mEgAX-jnUls&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    kSRWEnPvUyIEMFGo1M9tA6cJDbSo_tTnZkk-Z1SKZtL&_nc_ohc=aTfDCrS4SdsAX8Rwvap&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg


    Around the World
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮือฮา! “วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค”สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์บราซิลได้ผลในห้องแลบ
    .
    ..
    .
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(9 มี.ค)ว่า ตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยของผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนแสดงถึงการมีประสิทธิภาพในการยับยังไวรัสโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ P1 ที่ถูกทำขึ้นในห้องแล็บซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในบราซิล ซึ่งเป็นผลงานการศึกษาจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ของบริษัทยาและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยเทกซัส
    .
    ในการวิเคราะห์ได้บ่งชี้ว่า ประสิทธิภาพการยับยั้งสายพันธุ์บราซิลของวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคนั้น 'เท่ากันโดยประมาณ' กับประสิทธิภาพการยับยั้งสายพันธุ์เดิมซึ่งระบาดเมื่อปีที่แล้ว รอยเตอร์ชี้
    .
    ทั้งนี้ในการศึกษาเบื้องต้นพบว่าไวรัสโควิด-19สายพันธุ์บราซิล P1 นั้นมีความไวในการระบาดราว 1.4 – 2.2 เท่ามากกว่าสายพันธุ์อื่นๆที่ระบาดในมาเนาส์ ( Manaus) บราซิล
    .
    และนอกจากนี้ยังพบว่าไวรัสสายพันธุ์บราซิลยังมีความสามารถหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่ได้มาจากการติดเชื้อครั้งก่อนได้ราว 25% ถึง 61%
    .
    ซิตี้เอเอ็ม สื่ออังกฤษรายงานว่า ในเวลานี้มีรายงานเคสติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลในอังกฤษจำนวน 6 รายที่เดินทางจากอังกฤษไปบราซิล
    .
    นอกจากนี้ในการศึกษาอื่นยังพบว่าวัคซีนไซเฟอร์-ไบออนเทคยังมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์อื่นที่พบในอังกฤษและแอฟริกาใต้
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แม้ได้รับฉายา "แบตเตอรี่ของอาเซียน" แต่เรื่องไฟฟ้า "ลาว" ยังจำเป็นต้องพึ่งพา "จีน"
    .
    .
    MGR Online - รองรัฐมนตรีพลังงานลาวระบุชัด 44% ของไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อใช้ในประเทศ มาจากเขื่อนที่นักธุรกิจจีนเป็นผู้ลงทุน แจงเรื่องพลังงานและเหมืองแร่ ลาวยังต้องพึ่งพาจีนในอีกหลายด้าน พร้อมเชิญชวนให้จีนเข้ามาลงทุนในแขนงนี้เพิ่ม
    .
    เมื่อต้นเดือนมีนาคม ดาววง พอนแก้ว รองรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์“เศรษฐกิจ-สังคม” ซึ่งเป็นสื่อที่เน้นเนื้อหาด้านธุรกิจ เศรษฐกิจ ถึงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างลาวกับสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ที่ผ่านมา นักลงทุนจากจีนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแหล่งผลิตไฟฟ้าในลาว ทั้งบทบาทของผู้พัฒนา ผู้สนองเงินทุน เป็นผู้รับเหมา ผู้ขายเครื่องจักรและอุปกรณ์กำเนิดไฟฟ้า ผู้ศึกษา-ออกแบบโครงการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนหรือร่วมถือหุ้นในโครงการผลิตไฟฟ้าหลายแห่ง
    .
    ดาววอนกล่าวว่า ณ สิ้นปี 2563 โครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในลาว มีการลงทุนที่เป็นของบริษัทจากจีนทั้งสิ้น 11 โครงการ ประกอบด้วยเขื่อน 16 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้ง 2,256 เมกะวัตต์ คิดเป็น 44% ของกำลังการผลิตเพื่อสนองไฟฟ้าให้กับการใช้ภายในประเทศ
    .
    ส่วนความร่วมมือด้านธรณีวิทยาและเหมืองแร่นั้น นักธุรกิจจากจีนก็เป็นกลุ่มที่มีมูลค่าการลงทุนอยู่ในลาวในอันดับต้นๆเช่นกัน โดยปัจจุบัน รัฐบาลลาวอนุมัติให้บริษัทจีนเข้ามาลงทุนด้านธรณีวิทยา 52 บริษัท แยกเป็น 79 โครงการ แบ่งเป็นกิจการที่อยู่ในขั้นตอนค้นหา 11 กิจการ ขั้นตอนการสำรวจ 40 กิจการ และขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ด้านเศรษฐกิจและเทคนิคเบื้องต้นอีก 28 กิจการ ขณะเดียวกัน มีการอนุมัติให้บริษัทจากจีน 35 แห่ง มาลงทุนทำเหมืองแร่และกิจการแปรรูปแร่อยู่ในลาวอีก 67 โครงการ
    .
    รองรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ กล่าวถึงอนาคตความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างทั้ง 2 ประเทศว่า จีนเป็นประเทศที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแรง มีทุน มีเทคโนโลยี และองค์ความรู้มากมาย ที่จะเป็นบทเรียนให้ลาวได้เรียนรู้และนำมาใช้พัฒนาการทำธุรกิจในหลายด้าน ลาวจึงควรกระชับความสัมพันธ์ สร้างกลไกและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความร่วมมือกับจีน ให้สามารถพัฒนาไปในแนวทางเดียวกันได้ และอยากให้นักธุรกิจจีนได้เข้ามาลงทุนในสาขาพลังงานและเหมืองแร่ ซึ่งเป็นจุดเด่นทางเศรษฐกิจของลาวให้มากขึ้น
    .
    ปัจจุบัน ลาวมีศักยภาพในการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า สร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงงานลม รวมถึงมีการวางโครงข่ายสายส่งที่เชื่อมต่อกับประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ดังนั้น การเข้ามาลงทุนในสาขาพลังงานไฟฟ้าในลาว จึงเปิดกว้าง ไม่ว่าเป็นลักษณะของการลงทุนเองทั้ง 100% หรือจะร่วมทุนกับนักธุรกิจลาวก็ได้
    .
    จากข้อมูลล่าสุดในเวทีสัมมนาเรื่อง“ราคาไฟฟ้าและไฟฟ้าลาว ปี 2021-2025” ที่ห้องประชุมคณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว ระบุว่าปัจจุบันลาวมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 9,972 เมกะวัตต์ จากแหล่งผลิตไฟฟ้าในประเทศ 78 แห่ง
    .
    ใน 78 แห่ง เป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้า 67 แห่ง โรงไฟฟ้าถ่านหิน 1 แห่ง โรงไฟฟ้าชีวมวล 4 แห่ง และโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 6 แห่ง โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ ส่วนใหญ่ส่งขายให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังมีเขื่อนผลิตไฟฟ้าอีกหลายแห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เตรียมผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ระบบของลาวอีกในช่วงหลังจากนี้
    .
    อย่างไรก็ตาม ลาวยังต้องซื้อไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านจากแหล่งผลิตไฟฟ้าอีก 10 แห่ง ในไทยและเวียดนาม เพื่อสนองต่อการใช้ในประเทศในบางพื้นที่ ซึ่งแหล่งผลิตไฟฟ้าของลาวเอง ยังป้อนไฟฟ้าไปไม่ถึง
    .
    สำหรับเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลาว ที่เป็นการลงทุนของนักธุรกิจจีนที่ใหญ่ที่สุด คือโครงการเขื่อนน้ำอู โดยตลอดลำน้ำอูซึ่งยาว 448 กิโลเมตร มีต้นน้ำอยู่บนเทือกเขาบริเวณชายแดนลาว-จีน ที่บ้านลานตุย เมืองยอดอู แขวงผ้งสาลี ไหลมาลงแม่น้ำโขงที่แขวงหลวงพระบาง มีการสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าลักษณะขั้นบันได ไล่ตามระดับความสูงตั้งแต่บนลงล่างถึง 7 เขื่อน
    .
    ทั้งหมดเป็นการลงทุนโดยบริษัท Power China Resources Limted ร่วมทุนกับบริษัทผลิต-ไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-Gen) มี Sinohydro Corporation เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง
    .
    เขื่อนน้ำอูทั้ง 7 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 1,332 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนรวม 2,800 ล้านดอลลาร์ อายุสัมปทาน 29 ปี ไฟฟ้าที่ผลิตได้ถูกใช้ในภาคเหนือของลาวเป็นส่วนใหญ่
    .
    การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เขื่อนน้ำอู 2,5 และ 6 กำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ จากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 7 เครื่อง เริ่มสร้างเมื่อเดือนตุลาคม 2555 สร้างเสร็จและเริ่มเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหน่วยที่ 1 ไปแล้วเมื่อปลายปี 2558 ที่เหลืออีก 6 หน่วย เริ่มเดือนเครื่องผลิตเมื่อปลายเดือนเมษายน 2559
    .
    ระยะที่ 2 คือเขื่อนน้ำอู 1,3,4 และ 7 กำลังการผลิต 732 เมกะวัตต์ เริ่มสร้างวันที่ 28 เมษายน 2559 สร้างเสร็จและเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว(2563)
    .
    นอกจากนี้ ยังมีเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำทา 1 กั้นแม่น้ำทาในแขวงบ่อแก้ว กำลังการผลิต 168 เมกะวัตต์ ลงทุนโดยบริษัท China Southern Power Grid สร้างเสร็จและเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561
    .
    รวมถึงเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำแบ่ง กั้นแม่น้ำแบ่งในแขวงอุดมไซ กำลังการผลิต 34 เมกะวัตต์ โดย China National Electrical Equipment Coporation ถือหุ้น 90% อีก 10% ถือโดย EDL-Gen สร้างเสร็จและเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าแล้วตั้งแต่ปี 2560.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000023009

    ZHei3cZPpAof&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmpics.mgronline.com%2Fpics%2FImages%2F564000002365201.jpg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาสตราจารย์ม.ฮาวาร์ดชื่อดังอ้าง “หญิงคลายอารมณ์แดนโสม” ช่วง WWII แท้จริงเป็นโสเภณี
    .
    .
    .
    .
    เอพี – ศาสตราจารย์ม.ฮาร์วาร์ด ชื่อดัง เจ. มาร์ค แรมเซเยอร์( J. Mark Ramseyer) ถูกนักศึกษาล่ารายชื่อให้ออกมาขอโทษ รวมนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์อีกกว่าพันกดดัน หลังตีพิมพ์ผลงานวิชาการอ้าง หญิงคลายอารมณ์เกาหลีช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แท้จริงเป็นหญิงโสเภณีสร้างความไม่พอใจไปทั่ว
    .
    เอพีรายงานเมื่อวานนี้(8 มี.ค)ว่า ผลงานวิชาการที่ถูกตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ของศาสตราจารย์ม.ฮาร์วาร์ด ชื่อดัง เจ. มาร์ค แรมเซเยอร์( J. Mark Ramseyer)ได้ออกมาโต้แย้งการศึกษาที่มีอย่างเป็นวงกว้างเกี่ยวกับ “หญิงคลายอารมณ์” ของกองทัพญี่ปุ่นช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกบังคับให้ทำงานอยู่ในซ่องของกองทัพ โดยในงานวิจัยเขายืนยันว่า แท้จริงแล้วหญิงเหล่านี้ตกลงปลงใจยอมทำงานในฐานะหญิงโสเภณีเอง โดยเขาปฎิเสธเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงคลายอารมณ์ที่ว่าถูกทหารญี่ปุ่นบังคับนั้นเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้น และไม่มีเรื่องความรุนแรงหรือการบังคับจากทหารกองทัพญี่ปุ่นต่อหญิงเกาหลีเพื่อให้ทำงานในซ่องของกองทัพแม้แต่น้อย
    .
    เอพีชี้ว่า ฝ่ายค้านที่มีเป็นจำนวนมากได้ชี้ว่า จำนวนมากของเหยื่อเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อเมื่ออายุยังน้อยและพวกเธอเหล่านั้นไม่มีความสามารถที่จะแสดงการยินยอมต่อทางเพศได้ถึงแม้หากว่ามีสัญญาว่าจ้างทางเพศตามเช่นที่แรมเซเยอร์กล่าวอ้างจริง
    .
    บทความของแรมเซเยอร์เพิ่มความตรึงเครียดทางการเมืองระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งได้กดดันให้โตเกียวต้องออกมาขอโทษและจ่ายค่าเยียวยาต่อเหยื่อเหล่านี้
    .
    เอพีรายงานว่า มีกลุ่มนักวิชาการหลายร้อยคนร่วมลงงานในจดหมายเปิดผนึกประณามงานวิจัยชิ้นนี้ของแรมเซเยอร์ และบทความหญิงคลายอารมณ์ของเขายังทำให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ร่วมใจในการออกมาตอบโต้ โดยอังคารที่ผ่านมา(2) สำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือได้ออกมาประณามแรมเซเยอร์ว่า “เป็นพวกกอบโกย” และ “นักวิชาการจอมปลอม”
    .
    ทั้งนี้แรมเซเยอร์เป็นศาสตราจารย์ด้านการศึกษากฎหมายญี่ปุ่นประจำคณะกฎหมายมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด บทความวิชาการหญิงคลายอารมณ์ของเขามีชื่อว่า “Contracting for sex in the Pacific War” นั้นถูกเผยแพร่ทางออนไลน์มาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้ว และมีกำหนดที่จะถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการอินเตอร์เนชันแนล รีวิว ด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์ ประจำเดือนมีนาคม แต่ทว่าการเผยแพร่ถูกสั่งระงับชั่วคราวโดยให้เหตุผลว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน

    .
    ขณะเดียวกันบรรดานักประวัติศาสตร์ได้ออกมาชี้ว่า ไม่มีหลักฐานปรากฎในบทความ โดยทั้งกลุ่มนักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดและสถาบันอื่นได้ต่างตรวจสอบแหล่งที่มาอ้างอิงบทความของแรมเซเยอร์ พร้อมกับยืนยันว่าไม่พบหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ “สัญญาที่เขาออกมาอ้าง”
    .
    อเล็กซิส ดัดเดน (Alexis Dudden) นักประวัติศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยคอนเนกติกัตด้านญี่ปุ่นและเกาหลีใต้สมัยใหม่ออกมาโต้บทความอื้อฉาวของแรมเซเยอร์โดยเรียกว่า “เป็นบทความจอมปลอม” และไม่มีคุณค่ามาตรฐานทางวิชาการ
    .
    นอกจากนี้ยังมีนักเศรษฐศาสตร์กว่า 1,000 คนลงนามในจดหมายเปิดผนึกเพื่อประณามผลงานของแรมเซเยอร์ โดยชี้ว่าเขาบิดเบือนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ รวมไปถึงยังมีนักศึกษาประจำมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเองอีกหลายร้อยคนลงชื่อเรียกร้องให้แรมเซเยอร์ออกมาขอโทษ
    .
    เอพีชี้ว่าที่เกาหลีใต้ประเด็นหญิงคลายอารมณ์นั้นถือเป็นประเด็นสำคัญ พบว่ามีนักเคลื่อนไหวออกมาประณามแรมเซเยอร์พร้อมเรียกร้องให้เขาลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด รวมไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศและครอบครัวเกาหลีใต้แถลงกล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยต่อบทความวิชาการชิ้นนี้
    .
    ด้าน ลี ยอง-ซู (Lee Yong-soo)อดีตเหยื่อหญิงคลายอารมณ์วัย 92 ปีกล่าวแสดงความเห็นต่อคำอ้างของแรมเซเยอร์ว่า “ช่างน่าขบขัน” และเรียกร้องให้เขาออกมาขอโทษในสิ่งนี้
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 10 , 2021 ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 39 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 26,540 ราย
    J6rQsZvMxDodUf9UR84OLaIIoBsYT3JeDhpsGcMmIjB&_nc_ohc=B6myePlFm68AX9OaO8E&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 39 ราย แบ่งเป็น
    .
    ติดเชื้อในประเทศ 34 ราย
    .
    ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 5 ราย
    .
    โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศรวม 23,657 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,883 ราย รักษาหาย 25,946 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 509 ราย รวมยอดเสียชีวิตสะสม 85 ราย
    .
    #covid19 #โควิด19 #misterban
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 10 , 2021 รัฐบาลยันไม่ได้ออกกฎหมายเก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงาน
    .
    ตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ประเด็น เงินสินสอดจากงานแต่ง ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สิน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ
    .
    กรณีข่าวที่ระบุว่า ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา จากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส ซึ่งรวมถึงสินสอดงานแต่งด้วยนั้น ทางกรมสรรพากรได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากร เก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงาน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
    .
    โดยตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร กฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ข้อที่ 10 ระบุว่า เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เงินได้ที่รับจากการรับมรดก หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ได้รับการยกเว้นภาษี
    .
    ซึ่งในส่วนพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 40 พ.ศ. 2558 ระบุไว้ว่า เงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี ได้แก่ 1. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะหรือจากการให้โดยเสน่หาจาก บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาทตลอดปีภาษี และ 2. เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยาหรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งนี้ จากบุคคลซึ่ง มิใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส เฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 10 ล้านบาทตลอดปีภาษี
    .
    ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th หรือโทร. 02 2729529
    .
    ดังนั้น ปัจจุบันรัฐบาลไม่ได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้กรมสรรพากร เก็บภาษีจากเงินสินสอดงานแต่งงาน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
    .
    #สินสอด #แต่งงาน #ไม่เก็บภาษี #Misterban
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 10,2021 ปราจีนบุรีโล่ง!! เคสตรวจเชิงรุกโควิดโรงงานดัง 1,447 ราย ไม่พบการติดเชื้อ
    .
    ภายหลังจาก จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด -19 จ.ปราจีนบุรี รวมจำนวน 3 รายระลอกใหม่ ซึ่งติดเชื้อต่อกันมาจาก คนขายข้าวแกง 2 สามี – ภรรยา อายุ 65 และ 62 ปี ขายข้าวแกง อยู่ในโรงงานบริษัทฟูจิคูระ หมู่ 11 ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ทั้งคู่เป็นผู้ป่วยรายที่ 15 – 16 ของ จ.นครนายก (ไปตรวจ – รักษาที่ จ.นครนายก) แต่มีภูมิลำเนาที่ จ.ปราจีนบุรี
    .
    โดยผู้ป่วยระลอกใหม่ จ.ปราจีนบุรี ทั้ง 3 ราย เป็นเพศหญิง รวม 3 ราย อายุ 32 ปี , 35 ปี และ 50 ปี ตามลำดับ ทั้งหมดเป็นลูกจ้างขายข้าวแกง ในโรงงานบริษัทฟูจิคูระ หมู่ 11 ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เข้ารักษาอาการป่วยที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร พร้อมได้มีการระดมทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กว่า 200 คน ตรวจหาเชื้อโควิด -19 จากพนักงานหนุ่ม –สาว กว่า 1,400 คน และได้มีการระดมรถดับเพลิง –เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพระ (อบต.) ฉีดล้างทำความสะอาดโรงงาน –พ่นยาฆ่าเชื้อ
    .
    ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ได้รายงานกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปราจีนบุรี ข้อมูลส่งตรวจหาเชื้อสะสมระลอกใหม่ จำนวน 1,452 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 28 ราย ตรวจคัดกรองเชิงรุก 1,422 ราย
    .
    โดยยังรอผลอีก 1 ราย รวมส่งตรวจทั้งหมด 7,350 ราย จังหวัดปราจีนบุรี พบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่สะสมรวม 12 ราย รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 3 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 9 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 วัน
    .
    พร้อมแจ้ง ผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด -19 ผู้เข้าเกณฑ์ตรวจหาเชื้อและคัดกรองเชิงรุกในโรงงาน จำนวน 1,447 ตัวอย่าง ตรวจแล้วไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด -19
    .
    #ปราจีนบุรี #โควิด #Covid #Misterban
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mar 10, 2021 ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุกว่า 118.1 ล้านคน ยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 2.62 ล้านคน The Covid -19 infected globally toll surpassed 118.1 million

    เมื่อเวลา 9.10 น.รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 118,144,299 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 29,800,212 ราย อินเดีย 11,261,470 ราย บราซิล 11,125,017 ราย รัสเซีย 4,342,474 ราย ยูเค 4,228,998 ราย ฝรั่งเศส 3,932,862 ราย สเปน 3,164,983 ราย อิตาลี 3,101,983 ราย ตุรกี 2,807,387 ราย และเยอรมนี 2,520,609 ราย

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 2,621,021 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 540,451 ราย บราซิล 268,568 ราย เม็กซิโก 190,923 ราย อินเดีย 158,079 รายสหราชอาณาจักร 124,797 ราย อิตาลี 100,479 ราย ฝรั่งเศส 89,301 ราย สเปน 71,727 ราย อิหร่าน 60,867 ราย และเปรู 48,163 ราย

    ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 1,392,945 ราย(37,757) ฟิลิปปินส์ 600,428 ราย(12,528) มาเลเซีย 316,269 ราย(1,186) เมียนมา 142,059 ราย(3,200) สิงคโปร์ 60,052 ราย(29) ไทย 26,501 ราย(85) เวียดนาม 2,526 ราย(35) กัมพูชา 1,060 ราย บรูไน 190 ราย(3) และสปป.ลาว 47 ราย

    #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19 #covid19 #Misterban #btimes
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อาร์เจนตินา 1f1e6_1f1f7.png : 1f525.png เมืองชูบุต หรือ คูบิต เป็นรัฐทางตอนใต้ของประเทศอาร์เจนตินา กำลังเกิดไฟป่ารุนแรงในเช้าวันนี้สร้างความเสียหายต่อชุมชน

     

แชร์หน้านี้

Loading...