ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมู่บ้านม้งพันครอบครัวแห่งซีเจียง เป็นหมู่บ้านชนเผ่าเหมียวจู๋ (ม้ง) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หมู่บ้านแม้วพันครอบครัว” ที่นี่มีประวัติอันยาวนานกว่า 5,000 ปี ถือเป็นหมู่บ้านม้งที่เก่าแก่มาก ตั้งอยู่ในหุบเขาเขตอำเภอเหลยซาน เขตปกครองตนเองชนชาติม้งและต้งเมืองเฉียนตงหนาน มณฑลกุ้ยโจว มีผู้อยู่อาศัยประมาณหมื่นกว่าคน และชนเผ่าเหมียวจู๋ (ม้ง) ถือเป็น 1 ใน 56 ชนเผ่าทั่วเมืองจีน ที่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น มีขนาดใหญ่และประชากรมากที่สุดในบรรดาชนเผ่าพื้นเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีน และสามารถรักษารากฐานวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีที่สุด
    .
    หมู่บ้านม้งแห่งนี้ มีเอกลักษณ์และความโด่ดเด่นในเรื่องประเพณีท้องถิ่นและรวมไปถึงลักษณะบ้านโบราณ โดยบ้านจะยกพื้นตั้งเรียงรายกันอยู่ตามแนวภูเขาที่ค่อยๆ ขึ้นไป มีความสง่างามเป็นพิเศษท่ามกลางธรรมชาติ ป่าเขียวขจี ทิวทัศน์เรือกสวนไร่นา บ้านพักโบราณ และเอกลักษณ์ประเพณี เป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างประเทศ
    .
    ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวหมู่บ้านม้งพันครอบครัวแห่งซีเจียง คือ การชมการแสดงของชนเผ่าม้งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องประเพณีวัฒนธรรม จากนั้นนั่งรถพ่วงขึ้นไปที่ จุดชมวิวบนยอดเขา เพื่อชมวิวยามค่ำคืนของบ้านโบราณที่ปลูกลดหลั่นไปตามภูเขาสูงนับพันหลัง ท่ามกลางนาขั้นบันได และขุนเขาที่โอบล้อม เมื่อยามที่ทุกบ้านเปิดไฟอย่างพร้อมเพรียงจะทำให้เห็นวิวที่งดงามเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวส่องแสงระยิบระยับ ชนเผ่านี้ จะใส่ชุดพื้นเมืองมาร่ายรำ ร้องเพลงต้อนรับแขกผู้มาเยือน พร้อมรินเหล้าขาวหรือเหล้าท้องถิ่นใส่จอกที่ทำจากเขาควายหรือจอกเครื่องปั้นดินเผาให้ดื่มถึง 12 ด่าน งานนี้อาจจะเกิดอาการเมาไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียวครับ
    .
    วิธีเดินทางไปหมู่บ้านแห่งนี้ง่ายที่สุดจากเมืองกุ้ยหยาง หรือเมืองขายลี่ ซึ่งจะมีรถบัสออกเดินทางไปยังเมืองซีเจียง วันละ 2 รอบ เวลา 09.00 น.และ 15.00 น. ค่ารถคนละ 80 หยวน และหมู่บ้านแห่งนี้ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 -18.00 น ส่วนท่านใดที่อยากชมการแสดงม้งโบราณ จะมีวันละ 2 รอบเท่านั้น คือ 11.30 น. และ 17.00 น ซึ่งการเข้าหมู่บ้านนี้จะมีค่าเข้าชมท่านละ 100 หยวน (ไม่รวมค่าชมระบำม้ง ค่าอาหารต่าง ๆ ) ซึ่งในเมืองมีรถพ่วงพาทัว ราคา ท่านละ 20 หยวน มีเส้นทางให้เลือก 2 เส้นทางคือ จากปากทางเข้าหมู่บ้าน - ถนนเมืองเก่าและอีกเส้นทาง คือ จากสะพานสายลมสายฝน – จุดชมวิวบนยอดเขา
    #ChinaStory #หมู่บ้านม้งพันครอบครัวแห่งซีเจียง #เที่ยวจีน #ซีเจียง #เล่าเรื่องจีน #ชนเผ่าโบราณจีน

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อู๋ ซินเป่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจีสุ่ยถาน ในกรุงปักกิ่ง ประกาศความสำเร็จในการช่วยผ่าตัดศัลยกรรมระยะไกล ให้แก่ผู้ป่วยกระดูกหักที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประชาชน ที่ 1 เมืองซู่โจว มณฑลอันฮุย โดยได้ยึดส่วนที่หักออกจากกันเข้าไว้ด้วยกันโดยการใส่สกรูได้เป็นผลสำเร็จ
    .
    การผ่าตัดประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น มีปริมาณเลือดที่สูญเสียระหว่างผ่าตัดเพียง 5 มิลลิลิตรเท่านั้น และทำให้การผ่าตัดครั้งนี้เป็นการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ศัลยศาสตร์ออร์โทพีดิกส์ (ศัลยศาสตร์ด้านโรคกระดูก)ระยะไกล 5G ครั้งแรกในประเทศจีน
    .
    ปัจจุบัน โรงพยาบาลจีสุ่ยถานเปิดให้บริการการช่วยผ่าตัดระยะไกลด้วยหุ่นยนต์ 5G หลายรายการด้วยกัน ด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีเครือข่าย 5G การส่งสัญญาณภาพและเสียง รวมถึงสัญญาณควบคุมหุ่นยนต์ระหว่างสองสถานที่ก็เป็นไปอย่างราบรื่น แพทย์ที่อยู่กันคนละที่ สามารถก้าวข้ามอุปสรรคของระยะทางได้ และสามารถสื่อสารพูดคุยกันอย่างไม่ติดขัด นอกจากนี้ ด้วยการวินิจฉัยทางไกลและการผ่าตัดทางไกล ทำให้สามารถรักษาอาการเจ็บปวดของผู้ป่วยได้ในทันที ซึ่งช่วยยกระดับการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลในพื้นที่นั้น ๆ เป็นอย่างมาก
    #ChinaStory #5G #การแพทย์จีน #ข่าวจีน #เล่าเรื่องจีน #รักษาทางไกล #ผ่าตัดทางไกล #โรงพยาบาลจีน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เรื่องของพระวีตโสกเถระ

    ในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าในอดีตกาลทรงพระนามว่าสิทธัตถะพุทธเจ้า พระวีตโสกเถระท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ สำเร็จวิชาและศิลปศาสตร์ของพราหมณ์ แล้วละกามทั้งหลาย บวชเป็นฤาษี มีหมู่ฤาษีเป็นอันมากอยู่ในป่าด้วยกัน

    ครั้งนั้น ศิษย์ของท่านคนหนึ่งได้บอกแก่ศิษย์ทั้งหลายของท่าน พวกเขาได้ฟังความนั้นจึงได้บอกท่านฤาษี

    ต่อมาท่านได้สดับข่าวความบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า จึงมีตามร่าเริงยินดีแล้วดำริว่า "พระสัพพัญญูพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว ชนย่อมอนุวัตรตามพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เราไม่มีลาภ พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นผู้มีการอุบัติเลิศลอย มีจักษุ ทรงยศใหญ่ ไฉนหนอ เราพึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด เป็นผู้นำของโลก"

    ท่านจึงถือเครื่องบริขารคือหนังเสือ ผ้าเปลือก ไม้กรอง และคนโทน้ำของท่านแล้ว ออกจากอาศรม เชิญชวนพวกศิษย์ว่า

    "ความเป็นผู้นำโลกหาได้ยาก เหมือนกับดอกมะเดื่อ กระต่ายในดวงจันทร์หรือเหมือนกับน้ำนมกาฉะนั้น พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก แม้ความเป็นมนุษย์ก็หาได้ยาก และเมื่อความเป็นผู้นำโลก และความเป็นมนุษย์ทั้งสองอย่างมีอยู่ การได้ฟังธรรมก็หาได้ยาก พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พวกเราจักได้ดวงตาอันเป็นของพวกเรา"

    "มาเถิดท่านทั้งหลาย เราจักไปยังสำนักของพระพุทธเจ้า ด้วยกันทุกคน ศิษย์ทุกคนแบกคนโทน้ำ นุ่งหนังเสือทั้งเล็บ พวกเขาเต็มไปด้วยภาระคือชฎา พากันออกไปจากป่าใหญ่ในครั้งนั้น พวกเขามองดูประมาณชั่วแอก แสวงหาประโยชน์อันสูงสุด เดินมาเหมือนลูกช้าง เป็นผู้ไม่สะดุ้งประหนึ่งไกรสรสีหราชฉะนั้น"

    แล้วเดินทางไปเฝ้าพระศาสดาพร้อมกับคณะหมู่ใหญ่ แต่เมื่อเดินทางเหลือทางอีกหนึ่งโยชน์ครึ่งจะถึงก็ล้มป่วยถึงความตาย ด้วยจิตที่ส่งไปถึงพระพุทธเจ้า จึงไปบังเกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไปๆ มาๆ อยู่ในภพภูมิเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย กระทั่งเกิดเป็นน้องชายคนเล็กของพระเจ้าธรรมาโศกราช (พระเจ้าอโศกมหาราช) ในปีพุทธศักราช ๒๑๘ ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านได้มีพระนามว่า "วีตโสกะ"

    วีตโสกราชกุมารเจริญวัยแล้วเรียนสำเร็จวิชาต่างๆ และศิลปศาสตร์ที่พึงศึกษาร่วมกับขัตติยกุมารทั้งหลายแล้ว ทั้งยังศึกษาจนแตกฉานเชี่ยวชาญ แกล้วกล้าในพระสุตตันตปิฏกและในพระอภิธรรมปิฏก ทั้งๆ ที่เป็นคฤหัสถ์ โดยอาศัยพระคิริทัตตเถระ

    วันหนึ่งรับกระจกจากมือของช่างกัลบก (ช่างตัดผม) ในเวลาปลงพระมัสสุ ทรงมองดูพระวรกาย เห็นอวัยวะที่มีหนังเหี่ยวและผมหงอกเป็นต้น บังเกิดความสลดพระทัย ยังจิตให้หยั่งลงในวิปัสสนา แล้วยกขึ้นสู่ภาวนา เป็นพระโสดาบันบนอาสนะนั้นเอง บวชในสำนักของพระคิริทัตตเถระแล้ว บรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก

    พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะประกาศพระอรหัตผล ได้กล่าวคาถา ๒ คาถาความว่า

    ช่างกัลบกเข้ามาหาเรา ด้วยคิดว่า จักตัดผมของเรา
    เราจึงเอากระจก จากช่างกัลบกนั้น มาส่องดูร่างกาย
    ร่างกายของเรานี้ได้ปรากฏเป็นของเปล่า ความมืด
    คืออวิชชาในกาย อันเป็นต้นเหตุแห่งความมืดมน
    ได้หายหมดสิ้นไป กิเลสดุจผ้าขี้ริ้วทั้งปวง
    เราตัดขาดแล้ว บัดนี้ภพใหม่มิได้มี ดังนี้.

    (อธิบายว่า) คนทั้งหลายที่อยู่ในอำนาจของความมืดในกายของตน ด้วยความมืดกล่าวคืออโยนิโสมนสิการใด เมื่อไม่เห็นสภาพมีสภาพที่ไม่งามเป็นต้นแม้มีอยู่ ย่อมถือเอาอาการว่าเป็นของงามเป็นอันไม่มีอยู่ ความมืดคืออวิชชาในกายอันเป็นต้นเหตุแห่งความมืดมน คือเป็นที่ตั้งแห่งการกระทำความมืดนั้น ได้หายหมดสิ้นไปด้วยแสงสว่างแห่งญาณ กล่าวคือโยนิโสมนสิการ

    ต่อจากนั้น กิเลสดุจผ้าขี้ริ้วทั้งปวง เราก็ตัดได้ขาด คือกิเลสทั้งหลายอันได้นามว่า โจฬา เพราะเป็นดุจพวกโจรโดยการเข้าไปตัดภัณฑะคือกุศล หรือเป็นดุจผ้าขี้ริ้ว เพราะความเป็นท่อนผ้าเก่าๆ ที่เขาทิ้งแล้วในกองขยะเป็นต้น โดยเป็นเศษผ้าที่ติดลูกไฟ (หรือ) โดยเป็นผ้าที่คนดีไม่ต้องการ เพราะความเป็นของอันอิสรชนคือคนเจริญรังเกียจ อันเราตัดขาดแล้ว ก็เพราะความที่กิเลสเพียงดังผ้าขี้ริ้วเหล่านั้นเป็นของอันเราเพิกถอนได้แล้วด้วยมรรคอันเลิศนั่นแล บัดนี้ภพใหม่จึงมิได้มี ได้แก่การจะไปเกิดในภพใหม่ ไม่มีอีกต่อไป

    ****************************************************
    เนื้อความเรียบเรียงจาก "อรรถกถาวีตโสกเถรคาถา"
    ภาพ - พระอรหันต์ (?) ไม้แกะสลักลงสี ศิลปะญี่ปุ่นยุคเอโดะ ศตวรรษที่ 19 อยู่ที่ CMA

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บ. ญี่ปุ่นพัฒนาเข็มฉีดวัคซีนโควิดได้ขวดละ 7 โดส
    .
    โตเกียว 9 มี.ค. – เทรุโมะ คอร์ป บริษัทผลิตอุปกรณ์การแพทย์ของญี่ปุ่นเผยว่า บริษัทได้พัฒนาเข็มฉีดยาแบบใหม่ที่ทำให้สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์ได้ขวดละ 7 โดส ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ฉีดได้ 6 โดส
    .
    โฆษกของเทรุโมะ คอร์ป กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นได้อนุมัติรูปแแบบเข็มฉีดยาดังกล่าวแล้ว และบริษัทจะเริ่มผลิตเข็มฉีดยาแบบใหม่ในช่วงสิ้นเดือนนี้
    .
    ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ ของญี่ปุ่นรายงานว่า เทรุโมะ คอร์ปตั้งเป้าผลิตเข็มฉีดยาให้ได้ 20 ล้านชิ้นในปีนี้ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคที่ระบุในตอนแรกว่า วัคซีนหนึ่งขวดสามารถฉีดได้ 5 โดส แต่สามารถฉีดวัคซีนได้ 6 โดส หากใช้เข็มฉีดยาแบบพิเศษที่ช่วยลดปริมาณวัคซีนที่เหลืออยู่ในเข็มฉีดยา
    .
    ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์ให้แก่ประชาชนตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น และรัฐมนตรีกำกับดูแลโครงการฉีดวัคซีนกล่าวว่า ญี่ปุ่นอาจต้องเสียวัคซีนบางส่วนไปเปล่า ๆ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเข็มฉีดยาแบบพิเศษ.

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #วัคซีนโควิด ว่ากันด้วยเรื่องเข็มนะคะ รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติให้ใช้เข็มอินซูลินเพื่อนำมาฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้แล้ว เนื่องจากสามารถใช้ฉีดได้ถึง 7 ครั้ง/ 1 ขวด

    ✒️วัคซีนมีน้อยใช้สอยประหยัดนะคะ เป็นความพยายามทำให้เกิด waste น้อยที่สุด นั่นคือ 1 หลอด ผสมออกมาฉีดได้กี่คน

    5 ครั้ง
    ความเดิม: เข็มในญี่ปุ่นเป็นแบบฉีดได้แค่ 5 ครั้ง/ 1 ขวด เพราะยาเข้าไปเหลือในกระเปาะ

    6 ครั้ง
    ตอนนี้: สั่งเข็มกรณีพิเศษที่สามารถฉีดได้ 6 ครั้ง/ขวด เพราะจะมีส่วนดันยาออกจากกระเปาะ
    ⚠️แต่คาดว่าเข็มนี้จะไม่เพียงพอเร็ว ๆ นี้ เพราะต้องสั่งพิเศษ

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼
    7 ครั้ง
    รพ. อุจิโทคุชูไก 宇治徳洲会 เสนอว่า คนญี่ปุ่น ผอมกว่าคนอเมริกา ไม่จำเป็นต้องใช้เข็มยาวเท่ากันเพื่อให้ถึงชั้นกล้ามเนื้อ ดังนั้นใช้เข็มอินซูลินก็น่าจะได้เช่นกัน

    วันนี้รัฐบาลรับรองแล้วว่าให้ใช้ได้ และ ไฟเซอร์ก็ตอบกลับมาว่าไม่มีปัญหา
    ⚠️ข้อเสีย: ถ้าคนอ้วน เข็มอาจจะไปไม่ถึงชั้นกล้ามเนื้อ แต่อยู่แค่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้อาจจะเจ็บหรือแพ้มากกว่าปรกติ

    ความหวังของคนอวบ ๆ กลม ๆ แบบแอดก็อยู่กับบ. เทรุโม ที่ตอนนี้พัฒนาเข็มฉีดยาที่เข็มยาวและฉีดได้ 7 ครั้ง (อันล่าง)

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #โควิด

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ท่ามกลางเหตุความรุนแรงในเมียนมา มีการเผยแพร่คลิปแม่ชีที่ลงคุกเข่าขอร้องให้ตำรวจเมียนมา หยุดใช้ความรุนแรงกับเด็กและชาวบ้าน
    .
    เหตุการณ์เกิดขึ้นวานนี้ ในเมืองมิตจีนา รัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของเมียนมา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด แม่ชีได้คุกเข่าลงตรงหน้าตำรวจ ขอให้หยุดใช้ความรุนแรงกับเด็กและผู้ชุมนุม ด้านตำรวจก็คุกเข่าพนมมือขณะแม่ชีอธิบาย และมีตำรวจอีกรายมาร่วมคุกเข่าด้วยและกราบลงตรงหน้าแม่ชี
    .
    ภายหลังทราบว่า แม่ชีดังกล่าวชื่อว่า แม่ชีแอน โรส นู ทอง ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า ตนได้ร้องขอให้ตำรวจอย่ายิงเด็ก และบอกว่า มีความกังวลถึงความปลอดภัยของชาวบ้านและผู้ป่วยในโรงพยาบาลแถบนี้ด้วย
    .
    ขณะที่รายงานข่าวไม่ได้ระบุว่า ตำรวจตอบแม่ชีกลับว่าอย่างไร
    .
    ส่วนสถานการณ์ในเมืองมิตจีนา วานนี้ เกิดความรุนแรงขึ้นขณะตำรวจปราบปรามผู้ประท้วง พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากการถูกยิงด้วยกระสุนจริงที่ศีรษะ ทั้งคู่เป็นชายอายุ 22 ปี อีกรายอายุ 62 ปี พบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 7 ราย ถูกจับกุมราว 50 ราย
    .
    ด้านสถานการณ์วันนี้ ยังคงมีการชุมนุมในหลายเมือง มีรายงานว่า ที่เมืองลอยกอ รัฐกะยา ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ทำให้ผู้ประท้วงต้องวิ่งหนีจ้าละหวั่น โดยยังไม่มีรายงานจำนวนผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด
    .
    นับตั้งแต่การทำรัฐประหาร 1 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 60 ราย ถูกจับกุมมากกว่า 1,800 ราย

    #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29 #เมียนมา #รัฐประหาร #รัฐประหารเมียนมา #WhatsHappeningInMyanmar

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนเริ่มใช้พาสปอร์ตไวรัสสำหรับนักท่องเที่ยว
    .
    ปักกิ่ง 9 มี.ค. - จีน เริ่มเปิดตัวโครงการการใบรับรองด้านสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีแผนการเดินทางข้ามพรมแดน โดยจะร่วมกับประเทศอื่นๆ ที่ใช้เอกสารรับรองด้านสุขภาพในลักษณะเดียวกันเพื่อกลับมาเปิดเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปอีกครั้ง
    .
    สำนักงานกงศุลของกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนได้เริ่มโครงการใบรับรองสุขภาพของพลเมืองจีน ซึ่งเป็นรูปแบบดิจิทัล จะแสดงสถานะการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาของผู้ใช้งานผ่านโปรแกรมบนวีแชท (WeChat) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีน
    .
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวว่า จีนจะออกใบรับรองดังกล่าวเพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งเสริมการเดินทางข้ามพรมแดน อย่างไรก็ดี ตอนนี้จีนเพิ่งใช้พาสปอร์ตวัคซีนกับพลเมืองจีนเท่านั้น และยังไม่ได้ประกาศบังคับใช้
    .
    นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เป้าหมายของใบรับรองนี้ก้เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันในเรื่องข้อมูล เช่น การทดสอบหาเชื้อไวรัสและการฉีดวัคซีน ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยและการติดต่อระหว่างบุคคล
    .
    ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะมีประเทศไหนยอมรับใบรับรองร่วมกันกับจีนบ้าง และในขณะนี้จีนยังไม่ได้ประกาศผ่านปรนมาตรการกักตัวเพื่อดูอาการสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว
    .
    ทางด้านสหรัฐและอังกฤษ อยู่ในกลุ่มประเทศที่กำลังพิจารณาใช้ใบรับรองสุขภาพที่มีรูปแบบลักษณะเดียวกัน ส่วนสหภาพยุโรปกำลังพัฒนาพาสปอร์ตวัคซีนชื่อ กรีนพาส เพื่ออนุญาตให้พลเมืองของประเทศสมาชิกไปมาหาสู่กัน และเดินทางออกนอกสหภาพยุโรปได้เช่นกัน.

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แฟนกีฬาอาจไม่ได้เข้าชมพิธีเริ่มการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก
    .
    โตเกียว 9 มี.ค. – หนังสือพิมพ์รายวันโยมิอูริ ชิมบุน ของญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า พิธีเริ่มต้นการวิ่งคบเพลิงในสำหรับการแข่งขันโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ จะจัดขึ้นโดยที่ไม่มีผู้ชมมาเข้าร่วมพิธีแต่แฟนๆ กีฬายังจะสามารถรอชมการวิ่งคบเพลิงได้ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ได้
    .
    โนมิอูริ ชิมบุน รายงานว่า คณะผู้จัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกหวั่นเกรงว่า จะมีผู้ชมจำนวนมากมาร่วมพิธีเริ่มออกวิ่งคบเพลิงที่เมืองฟูกูชิมะ ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะห้ามมิให้ประชาชนเข้าร่วมในพิธี ซึ่งเดิมมีแผนจะให้ประชาชน 3,000 คนเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว
    .
    ทางด้านโฆษกของคณะกรรมการจัดการแช่งขันโตเกียว 2020 กล่าวแต่เพียงว่า รายละเอียดของพิธีเริ่มต้นออกวิ่งคบเพลิงยังคงมีการหารือกันอยู่ ทางผู้จัดการแข่งขันได้วางระเบียบเข้มงวดสำหรับการวิ่งคบเพลิงทั่วประเทศไว้แล้ว หลังจากที่การแข่งขันโอลิมปิกต้องเลื่อนมาจากเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
    .
    การร้องตะโกนเชียร์ตามเส้นทางวิ่งคบเพลิงถูกสั่งห้ามเด็ดขาดและขอให้ออกมาชมการวิ่งคบเพลิงเฉพาะในจุดที่อยู่ใกล้บ้านตนเองเท่านั้นและให้หลีกเลี่ยงการรวมตัวของประชาชนเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้ว ผู้ชมต้องสวมหน้ากากอนามัยและให้ใช้วิธีการปรบมือและมอบของให้แทนการตะโกนและร้องเชียร์
    .
    หากพบว่าจุดไหนมีการรวมตัวของประชาชนจะพิจารณายกเลิกการวิ่งในเส้นทางนั้น ทางคณะผู้จัดการแข่งขันจะตัดสินใจในเดือนนี้ว่า แฟนกีฬาจากต่างประเทศจะได้รับอนุญาตให้เดินทางมาชมการแข่งขันในกรุงโตเกียวหรือไม่ และจำนวนแฟนกีฬาที่อนุญาตให้เข้าชมจะมีการกำหนดในเดือนหน้า.

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บทเรียนโลกร้อน "เท็กซัส"...ไทยวางแผนรับมือตรงข้าม 7 มีนาคม 2564 - 08:11 น.

    ติดตามข่าวสารผ่าน 'คมชัดลึก' Line Official
    คอลัมน์... ลึกลับโลกมนุษย์ โดย ดร.บีจี

    พายุหิมะโหมกระหน่ำ อุณหภูมิติดลบกว่า 30 องศาใน “รัฐเท็กซัส” สร้างความพิสวงงงงวยให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเป็นอย่างยิ่ง เพราะพื้นที่แถบนั้น ถูกประเมินคาดหัวตัวแดงมาตลอดว่า “ต้องเจอภัยแล้งจัดเพราะโลกร้อนแน่ ๆ” ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นขั้วตรงข้าม คือ “ภัยหนาวจัด” เนื่องจากหลายสิบปีที่ผ่านมา เท็กซัสเกิดการเปลี่ยนแปลงของน้ำฝนหรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นแบบรุนแรง จนกระทบต่อการระบายน้ำบริเวณชายฝั่ง นักวิจัยหลายฝ่ายร่วมมือกันทำแบบจำลอง “worst case scenario” เป็นเสมือนคาดการณ์ล่วงหน้าว่า “กรณีเลวร้ายสุดจากผลกระทบโลกร้อนที่อาจเกิดขึ้นในเท็กซัสมีอะไรได้บ้าง” เพื่อให้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐเข้าใจและเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงให้ทันท่วงที

    ผลการจำลองบอกว่า พื้นดินเท็กซัสอาจเผชิญความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำในแม่น้ำสำคัญหลายสายจะแห้งขอด ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และทุ่งข้าวจะกลายเป็นสีน้ำตาลเพราะแดดแผดเผาอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา สภาพเลวร้ายภัยแล้งของรัฐเท็กซัส ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกานั้น เริ่มก่อเค้าความรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2554

    มหันตภัยพายุหิมะที่เคลื่อนตัวเป็นระลอก ๆ มาเยือนแทบทุกพื้นที่เท็กซัส ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 กลายเป็นความหนาวเย็นสุดขั้วแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน... กรมอุตุนิยมอเมริกาโชว์ตัวเลขวันที่ 14 ก.พ.2021 อุณหภูมิลดลงแตะระดับ ติดลบ -18 องศาเซลเซียล ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงเดือนนี้ของปีที่แล้ว อากาศสบายๆ ประมาณ 15 องศาเซลเซียล หมายถึงความแตกต่างที่มากถึงเกือบ 30 องศา


    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพราะหนาวตายพุ่งสูงเกือบ 100 คน ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปาล่มสลาย ชาวเท็กซัส 12 ล้านคน ไม่มีน้ำไม่มีไฟใช้ หรือมีแบบติด ๆ ขัด ๆ สำนักข่าวทั่วโลกรายงานโศกนาฏกรรมเด็กน้อยหลายคนนอนขดตัวหนาวตายภายใต้ผ้าห่มหลายชั้น เพราะในบ้านไม่เคยมีเครื่องทำความร้อน ระบบไฟฟ้าถูกตัดขาดหลายวัน บางครอบครัวแม่ตัดสินใจอุ้มลูกเข้าไปนอนเปิดฮีตเตอร์ในรถยนต์ แล้วเสียชีวิตเพราะก๊าซพิษจากท่อไอเสียไหลเวียนไม่ดีพอ

    นี่คือความลึกลับของ “ภาวะโลกร้อน” ไม่ว่ารัฐบาลทั่วโลกจะร่วมมือกันทุ่มงบประมาณประดิษฐ์เทคโนโลยีไฮเทค เพื่อวิเคราะห์จำลองคาดการณ์ไว้อย่างไรก็ตาม สุดท้ายอาจพลิกขั้วเป็นตรงข้ามได้เสมอ

    ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกร้อนของเท็กซัส วางแผนเตรียมพร้อมรับมือ “ภัยแล้งร้อน” ไว้อย่างเต็มที่ แต่วิกฤติที่เกิดขึ้นเป็นขั้วตรงข้าม คือ ภัยหนาวพายุหิมะ แบบฉับพลันและรุนแรง !?!

    มหาวิทยาลัยแห่งเท็กซัส ทำวิจัยและเผยแพร่หนังสือชื่อ “ผลกระทบของภาวะโลกร้อนในเท็กซัส” (The Impact of Global Warming on Texas) เมื่อปี 2554 เนื้อหาแสดงให้เห็นประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอดีตของเท็กซัส และจำลองการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันจากปัญหา “ภาวะโลกร้อน” และปัจจัยอื่น ๆ

    มีการยืนยันว่า พื้นที่ชายฝั่งทะเลกำลังได้รับผลกระทบรุนแรงจากปริมาณน้ำฝนหรืออุณหภูมิของโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ชายฝั่งทรุดตัวต่อเนื่อง พร้อมเสียงเตือนถึงผลผลิตและรายได้ส่วนใหญ่ของชาวเท็กซัสที่มาจากภาคเกษตรอาจย่อยยับ เพราะภัยแล้งรุนแรง การขาดแคลนน้ำ ฟาร์มพืชและฟาร์มสัตว์เสี่ยงเผชิญศัตรูพืชและโรคระบาด คำเตือนเกี่ยวกับ “ภัยแล้งและอากาศร้อนจัด” มีมาต่อเนื่องเรื่อย ๆ

    เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเป็นขั้วตรงข้าม “ภัยหนาวรุนแรง” ทำให้ชาวเท็กซัสไม่ขาดแคลนน้ำ แต่กินไม่ได้เพราะเป็นน้ำแข็ง และไม่มีไฟฟ้าส่งมาถึงหม้อต้มน้ำท่อส่งก๊าซเกิดภาวะน้ำแข็งเกาะ กังหันผลิตพลังงานลมหมุนไม่ได้เพราะหิมะท่วม ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมสำรองเชื้อเพลิงหรืออุปกรณ์สิ่งของยังชีพไว้สำหรับรับภัยหนาว สิ่งที่พอมีก็คือ ถ่านดำถุงเล็ก ๆ ที่เตรียมไว้สำหรับเตาบาร์บีคิวย่างซี่โครงหมู

    บทเรียนโลกร้อน “เท็กซัส”...ทำให้ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย อาจต้องวางแผนรับมือความแปรปรวนของภูมิอากาศไว้หลายรูปแบบและหลากสถานการณ์มากกว่านี้ เพราะความลึกลับของมหันตภัยโลกร้อน อาจเกิดขึ้นแบบขั้วตรงข้ามได้เสมอ !

    อธิบายง่าย ๆ คือ เท็กซัสที่มีอุณหภูมิคล้ายไทย บางพื้นที่ร้อน บางพื้นที่หนาว พื้นที่หนาวสุดเฉลี่ยประมาณ 1- 5 องศา เช่นเดียวกับไทยในภาคเหนือแถบเชียงรายหรือน่านก็เคยลดต่ำถึง 1-2 องศามาแล้วเช่นกัน

    ที่ผ่านมานักวิชาการของไทยมักกังวลถึง “ภัยร้อนแห้งแล้งแบบต่อเนื่องและรุนแรง” จากก๊าซเรือนกระจก แต่ไม่ค่อยมีคำเตือนให้ระวังภัยหนาวแบบหฤโหดมากนัก เพราะมั่นใจว่าอากาศร้อนชื้นของไทยไม่ทำให้เกิดหิมะตกอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดแบบขั้วตรงข้ามในเท็กซัส อาจทำให้พวกเราต้องกลับมาช่วยกันพิจารณาความเป็นไปได้แบบเลวร้ายที่สุด การสร้าง แบบจำลอง “worst case scenario” ถ้าเกิดภัยหนาวจัดแบบเท็กซัส คนไทยจะรับมือได้มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภค ถ้าท่อส่งก๊าซกลายเป็นน้ำแข็ง หรือน้ำในบ่อเก็บของการประปาเป็นน้ำแข็งหมด ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน คนไทยจะทนความหนาวแบบไม่มีน้ำใช้ได้นานแค่ไหน

    ผศ.ประสาท มีแต้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ในฐานะ กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมสภาองค์กรของผู้บริโภค ตอบคำถามข้างต้นว่า ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะไทยติด 1 ใน 8 ประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากโลกร้อนแบบรุนแรง ข้อมูลคาดการณ์แบบเลวร้ายที่สุดนั้น ส่วนใหญ่เน้นเผชิญปัญหา “คลื่นความร้อน” หรืออากาศร้อนติดต่อกันมากกว่าเดิมระดับ 100- 145 เท่า เช่น ไทยเคยร้อนสุด ๆ ปีละ 5 วัน ก็อาจเพิ่มเป็น 500 วันหรือร้อนต่อเนื่องทั้งปี หรือพื้นที่ทั่วไปจากที่เคยร้อนระดับ 2-3 ก็อาจพุ่งทะลุไประดับ 5 ได้

    ตอนนี้มีงานวิจัยแสดงถึงกระแสน้ำที่แปรปรวนในทะเลสาบ 700 แห่งทั่วโลก โดย UKCEH หรือ ศูนย์นิเวศวิทยาและอุทกวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร (UK Centre for Ecology & Hydrology) ระบุว่าปัญหากระแสน้ำแปรปรวนจะส่งผลต่อ สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างทั้งหมด เช่น ทำลายพืช ทำให้สัตว์น้ำตาย ชายฝั่งและหน้าดินถูกทำลาย ความหลากหลายทางชีวภาพหมดไป น้ำท่วมภัยแล้งจะเกิดขึ้นแบบกระทันหัน

    ผส.ประสาท ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์ขั้วตรงข้ามที่เกิดในเท็กซัส หนาวจัดติดลบเกือบ -20 องศา ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ในเมืองไทย เพราะประเทศเพื่อนบ้านของไทยทั้งเวียดนามและพม่า บางพื้นที่ของภูเขาสูงก็มีหิมะตกเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว โอกาสที่คนไทยเจออากาศหนาวจัดติดลบแบบต่อเนื่องยาวนานก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นศูนย์ ถ้าพวกเราไม่พยายามลดก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง พร้อมกล่าวย้ำว่า รัฐบาลไทยที่ผ่านมา มีตัวเลขสวย ๆ มาโชว์ ยังไม่เห็นความจริงจังในการลดพลังงานฟอสซิล
    เช่น นโยบายบังคับเลิกใช้รถยนต์แบบเดิมแล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า หลายประเทศกำหนดไว้เลยว่าอีก 5 – 10 ข้างหน้า ต้องโละทิ้งรถยนต์แบบเดิมให้ได้ 20 - 50 เปอร์เซ็นต์ หมายถึงรถใหม่ที่ขายต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น หรือ ส่งเสริมโซลาเซลล์และพลังงานทางเลือกอื่น ๆ แต่ในไทยแลนด์เทคโนโลยีพวกนี้ยังไม่ได้รับการสนับสนุน ตอนนี้เอาแค่ลดฝุ่นพิษ พีเอ็ม 2.5 ให้ได้เสียก่อน ยังไม่รู้จะทำจริงจังแค่ไหน...

    นับว่าเป็นคำเตือนที่น่าสนใจยิ่ง จากข้อมูลปี 2563 ไทยแลนด์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่ 21 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากอินโดนีเซีย หมายความว่าจากเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ไทยติดอันดับต้น ๆ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรว่า เราจะรอดพ้นผลกระทบจากโลกร้อน?

    ตัวการปล่อยก๊าซพิษเรือนกระจกของไทยมาจาก การใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น คาร์บอนฯจากท่อไอเสียรถยนต์ และโรงไฟฟ้า สัดส่วนมากถึงร้อยละ 70 ทำให้นายกบิ๊กตู่ ต้องรีบให้คำมั่นสัญญากับประชาคมโลกว่า ไทยจะลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้อย่างน้อย 20-25% ภายใน 10 ปีข้างหน้าหรือปี 2573 เราไปฟังว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับ “ปัญหาโลกร้อน” คิดอย่างไรก็เรื่องนี้

    ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ ที่คลุกคลีข้อมูลวงในของ “กองประสานการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (กปอ.)” ในฐษนะตัวแทนรัฐไทยไปประชุมโลกร้อนมาเกือบทุกเวทีทั่วโลก วิเคราะห์ให้ฟังว่า ตอนนี้ไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 12 ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่ประกาศไว้ว่าร้อยละ 7 ในปี 2563 ส่วนใหญ่ลดเพราะเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 รวมถึงรณรงค์เปลี่ยนไปใช้หลอดไฟฟ้าแอลอีดี และในอนาคตมีมาตรการอื่นๆ เช่น ระบบขนส่งทางรถไฟ ระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวหรือป่าไม้

    สำหรับกรณีที่เกิดในเท็กซัสนั้น คงบอกไม่ได้ว่าไทยไม่เกิดแบบนั้น แต่ตอนนี้ไทยได้ “ยกร่างแผนการรับมือกับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน” เรียบร้อยแล้ว ทั้งแบบระยะยาวและแบบฉับพลัน แต่ที่เรากังวลยังคงเน้นปัญหาภัยร้อนกับภัยแล้งมากกว่า เช่น สายไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่บนถนนทั่วไปนั้น เป็นวัสดุที่ทนความร้อนได้ระดับไหน ระดับทนทานต่อแดดแผดเผาไม่หลอมละลาย หรือผังเมืองต้องเปลี่ยนไปตามสภาพของพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ถูกกัดเซาะ การขาดน้ำยาวนานในภาคเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร ฯลฯ

    สรุปง่าย ๆ ว่า รัฐไทยยกร่างแผนรับมือไว้หลายร้อยหน้ากระดาษแล้ว รอแค่คนไทยเอาไปทำตามให้ได้จริงเท่านั้น ....แต่ก็อย่างที่เห็น ๆ มนุษย์โลกน้อยคนนักที่จะ “กลัว” ความลึกลับของ “มหันตภัยโลกร้อน” นอกจากวินาทีที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเองเหมือนชาวเท็กซัส...!?!


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โฆษกศาลฯ แจงศาลสั่งคำร้องขอประกัน 3 แกนนำราษฎร "รุ้ง-ไมค์-ไผ่" เสร็จแล้วก่อนถูกคุมตัวไปเรือนจำ 9 มีนาคม 2564 - 16:06 น.

    ติดตามข่าวสารผ่าน 'คมชัดลึก' Line Official

    โฆษกศาลยุติธรรม "สุริยัณห์ หงษ์วิไล"ออกโรงชี้แจงยืนยัน ศาลอาญามีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องประกันตัว 3 แกนนำกลุ่มราษฎรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวขึ้นรถไปเรือนจำ เรียกทนายจำเลยมาดูหลักฐาน ยืนยันทำตามขั้นตอนกฎหมาย คุ้มครองสิทธิจำเลย

    จากกรณีที่ทนายความของกลุ่มคณะราษฎร ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ภายหลังศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 3 แกนนำกลุ่มราษฎร จำเลยในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 กรณีชุมนุม 19 กันยาฯ ทำนองว่า “ขณะทำเรื่องประกันตัว 3 แกนนำกลุ่มราษฎร ซึ่งกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น แต่ทางราชทัณฑ์กลับนำตัวจำเลยทั้ง 3 ขึ้นรถไปคุมขังยังเรือนจำ” ซึ่งกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาในศาลอาญาที่อาจสร้างความเข้าใจผิดหรือเกิดความคลาดเคลื่อนสงสัยในกระบวนการยุติธรรมนั้น

    เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้อธิบายถึงขั้นตอนการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวคดีกลุ่ม 18 แกนนำและแนวร่วมคณะราษฎร 2563 ว่า โดยหลักปฏิบัติ (ทุกคดี) เมื่ออัยการนำตัวจำเลยมายื่นฟ้องต่อศาลแล้ว หากศาลมีคำสั่งประทับฟ้อง จะสั่งต่อไปด้วยว่า ให้หมายขัง เว้นแต่จะมีประกัน ซึ่งหมายความว่า เมื่อศาลรับฟ้องแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ออกหมายขังจำเลยไว้ระหว่างพิจารณา หากมีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว และศาลพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ศาลก็จะออกหมายปล่อยต่อไป โดยผู้ที่มีอำนาจหน้าที่บังคับตามหมายคือราชทัณฑ์ ซึ่งการบริหารจัดการในแง่ของการนำตัวจำเลยไปควบคุมตัวนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของราชทัณฑ์ว่าจะนำตัวไปเมื่อใด อย่างไร

    สำหรับการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนั้น ตามกฎหมายคนที่มีสิทธิยื่นคือ ผู้ต้องหา (กรณีอยู่ระหว่างการสอบสวน) หรือ จำเลย (กรณีศาลประทับฟ้องแล้ว) และผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง

    โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในขั้นตอนขอปล่อยชั่วคราวเมื่อวานนี้ เป็นการยื่นโดยผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ไม่ใช่จำเลย เมื่อได้รับคำร้องแล้วเจ้าหน้าที่ก็นำไปลงระบบในช่วงเวลา 13.00 น.เศษ จากนั้นรีบนำเสนอผู้พิพากษาที่มีหน้าที่พิจารณาคำร้องโดยเร็ว การทำงานของศาลอาญาขั้นตอนใดที่กฎหมายไม่ได้บังคับศาลก็พยายามจะทำให้สั้นและกระชับที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อให้การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด เมื่อผู้พิพากษาพิจารณาคำร้องเสร็จแล้วจึงไปถึงขั้นตอนการแจ้งคำสั่งให้ผู้ร้องขอทราบต่อไป ส่วนราชทัณฑ์ซึ่งมีหน้าที่บังคับตามหมายขังก็จะต้องดำเนินการนำตัวจำเลยไปควบคุมที่เรือนจำต่อไป

    ขอยืนยันว่าแม้ราชทัณฑ์จะมีอำนาจปฏิบัติตามหมายขังระหว่างพิจารณาได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งในเรื่องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ศาลได้พิจารณาและมีคำสั่งในคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวแล้ว ราชทัณฑ์จึงมีการนำตัวจำเลยไป อีกทั้งในวันนี้ทางศาลอาญาได้เชิญทนายจำเลยมาอธิบายถึงขั้นตอนและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจนเป็นที่เข้าใจแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดขอยืนยันว่าศาลปฏิบัติกับคู่ความทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการปฏิบัติที่แตกต่างกันแต่อย่างใดๆ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีมีผู้แสดงความไม่เห็นด้วย หลังกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ออกหนังสือแจ้งภาคเอกชน หักเงินเดือนพนักงานที่กู้ยืมเงิน และนำส่งเงินชำระคืนกองทุนฯ หากไม่ดำเนินการจะต้องชดใช้เงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ถือว่าผลักภาระความรับผิดชอบหนี้ให้ภาคเอกชน

    เรื่องนี้ กยศ. ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงให้นายจ้างได้ทราบถึงเหตุผลและความจำเป็นในการหักเงินจากบัญชีเงินเดือนลูกหนี้เพื่อชำระเงินคืน ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 61 เริ่มจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานเอกชน มีหน่วยงานที่ต้องแจ้งหักเงินเดือนทั้งหมดราว 107,000 แห่ง และมีผู้กู้ยืมที่อยู่ในเกณฑ์หักเงินเดือน 1,735,000 ราย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นายจ้างทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

    สำหรับขั้นตอนการหักเงินเดือนลูกหนี้ กยศ. ผ่านองค์กรนายจ้างนั้น จะส่งหนังสือแจ้งหักเงินเดือนไปยังที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของผู้กู้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 60 วัน จากนั้นจะส่งหนังสือแจ้งให้นายจ้างทราบถึงข้อมูลของผู้กู้และจำนวนเงินที่ต้องหักนำส่งล่วงหน้าประมาณ 30 วัน

    นายจ้างสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ต้องหักและนำส่ง ผ่านระบบรับชำระเงินกู้ยืมคืน กยศ. ผ่านกรมสรรพากร (e-PaySLF) โดยเข้าใช้งานได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ซึ่งกองทุนจะอัปเดตข้อมูลที่ต้องหักและนำส่งแจ้งให้นายจ้างทราบผ่านระบบดังกล่าวในทุกวันที่ 5 ของเดือน

    เมื่อพนักงานได้รับเงินเดือน ลำดับการหักเงินจะเริ่มจาก 1. หักภาษี ณ ที่จ่าย 2. หักจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนประกันสังคม และ 3. หักเงินกองทุน กยศ.

    ส่วนข้อกังวลว่า หากนายจ้างไม่หักเงินตามที่ได้รับแจ้ง จะต้องชดใช้เงินตามจำนวนที่กองทุนแจ้งให้ทราบ และต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตรา 2% ต่อเดือน ของเงินที่ไม่ได้นำส่ง กรณีนี้หากหน่วยงานแจ้งเหตุผลข้อขัดข้องที่ไม่สามารถดำเนินการหักเงินเดือนผู้กู้ยืมได้ สามารถขออนุโลมและผ่อนผันได้ โดยปัจจุบันยังไม่เคยเรียกชดใช้เงินหรือเรียกเงินเพิ่มจากนายจ้างแต่อย่างใด

    การคำนวณยอดหักเงินเดือน จะใช้ยอดหนี้ตามตารางชำระรายปี หารด้วย 12 เดือน หรือจำนวนเดือนที่เหลือก่อนถึงวันครบกำหนดชำระหนี้ (5 ก.ค. ของทุกปี) และในงวดปีถัดไปจะเริ่มหักเงินเดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของทุกปีจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น

    อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ยืมเงินที่ไม่สามารถชำระตามอัตราที่แจ้ง สามารถขอลดจำนวนการหักเงินเดือนได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” โดยอนุโลมให้ชำระขั้นต่ำเพียง 100 บาท แต่ต้องชำระเงินในส่วนที่ขาดไปของงวดนั้นให้ครบตามจำนวนก่อนวันครบกำหนดชำระหนี้รายปี

    ปัจจุบัน กยศ. ไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินมาตั้งแต่ปี 2561 โดยใช้เงินชำระหนี้ของผู้กู้ยืมของรุ่นพี่หมุนเวียนเพื่อส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้อง

    สำหรับปีการศึกษา 2564 นี้กองทุนได้เตรียมเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา จำนวน 38,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจำนวน 624,000 รายไว้เรียบร้อยแล้ว

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา www.studentloan.or.th

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    09.03.21

    (สรุป) แถลงข่าว เรื่อง สถานการณ์โคโรนาไวรัส ใน ประเทศนอร์เวย์ และ มาตรการระดับชาติ ฉบับที่ 4

    วันอังคารที่ 09.03.21 เวลา 11.15 น. มีผู้เข้าร่วมการแถลงข่าว 4 ท่านคือ

    ▪นายกรัฐมนตรี Erna Solberg
    ▪รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Bent Høie
    ▪ผู้อำนวยการสถาบัน FHI Bjørn Guldvog
    ▪Camilla Stoltenberg จาก สถาบัน FHI
    .
    ⭕Part รัฐสภา

    1.นรม : การติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในแปดใน 10 มณฑล แต่บางมณฑลยังสมารถควบคุมได้ดีอยู่ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองออสโล และ Viken มีผู้ป่วยราว 70 % จากจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในประเทศนี้ คาดว่าเป็น ไวรัสกลายพันธุ์ 70%

    2.Helsedirektoratet และ FHI ไม่แนะนำให้รัฐบาลออกมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ และ ต้องการให้มาตรการท้องถิ่นทำงานอีก 2- 3 วันก่อนที่จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่

    3.รัฐบาล จะยังไม่ประกาศมาตรการระดับชาติฉบับใหม่ในวันนี้ แต่ได้ออกคำเตือนถึงมาตรการแทรกแซงที่เข้มงวดในอนาคต หากยอดผู้ติดเชื้อไม่ลดลง รัฐบาล จะดูว่าเทศบาลจัดการกับสถานการณ์การติดเชื้ออย่างไรก่อนที่มาตรการระดับชาติจะออกมาภายหลัง

    -----------------------------------

    ⭕Part แถลงข่าว

    4.นรม. กล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาล ได้ให้อำนาจแก่ เทศบาลท้องถิ่น มากขึ้น เพื่อให้ สามารถบริหาร-จัดการภายในท้องถิ่นของแต่ละเทศบาลด้วยมาตรการท้องถิ่น และ ขณะนี้ต้องพึ่งพามาตรการในท้องถิ่นที่มีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ เพื่อ หลีกเลี่ยงมาตรการระดับชาติใหม่ ๆ ที่เข้มงวด

    มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    ▪FHI ได้ปรับปรุงคู่มือสำหรับเทศบาล
    ▪แพทย์ในเขตเทศบาลจะมีอำนาจในการดำเนินมาตรการต่างๆในพื้นที่ได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
    ▪จะทำให้อำนาจ ผู้แทน ของแต่ละ เขตเทศบาล มีเวลาในการวางแผน และ ปรับใช้มาตรการระดับท้องถิ่นที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

    5.นรม. แจ้งเตือนมาตรการที่ครอบคลุม หากมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ผลอีกต่อไป

    หัวข้อที่จะนำมาใช้ในขั้นต่อไปคือ

    ▪แนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคม จาก 1 เมตร เพิ่มเป็น 2 เมตร
    ▪แต่ละคนสามารถติดต่อคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวได้ สัปดาห์ละ ไม่เกิน 10 คน
    ▪การจัดงานในร่มแบบมีที่นั่งถาวร ได้ไม่เกิน 20 คน
    ▪งานศพ มีผู้ร่วมงานได้สูงสุดไม่เกิน 50 คน
    ▪การจัดงานกลางแจ้ง มีผู้ร่วมงานสูงสุดได้ไม่เกิน 50 คน
    ▪ห้ามทำกิจกรรมสันทนาการในร่มสำหรับวัยผู้ใหญ่ทุกชนิด
    ▪โรงยิม / สระว่ายน้ำ ปิดให้บริการ ยกเว้น การฝึกอบรม
    ▪ห้ามเสริฟ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    ▪การปิดสถานบันเทิง เช่น สวนสนุก / บิงโก และ อื่นๆ
    ▪คำสั่งให้มีสำนักงานที่บ้าน

    หากมาตรการที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้ผล (อัตราการติดเชื้อไม่ลดลง) รัฐบาลจะพิจารณานำหัวข้อเหล่านี้มาใช้:

    ▪งดการไปเยี่ยมที่บ้าน ทั้งการมีแขก และ ไปหาผู้อื่น 2 สัปดาห์
    ▪กิจกรรมทั้งหมดจะต้องถูกเลื่อนออกไป
    ▪ระดับสีแดงใน โรงเรียนมัธยมต้น และ มัธยมปลาย
    ▪การสอนแบบดิจิทัล สำหรับ มหาวิทยาลัย และ วิทยาลัย
    ▪ระดับสีแดงในโรงเรียนอนุบาลและโรงเรียนประถมในเขตเทศบาลที่มีอัตราการติดเชื้อสูง

    6.นรม. ออกคำเตือนให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับมาตรการทั้งในระดับชาติ และ ระดับท้องถิ่น ที่อาจนำมาใช้ได้ทุกเมื่อ รัฐบาล จะให้คำแนะนำและมาตรการสำหรับเทศกาล påske ในภายหลัง โดยอาจจะมีคำแนะนำสำหรับการเดินทางไป บ้านพักตากอากาศ เป็นต้น (รอประกาศ)

    7.นรม : ขอให้ ชาวนอร์เวย์ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ อย่าพึ่งกลับบ้านในช่วง เทศกาล påske เช่นเดียวกับ นักเรียนที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ในขณะเดียวกันก็ขอร้องให้ ประชาชน ไม่เดินทางไปต่างประเทศ ผู้ที่เดินทางกลับมาแล้วไม่สามารถแสดงเอกสารยืนยันได้ว่า พวกเขามีที่พักที่เหมาะสมสำหรับการกักกันตนเอง อาจเสี่ยงต่อการที่ต้องกักกันตนเองที่ โรงแรมกักกัน

    8.นรม. เตือนว่าสถานการณ์โดยรวมยังมีความเปราะบาง แต่ถ้าหากว่า สามารถควบคุมการติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำ ได้ตั้งแต่ เดือนมีนาคม และ เมษายน การเปิดประเทศอีกครั้งจะสามารถเริ่มได้ใน เดือนพฤษภาคม นรม เน้นย้ำว่า ขีดจำกัดของสถานพยาบาล ไม่ใช่สิ่งที่ รัฐบาล กังวลมากที่สุด แต่เป็น เรื่อง ระบบการติดตามผู้ติดเชื้อ และ บริการสาธารณสุขในท้องถิ่นจะล่มสลาย

    9.รมต.สธ กล่าวว่า รัฐบาล ได้ตัดสินใจว่าจะ ขยายระยะเวลาในช่วงการฉีดวัคซีน Pfizer / Biontech และ Moderna จาก เดิม 3 สัปดาห์สามารถขยายเวลาเป็น 6 สัปดาห์ FHI เพื่อให้มีผู้ได้รับวัคซีน โดสแรก มากขึ้น และ กำลังพิจารณาว่า สามารถขยายระยะช่วงเวลาการฉีดวัคซีน ระหว่าง เข็มแรก - เข็มที่ 2 ได้ยาวกว่า 6 สัปดาห์หรือไม่ รวมถึง FHI จะออกคำแนะนำให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี สามารถรับวัคซีน AstraZeneca ได้ด้วย

    -------------------------
    Credit @bent Høie
    ↔️↔️ Holde avstand - รักษาระยะห่าง
    Holde deg hjemme hvis du er syk - อยู่บ้านเมื่อคุณป่วย
    Holde hendene rene - ล้างมือบ่อยๆ
    Holde nede antall personer du møter - หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก
    ➖➖➖➖➖➖➖➖

    ⏪สรุปแถลงข่าว ย้อนหลัง
    https://norgetiltak.blogspot.com

    อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
    https://www.blockdit.com/norwaystyle

    อ่าน คำคมข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/norgeutrykk

    #นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
    .
    แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
    https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

    ที่มา เวปไซต์รัฐบาล Regjeringen /NRK :
    https://www.regjeringen.no/no/aktue...orelse-for-stortinget-9.-mars-2021/id2837618/
    https://www.nrk.no/norge/828-nye-koronasmittede-siste-dogn-1.15408496
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ควรรู้ก่อนยื่นภาษี!!! ผู้ประกอบการควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

    มาดูกันว่าลดหย่อนที่ใช้ได้ในปี 2563 มีอะไรบ้าง
    ยื่นแบบภ.ง.ด90/91
    ยื่นกระดาษที่สรรพากรพื้นที่ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564
    ยื่นแบบออนไลน์ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564

    คลิกลิงก์ https://rd.go.th/272.html
    หากยื่นออนไลน์ไม่เป็นคลิก !! http://bit.ly/3nFPih5

    ฝากกดติดตามแฟนเพจ บัญชีอย่างง่าย
    #เพื่อรับข่าวสารข้อมูลบัญชีภาษีทันต่อเวลา

    เว็บไซต์ความรู้สำหรับเจ้าของกิจการ https://smes.academy/
    Youtube : https://bit.ly/3lnhpBF
    Line@ : https://bit.ly/2TI1mSr
    Instagram : https://bit.ly/2Y05mzW
    Blockdit : http://bit.ly/3qRsmxt
    Tiktok : http://bit.ly/2McBHR3

    ✅เริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกวิธี ด้วยชุดคู่มือเพื่อการเริ่มต้นธุรกิจ (First step)
    คลิ๊กดูรายะเอียด https://bit.ly/3o3dHxd

    ✅แฟ้มคัมภีร์ธุรกิจ ช่วยให้คุณวางระบบเอกสารในองค์กร พาทุกค่าใช้จ่ายเข้าอย่างเป็นระบบ
    คลิ๊กดูรายะเอียด https://bit.ly/3c69038

    #บัญชีอย่างง่าย #ครูอัส #วางระบบบริษัท #วางระบบภาษี #SMEไทยยั่งยืน #ธุรกิจมั่นคง #เงินสดหมุนเวียนในกิจการ #เตรียมพบกับสัมมนาสด
    FB_IMG_1615292342672.jpg
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วัคซีนพาสปอร์ต

    9/3/64

    วัคซีนป้องกัน โควิด-19 ถือเป็นความหวังของมนุษยชาติทั้งมวลเพื่อจะได้กลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติหรือใกล้ปกติให้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้เศรษฐกิจที่อยู่ในสภาวะล้มละลายกลับฟื้นคืนตัวได้โดยเร็ว
    และทั้งนี้รวมถึงการรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเพื่อการฟื้นฟูประเทศได้อีกทางหนึ่ง
    ประสิทธิภาพของวัคซีนเท่าที่ได้มีการประเมินจนกระทั่งถึงปัจจุบัน วัคซีนชนิดต่างๆที่มีอยู่ในขณะนี้ อาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ แต่สามารถลดความรุนแรงเมื่อเกิดมีการติดเชื้อโดยการผ่อนหนักเป็นเบา ให้เป็นอาการน้อยหรือปานกลาง นอกจากนั้นอาจจะมีประสิทธิภาพในการลดจำนวนของไวรัสที่จะแพร่ออกมารวมทั้งระยะเวลาในการแพร่ด้วย

    ในส่วนของวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับบุคคลที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าประเทศไทย ได้มีการกำหนดกฏเกณฑ์โดยถือว่าต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็มและมีการรับรองว่าไม่มีการติดเชื้อ

    ในสองประการนี้ถือว่าเป็นเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้มีการเล็ดลอดของเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย

    แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังมีโอกาสที่เกิดการติดเชื้อได้และยังแพร่เชื้อได้ แม้ว่าจะผ่านการรับรองจากประเทศต้นทางแล้วก็ตาม ทำให้ต้องมีเกราะป้องกัน ระดับที่สาม

    นั่นก็คือยังคงต้องมีการกักตัวแต่อยู่ในระยะเวลาที่สั้นกว่าเดิม นั่นก็คือ แทนที่จะเป็น 14 วัน สามารถลดลงได้เหลือห้าถึงเจ็ดวันด้วยซ้ำ
    และในระหว่างที่มีการกักตัวเนื่องจากจะเป็นระยะที่สั้นลง จึงจำเป็นที่ต้องมีการตรวจที่รัดกุมและแม่นยำที่สุด

    ทั้งนี้การตรวจในเกราะป้องกันชั้นที่สามนี้ จะไม่สามารถกระทำได้ ด้วยการเจาะเลือดหาระดับภูมิคุ้มกันอย่างเดียว
    ทั้งนี้เนื่องจากแม้ได้รับวัคซีนมาแล้วก็ตาม และถึงแม้ระดับภูมิคุ้มกันในส่วนที่สามารถยับยั้งไวรัสได้นั้นจะมีระดับสูงถึง 68% ตามตัวเลขที่ได้มีการประมาณการไว้ก็ตาม ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้

    เนื่องจากข้อมูลที่ทางศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ได้รวบรวมไว้ พบว่าแม้ภูมิที่สามารถยับยั้งไวรัสได้นั้นจะมีปริมาณสูงมาก แต่ยังมีเชื้อสามารถถูกปลดปล่อยออกไปได้ในปริมาณสูงเช่นกัน ทั้งในคนติดเชื้อที่มีและไม่มีอาการ

    และการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิโดยพยายามแยกแยะชนิดของภูมิคุ้มกันว่าจะเป็นภูมิต่อส่วนของวัคซีนหรือเป็นส่วนของไวรัสตามธรรมชาติ ก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะถึงแม้ว่าตรวจพบภูมิต่อส่วนของไวรัสตามธรรมชาติก็ไม่อาจบอกได้ว่าขณะนี้ยังคงมีเชื้อปลดปล่อยออกมาหรือไม่

    นอกจากนั้น สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังก็คือบุคคลที่เดินทางจากต่างประเทศนั้น อาจมีการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่มีรหัสพันธุกรรมผิดเพี้ยนไป และกระทบกับประสิทธิภาพของวัคซีนทำให้ได้ผลน้อยลงหรือไม่ได้ผลเลย ดังนั้นแม้การตรวจเลือดจะพบว่ามีระดับภูมิคุ้มกันสูงแต่ภูมิคุ้มกันนั้นจะเป็นต่อไวรัส โควิด-19 ตัวต้นแบบที่ระบาดในตอนต้นเท่านั้น แต่ไม่มีความสามารถต่อสู้กับไวรัสที่ผิดเพี้ยนไปได้

    เกราะป้องกันระดับที่สามนี้ แม้ว่าจะมีการกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากแอฟริกาจะต้องถูกกักตัวนานกว่าปกติจนกระทั่งถึงนานกว่า 14 วันก็ตาม ก็ไม่สามารถป้องกันได้ครบถ้วน ทั้งนี้เนื่องจากชุดการตรวจหาเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งมีรหัสพันธุกรรมผิดเพี้ยนไปจากเดิมอาจทำให้ตรวจจับไม่พบ และไวรัสที่ผิดเพี้ยนเหล่านี้ขณะนี้ ไม่ได้มีถิ่นฐานอยู่ที่แอฟริกาหรือบราซิลเท่านั้น ที่มีการดื้อวัคซีน แต่มีการพัฒนาการและปรับตัวของไวรัสออกไปมากมายทุกวัน ทุกสัปดาห์

    กระบวนการตรวจที่สามารถระบุได้ว่าเป็นไวรัส โควิด-19 ตามปกติหรือตัวที่ผิดเพี้ยนไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่เรียกว่าสายพันธุ์อังกฤษ บราซิล แอฟริกัน ในเวลาอีกไม่นานนี้ ทางศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ ได้ทำการพัฒนาวิธีการตรวจ ซึ่งสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ด้วยเวลาอันรวดเร็วและด้วยราคาการตรวจประมาณ 50 บาทต่อตัวอย่าง และจะสามารถป้องกันการหลุดรอดของไวรัสที่ดื้อวัคซีนที่จะเข้ามาในประเทศไทย
    ทั้งนี้ยังสามารถทำการตรวจสอบที่ด่านชายแดน และสามารถประเมินสถานการณ์ของการติดเชื้อในประเทศไทยในทุกพื้นที่และตรวจสอบสายพันธุ์ที่ผิดเพี้ยนในประเทศไทยออกไปได้

    ทั้งนี้สายพันธุ์ที่ผิดเพี้ยนจะมีการถอดรหัสชิ้นส่วนอย่างละเอียดต่อได้อย่างรวดเร็วและเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาวัคซีนในรุ่นที่สองหรือรุ่นที่สามได้ในประเทศไทย

    โดยที่วัคซีนที่พัฒนาในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำและสามารถปรับเปลี่ยนวัคซีนได้อย่างรวดเร็วโดยการผลิตในใบพืชได้ภายในเก้าวันหลังจากที่ได้ทราบรหัสพันธุกรรมของไวรัสชนิดใหม่และสามารถทำการตรวจสอบว่าวัคซีนชนิดใหม่มีประสิทธิภาพหรือไม่นั้นสามารถกระทำได้ภายในระยะเวลาสองถึงสามสัปดาห์
    และถือว่าเป็นการก้าวกระโดดของการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นโคโรนาไวรัส โควิด-19 และที่ผิดเพี้ยนไปแต่จะเป็นไวรัสในตระกูลอื่นที่เกิดขึ้นและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งการวินิจฉัยทั้งในคนและในสัตว์และนำมาถึงการตอบโต้ทำให้มีการควบคุมการระบาดได้อย่างรวดเร็วและสามารถพัฒนายาและวัคซีนได้อย่างทันท่วงที

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การประปา แจงละเอียด กรณีสาวไม่ได้ใช้น้ำ แต่เจอบิลค่าน้ำเกือบ 7 พัน เหตุเปิดวาวน้ำการประปาไว้ ไม่ได้เปิดใช้น้ำก็ตาม แต่มาตรน้ำยังหมุนอยู่

    จากกรณี น.ส.ปาณิดา ปาลา อายุ 42 ปี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นรูปใบแจ้งค่าน้ำประปา จำนวนเงิน 6,785.91 บาท จากการประปาส่วนภูมิภาค สาขาวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และรูปมิเตอร์น้ำประปาที่ไม่ได้ใช้ และปิดวาวไปแล้ว เนื่องจากจากเจ้าตัวใช้น้ำประปาของหมู่บ้านแทน แล้วเหตุใดค่าน้ำยังมีราคาสูงขนาดนี้

    ความคืบหน้าวันที่ 8 มี.ค. นายเพิ่มพูล ทองไพบูลย์ ผจก.การประปาส่วนภูมิภาค สาขาวิเชียรบุรี ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง ได้ส่งทีมช่างลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ ก่อนพบว่าบ้านหลังดังกล่าวใช้น้ำ 2 ระบบ คือน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค และน้ำประปาของหมู่บ้าน

    ที่ผ่านมาหากมีการเปิดใช้น้ำประปาส่วนภูมิภาค จะเสียเฉพาะค่ารักษามาตรน้ำเดือนละ 32.10 บาท แต่เมื่อช่วงเดือน ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการใช้น้ำถึง 158 หน่วย คิดเป็นเงิน 3,472.79 บาท ซึ่ง น.ส.ปาณิดา ได้ทำเรื่องขอผ่อนชำระเป็น 12 งวด จ่ายแล้ว 2 งวด คงเหลือ 10 งวดเป็นเงิน 2,872.79 บาท ต่อมาเดือน ก.พ. 2564 ยังมีการใช้น้ำประปาของส่วนภูมิภาค อีก 194 หน่วย คิดเป็นเงิน 3,881.02 บาท เจ้าหน้าที่การประปา จึงได้เข้ามาตรวจเช็คมาตรน้ำที่บ้าน น.ส.ปาณิดา พบว่ามีการเปิดวาวน้ำ จึงได้ทำการปิดวาว

    ทำให้ใบแจ้งค่าน้ำประปา เดือนล่าสุดของ น.ส.ปาณิดา มียอดค้าง 11 งวด ส่วนเดือน มี.ค. 2564 ไม่มีการใช้น้ำ ยอดมาตรน้ำจึงเป็น 0 จึงเสียเฉพาะค่ารักษามาตรน้ำ 32.10 บาท รวมยอดทั้งหมดเป็นเงิน 6,785.91 บาท

    ส่วนสาเหตุที่ค่าน้ำประปาบ้าน น.ส.ปาณิดา แพงผิดปกติทั้งที่อยู่กันแค่ 2 คน พบว่าบ้าน น.ส.ปาณิดา เปิดวาวน้ำการประปาไว้ ถึงแม้บ้าน น.ส.ปาณิดา ไม่ได้เปิดใช้น้ำก็ตาม แต่มาตรน้ำยังหมุน เนื่องจากแรงดันน้ำประปาส่วนภูมิภาคมีแรงดันสูงกว่าแรงดันน้ำประปาหมู่บ้าน ทำให้น้ำประปาส่วนภูมิภาค ไหลย้อนกลับไปที่น้ำประปาหมู่บ้าน ทำให้มาตรน้ำการประปาหมุนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งที่ไม่ได้ใช้น้ำ

    ด้านท่อน้ำประปา ที่มีการเชื่อมต่อใช้กัน 2 ระบบ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดอีก การประปาส่วนภูมิภาค จะเดินท่อประปาใหม่ให้ แยกออกจากท่อน้ำประปาหมู่บ้านให้ฟรี เพื่อเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร ส่วนค่าน้ำนั้น การประปาให้ผ่อนชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้าตามปกติ

    ขณะที่ทาง น.ส.ปาณิดา กล่าวว่า ตนไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเปิดวาวน้ำการประปาส่วนภูมิภาค และไม่เคยรู้ว่าวาวน้ำถูกเปิดไว้ ตนอยู่บ้าน 2 คนกับลูกชาย เช้าออกไปรับจ้างทำงาน กลับถึงบ้านก็ค่ำ อยู่มา 12 ปี ไม่เคยเกิดปัญหา เพิ่งมาเจอตอนนี้ และขอบคุณการประปาที่เข้ามาชี้แจง

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันที่ 9 มี.ค.2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) เพื่อให้สอดคล้องกับกับอัตราดอกเบี้ยในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน

    น.ส.รัชดา กล่าวว่า จากความล้าสมัยเดิมอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ในมาตรา 7 และ มาตรา 224 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จากความล้าสมัยของอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ร้อยละ 7.5 ต่อปีนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาทั้งสร้างความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินควร เกิดการประวิงเวลาฟ้องคดี ขณะที่เจ้าหนี้บางรายอาศัยความไม่ชัดเจน กำหนดให้ลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยบนเงินต้นทั้งหมดเมื่อผิดนัดงวดใดงวดหนึ่ง

    น.ส.รัชดา กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยลดภาระของลูกหนี้จากการชำระดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินควร และปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย ครม.จึงมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายเพื่อปรับปรุงอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย คือ

    1. แก้ไข มาตรา 7 อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้กำหนดไว้ก่อนหรือไม่ได้มีกฎหมายกำหนด เดิมคิดอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ปรับเป็นอัตราร้อยละ 3 ต่อปี โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ประเมินทุกๆ 3 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ

    2. แก้ไข มาตรา 224 อัตราดอกเบี้ยผิดนัด ลดจากร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 5 ต่อปี เป็นอัตราที่กำหนดตามมาตรา 7 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ร้อยละ 3 ต่อปี บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปี
    3. ในส่วนของวิธีคิดดอกเบี้ยผิดในการผ่อนส่งเป็นงวด เดิมคิดจากเงินต้นที่ค้างทั้งหมด แก้ไขเป็นให้คิดจากเงินต้นเฉพาะงวดที่ผิดนัดเท่านั้น

    น.ส.รัชดา ระบุว่า ขั้นตอนจากนี้ไปเมื่อสภาฯ เปิดแล้วจะมีการประสานงานรับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณา และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยอาจได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั่วถึงเร็วกว่าที่ประเมินไว้ ผ่านการนำเข้าโดยโรงพยาบาลเอกชน

    นายแพทย์พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช Managing Director โรงพยาบาลเมดพาร์ค ให้ความเห็นถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังจะอนุญาตให้โรงพยาบาลเอกชน นำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ว่าจะช่วยให้การกระจายวัคซีนในประเทศทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตในช่วงครึ่งปีหลัง

    นพ.พงษ์พัฒน์ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว workpointTODAY ว่า “หลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยพิถีพิถันในการเลือกวัคซีนมาก ขณะที่สิงคโปร์ยอมซื้อวัคซีนจากหลายบริษัทที่มีอยู่ในตลาด เพราะถือว่าธุรกิจทั้งหมดในประเทศต้องชะงักไปเพราะโควิด-19”

    “เร็วๆ นี้ทราบแล้วว่ารัฐจะยินดีให้เอกชนนำเข้าได้แล้ว ซึ่งก็จะทำให้วัคซีนเคลื่อนไหวเร็วขึ้นในประเทศนี้ จากเดิมที่จะต้องใช้เวลาฉีดทั้งหมดถึง 1 ปี อาจจะเหลือไม่ถึง 6 เดือน เราอาจจะฉีดได้หมด ขอให้รัฐบาลทำจริง ซึ่งยาที่เราฉีด อย่างไรก็ต้องผ่านอย.อยู่แล้วว่าใช้ได้ ปลอดภัยกี่เปอร์เซนต์ ผลข้างเคียงจะมีอะไรที่เรารับได้บ้าง โดยเราต้องดูแลหลังฉีด อาจจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลพักหนึ่ง”

    “หลังจากนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยน่าจะดีขึ้น และจะทำให้การเติบโตของประเทศไทยในปีนี้ หลังกลางปีน่าจะดีขึ้นมาก และโรงพยาบาลเอกชนก็จะได้อานิสงส์จากเรื่องนี้ไปด้วย”

    ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่นๆ จากการที่คนบางส่วนมองว่าเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทำให้โรงพยาบาลมีผู้เข้ามาใช้บริการลดลง

    นพ.พงษ์พัฒน์กล่าวถึงสถานการณ์ของโรงพยาบาลในช่วงที่ผ่านมาว่า “เนื่องจากโควิด-19 ต่างจากโรคอื่นๆ สมัยก่อนเรามีโรคติดเชื้ออย่างซาร์สหรือเมอร์ส ที่เป็นแล้วอาการเยอะ รู้เลยว่าใครเป็น พอรู้ว่าใครเป็นก็จับเอาไปแยกได้ แต่โควิดส่วนใหญ่ไม่มีอาการเลย”

    “พอไม่รู้ว่าใครเป็น ทุกอุตสาหกรรมก็ต้องอยู่ห่างๆ กัน คนต้องอยู่ห่างๆ กัน โรงพยาบาลก็เหมือนกัน คนไข้หรือประชาชนทั่วไปก็กลัวว่า ในโรงพยาบาลต้องมีคนป่วยโควิดเดินไปเดินมา ทั้งที่จริงๆ แล้วเดินอยู่ทั่วไปหมด คนจึงกลัว ถ้าไม่ป่วยก็ไม่อยากไป”

    “ถึงโรงพยาบาลจะมีระบบป้องกันด้วยการแยกผู้ที่สงสัยว่าอาจมีเชื้อ ด้วยการจัดตั้งคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจบริเวณพื้นที่ด้านนอกของโรงพยาบาล แต่คนที่ไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะหลีกเลี่ยงการมาโรงพยาบาล ทำให้ช่วงที่ผ่านมา โรงพยาบาลมีคนไข้ลดลงส่วนหนึ่ง จะเหลือแต่เคสฉุกเฉินที่รอไม่ได้”

    “ช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดที่สมุทรสาครก็ดีไปพักหนึ่ง หลายที่ก็ขึ้นมาพอสมควร พอเจอเดือนธันวาอีกรอบหนึ่งก็ลงไปใหม่”

    ทั้งนี้ นพ.พงษ์พัฒน์ ได้มาร่วมเป็นวิทยากรในงานทอล์คความรู้ ‘THAILAND TOMORROW VACCINATED ECONOMY presented by workpointTODAY’ เตรียมความพร้อมเทคออฟเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ซึ่งจะมีการถ่ายทอดในรูปแบบ Virtual Conference วันที่ 27 มีนาคม 2564 ผ่านทาง Facebook และ YouTube ของ workpointTODAY

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หน่วยงานภายใต้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยถึงความพยายามของรัสเซียในการสร้างโฆษณาชวนเชื่อว่าวัคซีนของสหรัฐฯ ไม่ปลอดภัย

    วันที่ 8 มี.ค. 2564 สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานว่า สหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวประณามการปล่อยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผลิตในสหรัฐฯ พร้อมระบุว่ารัสเซียเป็นผู้ที่สนับสนุน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการนี้

    The Global Engagement Centre หน่วยงานที่มีหน้าที่จับตาดูโฆษณาชวนเชื่อของต่างชาติ ในสังกัดของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เป็นผู้ออกมาเปิดเผยรายงานที่ชี้ว่าหน่วยข่าวกรองของรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการให้ข่าวปลอมเรื่องวัคซีนบน 4 แพลตฟอร์มออนไลน์

    เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เว็บไซต์เหล่านั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีน 2 ตัวที่องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ให้การรับรอง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ชัดเจนว่ารัสเซียใช้ลูกไม้เดิมๆ และการกระจายข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนที่ช่วยชีวิตคนอยู่ในทุกวันนี้ ถือเป็นการทำให้ชีวิตผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยง

    มีการวิเคราะห์ว่าจุดประสงค์ของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการพยายามทำให้วัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ดูมีความเสี่ยงมากกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในด้านบวกให้กับวัคซีน สปุตนิก ไฟว์ (Sputnik V) ของรัสเซียเอง

    อีกทั้งยังมีการเปิดเผยว่า รัสเซียใช้บัญชีโซเชียลมีเดียนับพันในการรณรงค์เพื่อทำให้สังคมเกิดความสับสนเรื่องโควิด-19 ซึ่งรวมไปถึงการกล่าวหาว่าสหรัฐฯ มีส่วนในการระบาดครั้งนี้

    ทางหน่วยงานยังพบว่า จีนได้พยายามกระทำการในแบบเดียวกัน แต่ในท้ายที่สุดตัดสินใจเปลี่ยนแผนมาเป็นการโปรโมตความพยายามในการรับมือกับโควิด-19 ของรัฐบาลปักกิ่งแทน

    ที่มา: https://www.straitstimes.com/world/...russian-disinformation-over-covid-19-vaccines

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาลดวันกักตัวหลังสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกปัจจุบันอยู่ในอัตราที่ลดลง เนื่องจากมีการฉีดวัคซีนโควิด19ทั่วโลกไปแล้วกว่า 250 ล้านโดส โดยการลดวันกักแบ่งเป็น 3 กรณี คือ

    1.ผู้ที่เดินทางเข้าไทย ไม่มีสัญชาติไทย ฉีดวัคซีนโควิด-19ครบถ้วน อย่างน้อย 14 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ก่อนเดินทาง และมีใบตรวจยืนยันปลอดโควิด-19 ให้ลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกายังคงกักตัว 14 วัน เนื่องจากเกรงเรื่องเชื้อไวรัสกลายพันธุ์

    2. ผู้เดินทางเข้าไทยที่มีสัญชาติไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบถ้วน อย่างน้อย 14 วันและไม่เกิน 30 วันก่อนเดินทาง แต่ไม่มีเอกสารรับรองการปลอดโควิด-19 ให้ลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาจะต้องกักตัว 14 วัน

    3.ผู้เดินทางเข้าไทย ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่มีเอกสารรับรองการปลอดโควิด-19 ให้ลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากทวีปแอฟริกาจะต้องกักตัว 14 วัน

    รายละเอียด https://workpointtoday.com/ccv/

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนช่างสังเกตพบผู้นำ #จีน มีแก้วน้ำ 2 แก้วบนโต๊ะ เปลี่ยนเจ้าหน้าที่เติมน้ำจากหญิงสาวเป็นรปภ.หนุ่ม ปีก่อนหน้าเปลี่ยนแก้วใบใหม่หลังดื่มหมด
    ☕️☕️
    การประชุม #สภาประชาชนจีน ในปีนี้ มีผู้พบว่าแก้วน้ำที่วางอยู่ตรงหน้าประธานาธิบดี #สีจิ้นผิง มี 2 ใบ ต่างจากผู้เข้าร่วมประชุมอื่นกว่า 2,000 คน ที่มีแก้วประจำตัวคนละใบ
    .
    เหตุผลที่ผู้นำจีนใช้แก้ว 2 ใบไม่แน่ชัด เพราะปีก่อน ๆ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงก็มีแก้วใบเดียวเท่านั้น ทั้งนี้ ในที่ประชุมจะมีเจ้าหน้าที่บริการคอยเต็มน้ำให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนอยู่เสมอ แต่ในปีนี้ เจ้าหน้าที่เติมน้ำสำหรับกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร ได้เปลี่ยนจากเจ้าหน้าที่หญิงสาว มาเป็นชายหนุ่ม โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะมีเจ้าหน้าที่ชายคนหนึ่งที่ถือกาน้ำใบเล็กคอยบริการให้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเพียงคนเดียว

    ก่อนหน้านี้ ปรากฏภาพอดีตประธานาธิบดี #เจียงเจ๋อหมิน ส่งสายตามองเจ้าหน้าที่สาวสวย ที่มาเติมน้ำในระหว่างการประชุมเป็นที่ครหาไม่ทั่ว อาจเป็นสาเหตุให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่เติมน้ำเฉพาะของผู้นำระดับสูงเป็นชายหนุ่ม (มีภาพในช่องความคิดเห็น)
    .
    นอกจากนี้ ในการประชุมเมื่อปีที่แล้ว มีผู้สังเกตพบว่า เจ้าหน้าที่ที่คอยเต็มน้ำให้กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงไม่ได้เติมน้ำลงในแก้ว แต่ยกแก้วออกไปเปลี่ยนแก้วใบใหม่มาแทน
    ☕️☕️
    ความพิเศษเรื่องแก้วน้ำของผู้นำจีนคาดว่าเป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีกระแสลอบปองร้ายผู้นำจีนอยู่เสมอ ท่ามกลางการแย่งชิงอำนาจภายในพรรรคอมมิวนิสต์จีน หลังจากสีจิ้นผิงได้แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตนเองสามารถเป็นผู้นำสูงสุดโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา ต่างจากผู้นำคนก่อน ๆ ที่จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระ รวม 10 ปี.

     

แชร์หน้านี้

Loading...