ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: ไซปรัสถูกเรียงร้องให้แบน การใช้กระสุนตะกั่วล่าสัตว์หลังนกฟลามิงโกกลืนกินลูกปืนแล้วตาย
    .
    ถึงแม้ว่าสัตว์ไม่ได้ถูกยิงก็สามารถตายจากกระสุนได้เช่นกัน
    .
    นักอนุรักษ์ในประเทศไซปรัสได้ร้องเรียนให้ทางการสั่งห้ามล่าสัตว์บริเวณชายฝั่งทะเลสาบ เพราะนกฟลามิงโกที่อพยพมาอาจกลืนกระสุนตะกั่วจากการล่าจนถึงตายได้
    .
    Martin Hellicar ผู้บริหารของ Birdlife Cyprus กล่าวว่า นกฟลามิงโก้เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะกินกระสุนตะกั่วขนาดเล็กที่อยู่ในทะเลสาบได้ เพราะเช่นเดียวกับนกชนิดอื่น ๆ นกฟลามิงโกจะกลืนก้อนกรวดเล็ก ๆ เพื่อเป็นการช่วยย่อยอาหาร แต่ไม่สามารถแยกความแตกต่างของก้อนกรวด และกระสุนตะกั่วได้
    เขายังคงเสริมอีกว่า เมื่อปีที่แล้วนกฟลามิงโกจำนวนสิบตัวได้ตายจากไป
    .
    ไซปรัสเป็นประเทศที่เป็นจุดหยุดพักระหว่างการบินอพยพของนกหลายชนิดที่บินมาจากทวีปแอฟริกาไปยุโรป ซึ่งมี Larnaca Salt Lake ที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นจุดเชื่อมต่อของทะเลสาบสี่แห่ง โดยปกติแล้วทะเลสาบนี้จะเป็นที่รองรับนกฟลามิงโกจำนวนกว่า 15,000 ตัว ที่บินมาหลบหนาวมาอยู่ พวกมันจะอาศัยจนถึงเดือนมีนาคม นอกจากฟลามิงโกแล้ว ยังมีนกน้ำชนิดอื่นเช่น เป็ด นกลุยน้ำ (Wader) และ นกนางนวล อีกด้วย
    .
    ถึงแม้ว่าการล่าสัตว์ได้ถูกสั่งห้ามในพื้นที่ส่วนมากของทะเลสาบแล้ว แต่นักล่ายังคงสามารถยิงเป็ดในทางตอนใต้ของทะเลสาบได้
    .
    หน่วยงานของทางรัฐบาลได้แจ้งว่าในสองเดือนแรกของปีที่แล้วนั้น พบนกฟลามิงโก 96 ตัว ตายด้วยสารพิษจากตะกั่วที่บริเวณ Larnaca Salt Lake ที่เกิดจากฝนฤดูหนาวที่หนักจึงทำให้เกิดการวนเวียนของก้อนกรวดและการรั่วไหลของตะกั่วที่อยู่ในกระสุน
    .
    ถึงแม้ว่าสนามยิงปืนที่อยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบถูกปิด และทางการได้ทำความสะอาดบางพื้นที่ นำลูกซองที่ตกหล่นอยู่ในทะเลสาบออกตั้งแต่ 18 ปีที่แล้ว ก็ยังคงเป็นการทำความสะอาดที่ยังไม่เสร็จดี ล่าสุดการวิจัยที่มีสหภาพยุโรปเป็นผู้สนับสนุนได้กำลังทำการหาพื้นที่ที่มีลูกซองตะกั่วหลงเหลือจำนวนมากในทะเลสาบเพื่อนำมันออกมาอยู่
    .
    ซึ่งผลการวิจัยได้พบว่ามีระดับตะกั่วเป็นจำนวนมากที่บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำทางตอนใต้ของทะเลสาบ ซึ่งเป็นลูกซองที่มาจากการล่าเป็ดที่เกิดอย่างต่อเนื่อง
    .
    Alexandro Loizides เจ้าหน้าที่สหพันธ์การล่าสัตว์ของประเทศ Cyprus ได้กล่าวว่า การล่าสัตว์ในรัศมี 200 เมตร ในทางตอนเหนือไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เพราะได้มีการจำกัดจำนวนของผู้ล่า อย่างไรก็ตาม เขาไม่ทราบถึงการตายของนกฟลามิงโกที่เกิดจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยจากฟาร์มในบริเวณที่ใกล้เคียง
    .
    กฎการสั่งห้ามใช้กระสุนตะกั่วได้ถูกบังคับใช้ในประเทศไซปรัส มาเป็นเวลาสองถึงสามปีแล้ว แต่นักอนุรักษ์เชื่อกันว่ากฎหมายนี้ไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างเคร่งครัด “การสั่งห้ามไม่ให้มีการล่าสัตว์ในบริเวณนั้นสำคัญน้อยกว่าการโน้มน้าวให้ผู้ล่าหยุดใช้ลูกซองตะกั่ว ทุกคนควรรู้ว่าการใช้ลูกซองตะกั่วเป็นเรื่องต้องห้ามในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ และแค่กระสุนเหล็กเท่านั้นที่ใช้ได้” กล่าวโดย Pantelis Hadiyeros
    .
    จะใช้กระสุนเหล็ก หรือกระสุนตะกั่วสุดท้ายสัตว์เหล่าก็ตายอยู่ดี เพราะทุกวันนี้ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังล่าสัตว์อยู่ แต่บางทีเรื่องนี้มันก็เป็นอะไรที่ยากเกินจะพูด จริงมั้ย เพราะยังมีกลุ่มคนหลายคนที่ต้องดำรงชีวิตเพื่อการอยู่รอดโดยการล่าสัตว์ ทั้งนี้เราไม่รู้เหตุผลในการล่าเป็ดในพื้นที่บริเวณทะเลสาบนี้ แต่นกฟลามิงโก้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการล่านั้นต้องมาตายด้วยกระสุนเหล่านี้ หรือนี่จะเป็นความหมายโดยนัยของสำนวนที่ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวกันนะ
    .
    เราคงต้องมานั่งคิดว่าอะไรคือความพอดี จะอยู่รวมโลกกับสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้อย่างสมดุลได้อย่างไร พวกเราจะพบคำตอบเหล่านี้เมื่อไหร่ อาจไม่มีใครตอบมันได้ดีเท่าตัวเราเอง สิ่งที่จะทำให้เราเริ่มรู้ได้คือการลงมือทำ เมื่อไหร่ที่เราลงมือ ลองไปทีละนิด เราจะพบคำตอบเอง
    .
    Source
    https://www.theguardian.com/environ...tlands-migrating-flamingo-lead-shotgun-pellet

    เรียบเรียง: buras

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    HISTORY: แห่ดูการเคลื่อนย้ายบ้านเก่าสไตล์วิกตอเรียนอายุ 139 ปี ในซานฟรานซิสโก เพื่อไปตั้งไว้ที่แห่งใหม่ ค่าขนย้าย 12 ล้านบาท
    .
    ยุควิคตอเรียน Victorian (1837-1901) เป็นยุคที่จักรวรรดิอังกฤษมีแต่ความรุ่งเรือง หลายประเทศตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษจนจักรวรรดินี้ได้รับขนานนามว่า “ดวงอาทิตย์ไม่เคยตกดินในจักรวรรดิบริติช" หลายประเทศในปัจจุบันที่เคยตกเป็นอาณานิคมใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง
    .
    ในฝั่งสหรัฐอเมริกา ไลฟ์สไตล์ของผู้คน วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ความเชื่อก็เคยได้รับอิทธิพลมาจากยุควิคตอเรียนของอังกฤษเช่นกัน จะเห็นได้ชัดจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัย อย่างใน Boston, Chicago, Buffalo, Albany และบางส่วนของ Brooklyn
    .
    แต่พอเวลาผ่านไป บ้านพวกนี้กลับเป็นบ้านที่ดูโบราณมีค่า ใครเห็นก็อยากถ่ายรูป ยิ่งถ้ามันถูกเคลื่อนย้ายด้วยรถใจกลางเมือง ลองคิดดูซิ ภาพนี้จะมีคุณค่า เป็นภาพที่หาดูได้ยากขนาดไหน
    .
    ซึ่งถึงจะหาดูยาก วันนี้เราก็มีให้ดูแล้ว เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บ้านของชาวอังกฤษที่เคยอพยพมาอยู่ในอเมริกา ที่ถือว่าเป็นบ้านแห่งประวัติศาสตร์ใจกลางเมือง San Francisco ถูกขนขึ้นดอลลี่ และพวงไปกับรถบรรทุก ย้ายจากถนน 807 Franklin St. ไป 635 Fulton St. ห่างไป 6 บล็อคถนน
    .
    ข่าวการเคลื่อนย้ายนี้เป็นข่าวดัง เพราะอย่างที่บอก มันหันดูยาก และการเคลื่อนย้ายครั้งนี้นั้นก็เป็นไปอย่างทะนุถนอมที่สุด ด้วยความเร็ว 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อไม่ให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์นี้ผุพัง ป้าย ไฟจราจรบนท้องถนนต้องถูกถอดออกไปชั่วคราวเพื่อไม่ให้โดนบ้านหลังนี้
    .
    ทางสมาคมประวัติศาสตร์ San Francisco เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่การเคลื่อนย้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นในเมือง ครั้งล่าสุดก็เมื่อปี 1974
    .
    แน่นอน ผู้คนกว่าหลายพันคนออกมาตามท้องถนนเพื่อดูและเอาใจช่วยการเคลื่อนย้ายนี้
    .
    Tim Brown โบรกเกอร์ผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เผยว่าเขาต้องจ่าย 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 12 ล้านบาท) ในการเคลื่อนย้ายบ้านหลังนี้ สิ่งที่ทำให้มันยากก็เพราะความยาวของตัวบ้าน ที่ยาวถึง 25 เมตร และความลาดชันของถนน
    .
    ตอนนี้ อพาร์ทเมนท์ 8 ชั้นจะถูกสร้างแทนที่ดินเก่าของบ้านหลังนี้ ส่วนตัวบ้านยุควิคตอเรียน 2 ชั้น 6 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ อายุ 139 ปีนี้จะถูกนำไปวางรวมกับเหล่าตึกเก่า
    .
    เกร็ดความรู้เล็กน้อย
    ในด้านวิทยาศาสตร์ มีการค้นพบมากมายในยุคนี้ ทั้งการค้นพบทฤษฎี “Thorey of Evolution” ของ Charles Darwin การคิดค้นโทรศัพท์ของ Alexander Graham Bell การค้นพบหลอดไฟของ Thomas Edison การฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์ (Pasteurization) Louis Pasteur การคิดค้นรถยนต์น้ำมันคันแรกของโลกของ Karl Benz และอื่น ๆ อีกมากมาย ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของการปฏิวัติอุสาหกรรมครั้งที่ 1 เลยก็ว่าได้ แต่ในขณะเดียวกันการเข้ามาของยุคอุตสาหกรรมก็ทำให้มีการขยายเมือง การที่ผู้คนในต่างจังหวัดเขามาหางานในเมืองและอยู่ในชุมชนแออัด และการใช้แรงงานเด็ก เหมือนอย่างที่วรรณกรรมเรื่อง Oliver Twist ของ Charles Dickins ที่สะท้อนสังคมในยุคนั้นออกมา
    .
    Source
    1. https://www.abc.net.au/news/2021-02...se-rolls-to-new-address-807-franklin/13180820 (ข่าวและภาพ)

    2. https://www.nbcnews.com/news/us-new...d-victorian-house-san-francisco-move-n1258513 (ข่าว)

    3. https://interestingengineering.com/here-are-some-of-the-most-important-victorian-era-inventions (การคิดค้นในยุค Victorian)

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    DESIGN: บ้านในท่อคอนกรีต ในฮ่องกง กระทัดรัด หวังแก้ปัญหาบ้านราคาแพง
    .
    ดีไซน์สตูดิโอในฮ่องกง James Law Cyber Structure ได้ดีไซน์บ้านในท่อคอนกรีตชื่อว่า Opod Tube Housing เพื่อสร้างพื้นที่อาศัยเล็กๆในกลางเมืองฮ่องกง แก้ปัญหาบ้านที่มีราคาแพงมากขึ้น และประชากรที่เพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับวัยรุ่น
    .
    โดยมันมีดีไซน์ให้มีทุกอย่างครบครันในพื้นที่เล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงพับได้ ห้องน้ำ อาบน้ำ ตู้เย็น ไมโครเวฟ ที่ทำอาหาร เครื่องปรับอากาศ และอื่นๆในพื้นที่สุดกระทัดรัดที่ลงตัว
    .
    Source:

    https://www.dezeen.com/2018/01/16/o...ments-concrete-pipes-low-cost-housing-crisis/

    http://www.jameslawcybertecture.com/?id=1087&section=projects
    .
    เรียบเรียง: ร่มธรรม ขำนุรักษ์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ANIMAL: พิษจากเศษขยะอาหารในบาร์เรน นกนางนวลกินอาหารเหลือ ทำให้อ้วนจนแทบบินไม่ได้! และเริ่มหยุดหากินตามธรรมชาติ
    .
    นกนางนวลในบาห์เรนตกที่นั่งลำบาก มันกำลังเผชิญกับภัยใหม่ นั่นก็คือภัยอ้วนที่ทำให้มันบินได้ลำบากขึ้น สาเหตุมาจากมนุษย์
    .
    ที่มันมาจากมนุษย์ เพราะว่านกนางนวลในบาห์เรนกินอาหารเหลือที่มนุษย์ทิ้งไว้อย่าง machboos อาหารแบบดั้งเดิมของบาห์เรนที่ทำจากเนื้อ ไก่ หรือปลา เสิร์ฟพร้อมข้าวหมก (คล้ายข้าวหมกไก่ของบ้านเรา)
    .
    แค่ได้ยินยังรู้สึกเลยว่าอาหารจานนี้มันต้องเพิ่มน้ำหนักให้เราแน่ ๆ ดังนั้นนับประสาไรกับนกที่กินมันทุกวัน
    .
    ทางการบอกว่า นกนางนวลเหล่านี้กินอาหารมนุษย์จนชินจนมันหยุดหากินตามท้องทะเลแบบเดิม ภาพที่เห็นตอนนี้ก็คือ นกนางนวลในบาห์เรนเริ่มเดินตามท้องถนนแทนการบินแล้ว
    .
    ทาง Abdullah Al Qubaisi ประธานคณะกรรมการเทคนิค สภาเทศบาลภาคเหนือเผยว่า “เราสามารถเห็นนกเดินตามท้องถนน เหมือนคนที่เพิ่งออกจากงาน และกำลังกลับบ้านหลังกินข้าวเสร็จ”
    .
    Al Qubaisi กำลังเร่งให้มีการทำความสะอาดพื้นที่ เพราะเรื่องนี้ก็ส่งผลเสียต่อทัศนียภาพของเมืองเช่นกัน
    .
    จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่บาห์เรนเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่สหราชอาณาจักร นกนางนวลก็เข้ามาโฉบเฉี่ยวบริเวณแผ่นดินมากขึ้นเช่นกัน เพื่อมากินอาหารฟาสต์ฟู๊ดเหลือทิ้งตามถังขยะ
    .
    งานวิจัยจาก University of Liverpool เผยว่า นกจะน้ำหนักขึ้นหลายปอนด์ หลังจากที่กินอาหารฟาสต์ฟู๊ดเหล่านี้ไป ซึ่งจะทำให้มันมีปัญหาสุขภาพต่อในอนาคตด้วย
    .
    สิ่งนี้เป็นอีกสิ่งที่เราอาจคาดไม่ถึงว่าพฤติกรรมเล็กน้อยของเราจะส่งผลต่อสัตว์อื่นขนาดนี้ และลองคิดดูว่า ถ้านกนางนวลไม่ไปกินปลาตามธรรมชาติของมัน ระบบนิเวศท้องทะเลจะรวนขนาดไหน
    .
    มากไปกว่านั้น นอกจากนกแล้ว อาหารเหลือที่ทิ้งเกลื่อนกลาดตามถนนก็ล่อสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่างหนูมาเช่นกัน ดังนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นผลเสียแค่โรคอ้วนในสัตว์การทิ้งแบบผิด ๆ ของเราอาจจะนำโรคกลับมาหาเราเสียเอง
    .
    ในเมื่ออาหารพวกนี้ถูกทิ้งด้วยมนุษย์ คนที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็คือมนุษย์เอง เพราะฉะนั้น พยายามสั่งข้าวแต่พอดี กินข้าวให้หมด แยกขยะเศษอาหารออกมา และมัดปากถุงให้ดีก่อนทิ้ง หรือจะนำไปทำปุ๋ยหมักแทนเพื่อแปรรูปเศษขยะอาหารเหลือใช้ให้มีมูลค่าก็ได้
    .
    Source
    1. https://www.independent.co.uk/news/...se-overweight-bahrain-fast-food-b1803408.html (ข่าว)

    2. https://www.thenationalnews.com/gul...-feasting-on-leftover-national-dish-1.1167885 (ข่าว)

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > หลายประเทศในซีกโลกเหนือหันมาใช้ชีวมวลจากป่าไม้แทนการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะองค์การสหประชาชาติบอกว่ามันช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ วิธีการผลิตจะทำโดยการบีบอัดมวลชีวภาพเพื่อผลิตไม้อัดเม็ด เชื่อกันว่าเผาผลาญได้พลังงานที่สะอาดกว่าไม้ที่ไม่มีการบีบอัดและมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้อยกว่า จากนั้นไม้อัดเม็ดจะถูกเผาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าหรือสร้างความร้อน ซึ่งตอนนี้เป็นวิธีที่นิยมใช้กันมากในประเทศเขตหนาว

    2 > แต่นักวิทยาศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์มากกว่า 500 คนเขียนจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ผู้นำระดับโลกในสหรัฐอเมริกา สภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ หยุดการใช้ชีวมวลจากไม้อัดเป็นพลังงานและความร้อนและยุติการให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมพวกนี้ซึ่งผลักดันให้เกิดความต้องการไม้อัดเม็ดมากขึ้น เพราะกระตุ้นทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่ารุนแรงขึ้นในอเมริกา แคนาดาตะวันตก และยุโรปตะวันออก

    3 > ในสหภาพยุโรปเพียงอย่างแห่งเดียวใช้พลังงานหมุนเวียนเกือบ 60% มาจากมวลชีวภาพจากป่าไม้ ซึ่งมีการเผาเม็ดไม้อัดหลายล้านเมตริกตันต่อปี สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศแถวหน้าใช้ชีวมวลมาผลิตพลังงานและความร้อนเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเปลี่ยนโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อเผาเศษไม้ชีวมวล

    4 > ในจดหมายพวกเขาบอกว่าการดูแลรักษาและฟื้นฟูป่าควรเป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2050 และช่วยแก้ไขวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพของโลกไปพร้อมกัน ไม่ใช่การโค่นต้นไม้ทำลายป่าในวงกว้างเพื่อนำมาผลิตชีวมวล ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการตัดไม้ในป่าอุตสาหกรรมและมันจะผลิตคาร์บอนเป็นศูนย์ แต่มันทำลายตัวดูดซับคาร์บอนที่สำคัญของโลกนั่นคือป่า

    5 > นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าชื่อคัดค้านบอกว่าการตัดป่าและการเผาเศษไม้นั้นก่อให้เกิดมลพิษมากกว่าถ่านหินและปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมามากกว่าการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ในจดหมายชี้ว่า “โดยรวมแล้วในการผลิตความร้อนหรือไฟฟ้าแต่ละกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะเพิ่มคาร์บอนในอากาศได้มากสองถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล”

    6 > ดังนั้น แทนที่จะเป็นวิธีแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศและทำให้คาร์บอนเป็นศูนย์มันทำให้เกิดคาร์บอนมากขึ้นไปอีก และยังสร้างผลกระทบซ้ำซ้อนคือการทำลายความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ที่กำลังเติบโต

    7 > ตัวอย่างเช่น จากการรายงานของเว็บไซต์ข่าวสิ่งแวดล้อม Mongabay พบว่าในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท Enviva ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชีวมวลชั้นนำของสหรัฐโค่นป่าไม้พื้นที่ 60,000 เอเคอร์ต่อปีเพื่อผลิตไม้อัดเม็ด 2.5 ล้านตันเพื่อการส่งออก

    8 > นักวิทยาศาสตร์บอกว่า หากความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเพียง 2% ก็จะต้องเพิ่มการตัดไม้ไม้เชิงพาณิชย์เป็นสองเท่า และการเผาไม้จะเพิ่มอุณหภูมิให้กับโลกยาวนานไปอีกหลายสิบปีหรือเป็นร้อยปี

    9 > อุตสาหกรรมชีวมวลจะแก้ต่างเรื่องนี้อย่างไร? พวกเขาอ้างว่าใช้การจัดการป่าเพื่อคัดเลือกไม้จากป่าและสวนต้นไม้ หลีกเลี่ยงการตัดแบบถอนรากถอนโคนและรักษาศักยภาพของต้นไม้ในเก็บกักคาร์บอน นอกจากนี้ยังอ้างว่าต้นไม้ที่ปลูกทดแทนจะดูดซับคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจากไม้อัดที่ถูกเผาได้อย่างรวดเร็ว

    10 > แต่การปลูกต้นไม้ทดแทนคนส่วนใหญ่คิดว่าขอให้มีต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียวก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับคาร์บอน ความจริงก็คือป่าที่โตเต็มที่ดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่าต้นกล้าและต้นอ่อน ยิ่งต้นไม้มีอายุมากเท่าไรมันยิ่งมีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนได้มากขึ้น

    11 > ด้วยมีการโฆษณาเกินจริงว่าไม้อัดเม็ดไม่มีพิษมีภัยต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจึงให้เงินอุดหนุนในการเผาไม้ แต่มันคือการสร้างปัญหาสภาพอากาศซ้ำซ้อน และมันยังเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ผิดพลาดและบั่นทอนการลดคาร์บอนจริงๆ แทนที่บริษัทต่างๆ จะเปลี่ยนไปใช้แสงอาทิตย์และลมซึ่งจะช่วยลดความร้อนได้อย่างแท้จริง แต่กลับเลิกพลังงานฟอสซิลมาใช้ไม้ซึ่งจะเพิ่มความร้อนมากขึ้นไปอีก

    12 > นักวิทยาศาสตร์จึงเสนอทางออก 4 ประการ คือ 1) ยุติการอุดหนุนและมาตรการจูงใจอื่นๆ ที่ส่งเสริมมวลชีวภาพในการผลิตพลังงานและความร้อน 2) สหภาพยุโรปจะต้องยุติการปฏิบัติต่อชีวภาพในฐานะเป็นคาร์บอนเป็นกลางภายใต้กฎหมายพลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นการประโคมสรรพคุณของมันเกินจริง 3) ให้ญี่ปุ่นเลิกอุดหนุนโรงไฟฟ้าเผาไม้ และ 4) ในสหรัฐอเมริกาเลิกปฏิบัติต่อชีวภาพว่าเป็นคาร์บอนเป็นกลาง

    ข้อมูลจาก
    Justin Catanoso. (15 February 2021). "500+ experts call on world’s nations to not burn forests to make energy". Mongabay.

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.64 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโจ ไบเดน ได้สั่งปฏิบัติการทางอากาศครั้งแรก เพื่อโจมตีกองกำลังอิหร่านในซีเรีย
    .
    จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอน ระบุว่า "ตามคำสั่งของประธานาธิบดีไบเดน ก่อนหน้านี้ในตอนเย็น กองทัพสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มโครงสร้างพื้นฐานของพวกนักรบที่อิหร่านสนับสนุน ทางภาคตะวันออกของซีเรีย" และยังกล่าวอีกว่า "ประธานาธิบดีไบเดน จะดำเนินการเพื่อปกป้องชาวอเมริกันและบุคลากรของพันธมิตร ในขณะเดียวกันเราลงมือในแนวทางที่รอบคอบ โดยมีเป้าหมายไม่ให้สถานการณ์ในภาพรวม ทั้งทางภาคตะวันออกของซีเรียและอิรัก ลุกลามบานปลาย"
    .
    ทำให้ดูเหมือนว่าการโจมตีจะเป็นการดำเนินการแบบจำกัดในขอบเขต เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและก่อสถานการณ์ที่อาจบานปลาย ณ ตอนนี้จึงลงมือโจมตีเฉพาะในซีเรีย ไม่รวมถึงอิรัก
    .
    อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อความพยายามของสหรัฐฯ ที่กำลังหาทางเพื่อให้อิหร่านกลับเข้าสู่การเจรจา ให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อีกครั้ง
    .
    ขณะเดียวกัน เหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ได้มีจรวดตกใส่ฐานทัพสหรัฐฯ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์บิล ในขอบเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทำให้เจ้าหน้าที่พลเรือนของสหรัฐฯ เสียชีวิต 1 ราย และทหารสหรัฐฯอีกหลายนายได้รับบาดเจ็บ ด้านรัฐบาลแบกแดดเองก็กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อยู่
    .
    แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้เกิดเหตุโจมตีฐานที่มั่นแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของแบกแดด ที่มีกองกำลังสหรัฐฯประจำการอยู่ ทำให้มีจนท. 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ และต่อมาวันที่ 22 ก.พ.64 ก็ได้มีจรวดหลายลูกพุ่งตรงมาตกในเขตกรีนโซนของแบกแดด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานฑูตสหรัฐฯ และชาติอื่น ๆ แต่ไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

    #สหรัฐอเมริกา #โจไบเดน #ประธานาธิบดี #โจมตีทางอากาศ #กองทัพ #อิรัก #ซีเรีย #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สภาสูงสหรัฐฯดับฝัน “เดโมแครต” ไม่ยอมให้เช็กค่าแรงขั้นต่ำ 15 ดอลลาร์รวมในแพ็กเกจเยียวยาโควิด-19
    .
    .
    .
    .
    รอยเตอร์ – กลายเป็นฝันร้ายของพรรคเดโมแครตที่พยายามผลักดันให้เพดานค่าแรงขั้นต่ำของสหรัฐฯมาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์เพื่อช่วยเยียวยาวิกฤตโควิด-19 สภาสูงสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(25 ก.พ)ยืนยันไม่รวมข้อกำหนดค่าแรงขั้นต่ำอยู่ในการช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(26 ก.พ)ว่า พรรคเดโมแครตและกลุ่มสายก้าวหน้าที่นำโดยสว. เบอร์นี แซนเดอร์ส พยายามผลักดันที่ให้การแก้ไขข้อกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ 15 ดอลลาร์/ชั่วโมงรวมอยู่ในร่างกฎหมายการเงินเพื่อช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 เพื่อเยียวยาบรรดาลูกจ้างรายได้น้อยที่ทำงานเป็นด่านหน้าในแต่ละวันตามซุปเปอร์มาร์เก็ตซึ่งต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดถ้วนหน้า
    .
    โฆษกทำเนียบขาว เจ ซากี แถลงว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน รู้สึกผิดหวังต่อการตัดสินใจครั้งนี้ และทางทำเนียบขาวจะทำงานร่วมกับบรรดาผู้นำในสภาคองเกรสเพื่อหาหนทางอื่นต่อไป เนื่องมาจากในประเทศนี้ไม่สมควรที่จะมีใครที่ทำงานเต็มเวลาแต่ยังคงต้องอยู่อย่างยากไร้
    .
    ด้านผู้นำเสียงข้างมากสภาสูงสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต ชัค ชูมเมอร์ กล่าวยอมรับผ่านแถลงการณ์ที่ถึงแม้ว่าพรรคจะสามารถครองเสียงข้างมากในทั้ง 2 สภาได้แต่ยังไม่สามารถทำให้ปัญหาค่าแรงขั้นต่ำถูกทำให้ผ่านได้ โดยชูมเมอร์กล่าวยืนยันจากแถลงการณ์ว่า “พวกเราจะยังไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อผลักดันให้อัตราค่าแรงขั้นต่ำมาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ เพื่อช่วยแรงงานอเมริกันนับล้านคนที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตในเวลานี้”
    .
    อย่างไรก็ตาม ผู้นำเสียงข้างน้อยจากพรรครีพับลิกัน ลินด์ซี แกรม(Lindsey Graham) ออกมาแสดงความยินดีต่อคำตัดสิน “ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางวุฒิสภาสหรัฐฯได้ชี้ว่า การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำนั้นเป็นนโยบายที่ไม่เหมาะสมในระหว่างการประนีประนอม”
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ทั้งไบเดนและบรรดาเพื่อนๆของเขาในพรรคเดโมแครตต้องการเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็น 2 เท่าจาก 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่ปี 2009 มาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์/ชั่วโมงให้สำเร็จภายในปี 2025 หรือภายในสมัยการดำรงตำแหน่งของไบเดน
    .
    และทำให้พวกเขาได้รวมข้อเสนอค่าแรงขั้นต่ำ 15 ดอลลาร์อยู่ในร่างงบช่วยเหลือโควิด-19มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในที่สุดเพื่อต้องการให้ประชาชนสหรัฐฯที่เสียชีวิตจากวิกฤตโรคระบาดไปแล้วกว่า 500,000 คนซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลกให้สามารถยังคงต่อสู้ชีวิตกับแรงบีบคั้นทางเศรษฐกิจต่อไปได้
    .
    พบว่าฝ่ายเดโมแครตพยายามที่จะทำให้ร่างกฎหมายการเงินโควิด-19คืบหน้าโดยเร็วภายใต้กระบวนการพิเศษที่เรียกว่า “การประนีประนอมทางงบประมาณ” (budget reconciliation) ที่จะทำให้มันสามารถผ่านมติสภาสูงสหรัฐฯด้วยวิธีชนะด้วยเสียงข้างมากตามปกติเพื่อที่พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องใช้เสียงโหวตจากพรรครีพับลิกันเข้าช่วย
    .
    แกรมแถลงต่อผ่านทางทวิตเตอร์ชี้ว่า คำตัดสินเรื่องประเด็นค่าแรงขั้นต่ำนี้เป็นเครื่องสนับสนุนที่ชี้ว่า “กระบวนการประนีประนอมพิเศษ” จะไม่สามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายสำคัญได้แค่ด้วยการใช้เสียงข้างมากเป็นหลัก
    .
    อย่างไรก็ตาม การออกมาไม่สนับสนุนให้รวมค่าแรงขั้นต่ำของสภาสูงสหรัฐฯในครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการผลักดันให้ค่าแรงขั้นต่ำของสหรัฐฯมาอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ต้องหมดไป โดยผู้ที่ผลักดันยังคงสามารถทำให้ผ่านไปได้ด้วยการเสนอร่างกฎหมายอีกฉบับเพื่อยื่นขอโดยที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการประนีประนอมพิเศษ แต่เชื่อว่าหากออกมาจริงทางเดโมแครตอาจจำเป็นต้องขอแรงจากพรรครีพับลิกันให้ร่วมสนับสนุน
    .
    ซึ่งในวันอังคาร(23)2 ส.วสำคัญจากพรรครีพับลิกันคือ ทอม คอตตอนและมิตท์ รอมนีย์ ออกมาเสนอไอเดียให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 10 ดอลลาร์/ชั่วโมง
    .
    ความล้มเหลวจากที่ทางพรรคเดโมแครตและกลุ่มก้าวหน้าไม่สามารถผลักดันสำเร็จเนื่องมาจากมีคนในพรรคเองที่ไม่เห็นด้วยต่อการปรับอัตตราใหม่ที่ 15 ดอลลาร์ สว. โจ แมนชิน (Joe Manchin) ได้เสนอให้ปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำมาอยู่ที่ 11 ดอลลาร์ใน 2 ปีข้างหน้า
    .
    อย่างไรก็ตามประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ยังคงออกมายืนยันหลังสภาสูงสหรัฐฯตัดสินเกี่ยวกับค่าแรง 15 ดอลลาร์ว่า มันจะยังคงรวมอยู่ในแพ็กเกจเยียวยาโควิด-19มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดนต่อไปเมื่อวุฒิสภาสหรัฐฯที่มีเดโมแครตครองเสียงข้างมากออกมาโหวตในวันศุกร์(26)
    .
    โพลรอยเตอร์/อิปโซสออกมาเมื่อวานนี้(25)พบว่า 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 15 ดอลลาร์ ส่วนอีก 34% ไม่เห็นด้วย

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนรุดโต้ หลังมีข่าวบังคับนักการทูตสหรัฐฯตรวจโควิดทางทวารหนัก

    กระทรวงการต่างประเทศของจีนเมื่อวันพฤหัสบดี(25ก.พ.) ปฏิเสธรายงานข่าวที่บุว่าบรรดานักการทูตสหรัฐฯที่อยู่ในแดนมังกร ถูกบังคับตรวจโควิด-19 ทางทวารหนัก หลังสื่อมวลชนระบุว่ามีเสียงคร่ำครวญจากฝั่งอเมริกาต่อกระบวนการดังกล่าว

    Vice สื่อมวลชนสหรัฐฯรายงานเมื่อวันพุธ(24ก.พ.) อ้างคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอเมริการายหนึ่ง ระบุว่าเจ้าหน้าที่ทางการจีนบังคับเหล่านักการทูตสหรัฐฯให้เข้ารับการตรวจหาโรคโควิด-19 ทางทวารหนัก อันเนื่องจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน และทางการจีนจะหยุดตรวจนักการทูตสหรัฐฯด้วยวิธีการดังกล่าว

    อย่างไรก็ตามทาง เจ้า ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในกรุงปักกิ่งว่า "เท่าที่ผมทราบ จีนไม่เคยบังคับเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ในจีน ดำเนินการตรวจโควิด-19 ทางทวารหนัก"

    ในอีเมลที่ส่งถึงรอยเตอร์ส ตัวแทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่าทางกระทรวงฯมีหน้าที่รับประกันความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯและครอบครัว พร้อมรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิของพวกเขา"

    สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า ทางการจีนเคยใช้วิธีเก็บตัวอย่างจากทวารหนักเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ส่วนหนึ่งในความพยายามยกระดับคัดกรองผู้ติดเชื้อ ก่อนเทศกาลวันหยุดยาวช่วงตรุษจีน

    สื่อทางการจีนรายงานเช่นกันว่า ปักกิ่งเคยใช้การตรวจเนื้อเยื่อทางทวารหนักช่วงที่เกิดการระบาดเล็กๆ เมื่อเดือนมกราคม เป็นเหตุให้ชาวเน็ตกล่าวขวัญถึง หลายคนเข้าไปแสดงความเห็นในเว่ยป๋อทั้งขบขันและสยดสยอง แต่ทางการรู้ดีว่าวิธีนี้ไม่สะดวก ใช้กับคนจำนวนมากไม่ได้

    นายแพทย์ หลี่ ต่งเซ็ง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อของกรุงปักกิ่งแสดงความเห็นอย่างเชื่อมั่นว่า การตรวจสอบหาเชื้อทางทวารหนักได้ผลดีกว่าการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีอื่นเป็นเพราะเชื้อไวรัสจะอยู่บนอุจจาระได้นานกว่าการได้มาจากสารคัดหลั่งของระบบทางเดินหายใจส่วนบน

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เริ่มแล้ว!สหรัฐฯเปิดปฏิบัติการแรกภายใต้'ไบเดน' โจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายในซีเรีย

    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(25ก.พ.) สั่งการให้กองทัพอเมริกาโจมตีทางอากาศทางภาคตะวันออกของซีเรีย ถล่มสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่ทางเพนตากอนระบุว่าเป็นของพวกนักรบที่อิหร่านหนุนหลัง ตอบโต้เหตุยิงจรวดโจมตีฐานที่มั่นต่างๆของสหรัฐฯในอิรักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    เหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเป็นแห่งแรก ดูเหมือนจะดำเนินการในขอบเขตจำกัด มีความเสี่ยงระดับต่ำที่จะก่อสถานการณ์ลุกลามบานปลาย

    การตัดสินใจของไบเดน ในการลงมือโจมตีเฉพาะซีเรีย ไม่รวมถึงอิรัก อย่างน้อยๆก็ตอนนี้ ช่วยรัฐบาลแบกแดดเบาใจไปได้บ้าง ในขณะที่พวกเขายังคงอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนเหตุโจมตีภายในประเทศเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งส่งผลให้กำลังพลและบุคลกรของสหรัฐฯได้รับบาดเจ็บหลายคน

    "ตามคำสั่งของประธานาธิบดีไบเดน ก่อนหน้านี้ในตอนเย็น กองทัพสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มโครงสร้างพื้นฐานของพวกนักรบที่อิหร่านสนับสนุน ทางภาคตะวันออกของซีเรีย" จอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนระบุในถ้อยแถลง "ประธานาธิบดีไบเดน จะดำเนินการเพื่อปกป้องชาวอเมริกันและบุคลากรของพันธมิตร ในขณะเดียวกันเราลงมือในแนวทางที่รอบคอบ โดยมีเป้าหมายไม่ให้สถานการณ์ในภาพรวม ทั้งทางภาคตะวันออกของซีเรียและอิรัก ลุกลามบานปลาย"

    โฆษกรายนี้เผยว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทำลายสิ่งปลูกสร้างต่างๆบริเวณจุดควบคุมชายแดน ที่ถูกใช้งานโดยพวกกลุ่มนักรบที่อิหร่านหนุนหลัง ในนั้นรวมถึงกลุ่มติดอาวุธกาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มกาตาอิบ ซัยยิด อัล-ชูฮาดาอฺ

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่าการตัดสินในปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว มีเจตนาส่งสารว่า แม้อเมริกาต้องการลงทัณฑ์พวกนักรบ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายขยายวงเป็นความขัดแย้งที่ใหญ่โตขึ้น

    ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในครั้งนี้ ก่อความเสียหายหรือความสูญเสียมากน้อยแค่ไหน แต่ทางกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่ามีพวกนักรบฝักใฝ่อิหร่านเสียชีวิต 17 ราย

    เหตุยิงจรวดถล่มฐานที่มั่นต่างๆของสหรัฐฯในอิรัก กระตุ้นให้เกิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแก้แค้นของอเมริกาหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯและอิหร่าน กำลังหาทางคืนสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ที่ทางอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวในปี 2018

    ยังไม่แน่ชัดว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศล่าสุดนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อความพยายามของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังหาทางโน้มน้าวอิหร่านหวนคืนสู่การเจรจา ที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อีกครั้ง

    ในเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จรวดตกใส่ฐานทัพทหารสหรัฐฯ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์บิล ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่พลเรือนของบริษัทสัญญาจ้างด้านความมั่นคงแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เสียชีวิต 1 ราย พนักงานบริษัทสัญญาจ้างได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งและบุคลากรทางทหารของสหรัฐฯได้รับบาดเจ็บ 1 คน

    จากนั้นไม่กี่วันต่อมา ยังเกิดเหตุโจมตีฐานที่มั่นแห่งหนึ่งทางเหนือของแบกแดด ซึ่งมีกองกำลังอเมริกาประจำการอยู่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่พลเรือนของบริษัทสัญญาจ้างด้านความมั่นคงแห่ง ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 1 ราย และเมื่อวันจันทร์(22ก.พ.) จรวดหลายลุกพุ่งเข้ามาตกในเขตกรีนโซนของแบกแดด ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานทูตสหรัฐฯและสถานทูตชาติอื่นๆ แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเหตุสูญเสียใดๆ

    ภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ สถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นๆลงๆ ก่อนทวีความร้อนแรงถึงขั้นเดือดสุด จากกรณีที่สหรัฐฯสังหาร นายพล กาเซ็ม โซไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ (Quds) อิหร่าน และอิหร่าน แก้แค้นด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีกองกำลังสหรัฐฯในอิรักเมื่อปีที่แล้ว

    (ที่มา:รอสเตอร์ส)

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด-19คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกทะลุ2.5ล้านคน แต่พบอัตราการตายชะลอตัว

    ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกมากกว่า 2.5 ล้านคนแล้ว นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 2019 จากการนับของสำนักข่าวเอเอฟพี บนพื้นฐานของข้อมูลอย่างเป็นทางการจนถึงเวลา 17.30 จีเอ็มที วันพฤหัสบดี(ตรงกับเมืองไทย 00.30น.วันศุกร์) อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าอัตราการตายเริ่มชะลอตัวลงมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม

    เอเอฟพีระบุว่ารวมแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อยู่ที่ 112,618,488 คน เสียชีวิต 2,500,172 ราย

    ยุโรปเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด พบผู้เสียชีวิตแล้ว 842,894 ราย รองลงมือคือละตินอเมริกาและแคริบเบียน ยอดเสียชีวิต 667,972 คน ตามด้วยสหรัฐฯกับแคนาดา ยอดเสียชีวิต 528,039 คน

    อย่างไรก็ตามเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตทั้งหมด เกิดขึ้นแค่เพียงใน 5 ประเทศ ประกอบด้วยสหรัฐฯ 506,232 ราย บราซิล 249,957 ราย เม็กซิโก 182,815 ราย อินเดีย 156,705 ราย และสหราชอาณาจักร 122,070 ราย

    โลกมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ผ่านหลัก 1 ล้านคนเมื่อวันที่ 28 กันยายน ไม่ถึง 9 เดือนหลังมีรายงานการเสียชีวิตรายแรกในจีนในเดือนมกราคม 2020 และจากนั้นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือน คร่าชีวิตผู้คนแตะระดับ 2 ล้านคน เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตามอัตราการตายชะลอตัวลงในช่วงปลายเดือนมกราคม โดยสัปดาห์ที่แล้ว พบผู้เสียชีวิต 66,800 คน หรือเฉลี่ย 9,500 คนต่อวัน ลดลงอย่างมากจากสัปดาห์ที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 26 มกราคม โดยในรอบสัปดาห์นั้น พบผู้เสียชีวิตถึง 101,400 ราย หรือเฉลี่ย 14,500 คนต่อวัน

    ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันในปัจจุบันชะลอตัวลงสู่ระดับเดียวกับที่เคยพบเห็นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีก่อน

    ในบรรดาผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า 1 ใน 3 เกิดขึ้นในประเทศและดินแดนต่างๆ 52 แห่งของยุโรป ทว่าตัวเลขดังกล่าวลดลงถึง 14% หากเทียบกับหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น เหลือราวๆ 3,400 รายต่อวัน

    ส่วนทวีปอื่นๆก็พบเห็นอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงเช่นกัน โดยสหรัฐฯและแคนาดา มีผู้เสียชีวิตลดลง 23% เหลือ 2,150 คนต่อวัน ลดลงเร็วกว่ายุโรปและแอฟริกา โดย แอฟริกา ลดลง 13% เหลือ 378% ต่อวัน

    อัตราการเสียชีวิตรายสัปดาห์ในละตินอเมริกาและแคริบเบียน ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลง 7% เหลือ 2,720 รายต่อวัน

    ทั้งนี้หากคิดตามสัดส่วนประชากร เบลเยียมเป็นชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิต 1,900 รายต่อประชากร 1 ล้านคน รองลงมาคือสาธารณรัฐเช็ก 1,850 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ตามด้วยสโลวาเกีย(1,830) สหราชอาณาจักร(1,790) และอิตาลี(1,600)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น่ากังวล!!พบตัวกลายพันธุ์ใหม่โควิด-19ในนิวยอร์ก วัคซีนปัจจุบันอาจไม่ได้ผล

    ผลการศึกษา 2 แห่งเผยให้เห็นว่าตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบในนิวยอร์ก ซิตี เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน อาจสามารถต้านทานวัคซีนที่กำลังฉีดกันอยู่ในปัจจุบันมากกว่าตัวอื่นๆ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่แพทย์ระดับสูงในวันพฤหัสบดี(25ก.พ.) รุดออกมาปัดเป่าความกังวล ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปประสิทธิภาพของวัคซีนกับตัวกลายพันธุ์นี้

    นายแพทย์เจย์ วาร์มา หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของบิล เดอ บราซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะอนุมานผลจากห้องปฏิบัติการ เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต่างๆที่มีต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์ดังกล่าว พร้อมกับสะท้อนความกังวลของบรรดานักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ที่ตั้งคำถามว่าทำไมผลการศึกษาในเบื้องต้นถึงหลุดสู่สื่อมวลชน ก่อนถึงมือนักวิชาการ

    "เรายังไม่รู้เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของมนุษย์มากพอที่จะสามารถสรุปเรื่องนี้โดยตรง" เวอร์มากล่าวระหวางแถลงสรุปร่วมกับนายกเทศมนตรี "นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องทดลองทางคลินิก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง"

    เวอร์มา เน้นว่าการทดลองทางคลินิกของวัคซีน ในนั้นรวมถึงการทดลองในประเทศอื่นๆ อาทิบราซิลและแอฟริกาใต้ ดินแดนที่กำลังทดสอบวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ยังไม่ได้อนุมัติ พบว่าวัคซีนทั้งหลาย "มีประสิทธิภาพอย่างน่าทึ่ง" สำหรับป้องกันการเสียชีวิตหรือป่วยหนักจากการติดเชื้อ

    ตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้และบราซิล สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมหลายเท่า และเวลานี้พวกมันกำลังแพร่ระบาดในวงกว้างสู่ประเทศอื่นๆ

    ในสหรัฐฯ ดินแดนซึ่งไวรัสคร่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 500,000 รายในช่วง 13 เดือน ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในความกังวลเกี่ยวกับภาวะคนไข้ล้นระบบสาธารณสุขท้องถิ่น ก็ลดลงมาแล้วเกือบ 60% จากระดับสูงสุด 53,938 คนในวันที่ 6 มกราคม

    แม้ภาพรวมอยู่ในแนวโน้มขาลง แต่ยังคงพบผู้เสียชีวิตระดับสูงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยยอดรวมผู้เสียชีวิตในรัฐแห่งนี้ทะลุ 50,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพุธ(24ก.พ.) ตามมาด้วยนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิต 46,871 ราย

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ(ซีดีซี) คาดหมายว่ามีประชาชน 45.2 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติแล้วของไฟเซอร์ อิงค์ ที่ร่วมพัฒนากับ ไบโอเอ็นเทค หรือวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ อย่างน้อย 1 โดส จากทั้งหมด 2 โดส ขณะที่วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน คาดหมายว่าจะได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

    จากข้อมูลขอบรรดานักวิจัยของวิทยาลัยอายุรแพทย์และศัลยกรรม มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย ระบุในบรรดาเคสผู้ติดเชื้อใหม่จนถึงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า B.1.526 ราวๆ 12%

    พวกนักวิจัยมหาวิทยาลัยโคลอมเบียพบว่า B.1.526 มีลักษณะที่น่ากังวลบางอย่างแบบเดียวกับตัวกลายพันธุ์แอฟริกาใต้และบราซิล โดยหลายผลการศึกษาบ่งชี้ว่ามันสามารถต้านทานวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันบางตัว ได้มากกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวกลายพันธุ์อื่นๆก่อนหน้านี้

    ซีดีซี พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ต่างๆนานาแล้วมากกว่า 1,900 เคส กระจายอยู่เกือบทุกรัฐของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นตัวกลายพันธุ์ B.1.1.7 ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร ซึ่งแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าตัวดั้งเดิมเหล่าเท่า

    เวอร์มา แนะนำผู้อ่านอย่าด่วนปักใจเชื่อรายงานผลการศึกษาล่าสุด พร้อมระบุว่าไม่ใช่ทุกตัวกลายพันธุ์จะเพิ่มระดับความกังวลด้านสาธารณสุข โดยเขาให้คำจำกัดความการค้นพบล่าสุดว่าเป็น "ตัวกลายพันธุ์ที่น่าสนใจ" ซึ่งควรศึกษาเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด"

    (ที่มา:รอยเตอร์ส)

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เล่นผิดคน!คุณยายมือเปล่าฮึดสู้โจรขโมยกระเป๋าร่างใหญ่ คนร้ายหนีกระเจิง(ชมคลิป)

    คุณยายมือเปล่ารายหนึ่งไล่ล่าชายรูปร่างใหญ่ กอดรัดฟัดเหวี่ยงจนเขาลงไปกองกับพื้นและตัดสินใจขับรถหลบหนี หลังชายคนดังกล่าวก่อเหตุขโมยกระเป๋าถือของคุณยายที่วางเอาไว้บนโต๊ะในผับแห่งหนึ่ง ไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น

    หญิงชราคนดังกล่าวอยู่ที่ร้านอาหารกึ่งผับ พิมพามา ทาเวิร์น ในเมืองโกลด์โคสต์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ตอนเวลา 20.30น. ของวันที่ 19 มกราคม ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งเข้ามาฉกกระเป๋าถือของเธอไป

    ภาพจากกล้องวงจรปิดพบเห็นเธอไล่ตามชายคนดังกล่าวจนมาถึงลานจอดรถแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกัน จากนั้นก็เกิดการฉุดกระชากลากถู คุณยายพยายามล็อคคอคนร้าย จนเสื้อเขาหลุดและลงไปนอนกองบนพื้นทั้งคู่

    ท้ายที่สุดแล้วหัวขโมยก็ตะเกียกตะกายดิ้นรนหลุดจากการกอดรัดของคุณยายจนสำเร็จ แล้วเดินไปขึ้นรถขับหนีไปโดยไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือแม้แต่นิดเดียว ส่วนคุณยายก็เดินกลับไปที่บาร์ พร้อมกับกระเป๋าถือในมือ

    ผลจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับคนร้าย คุณยายใจเด็ด ซึ่งมีโรคประจำตัวถุงลมโป่งพอง ได้รับบาดเจ็บซี่โครงร้าว มีร่องรอยฟกช้ำและมีบาดแผลบริเวณแขน

    ในการให้สัมภาษณ์กับ 7News สื่อมวลชนออสเตรเลีย คุณยายบอกว่าเธอไม่ได้คิดอะไรเลยตอนที่ไล่ตามคนร้ายไป หลังเห็นเขาฉวยกระเป๋าของเธอไป

    คุณยายเล่าว่าเธอไปผับกึ่งร้านอาหารดังกล่าวเพื่อฉลองวันเกิด และคนร้ายฉกกระเป๋าของเธอ ตอนที่เธอกำลังย้ายโต๊ะออกไปนั่งข้างนอก

    ต่อมาตำรวจแกะรอยระบุตัวตนชายคนดังกล่าว ทราบว่าเป็นชายวัย 42 ปี พักอาศัยอยู่ในย่านอัปเปอร์คูเมรา แถบชานเมืองโกลด์โคสต์ ก่อนเข้ารวบตัวและแจ้งข้อหาลักทรัพย์ และรายงานข่าวล่าสุดระบุว่าเขามีกำหนดถูกนำตัวขึ้นศาลในสัปดาห์นี้

    (ที่มา:เดลิเมล์)

    ชมคลิปที่นี่ : https://mgronline.com/around/detail/9640000019084

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โมเดอร์นาทดสอบวัคซีนกระตุ้น มุ่งสู้ไวรัสโควิดกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ ขณะวัคซีนโดสเดียว‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ เรียกเสียงเชียร์สนั่น

    คาดสหรัฐฯเตรียมประชุมอนุมัติการใช้วัคซีน “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน”เป็นกรณีฉุกเฉินปลายสัปดาห์นี้ หลังออกรายงานยืนยันวัคซีนซึ่งมีจุดเด่นตรงฉีดแค่โดสเดียวก็เพียงพอชนิดนี้ มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไม่ให้เกิดโควิดอาการรุนแรง รวมถึงสู้กับไวรัสกลายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้ อีกทั้งให้การปกป้องทุกกลุ่มอายุ เชื้อชาติ หรือแม้แต่ผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะที่ทางด้าน “โมเดอร์นา” เผย กำลังร่วมกับนักวิจัยของรัฐบาลอเมริกัน ทดสอบวัคซีนกระตุ้นที่พุ่งเป้าสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ส่วน กานา กลายเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนภายใต้โครงการโคแวกซ์

    เอกสารที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เผยแพร่เมื่อวันพุธ (24 ก.พ.) ระบุว่า ในการศึกษาทางคลินิกขนาดใหญ่พบว่า วัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (เจแอนด์เจ) มีประสิทธิภาพในการต่อต้านอาการป่วยรุนแรงจากไวรัสโคโรนาถึง 85.9% ในอเมริกา, 81.7% ในแอฟริกาใต้ และ 87.6% ในบราซิล

    สำหรับผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกทั้งหมด 39,321 คนจากทุกภูมิภาค วัคซีนสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากโควิดได้ 85.4% แต่ลดเหลือ 66.1% เมื่อรวมผลจากการป้องกันอาการป่วยระดับปานกลาง

    ที่สำคัญ ผลการวิเคราะห์ไม่พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพที่แตกต่างในกลุ่มอายุ ชาติพันธุ์ต่างๆ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว นอกจากนั้นยังไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ชนิดรุนแรง (anaphylaxis) แบบที่พบในวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา แค่มีแนวโน้มทำให้เกิดอาการแพ้ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย และปวดกล้ามเนื้อ กับอาสาสมัครอายุน้อยมากกว่ากลุ่มผู้สูงวัย และไม่พบผู้เสียชีวิตในการทดลองแต่อย่างใด

    เอกสารของเจแอนด์เจยังระบุว่า การศึกษาเบื้องต้นพบว่า วัคซีนอาจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการด้วย แต่สำทับว่า ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้ต่อไป

    ด้านเอฟดีเอระบุในเอกสารว่า ผลการวิเคราะห์สนับสนุนข้อมูลด้านความปลอดภัย รวมทั้งไม่พบข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่อาจขัดขวางการอนุญาตใช้ฉุกเฉิน

    ทั้งนี้ คาดว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการอิสระของเอฟดีเอในวันศุกร์ (26) ซึ่งมีแนวโน้มลงมติอนุญาตให้ใช้วัคซีนของเจแอนด์เจเป็นกรณีฉุกเฉิน หากเป็นเช่นนั้น ก็ถือเป็นวัคซีนตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติในอเมริกา โดยสองตัวแรกคือวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา

    เจฟฟ์ ไซเอนต์ส ผู้ประสานงานการรับมือไวรัสโคโรนาของทำเนียบขาว เผยว่า ถ้าได้รับอนุมัติ รัฐบาลจะพยายามแจกจ่ายวัคซีนของเจแอนด์เจ 3-4 ล้านโดสภายในสัปดาห์หน้า และเจแอนด์เจยังแจ้งว่า มีเป้าหมายส่งมอบวัคซีน 20 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมีนาคม

    วันเดียวกันนั้น โมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของอเมริกา เผยว่า ได้จัดส่งวัคซีนกระตุ้นที่พุ่งเป้าจัดการกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งพบที่แรกในแอฟริกาใต้ ไปให้สถาบันสุขภาพแห่งชาติของรัฐบาลอเมริกาที่ช่วยบริษัทพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เพื่อดำเนินการศึกษาเพิ่มเติมแล้ว

    ขณะนี้ โมเดอร์นากำลังทดลองวิธีการต่างๆ ในการจัดการไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น วัคซีนกระตุ้นที่พัฒนามาสำหรับไวรัสกลายพันธุ์ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ หรือวัคซีนกระตุ้นที่เป็นสูตรผสมระหว่างสูตรปัจจุบันกับสูตรที่อยู่ระหว่างการทดลอง และวัคซีนกระตุ้นพิเศษที่ฉีดเพิ่มจากวัคซีน 2 โดสซึ่งต้องฉีดในปัจจุบัน

    นอกจากนั้นบริษัทยังทดลองใช้วัคซีนทดลองและวัคซีนสูตรผสมฉีดให้กับอาสาสมัครที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนและไม่ได้ติดโควิด ในฐานะเป็นวัคซีนเข็มแรกและเข็มกระตุ้น

    โมเดอร์นายังเพิ่มการคาดการณ์การผลิตวัคซีนในปีนี้เป็น 700 ล้านโดสทั่วโลก จาก 600 ล้านโดส และกำลังลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตเป็น 1,400 ล้านโดสในปีหน้า

    ในอีกด้านหนึ่ง องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า กานาเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนจากการจัดหาของโครงการโคแว็กซ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซ์ฟอร์ดจำนวน 600,000 โดส จากทั้งหมดที่จะจัดหาให้ 2,412,000 โดส

    โคแวกซ์ที่นำโดยพันธมิตรวัคซีน กาวี, WHO, และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด มีเป้าหมายจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 2,000 ล้านโดสให้พวกชาติสมาชิกที่ยากจนภายในสิ้นปีนี้

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘ม็อบหนุนทหาร’งัดมีดไม้ทำร้ายผู้ประท้วง เฟซบุ๊ก-ไอจีแบนบัญชี‘กองทัพพม่า’มีผลทันที

    ม็อบสนับสนุนกองทัพพม่าพร้อมมีด ไม้กระบอง หนังสติ๊ก และก้อนหิน เข้าทำร้ายกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารในเมืองย่างกุ้งวันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) ขณะที่สื่อรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมตัดความช่วยเหลือพม่า ด้านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมประกาศแบนบัญชีรัฐบาลทหารและธุรกิจของกองทัพหม่อง โดยมีผลทันที

    พม่าเผชิญสถานการณ์วุ่นวายยุ่งเหยิง นับจากที่กองทัพทำรัฐประหารเข้ายึดอำนาจและควบคุมตัวอองซานซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือน ตลอดจนสมาชิกคนสำคัญของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของเธอเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่ NLD มีชัยชนะอย่างมโหฬาร

    ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวพม่าตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ลงท้องถนนชุมนุมประท้วงไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากนั้นยังมี “ขบวนการอารยะขัดขืน” นัดหยุดงานทั้งในภาคเอกชนและราชการ โดยที่วันพฤหัสฯ (25) พวกนักศึกษาและแพทย์นัดแสดงพลังอีกครั้งในย่านธุรกิจของย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าและเมืองใหญ่ที่สุดของพม่า

    ทว่า ขณะที่กลุ่มต่อต้านยังมารวมตัวกันไม่มากนัก ได้มีฝ่ายสนับสนุนกองทัพราว 1,000 คนชุมนุมกันกลางเมืองย่างกุ้ง บางคนข่มขู่ช่างภาพและนักข่าว และเกิดการตะลุมบอนที่บานปลายเป็นความรุนแรงในหลายจุด

    ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพผู้สนับสนุนกองทัพบางคนมีไม้กระบองและมีด บางคนขว้างก้อนหินและยิงหนังสติ๊กใส่กลุ่มต่อต้านรัฐประหาร และมีหลายคนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย นอกจากนั้นยังมีคลิปม็อบหนุนทหารใช้มีดแทงชายคนหนึ่งหน้าโรงแรมกลางเมือง

    ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้ปิดกั้นประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยหลักของย่างกุ้งเพื่อไม่ให้นักศึกษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยออกไปร่วมประท้วง

    ไม่เฉพาะที่ย่างกุ้ง ในรัฐชาน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของพม่า ได้มีกลุ่มสนับสนุนทหารปรากฏตัวในหลายพื้นที่ เป็นต้นว่า ในวันพุธ (24) มีผู้คนราว 350 คนออกมาเดินขบวนชูภาพ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ที่เมืองขาก จังหวัดเชียงตุง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของรัฐ และในวันพฤหัสบดี มีผู้สนับสนุนกองทัพประมาณ 200 คนเดินขบวนที่เมืองตองจี ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐ การเดินขบวนเหล่านี้ดำเนินไปโดยไม่มีเหตุรุนแรง

    สำหรับนานาชาตินั้น เวลานี้คอยจับตาสถานการณ์ในพม่าด้วยความกังวล สัปดาห์นี้พวกประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) นำโดยอินโดนีเซีย มีความเคลื่อนไหวพยายามหาทางยุติวิกฤตการณ์นี้

    เร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย กล่าวภายหลังหารือกับวันนะ หม่อง ละวิน รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลทหารพม่า และรัฐมนตรีต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย ของไทย ที่กรุงเทพฯเมื่อวันพุธ (24) ว่า ตนเองได้พูดคุยอย่างจริงจังกับทั้งกองทัพพม่าและตัวแทนรัฐบาลพลเรือนที่ถูกโค่นล้ม โดยมีเป้าหมายสำคัญอันดับแรกคือความผาสุกของประชาชนชาวพม่า รวมทั้งขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นและงดใช้ความรุนแรง

    เร็ตโนไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นเรื่องการเลือกตั้ง แต่กล่าวว่า อินโดนีเซียขอเน้นย้ำถึง “ความสำคัญของกระบวนการเปลี่ยนผ่านแบบประชาธิปไตยที่ต้อนรับฝ่ายต่างๆ ให้เข้ามีส่วนร่วม”

    “เราจำเป็นต้องมีเงื่อนไขที่จะมีส่วนช่วย ... ในรูปแบบของการสนทนากัน, การปรองดอง, และการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ” เธอบอก พร้อมกับย้ำว่า “อินโดนีเซียจะอยู่กับประชาชนชาวพม่า”

    อย่างไรก็ตาม การแทรกแซงของอินโดนีเซีย โดยมีน้ำเสียงเหมือนกับหนุนพวกยึดอำนาจที่ให้สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเวลาต่อมา แต่ยังไม่กำหนดเวลาแน่นอนชัดเจน กำลังทำให้กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารในพม่าบางกลุ่มมองว่า เป็นการสร้างความชอบธรรมให้แก่คณะทหาร และยอมรับการล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน

    ดังเห็นได้จากปฏิกิริยาของพวกผู้ประท้วงซึ่งไปชุมนุมกันที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตของอินโดนีเซีย และของไทย ในเมืองย่างกุ้ง เมื่อวันพุธ (24) ที่ยืนยันไม่ยอมรับเผด็จการทหาร และเรียกร้องให้เคารพเสียงโหวตของพวกเขา

    ในอีกด้านหนึ่ง นานาชาติโดยเฉพาะฝ่ายตะวันตก ซึ่งออกมาประณามการทำรัฐประหารคราวนี้ รวมทั้งประกาศมาตรการในการแซงก์ชั่นฝ่ายทหารพม่าไปบ้างแล้วนั้น มีรายงานว่าหลายประเทศเตรียมที่จะออกมาตรการเพิ่มเติม

    หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุงและสำนักข่าวเกียวโดรายงานวันพฤหัสฯ โดยอ้างแหล่งข่าวหลายคนในรัฐบาลญี่ปุ่นว่า รัฐบาลใกล้บรรลุแผนการระงับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาใหม่ๆ ที่ให้พม่า โดยพยายามไม่เรียกการดำเนินการนี้ว่า เป็นการแซงก์ชั่น และจะพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลทหารพม่าหาทางออกด้วยการเจรจา

    ด้าน คัตสึโนบุ คาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แม้ปฏิเสธว่ารายงานดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ก็สำทับว่า เป็นไปได้ที่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายความช่วยเหลือที่ให้แก่พม่า

    ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นผู้บริจาครายสำคัญให้แก่พม่า ขณะที่พวกบริษัทใหญ่ที่สุดหลายแห่งของญี่ปุ่นขยายธุรกิจอย่างกว้างขวางในพม่าในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากมองว่า เป็นตลาดสำคัญ รวมทั้งโตเกียวตลอดจนชาติตะวันตกอื่นๆ ก็ส่งเสริม เพื่อป้องกันไม่ให้พม่าใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป

    ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก สื่อสังคมยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันกว้างขวางในพม่า ประกาศแบนบัญชีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกองทัพพม่าบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม โดยมีผลทันที ด้วยเหตุผลว่าเป็นเพราะรัฐบาลทหารพม่าใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอ็นจีโอจาก 31 ประเทศร้องคณะมนตรีความมั่นคงคว่ำบาตรขายอาวุธให้พม่า
    .
    .
    .
    เอเอฟพี - องค์กรพัฒนาเอกชนเกือบ 140 แห่งจาก 31 ประเทศร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำหนดมาตรการห้ามค้าอาวุธอย่างเร่งด่วนกับพม่า หลังกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อต้นเดือน
    .
    “คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติควรกำหนดมาตรการห้ามค้าอาวุธต่อพม่าอย่างเร่งด่วนตอบโต้การรัฐประหารและเพื่อยับยั้งรัฐบาลทหารกระทำความรุนแรงเพิ่มเติม” จดหมายระบุ
    .
    เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึดยังระบุเพิ่มเติมว่า “รัฐบาลที่อนุญาตให้ถ่ายโอนอาวุธไปพม่า ที่ประกอบด้วย จีน อินเดีย อิสราเอล เกาหลีเหนือ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และยูเครน ควรยุติการจัดหาอาวุธและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องโดยทันที”
    .
    ทั้งนี้ มี 3 ประเทศที่ปรากฎชื่อในจดหมายเปิดผนึกเป็นสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคง คือ จีนและรัสเซีย เป็นสมาชิกถาวร ที่ทั้งคู่มีอำนาจยับยั้งในคณะมนตรี และอินเดีย ที่เป็นสมาชิกไม่ถาวร
    .
    “จากการกระทำทารุณกรรมต่อชาวโรฮิงญา การก่ออาชญากรรมสงครามที่ดำเนินมายาวนานหลายทศวรรษ และการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อย่างน้อยที่สุดที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสามารถทำได้ คือการกำหนดมาตรการห้ามค้าอาวุธกับพม่า” ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุ
    .
    “นอกจากนี้ คณะมนตรีความมั่นคงควรกำหนดมาตรการคว่ำบาตรแบบมุ่งเป้า ห้ามการเดินทาง และอายัดทรัพย์ กับผู้นำของรัฐบาลทหารและกลุ่มบริษัทที่ทหารเป็นเจ้าของ” จดหมายเปิดผนึกระบุ.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000018826

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีน-อินเดีย ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาท

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    26 ก.พ. 2564 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปี 2563 ถือว่าประสบภาวะวิกฤตอย่างรุนแรง และมีความเชื่อมโยงไปทั่วโลก โดยภาพรวมปี 2563 เศรษฐกิจไทยหดตัวที่ร้อยละ 6.1 แต่ถือว่าน้อยกว่าที่หลายสำนักได้คาดการณ์ไว้ ขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างช้า ๆ โดยไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจไทยหลายตัวเริ่มปรับดีขึ้น ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการลงทุนภาคเอกชน ยกเว้นภาคบริการและการท่องเที่ยว เนื่องจากยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา

    ส่วนผลกระทบของโควิดกับเศรษฐกิจไทยจากการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ไม่ได้เหนือกว่าที่คาดการณ์ไว้ การระบาดรอบแรกไทยใช้เวลา 51 วัน ในการควบคุม ส่วนระลอกนี้ผ่านมาหกสิบกว่าวัน ขณะที่วัคซีนที่มาถึงประเทศไทยแล้ว จะช่วยให้การจัดการด้านสาธารณสุขดีขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมามีความผ่อนคลายมากกว่ารอบแรก ยังมีการเดินทาง จึงทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังสามารถขับเคลื่อนได้ แต่สิ่งที่ยังกังวล คือ อัตราการว่างงาน เพราะแม้อัตราการว่างงานจะดีขึ้น แต่ตัวเลขก็ยังสูงอยู่ และพบว่าชั่วโมงการทำงานลดลง ซึ่งหมายความว่ารายได้ของแรงงานก็ลดลงตามไปด้วย ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการรักษาการจ้างงานไว้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายได้ครัวเรือน

    ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2564 จากการกลับมาระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ทำให้สศช.ต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงเติบโตเหลือร้อยละ 2.5-3.5 จากที่เคยคาดไว้จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.5-4.5 อย่างไรก็ตามต้องดูว่าการกระจายวัคซีนโควิด จะเป็นไปตามแผนหรือไม่ โดยไม่ควรกระจายให้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ หรือกลุ่มเปราะบางก่อนเท่านั้น แต่ควรกระจายไปในภาคบริการและแรงงานด้วย

    สำหรับปัจจัยที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการส่งออกต้องพยายามขับเคลื่อนให้มากขึ้น การลงทุนภาครัฐก็มีความสำคัญมาก ต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งกระตุ้นการใช้จ่าย เช่นมาตรการของรัฐต่าง ๆ ทั้ง โครงการคนละครึ่ง เราชนะ และเรารักกัน นอกจากนี้ การควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ประสิทธิภาพในการกระจายวัคซีน การกลับมาของนักท่องเที่ยวจะทำได้เร็วเพียงใด ซึ่งจากนี้ไปจะมุ่งไปที่นักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูง เช่น กลุ่มที่เข้ามาวิลล่า จะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ดึงเข้ามา นอกจากนี้ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งอาจจะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้

    ที่มา https://tna.mcot.net/business-644711

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    25 ก.พ. 64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธานในพิธีมอบเหรียญเชิดชูเกียรติ ให้แก่บุคคลซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อภารกิจนำประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ให้หลุดพ้นจากภาวะ "ความยากจนสุดขีด" หรือ "ความยากจนแร้นแค้น" ที่มหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี

    หลังจากนั้น ผู้นำจีนกล่าวถ้อยแถลงซึ่งมีเนื้อหาสำคัญว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2556 ที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนเกือบ 100 ล้านคน ให้ผ่านเส้นแบ่งของความยากจน ถือเป็น "ของขวัญล้ำค่า" ชิ้นแรกของจีนในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปีครบรอบ 100 ปี แห่งการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์ด้วย

    ทั้งนี้ สีกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาของการดำเนินโครงการ รัฐบาลปักกิ่งทุ่มงบประมาณมากกว่า 1.6 ล้านล้านหยวน ( ราว 7.47 ล้านล้านบาท ) อย่างไรก็ตาม ผู้นำจีนยังไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจน เกี่ยวกับวงเงินงบประมาณสำหรับต่อสู้กับความยากจน ตามแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า

    อนึ่ง รัฐบาลปักกิ่งนิยาม "เกณฑ์ความยากจน" เมื่อปี 2563 ว่าคือผู้ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี ไม่เกิน 4,000 หยวน ( ราว 18,661.81 บาท ) ซึ่งน้อยกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี ของประชาชนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งอยู่ที่ 10,000 หยวน (ราว 46,654.53 บาท)

    https://news.cgtn.com/news/2021-02-...tion-of-extreme-poverty-YaaPRcrJiE/index.html

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมียนมาสลายม็อบต้านรัฐประหารกลางเมืองย่างกุ้ง พบใช้อาวุธคล้ายปืนยิงขู่ผู้ชุมนุมจนต้องหนีชุลมุน ขณะที่มีรายงานว่า ในวันนี้ตำรวจเมียนมาจับกุมนักข่าวญี่ปุ่น 1 คน

    วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 สถานีโทรทัศน์แชนแนล นิวส์ เอเชีย สื่อสิงคโปร์ และสื่อท้องถิ่นของเมียนมาหลายสำนัก รายงานสถานการณ์การชุมนุมต้านรัฐประหารในนครย่างกุ้ง เมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมาในวันนี้ (26 ก.พ.) โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังและเริ่มปฏิบัติการสลายการชุมนุมแล้ว

    รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับภาพที่ปรากฎในโลกออนไลน์ที่พบว่า เจ้าหน้าที่เมียนมาได้เริ่มตั้งแถวก่อนจะเข้าสลายการชุมนุมบนท้องถนน ซึ่งใกล้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยผู้ชุมนุมวิ่งหนีการสลายการชุมนุมอย่างชุลมุน หลังฝั่งเจ้าหน้าที่มีการใช้อาวุธ และได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น ในลักษณะคล้ายกับการยิงปืนขู่ผู้ชุมนุม ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บจากการสลายชุมนุมล่าสุด แต่มีรายงานผู้ถูกจับกุมแล้วอย่างน้อย 1 คน

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ตำรวจเมียนมาได้จับกุมนายยูกิ คิตาซุมิ (Yuki Kitazumi) ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ซึ่งเพื่อนร่วมงานของผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นายคิตาซุมิถูกตีเข้าที่ศีรษะ แต่ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงเพราะสวมหมวกกันน็อก ก่อนจะถูกควบคุมตัวไป โดยรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

    ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นคนนี้ถือเป็นชาวต่างชาติคนที่ 2 ที่ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาควบคุมตัว หลังก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยชาวต่างชาติคนแรกที่ถูกจับกุมคือ นายฌอน เทอร์เนลล์ นักวิชาการชาวออสเตรเลีย ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี ให้เป็นที่ปรึกษาด้านการปฏิรูปเศรษฐกิจเมียนมา

    ที่มา https://www.channelnewsasia.com/new...test-yangon-security-forces-disperse-14288056
    https://www.channelnewsasia.com/new...ce-detain-japanese-journalist-yangon-14288292

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,656
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมอยง แจง คนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 บริจาคเลือดได้เลยไม่ต้องรอ 2 สัปดาห์ เนื่องจากวัคซีนเป็นแบบเชื้อตาย ยกเว้นผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อเป็น เช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม สุกใส มีความจำเป็นต้องรอ 2 สัปดาห์ก่อนค่อยไปบริจาคโลหิต

    วันที่ 26 ก.พ. 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้เรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 กับการบริจาคโลหิต ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า วัคซีนโควิด-19 มาถึงประเทศไทยแล้วทั้ง 2 บริษัทคือ Sinovac (ซิโนแวค) และ AstraZeneca (แอสตราเซเนกา) มีคำถามว่าผู้ฉีดวัคซีนแล้วบริจาคโลหิตได้หรือไม่นั้น

    ศ.นพ.ยง เปิดเผยว่า การบริจาคโลหิต ผู้ที่ฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตาย สามารถมาบริจาคโลหิตได้เลย ไม่มีความจำเป็นต้องรอ สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อเป็น เช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม สุกใส มีความจำเป็นต้องรอ 2 สัปดาห์ก่อนค่อยไปบริจาคโลหิต

    ซึ่งวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบันเปรียบเสมือนเป็นเชื้อตายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น mRNA วัคซีนของ Pfizer, Moderna, ไวรัสเวกเตอร์ที่แบ่งตัวไม่ได้ เช่น AstraZeneca และวัคซีนเชื้อตายของจีน Sinovac, Sinopharm ไม่มีความจำเป็นต้องรอ สามารถไปบริจาคโลหิตได้เลย

    ศ.นพ.ยง ยังระบุในช่วงท้ายด้วยว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วถึงมีระดับภูมิต้านทานสูง ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการศึกษาว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะใช้ Plasma ของผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วมาใช้รักษาผู้ป่วย คงจะต้องรอการศึกษาและมีความเป็นไปได้ที่ในอนาคต อาจจะมีการสกัดเอาภูมิต้านทานที่เกิดจากการฉีดวัคซีนมาทำเป็นภูมิต้านทานแบบเข้มข้น ที่เรียกว่า hyperimmune globulin ใช้ป้องกันความรุนแรงของโรค แต่ในปัจจุบันยังไม่มี.

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     

แชร์หน้านี้

Loading...