ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมียนมาสั่งแบนเฟซบุ๊กถึง 7 กุมภาพันธ์ อ้างเพื่อเสถียรภาพประเทศเพราะมีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวบิดเบือน

    วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สและเมียนมาไทม์ส สื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า กระทรวงสื่อสารและข้อมูลข่าวสารของเมียนมาออกคำสั่งถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ ให้ระงับการเข้าถึงเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ทั่วประเทศเมียนมา จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปเพื่อเสถียรภาพของประเทศ เนื่องจากในตอนนี้มีผู้ไม่หวังดีใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือปล่อยข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน

    คำสั่งดังกล่าวทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกรายของเมียนมา ต้องปฏิบัติตามทันที อย่างไรก็ตามมีท่าทีจากเครือข่ายเทเลนอร์ เมียนมา (Telenor Myanmar) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ ที่ออกแถลงการณ์ระบุว่า จะปฏิบัติตามกฎหมายของเมียนมา แต่ทางบริษัทไม่เชื่อว่า คำสั่งแบนการใช้งานเฟซบุ๊กจะมีความจำเป็นและสมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาจากกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล

    ขณะที่โฆษกของเฟซบุ๊กระบุว่า รับทราบถึงปัญหาในการเข้าถึงเฟซบุ๊กในเมียนมาแล้ว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมากลับมาเปิดการเชื่อมต่อเฟซบุ๊ก เพื่อให้ผู้คนได้ติดต่อสื่อสาร และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารสำคัญได้อีกครั้ง

    คำสั่งระงับการใช้งานเฟซบุ๊กในเมียนมา สอดคล้องกับที่ทีมข่าว workpointTODAY สังเกตการณ์บรรยากาศในโลกออนไลน์ของเมียนมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) พบว่าเริ่มมีผู้ใช้ในเมียนมาพูดถึงปัญหาการเข้าเฟซบุ๊กมากขึ้น รวมทั้งยังมีบางส่วนแนะนำให้ผู้ใช้คนอื่นๆ ดาวน์โหลดบริการ VPN มาใช้เพื่อให้เข้าเฟซบุ๊กได้ต่อไป ในกรณีที่รัฐบาลเมียนมาสั่งแบนเฟซบุ๊ก

    ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กในเมียนมาไม่ต่ำกว่า 22.3 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ โดยชาวเมียนมาอายุตั้งแต่ 25-34 ปี เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กมากที่สุด

    ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเคยมีมาตรการระงับหลายบัญชีที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา เช่น บัญชีของสถานีโทรทัศน์เมียวดี (Myawaddy TV) รวมทั้งบัญชีเฟซบุ๊กของนายทหารระดับสูงเมียนมาหลายคน โดยระบุว่าบัญชีเหล่านี้ละเมิดข้อกำหนดของเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการปลุกปั่นความรุนแรงและสร้างความเกลียดชัง

    ที่มา https://www.channelnewsasia.com/.../myanmar-orders...
    https://www.mmtimes.com/.../myanmar-bans-facebook...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เคยทำเรื่องฟุธบาทในเขตโรงแรมนี่แหละ ตอนนั้นเส้นทางสั้นนิดเดียว ต้องประสาน 18 หน่วยงาน” ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UddC) เผยขึ้นในวงสนทนาเมื่อพูดถึงความซับซ้อนในการทำให้เมืองเป็นเมืองที่เดินง่ายขึ้น

    บทสนทนานี้เกิดขึ้นในค่ำคืนแห่งความคิด (์Night of Ideas) เป็นที่รู้กันว่าเป็นค่ำคืนที่นักเรียนนักศึกษาฝรั่งเศสจะออกไปขยายโลกทัศน์ตามงานเสวนาต่าง ๆ ที่พร้อมใจกันจัดเต็มเมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางทางการศึกษา สถานทูตฝรั่งเศสที่กระจายไปทั่วโลกพยายามขยายวัฒนธรรมนี้ออกไปด้วยการจัดงานค่ำคืนแห่งความคิดพร้อมกันในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ในปีนี้ท่ามกลางบรรยากาศหลายประเทศอยู่ภายใต้การล็อกดาวน์จากสถานการณ์โลกระบาด หัวข้อสะท้อนสิ่งที่ทุกคนโหยหา “ใกล้เข้ามากขึ้น (Plus Proches – Closer)”

    สำหรับค่ำคืนแห่งความคิดในไทย เกิดขึ้นที่ห้องโถงของสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ ค่ำวันที่ 27 มกราคม 2564 แขกเหรื่อแต่ละคนสวมหน้ากากอนามัยสนทนากัน ค่ำคืนนี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสิร์ฟ มีแต่น้ำผลไม้ ถึงกระนั้นบทสนทนาก็ยังดำเนินไปอย่างออกรส

    จากคำว่า Closer สถานทูตของแต่ละประเทศหยิบไปตีความหมายและจัดบทสนทนาในบริบทที่เกี่ยวข้องกับตัวเองขึ้นมา สำหรับประเทศไทย พวกเขาตัดสินใจโยงความใกล้ชิดเข้ากับการพัฒนาเมืองใหญ่

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบการบริหารแบบราชการที่ซับซ้อน รวมศูนย์และกระจัดกระจายในเวลาเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็พบความห่างเหินของหน่วยงานภาครัฐกับชุมชน

    ดร.นิรมล เล่าว่ากรุงเทพเป็นเมืองใหญ่ ความต้องการของแต่ละกลุ่มหลากหลายมาก UddC เข้ามามีบทบาทในการใช้วิธีการ (Methodology) ในการรับฟังความต้องการของคนในพื้นที่ ส่งเชื่อมไปยังภาครัฐ และติดตามความคืบหน้า

    “พอมาจากความต้องการของเขาแล้วคนในชุมชนกระตือรือร้นมาก” เธอเล่าเป็นมุกตลกว่าคนในชุมชนกล่าวว่าหากโครงการของพวกเขาไม่ได้รับการติดตาม “แฟลชม็อบกลางแม่น้ำเจ้าพระยามาแน่”

    โครงการที่เธอพูดถึงคือโครงการสวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ที่ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณช่องกลางสะพานพระปกเกล้า โครงการนี้ริเริ่มโดยชุมชนบุปผารามแห่งย่านกุฎีจีน กลายเป็นพื้นที่สาธารณะในเมืองแห่งใหม่ที่นอกจากเชื่อมสวนเข้ากับเมือง ยังเชื่อมร้อยย่านต่าง ๆ ที่อุดมไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตเข้าหากัน ก่อนระบุว่า“นี่เป็นโครงการที่พูดได้เต็มปากว่ามาจากฐากรากอย่างแท้จริง”

    ชุมชนบุปผารามเป็นหนึ่งชุมชนในย่านกุฎีจีน-คลองสาน ซึ่งเป็นย่านที่มีชุมชนเข้มแข็งที่สุดย่านหนึ่งในกรุงเทพมหานคร สรายุทธ ทรัพย์สุข ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่าความเข้มแข็งนี้ทำให้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนได้สำเร็จ ขณะที่หม่อมหลวงจิราทิพย์ เทวกุล สะท้อนว่าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพื้นที่ก็เข้มแข็งพอจะสร้าง “กลุ่มยังธน” กำหนดทิศทางในการสร้างความหมายของพื้นที่ในชุมชนได้อย่างแข็งขัน

    ***แต่ไม่ใช่ทุกชุมชนโชคดีแบบนั้น***

    ดร.อาแดล เอสโปซิโต นักวิจัยประจำศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติฝรั่งเศส (CNRS) อยู่ในวงดังกล่าวด้วย

    “ในฝรั่งเศสหรืออิตาลีเราไม่พูดถึงชุมชนเยอะขนาดนี้ แต่ในประเทศไทยเราได้ยินคำนี้ตลอดเวลา ชุมชนในประเทศไทยให้ความหมายของความใกล้ชิดด้วย“ เธอโยงคำว่าชุมชนกับธีมงาน “Closer”

    แต่ชุมชนในไทยก็ยังเผชิญความท้าทายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการถือครองที่ดินในเมืองใหญ่ (Gentrification) เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาสำนักข่าวรอยเตอร์

    “ฉันก็เห็นมาจากงานวิจัยของตัวเอง ประชาชนในชุมชนเป็นได้ทั้งตัวแสดงที่เป็นผู้ทำและผู้ถูกระทำของกระบวนการ Gentrification คือเขาเองก็ตกอยู่ใต้กระแสโลกาภิวัฒน์แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เป็นเหยื่อของสถานที่ที่ถูกเปลี่ยนชนชั้น (Gentrified)ไปเหมือนกัน”

    “แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของประเทศไทยคือคนในพื้นที่รู้ถึงคุณค่าของแต่ละสถานที่ค่อนข้างดี และบางเคสก็คือคนในชุมชนที่ลุกขึ้นมาสร้างส่วนร่วมกับกระบวนการนี้ด้วย”

    ***การสร้างเมือง ต้องให้ "พลเมือง" มีส่วนร่วม***

    อาแดลยังสวมอีกหมวกหนึ่งคือเป็นนักวิจัยศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร่วมสมัย (IRASEC) วงสนทนาประจำค่ำคืนจึงมีเรื่องราวจากประเทศเพื่อนบ้านมาแบ่งปัน ตั้งแต่เรื่องที่ว่ามะละกาในมาเลเซียกำลังมีโครงการสร้างท่าเรือและเขตเมืองขนาดใหญ่ แต่โครงการเจ้าปัญหาดันเปลี่ยนทางน้ำและทำให้ชายฝั่งเปลี่ยนรูปไป ทำให้ชุมชาวประมงลูกผสมเชื้อสายโปรตุเกสที่หลงเหลือในมะละกาต้องรวมตัวกันดิ้นรนเฮือกสุดท้ายที่จะทำให้ปากท้องของเขาไม่ถูกความเป็นเมืองทำลายไป ขณะที่สีหนุวิลล์ก็กำลังถูกเปลี่ยนเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าแต่สิทธิแรงงานต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สาวชาวกัมพูชาลุกขึ้นมาต่อรองกับการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการเปิดที่พักและบาร์ นี่เองที่ว่าคนในพื้นที่เป็นทั้งเหยื่อและผู้แสวงหาในเวลาเดียวกัน

    “คนที่อยู่ในเมืองต่อสู้ด้วยกันทั้งนั้นในการทำให้ฝันของพวกเขาเป็นจริง” อาแดลชี้ แจกแจงว่าในมาเลเซียพวกเขาสู้เป็นชุมชน ส่วนในกัมพูชามีลักษณะปัจเจกนิยม แต่เมื่อกระบวนการการสร้างเมืองไม่ได้คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของพลเมือง ไม่มีใครทำฝันให้เป็นจริงได้ง่าย

    แล้วทำยังไงพลเมืองถึงจะมีบทบาทในการสร้างเมืองได้มากขึ้น? พิธีกรถาม

    “มีใครรู้ไหมว่าผอ.เขตตัวเองคือใคร” ดร.นิรมลถามก่อนเล่าว่าความฝันอย่างหนึ่งของเธอคือการได้เลือกผอ.ระดับเขตโดยเชื่อว่าจะเป็นกระบวนการหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาเมืองในระดับพื้นที่สอดรับกับความต้องการของพลเมืองอย่างแท้จริง

    ไม่มีใครรู้ว่าคนกรุงเทพฯจะได้เลือกตั้งเขตเมื่อไหร่ หรือชุมชนอื่น ๆ จะผลักดันโครงการในลักษณะเดียวกันกับสะพานของดร.นิรมลได้สำเร็จอีกหรือไม่ แต่บทสนทนาในค่ำคืนเดียว ชวนให้คนวาดฝันถึงภาพใหญ่ได้หลายอย่าง

    “ปกติฉันก็พูดกันแต่ในหมู่นักวิจัย แต่แน่นอนว่าเราอยากให้งานวิจัยของเราแพร่กระจายไปมากกว่านี้ ไปสู่สาธารณชนโดยเฉพาะให้ไปถึงคนที่มีอำนาจตัดสินใจในเมือง” ดร.อาแดลสะท้อนถึงโอกาสในการแชร์ไอเดียในค่ำคืนนี้

    “ในฝรั่งเศส โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยก็จะมีแนวคิดเรื่องของการโต้เถียง แลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่แล้ว เริ่มมาตั้งแต่ขบวนการ 1968 ที่คนอยากจะเป็นอิสระมากไปกว่านี้ ก็เลยมีการท้าทายความเชื่อที่คนเชื่อกันมานานในสังคม มีการบรรยายความรู้ต่าง ๆ ให้กันและกัน อย่างค่ำคืนของความคิด หรือ Night of Ideas ก็คือการหาจิตวิญญาณแบบนี้นี่แหละ ให้คนมีโอกาสมาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดกัน บางทีเราไม่มีโอกาสได้เจอคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราเลย หรือคนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนั้น ๆ แต่เราก็ทำให้คนได้เห็นมุมมองต่าง ๆ และนำมาพัฒนาได้ ” อีฟ ลูแบง ที่ปรึกษาฝ่ายวัฒนธรรมและความร่วมมือ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง

    “พอได้แลกเปลี่ยนไอเดียกัน คนก็จะรู้ว่าแต่ละเรื่องสำคัญยังไง เราสร้างแรงเปลี่ยนแปลงได้ไหม เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรบ้าง อย่างเรื่องนี้เราก็หวังว่าคนจะเข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกับหลายเรื่องมากมายเต็มไปหมด ทั้งเรื่องมลพิษทางอากาศ มลพิษทางพลาสติก และการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยทั่ว ๆ ไปมันเชื่อมโยงไปหมด ซึ่งนอกจากคนเก็บไปพูดเก็บไปคิดแล้วเราก็หวังว่ามุมมองใหม่ ๆ จะทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิตเล็ก ๆ เพื่อสร้างแรงเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่ได้”

    #workpointTODAY
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ลงพื้นที่ตรวจสอบสถาบันไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งถูกอดีตรัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาเป็นต้นตอแพร่ไวรัสโควิด-19 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญชี้มีหลายคำถามที่น่าสนใจ
    วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญอิสระจากองค์การอนามัยโลก ซึ่งเดินทางลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่นของจีน เพื่อสำรวจต้นตอการระบาดของโรคโควิด-19 ได้เดินทางไปตรวจสอบสถาบันไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่น สถานที่ที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหาว่า ไวรัสโควิด-19 น่าจะหลุดมาจากห้องแล็บของสถาบันดังกล่าว
    รายงานระบุว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกใช้เวลาลงพื้นที่ภายในสถาบันดังกล่าวเป็นเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยหลังจากการสำรวจเสร็จสิ้น เทียร์ ฟิสเชอร์ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า มีหลายอย่างที่น่าสนใจ และมีคำถามมากมาย หลังจากถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ค้นพบอะไรภายในสถาบันไวรัสวิทยาแห่งนี้หรือไม่
    ขณะที่ปีเตอร์ แดสแซก ผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่งระบุว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญคาดหวังในการลงพื้นที่ในวันต่อๆ ไป เพื่อพบกับผู้คนและสอบถามคำถามสำคัญหลายข้อที่ต้องการคำตอบ
    ส่วนสถานีโทรทัศน์ CGTN สื่อของจีนรายงานการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญภายในสถาบันไวรัสวิทยา เกี่ยวกับการทำงานในแต่ละวัน รวมทั้งความร่วมมือระหว่างสถาบันกับองค์กรนานาชาติ
    สำหรับสถาบันไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่นของจีนแห่งนี้ ถือเป็นสถาบันวิจัยด้านไวรัสที่มีระบบความปลอดภัยสูงสุด มีจุดประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อศึกษาไวรัสหลังเกิดการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) ในเอเชียช่วงปี 2545-2546
    แม้จะมีนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า จุดเริ่มต้นการระบาดในมนุษย์ของไวรัสโควิด-19 น่าจะมาจากสัตว์ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาสถาบันไวรัสวิทยาในเมืองอู่ฮั่นว่า เป็นต้นตอการระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านการที่ไวรัสหลุดออกมาจากห้องทดลอง
    โดยก่อนรัฐบาลทรัมป์จะหมดวาระ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ชี้ว่า ไวรัสโควิด-19 อาจมีจุดเริ่มต้นจากสัตว์ก่อนแพร่เชื้อสู่มนุษย์ตามที่หลายฝ่ายตั้งสมมุติฐานไว้ก่อนหน้านี้ แต่หากเกิดกรณีที่เชื้อไวรัสโควิด-19 หลุดออกมาจากห้องทดลอง แล้วมีนักวิจัยติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการ การแพร่ระบาดก็อาจจะมีส่วนคล้ายกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเช่นกัน
    ที่ผ่านมารัฐบาลจีนถูกหลายฝ่ายโจมตีว่า ไร้ประสิทธิภาพในการควบคุมโรคระบาด รวมทั้งปกปิดข้อมูลการระบาด จนทำให้โรคโควิด-19 แพร่กระจายเป็นโรคระบาดไปทั่วโลก อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกยืนยันว่า การส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่นในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อกล่าวโทษใคร แต่ต้องการทำความเข้าใจโรคโควิด-19 สำหรับเป็นบทเรียนรับมือภาวะโรคระบาดในอนาคต
    ที่มา https://www.reuters.com/.../who-led-covid-19-probe-team...
    https://www.aljazeera.com/.../who-led-covid-19-probe-team...
    https://edition.cnn.com/.../wuhan-coronavirus.../index.html
    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไต้หวันเปิดเผยสถิติการย้ายเข้ามาอยู่อาศัยของชาวฮ่องกงประจำปี ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกมา

    วันที่ 3 ก.พ. 2021 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของไต้หวันประกาศตัวเลขชาวฮ่องกงที่ขออนุญาตพักอาศัยในไต้หวันประจำปี 2020 มีทั้งสิ้น 10,800 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติมาในปี 1991

    ตามรายงานระบุว่า ในปี 2019 มีชาวฮ่องกงย้ายไปอยู่ไต้หวันจำนวน 5,900 คน แต่ในปีล่าสุดได้เพิ่มขึ้นถึง 83% ส่วนอาจหนึ่งอาจเป็นผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งทำให้รายงานตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการย้ายประเทศของชาวฮ่องกง ที่ออกมาในช่วงหลังต่างเพิ่มขึ้นทั้งหมด

    เกาะไต้หวันนับว่าเป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งที่อยู่ไม่ไกล และมีความคล้ายคลึงกับฮ่องกงสมัยก่อนที่มีความเป็นจีนแบบประชาธิปไตย จึงกลายเป็นที่ๆ ชาวฮ่องกงส่วนหนึ่งตัดสินใจย้ายไปอยู่อาศัย

    ขณะที่หนังสือพิมพ์ Liberty Times ของไต้หวันรายงานความเห็นจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่งว่า การย้ายถิ่นฐานของชาวฮ่องกงอาจมีมากกว่านี้หากไม่ใช่เพราะปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เพิ่มข้อจำกัดในด้านการเดินทาง

    แม้ว่าไต้หวันจะไม่มีกฎหมายด้านการขอลี้ภัย เนื่องมาจากความกังวลว่าจะมีชาวจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาแทรกซึม แต่สำหรับชาวฮ่องกงยังคงขอวีซ่าเพื่อพักอาศัยได้โดยใช้ช่องทางอื่นๆ

    ปีที่แล้ว ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันประกาศว่า จะสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกลุ่มประชาธิปไตยในฮ่องกง และได้ตั้งสำนักงานใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลชาวฮ่องกงที่ต้องการย้ายมาไต้หวันโดยเฉพาะ

    ที่มา: https://www.bloomberg.com/.../hong-kongers-move-to-taiwan...

    https://www.channelnewsasia.com/.../hong-kong-move-to...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลกเตรียมยุติบทบาทในฐานะซีอีโอ โดยจะมอบหมายให้หัวหน้าของ AWS เข้ามาทำหน้าที่แทน

    วันที่ 3 ก.พ. 2021 Amazon เปิดเผยว่า เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ประกาศที่จะก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอ ไปเป็นประธานกรรมการในบอร์ดบริหารแทน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

    โดยผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอแทนก็คือ แอนดี แจสซี ที่อยู่กับบริษัทมาตั้งแต่ปี 1997 และเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ Amazon Web Service (AWS)

    ก่อนหน้านี้ นายแจสซีวัย 53 ปี ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวมาเป็นผู้สืบทอดของนายเบซอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เจฟฟ์ วิลกี ที่เป็นผู้ดูแลธุรกิจผู้บริโภคของ Amazon ทั่วโลก ได้ประกาศไว้แล้วว่าจะลาออกในปีนี้

    การลาออกของนายเบซอสที่เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของ Amazon เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทกำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและ AWS กำลังโกยเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

    แต่ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งซีอีโอที่ต้องดูแลรับผิดชอบในรายละเอียดต่างๆ นายเบซอสจะยังคงนั่งเป็นประธานที่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ต่อไป คล้ายกับกรณีของ บิล เกตส์ ที่อำลาตำแหน่งซีอีโอของ Microsoft ไปตั้งแต่ปี 2000 แต่ยังคงนั่งเป็นประธานในบอร์ดหลังจากนั้นเป็นเวลา 14 ปี

    นายเบซอสเปิดใจถึงการอำลาตำแหน่งครั้งนี้ในแถลงการณ์ว่า เมื่อดูจากผลประกอบการแล้ว สิ่งที่ปรากฎขึ้นเป็นผลของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เขาเห็นว่า Amazon อยู่ในจุดที่มีผลงานการสร้างสรรค์มากที่สุดที่เคยมีมา จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง

    นอกจากนี้ เขายังได้ส่งจดหมายถึงพนักงาน โดยมีข้อความว่า การเป็นซีอีโอของ Amazon นั้นต้องมีความรับผิดชอบอย่างมหาศาล จึงยากที่จะเอาเวลาไปสนใจกับเรื่องอื่น การไปเป็นประธานกรรมการของบอร์ดบริหารจะช่วยให้เขามีเวลาและพลังงานมากพอที่จะสนใจกับสิ่งอื่นๆ มากขึ้น

    นายเบซอสย้ำว่า นี่ไม่ใช่การเกษียณอายุ เขายังคงมีพลังงานเหลืออยู่เต็มเปี่ยม และยังมีแพสชันในผลกระทบที่องค์กรนี้สามารถสร้างขึ้นได้ต่อไป

    นอกจาก Amazon แล้ว นายเบซอสวัย 58 ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทสำรวจอวกาศ Blue Origin และหนังสือพิมพ์ Washington Post

    ในปี 2020 ที่ผ่านมา Bloomberg Billionaire Index ยกให้นายเบซอสเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกมาตลอดทั้งปี ก่อนที่จะถูก อีลอน มัสก์ แซงหน้าไปเมื่อเดือนก่อน

    ที่มา: https://press.aboutamazon.com/.../amazoncom-announces...

    https://www.bloomberg.com/.../amazon-s-bezos-to-step-down...

    https://www.bbc.com/news/business-55912878

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube ที่ https://bit.ly/2YDfyiK
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สมาคมโรคไตฯ ออกแถลงการณ์ ไม่สนับสนุนให้ผู้ป่วยทาน ‘ถังเช่า’ ชี้ยังไม่มีข้อมูลชัดว่ามีประโยชน์กับไตในมนุษย์

    วันที่ 2 ก.พ. 2564 สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ ข้อแนะนำเรื่อง “การใช้ถั่งเช่ารักษาโรคไต”

    ปัจจุบันได้มีการโฆษณาถึงสรรพคุณของถั่งเช่าว่าสามารถรักษาโรคไตให้ดีขึ้นหรือกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประชาชนสามารถซื้อหาได้โดยง่าย ในประเด็นนี้

    สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่าจากองค์ความรู้ที่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนว่าถั่งเช่ามีประโยชน์จริงในผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากมีเพียงข้อมูลการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ไม่มีหลักฐานการศึกษาที่ดีเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าถั่งเช่ามีประโยชน์กับไตในมนุษย์ และการศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานอาการไม่พึงประสงค์ของถั่งเช่าอีกด้วย

    ถั่งเช่าที่มีการศึกษาในมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นถั่งเช่าทิเบต (Cordyceps sinensis) ที่เกิดในธรรมชาติ ซึ่งมีราคาสูงมาก การศึกษาส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาเพียง 1 - 6 เดือนเท่านั้น จึงไม่สามารถทราบถึงผลดีและผลเสียในระยะยาวได้และยังพบว่าผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าทิเบตบางส่วนพบมีโลหะหนัก Arsenic ในปริมาณสูง ซึ่งอาจมีผลเสียต่อไตในระยะยาว

    ในปัจจุบันถั่งเช่าที่ขายอยู่ส่วนใหญ่เป็นถั่งเช่าสีทอง (Cordyceps militaris) ที่ถูกเพาะเลี้ยงขึ้นในฟาร์ม โดยใช้อาหารเลี้ยงแบบต่าง ๆ ทำให้ถั่งเช่าแต่ละชนิดที่ถูกเพาะเลี้ยงในแต่ละวิธี ผลิตสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันมากและส่วนใหญ่ยังไม่มีการศึกษาทดลองในมนุษย์การนำมาใช้จึงอาจทำให้เกิดโทษต่อผู้ป่วยโรคไตได้ เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่สามารถเกิดอันตรายจากการใช้ยาและสารต่าง ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสมของถั่งเช่าในผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้ยังมีอุบัติการณ์ที่แพทย์โรคไตในประเทศไทยพบการเสื่อมของไตภายหลัง การรับประทานถั่งเช่าในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอีกด้วย

    โดยสรุปสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยจึงไม่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตรับประทานถั่งเช่า หากต้องการรับประทานต้องแจ้งแก่แพทย์ผู้รักษา และไม่ควรหยุดยาแผนปัจจุบันที่รับประทานอยู่ การรักษาที่ดีที่สุดคือการดูแลปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม เพื่อชะลอการเสื่อมของไตให้ช้าที่สุด รวมทั้งหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เกิดความเสี่ยงต่อไตทั้งหมด

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ประกันตน ม.33 เตรียมลุ้น เงินเยียวยาโควิด-19 รอ ครม. เคาะตัวเลขเงินเยียวยา 3,500 - 4,500 บาท คาดจ่ายได้เดือน มี.ค.นี้
    PirC2k5imQVEBGr7bqscvFNah0DxW3Eh0iXNqLf4Hmk&_nc_ohc=vjIxEik6DywAX96IG4R&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    อ่านเพิ่มเติม : https://workpointtoday.com/m3301/

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระทรวงการคลังเตรียมเปิดรับลงทะเบียนกลุ่มไม่มีมือถือหรือสมาร์ทโฟน วันที่ 15 ก.พ.นี้ ผ่าน 3 ธนาคาร

    วันที่ 3 ก.พ.2564 มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ผ่านโครงการเราชนะ เพื่อรับสิทธิเงินเยียวยา 7,000 บาท ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนไปแล้วนั้น ล่าสุดวันที่ 15 ก.พ.นี้จะเปิดให้กลุ่มที่ไม่มีมือถือหรือสมาร์ทโฟนลงทะเบียนที่ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคาร ธ.ก.ส.

    ส่วนผู้ที่ลงทะเบียน www.เราชนะ. com ไปก่อนหน้านี้สามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยา 7,000 บาท ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.เป็นต้นไป และสามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องถึงวันที่ 12 ก.พ.นี้

    น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าตัง ยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชัน และใช้วงเงินสิทธิในโครงการเราชนะได้ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.เป็นต้นไป แต่ถ้าลงทะเบียนไม่สำเร็จจะได้รับ SMS แจ้งเตือนให้ลงทะเบียนใหม่อีกครั้ง ไม่เกินวันที่ 12 ก.พ.นี้ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาการกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขรหัสหลังบัตรประชาชน (Laser ID) ชื่อ ชื่อกลาง (ถ้ามี) นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด ไม่ถูกต้อง โดยกรณีของผู้ที่ไม่มีชื่อกลางไม่ต้องกรอกข้อมูลลงในช่องดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จสามารถเข้าไปลงทะเบียนใหม่ได้ทันทีหลังจากได้รับ SMS แจ้งเตือน

    สำหรับโครงการเราชนะ ไม่ได้จำกัดจำนวนผู้ได้รับวงเงินสิทธิ์ ท่านสามารถลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ www.เราชนะ. com ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น.

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สรรพสามิตชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้องมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายย่อยตามที่สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมรวมตัวที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการเพื่อบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการ ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต 2 ประเด็น

    วันที่ 3 ก.พ.2564 นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษา ด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมรวมตัวที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการเพื่อบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการ ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต 2 ประเด็น ดังนี้

    1. ขอให้ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ โดยอนุญาตให้ร้านค้าสามารถจำหน่ายเบียร์สดในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับไปบริโภคที่บ้าน

    กรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 157 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงภาชนะสุราเพื่อการค้า เว้นแต่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตสุรา หรือเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 2 เฉพาะกรณีผู้ซื้อได้ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุสุราเพื่อดื่มในขณะนั้น” วัตถุประสงค์ของบทบัญญัติมาตรานี้เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถบริโภคสินค้าที่ได้มาตรฐานปราศจากการปนเปื้อน ซึ่งถ้าหากให้ร้านค้าสามารถเปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุได้อย่างอิสระนอกโรงอุตสาหกรรมซึ่งอาจมิได้มีการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพระหว่างการเปลี่ยนแปลงภาชนะเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค อาจทำให้เบียร์สดดังกล่าวเกิดปัญหาการปนเปื้อนรวมถึงคุณภาพของเบียร์สดอาจจะเปลี่ยนแปลงไประหว่างการเปลี่ยนแปลงภาชนะ ดังนั้นการอนุญาตให้ร้านค้าสามารถเปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุเบียร์สดได้อย่างอิสระอาจจะส่งผลต่อผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน

    2. ขอให้ผู้นำเข้าสามารถแบ่งชำระภาษีสรรพสามิตเป็นงวดๆ ให้แก่ผู้ประกอบการคราฟท์เบียร์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน

    กรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า การอนุญาตให้ผู้นำเข้าสามารถแบ่งชำระภาษีเป็นงวดๆ จะเกิดความเสี่ยงในการติดตามเรียกเก็บภาษีในภายหลัง เนื่องจากมีการนำสินค้านำเข้าที่ยังไม่ได้ชำระภาษีออกไปจำหน่าย ส่งผลให้การควบคุม ติดตามสินค้าดังกล่าวให้มาชำระภาษีจะดำเนินการได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าบริโภคต่าง ๆ รวมถึงคราฟท์เบียร์ด้วย ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้ให้อำนาจ กรมศุลกากรในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากสินค้านำเข้าแทนกรมสรรพสามิต และตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 54 (2) บัญญัติว่า “ในกรณีสินค้าที่นำเข้าให้ผู้นำเข้า ยื่นแบบรายการภาษีตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีในเวลาที่ออกใบขนสินค้าให้ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร” ซึ่งเป็นการชำระภาษีในคราวเดียวกับอากรศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาย้ำ ตัดสินใจรัฐประหารเพราะเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ขณะที่หลายฝ่ายจับตาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ถูกมองว่า กองทัพเมียนมาพยายามลดแรงเสียดทานการลงทุนจากต่างประเทศ

    วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา กล่าวระหว่างพบคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าการรัฐประหารที่เกิดขึ้นในเมียนมา เป็นไปตามการเรียกร้องของหลายฝ่าย และเป็นการดำเนินการที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จึงตัดสินใจก่อรัฐประหาร

    ก่อนหน้านี้กองทัพเมียนมาได้แต่งตั้งนายพลมินต์ ส่วย อดีตรองประธานาธิบดีในสมัยรัฐบาลนางอองซาน ซูจี ซึ่งมีความสนิทสนมกับกองทัพ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีรักษาการ ขณะเดียวกันยังมีการปลดรัฐมนตรี 24 คนในรัฐบาลชุดเดิม และแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 11 คน โดยผู้ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ส่วนใหญ่จะเข้าไปมีบทบาทในกระทรวงสำคัญ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกิจการชายแดน เป็นต้น

    หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีของคณะรัฐประหารเมียนมาในครั้งนี้บางตำแหน่งเป็นการโยกย้าย หรือแต่งตั้งบุคคลเดิมที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสมัยนางอองซาน ซูจี ให้ทำหน้าที่ต่อไป

    เว็บไซต์นิคเคอิ เอเชีย สื่อญี่ปุ่นซึ่งติดตามสถานการณ์ในเอเชีย ตั้งข้อสังเกตถึงการแต่งตั้งนายอ่อง นาย อู ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ตั้งแต่สมัยนายพลเต็ง เส่ง รัฐบาลเมียนมาชุดเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตย รวมทั้งเป็นรัฐมนตรีในยุครัฐบาลนางอองซาน ซูจีด้วย

    โดยกรณีของนายอ่อง นาย อู ที่ยังคงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้านการลงทุนและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทำให้นิคเคอิ เอเชีย ชี้ว่า นี่อาจเป็นความพยายามลดแรงเสียดทานจากผลกระทบที่อาจจะเกิดกับการลงทุนในต่างประเทศ

    ที่มา https://www.channelnewsasia.com/.../myanmar-army-chief...
    https://asia.nikkei.com/.../Myanmar-military-appoints...

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube https://bit.ly/2YDfyiK
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วัคซีนรัสเซียได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติ หลังได้รับอนุมัติให้ใช้งานตั้งแต่เมื่อ 5 เดือนก่อน

    วันที่ 2 ก.พ. 2564 The Lancet วารสารการแพทย์ชื่อดังได้เผยแพร่บทความระบุว่า Sputnik V วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย ว่าเป็นวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ รวมถึงตัวเลขที่ออกมานั้นใกล้เคียงกับที่เปิดเผยโดยรัสเซียเมื่อเดือนพฤศจิกายน

    วัคซีน Sputnik V เป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ท่ามกลางข้อกังขาของหลายฝ่ายเนื่องจากการทดสอบยังไม่เสร็จสิ้นดีนัก

    จากนั้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน ทางรัสเซียได้แถลงว่าวัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพป้องกันการแสดงอาการของโรคโควิด-19 ได้ 92%

    จนกระทั่งวันนี้ ทาง The Lancet ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการแพทย์เปิดเผยข้อมูลล่าสุดออกมา โดยชี้ว่าวัคซีค Sputnik V มีประสิทธิภาพป้องกันการแสดงอาการทั่วไปของโรคโควิด-19 ได้ 91.6% และป้องกันอาการรุนแรงของโรคได้ 100% และมีภูมิคุ้มกันสูงกว่าผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 อยู่ที่ 1.3-1.5 เท่า

    ปัจจุบันวัคซีนตัวนี้ได้รับอนุมัติให้ใช้งานแล้วใน 16 ประเทศทั่วโลก และมีประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้วกว่า 2 ล้านคน

    อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมการทดสอบในข้อมูลชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว จึงอาจต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลที่ได้ในการใช้งานกับประชากรกลุ่มอื่นๆ

    ที่มา: https://www.thelancet.com/.../PIIS0140-6736(21.../fulltext

    https://sputnikvaccine.com/.../a-vaccine-for-all-mankind.../

    https://edition.cnn.com/.../russia-sputnik-v.../index.html

    #workpointTODAY
    #สาระความรู้เพื่อวันนี้
    ติดตาม workpointTODAY ทาง YouTube ที่ https://bit.ly/2YDfyiK
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อันตรายของการกลายพันธุ์ของ COVID-19 ที่ Afarica และ Brasil
    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    Published 4/02/21
    ไวรัส COVID-19 มีการกลายพันธ์ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญประมาณการณ์ว่าตลอด 1 ปีมีการกลายพันธ์ไปแล้ว 300,000 ครั้ง เฉลี่ยหนึ่งครั้งต่อสองสัปดาห์ แต่การกลายพันธุ์ที่ผ่านมาไม่เปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญของไวรัสโดยเฉพาะที่หนาม spike protein
    การกลายพันธ์ของสายพันธุ์อังกฤษ B117 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคือที่ N501Y ทำให้แพร่กระจายได้เร็วขึ้นแต่ไม่ก่อให้เกิดเป็นโรคที่รุนแรงขึ้น หรือมีปัญหาต่อการใช้วัคซีน
    แต่การกลายพันธุ์ที่สร้างความกังวลใจในขณะนี้คือการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ Afarica 501Y .v2และสายพันธุ์ บราซิล P 1 เพราะนอกจากจะเปลี่ยนแปลงที่ N501Y ในหนาม spike protein ทำให้แพร่กระจายเร็วขึ้นเช่นเดียวกับสายพันธุ์อังกฤษ B117
    ยังมีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง E 484 K และ K 417 N ของสายพันธุ์ South Afarica และ บราซิลซึ่งเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญของไวรัสที่มีผลต่อภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ และมีผลต่อวัคซีนที่ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส
    วัคซีนต่างๆที่พัฒนาขึ้นมาล้วนใช้ sequence ของ geneจากไวรัสก่อนการกลายพันธุ์
    มาดูผลของวัคซีน Novavax ซึ่งเพิ่งพัฒนาออกมาพอจะทำให้เห็นภาพรวมได้ วัคซีนมีประสิทธิภาพ 95.6% ในไวรัสก่อนกลายพันธุ์
    วัคซีนมีประสิทธิภาพ 85.6 % สำหรับสายพันธุ์อังกฤษ UK variant B117
    แต่มีประสิทธิภาพลดลงเหลือ 60% สำหนับสายพันธุ์อัฟริกา South Afarica variant 501Y. V2
    สิ่งที่พอจะมองเห็นคือ South Afarica 501Y. v2 จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ด้อยประสิทธิภาพลง แต่ยังคงไม่ถึงกับใช้การไม่ได้
    มีการศึกษาในขั้นแรกสำหรับภูมิคุ้มกันของวัคซีน Pfier ที่มีต่อสายพันธุ์ 501Y. V2 ของ South Afarica พบว่าวัคซีนPfier ยังใช้การได้ แต่ยังคงต้องมีการศึกษาต่อไป
    ผลการศึกษาในขั้นแรกของวัคซีน Moderna ที่มีต่อสายพันธ์ South Afarica ก็พบเช่นกันว่ายังใช้การได้ แต่มีการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันที่น้อยลง
    Professor Falcois Bolloux แห่ง University college of London บอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่ E484 Kที่หนาม spike protein ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน antibody ที่ร่างกายสร้างขึ้นจากวัคซีนหรือการติดเชื้อครั้งก่อน ไม่เกาะติดดีพอที่จะทำลายไวรัสที่กลายพันธุ์ใน 501Y. V2 ของ South Afarica เพราะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างที่สำคัญ
    ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ผู้ผลิตวัคซีนด้วยเทคโนโลยีใหม่ mRNA สามารถ redesigned สร้าง หรือ upgraded วัคซีนใหม่ใด้ ในเวลาไม่นาน Pfier บอกว่าสามารถทำได้ใน 6 อาทิตย์
    บริษัทผลิตวัคซีนหลายๆบริษัทกำลังผลิตวัคซีนที่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสที่กลายพันธุ์เช่นบริษัท Glaxo บริษัท curevac บริษัท Astrazeneca บอกว่าวัคซีนสำหรับสายพันธุ์ใหม่จะผลิตออกมาใน เดือน ตุลาคม
    แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ายังไม่มีข้อมูลที่บ่งบอกว่าสายพันธุ์ South Afarica มีความรุนแรงมากขึ้น
    ขณะนี้พบสายพันธุ์ 501Y.V2 แล้ว 105 รายในอังกฤษในวันที่ 1/02/21 และพบอีก 30 ประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องควบคุมไม่ให้กระจายไปทั่วโลก
    การกลายพันธ์ที่ดูจะน่าวิตกกังวลที่สุดก็คือสายพันธุ์ P1 ที่เริ่มพบที่เมือง Manaus ในบราซิล ในเดือนธันวาคม และขณะนี้คนไข้ 52%ในเมือง Manaus เป็นสายพันธุ์ P1 ในช่วงเวลาเพียง 1 เดือน มีจำนวนคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และ P1 เริ่มระบาดไปในส่วนอื่นๆของบราซิลและเริ่มพบในประเทศอื่นๆ
    เมือง Manaus เคยมีการระบาดอย่างรุนแรงในระลอกแรกและคิดกันว่าประชาชนในเมืองนี้น่าจะมีภูมิคุ้มกันจาก Herd immunity แล้วแต่การที่เมืองนี้กลับมาระบาดอีกแสดงว่าภูมิคุ้มกันจากเชื้อ COVID-19 ระลอกแรกไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อชองสายพันธุ์ใหม่ P1 ได้
    สายพันธุ์ P1 ในบราซิลนอกจากมีการเปลี่ยนแปลงที่ 501 Y ทำให้แพร่กระจายเร็วขึ้น ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ E 484 K เช่นเดียวกับสายพันธุ์ 501Y. V2 ของ South Afarica ทำให้อาจมีปัญหาต่อการใช้วัคซีน
    สายพันธุ์ B 117 ที่เพิ่งพบที่อังกฤษ2-3 เดือนที่แล้วและไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้วัคซีน เริ่มพบการกลายพันธ์เพิ่มเติมที่ตำแหน่ง E 484 K เช่นเดียวกันกับที่เจอในสายพันธุ์ South Afarica และ บราซิล โดยพบ 11 รายจากการตรวจ214,459 ราย ที่เมือง Bristol และอีก 32 รายที่เมือง Liverpool เป็นการกลายพันธ์ซ้ำเพิ่มเติม และได้สร้างกังวลใจต่อประสิทธิภาพของวัคซีน
    การค้นพบการกลายพันธ์เหล่านี้ก็เพราะอังกฤษมีศูนย์การตรวจ sequencing gene ที่ตรวจได้เร็วและก้าวหน้าและทำการตรวจค้นหาอยู่ตลอดเวลา
    ปัญหาก็คืออาจมีการกลายพันธุ์ที่สำคัญเหมือนสายพันธุ์ Afarica ในที่อื่นๆของโลกโดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนา โดยยังไม่ได้ค้นพบ เพราะไม่มีการตรวจ sequencing gene ของ sample คนที่ติดเชื้อเข้มข้นเหมือนในอังกฤษและอเมริกา โดยเฉพาะในประเทศ Latin America ซึ่งมีคนติดเชื้อจำนวนมาก
    ยิ่งมีจำนวนคนป่วยมากขึ้น โอกาสที่ไวรัส COVID 19 ก็มีที่อยู่ที่จะกลายพันธ์ก็ยิ่งมากขึ้น และยิ่งมีคนป่วยหนักที่ภูมิคุ้มกันต่ำมากขึ้น อยู่นานขึ้น ไวรัส COVID-19 ก็มีโอกาสกลายพันธ์ในโครงสร้างที่สำคัญมากขึ้น
    สิ่งที่น่ากังวลใจอีกประการหนึ่งคือสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์เหล่านี้ล้วนแต่พบในคนอายุน้อยมากขึ้น เพราะไวรัสที่กลายพันธุ์เหล่านี้เข้าเซลล์มนุษย์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคนหนุ่มสาวมีตัวACE II บนผนังเซลล์น้อยกว่าคนสูงอายุ
    ไวรัส Covid ก่อนกลายพันธุ์จะเข้าเซลล์ได้ยากในคนอายุน้อย แต่ไวรัสที่กลายพันธุ์ไม่ต้องการ ACE II จำนวนมากในการเข้าเซลส์
    สิ่งที่เป็นความหวังก็คืออังกฤษและอเมริกาได้เร่งฉีดวัคซีนและหวังว่าคงจะรวดเร็วกว่าไวรัส COVID-19 ที่กำลังต่อสู้ด้วยการกลายพันธุ์
    อเมริกามีคนติดเชื้อ Covid รายใหม่เฉลี่ยต่อวันในช่วง7วันที่ผ่านมาลดลง 41% เป็นคนติดเชื้อใหม่ 146,000 คนต่อวัน จากที่เคยขึ้นถึง 250,000คนต่อวันในช่วงเดือนมกราคม
    ขณะนี้อเมริกาได้กระจายวัคซีนไปแล้ว 50 ล้าน dose และฉีดวัคซีนไปแล้ว 32 ล้าน dose จากประชาชนทั้งหมด 320 ล้านคน
    อังกฤษได้ฉีดวัคซีน COVID-19 ไปแล้ว 10 ล้าน dose จากประชาชนทั้งหมด 66 ล้านคน ในวันที่ 2/02/21 คนติดเชื้อใหม่ได้ลดลง 10% เหลือ 16,486 คนต่อวัน
    วัคซีน Oxfords สามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ 76% หลังจากฉีดเพียงเข็มเดียว ทำให้สามารถยืดเวลาการฉีดเข้มที่สองได้ถึง 12 อาทิตย์
    แต่ที่น่าเป็นห่วงคือที่ Latin America และส่วนอื่นๆของโลกยังคงต้องรอคอยการมาของวัคซีนและอาจไม่ทันการณ์ต่อการกลายพันธ์ของ COVID-19 และอาจจะเป็น Boomerang effect กลับไปสู่ ยุโรปและอเมริกา
    บราซิลจัดหาวัคซีนได้เพียง 6 ล้าน dose สำหรับประชาชน 210 ล้านคน
    มนุษย์ฉลาดมีวิทยาการที่จะต่อสู้กลับไวรัส COVID-19 ได้ แต่ความเห็นแก่ตัวและความไม่ร่วมมือกันอาจทำให้พ่ายแพ้ต่อไวรัส COVID-19 ความพ่ายแพ้หมายถึงมีคนล้มตายเจ็บป่วยมากขึ้น การระบาดกินเวลาเนินนานขึ้น ความเสียหายทางเศรษฐกิจมากขึ้น
    โดย นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม
    เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับองค์กร

    tnwFF0DcJpUQcgNkHSwEiqG7h7yaVph7Aa6SEtQ3qd-&_nc_ohc=nEb1R3erejIAX90mh6S&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    ykDFbzv0wM54U3_nag6HrsKvI-GTxPdB3HWgwij2fZh&_nc_ohc=NAJ_ZC7K-r8AX_1WOIS&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    fJshtuO-d1fqzdCEY57-yL2IIJk1zA4Ax81cTkNkzyz&_nc_ohc=iMuo9uqu4JkAX9H66Cs&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    YK_67eoXCA30xzCPePvNBrY8NaVYnjR84hNr2o_6UTF&_nc_ohc=tsSUHE3B7g0AX9gOAlX&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    HWaq5FHfq8W1nnny5m-eoKpzvkqyp-lmLbITI8SDF7d&_nc_ohc=pDSUWHBiv4YAX8u4BPc&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    g8RI1UEO_EbrFjHkbj-k-1ObU8uH7UHtzR2APnaOuUT&_nc_ohc=noMeNsLhL_gAX8Nx21X&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    FxwIknGKuUvkU0YtQ4gS0HNJ5DY62Qxc9OeLu5TY5R2&_nc_ohc=v04MXoO4eikAX9Ius3A&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    Uqncn89wKzR3tjrMEkqsYKD4clfr_a5BggNHY9Kt8uT&_nc_ohc=ytMvJSmvkBYAX-LEm7_&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    tynPF045qMe0C9RouW7t7G1Z9oi3dv_jb_3hmQuoM_0&_nc_ohc=h8Pj1wYpzm8AX8G_RB2&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    dl2W4MPiEvqj2ZIoDaO4lv7kEk13ucuKJiLOMOe6Qqg&_nc_ohc=NW7IjonXpsAAX8swLob&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซียขยาย ‘สุสาน’ ในเมืองหลวงเพิ่มอีก 6 แห่ง รองรับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
    .
    ในขณะที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดหนักจนทำให้แดนอิเหนามีผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งสูงกว่า 1 ล้านคน เมืองหลวงอย่างกรุงจาการ์ตาก็ต้องเตรียมขยายพื้นที่ ‘สุสาน’ เพื่อให้เพียงพอรองรับร่างผู้เสียชีวิตที่มีมาเพิ่มทุกวัน
    .
    อินโดนีเซียซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของโลกเผชิญความยากลำบากในการควบคุมโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว และเวลานี้ยอดผู้ป่วยสะสมได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.15 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 30,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในภูมิภาคอาเซียน
    .
    อิวัน นูร์จาห์โย โฆษกสำนักงานสวนสาธารณะแห่งกรุงจาการ์ตา ระบุว่า ทางการได้กำหนดพื้นที่สร้างสุสานเพิ่มขึ้นอีก 6 แห่งทั่วเมืองหลวง โดย 3 แห่งเริ่มมีการใช้งานแล้ว
    .
    “ในช่วง 2 สัปดาห์และ 2-3 เดือนมานี้ สุสานบางแห่งที่ใช้สำหรับฝังศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เริ่มมีศพเข้ามามากขึ้น” เขากล่าว
    .
    ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขเชื่อว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขของทางการมาก และด้วยจำนวนศพที่เพิ่มขึ้นทำให้บางสุสานต้องใช้วิธี “ฝังซ้อน” เพื่อประหยัดพื้นที่
    .
    “ขณะนี้ในสุสานอื่นๆ เรามีทางเลือกที่เรียกว่าระบบฝังซ้อน ซึ่งหมายถึงการนำศพใหม่มาฝังทับในสุสานของคนที่เป็นญาติกัน” นูร์จาห์โย ระบุ พร้อมย้ำว่าวิธีนี้จะใช้กับสุสานเก่าของญาติที่เสียชีวิตมานานเกิน 5 ปีแล้วเท่านั้น
    .
    ที่สุสานโรโรตันทางตอนเหนือของกรุงจาการ์ตา รถตักดินหลายคันกำลังเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อแปรสภาพที่ดินให้เป็นจุดฝังศพ
    .
    “พื้นที่บางส่วนเป็นสุสานสาธารณะอยู่แล้ว และเรากำลังเตรียมพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งใหม่สำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19” นูร์จาโย กล่าว “เราคาดว่าจะจัดสรรพื้นที่เพิ่มได้อีก 8,000 ตารางเมตร”
    .
    ที่มา: เอเอฟพี
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เลขาฯ ยูเอ็นวอนทั่วโลกร่วมกดดันกองทัพพม่า เพื่อให้ ‘รัฐประหาร’ ล้มเหลว
    .
    อันโตนิโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ให้คำมั่นวานนี้ (3 ก.พ.) ว่าจะรณรงค์ให้นานาชาติร่วมกันกดดันกองทัพพม่า “เพื่อให้การรัฐประหารครั้งนี้ล้มเหลว”
    .
    กองทัพพม่าได้จู่โจมเข้าควบคุมตัวนางอองซานซูจี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) เมื่อเช้ามืดวันจันทร์ (1) โดยอ้างว่าทำไปเพื่อตอบสนองการทุจริตเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว พร้อมประกาศมอบอำนาจให้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้กุมอำนาจบริหารบ้านเมือง และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี
    .
    “เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อผนึกกำลังผู้เล่นสำคัญๆ และประชาคมโลก และสร้างแรงกดดันที่มากพอจะทำให้การรัฐประหารครั้งนี้ล้มเหลว” กูเตียร์เรส ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ “มันเป็นสิ่งที่รับไม่ได้จริงๆ หลังจากที่มีการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่ผมเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรผิดปกติ อีกทั้งยังมีช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านมานานพอสมควรแล้วด้วย”
    .
    การยึดอำนาจของกองทัพในครั้งนี้ทำให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยของพม่าถูกตัดขาดลงอย่างกะทันหัน และเรียกเสียงประณามอื้ออึงทั้งจากสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ
    .
    ร่างญัตติประณามที่อังกฤษได้เสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้ง 15 ประเทศ เรียกร้องให้กองทัพพม่าเคารพหลักนิติธรรมและสิทธิมนุษยชน รวมถึงคืนอิสรภาพให้แก่ อองซานซูจี และบุคคลอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวในทันที
    .
    อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงนี้จำเป็นจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ และนักการทูตเชื่อว่าคงจะต้องมีการขัดเกลาสำนวนภาษาให้ “นุ่มนวล” ลงอีก หากจะทำให้รัสเซียและจีนซึ่งเป็นชาติที่ปกป้องพม่าในเวทียูเอ็นมาโดยตลอดยอมร่วมมือด้วย
    .
    ล่าสุด ตำรวจพม่าได้ตั้งข้อหา ซูจี ฐานนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารผิดกฎหมายเมื่อวานนี้ (3)
    .
    “ถ้าเราจะกล่าวหาอองซานซูจีบางสิ่งบางอย่าง ก็คงจะเป็นเรื่องที่เธอใกล้ชิดกับกองทัพมากเกินไป, ปกป้องกองทัพมากเกินไป ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา” กูเตียร์เรส ระบุ
    .
    ปฏิบัติการกวาดล้างชาวโรฮิงญาที่รัฐยะไข่เมื่อปี 2017 ทำให้มีชาวโรฮิงญามากกว่า 700,000 คนอพยพหนีตายข้ามไปยังบังกลาเทศ และปัจจุบันคนเหล่านี้ก็ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัด
    .
    กูเตียร์เรส และชาติตะวันตกกล่าวหากองทัพพม่าว่ากระทำการอันเข้าข่ายกำจัดชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ทว่ากองทัพพม่ายืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอด
    .
    เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นเน้นย้ำว่า กองทัพพม่าจะต้องปลดปล่อยบุคคลที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการทำรัฐประหารทันที และฟื้นฟูกฎระเบียบภายใต้รัฐธรรมนูญ
    .
    “ผมหวังว่ามันคงเป็นไปได้ที่เราจะทำให้กองทัพพม่าเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่วิธีปกครองประเทศ และไม่ใช่หนทางที่จะก้าวไปข้างหน้า”
    .
    ที่มา: รอยเตอร์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นาทีคับขัน!ชาวจีนรวมพลัง "ยกรถบัส" ช่วยชีวิตชายสูงวัยถูกทับ(ชมคลิป)

    สื่อต่างประเทศเผยแพร่ภาพนาทีชีวิต บรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา ร่วมไม้ร่วมมือกันยกรถบัสคันหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือชายสูงวัยที่ติดอยู่เบื้องล่าง ทางภาคตะวันออกของจีน สุดท้ายคุณปู่รอดตายและไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงใดๆ

    เหตุการณ์ระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 29 มกราคม โดยในวิดีโอเป็นภาพรถบัสขนาดใหญ่กำลังแล่นทับชายชราคนหนึ่งที่กำลังวิ่งข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย

    คนขับเหยียบเบรคหยุดรถบัสทันที แต่หลังจากพบว่าชายชราคนดังกล่าวติดอยู่ใต้ท้องถนน บรรดาพลเมืองดีและเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังลาดตระเวนอยู่แถวนั้น ก็กรูกันมาที่รถ พร้อมกับช่วยกันยกรถบัสขึ้น

    หลังจากพยายามนานหลายนาที ชายชราก็เป็นอิสระหลุดจากตัวรถ และจากนั้นก็ถูกนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บ

    มีรายงานว่าชายชราคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นเสี่ยงต่อการเสียชีวิต และคดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่

    (ที่มา:ไลฟ์ลีค)

    ชมคลิปที่นี่: https://mgronline.com/around/detail/9640000011113
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตามสูตร!กลุ่มสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯเสนอชื่อ'ผู้ประท้วงฮ่องกง'ชิงโนเบลสาขาสันติภาพ

    กลุ่มสมาชิกรัฐสภาจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน ร่วมกันเสนอชื่อขบวนการเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยของฮ่องกง ชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้ หลายเดือนหลังจากปักกิ่งเคยออกมาเตือนต่อการมอบรางวัลใดๆโดยมี "แรงจูงใจทางการเมือง"

    สมาชิกวุฒิสภา 5 คนและสมาชิกสภาผูืแทนราษฏร 4 คนระบุในหนังสือที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(4ม.ค.) ว่าการเสนอชื่อครั้งนี้มีเจตนาเพื่อ "ระลึกถึงทุกคนที่สร้างและธำรงไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกงมาตั้งแต่ปี 1997 และเป็นเสียงสะท้อนของผู้คนที่ร่วมต่อสู้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในการต่อสู้กับความพยายามกัดกรอนสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกของพลเมืองฮ่องกง ที่ได้รับคำรับประกันภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศและรัฐธรรมนูญของเมือง"

    "รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะเป็นเกียรติแด่ความกล้าหาญและความตั้งใจของพวกเขา ที่เป็นแรงบันดาลใจแก่โลก" สมาชิกสภาคองเกรสระบุในหนังสือลงวันที่ 31 มกราคม และส่งถึง เบริต รีสส์-แอนเดอร์เซน ประธานคณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลของนอร์เวย์

    ในบรรดาผู้ร่วมลงนามในหนังสือดังกล่าว รวมไปถึงสมาชิกสภาผู้ราษฏร จิม แม็คโกเวิร์น และวุฒิสมาชิก อลัย เมอร์คลีย์ จากพรรคเดโมแครตทั้งคู่ เช่นเดียวกับวุฒิสมาชิก มาร์โก รูบิโอ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร วิคกี ฮาร์ทซเลอร์ จากรีพับลิกัน

    การเสนอชื่อดังกล่าวมีขึ้นราว 1 ครึ่งปีหลังจาก หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางเยือนนอร์เวย์ และอาศัยโอกาสนั้นกล่าวเตือนเกี่ยวกับการมอบรางวัลใดๆแก่บรรดาผูุ้ประท้วงฮ่องกง

    "ทั้งในอดีตและในอนาคต จีนจะปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อความพยายามของบุคคลใดก็ตามที่ต้องการใช้รางวัลโนเบลสันติภาพแทรกแซงกิจการภายในของจีน" หวังกล่าวในตอนนั้น ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ อีเนอ เอริกเซน โซไรเดอ รัฐมนตรีต่างประเทศของนอร์เวย์ "จุดยืนของฝ่ายจีนมั่นคงดั่งภูผาหินในหลักการนี้"

    หลิว เสี่ยวโป นักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในประเทศจีน ผู้ต่อต้านรัฐบาล เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2010 โดยในคราวนั้นการมอบรางวัลแก่ เสี่ยวโป ซึ่งเวลานี้เสียชีวิตไปแล้ว ได้ก่อความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างปักกิ่งกับออสโลมาจนกระทั่งปี 2016

    ผู้ชนะเลิศรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะประกาศในเดือนตุลาคม และจะมีการมอบรางวัลในเดือนธันวาคม

    จีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว หลังต้องเผชิญกับการประท้วงของผู้ชุมนุมฝักใฝ่ประชาธิปไตยยืดเยื้อนานหลายเดือน โดยกฎหมายดังกล่าวกำหนดบทลงโทษความผิดต่างๆที่ทางจีนพิจารณาแล้วว่าเป็นการโค่นล้มรัฐบาล, แบ่งแยกดินแดน, ก่อการร้ายหรือสมคบคิดกับกองกำลังต่างชาติ โดยมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

    ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์มองว่ามันมีเป้าหมายปราบปรามผู้เห็นต่าง และกัดกร่อนเสรีภาพในเขตปกครองพิเศษ แต่จีนผู้ปกครองเมืองแห่งนี้ ยืนยันสนับสนุนกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่ามันมีความจำเป็นเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพ หลังเกิดความไม่สงบนานหลายเดือน

    มีผู้คนในฮ่องกงแล้วเกือบ 100 คนที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายความมั่นคงใหม่ และมีนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยคนดังหลายคนที่ถูกจำคุกในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึง แอกเนส โจว,โจชัว หว่อง และ อีวาน แลม ส่วนคนอื่นๆอย่าง นาธาน ลอว์ หลบหนีไปยังต่างแดน

    (ที่มา:รอยเตอร์/นิกเกอิเอเชีย)

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีของไทยด้วย!พบวัคซีน'แอสตราเซเนกา'ทั้งป้องกันและชะลอการแพร่เชื้อโควิด-19

    วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดและแอสตราเซเนกา ไม่ใช่แค่ป้องกันผูุ้คนจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แบบไม่แสดงอาการ แต่ดูเหมือนว่ามันจะช่วยชะลอการแพร่กระจายเชื้อได้อีกด้วย จากผลวิจัยหนึ่งซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร(2ก.พ.)

    ผลการค้นพบดังกล่าว ซึ่งเผยแพร่ในเอกสารก่อนตีพิมพ์ฉบับหนึ่งและยังไม่ได้ผ่านการทบทวนโดยเหล่าผู้ทรงคุณวุติ คือหลักฐานชิ้นแรกที่บ่งชี้ว่ามีวัคซีนโควิด-19 ตัวหนึ่งๆ ที่สามารถลดการแพร่กระจายเชื้อของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และตอกย้ำให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนหมู่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในหนทางหลุดพ้นจากโรคระบาดใหญ่

    คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดวัดการแพร่กระจายเชื้อ ผ่านการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ(Swab) อาสาสมัครบางส่วนในทุกๆสัปดาห์ เพื่อตรวจหาสัญญาณต่างๆของไวรัส และพบว่าอัตราอาสาสมัครที่มีผลตรวจแบบ PCR เป็นบวกมีจำนวนลดลงราวๆครึ่งหนึ่งหลังจากได้รับวัคซีน 2 โดส ซึ่งในกรณีนี้ผู้เขียนชี้ว่าหากวัคซีนแค่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการเบาลง ผลตรวจ PCR ก็จะยังคงเป็นบวกไม่เปลี่ยนแปลง

    ผลการศึกษายังพบด้วยว่าวัคซีน 1 โดสของแอสตราเซเนกา สามารถมอบประสิทธิภาพการคุ้มกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการ ราว 76% หากชะลอการฉีดโดสที่ 2 ออกไปนานสูงสุด 3 เดือน ข้อมูลที่สนับสนุนแผนการฉีดวัคซีนของสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับช่วงเวลาของการฉีดวัคซีนโดสแรกและโดสที่สอง

    ทั้งนี้หากมีการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส วัคซีนของแอสตราเวเนกาจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 82.4%

    พวกนักวิจัยบอกว่าการเว้นระยห่างระหว่างโดสนาน 3 เดือน เป็น "ยุทธศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพในการลดการติดเชื้อ และบางทีอาจเป็นวัคซีนโรคระบาดใหญ่ที่เหมาะสมสำหรับการแจกจ่ายอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุปทานมีอย่างจำกัดในระยะสั้น"

    ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ซึ่งกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิมหลายเท่า

    เจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักรแสดงความกังวลว่าตัวกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในประเทศของพวกเขา รวมถึงตัวกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้และบราซิล อาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง

    (ที่มา:ซีเอ็นเอ็น)
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    US,UNโวย!พม่าแจ้งข้อหา'อองซานซูจี' ควบคุมตัวระหว่างสืบสวนจนถึง15ก.พ.

    ตำรวจพม่าแจ้งข้อหา อองซานซูจี ผู้นำที่ถูกขับไล่ ฐานนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมผิดกฎหมายและเธอจะถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จากเอกสารที่เผยแพร่ในวันพุธ(3ก.พ.)

    สหรัฐฯออกมาเคลื่อนไหวในทันที ระบุรู้สึกไม่สบายใจต่อการแจ้งข้อหา อองซานซูจี ของพม่า ซึ่งเกิดขึ้น 2 วันหลังจากกองทัพก่อรัฐประหาร "เราเรียกร้องให้ทหารปล่อยตัวทุกคนในทันที" เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาบอกกับพวกผู้สื่อข่าว โดยอ้างถึง อองซานซูจีและบรรดาผู้นำพลเรือนคนอื่นๆที่ถูกกองทัพควบคุมตัว

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันจันทร์(1ก.พ.) และควบคุมตัว ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและนักการเมืองพลเมืองอื่นๆ หยุดกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของพม่าอย่างฉับพลันและเรียกเสียงประณามจากสหรัฐฯและบรรดาชาติตะวันตกอื่นๆ

    ในคำกล่าวหาของตำรวจที่ยื่นต่อศาล ระบุว่าซูจี วัย 75 ปี พบวิทยุมือถือ (walkie-talkie) จำนวน 6 เครื่อง ระหว่างการตรวจค้นบ้านพักของเธอในกรุงเนปิดอว์ โดยวิทยุมือถือเหล่านี้ถูกนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายและนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

    เอกสารคำร้องขอควบคุมตัว ซูจี ตำรวจขอให้ศาลอนุญาตกักตัวซูจีจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงสอบปากคำพยาน สืบหาหลักฐาน และหาทนายความให้ซูจีหลังสอบสวนเสร็จแล้ว

    ทั้งนี้ในเอกสารอีกฉบับพบว่าตำรวจแจ้งข้อหา วิน มินต์ อดีตประธานาธิบดีผู้ถูกขับไล่เช่นกัน ฐานละเมิดระเบียบการต่างๆสำหรับหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน

    สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกสหประชาชาติบอกกับผู้สื่อข่าวในวันพุธ(3ก.พ.) ว่าการแจ้งข้อหาซูจี "ยิ่งแต่บ่อนทำลายหลักนิติรัฐในพม่าและกระบวนการประชาธิปไตย เราจะเดินหน้าเรียกร้องให้ปล่อยตัวเธอในทันที เช่นเดียวกับประธานาธิบดีและคนอื่นๆทั้งหมด ที่ถูกกองทัพควบคุมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา"

    พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนอย่างถล่มทลาย แต่กองทัพที่นำโดยนายพลมิน อ่อง หล่าย อ้างว่าศึกเลือกตั้งแปดเปื้อนด้วยการโกง และอ้างความชอบธรรมในการเข้ายึดอำนาจจากข้อหล่าวหาต่างๆเหล่านี้ แม้ทางคณะกรรมการเลือกตั้งบอกว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรม

    ซูจี เคยถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้านพักนาน 15 ปี ระหว่างปี 1989 ถึง 2010 เนื่องจากเธอเป็นแกนนำขบวนการประชาธิปไตยในประเทศ และเธอยังคงเป็นที่นิยมอย่างสูงภายในพม่า แม้ชื่อเสียงในระดับนานาชาติของเธอได้รับความเสียหาย ในประเด็นเกี่ยวกับชะตากรรมของชาวมุสลิมโรงฮิงญาในปี 2017

    เอ็นแอลดี ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อข่าวคราวการแจ้งข้อหา โดยเจ้าหน้าที่ของพรรครายหนึ่งเปิดเผยก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร(2ก.พ.) ทราบว่า ซูจี ถูกกักบริเวณในเมืองหลวง และยังมีสุขภาพดีอยู่

    ทางพรรคบอกว่าสำนักงานของพรรคตามภูมิต่างๆถูกตรวจค้น และเรียกร้องเจ้าหน้าที่หยุดสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าพฤติกรรมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

    กองทัพปกครองอดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1962 จนกระทั่งพรรคของซูจีก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2015 ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับหนึ่งซึ่งรับประกันว่าบรรดานายพลจะมีบทบาทสำคัญในรัฐบาล

    (ที่มา:รอยเตอร์)
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนย่างกุ้ง‘อารยะขัดขืน’คืนที่ 2 หมอพม่าก็ประท้วง ค้านทหารยึดอำนาจ ขณะที่‘ซูจี’ถูกตั้งข้อหา ‘จิ๊บๆ’
    อองซานซูจี ผู้นำพม่าที่ถูกฝ่ายทหารยึดอำนาจ เมื่อวันพุธ (3 ก.พ.) ถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการว่านำเข้าอุปกรณ์สื่อสารอย่างผิดกฎหมาย ในความเคลื่อนไหวซึ่งดูเหมือนเป็นการหาเหตุผลอธิบายการไม่ให้เธอดำรงตำแหน่งทางการเมือง และกักกันตัวเธอเอาไว้อย่างน้อยก็ระยะหนึ่ง ขณะที่เสียงเรียกร้องให้ประชาชนใช้วิธีอารยะขัดขืนเพื่อคัดค้านการรัฐประหารคราวนี้กำลังได้รับเสียงตอบรับเพิ่มมากขึ้น
    การตั้งข้อหานี้มีขึ้นภายหลังกองทัพพม่าได้เข้ายึดอำนาจตั้งแต่วันจันทร์ (1) และจับกุมคุมขัง ซูจี ซึ่งเป็นผู้นำในทางพฤตินัยของประเทศ ตลอดจนนักการเมืองพลเรือนคนอื่นๆ ทำให้ถูกประณามอย่างรุนแรงจากสหรัฐฯและชาติตะวันตกทั้งหลาย
    ตามเอกสารของตำรวจซึ่งเผยแพร่ออกมาในวันพุธ (3) ระบุว่า จากการค้นบ้านพักของ ซูจี ในกรุงเนปิดอ ได้พบวิทยุสื่อสารแบบวอล์กกี้-ทอล์กกี้ 6 เครื่อง ซึ่งถูกนำเข้าพม่าอย่างผิดกฎหมายและถูกนำมาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจึงขอกักตัวเธอไว้เพื่อการสอบสวนไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์
    ในเอกสารของตำรวจต่างหากอีกชุดหนึ่ง ยังแสดงให้เห็นว่าตำรวจได้กล่าวหาประธานาธิบดีวิน มี้น ซึ่งถูกจับตัวไว้หลังรัฐประหารเช่นเดียวกัน ในความผิดละเมิดระเบียบข้อกำหนดในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา
    ทั้งนี้ บีบีซีนิวส์ระบุว่า พม่าในปัจจุบันมีกฎเกณฑ์กำหนดว่าสมาชิกรัฐสภาต้องไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา ดังนั้นข้อกล่าวหาเหล่านี้ก็อาจเพียงพอแล้วที่ฝ่ายทหารจะบรรลุวัตถุประสงค์ของตน นั่นคือ การกีดกันห้ามไม่ให้ ซูจี ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
    ถึงแม้หลังการเข้ายึดอำนาจของกองทัพ ซึ่งมีการทหารและยานยนต์หุ้มเกราะออกลาดตระเวนในเมืองสำคัญต่างๆ จนสถานการณ์ในช่วงวันสองวันแรกดูเหมือนไม่ได้เกิดการต่อต้านประท้วงอย่างรุนแรงใดๆ แต่ปรากฏว่าในคืนวันอังคาร (2) นครย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าที่ยังคงเป็นศูนย์กลางด้านการพาณิชย์ และเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้เกิดเสียงดังอึกทึกต่อเนื่องกันอย่างยาวนาน เมื่อชาวเมืองพากันบีบแตรรถยนต์ ตลอดจนเคาะหม้อเคาะกระทะกระป๋องกันสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเมือง เป็นการตอบสนองการนัดแนะกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย
    ชาวเมืองย่างกุ้งยังพากันประท้วงด้วยการเคาะภาชนะโลหะ และบีบแตรรถกันอีกรอบเป็นคืนที่ 2 ในวันพุธ (3) ในย่านที่อยู่อาศัยบางย่าน ชาวบ้านยังพากันตะโกนในท้องถนนและร้องเพลงประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย
    ขณะเดียวกัน ตั้งแต่วันอังคาร มีการประกาศทางสื่อสังคมจัดตั้ง “ขบวนการอารยะขัดขืนแห่งพม่า” ขึ้นมา ซึ่งนักเคลื่อนไหวระบุว่า ภายใน 24 ชั่วโมงหลังก่อตั้ง มีผู้ติดตามแล้วกว่า 150,000 คน
    ขบวนการอารยะขัดขืนแห่งพม่ายังได้ออกคำแถลงผ่านโซเชียลมีเดียในวันพุธ (3) ว่า บุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลและแผนกอายุรกรรม 70 แห่งใน 30 เมือง ตกลงร่วมประท้วงด้วยการผูกริบบิ้นแดงหรืองดปฏิบัติหน้าที่ยกเว้นในกรณีฉุกเฉิน พร้อมกล่าวหาว่า กองทัพเห็นแก่ประโยชน์ของตนเองมากกว่าความทุกข์ยากของประชาชนระหว่างวิกฤตโรคระบาดที่มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 3,100 คนในพม่า
    ทางด้านพรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นแอลดี) ของ ซูจี ผู้นำตัวก็ออกคำแถลงว่า ที่ทำการพรรคในหลายพื้นที่ถูกบุกค้น พร้อมเรียกร้องให้ทางการยุติการกระทำที่ผิดกฎหมาย
    สำหรับ พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นผู้นำในการเข้ายึดอำนาจ ได้แถลงในคืนวันอังคาร (2) ว่า จำเป็นต้องยึดอำนาจเนื่องจากผู้นำพลเรือนไม่สามารถจัดการปัญหาการฉ้อฉลตามคำเตือนของกองทัพ
    กองทัพพม่ายังปลดคณะรัฐมนตรีทั้งหมดและแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ โดยมิน อ่อง หลาย แต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่มีแต่นายพลและอดีตนายพล รวมทั้งจัดตั้งสภาปกครองประกอบด้วยทหารระดับนายพล 8 นาย คล้ายกับสมัยรัฐบาลทหารที่ปกครองพม่ามาเกือบครึ่งศตวรรษจนถึงปี 2011
    นอกจากนี้ยังมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 ปี และกองทัพระบุว่า จะจัดการเลือกตั้งหลังจากสอบสวนและจัดการข้อกล่าวหาโกงการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
    พร้อมกันนี้ รัฐบาลชุดใหม่ยังออกคำเตือนประชาชนไม่ให้พูดหรือโพสต์สิ่งใดๆ ที่อาจปลุกเร้าให้เกิดการจลาจลหรือสถานการณ์ความไม่สงบ
    ทางด้านนานาชาติ เมื่อวันพุธ กลุ่ม 7 ประเทศผู้นำทางอุตสาหกรรม (จี7) ได้ออกคำแถลงประณามการรัฐประหาร และเรียกร้องให้กองทัพพม่าเคารพผลการเลือกตั้ง ยุติสถานการณ์ฉุกเฉิน คืนอำนาจให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวโดยไม่เป็นธรรมทันที รวมถึงเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม
    ที่สหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขู่งัดมาตรการแซงก์ชันกลับมาใช้กับเหล่านายทหารพม่าที่ยึดอำนาจ ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยว่า พลเอกมาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมทางทหาร พยายามติดต่อกองทัพพม่าแต่ไม่สำเร็จ
    สำหรับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วการยึดอำนาจของกองทัพพม่าเป็นการรัฐประหาร ซึ่งตามกฎหมายของสหรัฐฯ เท่ากับว่าวอชิงตันจะไม่สามารถให้ความช่วยเหลือรัฐบาลพม่าได้
    อย่างไรก็ดี คำประกาศดังกล่าวมีผลเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เนื่องจากความช่วยเหลือเกือบทั้งหมดเวลานี้ดำเนินการโดยหน่วยงานเอกชน ขณะที่กองทัพพม่านั้นถูกอเมริกาแซงก์ชันอยู่แล้วจากการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญา
    ส่วนที่ญี่ปุ่น ชาวพม่าหลายพันคนได้ออกมาประท้วง พร้อมเรียกร้องให้ทางการโตเกียวแสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่อการรัฐประหารของกองทัพพม่า
    ขณะที่จีนไม่ประณามการทำรัฐประหารในประเทศเพื่อนบ้าน กระนั้น กระทรวงการต่างประเทศในปักกิ่งปฏิเสธว่า ไม่ได้ให้การสนับสนุนหรือยินยอมกับการกระทำดังกล่าว
    ด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้มีการประชุมฉุกเฉินในวันอังคาร (2) โดยที่ คริสติน ชราเนอร์ เบอร์เกเนอร์ ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นในพม่า เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงส่งสัญญาณชัดเจนในการสนับสนุนประชาธิปไตยในพม่า
    แต่ปรากฏว่า คณะมนตรีไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกคำแถลงเพื่อประณามการรัฐประหาร สืบเนื่องจากจีนยังไม่เห็นด้วย
    บีบีซีนิวส์รายงานว่า จีนกำลังส่งเสียงเตือนนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารขึ้นมาว่า การแซงก์ชั่นหรือการบีบคั้นจากนานาชาติจะมีแต่ทำให้สิ่งต่างๆ เลวร้ายลงไปในพม่า
    อันที่จริง ปักกิ่งได้แสดงบทบาทเป็นผู้คอยปกป้องพม่าจากการตรวจสอบตามจิกของนานาชาติมานานแล้ว โดยที่จีนมองว่าประเทศเพื่อนบ้านของตนรายนี้มีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ และวางตัวเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดรายหนึ่งของพม่า
    ทั้งนี้ จีนซึ่งมีรัสเซียเคียงข้าง ได้คอยปกป้องพม่าครั้งแล้วครั้งเล่าจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสหประชาชาติ เกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามกวาดล้างประชากรชนส่วนน้อยมุสลิมโรฮิงญา
    “จุดยืนของปักกิ่งในสถานการณ์นี้ สอดคล้องกันกับจุดยืนโดยรวมของจีนซึ่งมีความระแวงสงสัยต่อการเข้าก้าวก่ายแทรกแซงของนานาชาติ” เซบาสเตียน สแตรงจิโอ นักเขียนซึ่งเป็นบรรณาธิการด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของนิตยสาร “เดอะ ดิโพลแมต” บอกกับบีบีซี
    เขาเตือนว่า ขณะที่จีนได้ประโยชน์ในทางยุทธศาสตร์จากการที่พม่าแปลกแยกกับพวกชาติตะวันตก แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าปักกิ่งมีความพออกพอใจกับการรัฐประหารคราวนี้
    “พวกเขามีการติดต่อทำความตกลงต่างๆ ที่ดีมากกับพรรค NLD และได้ลงทุนเอาไว้เยอะแยะในการสร้างความสัมพันธ์กับอองซานซูจี การหวนกลับมาของฝ่ายทหารแท้ที่จริงแล้วหมายความว่า จีนในเวลานี้ต้องรับมือกับสถาบันในพม่าซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้วเป็นผู้ที่ระแวงสงสัยเจตนารมณ์ของจีนมากที่สุด”

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘เจ้ายอดศึก’ ชี้รัฐประหารทำเสียความไว้วางใจ กระทบข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มชาติพันธุ์
    .
    .
    รอยเตอร์ -ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางของพม่ากับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลายกลุ่ม กำลังตกอยู่ในอันตราย หลังทหารก่อรัฐประหารในสัปดาห์นี้ ผู้แทนระดับสูงของแนวร่วมกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กล่าวกับรอยเตอร์
    .
    กลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์หลายสิบกลุ่มเคลื่อนไหวอยู่ตามพื้นที่ชายแดนของพม่า มีบางกลุ่มได้ลงนามในข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่บางกลุ่มยังคงจับอาวุธต่อสู้อยู่เป็นระยะ
    .
    พล.อ.เจ้ายอดศึก แห่งสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) ที่ยังทำหน้าที่เป็นประธานของกลุ่มตัวแทนชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ 10 กลุ่มในข้อตกลงหยุดยิงแห่งชาติ กล่าวประณามการรัฐประหารเมื่อวันจันทร์ (1) ที่โค่นล้มอองซานซูจี ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง
    .
    “กองทัพให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเองเป็นอย่างแรก และสิ่งนี่ทำให้สูญเสียความไว้วางใจ” พล.อ.เจ้ายอดศึก กล่าว และเรียกร้องให้กองทัพพิสูจน์ความจริงใจโดยการจัดการเจรจากับทุกฝ่าย รวมทั้งการปล่อยตัวอองซานซูจีและนักการเมืองที่ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ
    .
    พล.อ.เจ้ายอดศึกเป็นประธานสภาเพื่อการกอบกู้รัฐชาน (RCSS) ที่เข้าร่วมการหยุดยิง พร้อมกับฝ่ายต่างๆ กับรัฐบาลพลเรือนตั้งแต่ปี 2558 ที่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสันติภาพที่จะยุติการสู้รบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษ
    .
    เจ้ายอดศึกเผยว่ากองทัพได้ติดต่อองค์กรของเขาหลังการรัฐประหารเพื่อให้คำมั่นว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงการหยุดยิง
    .
    กลุ่มกบฎอีกอย่างน้อย 8 กลุ่ม ไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงหยุดยิงแห่งชาติ รวมถึงกองทัพอาระกัน ที่กำลังต่อสู้กับทหารในรัฐยะไข่ในช่วงหลายปีมานี้ และได้ตกลงที่จะหยุดยิงชั่วคราวเมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา
    .
    “เรากำลังจับตาดูสถานการณ์ปัจจุบันอย่างใกล้ชิด” โฆษกกองทัพอาระกัน กล่าว.
    .
    .
    https://mgronline.com/indochina/detail/9640000011065
    9fxcs9X-1M5f&w=500&h=261&url=https%3A%2F%2Fmpics.mgronline.com%2Fpics%2FImages%2F564000001138301.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...