ติดตามสถานะการณ์

June 10, 2020 แห่เทขายทำกำไรช่วงสั้น ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดิ่ง 300 จุด ราคาน้ำมันดิบขยับเกือบ 2% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดใกล้ 39 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งต่อกว่า 16 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 27,272 จุด -300 จุด หรือ -1.09% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,207 จุด -25 จุด หรือ -0.78% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 9,953 จุด +29 จุด หรือ +0.29% สาเหตุจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากภาวะตลาดหุ้นทะยานขึ้นต่อเนื่องในช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 38.94 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.96% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 41.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.27 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ +0.66% สาเหตุจากความคาดหวังเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันดิบตลาดโลกจะลดลงจากการบดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,721.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +16.80
ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากตลาดทองคำโลกคาดหวังกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจจะมีออกมาอีกในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในช่วงกลางสัปดาห์นี้

#ลงทุน #สตาร์ทอัพ #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #ดิจิทัล #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

 

ร.ร. สังกัด กทม.เตรียมเลือกแผน
การสอนรูปแบบปกติ-สลับวันเรียน
ให้เหมาะตามขนาดจำนวน นร.และพื้นที่
.
โฆษกกรุงเทพมหานคร เผย โรงเรียนสังกัด กทม. เตรียมพร้อม ใช้ 2 รูปแบบรับเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 จัดระเบียบ ร.ร.ขนาดเล็กเปิดปกติ ขนาดกลาง-ใหญ่ สลับวันเรียนจำกัดห้องละ 20 คน

เมื่อวันที่ (8 มิ.ย.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 13/2563 ซึ่งมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ว่า ในที่ประชุมวันนี้ สำนักการศึกษา ได้รายงานการเตรียมความพร้อมแนวทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ก.ค. 63 โดยโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครแบ่งตามจำนวนนักเรียนได้ 3 ขนาด ได้แก่ 1. โรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนไม่เกิน 400 คน 2. โรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียน 401-800 คน และ 3. โรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียน 801-1500 คน สำนักการศึกษาได้จัดเตรียมแนวทางการจัดการเรียนการสอน 2 รูปแบบ ดังนี้ โรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนไม่เกิน 400 คน มีทั้งหมด 204 โรงเรียน จะจัดให้มีการจัดการเรียนการสอนตามปกติ โดยให้นักเรียนมาโรงเรียนทุกวัน และเรียนตามตารางเรียนในชั่วโมงหรือคาบเรียนปกติ ใน 1 ห้องเรียน มีจำนวนนักเรียน 20 คนโดยประมาณ และให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคมทั้งเวลาเรียน ช่วงเวลาพัก และการรับประทานอาหาร
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/qol/detail/9630000059449
#mgronline #โรงเรียนสังกัดกทม. #เตรียมความพร้อม #เลือกแผนการสอน #รูปแบบปกติ #สลับวันเรียน #สถานการณ์การแพร่ระบาด #โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019

 

ทำความรู้จัก “เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน”
รูปปั้นพ่อค้าทาสผู้โด่งดังแห่งเมืองบริสตอล
ที่ถูกโค่นโยนทิ้งน้ำ

>>ข่าวใหญ่ของการเคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมให้ชาวผิวสีในช่วงที่ผ่าน คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ประเทศอังกฤษรวมตัวกัน โค่นรูปปั้นของ “เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน” พ่อค้าทาสที่โด่งดังในสมัยศตวรรษที่ 17 ] โดยกลุ่มผู้ชุนนุมได้ใช้เชือกล่ามดึงรูปปั้นล้มลงมาจากอนุสรณ์ ก่อนจะนำมาสีแดงฉีดพ่น พร้อมกับคุกเข่ากดทับที่คอเป็นเวลา 8 นาที แสดงสัญลักษณ์เหมือนกับที่ จอร์จ ฟลอยด์ โดนกระทำจากตำรวจ ก่อนจะลากไปทิ้งที่แม่น้ำ นับเป็นการแสดงออกถึงการประท้วง คืนความยุติธรรมให้กับบรรดาคนผิวสีที่เคยโดดกดขี่ในอดีต ซึ่งไม่เพียงแต่รูปปั้นของเอ็ดเวิร์ดจะโดนกระทำเท่านั้น แต่ยังมีข่าวถึงอนุสาวรีย์และอนุสรณ์สถานของเหล่าคนดังในอดีตที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าทาส หรือการกดขี่คนผิวสีก็กำลังโดนก่อกวน สร้างความเสียหายไม่น้อยหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นนายพลวินสตัน เชอร์ชิลล์ อดีตนายกรัฐมนตรีคนเก่งของอังกฤษ, กษัตริย์ลีโอโพลด์ที่ 2 ของเบลเยี่ยม ฯลฯ

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/celebonline/detail/9630000059479

#เอ็ดเวิร์ดโคลสตัน #พ่อค้าทาส #bristol #อังกฤษ #UK #edwardcolston

 

จีนไฟเขียว ‘ยามะเร็ง’ พัฒนาในประเทศ เข้าสู่ตลาดแล้ว
.
สำนักงานบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติจีน (NMPA) เปิดเผย (8 มิ.ย.)ว่าจีนได้อนุญาตให้มีการนำยารักษาโรคมะเร็งในรูปแบบแคปซูลชื่อ “บรูคินซา” (Brukinsa) ที่พัฒนาขึ้นเองภายในประเทศเข้าสู่ตลาดแล้ว
.
ยาตัวนี้พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเป่ยยีน (BeiGene) สำหรับรักษาผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเอ็มซีแอล (MCL) ซึ่งเคยรับการรักษาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง รวมถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดซีแอลแอล (CLL) หรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดเอสแอลแอล (SLL)
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/china/detail/9630000059660
#mgronline #จีนไฟเขียว #ยามะเร็ง #พัฒนาในประเทศ

 

ลงมติยุบ สนง.ตำรวจมินนีอาโปลิส
อดีต รมว.รีพับลิกัน สวด ‘ทรัมป์’ ย่ำยีอเมริกา

อเจนซีส์ - สมาชิกสภาของมินนีอาโปลิส เมืองที่เกิดเหตุตำรวจใช้เข่ากดคอชายผิวดำ จอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งถูกควบคุมตัวจนกระทั่งเสียชีวิต และกลายเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงทั่วสหรัฐฯ ได้ลงมติในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) ให้ยุบสำนักงานตำรวจแล้วสร้างขึ้นมาใหม่ให้เป็นมิตรและปลอดภัยกับชุมชนมากขึ้น ขณะเดียวกัน โคลิน พาวเวลล์ อดีตนายพลสี่ดาว และรัฐมนตรีต่างประเทศ สังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศเลือก โจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดี พร้อมวิพากษ์ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำลายภาพลักษณ์อเมริกาในสายตาชาวโลก

อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9630000059438

#โคลินพาวเวลล์ #มินนีอาโปลิส #จอร์จฟลอยด์

 

เพจหมอเตือนผู้ปกครอง พบเคสเด็กกินโซดาไฟ
อันตรายถึงชีวิต แนะควรเก็บสารเคมีทุกชนิดไกลมือเด็ก
.
เพจ “Infectious ง่ายนิดเดียว” โพสต์ข้อความเตือนผู้ปกครองพบเคสเด็กกินโซดาไฟ มีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แนะ ควรเก็บสารเคมีทุกชนิด ให้ไกลมือเด็ก และไม่ควรเก็บสารเคมีในขวดภาชนะพลาสติกที่ใช้ดื่มกิน เนื่องจากคนอื่นที่ไม่ทราบเข้าใจผิด
.
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เพจ “Infectious ง่ายนิดเดียว” โพสต์เตือนผู้ปกครอง หลังพบเด็กกินโซดาไฟ ทำให้ปากพอง คล้ายรอยไหม้ที่ริมฝีปาก และเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต ซึ่งโซดาไฟ (caustic soda) เป็นส่วนประกอบของ NaOH มีฤทธิ์เป็นด่าง ของแข็งสีขาว ไม่มีกลิ่น มีหลายลักษณะ เกล็ด เม็ดแท่ง ดูดความชื้นได้ดี นำมาใช้แก้ปัญหาท่ออุดตัน ทะลุทะลวงได้ดี เนื่องจากเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำจะเกิดความร้อน ย่อยสลายวัตถุต่างๆ ได้
.
อ่านต่อ>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000059557
#mgronline #หมอเตือน #ผู้ปกครอง #เด็กกินโซดาไฟ #อันตรายถึงชีวิต #เก็บสารเคมีทุกชนิด #ไกลมือเด็ก

 

คำเตือนด่วนมาจาก NHS ของฝั่งอังกฤษค่ะ เกี่ยวกับ COVID-19 ในเด็ก

✨ เนื่องจากในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยเด็กที่แสดงอาการอักเสบในหลายระบบ จนต้องเข้าไอซียูเพิ่มขึ้นทั่วลอนดอนและพื้นที่อื่นในสหราชอาณาจักร

ซึ่งทำให้คิดว่า :-

1. อาจจะมีภาวะอักเสบทั่วร่างที่สัมพันธ์กับ COVID-19 หรือ

2. อาจจะมีเชื้ออื่นที่ยังจับตัวไม่เจอ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะนี้

(ข่าวต้นทางก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้)

โดยอาการของเด็กที่พบคือ มีลักษณะแบบ COVID-19 ที่เป็นรุนแรง ร่วมกับอาการของ toxic shock syndrome และ atypical Kawasaki disease

ในข่าวไม่ได้บอกข้อมูลว่ามีอาการอะไรบ้างนะคะ แต่ถ้าโรคทั้งสองที่ยกมา ก็จะเด่นเรื่อง ไข้สูง ผื่น

และมีอาการหลายๆ ระบบร่วมกัน เช่น ถ้าไปทางเดินอาหาร ก็มีปวดท้องอาเจียนค่ะ

ส่วนภาวะที่ถึงกับเข้าไอซียูจากสองโรคนี้ (นอกจากอาการหอบเหนื่อยจาก COVID-19) ก็คงเป็นความดันตก เลือดไปเลี้ยงร่างกายไม่พอ (ช็อก)

✨ แต่ข้อมูลยังน้อย คงต้องรอข่าวเพิ่มเติม ระหว่างนี้ก็ระมัดระวังตัวกันตามปกตินะคะ อย่าเพิ่งวิตกไป เด็กไทยยังไหวอยู่ค่ะ
.
.
.
☆.｡.:* ข้อมูลเสริม .｡.:*☆

แอดไปดูในตัวเว็บไซต์ของ NHS หัวข้อ Coronavirus in children ณ ตอนนี้ก็ยังคงยืนตามเดิมนะคะ ว่าเด็กอาการรุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ (อาจเปลี่ยนแปลงถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้)

และมีคำแนะนำสำหรับคนที่อยู่อังกฤษ อาจจะมาประยุกต์ใช้สังเกตอาการลูกหลานเราได้ค่ะ

(เท่าที่อ่าน คำแนะนำที่เขียน ก็ใช้สังเกตในโรคที่ไม่ใช่ COVID-19 ได้ด้วยนะคะ)

☎️ โทร 111 หรือติดต่อแพทย์ทั่วไป ถ้าเด็กเข้าข่ายดังนี้

- อายุน้อยกว่า 3 เดือน ไข้มากกว่า 38 องศา (หรือรู้สึกว่ามีไข้)
- อายุ 3-6 เดือน ไข้มากกว่า 39 องศา
- มีอาการอย่างอื่น เช่น ผื่นร่วมกับมีไข้
- ไข้สูง 5 วันขึ้นไป
- กินน้อย หรือดูพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากปกติที่เคยเป็น
- ไข้สูงที่กินยาลดไข้ (พาราเซตามอล) แล้วไข้ไม่ลง
- ขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะออกน้อย (ผ้าอ้อมไม่มีฉี่) หรือร้องไห้ไม่มีน้ำตา

☎️ โทร 999 ถ้าเด็กเข้าข่ายดังนี้

- คอแข็ง (เป็นอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อันนี้อาจจะดูยากในเด็กเล็ก แต่อาจมีสัญญาณบางอย่าง เช่น เวลาอุ้มแล้วเด็กร้องมากขึ้น เพราะเวลาเขางอคอ เยื่อหุ้มสมองจะตึงเจ็บมากขึ้นค่ะ)

- มีผื่นกดไม่จาง (ทำ “Glass test”)
***อันนี้เป็นการตรวจของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอีกเชื้อค่ะ (Meningococcal septicaemia) ไม่แน่ใจว่ากรณี COVID-19 ผื่นจะจางไหม

- ตาสู้แสงไม่ได้
- ชักครั้งแรก (คือชัก โดยไม่ได้เป็นลมชักอยู่เดิม)
- มือเท้าเย็นผิดปกติ
- ตัวลาย สีผิวซีด ม่วง เทา
- ร้องเสียงแผ่ว หรือแหลมสูงผิดปกติจากที่เคย
- ซึม ปลุกยาก
- งอแงมากหรือสับสน
- หายใจลำบาก หายใจแล้วอกยุบหรือท้องกระเพื่อม
- กระหม่อมโป่งตึง
- การตอบสนองผิดปกติ เช่น ไม่กิน ไม่เล่น

ลองไว้ใช้สังเกตอาการดูนะคะ ถ้าเป็นในไทย อาการแบบนี้ก็ควรรีบมาโรงพยาบาลเช่นกันค่ะ

#หมอเด็กนอกคอก

References:-
https://www.independent.co.uk/news/...c0Y2t8JpVg-nwjnFTZ_SF7O2euhaCpS6hROCLwM2mp_5c

https://www.nhs.uk/conditions/coronavirus-covid-19/coronavirus-in-children/

 

SET จะไปต่อได้ไหม ? หลัง Bloomberg ยกให้ทางตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ #แพงที่สุดในเอเชีย จะเสี่ยงทำให้เกิดการเทขายจากต่างชาติไหม ?

นักวิเคราะห์ Bloomberg ยกให้ตลาดหุ้นไทยที่ร้อนแรงมากๆในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากลายเป็นตลาดที่แพงที่สุดเมื่อเทียบกับดัชนีอื่นๆในเอเชีย และกล่าวเตือนว่าอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มถอนการลงทุนออกไปได้

SET ที่ทยอยปรับตัวขึ้นมา 45% จาก 1,000 จุดในเดือนมีนาคมขึ้นมาที่ 1,450 จุดเมื่อวันก่อน ก่อนที่เพิ่งจะโดนเทขายหนักๆลบไป -2.1% ในวันนี้ แต่หากเทียบกับเพื่อนบ้านต่างๆของเราทั้งหมดแล้วนั้นดัชนีบ้านเราถือว่าดีดตัวขึ้นมาหลังวิกฤตโควิดได้ดีที่สุด หากเทียบกับดัชนีหุ้นเอเชียรวมอย่าง MSCI Asia Pacific Index ที่เพิ่งปรับตัวขึ้นมาเพียง 30% จากช่วงเดือนมีนาคมนั้น ดัชนี SET ของทางไทยเราถือว่ายังนำหน้าอยู่มาก

อย่างไรก็ตามหากเราดูสถิติการเข้าซื้อขายหุ้นจากต่างชาตินั้น เรายังเห็นเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้า SET มาเรื่อยๆตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดว่าจะมีการเทขายเพื่อย้ายตลาดไปบ้างหรือไม่ หลังจากทาง Bloomberg ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวและส่งออกเป็นหลัก ซึ่งยังดูจะซบเซาไปจนถึงสิ้นปีนี้ภายใต้มาตรการ Lock Down

อีกปัจจัยสำคัญหลักๆคือ #ค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทจะมีบทบาทสำคัญต่อการไหลเข้าออกของเงินทุนและเศรษฐกิจไทยเช่นกัน โดยเงินบาทได้ทยอยแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมจาก 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาจนเหลือเพียง 31.3 บาทต่อเหรียญสหรัฐในวันนี้ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 5% ภายใน 3 เดือน

ถึงแม้ทั้งปีนี้ค่าเงินบาทยังถือว่าอ่อนค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านโดยรวม (มีแค่อินเดียที่ยังอ่อนกว่าเรา หากดูรวมทั้งปีนี้) แต่หากบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องไปเรื่อยๆก็จะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าประเทศน้อยลง และนักท่องเที่ยวอาจลดลงเพราะค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ส่งออกยากขึ้นด้วย

มาติดตามกับเพจเราต่อได้ว่าตลาดโลกจะยังดันตลาดไทยขึ้นต่อได้หรือไม่ ? หรือถึงเวลาที่ตลาดอื่นๆจะน่าสนใจมากกว่าไทยแล้วจริงๆ ?

ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

ความถี่ของโลกคือ 7.8 Hz นี่คือจากโพสต์ของฉันจาก 2018 แต่รูปแบบที่เกิดขึ้นบน Schumann Resonance ยังคงเหมือนเดิม มีการเพิ่มขึ้นอีก 6 อีก 3 ครั้ง 6 6 6. พระเจ้าเปิดเผยให้เราเห็นว่าอะไรเป็นสาเหตุของการรบกวนเหล่านี้?

The Frequency of the Earth is 7.8 Hz. This is from my post from 2018 but the pattern that has emerged on the Schumann Resonance remains the same. It has three additional 6 Hz increments. 6 6 6. Is God revealing to us what is causing these disturbances?

Revelation 13:18 Here is wisdom. Let him that has understanding count the number of the beast: for it is the number of a man; and his number is six hundred and sixty-six.

Revelation 12:3 And there appeared another wonder in heaven; and behold a great, fiery red dragon, having seven heads and ten horns, and seven crowns upon his heads.

 

#รัสเซีย

การปะทุของภูเขาไฟ Klyuchevskaya Sopka บนคาบสมุทร Kamchatka ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2563

 

✔ # ฟ้าผ่าที่เพิ่มขึ้น ในซาอุดิอาระเบียเมื่อวานนี้ ...

 

ภูเขาไฟ Pacaya ปะทุ ประเทศกัวเตมาลา วันที่ 8 มิถุนายน

 

สหรัฐขาดดุลฐานะการคลังระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 ในเดือน พค.

Congressional Budget Office (CBO) เปิดเผยประมาณการว่าฐานะขาดดุลทางการคลังของสหรัฐฯ ณ เดือน พ.ค. 2020 อยู่ที่ 424 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า ทำให้ยอดขาดดุลรวมของปีงบประมาณ 2020 (ต.ค. 2019 – พ.ค. 2020) อยู่ที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 739 พันล้านดอลลาร์ สรอ. หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2019 และทำให้ยอดการขาดดุลทางการคลังของช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 10 ของ GDP ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010

ทั้งนี้ CBO ประมาณการว่ายอดขาดดุลทางการคลังจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.7 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ภายในเดือน ก.ย. นี้ (สิ้นปีงบประมาณ 2020) ซึ่งเป็นผลจากการระดมเงินเพื่อใช้ในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่มีการออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ที่ผ่านมา โดยที่ในเดือน พ.ค. ยอดรายจ่ายทางการคลังในมาตรการดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 598 พันล้านดอลลาร์ สรอ.

ขณะที่รายรับกลับหดตัวที่ร้อยละ 25 จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 175 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ผลจากมาตรการขยายเวลายื่นภาษีไปจนถึงเดือน ก.ค. และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะงักตัว

อย่างไรก็ตาม งบประมาณรายจ่ายที่ CBO ประเมินยังไม่รวมมาตรการทางการคลังที่กำลังพิจารณาในชั้นวุฒิสภา ซึ่งนาย Mitch McCornell ประธานวิปเสียงข้างมากของวุฒิสภาคาดว่าจะกลับมาพิจารณาข้อเสนอมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมได้หลังวันที่ 3 ก.ค. และคาดว่าจะสามารถลงมติได้หลังวันที่ 20 ก.ค. โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถผ่านรายจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.

Source: BoTSS

- Federal Budget Deficit Nears $2 Trillion For Fiscal Year: https://www.wsj.com/articles/federal-budget-deficit-nears-2-trillion-for-fiscal-year-11591630088

 

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจชี้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในก.พ.จากพิษโควิด

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติช่วงการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

NBER เปิดเผยว่า การทรุดตัวของการจ้างงานและการผลิตในระดับที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐดิ่งลง 4.8% ในไตรมาสแรก ขณะที่คาดว่า GDP ในไตรมาส 2 จะทรุดตัวลงมากกว่า 20%

นอกจากนี้ ตัวเลขอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. และแตะ 13.3% ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ดี NBER คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบนี้ นอกจากจะมีความรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ยังทำสถิติช่วงเวลาสั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

เพิ่มเติม
- It's official: U.S. economy entered recession in February - https://www.reuters.com/article/us-...y-entered-recession-in-february-idUSKBN23F28L

 

แผนการซื้อหุ้นกู้บริษัทเอกชนในตลาดรองของเฟดประสบปัญหา

Fed ยังคงประสบปัญหาสำหรับแผนการซื้อหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนในตลาดรอง นักวิเคราะห์คาดว่าปัญหาหลักมาจากข้อกำหนดที่ระบุให้บริษัทที่ต้องการให้ Fed ซื้อหุ้นกู้ให้มาลงนามกับ Fed เป็นรายบริษัท

การลงนามในลักษณะนี้เป็นการสะท้อนความสมัครใจหรือความต้องการของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดนี้มีแนวโน้มลดแรงจูงใจของบริษัทในการขายหุ้นกู้ให้ Fed เนื่องจากบริษัทเกรงว่าการลงนามดังกล่าวจะเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทมีปัญหาด้านการเงินและทำให้ความน่าเชื่อถือปรับลดลง

ทั้งนี้ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของหุ้นกู้เอกชนและพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับลดลงหลัง Fed ได้ประกาศแผนการซื้อหุ้นกู้เอกชนในช่วงปลายเดือน มี.ค. สะท้อนว่านักลงทุนเชื่อมั่นอย่างมากต่อการดำเนินมาตรการดังกล่าวของ Fed

อย่างไรก็ตาม Fed ได้ดำเนินการซื้อหุ้นกู้ผ่าน ETF เป็นหลักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การซื้อหุ้นกู้รายตัวโดยตรงยังคงถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมที่คาดว่าจะเริ่มได้จริงในวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อความน่าเชื่อถือของ Fed ในการดำเนินนโยบายสำหรับวิกฤติครั้งถัดไป

อนึ่ง วานนี้ Fed ยังได้ประกาศปรับรายละเอียดมาตรการ Main Street Facility เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลาง-ย่อม สามารถเข้าถึงสภาพคล่องในมาตรการดังกล่าวได้มากขึ้น และด้วยเงื่อนไขชำระคืนเงินกู้ที่ผ่อนคลายมากขึ้น โดยมีรายละเอียด ได้แก่
1. ปรับลดวงเงินกู้ยืมขั้นต่ำจาก 500,000 ลงเป็น 250,000 ดอลลาร์ สรอ. ขณะที่เพิ่มวงเงินสูงสุดที่สามารถกู้ยืมได้ในทุกประเภทสินเชื่อ โดยเพิ่มขึ้นเป็น 35, 50 และ 300 ล้านดอลลาร์ สรอ. สำหรับ New Loans, Priority Loans และ Expanded Loans ตามลำดับ

2. ขยายระยะเวลากู้ยืมจาก 4 ปีเป็น 5 ปี (ที่อัตราดอกเบี้ย LIBOR + 3%)

3. ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระคืนเงินต้น (principal deferral) จากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี สำหรับสินเชื่อทุก โดยจะเริ่มชำระคืนในปีที่ 3 - 5 ในสัดส่วน 15% / 15% / 70% ขณะที่สามารถผ่อนผันการชำระคืนดอกเบี้ย (interest deferral) ได้ 1 ปีเท่าเกณฑ์เดิม

4. เพิ่มสัดส่วน Reserve Bank’s participation ขึ้นเป็นร้อยละ 95 ซึ่งแสดงถึงการที่ Fed จะรับซื้อสินเชื่อที่ออกภายใต้ Main Street Facility ที่สัดส่วนร้อยละ 95 ของวงเงินสินเชื่อแต่ละก้อน
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ Fed ได้มีการประกาศปรับรายละเอียดมาตรการ Main Street Facility เพื่อให้ครอบคลุมธุรกิจขนาดกลางมากขึ้น และรองรับสินเชื่อของบริษัทที่มีระดับ leverage สูงมาก่อน โดย Fed คาดว่าจะออกรายละเอียดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อรองรับการออกสินเชื่อให้แก่หน่วยงานการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร

Source: BoTSS

- Fed’s corporate bond facility faces teething problems: https://www.ft.com/content/c8a4e1cd-1034-43de-86f7-be5190c77409

 

สหรัฐไม่ต้องการระงับ'ข้อตกลงเฟส1'กับจีน มอร์แกน สแตนลีย์คาด ไม่เกิดสงครามภาษีจีน-สหรัฐรอบใหม่ - มอร์แกน สแตนลีย์ชี้ สหรัฐจะโฟกัสเรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้และไม่ต้องการที่จะระงับ “ข้อตกลงเฟส 1” พร้อมคาด ไม่น่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามภาษีระหว่างจีนและสหรัฐขึ้นมาใหม่จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐไม่น่าจะต้องการระงับข้อตกลงการค้าเฟส 1 กับจีน แม้ว่ามีความตึงเครียดระหว่างสองชาติมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะยุติข้อตกลงเฟสหนึ่งหรือไม่ ความเห็นของทรัมป์ทำให้นักวิเคราะห์และนักลงทุนกังวลว่าสองเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกจะเริ่มทำสงครามภาษีอีกจนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

เชตัน อาห์ยา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจโลก ของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า ตามความเห็นในมุมเศรษฐกิจในขณะนี้ ตราบเท่าที่มีข้อตกลงเฟส 1 และไม่มีเงื่อนไขเรื่องภาษีเพิ่มขึ้นมาใหม่ การคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกที่มอร์แกน สแตนลีย์ได้ทำไว้ ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง

อาห์ยา อธิบายว่า คณะบริหารของทรัมป์จะโฟกัสเรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้ และจะไม่ต้องการระงับข้อตกลงเฟส 1 ดังนั้นความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐใหม่จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ไม่น่าจะเกิดขึ้น

ทรัมป์ไม่ได้ปรับท่าทีเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า ซึ่งได้ลงนามกับจีนเมื่อเดือนมกราคม และได้ยับยั้งการต่อสู้ด้วยภาษีกับจีนที่กินเวลานานมากกว่าหนึ่งปี

อย่างไรก็ดี มีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า โรเบิร์ต ไลธีเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เจรจาข้อตกลงการค้ากับปักกิ่ง กล่าวว่า เขารู้สึก “ดีมาก” เกี่ยวกับข้อตกลงและกล่าวว่า จีนได้ทำงานค่อนข้างดีในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบางอย่าง

จีนได้ย้ำในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะทำงานต่อไปเพื่อสนับสนุนข้อตกลงการค้าเฟส 1 แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า รัฐบาลปักกิ่งไม่น่าจะทำตามเงื่อนไขที่ต้องซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐเพิ่มเป็นจำนวนมาก

มีการคาดการณ์ว่า จีนจะไม่สามารถทำตามคำมั่นที่ให้ไว้จนถึงขณะนี้เนื่องจากมีการระบาดของไวรัสโคโรนา

ทอมมี่ ซี หัวหน้าฝ่ายวิจัยจีนแผ่นดินใหญ่ของธนาคารโอซีบีซีในสิงคโปร์ กล่าวว่า สถานะของข้อตกลงการค้าเฟส 1 ขึ้นอยู่กับว่า คณะบริหารของทรัมป์เต็มใจที่จะปล่อยให้จีนมีเวลามากขึ้นที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าสหรัฐหรือไม่

อย่างไรก็ดี การค้าไม่ใช่ทางเดียวที่จะทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐในเดือนที่จะมาถึงโดย ซี ตั้งข้อสังเกตว่า ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศได้ขยายไปยังเรื่องอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยี ตลาดการเงิน และการจัดการของจีนต่อการระบาดของไวรัสโคโรนา

“ในปีที่แล้ว ความกังวลหลักอยู่ที่การค้า แต่ในปีนี้ เรากำลังเห็นจุดเดือดมากขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงคิดว่าในระยะใกล้นี้ มีเรื่องให้ตลาดกังวลมากขึ้น” ซี กล่าว

Source: ข่าวหุ้น

เพิ่มเติม
- Morgan Stanley says the U.S. ‘will not want to break the phase one deal’ with China : https://www.cnbc.com/2020/06/05/us-...rade-deal-with-china-morgan-stanley-says.html

 

Honda ถูกไวรัสบุกเน็ตเวิร์ค กระทบสายการผลิตทั่วโลก

ฮอนด้าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นรายงานว่าเครือข่ายภายในบริษัทถูกโจมตีจนทำให้กระทบสายการผลิตทั่วโลก และตอนนี้กำลังพยายามลดผลกระทบจากการโจมตีนี้อยู่
ทางฮอนด้าระบุว่าเซิร์ฟเวอร์ระบบควบคุมสายการผลิต, อีเมล, และบริการภายใน ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ โดยระบุว่าการโจมตีเริ่มมาจากเซิร์ฟเวอร์ตัวหนึ่งที่เชื่อมต่อภายนอกบริษัท

Source: Blognone.com
https://www.blognone.com/node/116810

- Honda's global operations hit by cyber-attack : https://www.bbc.com/news/technology-52982427

 

ตะวันออกกลาง

แผ่นดินไหวที่รุนแรง ขนาด M 5.7 - 57 km ENE ของ Mohr ประะทศอิหร่าน
วันทึ่ 2020-06-09 เวลา 17:18:14 (UTC) ความลึก 10.0 กม.

 

ตะวันออกกลาง - การพังทลายของก้อนหินหลังจากแผ่นดินไหว ขนาด M5.7 ที่รุนแรง ที่ Fars, ประเทศอิหร่าน วันที่ 9 มิถุนายน

 

มองโกเลีย - พายุทรายขนาดใหญ่กระทบ Mandalgovĭ ในภูมิภาค Dundgovi ห่างจากเมืองหลวง 300 กิโลเมตรทางใต้ของอูลานบาตอร์ วันที่ 9 มิถุนายน