ติดตามสถานะการณ์

ภูเก็ต - ตำรวจจับกุมชาวฝรั่งเศส 7 คน มั่วสุมสูบบารากู่ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศจังหวัด

วันนี้( 5 เม.ย. 63) ที่ สภ.กมลา ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัณฑิต ขาวสุธรรม ผกก.สืบสวน.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ชัยพฤกษ์ ผาติวรากร ผกก.สภ.กมลา และตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมสอบปากคำ ผู้ต้องหาชาวฝรั่งเศส 7 ราย ประกอบด้วย Mr.ABAO HAKIN อายุ 28 ปี , Mr.HRARAT SANI อายุ 31 ปี , Mr.HASSANE NORDINE อายุ36 ปี ,Mr.ELIDRISSI JANELEDOKME อายุ 27 ปี ,Mr.ELHEDLI MEHDI อายุ 31 ปี,Mriss. ROUNE YASMINO อายุ 20 ปี และ Miss. ZIED LARBITA อายุ 26 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน ทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆในสถานที่แออัด โดยฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ที่ผ่านมา( 5 เม.ย. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา นำโดย พ.ต.ท.ประมูล คงชู รองผู้กำกับสืบสวน สภ.กมลา พร้อมพวก เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 46/11 ภายในโครงการ พาราเดซ่าวิลล่า ม.5 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติรวมตัวมั่วสุมฝ่าฝืนพระราชกำหนดฉุกเฉิน และประกาศจังหวัดภูเก็ต จากการตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้ง 7 รายกำลังมั่วสุม และพยายามหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว ก่อนเข้าตรวจสอบ พบมีการสูบบารากู่ อยู่ภายในห้องพัก จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วย เตาบารากู่ จำนวน 4 เตา ยาบารากู่จำนวน 2 กระป๋อง และถ่านบารากู่จำนวน 21 ก้อน ก่อนเชิญตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.กมลา
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐาน ทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดๆในสถานที่แออัด โดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อ(ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) ตามประกาศภูเก็ตฉบับที่ 8/2563ลง วันที่ 28 มีนาคม 2563 เรื่อง ให้เจ้าของผู้ครอบครองหรือผู้พักอาศัย ในบ้าน โรงเรือน สถานที่หรือยานพาหนะ ณ ที่มีโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการป้องกันเพื่อและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19)และช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย พาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่ายังมิได้เสียภาษี หรือของต้องจำกัดหรือต้องห้าม หรือเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง และเป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Cr. ปชส.จังหวัดภูเก็ต

 

สเปนได้แซงหน้าอิตาลี ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุด เป็นอันดับที่ 2 รองจากสหรัฐ

รัฐบาลสเปนประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ 4 เมษายน ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 7,026 คนจากวันศุกร์ที่ 3 เมษายน ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรวม 124,736 คน

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 809 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11,744 คน สูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากอิตาลี

นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส แห่งสเปน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันเสาร์ที่ 4 ว่า ต้องการเวลามากกว่านี้ เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสในสเปน

เขากล่าวว่า รัฐบาลจะขยายภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 2 สัปดาห์ จากที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 11 เมษายน

รัฐบาลสเปนบังคับใช้การปิดเมืองทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม โดยสั่งห้ามการออกนอกบ้านที่ไม่จำเป็นอย่างเข้มงวด มาตรการนี้จะดำเนินต่อไปอีกเป็นเวลาทั้งสิ้น 6 สัปดาห์ ตามการขยายภาวะฉุกเฉิน

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังวางแผนขยายขนาดโครงการสนับสนุนด้านการเงินของรัฐสำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้เป็น 5 ล้านล้านเยน หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท

โครงการนี้อนุญาตให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในสังกัดของรัฐบาล ใช้กองทุนของรัฐบาลเป็นเงินกู้ยืมให้แก่ธุรกิจต่าง ๆ ในช่วงเวลาฉุกเฉิน

เมื่อเดือนมีนาคม รัฐบาลจัดสรรเงินไว้ 204,000 ล้านเยน หรือราว 60,000 ล้านบาท เป็นส่วนหนึ่งของชุดมาตรการชุดที่ 2 เพื่อช่วยเหลือธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ลดลงนั้นรุนแรงจนรัฐบาลตัดสินใจว่าจะขยายโครงการ รัฐบาลยังได้วางแผนว่าจะช่วยเหลือให้บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเอกชนด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เกือบเป็นศูนย์ด้วย

เจ้าหน้าที่ระบุว่า มาตรการเหล่านี้จะใช้เงินทุนถึง 40 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 12 ล้านล้านบาท

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/

 

วันที่ 5 มีนาคม 2563 จังหวัดเลย ได้รับราย งานจาก อ.เชียงคาน ว่า เมื่อเวลา 18.20 น.เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก เขตเทศบาลตำบลเชียงคาน หมู่ที่ 1, 2 อ.เชียงคาน จ.เลย เบื้องต้นมีต้นไม้ล้ม ไฟฟ้าดับบ้านพักอาศัยของประ ชาชน ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ขณะนี้ อ.เชียงคาน เทศ บาลตำบลเชียงคาน ร้อย อส.อ.ที่ 5 อ.เชียงคาน ร้อย ตชด.ที่ 246 อ.เชียงคาน สถานีเรือ นรข.เชียงคาน สถานีตำรวจน้ำ เชียงคาน กู้ชีพ กู้ภัย ได้ออกให้ความช่วยเหลือ ประชาชนเบื้องต้นแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รายละเอียดอื่นจะรายงานให้ทราบต่อไป/ ปภ เลย

ขอขอบคุณข้อมูลLine61 ปภ.

 

มาเลเซีย ยังเสี่ยง ‘คลัสเตอร์ระลอกใหม่’ หลังกลับเข้าประเทศปกปิดประวัติทำตาย 5

ระหว่างแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้ ดร.นอร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ อธิบดีกรมสาธารณสุขมาเลเซีย เปิดเผยเรื่องการพบคลัสเตอร์หรือการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนใหม่จากผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 1580 กลับจากอิตาลีแต่ปกปิดประวัติการเดินทาง

ต่อมา ได้กลายเป็นผู้ป่วยเริ่มต้น แพร่เชื้อต่อถึง 3 รุ่น รวมติดเชื้อ 37 ราย จำนวนนี้ เสียชีวิต 5 ราย อาการวิกฤติ 1 ราย

อธิบดีกรมสาธารณสุขมาเลเซีย ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ป่วยกลับจากอิตาลี แต่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า สตรีรายหนึ่งในเมืองคูชิง รัฐซาราวัค ถูกตรวจพบไวรัสโดยไม่มีอาการหลังกลับจากอิตาลี และได้แพร่เชื้อให้คนในครอบครัวและญาติก่อนเป็นกลุ่มแรก

มาเลเซียวิตกความเสี่ยงการนำเชื้อเข้าประเทศ เนื่องจากเวลานี้เชื้อไวรัสพบใน 180 ประเทศทั่วโลก พร้อมย้ำให้ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ พูดความจริง เช่นประวัติเดินทาง ไปร่วมชุมนุมหรือมีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ

สำหรับผู้ที่กลับจากต่างประเทศถึงมาเลเซีย ต้องผ่านคัดกรอง รับการตรวจและพาตัวจากสนามบินตรงไปยังสถานที่กักตัว 71 แห่งทั่วประเทศทันที โดยเวลานี้ มีชาวมาเลเซียที่ถูกกักตัวกว่า 4,000 คน

วันเดียวกัน มาเลเซียแจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 179 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,662 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวม 61 ราย

The post มาเลเซีย ยังเสี่ยง ‘คลัสเตอร์ระลอกใหม่’ หลังกลับเข้าประเทศปกปิดประวัติทำตาย 5 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

บทวิเคราะห์และสรุป "สิ่งที่ต้องจับตามองและน่ากังวล ของสถานการณ์ COVID-19ในจีน แม้อู่ฮั่นจะยกเลิก Lockdown 8เมษานี้"

-----

ตอนนี้ ผู้คนในเมืองอู่ฮั่น เมืองที่ถือเป็นพื้นที่ระบาด COVID-19หนักที่สุดในจีน เริ่มออกมาพักผ่อนข้างนอกรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งตอนนี้การใช้ชีวิตของคนอู่ฮั่นเริ่มกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นเรื่อยๆ และมาตรการ Lockdownจะสิ้นสุดในวันที่ 8เมษายน2563 อีกไม่ถึง3วันนับจากนี้

แต่ถ้าถามคนจีนเอง รวมถึงตัวอ้ายจง ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ 100% ที่จะบอกได้ว่าสงครามCOVID-19ในจีน จบลงแล้ว เพราะแม้ว่า ขณะนี้จะมีผู้ป่วยCOVID-19ที่รักษาตัวอยู่ในรพ.ทั่วจีน ลดลงเหลือ 2,371ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นรายวัน โดยเฉลี่ยไม่เกิน 50ราย

ยังคงมีบางประเด็นที่ยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ดังนี้

1.ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ Asymptomic infection ยังคงมีเพิ่มขึ้น

หลังจากที่จีนปรับระบบรายงานสถานการณ์ COVID-19 โดยเพิ่มจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการเข้ามาในรายงานประจำวันด้วย ทำให้เราทราบว่า

ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 47ราย (มาจากนอกจีน 16ราย) ซึ่งถ้าแบ่งตามมณฑล - มณฑลหูเป่ย (รวมเมืองอู่ฮั่น) เพิ่ม 23ราย

ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อยู่ระหว่างการกักตัวทั้งหมด 1,024ราย (มาจากนอกจีน 244ราย) และในมณฑลหูเป่ย มีจำนวน37ราย

ก่อนหน้านี้ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ แห่งชาติจีน ออกมาแถลงว่า ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการส่งผลกระทบในการระบาดค่อนข้างน้อย

เนื่องจาก ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ จะแพร่ไปสู่ผู้อื่นในจำนวนเฉลี่ยน้อยกว่า1ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ คิดเป็นสัดส่วน ไม่ถึง 5%ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

2. เริ่มมีรายงาน การเปลี่ยนจาก ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ไปเป็นผู้ติดเชื้อแบบมีอาการ ล่าสุด มีเพิ่มขึ้น 3ราย ที่เปลี่ยนไปเป็นแบบป่วยมีอาการ

และโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกจีน

3.ต้องยอมรับว่า "ผู้ที่เดินทางมาจากนอกจีน" ถือเป็นปัญหาใหญ่ในจีนสำหรับการป้องกันและควบคุม COVID-19ในขณะนี้

เพราะผู้ที่เดินทางจากนอกจีน กลายเป็น "คนกลุ่มใหญ่" ทั้งป่วยแบบมีอาการ และติดเชื้อแบบไม่มีอาการ รอวันอาการออก

มีผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่จีนรายใหม่ 5ราย เป็นผู้ที่มีประวัติพบปะผู้ที่มาจากนอกจีน ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่มาจากนอกจีน เพิ่ม 25ราย รวมป่วยCOVID-19เพิ่ม 30ราย / ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่ม47ราย มีเปลี่ยนเป็น ป่วยแบบมีอาการ3ราย

ตอนนี้ จีนมีผู้ป่วยCOVID-19ที่เดินทางจากนอกจีนสะสม 913ราย จากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วจีน

4. จีนดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุม COVID-19 โดยเน้นไปที่ ป้องกันและคัดกรอง "คนที่เดินทางจากนอกจีน"

มีระบบตรวจ COVID-19 และกักตัว14วัน

แต่ก็ต้องยอมรับความจริงอีกนั่นแหล่ะครับ ว่า "มีบางเหตุการณ์ที่หลุดการคัดกรองและควบคุม"

เช่น กรณีนักเรียนชาวจีนอายุ16ปี เรียนในประเทศอังกฤษ กลับจากอังกฤษถึงปักกิ่ง 22มี.ค. จากนั้น 23มี.ค.นั่งรถไฟความเร็วสูงไปอู่ฮั่น และ 28มี.ค. พบว่าติดเชื้อแบบไม่มีอาการ และปลายเดือนมีนาคม เริ่มมีอาการ จึงถูกวินิจฉัยว่าป่วยCOVID-19

กรณีข้างต้น มีข้อสังเกต "กลับจากนอกจีน หากเข้าปักกิ่ง หรือเมืองอื่นๆ จะต้องถูกกักตัว14วัน แต่เคสนี้ ทำไมวันรุ่งขึ้น ถึงเดินทางกลับไปอู่ฮั่นได้?"

เคสนี้อ้ายจงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากมาตรการที่ประกาศโดยปักกิ่งเมื่อกลางเดือนมีนาคม

พบว่า "ตอนนี้ทางปักกิ่ง จะคัดกรอง ตรวจcovid-19 ตรวจอาการต่างๆ และถ้าหากใครไม่ผิดปกติ ไม่มีอาการ และมีจุดหมายปลายทางที่เมืองอื่นนอกปักกิ่ง ทางปักกิ่งจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองนั้น จัดรถโดยสารหรือรถไฟหรือยานหานะใดก็ตาม มารับคนของเมืองนั้น กลับไปที่เมือง และค่อยกักตัวที่นั่น"

ตอนคัดกรองที่ปักกิ่ง เด็กคนนี้ ไม่มีอาการเข้าข่าย แต่พอไปถึงอู่ฮั่น จึงเริ่มมีอาการ

5. จีนเริ่มพบว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่และติดเชื้อขณะอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกันของคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

วันนี้ 3 เม.ย. 63 ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคปักกิ่ง แถลงถึงสถานการณ์ COVID-19 โดยพูดถึงจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกที่เกินหนึ่งล้านรายแล้ว จึงแนะนำว่า หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่ควรไปในประเทศที่ระบาดหนักไม่ว่าจะไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้การติดเชื้อ มีความเสี่ยงทั้งติดในต่างประเทศ และบนเครื่องบินเองก็เสี่ยงเช่นกัน

โดยมีรายงานถึงการพบผู้โดยสารบนเที่ยวบินหนึ่งที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยCOVID-19 มากที่สุดถึง 13รายบนเที่ยวบินนั้น ทางปักกิ่งจึงขอแนะนำให้ทุกคนใส่หน้ากากขณะนั่งบนเครื่องบินด้วย

6. ทางจีน เพิ่งเสร็จสิ้นทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัคร 108คน ซึ่งเป็นการทดลองทางคลินิคครั้งแรก และจะมีการรายงานผลออกมาในเดือนเมษายนนี้ ดังนั้นต้องติดตามว่า ผลจะเป็นไงบ้าง

7. ศาสตราจารย์จงหนานซาน หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญในจีนผู้รับผิดชอบค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ COVID-19 แสดงความคิดเห็นผ่านทาง CCTV News สื่อทางการจีน เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างน่าสนใจ

"ทั่วโลกจะถึงจุดเปลี่ยนและสถานการณ์ COVID-19 จะค่อยๆดีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ หากแต่ละประเทศมีมาตรการในการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวด"

ก็ต้องจับตาดูเรื่องนี้เช่นกันนะครับ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

-----

สรุปสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันที่ 5เม.ย.63

1. จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 47ราย (มาจากนอกจีน 16ราย)

- เปลี่ยนไปเป็น ป่วยแบบมีอาการ 3ราย

- ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อยู่ระหว่างการกักตัวทั้งหมด 1,024ราย (มาจากนอกจีน 244ราย)

2. จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ (แบบมีอาการ) 30ราย

- ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากนอกจีน (Imported case) 25ราย

- ผู้ป่วยในประเทศ (Local infection) 5ราย พบที่มณฑลกว่างตงทั้งหมด โดยทุกคนมีประวัติใกล้ชิดและพบปะคนป่วยที่มาจากนอกจีน

2. จำนวนผู้ที่หายดีและออกจากรพ. เพิ่มขึ้น 213ราย

3. จำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 3ราย มาจากมณฑลหูเป่ยทั้งหมด

4. จำนวนผู้ป่วยCOVID-19สะสม 82,938ราย /กำลังรักษา 2,362ราย, รักษาหายและออกจากรพ. 77,238ราย /เสียชีวิต 3,338ราย

5. จีนมีผู้ป่วยCOVID-19ที่เดินทางจากนอกจีนสะสม 913ราย จากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วจีน

6. อัตราการหายดี 93.1% และอัตราการเสียชีวิต 4.03%

ทั้งนี้ ในรายงานผู้ป่วยCOVID-19ในจีน ทางการจีนจะแยกจำนวน ผู้ที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ออกจากตัวเลขผู้ป่วยทั้งหมด

-----

อ้ายจงอ้างอิงจาก

- https://voice.baidu.com/act/newpneumonia/newpneumonia

- Weibo: 人民日报 (People's Daily)

https://m.weibo.cn/2803301701/4490258425153549

https://m.weibo.cn/2803301701/4490256257114423

https://m.weibo.cn/2803301701/4490255656358822

https://m.weibo.cn/2803301701/4488897235304295

https://m.weibo.cn/2803301701/4489527878049440

- Weibo: 央视新闻 (CCTV News)

https://m.weibo.cn/2656274875/4489664042339345

https://m.weibo.cn/2656274875/4487151040888315

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #covid19

 

แบ่งปันจาก Michael DiFato

 

ลิเบียช็อก ‘มาห์มูด จิบริล’ อดีตนายกรัฐมนตรี เสียชีวิตหลังติดโควิด-19
มาห์มูด จิบริล อดีตนายกรัฐมนตรีลิเบียช่วงการปฏิวัติอาหรับสปริง เสียชีวิตแล้ว หลังจากได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 เพียงสัปดาห์เดียว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

#คำสั่งจังหวัดภูเก็ต #ปิดตำบลกะรน
ที่ 1825 /2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19
พื้นที่ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูก็ต จังหวัดภูเก็ต

 

รายงาน: การซื้ออย่างหวาดกลัว Coronavirus กวาดประเทศจีน เมื่อประชาชนปฏิเสธที่จะเชื่อพรรคคอมมิวนิสต์

การซื้ออย่างตื่นตระหนกได้ปะทุไปทั่วประเทศจีนท่ามกลางความกลัวว่าจะเกิดปัญหาการขาดแคลนอาหารเนื่องจากโคโรนาไวรัส หวู่ฮั่น มีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าประชาชนชาวจีนเพิกเฉยต่อคำแถลงการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) เรียกร้องให้ประชาชนไม่สะสมอาหาร

Reports: Coronavirus Panic-Buying Sweeps China as Locals Refuse to Believe Communist Party

Panic-buying has erupted across China amid fears of a food shortage due to the Wuhan coronavirus, reports stated on Thursday, indicating that Chinese citizens are ignoring the Chinese Communist Party’s (CCP) statements urging people not to stockpile food.

 

#คำสั่งจังหวัดภูเก็ต #ปิดตำบลราไวย์
ที่ 1826 /2563 เรื่อง ปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19
พื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

 

บ้านไพบูลย์ลูกเห็บตกต้นไม้คักโค่นลมแรงหลังคากระเจิง
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา 5/4/63 เกิดเหตุลมฝนกันโชกที่บ้านไพบูลย์ ตำบลบ้านไทร อำเภอประโคนชัย ทำให้ยุงฉางและบ้านเรือนโรงเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายไปหลายหลัง หลังคาปลิวเปิดยุงฉางทำให้ข้าวพันธุ์ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นและลูกเห็บตกอีกด้วย

ขอบคุณภาพข่าวจากแฟนเพจบ้านไพบูลย์

 

..ทำไมอเมริกาถึงได้มี covid-19 ถึง 100,000 เคส กลายเป็น Rank No. 1

ตอนแรกสงสัยเรื่องนี้มาก (จากความคิดเดิมคือ ระบบการแพทย์เมกามันน่าจะสุดยอด guideline หรือ ยาอะไรใหม่ ๆ ก็มาจากที่นั่น) คุยกับเพื่อนที่อเมริกามา 2 คน พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม covid ถึงหนักหน่วงขนาดนั้น

มันมีสาเหตุมาจากความพังในระบบสุขภาพเดิมของเมกา ระบบสุขภาพที่ดูแพงที่สุดในโลก ระบบประกันสุขภาพอเมริกามีความซับซ้อนมาก เช่น เมดิเคท จะคลุมคนรายได้น้อย คนท้อง อะไรงี้ เมดิแคร์ ต้องผู้สูงอายุ 65 ปีถึงใช้ได้ คนที่ทำงานทั่วไปต้องเลือกซื้อประกันที่ Co. กับบริษัทที่ตัวเองทำงาน ได้ยินว่าเบี้ยประกันค่อนข้างแพง

รพ. ในอเมริกาส่วนใหญ่ไม่หวังผลกำไร แต่ แต่ รัฐบาลไม่ได้เข้ามาคุมเรื่องการรักษาโดยตรง โรงพยาบาลจะดีลกับบริษัทประกัน ทำให้ราคา healthcare จะแพงขนาดไหนก็แล้วแต่ตกลงกัน Healthcare ในอเมริกาเป็นระบบ copay นั่นคือ มาที่ รพ. ปุ๊บ ต้องเสียค่าเหยียบโรงพยาบาลก่อน ค่าหมอ ค่ายา ค่าพยาบาลนู่นนี่ บิลจะออกมาตอนกลับบ้าน ซึ่งแม้มีประกันก็ไม่ถูก แต่การมีประกันจะเซฟตรงที่จะมียอดสูงสุดที่เราต้องจ่าย ถ้าเกินนั้นประกันจะออก แต่ยังไงเราก็ต้องจ่ายบ้าง และระบบประกันมีช่องโหว่ จะมีคนบางส่วนที่ไม่เข้าเกณฑ์ทั้ง เมดิเคท เมดิแคร์ และ ประกัน เช่น เป็น ฟรีแลนซ์ แต่รายได้มากกว่าเกณฑ์ ทีนี้มันมี obamacare ออกมา ช่วยครอบคลุมให้

แต่ดวงเมืองปีนี้คงโชคร้าย ปีล่าสุดยกเลิกการบังคับเข้า obamacare ฉะนั้นตอนนี้มีคนไม่มีประกันสุขภาพราว 30% ของประเทศ ทำให้เพิ่งมีข่าววัยรุ่นอายุ 17 ตายจาก covid เพราะไม่มีประกัน เลยไม่ได้รักษาจ้า ไหวมั้ยเนี่ย

1. เมื่อคนไม่มีประกันสุขภาพ แล้วพอป่วย ช่วงแรกๆ เป็น covid อาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ดี ก็ยังไม่ไป รพ. แน่ๆ นั่นคือปัจจัยแรก เพราะถ้าไปเมื่อไร ค่าใช้จ่ายแพงมหาศาล อาจจะล้มละลายตายก่อน covid ฉะนั้น พอป่วยแล้วไม่ไปรักษา (คาดว่าคงไม่ได้กักตัว) เชื้อก็แพร่กระจายออกไป ยิ่งใน New York City เพื่อนบอกว่ามันจะมีย่านที่ไม่ค่อยโอเค ค่อนข้างน่ากลัว อยู่กันแบบชุมชนแออัด แถวๆ Bronx ประชาชนมีสุขอนามัยไม่ดีเท่าไร เชื้อไวรัสเลยแพร่กระจายได้ไวมากกกกก ประกอบกับ

2. เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย แต่ถ้าผู้นำเป็นภัยเอง แล้วเชื่อผู้นำ ชาติก็คงฉิบหายตายกันหมด เริ่มจากท่านผู้นำได้ตัดงบป้องกันโรคไปก่อน และยังไม่พอ ตอนแรกท่านทรัมป์บอกว่า “It’s just a flu”
คนก็แบบเฮ ไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เพื่อนบอกว่าคนเมกันในพื้นที่ชนบท เชื่อประธานาธิบดีมากๆ พูดอะไร เชื่อหมด แล้วอีกอย่างสื่อก็ประโคมข่าวกัน ว่าแบบ It’s just a flu อ่ะ คนก็ไม่ตื่นตัวดิ

3. ความตระหนักรู้ในการป้องกันโรคต่ำมากกกกก ถ้าเคยได้ยินว่าอิตาลีระบาดหนักเพราะคนไม่ใส่ mask ใช้ชีวิตปกติ ไม่กลัวอะไร ที่นี่ก็เป็นแบบนั้นเลย มีแต่คนเอเชียที่ตื่นตัวใส่ mask ฝรั่งยังมองแปลกๆ เหยียดๆอีก

4. ระบบโรงพยาบาล ไม่ได้วางแผนเตรียมว่าจะเกิดแบบนี้ขึ้น ส่วนมากวางแผนไว้กับโรคที่เกิดทุกปี เช่น ไข้หวัดใหญ่ ทำให้อุปกรณ์มีจำกัด ถ้าเกิดเหตุเพิ่มเติมขึ้นมาก็คือพัง โรงพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เงินไปกับเงินเดือนหมอ หรือสนับสนุนงานวิจัยหมดแล้ว ไม่ได้เผื่องบฉุกเฉินตรงนี้ไว้เลย

5. เนื่องจากสหรัฐฯ ชื่อก็บอกแล้วว่า รัฐหลายๆ รัฐ แต่ละรัฐ นโยบายก็ต่างกัน รัฐบาลกลางจะไปยุ่งมากไม่ได้ ระบบรันด้วยเอกชนอีก ยิ่งไปจัดการได้น้อยมาก แถมรัฐบาลกลางก็ไม่ค่อยช่วย อย่างท่านทรัมป์ เหมือนจะไม่ชอบนิวยอร์กบ้ านเกิดท่านเท่าไร (เค้าว่าไม่ใช่ฐานเสียงรีพับลิกัน) ผู้ว่ารัฐนิวยอร์กขอเครื่องช่วยหายใจ 30,000 ตัว ก็ไม่ส่งไปให้จ้าา
เราจะเห็นข่าวที่ตามไปดูชีวิตหมอใน รพ. ที่นิวยอร์ก ตอนนี้เหมือนระบบ healthcare ที่นั่นล่มสลายไปแล้ว น่ากลัวมากจริง ๆ

เพื่อนบอกให้ลองติดตามต่อไปว่าจะไปสุดแค่ไหน เพราะเริ่มมีข่าวเตรียมเปิดเมืองหลังอีสเตอร์ละ (นี่ไม่เข็ดหรอถามจริง)แล้วอีกอย่าง เมืองหนาว โรคจะระบาด 2 พีค คืออาจจะดีขึ้นหน้าร้อน แล้วไปสู่ขิตอีกทีตอนฤดูใบไม้ร่วง อันนี้ตามโมเดลไข้หวัดสเปน

สรุป ทุนนิยมสวยหรู แม่งพา healthcare ประเทศไปได้สุดมาก เราอาจจะชินกับภาพการรักษาอันเลิศเลอ อลังการ เครื่องมือไฮโซ แลปอันใหม่ล่าสุดของโลก และยาสุดล้ำที่บริษัทต่างๆ ประเคนออกมา แต่นั่นแหละ ความจริงก็คือ คนที่เข้าถึงพวกนี้ได้ ก็ไม่ใช่ทุกคน อย่างน้อยต้องมีเงิน มีประกันไฮโซ ซึ่งเบี้ยแพง ขนาดเมกายังมีคนอีก 30% ที่ไม่มีประกันเลย คิดดูสิ

ตอนนี้เริ่มรู้สึกโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย อย่างน้อยเราก็ยังมีสิทธิ์การรักษารองรับ และใช่ว่าคนอเมริกาทุกคนจะมีความฉลาดทางสุขภาพ ดูแลสุขภาพได้ดีซะที่ไหน คนส่วนใหญ่ก็ซีเวียร์พอๆ กับประเทศกำลังพัฒนานั่นแหละ จบ สวัสดี

ล่าสุดท่านทรัมป์ ไม่ให้ lock down New York ก็คือขอให้ชาว New York ทุกคนโชคดี น่ากลัวมากจริงๆ

Cr. โควิคคิดบวก

 

Setiawan

มีการเพิ่มกิจกรรมใน ภูเขาไฟ #Kuchinoerabujima #ประเทศญี่ปุ่น ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนด้วยเถ้าภูเขาไฟ 600m 00:29 JST วันที่ 6 เมษายน2020

There has been an increase in activity on #Kuchinoerabujima Volcano #Japan about an hour ago with plume 600m 00:29 JST April6 2020

 

โควิด 19 คร่าชีวิตแพทย์อินโดฯ 18 ราย เตือนสวมหน้ากากกันคนป่วยไร้อาการ

วันอาทิตย์ (5 เม.ย.) สมาคมการแพทย์อินโดนีเซีย (IDI) เปิดเผยว่าการเสียชีวิตของคณะแพทย์ทั้งหมด 18 คน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ภายในประเทศ

ฮาลิค มาลิค โฆษกสมาคมฯ กล่าวว่าแพทย์กลุ่มดังกล่าวมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก และได้รับการเฝ้าสังเกตอาการในฐานะผู้ป่วย โดยสันนิษฐานว่าพวกเขาติดเชื้อระหว่างทำการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาล

โฆษกสมาคมฯระบุว่าแพทย์และโรงพยาบาลได้พยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลังความสามารถ แม้ขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกัน โดยหวังว่าจะมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อช่วยให้แพทย์ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ วันอาทิตย์ (5 เม.ย.) กระทรวงสาธารณสุขของอินโดฯ รายงานจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้น 181 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 2,273 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 7 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 198 ราย

รัฐบาลอินโดฯ ออกคำสั่งให้พลเรือนสวมหน้ากากผ้าขณะอยู่นอกบ้าน เนื่องจากพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ไม่แสดงอาการของโรคเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ย้ำว่า “ทุกคนต้องสวมหน้ากาก ส่วนหน้ากากเอ็น 95 และหน้ากากทางการแพทย์ให้แพทย์ใช้เท่านั้น”

The post โควิด 19 คร่าชีวิตแพทย์อินโดฯ 18 ราย เตือนสวมหน้ากากกันคนป่วยไร้อาการ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

อธิษฐาน #ด่วน สำหรับผู้คนในเกาะ VANATU ดูตาที่กำหนดไว้อย่างดีของพายุไซโคลนฮาโรลด์ ประเด็นนี้จะกระทบกับเกาะวานาตู ในขณะนี้ยังคงเป็นหมวดหมู่ที่ 4 คาดว่าจะมีฝนตกหนักและมีลมแรง เกาะเล็ก ๆ ที่คุณเห็นทางด้านขวาคือเกาะวานาตู

#URGENT PRAY FOR THE PEOPLE OF VANATU ISLAND Look at the well defined eye of cyclone harold. This point will impact the island Vanatu. At the moment it continues as category 4. Heavy rains and strong winds are expected. That little island that you see on the right side is the vanatu island

 

# บราซิล # Santos # เมือง
2020/04/05

#Brasila #Santos #City
05.04.2020

 

#ประเทศซีเรีย น้ำท่วม สัตว์ตาย

2020/04/05

 

กระแสของความเย็น วันนี้ที่หมู่บ้าน Al-Rumaithi เขตปกครอง Afif ในวันที่ 5/4/2020 ซาอุดิอาระเบีย

Torrents of cold today on the village of Al-Rumaithi, Afif Governorate, in the 5/ 4/2020 Saudi Arabia

 

⚠️ ด่วน ⚠️ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ถูกส่งไปโรงพยาบาลหลังมีไข้สูงจากไวรัส Covid-19 มา 10 วัน แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น...

สำนักงานนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า บอริส จอห์นสัน วัย 55 ปี ที่ได้รับการตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ไปเมื่อสิบวันที่แล้ว ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อเป็นการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพราะอาการไม่ดีขึ้นเลย โดยมิได้มีการเปิดเผยว่าเขาพักอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งไหนในกรุงลอนดอน

นี่ไม่ใช่เรื่องเดียวที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้นำประเทศคนแรกของโลกที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เพราะทางแฟนสาวของ นายบอริส จอห์นสัน ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นก็ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ทำให้มีความกังวลว่าจะกระทบลูกในท้องหรือไม่

เช้านี้ดัชนีหุ้นอังกฤษ FTSE 100 ยังคงเปิดตลาด +1% ตามทางหุ้น Dow Jones ขึ้นไป ยังไม่ได้โดนกระทบจากข่าวนี้ แต่เราก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

และขอเป็นกำลังใจให้ บอริส จอห์นสันและแฟนสาว ายปลอดภัยกลับจากโรคไวรัสนี้โดยเร็วครับ

⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดแบบทันท่วงที แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ ⛔️

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

#OilTradingKP"