ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** อากาศเมืองจีนลำบาก ****

    อากาศเสียตามโปรแกรม
    Screenshot_2020-01-24-19-57-43-1.png
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ผู้ป่วยหวู่ฮั่นเข้าแถวเพื่อรับการรักษา ในขณะที่พวกเขาล้มลง และขอความช่วยเหลือ
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    โดยวิดีโอนี้ พวกเขาลบแพลตฟอร์ม wiebo ที่แสดงความเป็นจริงของโรงพยาบาลหวู่ฮั่นที่ coronavirus เริ่มขึ้นพยาบาลกล่าวว่าบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย อยู่ติดกับผู้เสียชีวิต 3 คนในทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้ป่วย
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,692
    ค่าพลัง:
    +51,931
    Screenshot_2020-01-24-20-00-26-1.png

    จะเชื่ออะไรดี...?
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ประเทศจีนจะปิดการเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของกำแพงเมืองจีนที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของ coronavirus
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ภูเขาไฟ Taal ฟิลิปปินส์ ปล่อยควันสีขาวหนา # 24 ม.ค.

    Filipinas el volcán tall emite humo blanco y espeso #24ene

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    สเปน เรือบรรทุกน้ำมัน LS Christine ท่ามกลางพายุ gloria ใกล้กับตาร์ราโกนา

    España el buque cisterna LS Christine en medio de la tormenta gloria cerca de Tarragona

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150

    เหตุผลอะไร องค์การอนามัยโลกไม่ประกาศไวรัสโคโรนาภัยฉุกเฉิน
    24 มกราคม 2563 - 13:19 น.
    5aigj6ibaecf9d5adab7i.jpg


    องค์การอนามัยโลกประชุมอีกรอบเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนมีมติว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดหนักในเมืองอู่ฮั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน ยังไม่เข้าขั้นที่จะประกาศภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ( public health emergency of international concern - PHEIC) แม้ว่ายอดผู้เสียชีวิตขณะนี้เพิ่มเป็น 26 คน ติดเชื้ออีก 894 คน ในจีน 875 คน ที่เหลือพบที่ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา


    ความเห็นของหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติ มีขึ้นวันเดียวกับที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการหักดิบ ปิดเมืองเพิ่มรวมเป็น 8 เมืองในมณฑลหูเป่ย รวมถึงศูนย์กลางการระบาดอย่างอู่ฮั่น เพื่อยับยั้งไวรัสแพร่ลาม แต่ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนถึงความวิตกขอบข่ายการระบาด

    Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงหลังประชุมว่า “นี่คือสถานการณ์ฉุกเฉินในจีน แต่ยังไม่กลายเป็นความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก” “ไม่มีหลักฐานการแพร่จากคนสู่คนนอกประเทศจีน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดขึ้น”

    ดีดีเยร์ ฮูสซิน ผู้อำนวยการคณะทำงานรับสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO ระบุว่า เสียงในคณะกรรมการ 21 คนเห็นต่างแบบครึ่งต่อครึ่ง ส่วนหนึ่งมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน เพราะจำนวนผู้ป่วยนอกจีนยังจำกัดมาก แต่คณะกรรมการก็พร้อมประชุมทุกเมื่อ หากลงความเห็นว่าจำเป็นต้องปรับการตัดสินใจกันใหม่

    แม้ว่าไม่ได้ประกาศภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ แต่ WHO ก็ขอให้ประเทศสมาชิกวางมาตรการรับมือกับการระบาด และตั้งคณะทำงานนานาชาติสหวิชาชีพสอบสวนไขปริศนาเชื้อไวรัสชนิดนี้ รวมถึงสัตว์ต้นตอที่มาของเชื้อ และลักษณะการแพร่

    Maria Van Kerkhove ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจ แห่งศูนย์สาธารณสุขโลก สถาบันปาสเตอร์ในกรุงปารีส กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกยังกำลังรวบรวมชุดคำแนะนำทางเทคนิคให้กับทุกประเทศ ข้อเสนอแนะเหล่านั้นรวมถึงความจำเป็นที่จะต้องระบุแหล่งที่มาแต่เนิ่นๆ ป้องกันการแพร่ระหว่างคนกับคน และดูแลผู้ติดเชื้ออย่างเหมาะสม

    แม้ว่าเวลานี้ไวรัสใหม่จากอู่ฮั่นแพร่ลามยังเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วจีน ประเทศในเอเชีย และไกลถึงฝั่งตะวันตกสหรัฐอเมริกา แต่องค์การอนามัยโลกไม่แนะนำให้จำกัดการเดินทาง หรือการค้า

    ส่วนการตัดสินใจกักกันเมืองอู่ฮั่น ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกไม่แสดงความเห็น นอกจากระบุว่า จีนเป็นประเทศอธิปไตย และเชื่อว่ากำลังดำเนินมาตรการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

    ส่วน ฮูสซิน ผู้อำนวยการคณะทำงานรับสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า รัฐบาลจีนควรดำเนินนโยบายอย่างโปร่งใส แชร์ข้อมูลกับประชาคมโลก อธิบายการบริหารจัดการความเสี่ยง และเหตุผลและวิธีการทุกอย่างที่นำมาใช้

    ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยบริหารโครงการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า หลายประเทศทั่วโลกอยู่ในสถานะพร้อมรับมือกับไวรัสโคโรนาอู่ฮันได้ดีกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ เพราะเชื้อไวรัสล่าสุด สามารถระบุชนิดได้รวดเร็ว ทำให้การตรวจหารวดเร็ว กระนั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง รวมถึงความร้ายแรงของเชื้อและการแพร่เชื้อ
    อัตราการตายของไวรัสโคโรนาพันธุ์ใหม่ หรือ 2019-nCoV จนถึงขณะนี้ ยังต่ำกว่าโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส ) และโรคเมอร์ส ที่เกิดจากไวรัสตระกูลเดียวกัน แต่การระบาดยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ยังไม่อยู่ในสถานะที่จะพูดได้ว่าการระบาดถึงขีดสุดแล้ว

    https://www.komchadluek.net/news/foreign/412526?utm_source=tiein&utm_medium=internal_referral
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จ.นครพนม เริ่มเป็นที่แรกที่โดนพายุลูกเห็บพัดถล่ม ในปี2563นี้ ซึ่งทางกรมอุตุนิยมฯได้ประกาศเตือนทางตอนบนของไทยให้ระมัดระวังพายุฝนฟ้่าคะนองในช่วงนี้ เริ่มจากภาคอีสานก่อน....
    ค่ำของวันนี้ 24 มกราคม 2563
    เมื่อเวลา 16.30 น. เกิดเหตุวาตภัยฝนตกฟ้าคะนอง มีพายุลูกเห็บถล่มในพื้นที่ บ้านศรีเวินชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เครดิตภาพโดย : เฝ้าระวังน้ำสกลนคร
    เครดิีตข้อมูล เครือข่ายเพื่อนเตือนภัยจังหวัดขอนแก่น
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เช้าวันนี้ 24มค.63 ดาวเทียมยังจับจุดที่มีการเผาอยู่ โดยเฉพาะจุดที่บริเวณจ.เชียงใหม่โซนใต้ และจ.ลำพูน มีการเผามาก..
    โดยทางราชการจะมีมาตรการกวดขันจับกุมอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบจับขังดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด มีตัวอย่างให้เห็นแล้วหลายแห่ง
    จึงขอเตือนงดการเผาโดยเด็ดขาด....
    จ.เชียงใหม่มีประกาศห้ามเผาฯ ไปแล้วก่อนจังหวัดอื่น แต่ก็ยังพบจุดความร้อนมากถึง 77 จุด และมีการจับกุมดำเนินคดีแล้วหลายราย....
    .
    .
    .
    .
    .
    เครดิตภาพ เพจWEVO สื่อสู้ฝุ่น
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สองสามวันก่อน เพื่อนที่พม่าก็เพิ่งโพสว่า มีเที่ยวบินมาจากอู่ฮั่นมาลงที่ย่างกุ้งแล้วเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยออกไปโดยไม่ได้ตรวจสอบเลย
    ....
    คุยกับท่านอัครฯ ว่าอินโดฯ โชคดียังไม่เจอ เพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่มากนัก ถ้าจะเจอก่อนก็คงเป็นบาหลี วันนี้มาเลย 2 ราย โดนกักรอดูอาการ ถ้าใช่ก็เตรียมปิดเกาะ
    ....
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพิ่มเติมครั้งที่ 5 เฝ้าระวังระดับ 1 (สูงสุด)
    ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ติดตามสถานการณ์การโรคปอดอักเสพขั้นรุนแรงระบาด ในประเทศจีน ต่อเนื่อง
    /// ใช้มาตรการขั้นสูงสุด ปิดเมืองไปแล้ว 12 เมือง 20 จังหวัด ห้ามเข้าออกทุกเส้นทาง
    ** ประมาน 70 ล้านคน**
    // เสียชีวิตแล้ว 26 ราย
    / ติดเชื้อรวมต่างประเทศ 1050 ราย
    / กักตัวเฝ้าระวังพิเศษ 1500 ราย
    //ทางการประกาศให้ ประชาชนอยุ่ในพื้นที่เสี่ยง อยุ่ในบ้าน 14 วัน
    //ประเทศที่พบการติดเชื้อ
    ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐ ออสเตรเลีย ไต้หวัน มาเก๊า สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง
    // สั่งสร้าง รพ.พิเศษสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 เตียง สำหรับ #coronavirus โดยได้อ้างอิงตามรูปการจัดการกับ SARS ในปี 2003 โดยการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 3 กพ.นี้
    // จีนเปิดใช้ระบบ 5 G เต็มรูปแบบให้ทีมแพทย์ เพื่อประสานการช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ
    // จีนตั้งทีมรถแท๊กซี่พิเศษ 6000 คัน ในการรับส่งยาไปให้ผู้ป่วยตามบ้าน
    / องค์การอนามัยโลกอยุ่ระหว่างประเมินสถานการณ์ การประกาศเป็นโรคระบาด / ห้อง 61 และ 62
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถึงเวลานายกฯต้องออกมาสูดฝุ่น PM2.5 ด้วยตัวเอง! และส่องมาตรการรับมือนานาชาติ ใช้วิธีไหนสู้ฝุ่นพิษได้ผลที่สุด?
    โดย: โพสต์ทูเดย์ www.posttoday.com และ www.salika.co
    รัฐบาลนานาประเทศล้วนออกมาตรการต่อสู้กับฝุ่น PM 2.5 กันอย่างเอาจริงเอาจัง อาทิ เกาหลีใต้ เพียงฝุ่นเกินมาตรฐาน 2 วันติดกันผู้นำประเทศก็เรียกประชุมฉุกเฉินทันที
    คนไทยต้องรับมือกับปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เป็นปีที่สองแล้ว และปีนี้ทำท่าว่าจะหนักหนาสาหัสกว่าเมื่อปีก่อน ซ้ำยังขยายไปตามต่างจังหวัดอีกหลายจังหวัด จนเรียกได้ว่าเจอฝุ่นกันแทบจะทั้งประเทศแล้ว วันนี้ (อังคารที่ 21 ม.ค. เวลา 17.00 น.) ค่าฝุ่นละอองแบบเรียลไทม์ของกรุงเทพอยู่ที่ 153 ระดับสีแดง ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
    ในขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งต้องดิ้นรนหาหนทางป้องกันตัวเองทั้งสวมใส่หน้ากากอนามัย ทั้งซื้อเครื่องฟอกอากาศมาติดตั้งที่บ้าน แต่อีกส่วนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นส่วนใหญ่ยังไม่สวมหน้ากากอนามัย รัฐบาลกลับยังนิ่งเฉย ไม่มีแผนรับมือไม่ว่าจะเป็นระยะสั้น หรือในระยะยาวอย่างมาตรการป้องกันแก้ไขไม่ให้สถานการณ์แย่ลงหรือกลับมาเยือนชาวไทยซ้ำในปีหน้า
    และในขณะที่ค่าฝุ่นละอองของไทยเป็นสีแดงและส่อเค้าจะรุนแรงขึ้น รัฐบาลกลับปิดบังความจริงด้วยการส่งโฆษกรัฐบาลมาบอกไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก หนำซ้ำยังยืนยันว่าสถานการณ์ดีขึ้น ทั้งๆ ที่สถิติชี้ไปในทางตรงกันข้ามอย่างชัดเจน
    นอกจากนี้ โฆษกรัฐบาลยังแนะนำให้ประชาชนเชื่อข้อมูลในแอพพลิเคชั่น Air4Thai ที่พัฒนาโดยกรมควบคุมมลพิษเพื่อให้แสดงข้อมูลเฉลี่ยของฝุ่นละอองในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แทนที่จะตรวจสอบจากดัชนี AQI ที่รายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์
    การได้รับข้อมูลฝุ่น PM 2.5 แบบเรียลไทม์จะช่วยให้ประชาชนวางแผนการทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หากช่วงเช้าฝุ่นหนาแน่นไม่เหมาะกับการทำกิจกรรมนอกบ้าน อาจสลับการออกกำลังกายในตอนเช้าไปเป็นช่วงอื่นที่อากาศดีกว่า เป็นต้น
    ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอยากบอกรัฐบาลว่าการบอกความจริงไม่ได้ทำให้เกิดความแตกตื่นหรือตื่นตระหนก กลับกันความจริงจะทำให้คนไทยตระหนักว่าสถานการณ์ฝุ่นตอนนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ควรป้องกันตัวเองได้แล้ว แต่โฆษกรัฐบาลกลับบอกว่าสถานการณ์ดีขึ้น เลยกลายเป็นว่าคนเดินถนนส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย เพราะคิดว่าฝุ่นยังไม่รุนแรง
    อย่างน้อยด้วยข้อมูลที่มีอยู่ในมือ รัฐบาลสามารถส่งข้อความเข้าสมาร์ทโฟนเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นสีแดงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านหรือสวมหน้ากากอนามัย
    ยกตัวอย่างกรณีของเกาหลีใต้ เพียงแค่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพียง 2 วันติดกันเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว รัฐบาลก็เรียกประชุมด่วนพร้อมออกมาตรการฉุกเฉินมาเป็นพรวน ในระยะสั้นคือประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ภายในอาคารบ้านเรือน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวและเด็ก และหากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งส่งข้อความเตือนผ่านแอพพลิเคชั่น
    การสื่อสารเบื้องต้นเช่นนี้จะทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่ารัฐบาลใส่ใจกับสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เอาแต่นิ่งเฉย ปล่อยให้ประชาชนหาทางแก้กันเอง
    ส่วนระยะยาวนั้นเกาหลีใต้ยังออกมาตรการตามมาอีกมากมาย อาทิ ประกาศภัยพิบัติทางสังคม (social disaster) เพื่อนำงบประมาณฉุกเฉินออกมาอุดหนุนการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงในห้องเรียน และสนับสุนการใช้รถที่ใช้เชื้อเพลิงแอลพีจี
    นอกจากนี้ ยังห้ามรถยนต์ที่ไม่จำเป็นขับเข้าถนนในกรุงโซลและเมืองใหญ่ๆ อีก 6 เมืองแบบวันเว้นวัน ห้ามรถยนต์ดีเซลรุ่นเก่าวิ่ง ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน 6 แห่งภายในปี 2021 และหากฝุ่นหนาแน่นในระดับที่ “ควรระวัง” หรือ “อันตราย” ห้ามรถยนต์ของข้าราชการและพนักงานของสถาบันของรัฐขับเข้ากรุงโซลและเมืองหลัก เป็นต้น
    เกาหลีใต้ยังนำเทคโนโลยีอย่างโดรนที่พัฒนาโดยสถาบันวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่ติดกล้องวิดีโอและเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณฝุ่นและก๊าซที่โรงงานอุตสาหกรรมปล่อยออกมา รวมทั้งบินตรวจวัดคุณภาพอากาศในบริเวณที่มีมลพิษ โดยเตรียมใช้ทั่วประเทศเร็วที่สุดราวต้นปีหน้า
    ขณะที่รัฐบาลของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ประกาศสงครามกับฝุ่นอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2013 ไม่ว่าจะเป็นการลดมลพิษจากรถยนต์ เช่นการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการปล่อยมลพิษ ตรวจจับรถควันดำ กำหนดให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จำหน่ายหลังเดือน ก.ค. 2021 ติดตั้งอุปกรณ์กรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล (DPF) รวมทั้งการสั่งปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินและขอความร่วมมือให้ประชาชนเปลี่ยนจากถ่านหินมาใช้ก๊าซธรรมชาติหรือไฟฟ้าในการทำความร้อนในฤดูหนาว
    7 ปีผ่านไปมาตรการของจีนเริ่มเห็นผลชัดเจน จากรายงานของทางการจีน เมื่อปี 2019 ค่า PM 2.5 ในกรุงปักกิ่งลดลงถึงระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มตรวจวัดเมื่อปี 2013 จาก 89.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็น 42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือลดลง 53%
    ด้านกรุงลอนดอนของอังกฤษ รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษและมีอายยุการใช้งานมานานจะต้องจ่ายเงินวันละ 12.50 ปอนด์ หรือราว 495.42 บาท หากขับเข้าไปในเขตใจกลางกรุงลอนดอน เพื่อเป็นค่าชดเชยที่สร้างมลพิษให้กับเมืองหลวง หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ 160 ปอนด์ หรือราว 6,340.36 บาท
    ส่วนกรุงปารีสของฝรั่งเศสห้ามรถยนต์วิ่งในวันอาทิตย์ตั้งแต่ 09.00-16.00 น. ในกรุงปารีสและสถานที่สำคัญ อาทิ ย่านช็องเซลิเซ ตามด้วยการปิดถนนบริเวณช็องเซลิเซระยะทาง 1.9 กิโลเมตรทุกๆ วันอาทิตย์แรกของเดือน ตามนโยบาย Paris Respire (ลมหายใจปารีส) ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 2016
    ตรงข้ามกับรัฐบาลไทยที่ยังนั่งแก้ปัญหาอยู่บนหอคอยงาช้าง ความพยายามของรัฐบาลที่ย้ำว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่น่ากังวลยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะคนในรัฐบาลที่นั่งทำงานในห้องแอร์เย็นฉ่ำ มีเงินเหลือเฟือจะซื้อเครื่องกรองอากาศไปไว้ที่บ้าน ไม่มีทางเข้าใจความเดือดร้อนของผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นคนนั่งรถเมล์ควันดำที่รัฐบาลตรวจแล้วไม่พบเกินมาตรฐาน คนเดินถนน หรือพ่อค้าแม่ขายที่ต้องสูดเอาควันพิษเข้าปอดทุกวัน วันละหลายๆ ชั่วโมง
    หากต้องการทราบสถานการณ์ฝุ่นควันที่แท้จริง นายกรัฐมนตรีหรือผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลควรจะลงมาดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง ลองใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่นั่งรถเมล์ฝ่ารถติดท่ามกลางอากาศร้อนไปทำงาน อย่างน้อยจะได้เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ต้องเผชิญฝุ่นกันอย่างไร
    อีกอย่างหนึ่งคือเพื่อเป็นการแสดงภาวะความเป็นผู้นำและเป็นขวัญกำลังใจว่าผู้นำประเทศก็ให้ความสำคัญและใส่ใจปัญหาของประชาชน เพราะขณะนี้คนไทยสูญเสียความเชื่อมั่นในการรับมือฝุ่น PM 2.5 ไปแล้ว เนื่องจากยังไม่เห็นมาตรการแก้ปัญหาจากรัฐบาลเลย
    นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยที่กันฝุ่น PM 2.5 ได้เริ่มขาดตลาดในบางร้าน ไม่ต่างจากปีที่แล้วที่ขาดตลาดลามไปถึงญี่ปุ่น เพราะคนไทยพากันไปเหมากลับมาใช้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าสำหรับบางคนราคาของอุปกรณ์ป้องกันชีวิตชิ้นนี้ยิ่งเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ต้องจำกัดจำเขี่ยอยู่แล้ว
    ไม่เพียงเท่านั้นในขณะที่รัฐบาลแทบทุกประเทศจะเตือนว่าให้เด็กและผู้ที่มีโรคประจำตัวหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้งสั่งให้โรงเรียนยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้ง แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนผู้ว่าฯ กทม. กลับมีคำสั่งให้โรงเรียนใน กทม.ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีหลังเคารพธงชาติ ทั้งๆ ที่ขณะนี้นักเรียนในหลายโรงเรียนยังต้องเข้าแถวเคารพธงชาติกลางแจ้งตามปกติกลางฝุ่นที่ปกคลุมหนาทึบ
    หากไม่มีการยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงกลางแจ้งชั่วคราว นั่นหมายความว่าลูกหลานของคนไทยต้องยืนสูดฝุ่นควันพิษนานขึ้น
    ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ Proceedings of the National Academy of Sciences พบว่าการได้รับมลพิษทางอากาศ รวมทั้งฝุ่น PM 2.5 มีผลต่อระบบความจำและสมาธิของเด็ก และจะส่งผลเสียต่อสมองของเด็กคนนั้นไปตลอดชีวิต
    หากทางการมองว่ากิจกรรมหน้าเสาธงเพื่อแสดงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นี้จำเป็นอย่างยิ่งยวด อย่างน้อยก็ควรเปลี่ยนมาทำในร่มที่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด เพราะสุขภาพของคนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติก็สำคัญไม่แพ้กัน หากประชากรไม่มีคุณภาพ ชาติคงไม่อาจเจริญไปได้
    _________________________________________________
    ส่องมาตรการรับมือ ‘ปัญหาฝุ่น PM 2.5’ ที่นานาชาติใช้ วิธีไหนสู้ฝุ่นพิษได้ผลที่สุด
    By Praornpit Katchwattana www.salika.co
    ‘ปัญหาฝุ่น PM 2.5’ ก่อตัวเป็นปัญหาใหญ่คุกคามชีวิตคนเมืองอีกระลอกแล้ว โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ ได้ออกรายงานแจ้งเตือนว่า วันที่ 16 มกราคม ค่าฝุ่นอาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิดมากที่สุดในรอบเดือนนี้ โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่มีการจราจรหนาแน่น อาจจะมีการสะสมของฝุ่นและมลพิษที่สูงเป็นพิเศษ
    ปรากฏว่า สภาพอากาศเป็นดังรายงานแจ้งเตือน ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โดยรายงานว่า ผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เวลา 07.00 น. พบว่าเกินค่ามาตรฐานจำนวน 7 พื้นที่ คือ เขตดินแดง เขตบางเขน เขตวังทองหลาง เขตคลองเตย เขตหลักสี่ เขตพระนคร และเขตบางคอแหลม โดยตรวจวัดได้ในช่วง 33-87 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากค่า PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    มาในวันนี้ สถานการณ์ฝุ่นพิษคุกคามเมืองยังคงย่ำแย่ คนเมืองไม่น้อยเริ่มมีอาการเจ็บป่วยด้านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหลายฝ่ายก็ไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาทางแก้ไขและบรรเทาวิกฤตนี้ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
    อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นไอเดียและแนวทางในการแก้ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในไทย วันนี้เราจึงขอรีวิว Success case ที่นานาชาตินำมาปรับใช้แก้ไขปัญหาฝุ่นมลพิษอย่างได้ผล
    @ จีน พลิก ‘ปัญหาฝุ่น PM 2.5′ เป็นโอกาส รับมือวิกฤตฝุ่นอย่างสร้างสรรค์ ครบทุกมิติ
    หากจะต้องศึกษาวิธีรับมือกับวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ประเทศจีน ดูจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆที่เป็นตัวอย่างที่ดีของการพลิกปัญหา ฝุ่น PM 2.5 เป็นโอกาส พัฒนานวัตกรรมใหม่ รับมือวิกฤตฝุ่นอย่างสร้างสรรค์ แบบครบทุกมิติ
    โดยการวิเคราะห์ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในจีน พบว่ามีสาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด นำมาซึ่งปัญหามลพิษทางอากาศ ทั้งที่เกิดจากการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมการผลิต การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การขยายตัวของพลเมือง ทำให้เกิดความแออัด การจราจรติดขัด และกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ของจีนที่ล้วนมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกแทบทั้งสิ้น
    ด้วยเหตุนี้ ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา จีนจึงประกาศสงครามกับปัญหาหมอกควันและฝุ่นพิษแบบตาต่อตาฟันต่อฟันมาโดยตลอด ชนิดที่วางแผนว่าจะใช้งบประมาณราว 2 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท เพื่อลดปัญหาหมอกควันให้ได้
    เฉพาะที่ ปักกิ่ง แค่เมืองเดียว ทางการจีนก็เตรียมโครงการลดปัญหาหมอกควันภายใน 5 ปี ไว้มากถึง 81 โครงการ โดยมีโครงการเด่นๆ ที่ได้ลงมือทำและเกิดผลดีทั้งในระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ ที่ประเทศไทยควรศึกษาไว้เป็นต้นแบบ ดังนี้...
    *โฟกัสที่ตัวการ ลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ ทั้งระบบ
    ทางการจีนประกาศสงครามต่อสู้กับฝุ่น PM 2.5 โดยโฟกัสไปที่การลดมลพิษที่ปล่อยจากรถยนต์ในเมืองใหญ่ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็น การปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ดีขึ้น การตรวจสอบการปล่อยไอเสียให้ได้ตามมาตรฐาน
    และด้วยการดำเนินมาตรการอย่างจริงจัง ทำให้จีนซึ่งมีปัญหามลพิษติดอันดับต้นๆ ของโลก สามารถลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในปี 2018 ลง 9.3%YOY เหลือ 39 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยใช้มาตรการหลักในการเพิ่มคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ปล่อยซัลเฟอร์ได้ไม่เกิน 10 ppm จากเดิม 50 ppm
    และล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2018 จีนได้ออก China VI emission standard กำหนดให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วางจำหน่ายในตลาดหลังเดือนกรกฎาคม 2021 จะต้องติดตั้งเครื่องกรองฝุ่นจากดีเซล (Diesel Particulate Filters: DPF) ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปล่อย PM 2.5 จากรถบรรทุกได้มากถึง 82% ภายในปี 2030
    ส่วนในเมืองใหญ่ของจีนได้ออกมาตรการลดมลพิษของตัวเองเช่นกัน เช่น ปักกิ่งห้ามรถบรรทุกดีเซลที่ไม่ผ่านมาตรฐานการปล่อยไอเสียวิ่งเข้าถนนวงแหวนที่ 6 ของปักกิ่ง และกวางโจวกำลังพิจารณาห้ามรถบรรทุกต่างๆ วิ่งเข้าในตัวเมือง ส่วนรถอื่นๆ ให้ใช้ระบบป้ายทะเบียนเลขคู่-เลขคี่ ในวันที่มีการประกาศแจ้งเตือนมลพิษทางอากาศเข้าสู่ระดับสูงสุด เป็นต้น
    *หาญกล้า ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินชั่วคราว เพื่อลดฝุ่นจากภาคอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าให้ได้
    จากบทความของ ภากร กัทชลี เจ้าของเพจอ้ายจง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตี้ยน เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ได้เขียนถึงความตั้งใจในการลดมลพิษจากอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าให้ได้ ด้วยการปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินว่า ประเทศจีนในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็นมาก หลายพื้นที่อุณหภูมิติดลบ บางแห่ง -20 -30 ก็มี -43 องศาเซลเซียส ก็มีมาแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ต้องการสำหรับคนจีนในช่วงฤดูหนาวคือ “ฮีตเตอร์ระบบทำความร้อน” โดยตามเมืองทางเหนือของจีน ทางการจีนจะปล่อยความร้อนผ่านทางระบบทำความร้อนสาธารณะไปยังเครื่องทำความร้อนที่ติดตั้งตามอาคารบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งปล่อยออกมาเป็นน้ำร้อนผ่านทางท่อ คล้ายท่อประปา
    สำหรับเมืองไหน หรือบ้านเรือนไหนไม่มีระบบทำความร้อนสาธารณะ และทนหนาวไม่ไหวก็ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาปล่อยความร้อนให้กับเราแทน เช่น ฮีตเตอร์แบบใช้พลังงานไฟฟ้า การเปิดเครื่องปรับอากาศแบบโหมดทำความร้อน ทำให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกในช่วงฤดูหนาว และเบื้องหลังของพลังงานไฟฟ้า พลังงานความร้อนในจีนก็ล้วนมาจากถ่านหินทั้งนั้น ซึ่งพี่จีนของเราเป็นประเทศที่มีการใช้ถ่านหินมากที่สุดในโลก
    แม้จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีแผนปรับลดใช้ถ่านหินไปแล้วแต่สุดท้ายก็กลับมาใช้ในปริมาณมากอยู่ดี เพราะในอุตสาหกรรมต่างๆ ของจีน ก็ยังต้องพึ่งพาถ่านหิน ซึ่งการใช้ถ่านหิน จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดปัญหาควันพิษในจีน ยิ่งเข้าช่วงฤดูหนาว ยิ่งใช้เยอะ เพื่อนำมาทำไฟฟ้าและความร้อนนี่เอง เป็นสาเหตุให้ทางจีนจะสั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมในเมืองที่มีปัญหาหมอกควันเป็นการชั่วคราว แต่ก็ไม่ใช่ว่าปิดหมด เพราะในบางอุตสาหกรรมก็ยังจำเป็นในการผลิตสินค้า-ผลผลิตต่างๆ โดยทางการจีนยังมีคำสั่งปิดเหมืองถ่านหินกว่า 1,000 แห่ง ในปี 2016 โดยส่วนใหญ่จะเป็นเหมืองขนาดเล็กและเหมืองที่เปิดมานาน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่ค่อยๆ ลดการใช้ถ่านหินของจีนลง
    *พัฒนาแอปพลิเคชันตรวจเช็คสภาพอากาศ มอนิเตอร์ไปที่ภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก
    แน่นอนว่าการสร้างแอปพลิเคชันรายงานสภาพอากาศ หรือตรวจเช็คปริมาณมลพิษในอากาศ อาจไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่เพราะประเทศอื่นก็ใช้กัน แต่บริบทที่จีนได้ออกแบบแอปพลิเคชันรายงานสภาพอากาศ นับเป็นการนำเสนอผลลัพธ์ในอีกแง่มุมที่น่าสนใจและน่าศึกษาไม่น้อย
    เพราะในเมื่อตัวการที่ก่อปัญหาฝุ่นควันพิษในอากาศที่สำคัญ คือ ภาคอุตสาหกรรม ดังนั้น จึงควรมีแอปพลิเคชันเฉพาะ เพื่อตรวจเช็คสภาพอากาศ ควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยควันเสีย และเมื่อแอปนี้ตรวจเช็คเจอฝุ่นหรือควันเสียเกินปริมาณที่กำหนดก็ต้องมีบทลงโทษทางกฎหมายด้วย
    แต่อย่างไรก็ตาม การสร้างแอปพลิเคชันทำนองนี้และนำไปบังคับใช้ ก็พบว่ามีปัญหา เพราะโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ตรวจพบการกระทำผิด ผลในการบังคับใช้จึงไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่จำเป็นต้องทำ ต้องต่อสู้และรณรงค์เพื่อให้มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ และสามารถบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศในระยะยาวต่อไป
    *ผลักดันให้พลเมืองเปลี่ยนมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า
    ยานยนต์ทางเลือก ถูกผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติที่ไม่เพียงสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัย ไฮเทคโนโลยี ให้จีนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยลดปริมาณฝุ่นพิษด้วยการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองใหญ่อย่างได้ผลด้วย
    ยืนยันได้ด้วยผลสำเร็จที่เห็นเด่นชัดในเมืองใหญ่อย่างเซินเจิ้น ที่มีการผลักดันให้ทุกภาคส่วนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยกเครื่องรถบัสโดยสารให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEVs) ทั้งหมด ซึ่งเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ ดำเนินรอยตาม ขณะที่ยานยนต์ลูกผสมอย่างรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs) ก็กำลังหายไปจากท้องถนนในจีนอย่างรวดเร็ว
    นอกจากนั้น หากอ้างอิงตามข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยว่าจีน พบว่ามียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงขึ้นถึง 800,000 คัน ในปี 2017 นับว่าเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดด จากในปี 2014 ที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 100,000 คัน เท่านั้น
    อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทางรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาและสร้างแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายว่าจะทำให้รถ BEVs วิ่งได้ไกลเกิน 160 กิโลเมตร (100 ไมล์) ต่อการชาร์จแบต 1 ครั้ง
    ควบคู่ไปกับการรองรับการขยายตัวของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ โดยจีนตั้งเป้าเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะให้ได้ 500,000 จุด ภายในปี 2020 โดยเน้นติดตั้งสถานีชาร์จฯเพิ่มตามเมืองใหญ่ต่างๆ เพราะยิ่งมีจุดชาร์จแบตกระจายไปทั่วมากเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดใจผู้ใช้รถให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
    @ เกาหลีใต้ ประกาศสงครามกับฝุ่นพิษทุกทาง เทคโนโลยี นวัตกรรม ประชาชน Key success สู่ชัยชนะ
    ในทวีปเอเชีย อีกประเทศหนึ่ง ที่เผชิญกับกับวิกฤตฝุ่น PM 2.5 อย่างหนัก คือ ประเทศเกาหลีใต้ โดยเมื่อช่วงต้นปี 2019 ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ปกคลุมทั่วทั้งเกาหลี จนเกินค่ามาตรฐาน (75 มคก. ต่อ ลบ.ม.) ซึ่งในครั้งนี้ถึงขั้นที่รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศมาตรการฉุกเฉินทั่วประเทศ เพื่อทำสงครามกับ ฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจัง
    โดยมาตรการที่ดินแดนโสมขาว เลือกมาใช้ เพื่อลดปริมาณฝุ่นพิษในประเทศอย่างจริงจัง มีหลายรูปแบบไม่แพ้ประเทศจีน และบางมาตรการมีความน่าสนใจและนำมาปรับใช้กับการรับมือฝุ่นพิษในประเทศไทยได้ไม่ยาก
    เริ่มจาก มาตรการห้ามรถยนต์ดีเซลรุ่นเก่าวิ่ง โดยเฉพาะในช่วง 4 เดือนในฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูที่ฝุ่นพิษหนาแน่นที่สุด และจำเป็นต้องใส่ใจคุณภาพอากาศเป็นพิเศษ ควบคู่ไปกับการขึ้นภาษีรถใหม่ และปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินชั่วคราวเพิ่มขึ้น ซึ่งมาตรการนี้มีเหตุผลไม่ต่างกับที่ทางการจีนทำ
    เพราะในปัจจุบันมีรถยนต์ถึงประมาณ 1.14 ล้านคัน ที่จัดอยู่ในกลุ่มเกรด 5 ซึ่งแย่ที่สุดในระบบแบ่งระดับปล่อยไอเสียของเกาหลีใต้ และส่วนใหญ่เป็นรถเก่าเครื่องยนต์ดีเซล โดยรุยนต์ในกลุ่มนี้เองที่จะไม่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนถนนในกรุงโซล และจังหวัดคยองคี ที่อยู่ใกล้เมืองหลวง ตลอดจนเมืองต่างๆ ที่มีประชากร 5 หมื่นคนขึ้นไป ในช่วงธันวาคมถึงมีนาคม นอกจากนี้ คณะทำงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยังจะปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตรถยนต์ประเภทนี้ เพื่อกระตุ้นผู้บริโภคให้เลิกใช้ถาวร
    ขณะเดียวกัน รัฐสภาเกาหลีใต้ยังได้ผ่านร่างกฎหมายการจัดการมลพิษทางอากาศ หลังจากที่เกาหลีใต้เผชิญกับความรุนแรงจากมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และ PM.10 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนมีการระบุว่า ปัญหา ฝุ่น PM.2.5 เป็น “หายนะของสังคม” และเป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน รวมถึงภาคประชาชนจะต้องร่วมมือกันหยุดยั้งหายนะนี้ให้ได้
    และมีอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทางเกาหลีใต้ ใช้สู้กับฝุ่น นั่นคือ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น โดรนพัฒนาโดยสถาบันวิจัยสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกอบไปด้วยกล้องวิดีโอและเซ็นเซอร์ที่สามารถจับและวัดปริมาณฝุ่นและก๊าซที่ผลิตจากโรงงานที่ผลิตเกินมาตรฐาน โดยทางเกาหลีมุ่งหวังใช้ในทั่วประเทศอย่างรวดเร็วที่สุดในช่วงต้นปีหน้า
    นอกจากนั้น บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ อย่าง KT เจ้าของโครงการ Air Map Korea ก็กำลังพัฒนานวัตกรรมเช่นกัน โดยกำหนดเป้าหมายในการใช้ AI และ IoT เสริมประสิทธิภาพเครื่องฟอกอากาศและโรงฟอกอากาศ ให้เป็นเครื่องมือช่วยลดมลพิษ เมื่อระดับมลพิษสูงขึ้นหรือลดลง
    @ รับมือฝุ่น PM.2.5 ในแบบฉบับของชาวยุโรป
    ด้วยสาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศในยุโรปคือ การคมนาคมทางบก การจราจรบนถนน ที่ปล่อยสารพิษ เช่น ไนไตรเจนออกไซด์ รวมทั้งฝุ่นจิ๋ว (PM) สาเหตุรองลงมาคือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตร การผลิตพลังงาน ภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน
    โดยฝุ่นจิ๋วหรือ PM, ไนโตรเจนออกไซด์ และโอโซนในระดับต่ำ (O3) เป็นอันตรายต่อสุขภาพคนมากที่สุด และความหนาแน่นของมลพิษยังคงสร้างผลกระทบในยุโรป โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในเขตเมืองที่ผ่านมา หลายเมืองใหญ่ในยุโรป จึงตอบสนองกับวิกฤตฝุ่น PM.2.5 ด้วยวิธีต่างกัน แต่การันตีว่าได้ผลดีไม่ต่างกัน
    *แก้ปัญหามลภาวะในกรุงลอนดอน มุ่งไปที่การคมนาคมในเมือง
    นับตั้งแต่ปี 2546 ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษ ยังสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศอังกฤษได้ แต่เจ้าของรถจะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 1,150 ปอนด์ หรือ 46,919 บาทต่อวัน เป็นการตอบแทนที่สร้างมลพิษให้กับเมือง หรือถ้าฝ่าฝืนไม่จ่าย จะมีกล้องสังเกตการณ์จะมีการบันทึกเลขทะเบียนยานพาหนะเอาไว้ ทำให้เจ้าของรถต้องไปเสียค่าปรับ และถ้าหากเสียค่าปรับช้า จำนวนค่าปรับจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยระบบเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะบังคับใช้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 7.00 – 18.00 น. นับตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์
    แต่อย่างไรก็ดี แม้จะมีมาตรการนี้ออกมา ชาวลอนดอนก็ยังต้องหายใจเอาฝุ่นละอองระดับ 2.5 เข้าไปอยู่ดี เพราะที่มาของฝุ่นขนาด 2.5 นั้น มาจากฝุ่นของยางและเบรกรถยนต์ ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นการใช้รถพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน
    กรุงลอนดอน จึงมุ่งมั่นในการเพิ่มจำนวนการใช้รถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และปรากฏข้อมูลว่าในช่วงสิ้นปี 2560 ที่ผ่านมา ลอนดอนกลายเป็นเมืองที่มีรถประจำทางไฟฟ้ามากที่สุดในยุโรป
    เพราะขณะนี้ กรุงลอนดอนมีแผนงานว่าจะแปรสภาพรถประจำทางชั้นเดียวให้เป็นรถประจำทางพลังงานไฟฟ้าให้ได้จำนวน 300 คัน ภายในสิ้นปี 2563 เป็นอย่างช้า และจะแปลงรถประจำทาง 2 ชั้นทั่วทั้งกรุงลอนดอนให้กลายเป็นรถประจำทางพลังงานไฮบริด (พลังงานผสมระหว่างน้ำมันและไฟฟ้า)
    ไม่เพียงเท่านั้น นายกเทศมนตรีลอนดอนได้ประกาศด้วยว่า ทางด่วนเส้นที่ 4 ของกรุงลอนดอนนั้นถือว่าเป็นทางด่วนเส้นแรกที่จะมีเลนสำหรับจักรยานเข้าสู่กรุงลอนดอน และช่วยเพิ่มการปั่นจักรยานได้ถึงร้อยละ 70
    ลดฝุ่น วิธีลดฝุ่น
    *ที่เยอรมนี ขึ้นรถสาธารณะฟรี หวังลดปริมาณมลพิษจากรถยนต์ส่วนตัว
    ที่เยอรมนี ไม่ใช่แค่ให้ประชาชนขึ้นรถสาธารณะฟรีในวันที่มีฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐานเท่านั้น ยังมีการพิจารณาให้ประชาชนได้ใช้ฟรีตลอดไปอีกต่างหาก โดยล่าสุด Barbara Hendricks รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ตั้งใจจะผลักดันโครงการรถสาธารณะฟรีเพื่อลดปัญหามลภาวะทางอากาศภายในปี 2018 นี้ โดยจะนำร่องใน 5 เมืองสำคัญ อย่างเมือง Bonn, เมือง Herrenberg, เมือง Reutilngen, เมือง Essen และเมือง Mannheim ซึ่งตอนนี้ วาระนี้กลายเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษให้กับเมือง โดยมุ่งหวังให้ประชาชนหันหลังให้รถส่วนตัวแล้วกลับมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด
    นอกจากนั้น ในกรุงเบอร์ลิน ยังมีมาตรการอื่นเพื่อรับมือกับปัญหาฝุ่นพิษด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังเหมือนอีกหลายประเทศ โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา มีการสร้างจุดชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถพลังงานไฟฟ้ามากกว่า 400 จุด และมีการตั้งจุดสำหรับเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้กับรถยนต์อีก 4 จุด
    ขณะที่ภูมิทัศน์ของถนนในกรุงเบอร์ลินนั้น ก็ได้รับการออกแบบมาอย่างดีให้เอื้อกับการใช้รถจักรยานและรถประจำทางมากกว่าการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล
    ดังนั้น ถ้าประเทศไทยสามารถปรับภูมิทัศน์ อย่างน้อยแค่สักถนนเส้นเดียวให้เอื้อต่อการใช้รถยนต์ทางเลือก จักรยาน หรือรถโดยสารประจำทางและขนส่งสาธารณะ ย่อมเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยสร้างมิติใหม่ให้กับการลดฝุ่นพิษในประเทศและในเมืองใหญ่อย่างได้ผล
    ที่มา :
    รายงานข่าวเรื่อง “เปิดสารพัดมาตรการ มหานครชั้นนำโลก แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 – ย้อนดูเมืองไทย จะไปทางไหนดี?” โดย สำนักข่าวอิศรา (วันพฤหัสบดี ที่ 17 มกราคม 2562)
    รายงานข่าวเรื่อง “”คุมปิ้งย่าง” หนึ่งในมาตรการ แก้ควันพิษของจีน” จาก เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ (วันที่ 03 ก.พ. 2562)
    บทความเรื่อง “มาดู ชิลี และ เกาหลีใต้ ผลักดันเทคโนโลยีแก้ไขปัญหาวิกฤติฝุ่นพิษ” จากเว็บไซต์ Techsauce (มกราคม 14, 2019)
    รายงานข่าว เรื่อง “Identifying the Sources of Winter Air Pollution in Bangkok Part II” Worasom Kundhikanjana (Mar 31, 2019) เว็บไซต์ https://towardsdatascience.com/
    ________________________________________________
    News and photo by https://www.posttoday.com/world/612398
    https://www.salika.co/2020/01/17/reduce-pm2-5-solution-from-international/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อเวลาประมาณ 18.00 ได้เกิดพายุลมและฝน บริเวณไทยศิริ ถนนอุดร-สกล สร้างความเสียหายพอสมควร
    โดยเฟสบุ๊กคุณ Jitthaporn Bussarakham ระบุว่า ผ่านมาแค่วูบเดียว...ทิ้งความเสียหายไว้เยอะเลย
    ที่มา:
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #นครพนม พายุลูกเห็บหลงฤดูถล่มหนัก บ้านพังกว่า 30 หลัง ต้นไม้หักโค่น อ.ศรีสงคราม ระดม จนท.ตรวจสอบช่วยเหลือ เตือนเฝ้าระวังซ้ำ
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูล Intel: สงครามต่อต้านไวรัสนี้มาจากอังกฤษ ..... เป็นสิทธิบัตรของสหราชอาณาจักร ...
    Intel info: This wars-virus come from UK.....It's a UK patent...
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลายปีที่ผ่านมา ผู้วงใน MI-6 กล่าวว่าวันหนึ่งประเทศจีนจะเป็น หวัด !!! การสัมภาษณ์กำลังพูดถึง BIO-WARFARE เมื่อหลายปีก่อนมีการวางแผนเพื่อกำจัดผู้กิน ที่ไร้ประโยชน์ไม่สามารถกดประชากรทั่วไปและอื่น ๆ เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด หินนำทางจอร์เจีย !! ลดประชากรโลกให้ต่ำกว่า 500 ล้าน !!!! มาถึงละแวกของคุณ ??? https://patents.justia.com/patent/1...BYmMeTMay-4y5XUod3Ty-mezA8bk8KtVXe7-A9lzKXrm8
    PSX_20200124_212920.jpg
    Years ago a MI-6 insider said that one day China would CATCH A COLD!!! The interview was talking about BIO-WARFARE. This was planned years ago to get rid of USELESS EATERS, CANNON-FODDER the GENERAL POPULATION etc. Only the ELITE will survive. Georgia Guide-stones!! Reduce WORLD POPULATION TO UNDER 500 MILLION!!!! Coming to your neighborhood??? https://patents.justia.com/patent/1...BYmMeTMay-4y5XUod3Ty-mezA8bk8KtVXe7-A9lzKXrm8
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต้องประหยัด ลานกระบือเริ่มวิกฤต เหลือน้ำดิบสำหรับผลิตประปาแค่ 59 วัน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุดรฯเมื่อเวลาประมาณ 18.00 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง บริเวณไทยศิริ ถนนอุดร-สกล มาทั้งลมทั้งฝน
    Cr. Jitthaporn Bussarakham

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า ขณะนี้ถูกทางการจีนสั่งปิด ห้ามเข้า-ออก..ซึ่งภาพคนป่วยล้มลงคาถนนนั้น น่ากลัวราวกับฉากสยองขวัญในภาพยนตร์เลยทีเดียว..

     

แชร์หน้านี้

Loading...