ติดตามสถานะการณ์

สงครามจะไม่เริ่มถ้าไม่ถึงเวลา เวลาที่ใช่ สำหรับคนที่ใช่ มีการบอกว่าทรัมป์ เป็นผู้นำสหรัฐอเมริกา ที่จะเป็นผู้เริ่มสงครามโลก มาดูกันว่าจะจริงไหม

"ชาวอเมริกันจะต้องมาสังเวยชีวิตเพียงเพราะคำสั่งลอบฆ่าสุลัยมานี"!!



อดีต ผอ.CIA มะกัน

 

#มะกันขอให้16ประเทศช่วยเคลียร์อิหร่าน

แกนนำทัพอิหร่านคนหนึ่งเผยว่า : มะกันขอให้ผู้นำ 16 ประเทศช่วยคุยกับอิหร่าน อาทิเช่น รมว.ต่างประเทศกาตาร์ โดยขอให้...

1. ขอให้อิหร่านไม่แก้แค้น (ซึ่งเป็นไปไม่ได้)

2. ถ้าแก้แค้น ขอให้สังหาร จนท.ระดับสูงมะกันที่มีตำแหน่งเทียบเท่า พล.อ.สุลัยมานี

3. เสนอให้อิหร่านงดการแก้แค้น แลกกับการที่มะกันจะยกเลิกการคว่ำบาตรทั้งหมดต่ออิหร่าน

.................

ข้อเสนอที่สอง แสดงถึงความท้อแท้สุดขั้วของผู้นำประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐได้เป็นอย่างดี

ข้อเสนอที่สาม ทรัมป์ไม่รู้หรือว่า...
#ศักดิ์ศรีมีค่ายิ่งกว่าปากท้อง!
.
.
................
ตอนนี้อิหร่านพูดแค่ว่า... #เราจะแก้แค้นอย่างรุนแรง

โดยไม่เผยแม้แต่นิดเดียวว่าจะแก้แค้นอย่างไร

มะกันประสาทกินก็คราวนี้ ต่อไปนี้ หากทรัมป์หรือคนในรัฐบาลมะกันจะเดินทางออกจากประเทศ

#จะต้องระมัดระวังกันขนาดไหน???
.
.

 

ภาพพิธีศพของ พล อ.สุลัยมานี และ อาบูมาห์ดี อัลโมฮานดิส ณ ประเทศอิรัก

รอดูพิธีศพในอิหร่านว่าจะล้นหลามขนาดใหน

 

ชาวอเมริกันที่มีใจเป็นกลาง เริ่มออกมาเดินขบวนต่อต้านสงครามกับอิหร่านแล้ว

#สงครามที่เริ่มต้นด้วยการตัดสินใจของทรัมป์
.
.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


ฉันไม่แน่ใจ แต่พวกเขาบอกว่านี่คือแบกแดดในคืนนี้ ฉันกำลังจะยืนยัน


ภาพที่ไม่ยืนยันถึงช่วงเวลาที่จรวดพุ่งเข้าใกล้สถานทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดดเมื่อหลายชั่วโมงก่อน

 

เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่า นายพลสุไลมานีเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดอันดับ 2 ของอิหร่าน รองจากนายคาเมเนอี

https://www.thairath.co.th/news/foreign/1739740

 

กลุ่ม Islamist Al-Shabaab โจมตีที่ตั้งฐานทัพทหารกองกำลังสหรัฐฯในเคนยา

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

กลุ่ม Islamist Al-Shabaabได้โจมตีฐานทัพทหารในเคนยาซึ่งเป็นที่ตั้งของทหารสหรัฐการต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่

การโจมตีเกิดขึ้นใน Lamu County ทางชายฝั่งทางเหนือของเคนยา Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางทหารและกลุ่มก่อการร้ายเอง ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิต

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://www.rt.com/news/477492-al-shabaab-attack-kenya/

ttps://www.facebook.com/1843022038/posts/10212568051596595/?d=n

 

กองกำลังแห่งธรรมมะทั่วโลกมีภารกิจล้างแค้นให้กับชะฮีดกอเซม ชัยยิดฮาซันนัลลุลลอฮ์ กล่าว

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

เลขาธิการขบวนการฮิซบุลลอฮ์ ชัยยิดฮาซันนัลลุลลอฮ์ กล่าวว่ากองกำลังต่อต้านทั่วโลกมีความรับผิดชอบในการลงโทษผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายพล Qassem Soleimani

“ การลงโทษที่เป็นธรรมต่อฆาตกรทางอาญากรรมเหล่านี้ซึ่งเป็นอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดของโลกจะเป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของนักสู้ต่อต้านทั่วโลก”

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://parstoday.com/en/news/west_...ld_carry_task_of_avenging_soleimani_nasrallah

tps://www.facebook.com/1843022038/posts/10212568133878652/?d=n

 

มหานครนิวยอร์กตื่นตัวตื่นตระหนกอย่างมากเพราะกลัวว่าจะมีการโจมตีตอบโต้ต่อกรณีการลอบสังหารนายพล Qassem Soleimani

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในนครนิวยอร์กตื่นตระหนกเพราะกลัวว่าจะมีการโจมตีตอบโต้ต่อการลอบสังหารนายพล Qassem Soleimani ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds ของกองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC)

นายเดอร์มอทเชียผู้บัญชาการตำรวจแห่งนครนิวยอร์กกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่ากองกำลังตำรวจแห่งนครนิวยอร์กได้ทำการ "ระวังตัวมากขึ้น" ซึ่งชาวนิวยอร์ก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเดินตรวจตรามากขึ้นตามสถานีรถไฟใต้ดินระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ และสถานที่ท่อง

ลอสแองเจลิส วอชิงตัน และเมืองสำคัญอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาก็ตื่นตระหนกเช่นกัน

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://parstoday.com/en/news/world...ter_us_assassination_of_top_iranian_commander

ttps://www.facebook.com/1843022038/posts/10212568109278037/?d=n

 

https://today.line.me/th/article/อิ...หนือยอดมัสยิดสำคัญ+ประกาศพร้อมทำสงคราม-oQL7Yy

 

Setiawan


แผ่นดินไหว ขนาด 5.8-ความลึก 97.2 กม.

6 กม. ทางใต้ของซานโตมิงโก zanatepec #เม็กซิโก

วันที่ 2020-01-05 เวลา 04:40:50(utc)


M 5.8 - 97.2 km depth

6km S of Santo Domingo Zanatepec, #Mexico

2020-01-05 04:40:50 (UTC)

 

John Traczyk


เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.5 ครั้งที่รุนแรง เกิดขึ้นมี่รัฐโออาซากา ทางตอนใต้ของเม็กซิโก เมื่อปลายวันเสาร์ใกล้กับชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและรัฐเชียปัสซึ่งอยู่ใกล้เคียง


การบริการแผ่นดินไหวแบบเม็กซิกันได้กล่าวในเบื้องต้นว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีการวัดที่ ขนาด 6.5 แต่จากนั้นก็ปรับปรุงแก้ไขให้ลดลงเหลือ ขนาด 6.0

USGS ปรับลดรุ่นเป็น แผ่นดินไหว ขนาด5.8


หน่วยงานคุ้มครองพลเรือนของโออาซากากล่าวว่าไม่มีรายงานความเสียหาย


A strong 6.5 magnitude earthquake struck the southern Mexican state of Oaxaca late on Saturday, near to the Pacific coastline and the neighboring state of Chiapas, prompting security protocols to be activated.


Mexican seismological service had initially said the quake measured 6.5, but then revised that figure down to 6.0.

USGS downgraded it to 5.8.


Oaxaca’s civil protection agency said there have been no reports of damages.

 

กรมอุทยานฯ ร่วมกับกองทุนอนุรักษ์เต่าทะเลและถิ่นอาศัย พังงา-ภูเก็ต ผู้ใหญ่บ้านท่าซอ และผู้ว่าฯ พังงา ร่วมลงขันตั้งรางวัลนำจับ 100,000 บาท เร่งหามือขโมยไข่เต่ามะเฟืองจากหลุมในอุทยานแห่งชาติเขาลำปี -หาดท้ายเหมือง #ThaiPBSnews

 

สถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลกระทบในหลายจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ชาวบ้านขาดน้ำทำการเกษตรตั้งแต่ต้นปี และคาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะยาวนานไปอีกหลายเดือน

 

... “สงครามการค้า : เครื่องมือเก่าแก่แต่โบราณ ถึงการคว่ำบาตรอิหร่าน”
... Trade war, Financial Warfare หรือ “สงครามการค้า”, "สงครามการเงิน" คือการใช้การเงินรวมทั้งการค้า มาเป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายศัตรูนั้น มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยอาณาจักร “กรีก” โบราณ
... ในตอนนั้นเกิด “สงครามเพโลพอนนีเซียน“ Peloponnesian War 431– 404 ปีก่อนคริสตกาล เป็นสงครามระหว่าง “จักรวรรดิเอเธนส์” กับ “สันนิบาตเพโลพอนนีเซียน” ที่นำโดย “สปาร์ตา” สงครามนี้ออกเป็นสามช่วง โดยช่วงแรกเรียกว่า "สงครามอาร์คีเดเมีย" เป็นการรุกราน “แอททิกา” ของกองทัพสปาร์ตา ในขณะที่ฝ่ายเอเธนส์ใช้กองเรือที่มีประสิทธิภาพโจมตีกลับ สงครามช่วงนี้จบลงในปีที่ 421 ก่อนคริสตกาล ด้วยสนธิสัญญาสันติภาพนิซิอัส
... “สงครามเพโลพอนนีเซียน” เป็นสงครามที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่าง “สองนครรัฐ” มหาอำนาจของดินแดนกรีซโบราณ คือ “นครรัฐเอเธนส์” และ “นครรัฐสปาร์ตา” โดยในช่วงเวลาดังกล่าว นครรัฐเอเธนส์มีกองทัพเรือที่เข้มแข็งที่สุดและถือว่าเป็นมหาอำนาจทางทะเล ในขณะที่นครรัฐสปาร์ตานั้น มีกองทัพบกที่เกรียงไกรยิ่งกว่านครรัฐใด ๆ เมื่อครั้งที่ “จักรพรรดิเซิร์กซีสมหาราชแห่งจักรวรรดิเปอร์เซีย” ยกทัพเข้ารุกรานดินแดนกรีซ เอเธนส์และนครรัฐอื่น ๆ อีกหลายนครได้รวมตัวกันเป็นสันนิบาตดีเลียน (Delian League) โดยมีเอเธนส์เป็นผู้นำ ซึ่งหลังจากสงครามครั้งนั้นสิ้นสุดลงโดยเปอร์เซียล่าถอยกลับไปแล้ว สันนิบาตดังกล่าวก็ยังดำรงอยู่ โดยสมาชิกต้องส่งเงินบำรุงสันนิบาตไปยังเอเธนส์ ซึ่งเอเธนส์จะมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการใช้จ่ายเงินดังกล่าว
... การได้เป็นผู้นำสันนิบาตดีเลียน ทำให้อำนาจของ "เอเธนส์" ในดินแดนกรีซเพิ่มขึ้น ประกอบกับเอเธนส์ประสบความสำเร็จในการค้าทางทะลจนเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง ในขณะเดียวกัน สปาร์ตาซึ่งมีบทบาทสำคัญในสงครามกับเปอร์เซีย ก็จับตามองเอเธนส์อย่างไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้นครทั้งสองมีการแข่งขันกันมาเป็นเวลานานแล้ว โดย “เอเธนส์” เป็นนครที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ( เหมือนอเมริกา ) ซึ่งให้เสรีภาพกับประชาชนมากกว่า “สปาร์ตา” ที่ปกครองแบบเผด็จการทหาร ( เหมือนจีน” ) ซึ่งหลังจากสงครามเปอร์เซียสิ้นสุดลง เอเธนส์ได้เผยแพร่แนวคิดประชาธิปไตยไปยังรัฐอื่น ๆ สร้างความไม่พอใจให้กับสปาร์ตาและนครรัฐที่ปกครองแบบเผด็จการอีกหลายนคร ( เหมือนฮ่องกง 2019 )
... ก่อนจะเกิด “สงครามเพโลพอนนีเซียน” นั้น ทั้งคู่ก็เริ่มปิดล้อมกันทางเศรษฐกิจก่อน “เมืองเมการา” ที่ตอนนั้นเป็นพันธมิตรของสปาร์ต้า ได้ถูก “เอเธนส์” ปิดล้อมไม่ให้พ่อค้าจากเมืองเมการ่า สามารถเข้าถึงการค้าทางเรือกับเมืองหรือดินแดนที่เป็นพันธมิตรของเอเธนส์ได้ เป็นการโดดเดี่ยว “เมการ่า” มิตรสปาร์ต้าเกิดความลำบาก ทำให้ค้าขายไม่ได้ ผู้คนในเมืองก็ลำบาก เพราะเอเธนส์ไม่ต้องการเสียกำลังในการรบผ่านกองทัพเรือกับ “เมการ่า” โดยตรง จึงใช้การปิดล้อมการค้า เพื่อจะให้เกิดการวุ่นวายภายในดินแดนเมการ่าแทน เป็น “สงครามการเงินการค้าสมัยโบราณ” สปาร์ต้า เรียกร้องให้ยกเลิกการปิดล้อม แต่เอเธนส์ ไม่เลิก จนนำไปสู่สงครามในที่สุด ( จาก "สงครามการค้า" นำไปสู่ "สงครามทหาร" ในสนามจริง )
... โดยสงครามครั้งนี้ มีรายละเอียดที่น่าสนใจที่ละม้ายกับเหตุการณ์ในปัจจุบันมาก คือ ตอนนั้นเมือง “แอททิกา” ถูกกองทัพสปาร์ตาโจมตี ที่สปาร์ต้ามีกลยุทธ์เน้นการโจมตีทางบก ขณะที่ “เอเธนส์” เน้นตั้งรับทางบกและโจมตีทางทะเลเพราะมีกองเรือที่ทันสมัยกว่าและมีอิทธิพลการค้าที่มากกว่า ( เอเธนส์ เหมือน อเมริกา ที่เป็นเจ้าทางทะเล และพยายามสร้างเครือข่ายพันธมิตรปิดล้อมจีน )
... ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ใน “ฮ่องกง 2019” และ การปิดล้อมทางเศรษฐกิจที่อเมริกาทำกับ “อิหร่าน” ( เหมือนเป็น เมืองเมการ่า ที่เป็นพันธมิตรกับ “จีน” หรือ “สปาร์ต้า” ในปัจจุบัน ) เวเนซุเอล่า โบลิเวีย เกาหลีเหนือ ซีเรีย มานานเกินสิบปี ก็เพื่อจะทำให้เกิดความขัดสนในการทำมาหากิน เพื่อให้เกิดการจลาจลจากภายในเพื่อมีการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจของดินแดนศัตรูหรือพันธมิตรของศัตรู
... “อิหร่าน” ตอนนี้ก็เช่นกัน “เจมส์บิลล์” และนักประวัติศาสตร์คนอื่น ๆ บอกว่าระหว่าง 1969 และ 1974 “ริชาร์ดนิกสัน” ได้สรรหาวางตัวพระเจ้าชาห์ของอิหร่าน เพื่อปั้นเป็น “หุ่นเชิดและตัวแทน” ของอเมริกา ประธานาธิบดีนิกสันผู้ซึ่งได้พบกับชาห์ครั้งแรกในปี 1953 ถือเป็นรัฐบุรุษที่จะปั้นขึ้นมาต่อต้านคอมมิวนิสต์ที่นำโดย "โซเวียตรัสเซีย" ใน “สงครามเย็น” ซึ่งสมควรได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาในขณะนั้น “อเมริกา” ขับดันอิทธิพลของ “อังกฤษ” ออกจากภูมิภาคไปแล้ว เพราะบอบช้ำจาก “สงครามโลกครั้งที่สอง” อย่างหนักและเป็นลูกหนี้ของอเมริกาตาม “แผนการมาร์แชลล์”
... ในปี 1972 นิกสันได้พบกับพระเจ้าชาห์อีกครั้ง พระองค์เห็นด้วยที่จะซื้ออุปกรณ์ด้านสงครามทหารจากอเมริกาในราคาแพงจำนวนมากและรับปากว่าจะรับผิดชอบในการรับรองเสถียรภาพทางการเมืองและร่วมต่อสู้กับการโค่นล้มโซเวียตไปทั่วภูมิภาคนี้ (เงินรายได้จากการขายน้ำมันของอิหร่านก็ต้องไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากอเมริกาอีก อ้างว่าเพื่อเอาไว้ต่อต้านโซเวียตรัสเซีย ในสงครามเย็น )
... โดยตอนนั้นช่วงจากปี 1953 ที่ “ซีไอเอของอเมริกา” ร่วมมือกับ “เอ็มไอ6 ของอังกฤษ” จัดรัฐประหารในอิหร่านเพื่อต้องการครอบครองน้ำมันนั้น จาก 1953 จนถึงก่อนปี 1979 หรือ ปี “ปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน” นั้น อิหร่านมีรายได้จากการให้สัมปทานน้ำมันกับนานาชาติที่มีอเมริการ่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ มามีอำนาจแทนบริษัทร่วมน้ำมันของอังกฤษอิหร่าน หรือ Anglo-Iranian Oil Company (AIOC).
... หลังจาก “การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน” ปี 1979 ที่ “อเมริกา” ให้การรับตัวพระเจ้าชาห์ของอิหร่านลี้ภัยในประเทศได้ ทำให้ชาวอิหร่านม่พอใจและปิดสถานทูตอเมริกาในอิหร่านพร้อมกับจับตัวชาวอเมริกันเป้นประกัน ทำให้อเมริกาทำการ “คว่ำบาตรอิหร่าน” ครั้งแรกในปีนั้น
... โดยมีผลคือการยึดทรัพย์สินของอิหร่าน 12,000 ล้านดอลล่าร์ ทั้งเงินในธนาคาร ทองคำ และสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งตอนนี้ 2020 ก็ยังถูกยึดอยู่ ตามมาด้วยในปี 1984 ระหว่างการเกิด “สงครามอิรัก อิหร่าน 1980 – 1988” นั้น อเมริกาถูกมองว่าเข้าข้างอิรัก เช่นมีการยกเลิกอิรักออกจากประเทศผู้สนับสนุนการก่อการร้าย และในปี 1984 ยังห้ามขายอาวุธและสินค้าอื่นๆที่สามารถช่วยเหลือให้กับอิหร่านได้
... ในสมัย บิล คลินตัน 1995 ได้ออกกฎหมาย Executive Order 12957 ห้ามบริษัทอเมริกาค้าขายน้ำมันกับอิหร่าน เพื่อจะตัดรายได้ของอิหร่าน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากน้ำมัน ซึ่งตอนนั้นเพิ่งค้าขายกันอย่างดีหลังจาก 1988 หลังสงครามอิรัก อิหร่านสงบลง อิหร่านเพิ่งจะลืมตาอ้าปากได้ค้าขายน้ำมันแค่ 7 ปี
... ในวันที่ 5 สิงหาคม 1996 “อเมริกา” ได้ออก “กฎหมายเพื่อการคว่ำบาตรอิหร่านและลิเบีย” ขึ้น The Iran and Libya Sanctions Act (ILSA) ต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็นกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านอย่างเดียวในปี 2006 the Iran Sanctions Act (ISA) แล้วยกเลิกการคว่ำบาตรลิเบียไป
... ในรายละเอียดนั้น อเมริกา ห้ามทั้งการค้าและการเงินต่ออิหร่าน
... เช่น การปฏิเสธความช่วยเหลือด้าน “ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า”
... การปฏิเสธออกใบอนุญาตส่งออกสำหรับสินค้าสำหรับบริษัทที่ละเมิด
... ห้ามให้สินเชื่อจากสถาบันการเงินในอเมริกามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 12 เดือนกู้ยืมทุกกรณีต่ออิหร่าน
... ห้ามในการเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักสำหรับ “ตราสารหนี้ภาครัฐของอเมริกา”
... ห้ามในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของอเมริกาหรือเป็นผู้ที่รักษากองทุนของ “กองทุนของรัฐบาลอเมริกา”
... การปฏิเสธโอกาสในการจัดซื้อจัดจ้างที่เกี่ยวกับรัฐบาลอเมริกา ( สอดคล้องกับ WTO ) และห้ามนำเข้าสินค้าทั้งหมดหรือบางส่วนของบริษัทที่ละเมิดข้อบังคับ
... แต่ “อิหร่าน” ก็ปรับตัวเก่ง สามารถเอาตัวรอดมาได้จากการคว่ำบาตรโดยการนำของอเมริกา จนมาเมื่อ 3 มกราคม 2020 ที่มีการสังหารผู้บัญชาการทหารของอิหร่านนายพล คาสซิม โซไลมานี่ อย่างเหี้ยมโหดและผิดกฎหมายต่างประเทศอย่างรุนแรง
... สัญญาณอย่างหนึ่งก่อนเกิด “สงครามใหญ่” ในโลกเรา ก็คือ ประเทศมหาอำนาจต่างๆตอนนั้น ไม่เคารพกฏกติกาขององค์กรระหว่างประเทศที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมประเทศทั่วโลกอีกแล้ว นำไปสู่การก่อการร้ายและสงครามตัวแทนกระจายไปทั่วโลก ที่จบลงด้วยความตายและพ่ายแพ้ของอีกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนตัวเล็กๆ แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็จะย่อยยับพินาศไม่ต่างกัน
.
... The first United States sanctions against Iran were imposed by President Carter in November 1979 by Executive Order 12170 after a group of radical students seized the American Embassy and took hostage the people inside in Tehran after the U.S. permitted the exiled Shah of Iran to enter the United States for medical treatment.[5] The Executive Order froze about $12 billion in Iranian assets, including bank deposits, gold and other properties. Some assets—Iranian officials say $10 billion, U.S. officials say much less—still remain frozen pending resolution of legal claims arising from the revolution.
… After the invasion of Iran by Iraq, the United States increased sanctions against Iran. In 1984, sanctions were approved to prohibit weapon sales and all U.S. assistance to Iran. The Iran and Libya Sanctions Act (ILSA) was signed on 5 August 1996 (H.R. 3107, P.L. 104-172).[6] ILSA was renamed in 2006 the Iran Sanctions Act (ISA) when the sanctions against Libya were terminated.[6]
… On 31 July 2013, members of the United States House of Representatives voted 400 to 20 in favor of toughened sanctions.[7]
• … denial of Export-Import Bank assistance,
• denial of export licenses for exports to the violating company,
• prohibition on loans or credits from U.S. financial institutions of over $10 million in any 12-month period,
• prohibition on designation as a primary dealer for U.S. government debt instruments,
• prohibition on serving as an agent of the United States or as a repository for U.S. government funds,
• denial of U.S. government procurement opportunities (consistent with WTO obligations), and
• a ban on all or some imports of the violating company.
... https://th.wikipedia.org/wiki/สงครามเพโลพอนนีเซียน
https://en.wikipedia.org/wiki/United_States_sanctions_against_Iran
https://en.wikipedia.org/wiki/Petroleum_industry_in_Iran

 

นักโบราณคดีขุดพบ “หลุมฝังศพหุ้มทอง” ยุคกรีกโบราณเมื่อ 3,500 ปีก่อน

นักโบราณคดีขุดพบหลุมฝังศพของคนสมัยกรีกโบราณเมื่อ 3,500 ปีก่อน 2 หลุมใกล้กันซึ่งคาดว่าต้องเป็นของบุคคลสำคัญมากเพราะหลุมศพของพวกเขามีการ “หุ้มทอง” และเต็มไปด้วยข้าวของมีค่ามากมาย

หลุมฝังศพทั้งสองถูกพบที่เมือง Pylos ประเทศกรีซ ใกล้กับสุสานสำคัญ the Griffin Warrior ซึ่งค้นพบเมื่อปี 2015 หลุมฝังศพดังกล่าวเต็มไปด้วยสิ่งของมีค่ามากกว่า 3,000 ชิ้น รวมทั้งอัญมณี ลูกปัด อาวุธ และงานแกะสลัก นักโบราณคดีคาดว่าน่าจะเป็นหลุมฝังศพของสมาชิกราชวงศ์กรีกยุคโบราณ

หลุมฝังศพรูปรังผึ้งที่เรียกว่า tholi ถูกซ่อนอยู่ใต้ก้อนหินขนาดผลแตงโมจำนวนกว่า 40,000 ก้อนที่คาดว่ามีไว้เพื่อป้องกันการปล้นสุสาน ระหว่างการขุดนักโบราณคดีพบแผ่นทองกองหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากผนังหลุมฝังศพ อันแสดงถึงความมั่งคั่งของเจ้าของถึงขนาดปิดทองหลุมฝังศพ พวกเขาเชื่อว่านี่จะเป็นการค้นพบครั้งสำคัญ

หลุมฝังศพที่ค้นพบใหม่นี้เรียกว่า Tholos VI และTholos VII มีขนาด 12 เมตรและ 8.5 เมตรตามลำดับ ดังที่เห็นในรูปด้านล่างคือหลุมฝังศพที่อยู่ตรงกลางและด้านขวา ส่วนทางซ้ายคือหลุมฝังศพ Tholus IV ซึ่งค้นพบเมื่อปี 1939

ของมีค่าที่พบมีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 1,600 – 1,100 ปีก่อนคริสต์ศักราชตรงกับช่วงอารยธรรมไมซีนี (Mycenae) มีพวกสินค้านำเข้าหลายอย่าง เช่น หินคาร์เนเลี่ยนสีแดง อำพันจากแถบทะเลบอลติก และแอเมทิสต์จากอียิปต์ เป็นต้น และมีของมีค่าประเภททองอีกมากมาย มีแหวนทองวงหนึ่งทำเป็นรูปกระทิงสองตัวและข้าวบาร์เลย์ และยังพบจี้ทองคำที่ทำเป็นรูปเทพี Hathor แห่งอียิปต์

สิ่งของที่น่าสนใจมากอีกอย่างหนึ่งได้แก่ตราประทับที่แกะสลักจากหินโมรา ซึ่งทำเป็นรูปสัตว์ในตำนานมีหัวเหมือนสิงโตสองตัวที่เรียกว่า Minoan Genii ซึ่งกำลังยืนตัวตรงด้วยอุ้งเท้า พวกมันถือกระถางธูปและแจกันถวายเป็นเครื่องบรรณาตรงแท่นบูชาที่ประดับยอดไม้และเขาสัตว์ และมีสัญลักษณ์รูปดาว 16 แฉกอยู่ด้านบนสุด

ด้วยความหรูหราของหลุมฝังศพและสิ่งของมีค่าต่างๆ รวมถึงสินค้านำเข้ามากมายบ่งชี้ว่าผู้ที่ถูกฝังเป็นบุคคลสำคัญมีฐานะร่ำรวยมั่งคั่ง และเมือง Pylos ซึ่งเข้าถึงทางบกยากเนื่องจากมีภูเขาล้อมรอบอาจเป็นท่าเรือสำคัญในยุคสำริด

https://www.takieng.com

https://m.facebook.com/groups/2108411192731700?view=permalink&id=2379873068918843

 

#ทำไมเราถึงเห็นสีเมื่อหลับตาหรือบางครั้งเราจะเห็นสีขณะที่อยู่ในความมึดเป็นเวลานาน

>>รอยเปื้อนและลวดลายอันลึกลับเหล่านั้นทำให้ตาพร่า แน่นอนมันไม่ใช่ภาพลวงตา สิ่งที่คุณเห็นคือแสงสว่างที่แท้จริง - และมันมาจากภายในดวงตาของคุณเอง
HANNEKE WEITERING • 29 ธันวาคม 2014
>>ฟอสฟอรัสสามารถปรากฏเป็นรูปแบบทางเรขาคณิตเช่นเดียวกับจุดสีแบบสุ่ม
เมื่อคุณเข้านอนในเวลากลางคืน ยามที่คุณปิดไฟขณะที่คุณลึมตา หรือขณะที่คุณหลับตา
คุณอาจสังเกตเห็นการแสดงแสงสีสดใสที่เกิดขึ้นภายในเปลือกตาของคุณ เมื่อคุณนอนหลับจากดวงตาที่อ่อนล้าของคุณไฟก็จะสว่างขึ้นและมีสีสันสดใสปรากฏขึ้นทั่วทุกมุมมองของคุณ ไม่กี่วินาทีต่อมาสีจะปรับตัวลงอีกครั้ง ในขณะที่คุณอาจชื่นชมความบันเทิงก่อนนอนในใจหลังง่วงของคุณคุณอาจสงสัยในสิ่งที่คุณเห็น
blobs แปลก ๆ ที่คุณเห็นมีชื่อ; พวกมันถูกเรียกว่า“ ฟอสเฟน” และนักวิจัยเชื่อว่าแสงที่เกิดขึ้นจริงอาจมีบทบาทได้ แต่ไม่ใช่แสงทั่วไป - แสงนี้มาจากภายในดวงตาของคุณ ในทำนองเดียวกับที่หิ่งห้อยและสัตว์ทะเลลึกสามารถเรืองแสงได้เซลล์ภายในดวงตาของเราปล่อยก๊าซชีวภาพหรืออนุภาคแสงที่ผลิตขึ้นทางชีวภาพ
IstvánBókkonนักประสาทวิทยาชาวฮังการีผู้ทำงานในสถาบันวิจัยวิสัยทัศน์ในเมืองโลเวลล์รัฐแมสซาชูเซตส์กล่าวว่า“ เราเห็นแสง biophotonic ภายในดวงตาของเราในลักษณะเดียวกับที่เราเห็นโฟตอนจากแสงภายนอก
Biophotons มีอยู่ในดวงตาของคุณเพราะอะตอมของคุณปล่อยออกมาและดูดซับอนุภาคของแสงหรือโฟตอน การแลกเปลี่ยนโฟตอนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของฟังก์ชั่นโทรศัพท์มือถือทั่วไป ดวงตาของคุณไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างโฟตอนจากแสงภายนอกและไบโอโฟทที่ปล่อยออกมาจากอะตอมของคุณเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเส้นประสาทตาของคุณเพียงแค่ส่งสัญญาณแสงเหล่านี้ไปยังสมองซึ่งจะต้องตัดสินใจว่ามันจะแสดงให้เห็นถึงโลกแห่งความจริงรอบตัวคุณอย่างถูกต้องหรือว่าเป็นเพียงแค่ฟอสฟีน
ดวงตาของเราผลิตไบโอโฟตอนไกลกว่าที่เราเห็นเป็นฟอสเฟน “ เมื่อคุณขยี้ตาสิ่งนี้จะสร้าง Biophotons ในหลาย ๆ ส่วนของดวงตา” Bókkonอธิบาย “ แต่พวกมันส่วนใหญ่ถูกดูดซับไว้ในพื้นที่” biophotons ที่คุณเห็นเกือบทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ปล่อยออกมาและถูกดูดซึมโดยอะตอมในเรตินา - ส่วนหนึ่งของตาของคุณที่รับผิดชอบในการตรวจจับแสง
ภายในเรติน่าเซลล์เล็ก ๆ นับล้านที่เรียกว่าแท่งและกรวยรวบรวมแสงและแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณเหล่านี้เดินทางผ่านเส้นประสาทตาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสมองที่เรียกว่าภาพนอก สมองจะสร้างภาพขึ้นใหม่โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากดวงตา เมื่อภาพที่สร้างขึ้นใหม่ดูเหมือนไร้สาระสมองจะติดป้ายภาพว่าไม่จริงหรือฟอสฟีนอย่างรวดเร็ว
แต่ข้อมูลนั้นไม่ได้มาจากเรตินาของคุณเสมอไป ตามBókkon phosphenes สามารถเกิดขึ้นในส่วนอื่น ๆ ของระบบการมองเห็นเช่นกัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าและแม่เหล็กโดยตรงของสมองสามารถกระตุ้นให้เกิดฟอสเฟนได้และบอกอคอนหวังว่าในไม่ช้าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าไบโอโฟตอนนั้นมีความรับผิดชอบต่อฟอสฟอรัส
ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของฟอสฟีนมันสามารถนำไปใช้กับรูปแบบรูปแบบและสีที่หลากหลาย อะตอมและโมเลกุลต่างกันปล่อยโฟตอนที่มีความยาวคลื่นต่างกันซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเห็นสีต่างกัน ฟอสฟีนที่มีรูปแบบทางเรขาคณิตที่เป็นระเบียบเช่นกระดานหมากรุกอาจมีต้นกำเนิดมาจากส่วนของเรตินาซึ่งเซลล์เก็บแสงจำนวนหลายล้านเซลล์ถูกจัดเรียงในรูปแบบที่จัดระเบียบคล้ายกัน นักวิจัยยังพบอีกว่าสมองส่วนคอร์เทกซ์ส่วนต่าง ๆ ของสมองสร้างฟอสเฟนบางรูปแบบเฉพาะ
ในปี 1950 Max Knoll นักวิจัยชาวเยอรมันที่Technische Universitätในมิวนิคได้จัดทำรูปแบบการจัดหมวดหมู่สำหรับรูปร่างของฟอสฟีน เขาศึกษาฟอสเฟนในอาสาสมัครกว่าพันคนและสร้างหมวดหมู่ 15 หมวดหมู่รวมถึงสามเหลี่ยม, ดาว, เกลียว, สปอตและ blobs สัณฐาน เขาค้นพบว่าด้วยการกระตุ้นส่วนต่าง ๆ ของคอร์เทกซ์สายตาด้วยอุปกรณ์อิเล็กโทรดเขาก็สามารถกระตุ้นฟอสเฟนชนิดเดียวกันได้อย่างต่อเนื่อง
ในห้องแล็บนักวิทยาศาสตร์มักใช้หัววัดไฟฟ้าและเครื่องแม่เหล็กแฟนซีเพื่อให้ผู้คนมองเห็นฟอสฟอรัส แต่ฟอสเฟนที่เราเห็นเป็นส่วนใหญ่ทุกวันนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าทุกชนิด ฟอสฟอรัสส่วนใหญ่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่ออะตอมในดวงตาของเราแลกเปลี่ยน biophotons นอกจากนี้คุณยังสามารถกระตุ้นฟอสเฟนด้วยตัวเองโดยใช้แรงกดบนดวงตา - แต่ระวังที่จะลองทำเองที่บ้าน!
ฟอสเฟอเรนที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองที่พบมากที่สุดคือฟอสเฟนความดันเช่นเดียวกับที่คุณเห็นเมื่อคุณขยี้ตา ตามBókkonแรงกดดันใด ๆ ในดวงตาสามารถทำให้พวกเขาเปล่ง“ biophotons” ที่สร้างภาพที่เข้มข้น จามอย่างหนักการถูกกระแทกเข้าที่ศีรษะและลุกขึ้นเร็วเกินไป (ทำให้ความดันโลหิตลดลง) ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดฟอสเฟนินความดัน
คนเท่านั้นที่ไม่เคยเห็นฟอสฟอรัสคือคนที่ตาบอดตั้งแต่แรกเกิด แต่คนที่สูญเสียการมองเห็นเนื่องจากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บมักจะไม่สูญเสียการมองเห็นทั้งหมด เนื่องจากฟอสเฟนสามารถเกิดขึ้นได้ในส่วนต่าง ๆ ของระบบการมองเห็น“ ในทางทฤษฎีคนตาบอดทุกคนที่เคยเห็นสามารถรักษาความสามารถในการมองเห็นฟอสเฟนได้” ตามทฤษฎี
นักวิจัยยังได้ศึกษาวิธีที่จะกระตุ้นฟอสฟีนในผู้ป่วยตาบอดเพื่อลองและหาวิธีที่จะฟื้นฟูวิสัยทัศน์ของพวกเขา หากนักวิทยาศาสตร์สามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้คนตาบอดมองเห็นฟอสเฟนบางทีพวกเขาก็สามารถใช้เทคโนโลยีที่คล้ายกันทำให้พวกเขาเห็นภาพจริง
ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณคลานเข้านอนให้หลับตาและชื่นชมฟอสฟอรัส ตอนนี้คุณสามารถชื่นชมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ในรูปแบบใหม่ทั้งหมดคุณก็สามารถเอนหลังและสนุกไปกับการแสดง
ที่มา :https://scienceline.org/2014/12/why-do-we-see-colors-with-our-eyes-closed/
Admin : Goyly

 

Setiawan
การพังทลายใน Chiapas Sumidero Canyon, เม็กซิโก วันที่ 1 มกราคม 2020
กำแพงของCañón del Sumidero ใน Chiapas ประสบกับการถล่มในวันพุธที่ 1 มกราคม
ปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ถูกบันทึกไว้ในวิดีโอโดยนักท่องเที่ยวที่ล่องเรือในแม่น้ำ Grijalva ซึ่งต้องนั่งรถไปตามทาง
รอยเลื่อนทางธรณีวิทยาอันมหาศาลนี้ซึ่งเริ่มต้นในเขตเทศบาลของ Chiapa de Corzo และสิ้นสุดที่เขื่อน Manuel Moreno Torres มีกำแพงสูงถึง 1,300 เมตรและหุบเขา Sumidero มีอายุ 12 ล้านปี
Collapse in Chiapas Sumidero Canyon, Mexico Jan01 2020
A wall of the Cañón del Sumidero in Chiapas, suffered a landslide on Wednesday January 1st.
The phenomenon was caught on video by tourists sailing on the Grijalva River, whose ride had to be suspended by the way.
This gigantic geological fault, which begins in the municipality of Chiapa de Corzo and ends at the Manuel Moreno Torres dam, has walls up to 1,300 meters high and the Sumidero Canyon is 12 million years old.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

วันเปลี่ยนกลายเป็นคืน (สว่างกลายเป็นมืด) ในเมอริมบูล่า นิวเซาธ์เวลส์ ออสเตรเลีย

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ขบวนแห่ศพของ Soleimani Muhandis ในSantuario อิหม่ามอาลี แห่งนาจาฟ ผู้ร่วมไว้อาลัยร้องเพลง "พระเจ้ายิ่งใหญ่สหรัฐอเมริกาเป็นซาตานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"
La procesión fúnebre de Soleimani Muhandis en el Santuario Imam Ali de Najaf. Los dolientes cantan "Dios es grande, Estados Unidos es el mayor Satanás"