ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Scandinavia ทำลายสถิติอุณหภูมิฤดูหนาวที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา - Sunndalsøra, Norway บันทึก +19 ° C! โดย Marko Korosec | 2 มกราคม 2020

    ความอบอุ่นที่ผิดปกติอย่างมากที่พัฒนาเหนือสแกนดิเนเวียที่เราได้พูดถึงเมื่อวันก่อนนำไปสู่อุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ รายงานอย่างเป็นทางการที่ 19.0 องศาเซลเซียสในเมืองSunndalsøraเป็นอุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดในนอร์เวย์และสแกนดิเนเวียในเดือนมกราคมหรือฤดูหนาว! บันทึกนอร์เวย์ก่อนหน้านี้ที่ 17.9 ° C ถูกวัดใน Tafjord ในปี 1989



    ครั้งแรกบันทึกความร้อนใหม่ถูกพบในเมืองÅndalsnesในMøre og Romsdal ด้วยอุณหภูมิ 18.6 ° C ในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม แต่จากนั้นเมืองSunndalsøraรายงานอุณหภูมิที่สูงขึ้นและเอาชนะบันทึกเหล่านั้นในตอนเช้า บันทึกเต็ม 19.0 องศาเซลเซียส!

    ENSRcEaWoAA7Niz.jpg-nggid0512603-ngg0dyn-900x800x100-00f0w010c010r110f110r010t010.jpg
    เนื่องจากมีลมตะวันตกที่อบอุ่นพัดปกคลุมทำให้หลายพื้นที่รายงานว่าอุณหภูมิไม่สูงมาก ในทรอนด์เฮมมีการบันทึกความร้อนใหม่ที่ 10.2 ° C ที่สถานีตรวจวัดที่ Voll นี่คืออุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้ในเดือนมกราคมนับตั้งแต่ก่อตั้งสถานีในปี 2466 บันทึกก่อนหน้านี้คือ 10.1 ° C จาก 31 มกราคม 1950.

    บางค่าสูงมากอื่น ๆ วันนี้:

    +17.8 ° C - Marstein
    +17.7 ° C - Tafjord
    +15.5 ° C - Rekdal
    +15.4 ° C - Kristiansund
    2_tmax.jpg-nggid0512602-ngg0dyn-900x800x100-00f0w010c010r110f110r010t010.jpg

    https://www.severe-weather.eu/mcd/s...VOy5yNGO_1NHKnkuVPeSQCpcODB_hwdX19QBkv5UlW5V4
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤตไฟป่า! สถานทูตฯ ประกาศภาวะภัยพิบัติในออสเตรเลีย
    12:18 | 3 มกราคม 2563 |

    G0DL5oPyrtt5HBAi4n8iQc2QewS3o1nzkQ7uSAk5hIXMq2tfd11FFu.jpg

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประกาศภาวะภัยพิบัติ ในรัฐวิกตอเรีย โดยในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) ประเทศออสเตรเลียจะเผชิญกับกระแสลมแรงและสภาพอากาศคลื่นความร้อนระดับรุนแรง โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 40 – 45 องศาเซลเซียส ทำให้สถานการณ์ไฟป่ารุนแรงสุดสูง

    วันนี้ (3 ม.ค.2563) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ประกาศสถานการณ์ “เฝ้าระวัง” ในเขต ACT และ "ภาวะภัยพิบัติ" ในรัฐวิกตอเรีย เนื่องจากในวันที่ 4 ม.ค.2563 ออสเตรเลียจะเผชิญสภาพอากาศคลื่นความร้อนระดับรุนแรง (extreme heatwave) โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูง 40 – 45 องศาเซลเซียส กอปรกับกระแสลมแรง ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางได้ จะทำให้สถานการณ์ไฟป่ารุนแรงสูงสุด (Catastrophic) และสภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น

    ล่าสุด เขต ACT ได้ประกาศเป็น “เขตเฝ้าระวัง” (State of Alert) พร้อมประกาศห้ามจุดไฟ/ก่อประกายไฟ (Total Fire Ban) ระหว่างวันที่ 3 - 4 ม.ค. 2563 นอกจากนี้ กรุงแคนเบอร์ราและเมืองใกล้เคียงยังคงได้รับผลกระทบจากควันไฟป่าที่ปกคลุมทุกพื้นที่อย่างหนาแน่น โดยคุณภาพอากาศอยู่ในระดับต่ำที่สุดในโลก (ตามเกณฑ์ AQI) และมีระดับความอันตราย/เป็นพิษขั้นสูงสุด (hazardous) ขอให้ชาวไทยที่พำนักอยู่ในกรุงแคนเบอร์ราและเมืองใกล้เคียงเตรียมความพร้อมเก็บของใช้จำเป็นสำหรับการอพยพ และเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด

    TSNBg3wSBdng7ijM75KZcFd12Hm0hEr0DS7HHVU9lnh.jpg
    ภาพ : Royal Thai Embassy Canberra


    สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในรัฐวิกตอเรียยังคงรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้มีการประกาศ “ภาวะภัยพิบัติ” (State of Disaster) ในพื้นที่ ดังนี้ East Gippsland Shire, Mansfield Shire, Wellington Shire, Wangaratta Rural Shire, Towong Shire, Alpine Shire, Mount Buller, Mount Hotham และ Mount Stirling Alpine Resorts และได้ประกาศห้ามจุดไฟ/ก่อประกายไฟ ในวันที่ 3 ม.ค. 2563 ที่เขต Wimmera, South West, North East และ East Gippsland ทั้งนี้ ขอให้ชาวไทยในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมในการอพยพออกจากพื้นที่ทันทีเมื่อทางการประกาศ/แนะนำ

    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราขอให้ชาวไทยติดตามสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ แอพพลิเคชั่น Fire Near Me และ Air quality หรือสื่อสังคมออนไลน์ของทางการ

    หรือ ติดตามข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ใน Facebook และเข้าไปตั้งค่า See First เพื่อที่จะให้มีการแจ้งเตือนเมื่อมีข่าวใหม่ เช่น The Canberra times และ ABC News รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินที่ 000 หมายเลขโทรศัพท์เพื่อขอรับข้อมูลเกี่ยวกับไฟป่าที่ 13 22 81




    https://news.thaipbs.or.th/content/...1gJ2viau885rp2cQarTjmE64-GNawETeSLsKYgFGpjYBU
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยังไม่ถึงเวลา

    • การลอบสังหารพลตรี 'กัสเซ็ม โซไลมานี' (Major general Qassem Soleimani) ทหารระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ซึ่งเสียชีวิตพร้อมกับสมาชิกระดับแกนนำของกองกำลังชีอะห์ฝ่ายอิรักซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน

    • ข่าว Insider ล่าสุดจากรัสเซียบอกว่า 'วลาดีมีร์ ปูติน' ได้ต่อสายโทรศัพท์ไปถึง 'อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี' (Sayyid Ali Hosseini Khamenei) ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ขอให้ท่านโปรดใคร่ครวญ ไตร่ตรองพิจารณา ใช้ความอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด อย่าหุนหันพลันแล่น อย่าไปติด 'กับดัก' กลิ่นคาวเลือดที่พวกอสรพิษวางเหยื่อล่อไว้ มันเป็นเกมที่เสี่ยงอันตราย ได้ไม่คุ้มเสีย สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางขณะนี้ 'ฝ่ายเราได้เปรียบ'

    • พร้อมทั้งยกตัวอย่างบุคคลสําคัญที่ได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจาก 'วลาดีมีร์ ปูติน' คือนาย Mikhail Yuriyevich Lesin ที่ถูกฆาตกรรมอำพรางในโรงแรม Washington เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558)

    • หลังการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ได้กลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจในประเทศอย่างมาก พร้อมทั้งเพิ่มแรงกดดันฝ่ายสืบสวนสอบสวนว่า 'ประสานงานล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพ' สุดท้ายยังคงเป็นกระแสแรงอย่างต่อเนื่องว่าผู้นำประเทศจะมีมาตรการจัดการเรื่องนี้อย่างไร

    • นาย Mikhail Yuriyevich Lesin คือที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลังในต่างประเทศให้กับ 'วลาดีมีร์ ปูติน' และเป็นเจ้าของสื่อ Russia Today

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://www.theguardian.com/world/2015/nov/07/vladimir-putin-ally-found-dead-in-washington-hotel

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    สวดภาวนาให้ออสเตรเลีย


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    รถยนต์หลายร้อยคันถูกจุดไฟเผาในช่วงการส่งท้ายปีเก่าในเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส 01 ม.ค. 2563


    รถคบเพลิงได้กลายเป็นสิ่งที่สื่อเรียกว่า 'ประเพณี' ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศสที่ยากจน


    จำนวนยานพาหนะที่ถูกเผาทั้งประเทศฝรั่งเศสเมื่อปีที่แล้วมีรายงานมากกว่า 1,000 คัน


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    5436D938-7D48-4DDC-9655-90A9A8FE49BD.jpeg
    (Jan 3) ตลาดน้ำมันระอุ! ‘ทรัมป์’ สั่งเก็บนายพลระดับสูงอิหร่าน : “โดนัลด์ ทรัมป์” สั่งสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ (3 ม.ค.) ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน


    กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) แถลงคืนวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหาร นายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ที่สนามบินนานาชาติในกรุงแบกแดดของอิรักช่วงเช้าวันศุกร์ (3 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น "เพื่อปกป้องบุคลากรของสหรัฐ"


    “นายพลโซเลมานี มีแผนจะโจมตีสถานทูตสหรัฐหลายแห่งและพลทหารอเมริกันในอิรักและทั่วทั้งภูมิภาค นายพลโซเลมานีและกองกำลังคุดส์มีส่วนรับผิดชอบการเสียชีวิตของทหารอเมริกันและพันธมิตรหลายร้อยนาย และผู้บาดเจ็บอีกนับพัน” เพนตากอนระบุ


    ณ เวลา 10.06 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ พุ่งขึ้น 4.3% สู่ระดับ 63.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 69.16 ดอลลาร์/บาร์เรล


    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อิรักเปิดเผยว่า นายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮัมดีส รองผู้นำกลุ่มฮาชด์ชาบี เสียชีวิตหลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีสนามบินในกรุงแบกแดดในช่วงเช้าวันนี้ด้วย


    เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ทหารสหรัฐได้โจมตีทางอากาศต่อที่มั่นในอิรักและซีเรียที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน เพื่อตอบโต้การโจมตีในอิรักที่ทำให้มีพลเรือนสหรัฐเสียชีวิต 1 คน และทหารสหรัฐได้รับบาดเจ็บหลายนาย


    การโจมตีของสหรัฐก่อให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงที่สถานทูตสหรัฐในกรุงแบกแดดเมื่อวันอังคาร (31 ธ.ค.) และวันพุธ (1 ม.ค.) ที่ผ่านมา จนสถานทูตได้รับความเสียหาย และสหรัฐประกาศส่งทหารประมาณ 750 นาย ไปยังตะวันออกกลางทันที และอาจส่งไปสมทบอีก


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    https://www.bangkokbiznews.com/news...medium=internal_referral&utm_campaign=foreign


    เพิ่มเติม

    - Top Iranian general killed in US airstrike in Baghdad, Pentagon confirms :

    https://www.cnbc.com/2020/01/03/top...lled-in-us-airstrike-in-baghdad-pentagon.html


    - Iran vows to retaliate over the killing of its top military commander

    https://www.cnbc.com/2020/01/03/ira...illing-of-top-commander-qassem-soleimani.html
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    07FB8C44-E344-433A-A7B2-7C6373D7394B.jpeg
    (Jan 3) สงครามการค้า ปี 2 ‘สหรัฐ-จีน’ เจ็บทั้งคู่ : สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดำเนินเข้าสู่ปีที่ 2 ในปี 2562 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจทั่วโลกตกต่ำลงเรื่อย ๆ


    เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รวบรวมข้อมูลสะท้อนภาพเศรษฐกิจและตลาดการเงินของ 2 มหาอำนาจโลกในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสงครามการค้าร้อนแรง


    ปี 2562 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั้งในสหรัฐและจีนขยายตัวลดลง นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตของจีดีพีทั้ง 2 ประเทศจะลดลงยิ่งขึ้นในปี 2563 เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้ามีอย่างต่อเนื่อง และความท้าทายภายในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางอยู่แล้ว


    - ปริมาณการค้าลดลง


    การส่งออกและนำเข้าสินค้าโดยรวมของสองประเทศลดลงในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 ท่ามกลางสภาวการณ์ที่กิจกรรมทางการค้าทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าบางคนกล่าวว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นก่อนจะมีสงครามการค้าสหรัฐ-จีนเสียด้วยซ้ำไป


    รายงานจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐระบุว่า ภาพรวมสหรัฐขาดดุลการค้าที่ส่วนใหญ่มาจากการค้ากับจีนไม่สมดุล ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในปี 2562 สภาพเศรษฐกิจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แม้ว่าสหรัฐจะขาดดุลการค้าจีนลดลงจาก 344,500 ล้านดอลลาร์ ระหว่างเดือน ม.ค.-ต.ค. 2561 เป็น 294,500 ล้านดอลลาร์ในปีถัดมา


    - การผลิตชะลอตัว


    ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งสหรัฐและจีนบอบช้ำอยู่แล้วจากการที่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แล้วต้องมาถูกซ้ำเติมจากสงครามการค้าระหว่างกัน ซึ่งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (พีเอ็มไอ) ของจีน ส่วนใหญ่อยู่ในแดนหดตัว หรือหมายถึง ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ส่วนดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตของสหรัฐ ระบุว่า กิจกรรมการผลิตหดตัวตั้งแต่เดือน ส.ค. 2562


    - ยอดค้าปลีกคงที่


    การใช้จ่ายของผู้บริโภคทั้งในสหรัฐและจีน จัดอยู่ในกลุ่มประเทศมีเศรษฐกิจที่สดใสในปี 2562 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในทั้ง 2 ประเทศ แต่มีความเสี่ยงที่โอกาสดีๆ แบบนี้อาจไม่ยั่งยืน


    ฟรานซิส ตัน นักยุทธศาสตร์การลงทุนของธนาคารยูโอบี ประเทศสิงคโปร์ เตือนว่า การที่สหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน อาจส่งผลกระทบต่อรายจ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ส่วนในจีน ราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้น อาจทำให้ผู้บริโภคต้องลดค่าใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ


    - การเคลื่อนไหวของค่าเงิน


    สภาพเศรษฐกิจสหรัฐค่อนข้างแข็งแกร่ง และนักลงทุนนิยมถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าในปี 2562 ซึ่งตรงกันข้ามจากจีน เพราะทางการจีนได้เปิดช่องให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าเกือบตลอดทั้งปี โดยการเคลื่อนไหวนี้ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวว่า จีนปั่นค่าเงิน แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า ค่าเงินหยวนเป็นไปตามพื้นฐานเศรษฐกิจจีน


    - การเคลื่อนไหวตลาดหุ้น


    ในตลาดการเงิน การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และสงครามการค้าลดความตึงเครียดลงในช่วงหนึ่ง ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และหนุนให้หุ้นในวอลล์สตรีทแตะระดับนิวไฮหลายครั้งในปีนี้ แม้ว่ารายได้ของบริษัทไม่แข็งแกร่ง


    ส่วนในจีน การรวมหุ้นจีนเข้าในดัชนีสำคัญระดับโลก ช่วยหนุนให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในระดับเลขสองหลักเมื่อปีที่ผ่านมา


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    https://www.bangkokbiznews.com/news...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมอนามัย เตือนสถานที่จำหน่ายอาหารที่ใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารบนโต๊ะอาหาร มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายและไม่ปลอดภัยต่อสถานประกอบการ ผู้มาใช้บริการ รวมทั้งเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย #ก๊าซหุงต้ม #แก๊สแอลพีจี

    กรมอนามัย เตือนสถานที่จำหน่ายอาหารที่ใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารบนโต๊ะอาหาร มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายและไม่ปลอดภัยต่อสถานประกอบการ ผู้มาใช้บริการ รวมทั้งเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย

    วันนี้ (3 ม.ค.2563) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพภายในร้านปิ้งย่างแห่งหนึ่งย่านซอยลาดพร้าว 48 ซึ่งทางร้านได้ติดตั้งสายแก๊สแอลพีจีที่พื้น เชื่อมต่อไปทั่วทั้งร้านเป็นโครงข่าย เพื่อใช้กับเตาแก๊สสนาม หรือเตาแก๊สปิ๊กนิก ซึ่งบางสายอยู่ในสภาพทรุดโทรม โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคนั้น การใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในการทำประกอบหรือปรุงอาหารบนโต๊ะหรือที่รับประทานอาหารในสถานที่จำหน่ายอาหารมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายและไม่ปลอดภัยต่อสถานประกอบการ ผู้มาใช้บริการ รวมทั้งเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย

    อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคพบเห็นร้านที่มีการติดตั้งก๊าซหุงต้มในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่หรือเทศบาลที่ร้านนั้นๆ ตั้งอยู่ เพื่อดำเนินการตามข้อบัญญัติท้องถิ่นต่อไป สำหรับในส่วนของผู้บริโภคก็ต้องหลีกเลี่ยงการใช้บริการเพื่อความปลอดภัยด้วย โดยเลือกร้านที่ได้มาตรฐาน และมีป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย (Clean Food Good Taste) ของกรมอนามัยรับรอง

    ห้ามใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงบนโต๊ะอาหาร
    ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหารปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 โดยบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2561 ในเรื่องการควบคุมสุขลักษณะสถานที่ขาย ข้อ 17 ห้ามใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารบนโต๊ะหรือที่รับประทานอาหาร หากสถานที่จำหน่ายอาหารฝ่าฝืนกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในมาตรา 6 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

    รวมถึงกฎหมายท้องถิ่นได้ออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ.2545 ข้อ 9 (10) ห้ามใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงในการทำ ประกอบ ปรุงอาหารบนโต๊ะรับประทานอาหารในสถานที่จำหน่ายอาหาร หากสถานที่จำหน่ายอาหารฝ่าฝืนข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งออกตามความในมาตรา 40 (6) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ ซัยยิดอาลี คาเมเนอี เตือนถึงบรรดาผู้ลอบสังหารนายพล กอเซม สุลัยมานี ว่า การแก้แค้นและกวาดล้างอย่างรุนแรงกำลังจะเกิดขึ้นสำหรับอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร
    IMG_6054.JPG
    BY>>>>>Giant Khan<<<<<

    https://www.tasnimnews.com/en/news/...rsh-revenge-for-general-soleimani-s-martyrdom

    ttps://www.facebook.com/1843022038/posts/10212555330158567/?d=n
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ในปีนี้เป็นปีแรกที่เราเริ่มสังเกตุถึงบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มชัดเจนขึ้น
    - ดวงอาทิตย์ที่เริ่มขึ้นผิดตำแหน่งจากเดิม
    -เริ่มมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าโลกเรานั้นมันเอียง
    -ฤดูกาลที่เริ่มผิดเพี้ยง จนออกมาเตือนว่าเรากำลังเผชิญกับภัยธรรมชาติทุกๆวัน
    -บางประเทศเจอความแห้งแรง ไฟป่า สัตว์ป่า สัตว์น้ำล้มตาย
    -น้ำขัวโลกละลายมากขึ้น บางประเทศเริ่มประสบภัยน้ำท่วมถาวร ขณะที่โลกออกมาเตือนภาวะโลกร้อน
    #อะไรคือเหตุปัจจัยที่แท้จิง
    ในขณะที่บ้างคนมีการเห็น ดวงอาทิตย์2ดวง
    ตามบันทึกในอดีตมีกาลล่มสลายของอารยธรรมมากมายโดยเหตุปัจจัยจิงๆเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ
    มีบันทึกจากกำแพงหินที่มักมีภาพขอดวงอาทิตย์ 2 ดวง
    ของศาสนาพุทธเราก็มีการกล่าวถึงวันสิ้นโลกในพระไตรปิฎก ที่พูดถึงดวงอาทิตย์ 7 ดวง
    #เพื่อนๆคิดยังไงกันกับเรื่องนี้

    IMG_6055.JPG IMG_6056.JPG IMG_6057.JPG IMG_6058.JPG

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกเอียงค่องข้างมาก แสงแรกของทุกปีที่เคยขึ้นที่อุบลประจำ จึงเปลี่ยนไปขึ้นที่นราธิวาส ภาคใต้แทนคะ เนื่องจากดวงอาทิตขึ้นเอียงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เกือบๆจะทิศใต้คะ

    IMG_6059.JPG 2E5A798D-DA2A-4936-8B9D-23CDB6531F97.jpeg
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รถไฟรางนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ เดือนที่ผ่านมา ...
    ในไม่ช้าเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อปกปิดสำหรับการเปลี่ยนแปลงโลกที่เกือบทั้งหมด เนื่องจากความจริงของระบบสุริยะของเราจะเป็นภาวะโลกร้อน (โกหกเพื่อปกปิดการเปลี่ยนแปลง) ได้ทำให้รางเหล็กร้อนขึ้น และ #WashingtonPost และ #NewYorkTimes จะเป็นคนแรกที่เริ่มการค้นพบ .. LOL

    This Train Derailment is one of several this past month...
    Soon the establishment cover for the Earth Changes that are almost entirely due to the truth of our solar system will be global warming (lie to cover for changes) has heated up the steel tracks. And the #WashingtonPost and #NewYorkTimes will be the first to launch the findings.. LOL

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว ขนาด 5.3, ลึก 215 กม. แปลกมากเกี่ยวกับแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของฮาวาย นี่เป็นภาพหน้าจอของวิดีโอล่าสุดของ Dahboo ที่แสดง มันยังอยู่ในรายการสถานี แต่ไม่ได้อยู่บนแผนที่ตอนนี้
    IMG_6062.JPG IMG_6063.JPG
    5.3, 215 km deep. Very odd, very concerning quake North of Hawaii. This is a screenshot of Dahboo’s latest video showing it; It is still in the station reports listing, but not on the map now.

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงนี้อากาศจะยังเย็นลงได้อีก
    ในช่วงวันที่ 2 – 8 ม.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนอุณภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-15 องศาเซลเซียส โดยในช่วงวันที่ 3 – 5 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน
    สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ ในช่วงวันที่ 2 - 5 ม.ค. 63 บริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 6 - 8 ม.ค. 63 บริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ม.ค. 63

    ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ตลอดช่วง ในขณะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ในช่วงวันที่ 2 - 5 ม.ค. 63 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 6 - 8 ม.ค. 63 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง
    http://www.tmd.go.th

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกรัฐมนตรีชั่วคราวของอิรักได้ประณามการลอบ สังหารนายพล กอเซม สุลัยมานี
    เขาย้ำว่าสหรัฐฯได้ละเมิดเงื่อนไขที่กองทัพอเมริกันได้รับอนุญาตให้อยู่ในอิรักโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกกองทหารอิรักและต่อสู้กับ ไอซิส ISISเท่านั้น รัฐบาลอิรักเรียกร้องให้รัฐสภาจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานะการในครั้งนี้ เพราะอาจทำให้เกิดความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นและส่งผลให้"สงครามใหญ่เกิดขึ้นในอิรักและมันจะกระจายออกไปสู่ภูมิภาค
    IMG_6064.JPG
    BY>>>>>Giant Khan<<<<<

    https://www.rt.com/news/477361-iraq-pm-condemnts-assassination/

    ttps://www.facebook.com/1843022038/posts/10212555434961187/?d=n
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต่อให้คุณจะเป็นชาตินกกระจิบชาตินกกระจอก ถ้านายพลของชาติคุณถูกต่างชาติฆ่า คุณจะนั่งพับเพียบแล้วสงบใจอโหสิให้หรือ?
    .
    กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) คือ ชุมนุมชาวยุทธ์คัดสรร ที่ฉกาจฉกรรจ์ที่สุดของอิหร่าน ขึ้นตรงกับประมุขสูงสุด อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี หนึ่งเดียว
    แยกพิเศษจากกองทัพ
    .
    หน่วยรบ Quds คือ ยอดยุทธ์ 'หัวกะทิ' ที่วรยุทธ์เลิศล้ำ อันตรายที่สุดแห่ง IRGC
    ไม่ต่างจาก 'องครักษ์เสื้อแพร' ที่ทั่วทั้งบู๊ลิ้มต้องครั่นคร้าม
    .
    พลเอก กัสเซ็ม โซเลอีมานี คือ ผู้บัญชาการหน่วยรบ Quds แห่ง IRGC อันระบือนามนี้!!!
    ผู้นำ 'ที่สุดแห่งที่สุด' ของนักรบ
    ด้วย 'เกียรติยศ' ด้วย 'ศักดิ์ศรี' แล้ว นี่คือคนระดับ 'แตะต้องไม่ได้' (untouchable)
    ทว่าล่าสุด อเมริกา 'แตะ' กระชากวิญญาณ!!!
    เหลือเพียงชื่อ ไม่เหลือร่าง
    เป็นผุยผงหมดแล้ว!
    .
    'เลือดล้างเลือด'
    อยาตุลเลาะห์ คาเมเนอี ประกาศกร้าว "ผู้คนที่โหดเหี้ยมที่สุดในปฐพี ลอบสังหารทหารหาญผู้ทรงเกียรติ ผู้ต่อกรกับอสุรกายและโจรร้ายของโลกมาเนิ่นนาน"

    "นายพล โซเลอีมานี คือสัญลักษณ์แห่งการต่อต้านทรราชของโลก และบัดนี้สาวกทั้งหลายผู้ปวารณาตนต่อต้านทรราช จะรวมจิตรวมใจกันล้างแค้นให้เขา"

    "หมู่สหายและมวลศัตรู โปรดรู้ไว้เถิด วิถีการต่อต้านของเรา นับจากวินาทีนี้ถูกสุมไฟปลุกใจให้เพิ่มทวีเป็นสองเท่า"
    .
    อเมริกากระทำสิ่งที่ชวนตะลึงพรึงเพริดที่สุด เสมือนดั่งตัดหัวม้าที่ดีที่สุดของเจ้าพ่อเปอร์เซีย แล้วมอบศีรษะคืนให้เป็นของกำนัล
    พฤติการณ์เช่นนี้ บีบให้อิหร่านต้องกระทำสิ่งที่มิอาจไม่กระทำ
    ผลลัพธ์อาจลุกลามเหนือประเมิน แต่อิหร่านยังคงต้องกระทำ
    ไม่มีทางเลือกเป็นอื่น
    'ล้างแค้น' ลูกเดียว!

    Cr : ทะลักจุดเดือด
    www.presstv.com

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัพเดทสถานการณ์เหตุการณ์จู่โจมที่สนามบินแบกแดด

    -กระทรวงกลาโหมอเมริกันได้ออกมายืนยันว่า กองทัพอเมริกันได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีทรัมป์ให้จัดการสังหารานายพลอิหร่าน Qasem Soleimani หัวหน้ากองกำลัง IRGC

    -ทางเพนตาก้อนได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า Soleimani เป็นคนวางแผนจู่โจมเข้าใส่บรรดานักการฑูตอเมริกันและบุคลากรของกองทัพในอิรักและที่ไหนก็ตาม เขาและกองทัพของเขานั้นมีส่วนในการสังหารทหารอเมริกันเป็นร้อยๆคนและทำให้บาดเจ็บไปอีกพันกว่าคน

    -Soleimani ยังมีส่วนในการจู่โจมเข้าใส่ฐานทัพอเมริกันในอิรักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาซึ่งรวมถึง การจู่โจมด้วยจรวดเข้าใส่ฐานทัพซึ่งได้สังหารบุคลากรรับจ้างอเมริกันและบรรดาทหารไปอีก้ด้วย และเขายังโดนกล่าวหาว่า เป็นคนวางแผนการจู่โจมเข้าใส่สถานฑูตอเมริกันในแบกแดดอีกด้วย

    -การจู่โจมครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องปรามและยับยั้งแผนการจู่โจมของอิหร่านในอนาคต อเมริกาจะยังคงใช้ปฎฺิบัติการทีที่จำเป็นในการปกป้องคนและผลประโยชน์ของพวกเราทุกที่บนโลกใบนี้

    -ด้าน Mark esper รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกันได้ออกมากล่าวว่า ถ้าพวกเราได้รับคำขู่บอกว่าจะโดนจู่โจมหรืออะไรก็ตาม พวกเราจะใช้ปฎิบัติการจู่โจมก่อน เกมเปลี่ยนไปแล้ว พวกเราได้เตรียมตัวที่จะทำในสิ่งที่จำเป็นไว้แล้ว

    แหล่งข่าวบอกว่า งานนี้อเมริกาอาจจะไม่ได้ทำคนเดียว โดยสังเกตุได้จากรัฐมนตรีต่างประเทศ Mike Pompeo ที่ได้โทรหาบรรดาผู้นำของตะวันออกกลางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อขอการสนับสนุนและหารือแผนการ เขาได้โทรหา

    -นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู

    -เจ้าชาย Mohammed bin Zayed Al Nahyan แห่ง UAE

    -เจ้าชาย Mohammed Bin Salman แห่งซาอุดิอาราเบีย

    -บรรดาผู้นำของอิรักและ Qatar

    -เขายังได้เตือนไปยังMuhandis และ Qais Khazali ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังติดอาวุธชีอะห์ และยังได้เตือนไปยังบรรดาผู้นำของ Popular Mobilization Units อย่าง Hadi al-Amiri and Faleh al-Fayed ที่มีอิหร่านหนุนหลังอีกด้วย

    https://www.jpost.com/Middle-East/The-unthinkable-Soleimani-killed-in-Iraq-612962

    https://www.timesofisrael.com/us-confirms-trump-ordered-deadly-strike-on-irans-soleimani/

    www.businessinsider.com

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    IRGC ลั่น จะล้างหนี้เลือดให้นายพลกอเซ็ม สุไลมานี

    ขีปนาวุธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายใกล้ๆสนามบินนานาชาติอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และมีรายงานว่านายพลกอเซม สุไลมานี เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วยนั้น

    Mohsen Rezaei เจ้าหน้าที่ระดับสูง IRGC กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า อิหร่านจะตอบโต้ต่อการเสียชีวิตของนายพลสุไลมานีอย่างแน่นอน

    Rezaei ให้คำมั่นอย่างสั้นๆ ว่าหนี้แค้นนี้จะถูกชำระ

    https://mobile.almasdarnews.com

    รออัพเดท

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป้องกันไว้ก่อน

    • สถานการณ์ล่าลุดในประเทศ 'อิรัก' และ 'อิหร่าน' ได้มีคณะนักวิทยาศาสตร์อิหร่านทำการเผยแพร่สารสนเทศผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง 'สอนวิธีทำไฟฉุกเฉินแก้ปัญหาไฟฟ้าดับ' เพื่อการเอาตัวรอดเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เตรียมพร้อมรับมือได้อย่างทันท่วงที มีอุปกรณ์สำคัญดังนี้

    ❶ ขวดน้ำ

    ❷ นมสดรสธรรมชาติ

    ❸ มือถือสมาร์ทโฟน

    • หลักการวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังกรณีนี้ เรียกว่า ทินดอลล์ เอฟเฟกต์ (The Tyndall Effect) หรือ ปรากฏการณ์กระเจิงแสง โดยจะเกิดขึ้นเมื่อฉายแสงผ่านอนุภาคลอยตัว (คอลลอยด์) กรณีนี้เป็นนมลอยในขวดน้ำ จะช่วยกระเจิงแสง และเพิ่มความส่องสว่างชัดมากขึ้นได้ ค้นพบโดย 'จอห์น ทินดอลล์' (John Tyndall) เมื่อปี ค.ศ. 1869 (พ.ศ. 2412) และกรณีที่เห็นได้ชัด เช่น แสงอาทิตย์ส่งผ่านจุดที่มีละอองฝุ่นลอยอยู่จะทำให้พบเห็นเป็นลำแสงได้ชัด

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://en.wikipedia.org/wiki/Tyndall_effect

    Credit : https://www.asiaone.com/digital/jap...light-source-milk-water-bottle-and-smartphone
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,539
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6065.JPG IMG_6066.JPG IMG_6067.JPG IMG_6068.JPG
    (Jan 3) อีไอซีประเมินเงินบาทแข็งค่า พร้อมประมาณการณ์สิ้นปี 2020 ที่ 29.5-30.5 : เงินบาทในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นที่จับตามองจากหลายๆ ฝ่าย ซึ่ง ธปท. กล่าวว่าการแข็งค่าอย่างรวดเร็วนี้เป็นผลจากสภาพคล่องในตลาดเงินที่อยู่ในระดับต่ำในช่วงวันหยุดเทศกาล ทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายเงินตราไม่สมดุล อีกทั้งยังเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยเช่นกัน ในโอกาสนี้ อีไอซี จึงได้นำเสนอบทวิเคราะห์มุมมองค่าเงินบาทในปี 2020 เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเตรียมตัวพร้อมรับมือต่อความผันผวนของค่าเงินในระยะต่อไป


    (จากคาดการณ์เดิม ณ รายงาน Outlook ของไตรมาสก่อนที่ 30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) โดยค่าเงินบาทในปี 2019 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 4.1% จากปี 2018 ขณะที่ดัชนีค่าเงินบาท (Nominal Effective Exchange Rate: NEER) ในปี 2019 เฉลี่ยอยู่ที่ 123.2 ปรับแข็งค่าขึ้น 6.6% จากปี 2018 เช่นกัน (รูปที่ 1) สำหรับในในปี 2020 เงินบาทมีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่น้อยลงจากปี 2019


    อีไอซีคาด เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยดังต่อไปนี้


    1. ดุลบัญชีเดินสะพัดไทยในปี 2020 จะยังคงเกินดุลสูง โดยอีไอซีประเมินว่าดุลบัญชีเดินสะพัดไทยในปี 2020 จะยังเกินดุลในระดับสูงใกล้เคียงในปี 2019 เนื่องจาก 1) มูลค่าการส่งออกและนำเข้าในปี 2020 มีแนวโน้มทรงตัวจากปีก่อน 2) ภาคการท่องเที่ยวจะยังคงขยายตัวแม้ในอัตราที่ชะลอลง และ 3) การลงทุนในประเทศจะยังอยู่ในภาวะซบเซา จึงทำให้โดยรวมแล้ว การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยแม้จะชะลอลงแต่ยังคงเกินดุลในระดับสูงที่ประมาณ 6% ต่อ GDP (6.3% ต่อ GDP ในปี 2019) (รูปที่ 2) ขณะที่ความต้องการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศยังมีต่ำ (Home bias ยังคงอยู่ในระดับสูง) ซึ่งจะทำให้ความต้องการเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐยังมีอยู่มาก นอกจากนี้ การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง เงินทุนสำรองต่อหนี้ต่างประเทศที่มาก ก็จะยังทำให้เงินบาทมีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของภูมิภาค (regional safe haven) ต่อไป ซึ่งจะทำให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงน้อยกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคในช่วงที่ความเชื่อมั่นลดลง


    2. ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกปรับลดลง ส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายมีแนวโน้มไหลกลับเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย (EM-Asia) รวมถึงไทย โดยอีไอซีมองว่า การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีความคืบหน้า (phase 1 deal) ไปนั้น เป็นปัจจัยที่ลดความเสี่ยงด้านต่ำของภาคส่งออกและเศรษฐกิจโดยรวมของกลุ่มประเทศ EM-Asia อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนความเสี่ยงจากสถานการณ์ Brexit ก็ปรับดีขึ้นเช่นกัน หลังพรรค Conservative ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับลดลงในปี 2020 ซึ่งอีไอซีมองว่า จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับสูงขึ้น และมีเงินทุนไหลกลับเข้ากลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้


    3. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีโอกาสปรับอ่อนค่าลงได้เล็กน้อย ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยเปรียบเทียบ โดยอีไอซีพบว่า ในเวลาที่เศรษฐกิจโลกปรับแย่ลงจะทำให้มีความต้องการถือเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสกุลเงินหลักของโลกและมีความเสี่ยงต่ำ ทั้งนี้ในระยะต่อไปที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับดีขึ้น ความเสี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยของโลกลดลง ก็จะทำให้ความต้องการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลดลงมา (รูปที่ 3) ซึ่งจากข้อมูลปริมาณสัญญาที่เก็งกำไรในเงินดอลลาร์สหรัฐก็เริ่มสะท้อนให้เห็นแนวโน้มนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 บ้างแล้ว อย่างไรก็ดี อีไอซีมองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะไม่อ่อนค่าลงมากนัก เนื่องจาก ถึงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) จะมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2020 (จากที่เคยมองว่ามีโอกาสลดดอกเบี้ยได้ 1 ครั้ง) แต่ธนาคารกลางสำคัญอื่น ๆ มีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายกว่า โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan: BOJ) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2020 แต่ก็จะยังดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินผ่านการทำ quantitative easing (QE) ต่อไป นอกจากนี้ โอกาสที่ ECB และ BOJ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2020 ก็มีสูงกว่า Fed ดังนั้นจึงมีโอกาสที่เงินยูโรและเงินเยนจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐได้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างอังกฤษและยุโรปอาจทำให้เงินยูโรและเงินปอนด์อ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ


    4. ข้อจำกัดของ ธปท. ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และเข้าดูแลอัตราแลกเปลี่ยน การผ่อนคลายนโยบายการเงิน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีส่วนช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศนั้น ๆ อ่อนค่าลงได้ อย่างไรก็ดี ด้วยขีดความสามารถในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ที่มีจำกัดมากขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในประวัติการณ์ ทำให้ความสามารถในการดูแลค่าเงินบาทผ่านช่องทางนี้ลดลง นอกจากนี้ ไทยยังต้องเผชิญต่อความเสี่ยงที่อาจถูกจัดเป็นประเทศผู้บิดเบือนค่าเงิน (currency manipulator) โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จึงทำให้ ธปท. อาจไม่สามารถดูแลค่าเงินบาทได้มากเท่ากับในอดีต ดังนั้นโอกาสที่เงินบาทต้องเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าจึงจะมีอยู่ต่อไป


    5. เงินหยวนที่มีแนวโน้มแข็งค่าอาจทำให้ค่าเงินในภูมิภาครวมถึงเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นตาม ในช่วงที่สงครามการค้าทวีความรุนแรง เงินหยวนปรับอ่อนค่าลงค่อนข้างมาก ทำให้สินค้าจีนมีความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคาต่อประเทศอื่น ซึ่งส่งผลต่อแนวโน้มการส่งออกและเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าคู่แข่งของจีน ค่าเงินสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคโดยเฉพาะประเทศที่ส่งออกสินค้าคล้ายคลึงกับจีนจึงปรับอ่อนค่าลงตาม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็พบว่าเงินบาทปรับอ่อนค่าตามหยวนในช่วงสงครามการค้าทวีความรุนแรงเช่นกัน อย่างไรก็ดี สำหรับในระยะต่อไปที่สงครามการค้ามีแนวโน้มลดความรุนแรงลง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนโลกมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น จึงทำให้เงินหยวนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และด้วยเสถียรภาพต่างประเทศของไทยที่แข็งแกร่งจะยิ่งทำให้เงินบาทสามารถแข็งค่าขึ้นตามเช่นกัน


    อย่างไรก็ดี อีไอซีประเมินว่า การแข็งค่าของเงินบาทในปี 2020 จะลดน้อยลงเมื่อเทียบกับปี 2019 เนื่องจาก


    1. ดุลบัญชีการเงินไทย (financial account) อาจขาดดุลมากขึ้นได้เล็กน้อย จากแนวโน้มการออกไปลงทุนต่างประเทศที่เพิ่มสูงขี้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2015) อีไอซีคาดว่า ในปี 2020 มีโอกาสที่ภาคธุรกิจไทยจะออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนให้ภาคเอกชนออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ส่วนหนึ่งจะมาจากอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค รวมถึงความไม่แน่นอนภายในประเทศที่ยังมีค่อนข้างมาก นอกจากนี้ การผ่อนคลายกฎเกณฑ์การออกไปลงทุนของ ธปท. น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจไทยมีแนวโน้มออกไปซื้อ/ควบรวมกิจการต่างประเทศ รวมถึงช่วยให้การลงุทนในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ อีไอซี จึงประเมินว่าดุลบัญชีการเงินไทยอาจขาดดุลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันต่อเงินบาทผ่านการเกินดุลการชำระเงิน (balance of payment) ที่ลดลง


    2. แรงกดดันจากการขายทำกำไรทองคำมีแนวโน้มลดลง ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับลดลง (risk-off sentiment) และหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ มากขึ้น ราคาทองคำจึงปรับสูงขึ้นในช่วงดังกล่าว ซึ่งนักลงทุนทองคำในไทยบางส่วนมักจะขายทองคำออกสู่ตลาดทองคำโลกเพื่อทำกำไรจากราคาที่ปรับขึ้น ทำให้มีความต้องการแลกเงินดอลลาร์สหรัฐที่ได้จากการขายทองคำกลับมาเป็นเงินบาท ค่าเงินบาทจึงมักปรับแข็งค่าขึ้นในช่วงดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับลดลงในปีหน้า การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำอาจมีแนวโน้มชะลอลงหรือปรับลดลงได้ (รูปที่ 4) จึงทำให้แรงกดดันต่อเงินบาทจากปัจจัยนี้มีน้อยลง นอกจากนี้ การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ด้านการแลกเปลี่ยนเงินของ ธปท. ที่อนุญาตให้ผู้ค้าทองคำสามารถเก็บเงินตราต่างประเทศจากการขายทองคำไว้ในบัญชี FCD โดยไม่ต้องแลกเป็นบาทเพื่อรอลงทุนในครั้งต่อไป จะช่วยลดแรงกดดันด้านแข็งค่าของเงินบาทในปีหน้าได้เพิ่มขึ้น


    3. แนวโน้มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายระหว่างไทยและประเทศเศรษฐกิจหลัก หากเศรษฐกิจไทยปรับแย่ลงกว่าที่ กนง. คาดจนทำให้ต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ก็จะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของไทยยิ่งปรับลดลงต่ำกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้มีโอกาสที่นักลงทุนอาจเลือกออกไปลงทุนในสินทรัพย์ประเทศอื่นที่มีผลตอบแทน (carry return) สูงกว่า เงินทุนเคลื่อนย้ายที่คาดว่าอาจไหลเข้าไทยได้ก็อาจมีน้อยลงหรืออาจมีการไหลออก เงินบาทจึงอาจอ่อนค่าได้ อย่างไรก็ดี การศึกษาของอีไอซีที่ผ่านมาพบว่า ปัจจัยด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อค่าเงินบาทเพียงเล็กน้อย และมีอิทธิพลน้อยกว่าปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น ขนาดดุลบัญชีเดินสะพัด


    โดยสรุป อีไอซี ประเมินเงินบาทในปี 2020 จะยังเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าอยู่ต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่น้อยลงจากปี 2019 โดยมองว่า เงินบาท ณ สิ้นปี 2020 จะอยู่ในกรอบ 29.5-30.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุลในระดับสูง ขณะที่ความต้องการลงทุนในต่างประเทศยังต่ำ (home bias ยังคงสูง) จึงทำให้มีความต้องการเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐในปริมาณมาก อีกทั้งดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีโอกาสปรับอ่อนค่าลงได้เล็กน้อยทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยเปรียบเทียบ อย่างไรก็ดี ปัจจัยหนุนที่ช่วยให้เงินบาทจะไม่แข็งค่าขึ้นเร็วมากเท่าในปี 2019 คือ การลงทุนในต่างประเทศของภาคธุรกิจไทยอาจมีแนวโน้มปรับดีขึ้นบ้าง การขายทำกำไรทองคำมีแนวโน้มลดลง และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไทย-สหรัฐฯ ที่อาจกว้างขึ้นได้


    Source: การเงินธนาคารออนไลน์

    https://www.moneyandbanking.co.th/new/28910/61/index.php


    เพิ่มเติม

    -อ่านบทความ

    https://www.scbeic.com/th/detail/fi...-Note_มุมมองค่าเงินบาทปี-2020_TH_20200102.pdf
     

แชร์หน้านี้

Loading...