ติดตามสถานะการณ์

Michael DiFato

การอ่านสนามแม่เหล็ก ACE 12/31/2019 ส่วนประกอบของฟิลด์ Bx และ Bz ตามระยะเวลาของการบีบอัดที่รุนแรงขณะนี้แสดงค่าที่ขัดแย้งอย่างชัดเจน เต้นรำ (แกว่งค่า) ต่อไป ..



ACE Magnetic Field readings 12/31/2019. Bx and Bz field components following a period of extreme compression is now showing clear opposing values. Dance continues..

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


ความเสียหายที่สังเกตเห็นในวันหลังวันปีใหม่ในเขตของ cronenbourg ใน strasbourg

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


ไฟไหม้ในออสเตรเลียทำให้มีผู้เสียชีวิตสี่รายเมื่อต้นปี


ยอดผู้เสียชีวิตมีอยู่แล้ว 16 ราย เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการช่วยเหลือผู้คนหลายพันคนที่ใช้วันส่งท้ายปีเก่าบนชายหาดผู้ลี้ภัยจากไฟ

 

เมืองหลวงของอินโดนีเซียเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายรับปีใหม่หลังพายุฝนพัดถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมหนักบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน #ThaiPBSnews

 

รูปังอนิจจัง

จำเลาได้บ่อพี่น้อง...คำรณ หว่างหวังศรี เจ้าของวลี นะ จะบอกให้ เปิดใจชีวิตตกอับ...เพราะยุคโซเชียลถ้าบ่อปรับตัวอะไรก็เกิดขึ้นได้...

 

การระเบิด แสงไฟฉับพลัน เหนือ #NewYork อาจเป็น #meteor เจ้าหน้าที่พูด

การระเบิด และแสงสีเขียวรายงานเมื่อวันอาทิตย์โดยคนมากกว่าสองโหล (24 คน) ในเขตซาราโตกา อาจเป็นดาวตกตามรายงานหลายฉบับ

Explosion, flash of light over #NewYork might have been #meteor, officials say

An explosion and flash of green light reported Sunday by more than two dozen people in Saratoga County might have been a meteor, according to multiple reports.

 

# การ เปลี่ยนแปลง ของโลก ซุปเปอร์ภูเขาไฟYellowstone วันที่ 01-01-2020 เกิดแผ่นดินไหวอีกครั้งซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยกตัวของภูเขาไฟตอนนี้

 

จีน.
30/12/2019.

 

John Traczyk

พายุ Geomagnetic ลึกลับกระทืบสนามแม่เหล็กโลก

วิดีโอจากนอร์เวย์แสดงการบิดของแสงออโรร่าที่ไม่คาดคิดในรูปแบบที่ผิดปกติเมื่อสนามแม่เหล็กของโลกได้รับการกระทืบ

นักวิทยาศาสตร์เชื่อมต่อแสงออโรร่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนกับการบีบอัดขนาดใหญ่ในสนามแม่เหล็กของโลก

นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้เห็นแสงออโรร่าที่เกิดจากการบีบอัดสนามแม่เหล็กของโลก

ไม่มีใครรู้ว่าพายุมาจากไหนหรือสาเหตุที่ทำให้สนามแม่เหล็กของโลกหดตัวลงอย่างฉับพลันและรวดเร็ว

เนื่องจากไม่มีการปะทุของดวงอาทิตย์ที่จะผลักดันสนามแม่เหล็กในวันนั้น นักวิจัยคิดว่าวิกฤตการณ์อาจมาจากพายุที่ขอบฟองแม่เหล็กของโลก (Earth's magnetic bubble)

“ การเคลื่อนไหวนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน” บริกส์กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนนี้ “ ทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนี้แล้ว การเคลื่อนไหววนไม่ใช่สิ่งที่เราเคยเห็น ไม่ใช่สิ่งที่เราเข้าใจในปัจจุบัน”

“ คุณสามารถจินตนาการได้ว่ามีใครบางคนกำลังเจาะสนามแม่เหล็กของโลก” บริกส์กล่าว "มีการบีบอัดขนาดใหญ่ แต่มีการแปลเป็นภาษาท้องถิ่น"

“ ไม่เพียง แต่เราไม่เคยเห็นการบีบอัดของความเข้มนี้ เราไม่เคยคาดการณ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว” บริกส์กล่าวเสริม“ เราไม่ได้ยินเกี่ยวกับสภาพอากาศในอวกาศเหมือนกับคนปกติ แต่มันสามารถส่งผลกระทบที่เหลือเชื่ออย่างแท้จริง”

26 ธ.ค. 2562 นักธุรกิจภายใน

https://www.businessinsider.com/new-aurora-borealis-crunch


Mysterious Geomagnetic Storm Crunches Earth's Magnetic Field.

Video from Norway shows an unanticipated aurora twisting in unusual patterns as Earth's magnetic field gets crunched.

Scientists connected the never-before-seen aurora to a huge compression in Earth's magnetic field.

It's the first time scientists have seen an aurora caused solely by a compression of Earth's magnetic field.

No one knows where the storm came from or why it caused Earth's magnetic field to shrink so suddenly and rapidly.

Since there were no eruptions on the sun to push against the magnetic field that day, researchers think the crunch may have come from a storm at the edge of Earth's magnetic bubble.

"This motion is something that we've never seen before," Briggs said in a press conference earlier this month. "This eastward and then westward and then spiraling motion is not something that we've ever seen, not something we currently understand."

"You can imagine someone punching Earth's magnetic field," Briggs said. "There was a massive but localized compression."

"Not only have we never seen a compression of this intensity, we've never even predicted one," Briggs said, adding, "We don't hear about space weather as just normal people, but it can have really incredible impacts."

Dec 26, 2019 Business Insider.

https://www.businessinsider.com/new-aurora-borealis-crunch-earth-magnetic-field-2019-12

 

Setiawan

ปีใหม่หนัก 2020!
ไม่ต้องกังวลมีความสุข
จาการ์ตา อินโดนีเซีย วันที่ 1 มกราคม 2020

 

The Sydney Morning Herald
นโยบายการลดการปล่อยก๊าซของออสเตรเลียที่มีอยู่ เพียงพอที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมและพยายามลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ป่า (bushfire) นายกรัฐมนตรียืนยัน, เมื่อไฟป่าอันกว้างใหญ่ถูกเผาไหม้ในทั้งหกรัฐ
Australia’s existing emissions reduction policies will do enough to protect the environment and seek to reduce bushfire risks, the Prime Minister insists, as vast bushfires burn in all six states.


https://www.smh.com.au/politics/fed...TNEtw0HoSjChl-pf7lwqx57tbg#Echobox=1577943614

 

น้ำท่วมจาการ์ตา: 'ไม่ใช่ฝนธรรมดา' เจ้าหน้าที่บอก

คำบรรยายของสื่อหลายพันคนได้รับการอพยพหลังจากน้ำท่วมฉับพลันในวันสิ้นปี

อย่างน้อย 21 คนเสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมในเมืองหลวงของอินโดนีเซียที่กรุงจาการ์ตา หลังจากที่เมืองนี้มีปริมาณน้ำฝนที่รุนแรงที่สุดอย่างน้อย 24 ปี

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาภูมิอากาศและธรณีฟิสิกส์ (BMKG) วัดปริมาณน้ำฝนได้ 377 มิลลิเมตรต่อวัน ที่สนามบินในจาการ์ตาตะวันออก

นั่นเป็นฝนที่ตกมากที่สุดในวันเดียว ตั้งแต่อย่างน้อยปี 1996 เมื่อมีการจัดทำบันทึกโดยต้นสังกัด

"ฝนตกลงมาในวันส่งท้ายปีเก่า ... ไม่ใช่ฝนธรรมดา" เอเจนซี่กล่าว

หน่วยงานกล่าวว่าความรุนแรงของฝนเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการรวมถึงฤดูมรสุม รวมถึงปริมาณไอน้ำจำนวนมากในอากาศ ที่มีผลต่อการก่อตัวของเมฆบนเกาะชวา

คาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องจนถึงสุดสัปดาห์

ที่อื่น ๆ ในจาการ์ตาตะวันออกมีการบันทึก 335 มม. ในขณะที่เบกาซีไปทางตะวันออกลดลง 259 มม.

ปริมาณน้ำฝนที่สูงกว่า 150 มม. ต่อวันถือว่ามีความรุนแรงมาก

ปริมาณน้ำฝนสูงสุดในช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่จาการ์ตา


ที่มา: สำนักงานอุตุนิยมวิทยาภูมิอากาศและธรณีฟิสิกส์ (BMKG)

ฝนที่ตกหนักเริ่มในวันส่งท้ายปีเก่าและต่อเนื่องตลอดทั้งคืนนำไปสู่บางส่วนของเมืองที่ถูกจมอยู่ใต้น้ำและแผ่นดินถล่มในเขตชานเมือง

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออยู่ในช่วงอายุ 8 ถึง 82 ปี บางคนเสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิ ในขณะที่คนอื่นจมน้ำตาย หรือถูกฆ่าตายโดยแผ่นดินถล่ม สองคนตายมาจาก Lebak ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวง

เด็กชายอายุ 16 ปีหนึ่งคนถูกไฟฟ้าดูดโดยสายไฟฟ้า

ไฟฟ้าถูกปิดในหลายอำเภอของจาการ์ตาเพื่อป้องกันไว้ก่อนและทางรถไฟบางสายก็ปิดเช่นกัน

มีผู้อพยพอย่างน้อย 62,000 คนจากกรุงจาการ์ตา

บนหน้า Twitter ของเขาประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Joko Widodo กล่าวโทษความล่าช้าในโครงการโครงสร้างพื้นฐานการควบคุมน้ำท่วมเนื่องจากความรุนแรงของความเสียหาย


Jakarta floods: 'Not ordinary rain', say officials

Media captionThousands have been evacuated after flash floods on New Year's Eve
At least 21 people have died in flooding in the Indonesian capital, Jakarta, after the city had its most intense rainfall for at least 24 years.

The Meteorology, Climatology and Geophysics Agency (BMKG) measured 377 millimetres of rainfall in a day at an airport in East Jakarta.

That's the most most rain in a single day since at least 1996, when records supplied by the agency began.

"The rain falling on New Year's Eve... is not ordinary rain," said the agency.

The agency said the intensity of the rain was due to several factors including the monsoon season as well as a high amount of water vapour in the air affecting cloud formations over Java island.

The heavy rainfall is expected to continue until the weekend.

Elsewhere in East Jakarta, 335mm was recorded, while in Bekasi, further east, 259mm fell.

Rainfall above 150mm per day is considered extreme by the agency.

Maximum rainfall intensity during major Jakarta floods

Source: Meteorology, Climatology and Geophysics Agency (BMKG)
The intense rain began on New Year's Eve and continued through the night leading to parts of the city being submerged and landslides on the outskirts.

The victims ranged in age from 8 to 82. Some died of hypothermia, while others drowned or were killed by landslides. Two of the dead are from Lebak, south-west of the capital.

One 16-year-old boy was electrocuted by a power line.

The electricity has been switched off in many districts of Jakarta as a precaution, and some railway lines are also shut.

At least 62,000 people have been evacuated out of Jakarta.

On his Twitter page, Indonesian President Joko Widodo blamed delays in flood control infrastructure projects for the severity of the damage.

 

Setiawan

ฉันนอนบนดวงจันทร์เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วมบนโลกใบนี้
ปีใหม่หนัก 2020!

 

MGROnline Live
เผยนาที “เจ้าม้าขาว 2224” พร้อมทีม SKY DOCTOR รพ.ตากสินมหาราช บินฝ่าหมอกควันไฟป่าเทือกเขาถนนธงชัย ช่วยชีวิตเด็กกะเหรี่ยงวัย 5 เดือนชักเกร็ง-มีไข้สูงข้ามปี พ่อ-แม่พานั่ง จยย.เลาะเขาเป็นชั่วโมงส่งรักษาสุขศาลาฯ แล้วไม่ดีขึ้น

คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9630000000218

#MGROnline #SKYDOCTOR

 

MGROnline Live

ไต้หวันส่งทีมกู้ภัยเร่งติดตามค้นหาผู้บัญชาการทหารระดับสูงซึ่งหายตัวไปพร้อมกับลูกเรืออีก 2 คน หลังเฮลิคอปเตอร์ที่พวกเขาโดยสารมาลงจอดฉุกเฉินในเขตเทือกเขาทางตอนเหนือใกล้กับกรุงไทเปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 ม.ค.)

คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9630000000295

#MGROnline

 

“สนธิรัตน์” ยันรบ.เร่งแก้ปัญหาปากท้อง ชี้ผลกระทบเกิดจากปัจจัยภายนอก-ภายใน เผยแพร่: 2 ม.ค. 2563 11:37 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รมว.พลังงาน ระบุเร่งรับมือปัญหาเศรษฐกิจในปีใหม่ 2563 ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ซึ่งระยะเวลาของปัญหาเศรษฐกิจจะยาวนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับอยู่กับหลายปัจจัย

วันนี้ (2 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีการรับมือปัญหาเศรษฐกิจในปีนี้ ว่า รัฐบาลกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งระยะเวลาของปัญหาเศรษฐกิจจะยาวนานหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

เมื่อถามว่าในช่วงปีใหม่นี้ประชาขนอยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐบาลทุ่มเทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลอยู่แล้ว ในกระทรวงต่างๆ ก็พยายามเร่งรัดนโยบายในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ เพราะผลกระทบมี 2ปัจจัย คือ 1.ปัจจัยภายนอกที่เป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก และ2.ปัจจัยภายใน ที่ประกอบจากหลายด้าน ทำให้จะต้องเร่งรัดการทำงานหลายด้าน ซึ่งทุกกระทรวงกำลังเร่งรัดกันอยู่ เช่นกระทรวงพลังงาน ก็จะทำพืชทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นพืชพลังงาน รวมถึงการสร้างความแข็งแรงทางเศรษฐกิจฐานราก ผ่านโครงการพลังงานชุมชน

https://mgronline.com/politics/deta...NBLUdU9qcKxf9Gon-hOiRov991kHFS_9r7j0fOCUnCM-4

 

อิเหนาช้ำ! น้ำท่วม ‘จาการ์ตา’ รับปีใหม่ ยอดตายพุ่ง 21 ศพ
เผยแพร่: 2 ม.ค. 2563 11:22 ปรับปรุง: 2 ม.ค. 2563 11:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - เหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในกรุงจาการ์ตาและปริมณฑลคร่าชีวิตชาวอิเหนาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 21 รายวันนี้ (2 ธ.ค.) ขณะที่ทางการอินโดนีเซียเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับฝนที่จะตกหนักต่อเนื่อง

หลายพื้นที่ในกรุงจาการ์ตาและเมืองใกล้เคียงอยู่ในสภาพจมบาดาล หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. เรื่อยมาจนถึงเช้าวันขึ้นปีใหม่

อุทกภัยซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีทำให้ชาวอินโดนีเซียกว่า 30,000 คนต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเรือน และสร้างความปั่นป่วนต่อผู้คนในเมืองหลวง เนื่องจากรถไฟต้องหยุดให้บริการและไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่

โจโค ฮาริยันโต โฆษกกระทรวงกิจการสังคมของอินโดนีเซีย ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยคราวนี้เพิ่มขึ้นเป็น 21 ราย

ทางการอิเหนาไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าเหยื่อแต่ละรายเสียชีวิตจากสาเหตุใดบ้าง แต่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าพบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 4 ราย, ถูกไฟฟ้าช็อต 4 ราย, ถูกดินถล่มทับ 4 ราย และอีก 3 รายเสียชีวิตจากภาวะตัวเย็น (hypothermia)

สำนักงานธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียพยากรณ์ว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงบ่ายวันนี้ (2)

ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ให้สัมภาษณ์สื่อในวันนี้ (2) ว่า แผนการอพยพประชาชนและมาตรการรักษาความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารท้องถิ่นให้ความร่วมมือกับส่วนกลางมากกว่านี้

วิโดโด ยังทวีตตำหนิความล่าช้าในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยชี้ว่าโครงการเหล่านี้ถูกชะลอมาตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน

กรุงจาการ์ตาและปริมณฑลมีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 30 ล้านคน โดยเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2007 เคยคร่าชีวิตผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ไปกว่า 50 ราย

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารกรุงจาการ์ตาพยายามปรับปรุงพื้นที่ลุ่มต่ำในเมืองหลวงเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในฤดูมรสุม









https://mgronline.com/around/detail...jJJ_EhD-VDBhSFoQ3P5srri3kG2ogd1H5NHXYpvwmb1yo

 

ไม่เห็นนำหลักการทางโหราศาสตร์มาใช้ประกอบคำทำนายทายทักเลย น่าจะนำหลักการเคลื่อนย้ายของดาวตามจักรราศี มาวิเคราะห์บ้างก็ดีน่ะครับ จะได้เห็นความรอบรู้ของ โหรคมช เพราะภาพนิมิต ของโหร ผมไม่ค่อยเชื่อน่ะครับ เพราะถ้าเห็นภาพนิมิต และจะให้ผมเชื่อ ผู้ที่บอกจะต้องมี อนาคตังสญาณ หรือญาณหยั่งรู้อนาคต

MGROnline Live


"โหรคมช." เห็นภาพนิมิต รัฐบาลลุงตู่ อยู่ยาว ศึกซักฟอกไม่ระคายผิว มีปรับครม.ขนาดกลางๆ "พี่น้อง3ป." ดวงยังต้องทำงานต่อไป การเมืองนอกสภาฯ ม็อบจุดไม่ติด คนสร้างความวุ่นวายจะอยู่ไม่ได้!!

>>> "วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ" เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ เจ้าของฉายา "โหรคมช." ที่มักจะออกมาทำนายทายทักเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมือง เฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่รัฐบาลกำลังเจอวิกฤต หรือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด โดยบอกว่าทำนายไปตามภาพนิมิตจากการเป็นร่างทรง"หลวงปู่เกวาลัน" แห่งเทือกเขาหิมาลัย...

แต่หลายคนที่ติดตามการทำนายของ "โหรวารินทร์" มักลงความเห็นว่า นั่นเป็นการออกมาหยั่งกระแส "โยนหินถามทาง" หรือชี้นำแทนรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วง "รัฐบาลทหาร" จนได้รับฉายา "โหรคมช." มาตั้งแต่ครั้งที่ คมช. ยึดอำนาจ

ปีใหม่2563 นี้ก็เช่นกัน "โหรคมช." ได้ทำนายทายทักถึงดวงของ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำรัฐบาล ว่ายังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป และอยู่ครบเทอม จะมีปัญหายุ่งๆ อยู่บ้างนิดหน่อย แค่ 1-2 เดือนในช่วงต้นปี ทั้งเรื่องรัฐบาล การทำงาน หรือปัญหาสุขภาพ แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เป็นไปตามวัย และหลังจากมรสุมผ่านพ้นไปแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศด้วย

สำหรับคดีทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่อง "ยุบพรรค" ที่ศาลฯ จะมีการตัดสินในปีนี้ ซึ่งหลายคนเป็นห่วงว่า จะส่งผลก่อให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย หรือถึงขั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่นั้น "โหรวารินทร์" เห็นว่า ไม่มีปัญหา เพราะเป็นการตัดสินตามกฎหมาย บนความถูกต้อง กฎหมายคือกฎหมาย เราต้องเคารพกฎหมาย

...การเมืองนอกสภาฯ อาจจะกระทบกระทั่งกันบ้าง มีการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มคน แต่มีกำลังไม่มาก ไม่หนักหนา เพราะปลุกปั่นอย่างไรก็ปลุกไม่ขึ้น วูบเดียวก็หายไป เพราะเป็นแค่นักการเมืองที่เพิ่งเข้ามา เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็พยายามปลุกระดม หาพรรคหาพวก มาทำลายล้างกัน ซึ่งประชาชนเขารู้ทันแล้ว...ดังนั้น คนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้คิดให้ดี เพราะบ้านเมืองปัจจุบันสงบแล้ว คนที่ต้องโทษ ก็ต้องได้รับโทษ และขอให้คอยดู ว่าคนที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ เราอาจไม่ได้เห็นอีกเลยในบ้านเมืองเรา เหมือนในอดีต คนที่สร้างความวุ่นวายให้กับชาติบ้านเมือง จะอยู่ไม่ได้...

ส่วนการเมืองในสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น ก็คงจะมีแน่ แต่ตามดวงของ "ลุงตู่" แล้วไม่มีอะไรน่าหนักใจ เรื่องนี้ผ่านฉลุย !!

อีกเรื่องที่น่าสนใจคือการปรับครม. "โหรวารินทร์" บอกมีแน่นอน และจะเกิดขึ้นภายใน 3-6 เดือนแรกของปีด้วย เพราะจะมีพรรคการเมืองบางกลุ่ม ที่ก่อนหน้านี้อยู่ฝ่ายตรงข้าม กลับหลังหันมาเข้าร่วมรัฐบาล จึงต้องปรับกันหลายตำแหน่งหน่อย เป็นการปรับขนาดกลางๆ ไม่ถึงกับปรับใหญ่ 20 ตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสม เพราะบางคนดวงบอกว่าหมดหน้าที่แล้ว ส่วน "พี่น้อง3ป." มีดวงที่ยังต้องทำหน้าที่ต่อไป ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือกันเหนียวแน่นปัญหา "เสียงปริ่มน้ำ" หมดไป...

ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเหตุการณ์จะเป็นจริงตามภาพนิมิต ของ "หลวงปู่เกวาลัน" แห่งเทือกเขาหิมาลัย หรือไม่ เพราะหลายๆ คนก็มักเปรียบเปรยว่าการทำนายทายทักของ "โหรคมช." ก็ไม่ต่างอะไรกับปฏิบัติการ "ไอโอ" ของฝ่ายรัฐบาล เพียงแต่ออกมาในรูปแบบของคำทำนายเท่านั้น

#mgronline

 

เศรษฐกิจแย่...ไม่เพียงแค่ความรู้สึก
เผยแพร่: 1 ม.ค. 2563 21:07 โดย: สุนันท์ ศรีจันทรา


ก่อนส่งท้ายปี 2562 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาแถลงถึงคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้า โดยประมาณการว่า จีดีพีจะโตประมาณ 3.3% และการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.6%

ตัวเลขการคาดการณ์จีดีพีของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของสำนักวิจัยภาคเอกชน รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประเมินว่า จีดีพีปีหน้าจะโตประมาณ 2.8%

หน่วยงานด้านเศรษฐกิจภาครัฐ มักมีมุมมองเศรษฐกิจในลักษณะโลกสวย เช่นเดียวกับปีที่ผ่าน ซึ่งเดิมคาดว่า จีดีพีจะโตประมาณ 4% แต่ปรับลดลงมาต่อเนื่อง จนสิ้นปีก็ออกมายอมรับว่า จริงๆ แล้วจีดีพีจะโตเพียง 2.5%

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2563 ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า จะฟื้นตัวขึ้นหรือฟุบต่อ เพราะถ้าฟังจากคนค้าขาย วงสนทนานักธุรกิจ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป จะได้ยินแต่เสียงของคนที่มองโลกในแง่ร้าย กังวลว่า เศรษฐกิจจะทรุดหนักต่อไป

และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาช่วงปลายปี ก็บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยังย่ำแย่ และไม่มีใครแน่ใจว่า จุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปหรือยัง

การส่งออก 11 เดือนแรกปี 2562 ติดลบ 2.8% และคาดว่าทั้งปีจะติดลบไม่ต่ำกว่า 2% การลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัว เพราะนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในทิศทางเศรษฐกิจ ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศตกต่ำสุดขีด ส่งผลให้ยอดขายสินค้าต่างๆ หดตัว

หนี้ภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นเป็น 340,053 บาทต่อครัวเรือน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้น จนสถาบันการเงินต้องควบคุมการปล่อยสินเชื่ออย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะมีบทเรียนจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 มาแล้ว

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซบเซาขนาดหนัก ลูกค้าที่ขอเงินกู้จากธนาคารไม่ผ่านการอนุมัติ บ้านที่ขายได้ แต่กลับโอนไม่ได้ ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน

การส่งออกที่ซบเซา ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงธุรกิจเอกชน โดยหลายโรงงานต้องทยอยปลดพนักงาน

ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน ดัชนีหุ้นไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากคาดการณ์กันว่า สิ้นปีดัชนีหุ้นจะพุ่งขึ้นยืนเหนือ 1,700 จุด แต่กลับไปไม่ถึง 1,600 จุด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ถอนทุนกลับต่อเนื่องจากปี 2561 โดยขายหุ้นทิ้งกว่า 4 หมื่นล้านบาท หลังจากปี 2561 ขายทิ้งแล้วกว่า 2.87 แสนล้านบาท และไม่รู้ว่าปีนี้ต่างชาติจะกลับมาลงทุนใหม่หรือไม่

ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันมาตรการต่างๆ ออกมาต่อเนื่อง อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบมหาศาล แต่ไม่อาจพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่ฟุบหนักได้

แม้ว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยจะมีการลงนามข้อตกลงทางการค้าในเดือนมกราคมนี้ แต่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยเฉพาะภาคการส่งออก

ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็ง ยังบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และอาจไม่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง

ธุรกิจขนาดใหญ่ของกลุ่มเจ้าสัวเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ได้ และกอบโกยกำไรต่อไป แต่ธุรกิจโดยทั่วไปกำลังล้มหายตายจาก เพราะยอดขายตกฮวบ แม้แต่การค้าขายระดับรากหญ้า เพราะกำลังซื้อตกต่ำ จนได้รับผลกระทบกันทุกหย่อมหญ้า

ความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ ตามห้างสรรพสินค้าแทบไม่มีคนเดินจับจ่าย ร้านอาหารว่างเปล่า ร้านค้าข้างทางแทบไม่มีคนเดิน ธุรกิจทั่วไปดูวังเวง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และพยายามเตือนกันให้ระมัดระวังการใช้จ่าย หลีกเลี่ยงการลงทุน โดยถือเงินสดไว้แน่นๆ

เพราะเชื่อกันว่า เศรษฐกิจปีนี้ อาจเลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมา ปี 2562 ที่คิดกันว่า ถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่ปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมอาจตกต่ำกว่า

ปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจต้องพยายามประคับประคองตัวเพื่อความอยู่รอด แต่ปีนี้ ภาคธุรกิจทนต่อไปไม่ไหว แบกภาระค่าใช้จ่ายต่อไปไม่ได้ ปัญหาที่ตามมาคือการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดปี 2562

บรรดากูรูตลาดหุ้น ไม่กล้ามองโลกสวยเท่าใดนัก โดยทำนายเป้าหมายดัชนีหุ้นปีนี้ในกรอบแคบๆ เพราะเดาผิดมา 2 ปีติดแล้ว และคาดการณ์ว่า ดัชนีหุ้นปีนี้อาจขยับขึ้นไปแถว 1,700 จุดเท่านั้น

ส่วนสำนักวิจัยเศรษฐกิจภาคเอกชนโดยทั่วไป ได้แต่คาดหวังว่า เศรษฐกิจปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน โดยจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ

แต่สำหรับประชาชนทั่วไป สำหรับนักธุรกิจส่วนใหญ่ ไม่มีความมั่นใจว่า เศรษฐกิจจะฟื้น แต่หวาดผวาว่าจะทรุดหนัก และเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น

จะจับจ่ายใช้สอยต้องคิดให้หนัก จะลงทุนอะไรต้องระมัดระวัง ถ้าเลือกได้ ควรชะลอการลงทุน เพื่อรอดูเหตุการณ์ไปก่อน

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สอบตกการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมา 5 ปีแล้ว ปีนี้ถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้น ประชาชนยังเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ธุรกิจอยู่กันไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์คงอยู่ยากเหมือนกัน

https://mgronline.com/daily/detail/...uakryPwSRYkbpwlI1j9PamvRFluLrCUz7pnR66wzFsRMc

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ผนังด้านหนึ่งของ Sumidero Canyon ที่ Chiapas ประเทศเม็กซิโก พังทลาย หินหลายร้อยตันตกลงบนแม่น้ำของแม่น้ำ Grijalva