ติดตามสถานะการณ์

Kike Santillana
นี่คือความรู้สึกสั่นไหวที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แผ่นดินไหวขนาด 5.5 ความลึก 0 กิโลเมตร
พลเมืองกล่าวว่าเขารู้สึกถึงความรุนแรง เขาไม่ได้รู้สึกถึงความรุนแรงในโตเกียวตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2554

 

Kike Santillana
ผลกระทบ
ช่วงเวลาที่ซึ่งพายุทอร์นาโดทำลายทุก ๆ ย่างก้าวของมัน ในรัฐอินเดียนา,สหรัฐอเมริกา 23/06/2019

 

Kike Santillana

วิดีโออีกภาพของพายุทอร์นาโดที่น่าทึ่งในรัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา
23/06/2019

 

แผ่นดินไหว ขนาด 7.3 ภูมิภาค BAND SEA วันที่ 2019-06-24 เวลา 09: 53: 40.1 น. ตามเวลาประเทศไทย
ตำแหน่ง 6.42 S; 129.18 E
ความลึก 214 กม
Macroseismic
เอฟเฟกต์ความเข้ม V: รับรู้แรงสั่นสะเทือนรุนแรง

Magnitude 7.3
Region BANDA SEA
Date time 2019-06-24 02:53:40.1 UTC
Location 6.42 S ; 129.18 E
Depth 214 km
Macroseismic
Intensity V Effects: Strong Shaking
Distances
463 km NE of Dili, Timor-Leste / pop: 150,000 / local time: 11:53:40.1 2019-06-24

321 km S of Ambon, Indonesia / pop: 356,000 / local time: 11:53:40.1 2019-06-24

https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=773032

 

Kike Santillana

#breaking #news


แผ่นดินไหวที่รุนแรงในขนาด 7.5 รับรู้การสั่นได้ถึงดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย

 

แปลกดี น่ะครับ ลึก 0 กม ทดลองนิวเคลียร์ หรือมาจากภูเขาไฟในโตเกียว

Kike Santillana

กรงนี้ถูกเขย่าโดยแผ่นดินไหวในโตเกียว ญี่ปุ่น ขนาด 5.5
ความลึก 0 กิโลเมตร

 

Kike Santillana

รายงานความผิดปกติ ไฟดับครั้งใหญ่ ในญี่ปุ่น Yamanashi ในขณะนี้

 

อ่านบทความหนึ่ง ที่เกี่ยวกับ zeta talk ภัยพิบัติ จะถูกนำไปโยงกับสภาวะโลกร้อน ซึ่ง พอสถานการณ์รุนแรงขึ้น ก็จะอ้างแต่ว่าลดโลกร้อนไม่ได้ แต่สภาวะโลกร้อน ก็ไม่สามารถนำมาอธิบายกับสภาพแวดล้อมที่ผิดปกติของโลกในขณะนี้ได้เลย คิดว่ามาจากสาเหตุอะไรนอกเหนือจากโลกร้อน

 

Kike Santillana

รอยแตกในตึกใหญ่ในดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย จากแผ่นดินไหวที่รุนแรง ขนาด 7.2 ที่มีศูนย์กลางในวงอยู่นอกชายฝั่งของอินโดนีเซีย



Grietas en enormes edificios en Darwin Australia por el sismo fuerte con epicentro en banda sea frente a las costas de Indonesia


El sismo fue de magnitud 7.2

 

Kike Santillana

รู้สึกถึงแผ่นดินไหวที่มีพลังในดาร์วิน ประเทศออสเตรเลีย, ศูนย์กลางอยู่ในทะเล Banda (ทะเล) แผ่นดินไหว ขนาด 7.3

 

ปกติดีน่ะครับ แผ่นเปลือกโลกอินโด ออสเตรเลีย เป็นแผ่นเปลือกโลกที่ทำหน้าที่เป็นหลักยันแผ่นเปลือกโลกอื่นๆ ไม่ให้อิสระจากกัน ในสภาพผิดปกติของโลกทั้งจากใต้โลกที่สั่นไหว อละความร้อนสูงมาก บริเวณนี้ก็ต้องสั่นสะเทือนมากและแรงเป็นพิเศษ เรากำลังจะพบแผ่นเปลือกโลกเป็นอิสระจากกันในเร็วๆ นี้ หรือเปล่าน่ะ

Kike Santillana


อย่าหยุดสั่นในอินโดนีเซีย


แผ่นดินไหวในปาปัวอินโดนีเซีย ขนาด 5.6

ความลึก 10 กิโลเมตร



NO PARA DE TEMBLAR EN INDONESIA

sismo en Papúa Indonesia
Magnitud 5.6
Profundidad 10 kilómetros

 

Kike Santillana

ชั่วโมงสุดท้าย
การตกลงของอุณหภูมิที่น่าทึ่งใน #PuertoMontt, ชิลี เปลี่ยนจาก 9.2 ° C เป็น 6.3 ° C ในเวลาเพียง 10 นาที

 

Kike Santillana

อีกหนึ่งอาฟเตอร์ช๊อกขนาดปานกลางในปาปัว อินโดนีเซีย

ขนาด 5.3

ความลึก 10 กิโลเมตร

 

Kike Santillana

ฟ้าแลบที่น่าทึ่งถูกพบในดัลลัส เท็กซัส

23/06/2019

 

แผ่นดินไหว ขนาด 6.1
ภูมิภาค PAPUA, อินโดนีเซีย
วันที่ 2019-06-24 เวลา 08: 05: 29.3 น. ตามเวลาประเทศไทย
ตำแหน่ง 2.70 S; 138.55 นE
ความลึก 30 กม



Magnitude 6.1

Region PAPUA, INDONESIA

Date time 2019-06-24 01:05:29.3 UTC

Location 2.70 S ; 138.55 E

Depth 30 km

Distances

1211 km NW of Port Moresby, Papua New Guinea / pop: 284,000 / local time: 11:05:29.3 2019-06-24


240 km W of Jayapura, Indonesia / pop: 135,000 / local time: 10:05:29.3 2019-06-24


226 km W of Abepura, Indonesia / pop: 62,300 / local time: 10:05:29.3 2019-06-24


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=773016

 

ไทยพร้อมมี ‘พ.ร.บ.โลกร้อน’ ผุดปลายปี ’63 บังคับใช้เป็นประเทศต้นๆ
By ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม -24/06/2019

ย้อนกลับไปราว 4 ปีที่แล้ว ประเทศไทยได้จัดส่ง “การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด” หรือ “NDC” ที่กำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) โดยระบุไว้ว่าภายในปี 2573 ประเทศไทยจะลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% จากกรณีปกติ หรือเพิ่มเป็น 25% หากได้รับการสนับสนุนระหว่างประเทศ

แม้ตามเป้าหมายแล้วจะยังคงเหลือเวลาอีกนับทศวรรษ แต่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก็เริ่มที่จะโล่งใจได้มากขึ้น เมื่อตัวเลขข้อมูลล่าสุดจากผลการลดก๊าซเรือนกระจกในปี 2560 พบว่าประเทศไทยสามารถลดไปได้แล้วราว 13-14% ซึ่งก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจากปี 2559 ที่ลดได้ราว 12% และด้วยอัตรานี้จะทำให้ในปี 2573 ไทยจะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 28.2%

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่าหนึ่งในสาเหตุที่ตัวเลขของการลดก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ เป็นเพราะศักยภาพของแต่ละภาคส่วนที่สามารถทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ จนทำให้ภาระของการเดินหน้าตามเป้าหมาย NDC นั้นดูจะไม่ลำบากมากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคพลังงาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) หรือแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) ต่างมีการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลในสัดส่วนที่สูงกว่าคาดการณ์ไว้ครั้งแรก ช่วยยกระดับตัวเลขก๊าซเรือนกระจกที่คาดว่าจะลดได้จาก 111 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เป็น 157 ล้านตันฯ ในปี 2573

ขณะเดียวกัน ยังมีความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น กองทุน NAMA Facility ที่ริเริ่มโครงการลดก๊าซเรือนกระจกในไทย ทั้งในอุตสาหกรรมทำความเย็น (Thai RAC NAMA) หรือในเกษตรกรรมนาข้าว (Thai Rice NAMA) ด้วยงบประมาณสนับสนุนราวโครงการละ 15 ล้านยูโร (600 ล้านบาท) ยังไม่นับรวมกองทุนอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอ ซึ่งทั้งหมดจะเข้ามาช่วยเสริมในสัดส่วน 5% เพิ่มเติมจากที่ประเทศทำได้

สำหรับความคืบหน้าปัจจุบัน สผ.ได้จัดส่งร่างแผนปฏิบัติการฯ ที่จะสนับสนุนการดำเนินงานตามโรดแมป NDC ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยอยู่ระหว่างการนำเสนอ ก่อนที่จะถูกนำมาใช้กับหน่วยงานต่างๆ ในการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ สอดคล้องกับแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ

ในระหว่างเดียวกันนี้ สผ.ยังได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาระบบการตรวจวัด รายงานผล และทวนสอบ (MRV) ซึ่งจะถูกใช้ในกระบวนการเก็บตัวเลขการลดก๊าซเรือนกระจกของแต่ละภาคส่วน รองรับมาตรการที่จะถูกกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเครื่องมือที่กำลังจะถูกนำมาใช้เพื่อให้การดำเนินงานลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศมีความเข้มข้นมากขึ้น คือ พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ หรือ พ.ร.บ.โลกร้อน ที่ขณะนี้ร่างกฎหมายฉบับแรกใกล้เสร็จสมบูรณ์ และคาดว่าคนไทยจะได้เห็นภายในปลายปี 2563 กลายเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่จะมีกฎหมายโลกร้อนเป็นกฎหมายเฉพาะ

ดร.พิรุณ ขยายความถึงจุดเริ่มต้นของแนวความคิดในการจัดทำ พ.ร.บ.โลกร้อน เมื่อ 2 ปีที่แล้วว่า เกิดขึ้นหลังจากที่มีการมองกลไกการขับเคลื่อนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายเป็นการเฉพาะ เพราะแม้แต่ในกฎหมายสิ่งแวดล้อม หรือ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 ก็มิได้มีการกำหนดเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไว้เป็นหนึ่งในสาระของคำว่าสิ่งแวดล้อม

“ในเมื่อบริบทของ climate change นั้นกว้างและหลากหลาย และเชื่อมโยงกับหลายภาคส่วนมาก แล้วการขับเคลื่อนให้เกิดการบรรลุเป้าหมายทำด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่จะบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน จึงมีแนวคิดเรื่องของการพัฒนากฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ” เขากล่าวเสริม

ขณะเดียวกัน ประเด็นดังกล่าวยังถูกระบุไว้แล้วในแผนการปฏิรูปประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ที่กำหนดไว้ว่าภายในปี 2563 ประเทศไทยจะต้องมีร่างแรกของ พ.ร.บ.โลกร้อน รวมถึงการมีอนุบัญญัติต่างๆ ฉะนั้น สผ.จึงอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกร่าง

เขายังอธิบายถึงรายละเอียดเนื้อหาภายใต้กฎหมาย ซึ่งจะมี 7-8 หมวด บรรจุตั้งแต่เรื่องของคณะกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ แผนแม่บทการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการลดก๊าซเรือนกระจก ที่อาจมีผลผูกพันกับทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเรื่องของการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่จะให้หน่วยงานต่างๆ นำปัจจัยความเสี่ยงของ climate change เข้าไปผนวกในการทำแผนหรือโครงการ

พร้อมกันนี้ ภายในร่างแรกยังจะมีเรื่องของกลไกกองทุน หรือกลไกทางการเงินอื่นๆ เช่น ภาษี หรือตลาดคาร์บอน ที่จะถูกนำขึ้นมาใช้ พร้อมกับอนุบัญญัติต่างๆ ที่เสริมรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละหมวด ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ประชาชนคนไทยจะได้เห็นภายในปลายปี 2563

ดร.พิรุณ มองว่าการมีกฎหมายเข้ามานั้น จะทำให้การแก้ไขปัญหาโลกร้อนมีอำนาจเชิงการบริหารที่เชื่อมโยงได้ทุกภาคส่วน ต่างจากคำสั่งในปัจจุบันที่สามารถบังคับใช้ได้กับหน่วยงานภาครัฐเพียงอย่างเดียว ไม่มีผลผูกพันกับภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งในอนาคตการบังคับใช้กฎหมายโลกร้อนก็จะมีผลผูกพันกับภาคเอกชน และประชาชน เช่นเดียวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมก่อนหน้านี้

“แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีคือน้ำหนักของการบังคับใช้กับภาคเอกชนและประชาชน เพราะ climate change ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นในเฉียบพลัน แต่เป็นสิ่งที่ต้องการการแก้ไขในระยะยาว ฉะนั้นรูปแบบวิธีการภายใต้กฎหมายต้องคิดให้ดี ซึ่งนี่จะถือเป็นเครื่องมือสำคัญ และทำให้เราเป็นประเทศต้นๆ ที่จะมีกฎหมายเฉพาะในเรื่องนี้เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน” รองเลขาธิการ สผ. ระบุ

https://greennews.agency/?p=19171

 

ซินเจียงใช้ต้นกก-ต้นอ้อ “กั้นตารางหมากรุก” คุมการขยายตัวทะเลทราย

24 มิ.ย. 62 (10:15 น.)

สนับสนุนเนื้อหา

สู้กับทะเลทราย...เขตซินเจียงของจีนใช้ต้นกก-ต้นอ้อ “กั้นตารางหมากรุก” ควบคุมการแปรสภาพเป็นทะเลทราย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการป่าไม้อำเภออวี้หลี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ กำลังช่วยกันวางลำต้นตากแห้งของต้นอ้อให้เป็นแนวตารางหมากรุก เพื่อป้องกันและควบคุมการแปรสภาพเป็นทะเลทรายของพื้นที่อาฉีเค่อ

เนื่องจากอำเภออวี้หลีตั้งอยู่ทางเหนือของทะเลทรายทากลามากัน จึงมักโดนพายุทรายพัดเข้าปกคลุมพื้นที่จนอาจแปรสภาพเป็นทะเลทราย นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา จึงเริ่มมีการทดลองนำเอาพืชประเภทต้นอ้อ ต้นกก ต้นหญ้ามาวางกั้นเป็นแนวหมากรุก ซึ่งผลปรากฏว่าได้รับผลกระทบจากพายุทรายน้อยลงทุกปี

ปัจจุบันโครงการดังกล่าวขยายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 1,000 หมู่ หรือประมาณ 416 ไร่

(บันทึกภาพวันที่ 20 มิ.ย. 2019)

https://www.sanook.com/news/7813090/

 

มันเป็นฉากที่สะเทือนใจและสถานการณ์ฉุกเฉิน!

ผู้คนได้เห็นหมีขั้วโลกที่หิวและหมดแรงเดินไปรอบๆและกำลังมองหาอาหารในเมืองรัสเซียเนื่องจากการลดลงของน้ำแข็งทะเล สร้างความสนใจให้กับสาธารณะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

ต้นไม้คือคำตอบ จีนปลูกป่ากว่า 6,600 ไร่ ปราบอาถรรพ์ “พื้นที่ลมปีศาจ”

26 ก.พ. 62 (10:25 น.)

ต้นไม้คือคำตอบ...จีนปลูกป่ากว่า 6,600 ไร่ ปราบอาถรรพ์ “พื้นที่ลมปีศาจ” แก้ปัญหาพายุทราย-หน้าดินกัดเซาะ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พื้นที่สองข้างทางความยาว 30 กิโลเมตร ที่ขนาบทางหลวงหมายเลข G30 ในเมืองทัวปาน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “พื้นที่ลมปีศาจ” เพราะต้องเผชิญกับลมกรรโชกแรงเกือบตลอดทั้งปี และกระแสลมก็พัดเอาฝุ่นและเม็ดทรายเข้าไปยังพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง

ทว่า 2 ปีที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น หลังจากมีการเริ่มปลูก “ผืนป่ากั้นลม” เป็นบริเวณกว้างถึง 1,067 เฮกตาร์ หรือราว 6,668 ไร่ เพื่อให้ต้นไม้เป็นฉากกั้นพายุทรายและเป็นการแก้ปัญหาการกัดกร่อนของหน้าดินได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

https://www.sanook.com/news/7692374/

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

นี่คือความรู้สึกของแผ่นดินไหวขนาด 4.1 ในกรุงโรม # 23 มิถุนายน