ติดตามสถานะการณ์

กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้


ด่วน!! เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนหน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 39 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส... พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อเหล็กทรงกลมน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม จุดระเบิดแบบตั้งเวลา...สามารถกู้ได้ 2 ลูก....!!

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 30) สงครามการค้า-เลือกตั้ง'ปัจจัยเสี่ยงฉุดศก.อาเซียน: ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าปีหน้าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเป็นเรื่องเป็นราว เริ่มจากจีน ที่สงครามการค้ายืดเยื้อกับสหรัฐเริ่มส่งผล ประกอบกับเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีการชะลอตัวให้เห็นบ้างแล้วตั้งแต่ปลายปีนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่อาเซียนจะไม่ได้รับผลพวง มาดูกันว่า เศรษฐกิจอาเซียนปีหน้าไปในทิศทางใด



รายงานสำรวจ จัดทำโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและนิกเคอิ ซึ่งทำการสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ตลอดจนนักวิเคราะห์ประมาณ 40 คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)โดยเฉพาะในกลุ่มชาติเศรษฐกิจใหญ่สุด 5 ประเทศคือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย กับอินเดียอีก 1 ประเทศ พบว่า ภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ยังหาทางออกร่วมกันไม่ได้ รวมทั้ง ประเด็นการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่หลายประเทศขับเคี่ยวกันอย่างจริงจัง ด้วยความหวังว่าจะไม่ตกเทรนด์และได้ประโยชน์จากการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และการเลือกตั้งทั่วไปในหลายประเทศของอาเซียน ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดให้แนวโน้มเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคอ่อนแอลง



ทั้งนี้ การส่งเสริมความชำนาญด้านดิจิทัลและการสร้างฐานบุคลากรดิจิทัล ของอาเซียน ต้องเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของเสาหลักใหม่อาเซียน ภาคเอสเอ็มอี สนับสนุนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของทั้งอาเซียนได้กว่า 50% และ คิดเป็น 99% ของบริษัททั้งภูมิภาค แต่ 45% ของบริษัทเหล่านี้ ยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล การมีทักษะ ดิจิทัลที่จำเป็นจะเพิ่มผลการดำเนินงานของเอสเอ็มอี และสร้างโอกาสที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคได้ในระดับสูงสุด



ศูนย์วิจัยแห่งนี้ คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนในปี2562 ที่เคยขยายตัวอย่างแข็งแกร่งจะปรับตัวลงประมาณ 0.1% เป็น 4.7% ถือเป็นการปรับตัว ลงติดต่อกันสองไตรมาสเมื่อเทียบกับการคาดการณ์เมื่อเดือนกันยายน พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอินเดีย ซึ่งขยายตัว อย่างต่อเนื่องในช่วง 6-8 % ติดต่อกันมาหลายปี จะเริ่มชะลอตัวลงในช่วงปี 2561-2562 และช่วงปี 2562-2563 โดยบรรดา นักเศรษฐศาสตร์เริ่มมองเห็นผลกระทบจากสงครามการค้าว่าจะเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศนี้



รายงานชิ้นนี้ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ การเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนในปี 2561 ให้อยู่ที่ 4.8% ลดลงประมาณ 0.1% จากที่เคยสำรวจเมื่อเดือนกันยายน และต่ำกว่าตัวเลขปี 2560 ประมาณ 0.2% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าการขยายตัว ของเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2562 จะอยู่ที่ 4.7% ลดลงประมาณ 0.1% และลดลงจากตัวเลขประมาณการปี 2561 ซึ่ง การส่งออกที่อ่อนแอลงเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ฉุดให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนชะลอตัวลง



นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า มาตรการจัดเก็บภาษีของสหรัฐ จะส่งผลกระทบ ต่อจีนอย่างหนักในปี 2562 เนื่องจาก เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญกับปัจจัยภายในประเทศมากขึ้นมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมา มาตรการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลสหรัฐ ส่วนใหญ่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกทางจิตวิทยา แต่เมื่อเข้าสู่ปีหน้า ก็จะเปลี่ยนแปลงไปและส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน



เมื่อวันพุธ (26ธ.ค.)ที่ผ่านมา รัฐบาลจีน ประกาศว่า รัฐบาลเตรียมยกระดับการสนับสนุน ภาคเอกชนในปี 2562 โดยคณะรัฐมนตรีจีน ประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน



แถลงการณ์จากการประชุมคณะรัฐมนตรีจีน ระบุว่า ธนาคารกลางจีน จะปรับปรุงนโยบายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (อาร์อาร์อาร์) แบบมีเป้าหมาย และการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยหนุนบริษัทเอกชน



ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของเวียดนาม ขยายตัว รวดเร็วขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 เนื่องจากได้แรงหนุนจากภาคการผลิตที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนาม ขยายตัว 7.3% ในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจากระดับ 6.82% ในไตรมาสก่อนหน้า และตลอดทั้งปี 2561 เศรษฐกิจของเวียดนามขยายตัวที่อัตรา 7.1% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ที่ระดับ 6.9% ขณะที่ตัวเลขการผลิตในเดือนม.ค-ธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้ว



ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและนิกเคอิ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยและมาเลเซีย ที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักจะปรับตัวลงทั้งปี2561 และปี 2562 ขณะที่การบริโภคของภาคเอกชนที่ยังคงแข็งแกร่งจะช่วยชดเชยภาวะการชะลอตัวของการส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐได้



"แรงกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยจากภายนอกเริ่มแผ่วลง แต่จะได้การบริโภคของภาคเอกชนที่ยังคงคึกคักเข้ามาช่วยชดเชยภาวะการชะลอตัวของการส่งออกและการลงทุนของภาครัฐ"นักวิเคราะห์จากวาณิชธนกิจในมาเลเซีย ให้ความเห็น



พร้อมกันนี้ ยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอินโดนีเซียจะขยายตัวกว่า 5% ไปจนถึงปี 2563 แต่คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียในปีหน้าจะลดลง เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนในประเทศลดความร้อนแรงลง



ส่วนฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวกว่า 6%ไปจนถึงปี 2563 เนื่องจากความต้องการในประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2561 จะชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังคงเป็นปัจจัยลบกดดันการบริโภคในประเทศและการใช้จ่ายด้านการลงทุน



ขณะที่เศรษฐกิจอินเดีย คาดว่าจะขยายตัว ในสัดส่วนกว่า 7% ในปี2561 ปี 2562 และต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยบรรดา นักเศรษฐศาสตร์เห็นสัญญาณการบริโภคที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในอินเดีย บวกกับ การลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแดนภารตะให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


Source: กรุงเทพธุรกิจ

 

Clima Extremo 24


สก็อตแลนด์



ลมพัดทรายตามชายหาดทะเล

 

Clima Extremo 24


แม็กซิโก



หลังจากหิมะตกอย่างมีนัยสำคัญ ถนน จาก janos chihuahua ไปยัง aguaprieta sonora ถูกปิดสำหรับการผ่านทาง ยังคงมีหิมะตก

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


ตุรกีเพิ่มรถถังอีก 50 คันมุ่งตรงไปยังชายแดนซีเรีย


-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


กองทหารของตุรกีได้ส่งรถถังไปยังชายแดนซีเรียเพิ่มอีกประมาณ 50 คันท่ามกลางการเตรียมการปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย

ช่องทีวีของตุรกีรายงานเมื่อวันเสาร์


Haberturk รายงานว่ามีการเพิ่มการใช้งานรถถังจำนวนอีก 50 คัน เมื่อเช้าวานนี้ภายใต้คำสั่งของกองทหารติดอาวุธชุดที่ 20 ในเมือง Sanliurfa


ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาอังการาได้เสริมกำลังทหารรักษาการณ์และหน่วยทหารด้วยอาวุธและสนับสนุนยานพาหนะและอาวุธปืนใหญ่ มันเชื่อมโยงกับการเตรียมการปฏิบัติการทางทหารรอบใหม่ของตุรกีในซีเรีย ในพื้นที่ Manbij ซึ่งเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมพร้อมใช้งาน หลังจากการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์เกี่ยวกับการถอนกำลังทหารของกองทัพอเมริกันออกจากซีเรีย ในเมือง แมนบิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์เคิร์ดิชที่ใหญ่ที่สุดในซีเรียตะวันออก


BY>>>>>Giant Khan<<<<<


http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13971008000884

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


อิหร่านสร้างเรดาร์ตรวจสอบดาวเทียมในอวกาศ


-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-


ผู้บัญชาการผู้บังคับการกองบัญชาการการปฏิวัติอิสลาม (IRGC) นายพล ฮูสเซน สาลามี ประกาศว่าอิหร่านได้พัฒนาเรดาร์ชนิดใหม่ที่มีความสามารถในการตรวจสอบดาวเทียมในวงโคจรโลกต่ำ (LEO)


"เราสามารถสร้างเรดาร์ตรวจจับวัตถุในอวกาศ และตรวจสอบดาวเทียมที่เป็นภัยต่อเราในวงโคจรได้ " นายพลซาลามี่กล่าวในกรุงเตหะรานเมื่อวันเสาร์


เขาขีดเส้นใต้ในความไร้ประสิทธิภาพของการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการคว่ำบาตรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับอิหร่านและกล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่านได้ผลิตโดรนที่สามารถปฏิบัติการในระยะการบิน 3,000 กม และขีปนาวุธความเร็วสูงที่สามารถทำลายศัตรูได้ รวมทั้งเรือรบจำนวนมาก


หัวหน้าศูนย์อวกาศแห่งชาติของ Manouchehr Manteqi ย้ำว่าอิหร่านได้ครอบครองขององค์ความรู้โครงสร้างพื้นฐานในการผลิตดาวเทียมและจรวดแล้ว


"เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการออกแบบและสร้างดาวเทียม จรวด และการเปิดตัวดาวเทียมสู่วงโคจรโลกต่ำ (LEO) รวมถึงวิทยาศาสตร์การสำรวจในอวกาศ" Manteqi กล่าวเมื่อวันเสาร์


นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมว่านักวิจัยชาวอิหร่านกำลังทำงานด้านเทคโนโลยีเพื่อออกแบบสร้างดาวเทียมตรวจจับและปฏิบัติการด้านโทรคมนาคม โดยระบุว่าประเทศนี้มีเป้าหมายที่จะออกแบบโครงการ ผลิต โดยเร็วที่สุดผ่านความร่วมมือในระดับนานาชาติ


BY>>>>>Giant Khan<<<<<


http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13971008000711

 

Watchers


#ข่าวภัยพิบัติ

30/12/18

// ออสเตรเลียร้อนระอุด้วย #คลื่นความร้อน สูงเกือบ 50°C ทำลายสถิติ //


ซิดนีย์ (REUTERS) - ออสเตรเลียดูเหมือนว่าจะร้อนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

สำนักข่าวสภาพอากาศแห่งชาติกล่าวเมื่อวันศุกร์ (28 ธ.ค. ) มีคำเตือนด้านสุขภาพ ปชช.จำนวนมาก


เมืองที่ร้อนที่สุดของประเทศ คือมาร์เบิ้ลบาร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือที่ห่างไกล ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา (49.1 องศาเซลเซียสในวันพฤหัสบดี)

นักพยากรณ์กล่าวว่าความร้อนจะแผ่กระจายไปทางตะวันออกเฉียงใต้ อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 16 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติ


เมืองเคนเบอร์รา กำลังเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ร้อนแรงที่สุดในเดือนธันวาคมที่บันทึกสถิติไว้ที่ 39 องศาเซลเซียส ในวันเสาร์

(ลิงก์: http://str.sg/o6kd)

#Heatwave #Australia

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake

30/12/18

รายงานแผ่นดินไหวเล็กน้อยใน #โรม #อิตาลี

• ขนาด M3.2

• จุดศูนย์กลางของ Gallican


ลิงก์: https://roma.repubblica.it/cronaca/...o_3_2_epicentro_gallicano-215470501/?ref=twhr

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake #Sumatra #Indonesia

30/12/18

(จุดแดง)

เวลา 15:39 น. ตามเวลาไทย

แผ่นดินไหว แมกนิจูด 5.8

ความลึก 168 กม.

พิกัด 102.29°E 2.76°S

บนเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย


https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000iz50/executive


29/12/18

(จุดเหลือง)

เวลา 23:12 น. ตามเวลาไทย

แผ่นดินไหวแมกนิจูด 4.8

ความลึก 19 กม.

พิกัด 99.85°E 2.29°S

นอกชายฝั่งทางใต้ของเกาะสุมาตรา


https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000iyyf/executive

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake #Japan

30/12/18

เวลา 02:08 น. ตามเวลาไทย

แผ่นดินไหว แมกนิจูด 5.4

ความลึก 50 กม.

พิกัด 42.3°N 143.1°E

เขตโทคาจิงาวะ เกาะฮอกไกโด ความรุนแรงระดับ 4 ตามมาตราชินโดะ


Via: THQuake

ราย

รายงานจาก USGS

M 5.5 - 71km S of Obihiro, Japan

ความลึก 58.3 กม.

พิกัด 42.272°N 143.225°E

https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000iyzj/executive

#Watchers

 

Watchers



#Volcano #ชิลี

29/12/18

เวลา 1:11 UTC

การระเบิดและบางส่วนของปล่องโดมภูเขาไฟที่ถล่ม พังทลายลงมา ของภูเขาไฟ “เนบาโดส เด ชิยัน” #NevadosDeChillán ใน #ชิลี

วันนี้ 29 ธันวาคม 2018 เวลา 01:11 UTC

เครดิตภาพ @ Sernageomin Macizo

ยังคงมีการแจ้งเตือนในระดับสีส้ม


ภูเขาไฟ “เนบาโดส เด ชิยัน” (Nevados de Chillán) หนึ่งในภูเขาไฟที่มีพลังและคุกรุ่นมากที่สุดของประเทศชิลี ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส

#Watchers

 

Watchers

#Earthquake

วันที่ 29 ธันวาคม 2561

เวลา 18:21 น. ตามเวลาประเทศไทย

แผ่นดินไหว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.#น่าน

พิกัด (19.59,100.97)

ขนาด 2.4

ความลึก 4 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/QvZy7c)

#Watchers

 

Cesar Mauricio Vidal Alarcon


ตอนนี้⚠️ภูเขาไฟ Shiveluch ใน Kamchatka (#Russia)

ปะทุดังสนั่น

30 ธันวาคม 2561

ข่าวออนไลน์ #Chile

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว ตายเป็นเบือของจริง!!! โดยล่าสุด Derrick Carreon โฆษกสำนักงานปราบปรามยาเสพติดฟิลิปปินส์ (PDEA) เผยรายงานอ้างอิงจากตัวเลขทางการระหว่างกรกฎาคม 2016 จนถึงพฤศจิกายน 2018 #มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า5พันคนจากนโยบายทำสงครามกับยาเสพติดของผู้นำฟิลิปปินส์ ที่เคยเริ่มต้นใช้ครั้งแรกเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา


หน่วยงาน NGO และกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจริง โดยน่าจะอยู่ราว 12,000-20,000 คน #เป็นการฆ่าที่ไม่ได้รับการบันทึกไว้ ซึ่งเกิดจากฝีมือของกลุ่มกองกำลังนอกกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากดูเตอร์เต และกลุ่มมือสังหาร


Source : https://www.tcijthai.com/news/2018/12/asean/8618


อนึ่ง Chito Gascon ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของฟิลิปปินส์ได้แถลงถึงจำนวนผู้เสียชีวิตว่า ยอดรวมของผู้เสียชีวิตน่าจะสูงถึง 27,000 คน #ถึงแม้เขาจะยอมรับว่ากระบวนการสอบสวนการเสียชีวิตนั้นสลับซับซ้อน เป็นเพราะทางตำรวจปิดบังข้อมูลในปฎิบัติการภายใต้โครงการต่อต้านยาเสพติดไว้ ซึ่งนโยบายทำสงครามยาเสพติดของดูเตอร์เตนี้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากมาตั้งแต่ครั้งแรก #สำหรับการสังหารคนจำนวนมากจากฝีมือตำรวจฟิลิปปินส์ที่ถูกให้ท้ายโดยดูเตอร์เตในการเข้าบุกจับ


อย่างไรก็ตาม โฆษกสำนักงาน PDEA ได้ออกมาปกป้องถึงจำนวนเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นโดยชี้ว่า #ชีวิตตำรวจที่ออกปฎิบัติการนั้นอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น การใช้กำลังตามสัดส่วนที่เท่าเทียมถูกนำมาใช้เพื่อทำให้ความเสี่ยงที่ว่านี้หมดไป.

 

The Public Post


ซาอุฯ จับน้องชาย “เจ้าชายวาลีด” เศรษฐีพันล้านอีกครั้ง ไม่กี่วันหลังพ่อของพวกเขาเสียชีวิต

https://www.publicpostonline.net/21136





เดอะนิวอาหรับ – มีรายงานว่า ทางการซาอุฯ ได้จับกุมน้องชายของเจ้าชายมหาเศรษฐี “อัล-วาลีด บินตาลาล” อีกครั้ง เพียงไม่กี่วันหลังจากที่พ่อของพวกเขาเสียชีวิต


สื่ออัลกุดส์-อัลอะราบี ซึงมีฐานในกรุงลอนดอนรายงานเมื่อวันพุธ (26 ธ.ค.61) ว่ามกุฎราชกุมารโมฮัมหมัด บินซัลมาน เป็นผู้สั่งให้จับกุมเจ้าชายคาลิด บินตาลาล


“การจับกุมเกิดขึ้นในคืนวันอังคารและจนถึงค่ำวันพุธคาลิดก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวแม้จะมีคำมั่นสัญญาบางอย่างก็ตาม” รายงานระบุ

เจ้าชายคาลิดได้รับการปล่อยตัวในเดือนพฤศจิกายน หลังจากถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 11 เดือน อันเนื่องจากการวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามชนชั้นนำของราชอาณาจักรซาอุฯ ที่เป็นระดับเจ้าชายหลายสิบคน เจ้าหน้าที่รัฐ และนักธุรกิจ ที่ถูกนำตัวไปจองจำที่โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน ในกรุงริยาด

เจ้าชายอัล-วาลีด พี่ชายของเจ้าชายคาลิด เป็นมหาเศรษฐีพันล้าน ถูกขนานนามว่าเป็นวอร์เรน บัฟเฟตต์ แห่งซาอุดิอาระเบีย เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกจับและได้รับการปล่อยตัวเมื่อต้นเดือนมกราคมหลังจากทำข้อตกลงทางการเงินที่ไม่เปิดเผยกับรัฐบาล

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังการเสียชีวิตของพ่อของพวกเขา “เจ้าชายตาลาล บินอับดุลอาซิส” ซึ่งเป็นพี่น้องคนละแม่กับกษัตริย์ซัลมาน แห่งซาอุฯ

เจ้าชายตาลาล บินอับดุลอาซิส เป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนการปฏิรูป บางครั้งก็ถึงขั้นต่อต้านราชวงศ์ เขามีแนวคิดเสรีนิยม และถูกขนานนามว่า “เจ้าชายแดง” (Red Prince)

เขาเป็นผู้ให้การสนับสนุนมายาวนานในการอนุญาตให้ผู้หญิงซาอุดิอาระเบียสามารถขับรถได้ ซึ่งที่สุดก็เป็นสิทธิที่ถูกมอบให้แก่พลเมืองหญิงซาอุฯ ในปีนี้

 

MOREMOVE


#มอร์มูฟเป็นข่าว จับตา!! ยอดคนไทยป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่พุ่ง โดย 'สถาบันมะเร็งแห่งชาติ' ย้ำ หากไม่คัดกรองจริงจังมีสิทธิ์ยอดผู้ป่วยเพิ่ม 2 เท่าภายใน 10 ปี #จากการเก็บข้อมูลอัตราผู้ป่วยโรคมะเร็งลําไส้ใหญ่และไส้ตรงพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อเนื่องถึงยอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากกว่า 3,000 รายต่อปีอีกด้วย ชี้ชัดนิสัยกินบุฟเฟ่ต์-หมูกระทะเจอภาวะเสี่ยงสูง


Source : https://www.hfocus.org/content/2018/07/16037

Photo : sanook.com


โดยเรื่องนี้ ดร.ศุลีพร แสงกระจ่าง รองผู้อํานวยการด้านพัฒนาระบบสุขภาพ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯมาจาก 7 ประเด็นคือ 1.การรับประทานอาหารประเภทเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์แปรรูปอื่นๆ 2.น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรืออยู่ในภาวะอ้วน 3.ขาดการออกกําลังกาย 4.สูบบุหรี่ 5.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจํา 6.มีประวัติเนื้องอกที่ผนังลําไส้ใหญ่และไม่ใช่เนื้อร้าย และ 7.ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลําไส้ใหญ่และทวารหนัก


อนึ่ง สถาบันมะเร็งฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการหารือไปที่สาเหตุเฉพาะอันดับต้นๆ ของมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯ ซึ่งน่าวิตกกังวลมากที่สุดนั่นคือการรับประทานอาหารประเภทเนื้อแดง หรือเนื้อสัตว์แปรรูปอื่นๆ ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นิยม โดยเฉพาะเมื่อมีกระแสบุฟเฟ่ต์-ปิ้งย่าง ยิ่งกระตุ้นการบริโภคมากขึ้นไปอีก และมองข้ามอันตราย เนื่องจากเนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูปใส่สารไนเตรทและไนไตรท์หรือดินประสิวเพื่อให้เนื้อสัตว์มีสีแดง รวมทั้งในกุนเชียง ไส้กรอก เบคอน เนื้อเค็ม ลูกชิ้น แหนมสด ปลาแห้ง เนื้อแห้ง เป็นต้น เพื่อให้มีอายุยาวนานขึ้น


"แม้จะมีประโยชน์ในการถนอมอาหาร แต่สารไนเตรทและไนไตรท์ก็มีโทษเช่นเดียวกัน เพราะสารชนิดนี้จะทําปฏิกิริยากับสารประกอบเอมีนในอาหาร ร่วมกับสภาวะความเป็นกรดในกระเพาะ ทําให้เกิดไนโตรซามีนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และถ้านำไปปิ้งย่างจนไหม้เกรียม ก็จะมีสาร PAHs ซึ่งก่อมะเร็งที่เพิ่มขึ้นไปอีก #การบริโภคแม้ปริมาณน้อยแต่หากบริโภคติดต่อกันเป็นระยะเวลานานย่อมมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง" ดร.ศุลีพร ย้ำ


ด้าน นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ประธานคณะทำงานพัฒนาข้อเสนอนโยบายเฉพาะประเด็นฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้รณรงค์ให้คนตื่นตัวเรื่องมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯที่มาจากการบริโภคอาหารมาหลายปี แต่กลับไม่ได้สร้างความตระหนักรู้มากนัก เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงคือการบริโภคเนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูปเป็นประจำยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ต่างจากบุหรี่หรือสุราที่คนเห็นโทษชัดเจน จึงต้องปรับแผนมาใช้กลไกของสมัชชาสุขภาพเพื่อระดมเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนและสื่อมาร่วมมือกันแก้ปัญหา


#โดยแนวทางการรณรงค์ต้องเน้นให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสาธารณะ ลดหรือหลีกเลี่ยงเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ที่ผ่านกระบวนแปรรูปทั้งแบบอุตสาหกรรมและการผลิตแบบชุมชนที่ไม่มีมาตรฐาน รวมถึงเนื้อสัตว์ปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม หรือทอดด้วยน้ำมันทอดซ้ำ รวมถึงให้ความรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงร่วมของมะเร็งต่างๆ เช่น การไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักเกิน และการสูบบุหรี่ ขณะเดียวกันต้องให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพื่อให้คนนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องด้วย โดยเฉพาะการบริโภคเนื้อแดงต้องไม่ควรมากกว่า 500 กรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่หลายประเทศใช้อ้างอิง


ขณะเดียวกัน จะต้องร่วมมือกับผู้ผลิตเนื้อสัตว์แปรรูปให้ติดฉลากให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นข้อมูลได้ง่ายว่ามีไนเตรทและไนไตรท์มากน้อยอย่างไร เพื่อตัดสินใจเลือกซื้อโดยยึดหลักเกณฑ์ของ อย.เป็นหลัก อาทิ ในผลิตภัณฑ์เนื้อหมักที่กำหนดให้มีเกลือโซเดียมไนไตรท์ได้ปริมาณไม่เกิน 125 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และโซเดียมไนเตรทได้ปริมาณไม่เกิน 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม.

 

China Xinhua News


เหลือแค่เลือกวัน! จีนแถลง 'ฉางเอ๋อ 4' เปลี่ยนวงโคจรสำเร็จ เตรียมลงจอดบน 'ด้านมืดของดวงจันทร์'

.

องค์การอวกาศแห่งชาติจีน (China National Space Administration - CNSA) ประกาศว่า ยานสำรวจฉางเอ๋อ 4 ของจีนได้เข้าสู่วงโคจรที่กำหนดไว้เมื่อเช้าวันนี้ (30 ธ.ค.) เพื่อเตรียมจะลงจอดบนด้านมืดของดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์

.

ยานสำรวจดังกล่าวเจ้าสู่วงโคจรแบบวงรีของดวงจันทร์เมื่อเวลา 08.55 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง โดยจุดเพริลูน (perilune) อยู่ที่ 15 กิโลเมตรและจุดแอเพอลูน (apolune) อยู่ที่ 100 กิโลเมตร

.

นับตั้งแต่ยานสำรวจฉางเอ๋อ 4 เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ศูนย์ควบคุมภาคพื้นที่กรุงปักกิ่งก็ได้ลองปรับวงโคจรของยานดังกล่าว 2 ครั้ง และทดสอบการสื่อสารระหว่างยานสำรวจกับดาวเทียมเชวี่ยเฉียว (Queqiao) ซึ่งลอยปฏิบัติการอยู่ในวงโคจรฮาโล บริเวณจุดลากรางจ์ที่สอง (L2) ของระบบโลกและดวงจันทร์

.

องค์การอวกาศแห่งชาติจีนระบุว่า ศูนย์ควบคุมภาคพื้นจะเลือกเวลาอันเหมาะสมเพื่อให้ยานสำรวจลงจอดบนด้านมืดของดวงจันทร์ต่อไป

.

ทั้งนี้ ยานสำรวจฉางเอ๋อ 4 (Chang'e-4) พร้อมยานลงจอดและหุ่นยนต์สำรวจ ถูกส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศโดยจรวดลองมาร์ช-3บี (Long March-3B) เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ศูนย์ส่งดาวเทียมซีชาง มณฑลเสฉวน

 

China Xinhua News


สัญญาณบวกสงครามการค้า? สีจิ้นผิงยกหูคุยทรัมป์ส่งท้ายปี สองฝ่ายยินดีทำตามข้อตกลงที่ G20

.

วันนี้ (30 ธ.ค.) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ และต่างแสดงเจตนารมณ์ว่าจะผลักดันการปฏิบัติตามข้อกตลงที่บรรลุร่วมกันในการประชุม G20 ที่อาร์เจนตินา

.

ทรัมป์อวยพรให้สีจิ้นผิงและประชาชนชาวจีนมีความสุขในวันปีใหม่นี้ และระบุว่าความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนมีความสำคัญอย่างยิ่ง และผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด

.

ทรัมป์ระบุว่า เขาเล็งเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์อันดีกับสีจิ้นผิง และเสริมว่าเขายินดีที่ได้เห็นคณะทำงานของทั้งสองประเทศทุ่มเททำงานหนักเพื่อปฏิบัติตามฉันทามติที่เขาและสีจิ้นผิงได้ตกลงกันในการประชุมที่อาร์เจนตินา

.

ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า การประชุมหารือที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือต่างๆ กำลังเดินหน้าไปด้วยดี เขาหวังว่าผลลัพธ์จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งของสหรัฐฯ และจีน รวมถึงประชาชนของทุกประเทศ

.

ด้านสีจิ้นผิงกล่าวคำอวยพรแด่ทรัมป์และประชาชนชาวสหรัฐฯ เนื่องในวันปีใหม่นี้ แล้วระบุว่าทั้งเขาและทรัมป์ต่างต้องการที่จะผลักดันให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เดินหน้าอย่างมีเสถียรภาพ พร้อมเสริมว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่ง

.

สีจิ้นผิงระบุว่า การประชุมระหว่งเขาและทรัมป์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานั้นประสบความสำเร็จอย่างสูง และได้บรรลุฉันทามติร่วมกันในอาร์เจนตินา

.

“คณะทำงานของทั้งสองประเทศต่างก็ทุ่มเททำงานหนักเพื่อจะปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว” สีจิ้นผิงเสริมว่า เขาหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะพบกันครึ่งทางและได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและคนทั้งโลกโดยเร็วที่สุด

.

สีจิ้นผิงกล่าวต่อไปว่า ปีหน้าจะเป็นวาระครบรอ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ และจีน พร้อมเสริมว่าจีนเล็งเห็นและให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประทับใจเจตนารมณ์ของฝ่ายสหรัฐฯ ที่ต้องการจะพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีที่มีความร่วมมือกันและสร้างสรรค์

.

“จีนยินดีจะร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อสรุปรวมประสบการณ์ 40 ปีพัฒนาการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนแลกความร่วมมือทั้งในด้านของเศรษฐกิจการค้า การทหาร การบังคับใช้กฎหมาย ปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด ประเด็นท้องถิ่น และวัฒนธรรม” สีจิ้นผิงกล่าว

.

สีจิ้นผิงเสริมว่า จีนยังยินดีจะร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อรักษาการติดต่อสื่อสารและความร่วมมือในประเด็นหลักๆ ทั้งในระดับสากลและระดับภูมิภาค เคารพต่อผลประโยชน์ที่สำคัญของกันและกัน ส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ บนพื้นฐานของความร่วมมือ ร่วมประสานงาน และมีเสถียรภาพ ทำให้การพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้เป็นประโยชน์อันดีต่อประชาชนทั้งสองประเทศ และประชาชนทั่วโลก

.

นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันในประเด็นต่างๆ ทั้งระดับสากลและระดับภูมิภาค เช่น สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี สีจิ้นผิงเน้นย้ำอีกครั้งว่า จีนสนับสนุนให้มีการพูดคุยอีกครั้งระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ และคาดหวังให้ได้ผลลัพธ์ในเชิงบวก

 

China Xinhua News


จีนไฟเขียว! พร้อมนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ ตอบรับอุปสงค์ที่สูงขึ้น

.

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) ประเทศจีนได้ประกาศอนุมัติการนำเข้าข้าวจากสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนได้ห้ามการนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ เนื่องจากยังขาดข้อตกลงเรื่องการตรวจสอบสินค้าเกษตร

.

ทั้งนี้ นายติงลี่ซิน นักวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศสตร์การเกษตรแห่งชาติจีนได้แสดงความคิดเห็นว่า “การดำเนินงานนี้จะช่วยให้เกษตรกรชาวสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเกษตรที่อยู่ในพื้นที่ปลูกข้าวสำคัญฯ อย่างในรัฐอาร์คันซอ มิสซิสซิปปี แคลิฟอร์เนีย หลุยเซียนา และมิสซูรี สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก”

.

อย่างไรก็ตาม นายติงวิเคราะห์ว่า รสชาติของข้าวที่ผู้บริโภคชาวจีนและชาวสหรัฐฯ ชื่นชอบมีความแตกต่างกัน ดังนั้นข้าวของสหรัฐฯ ที่จะถูกนำเข้ามา จึงมีแนวโน้มว่าจะถูกนำไปใช้ในธุรกิจการแปรรูปอาหารจีน เคมีภัณฑ์ และแอลกอฮอล์

.

ในปีที่แล้ว จีนได้นำเข้าข้าว 4 ล้านตันจากตลาดโลก ถือว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.96 เมื่อเทียบกับสถิติต่อปี โดยข้าวส่วนใหญ่นำเข้ามาจากเวียดนาม ไทย กัมพูชา และพม่า

.

จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของจีนและการขยายตัวของเมืองทำให้ความต้องการธัญพืชของจีนเพิ่มขึ้นจาก 600 ล้านตันในปี 2014 กลายเป็น 700 ล้านตันในปี 2020

.

นายหลี่กวงฮุ่ย รองประธานสถาบันความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจระดับนานาชาติของจีน ยังได้กล่าวว่า “การเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง และข้าวสาลีจากสหรัฐฯ และตลาดอื่นๆ สามารถช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านธัญพืช ทั้งยังช่วยขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชผักผลไม้ในประเทศจีนอีกด้วย”

 

Candy Bella


ต้นกำเนิดชุดนักเรียนไทย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้


... เพื่อนๆ ทราบกันไหมคะว่า เครื่องแบบนักเรียนที่เราสวมใส่กันทุกคนนั้น มีต้นกำเนิด ชุดนักเรียนไทยที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์มากๆ โดยประเทศไทยได้เริ่มมีชุดนักเรียนขึ้นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๘๒


ในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ มีพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พุทธศักราช ๒๔๘๒ และได้มีการแบ่งเป็นชุดนักเรียนชาย นักเรียนหญิง ดังนี้


ชุดนักเรียนชายไทย เครื่องแบบประกอบด้วย


• หมวกฟาง มีผ้าพันหมวกสีตามสีประจำโรงเรียน ติดอักษรย่อนามโรงเรียนที่หน้าหมวก

• เสื้อราชปะแตนสีขาว ดุมทอง

• กางเกงไทย (กางเกงขาสั้นอย่างที่นักเรียนใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนที่เรียกว่า กางเกงขาสั้นในสมัยก่อน คือ กางเกงรูเซีย เป็นกางเกงทรงกระบอกยาวถึงใต้เข่ารวบชายรัดไว้ใต้เข่า) สีดำ

• ถุงเท้าขาว หรือดำ

• รองเท้าดำ

• ถุงเท้า รองเท้า เป็นของราคาแพง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีทุกคน ส่วนใหญ่ไม่มีใช้


ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๖ กำหนดให้นักเรียนในหัวเมืองใช้เสือราชปะแตนสีเทา แทนเสื้อขาวได้ด้วย (เสื้อเทาเป็นเครื่องแบบสำหรับเดินป่า ข้าราชการในกรุงเมื่อออกไปหัวเมืองให้ใช้เสื้อเดินป่าสีเทา แทนเสื้อขาว เพราะรักษาความสะอาดง่ายกว่า ปัจจุบันยังคงมีข้าราชการสำนักพระราชวังและสำนักราชเลขาธิการที่ยังคงรักษาธรรมเนียมนี้อยู่ เมื่อต้องไปปฏิบัติราชการต่างจังหวัดจะเปลี่ยนเสื้อเป็นสีกากีทั้งหมด)


ต่อมาในสมัยเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการจัดตั้งยุวชนทหาร และกำหนดให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมปีที่ ๔ (เทียบกับปัจจุบันคือ ชั้น ม.๒ ขึ้นไป) ต้องเป็นยุวชนทหาร นักเรียนตั้งแต่ชั้นม.๔ ขึ้นไปจึงแต่งเครื่องแบบยุวชนทหารแทน


เครื่องแบบนักเรียน คือ

• หมวกทรงหม้อตาลสีกากีแกมเขียว หน้าหมวกเป็นโลหะมีอุณาโลมอยู่กลาง มีตัวอักษรว่า รักชาติยิ่งชีพ

• เสื้อเชิ้ตสีกากีแกมเขียว

• กางเกงขาสั้นสีกากีแกมเขียว

• ถุงเท้าดำ รองเท้าดำ

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ผ้าขาดแคลน มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องแบบนักเรียนเป็น

• หมวกกะโล่สีขาว

• เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว ปักอักษรย่อนามจังหวัดพร้อมหมายเลขประจำโรงเรียนด้วยไหมสีน้ำเงิน โรงเรียนราษฎร์หรือสมัยนี้เรียกว่า โรงเรียนเอกชนปักสีแดง เช่น โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ใช้ ช.ม.๑ (ขึ้นต้นเลขที่ ๑ คือ โรงเรียนชายประจำจังหวัด แล้วต่อด้วยเลข ๒ โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด แล้วจึงต่อด้วยเลข ๓ โรงเรียนประจำอำเภอ ต่อด้วยโรงเรียนประชาบาลไปจนครบทั้งจังหวัด)

• กางเกงขาสั้นสีกากี เข็มขัดหนังสีน้ำตาล

• ถุงเท้าน้ำตาล รองเท้าน้ำตาล มีก็ได้ไม่มีก็ได้


มีบางโรงเรียนที่มีเครื่องแบบพิเศษ เช่นโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ โรงเรียนมหาดเล็กหลวง (ปัจจุบันคือ วชิราวุธวิทยาลัย) โรงเรียนราชวิทยาลัย (ปัจจุบันคือ โรงเรียน -.ป.ร.ราชวิทยาลัย) โรงเรียนมหาดเล็กหลวงเชียงใหม่ โรงเรียนพรานหลวง ใช้เครื่องแต่งกายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้าราชการพลเรือนในพระราชสำนัก ร.ศ. ๑๒๙ ประกอบด้วย

• หมวกหนีบสักหลาดสีน้ำเงินแก่ ติดตราพระมหามงกุฎเงินที่ขวาหมวก กับมีดุมพระมหามงกุฎเงินที่หน้าหมวก ๒ ดุม

• เสื้อราชปะแตนสีขาว ดุมพระมหามงกุฎเงิน ติดแผ่นคอพื้นน้ำเงินแก่มีแถบไหมเงินพาดกลาง กับมีอักษรย่อนามโรงเรียนทำด้วยเงิน ม.(มหาดเล็กหลวง) ร. (ราชวิทยาลัย) ช. (มหาดเล็กหลวงเชียงใหม่) และ พ. (พรานหลวง) ทับกึ่งกลางแผ่นคอทั้งสองข้าง

• กางเกงไทยสีน่ำเงินแก่

• ถุงเท้าดำ รองเท้าดำ

• เวลาเล่าเรียนปกติในโรงเรียนสวมเสื้อคอกลมผ้าป่านสีขาว ที่เรียกว่าเสื้อชั้นใน สวมกางเกงขาสั้น


เนื่องจากในช่วงแรกที่เริ่มวางรากฐานการศึกษาชาตินั้น มุ่งเน้นจัดการศึกษาสำหรับเด็กชาย การศึกษาสตรีจึงมาเริ่มเอาตอนปลายรัชกาลที่ ๕ แต่ก็ค่อยๆ เริ่มจัด จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๕๖ จึงมีการจัดหลักสูตรสำหรับสตรีขึ้นเป็นการเฉพาะ และได้เริ่มมีการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับสตรีขึ้น จึงเริ่มมีเครื่องแบบนักเรียนหญิง แต่ต้องขอประทานที่จำรูปแบบเสื้อไม่ได้ นุ่งผ้าซิ่นสีพื้น และต่อมามีกำหนดให้ติดเข็มอักษรย่อนามโรงเรียน เช่น โรงเรียนสตรีวัฒโนทัยพายัพ ติดเข็มอักษร ว พ ในวงกลม


ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองจึงปรับเปลี่ยนมาใช้ดังที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน


ที่มา :https://teen.mthai.com/variety/85848.html