ติดตามสถานะการณ์

ตลาดหุ้นพินาศทั้งโลก / สุนันท์ ศรีจันทรา
เผยแพร่: 26 ธ.ค. 2561 14:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในความปั่นป่วน กระดานหุ้นแดงฉาน เนื่องจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ และฉุดให้ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ของไทยทรุดหนัก สร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปี


ตลาดหุ้นสหรัฐ ถูกถล่มแหลกลาญ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในรอบปี และถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาความขัดแย้งในงบประมาณการก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนเม็กซิโก เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าสหรัฐ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ รูดลงวันละหลายร้อยจุดติดต่อ

จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนคริสมาสต์เพียง 1 วัน ดัชนี ฯ ดาวโจนส์ร่วงกว่า 600 จุด และเป็นชนวนให้กระดานหุ้นทั้งโลกแดงฉาน รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ทรุดลง 34.64 จุด ถอยลงมาปิดที่ 1,556.65 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดใหม่

เหลืออีกเพียงไม่กี่วันทำการ ตลาดหุ้นจะปิดฉากปี 2561 ซึ่งเป็นปีที่การลงทุนในหุ้นไม่สดใส โดยเกิดความผันผวนตั้งแต่ต้นปี แม้ปลายปี ความผันผวนรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป จนนักลงทุนขวัญเสีย หมดความมั่นใจในทิศทางตลาดหุ้น

ความกังวลในสงครามการค้า ความกลัวในผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของ “เฟด” และทำให้เงินทุนไหลออก ได้แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนกในความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะสำแดงฤทธิ์ พ่นพิษอย่างชัดเจนในปีหน้า

คำปลอมประโลมใจของกูรูหุ้นที่ระบุว่า หุ้นลงมาลึกแล้ว แต่ระดับที่เรียกว่าต่ำสุด ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนหายหวาดผวากับการดิ่งลงเหวของดัชนีฯ

การตีฆ้องร้องป่าวของรัฐบาล อ้างว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้น แนวโน้มการเติบโตยังสดใส ดัชนีบ่งชี้ต่าง ๆ ดีไปหมดนั้น ไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาได้

เพราะสถานการณ์ที่ทุกคนได้สัมผัสจากความเป็นจริง ทุกอย่างกำลังเลวร้ายลง ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง การลงทุนและตลาดหุ้น

โลกทั้งโลกกำลังเปราะบางกับข่าวร้าย โดยชนวนเหตุจากปัญหาภายในของสหรัฐ สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก และไม่มีตลาดหุ้นใดที่มีภูมิต้านทานผลกระทบจากการปักหัวลงของดัชนี ฯ ดาวโจนส์ได้ รวมทั้งตลาดหุ้นไทย

ราคาน้ำมันพลอยถูกลูกหลงไปด้วย ภายในพริบตา ราคาน้ำมันดิบตลาดเวสท์เท็กซัส ร่วมจากระดับ 50 ดอลลาร์เศษต่อบาร์เรล ลงมาเหลือเพียง 42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ กดให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะเครือ ปตท. ตกแรงยกแผง

ภายใน 2-3 สัปดาห์ ดัชนี ฯ ดาวโจนส์ร่วงผลอยลงมาประมาณ 4,000 จุด ตลาดหุ้นเอเชียทรุดตามยกแผง ส่วนตลาดหุ้นไทย แม้กองทุนรวมในประเทศจะพยายามประคับประคองตลาดไม่ผวนรุนแรง แต่สุดท้ายพยุงไม่ไหว ต้องปล่อยให้ดัชนีหุ้นปรับตัวลงตามกลไกตลาด

วันทำการที่เหลือก่อนส่งท้ายปีเก่า ทิศทางตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ กำลังมองโลกในแง่ร้าย ขวัญผวาและประเมินว่า ดัชนี ฯ มีโอกาสปักหัวลงต่อ

เว้นแต่วิกฤติภายในของสหรัฐจะคลี่คลาย ดัชนี ฯ ดาวโจนส์จะดีดตัวกลับเท่านั้น

ปกติช่วงปลายปี ตลาดหุ้นมักเงียบเหงา เพราะไม่มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายที่จะกระทบ ขณะที่นักลงทุนบางส่วนเว้นวรรคจากกิจกรรมในตลาดหุ้น เตรียมตัวพักผ่อนท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่

แต่ปีนี้แตกต่างจากทุกปี เพราะแม้จะเหลืออีกไม่กี่วันทำการ แต่ตลาดหุ้นยังฝุ่นตลบด้วยข่าวร้าย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะลุกลามบานปลายไปถึงปีหน้า

ดัชนีหุ้นที่ทรุดหนักช่วงส่งท้ายปีเก่า อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ปีหน้าตลาดหุ้นอาจยังอยู่ในช่วงขาลงต่อไป

แมลงเม่าเสี่ยงเจ็บเนื้อเจ็บตัวจากความผันผวนของตลาดหุ้นปี 2562



https://mgronline.com/stockmarket/detail/9610000128119

 

(คลิปข่าว) ธปท.ปิดทางแบงก์พาณิชย์เก็บค่าธรรมเนียมหน้าเคาท์เตอร์ เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV 29 ธันวาคม 2561 07:32

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันธนาคารพาณิชย์ไม่มีเหตุผลจำเป็นต้องเก็บค่าธรรมเนียม การทำธุรกรรมทางการเงินหน้าเคาท์เตอร์จากผู้ใช้บริการ และควรลดค่าธรรมเนียมบางบริการลง



หลังสมาคมธนาคารไทย ได้ออกมาเผยว่าได้หารือธนาคารแห่งประเทศไทยในการขอเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าธนาคารพาณิชย์หน้าเคาท์เตอร์ และตู้เอทีเอ็ม โดยให้เหตุผลว่าธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเงินสดมีต้นทุนที่ธนาคารต้องดูแลรับผิดชอบแพง ขณะเดียวกันธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมโอนเงินและชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลแบงกิ้งไปแล้วทำให้ธนาคารมีต้นทุนที่จะต้องแบกรับที่สูงขึ้นด้านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยวิระไท สันติประภพ บอกถึงเรื่องนี้ว่า ไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารจะเก็บค่าธรรมเนียมการให้บริการ หรือการธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าหน้าเคาท์เตอร์หรือเอทีเอ็มเพราะไม่ได้เป็นการเพิ่มต้นทุนใดๆ เลยนอกจากนี้ธนาคารยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมส่วนอื่นอยู่แล้วและบางประเภทพบว่าต้นทุนที่คิดกับประชาชนไม่เหมาะสม เช่น ค่าธรรมเนียมสินเชื่อการปิดวงเงิน การรีไฟแนนซ์เพื่อดึงลูกค้าไม่ให้ย้ายธนาคาร ดังนั้นธปท.เห็นว่าธนาคารควรลดค่าธรรมเนียมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว หรือด้านอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อผู้บริโภคต่างหากเป็นสิ่งที่ควรทำทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยยังเชิญชวนให้ประชาชน หันมาทำธุรกรรมทางการเงินในระบบอิเล็กทรอนิกส์เพราะเป็นการลดต้นทุนทั้งด้านเวลาและการเดิน ที่สำคัญยังฟรีค่าธรรมเนียมด้วย

http://www.nationtv.tv/main/content/378679265/

 

ข่าวต่างประเทศ

จับตาสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้า ดอกเบี้ยขยับส่งสัญญาณการหดตัว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยที่ต่ำกระตุ้นให้ธนาคารปล่อยเงินกู้ ผู้บริโภคจับจ่ายอย่างสบาย ภาคธุรกิจก็กู้มาลงทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ ทำให้ไม่มุ่งหวังธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง
การขยับตัวดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะกดให้ผู้บริโภคจับจ่ายน้อยลง คืนดอกเบี้ยที่แพงขึ้น ธุรกิจที่ทำมาร์จิ้นต่ำจะได้รับผลกระทบ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผนวกกับการหดตัวในจีนที่หนี้ต่อ GDP สูงขึ้นมากและญี่ปุ่นที่ไม่เติบโตและการเลือกตั้งสภาอียูของยุโรป น่าจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกมากกว่า สงครามการค้าจีน สหรัฐอเมริกา
Forbes รายงาน
https://www.forbes.com/sites/panosm...y-in-2019-wont-be-the-us-china-trade-war/amp/

 

เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News


ด่วน!! ดอยอินทนนท์ฝนตกหนัก รถติดหนัก นักท่องเที่ยวกว่า 2 หมื่นคน อดดูเหมยขาบอีกแล้ว อากาศหนาวจัดอุณหภูมิ 6 องศาฯ

.

อย่าลืม!!

ติดดาว ⭐ ตั้ง See First หรือ เห็นโพสต์ก่อน ในเพจของเรา จะได้ไม่พลาดข่าวสารในเชียงใหม่ เเละภาคเหนือ

.

อ่านข่าวอื่นๆได้ที่ www.chiangmainews.co.th

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 30) “ทรัมป์”-“สี จิ้นผิง”หวังปิดฉากสงครามการค้า : ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (29ธ.ค.)ว่าการเจรจาเพื่อนำไปสู่การทำข้อตกลงทางการค้ากับจีนมีความคืบหน้าอย่างมากหลังจากหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งต้องการให้การเจรจาการค้าระหว่างกันจบลงด้วยดีและหาทางออกให้กับข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างกันให้ได้มากที่สุด


สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ประธานาธิบดีสี กล่าวทางโทรศัพท์กับผู้นำสหรัฐว่าอยากให้การเจรจาเพื่อหาทางยุติการทำสงครามการค้าระหว่างกันยุติลงโดยแต่ละฝ่ายได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ และเป็นการทำตามข้อเรียกร้องต่างๆที่พบกันครึ่งทาง เพราะนอกจากจะเอื้อประโยชน์แก่จีนและสหรัฐแล้ว การเจรจาที่จบลงด้วยดียังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกด้วย


ที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า คณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปเยือนจีนในวันที่ 7 ม.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน ซึ่งการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายจะเป็นการเจรจาร่วมกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จ ตกลงที่จะสงบศึกการค้าชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา


บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายเจฟฟรีย์ เกอร์ริช รองผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) รวมถึงนายเดวิด มัลพาส รมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของสหรัฐ จะนำคณะผู้แทนสหรัฐเข้าร่วมการเจรจากับทางการจีนในครั้งนี้


Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


- Trump Says ‘Progress Being Made’ With China After Xi Call: https://www.bloomberg.com/news/arti...de-with-china-after-xi-call?srnd=premium-asia

 

ข่าวช่อง 8


กลุ่มคนร้ายยึดโรงพยาบาลเป็นฐานยิงถล่มชุดปฏิบัติการชคต. - จับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นตัวประกัน


กลุ่มโจรใช้พื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาหนั๊วะ ต.กาลิซา อ.ระเเงะ จ.นราธิวาส เป็นฐานยิงใส่ฐานของชุด ชคต. กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่เห็นตัวโจรแต่ไม่สามารถที่จะยิงตอบโต้ได้ เพราะคนร้ายซุ่มยิงมาจากโรงพยาบาล นอกจากนี้คนร้ายยังได้จับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเป็นตัวประกันอีกด้วย ซึ่งถ้าหากยิงตอบโต้อาจไปโดนที่โรงพยาบาล และเกรงว่า เจ้าหน้าที่ และคนที่อยู่ในโรงพยาบาลจะเกิดอันตราย


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาหนั๊วะแล้ว โดยภายในโรงพยาบาลพบปลอกกระสุนเป็นจำนวนมาก และมีอาคารพร้อมทรัพย์สินอื่นๆ เสียหาย #3จังหวัดชายแดนภาคใต้ #โจรใต้ #ก่อการร้าย3จังหวัดชายแดนภาคใต้ #ข่าวช่อง8


Cr. Army times Thailand

 

Wudhichai Maitreesophone


ตุรกี กำลังวางแผนสกปรก เพื่อควบคุมพื้นที่ภาคเหนือของซีเรีย ที่อยู่ในความครอบครองของกองกำลังชาวเคิร์ด และพื้นที่ฝั่งะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส ที่เคิร์ดภายใต้การสนับสนุนสหรัฐร่วมกันยึดครองอยู่ โดยตุรกี จะปรับเปลี่ยน ผู้ก่อการร้าย FSA หรือ Free Syrian Army ที่ตุรกีสนับสนุนอยู่ ให้เป็นกองกำลังในชื่อใหม่ว่า SEF หรือ Syrian Elite Forces เพื่อทำหน้าที่ ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตุรกี-ซีเรีย ให้พ้นจากการก่อการร้ายของชาวเคิร์ด


สิ่งที่ตุรกีคิดจะทำ นั้นราวกับว่าตุรกีมีปืนฝ่ายเดียว ส่วนซีเรียและเคิร์ดนั้นมีเพียงไม้กระบอง และก้อนหิน อีกทั้งยังเป็นการเสียมายาททางการทูตระหว่างประเทศมากๆ ที่ตุรกีจะจัดตั้งกองกำลังขึ้น แล้วตั้งชื่อว่า Syrian Elite Forces เพราะซีเรียเขามีรัฐบาลของเขา คำว่า Syrian Elite Forces ตุรกีไม่มีสิทธิใช้ ถ้าจะตั้งก็ต้องใช้คำว่า Turkey Elite Forces จะไปใช้คำว่าซีเรียของเขาไม่ได้


คนเลวมักจะคิดแต่เรื่องเลวๆ ที่สังคมไม่สามารถยอมรับได้


https://southfront.org/turkey-france-and-u-s-are-plotting-to-hand-syrias-border-to-fsa/

 

Prachachat - ประชาชาติ


ระเบียบใหม่ขนส่ง ‘พักใช้-เพิกถอนใบขับขี่’ โทษปรับสูงสุด 2 แสนบาท มีผลแล้ว!

 

“9 อาชีพ” เสี่ยงตกงาน! จากการถูกดิสรัปชั่นในยุคดิจิทัล
วันที่ 30 December 2018 - 09:31 น.

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) แจ้งว่า สำนักงาน กสทช.ได้คาดการณ์อาชีพที่จะได้รับผลกระทบในยุคดิจิทัล พบว่า มีจำนวน 9 อาชีพเสี่ยงตกงานจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือ ดิสรัปชั่น ประกอบด้วย

1.พนักงาน ขาย/พนักงานแคชเชียร์ เพราะผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบาย ส่งผลให้พนักงานหน้าร้านถูกลดความสำคัญลง เกิดเป็นร้านค้าแบบ “อันเมเนด ช็อป” ที่ไม่มีพนักงาน โดยที่ลูกค้าสามารถเดินเข้าร้าน หยิบสินค้า และชำระเงินได้แบบอัตโนมัติ

2.พนักงานเคาน์เตอร์ธนาคาร การทำธุรกรรมการเงินแบบออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นโมบายล์แบงกิ้ง จะถูกใช้งานทดแทนสาขาธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเข้ามาใช้บริการที่สาขาอีกต่อไป จึงทำให้พนักงานถูกลดบทบาทลง

3.พนักงานบริการสินเชื่อ โดยบริการสินเชื่อจะถูกเปลี่ยนไปให้บริการแบบออนไลน์มากขึ้น โดยมีแพลตฟอร์มยุคใหม่รองรับ ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สินเชื่ออีกต่อไป

4.โบรกเกอร์/นายหน้า นักลงทุนจะหันมาใช้แอพพลิเคชั่น และข้อมูลบนโลกออนไลน์มาศึกษา วิเคราะห์และ
ติดตามแนวโน้มความเคลื่อนไหว และจัดการซื้อขายด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง

5.พนักงานธุรการ องค์กรธุรกิจจะใช้โปรแกรมในการประมวลผล และเพิ่มประสิทธิภาพ มีความแม่นยำสูง และยังประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการจ้างพนักงานมาดูแลเรื่องธุรการ

6.พนักงานรับโทรศัพท์ ระบบตอบรับอัตโนมัติจะเข้ามาทดแทนการตอบคำถามลูกค้า มีการใช้แชทบอท หรือแอพพลิเคชั่นออนไลน์ ที่ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวก สบายมากขึ้น

7.พนักงานขับรถ การมีเทคโนโลยี 5G และไอโอที จะทำให้เกิดบริการรถยนต์ไร้คนขับที่สมบูรณ์ มีความแม่นยำในเส้นทาง สามารถควบคุมความเร็วและความปลอดภัยตามกฎจราจร ทำให้สามารถเข้ามาทดแทนพนักงานขับรถได้

8.ตัวแทนท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะทำการเช็คข้อมูล เปรียบเทียบราคา และวางแผนการเดินทาง จองเที่ยวบิน โรงแรม ผ่านเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่นด้วยตัวเองทั้งหมด

และ 9.แรงงานในสายการผลิตคาดว่า ภายใน 20 ปีข้างหน้า หุ่นยนต์ และสมองกลเอไอ จะเข้ามาทำงานแทนแรงงานมนุษย์ในโรงงานทั้งหมด โดยการควบคุมแบบ “สมาร์ท ไวเลส แมนูแฟคเจอริ่ง” ด้วยการใช้ระบบไอโอที



ที่มา:มติชนออนไลน์

https://www.prachachat.net/economy/news-272001

 

กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้


ขอประนามกลุ่มก่อความไม่สงบที่ยึดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกาหนั๊วะ ต.กาลิซา อ.ระเเงะ จ.นราธิวาส ใช้เป็นฐานกำบังซุ่มโจมตีฐานชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ข่มขู่พยาบาลเวรเป็นตัวประกัน ยิงผนังอาคารให้เป็นช่องสอดปืน ปลอกกระสุนเกลื่อนพื้น และทำให้อาคารเเละทรัพย์สินเสียหายโรงพยาบาลเสียหาย

เกินเยียวยาจริงๆ ไม่มีมนุษยธรรม ครั้งก่อนก็ยึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เข้าโจมตีฐานทหาร

ทั้งหมดนี้ละเมิดสนธิสัญญาเจนีวา สัญลักษณ์กาชาด

 

Thailand Development Report


ยาต้านไวรัสเอดส์ ขององค์การเภสัชกรรม(จีพีโอ) ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล จาก WHO รายการแรกของไทยและอาเซียน



ยาดังกล่าวนับเป็นยารายการแรกของประเทศไทย และเป็นประเทศเดียวในกลุ่มประเทศสมาชิกเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ได้รับรองมาตรฐานสากล WHO Prequalification Program (WHO PQ) จากองค์การอนามัยโลก (WHO) กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดย WHO ได้ขึ้นบัญชีรายการยา Efavirenz Tablets 600 mg ขององค์การเภสัชกรรม ไว้ใน WHO Prequalified List ซึ่งแสดงอยู่บนเวบไซต์ของ WHO เพื่อให้หน่วยงานหรือองค์กรสาธารณสุขนานาชาติ จัดซื้อยาจากผู้ผลิตที่ได้ผ่านกระบวนการตรวจรับรองที่เข้มงวดนี้แล้วเท่านั้น อาทิ กองทุนโลก (Global Fund) องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ที่ทาหน้าที่ในการจัดซื้อจัดหายาให้กับประเทศสมาชิกที่ต้องการยา หรือประเทศที่ด้อยโอกาสต่อการเข้าถึงยา ซึ่งการได้รับการรับรองครั้งนี้ เป็นการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยาและมาตรฐานการผลิตเป็นระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับ เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในคุณภาพ ประสิทธิผล และความปลอดภัยต่อผลิตภัณฑ์ยาของ องค์การฯ ให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ทั้งตลาดยาภายในประเทศและต่างประเทศ


https://www.gpo.or.th/Default.aspx?...RlnJU820xWfeUS9YDKdeb-CEVZolR1cVJye0bquqZExuc

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ภูเขาไฟ agung ที่ยิ่งใหญ่ของ indoensia ปะทุ

30.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


แม่น้ำมอสถูกแช่แข็งในรัสเซีย

27/12/2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


สถานการณ์ที่เลวร้าย



การปะทุของภูเขาไฟครั้งแรก จากนั้นตามมาด้วยสึนามิ และตอนนี้น้ำก็ไหลบ่าเข้ามาในอินโดนีเซีย

28/12/2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo



หลุมน้ำที่แปลกมากปรากฏในซาอุดีอาระเบีย

28.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo


ใน 12 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวมากขึ้นของรถถังสงครามจากตุรกีไปยังชายแดนกับซีเรีย

29.12.2018

 

La nueva era de la tierra - respaldo



หิมะสั่งสมอย่างสุดขั้วใน krai, รัสเซีย



29.12.2018

 

New แรงงาน/New Labour


โอกาสมาแล้ว ญี่ปุ่นยุค 5.0 เปิดเว็บไซต์กลาง เอาไว้รับสมัครแรงงานต่างชาติทักษะสูง-มีฝีมือโดยเฉพาะ


ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ญี่ปุ่นเปิดรับแรงงานต่างชาติ ถ้าทักษะสูง-ฝีมือดี ชวนให้อยู่ยาว และเอาครอบครัวมาอยู่ได้ ล่าสุด ภาครัฐของญี่ปุ่นเปิดเว็บไซต์กลาง เอาไว้ให้แรงงานต่างชาติสมัครเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นแล้ว


อ่านต่อ... https://brandinside.asia/japan-jetro-website-open-for-professionals/

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec. 30) ปีแห่งสงครามการค้า 2018 เจ็บถ้วนหน้า : ใกล้ผ่านพ้นปีเก่า 2018 ย่างเข้าปีใหม่2019 ข่าวต่างประเทศหลายเรื่อง ทั่วโลกในปีนี้ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ล้วนเต็มไปด้วยสถานการณ์ สุดเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ต้องตามติดอย่าง ใกล้ชิด บ้างก็เป็นข่าวดีที่สร้างรอยยิ้มหรือความหวังให้ผู้คน บ้างก็เป็นพิบัติภัยธรรมชาติที่กวาดกลืนชีวิตนับพัน แต่ประเด็นที่กลายเป็นจุดโฟกัสใหญ่ที่สุดและยาวนานต่อเนื่องจนข้ามปี คงหนี ไม่พ้น "สงครามการค้า" ที่สร้างผล กระทบไปทั่วโลกเป็นวงกว้างที่สุดตามมา ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์ได้รวบรวม 10 ข่าวเด่นแห่งปี 2018 มาย้อนเตือนความจำ ดังนี้



1."สหรัฐ-จีน"ระเบิดศึกค้าเดือด

หลังจากที่ใช้ยุทธศาสตร์อเมริกาเฟิสต์จนสะเทือนไปทั่วโลกมาแล้วในปีแรกของการรับตำแหน่ง ผู้นำสหรัฐได้สร้างแรงกระเพื่อมหนักขึ้นอีกในปีที่สอง ด้วยการระเบิด "สงครามการค้า" ซึ่ง มุ่งไปที่ "จีน" สหรัฐเริ่มตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้ามูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และจีนตอบโต้กลับแบบเดียวกัน การใช้วิธี "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ต่อเนื่องเช่นนี้ ทำให้ผลกระทบของการขึ้นภาษีขยายวงเป็นกว่า 3.6 แสนล้านดอลลาร์ ก่อนจะมีทิศทางดีขึ้นช่วงปลายปีเพราะผู้นำสองฝ่ายตกลงสงบศึกชั่วคราว 90 วัน เพื่อแก้ปัญหาด้วยการเจรจา

อย่างไรก็ดี สถานการณ์กลับ ตึงเครียดขึ้น เมื่อแคนาดา เข้าจับกุม "เมิ่งหว่านโจว" ซีเอฟโอของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ตามคำร้องขอของสหรัฐ เคสนี้ถูกตีความว่าเป็นเหมือนการจับตัวประกัน และเป็นการมุ่งสกัดอิทธิพลจีนในด้านเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง จากศึกช้างชนช้างของเขตเศรษฐกิจเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ที่ทำให้เศรษฐกิจ "ไทย" และทั่วโลกกระทบกระเทือนกันไปจนถึงปีหน้า จึงทำให้ปี 2018 เป็นปีแห่งสงครามการค้าอย่างแท้จริง



2.สองเกาหลีหวนคืนดี

หากจะใช้คำว่าภาพที่ทั่วโลกไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นก็คงไม่มากเกินไปนัก เมื่อเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้ประกาศยุติความขัดแย้งและหันมาร่วมมือกันสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนแทน ซึ่งเปิดฉากด้วยการประชุมสุดยอดผู้นำเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี และการจับมือกัน เดินข้ามพรมแดนที่หมู่บ้าน "ปันมุนจอม" ระหว่างประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุนแจอินและผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิมจองอึนเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ก่อนจะนำไปสู่การพบกันครั้งประวัติศาสตร์ตามมาระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน ที่ประเทศสิงคโปร์ ในเดือน มิ.ย. เกาหลีเหนือให้คำมั่นว่าจะปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมด ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปว่า จะสามารถทำอย่างที่ให้คำมั่นไว้ได้ หรือไม่



3.เลือกตั้งมาเลย์พลิกล็อก

สำหรับในกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยกันแล้ว ผลการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะพรรคที่คุมอำนาจทางการเมืองมาเลเซียมายาวนานกว่า

60 ปีนับตั้งแต่เป็นเอกราช อย่างพรรรค อัมโนและกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ (BN) ที่นำโดย นาจิบ ราซัค ต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งเป็นครั้งแรกให้กับ ปากาตัน ฮาราปัน (PH) แนวร่วมฝ่ายค้านที่นำโดย มหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งคืนดีกับอดีต ลูกน้องเก่า อันวาร์ อิบราฮิม ว่าที่นายกรัฐมนตรีตัวจริงคนต่อไป งานนี้เป็น ทั้งบทเรียนหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของคำว่า "ปรองดองทางการเมือง" และ "ประชาชนคือผู้ตัดสินที่แท้จริง" และ นำไปสู่การเช็กบิลมหกรรมคอร์รัปชั่น ในรัฐบาลนาจิบ ราซัค กับมหากาพย์ การทุจริตกองทุน 1MDB



4.สังหารคาช็อกกีทิ้งทุ่นซาอุฯ

กรณีสังหาร จามาล คาช็อกกีคอลัมนิสต์ชาวซาอุดิอาระเบียของ วอชิงตันโพสต์ ผู้ที่มักจจะวิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย กลายเป็นประเด็นที่สร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับรัฐบาลซาอุฯ เพราะการตายของคาช็อกกีนั้นมีการ ทิ้งปมที่บ่งชี้ถึงผู้สั่งการตามที่ตุรกี กล่าวหาตั้งแต่ช่วงแรกว่าอาจเกี่ยวข้องกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานมกุฎราชกุมารซาอุดิอาระเบีย แม้สภา คองเกรสสหรัฐจะกดดันอย่างหนัก แต่สุดท้าย ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนยันว่าจะอยู่ข้างเจ้าชายซัลมานเสมอ และพร้อมที่จะมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นเป็นพันธมิตรที่ดีกับซาอุฯ ต่อไป



5.ปรากฏการณ์ถ้ำหลวง

นอกจากเรื่องการเมืองไทยแล้ว คงไม่บ่อยครั้งนักที่ข่าวในประเทศไทยจะกลายเป็นข่าวระดับโลกที่สื่อดังระดับโลกจะเข้ามาติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิดยาว นานเหมือนกับภารกิจช่วยชีวิตนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี่ 13 คน ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ข่าวนี้กลายเป็นประเด็น โด่งดังและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมไปทั่วโลก จนมีการนำไปทำหนังและสารคดีในหลายประเทศ เพราะไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่ร่วมให้ความช่วยเหลือ แต่นานาชาติก็ได้ส่งทั้งแรงใจแรงกายและความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ มายังภารกิจครั้งนี้ ซึ่งนักดำน้ำที่ช่วยชีวิตทั้ง 13 คน ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญจากหลายชาติ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย และเบลเยียม และกลายเป็นหนึ่งในข่าวที่ต่างชาติให้ความสนใจมากที่สุดด้วยในปีนี้



6.พิธีเสกสมรส "แฮร์รี-เมแกน"

พิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชาย แฮร์รี แห่งราชวงศ์อังกฤษ และ เมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวชาวอเมริกัน กลายเป็นเรื่องราวที่ทั่วโลกให้ความสนใจและร่วมปีติยินดีกันถ้วนหน้า เพราะไม่ใช่แค่เรื่องราวซินเดอเรลลายุคใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวข้ามผ่านอุปสรรคความรักในด้านเชื้อชาติ ที่เมแกนนั้นเป็นทั้งชาวอเมริกัน และยังมีเชื้อสายแอฟริกัน อีกทั้งยังเคยแต่งงานและหย่าร้างมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับทั่วโลกจนได้รับการขนานามว่าเป็น "เทพนิยายยุคใหม่"



7.จับประธานนิสสัน

คาร์ลอส กอส์น ผู้ได้ชื่อว่าเป็น ฝรั่งที่เข้ามากอบกู้นิสสันไม่ให้ล้มละลาย และกลายเป็นผู้บริหารต่างชาติที่โด่งดัง และประสบความสำเร็จมากที่สุดคน หนึ่งในญี่ปุ่น ต้องถูกจับกุมฟ้าผ่าเกี่ยวกับคดีรายงานรายได้ต่ำว่าความเป็นจริงถึง 5,000 ล้านเยน จนถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ และบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตามมา ขณะที่สื่อจับตาเรื่องปัญหาภายในระหว่าง นิสสันกับผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างเรโนลต์ ซึ่งมีข่าวลือเรื่องการควบรวมกันก่อน หน้านี้ อาจเป็นประเด็นที่ทำให้กอส์นถูกคุมตัวและกลายเป็นข่าวใหญ่ของแวดวงธุรกิจปีนี้



8.จีนเผยเด็กตัดต่อยีน

สั่นสะเทือนกันไปทั้งวงการวิทยา ศาสตร์ทางการแพทย์ หลัง เหอเจี้ยน ขุย นักวิจัยด้านพันธุกรรมศาสตร์จากมหา วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เซาท์เทิร์น ในเมืองเสิ่นเจิ้น ของจีน อ้างว่าประสบความสำเร็จในการตัดต่อยีนของเด็กทารกฝาแฝด ซึ่งนับเป็น ครั้งแรกที่เด็กถูกตัดต่อยีนนั้นได้คลอดออกมาลืมตาดูโลก จนเรียกเสียงวิจารณ์ถึงประเด็นการทดลองมุนษย์ที่นับเป็นประเด็นสุ่มเสี่ยงทางจริยธรรมอย่างยิ่ง



9.ผวาเครื่องบินตก

ปี 2018 นับเป็นอีกปีที่สายการบินทั่วโลกเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ซึ่งอุบัติ เหตุร้ายแรงที่สุด คือ เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 737 แม็กซ์ ของไลอ้อนแอร์ สายการบินใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย ประสบเหตุตกกลางทะเลชวา จนทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 189 คน เสียชีวิตยกลำ โดยสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นทางการอินโดนีเซียระบุว่าเครื่องบินของโบอิ้งนั้นมีปัญหา



10.อินโดนีเซียอ่วมสึนามิ

เป็นอีกหนึ่งปีที่อินโดนีเซียต้องบอบช้ำจากภัยพิบัติใหญ่มากถึง 5 ครั้ง รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 คน แต่ที่ต้องสูญเสียมากที่สุด คือ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิจากเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.5 ถล่มเกาะสุลาเวสี โดยคร่าชีวิตชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไปกว่า 2,200 คน สูญหายอีกราว 5,000 คน และเหตุการณ์ล่าสุดคือ สึนามิพัดถล่มชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา และทางเหนือของเกาะชวา เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 คน ทั้งสองเหตุการณ์ได้สร้างเสียงวิจารณ์ในประเด็นเดียวกันคือระบบเตือนภัยสึนามิที่บกพร่องและทำให้ปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่บอบช้ำจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ


ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์


Source: Posttoday

 

The Public Post


อิหร่านจะให้การสนับสนุนปาเลสไตน์จนกว่าได้รับชัยชนะอย่างบริบูรณ์

https://www.publicpostonline.net/21130