ติดตามสถานะการณ์

John Traczyk


27 ธ.ค. คลื่นความร้อนในออสเตรเลีย: ชาวออสเตรเลียตอนใต้ได้รับการแจ้งเตือนท่ามกลางอันตรายจากไฟไหม้


ผู้อยู่อาศัยในรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้รับการเตือนล่วงหน้าก่อนวันที่อุณหภูมิสูงกว่า 40 C / 104 F และอันตรายจากไฟไหม้ "รุนแรง"


ในแอดิเลด ปรอท(เทอร์โมมิเตอร์) จะพุ่งถึง 39 C แต่คาดว่าบางส่วนของรัฐขึ้นไปทางเหนือจะสูงถึง 47 C / 117 F


https://www.9news.com.au/2018/12/28...ide-bushfire-danger-warnings-40c-temperatures

 

Thairath


ระทึก..เจ้าของฉายา ‘นอสตราดามุสแห่งบอลข่าน’ ได้ทำนายชะตาโลกปี 62 เอาไว้ เตือนจะเกิดสึนามิซัดถล่มเอเชีย รุนแรงเหมือบกับปี 47..





บาบา วานก้า ยังทำนายว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2562 จะพังทลาย, ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะตกเป็นเป้าหมายความพยายามลอบสังหาร โดยฝีมือทีมรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีปูตินเอง รวมทั้ง จะเกิดอุกกาบาตตกในรัสเซีย และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะป่วยด้วยโรคปริศนา ที่ทำให้เขาหูหนวกและเกิดเนื้องอกในสมอง


https://www.thairath.co.th/content/1456135

 

สจล. พยากรณ์อากาศประเทศไทย


ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยลมหนาว ! อุณหภูมิจะทยอยลดลง 29 ธ.ค., 30 ธ.ค. จะใกล้กับ 29 ธ.ค., 31 ธ.ค. จะเย็นลงชัดเจน, 1 ม.ค. 62 จะเย็นลงอีก ! อย่างไรก็ตามบางพื้นที่จะมีฝนตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือช่วง 28 ธ.ค. 61 - 1 ม.ค. 62


รูปนี้เปรียบเทียบผลการพยากรณ์อุณหภูมิที่เวลา 7.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. 61 - 1 ม.ค. 62 ในหน่วยองศาเซลเซียส ลบด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยของ 6 วันดังกล่าว


ประเด็นสำคัญคือ รูปเหล่านี้เป็นอุณหภูมิสัมพัทธ์ นั่นคือ เทียบกันเองในช่วง 6 วัน ***ย้ำว่าเทียบกันเฉพาะ 6 วันเหล่านี้*** การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของอุณหภูมิดูได้จากการเทียบสีกับแถบสีใต้รูป ซึ่งมีตัวเลขกำกับ การเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นต้องเทียบกัน เพราะเป็นอุณหภูมิจริงลบด้วยค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิ 6 วัน ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่าสีน้ำเงินจะหนาว หรือสีแดงจะร้อนจัด


สำหรับพยากรณ์อุณหภูมิจริง ดูได้จากรูปในความคิดเห็นที่ 1 ครับ


เมื่อพิจารณาครึ่งบนของประเทศ จะเห็นว่า

1) ตั้งแต่วันนี้ 27 ธ.ค. ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรง และจะแรงขึ้นอีกชัดเจนเริ่มวันพรุ่งนี้ 28 ธ.ค.

2) จะเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยลมหนาว

3) อุณหภูมิจะทยอยลดลง 29 ธ.ค.

4) 30 ธ.ค. อุณหภูมิจะใกล้กับ 29 ธ.ค.

5) 31 ธ.ค. จะเย็นลงชัดเจน (สังเกตบริเวณสีน้ำเงิน)

6) ปีใหม่ 1 ม.ค. 62 จะเย็นลงอีก

7) อย่างไรก็ตามบางพื้นที่จะมีฝนตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเหนือ ช่วง 28 ธ.ค. 61 - 1 ม.ค. 62 สามารถดูผลการพยากรณ์ฝนละเอียดเป็นรายชั่วโมงได้ทางเพจนี้ครับ

 

สจล. พยากรณ์อากาศประเทศไทย


ฝุ่นกรุงเทพฯน่าจะดีขึ้นอีกครั้งพรุ่งนี้ 28 ธ.ค. 61 !

 

Watchers


#Earthquake

// แผ่นดินไหวไทย ประจำวันที่ 26/12/18 //


เวลา 04:01 น. ตามเวลาประเทศไทย

แผ่นดินไหว อ.ท่าสองยาง จ.#ตาก

พิกัด (17.47,98.07)

ขนาด 2.1

ลึก 19 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/QvMR7b)

#Watchers

 

Watchers



#Earthquake

26/12/18

ความเสียหายหลังเกิดแผ่นดินไหว M5.1 ความลึก1กม.

ในคาตาเนีย,ซิซิลี,อิตาลี (Trecastagni, Italy)

พิกัด 37.630°N 15.100°E

เช้านี้วันที่ 26 ธันวาคม 2561

09:19 น. ตามเวลาไทย


รายงาน: Vincenzo Vince Prophet

ผ่านทาง @ severeweatherEU

Link USGS: https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us2000ixky/executive

#Watchers

 

Watchers


#Volcano #Earthquake report

แผ่นดินไหวใกล้ภูเขาไฟ

26/12/18

unnamed volcano (Solomon Islands): magnitude 4.6 earthquake


เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6

ขึ้นที่ภูเขาไฟ 13 ชั่วโมงก่อน

แผ่นดินไหวซึ่งอาจเป็นแหล่งกำเนิดของภูเขาไฟ ใน หมู่เกาะโซโลมอน

ความลึก 10.0 กม.

ที่ระยะทาง 18 กม. จากภูเขาไฟ

พิกัด 8.9998°S / 158.1714°E

เครดิต : USGS,Volcanodiscovery

#Watchers

 

Watchers


#Earthquake

//รายงานแผ่นดินไหวใกล้ไทย //

ประจำวันที่27/12/18


เวลา 07:35 น. ตามเวลาประเทศไทย

แผ่นดินไหว พรมแดนประเทศพม่า-อินเดีย

พิกัด(23.24,94.44)

ขนาด 4.8

ความลึก 10 กม.

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 571 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/QvQZ7K)


เวลา 14:30 น. ตามเวลาประเทศไทย

แผ่นดินไหว ยูนนาน ประเทศจีน

พิกัด(22.50,102.06)

ขนาด 4.2

ความลึก 10 กม.

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ประมาณ 295 กม.

[TMD] (link: http://dlvr.it/QvRhhz)

#Watchers

 

Strange Sounds


แผ่นดินไหว (ขนาด 5.5 และ5.0ในวันที่ 27 ธันวาคม 2561) ที่ทรงพลังในเวเนซุเอลาสร้างรอยแตกกว้างในพื้นและผนัง ทำลายบ้านและโบสถ์



http://strangesounds.org/2018/12/po...nd-and-walls-damaging-homes-and-churches.html

 

Vladimir Kudin


ในยูทาห์, สหรัฐอเมริกา

 

Sismologia Mundial


อิตาลี: ประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดกาตาเนียโดยแผ่นดินไหวหลายแห่ง และการระเบิดของภูเขาไฟเอตนา Https://bit.ly/2Tccc0H ที่มา @Biobio

 

Sismologia Mundial


ล่าสุดจร้า ความเสียหายโครงสร้างจากแผ่นดินไหว m5. 5 (h4) เช้านี้ 27 ธันวาคม กับศูนย์กลางตะวันตกเฉียงเหนือของวาเลนเซีย ในเวเนซูเอล่า มีการบันทึกภาพเลียนแบบหลายโหลที่มีการบันทึกไว้แล้วที่ใหญ่ที่สุดของ 5.0. แหล่งและรูปภาพ @AgenciaCN

 

ปาเลสไตน์จ่อขอมติUNรับรองเป็นสมาชิก อิสราเอลกร้าวจับมือสหรัฐฯขัดขวางทุกทาง เผยแพร่: 28 ธ.ค. 2561 02:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คนกลุ่มหนึ่งกำลังโบกธงปาเลสไตน์
เอเอฟพี - อิสราเอลประกาศร่วมมือกับสหรัฐฯ ขัดขวางความพยายามของปาเลสไตน์ในการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของสหประชาชาติ หลังจากปาเลสไตน์เผยว่าจะยื่นคำร้องในเรื่องดังกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่นานนับจากนี้

ริยาด อัล-มาลิกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของปาเลสไตน์เปิดเผยเมื่อวันพุธ(26ธ.ค.) ว่าเขาจะยื่นคำร้องในเดือนหน้า ถึงคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ขอเป็นสมาชิกโดยสมบูณ์ในเดือนหน้า ตามรายงานของวาฟา สื่อมวลชนอย่างเป็นทางการของปาเลสไตน์

แดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติระบุในถ้อยแถลงว่า "เราเตรียมที่จะหยุดความคิดนี้ ปาเลสไตน์จ่ายเงินให้พวกก่อการร้ายและสนับสนุนความรุนแรง แล้วยังจะมาขอเป็นรัฐสมาชิกของสหประชาชาติอีก"

ดานอน ยังกล่าวหาพวกผู้นำปาเลสไตน์ด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายบ่อนทำลายต่างๆที่ปลุกปั่นเหตุโจมตีก่อการร้ายเร็วๆนี้ และระบุว่าเขากำลังเพิ่มความกระตือรือร้นขัดขวางความพยายามดังกล่าวของปาเลสไตน์ ภายใต้การร่วมมือกับผู้แทนทูตสหรัฐฯ

พวกผู้แทนทูตให้ความเห็นว่าความพยายามใดๆของปาเลสไตน์ในการขอเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ของสหประชาชาติจะถูกวีโต้จากสหรัฐฯ ณ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

ภายใต้กฎระเบียบของสหประชาชาติ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่จะเป็นผู้อนุมัติคำร้องขอเป็นรัฐสมาชิกของยูเอ็น อย่างไรก็ตามคำร้องขอดังกล่าวจำเป็นต้องยื่นต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นลำดับแรก

ปาเลสไตน์ต้องการการสนับสนุนจากรัฐสมาชิกสภาความมั่นคงสหประชาชาติอย่างน้อย 9 ในจำนวน 15 รัฐ และต้องไม่ถูกวีโต้ใดๆจากสมาชิกถาวร 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประกอบด้วย อังฤกษ, ฝรั่งเศส, จีน, รัสเซีย และสหรัฐฯ

รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์เผยว่าเขามีแผนเดินทางไปยังนิวยอร์กในเดือนหน้า เพื่อยื่นคำร้องดังกล่าวด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นชัดเจนว่าคำร้องดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่การโหวตของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อใด

พวกผู้แทนทูตยูเอ็นบอกว่าความเคลื่อนไหวขอเป็นสมาชิกยูเอ็นของปาเลสไตน์มีขึ้น หลังจากแอฟริกาและอินโดนีเซีย สองผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของปาเลสไตน์ เตรียมขึ้นเข้ามานั่งเก้าอี้สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขณะที่ทางคณะมนตรีฯมีกำหนดเปิดประจำรายเดือนในประเด็นความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในวันที่ 22 มกราคมนี้

ปาเลสไตน์ได้รับอนุมัติในฐานะรัฐผู้สังเกตการณ์ที่ไม่ใช่สมาชิกของสหประชาชาติในปี 2012 จากการลงมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งไม่มีรัฐสมาชิกใดมีอำนาจวีโต้

สหรัฐฯโหวตคัดค้านมติดังกล่าว ตามกรอบมุมมองที่มีมาอย่างช้านานของพวกเขา ที่ระบุว่านานาชาติไม่ควรให้การรับรองปาเลสไตน์จนกว่าปาเลสไตน์จะมีความก้าวหน้าในความพยายามสร้างสันติภาพกับอิสราเอลเสียก่อน

มุมมองดังกล่าวถูกย้ำให้หนักแน่นขึ้นภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเขาตัดลดเงินช่วยเหลือปาเลสไตน์และรับรองเยรูซาเลมในฐานะเมืองหลวงของอิสราเอล สร้างความขุ่นเคืองแก่ปาเลสไตน์ที่ต้องการให้เยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงรัฐในอนาคตของพวกเขา

https://mgronline.com/around/detail/9610000128730

 

อพยพผู้คนจากอาคารที่พักสูง38ชั้นในซิดนีย์อีกรอบ เปิดทางวิศวกรตรวจสอบรอยร้าว เผยแพร่: 28 ธ.ค. 2561 01:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บีบีซี - ชาวบ้านหลายร้อยคนได้รับแจ้งให้อพยพออกจากอาคารแห่งหนึ่งในซิดนีย์เป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) หลังพบเห็นรอยร้าวบนกำแพงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากของอาคารโอปาล ทาวเวอร์ สูง 38 ชั้นได้ย้ายกลับเข้าไปในตึกแล้ว หลังจากต้องอพยพออกมาครั้งแรกในวันจันทร์(24ธ.ค.) เมื่อได้ยินเสียงร้าวดังออกมาและพบเห็นรอยร้าวหนึ่ง แต่ในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) พวกเขาได้รับแจ้งให้อพยพออกมาอีกรอบ

ทางบริษัทผู้ก่อสร้างอาคารระบุว่ามันยังคงแข็งแรงในทางโครงสร้างและการอพยพผู้อยู่อาศัยออกมาเป็นเพียงมาตรการปลอดภัยไว้ก่อน รวมถึงเป็นการเปิดทางให้เหล่าวิศวกรและคณะผู้ตรวจสอบสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Icon บริษัทผู้ก่อสร้างชี้แจงว่าไม่มีผู้อยู่อาศัยรายใดอยู่ในอันตราย แต่มันจะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าซ่อมแซมในเวลารวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยที่ไม่ก่อความวุ่นวายแก่ผู้อยู่อาศัยรายอื่นๆ

คาดหมายว่าการสืบสวนจะใช้เวลาราวๆ 10 วันและทาง Icon บอกว่าจะจัดหาที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้พักอาศัย




อย่างไรก็ตามผู้อยู่อาศัยจำนวนมากพากันโกรธกริ้ว ด้วยไม่พอใจที่ถูกบังคับให้ออกจากอพาร์ทเมนท์ "ฉันคิดว่าคงไม่สามารถเชื่อใจพวกเขาได้ เพราะพวกเขาบังคับให้ผู้คนกลับเข้าไปในที่พักอาศัย แต่วันนี้จู่ๆก็มายืนต่อหน้าเราและบอกให้ทุกคนออกมาจากอาคาร"

ชาวบ้านเเกือบ 3,000 คนถูกอพยพออกมาจากอาคารเมื่อวันจันทร์ หลังพบกำแพงค้ำยันภายในบนชั้น 10 ของอาคารเกิดทรุดตัว

เจ้าหน้าที่บอกว่าคำสั่งอพยพครอบคลุมห้องพัก 51 จากทั้งหมด 392 ยูนิตของอาคารแห่งนี้ และจากนั้นก็ประกาศว่าอาคารที่สร้างเสร็จหมาดๆในซิดนีย์ โอลิมปิก พาร์ค มีความปลอดภัยและอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่กลับเข้าที่พักได้

Icon เผยว่าผนังคอนกรีตสำเร็จรูปช่วงหนึ่งของอาคารเกิดร้าว พร้อมระบุทีมวิศวกรของบริษัทและ Ecove นักพัฒนาอาคาร กำลังอยู่ระหว่างการประเมินอาคารดังกล่าว ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อช่วงต้นปี

รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยว่าพวกเขากำลังสืบสวนความสมบูรณ์ของโครงสร้างอาคารแห่งนี้ เช่นเดียวกับอาคารที่พักอื่นๆที่อยู่ใกล้กัน

ก่อนหน้านี้พวกวิศวกรบอกว่าอาคารสูงโอปาล ทาวเวอร์ เคลื่อนตัวราว 2 มิลลิเมตร แต่ทาง Ecove ยืนยันว่าอาคารแห่งนี้มีคุณภาพสูงและอยู่เหนือกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างด้วยซ้ำ

https://mgronline.com/around/detail/9610000128719

 

UAEพันธมิตรสหรัฐฯย้ายข้าง!? กลับมาเปิดสถานทูตในซีเรีย เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 23:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลับมาเปิดสถานทูตในกรุงดามัสกัสอีกครั้งวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) มอบแรงเสริมทางการทูตครั้งใหญ่แก่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จากหนึ่งรัฐอาหรับซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และครั้งหนึ่งยังเคยสนับสนุนฝ่ายกบฏในการสู้รบกับผู้นำรายนี้

ยูเออีบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายคือการคืนความสัมพันธ์อันปกติ และจำกัดความเสี่ยงต่างๆจากการแทรกแซงระดับภูมิภาคใน "กิจการของอาหรับและซีเรีย" ซึ่งฟังเหมือนเป็นการพาดพิงถึงอิหร่าน ที่ให้การสนับสนุนอัสซาด

ธงชาติยูเออีถูกยกขึ้นที่สถานทูต หลังจากมันถูกปิดทำการมาตั้งแต่ช่วงเดือนแรกๆของความขัดแย้งซีเรียหรือราวๆเกือบ 8 ปีก่อน โดยทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บอกว่าอุปทูตของพวกเขาจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.)

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในหลายรัฐในภูมิภาคที่ให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธต่อต้านอัสซาด แต่พวกเขามีบทบาทไม่โดดเด่นเท่าซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์หรือตุรกี

ในขณะที่สงครามซีเรียดำเนินมาเกือบ 8 ปี อัสซาดสามารถกอบกู้ดินแดนเเกือบทั้งหมดให้กลับมาอยู่ในการควบคุม ภายใต้การสนับสนุนจากรัสเซีย, อิหร่านและกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ที่อิหร่านให้การสนับสนุน ในนั้นรวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน




กองทัพของอัสซาดยกระดับการรุกคืบหนักหน่วงขึ้นในปีนี้ และสามารถถล่มฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายกบฏใกล้กรุงดามัสกัส รวมถึงทวงคืนดินแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ได้สำเร็จ

เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โอมาร์ อัล-บาชีร์ ประธานาธิบดีซูดาน กลายเป็นผู้นำรัฐอาหรับคนแรกที่เดินทางเยือนดามัสกัส นับตั้งแต่ความขัดแย้งซีเรียเริ่มต้นขึ้น โดยเขาบินไปลงที่สนามบินดามัสกัส

จุดข้ามชายแดนระหว่างซีเรียและจอร์แดน อีกหนึ่งพันธมิตรของสหรัฐฯที่สนับสนุนกบฏ ได้เปิดทำการอีกครั้งตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม ขณะที่เครื่องบินโดยสารซีเรียลำหนึ่งได้บินไปยังตูนิเซียในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) นับเป็นเที่ยวบินแรกในรอบเกือบ 8 ปี

สันนิบาตอาหรับ ระงับสถานภาพสมาชิกของซีเรียในปี 2011 อย่างไรก็ตามล่าสุดทูตอาหรับรายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เผยกับรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ต้องการอ้าแขนรับซีเรียกลับมา และคาดหมายว่าจะมีเสียงคัดค้านแค่ 3 ถึง 4 รัฐเท่านั้น

เหล่ารัฐอาหรับ ให้การสนับสนุนทั้งด้านอาวุธ, การฝึกฝนและเงินทุนแก้กบฏซีเรีย ผ่านโครงการหนึ่งซึ่งดูแลโดยซีไอเอ จนกระทั่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ สั่งปิดไปเมื่อปีที่แล้ว และอีกความเป็นไปได้หนึ่งที่อาจเป็นตัวส่งเสริมอัสซาด ก็คือการตัดสินใจของทรัมป์ในการถอนกำลังทหารอเมริกาที่ประจำการสนับสนุนพวกนักรบที่นำโดยกองทัพชาวเคิร์ด ทางภาคเหนือและตะวันออกของซีเรีย

https://mgronline.com/around/detail/9610000128699

 

ตอลิบานเตือนสหรัฐฯ จะออกจากอัฟกันหรือแพ้เหมือนโซเวียต เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 18:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – ตอลิบานเตือนสหรัฐฯในวันนี้ (27) ว่าระวังจะเจอชะตากรรมเดียวกับสหภาพโซเวียตในช่วงทศวรรษ 1980 หากไม่ยอมออกไปจากอัฟกานิสถาน ในขณะที่วอชิงตันกำลังพิจารณาลดจำนวนทหารในประเทศนี้

ในข้อความยั่วยุที่ถูกส่งในวันครบรอบ 39 ปีการรุกรานอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียต ตอลิบาน ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯเผชิญกับความอัปยศและอาจเรียนรู้บทเรียนสำคัญจากประสบการณ์ของศัตรูช่วงสงครามเย็น

โซเวียตถอนตัวจากอัฟกานิสถานในปี 1989 ยุติการยึดครองนานสิบปี และนำไปสู่สงครามกลางเมืองนองเลือดและการกำเนิดขึ้นมาของกลุ่มตอลิบาน

“เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ของโซเวียตในอัฟกานิสถานและเลิกคิดที่จะพิสูจน์ความกล้าหาญของชาวอัฟกานิสถานที่ได้แสดงให้เห็นแล้ว” ซาบิมุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของตอลิบาน กล่าวในถ้อยแถลงภาษาอังกฤษ ภาษาดารี และภาษาพัชโต

มูจาฮิด กล่าวว่า ความสัมพันธ์ใดๆ ก็ตามระหว่างตอลิบานและสหรัฐฯในอนาคตควรอยู่บนหลักการทางการทูตและเศรษฐกิจที่มั่นคงมากกว่าความขัดแย้ง




ตอลิบานไม่ได้ตอบสนองอย่างเป็นทางการต่อข่าวที่ว่า ทรัมป์ตัดสินใจที่จะถอนทหารสหรัฐฯ ครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 14,000 คนออกจากอัฟกินสถาน

อย่างไรก็ตาม แกนนำอาวุโสคนหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า ตอลิบานรู้สึกยิ่งกว่ายินดี ตอลิบานยืนกรานมากนานว่าการถอนทหารต่างชาติเป็นเงื่อนไขสำหรับการเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ

จนถึงตอนนี้ ทำเนียบขาวยังไม่ได้ยืนยันการตัดสินใจดังกล่าวที่ทำให้นักการทูตต่างชาติและเจ้าหน้าที่อัฟกันในคาบูลตกตะลึงและผิดวัง

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนในขณะที่ทูตสันติภาพของยูเอ็น ซัลเมย์ คาลิซัด พบกับตอลิบานในอาบูดาบี ส่วนหนึ่งของความพยายามชักจูงกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เข้าสู่โต๊ะเจรจากับคาบูล

นั่นเป็นการพบกันครั้งล่าสุดจากพบปะหลายครั้งระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและผู้แทนจากตอลิบานนับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน

มีความกลัวกันว่าการตัดสินใจของทรัมป์อาจบ่อนทำลายฐานะการเจรจาของคาลิซัด และเข้าทางฝ่ายตอลิบาน และทำให้กองกำลังอัฟกานิสถานซึ่งประสบความสูญเสียเป็นประวัติการณ์ยิ่งสูญเสียกำลังใจ

https://mgronline.com/around/detail/9610000128627

 

น้ำมันลงอีกรอบดิ่ง$2 ทองพุ่ง,ดาวโจนส์ผันผวนหนักสวิงไปกลับเกือบ900จุด
เผยแพร่: 28 ธ.ค. 2561 05:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์/เอพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันกลับมาลงหนักอีกครั้งในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค) ถูกกดดันจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนวอลล์สตรีทผันผวนหนักก่อนปิดบวกแข็งแกร่งในช่วงท้ายของการซื้อขาย ปัจจัยความผันผวนนี้ดันราคาทองคำพุ่งทะยาน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ในขณะที่ยังเหลืออีก 1 วัน น้ำมันสัญญาสหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าสู่การขยับลงตลอดทั้งเดือน 12.4% ซึ่งเท่ากับว่ามันจะกลายเป็นเดือนธันวาคมที่ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2014 โดยคราวนั้นปรับลด 19.5%

ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกัดเซาะอุปสงค์สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและก่อแรงกดดันต่อสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า

ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด ทั้งที่เมื่อ 3 เดือนก่อน นักลงทุนยังคาดการณ์กันอยู่เลยว่าตลาดน้ำมันอาจประสบปัญหาอุปทานตึงตัวจากปัจจัยต่างๆนานา อาทิซีกโลกเหนือกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว, มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อภาคพลังงานของอิหร่าน

อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วผู้ส่งออกชาติอื่นๆก็เพิ่มกำลังผลิตชดเชยอุปทานที่ขาดหายไปของอิหร่าน เติมเต็มคลังสำรองทั่วโลกและฉุดรั้งราคาน้ำมัน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) แกว่งตัวปิดบวกแรงในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังช่วงแรกดิ่งลงหนัก ด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่ำสุดในรอบหลายปี กระพือความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 260.37 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 23,138.82 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 21.13 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,488.83 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.14 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,579.49 จุด

จนถึงช่วงบ่าย ดาวโจนส์แกว่งตัวอยู่ในแดนลบกว่า 600 จุด จากความกังวลต่อผลสำรวจของ Conference Board ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 128.1 ในเดือนธันวาคม จากระดับ 136.4 ในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นการลดลงรุนแรงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2015

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯได้รับผลกระทบจากความคาดหวังที่ลดลงในเรื่องงานและสภาวะธุรกิจ

ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยแห่งความกังวลหลักของนักลงทุนก่อนเข้าสู่ปี 2019 เช่นเดียวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน, อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย และความคาดหมายว่าผลประกอบการของเหล่าบริษัทสหรัฐฯจะออกมาอ่อนแอ

อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขาย ดัชนีทั้ง 3 ฟื้นตัวฉับพลันและพุ่งทะยานสู่แดนบวกอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ปิดเหนือระดับต่ำสุดของวันมากกว่า 800 จุด

การดีดตัวของหุ้นกลุ่มวัสดุ, สถาบันการเงินและเหล่าบริษัทประกันสุขภาพ ช่วยกลบหุ้นกลุ่มค้าปลีกและภาคอื่นๆที่ปิดลบ

นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่ระบุว่าจำนวนชาวอเมริกาที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานลดลงเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอกย้ำถึงความเข้มแข็งของตลาดแรงงาน

ทั้งนี้ความผันผวนของตลาดหุ้นอเมริกา ประกอบกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(27ธ.ค.) ปิดบวกแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,281.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9610000128738

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Dec 28) สหรัฐเตรียมเยือนจีนเพื่อเจรจาการค้ากลางเดือน ม.ค.นี้ ซ สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า นาย Jeffrey Gerrish, U.S. Trade Representative และนาย David Malpass, Treasury Under Secretary for International Affairs มีกำหนดการเยือนประเทศจีนเพื่อหารือเจรจาเรื่องการค้าในช่วงอาทิตย์ที่สองของเดือน ม.ค. นี้

ขณะเดียวกัน นาย Gao Feng, โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ได้ออกมายืนยันการเจรจาร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในเดือนหน้าเช่นกัน แต่ยังมิได้ระบุวันที่แน่ชัด สำหรับการเจรจาในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้กลับมาร่วมโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี Trump และประธานาธิบดี Xi Jinping ได้ประกาศยุติข้อพิพาทเป็นการชั่วคราวที่ประเทศอาเจนติน่า เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

ด้านนาย Derek Scissors, ผู้เชี่ยวชาญด้านประเทศจีนของ the American Enterprise Institute ให้ความคิดเห็นว่า การกลับมาร่วมเจรจาในเดือนหน้าถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ดี คงเป็นการยากที่จะได้ข้อตกลงที่เป็น large-scale นอกจากนี้ ยังได้กล่าวเสริมว่า การที่ขาดการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายในช่วงครึ่งแรกของการระงับข้อพิพาท 90 วัน ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นฐานจากฝั่งของจีน

Source: BOTSS

-U.S. Team to Visit China for Trade Talks in Early January, Sources Say
https://www.bloomberg.com/news/arti...s8AZac7Qve-G8DVz7c1WxWAohtqlEnPPtThQgEOGE_3Rk

 

Bank of Thailand Scholarship Students



(Dec 27) 2018 ฟองสบู่แตก คริปโทแย่ แต่ยังไม่ตาย: นอกจากปี 2018 จะเป็นปีแห่งการครบรอบ 10 ปี ของ "บิตคอยน์" พี่ใหญ่แห่งโลกสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ยังนับเป็นปีแห่งความผันผวนสุดขีดราวกับรถไฟเหาะตีลังกาไปมาหลายตลบของแวดวงเงินคริปโทด้วย

หากย้อนไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2017 ทั่วโลกต่างตื่นตาตื่นใจไปกับเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ ทั้งในแง่ของการเป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพพลิกโฉมระบบการเงินโลก และแง่ของการเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนสุดหวือหวา ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยงสูงลิบลิ่ว แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูงแซงหน้าสินทรัพย์อื่นๆ จนจูงใจนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ได้มาก

กระแสตื่นคริปโทที่ว่าจึงหนุนให้ราคาบิตคอยน์ทะยานไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.49 แสนบาท) ซึ่งพุ่งขึ้นเกือบ 20 เท่า จากราว 1,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์ (ราว 3.2 หมื่นบาท) เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2017 โดยการพุ่งทะยานของราคาบิตคอยน์ดันให้เงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ ปรับขึ้นตามมาด้วย เช่น อีเธอร์ XRP หรือเงินคริปโททางเลือกอื่นๆ (Alt-coin)

มูลค่าที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้ตลาดเงินคริปโทเข้าสู่ภาวะฟองสบู่อย่างรวดเร็ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า แรงขับที่ส่งให้มูลค่าพุ่งแตะจุดพีกนั้นมาจากการ "ปั่นราคา" เป็นหลัก ซึ่งตั้งอยู่บนความเชื่อว่า มูลค่าของคริปโทเคอเรนซีจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ตลาดเงินคริปโทจึงมีความอ่อนไหวสูงมากต่อเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย

ดังนั้น เมื่อเกิดกรณีแฮ็กเกอร์เจาะระบบขโมยเงินจาก คอยน์เช็ก แพลตฟอร์มเทรดเงินดิจิทัลรายใหญ่ในญี่ปุ่น ส่งผลให้เงินดิจิทัลโดนขโมยไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.5 หมื่นล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงข่าวการแฮ็กแพลตฟอร์มเงินคริปโทอื่นๆ อีกหลายระลอก ฟองสบู่เงิน คริปโทจึงระเบิดออกในช่วงต้นปี 2018

นอกจากการล้วงตับจากแฮ็กเกอร์แล้ว ความผันผวนในตลาดเงินคริปโทและความวิตกเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ ทำให้รัฐบาลหลายชาติทั่วโลกส่งสัญญาณเพิ่มกำกับดูแลเงินดิจิทัลอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย หรือสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเป็น ข่าวร้ายฉุดให้เงินดิจิทัลยิ่งดิ่งลง ต่อเนื่องไปอีก

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มูลค่าตลาดเงินดิจิทัลเข้าสู่ขาลงอย่างแท้จริงในปี 2018 โดยบลูมเบิร์กรายงานว่า จากมูลค่าตลาดสูงสุดซึ่งเคยอยู่ที่กว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 25 ล้านล้านบาท) เมื่อต้นปีนี้ มูลค่าตลาดในปัจจุบันกลับลดลงฮวบฮาบเหลือเพียงประมาณ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 3.89 ล้านล้านบาท)

ทว่า มูลค่าตลาดที่ลดฮวบฮาบลงกลับไม่ได้เป็นจุดจบของเงินคริปโท เพราะการยอมรับเงินคริปโทมาใช้ในชีวิตประจำวันได้เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เอกชนรายใหญ่หลายแห่งเริ่มสนใจร่วมวงพัฒนาเงินดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ในแง่จำนวนผู้ใช้นั้น บลูมเบิร์กรายงานว่า จำนวนผู้ใช้เงินดิจิทัลที่ยืนยันตัวตนแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 17 ล้านราย เมื่อปลายปี 2017 มาอยู่ที่ 35 ล้านราย ในขณะนี้ นับว่าเพิ่มขึ้นสูงถึง 94% ภายในปีเดียว ขณะที่เมื่อเทียบ ผู้ใช้ที่มีบัญชีเงินดิจิทัล สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 80 ล้านบัญชี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ไปอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบัญชี

นอกจากนี้ การทำธุรกรรมด้วย เงินดิจิทัลก็ปรับขึ้นเช่นกัน โดย ไวส์ คริปโทเคอเรนซี เรตติ้ง (Weiss Cryptocurrency Ratings) บริษัทจัดเรตติ้งเงินคริปโทเปิดเผยว่า ปริมาณการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนสาธารณะ (On-Chain Transaction) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 6 แสนธุรกรรม/วัน ในขณะนี้ จากไม่ถึง 1,000 ธุรกรรม เมื่อต้นปี 2018

นอกเหนือจากจำนวนผู้ใช้และการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นแล้ว เมื่อไม่นานนี้ หลายบริษัทเริ่มสนใจพัฒนาเงินคริปโทอีกประเภทหนึ่งคือ "สเตเบิล คอยน์" (Stable Coin) ซึ่งหากกล่าวอย่างรวบรัด สเตเบิล คอยน์ เป็นเงินคริปโทที่มีราคาคงที่ตลอดเวลา เช่น มูลค่าอาจอยู่ที่ 1 สเตเบิลคอยน์ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุนี้ สเตเบิล คอยน์ จึงถือเป็นเงินดิจิทัลที่สามารถเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำได้ เพราะไม่มีปัญหาเรื่องราคาผันผวนนั่นเอง

ล่าสุดนั้น บลูมเบิร์กรายงานว่า เฟซบุ๊กมีแผนพัฒนา สเตเบิล คอยน์ ของตัวเอง เพื่อหวังเอามาใช้เป็นตัวกลางโอนเงินข้ามประเทศใน WhatsApp โดยคาดว่าจะเริ่มที่ตลาดอินเดียก่อน เนื่องจากเป็นประเทศที่มี ผู้ใช้วอตส์แอพมากกว่า 200 ล้านราย และอินเดียยังเป็นประเทศลำดับต้นๆ

ที่มีการโอนเงินข้ามประเทศมากที่สุดจากในต่างประเทศเข้าไปยังอินเดีย อยู่ที่ 6.9 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) ในปี 2017 ตามข้อมูลของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์)

ก่อนหน้านี้ เซอร์เคิล (Circle) สตาร์ทอัพด้านระบบชำระเงินออนไลน์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก โกลด์แมน แซคส์ สถาบันการเงินชื่อดัง ก็เพิ่ง เปิดตัว สเตเบิล คอยน์ ออกมาด้วยเช่นกันเมื่อเดือน ก.ย.

ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์สรายงานว่า นักลงทุนสถาบันจำนวนกว่า 72% ตามผลการสำรวจของ กรีนวิช แอสโซซิเอตส์ ต่างสนใจพัฒนาเงินดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ในอนาคตอย่างเร็วสุดในภายปีหน้านี้ น่าจะมีนวัตกรรมด้านเงินดิจิทัลเกิดขึ้นมาให้เห็นกันอีก

"ฟ้าหลังฝน" จึงอาจเป็นสิ่ง ที่รอตลาดเงินคริปโทอยู่ในปี 2019 ซึ่งอนาคตของเงินดิจิทัลจะสดใสมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรอจับตาดูกันต่อไป

โดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

Source: Posttoday