ติดตามสถานะการณ์

China Xinhua News


เชื่อมต่อกันอีกครั้ง! สองเกาหลีจัดพิธีเชื่อมรางรถไฟ-ถนนข้ามพรมแดน

.

เมื่อเวลา 10.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 26 ธ.ค. เกาหลีใต้และเกาหลีเหนือได้ร่วมกันจัดพิธีเชื่อมรางรถไฟ-ถนน ที่สถานี Panmun ในเมืองแคซ็อง ทางตอนใต้ของเกาหลีเหนือ ซึ่งใกล้กับบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เพื่อเชื่อมต่อทางรถไฟและถนนข้ามพรมแดนระหว่างเกาหลี รวมถึงปรับปรุงพัฒนาเส้นทางให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

.

พิธีนี้ถูกจัดขึ้นภายใต้ความเห็นพ้องระหว่างนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ กับนายคิมจองอึน ผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ ในการประชุมสุดยอดเปียงยางที่จัดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

.

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้รายงานว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีตัวแทนจากทั้งสองฝั่งมาเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ โดยสำหรับฝั่งเกาหลีใต้ ได้ส่งตัวแทนจำนวน 100 คนนั่งรถไฟสายพิเศษไปเข้าร่วม ซึ่งนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงแล้ว ยังมีตัวแทนจำนวน 5 คน ที่เป็นพลเมืองผู้พลัดพรากจากญาติพี่น้องในเกาหลีเหนือ เพราะสงครามเกาหลีในช่วงปี 1950-53 อีกด้วย

.

ทางรถไฟและถนนระหว่างเกาหลีทั้งสองฝั่งถูกตัดขาดจากกัน หลังสงครามสิ้นสุดลงด้วยการพักรบ แต่ก็ยังมีข่าวคราวว่าทั้งสองฝั่งยังคงทำสงครามด้วยวิธีการอื่น และความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็ยังคงเป็นที่น่าวิตก จนกระทั่งผู้นำทั้งสองได้ออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ด้วยการออกมาจับมือและพบปะพูดคุยกันบริเวณชายแดนสองเกาหลี เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

.

คิมกึมอ๊ก คือชาวเกาหลีใต้ผู้เกิดในเมืองแคซ็อง หนึ่งในพลเรือนที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ เธอให้สัมภาษณ์ว่าเธอรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้กลับบ้านเกิดของเธอ หลังจากที่นั่นมานานถึง 86 ปี การเดินทางด้วยรถไฟสายพิเศษนี้เหมือนกับความฝันเลยทีเดียว พิธีครั้งนี้ถือเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอ

.

รถไฟสายพิเศษนี้ประกอบไปด้วย 9 ตู้ ออกเดินทางจากกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันพุธ ก่อนจะมาหยุดที่สถานี Dorasan ทางใต้ของชายแดนระหว่างเกาหลี เพื่อตรวจคนเข้าเมือง จากนั้นรถไฟก็ได้วิ่งข้ามเส้นแบ่งเขตทหาร (MDL) เมื่อเวลา 8.34 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

.

หลังจากพิธีเสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมประชุมชาวเกาหลีใต้มีกำหนดการรับประทานอาหารกลางวันต่อที่เมืองแคซ็อง และจะนั่งรถไฟกลับไปยังสถานีโซลในเวลาประมาณ 15.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)

.

การดำเนินงานต่างๆ ในพิธีนี้ ประกอบด้วยการกล่าวสุนทรพจน์เฉลิมฉลองจากตัวแทนของทั้งสองฝั่งเกาหลี การลงนามในไม้หมอนรถไฟ การเชื่อมต่อรางรถไฟ และการเปิดตัวป้ายชื่อสถานีอย่างเป็นทางการ

 

โพสต์ทูเดย์


จีนทิ้งดาวน์อสังหา ผวาสงครามการค้า-หยวนอ่อนไม่คุ้มลงทุน


https://www.posttoday.com/property/news/575127





นายสุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมที่ผู้ประกอบการพยายามหากลุ่มลูกค้าต่างชาติมาซื้อ โดยเฉพาะชาวจีน จะประสบปัญหากลุ่มผู้ซื้อดังกล่าวทิ้งเงินดาวน์ เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ประกอบกับค่าเงินหยวนอ่อนค่าตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 จาก 5 บาท เหลือ 4.60 บาท/หยวน รวมไปถึงปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีนอาจส่งผลให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นนักลงทุน

"คนจีนถือเป็นผู้ซื้อหลักจากต่างชาติ ในตลาดคอนโดในเมืองไทยมา 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยไม่ใช่เพียงชาวจีนที่มาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น แต่ยังมีชาวจีนที่มาจากไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซียด้วย ผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะรายใหญ่ นำโครงการคอนโด ไปขายต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว ไปโรดโชว์สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวันเท่านั้น แต่เมื่อนักท่องเที่ยวจีนมาไทยมากขึ้น จึงเริ่มไปทำตลาดจีนจริงจัง" นายสุรเชษฐ กล่าว

 

แผ่นดินไหว ขนาด 5.5

ภูมิภาค CARABOBO, VENEZUELA

วันที่ 2018-12-27

เวลา 15:59:11.8 น.ไทย

สถานที่ 10.28 N ; 68.05 W

ความลึก 10 กิโลเมตร



Magnitude 5.5

Region CARABOBO, VENEZUELA

Date time 2018-12-27 08:59:11.8 UTC

Location 10.28 N ; 68.05 W

Depth 10 km


Macroseismic

Intensity VI Effects: Slightly Damaging


Distances

130 km W of Caracas, Venezuela, Bolivarian Republic of / pop: 3,000,000 / local time: 04:59:11.8 2018-12-27


224 km SE of Willemstad, Curacao / pop: 125,000 / local time: 04:59:11.8 2018-12-27


329 km SE of Oranjestad, Aruba / pop: 30,000 / local time: 04:59:11.8 2018-12-27


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=735283

 

แผ่นดินไหว ขนาด 5.0

ภูมิภาค CARABOBO, VENEZUELA

วันที่ 2018-12-27

เวลา 16:24:19.2 น.ไทย

สถานที่ 10.27 N ; 67.91 W

ความลึก 5 กิโลเมตร



Magnitude 5.0

Region CARABOBO, VENEZUELA

Date time 2018-12-27 09:24:19.2 UTC

Location 10.27 N ; 67.91 W

Depth 5 km

Macroseismic

Intensity III Effects: Weakly Felt

Distances

16 km NE of Valencia, Venezuela, Bolivarian Republic of / pop: 1,386,000 / local time: 05:24:19.2 2018-12-27


6 km NW of Guacara, Venezuela, Bolivarian Republic of / pop: 152,000 / local time: 05:24:19.2 2018-12-27


https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=735290

 

นสพ.แนวหน้า


จี้เลิกความผิดอาชีพโสเภณี 'อังคณา'ชี้มีส่วนร่วมสร้างศก.ภาคท่องเที่ยว


https://www.naewna.com/local/385507

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 28) ปีที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ : หากย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปีก่อน ประมาณช่วงปลายปี 2017 ในขณะที่สำนักข่าวหลายแห่งกำลังประมวลเหตุการณ์เหลียวหลังและแลหน้าสู่ปี 2018 ว่าโลกจะไปทิศทางไหน ในขณะนั้นคงไม่มีใครคาดคิดว่า โลกในปี 2018 นี้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเหนือความคาดหมายแบบในวันนี้


ตอนนั้นหลายฝ่ายคาดการณ์ในภาพรวมกว้างๆ เพียงแค่ว่า ปี 2018 จะเป็นปีแห่งดอกเบี้ยขาขึ้นที่แท้จริง เพราะเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ต่อเนื่อง และยิ่งได้ปัจจัยหนุนจากกฎหมายปฏิรูปภาษีที่ออกมาในเดือน ธ.ค. ด้วย จึงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยได้เต็มสูบในปีนี้ โดยมีแบงก์ชาติทั่วโลกทยอยปรับขึ้นรับลูกตาม

ทว่าในความเป็นจริง โลกในปี 2018 กลับถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศ "สงครามการค้า" มาเกือบตลอดทั้งปี แถมไปๆ มาๆ บรรยากาศยิ่งตึงเครียดขึ้นเฉียดจะเป็นสงครามเย็นระหว่างสหรัฐ กับจีนไปแล้ว เพราะงานนี้ไม่ได้เล่นกันแค่เรื่องการค้าขายหรือลดขาดดุลการค้าอย่างเดียว แต่ยังเตะตัดขาจีนที่กำลังเร่งสปีดพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาแข่งในด้าน 5จี และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)

ส่วนเงินคริปโทเคอเรนซีที่นำโดย "บิตคอยน์" ก็พลิกแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ใครจะคิดว่าจากเกือบ 2 หมื่นดอลลาร์/บิตคอยน์ เมื่อต้นปี ราคาจะร่วงแบบเทกระจาดจนตอนนี้เหลืออยู่ที่ประมาณ 3,844 ดอลลาร์เท่านั้น จนแทบทุกเสียงยอมรับว่าบิตคอยน์โตแบบฟองสบู่และแตกไปเรียบร้อยแล้ว และฉุดให้เงินคริปโททั้งอุตสาหกรรม ดิ่งลงตามไปด้วย

"น้ำมันโลก" ก็เป็นอีกเรื่องที่ พลิกไปคนละม้วน หลายฝ่ายเชื่อว่าราคาปีนี้จะพุ่งแรงขึ้นอีกจากในขณะนั้นที่เบรนต์อยู่ที่กว่า 62 ดอลลาร์ เพราะซาอุดิอาระเบียกำลังเร่งปฏิรูปประเทศและมีแผนจะแปรรูปบริษัท ซาอุดี อารัมโก เข้าตลาดส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับเจอพิษสงครามการค้าเข้าไป แถมซาอุฯ ยังมีกรณีเรื่องการสังหารนักข่าว จามาล คาช็อกกี จนตกอยู่ใต้แรงกดดันหนักทั่วโลก และทำให้ภาพลักษณ์ นักปฏิรูปแทบจะพังไปในพริบตา

"ตลาดหุ้น" ก็เป็นอีกหนึ่งความผันผวนสุดโต่งในปี 2018 เพราะปีนี้เป็นปีที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทำสถิติสูงสุดกันเป็นว่าเล่น หลายแห่งทุบสถิติกันไป

ช่วงต้นปี ส่วนสหรัฐลากยาวมาได้ถึงไตรมาส 3-4 แต่สุดท้ายก่อนจะสิ้นปี ทั้งตลาดสหรัฐและหลายประเทศก็กลับดำดิ่งเข้าตลาดหมี คือลบไป 20% จากราคาปิดสูงสุดครั้งก่อน เพราะ ถูกกดดันจากเรื่องดอกเบี้ยเฟด ปัญหาการเมืองในสหรัฐ และความเสี่ยงสงครามการค้าปีหน้าที่ยังไม่จบ

สำหรับปีหน้า 2019 ยังเป็นเรื่องยากอยู่ที่จะบอกได้ว่าหวยจะออกมา ทางไหน แต่เบื้องต้นปัจจัยลบดูจะมีเยอะมากกว่าปัจจัยบวก ทั้งสงครามการค้า ที่จะกดเศรษฐกิจโลกและ เบร็กซิตที่จะถึงเส้นตายในเดือน มี.ค.

ที่สำคัญอย่าลืมตัวแปรสำคัญอย่างเขาคนนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นผู้สร้างแรงกระเพื่อมมา ทั่วโลก 2 ปีติดต่อกัน ปีแรก 2017 ก็เริ่มเรื่องคำสั่งห้ามเดินทางจากประเทศมุสลิมจนทำเอาปั่นป่วนกันทั่วโลกมาแล้ว และต่อกันปีที่สองกับสงคราม การค้า ส่วนปีหน้า 2019 นี้ยังไม่รู้ว่า จะมีอะไรออกมาหรือไม่ แต่ดูจากผลงานที่ผ่านมาคงบอกได้แค่ว่า 4 ปีในยุคของทรัมป์อาจทำให้โลกกลายเป็นปีที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลยจริงๆ

คอลัมน์ โลกทูเดย์ โดย นันทิยา วรเพชรายุทธ

Source: Posttoday

เพิ่มเติม
- The volatile outlook for 2019 is a reflection of Trump's America
https://www.smh.com.au/business/mar...ction-of-trump-s-america-20181227-p50oea.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 27) ส่องอสังหาปีหมู โตฝ่าหลายปัจจัยลบ : อสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยทั้งยอดขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดการณ์ว่ามูลค่าการโอนอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งปี 2561 จะอยู่ที่ 5.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2560 มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปี 2562 นั้น มีหลายค่ายหลายสำนักออกมาคาดการณ์ถึงทิศทางที่จะเกิดขึ้นท่ามกลางปัจจัยบวกและลบ โดยประเด็นที่มีการกล่าวมากสุด คือ มาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันหรือแอลทีวีของทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. 2562 ที่อาจส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ทั้งฝั่งอุปทานและอุปสงค์

ขณะที่เรื่องของการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นต้นปีอาจส่งผลทำให้ตลาด อสังหาฯ เกิดชะลอตัวบ้าง ซึ่งเหล่าบรรดาบิ๊กเนมในตลาดไม่ได้หวั่นต่อการพัฒนาโครงการ เพราะหากย้อนดูไม่ว่าภาวะการเมืองจะเป็นเช่นไรจะมีปฏิวัติหรือไม่ ตลาดบ้านยังขายได้ นอกจากนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความผันผวนอาจกระทบต่อกำลังซื้อและทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น

อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ปี 2562 ภาค อสังหาฯ ตลาดยังเป็นบวกจากความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค ขณะที่ตลาดยังต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งแนวโน้มยังไม่ดีขึ้นดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นยากเนื่องจากการ ส่งออกจะได้รับผลกระทบและกำลังซื้อลดลง มีความเป็นไปได้สูง การส่งออกภาคการเกษตรติดลบหมด

ขณะเดียวกันการเมืองหลังการ เลือกตั้ง รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะสานต่อโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการอยู่หรือไม่ และหากขาดเสถียรภาพทางการเมืองเป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตามอง

นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก ส่วนจะปรับเท่าใดปรับอีกกี่ครั้งจะต้องรอดู ทั้งนี้การขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทุก 0.25% จะกระทบต่อการผ่อนชำระ 2% ผู้ที่กู้อยู่เดิมผ่อนในอัตราเท่าเดิมแต่เงินที่จะไปตัดเงินต้นลดลง ทำให้ผู้กู้ต้องผ่อนสินเชื่อนานขึ้น ขณะที่ผู้จะกู้เงินใหม่จะได้วงเงินที่ลดลงและยอดถูกปฏิเสธ สินเชื่อจากธนาคารมีมากขึ้น ขณะที่มาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อจะส่งผลกระทบต่อสต๊อกคงค้างที่มีอยู่ในตลาดซึ่งผู้ประกอบการจะต้องเร่งระบายสต๊อกให้ได้มากที่สุด

"มาตรการแบงก์ชาติทำให้ผู้ซื้อบ้านจัดสรรต้องผ่อนชำระมากขึ้น ซึ่งแนวโน้มว่าผู้ประกอบการจะหันมาขาย บ้านสั่งสร้างเพื่อให้ลูกค้าสามารถผ่อนเงินดาวน์ได้นาน ทั้งนี้มองว่ากฎหมายภาษีที่ดินทำให้เจ้าของบ้านหลังที่ 2 ที่ 3 ทั้งในตลาดบ้านแนวราบและสูงนำออกมาขายแข่งกับ บ้านมือหนึ่งมากขึ้น" อธิป กล่าว

ในส่วนของราคาที่ดินนั้นยังคงมี แนวโน้มปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในเมืองตามแนวรถไฟฟ้า ขณะที่ภาษีที่ดินจะผลักดันให้ที่ดินในต่างจังหวัด โดยเฉพาะทำเลที่ไม่เป็นที่ต้องการออกมาขายมากขึ้น ส่วนราคาบ้านในปี 2562 ยังคงปรับขึ้นซึ่งคอนโดมีแนวโน้มปรับขึ้น สูงตามต้นทุนที่ดินโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าที่ปกติจะปรับขึ้นปีละ 10% ซึ่งจะทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้นราว 5% ส่วนบ้านจัดสรรคาดว่าจะปรับขึ้นราว 3%

ด้านกำลังซื้อจากต่างชาติยังมีต่อเนื่องแม้กลุ่มจีนอาจลดลงบ้างแต่ยังคงซื้อ ต่อเนื่องเพราะราคาถูกกว่าหลายประเทศในอาเซียนทำให้อสังหาฯ ไทยเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ซึ่งไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยยังมีอสังหาฯ ประเภทอื่นๆ อีกด้วย อย่างไรก็ดีคาดว่าตลาดอสังหาฯ โดยรวมโตไม่เกิน 10% ขณะที่ตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโตไม่ต่ำกว่า 5%

อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ราคาที่ดินยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้น โดยเฉพาะทำเลที่ติดกับรถไฟฟ้าหรือโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งพื้นที่ตามโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แม้ราคาที่ดินจะปรับไปมากแล้วก่อนหน้านี้แต่เชื่อว่า ราคาในปีหน้ายังปรับตัวสูงขึ้นอีกแต่จะไม่มาก ขณะเดียวกันเมกะโปรเจกต์เหล่านี้จะเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้อุปทานกระจายออกไปยังพื้นที่ชานเมือง ปริมณฑล และจังหวัดทางภาคตะวันออกมากขึ้นด้วย

ขณะที่เรื่องของราคาวัสดุก่อสร้าง ที่คาดว่าจะมีการปรับราคาปูนซีเมนต์อีก 4-5% จากปีนี้ที่มีการปรับขึ้นไปแล้วราว 5% ทำให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อรวมกับค่าพัฒนาที่ดินจะทำให้ที่อยู่อาศัยปีหน้ามีการปรับขึ้นประมาณ 3-5% ซึ่ง ผู้ประกอบการจึงมีความระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่

ด้านผู้บริโภคหรือผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยนั้น ต้องมีการเตรียมตัวรับมือมาตรการแบงก์ชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ที่ ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป และที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยต้องวางเงินดาวน์ขั้นต่ำ 10-30% และอาจกู้ไม่ได้เต็ม 100% ซึ่ง ผู้ประกอบการจะเป็นตัวแปรสำคัญโดยจะปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและการขายเพื่อให้ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ เข้าถึงได้ง่าย

กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า มาตรการแบงก์ชาติจะทำให้ตลาดอสังหาฯ เติบโตมากในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2561 จนถึงไตรมาสแรก ของปี 2562 แต่หลังจากวันที่ 1 เม.ย. 2562 ตลาดอาจชะลอตัวจากผลกระทบดังกล่าวโดยเฉพาะผู้ที่ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไป และ ที่อยู่อาศัยที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาท ขึ้นไป

ทั้งนี้เห็นว่าด้วยมาตรการดังกล่าวคาดว่าผู้ประกอบการจะยังคงพัฒนาโครงการในตลาดระดับกลางและบนราคาตั้งแต่ 8 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนตลาดราคาต่ำกว่า 8 ล้านบาท คาดว่ายังไม่ฟื้นตัวและยังมีภาวะหนี้ครัวเรือนที่แม้จะลดลงแต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้ประกอบการจะเลือกพัฒนาโครงการในพื้นที่ที่มีอุปสงค์สูงทำเลศักยภาพใหม่ เช่น โซนนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ อาทิ ห้วยขวาง ราชเทวี จตุจักร บางซื่อและประเวศ ถือเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคในปัจจุบัน

นอกจากนั้นจะหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากกว่าแนวสูงซึ่งเป็นกลุ่ม เรียลดีมานด์มากกว่าซื้อเพื่อเก็งกำไร ภายใต้นโยบายของสถาบันการเงินที่มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเห็นการแข่งขันของสถาบันในการปล่อยกู้มากขึ้นเช่นกัน

สำหรับเทรนด์ด้านที่อยู่อาศัยในปี 2562 นั้น การพัฒนาสินค้าจะมีการปรับให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ กลุ่มคนรักสุขภาพ เป็นต้น โดยอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดจะแข่งขันกันด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ นอกจากนี้โครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสพื้นที่ใจกลางเมืองจะมีมากขึ้นเพราะราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ผู้ประกอบการจะทำสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องของตลาดขณะเดียวกันเพื่อเป็นการสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวอีกด้วย

นอกจากนี้สิ่งที่ยังคงได้เห็นในธุรกิจอสังหาฯ คือความร่วมมือระหว่างดีเวลอปเปอร์ไทยและนักลงทุนต่างชาติไม่ว่าจะเป็นจีนหรือญี่ปุ่น หรือดีเวลอปเปอร์ไทยกับนักธุรกิจอื่นที่สนใจลงทุนด้านอสังหาฯ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการ โดยนำจุดแข็งของแต่ละบริษัทมาช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการและเป็นการลดความเสี่ยง ในการดำเนินธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2562 คาดการณ์ว่าจะเติบโตแบบลดลงจากนานา ปัจจัยซึ่งบรรดาดีเวลอปเปอร์ต้องติดตามสถานะการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อพร้อมปรับตัว และรับมือท่ามกลางความท้าทายทั้งในและนอกประเทศ

โดย อรวรรณ จารุวัฒนะถาวร

Source: Posttoday

 

Wudhichai Maitreesophone


สงครามซีเรีย ชักจะสนุกขึ้นแล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ กลาโหมซีเรีย ออกคำสั่งให้ กรมทหารราบยานเกราะเบาที่ 106 จาก กองพล Republican Guard ยกกำลังขึ้นไปตั้งรอการบุกของตุรกีที่นอกเมือง Manbij ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Kilis (Kilis อยู่ในฝั่งตุรกี) กรมทหารราบยานเกราะเบาที่ 106 อยู่ที่ตำแหน่งนี้ สามารถป้องกันเมือง Manbij ร่วมกับเคิร์ด SDF ก็น่าจะเพียงพอรับมือกับทหารตุรกีได้ นอกจากนั้นยังสามารถตีโอบเข้าด้านหลังทหารตุรกีที่จะบุกด้านเมือง Kilis ที่กองพลที่ 1 ได้ขยับเข้าที่ตั้งนอกเมือง Aleppo รอรับมืออยู่แล้ว


ดีไม่ดี ทหารซีเรียอาจจับเป็นทหารตุรกีทีละยกกองพันเลยก็เป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมา ทหารตุรกียังไม่เคยปล่อยฝีมือให้เห็นว่ายอดเยี่ยม ดีแต่เพียงใช้กำลังผู้ก่อการร้ายเข้าทำการรบแทนมาตลอด แต่ทหารซีเรีย แต่ละกรม เขามีฝีมือระดับเทพกันทั้งนั้น


บันทึกไว้ก่อนว่า

กองพลทหารราบที่ 1 ตั้งทัพรอการบุกของทหารตุรกีอยู่ที่นอกเมือง Aleppo ทางตรงจาก Kilis ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 214


ส่วนกรมทหารราบยานเกราะเบา Republican Guard ที่ 106 ตั้งทัพรอการบุกของทหารตุรกีอยู่นอกเมือง Manbij


ทั้ง 2 กองกำลังตั้งอยู่ในระดับเดียวกัน หันหน้าเข้าหาชายแดนตุรกีเหมือนกัน ทั้งสองกองกำลังตั้งอยู่ห่างกัน 90.40 กิโลเมตร มีทางหลวงแผ่นดินสาย M4 สามารถส่งกำลังบำรุงระหว่างกันได้ ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงกับ 48 นาที

 

La nueva era de la tierra - respaldo





ผู้คนออกไปที่ถนนใน caracas เวเนซุเอลา หลังจากแผ่นดินไหว...

27.12.2018

 

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



แผ่นดินไหวแรงที่เขย่า เวเนซุเอลา เช้านี้

 

Clima Extremo 24


เวเนซุเอลา



แผ่นดินไหว m5. 6 เขย่า caracas เวเนซุเอลาเช้านี้ ผู้คนแสดงความรู้สึกด้วยความตกใจและออกไปที่ถนน ผ่าน emsc-csem

 

Clima Extremo 24


อินโดนีเซีย



การระเบิดใหม่ของภูเขาไฟ krakatau ถูกรายงานในตอนเช้าวันนี้ 27 ธ. ค. ใน indoensia ค่ะ


ศูนย์กลางของภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและบรรเทา (pvmbg) เพิ่มการแจ้งเตือนสำหรับ ภูเขาไฟ anak krakatau การแจ้งเตือนสีแดงที่ระดับ iii ทุกเที่ยวบินเบี่ยงจากภูเขาไฟ

 

Clima Extremo 24


บราซิล



ภาพน้ำท่วมฉับพลัน ในเมือง david canabarro ในภาคเหนือของรัฐ ฝนที่รุนแรงเป็นพิเศษ ในช่วงสั้นๆที่ทำให้เกิดน้ำท่วม

 

โพสต์ทูเดย์


กรุ๊ปทัวร์เวียดนาม 152 คนเที่ยวไต้หวัน โดดหนีทัวร์ ทิ้งไกด์คนเดียว

 

Wudhichai Maitreesophone


กองพลที่ 1 ของกองทัพซีเรีย ที่ฝังตัวอยู่ด้านเหนือของ Aleppo ขยับตัวแล้ว ถ้าตุรกีล้ำเข้ามา คงได้ฟัดกันแน่นอน

 

Wudhichai Maitreesophone



อันตรายรุกเข้ามาใกล้ซีเรียมากๆ แล้ว ไม่ใช่เฉพาะชาวเคิร์ดเสียแล้วหละครับเพื่อนๆ..


ตุรกีสะสมกำลังรถถังจำนวนมากที่เมือง Kilis เซมิ-เทรเลอร์ขนส่งรถถังเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้ยังไม่ยุติ


เมือง Kilis ในฝั่งตุรกี อยู่นอกพื้นที่ชาวเคิร์ด และห่างจากเมือง Aleppo ของซีเรียเพียง 66 กิโลเมตร จากชายแดนตุรกีเข้ามา Aleppo ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 214 ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมง 29 นาที เท่านั้น และจาก Aleppo สามารถลงมายัง Idlib จังหวัดที่รัฐบาลซีเรียปล่อยผู้ก่อการร้าย ทั้งลูกน้องตุรกี และลูกน้องซาอุดิอาระเบียไว้เต็มพิกัด ถ้าตุรกีรุกเข้ามาถึง Idlib และเติมทุน และอาวุธให้แก่ผู้ก่อการร้ายใน Idlib ได้ สงครามซีเรียก็จะยืดเยื้อต่อไป แม้ว่าสหรัฐจะถอนกำลังออกไปแล้ว ก็ตามที


ปัญหาหลักของทหารรัฐบาลซีเรียตอนนี้คือ หน่วยรบหลักอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส เพื่อช่วงชิงบ่อน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติคืนจากชาวเคิร์ด ที่สหรัฐสนับสนุน และบางส่วนยังอยู่ในความยึดครองของผู้ก่อการร้าย ISIS และตุรกีก็มีเป้าหมายที่จะเข้าตีชาวเคิร์ด และแย่งชิงการยึดครองบ่อน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ


แต่กองทัพรัฐบาลซีเรีย ยังมีกรมทหารม้ายานเกราะที่ 42 ของกองพลที่ 4 ภายใต้การบังคับบัญชาของ Maher Al-Assad น้องชายประธานาธิบดี อัล อัสซาด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ที่ด้านะวันออกของ Idlib ที่ Abu Al-Duhur Military Airbase แม้จะถูกเรียกหน่วยว่าเป็นระดับกรม แต่ในความเป็นจริง กำลังพล และรถถังมีจำนวนเท่ากับกองพลไปแล้ว


เราต้องเฝ้าดูคำสั่งจากกลาโหมซีเรียคืนนี้ ซึ่งน่าจะต้องมีคำสั่งให้กรมทหารม้ายานเกราะที่ 42 ขยับขึ้นไปตั้งรับกองทัพตุรกีที่นอกเมือง Aleppo ของตุรกีจะเป็นรถถังที่ผลิตเอง และรถถังเก่าอายุเท่าๆ กับของกองทัพบกของเราคือส่วนใหญ่จะเป็น M-60A แต่ของ Maher Al-Assad เป็นรถถังT-72 และ T-90 ของรัสเซียทั้งสิ้น ที่ยังไม่ได้เปิดเผยก็ 2 ลำเรือหลังสุด ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นรถถังรุ่นไหน นอกจากนั้น กรมทหารม้ายานเกราะที่ 42 ยังมีเฮลิคอปเตอร์ล่ารถถัง Mil MI-24 อยู่ในครอบครองอีกด้วย

 

ห่วยตูน


นายนิชิคิดะ และนายทสึจิ ได้ถูกฟ้องในข้อหาสมคบคิดกับนายซาโตะชิ อูชิดะ วัย 64 ปี ซึ่งขณะนั้นเป็นอดีตผู้จัดการโครงการโรงไฟฟ้า ได้แอบให้สินบนก้อนโต 11 ล้านบาท แก่ #เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่ง ของ #กรมเจ้าท่า สังกัดกระทรวงคมนาคมของไทย หลังจากเจ้าหน้าที่ทางการไทยหลายคนได้บอกกับพวกตนว่าการขนถ่ายสินค้าของบริษัทมิตซูบิชิ ฮิตาชิ เพาเวอร์ ไม่ได้มาตรฐานตรงตามเงื่อนไขที่จำเป็น

.

อธิบดีกรมเจ้าท่าจ่อฟันขรก.รับสินบนญี่ปุ่นทุจริตโรงไฟฟ้าขนอม

.

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยว่าความคืบหน้าการสอบสวนคดีทุจริตและละเลยปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการกรมเจ้าท่าในกรณีโรงไฟฟ้าขนอมนั้นได้ดำเนินการเก็บข้อมูลและหลักฐานมาอย่างต่อเนี่อง จน #ปัจจุบันรู้ตัวแล้ว ว่ามีกลุ่มพนักงานที่กระทำผิดดังกล่าวเป็นใครบ้างเพราะมีหลักฐานมัดตัวไว้ทั้งหมดตั้งแต่ช่วงเวลาที่กระทำผิดและรายชื่อโดยละเอียด

.

https://www.posttoday.com/economy/575109

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 27) ดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 250 จุด เหตุนักลงทุนยังวิตกเศรษฐกิจ-การเมืองสหรัฐ - ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเกือบ 250 จุดในช่วงเปิดตลาดวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตชัตดาวน์


ณ เวลา 21:32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,629.06 จุด ลดลง 249.39 จุด หรือ 1.09%

หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนของสหรัฐยังคงปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรืออยู่ในภาวะชัตดาวน์ และมีความเป็นไปได้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค.ปีหน้า เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก


ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศอิรักเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสเมื่อวานนี้ว่า "ผมจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพื่อให้ได้มาซึ่งงบประมาณในการสร้างกำแพง เพื่อความปลอดภัยบริเวณชายแดนของเรา"


ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลต่อกรณีที่ปธน.ทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางหรัฐ (เฟด) และมีข่าวลือว่าต้องการปลดนายพาวเวลออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า


อย่างไรก็ดี นายเควิน แฮสเซทท์ ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รวมถึงนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีความเสี่ยงจะถูกปลดจากตำแหน่ง


สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ประกอบด้วย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย.


ส่วนข่าวอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อการซื้อขายขณะนี้ เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ว่า จีนและสหรัฐอเมริกามีแผนที่จะเจรจาการค้าต่อหน้าในเดือนม.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน


นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีการติดต่อทางโทรศัพท์มาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้ฝั่งสหรัฐเพิ่งเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสไป โดยการเจรจาทางโทรศัพท์นั้นเป็นไปได้ด้วยดี


อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ออกมายืนยันชัดเจนเกี่ยวกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่จากฝั่งสหรัฐเตรียมเยือนจีนเพื่อเจรจาการค้าในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า


ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปเยือนจีนในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน


Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์


- Wall St falls more than 2 percent after consumer confidence data : https://www.reuters.com/article/us-...-after-consumer-confidence-data-idUSKCN1OQ0WR

 

MGROnline Live


ทรัมป์ประกาศยุติบทบาทสหรัฐฯในฐานะ'ตำรวจโลก'!!


https://mgronline.com/around/detail/9610000128698


#MGRonline #ทรัมป์ #สหรัฐฯ #ตำรวจโลก