ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students

(Dec 27) หุ้นดาวโจนส์ดีดตัวสูงสุดเป็นสถิติใหม่กว่า 1,000 จุดในวันพุธ: ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ดีดตัวสูงขึ้นในการซื้อขายวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 จุด ถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ชดเชยส่วนที่ร่วงลงไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

หุ้นของบริษัทเทคโนโลยี อิเทอร์เน็ต ร้านค้าปลีก และบริษัทด้านสุขภาพ พุ่งสูงขึ้นในวันพุธ เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นในระดับที่เป็นสถิติใหม่ในรอบสองปีของการเพิ่มขึ้นภายในหนึ่งวััน


ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การที่ดัชนีต่างๆ ดีดตัวสูงขึ้นมากวนวันนี้ คือปฏิกิริยาตอบสนองต่อแรงเทขายในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งคำถามสำคัญคือตลาดหุ้นจะสามารถรักษาโมเมนตัมนี้ต่อไปได้จนถึงสิ้นปีหรือไม่


โดยวันนี้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 5% หรือ 1,086 จุด ปิดที่ 22,878 จุด, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5% ปิดที่ 2,467จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.8% หรือr 361 จุด ปิดที่ 6,554 จุด


ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ออกมาตำหนิการทำงานของนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed


อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต่างออกมารับรองว่า ตำแหน่งของนายพาวเวลล์ ยังคงปลอดภัย ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เองได้เปลี่ยนท่าทีเมื่อวานนี้ โดยบอกว่ามาตรการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นั้น มีขึ้นเพื่อความปลอดภัยของตลาด


ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เชื่อว่า การปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ บางสว่น ที่ดำเนินมาถึงวันที่ 5 แล้วนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากนัก


Source: VOA Thai


- Dow notches record point surge in dramatic rebound: https://www.reuters.com/article/us-...point-surge-in-dramatic-rebound-idUSKCN1OP0RP

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 26) อวสานชาวสวน รู้จักหุ่นยนต์เก็บพริกหวาน ใช้เวลา 24 วินาทีต่อ 1 ผล ทำงานได้ 20 ชม./วัน : การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเกษตรเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นมากขึ้น ล่าสุด ลองทำความรู้จักกับหุ่นยนต์เก็บพริกหวานที่สามารถแยกแยะความสุกของผลได้ แม้ระบบจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ในอนาคตจะมาทดแทนแรงงานคนได้มาก


รู้จัก Sweeper หุ่นยนต์เก็บพริกหวาน ไม่ต้องพึ่งแรงงานคน

Sweeper (สวีพเปอร์) คือชื่อของหุ่นยนต์เก็บพริกหวานรุ่นทดลอง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการพัฒนานวัตกรรม Horizon 2020 จากสหภาพยุโรป (European Union) และประเทศอิสราเอล


จากข้อมูล ระบุว่า Sweeper สามารถเก็บพริกหวานได้ 1 ผล โดยใช้เวลาเพียง 24 วินาทีเท่านั้น โดยใน 1 วันสามารถทำงานได้ถึง 20 ชั่วโมง แม้จะเป็นช่วงกลางคืนก็ทำงานได้ เพราะระบบถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานแทนมนุษย์อยู่แล้ว


การทำงานเบื้องต้นของหุ่นยนต์ Sweeper มีดังนี้


- ด้านหน้าเครื่องที่ใช้สำหรับเก็บผล จะมีกล้องติดอยู่พร้อมกับไฟ LED ทำให้หุ่นยนต์สามารถแยกแยะประเภทของพริกหวานได้ว่าผลนี้ “สุก” หรือ “ไม่สุก” พร้อมต่อการเก็บเกี่ยวหรือไม่

- หากหุ่นยนต์พบว่าผลนี้สุกแล้ว ก็จะสั่งการให้ใบมีดขนาดเล็กออกมาตัดก้านของพริกหวาน แต่พริกหวานจะไม่ตกพื้น เพราะหุ่นยนต์ตัวนี้มี “กรงเล็บ” รอรับ หลังจากนั้นจึงค่อยนำผลพริกหวานที่ได้ลงใส่ตะกร้า


สิ่งที่น่าเป็นกังวลในปัจจุบันคือ Sweeper ยังเป็นรุ่นทดลอง และจุดอ่อนที่เห็นได้ชัด คือความแม่นยำในการคาดคะเนความสุกของพริกหวานเพื่อเก็บเกี่ยวที่ 61% เท่านั้น แน่นอนว่ายังจำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนาระบบอีกสักระยะ


หุ่นยนต์กับการเกษตร ไม่ใช่เรื่องใหม่

นอกจาก Sweeper หุ่นยนต์เก็บพริกหวานที่ได้เห็นจากข่าวนี้แล้ว ก่อนหน้านี้กระแสหุ่นยนต์ที่ถูกนำมาใช้ทางการเกษตรมีให้เห็นอยู่เสมอ เช่น หุ่นยนต์เก็บสตรอเบอร์รี่ หุ่นยนต์เก็บมะเขือเทศ หรือหุ่นยนต์เก็บฝ้าย ฯลฯ


แต่ถึงที่สุดแล้ว หุ่นยนต์ทางการเกษตรเหล่านี้คือการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อทดแทนแรงงานมนุษย์ อย่างในแคลิฟอร์เนีย มีผลสำรวจในปี 2017 ว่า จำนวนเกษตรกรลดลงไปถึง 55% การนำเอาหุ่นยนต์มาทดแทนแรงงานคนจึงเป็นหน่ึงในทางออกที่มีประสิทธิภาพ


นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยทางการตลาดคาดการณ์ว่า ตลาดหุ่นยนต์เพื่อการเกษตร (agricultural robots market) จะมีมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025


สำหรับหุ่นยนต์ Sweeper ผู้ผลิตบอกว่า คงต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีก 3-5 ปี น่าจะได้เห็นการนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์


โดย Thongchai Cholsiripong


Source: Brandinside.asia

https://brandinside.asia/robot-pick-sweet-pepper-in-24-seconds/

 

ข่าวต่างประเทศ


ปัญหางูกินหาง เมื่อสองเกาหลีอยากเชื่อมต่อกันแต่ติดเงื่อนไขการ Saction ของ UN และ สหรัฐอเมริกาต่อโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ


ในพิธีปักป้ายเพื่อเริ่มโครงการเชื่อมโยงทางรถไฟที่สร้างแล้วแต่ไม่ได้ใช้งานของเกาหลีจากทั้งสองฝั่ง ทางการเกาหลีใต้บอกว่า วัสดุการก่อนสร้างและเงินทุนไม่สามารถนำมาใช้ในโครงการนี้ได้เพราะขัดต่อกฏการ Sanction ทำให้ความคืบหน้าในการสานสัมพันธ์สองเกาหลีไปต่อไม่ได้


แต่ อเมริกาบอกว่าให้ยกเลิกนิวเคลียร์ให้ชัดเจน ถึงจะยกเลิก Saction ให้ ในขณะที่ประธานาธิบดีคิมจองอูน ก็อยากเดินหน้าและบอกว่า ยกเลิก Sanction ให้ก่อน แล้วจะยกเลิกโครงการนิวเคลียร์


Reuter รายงาน

 

ระอุหนัก! จีนเอาผิดพลเมืองแคนาดาอีกรายในข้อหา ‘ขนยาเสพติด’ เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 14:04 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - พลเมืองแคนาดารายหนึ่งถูกจับกุมฐานลักลอบขนยาเสพติดในจีน และจะถูกนำตัวไปขึ้นศาลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในวันเสาร์นี้ (29 ธ.ค.) ท่ามกลางวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศหลังจากผู้บริหาร ‘หัวเว่ย’ ถูกทางการแคนาดาจับกุมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

ศาลสูงประชาชนจีนในมณฑลเหลียวหนิงระบุวานนี้ (26) ว่า ผู้ต้องหาชาวแคนาดารายล่าสุดมีชื่อว่า โรเบิร์ต ลอยด์ เชลเลนเบิร์ก (Robert Lloyd Schellenberg) ซึ่งเตรียมจะอุทธรณ์คดีลักลอบขนยาเสพติดในเวลา 14.00 น. ของวันเสาร์ (29) แต่ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมไปกว่านี้

เว็บไซต์ข่าวของรัฐบาลจีน runsky.com ระบุว่า เชลเลนเบิร์ก ซึ่งเป็นชาวแคนาดาได้ลักลอบขนยาเสพติด ‘ล็อตใหญ่’ เข้ามาในแดนมังกร ซึ่งปัจจุบันนี้จีนยังคงมีโทษประหารชีวิตสำหรับผู้ที่ก่อคดียาเสพติด

ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศแคนาดายังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งและออตตาวาเริ่มตึงเครียดหนักนับตั้งแต่จีนจับกุมพลเมืองแคนาดา 2 คน คือ ไมเคิล โควริก (Michael Kovrig) อดีตนักการทูต และ ไมเคิล สปาวอร์ (Michael Spavor) ซึ่งเป็นนักธุรกิจแคนาดาในจีน โดยทั้งสองคนถูกตั้งข้อหา “ทำกิจกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ”

โควริก เป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับสถาบัน อินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ส่วน สปาวอร์ เป็นหัวหน้าองค์กรแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมแพ็กตู (Paektu Cultural Exchange) ซึ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว การค้า และการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลีเหนือกับหน่วยงานระหว่างประเทศ ธุรกิจ และบุคคล รวมถึงการเดินทางไปเยือนเปียงยางของ เดนนิส ร็อดแมน อดีตนักบาสเอ็นบีเอซึ่งกลายเป็นสหายคนสนิทของผู้นำคิม จองอึน

หลายฝ่ายเชื่อว่า จีนจงใจจับกุมชาวแคนาดาทั้ง 2 คนเพื่อแก้แค้นกรณี เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ ‘หัวเว่ย’ ถูกจับกุมที่เมืองแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. แม้ว่าปักกิ่งจะไม่ยืนยันถึงความเชื่อมโยงก็ตาม

เมิ่ง ถูกตำรวจแคนาดาจับกุมตามคำขอของสหรัฐฯ ซึ่งกล่าวหาว่าเธอละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

ทางการจีนยังได้จับกุมหญิงชาวแคนาดาอีกคนคือ ซาราห์ แม็กไอเวอร์ (Sarah McIver) ในข้อหาลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย

https://mgronline.com/around/detail/9610000128503

 

ยูเครนยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้หลังรัสเซียยึดเรือกองทัพ เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 01:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - เปโตร โปโรเชนโก ประธานาธิบดียูเครนในวันพุธ(26ธ.ค.) แถลงยกเลิกกฎอัยการศึกในพื้นที่ต่างๆตามแนวชายแดนของประเทศ ซึ่งประกาศใช้เมื่อเดือนที่แล้ว หลังรัสเซียหยุดเรือของกองทัพเรือเคียฟ 3 ลำในทะเลอาซอฟ

"วันนี้ ตอนนี้ ณ เวลา 14.00น.(ตรงกับเมืองไทย 19.00น.) กฎอัยการศึกสิ้นสุดแล้ว นี่คือการตัดสินใจของผม" โปโรเชนโกกล่วระหว่างประชุมกับเหล่าผู้บัญชาการกองทัพในกรุงเคียฟ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางออนไลน์

ประธานาธิบดีรายนี้เผยว่าเขาบรรลุการตัดสินใจบนพื้นฐานของการวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆในด้านสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศ"

ความเคลื่อนไหวประกาศกฎอัยการศึกมีขึ้น หลังจากโปโรเชนโกเตือนว่ารัสเซียได้เสริมกำลังทหารใกล้ชายแดนยูเครน กระพือสถานการณ์ลุกลามบานปลายเข้าสู่วิกฤตที่อันตรายที่สุดในรอบหลายปีระหว่างสองชาติเพื่อนบ้านอดีตสหภาพโซเวียต

วิกฤตดังกล่าวปะทุขึ้นเมื่อเรือตรวจการณ์ของกองกำลังป้องกันชายแดนรัสเซีย ได้เข้ายิงเข้าใส่และยึดเรือ 3 ลำของกองทัพเรือยูเครน ซึ่งประกอบด้วยเรือหุ้มเกราะติดปืนใหญ่ลำเล็กๆ 2 ลำ และเรือลากจูง 1 ลำ รวมถึงจับลูกเรือ 24 คน ในทะเลดำเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน

รัสเซียแจงว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จำเป็นต้องใช้อาวุธ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากเรือยูเครนเหล่านั้นรุกล้ำน่านน้ำและเพิกเฉยต่อคำเตือนให้หยุดแถมยังเคลื่อนที่อย่างอันตราย

อย่างไรก็ตามเหล่ารัฐบาลชาติตะวันตกกล่าวหารัสเซียดำเนินการผิดกฎหมายและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ยกเลิกการประชุมร่วมกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ณ เวทีประชุมซัมมิตจี 20 ที่บัวเนสไอเรส ตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าว

"ภายใต้การสนับสนุนและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมจากพันธมิตรนานาชาติของเราในการกดดันเครมลิน ประกอบกับกฎอัยการศึก ได้หยุดยั้งสถานการณ์เลวร้ายที่สหพันธรัฐรัสเซียวางแผนเอาไว้" โปโรเชนโกกล่าว "พวกเขาไม่ปล่อยให้ปูตินข้ามเส้นตายใหม่" เขากล่าว

กฎอัยการศึกบังคับใช้ใน 10 แคว้น ในนั้นรวมถึงพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากมอสโก ทางภาคตะวันออกของประเทศ และชายฝั่งทะเลอาซอฟ

https://mgronline.com/around/detail/9610000128350

 

เป็นวิธีเดียวที่เงินถึงประชาชนในระดับล่างๆ ได้ดีที่สุด

ฮือฮามาเลฯก็แจก!! “มหาเธร์” จะกลับมาแจกเงินคนจนหลังปีใหม่ ได้เห็นๆล็อตแรกครอบครัวละ 2,000 บาท
เผยแพร่: 26 ธ.ค. 2561 21:54 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - รัฐมนตรีการคลังมาเลเซียแถลงวันนี้(26 ธ.ค)ว่า กัวลาลัมเปอร์จะเริ่มต้นแจกเงินช่วยคนจนอีกครั้งในวันที่ 28 มกราคม 2019 หลังจากที่หยุดไปในชุดรัฐบาลดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ชี้เป็นเงินช่วยเหลือแก้ปัญหาปากท้องครอบครัวรายได้น้อย เชื่อจะมีถึง 4.1 ล้านครัวเรือนได้รับอานิสงค์ โดยในงวดแรกของการจ่ายจะได้ครอบครัวละ 300 ริงกิตมาเลเซีย หรือราว 2,340.97 บาท

แชเนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานวันนี้(26 ธ.ค)ว่า ทั้งนี้พบว่าโครงการแจกเงินคนจนของกระทรวงการคลังภายใต้รัฐบาลมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด นั้นมีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับโครงการที่เกิดขึ้นในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค

ในวันพุธ(26)ลิม กวนเอ็ง (Lim Guan Eng) รัฐมนตรีคลังมาเลเซียแถลงว่า ภายใต้โครงการสนับสนุนค่าครองชีพ BSH ของมหาเธร์ จะสามารถเริ่มแจกจริงได้ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2019 และคาดว่าจะมีครอบครัวรายได้น้อยจำนวน 4.1 ล้านครอบครัวที่จะเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลคาดว่าต้องใช้เงินทั้งหมด 1.2 พันล้านริงกิตมาเลเซีย

โดยในการจ่ายงวดแรกในวันที่ 28 มกราคม 2019 ทางกัวลาลัมเปอร์จะจ่ายให้ก่อนครอบครัวละ 300 ริงกิตมาเลเซีย หรือราว 2,340.97 บาท

สื่อสิงคโปร์ชี้ว่า นโยบายแจกเงินคนจนนั้นเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลอดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ภายใต้ชื่อโครงการเงินช่วยเหลือเฟิร์สต์มาเลเซียพีเพิล BR1M (the 1Malaysia People’s Aid) แต่หยุดไปหลังจากรัฐบาลพรรคปากาตัน ฮาราปัน(Pakatan Harapan)ของมหาเธร์เข้ามาบริหาร

ลิมกล่าวว่า “เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรงของพวกเขา”

ซึ่งภายใต้กฎเกณใหม่พบว่า ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 2,000 ริงกิตมาเลเซีย (15,606.48 บาท) จะได้รับ 1,000 ริงกิตมาเลเซีย (7,803.24 บาท) ในปีหน้า

ส่วนครอบครัวที่มีรายได้ระหว่าง 2,001 - 3,000 ริงกิตมาเลเซีย (15,614.28 - 23,398.95 บาท) จะได้รับ 750 ริงกิตมาเลเซีย (5,849.73 บาท) และครอบครัวที่มีรายได้ระหว่าง 3,001 - 4,000 ริงกิตมาเลเซีย (23,406.75 – 31,198.60 บาท)จะได้รับ 500 ริงกิตมาเลย์เซีย (3,899.82 บาท )ตามลำดับ

ซึ่งการจ่ายครั้งแรกจะใช้ตามฐานข้อมูลเก่าของโครงการ BR1M ของนาจิบ ลิมชี้พร้อมยอมรับว่า แต่หมายความว่า กลุ่มคนที่หากถูกจัดเข้าตามเงื่อนไขใหม่ของโครงการสนับสนุนค่าครองชีพ BSHอาจไม่เข้าข่าย แต่ในกรณีการจ่ายงวดแรกจะได้รับเงินด้วยเช่นกัน

ลิมชี้แจงว่า กฎเกณใหม่จะใช้ในการจ่ายงวดที่ 2 และงวดที่ 3 ของปี 2019

แชเนลนิวส์เอเชียชี้ว่า โครงการแจกเงินคนจนเริ่มครั้งแรกในปี 2012 โดยกลุ่มเครือเรือนรายไม่ถึง 3,000 ริงกิตมาเลเซีย (23,398.95 บาท)จะได้รับเงินช่วยเหลือปีละ 1,200 ริงกิตมาเลเซีย(9,359.58 บาท) ต่อปี

ส่วนกลุ่มครัวเรือนรายได้ต่อเดือนระหว่าง 3,000 - 4,000 ริงกิตมาเลย์เซีย (23,398.95 -31,198.60 บาท)จะได้รับ 900 ริงกิตมาเลเซีย (7,019.68 บาท) ต่อปี

และนอกเหนือจากนี้ ใครก็ตามที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,000 ริงกิตมาเลเซีย(15,606.48 บาท) จะได้รับ 450 ริงกิตมาเลเซีย (3,509.84 บาท) เป็นต้น

สื่อสิงคโปร์รายงานว่า ก่อนหน้ามหาเธร์เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์โครงการแจกเงินคนจนของนาจิบว่า “เป็นการสปอยคนจน”พร้อมชี้ว่า นโยบายประเภทนี้ทำให้พลเมืองแดนเสือเหลืองต้องแบมือพึ่งรัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ตลอดไป

“นาจิบให้ท้ายคนเหล่านี้โดยทำให้พวกเขาคิดไปว่า รัฐบาลจะยังคงให้เงินแก่พวกเขาถึงแม้ว่าจะไม่ทำงานก็ตาม” มหาเธร์กล่าวเมื่อเดือนสิงหาคมล่าสุด อ้างอิงการรายงานจากสื่อมาเลเซีย์ เดอะสตาร์

ทั้งนี้ในการสำรวจเมื่อปี 2017 ของสถาบันการวิิจัยและจัดการความยากจน InsPe (the Institute for Poverty Research and Management) ของมหาวิทยาลัยมาเลเซีัยกลันตัน(Universiti Malaysia Kelantan) จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 3,000 คนจาก 10 เขตของรัฐกลันตัน พบว่า คนจนที่เข้าร่วมโครงการแจกเงินคนจนของนาจิบยอมรับว่า ได้ใช้เงินที่ได้ไปซื้อของใช้ความจำในการเป็นดำรงชีพ โดยเฉพาะอาหาร อ้างอิงจากสื่อเดอะมาเลเซียนอินไซต์ (themalaysianinsight)ที่รายงานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017

สื่อสิงคโปร์กล่าวว่า ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางมหาเธร์มีแนวคิดที่จะลดจำนวนการจ่ายตามโครงการ BR1M ของนาจิบก่อนที่จะยกเลิกไปในที่สุด แต่ทว่าในเวลาต่อมาทางรัฐบาลของมหาเธร์ได้ประกาศว่า จะทำการสานต่อด้วยโครงการสนับสนุนค่าครองชีพ BSH ของตัวเอง เพื่อทำให้แน่ใจว่าประชาชนแดนเสือเหลืองนั้นกินดีอยู่ดี และยังช่วยลดค่าครองชีพให้กับบรรดาครอบครัวรายได้น้อยอีกทาง

ซึ่งในเฟซบุ๊กของนาจิบ อดีตนายกฯได้ออกมาโต้โครงการแจกเงินคนจนของมหาเธร์ว่า “เป็นเหมือนการหันหลังกลับ 360 องศาจากรัฐบาลชุดนี้” และในการแถลง นาจิบยังชี้ว่า การกลับมาแจกอีกครั้งแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมหาเธร์ยอมรับว่า สภาวะเศรษฐกิจมาเลเซียในเวลานี้นั้นตกต่ำกว่าคิด

นอกจากนี้อดีตผู้นำจากพรรคอัมโนยังกล่าวถึงจุดด้อยของโครงการว่า ภายใต้โดรงการแจกเงินคนจนของมหาเธร์ คนโสดที่ยังไม่ได้แต่งงานถูกกีดกันออกจากโครงการความช่วยเหลือ

https://mgronline.com/around/detail/9610000128326

 

รัสเซียโวยอิสราเอลละเมิดอธิปไตยซีเรีย ส่งฝูงบินรบโจมตีหวังถล่มกรุงดามัสกัส เผยแพร่: 26 ธ.ค. 2561 23:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเอฟพี - รัสเซียในวันพุธ(26ธ.ค.) โวยอิสราเอลละเมิดอธิปไตยของซีเรียด้วยการโจมตีทางอากาศหนึ่งวันก่อนหน้านี้ หลังจากอิสราเอลและดามัสกัสต่างกล่าวโทษกันและกันต่อเหตุการณ์ปรปักษ์ดังกล่าว

"เรากังวลอย่างยิ่งต่อการโจมตีและแนวทางที่พวกเขาทำ มันคือการละเมิดอธิปไตยของซีเรียอย่างร้ายแรง" กระทรวงกิจการต่างประเทศของรัสเซียระบุในถ้อยแถลง

ซีเรียระบุผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของพวกเขาสอยขีปนาวุธหลายลูกของอิสราเอลร่วงใกล้กรุงดามัสกัส ในขณะที่อิสราเอลอ้างว่าฝูงบินของพวกเขาต้องปกป้องตนเองจากกระสุนของระบบต่อต้านอากาศยาน

ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมมอสโกระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลก่ออันตรายแก่เครื่องบินโดยสาร 2 ลำ "พฤติกรรมยั่วยุของกองทัพอากาศอิสราเอล คุกคามโดยตรงต่อเครื่องบินโดยสาร 2 ลำ" อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุในถ้อยแถลง



กลุ่มควันลอยพวงพุ่งขึ้นจากภูเขาในแถบชานเมืองของกรุงดามัสกัส หลังระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย ทำการสกัดกั้นขีปนาวุธจากฝูงบินรบของอิสราเอล

โฆษกรายนี้เผยด้วยว่าการโจมตีบินมาจากทางอาณาเขตของเลบานอนและเกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินโดยสาร 2 ลำ ซึ่งไม่ได้เป็นของสายการบินรัสเซีย กำลังเตรียมลงจอดที่ท่าอากาศยานในเบรุตและดามัสกัส ส่งผลให้หนึ่งในนั้นต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของรัสเซียที่อยู่ภายในซีเรีย

เขาชี้แจงด้วยว่ามีการกำหนดข้อบังคับต่อการใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองกำลังรัฐบาลซีเรีย โดยอนุญาตให้ใช้เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมเท่านั้น

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่ามีบุคลากรทางทหารของซีเรีย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุโจมตีทางอากาศหนึ่งที่ฝูงบินรบของอิสราเอลทิ้งระเบิดลงมากว่า 16 ลูก อย่างไรก็ตามในนั้น 14 ลูกถูกทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรีย

หากอิสราเอลยืนยันว่าเป็นผู้บงการปฏิบัติการโจมตี มันจะเป็นการโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศถอนกำลังทหารอเมริกาออกจากซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พวกผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอิสราเอลจะได้รับผลกระทบใหญ่หลวงต่อการถอนทหารของสหรัฐฯ ด้วยมันจะเป็นการเปิดพื้นที่ให้แก่อิหร่านและพันธมิตรในการขยายแสนยานุภาพทางทหาร

รัสเซียเป็นพันธมิตรของดามัสกัสและเข้าแทรกแซงในสงครามการเมืองซีเรียในปี 2015 ความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเพื่อช่วยค้ำยันรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด


https://mgronline.com/around/detail/9610000128325

 

ตะวันตกสะท้าน! ปูตินประกาศก้องรัสเซียประจำการขีปนาวุธนิวเคลียร์เร็วเหนือเสียงปีหน้า (ชมคลิป)
เผยแพร่: 26 ธ.ค. 2561 21:59 ปรับปรุง: 27 ธ.ค. 2561 10:26 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในวันพุธ (26 ธ.ค.) ประกาศก้องว่ารัสเซียจะประจำการหน่วยขีปนาวุธนิวเคลียร์เร็วเหนือเสียงกองแรกของประเทศในปีหน้า ระบุความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั่นหมายความว่าเวลานี้มอสโกมีอาวุธทางยุทธศาสตร์ชนิดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปูตินพูดโอ้อวดดังกล่าว หลังจากเข้าตรวจตราสิ่งที่เครมลินเรียกว่าการทดสอบระบบขีปนาวุธใหม่ “อแวนการ์ด” ก่อนประจำการ “การทดสอบนี้เพิ่งจบลง สิ้นสุดลงพร้อมกับความสำเร็จอย่างสมบูรณ์” ปูตินบอกกับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี



ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสังเกตการณ์การทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์เร็วเหนือเสียงจากระยะไกลในอาคารหลังหนึ่งของกระทรวงกลาโหมในมอสโกในวันพุธ(26ธ.ค.)

“สำหรับปีหน้า 2019 กองทัพรัสเซียจะมีระบบยุทธศาสตร์ข้ามทวีปใหม่ อแวนการ์ด มันเป็นช่วงเวลายิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงชีวิตของกองทัพและในช่วงชีวิตของประเทศ” รัสเซียมีอาวุธทางยุทธศาสตร์ชนิดใหม่แล้ว"

รัสเซียเคยระบุว่า ระบบขีปนาวุธใหม่นี้ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธใหม่ๆที่ปูตินเคยแถลงเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม มีความโฉบเฉี่ยวสูง ดังนั้นจึงสามารถหลบหลีกระบบขีปนาวุธป้องกันตนเองได้อย่างง่ายดาย



ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสังเกตการณ์การทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์เร็วเหนือเสียงจากระยะไกลในอาคารหลังหนึ่งของกระทรวงกลาโหมในมอสโกในวันพุธ(26ธ.ค.)

ผู้นำรัสเซียสังเกตการณ์การทดสอบในวันพุธ (26 ธ.ค.) จากระยะไกลในอาคารหลังหนึ่งของกระทรวงกลาโหมในมอสโก ขณะที่เครมลินระบุในถ้อยแถลงว่า ขีปนาวุธอแวนการ์ด ถูกยิงออกจากที่มั่นหนึ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียและประสบความสำเร็จมุ่งตรงสู่และทำลายเป้าหมายหนึ่งในตะวันออกไกลของรัสเซีย

เมื่อครั้งเปิดตัวอาวุธใหม่ๆ เมื่อเดือนมีนาคม ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธอแวนการ์ด ปูตินโอ้อวดว่ามันสามารถโจมตีพื้นที่ไหนก็ได้บนโลกและสามารถหลบหลีกโล่ป้องกันขีปนาวุธที่สร้างโดยสหรัฐฯ

https://mgronline.com/around/detail/9610000128312

 

น้ำมันฟื้นแรง $4-ดาวโจนส์พุ่ง 1,000 จุดจากข้อมูลค้าปลีก ทองคำขึ้น
เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 05:29 ปรับปรุง: 27 ธ.ค. 2561 10:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - น้ำมันพุ่งแรงในวันพุธ (26 ธ.ค.) ตามแรงช้อนซื้อของนักลงทุน ส่วนวอลล์สตตรีททะยานราว 5% ท่ามกลางข้อมูลค้าปลีกที่สดใส ขณะที่ทองคำปรับขึ้นเล็กน้อย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 4.69 ปิดที่ 46.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แรงช้อนชื้อมีขึ้นหลังจากช่วงที่ผ่านมาตลาดน้ำมันดิ่งลงหนัก จากความกังวลต่อภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหัฐฯ, เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยและข้อพิพาททางการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ซึ่งล้วนซ้ำเติมข้อวิตกเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม เบอร์นาเดตต์ จอห์นสัน รองประธานฝ่ายข้อมูลตลาดของบริษัทดริลลิงอินโฟ ในเดนเวอร์ ให้ความเห็นว่า “ตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ แรงเทขายไม่ได้ส่งสัญญาณว่ามีความเชื่อมั่นในอุปสงค์ แต่มันลงหนักเร็วเกินไป เราเชื่อว่าราคาที่ระดับ $54 นั้นต่ำเกินไป”

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงบ่ายวันพุธ (26 ธ.ค.) ส่งผลให้ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 1,000 จุด จากข้อมูลค้าปลีกที่แข็งแกร่งและทำเนียบขาวรับประกันว่า เจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟดจะไม่ถูกปลดออก

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1,086.25 จุด (4.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,878.45 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 116.60 จุด (4.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,467.70 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 361.44 จุด (5.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,554.36 จุด

ข้อมูลจาก Mastercard SpendingPulse เผยให้เห็นว่ายอดขายในช่วงวันหยุดของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.1% ในฤดูกาลวันหยุดปีนี้ เป็นมากกว่า 850,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการเติบโตมากที่สุดในรอบ 6 ปีหลังสุด

นอกจากนี้แล้วตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าว เควิน ฮาสเซตต์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจทำเนียบขาว ออกมาให้คำรับประกันอนาคตของ เพาเวลล์ โดยให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่าตำแหน่งของประธานเฟดรายนี้ยังปลอดภัย “100%” ท่ามกลางรายงานข่าวของสื่อมวลชนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาปลด เพาเวลล์ ออกจากตำแหน่ง

ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (26 ธ.ค.) ปรับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนยังหันเข้าหาสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดทุน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,273.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

https://mgronline.com/around/detail/9610000128364

 

“ทรัมป์” ทำเซอร์ไพรส์ดอดเยือนอิรัก ยันตัดสินใจถูกถอนทหารพ้นซีเรีย เผยแพร่: 27 ธ.ค. 2561 03:30 ปรับปรุง: 27 ธ.ค. 2561 10:25 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพุธ (26 ธ.ค.) สร้างความประหลาดใจด้วยการเดินทางเยือนอิรักโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และใช้โอกาสนี้ปกป้องการตัดสินใจถอนทหารอเมริกาจากซีเรีย ระบุผู้คนจำนวนมากกำลังเริ่มเห็นไปในทิศทางเดียวกับเขาแล้ว

ทรัมป์ ตัดสินใจอย่างฉับพลับในประเด็นซีเรียเมื่อสัปดาห์นี้แล้ว สวนทางกับคำแนะนำจากเหล่าผู้ช่วยระดับสูงและเหล่าผู้บัญชาการทหาร ในนั้นรวมถึง เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหม ผู้ซึ่งประกาศลาออกในวันถัดมา

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่า เขาได้บอกกับคณะที่ปรึกษาว่า “ออกจากซีเรียเถอะ” แต่จากนั้นก็ถูกโน้มน้าวให้คงทหารไว้ต่อไป ก่อนสุดท้ายจึงตัดสินใจว่าจะดึงกำลังพลกลับสู่มาตุภูมิ 2,000 นาย




“ผมคิดว่ามีคนมากมายเริ่มคิดแบบเดียวกับที่ผมคิด มันถึงเวลาสำหรับเราที่ต้องเริ่มใช้สมอง” ประธานาธิบดีบอกกับผู้สื่อข่าว ณ ฐานทัพอากาศอัล อาซัด ทางตะวันตกของแบกแดด ที่เขาและเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ใช้เวลาอยู่ในสมรภูมิรบร่วมกับทหารสหรัฐฯ ราวๆ 3 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์บอกด้วยว่าสหรัฐฯ ไม่มีแผนถอนทหารออกจากอิรัก พร้อมระบุ “ในข้อเท็จจริงคือเราจะใช้อิรักเป็นฐาน หากเราต้องการทำอะไรบางอย่างในซีเรีย”

นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังบ่งชี้ด้วยว่าเขาไม่เร่งรีบแต่งตั้งรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่แทน แมตทิส ขณะที่ แมตทิส กลายเป็นรัฐมนตรีกลาโหมคนแรกในรอบหลายทศวรรษที่ลาออกจากตำแหน่งจากกรณีมีความเห็นต่างทางนโยบายกับประธานาธิบดี




ทรัมป์ ได้กล่าวถึง แพทริก ชานาแฮน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเขาเสนอชื่อนั่งเก้าอี้รักษาการแทน แมตทิส เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมว่า "อาจต้องอยู่ตรงนั้นนานหน่อย"

ประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั้งลูกพรรครีพับลิกัน, เดโมแครต และพันธมิตรนานาชาติต่อกรณีที่เขาตัดสินใจถอนทหารออกจากซีเรีย เพราะเขาเชื่อว่านักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส) ประสบความพ่ายแพ้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้เห็นแย้งวิพากษ์วิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจกัดเซาะอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคและบ่อนทำลายความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงครามกลางเมืองซีเรีย ที่ตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 8 แล้ว

https://mgronline.com/around/detail/9610000128361

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน


ทรัมป์ย่องเข้าอีรัก โดยไม่ขออนุญาติใคร

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

โดนัลด์ ทรัมป์ ย่องเข้าอีรักไปประชุมระดับแกนนำทหารของสหรัฐ 3 ชั่วโมงเต็มโดยมีการรักษาความลับระดับสุดยอด

แต่สิ่งหนึ่งที่ประกาศออกมาคือ สหรัฐจะไม่ถอนกำลังทางทหารจากอีรักโดยเด็ดขาด
อะไรในอีรักที่สหรัฐต้องการควบคุม หรือสหรัฐรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีรัก
น่าคิด.........................

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://www.rt.com/news/447473-iraq-trump-visit-meeting/

 

มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน

(ทรัมป์) อเมริกาจะจ่ายเงินให้อิสราเอล 4.5 พันล้านต่อปีต่อไป แม้ว่าจะถอนตัวจากซีเรีย
(เงินจากการบริจาคของซาอุหรือเปล่า น่าจะบอกชัดๆ)

-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

โดนัลด์ทรัมป์ได้บอกกับเบนจามินเนทันยาฮูว่า สหรัฐฯจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อความมั่นคงของอิสราเอลและไม่ควรกังวลว่าเทลอาวีฟจะสูญเสียอิทธิพลในภูมิภาคนี้หลังจากกองทหารสหรัฐถอนตัวจากซีเรีย เรายังคงสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ต่อไป

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://www.rt.com/news/447484-trump-billions-israel-aid-syria/

 

ได้เฮ!แห่เบิกเงินช่วยเหลือปาล์มตกต่ำไร่ละ1,500บาท
27 December 2018

เกษตรฯ กดปุ่มวันแรก สั่ง ธ.ก.ส.จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีชาวสวนปาล์มทั่วประะเทศ ผ่านการรับรองสิทธิ์กว่า 2 หมื่นคน กว่า 278 ล้านบาท อธิบดีกรมส่งเสริมโชว์เป้าเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1.5 แสนราย พื้นที่รวมกว่า 2 ล้านไร่ เผยมีเกษตรกรแจ้งสิทธิ์เข้าร่วมโครงการกว่า 9 หมื่นคน ชี้ใครสนใจเร่งสมัครได้ภายในวันที่ 31 ม.ค.นี้

นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังจากเป็นประธาน ในพิธีเปิดการมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรในโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ณ ห้องประชุมโรงเรียนสิเกาประชาผดุงวิทย์ อ.สิเกา จ.ตรัง เปิดเผยว่าขณะนี้มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์พร้อมรับเงินแล้วทั่วประเทศจำนวน 21,847 ราย เป็นเงินกว่า 278 ล้านบาท โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง สำหรับของ จ.ตรัง ปัจจุบัน (27 ธค 61) มีชาวสวนปาล์มที่ผ่านคุณสมบัติการตรวจสอบ จำนวน 11,901 ครัวเรือน พื้นที่ 140685.07 ไร่ มีเกษตรกรยืนยันเข้าร่วมโครงการฯ ที่พร้อมส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. จำนวน 4,463 ราย พื้นที่ 45,359.51 ไร่ ในส่วนการจัดงาน (ข้อมูล ณ 27 ธ.ค. 61)

สำหรับโครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ครม.มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการ โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 22,500 บาท วงเงินรวม 3,458 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 เดือน ตั้งแต่ ธันวาคม 2561-กันยายน 2562

ด้านนายสำราญ สาราบรรณ์อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ใน่วนที่ปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตแล้วหรือมีอายุเกิน 3 ปี มีจำนวน 150,000 ราย พื้นที่รวม 2.25 ล้านไร่ ทั้งนี้ ชาวสวนปาล์มที่จะเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องแจ้งยืนยันขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์ม กับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อน ตามคุณสมบัติ คือ เกษตรกรต้องมีสัญชาติไทยและบรรลุนิติภาวะ, เป็นหัวหน้าครัวเรือนตามทะเบียนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้, เป็นเกษตรกรที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับ ธ.ก.ส. และเป็นเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิรวมทั้งสิ้น 47 รายการตามหนังสือของกรมป่าไม้ และเป็นพื้นที่ที่ปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตแล้ว


สำหรับความคืบหน้า ขณะนี้มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มมาแจ้งขึ้นทะเบียน/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรและสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว เกษตรกร 94,103 ราย พื้นที่ 1.18 ล้านไร่ ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ คณะทำงานระดับตำบล และ ผ่านการรับรองสิทธิ์กรรมการ ระดับอำเภอ ตามขั้นตอน และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งรายชื่อเกษตรกรให้กับ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2561 จำนวนเกษตรกร 22,282 ราย* พื้นที่ 257,343.21 ไร่ ทั้งนี้สำหรับชาวสวนปาล์ม สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 31 มกราคม 2562 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน

http://www.thansettakij.com/content...zkEmFYS07lOMDGsfsdQlJaqSoOoXxxJ_NdXE3m9H776hc

 

ทลายโรงงานปุ๋ยเถื่อนยึดของกลาง110ตัน
27 December 2018

ผนึกกำลังกองปราบปราม ล้างบางราชบุรี ลุยโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์และร้านขายสารเคมี พบความผิดทั้งไม่ขึ้นทะเบียนและทะเบียนหมดอายุ ยึดของกลางอายัดไว้ 110 ตัน มูลค่ากว่า 1.6 ล้านบาท ชี้ได้รับเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่

ดร.เสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตร สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี กรมวิชาการเกษตรร่วมกับ เจ้าพนักงานตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(กก.2 บก.ปคบ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้ร่วมกันตรวจสอบ โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เอ เอ็ม พี ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี ได้ตรวจสอบที่ร้านจำหน่ายปุ๋ยในเขตอ.อัมพวา จังหวัดสมุทรสงครามพบมีการนำผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์ตราหัวใจยิ้ม ซึ่งผลิตจากโรงงานดังกล่าวเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง

จากการเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เอ เอ็ม พี พบปุ๋ยอินทรีย์ที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และกระสอบภาชนะบรรจุเปล่า ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพจำนวน 822 กระสอบ ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผงจำนวน 1,042 กระสอบ ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ดจำนวน 180 กระสอบ กระสอบพลาสติกสานเปล่า สีขาว ฉลากระบุปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผงปุ๋ยตราหัวใจยิ้ม จำนวน 525 ใบ ฉลากระบุปุ๋ยอินทรีย์ชนิดเม็ด ปุ๋ยตราหัวใจยิ้ม จำนวน 2,844 ใบ กระสอบพลาสติกสานเปล่า สีขาว ฉลากระบุปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ตราช้างแดงคู่ จำนวน 1,600 ใบ เจ้าหน้าที่ได้สุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยอินทรีย์ชนิดผง ตราหัวใจยิ้ม ผลิตจำหน่ายที่โรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เอ เอ็ม พี น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ไม่ระบุเลขทะเบียน และปริมาณธาตุอาหารรับรอง เนื่องจากปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าวมีฉลากไม่ถูกต้องตามที่พ.ร.บ.ปุ๋ย กำหนดไว้ จึงได้ตรวจยึดและอายัดไว้ทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 8 แสนบาท



อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบร้านธนาพรรณการเกษตร ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรีเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าสถานที่ดังกล่าวมีการครอบครองและจำหน่ายวัตถุอันตรายและปุ๋ยเคมีที่ทะเบียนหมดอายุและไม่มีทะเบียน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพบของกลางอยู่ในบ้านไม่มีเลขที่ ต.ดอนคลัง อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี มีวัตถุอันตรายทะเบียนหมดอายุและไม่มีทะเบียน จำนวน 11 รายการ และปุ๋ยเคมีไม่มีทะเบียน จำนวน 3 รายการ รวมทั้งหมด 14 รายการ เนื่องจากวัตถุอันตรายและปุ๋ยเคมีที่ครอบครองไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และ พ.ร.บ.ปุ๋ยที่กำหนดไว้ จึงได้ตรวจยึดและอายัดไว้ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นชนิดน้ำ 1,174 ลิตร และชนิดผง 467 กิโลกรัม รวมมูลค่าสินค้าประมาณ 8.2 แสนบาท




“สารวัตรเกษตรพร้อมตำรวจกองปราบ บก.ปคบ.ได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตปุ๋ย และร้ายขายวัตถุอันตรายไม่ขึ้นทะเบียนผิดกฏหมายทั้ง 2 แห่ง โดยได้ตรวจยึดและอายัดของกลางไว้รวมจำนวน 110 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,620,000 บาท หากผู้ใดทราบเบาะแสแหล่งที่กระทำความผิดผลิตและจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรปลอมหรือไม่มีคุณภาพหลอกขายเกษตรกร ขอให้แจ้งกลุ่มสารวัตรเกษตร กรมวิชาการเกษตร โทร.0-2940-6670” อธิบดีกล่าวในตอนท้าย

http://www.thansettakij.com/content...y3CqX0_2RuhZcH6Zley-K1wQParMR1isogz5nRQn7ulcM

 

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว เซย์เฮลโหลความเป็นจริง!! #ค่าไฟขึ้นรับปีใหม่ กกพ.มีมติเรียกเก็บอัตราค่าเอฟทีเพิ่ม ในเดือน ม.ค.-เม.ย. 62 เป็น -11.60 ต่อหน่วย (จากปัจจุบันอยู่ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย) หรือเพิ่มขึ้น 4.30 สตางค์ต่อหน่วย #ราคาเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุการปรับเพิ่มเกิดจากราคาเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง #ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ16เดือน

Source : thaiquote - https://bit.ly/2GytQKx

โดยเรื่องนี้ นส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เผยเพิ่มเติมว่า ในเดือน ม.ค.-เม.ย. 62 ประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.60 บาทต่อหน่วย และคาดว่า ราคาเชื้อเพลิงยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง #ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในอนาคตอยู่ในภาวะขาขึ้น และเพื่อให้ภาคธุรกิจปรับตัว พร้อมบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน กกพ.ก็ได้เตรียมมาตรการทั้งด้านการบริหารจัดการและด้านการเงินเข้าไปดูแลแล้ว.

 

ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

06:00 ปริมาณฝุ่นขนาด PM2.5 ในกรุงเทพฯ 06:00 เช้านี้ มีค่า 91 µg/m³ ดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI=169 เกินค่ามาตรฐาน อยู่ในโซนแดง ไม่ควรออกกำลังกายกลางแจ้ง และควรสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 เมื่อออกนอกเคหสถาน

 

Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์


ป.ป.ช. แถลงข่าวสรุปแล้ววันนี้ ว่านาฬิกาหรูที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สวมใส่ทั้ง 22 เรือน ยืมมาจากเพื่อที่ชื่อ ปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ที่เสียชีวิตไปแล้วจริง

 

กลุ่มต่อต้านมุสลิมหัวรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้

หลังข้อเสนอของมหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แนะทางออกปัญหาชายแดนใต้ คือ การตั้งเขตปกครองพิเศษใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โลกโซเซียลระอุฝ่ายสนับสนุน นำเสนอข้อเรียกร้องที่จะนำมาใช้ในเขตปกครองพิเศษปัตตานี หากรัฐบาลไทยไฟเขียว!!
1.ใช้กฏหมายซารีอะห์(กฎหมายอิสลาม)ในเขตปกครองพิเศษ
2.ใช้สกุลเงิน KUP
3.เขตปกครองพิเศษมีกองทัพของตนเอง
4.เขตปกครองพิเศษสามารถดำเนินงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเมืองได้อย่างอิสระ

 

เกรียน BRN



- เมื่อ ๒๗๐๑๐๐ ธ.ค.๖๑ พ.ต.ท.เดชา ดำวงศ์ สว.ฯและร.ต.อ.ประเสริฐ เทพศรี รอง สว.กก.ตชด.๔๓/๔ สสน.ชุดเก็บกู้ฯกก.ปพ.ภ.จว.สงขลา, ชุดเก็บกู้ฯกก.วิเคราะห์ข่าวบก.สส.ภ.๙ เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุระเบิด บริเวณรูปปั้นหนูแมว แหลมสมิหลา ต.บ่อยาง อ.เมือง จว.สงขลา
จากการตรวจสอบคาดว่าผู้ก่อความไม่สงบได้นำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องวางไว้บริเวณรูปปั้น ผลของแรงระเบิดทำให้เกิดขนาดหลุมกว้างประมาณ ๕๐ ซม.(ระเบิดลูกที่ ๑) หลังจากนั้นจึงได้ทำการนิรภัยวัตถุระเบิดแสวงเครื่องลูกที่ ๒ บริเวณใต้รูปปั้น พบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ดังนี้
๑.ชุดควบคุมการจุดระเบิด เป็นนาฬิกาข้อมือยี่ห้อ คาสิโอ ๑ ชุด
๒.ภาชนะบรรจุดินระเบิดหลัก เป็นกล่องเหล็กกว้าง ๔ นิ้ว ยาว ๕ นิ้ว หนา ๒ นิ้ว
๓.ชิ้นส่วนสายไฟ
๔.ปลั๊กไฟตัวผู้
๕.แบตเตอรี่ ขนาด AA จำนวน ๓ ก้อน
๖.ฝากล่องพลาสติก(ใส่ชุดควบคุมการจุดระเบิด)

 

โปรรัสเซีย - Pro Russia

สื่ออเมริกาเจ้านี้วิจารณ์เรืออังกฤษที่ส่งไปยูเครนซะเสียเลย

สื่อวิจารย์ว่าเรือ HMS Echo ที่อังกฤษส่งไปเทียบท่าโอเดสซาของยูเครนพร้อมกับถ้อยแถลงตามมาของรมต.กลาโหมอังกฤษ ว่าเป็นการส่งสัญญาณไปถึงรัสเซียโดยตรงให้ทราบว่าอังกฤษอยู่เคียงข้างยูเครนนั้น เรือดังกล่าวมีความอ่อนแอเกินไป

รายงานระบุว่า HMS Echo เป็นเรือสำรวจทางทะเลไม่ใช่เรือรบที่จะเอาไปขู่ใครได้โดยมีเพียงอาวุธปืน 20 มม. 2 กระบอกและปืนกลอีก 2-3 กระบอกซึ่งด้อยกว่าเรือปืนเล็กของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดไปด้วยซ้ำ

รายงานเสริมว่าปัจจุบันทะเลดำนั้นไม่ปลอดภัยสำหรับเรือต่างชาติเนื่องจากการก่อกวนโดยเรือรบและอากาศยานของรัสเซีย.

https://nationalinterest.org/blog/b...p0U4PCMbT1FQt2dlNrf_Qc1xqLzKUAFpaCAlOUY8t89TI