ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    United States



    คลื่นยักษ์ที่มีความสูงกว่า 20 ถึง 30 ฟุตในบางจุดใน Moss Beach ใน Pillar Point Bluff รัฐแคลิฟอร์เนีย
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    พายุ supercell รุนแรงกว่า 130 กม. / ชม. ทำให้เกิดการตกลงหลังคาของสถานีบริการระหว่างConcepción del Uruguay และ Colonia Elíaในวันที่ 17 ธันวาคม
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา



    น้ำท่วมในเมืองและเขตชานเมืองเนื่องจากพายุที่รุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 17 ธันวาคม
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24


    อาร์เจนตินา


    พายุ ทำให้เกิดลม และฝนที่ตกหนักได้สร้างความเสียหายที่รุนแรงในบัวโนสไอเรสอาร์เจนตินา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายในเช้าวันนี้ในวันนี้ 17 ธค





     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    ออสเตรเลีย



    พายุลูกเห็บใน merimbula, new south australia ในช่วงบ่ายของเมื่อวานวันที่ 16 ธ. ค.
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Dec 18) ครม.ไฟเขียวคืนแวต 5% ผ่านบัญชีเดบิต คิกออฟ 1 ก.พ.-15 ก.พ.62: ครม.ไฟเขียวคืนแวต 5% ผ่านบัญชีเดบิต คิกออฟ 1 ก.พ.-15 ก.พ.62 คาดสูญรายได้ 9,000 ล้านบาท ชี้ช่วยใช้จ่ายและดึงผู้ประกอบการเข้าระบบ

    เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.61 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าผ่านบัตรเดบิต ในอัตรา 5% ทุกรายการ ยกเว้นเหล้า เบียร์ บุหรี่ โดยวงเงินซื้อสินค้าได้สูงสุด 20,000 บาท คืนภาษี 1,000 บาท โดยมีระยะเวลาการซื้อสินค้าในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ.2562 โดยขั้นตอนการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจะโอนเงินกลับไปยังระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชนภายใน 15 วันหลังการซื้อสินค้า

    ทั้งนี้ มาตรการนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้อีเพย์เมนต์ หนุนร้านค้าเข้าระบบบริการเก็บข้อมูลการขายเเละการจ่ายเงินเมื่อมีการขายสินค้าหรือบริการ หรือระบบพีโอเอสซึ่งช่วยทำให้ร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษีของกรมสรรพากรด้วย

    อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณการใช้จ่ายของประชาชน คาดว่าจะใช้เงินคืนภาษีกว่า 9,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามไม่ใช่การหาเสียงและไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะกระทรวงการคลังต้องการสร้างระบบอีเพย์เมนต์ให้แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821590
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Dec 18) ผู้นำจีนประกาศไม่มีใครบงการจีนได้ : ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศวันนี้ว่าจะผลักดันแนวทางปฏิรูปและเปิดกว้างจีนต่อไป แต่เตือนว่าไม่มีใครมาสั่งจีนให้ทำตามใจชอบได้

    ถ้อยแถลงประธานาธิบดีสีมีขึ้นในวาระพรรคคอมมิวนิสต์จีนดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศจีนครบรอบ 40 ปี โดยให้สัญญาว่าจะเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจตามแนวทางของนายเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม 2521 และย้ำว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบพรรคเดียวของจีน ประธานาธิบดีสีกล่าวที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่งว่า ภาวะผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของระบอบสังคมนิยมแบบจีน แถลงการณ์ของประธานาธิบดีจีนมีขึ้นในขณะที่จีนกำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายทางการค้าและการทูตกับสหรัฐ

    Source: สำนักข่าวไทย
    https://www.tnamcot.com/view/5c187f30e3f8e4e9010dfd4c

    ************************************
    สี จิ้นผิง ให้คำมั่นสร้างเศรษฐกิจแบบเปิดกว้าง แม้เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า :

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครบรอบ 40 ปีแห่งการเปิดประเทศและการปฏิรูปในวันนี้ โดยปธน.สีได้เน้นย้ำถึงการผลักดันให้จีนเปิดประเทศสู่โลกมากขึ้น และส่งเสริมความพยายามร่วมกันในการสร้างที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อมนุษยชาติ

    ปธน.สียังกล่าวด้วยว่า การดำเนินการปฏิรูปและการเปิดกว้างในช่วง 40 ปีที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่า การเปิดกว้างได้นำมาซึ่งความก้าวหน้า ขณะที่การอยู่อย่างโดดเดี่ยวนำมาซึ่งความล้าหลัง

    นอกจากนี้ ปธน.สีกล่าวว่า จากการทบทวนสิ่งที่ผ่านมาหลายพันปีนั้น พบว่า การปฏิรูปและการเปิดกว้างยังคงเป็นวิถีปฏิบัติที่จีนนำมาใช้ตลอดประวัติศาสตร์ของชาติ

    ขณะเดียวกัน ปธน.สียังได้เน้นย้ำถึงการสร้างสมดุลระหว่างการปฏิรูป การพัฒนา และการสร้างเสถียรภาพ ด้วยการรักษามุมมองที่เปิดกว้างและหลักการของระบบวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ (historical materialism) และวัตถุนิยมปฏิพัฒนาการ (dialectical materialism) สำนักข่าวซินหัวรายงาน

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา

    - Xi calls for China to 'stay the course': No one is in a position to dictate reform to us
    https://www.cnbc.com/2018/12/18/ami...ays-china-must-stay-the-course-on-reform.html
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6015.JPG IMG_6016.JPG IMG_6017.JPG

    (Dec 18) การเข้าอยู่อาศัยห้องชุดคอนโดมิเนียมจากข้อมูลการใช้ไฟฟ้าสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจ : ข้อมูลไฟฟ้าส่วนใหญ่มักใช้เพื่อวางแผนการผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชนในประเทศ ตลอดจนใช้ในกิจกรรมการผลิตของภาคธุรกิจ

    อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการนำข้อมูลไฟฟ้ามาใช้เป็นเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจโดยตรง งานศึกษานี้จึงศึกษาการใช้ข้อมูลปริมาณการใช้ไฟฟ้ารายมิเตอร์รายเดือนมาจัดทำเป็นเครื่องชี้อัตราการอยู่อาศัย เพื่อวิเคราะห์ติดตามการเข้าอยู่อาศัยของอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม

    โดยสร้างเครื่องชี้จากการนำจำนวนห้องชุด (มิเตอร์ไฟ) ที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าตามเกณฑ์ที่กำหนดหารด้วยจำนวนห้องชุด (มิเตอร์ไฟ) ทั้งหมด

    ผลการศึกษาสรุปได้ว่า ข้อมูลไฟฟ้ามีศักยภาพสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจ เพื่อประเมินภาวะตลาดภาคอสังหาริมทรัพย์ได้จริง และเมื่อใช้ข้อมูลไฟฟ้าผสมผสานกับเครื่องชี้อื่นยิ่งช่วยให้การวิเคราะห์มีความถูกต้อง ครอบคลุม และรอบด้านมากขึ้น

    อ่านข้อมูลเรื่อง การเข้าอยู่อาศัยห้องชุดคอนโดมิเนียมจากข้อมูลการใช้ไฟฟ้า
    โดย จิตติมา ดำมี และคุณทิพย์ ตรงธรรมกิจ
    ธนาคารแห่งประเทศไทย

    https://www.bot.or.th/Thai/Statistics/Articles/Doc_Lib_statisticsHorizon/Electricity.pdf
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6018.JPG
    (Dec 19) ธปท.ต้องปรับตัว รองรับกระแสดิจิทัล: การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไม่เพียงแต่กระทบกับภาคธุรกิจและแวดวงการเงินเท่านั้น แต่ในฐานะผู้กำกับดูแลนโยบายการเงินและสถาบันการเงิน ก็ต้องปรับตัวไม่น้อยกับภูมิทัศน์ที่ไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป บทบาทธนาคารกลางก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์จริง เป็นความท้าทายอย่างที่สุดในยุคของ "วิรไท สันติประภพ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนปัจจุบัน



    ความท้าทายของนโยบายการเงิน



    ที่ผ่านมานโยบายการเงินกำหนดเป้าหมายที่สัมพันธ์กับระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันใช้ "เป้าหมายเงินเฟ้อ" เพื่อกำหนดทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย ปรับขึ้นเมื่อเศรษฐกิจร้อนแรง หรือปรับลดเมื่อถึงเวลาต้องพยุงหรือกระตุ้นเศรษฐกิจในบางช่วงเวลา



    วิรไท กล่าวว่า เทคโนโลยีส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง ซึ่งจากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) แบ่งสินค้าออกเป็น 2 ตะกร้า เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ตะกร้าสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์ ราคาปรับลดลง ขณะที่ตะกร้าของสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปราคาปรับเพิ่มขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าราคาสินค้ายังแพง แม้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ



    นอกจากนี้ การค้าออนไลน์ (อี-คอมเมิร์ซ) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถตั้งราคาได้แบบเดิม เพราะลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาได้ ต้องมีการแข่งขันราคาให้จูงใจผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้าและบริการของตนเอง รวมทั้งไม่ต้องมีต้นทุนสูงจากการเปิดหน้าร้าน เพราะสามารถขายของเพียงเปิดหน้าร้านออนไลน์ได้



    ขณะที่ภาคการผลิตมีการนำเครื่องจักรอัตโนมัติ (ออโตเมชั่น) เข้ามาใช้ทดแทนแรงงานมากขึ้น ค่าจ้างแรงงานจึงถูกกดไม่ปรับเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อจึงถูกกดให้ต่ำตามไปด้วย หลายประเทศต้องปรับปรุงเป้าหมาย เงินเฟ้อ เงินเฟ้อต่ำจึงเป็นเหมือนโลกใหม่ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เป็นความท้าทายของการปรับตัวในด้านนโยบายการเงิน



    ปรับเกณฑ์กำกับสถาบันการเงิน



    วิรไท กล่าวว่า สถาบันการเงินมีการปรับตัวรับดิสรัปชั่นด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ เป็นความท้าทายของ ธปท.ในแง่การดูแลความเสี่ยงเชิงระบบโดยไม่ขัดแย้งกับพัฒนาการใหม่ ล่าสุดได้ประกาศลดและยกเลิกกฎที่ไม่จำเป็น (Regulatory Impact Assessment) เน้นด้านดิจิทัลแบงก์เป็นหลัก โดยต้องเปลี่ยนแนวคิดในการกำกับดูแลหลายด้าน



    เริ่มจากการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ จากเดิมให้ทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ของ ธปท. เปลี่ยนเป็นให้สามารถทดสอบในแซนด์บ็อกซ์ของแต่ละธนาคารเอง หากควบคุมความเสี่ยงหรือผล กระทบได้ดี ก็เพียงแต่แจ้งมายัง ธปท. ก่อนที่จะเปิดตัวบริการใหม่ 15 วัน ยกเว้นเทคโนโลยีที่ต้องใช้ร่วมกับสถาบันการเงินอื่นหรือใช้โครงสร้างพื้นฐาน กลาง เช่น คิวอาร์โค้ดมาตรฐาน ก็ยังต้องเข้าแซนด์บ็อกซ์ของ ธปท.อยู่ เพื่อแน่ใจว่าบริการข้ามธนาคารหรือข้ามประเทศไม่มีรอยต่อ



    ถัดมา คลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่ก่อนหน้านี้จะระมัดระวังมาก พยายามไม่เก็บข้อมูลไว้ที่ คลาวด์ เพราะเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัย สถาบันการเงินแต่ละแห่งจึงมีศูนย์ข้อมูลหรือเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ต้นทุนการจัดการสูง แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปไกล มีความปลอดภัย และคลาวด์สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าเหลือเป็นหลักวินาที ธปท.จึงได้เปิดให้ทำได้ รวมทั้ง อนุญาตให้จ้างบริษัทข้างนอก (Outsourcing) มาดูแลระบบได้



    อย่างไรก็ตาม ธปท.เน้นย้ำการดูแลความเสี่ยงทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ฉะนั้น การดูแลด้านไอทีจะไม่ใช่เพียงฝ่ายหนึ่งในธนาคาร แต่ต้องยกระดับขึ้นมาเป็นฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะคณะกรรมการ (บอร์ด) ของธนาคารต้องมี 1 คนที่รู้เรื่องไอที



    เพิ่มโอกาสเข้าถึงเงินทุน



    ธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งเดิมเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนในระบบ เพราะมีข้อจำกัดในการพิสูจน์ รายได้ จากนี้จะมีโอกาสมากขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ โดย ธปท.ส่งเสริมการใช้ข้อมูลต่างๆ ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ (Infor mation-Based Lending) จากเดิมเป็นการ ปล่อยสินเชื่อบนหลักประกัน (Collateral-based Lending)



    ส่วนลูกค้ารายย่อยก็ได้รับประโยชน์จากบริการดิจิทัลด้วยเช่นกัน ซึ่งหากพิจารณาประเทศที่ออนไลน์แพลตฟอร์มขยายตัวเป็นวงกว้าง เช่น ประเทศจีน อังกฤษ จะพบว่า ในประเทศนั้น สถาบันการเงินไม่ตอบโจทย์กลุ่มรายย่อย ทำให้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนอย่างรวดเร็ว



    ขณะที่ประเทศไทยแตกต่างกัน ธนาคารต่างๆ ค่อนข้างตื่นตัวในการให้บริการรายย่อยมาตั้งแต่หลังวิกฤตปี 2540 ฐานลูกค้ารายย่อยในระบบมีจำนวนมาก ผลกระทบจากดิสรัปชั่นจึงไม่รุนแรงเท่าประเทศอื่น แต่การแข่งขันที่คืบคลานเข้ามา ทำให้ธนาคารปรับตัวและดิสรัปตัวเอง อย่างการยกเลิกค่าธรรมเนียมบริการบนดิจิทัล



    "ค่าฟีที่เมื่อก่อนแบงก์คิดว่าเป็นธุรกรรมทำเงิน (Cash Cow) แต่จากการมีโครงสร้างพื้นฐานชำระเงินใหม่ อย่างพร้อมเพย์ และการแข่งขันจากภายนอก ก็นำมาซึ่งการปรับตัวฟรีค่าธรรมเนียม เลิกแข่งขันด้านราคาไป แม้ ธปท.จะกันธุรกิจภายนอกไม่ได้ แต่ก็พยายามผลักดันให้มีระบบที่เป็นมาตรฐานไทย (Thai Standard)"



    ไม่ปิดกั้นเงินสกุลดิจิทัล



    วิรไท ให้มุมมองถึงเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งหลายคนเรียกว่าคริปโทเคอเรนซี แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่รายย่อยใช้ และแบบที่ธุรกิจขนาดใหญ่ใช้ โดยมองเห็นประโยชน์ชัดเจนในรายใหญ่ (Wholesale Central Bank Digital Currency) ซึ่ง ธปท.มีโครงการอินทนนท์ใช้เงินดิจิทัลเพื่อชำระดุลการโอนเงินรายใหญ่ผ่านระบบบาทเนต โดยระบบสามารถเชื่อมโยงระหว่างประเทศได้ ในอนาคตจะทำให้ต้นทุนการโอนเงินระหว่างประเทศลดลงมาก



    ส่วนการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลสำหรับรายย่อย (Retail Central Bank Digital Currency) ยังถกเถียงอยู่ว่าควรมีหรือไม่ เพราะถ้าประเทศมีระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ยอดเยี่ยมก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมี อีกทั้งอาจทำให้ประชาชนย้ายเปิดบัญชีกับ ธปท.แทนธนาคาร มีผลต่อบทบาทการเป็นคนกลางในระบบเศรษฐกิจ



    "สวีเดนเป็นประเทศที่เข้าใกล้ที่สุด ระบบอี-เพย์เมนต์มีประสิทธิภาพมากแทบใช้เงินสดไม่ได้เลย แบงก์ชาติเขาจึงต้องสนับสนุนมีระบบรองรับ ส่วนประเทศไทยยังห่างไกลมาก เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบชำระเงิน เช่น พร้อมเพย์ มาตอบโจทย์ประชาชนและธุรกิจ"


    โดย ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

    Source: Postoday
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6019.JPG
    (Dec 19) ทำไมหุ้นตกทั่วโลก - สองอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเดินทางตลอดตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. มีโปรแกรมสอนหนังสือที่ญี่ปุ่น เป็นหลักสูตรปริญญาโท ด้านนโยบายสาธารณะ ที่มหาวิทยาลัยฮิโตสุบาชิ (Hitotsubashi University) กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จากนั้นก็ไปร่วมประชุมเรื่องเศรษฐกิจ ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เลยไม่ได้อยู่เมืองไทยในช่วงเทศกาลของเรา แต่ก็ส่งใจตลอด ด้วยความปีติยินดีในช่วงเวลาที่เป็นมงคลของประเทศ



    คำถามที่มีมากขณะนี้คือ ทำไมเศรษฐกิจ โลกมีปัญหามาก ทั้งเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน กรณีเบร็กซิท (Brexit)ที่รัฐบาลอังกฤษยังนำเรื่องเข้าสภาไม่ได้ รวมถึงกรณีประท้วงที่ฝรั่งเศส ที่ขณะนี้ได้แพร่ไปหลายประเทศในยุโรป กระทบธุรกิจและการท่องเที่ยว และดูจะเป็นเรื่องใหญ่ ตลาดหุ้นก็ปรับตัวด้วยความผันผวนรับข่าวและสถานการณ์ดังกล่าว แสดงแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่องจากที่ได้ปรับลดลงตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. ในหลายตลาดทั่วโลกรวมถึงไทย ราคาหุ้นได้ปรับลดลงต่ำกว่าระดับเปิดตลาดตอนต้นปี อาทิตย์ก่อนได้ให้สัมภาษณ์วิทยุเอฟเอ็ม 105 ในรายการของคุณศลิลนา ภู่เอี่ยม เป็นการสัมภาษณ์ตามปกติ ช่วงวันจันทร์เช้า ก็ได้คุยกันเรื่องนี้และสัญญาว่าจะเขียนเรื่องว่า ทำไมหุ้นตก วันนี้ก็เลยจะเขียนเรื่องนี้



    การอ่อนตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. สะท้อน 3 ปัจจัยที่กระทบการตัดสินของนักลงทุน คือ ปัจจัยแรก เรื่องเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลกขณะนี้ขยายตัว ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และอยู่ในแนวโน้ม ที่จะชะลอตัวจากนี้ไป อยู่ในขาลงของวัฏจักรเศรษฐกิจ เพราะปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่เคยมีได้ลดบทบาทลง ทำให้พื้นฐานของเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลงเทียบกับเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า



    ปัจจัยสนับสนุนที่หายไปหรือเปลี่ยนไปคือ อัตราดอกเบี้ยที่จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีต่อ แม้อาจจะไม่มากหรือเร็วเท่ากับที่ตลาดเคยคาดไว้ ทำให้ต้นทุนการเงิน ในระบบเศรษฐกิจโลกจะสูงขึ้นอีก การค้าโลก ที่ชะลอตัวลงจากผลของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ และราคาน้ำมันที่ผันผวน ตามมาตรการไม่ค้าขายกับอิหร่าน และการลดเป้าการผลิตของกลุ่มโอเปค การปรับขึ้น ของอัตราดอกเบี้ย ทำให้วัฏจักรหนี้ในระบบ การเงินโลกเปลี่ยนจากขาขึ้นของการสร้างหนี้ ผ่านระบบการเงินที่กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย มาเป็นขาลงของการลดหนี้ (Deleveraging) จากที่ภาระชำระหนี้ได้เพิ่มสูงขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงการชะลอตัว ของการใช้จ่าย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การขยายตัว ของเศรษฐกิจโลกชะลอ กระทบความสามารถในการทำกำไรของบริษัท



    การเปลี่ยนจากวัฏจักรขาขึ้นของ เศรษฐกิจโลกมาเป็นขาลงเป็นเรื่องปกติ ที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวเปลี่ยนมาเป็นการชะลอตัว ก่อนที่จะกลับมาเป็นขยายตัวใหม่ คราวนี้ก็เช่นกัน แต่ที่มักจะก่อให้เกิดปัญหาก็คือผลที่จะมีต่อประเทศตลาดเกิดใหม่จากกระบวนการลดหนี้ที่มักสร้างปัญหาให้กับเสถียรภาพเศรษฐกิจ



    โดยเฉพาะในประเทศที่มีหนี้มากจากผลกระทบของเงินทุนไหลออก ค่าเงินที่ อ่อนลง และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ปรับ สูงขึ้น ทำให้ภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้น ก่อให้เกิดปัญหา หนี้เสียที่อาจบานปลายเป็นปัญหาเชิงระบบ ในคราวนี้มีหลายประเทศช่วงกลางปีนี้ที่ได้รับแรงกดดันมากจนเกิดปัญหาชำระหนี้ เช่น ตุรกี อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ จนมีความเป็นห่วงว่าอาจเกิดเป็นวิกฤติเศรษฐกิจได้ แต่ขณะนี้ค่าเงินของประเทศเหล่านี้ ได้กลับมาแข็งค่าขึ้นจากที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้น หลังการอ่อนตัวของค่าเงิน ทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจดูดีขึ้น แต่ก็ยังเป็นความเสี่ยงอยู่



    แต่ที่เป็นห่วงกันมากคือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกคราวนี้อาจนำไปสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (recession) เพราะคราวนี้มี 2 ปัจจัยที่จะสร้างความเสี่ยงเพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจโลกช่วง ขาลง ปัจจัยแรกคือทั้งสหรัฐและจีนที่เป็นเศรษฐกิจอันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลก มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 1 ใน 3 ของ จีดีพีโลก กำลังชะลอตัวลงพร้อมกันจากผลของสงครามการค้า



    ล่าสุดข้อมูลไตรมาส 3 ชี้ว่าทั้งจีน และสหรัฐมีการขยายตัวลดลง เมื่อ 2 ประเทศนี้ชะลอและไม่มีประเทศไหน หรือภูมิภาคไหนมาทดแทนเป็นหัวขบวน ให้กับเศรษฐกิจโลกได้ โอกาสที่การชะลอตัว จะนำไปสู่ภาวะถดถอยก็มีสูง



    ปัจจัยที่ 2 คือ ปัญหาการเมืองและปัญหาภูมิศาสตร์การเมืองที่มีมากขณะนี้ในเศรษฐกิจโลก ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายมีสูงมาก อันดับแรกคือสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ที่ได้กลายเป็นข้อพิพาททางการเมืองไปแล้ว ทำให้การหาข้อยุติจะยากและใช้เวลา เพราะจะมาจากการต่อรองทางการเมืองมากกว่าเหตุผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทและในทางการเมืองก็ได้บานปลายไปกระทบภาคธุรกิจอื่นๆ เช่น กรณีของบริษัทแอ๊ปเปิ้ล และบริษัทหัวเว่ย ที่ผู้บริหารถูกสหรัฐเรียกให้ตำรวจแคนาดาจับกุม



    ปัญหาเบร็กซิท (Brexit) เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เป็นความไม่แน่นอน เพราะไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร หลังมีการเลื่อนการลงมติ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรออกไป ทำให้รูปแบบการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษยังไม่มีข้อตกลงชัดเจน



    และล่าสุด กรณีประท้วงที่ฝรั่งเศส โดยกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่สะท้อนปัญหาของ ชนชั้นกลางฝรั่งเศสที่มาตรฐานความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันตกต่ำลงจากนโยบายของรัฐและผลของโลกาภิวัตน์ การประท้วงกำลังลามไปในประเทศอื่นๆ ในยุโรป เช่น เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ สวีเดน ชี้ถึงความเปราะบางของการเมืองในยุโรปขณะนี้ ซึ่งเป็นปัญหาที่จะใช้เวลาในการแก้ไข ทำให้ปีหน้าความเสี่ยงด้านการเมืองจะเป็นปัจจัยลบสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจะมีต่อเนื่อง กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน สร้างข้อจำกัดให้กับการเติบโตของเศรษฐกิจ และกดดันตลาดหุ้นให้ปรับลดลง



    สำหรับในแง่ตลาดหุ้นเอง เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอและมีความเสี่ยงที่อาจถดถอยในปีหน้า สร้างแรงกดดันต่อกำไรของบริษัท ทำให้มูลค่าหุ้น (Valuation) ซึ่งปีที่แล้วปรับขึ้นสูงมาก ขณะนี้ดูจะสูงไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไป กดดันให้ราคาหุ้นปรับลดลง และการปรับลดคงมีต่อถ้าเศรษฐกิจโลกอ่อนตัวต่อเนื่อง



    นี่คือ 3 ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือภาวะตลาดที่ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก อ่อนตัวลง และคงจะอ่อนตัวต่อไป นี่คือข้อคิดที่อยากจะฝากไว้



    คอลัมน์ เศรษฐศาสตร์บัณฑิต โดย ดร.บัณฑิต นิจถาวร


    bandid.econ@gmail.com


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/646152


    ความคืบหน้า:

    - หุ้นสหรัฐฯดิ่งหนัก "ดัชนีเอสแอนด์พี" แตะจุดต่ำสุดในรอบ 14 เดือน

    https://www.voathai.com/a/us-stocks-plunge-/4705167.html
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Dec 18) ทรัมป์จำกัดสิทธิการลดภาษีนำเข้าสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: สำนักพิมพ์ The Wall Street Journal รายงานว่ารัฐบาลประธานาธิบดี Trump ได้ข้อสรุปร่างกฎหมาย จำกัดสิทธิการลดภาษีนำเข้าสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีผลบังคับใช้กับทั้งบริษัทต่างชาติและโรงกลั่นภายในประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้ของรัฐกว่า 600 ล้านดอลลาร์ สรอ. ภายในหนึ่งทศวรรษ

    อย่างไรก็ดี กลุ่มบริษัทและผู้ผลิตในอุตสาหกรรม อาทิ Diageo PLC ผู้ผลิต Smirnoff vodka แย้งว่า บทบัญญัติทางภาษีต่างๆ ณ ปัจจุบัน เป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตในประเทศ และร่างกฎหมายดังกล่าวจะผลเสียต่อการส่งออกในอุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ

    อนึ่ง กฎหมายสหรัฐฯ ปัจจุบันละเว้นภาษีนำเข้าสินค้า สำหรับผู้ผลิตที่ส่งออกสินค้าประเภทเดียวกัน ผู้ส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายรายที่นำเข้าขวดบรรจุ จึงขอละเว้นภาษีนำเข้าเนื่องจากถือเป็นสินค้าที่จัดซื้อเพื่อการส่งออก

    อย่างไรก็ดี Treasury Department เห็นว่ากฎหมายดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกได้รับคืนภาษีในสินค้าที่ไม่ถูกเก็บภาษีส่งออกอยู่แล้ว ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตแย้งแนวคิดดังกล่าวเนื่องจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ห้ามมิให้มีการเก็บภาษีส่งออก การนำประเด็นดังกล่าวมาพิจารณาประกอบกันจึงไม่เหมาะสม

    Source: BOTSS

    - Trump Administration Blocks Tax Break for Alcohol Companies: https://www.wsj.com/articles/trump-administration-blocks-tax-break-for-alcohol-companies-11545075911
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Dec 18) ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาววิพากษ์วิจารณ์เฟด : สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ประธานาธิบดี Trump และ นาย Peter Navarro ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว (Director of the Office of Trade and Manufacturing Policy) วิจารณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนาย Navarro ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ว่าเหตุผลที่ Fed ไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมอาทิตย์นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังขยายตัวโดยปราศจากสัญญาณการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อ มิใช่เนื่องจากปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

    ทั้งนี้ นาย Navarro กล่าวเสริมว่า ตนได้ยินเหตุผลเดียวจาก Fed ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คือเรื่องความเป็นอิสระของธนาคารกลางต่อทำเนียบขาว ซึ่งเป็น “bad argument”

    นอกจากนี้ นาย Navarro ยังได้กล่าวเสริมว่า ตนคิดว่าสิ่งที่ Fed ควรจะต้องดำเนินการคือการพิจารณาข้อมูลทางเศรษฐกิจ มิใช่กล่าวแต่เพียงว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Trump ทวีตข้อความระบุว่า Fed กำลังพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ สรอ. แข็งค่ามากและ “virtually no inflation” ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ

    Source: BOTSS

    - Navarro Blasts Case for Fed Rate Hike to Defend Its Independence: https://www.bloomberg.com/news/arti...-for-fed-rate-hike-to-defend-its-independence

    - Trump advisor Peter Navarro slams the Fed as the biggest risk to US economic growth: https://www.cnbc.com/2018/12/17/tru...slams-the-fed-as-biggest-risk-to-economy.html
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกรียน BRN

    IMG_6023.JPG
    " การรุกรานดินแดนอื่น

    เจ้านครรัฐปัตตานีก็ทำอยู่เป็นประจำ

    แต่ที่สุดนครรัฐปัตตานีก็ถูกกลันตันตีแตกแล้วเข้ายึดครองจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลันตันไปแล้ว

    เมื่อไทยยึดปัตตานีได้

    ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคืนอำนาจให้กลันตัน

    เพราะกลันตันก็ยึดเขามาเหมือนกัน

    คนมุสลิมที่อยู่ในปัตตานีปัจจุบันคือคือคนกลันตตันที่เข้ามายึดครองปัตตานี

    ไม่ใช่คนปัตตานีที่เป็นผู้อาศัยดั้งเดิม

    มุสลิมปัตตานีเดิมหนีไปอยู่ สตูล สงขลา พัทลุงนครศรีฯตั้งแตั้งแต่กลันตันเข้ามายึดครองเมืีอปีพ.ศ.2231 แล้วครับ "


    ท่านผู้หนึ่งกล่าวไว้


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐปาตารี ที่โจรใค้ต้องการคืออะไร ตอนที่ประเทศสยามได้แผ่นดินนี้มา ก็ไม่มีอยู่แล้ว มีแต่เขตยึดครองที่เป็นกลันตัน ซึ่งทำลายปาตานีจนสิ้นชาติไปนานแล้ว
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แนวร่วม BRN กลับใจ

    IMG_6024.JPG
    “สำหรับการพูดคุยสันติสุขคงมีข่าวดีเร็วๆนี้ ตอนนี้เน้นทำพื้นที่ให้ปลอดภัยสูงสุดก่อน เราต้องแยกคดีความมั่นคงกับเหตุขัดแย้งส่วนตัว พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับการปกป้องทั้งพุทธและมุสลิม ณ วันนี้มีผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดแล้วกว่า 6,000 รายใน 3 จชต.และ 4 อำเภอของสงขลา ผู้ค้ารายย่อยเป็นหัวใจสำคัญในหมู่บ้านที่ต้องกำจัด แต่ย้ำว่ากำลังพลที่เข้าปฏิบัติงานทุกสถานการณ์ต้องระมัดระวังทุกขณะ ระยะเวลา 1 เดือน 13 วัน ที่ผ่านมา เราสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.ยะลา 1 นายขณะเข้าตรวจค้นยาเสพติด ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่ต้องมีหลักยุทธวิธีทุกรูปแบบเพื่อความปลอดภัยของชีวิตเป็นสำคัญ”


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai


    ... “หัวเหว่ย ใช้ชิปเช็ตนาโน 7 เอไอ เจ้าแรกในโทรศัพท์มือถือ เร่งหยุดซื้อชิปอเมริกา”


    ... เนื่องจากโลกอนาคตจะเป็นโลกคลื่นลูกที่4 ที่มีปัจจัยหลายอย่างที่จะเป็นกระดูกสันหลังหรือโครงสร้าง อย่างเช่นระบบการสื่อสาร 5G นั้น “หัวเหว่ย” ของจีนก็พยายามจะเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาในระดับแนวหน้า จนมีการสกัดกั้นจากฝ่ายตรงข้าม เช่นการจับตัวลูกสาวหัวเหว่ยเป็นตัวประกัน เพื่อต่อรอง หรือบีบให้ประเทศบริวารไม่ซื้อสินค้าของหัวเหว่ยจากจีน


    ... นอกจาก 5G แล้ว อีกเรื่องที่สำคัญมากและเป็นนโยบายหลักของบริษัทโทรศัพท์มือถือจาก “จีน” ก็คือ พยายามปลดแอกตัวเองออกจากการซื้อใช้ “ชิปเช็ต” หรือ เซมิคอนดักเตอร์ จาก “อเมริกา” ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ที่ยังครองตลาดใหญ่ทั้งใน โทรศัพท์มือถือ แทปเล็ต คอมพิวเตอร์ ลิฟต์โดยสาร การควบคุมเปิดปิดไฟ อุปกรณ์อิเล็กโทรนิค อุปกรณ์สื่อสาร หรือ รถยนต์อนาคตที่ควบคุมด้วยสมองกลไร้คนขับ ( หรือแม้แต่การควบคุมในอาวุธหรือเครื่องบินรบในอนาคต ) ของตลาดโลก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องวิจัยพัฒนาสร้างมันขึ้นมาเอง


    ... ในตอนนี้ “ชิปเซ็ต” หรือสมองของโทรศัพท์มือถือนั้นส่วนใหญ่มากจากเทคโนโลยีของอเมริกา หรือผู้ผลิตจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน


    ... โดย “หัวเหว่ย” ได้บอกว่ามีแผนการระยะยาวจะปลดแอกจากการพึ่งพิงซื้อจากผู้ผลิตเหล่านั้น โดยเฉพาะจาก บริษัท Qualcomm ของ “อเมริกา”และพัฒนามันขึ้นมาเอง โดยล่าสุดพวกเขาได้เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเจ้าแรกที่ใช้ชิปเซ็ดนาโนรุ่น7 แบบ เอไอ หรือ Artificial intelligence เป็นเจ้าแรกของโลก ที่ระบบ เอไอนี้ จะมีความสามารถในการอ่าน ตีความข้อมูลจากภายนอก เรียนรู้และนำเอาข้อมูลไปใช้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งนโยบายการสร้างชิปเซ็ตหรือ “สมองของโทรศัพท์มือถือ” นั้น เป็นนโยบายระยะยาวของผู้ผลิตมือถือจากจีนทั้งหมดด้วย เพื่อลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีจากต่างชาติที่เป็นเหมือนศัตรูทางการค้าและการเมือง


    ... โดย ชิปเซ็ตเอไอ ของหัวเหว่ยที่สร้างออกมาเองคือรุ่น Kirin 980 chipset หรือถูกเรียกว่า โปรเซสเซอร์ นาโนมิเตอร์รุ่น 7 seven nanometer processor นี้ได้เปิดตัวที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมันในเดือนสิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา ที่จะถูกนำไปใส่ในเครื่องของมือถือหัวเหว่ยรุ่น Mate 20 ที่ออกจำหน่ายเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 ที่ผ่านมา และพวกเขาจะเป็นผู้ผลิตเจ้าแรกที่ใช้นาโน7 ในมือถือ ขณะที่แอปเปิ้ลก็วางแผนจะนำใช้กับไอโฟนในเร็วๆนี้เช่นกัน ส่วน ซัมซุงนั้นบอกว่าน่าจะนำมาใช้ในปี หน้า 2019 นี้เช่นกัน


    ... ซึ่งชิปเซ็ตนาโน7 นั้นมีขนาดเล็กกว่าทำให้มีพื้นที่ในการบรรจุส่วนอื่นได้มากขึ้น และทำให้มือถือขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหัวเหว่ยบอกว่า ชิปเซ็ต รุ่นนี้ สามารถจดจำอ่านภาพถ่ายได้ 4,500 ภาพ ในเวลาแค่ 1 นาที


    ... ก่อนหน้านั้น “หัวเหว่ย” มีเป้าหมายว่าจะเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับสองของส่วนแบ่งตลาดโลกแซงไอโฟน รองแค่ซัมวุง และพวกเขาก็ทำได้จริงๆในปี 2018 นี้ และเป้าหมายต่อไป คือการผลิตใช้ ชิปเซ็ตของตัวเอง ไม่ง้อซื้อของตะวันตกและเพื่อนบ้านอีกต่อไป


    ... ยิ่งในบริบท “สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา” นั้น “จีน” ยิ่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญที่ต้องยืนบนขาของตัวเองให้ได้ ทั้ง 5G รวมทั้ง ชิปเซ็ตในโทรศัพท์มือถือ แบบนาโน7 เอไอ ต่อไปอย่างรวดเร็ว


    .

    ... It underlines the ambitions of Huawei and other Chinese firms to wean themselves off American technology, particularly chips.


    ... Huawei unveiled its latest artificial intelligence (AI) chipset for its mobile devices on Friday, taking aim at the dominance of chipmakers such as Qualcomm and smartphone players like Appleand Samsung that make their own silicon.


    ... For Huawei, the big push into AI chips highlights a desire to remove reliance on American technology companies, particularly Qualcomm. Chinese firms have been trying to boost their prowess in key technologies from 5G to semiconductors, a move that has been accelerated by the current U.S.-China trade war.


    .


    .

    https://www.cnbc.com/2018/08/31/huawei-kirin-980-7-nanometer-ai-chip-for-the-mate-20.html

    https://www.investopedia.com/articl...ds-top-10-semiconductor-companies-tsmintc.asp


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์สารสนเทศอิสลาม Islamic Information Center

    IMG_6026.JPG
    แหล่งข่าวต่างๆ ได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียมพร้อมกับรายงานว่ากลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในตะวันออกของยูเฟรติสได้ลักลอบขนน้ำมันของซีเรียไปยังตุรกีและอิรักโดยความร่วมมือของสหรัฐฯ….





    แหล่งข่าวต่างๆ ได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากดาวเทียมพร้อมกับรายงานว่ากลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในตะวันออกของยูเฟรติสได้ลักลอบขนน้ำมันของซีเรียไปยังตุรกีและอิรักโดยความร่วมมือของสหรัฐฯ….

    ตามรายงานของสำนักข่าวฟาร์ส ภาพถ่ายดาวเทียมได้แสดงให้เห็นถึงการโจรกรรมน้ำมันของซีเรียจากทางตะวันออกของประเทศนี้โดยกลุ่มก่อการร้ายและผู้สนับสนุนพวกเขา

    สำนักข่าวทางการของซีเรีย (SANA) รายงานว่า ภาพเหล่านี้ถูกบันทึกได้โดยดาวเทียมและเครื่องบินสอดแนมของรัสเซีย



    ในภาพที่ปรากฎเหล่านี้ คือกลุ่มก่อการร้ายที่อยู่ในภาคตะวันออกของแม่น้ำเฟรทส์ในจังหวัดดัยรุซซูรของซีเรีย กำลังลักลอบขนน้ำมันของซีเรียไปยังเส้นทางที่มุ่งสู่ตุรกีและอิรักโดยรถบรรทุกน้ำมัน

    ประเด็นสำคัญก็คือ พันธมิตรนานาชาติในนาม "พันธมิตรต่อสู้กับการก่อการร้าย" ซึ่งก่อตัวขึ้นในซีเรียโดยการนำของสหรัฐฯ ได้รับผิดชอบในการดูแลปฏิบัติการลักลอบขนน้ำมันเหล่านี้

    หลังจากที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดดัยรุซซูรได้รับการปลดปล่อย กองทัพซีเรียและกองกำลังรัสเซียที่อยู่ในพื้นที่นี้มีความพยายามที่จะปราบปรามให้ขบวนการลักลอบค้าน้ำมันลดน้อยลงจากพื้นที่

    กระทรวงกลาโหมรัสเซียก็ได้ประกาศหลายครั้งแล้วว่า รัฐบาลตุรกีเป็นแหล่งรับซื้อน้ำมันรายใหญ่ที่สุดจากกลุ่มไอซิสที่ลักลอบขโมยน้ำมันจากซีเรียและก่อนหน้านี้จากพื้นที่อิรัก

    บ่อยครั้งภาพถ่ายต่างๆ ที่ถูกตีพิมพ์ในข่าวและเครือข่ายทางสังคมซึ่งแสดงให้เห็นว่าขบวนรถบรรทุกน้ำมันได้ลำเลียงน้ำมันจากพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มไอซิสในบริเวณใกล้เมือง "อัรร็อกเกาะฮ์" ไปยังตุรกี

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็ได้กล่าวเช่นกันว่า การปล้นสะดมและลักลอบขนน้ำมันจากซีเรียเป็นแหล่งรายได้หลักของกลุ่มไอซิสและสินค้าที่มีค่านี้ส่วนมากแล้วได้ถูกนำออกไปจากจังหวัดดัยรุซซูร

    สหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งพันธมิตรขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2014 โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงและผิดกฎหมาย โดยกล่าวอ้างว่าเป็นการต่อสู้กับการก่อการร้ายในประเทศซีเรีย

    ซานา (Sana) กล่าวว่า ตรงกันข้ามกับคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯ พันธมิตรดังกล่าวนี้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของซีเรียและเข่นฆ่าประชาชนในประเทศนี้

    ตัวอย่างล่าสุดของการโจมตีของพันธมิตรสหรัฐฯ เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาในเมืองฮะญีน ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิต 17 คนในการโจมตีดังกล่าว


    ที่มา : สำนักข่าวฟาร์ส

    ศูนย์สารสนเทศอิสลาม สถาบันส่งเสริมการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอิสลาม
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students


    (Dec 18) ทรัมป์ทวีตรายวัน กดดันเฟดก่อนประชุมวันนี้ เตือนอย่าทำผิดพลาดอีก: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ เพื่อพยายามกดดันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนที่จะเริ่มการประชุม 2 วันในวันนี้ โดยเตือนว่า เฟดอย่าได้ทำผิดพลาดอีก และให้เข้าใจความรู้สึกของตลาด


    "อย่าได้ทำให้ตลาดขาดสภาพคล่องมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ขอให้เข้าใจความรู้สึกของตลาด อย่าได้ดำเนินการตามตัวเลขที่ไม่มีความหมาย ขอให้โชคดี" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ


    นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.25-2.50% หลังจากสิ้นสุดการประชุมวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้


    การทวีตของปธน.ทรัมป์ในวันนี้มีขึ้น หลังจากที่เขาเพิ่งทวีตข้อความเมื่อวานนี้ ระบุว่า เขาคิดว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่เฟดกำลังคิดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง


    "มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ว่า ในขณะที่ดอลลาร์กำลังแข็งค่าขึ้นอย่างมาก และแทบไม่มีเงินเฟ้อ ส่วนโลกภายนอกก็กำลังวุ่นวายรอบตัวเรา กรุงปารีสกำลังถูกคนเผา และจีนอยู่ในช่วงขาลง แต่เฟดกำลังคิดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง โดยหวังจะเอาชนะ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ


    ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวในเดือนที่แล้วว่า "ผมคิดว่าเรามีปัญหากับเฟดมากกว่ามีปัญหากับคนอื่น"


    ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวว่า นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เข้มงวดเกินไปในการใช้นโยบายการเงิน และกำลังดำเนินการผิดพลาด

    ปธน.ทรัมป์กล่าวโจมตีเฟดว่า "ผมมีปัญหากับเฟด โดยเฟดได้บ้าไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าพวกเขามีปัญหาอะไรถึงได้เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่เฟดจะต้องทำอย่างนั้น ซึ่งผมไม่ชอบเลย"


    ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้แต่งตั้งนายพาวเวลเป็นประธานเฟดเมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลนพ้นวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.

    ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ปลื้มต่อการที่นายพาวเวลปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเขาจะวิพากษ์วิจารณ์เฟดต่อไป หากเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


    เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนม.ค.ปีที่แล้ว เทียบกับที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา


    นอกจากนี้ เฟดได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ รวมทั้งมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า


    ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐ และทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ปธน.ทรัมป์ให้ความสนใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเปิดฉากทำสงครามการค้ากับประเทศคู่ค้า


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    - Trump Warns Fed Not to Make ‘Mistake’ Ahead of Likely Rate Hike : https://www.bloomberg.com/news/arti...not-to-make-mistake-ahead-of-likely-rate-hike
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    D675A8B7-FA29-4152-A880-A01DAF50DBDB.jpeg
    (Dec 18) ขาลงธุรกิจร้านอาหารในอังกฤษเจ๊งระนาว: ภัตตาคารร้านอาหารทั่วอังกฤษกว่า 1,200 ร้าน ล้มเลิกกิจการในระยะเวลา 1 ปีนับถึงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 24 % จากช่วง 12 เดือนก่อนหน้านั้น ขณะที่ธุรกิจเผชิญกับภาวะร้านอาหารเปิดมากเกินไป และผู้บริโภคประสงค์จะจ่ายเงินในส่วนนี้น้อยลง


    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ว่า รายงานผลการสำรวจของบริษัทการบัญชี มัวร์ สตีเฟนส์ เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า เครือข่ายภัตตาคารชื่อดังอย่าง คาร์ลัชโช, เปรสโซ, เจมีส์ อิตาเลียน และสตราดา ปิดร้านสาขาในอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว และมีสัญญาณธุรกิจฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย


    แถลงการณ์ของ เจเรมี วิลล์มอนต์ ผู้จัดการแผนกปรับโครงสร้างและการล้มละลาย ของมัวร์ สตีเฟนส์ กล่าวว่า การปิดตัวของภาคภัตตาคารในอังกฤษ ตอนนี้อยู่ในระดับ "โรคระบาด" ผลกระทบสามารถมองเห็นได้ ในเกือบทุกถนนในย่านหรูหราของเมืองใหญ่และเมืองเล็กทั่วประเทศ


    ในระหว่างเดือน ก.ย. 2560 - ก.ย. 2561 มีภัตตาคารเลิกกิจการ 1,219 แห่งทั่วอังกฤษ มากกว่าปีก่อนหน้า 985 แห่ง วิลล์มอนต์ กล่าวว่า ภายหลังเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเบร็กซิต หรือการถอนตัวออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดูเหมือนผู้บริโภคจะเข้มงวดการใช้จ่ายมากขึ้น


    อัตราเติบโตการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอังกฤษเดือนที่แล้วเชื่องช้าสุดในรอบกว่า 1 ปี เครือข่ายค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึง ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของสปอร์ต ไดเร็คท์ เผยเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า การค้าขายในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา "แย่อย่างไม่น่าเชื่อ"


    บรรดาภัตตาคารร้านอาหารในอังกฤษยังเผชิญแรงกดดัน จากอัตราค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น รวมทั้งราคาค่าอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น อันเนื่องจากค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนลง


    Source: เดลินิวส์ออนไลน์

    https://www.dailynews.co.th/foreign/683049


    - UK restaurant closures surge as consumers lose appetite to spend

    https://uk.reuters.com/article/uk-b...onsumers-lose-appetite-to-spend-idUKKBN1OG00C
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_6030.JPG
    (Dec 18) ธปท.คาด'ปีใหม่'ประชาชนเบิกใช้แบงก์1.3แสนล้าน : ธปท.คาดช่วงปีใหม่ประชาชนเบิกจ่ายธนบัตร1.3แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากปีก่อน กำชับธนาคารพาณิชย์สำรองแบงก์ให้เพียงพอ


    นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรสูงกว่าปกติ ธปท. คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. สุทธิประมาณ 130,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ธปท. ได้กำชับให้ธนาคารพาณิชย์เตรียมสำรองธนบัตรใหม่ชนิดราคาต่างๆ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอในช่วงปีใหม่


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/821596
     

แชร์หน้านี้

Loading...