ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 4, 2024 แบกต่อ! กฟผ.แบกภาระค่า Ft 8 หมื่นล้านบาท ลุยศึกษาพลังงานนิวเคลียร์ เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ตอบโจทย์ความมั่นคงพลังงาน

    นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ทั่วโลกต่างมีความต้องการไฟฟ้าสีเขียวเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality โดยเฉพาะการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเสถียรภาพไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตลอด ซึ่งการจะทำให้จ่ายไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ต้นทุนจะค่อนข้างสูง

    กฟผ. จึงมองหาพลังงานทางเลือกใหม่ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจและบรรจุไว้ในแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของประเทศ คือ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือ SMR (Small Modular Reactor) เพราะตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แข่งขันได้ โดยออกแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้มีขนาดเล็กลง ออกแบบให้ระบบเชื้อเพลิงและระบบผลิตไอน้ำอยู่ภายในโมดูลเดียวกัน ลดความซับซ้อนของระบบทำให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น สามารถหยุดการทำงานได้เองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน มีระบบระบายความร้อนไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้า

    อีกทั้งแร่ยูเรเนียมเป็นเชื้อเพลิงที่มีจำนวนมาก ราคาต่ำ ใช้ปริมาณน้อยแต่ให้พลังงานความร้อนมหาศาล ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 24 เดือน จึงจะหยุดเดินเครื่องเพื่อเปลี่ยนเชื้อเพลิงบางส่วน นอกจากนี้การออกแบบที่มีความปลอดภัยมากขึ้นทำให้พื้นที่ในการจัดเตรียมแผนฉุกเฉินลดลงด้วย โดยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่อาจมีรัศมีถึง 16 กิโลเมตร ขณะที่โรงไฟฟ้า SMR มีรัศมีน้อยกว่า 1 กิโลเมตร เท่านั้น

    สำหรับรับโรงไฟฟ้า Linglong One ในมณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถือเป็นโรงไฟฟ้า SMR บนพื้นดินเชิงพาณิชย์รุ่นแรกของโลก ซึ่ง กฟผ. มองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจและต้องเร่งศึกษา รวมถึงเทคโนโลยี SMR ของประเทศอื่น ๆ ซึ่งมีการพัฒนามากกว่า 80 แบบ จาก 18 ประเทศทั่วโลก ต้องนำมาเปรียบเทียบว่าเทคโนโลยีใดดีที่สุดและเหมาะสมกับประเทศไทย
    ควบคู่กับการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อบรรจุอยู่ในหลักสูตรสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงการทำงานและข้อดีของโรงไฟฟ้า SMR และเกิดการยอมรับ

    ด้าน กฟผ. ได้ศึกษาความเป็นไปได้และพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มานานกว่า 17 ปีแล้ว
    ส่วนการประเมินเงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า SMR คาดว่าจะสูงกว่าโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมประมาณ 2 - 3 เท่า แต่เนื่องจากโรงไฟฟ้า SMR มีอายุการใช้งาน 60 ปี และมีต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ต่ำมาก ดังนั้นหากคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุของโรงไฟฟ้าก็ถือว่าใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม และในอนาคตมูลค่าการลงทุนโรงไฟฟ้า SMR ก็จะถูกลงอีก ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้ามีราคาที่แข่งขันได้มากยิ่งขึ้น

    ส่วนแผนของการปรับเพิ่มเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่เป็นพลังงานทดแทน กฟผ.อยู่ในระหว่างการบริหารจัดพยายามเพิ่มสัดส่วนขึ้น โดยขณะนี้มีพลังงานหมุนเวียนทั้งสิ้นประมาณ 19% ในขณะที่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับล่าสุด ต้องการให้เพิ่มพลังงงานหมุนเวียนสูงถึง 51% เนื่องจากทั่วโลกต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ตามเป้าหมาย และต้องการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด หรือไฟสีเขียว อย่างกรณีการเข้ามาลงทุน Data Center หรืออุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องใช้ไฟฟ้ามากๆ จะต้องการไฟสีเขียวจากประเทศที่เข้ามาลงทุน หรือบางแห่งก็จะลงทุน SMR ควบคู่ไปด้วย ขณะที่การบริหารต้นทุนเพื่อดูแลการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟทีนั้น ในช่วงที่ผ่านมา กฟผ.เคยรับภาระค่าเอฟทีสูงสุดที่ 150,000 ล้านบาท แต่ในขณะนี้ได้ทยอยได้คืนมาบ้างเหลืออยู่ที่ประมาณ 80,000 กว่าล้านบาท ซึ่งทำให้ภาระหนี้ที่กฟผ. กู้มาเพื่อเสริมสภาพคล่อง 110,000 ล้านบาท ลดลงเหลือประมาณ 70,000 ล้านบาท ซึ่งในปีหน้า กฟผ.ก็จะพยายามรักษาและบริหารจัดการสภาพคล่องให้เพียงพอ

    ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3

    #กฟผ #โรงไฟฟ้า #ไฟฟ้า #พลังงานนิวเคลียร์ #พลังงานทดแทน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/8KeCs1joSKxEykNt/
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 7, 2024 เตรียมรับป่วน! โลกยุคทรัมป์เตือนสร้างความไม่แน่นอนกับเศรษฐกิจไทย ย้ายฐานการผลิตเข้าไทยยังต้องใช้เวลา เงินเฟ้อจ่อกลับมาหลอนทั่วโลก
    .
    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทรัมป์ได้รับชัยชนะเลือกตั้งสหรัฐฯ สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจไทย โดยนายทรัมป์ประกาศชัยชนะเลือกตั้งคว้าคะแนนเสียงข้างมากทั้ง 2 สภาฯ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ฯ ตอบรับเป็นบวก แต่ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 และพรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งในสภาบนและสภาล่าง (Republican Sweep) ส่งผลให้นโยบายต่างๆ ที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้มีแนวโน้มที่จะสามารถผลักดันให้ผ่านสภาฯ ได้ไม่ยากนัก ซึ่งหลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568 นโยบายเร่งด่วนที่คาดว่าจะเห็นใน 100 วันแรก ได้แก่ มาตรการปรับเพิ่มภาษีศุลกากรขาเข้า มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและครัวเรือนรวมถึงการต่ออายุมาตรการลดภาษีที่ประกาศใช้ในปี 2560 มาตรการกีดกันแรงงานอพยพ และมาตรการสนับสนุนการผลิตพลังงานฟอสซิลในประเทศ เป็นต้น
    .
    หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ออกมา ค่าเงินดอลลาร์ฯ ตอบรับแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ แตะระดับสูงสุดที่ 105.44 (6 พ.ย. ณ 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย) หรือแข็งค่าขึ้นราว 1.95% จากระดับปิดวันก่อนหน้า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 4.50% จากแนวโน้มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มีเพิ่มขึ้น คาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ที่ลดลง และความเสี่ยงทางการคลังที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับปรับสูงขึ้นโดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1,300 จุด (6 พ.ย. ณ 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
    .
    อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐฯ สูงขึ้น จากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าและมาตรการกีดกันแรงงานอพยพ ตลอดจนการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้น ในขณะที่มาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลและมาตรการสนับสนุนการผลิตในประเทศ รวมถึงแนวโน้มที่สหรัฐฯ อาจจะเพิ่มมาตรการกีดกันการค้ากับประเทศที่เป็นฐานการผลิตของจีน อาจช่วยสนับสนุนการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ซึ่งกว่าจะเห็นผลคงอาจจะต้องใช้เวลา ในขณะที่ในระยะสั้น อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับสูงและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงช้า ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญความเสี่ยงจาก Stagflation สูงขึ้น ซึ่งยังขึ้นอยู่กับมาตรการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่จะออกมาบรรเทาผลกระทบเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น
    .
    นโยบายกีดกันทางการค้าในภาพรวมและผลจากการเปลี่ยนแปลงซัพพลายเชนโลก ยังเป็นความเสี่ยงด้านต่ำต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย ในระยะสั้นๆ ไทยอาจได้รับประโยชน์จากจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯและการนำเข้าสินค้าจากไทยบางรายการเพื่อทดแทนสินค้าจีน ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลาร์เซลล์ ถุงมือยาง น้ำผลไม้ อุปกรณ์โทรทัศน์ PCA และของเล่น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไปข้างหน้า สินค้าส่งออกของไทยอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกมาตรการปรับเพิ่มภาษีศุลกากรขาเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ เนื่องจากไทยมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯสูงเป็นอันดับที่ 12 (ปี 2566) ในบรรดาคู่ค้าทั้งหมด ซึ่งคงต้องติดตามและผลสุดท้ายน่าจะต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างทางการไทยกับสหรัฐฯด้วย นอกจากนี้ การส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยอาจได้รับผลกระทบจากแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีนที่มีมากขึ้น
    .
    ไทยอาจได้อานิสงส์บางส่วนจากการย้ายฐานการผลิต แต่ผลบวกคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นเร็ว ดอกผลของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุน (FDI) ไปยังประเทศต่างๆ คงจะไม่เกิดขึ้นในทันที และการพิจารณาเข้าไปลงทุนของผู้ประกอบการ ยังขึ้นกับอีกหลายเงื่อนไข ซึ่งนอกจากประเด็นเรื่องต้นทุนและโอกาสในการสร้างรายได้ระยะกลางของแต่ละสินค้าในแต่ละประเทศแล้ว คงอยู่ที่ว่าประเทศนั้นๆ จะถูกเรียกเก็บอัตราภาษีจากสหรัฐฯ เท่าใด และการถูกตรวจสอบว่าเข้าข่ายเป็นบริษัทจีนหรือเกี่ยวข้องกับซัพพลายเชนของจีนมากน้อยเพียงใดด้วย
    .
    สำหรับ FDI นั้น การผลิตรถยนต์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในไทย และอีกหลายประเทศในอาเซียน (ตลอดจน เม็กซิโก อินเดีย ยุโรปตะวันออก) แต่รถยนต์ BEV ที่เริ่มลงทุนและผลิตในไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายจีน คงจะส่งออกไปสหรัฐฯ (รวมถึงสหภาพยุโรป) ได้ลำบาก รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดที่เหลืออย่างเช่นอาเซียนก็คงต้องเผชิญการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่การส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ของไทยไปยังสหรัฐฯ ในอนาคตก็อาจเสี่ยงถูกเรียกเก็บภาษีเช่นเดียวกับกรณีแผงโซลาร์เซลล์ ยังไม่นับว่าไทยยังมีอุปสรรคด้านความพร้อมที่จำกัด (พลังงานสะอาด แรงงานทักษะสูง เป็นต้น) ต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีไปสู่ความต้องการชิปอัจฉริยะที่ซับซ้อนขึ้นอย่าง AI, GenAI
    .
    ผู้ผลิตสินค้าไทยในกลุ่มเคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง (เหล็ก) สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม มีแนวโน้มเผชิญการแข่งขันกับสินค้านำเข้าและ/หรือการเข้ามาลงทุนในไทยจากจีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการผลิตที่มากกว่าความต้องการในประเทศของสินค้าจีน ประกอบกับกำแพงภาษีจากชาติตะวันตก ทำให้จีนต้องหาตลาดส่งออกเพื่อระบายสินค้าและหล่อเลี้ยงการประกอบธุรกิจ จะยิ่งเพิ่มการแข่งขันให้กับสินค้าไทยทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
    .
    อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3YW90uX
    .
    Facebook: https://web.facebook.com/btimesch3
    YouTube: https://www.youtube.com/@BTimes_ch3
    X: https://twitter.com/BTimes_ch3
    Threads: https://www.threads.net/@btimes.ch3
    Website: https://btimes.biz
    Podcast : https://btimes.podbean.com/
    TikTok : https://www.tiktok.com/@btimes_ch3
    .
    #โดนัลด์ทรัมป์ #กสิกรไทย #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #นโยบายการค้า #ส่งออก #ภาษี #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/nyvne6m3AWRPyHCC/
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 7, 2024 นี่ก็ปลด! ยักษ์ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ปลด 4,700 คนในยุโรป แชฟเฟลอร์ชี้เกินกว่าครึ่งหนึ่งถูกปลดในเยอรมนี ต้นทุนสูง ตลาดรถยนต์ยันรถอีวีซบเซาในยุโรป การแข่งขันจากจีนรุนแรง

    แชฟเฟลอร์ (Schaeffler) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนรถยนต์ชื่อดังจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่มากถึง 4,700 คนในทวีปยุโรป ในจำนวนดังกล่าวมีถึมากกว่า 50% หรือราว 2,800 คนที่จะถูกปลดออกจากโรงงานใน 10 แห่งในประเทศเยอรมนี สาเหตุจากกำไรจากการดำเนินกิจการในไตรมาสที่ 3 ตกต่ำลงอย่างมากเกือบถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด

    การปลดพนักงานครั้งใหญ่ดังกล่าวเป็นผลกระทบจากภาวะตลาดรถยนต์ในทวีปยุโรปซบเซาต่อเนื่อง ต้นทุนในการผลิตสูง การจัดการกับกะพนักงานในการทำงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี ที่ได้รับผลพวงจากตลาดรถอีวีชะลอตัวจากความต้องการรถอีวีที่ซบเซา และการแข่งขันจากค่ายรถสัญชาติจีน

    แชฟเฟลอร์ เปิดเผยต่อไปว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายด้วยการปลดพนักงานในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 290 ล้านยูโร หรือกว่า 315.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11,040 ล้านบาทต่อปีไปจนถึงปี 2029

    #มิชลิน #ยาง #ยางรถยนต์ #ฝรั่งเศส #เศรษฐกิจ #ตกงาน #ปลดพนักงาน #BTimes #ชิ้นส่วนรถยนต์ #เยอรมนี

    https://www.facebook.com/share/p/KV7PwzWgbR4dvfLU/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 7, 2024 คนเติมว่าไง! กบง. ประกาศปรับสูตรน้ำมันดีเซล เบรกราคาพุ่งหวังช่วยค่าของชีพประชาชน เริ่ม 21 พฤศจิกายนนี้

    นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เพื่อพิจารณาแนวทางการกำหนดสัดส่วนของน้ำมันไบโอดีเซล B100 ในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) สูงขึ้นมาก

    ภายหลังจากการประชุม นายพีระพันธุ์ฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคา CPO ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาไบโอดีเซลอยู่ที่ประมาณ 48 บาทต่อลิตร หรือ 2 เท่าของราคาเนื้อน้ำมัน ทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลสูงขึ้นตามไปด้วย และจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลที่ขายให้ประชาชนมีราคาสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและเพื่อให้การจัดการราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิ

    ดังนั้น ที่ประชุม กบง. จึงมีมติเห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และไม่สูงกว่าร้อยละ 7 โดยปริมาตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 19 และไม่สูงกว่าร้อยละ 20 โดยปริมาตร ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใด

    #กบง #ราคาดีเซล #ไบโอดีเซล #ราคาน้ำมัน #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/BnpQ9aNDn1HRJqe4/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 6, 2027 ด่วน! โดนัลด์ ทรัมป์ กวาดคะแนนแตะ 277 เสียง ชนะเลือกตั้งเป็นว่าที่ปธน.สหรัฐคนที่ 47 ทรัมป์ชนะเลือกตั้งรัฐวิสคอนซิน ได้อีก 1 ใน 7 รัฐสวิง กมลา แฮร์ริส ได้ 244 คะแนนคณะผู้เลือกตั้ง
    สำนักข่าวเอบีซี นิวส์ (ABC News) สำนักข่าวเอพี (AP News) และสำนักข่าวชื่อดังอีกหลายแห่ง รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อายุ 78 ปี อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 กวาดชัยชนะในรัฐวิสคอนซินเป็นผลสำเร็จ ได้คะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 10 เสียง ส่งผลให้คะแนนรวมคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Voters รวมสะสมแตะ 277 คะแนน ชนะนางกมลา แฮร์ริส ที่ได้คะแนนสะสมที่ 244 เสียง ขณะที่คะแนนเสียงจากการลงคะแนนของประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 70,927,355 คะแนน หรือ 51% ส่วนนางกมลา แฮร์ริส ได้ 66,017,679 คะแนน หรือ 47.5%
    ทำให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ชนะการเลือกตั้งขึ้นเป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 อย่างเป็นทางการ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกลับมาชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกในรอบกว่า 132 ปีที่สามารถกลับมาชนะได้หลังพลาดการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 เมื่อปี 2020 ในปี 1892 เป็นปีที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ สามารถกลับมาชนะเลือกตั้งในวาระที่ 2 โดยทิ้งช่วงห่าง 1 สมัย
    ขณะที่นายเจดี แวนซ์ ซึ่งลงชิงชัยในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐ คู่กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในครั้งนี้ ได้กลายเป็นว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐที่อยู่ในกลุ่มวัยมิลเลนเนียมในทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา
    ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวฟ๊อกซ์นิวส์ (Fox News) เป็นสำนักข่าวในสหรัฐอเมริกาแห่งแรก ที่ประกาศว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 ได้รับการคาดการณ์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 หรือคนที่ 47
    สำนักข่าวเอพี (AP News) รายงานวันนี้ 6 พฤศจิกายน 2024 เวลา 02.00 น. ในกรุงวอชิงตัน ดีซี หรือตรงกับเวลา 14.00 น. ตามเวลาไทย พบว่า สัดส่วนคะแนนเสียงที่คาดการณ์เป็นคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง หรือ Electoral Voters ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ที่ 248 คะแนน ขณะที่นางกมลา แฮร์ริส อยู่ที่ 214 คะแนน หากใครได้รับคะแนนดังกล่าวถึง 270 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ในปี 2024 นี้ (มีต่อหน้า 2/2)
    https://www.facebook.com/share/p/ifjyoFiczFrcsdJo/
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nov 7, 2024 สวนกำลังซื้อ! ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นไม่ชัด น้ำท่วมกระทบกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น มองโค้งสุดท้ายปลายปียังแข่งขันสูง จัดโปรฯชิงลูกค้า

    น.ส.ถิรพร สุวรรณสุต ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร สายงานส่งเสริมธุรกิจ บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิและผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมถึงต่างจังหวัดในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา (ก.ค.-ก.ย.) ค่อนข้างซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และเป็นช่วงฤดูฝนซึ่งผู้บริโภคต่างจังหวัด ส่วนใหญ่ไม่นิยมปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ นอกจากนี้หลายๆ จังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำ ทำให้กระทบต่อกำลังซื้อและความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก

    ดังนั้นในช่วงโค้งสุดท้ายไตรมาส 4 ปีนี้ (ต.ค. - ธ.ค.) นับเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งหวังชิงแชร์ส่วนแบ่งตลาดและปิดยอดขายให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ก่อนปิดศักราช โดยจะเห็นว่าบรรดาผู้ประกอบการชั้นนำหลายๆ ค่ายต่างแข่งขันจัดโปรโมชั่นกันอย่างคึกคัก พร้อมๆ กับมีแบบบ้านใหม่ออกมาเพื่อจะกระตุ้นกำลังซื้อและเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของตนเอง

    อย่างไรก็ดี บริษัทฯประเมินว่าตลาดรับสร้างบ้านในช่วงท้ายปีนี้ มีสัญญาณที่ดีจากปัจจัยบวกที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา ทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง การขยับฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ แนวโน้มการเข้ามาลงทุนของบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และการช่วยกันกระตุ้นกำลังซื้อของบรรดาผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน ฯลฯ

    #ธุรกิจอสังหา #รับสร้างบ้าน #เศรษฐกิจไทย #กำลังซื้อ #BTimes

    https://www.facebook.com/share/p/JrjiqmpMYqdMhP3B/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่พลิกโผ! เฟดหั่นดอกอีก 0.25%! ทองฟื้นแรง ดีด 2.5% กลับมาเหนือ $2,700 - ทำเอาคนเล่นทองหัวใจจะวาย! หุ้นยังล่าสถิติใหม่ไม่หยุด "แรงส่ง" จากทั้งทรัมป์ทั้งเฟด! ประธานเฟดลั่น "ทรัมป์ไล่ก็ไม่ออก" - นั่งเกาะเก้าอี้แน่น!
    รถไฟเหาะจริงๆ --- วานนี้ คนเล่นทองแตกตื่นยกใหญ่ หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ทองถูกฉุดกระชากโหด วันที่ 6 พ.ย. ร่วงจาก high สู่ low ถึง 3.5% หลุดต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำเอาขวัญหนีดีฝ่อกันหมด
    (แต่เพจเดือดฯ ย้ำเสมอ ใครจะเป็นประธานาธิบดี ทองก็ยังเทรนด์ขึ้นยาวๆ --- ซึ่งก็ไม่ใช่หาญกล้าฟันธงเดี่ยวๆ เพราะสำนักไหนๆ วาณิชธนกิจใดๆ ก็พยากรณ์เช่นนี้กันทั้งนั้น * แล้วยิ่งทรัมป์มา ทองจะยิ่งบินกว่าด้วยซ้ำ ; เทรนด์ใหญ่ไม่ใช่ระยะสั้น)
    สำหรับระยะสั้น คนเสียขวัญ ทองไทยหล่นตั้ง 700 บาท!
    แต่วานนี้ ด็อกเตอร์เศรษฐศาสตร์ทรงผมหยิกหยอยแนวเกาหลีใต้ผู้มีใบหน้าแฉล้มจ้ำม่ำคล้ายผู้นำเกาหลีเหนือ รีบทักดังลั่น "อย่าเพิ่งตกใจ เดี๋ยวคืนนี้เฟดลดดอก ทองก็ขึ้น แถมช่วงนี้ดอลลาร์แข็งอยู่ ทำทองไทยวูบ นิ่งๆ ไว้"
    (ผมกลับไม่ได้มองระยะสั้น ไม่มั่นใจขนาดนั้น เพราะบางทีตลาดก็ react แปลกๆ ในระยะรายวัน แต่เทรนด์ก็เชื่อว่าทองขึ้นยาวอยู่ดี)
    จริงดังด็อกเตอร์ปริญญา 6 ใบกล่าว
    คืนวานนี้ ทองเด้ง จาก low สู่ high 2.5% กลับมายืนเหนือ 2,700 ออนซ์/ดอลลาร์แล้ว
    หุ้นอเมริกาก็แทบไม่ต้องสงสัย แค่ทรัมป์ก็กำลังภายในแกร่งกล้าแล้ว ยังมีพลังลมปราณจากเฟดอีก แล้วจะไม่ขึ้นได้ยังไงไหว
    S&P 500 ฟาดสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกแล้วและอีกแล้ว ปิดตลาดที่ 5,973 จุด
    เท่ากับว่าปีนี้ ทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้ว 49 ครั้ง! (คือมันแรงของมันอยู่แล้ว)
    Nasdaq ก็มาตามกัน ไม่น้อยหน้า ฟันสถิติใหม่ต่อเนื่อง ที่ 19,269 จุด
    Dow Jones ทรงที่สถิติสูงสุดเดิมของวันก่อนหน้าที่เพิ่งทำสถิติมา ที่ 43,729 จุด
    ด้านบิตคอยน์ ก็จะเหลือเหรอ สถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน พุ่งไป 76,980 ดอลลาร์
    ดอลลาร์ก็ไล่เลี่ยระดับแข็งสุดในรอบ 4 เดือน
    ตรงนี้จะคานๆ กันหน่อย ทรัมป์เพิ่งผลักให้แข็งขึ้น แต่เฟดก็จะดึงให้อ่อนลง แต่ผลระยะสั้นยังไม่เท่าไหร่ ง้างๆ กันอยู่
    ทรัมป์กลับมาก็จะหวือหวาหน่อย
    รายละเอียดนิด
    สรุป เฟด แบงก์ชาติอเมริกาอภิมหาอำนาจ ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ในช่วง 4.5-4.75%
    ขณะที่ชะตาของประธานเฟด ก็ยังคลุมเครือ
    ก่อนนี้ ตอนที่เฟดขึ้นดอกรัวๆ แรงๆ ทรัมป์เคยออกมาโวยว่า ถ้าเขาเป็นผู้นำ เขาปลดแน่!
    (แต่ภาพก็ต่าง ตอนนู้น เงินเฟ้อมหาประลัย เฟดต้องแก้ด้วยการขึ้นดอก แต่ตอนนี้เป็น cycle ของดอกขาลงแล้ว ประธานเฟดก็แค่ทำหน้าที่ลดดอกไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่ขัดอะไรกับทรัมป์ เว้นแต่ว่าลดช้าไม่ทันใจ)
    ทีนี้ นักข่าวก็ถาม (เจอโรม พาวเวลล์ จู่ๆ คงไม่ได้มาบอกเอง)
    จะลาออกไหมถ้าทรัมป์กดดัน ซึ่งก็แน่ล่ะ ก็ต้องตอบว่า "ไม่" อยู่แล้ว --- ข่าวฝรั่งก็เอามาเล่นพาดหัวซะใหญ่โต
    ก็น่าติดตาม ทรัมป์มานักข่าวก็ชอบ เพราะมีสีสัน
    เทรดเดอร์ก็จะยิ่งชอบ เพราะราคาสินทรัพย์ก็จะขึ้นๆ ลงๆ --- ยิ่งสวิงเยอะ ก็ยิ่งมีอะไรให้เล่นให้ลุ่น
    สนุกกันอีก 4 ปี
    https://www.bloomberg.com/news/arti...meeting-to-support-economy?srnd=homepage-asia
    https://www.bloomberg.com/news/arti...rom-fed-decision-to-cut-rate-by-quarter-point
    https://www.facebook.com/share/p/Ra5Jchrz2QHTPXju/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดขึ้นขณะนี้
    ญี่ปุ่น ชิโกกุ ไฟดับเป็นวงกว้าง เกือบ 1 ล้านครอบครัว
    ยังไม่ทราบสาเหตุ

    ไต้หวัน เกาสง ไฟเริ่มดับ ไม่ทราบสาเหตุ 3000 ครอบครัว
    #ภาพในความเห็น
    FB_IMG_1731156302708.jpg FB_IMG_1731156311395.jpg FB_IMG_1731156346732.jpg
    https://www.facebook.com/share/p/VYih9pHeaqc4z8X5/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,657
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูข่าวพวกนี้แล้ว เขาพยายามชักจูงสังคมให้เชื่อว่าเขาไม่ได้ทำผิดหรือเปล่า อย่าลืมว่า พวกเขาเป็นพวกใช้จิตวิทยาในการชักจูงคนให้หลงเชื่อ การที่พยายามเอาคลิปว่าคนนู้นคนนี้ มาตบทรัพย์มาเผยแพร่ และพยายามบอกว่าพวกเขาบริสุทธิ์ มีเจตนาทำอะไร ใช้จิตวิทยาแบบไหนมา ชักจูงคน คนตบทรัพย์ก็ผิด แต่พวกเขาก็ทำถูกต้องหรือ สื่อไม่ควร ต้องการข่าว ว่ามีคนดังคนไหน เข้าข่ายบ้างจะได้ขายข่าว แต่ต้องสนใจว่าคนพวกนี้ต้องการอะไรด้วย บรรดาบอสๆ รวมถึงทนายบอส
    คนพวกนี้ผมว่า ฉลาด ใช้จิตวิทยามาใช้ ชักนำ


     

แชร์หน้านี้

Loading...