ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ตะกั่วป่าอากาศเริ่มหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา


ปลายฝนต้นหนาว ในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า พบหมอกขาวทอดตัวยาวจากภูเขาสู่พื้นดินท่ามกลาง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

ผู้สื่อข่าวได้ใช้อากาศยานไร้คนขับขึ้นบินสำรวจบริเวณพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พบว่า ในช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูปลายฝนต้นหนาว ฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากฝนทิ้งช่วงหลายวัน เช้าวันนี้สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น มีพระอาทิตย์กำลังขึ้นจากภูเขาท่ามกลางสายหมอกที่ทอดยาวจากภูเขาลงสู่พื้นล่าง ไหลลงทะเลอย่างสวยงาม

ในช่วงที่สภาพอากาศโปร่งใส ไม่มีฝนตกท่ามกลาง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ทาง จ.พังงา มีสถานที่ท่องเที่ยวชมทะเลหมอกภาคใต้ ในพื้นที่ภูตาจอ อ.กะปง และเขาไข่นุ้ย อ.ท้ายเหมือง ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุดกันเป็นจำนวนมาก

สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

โรคไหม้คอรวงระบาด เกษตรกรทุกข์ โรงสีไม่รับซื้อข้าว


ชาวนาโคราชทุกข์หนัก ประสบปัญหาโรคไหม้คอรวงข้าวระบาด เสียหายแล้ว 18,000 ไร่ แถมโรงสีข้าวไม่ยอมรับซื้อข้าว

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีหลายรายในอำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา ประสบกับปัญหาโรคไหม้คอรวงข้าวระบาดในแปลงนา โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข. ซึ่งสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไหม้คอรวงข้าว เบื้องต้นเกิดจากใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวจากแหล่งที่เกิดโรคไหม้ฯ ในปีที่แล้วมาใช้ทำพันธุ์ในปีนี้ อีกทั้งปัญหาฝนทิ้งช่วง ส่งผลทำให้ต้นข้าวหยุดการเจริญเติบโต เกิดรอยไหม้บริเวณคอรวงข้าว ทำให้คอรวงข้าวแห้งตาย และเมล็ดลีบ ไม่ให้ผลผลิต จึงไม่สามารถส่งขายให้กับโรงสีข้าวได้

นายพุตฐิพงษ์ เพ็ญกาน อายุ 63 ปี ชาวนาในตำบลเมืองยาง บอกว่า นาข้าวที่กำลังออกรวงขณะนี้ของตนประสบปัญหาโรคคอรวงระบาดทำให้ผลผลิตหยุดการเจริญเติบโต เมล็ดข้าวลีบ เสียหายไปแล้วกว่า 50 ไร่ ซึ่งโรคนี้กำลังระบาดหนักทั้งอำเภอเมืองยาง มีเกษตรกรได้แจ้งลงทะเบียนความเสียหายกับทางสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองยางแล้ว 18,000 ไร่ ทางชาวนาไม่สามาถนำผลผลิตข้าวส่งขายให้กับโรงสีข้าวได้ จำเป็นต้องแบกรับภาระหนี้สินของ ธกส. จึงวอนให้ทางรัฐบาลหาแนวทางช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

กรมชลประทาน วอนทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด


กรมชลประทาน วอนทุกภาคส่วนร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด จากสภาพฝนที่ตกน้อยกว่าค่าปกติ ตลอดช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้อ่างเก็บน้ำหลายแห่งทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (7 พ.ย. 62) สถานการณ์น้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกัน 50,660 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างรวม เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 26,606 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของความจุอ่างรวม ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว เขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนลำแซะ จะเน้นสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย-บำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมกันประมาณ 11,998 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น ร้อยละ 48 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีน้ำใช้การได้ประมาณ 5,302 ล้าน ลบ.ม. และตามข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้เกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย หันมาเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนการเพาะปลูกข้าว- นาปรัง โดยจะจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ และไม้ผลไม้ยืนต้นเท่านั้น เนื่องจากสภาพน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด

ทั้งนี้ กรมชลประทานขอวอนทุกภาคส่วน ให้ร่วมกันใช้น้ำตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้งที่วางไว้อย่างเคร่งครัด และขอให้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำให้มากที่สุด ใช้น้ำทุกหยดอย่างรู้คุณค่า เพื่อให้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำตลอดฤดูแล้งไปจนถึงต้นฤดูฝนปีหน้า

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ไทยตอนบนมีหมอก เหนือ อีสาน เย็นลง ใต้ฝนต่อเนื่อง กทม.ตก 10%


กรมอุตุฯ เผย ประเทศไทยตอนบนมีหมอก ภาคเหนือ อีสานอากาศเย็นลง ส่วนภาคใต้มีฝนต่อเนื่อง กทม.ตก 10% - ประกาศ"พายุระดับ4(โซนร้อนรุนแรง) “นากรี”

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนบางแห่ง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา สำหรับภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

อนึ่ง พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) “นากรี”(NAKRI) ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนกลาง พายุนี้เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงใต้อย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. 2562 โดยพายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยในระยะนี้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้าและมีฝนบางแห่ง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าโดยอุณหภูมิจะลดลง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) “นากรี” (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2562)”
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 08 พฤศจิกายน 2562

เมื่อเวลา 04.00 น.ของวันนี้ (8 พ.ย. 2562) พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) “นากรี” มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 12.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.0 องศาตะวันออก พายุนี้เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงใต้อย่างช้าๆ ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. 2562 ขอให้ผู้ที่เดินทางไปประเทศเวียดนามตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พายุนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในระยะนี้ จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

อนึ่ง พายุระดับ 4 (ไซโคลนรุนแรง) “บุลบุล” ในอ่าวเบงกอลเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าประเทศอินเดียตอนบนและบังคลาเทศในช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. 2562 ขอให้ผู้ที่เดินทางไปบริเวณดังกล่าว ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พายุนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 05.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 11.00 น.

ข่าวโดย INN วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

ยิ่งกว่าในหนัง! จับสายลับซาอุ แฮคทวิตเตอร์
​

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2562​

 

บังกลาเทศอพยพประชาชน 100,000 คน หนีภัยพายุไซโคลนบุลบุล


ธากา 9 พ.ย. – เจ้าหน้าที่บังกลาเทศ อพยพประชาชนประมาณ 100,000 คน จากหมู่บ้านบริเวณชายฝั่งทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและจากบริเวณหมู่เกาะต่าง ๆ ในขณะที่พายุไซโคลนบุลบุล กำลังจะพัดขึ้นฝั่งบังกลาเทศในวันนี้

สำนักอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศ ขอให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและท่าเรือ 2 แห่ง ยกระดับการเตือนภัยไปอยู่ที่ระดับสูงสุด เนื่องจากคาดว่า พายุไซโคลนจะทำให้ให้เกิดพายุคลื่นซัดฝั่ง หรือ สตอร์ม เซิร์จ สูง 2 เมตรในบริเวณเขตชายฝั่งทะเล พายุไซโคลนบุลบุล มีความเร็วลมสงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวเพื่อขึ้นฝั่งใกล้กับซันดาร์บันส์ ป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดในโลก คาดว่าบุลบุล จะเข้าถึงชายฝั่งทะเลบังกลาเทศในเวลา 8.00 น. ตามเสลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย และทางการบังกลาเทศมีแผนการจะอพยพประชาชนราว 1.5 ล้านคนก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่สั่งระงับการสอบของโรงเรียนทั่วประเทศ ยกเลิกวันหยุดของเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งและยังยกเลิกงานเทศกาลที่มีคนหลายหมื่นคนเข้ามาเที่ยวที่ซันดาร์บันส์ นอกจากนั้น ท่าเรือสองแห่งคือมองกลาและจิตตะกองก็ระงับการให้บริการทั้งหมดด้วย อาสาสมัครราว 55,000 คน ถูกระดมมาช่วยแจ้งเตือนประชาชนตามบ้านทีละหลังให้ทราบเกี่ยวกับอันตรายของพายุไซโคลนลูกนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ อังกฤษลงพื้นที่น้ำท่วม


อังกฤษ 9 พ.ย.-นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษเดินทางลงพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ในเมืองแมทล็อค ในเขตดาร์บี้ไซส์ เพื่อพบปะผู้ประสบภัย

โอกาสนี้ผู้นำอังกฤษกล่าวชื่นชมหน่วยงานฉุกเฉินระดับท้องถิ่น ที่สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมได้เป็นอย่างดี และบอกว่ารัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิงเคราะห์ร้ายที่ถูกกระแสน้ำพัดไปในระหว่างที่เกิดฝนตกหนัก โดยเขตยอร์คไชร์และมิดแลนด์ ได้รับผลกระทบหนักสุด จนถึงขณะนี้ยังมีพื้นที่ 6 จุดที่ทางการยังมีคำเตือนให้ระวังอันตรายจากน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำออสเตรเลีย กังวลสถานการณ์ไฟป่า


ออสเตรเลีย 9 พ.ย.-นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริซัน ของออสเตรเลียแถลงว่า ทางการมีความกังวลต่อสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกว่า อาจจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

หลังจากที่ทางการท้องถิ่นรัฐนิวเซาธ์เวลส์ รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 2 คน มีผู้สูญหายอีก 7 คน บ้านเรือนถูกไฟเผาวอดกว่า 150 หลัง และจนถึงขณะนี้ยังมีไฟป่าปะทุอยู่กว่า 70 จุด ทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งอยู่ขึ้นไปทางเหนือเวลานี้ประชาชนหลายพันคนในเมืองตากอากาศนูซา ชายฝั่งซันไชน์โคสต์ ต้องอพยพหนีไฟป่าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย

เรียกเก็บเนื้อวัวบดในสหรัฐเกือบ 60,000 กก.ที่อาจปนเปื้อนพลาสติก


วอชิงตัน 8 พ.ย.- สำนักงานบริการตรวจสอบและความปลอดภัยด้านอาหาร กระทรวงเกษตรสหรัฐประกาศเรียกเก็บเนื้อวัวบดที่เป็นเนื้อดิบประมาณ 130,464 ปอนด์ (ราว 59,177 กิโลกรัม) เนื่องจากอาจมีพลาสติกปนเปื้อน

กระทรวงเกษตรสหรัฐแถลงว่า ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในข่ายเรียกเก็บคือเนื้อวัวบดดิบตรา Nature’s Rancher ชนิดเลี้ยงด้วยหญ้าอย่างเดียว ประกอบด้วยเนื้อวัวไร้มันร้อยละ 85 และไขมันร้อยละ 15 และชนิดเลี้ยงด้วยหญ้าอย่างเดียว ประกอบด้วยเนื้อวัวไร้มันร้อยละ 93 และไขมันร้อยละ 7 เป็นลอตที่ต้องใช้หรือแช่แข็งภายในวันที่ 24 ตุลาคม, 31 ตุลาคม, 4 พฤศจิกายน, 7 พฤศจิกายน และ 11 พฤศจิกายน ปีนี้ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกส่งไปตามศูนย์กระจายสินค้าและร้านค้าปลีกในรัฐโคโลราโด รัฐคอนเนตทิคัต รัฐจอร์เจีย รัฐอิลลินอยส์ และรัฐแมริแลนด์ สาเหตุที่เรียกเก็บเพราะมีผู้บริโภคร้องเรียน แม้ยังไม่มีการยืนยันว่ามีผู้บริโภคได้รับผลกระทบก็ตาม พร้อมกับแนะนำผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปว่าไม่ควรบริโภค ส่วนผู้ที่กังวลว่าจะมีผลต่อสุขภาพควรไปปรึกษาแพทย์.- สำนักข่าวไทย

รัสเซียส่ง ฮ ทหารลาดตระเวนชายแดนซีเรีย-ตุรกี


มอสโก 8 พ.ย. – สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียส่งเฮลิคอปเตอร์ทหาร ออกลาดตระเวนเหนือพื้นที่ใกล้พรมแดนระหว่างซีเรียและตุรกี เพื่อช่วยปกป้องคุ้มครองกองกำลังรัสเซีย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าว

กองกำลังตุรกีและรัสเซียออกลาดตระเวนร่วมในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับตุรกี หลังจากตุรกีปฏิบัติการโจมตีข้ามพรมแดนกับกลุ่มกบฏซีเรียเมื่อเดือนก่อนเนื่องจากมองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคง

รายงานอ้างนักบินของกองทัพรัสเซียว่า เฮลิคอปเตอร์จะบินลาดตระเวนทุกวันในหลายเส้นทางที่ระดับความสูงราว 50-60 เมตร.- สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงในชิลี เผาอาคารมหาวิทยาลัยและปล้นโบสถ์


ซานติอาโก 9 พ.ย. – ผู้ประท้วงในชิลีจุดไฟเผาอาคารภายในมหาวิทยาลัย และเข้าปล้นโบสถ์แห่งหนึ่งเมื่อวานนี้ ในระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อร้องเรียนเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมและเศรษฐกิจในประเทศชิลี

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจ ที่วางเครื่องกีดขวางเพื่อปกป้องมหาวิทยาลัยเปรโดร เอ วัลดิเวย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลังคาไม้ของอาคารบริหารมหาวิทยาลัยที่มีอายุ 100 ปี ก็เริ่มมีไฟลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามจะเข้าดับไฟแต่ไม่สามารถเข้าไปถึงจุดต้นเพลิงได้เนื่องจากมีกลุ่มผู้ประท้วงขวางไว้ ในขณะเดียวกัน ไม่ห่างออกไปนัก กลุ่มผู้ประท้วงที่สวมผ้าปกคลุมศีรษะและใบหน้า ได้บุกเข้าปล้นโบสถ์ ลา อาซุนซีออน ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1876 ลากเอาเฟอร์นิเจอร์ออกมาไว้กลางแจ้งและจุดไฟเผา ก่อนหน้านี้ ประชาชนหลายหมื่นคนได้ออกไปชุมนุมกันที่จตุรัสพลาซา อิตาเลีย ซึ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการประท้วงของประชาชนที่ไม่พอใจเรื่องค่าแรงต่ำ ค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาและการดูแลสุขภาพสูง รวมทั้งระบบเศรษฐกิจสังคมที่พวกเขาเห็นว่าเอื้อกับเฉพาะคนร่ำรวยเท่านั้น

การประท้วงที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 20 ราย ในช่วงค่ำ ผู้ประท้วงปิดกั้นถนนหลายสายใกล้กับห้างสรรพสินค้าหรูหรา ที่เป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยและความรุ่งเรืองของชิลี และยังวางเครื่องกีดขวางและจุดไฟเผาไว้เครื่องกีดขวางไว้ ผู้ประท้วงร้องตะโกนคำขวัญต่อต้านประธานาธิบดีเซบัสเตียน พีเนรา ห้างสรรพสินค้าหรูแห่งนี้ต้องปิดให้บริการมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้วเนื่องจากเหตุไม่สงบ การประท้วงในชิลี เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เนื่องจากประชาชนไม่พอใจที่มีการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน ก่อนละลุกลามกลางเป็นการเผาทำลาย ปล้นร้านค้าและปะทะรายวันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ปล้นโบสถ์ในชิลี


ชิลี 9 พ.ย.-กลุ่มผู้ประท้วงในชิลี ใช้ผ้าคลุมศีรษะและปิดบังใบหน้า พากันก่อเหตุปล้นสะดมโบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่งในกรุงซานติอาโก้ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล

ผู้ก่อเหตุช่วยกันลากเอาม้านั่ง รวมทั้งรูปปั้นพระเยซูและรูปเคารพทางศาสนา ออกมาจากโบสถ์แล้วนำมากองไว้กลางถนนก่อนจะจุดไฟเผา เหตุการณ์วุ่นวายจากการประท้วงในชิลี เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เพราะไม่พอใจการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน แม้ว่ารัฐบาลยอมยกเลิกการขึ้นค่าโดยสารแล้ว แต่การประท้วงกลับบานปลายกลายเป็นการชุมนุมเรียกร้องสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งความเหลื่อมล้ำทางสังคม การชุมนุมที่เกิดขึ้นมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิต ไปแล้ว 20 คน.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงเผชิญกับการประท้วงสุดสัปดาห์ที่ 24 ในวันนี้


ฮ่องกง 9 พ.ย. – กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง เตรียมการที่จะจัดการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นสุดสัปดาห์ที่ 24 ติดต่อกันในวันนี้ ซึ่งจะมีการชุมนุมภายในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งทั่วฮ่องกงในวันอาทิตย์

ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้มีการผละงานในวันจันทร์และขอให้ประชาชนขัดขวางการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่เคยใช้มาแล้วในการประท้วงที่ผ่านมาแต่ไม่ได้ผลใดๆ มากนัก การชุมนุมในสุดสัปดาห์นี้จะเริ่มต้นด้วยการรวมตัวกันที่เพื่อร่วมรำลึกวาระครบรอบ 30 ปี ของการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินในเยอรมนี และการสนับสนุนผู้ที่เสียสละ ตำรวจฮ่องกงให้อนุญาตให้จัดการชุมนุมที่สวนสาธารณะทามาร์ ซึ่งเป็นการอนุญาตที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในการชุมนุมประท้วงที่ผ่านมาหลายสัปดาห์ การจุดเทียนเพื่อแสดงความไว้อาลัยนักศึกษาที่เสียชีวิตเมื่อวานนี้ หลังจากที่ตกตึกจากชั้น 3 ลงมาที่ชั้น 2 ของที่จอดรถในระหว่างการชุมนุมเมื่อวันจันทร์ ได้บานปลายกลายเป็นการไล่จับและปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ประท้วง

ตำรวจยิงกระสุนจริงเตือนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีอาวุธ ตำรวจกล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ประท้วงกลุ่มนี้ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่พยายามจะเข้ากำจัดสิ่งกีดขวางบนถนนในบริเวณเขตเกาลูนในช่วงคืนวานนี้ ซึ่งถือว่าเป็นภัยที่อาจจะส่งผลถึงชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้ การเสียชีวิตของนักศึกษา ที่ถือเป็นรายแรกนี้เชื่อว่าจะทำให้ความไม่พอใจตำรวจเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ตำรวจถูกกดดันกล่าวหาว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการจัดการกับผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย

สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ที่สนับสนุนประชาธิปไตยถูกจับกุม


ฮ่องกง 9 พ.ย. – ตำรวจฮ่องกงกล่าววันนี้ว่า ได้จับกุมสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงที่สนับสนุนแนวทางประชาธิปไตย 3 คน จากการทะเลาะวิวาทกันภายในสภานิติบัญญัติ

ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงเตรียมจัดการชุมนุมเป็นสุดสัปดาห์ที่ 24 ติดต่อกันในวันนี้ ตำรวจได้ตั้งข้อหาสมาชิกสภานิติบัญญัติ 3 คน ในขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 4 คนถูกสั่งให้ไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจในวันนี้เพื่อรับฟังข้อกล่าวหา ทั้งหมดอาจถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี หากพบว่ามีความผิดจริง ข้อกล่าวหาของตำรวจเกี่ยวข้องกับเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในคณะกรรมการของสภานิติบัญญัติเมื่อเดือนพฤษภาคม ในขณะที่สมาชิกสภานิติบัญญัติที่สนับสนุนประชาธิปไตยพยายามหยุดยั้งร่างกฎหมายที่เป็นข้อขัดแย้งมิให้มีการอภิปรายในสภานิติบัญญัติ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเปิดทางให้มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ซึ่งร่างกฎหมายนี้เป็นชนวนให้เกิดการประท้วงในฮ่องกงมาจนถึงในขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ม็อบฮ่องกงทำร้ายชาวบ้าน


ฮ่องกง 9 พ.ย.- ชายคนหนึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง ทำร้ายร่างกายในย่านซึง กวาน โอ วานนี้ ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุ

ชายคนหนึ่งถูกกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงทำร้ายร่างกายในย่านซึง กวาน โอ เมื่อวานนี้ หลังจากที่ชาวบ้านคนดังกล่าวร้องเรียนต่อกลุ่มผู้ประท้วงว่าได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจพากันรุมเตะ รวมทั้งใช้ร่มกระหน่ำตีชายคนดังกล่าวจนศีรษะแตก ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาระงับเหตุ

การชุมนุมครั้งนี้มีขึ้นใกล้กับอาคารจอดรถ ซึ่งมีนักศึกษาคนหนึ่งตกลงมาเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวานนี้นับเป็นผู้เสียชีวิตคนแรกจากการประท้วงตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดของนักศึกษาคนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงผลเลือกตั้งโบลิเวีย


ประท้วงผลเลือกตั้งโบลิเวีย

โบลิเวีย 9 พ.ย.-กลุ่มผู้ต่อต้านประธานาธิบดีอีโว โมราเลสของโบลิเวีย ยังคงชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งผลปรากฎว่า นายโมราเลส เอาชนะนายคาร์ลอส เมซา ไปด้วยคะแนนเกินกว่าร้อยละ 10 ทำให้ไม่ต้องจัดการเลือกตั้งรอบสอง

ขณะที่ประชาชนต่างคลางแคลงใจในการนับคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีการหยุดนับคะแนนไป 24 ชั่วโมง ก่อนจะเริ่มนับคะแนนใหม่ และประกาศให้นายโมราเลสเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเกินร้อยละ 10 การประท้วงที่เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 คนและบาดเจ็บกว่า 300 คน ขณะที่นายโมราเลสประกาศไม่ยอมลาออก ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้อง.-สำนักข่าวไทย

แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา เดินทางออกจากฝรั่งเศสแล้ว


ปารีส 9 พ.ย. – นายสม รังสี แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งเนรเทศตัวเองไปพำนักอยู่ในต่างประเทศ กล่าววานนี้ว่า เขากำลังขึ้นเครื่องบินเดินทางออกจากกรุงปารีสของฝรั่งเศสแล้ว หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีเขาถูกขัดขวางไม่ไห้ขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังกรุงเทพ

นายสม รังสี โพสต์ภาพถ่ายของเขาที่อาคารผู้โดยสารสนามบินแห่งหนึ่งพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องบินโดยมีคำบรรยายใต้ภาพว่า สม รังสี ขึ้นเครื่องบินจากกรุงปารีส เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางอีกแห่งแล้ว แต่เขาไม่ได้ระบุว่า เขาจะบินไปที่ใด ก่อนหน้านี้ นายสม รังสี กล่าวว่า เขาจะเดินทางถึงกัมพูชาภายในวันเสาร์เพื่อนำการชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน นายสม รังสี อาจจะถูกจับกุมหากเดินทางถึงกัมพูชา ในขณะที่ทางการกัมพูชากำลังกดดันกวาดล้างสมาชิกพรรคการเมืองของนายสม รังสี ที่ถูกทางการสั่งยุบไปแล้ว นอกจากนั้น นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาอีก 2 คน ก็ถูกทางการมาเลเซียควบคุมตัวไว้ในขณะที่กำลังพยายามเดินทางกลับมากัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศยุติการสังหารที่ไร้เหตุผล


มะนิลา 8 พ.ย. – รองประธานาธิบดีเลนี โรบรีโด ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่จากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ ของฟิลิปปินส์ ให้ดูแลการปราบปรามยาเสพติด กล่าววันนี้ว่าจะปรับรูปแบบการทำสงครามกับยาเสพติดเสียใหม่ และยุติการสังหารที่ไร้เหตุผล

นางโรบรีโด เป็นผู้ที่มักวิพาษ์วิจารณ์ตำหนิแนวทางการปราบปรามยาเสพติดของนายดูเตอร์เต้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้แต่งตั้งให้เธอรับผิดชอบการปราบปรามยาเสพติดแทนเขาในสัปดาห์นี้ ในขณะเดียวกัน มีผู้เตือนว่า การมาร่วมเป็นประธานกรรมการในการดูแลการปราบปรามยาเสพติดอาจจะเป็นกับดักของนายดูเตอร์เต้ที่จะทำให้นางโรบริโด เสี่อมเสียชื่อเสียง แต่เธอก็กล่าวแสดงความหวังว่า จะเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เธอกล่าวก่อนที่จะร่วมประชุมนัดแรกกับคณะกรรมการปราบปรามยาเสพติดว่า ขณะนี้ถึงเวลาที่จะต้องคิดเกี่ยวกับแผนการใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมแต่จะไม่มีคนที่ต้องตายอย่างไร้เหตุผลอีก เธอกล่าวว่า เธอเชื่อว่า ในปฏิบัติการของตำรวจทุกครั้ง อะไรย่อมเกิดขึ้นได้ แต่เธอไม่เห็นด้วยกับการจงใจและวางแผนที่จะฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ นางโรบริโด ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีแต่ได้รับเลือกตั้งมาแยกจากกันกับประธานาธิบดี และนับตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งในปี 2016 นายดูเตอร์เต้ ก็ประกาศจะกวาดล้างปัญหายาเสพติดให้หมดไปและมีการสังหารผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดไปหลายพันคน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มพิทิกษ์สิทธิมนุษยชน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐวิตกกรณีกัมพูชา กดดันปราบปรามฝ่ายค้าน


พนมเปญ 8 พ.ย. – สหรัฐกล่าววันนี้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการกดดันปราบปรามฝ่ายค้านของรัฐบาลกัมพูชา ซึงมีการจับกุมนักเคลื่อนไหวนับสิบคนและขัดขวางมิให้ผู้นำฝ่ายค้านเดินทางกลับประเทศ

โฆษกหญิงของสถานทูตสหรัฐในกัมพูชากล่าวว่า สหรัฐรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการจับกุม การข่มขู่และคุกคามสมาชิกของพรรคการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ขยายวงกว้างมากขึ้น รวมถึงมีความพยายามขัดขวางการเดินทางกลับประเทศของพลเมืองกัมพูชาที่ต้องการจะเข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองอย่างสันติ สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า มีการกดดันปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น ทางด้านองค์กรนิรโทษกรรมสากล ซึ่งเป็นกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนกล่าวตำหนิมาเลเซียและประเทศไทยที่ให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการขัดขวางมิให้ผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่อยู่ต่างประเทศเดินทางกลับกัมพูชา ไปร่วมการชุมนุมต่อต้านการบริหารประเทศ โดยพรรคการเมืองเดียวในกัมพูชา

นายสม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญที่ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ประกาศจะเดินทางกลับไปกัมพูชาในวันเสาร์ เพื่อนำการชุมนุม แต่เขากล่าววานนี้ว่า เขาถูกขัดขวางไม่ให้ขึ้นเครื่องบินเดินทางจากฝรั่งเศสมายังกรุงเทพ เพื่อเดินทางต่อไปยังกัมพูชา ในขณะที่ก่อนหน้านั้น 1 วัน มาเลเซียก็ควบคุมตัวผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาอีกคน แต่ก็ปล่อยตัวเธอพร้อมกับแกนนำฝ่ายค้านอีก 2 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ในกัมพูชา นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 48 ตนถูกจับกุมในปีนี้ นับตั้งแต่นายสม รังสี ประกาศแผนเดินทางกลับประเทศในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันประกาศเอกราชของกัมพูชา เพื่อเดินขบวนต่อต้านนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ตำรวจกล่าวว่า เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 20,000 นายจะเข้าดูแลความปลอดภัยในกรุงพนมเปญ เพื่อมิให้มีเหตุรบกวนการฉลองวันชาติและเทศกาลสงกรานต์ในวันอาทิตย์และวันจันทร์.-สำนักข่าวไทย

เผยอาลีบาบาหวังไอพีโอในฮ่องกง จะได้เงิน 3-4 แสนล้านบาท


ฮ่องกง 8 พ.ย.- แหล่งข่าวเผยว่า อาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนคาดหวังว่า จะระดมเงินได้ 10,000-15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 303,810-455,714 ล้านบาท) จากการเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ (IPO) ในตลาดฮ่องกง และจะเป็นไอพีโอครั้งใหญ่ที่สุดในฮ่องกงในรอบ 9 ปี

บลูมเบิร์กนิวส์อ้างแหล่งข่าวว่า อาลีบาบาจะเปิดการชี้แจงเรื่องนี้ในสัปดาห์หน้าตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หากระดมเงินได้สูงสุด 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็จะเป็นจำนวนเงินมากที่สุดนับจากเอไอเอ บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐระดมเงินได้ 20,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 622,917 ล้านบาท)จากการเปิดไอพีโอในฮ่องกงเมื่อปี 2553 อาลีบาบาซึ่งจดทะเบียนในตลาดแนสแด็กของสหรัฐอยู่แล้วตั้งใจจะเปิดไอพีโอในฮ่องกงช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนไปเพราะเกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ประกอบกับสงครามการค้าจีน-สหรัฐยังยืดเยื้อ

เอเอฟพีมองว่า การจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงน่าจะทำให้รัฐบาลจีนพอใจ เพราะรัฐบาลจีนส่งเสริมให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ของจีนทั้งในปัจจุบันและอนาคตจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใกล้บ้าน หลังจากที่เสียอาลีบาบาและไป่ตู้ไปให้ตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐ รัฐบาลจีนเปิดตัวคณะกรรมการนวัตกรรมวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนกรกฎาคม หวังดึงดูดบริษัทไฮเทคตามนโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ต้องการให้บริษัทจีนขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก.- สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

ตรวจค้น 19 จุดยะลา-ปัตตานี-คุม 6 ต้องสงสัย


เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการณ์ตรวจค้น 19 จุด ใน จ.ยะลา และ ปัตตานีพร้อมคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัยคนก่อเหตุยิงป้อม ชรบ. ที่ลำพะยา จ.ยะลา

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร จำนวน 200 นายเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย จำนวน 6 จุดในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รอยต่อเขต อ.เมืองยะลา และในพื้นที่จังหวัดยะลา จำนวน 13 จุด ซึ่งในการตรวจค้นครั้งนี้เป็นการขยายผลสอบปากคำจากผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 รายที่ถูกควบคุมตัวมาก่อนหน้านี้และจากพยานหลักฐานที่สำคัญ กรณีเหตุคนร้ายถล่มยิงป้อมจุดตรวจชุดคุ้มครอง ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จนทำให้มีชาวบ้านซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เสียชีวิตจำนวน 15 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พย.ที่ผ่านมา

ผลการปฏิบัติ ครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 9 ราย ทำประวัติ พบไม่เกี่ยวข้อง 3 ราย จึงได้ปล่อกลับ คงเหลือควบคุมผู้ต้องสงสัย จำนวน 6 ราย พร้อมของกลางเป็นผ้าพันแผล เป้สนาม จำนวนหนึ่ง จึงได้นำตัวทั้งหมดไปควบคุมตัวที่กองอำนวยการร่วมชั่วคราวภายใน วัดลำใหม่ อ.เมืองยะลา ซึ่งจากการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยทั้ง 6 คนนั้น ปรากฏว่าบางรายมีหมายจับและมีหมาย พ.ร.ก. แต่ยังมีอีกบางส่วนที่เชื่อว่าน่าจะไหวตัวหลบหนีไปก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าคงหนีได้ไม่ไกลและไม่มีทางหลบหนีได้

สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวนั้น จากการตรวจสอบจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง บางรายมีหมายจับและมีหมาย พรก. ซึ่งกำลังตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง โดยเน้นย้ำในการใช้หลักการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานทั้งอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน ผลเลือดของคนร้ายที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม การเปิดแผนครั้งนี้ยังคงมีต่อเนื่อง ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้ติดตามไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งล่าสุด มีรายงานว่า ได้เบาะแสคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังหลบซ่อนตัวในพื้นที่ของเป้าหมายที่กำลังจะตรวจค้น โดยพบว่ามีแนวร่วมในพื้นที่เตรียมการที่จะเคลื่อนย้ายหลบหนีพร้อมกับคนอื่น ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการกระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดแล้ว เตรียมเข้าจู่โจมอีกครั้ง เชื่อว่าน่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มแน่นอน

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2562

คุมตัวต้องสงสัยถล่ม ชรบ.ยะลา เพิ่ม 12 ราย


จนท.คุมตัวผู้ต้องสงสัยถล่ม ชรบ.ยะลา เพิ่ม 12 ราย หลังปูพรมตรวจค้น 13 จุดในเขตยะลา-ปัตตานีเช้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำโดย พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผบ.ฉก.ทพ.47/ผบ.ชุดปฏิบัติการร่วม จ.ยะลา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเรือนผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ ต.ลำใหม่ และ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา รวมทั้งในพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รวม 13 จุด เพื่อติดตามไล่ล่า กลุ่มคนร้ายก่อเหตุยิงถล่มป้อม ชรบ.บ้านตะวันออก หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้มี ชรบ.และชาวบ้านเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บอีก 5 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 5 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 12 ราย รวมกับควบคุมตัวได้วันก่อน 2 ราย เป็น 14 ราย ต่อมา พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผบก.ภ.จว.ยะลา พร้อมด้วย พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผบ.ฉก.ยะลา เข้าติดตามควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดนำไปซักถามข้อมูลและตรวจ DNA ต่อไป

สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวนั้น จากการตรวจสอบจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง บางรายมีหมายจับและมีหมาย พ.ร.ก. โดยกำลังตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้ง โดยเน้นย้ำในการใช้หลักการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานทั้งอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน ผลเลือดของคนร้ายที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2562

จุฬาราชมนตรี ลงพื้นที่ยะลา พบญาติ 15 ศพ ชรบ.


จุฬาราชมนตรี ลงพื้นที่วัดลำพะยา พบญาติผู้เสียชีวิต คนร้ายถล่ม ชรบ.พร้อมมอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง

ที่วัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) หมู่ที่ 4 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะได้เดินทางไปยังวัดลำพะยา เพื่อพบปะกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย ที่ถูกคนร้ายถล่มยิงที่ป้อมจุดตรวจ ชคต. เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมาและศพได้นำมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดดังกล่าว โดยมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และ นายทนง ไหมเหลือง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำพะยา ให้การต้อนรับ หลังจากพบปะพูดคุยกับตัวแทนของญาติของผู้สูญเสียที่ได้เข้าพบ ท่านได้พูดคุยให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่ง

นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพี่น้องประชาชนทั้งประเทศก็มีความรู้สึกเสียใจเช่นเดียวกัน และขอประฌามการกระทำอันโหดเหี้ยมที่กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ยิ่งกว่านั้นการกระทำดังกล่าว ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันของพี่น้องชาวไทยพุทธ มุสลิม ในพื้นที่และนอกพื้นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สำนักจุฬาราชมนตรีเห็นว่าการใช้ความรุนแรงเป็นการกระทำที่ไร้มนุษย์ธรรม และละเมิดหลักธรรมคำสอนของทุกศาสนา อย่างร้ายแรง สำหรับคำสอนของศาสนาอิสลามถือว่าการฆ่าผู้บริสุทธิ์ เป็นบาปใหญ่ ดังปรากฏในพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอ่าน ความว่า “แท้จริง ผู้ใดฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ชีวิตหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้ฆ่ามนุษย์ทั้งมวล และหากผู้ใดช่วยรักษาชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง ก็ประหนึ่งว่าเขาได้รักษาชีวิตมนุษย์ทั้งมวล”

สำหรับบรรยากาศที่วัดสิริปุณณาราม (วัดลำพะยา) ยังคงมีผู้คนทยอยกันไปเคารพศพ และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต จำนวนมาก และจะมีพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ในวันอังคาร ที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 น. โดยจะมีการเผาศพแบบโบราณบนเชิงตะกอน ที่ทางวัดได้จัดวางไว้ทั้ง 9 เชิงตะกอน บริเวณลานวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2562

เตือนฉบับที่ 14 ไต้ฝุ่น ”นากรี” อีสาน-ตะวันออก เตรียมรับฝน 11-13 พ.ย.นี้


กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนฉบับที่ 14 ไต้ฝุ่น "นากรี" ภาคอีสาน-ตะวันออก เตรียมรับมือฝนตกหนัก 11-13 พ.ย. นี้

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศ “พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) “นากรี” (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2562)” ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 09 พฤศจิกายน 2562

เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (9 พ.ย. 2562) พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) “นากรี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 12.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.5 องศาตะวันออก พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. 2562 ขอให้ผู้ที่เดินทางไปประเทศเวียดนาม ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พายุนี้จะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 2562 โดยจะทำให้มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง กับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมิอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

พายุไซโคลนบุลบุล พัดกระหน่ำบังกลาเทศอย่างรุนแรง


ธากา 10 พ.ย. – พายุไซโคลน “บุลบุล” พัดกระหน่ำบังกลาเทศตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ในขณะที่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าการอพยพทันทีช่วยรักษาชีวิตประชาชนได้เป็นจำนวนมาก และสถานการณ์เลวร้ายที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว

ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงในค่ายผู้อพยพทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้อพยพจากเมียนมา อาศัยอยู่หลายแสนคน รายงานระบุว่า ประชาชนราว 2 ล้านคนจากตำบลชายฝั่งทะเล 13 แห่ง พากันอพยพไปยังสถานที่พักพิงชั่วคราว 5,558 แห่ง เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ภายนอกสถานพักพิงขณะนั้น ความเร็วลมเพิ่มขึ้นเป็น 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณชายฝั่งทะเลถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่กล่าวว่าในขณะนี้ความเร็วลมลดลงเหลือ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว และอ่อนกำลังลงในขณะที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ตอนนี้กลายเป็นพายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก มีรายงานว่านักท่องเที่ยวราว 1,200 คน ติดค้างอยู่ที่เกาะเซนต์ มาร์ติน ในอำเภอคอกซ์บาร์ซา เจ้าหน้าจะรอจนกว่าระดับการเตือนภัยพายุจะลดลงเหลือระดับ 4 จึงจะเข้าไปช่วยเหลือนักท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย

ชาวบังกลาเทศ อพยพหนีพายุไซโคลน “บุลบุล”


บังกลาเทศ 10 พ.ย. - ชาวบังกลาเทศหลายพันคน พากันอพยพจากบ้านเรือนไปหลบภัยในศูนย์ผู้อพยพ ก่อนที่พายุไซโคลน “บุลบุล” จะเคลื่อนเข้ามา

ชาวบังกลาเทศหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็ก พากันอพยพจากบ้านเรือนไปหลบภัยในศูนย์ผู้อพยพ ตามแนวชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อวานนี้ ก่อนที่พายุไซโคลน “บุลบุล” จะเคลื่อนเข้ามา อิทธิพลของพายุลูกนี้ ทำให้บริเวณชายฝั่งมีลมพัดแรงถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง กรมอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศ เตือนว่า ในพื้นที่ลุ่มต่ำและตามเกาะแก่ง จะมีคลื่นพายุซัดฝั่งสูง 5-7 ฟุต

พายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล มักเกิดขึ้นระหว่างเดือนเมษายน-ธันวาคม ของทุกปี เมื่อปี 2542 พายุซูเปอร์ไซโคลนเข้าถล่มรัฐโอริสสาของอินเดีย เป็นเวลา 30 ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 10,000 คน. - สำนักข่าวไทย

ไฟป่าออสเตรเลียเริ่มคลี่คลาย


ออสเตรเลีย 10 พ.ย.-ไฟป่าที่เผาผลาญพื้นที่แห้งแล้ง บริเวณชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย เริ่มเบาบางลงแล้วในวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่เตือนว่าในสัปดาห์หน้า ไฟป่ามีเค้าว่าจะรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

อิทธิพลจากไฟป่าที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน บาดเจ็บหลายสิบคน บ้านเรือนประชาชนมากกว่า 150 หลัง ถูกเพลิงเผาเสียหายและยังมีผู้สูญหายหลายคน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียพร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าเยี่ยมปลอบขวัญประชาชนที่ได้ความเดือดร้อนจากไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากที่สุด ออสเตรเลียระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,300 คนเข้าดับไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีความรุนแรง โดยเฉพาะทางเหนือของรัฐ ขณะที่ในรัฐควินส์แลนด์ยังมีไฟป่าถึง 51 จุด.-สำนักข่าวไทย

คุณภาพอากาศอินเดียย่ำแย่


อินเดีย 9 พ.ย.-คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลีของอินเดีย กลับมาย่ำแย่ลงอีกครั้งในวันนี้ หลังจากช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณภาพอากาศเริ่มดีขึ้น เนื่องจากมีกระแสลมพัดพาเอาฝุ่นละอองออกไปจากกรุงนิวเดลี

แต่มาในวันนี้พบว่าปริมาณฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ในอากาศสูงเกือบ 300 ซึ่งเป็นระดับที่อันตรายต่อสุขภาพ หลังจากเมื่อช่วงวันที่ 3-4 ที่ผ่านมาคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุด วัดปริมาณฝุ่นละอองได้ถึง 407 และกว่า 500 ตามลำดับ

ขณะที่ทางการได้กำหนดมาตรการ ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวไปจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ รวมทั้งสั่งห้ามการก่อสร้าง และการเผาขยะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง ที่อินเดียต้องเผชิญทุกปี.-สำนักข่าวไทย

จีนเรียกร้องให้ใช้กฎหมายความมั่นคง ในการยุติปัญหาในฮ่องกง


ปักกิ่ง 10 พ.ย. – จีนกล่าววันนี้ว่า การที่ฮ่องกงไม่มีกฎหมายความมั่นคงที่มีความเข้มงวดเด็ดขาด เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การประท้วงรุนแรงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยยังคงดำเนินอยู่ในขณะนี้ และระบุว่า การหาทางบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวถือเป็นงานเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ

นายจาง เสี่ยวหมิง ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลจีนที่ดูแลฮ่องกง กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ยอมรับว่า จะต้องมีการปรับปรุงการบริหารฮ่องกง โดยเขากล่าวว่า ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคาที่พักอาศัยที่สูงและความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนร่ำรวยที่เพิ่มมากขึ้น มีส่วนทำให้เกิดความไม่สงบในฮ่องกง นายจางยังสนับสนุนการใช้มาตรการที่เข้มงวด เขากล่าวว่า กฎหมายที่กำหนดว่า การบ่อนทำลายหรือการกระทำท้าทายอื่น ๆ ต่อรัฐบาลกลางของจีนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น มีความจำเป็น พร้อมกับเน้นว่า ผู้นำฮ่องกงและสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงจะต้องเป็นผู้รักชาติที่ภักดีต่อรัฐบาลกลางของจีน รัฐบาลฮ่องกงเคยพยายามออกกฎหมายความมั่นคงที่เข้มงวดในปี 2003 ทำให้เกิดการประท้วงทำให้ต้องระงับการผลักดันการออกกฎหมายนี้ไป ซึ่งนายจางกล่าวว่า การที่ฮ่องกงไม่มีกฎหมายที่ว่านี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กิจกรรมของกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกฮ่องกงมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงฮ่องกงต่อเนื่อง


ฮ่องกง 10 พ.ย.-กลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกงเกือบ 100 คน พากันสวมหน้ากากอนามัย และชูธงชาติอังกฤษ แคนาดา และสหรัฐ เข้าร่วมพิธีฉลองวันระลึกถึงผู้สูญเสียชีวิตในสงคราม

ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนเผยว่า วันนี้จะมีการเดินขบวนประท้วงตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่แล้ว ที่ลงเอยด้วยการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนเตรียมจัดการขุมนุมประท้วงตำรวจ ที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วง และรัฐบาลจีนที่เข้ามาก้าวก่ายในกิจการของฮ่องกงตามจุดต่าง ๆ ผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้มีการผละงานครั้งใหญ่ในวันพรุ่งนี้ และให้งประชาชนปิดกั้นระบบขนส่งมวลชนด้วย .-สำนักข่าวไทย

“ทรัมป์” เผยเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ คืบหน้าด้วยดี


สหรัฐ 10 พ.ย. - ผู้นำสหรัฐ เผยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน คืบหน้าไปด้วยดี แต่ระดับของพิกัดภาษีศุลกากรที่จะถูกยกเลิก สื่อยังรายงานไม่ถูกต้อง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน คืบหน้าไปด้วยดี แต่ระดับของพิกัดภาษีศุลกากรที่จะถูกยกเลิก สื่อยังรายงานไม่ถูกต้อง แต่ผู้นำสหรัฐไม่ให้รายละเอียดว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน รายงานว่า สหรัฐและจีนเห็นพ้องกันว่า หากการเจรจาในรอบแรกบรรลุผลสำเร็จด้วยดี 2 ประเทศ จะยกเลิกการประกาศจัดเก็บภาษีศุลกากรต่อกัน เป็นที่คาดว่า การลงนามในข้อตกลงทางการค้าระหว่างผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ จะมีขึ้นในเดือนนี้ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะลงนามกันที่ใด. - สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นจัดพระราชพิธีขบวนเสด็จ ฉลองครองราชย์สมเด็จพระจักรพรรดิ์


ญี่ปุ่นจัดพระราชพิธีขบวนเสด็จ ฉลองครองราชย์สมเด็จพระจักรพรรดิ์

โตเกียว 10 พ.ย. – ประชาชนหลายพันคนโบกธง ร้องแสดงความยินดีในระหว่างขบวนรถยนต์พระที่นั่งเปิดประทุนของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ พระมเหสี เสด็จพระราชดำเนินไปตามถนนในกรุงโตเกียวเพื่อทักทายพสกนิกร เนื่องในวาระเฉลิมฉลองพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

สมเด็จพระจักรพรรดิ์และสมเด็จพระจักรพรรดินี ทางเสร็จออกจากพระราชวังเมื่อเวลาประมาณก่อน 15.00 น. เล็กน้อย หรือ ตรงกับเวลา 13.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย สมเด็จพระจักรพรรดิ์ทรงฉลองพระองค์แบบสากลตะวันตกอย่างเป็นทางการในขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดินีทรงฉลองพระองค์สีครีมและสวมเสื้อคลุม โดยทรงสวมมงกุฎเทียรา ซึ่งเป็นเครื่องประดับเก่าแก่ที่ตกทอดมาจากสมเด็จพระจักรพรรดินีพระองค์ก่อน ๆ พระราชพิธีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในการขึ้นครองราชย์ เลื่อนมาจากเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากญี่ปุ่นเพิ่งจะผ่านช่วงที่ได้รับความเสียหายและมีผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่น พสกนิกรบางส่วน มาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้และนอนค้างคืนเพื่อให้ได้จุดที่ดีที่สุดในการชื่นชมพระบารมีในระหว่างพระราชพิธีนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที.-สำนักข่าวไทย

เดินหน้าสมานฉันท์ในซีเรีย


เดินหน้าสมานฉันท์ในซีเรีย

รัสเซีย 10 พ.ย.-นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า กระบวนการสู่ความสมานฉันท์ของฝ่ายต่าง ๆ ในซีเรีย กำลังรุดหน้าไปด้วยดี ด้วยความร่วมมือระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี และว่าคำแถลงร่วมระหว่างรัสเซียกับตุรกีเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในการรักษาบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย

ซึ่งคำแถลงดังกล่าวลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย กับประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป เออร์โดอัน ของตุรกี ในการเจรจาของผู้นำทั้งสองที่เมืองโซชิ ของรัสเซียเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกัน ที่จะให้ทหารของซีเรียและรัสเซียดูแลพรมแดนซีเรียที่ติดกับตุรกี และปลดอาวุธ กองกำลังชาวเคิร์ด วายพีจี พร้อมกับให้ออกห่างจากพรมแดนตุรกีไม่น้อยกว่า 30 กิโลเมตร .-สำนักข่าวไทย

ตำรวจโบลิเวีย ร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกับประชาชน


โบลิเวีย 10 พ.ย. - ประชาชนในเมืองซานตาครูซของโบลิเวีย พากันปรบมือแสดงความยินดีที่ตำรวจเมืองซานตาครูซ รวมถึงเมืองอื่นๆ เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกับประชาชน

ประชาชนในเมืองซานตาครูซของโบลิเวีย พากันปรบมือแสดงความยินดีที่ตำรวจเมืองซานตาครูซ เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลกับประชาชน ไม่เพียงแต่ที่เมืองซานตาครูซเท่านั้น แม้กระทั่งในกรุงลาปาซ และเมืองอื่นๆ ตำรวจก็เข้าร่วมการประท้วงด้วย มีรายงานว่า ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยโดยรอบทำเนียบประธานาธิบดี ต่างก็พากันละทิ้งหน้าที่ ออกมาร่วมชุมนุมกับประชาชนเช่นกัน

องค์การรัฐอเมริกา กำลังตรวจสอบการนับคะแนนการเลือกตั้งในโบลิเวีย ซึ่งผลตรวจสอบจะออกมาราววันจันทร์หรืออังคาร ด้านพรรคฝ่ายค้านที่อ้างว่า นายอีโว โมราเลส ประธานาธิบดีโบลิเวีย ทุจริตการเลือกตั้งจนได้รับชัยชนะ ประกาศจะไม่รับรองผลการตรวจสอบ โดยอ้างว่าไม่มีส่วนร่วมในการตรวจสอบแต่อย่างใด. - สำนักข่าวไทย

ศาลอินเดียพิพากษาให้กลุ่มชาวฮินดู ได้รับกรรมสิทธิ์พื้นที่ข้อพิพาท


นิวเดลี 9 พ.ย. – ศาลฎีกาของอินเดียพิพากษาตัดสินในวันนี้ให้กลุ่มชาวฮินดูได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของพื้นที่ที่เป็นช้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ระหว่างชาวฮินดูและมุสลิม มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายสิบปี และเป็นชนวนให้เกิดการปะทะนองเลือดครั้งใหญ่ในอินเดีย

คำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวเป็นการเปิดทางให้แผนการสร้างศาสนสถานของชาวฮินดูในพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทเดินหน้าต่อไป พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเมืองอโยธยา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา 5 คน ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ในคำพิพากษาที่ให้มอบพื้นที่ข้อพิพาท ที่มีขนาดเท่าสนามฟุตบอล 1 สนาม ให้กับกลุ่มชาวฮินดู โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลกลาง เข้ามาควบคุมการก่อสร้างศาสนสถานของชาวฮินดู ในขณะเดียวกันจะมีการจัดสรรที่ดินอีกผืนหนึ่งในเมืองอโยธยาให้แก่กลุ่มชาวมุสลิมในการสร้างมัสยิดแห่งใหม่ คำพิพากษานี้ยังเป็นเสมือนชัยชนะทางการเมืองของกลุ่มชาตินิยมฮินดูของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ภายหลังจากมีคำพิพากษา นายกรัฐมนตรีโมดี ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์แสดงความยินดีที่ข้อพิพาทที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายสิบปีจบลงอย่างสันติ.-สำนักข่าวไทย

ศาลกัมพูชาสั่งปล่อยตัว "เข็ม โสกา"


กัมพูชา 10 พ.ย.-ศาลกรุงพนมเปญพิพากษาให้นายเข็ม โสกา ผู้นำฝ่ายค้านในกัมพูชาเป็นอิสระจากการถูกกักบริเวณ ในความผิดฐานเป็นกบฎเป็นเวลานานกว่า 2 ปีมาแล้ว

แม้จะได้รับอิสรภาพ แต่นายเข็ม ก็ไม่สามารถเข้าไปมีบทบาททางการเมืองได้ และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ การปล่อยตัวนายเข็มมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือซีเอ็นอาร์พี เดินทางจากการลี้ภัยในฝรั่งเศสมายังมาเลเซียเพื่อเดินทางต่อมายังกัมพูชา นาย ชิน มาลิน โฆษกกระทรวงยุติธรรมกัมพูชากล่าวว่า ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่นี้ นายเข็ม โสกา สามารถเดินทางไปยังที่ใดๆ ในประเทศกัมพูชาได้ แต่ห้ามเดินทางออกนอกประเทศเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

โคราชเจอภัยแล้งรอบสอง อ่างลำฉมวกแห้งแล้ว


โคราชเจอภัยแล้งรอบสอง อ่างลำฉมวกแหล่งน้ำสำรองแห้งสุด ชาวบ้าน 3 อำเภอ หวั่นขาดน้ำใช้เร็วๆ นี้

ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำฉมวก หมู่ที่ 6 ต.นิคม อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างหนัก โดยเหลือปริมาณน้ำเก็บกักแค่ 25 % ของความจุกักเก็บ 32 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น โดยนายศิริศักดิ์ รักสิริ อายุ 35 ปี ชาวบ้านในอำเภอพิมาย กล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ฝนทิ้งช่วงนานทำให้ไม่มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำลำฉมวก อีกทั้งพบว่าในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอพิมาย อำเภอจักราช และ อำเภอห้วยแถลง มีปริมาณน้ำฝนตกลงมาน้อยมาก ทางเจ้าหน้าที่อ่างเก็บน้ำจึงไม่เปิดประตูส่งน้ำให้เกษตรกร เนื่องจากปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำฉมวก ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำรองแหล่งสุดท้ายที่ใช้ผลิตน้ำประปา อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จัดสรรน้ำอ่างเก็บน้ำลำฉมวก ได้งดปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรปลูกข้าวนาปี เพื่อเตรียมเก็บกัก ไว้ใช้ในการผลิตน้ำประปาให้ประชาชน ในพื้นที่ 5 ตำบล 20 หมู่บ้าน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพิมาย อำเภอจักราช และ อำเภอห้วยแถลง ได้ใช้อุปโภคบริโภค ซึ่งชาวบ้านจำนวนไม่น้อยหวั่นว่าจะไม่มีน้ำเพียงพอใช้ตลอดหน้าแล้ง ขณะที่เกษตรกรหลายคนไม่มีน้ำสำหรับปลูกข้าวเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

เด็ก 15 เร่งทำกระทงขาย-จ่อหมายจับแก๊งล่อซื้อลิขสิทธิ์


น้อง 15 ปี เหยื่อล่อซื้อลิขสิทธิ์เร่งมือผลิตกระทงขาย ขณะที่ความคืบหน้าคดี ตร.จ่อออกหมายจับกลุ่มล่อซื้อสัปดาห์หน้า

เยาวชนหญิงวัย 15 ปี ที่ถูกล่อซื้อและดำเนินคดีลิขสิทธิ์กระทงลายการ์ตูน พร้อมด้วยครอบครัว เร่งมือนำขนมปังข้าวโพดที่สั่งซื้อค้างสต็อกไว้กลับมาทำเป็นกระทงสวยงามกันอย่างขมีขมัน ที่บ้านพักในบ้านบึงรี หมู่ที่ 2 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมไว้จำหน่ายช่วงเทศกาลลอยกระทงที่จะถึง หลังจากมีประชาชนและหลายหน่วยงานได้ให้กำลังใจและยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือเรื่องคดีกันจำนวนมาก ซึ่งกระทงที่ผลิตจะนำไปขายในงานลอยกระทงที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมา ในค่ำคืนวันลอยกระทง ที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เพื่อนำเงินรายได้มาเป็นทุนการศึกษาให้กับตัวเอง และแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว

โดยตอนนี้มีกำลังใจมากขึ้นและถ้าคิดจะทำอะไรก็จะรอบคอบระมัดระวังมากที่สุด และตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกจนต้องเดือดร้อนทั้งครอบครัว ส่วนเรื่องของคดีความขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาแจ้งว่า ได้ช่วยผู้เสียหายกว่า 40 รายที่ถูกล่อซื้อสินค้าลายการ์ตูนลิขสิทธิ์หลายรูปแบบ รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ฯ จะยื่นหลักฐานต่อศาลเพื่อขอให้ศาลออกหมายจับผู้ที่อยู่ในขบวนการล่อซื้อจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 3 คนในสัปดาห์หน้า เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

กทม.จัดเจ้าหน้าที่เตรียมเก็บกระทงแม่น้ำเจ้าพระยา


กทม. จัดเจ้าหน้าที่เตรียมเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา ชวนใช้กระทงวัสดุธรรมชาติ

นางศิลปสวย ระวีแสงสรูย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการเก็บกระทงในเทศกาลลอยกระทง ปี 2562 ว่า กรุงเทพมหานครโดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ประจำจุดคอยเก็บกระทงบนผิวน้ำตั้งแต่บริเวณใต้สะพานพระราม 7 ไปจนถึงบริเวณวัดโยธินประดิษฐ์ เขตบางนา ระยะทางประมาณ 34 กม. โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ได้แก่ สะพานพระราม7 ถึงสะพานพุทธ, สะพานพุทธถึงสะพานกรุงเทพ, สะพานกรุงเทพถึงสุดเขตบางนา โดยจัดเจ้าหน้าที่ในการจัดเก็บกระทง จำนวน 203 คน พร้อมใช้เรือในการจัดเก็บกระทงและเรือตรวจการณ์ จำนวน 40 ลำ และใช้รถบรรทุกเก็บขนมูลฝอย จำนวน 14 คัน ในการลำเลียงกระทงไปส่งที่สถานีขนถ่ายมูลฝอย โดยจะใช้จุดลำเลียง 2 จุด ได้แก่ บริเวณปากคลองโอ่งอ่าง สะพานพุทธ เขตพระนคร และท่าคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เขตราษฎร์บูรณะ ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะเริ่มดำเนินการจัดเก็บกระทงตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 11 พ.ย.61 เป็นต้นไป และจะเร่งจัดเก็บให้แล้วเสร็จในทุกพื้นที่ภายในเวลา 06.00 น. วันที่ 12 พ.ย.61 สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้จะเข้าสู่กระบวนการแยกประเภท และนับจำนวนเพื่อเก็บสถิติ ก่อนที่กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและกระทงที่ย่อยสลายง่าย จะถูกส่งไปเข้าโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ (หนองแขม) ส่วนกระทงโฟมจะถูกส่งไปฝังกลบเพื่อรอการย่อยสลายต่อไป

ทั้งนี้จากสถิติในปี 2561 กรุงเทพมหานคร จัดเก็บกระทงได้จำนวน 841,327 ใบ กระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ จำนวน 796,444 ใบ คิดเป็น ร้อยละ 94.7 และกระทงที่ทำจากโฟม จำนวน 44,883 ใบ คิดเป็นร้อยละ 5.3 โดยจำนวนกระทงที่จัดเก็บได้ในปี 2561 จำนวน 841,327 ใบ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ซึ่งจัดเก็บได้ จำนวน 811,945 ใบ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.62 โดยพบว่ามีกระทงวัสดุธรรมชาติและ วัสดุที่ย่อยสลายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 93.6 เป็น 94.7 ส่วนกระทงโฟมลดลงจากร้อยละ 6.4 เป็น 5.3 ในขณะที่การใช้กระทงโฟมมีปริมาณลดลง เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนหันมาใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย เช่น กระทงที่ทำจากหยวกกล้วยและใบตอง แป้งมันสำปะหลัง ชานอ้อย ซึ่งจะเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย และได้ขอความร่วมมือเขตแจ้งสถานประกอบการ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองในพื้นที่ที่มีการลอยกระทงงดใช้กระทงโฟม รวมทั้งรณรงค์ขอความร่วมมือให้ลอยกระทงด้วยกัน ในรูปแบบ 1 ครอบครัว 1 กระทง, 1 คู่รัก 1 กระทง, 1 กลุ่ม 1 กระทง หรือลอยกระทงออนไลน์

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ประกาศ ฉบับที่ 19 ระวัง ”พายุนากรี” ทำฝนตก 11-13 พ.ย.นี้


กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 19 เตือน "พายุนากรี" กระทบ 11-13 พ.ย. นี้

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 พ.ย. 2562) พายุระดับ 4 (โซนร้อนรุนแรง) “นากรี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 12.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ด้วยความเร็ว 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในเช้าวันพรุ่งนี้ (วันที่ 11 พ.ย. 2562) และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเวียดนามขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

โดยพายุนี้จะส่งผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 2562 ทำให้มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางพื้นที่บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อนึ่ง

ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก โดยจะเริ่มจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

ทรัมป์พลิก! ไม่ยอมอ่อนข้อ ถอยศึกการค้ากับจีน
​

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2562​

 

ไซโคลน "บุลบุล" ถล่มบังกลาเทศ ตายแล้ว 14 คน


บังกลาเทศ 10 พ.ย.-พายุไซโคลนบุลบุลถล่มบังกลาเทศ ทำฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง และลมกระโชกแรง มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

พายุไซโคลนบุลบุลเคลื่อนขึ้นฝั่งใกล้เกาะซาการ์บริเวณอ่าวเบงกอลของบังกลาเทศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง และลมกระโชกแรงตลอดทั้งคืน มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย พื้นที่ลุ่มต่ำและตามเกาะแก่งมีคลื่นพายุซัดฝั่งสูง 5-7 ฟุต อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงในค่ายผู้อพยพทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้อพยพจากเมียนมาอาศัยอยู่หลายแสนคน ขณะที่ชาวบ้านกว่า 2 ล้านคน ทั้งในบังกลาเทศและอินเดียอพยพไปแล้วก่อนหน้านี้.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่า


ออสเตรเลีย 11 พ.ย.-ออสเตรเลียประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่า หลังไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 5.3 ล้านไร่ มีผู้เสียชีวิต 3 คน บ้านเรือนถูกไฟเผา 150 หลัง

รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลีย ประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่าในวันนี้ หลังไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ป่าในรัฐไปแล้วกว่า 5.3 ล้านไร่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิต 3 คน บ้านเรือนถูกไฟเผา 150 หลัง คาดว่าสถานการณ์ไฟป่าในวันพรุ่งนี้จะรุนแรงที่สุด

การประกาศภาวะฉุกเฉินไฟป่าเพื่อเปิดทางให้หน่วยงานด้านการดับไฟป่าของรัฐมีอำนาจเต็มที่จะสั่งการหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐบาลให้ทำหรืองดเว้นการทำสิ่งใด และสั่งปิดสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น แก๊ส และไฟฟ้า ในพื้นที่เกิดไฟป่าได้.-สำนักข่าวไทย

นครซิดนีย์เตือนภัยไฟป่าระดับสูงสุด


ซิดนีย์ 11 พ.ย. - นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมออกประกาศเตือนอันตรายจากไฟในระดับ “หายนะ” ซึ่งเป็นระดับสูงสุด คือเป็นอันตรายต่อทั้งบ้านเรือนและชีวิต

ผู้บัญชาการหน่วยดับเพลิงรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ที่จะสามารถทนต่อความรุนแรงของไฟป่าได้ ไฟป่าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้เผาทำลายบ้านเรือนไปแล้วกว่า 150 หลัง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 คน รวมถึงทำให้ประชาชนอีกนับพันต้องอพยพ และจากสภาพอากาศในปัจจุบันที่ทั้งร้อนและแห้ง ประกอบกับมีลมพัดแรง ก็เป็นปัจจัยที่โหมให้ไฟป่ายิ่งรุนแรงขึ้น ล่าสุดรัฐนิวเซาท์เวลส์จึงต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 7 วัน

ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ไฟป่าได้เผาทำลายพื้นที่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ไปแล้วราว 11,000 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าจาไมกาหรือโคโซโวทั้งประเทศ.- สำนักข่าวไทย

ไฟป่าออสเตรเลีย คร่าชีวิตโคอาลาถึง 350 ตัว


ออสเตรเลีย 11 พ.ย. - ไฟป่าออสเตรเลียคร่าชีวิตโคอาลามากถึง 350 ตัว เผาผลาญพื้นที่อยู่อาศัยของมันไปถึง 2 ใน 3 ส่วน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้ว 3 คน บ้านเรือนถูกเผา 150 หลัง

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโคอาลาพอร์ท แมคควารี ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า มีโคอาลามากถึง 350 ตัว ต้องสังเวยชีวิตให้กับไฟป่าที่เผาผลาญบริเวณอุทยานแห่งชาติ ทำลายพื้นที่อยู่อาศัยของโคอาลาไปถึง 2 ใน 3 ส่วน

นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลกำลังรักษาอาการบาดเจ็บให้โคอาลา 14 ตัว ที่ได้รับการช่วยชีวิตออกมาจากบริเวณที่เกิดไฟป่า จนถึงขณะนี้ไฟป่าได้เผาพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 5.3 ล้านไร่ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบ้านเรือนถูกไฟเผา 150 หลัง.- สำนักข่าวไทย

อากาศในเมืองหลวงอินเดีย กลับมาแย่อีกในวันนี้


นิวเดลี 11 พ.ย.- หมอกควันพิษกลับมาปกคลุมกรุงนิวเดลีของอินเดียอีกครั้งในวันนี้ ชาวเมืองต้องฝ่าคุณภาพอากาศเลวร้ายไปเรียนไปทำงาน หลังจากอากาศดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีคุณภาพอากาศที่สถานทูตสหรัฐประจำกรุงนิวเดลีเมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาอินเดีย ตรงกับเวลา 13.30 น.วันนี้ตามเวลาในไทยอยู่ที่ 497 ถือเป็นระดับอันตราย ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดพีเอ็ม2.5 ที่สามารถฝังในเนื้อเยื่อปอดอยู่ที่เกือบ 700 สูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยที่ไม่ให้เกิน 60 กว่าสิบเท่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของศูนย์เพื่อวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อมอธิบายว่า กระแสลมและอุณหภูมิที่ลดลงทำให้อากาศหนาแน่นขึ้น ดักเอาสารก่อมลพิษและทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ทางการกรุงนิวเดลีจำกัดการใช้รถส่วนตัวจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนด้วยการให้แล่นรถในวันคู่และวันคี่ตามเลขท้ายป้ายทะเบียน ปรากฏว่าช่วยได้เพียงเล็กน้อย ทำให้กลุ่มสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้มีมาตรการที่เร่งด่วนมากยิ่งขึ้น และขอให้มุขมนตรีนิวเดลีประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน

แต่ละปีในช่วงใกล้ฤดูหนาว เกษตรกรในรัฐปัญจาบและรัฐหรยาณาใกล้กรุงนิวเดลีมักเผาตอซังข้าวเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ควันจากการเผา ประกอบกับไอเสียยานยนต์และฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทำให้เมืองหลวงอินเดียแห่งนี้มีมลพิษมากที่สุดในโลก ศาลฎีกาอินเดียตำหนิทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ไม่สามารถควบคุมมลพิษและขอให้ทางการในทุกระดับตั้งแต่เมือง รัฐ และรัฐบาลกลางร่วมกันหาทางทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น.- สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ประท้วงในฮ่องกง ทวีความรุนแรง


ฮ่องกง 11 พ.ย.- สถานการณ์ในฮ่องกง ทวีความรุนแรงขึ้นในวันนี้ เมื่อตำรวจใช้อาวุธปืนยิงผู้ประท้วงด้วยกระสุนจริงหลายนัด ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1 คน

เหตุรุนแรงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นับเป็นเหตุตึงเครียดครั้งล่าสุดนับตั้งแต่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง และการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง นานกว่า 5 เดือน โดยเกิดขึ้นย่านไซ วาน โฮ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพยายามควบคุมตัวชายคนหนึ่งที่บริเวณทางแยกที่ถูกผู้ประท้วงปิดกั้นเอาไว้ แต่อยู่ๆ มีชายอีกคนหนึ่งเข้ามาใกล้จึงได้ใช้ปืนยิง

ขณะเดียวกัน ที่ทางแยกในพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงอีก 2 นัด และได้ควบคุมตัวผู้ประท้วงไป 2 คน เหตุชุมนุมในฮ่องกงดำเนินมาเป็นสัปดาห์ที่ 24 แล้ว และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงที่มหาวิทยาลัยโปลิเทคนิค ซึ่งตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วง จนทางมหาวิทยาลัยต้องยกเลิกการเรียนการสอนออกไปเป็นช่วงบ่าย.-สำนักข่าวไทย

เตือนขยะสะสมจากชอปปิงออนไลน์ในจีน จะเพิ่มกว่า 4 เท่า ภายในปี 2568


เซี่ยงไฮ้ 11 พ.ย.- กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่า ธุรกิจชอปปิงออนไลน์ในจีนที่กำลังเฟื่องฟู อาจทำให้ปริมาณขยะสะสมเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าภายในปี 2568 หากไม่มีมาตรการควบคุม

กรีนพีซและองค์กรนอกภาครัฐอื่น ๆ ออกรายงานวันนี้ว่า ปีที่แล้วมีการใช้บรรจุภัณฑ์ส่งสินค้าที่สั่งทางออนไลน์ทั้งหมด 9.4 ล้านตัน และคาดว่าจะมากถึง 41.3 ล้านตันภายใน 6 ปี หากไม่มีมาตรการควบคุม นักรณรงค์ลดการใช้พลาสติกในจีนของกรีนพีซตำหนิธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ว่ามีมาตรการผิวเผินมาก เพราะแทบไม่ทำอะไรเลยจนกว่าทางการจะมีระเบียบออกมา สำนักงานการไปรษณีย์ของทางการจีนเผยว่า เฉพาะช่วงวันที่ 11-16 พฤศจิกายนปีก่อน มีการส่งพัสดุทั้งหมด 1,880 ล้านชิ้น เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 26 จากปีก่อนหน้านั้น แม้ไม่มีตัวเลขปริมาณขยะอย่างเป็นทางการจากช่วงเวลานั้น แต่กรีนพีซคาดว่าน่าจะเกิน 250,000 ตัน

รายงานระบุว่า พื้นที่ทิ้งขยะที่ลดลงและความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมทำให้ธุรกิจในจีนหันมาทำกำไรจากการรีไซเคิลขยะพลาสติก แต่ขยะจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างบรรจุภัณฑ์พลาสติกมีการรีไซเคิลเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ทางการจีนออกร่างมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ใหม่เมื่อเดือนก่อนที่จะกำหนดให้ผู้บริการส่งสินค้าต้องใช้เฉพาะวัสดุรีไซเคิลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น.- สำนักข่าวไทย

กระบวนการไต่สวนสาธารณะ เพื่อถอดถอนทรัมป์จะเริ่มวันพุธนี้


วอชิงตัน 11 พ.ย.- รัฐสภาสหรัฐจะเริ่มกระบวนการไต่สวนสาธารณะเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เป็นโอกาสที่ชาวอเมริกันจะได้เห็นพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ปะทะกันอย่างร้อนแรงเรื่องอนาคตทางการเมืองของทรัมป์ ที่หวังจะลงเลือกตั้งอีกสมัยในปีหน้า

การไต่สวนดังกล่าวจะดำเนินการโดยคณะกรรมการข่าวกรองในสภาผู้แทนราษฎร เป็นขั้นตอนที่สองของกระบวนการถอดถอนทรัมป์ตามที่ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยมิชอบจากการขอให้ยูเครนช่วยสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีที่สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นับเป็นผู้นำสหรัฐคนที่สามที่ถูกไต่สวนเพื่อถอดถอน คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากจะลงมติอย่างเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้ว่าทรัมป์มีความผิดและให้ถอดถอน แต่อาจถูกสกัดจากวุฒิสภาที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก นักวิเคราะห์เชื่อว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนมกราคม

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการข่าวกรองในสภาผู้แทนราษฎรได้สอบสวนเป็นการลับนาน 6 สัปดาห์กับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เช่น ทำเนียบขาว กระทรวงต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ที่ให้การไปแล้วจะถูกเรียกให้เข้าร่วมการไต่สวนสาธารณะอีกครั้งเพื่อให้การอันเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษต่อทรัมป์ จากนั้นจะเป็นการไต่สวนของคณะกรรมการตุลาการในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อตัดสินว่า หลักฐานมีน้ำหนักมากพอจะสนับสนุนข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการว่าทรัมป์ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือสนับสนุนคำร้องถอดถอนโทษฐานเป็นกบฏ ติดสินบน กระทำความผิดอาญาร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ประธานาธิบดีและทนายความสามารถเข้าการในขั้นตอนนี้เพื่อประโยชน์ของตนเอง

จากนั้นคณะกรรมการตุลาการในสภาผู้แทนราษฎรจะส่งคำร้องถอดถอนไปให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติ ซึ่งจะมีผลหากได้เสียงข้างมากเกินครึ่งหนึ่งหรือ 218 เสียงจากทั้งหมด 435 เสียง ปัจจุบันพรรคเดโมแครตครองอยู่ 233 เสียง พรรครีพับลิกันมี 197 เสียง ส.ส.อิสระ 1 เสียง และ ส.ส.ว่างอยู่ 4 ที่นั่ง หากผ่านสภาผู้แทนราษฎรก็จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งจะมีผลหากได้เสียงข้างมากสองในสามหรือ 67 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง ปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองอยู่ 53 เสียง พรรคเดโมแครตมี 45 เสียง และ ส.ว.อิสระ 2 เสียง.- สำนักข่าวไทย

ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่น ลดการใช้พลาสติก


โตเกียว 11 พ.ย. - ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นเริ่มลดการใช้หลอดและหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดขยะพลาสติก

เซเว่น อีเลฟเว่น ร้านสะดวกซื้อชื่อดังในญี่ปุ่นได้เริ่มใช้ฝาปิดที่ไม่ต้องใช้หลอดกับกาแฟเย็นและเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ มาตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา และจะค่อยๆใช้ฝาปิดชนิดใหม่ไปจนครบทุกสาขา ส่วนลูกค้าที่ยังต้องการหลอดทางร้านก็มีหลอดที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้

แต่ละปีร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ในญี่ปุ่นจำหน่ายกาแฟได้มากกว่า 1,000 ล้านถ้วย และทางบริษัทก็หวังว่าการไม่ใช่หลอด จะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกลงได้อย่างมาก

ส่วนลอว์สัน ร้านสะดวกซื้ออีกรายก็เพิ่งลดการใช้หลอดเช่นกัน และบางสาขาของลอว์สันก็เปลี่ยนมาใช้ภาชนะกระดาษที่ทนน้ำและน้ำมันแทนภาชนะพลาสติกแล้วสำหรับสินค้าประเภทอาหารกล่อง .- สำนักข่าวไทย

พรรครัฐบาลอินเดีย ตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ


นิวเดลี 11 พ.ย. - พรรคภาราติยะ ชนตะ หรือบีเจพี พรรครัฐบาลของอินเดียที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งที่รัฐมหาราษฏระ ตัดสินใจไม่ตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคชีพเสนา และจะปล่อยให้พรรคชีพเสนาหารือกับพรรคการเมืองพรรคอื่น เรื่องการตั้งรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐมหาราษฏระต่อไป

รัฐมหาราษฏระเป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดของอินเดีย เป็นที่ตั้งของนครมุมไบ เมืองหลวงทางการเงินอินเดียและสภาของรัฐมีที่นั่งในสภาทั้งสิ้น 288 ที่นั่ง แต่ขณะนี้พรรคชีพเสนา มีที่นั่งในสภาเพียง 56 ที่นั่ง จึงต้องตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคอื่น และในวันนี้พรรคชีพเสนาจะแยกหารือกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคคองเกรส และพรรคคองเกรสชาตินิยมเพื่อหารือเรื่องการตั้งรัฐบาลผสม

หากรัฐมหาราษฏระไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หรือรัฐบาลผสม การบริหารงานของรัฐจะต้องกระทำผ่านรัฐบาลกลางจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่.- สำนักข่าวไทย

เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ไปเยี่ยมหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชาที่บ้านต่างประเทศ


พนมเปญ 11 พ.ย.- นางเอวา เหวียนบินห์ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกัมพูชาไปเยี่ยมนายกึม ซกคา หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกัมพูชาที่ถูกยุบพรรคไปแล้ว หลังจากทางการกัมพูชายกเลิกคำสั่งกักบริเวณนายกึม ซกคาให้อยู่แต่ในบ้านพัก แต่ยังคงถูกตั้งข้อหาเป็นกบฏ ห้ามเล่นการเมืองและห้ามออกนอกประเทศ

นายกึม ซกคา วัย 66 ปี ออกมารับนางเอวาที่หน้าบ้านพัก ก่อนเข้าไปสนทนาต่อในบ้านพัก และไม่มีการแถลงใด ๆ เขา ถูกจับกุมในเดือนกันยายน 2560 ข้อหาเป็นกบฏ จากนั้นพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พี (CNRP) ของเขาถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน นายกึม ซกคาโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ทันทีที่ทางการยกเลิกคำสั่งกักบริเวณในบ้านพักว่า ในฐานะผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคุมขังมาสองปี เขาขอเดินหน้าเรียกร้องให้ทางการยกเลิกข้อหาต่อไป เขาและชาวกัมพูชาอีกมากที่สูญเสียอิสรภาพทางการเมืองยังคงต้องการการหาทางออกที่แท้จริงและความยุติธรรม เขาปฏิเสธข้อหาวางแผนกับต่างชาติจะโค่นล้มนายกรัฐมนตรีฮุน เซนว่าเป็นเรื่องเหลวไหล

ศาลแขวงพนมเปญมีคำสั่งว่า นายกึม ซกคาสามารถออกจากบ้านพักได้ แต่ห้ามข้องเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง และห้ามออกนอกประเทศ รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ทางการกัมพูชายกเลิกคำสั่งกักบริเวณดังกล่าว ในขณะที่สหภาพยุโรปหรืออียูกำลังพิจารณาเรื่องตัดสิทธิพิเศษทางการค้าที่ให้แก่กัมพูชาในโครงการอีบีเอ (EBA) ที่ให้ประเทศด้อยพัฒนาส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่อาวุธเข้าอียูได้โดยไม่เสียภาษี เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชากวาดล้างฝ่ายค้าน โดยจะมีการตัดสินเบื้องต้นในวันอังคารนี้ ปัจจุบันอียูนำเข้าสินค้าจากกัมพูชามากกว่าหนึ่งในสาม เช่น สิ่งทอ รองเท้า จักรยาน.- สำนักข่าวไทย

ชิลีจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ตามที่ผู้ประท้วงเรียกร้อง


ซันติอาโก 11 พ.ย.- ชิลีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อนำมาใช้แทนรัฐธรรมนูญที่ใช้มาตั้งแต่สมัยจอมพลออกุสโต ปิโนเชต์ และเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของผู้ประท้วงที่เคลื่อนไหวมานานสามสัปดาห์แล้ว

นายกอนซาโล บลูเมล รัฐมนตรีมหาดไทยชิลีแถลงว่า สภาร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วนำไปเปิดการลงประชามติเพื่อให้สัตยาบัน เป็นการแถลงหลังจากที่ได้ประชุมกับพันธมิตรพรรคการเมืองสายกลางขวาและสายขวาที่จนถึงขณะนี้เป็นกลุ่มที่ลังเลใจมากที่สุดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของผู้ประท้วง ผลการสำรวจเมื่อต้นเดือนนี้พบว่า ชาวชิลีร้อยละ 87 สนับสนุนให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญที่ใช้มาตั้งแต่สมัยจอมพลปิโนเชต์ที่ปกครองชิลีแบบเผด็จการตั้งแต่ปี 2516-2533 โดยได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐ

การประท้วงในชิลีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ชนวนเหตุมาจากการขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในกรุงซันติอาโก จากนั้นลุกลามเป็นวงกว้างกลายเป็นการประท้วงของผู้คนที่เบื่อหน่ายสภาพความเป็นอยู่ในปัจจุบันเรื่องค่าแรงต่ำสวนทางกับค่าเล่าเรียนและค่าดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยเพียงหยิบมือที่กุมอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ เกิดการเผาและปล้นร้านค้า ผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจรายวัน และหลายครั้งเกิดความรุนแรง มีผู้เสียีชวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 18 คน.- สำนักข่าวไทย

เม็กซิโกเสนอจะให้ที่พักพิงแก่ผู้นำโบลิเวียหากต้องการลี้ภัย


เม็กซิโกซิตี 11 พ.ย. – นายมาร์เซโบ เอ็บราร์ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกเปิดเผยว่า เม็กซิโกจะให้ที่พักพิงแก่ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ของโบลิเวีย หากผู้นำโบลิเวียต้องการจะลี้ภัยและร้องขอมา

รัฐบาลเม็กซิโกต้องการปกป้องประธานาธิบดีโมราเลสที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเกิดการประท้วงทั่วประเทศ และทางกองทัพได้ขอให้เขาลาออก ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้นำเม็กซิโกได้โพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า ผู้นำโบลิเวียเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบ โดยยอมที่จะลาออกจากตำแหน่ง แทนที่จะปราบปรามการประท้วงซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนจึงควรที่จะปกป้อง รัฐบาลเม็กซิโกจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในลำดับต่อไป

เม็กซิโกเป็นประเทศแรกๆ ที่แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีโมราเลส หลังจากที่เขาประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ไม่พอใจปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ความไม่เท่าเทียมในสังคม และความยากจนเป็นทุนเดิมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งแล้ว ได้ก่อการชุมนุมประท้วง ขณะเดียวกันเมื่อการนับคะแนนผ่านพ้นไป ก็พบว่าประธานาธิบดีโมราเลสไม่ได้ชนะขาด และต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง ประธานาธิบดีโมราเลสจึงลาออกตามที่กองทัพร้องขอ.- สำนักข่าวไทย

ผู้นำโบลิเวีย ลาออกจากตำแหน่ง


ลาปาซ 11 พ.ย. – ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ของโบลิเวียประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังเกิดการประท้วงต่อเนื่องตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พร้อมประกาศจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

หลังการนับคะนนเลือกตั้งไปได้ร้อยละ 84 ประธานาธิบดี โมราเลสได้รับคะแนนไม่เกินกึ่งหนึ่ง และไม่สามารถมีคะแนนนำคู่แข่งได้เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ กฎหมายเลือกตั้งเลือกตั้งโบลิเวียกำหนดไว้ว่า การจะชนะเลือกตั้งแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้นผู้ชนะจะต้องได้รับคะแนนร้อยละ 40 ขึ้นไป และต้องมีคะแนนชนะคู่แข่งเกิน 10 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโมราเลสได้ประกาศว่าชนะการเลือกตั้งไปแล้ว และสร้างความไม่พอใจให้ชาวโบลิเวียเป็นอย่างมากจนประชาชนออกมาชุมนุมกันตามท้องถนน ขณะที่ทหารและตำรวจประกาศอยู่ข้างประชาชนพร้อมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโมราเลสก้าวลงจากอำนาจ.- สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

ชาวกาฬสินธุ์ฮิตประดิษฐ์กระทงภูมิปัญญา


จังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้ภูมิปัญญานำบุตรหลานประดิษฐ์กระทงจากวัสดุใกล้ตัว ซึ่งหาง่าย และสบายใจ ไม่ต้องเกรงว่าจะมีคนมาแอบอ้างลิขสิทธิ์

ผู้ปกครองจะพาบุตรหลานตระเตรียมวัสดุและอุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์กระทง เพื่อให้คนในครอบครัวได้นำไปลอยกันในช่วงเย็นของวันนี้ ขณะเดียวกันยังพบว่ามีบางครอบครัวได้ช่วยกันประดิษฐ์กระทงจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนบ้านที่ไม่มีเวลาทำกระทง และนอกจากนี้ที่ตลาดสดในใจกลางเมืองกาฬสินธุ์ ยังได้มีบรรดาแม่ค้าจำหน่ายดอกไม้สด หันมาประดิษฐ์กระทงจำหน่ายในช่วงนี้ ทำให้ตลาดที่ค่อนข้างเงียบเหงา กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในวันลอยกระทงนี้

นางถา นระแสน อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 190 หมู่ 14 บ้านสุขสวัสดิ์ ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปกติตนจะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แต่ช่วงนี้ได้พาลูกหลานมาประดิษฐ์กระทงจากใบตองจำหน่าย ที่บริเวณใกล้เคียงกับสวนสาธารณะกุดน้ำกิน ที่ใช้เป็นสถานที่ลอยกระทงของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้จะทำขายเป็นรายได้เสริมในช่วงวันลอยกระทงเป็นประจำทุกปี โดยใช้วัสดุใกล้ตัว เช่น ใบตอง ต้นกล้วย ดอกไม้ ที่ปลูกไว้ในสวนข้างบ้านมาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำกระทง จะซื้อมาประกอบเล็กน้อยก็เพียงธูป เทียน เท่านั้น

นางถา กล่าวอีกว่า การประดิษฐ์กระทง เป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการฝึกฝนจากรุ่นพ่อรุ่นแม่สืบต่อกันมา มีการประยุกต์ให้ทันยุคสมัยบ้าง เช่น นำขนมปัง และถ้วยไอศครีม มาประดิษฐ์เป็นกระทงรูปตุ๊กตาน่ารักๆ เพื่อเอาใจเด็ก เยาวชน ขณะที่ราคาจำหน่าย เริ่มตั้งแต่ 30-50 บาท ตามขนาดเล็กใหญ่และความประณีต นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชั่นให้กับลูกค้าที่มีเงินน้อยหรือมากันเป็นกลุ่มหลายคน ก็จะลดให้เป็นพิเศษ อันละ 5 บาท 10 บาทก็ขาย ขอให้มาอุดหนุนกันเท่านั้น เพราะไม่หวังกำไรมาก โดยในปีนี้เตรียมกระทงไว้จำหน่ายประมาณ 200 อัน อย่างไรก็ตาม การทำกระทงจากใบตอง ถือเป็นภูมิปัญญาไทยอีสาน ใช้วัสดุที่หาง่าย ย่อยสลายง่าย ไม่สร้างมลพิษ ที่สำคัญทำแล้วสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครแอบอ้างมาทวงค่าลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามบรรยากาศการประดิษฐ์และจำหน่ายตามย่านชุมชนและตลาดทั่วไป พบว่ามีชาวบ้านและบรรดาพ่อค้า แม่ค้า หันมาประดิษฐ์กระทงรูปทรงแบบใหม่ เพื่อสร้างสีสันและสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น เป็นรูปตุ๊กตา เป็นรูปพญานาค เป็นเศียรพญานาค

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

เขื่อนลำแชะโคราช หยุดส่งน้ำนาปีแล้ว


เขื่อนลำแชะ โคราชหยุดส่งน้ำนาปีแล้ว หลังระดับน้ำเหลือน้อย ต้องงดนาปรังปีหน้า ส่วนน้ำอุปโภคบริโภคส่งได้แค่เขตครบุรีเท่านั้น

นายสมศักดิ์ ทาบโลกา ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภายในเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่า ปริมาณน้ำภายในเขื่อนล่าสุด
ลดระดับต่ำลงเหลืออยู่เพียง 35 เปอร์เซ็นต์ของความจุทั้งหมด โดยมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 95 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุกักเก็บทั้งหมดรวม 275 ล้านลูกบาศก์เมตร ล่าสุด ได้ชะลอการส่งน้ำเพื่อการเกษตรทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานซึ่งส่วนใหญ่ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีประมาณ 90,000 ไร่ได้รับน้ำอย่างเต็มที่แล้ว เหลือเพียงการส่งน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์และการอุปโภคบริโภคเท่านั้น

ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ กล่าวอีกว่า ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ภายในเขื่อนลำแชะล่าสุดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของทุกปีอย่างมาก ซึ่งปริมาณน้ำเพียงแค่นี้จะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำในปีหน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในภาคการเกษตรที่จะไม่มีปริมาณน้ำให้ทำการเพาะปลูกได้ ดังนั้น จึงได้ประกาศขอความร่วมมือให้ชาวนางดการทำนาปรังในช่วงหน้าแล้งปีหน้า เพื่อเลี่ยงการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ขณะที่ฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีถัดไป ต้องรอดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพราะหากในปีหน้าสถานการณ์ฝนตกน้อยเหมือนในปีนี้ คงไม่มีน้ำเพียงพอที่จะส่งให้เกษตรกรได้ แต่ในส่วนของน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ยังไม่เป็นปัญหาในปีนี้ แต่ในช่วงฤดูแล้งปีหน้า ทางเขื่อนลำแชะจะไม่สามารถส่งน้ำสนับสนุนให้กับทางการประปาส่วนภูมิภาคได้ เพราะส่งน้ำได้เพียงระยะสั้นในพื้นที่อำเภอครบุรีเท่านั้น

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

อุตุฯเผยไทยตอนบนอากาศเย็นลงลมแรง เตือนนากรี


กรมอุตุนิยมวิทยา เผย ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็น-ลมแรงอุณหภูมิจ่อลด 1-2 องศา ขณะพายุ“นากรี”เคลื่อนขึ้นเมืองนาตรังแล้ว

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง อนึ่ง พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “นากรี” ได้เคลื่อนขึ้นเมืองนาตรัง ประเทศเวียดนามแล้วเมื่อคืนนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำอย่างรวดเร็วบริเวณตอนใต้ของประเทศลาว โดยพายุนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 2562 ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกมีฝนบางแห่ง

สำหรับในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคกลางและภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

สม รังสี ถึงมาเลเซีย NGO ฝรั่งชมมาเลย์-ถล่มไทย
​

วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2562​

 

เกิดไฟป่าใหม่อีกหลายจุด ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียเช้านี้


ซิดนีย์ 12 พ.ย.- เกิดไฟป่าใหม่อีกหลายจุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของออสเตรเลียในเช้าวันนี้ เพิ่มเติมจากที่ไหม้อยู่แล้วหลายจุดในช่วงหลายวันมานี้

สำนักงานดับเพลิงนิวเซาท์เวลส์ซึ่งรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าทุกสองชั่วโมงแถลงในเช้าวันนี้ว่า สถานการณ์มีแต่เลวร้ายลงทุกขณะ ไฟกำลังโหมแรงขึ้น ทางการแจ้งเตือนภัยระดับฉุกเฉินกับไฟป่า 3 จุด จากทั้งหมด 70 จุด เป็นระดับที่แสดงว่าประชาชนในพื้นที่ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง ในจำนวนนี้ 2 จุดประชาชนหนีไม่ทันแล้วและต้องหาที่หลบภัยเท่านั้น นครซิดนีย์ เมืองเอกของรัฐนี้ที่มีประชากร 5 ล้านคนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีอันตรายจากไฟป่าระดับ “หายนะ” เป็นครั้งแรกในวันนี้ กลุ่มควันไฟป่าปกคลุมทั่วเมืองตั้งแต่เช้า สมาชิกรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเตือนว่า แม้ได้เตรียมการรับมือแล้วแต่ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะคาดว่าอุณหภูมิจะแตะ 37 องศาเซลเซียสและกระแสลมจะแรงถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ไฟป่าแย่ลง ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ สถานการณ์ไฟป่าอยู่ในระดับ “ร้ายแรง” ต่ำกว่าระดับ “หายนะ” สองระดับ มีไฟป่าเกิดขึ้นทั้งหมด 22 จุด

สถานการณ์ไฟป่าขณะนี้ยิ่งทำให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันถูกวิจารณ์เรื่องไม่แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ทำให้ฤดูร้อนที่มักเกิดไฟป่ายาวนานกว่าเดิม นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันซึ่งประกาศตัวสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหินไม่ยอมตอบข้อถามว่า ไฟป่าขณะนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่ ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีไมเคิล แมคคอร์แมคจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เมื่อวานนี้ จากการกล่าวหากลุ่มนักเคลื่อนไหวว่านำโศกนาฏกรรมมาเล่นการเมือง โดยไม่นึกถึงผู้ที่ตกอยู่ในเขตอันตรายจากไฟป่า.- สำนักข่าวไทย

เมืองหลวงอินเดียฝุ่น PM 2.5 พุ่ง 543 มคก./ลบ.ม.


อินเดีย 12 พ.ย. - กรุงนิวเดลี ของอินเดีย ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงถึง 543 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทางการออกมาตรการสลับรถวิ่งวันคู่วันคี่ตามป้ายทะเบียน หวังช่วยลดมลพิษ

วันนี้ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในกรุงนิวเดลี เมืองของอินเดีย และอีกหลายเมืองโดยรอบ กลับมาอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอีกครั้ง ค่า PM 2.5 ในกรุงนิวเดลี สูงถึง 543 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ประชาชนส่วนใหญ่พยายามอยู่แต่ภายในอาคาร และสวมหน้ากากอนามัยหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขณะที่ทางการดำเนินมาตรการสลับรถวิ่งวันคู่วันคี่ตามแผ่นป้ายทะเบียนรถ หวังช่วยลดมลพิษทางอากาศ.- สำนักข่าวไทย

เร่งช่วยเหยื่อรถไฟประสานงาในบังกลาเทศ ตายเจ็บกว่า 50 คน


ธากา 12 พ.ย.- เจ้าหน้าที่กู้ภัยในบังกลาเทศ เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารออกจากซากขบวนรถไฟบิดเบี้ยว จากเหตุรถไฟสองขบวนชนประสานงาช่วงเช้ามืดวันนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 คน บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน

เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 04.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทยที่เขตบราห์มันบาเรีย ห่างจากกรุงธากาไปทางตะวันออก 100 กิโลเมตร เมื่อรถไฟขบวนที่มุ่งหน้าไปยังเมืองจิตตะกอง เมืองท่าตอนใต้ชนกับรถไฟขบวนที่มุ่งหน้าไปยังกรุงธากา ทำให้ขบวนล่องใต้พังยับเยินไป 3 ตู้ขบวน ผู้โดยสารวัย 50 ปีบนขบวนล่องใต้เล่าว่า คนส่วนใหญ่หลับอยู่ในขณะที่เกิดเหตุ เขาโชคดีที่รอดมาได้ เพราะเมื่อออกจากขบวนรถไฟมาได้ก็เห็นศพไร้ศีรษะ ไร้แขนขาหลายศพ ส่วนผู้โดยสารบนขบวนที่มุ่งหน้าไปกรุงธากาเล่าว่า จู่ ๆ ก็เกิดการชนอย่างรุนแรง หลายคนกรีดร้องอย่างตกใจ

ภาพข่าวทางสถานีโทรทัศน์เห็นแพทย์ตามโรงพยาบาลหลายแห่งเร่งรักษาผู้บาดเจ็บแขนขาหักและศีรษะแตก เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า จนถึงขณะนี้พบแล้ว 16 ศพ แต่คาดว่าตัวเลขที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งดับเพลิง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ชายแดนกำลังเร่งช่วยผู้ประสบเหตุอยู่ นายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินาแสดงความตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่รถไฟสองขบวนแล่นมาบนรางเดียวกัน รัฐบาลได้สั่งเปิดการสอบสวนแล้ว ตำรวจนายหนึ่งสันนิษฐานว่า รถไฟขบวนหนึ่งน่าจะฝ่าฝืนสัญญาณ.- สำนักข่าวไทย

ประท้วงรุนแรงในอเมริกาใต้


อเมริกาใต้ 12 พ.ย.- โบลิเวีย และชิลี 2 ประเทศเพื่อนบ้านในอเมริกาใต้ กำลังเผชิญกับการประท้วงรุนแรง สืบเนื่องจากความไม่พอใจทางการเมือง ซึ่งที่โบลิเวียนั้น ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ได้ยอมลาออกจากตำแหน่ง และลี้ภัยในเม็กซิโกแล้ว

นายอีโว โมราเลส ได้ตัดสินใจเดินทางไปลี้ภัยที่เม็กซิโกตามข้อเสนอ หลังจากเขายอมลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังถูกกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาลและกองทัพ แต่การลาออกของเขา ก็เป็นเหตุให้เกิดการปล้นสะดม และเหตุจลาจลขึ้นถึงขั้นมีการโจมตีบ้านพักของเขา นายโมราเลส ซึ่งปกครองโบลิเวีย มาอย่างยาวนาน เกือบ 14 ปี ถูกต่อต้านอย่างรุนแรง หลังจากปรากฏว่าเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งถูกมองว่า ไม่โปร่งใส

ส่วนที่ชิลี ก็ยังคงมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 20 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 2,000 คน ที่กรุงซานติอาโก ตำรวจได้ฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ประท้วง หลังจากพวกเขาออกมาชุมนุมก่อนจะมีการนัดหยุดงานทั่วประเทศในวันนี้ การชุมนุมเมื่อวานนี้มีขึ้น หลังจากประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญรา ประกาศแผนการจะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ซึ่งเป็น 1 ในข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง โดยพวกเขาเห็นว่าข้อเสนอนี้ช้าเกินไปและไม่เพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงยังคุกรุ่น


ฮ่องกง 12 พ.ย.- ผู้ชุมนุมในฮ่องกง ยังคงไม่ละความพยายามที่จะสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง ขณะที่ผู้นำหญิงฮ่องกงประกาศกร้าวจะหาหนทางยุติการประท้วงที่ยืดเยื้อมานาน 5 เดือนโดยเร็วที่สุด

หลังจากที่สถานการณ์การประท้วงตึงเครียดและเต็มไปด้วยความรุนแรงตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ เช้าวันนี้ ผู้ชุมนุมบางส่วนยังได้ออกมากีดขวางการสัญจรของผู้คนทั้งบนถนนและตามสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นวิธีการที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้อยู่เป็นประจำ

ด้านตำรวจฮ่องกงเปิดเผยว่า กำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงผู้ชุมนุมคนหนึ่งที่ท้องได้รับบาดเจ็บเมื่อวานนี้ และเหตุการณ์ที่ชายสูงวัยถูกผู้ชุมนุมราดน้ำมันจุดไฟเผา ขณะนี้ทั้งคู่ยังมีอาการสาหัส

ขณะที่นางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ออกมาตำหนิผู้ที่ก่อเหตุจลาจลว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเกินกว่าสิ่งที่ผู้ชุมนุมอ้างว่า ทำเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและตอนนี้ผู้ชุมนุมได้กลายเป็นศัตรูของประชาชนไปแล้ว เธอจะไม่ลดละความพยายามที่จะยุติการประท้วง ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวที่ว่าทางการกำลังวางแผนใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้น

ขณะเดียวกัน โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจับตามองสถานการณ์ในฮ่องกงด้วยความกังวลอย่างยิ่ง พร้อมประณามการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะจากฝ่ายตำรวจหรือฝ่ายผู้ชุมนุม และสนับสนุนให้หันหน้ามาเจรจากัน.-สำนักข่าวไทย

จีนเตือนเหตุประท้วงรุนแรงในฮ่องกง


ฮ่องกง 12 พ.ย.-จีนเตือนเหตุรุนแรงระหว่างการประท้วงในฮ่องกง อาจส่งผลให้รัฐบาลจีน จำเป็นต้องส่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เข้ามาควบคุมความสงบเรียบร้อยในฮ่องกง

พนักงานและอาสาสมัครระดมกำลังเก็บกวาดซากความเสียหายจากการชุมนุมประท้วงที่ย่านมงก๊ก บนเกาะเกาลูน ย่านธุรกิจสำคัญของฮ่องกง หลังตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อวานนี้ ขณะที่สื่อจีนเตือนเหตุรุนแรงระหว่างการประท้วง ทั้งตำรวจยิงผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเหตุเผาชายคนหนึ่ง อาจส่งผลให้รัฐบาลจีนจำเป็นต้องส่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน หรือ PLA เข้ามาควบคุมความสงบเรียบร้อยในฮ่องกง ด้านนางแคร์รี หลำ ผู้บริหารฮ่องกง ระบุว่าการก่อเหตุจลาจลเป็นการทำลายสังคม และการใช้กำลังรุนแรงไม่ช่วยให้บรรลุข้อเรียกร้อง.-สำนักข่าวไทย

สื่อทางการจีน ประกาศตัวสนับสนุนตำรวจฮ่องกง


ปักกิ่ง 12 พ.ย.- สื่อทางการจีนระบุว่า กองทัพจีนพร้อมสนับสนุนตำรวจฮ่องกงหากจำเป็น และชมตำรวจฮ่องกงว่ามีความอดกลั้น หลังเกิดเหตุตำรวจยิงผู้ประท้วงที่เข้ามาประชิดตัวเมื่อวานนี้

หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ลงบทความฉบับวันนี้ขอให้ตำรวจฮ่องกงเข้มแข็ง และขอสนับสนุนการกระทำของตำรวจอย่างเต็มที่ กองกำลังตำรวจประชาชนจีนและกองกำลังประจำฮ่องกงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนพร้อมให้ความช่วยเหลือตำรวจฮ่องกงตามกฎหมายพื้นฐานที่ใช้ปกครองฮ่องกง โกลบอลไทมส์กล่าวถึงเรื่องตำรวจยิงผู้ประท้วงคนหนึ่งที่บุกเข้ามาประชิดตัวเมื่อวันจันทร์ว่า ตำรวจจำเป็นต้องยิงเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เพราะผู้ประท้วงที่ถูกยิงเป็นอันธพาล ส่วนเรื่องที่ชายปิดบังใบหน้าราดน้ำมันและจุดไฟเผาชายอีกคนขณะโต้เถียงกันแสดงให้เห็นว่า ผู้ก่อจลาจลที่อ้างเรื่องประชาธิปไตยและเสรีภาพไม่มีขันติกับผู้ที่มีความเห็นต่าง ขอเตือนผู้ประท้วงว่ากำลังมาถึงขอบแห่งหายนะแล้ว จงรีบถอยกลับไปโดยเร็วในระหว่างที่ยังพอมีเวลา

ด้านหนังสือพิมพ์ไชนาเดลีลงบทบรรณาธิการว่า ตำรวจฮ่องกงได้แสดงความอดทนอดกลั้นตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าทำให้ผู้ประท้วงได้ใจที่จะก่อความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับการที่ผู้พิพากษาฮ่องกงแสดงความโอนอ่อนผ่อนผันก็เท่ากับส่งเสริมให้เกิดการก่อการร้ายในฮ่องกง

กฎหมายพื้นฐานของฮ่องกงให้รัฐบาลฮ่องกงสามารถขอความช่วยเหลือจากกองกำลังประจำฮ่องกงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนในกรณีที่บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ขณะที่มาตรา 18 ในกฎหมายนี้อนุญาตคณะกรรมการถาวรในสภาประชาชนแห่งชาติจีนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในฮ่องกงได้ หากสถานการณ์ไปถึงจุดนั้นรัฐบาลจีนสามารถออกกฎหมายสำหรับฮ่องกงตามที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อรับมือกับวิกฤตที่เกิดขึ้นได้.- สำนักข่าวไทย

บ.น้ำมันของทางการเม็กซิโก ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่เล่นงาน


เม็กซิโกซิตี 12 พ.ย.- เปเม็กซ์ บริษัทน้ำมันของทางการเม็กซิโกถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตีเซิร์ฟเวอร์ และทำให้งานธุรการหยุดชะงัก บริษัทยืนยันว่าสามารถแก้ไขได้ทัน กระทบระบบคอมพิวเตอร์ไม่ถึงร้อยละ 5 และแฮกเกอร์ไม่บรรลุเป้าหมาย

รอยเตอร์อ้างอีเมลภายในของพนักงานบริษัทเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ถูกมัลแวร์เรียกค่าไถ่ชื่อรุค (Ryuk) เล่นงาน บริษัทกำลังดำเนินการในระดับประเทศเพื่อจัดการกับมัลแวร์ตัวนี้ที่กระทบเซิร์ฟเวอร์ในประเทศ เปเม็กซ์แถลงในวันเดียวกันว่า ศูนย์คอมพิวเตอร์ในรัฐเม็กซิโกตรวจพบมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่สามารถล็อกหน้าจอหรือไฟล์สำคัญด้วยการเข้ารหัส บริษัทคาดว่าจะแก้ปัญหาได้ภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมกับส่งอีเมลแจ้งพนักงานทั่วประเทศให้งดเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทและสำรองข้อมูลสำคัญที่อยู่ในฮาร์ดไดรฟ์ พนักงานหลายคนเผยว่า ไม่สามารถทำงานได้เมื่อวันจันทร์เพราะเข้าระบบคอมพิวเตอร์หลายอย่างไม่ได้ เช่น ระบบจ่ายเงิน ต่อมาเปเม็กซ์แจ้งในวันจันทร์ว่า สามารถจัดการกับมัลแวร์ได้ทันเวลา ขณะนี้การทำงานทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว การผลิตและการเก็บน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมาบริษัทถูกโจมตีไซเบอร์หลายครั้งและไม่มีครั้งใดที่แฮกเกอร์ประสบความสำเร็จ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มัลแวร์รุคมีเป้าหมายเป็นบริษัทที่มีรายได้ต่อปี 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,170-30,340 ล้านบาท) มัลแวร์เรียกค่าไถ่จะทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ถูกล็อกทำงานไม่ได้ กระทบตั้งแต่งานธุรการไปจนถึงการผลิต แฮกเกอร์มักใช้มัลแวร์ประเภทนี้เล่นงานบริษัทใหญ่โดยจะปลดล็อกให้ต่อเมื่อได้รับเงินค่าไถ่แล้ว.- สำนักข่าวไทย

อดีตประธานาธิบดีโมราเลส ลี้ภัยเม็กซิโก


อดีตประธานาธิบดีโมราเลส ลี้ภัยเม็กซิโก

เม็กซิโก 12 พ.ย. - นายมาร์เซโล เอ็บราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก เผยแพร่ภาพถ่ายของอดีตประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ของโบลิเวีย ขณะโดยสารบนเครื่องบินกองทัพอากาศเม็กซิโกออกจากสถานที่ใดไม่เปิดเผย เพื่อไปลี้ภัยในเม็กซิโก เมื่อวานนี้ นายโมราเลสได้ทวีตข้อความว่ากำลังจะออกจากโบลิเวีย

นายโมราเลส ลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อวันอาทิตย์ หลังเผชิญกับการกดดันจากผู้ประท้วงที่ไม่พอใจผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนตุลาคม ที่นายโมราเลสเป็นผู้ชนะ ส่วนนางเจนีน อาเนซ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 จะขึ้นมารักษาการประธานาธิบดีแทนจนกว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่.- สำนักข่าวไทย

เจ้าหน้าที่ขนสัมภาระสิงคโปร์ ถูกจำคุกฐานสลับป้ายติดกระเป๋าเกือบ 300 ใบ


เจ้าหน้าที่ขนสัมภาระสิงคโปร์ ถูกจำคุกฐานสลับป้ายติดกระเป๋าเกือบ 300 ใบ

สิงคโปร์ 12 พ.ย. - เจ้าหน้าที่ขนสัมภาระชาวสิงคโปร์ วัย 66 ปี ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 20 วัน ฐานสลับป้ายติดกระเป๋า 286 ใบ ที่ท่าอากาศยานชางงีของสิงคโปร์ โดยกระเป๋าที่ถูกสลับป้ายเป็นกระเป๋าของผู้โดยสารที่มาต่อเครื่องที่สนามบินดังกล่าว ซึ่งเป็นสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้สลับป้ายติดกระเป๋าระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 เพื่อระบายความแค้น หลังจากได้ขอให้ทางแผนกเพิ่มเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับการปฏิเสธ ศาลระบุว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวทำไปภายใต้ความกดดันจากภาวะซึมเศร้า

อัยการระบุว่า การสลับป้ายติดกระเป๋าสามารถก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงตามมา เพราะผู้โดยสารบางคนจำเป็นต้องพึ่งยาประจำตัว และการที่กระเป๋าเดินทางของพวกเขาถูกลำเลียงไปยังอีกซีกโลก ทำให้ผู้โดยสารที่มีโรคประจำตัวไม่ได้รับยาตามกำหนด ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากเป็นโรคร้ายแรง.- สำนักข่าวไทย

จีนและมาเลเซีย จับมือพัฒนารถบัสสีเขียวสำหรับตลาดอาเซียน


กัวลาลัมเปอร์ 12 พ.ย. - บริษัท จงทง บัส โฮลดิง ของจีน และทีเอ็มเอส ผู้ผลิตยานยนต์ของมาเลเซีย ได้ลงนามในข้อตกลงในการพัฒนารถบัสพลังงานทางเลือกให้กับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน

กรรมการผู้จัดการของทีเอ็มเอสเปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนารถบัสสำหรับตลาดในประเทศของมาเลเซีย รวมถึงตลาดอาเซียนอื่น เช่น เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา

ด้านผู้จัดการอาวุโส ด้านตลาดต่างประเทศของจงทงเปิดเผยว่า จงทงจะป้อนเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า รวมถึงอะไหล่ ให้กับทีเอ็มเอสในการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของมาเลเซีย ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงขนส่งของมาเลเซียที่ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามแสดงความหวังว่า การถ่ายทอดเทคโนโลยีวิศวกรรม และการสนับสนุนทางเทคนิคจากจีนจะช่วยพัฒนาคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของรถบัสในมาเลเซีย.-สำนักข่าวไทย

จอร์แดนทลายแผนปองร้ายนักการทูตอิสราเอล นักการทูตและทหารอเมริกัน


อัมมาน 12 พ.ย.- หนังสือพิมพ์ของทางการจอร์แดนรายงานวันนี้ว่า หน่วยข่าวกรองจอร์แดนสามารถทลายแผนการของผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 2 คน ที่จะก่อเหตุร้ายกับนักการทูตอิสราเอลและอเมริกัน รวมทั้งทหารอเมริกันที่ฐานทัพทางตอนใต้ของจอร์แดน

รายงานระบุว่า ผู้ต้องสงสัยวางแผนจะขับรถไปยังสถานที่เป้าหมาย แล้วจะก่อเหตุด้วยปืนและมีด ทั้งคู่จะถูกนำตัวขึ้นศาลความมั่นคงของรัฐ จอร์แดนซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐตกเป็นเป้าหมายก่อเหตุของกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มรวมทั้งกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) และได้คุมขังสมาชิกกลุ่มติดอาวุธหลายสิบคนให้รับโทษจำคุกเป็นเวลานาน ที่ผ่านมาจอร์แดนแทบไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์หลายอย่างในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น การลุกฮือของประชาชนในหลายประเทศ สงครามกลางเมือง และกลุ่มติดอาวุธก่อการร้าย แต่เมื่อปีที่แล้วจอร์แดนเผยว่า สามารถทลายแผนของไอเอสที่จะก่อเหตุร้ายตามที่ตั้งหน่วยงานด้านความมั่นคง ห้างสรรพสินค้า และบุคคลทางศาสนาที่มีแนวคิดสายกลาง.-สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

ยิงสนั่นบัลลังก์ศาลจันทบุรี ขณะพิจารณาคดี ตาย 2 เจ็บ 3 ราย


อุกอาจ! เกิดเหตุยิงกันในห้องพิจารณาของศาลจังหวัดจันทบุรี เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 3 ราย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุคู่กรณีใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบริเวณห้องพิจารณาของศาล ในพื้นที่ อ.เมือง จ.จันทบุรี ว่าได้รับรายงานจาก สภ.เมืองจันทบุรี วันนี้ ช่วงเวลาประมาณ 09.15 น. ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน่ยิงคู่กรณีได้รับบาดเจ็บในห้องพิจารณาคดีศาลจังหวัดจันทบุรี ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จึงได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ใช้อาวุธปืน พกสั้นออโตเมติก กล๊อก 22 ขนาด .40 ก่อเหตุ ยิงคู่กรณีและเจ้าหน้าที่ศาล ทนายความ จำนวน 4 ราย ในขณะที่อยู่ระหว่างรอ การพิจารณาคดีเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องมรดกที่ดิน ภายในบริเวณบัลลังก์ห้องพิจารณาคดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลซึ่งปฎิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอยู่หน้าห้องพิจารณาคดีจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงผู้ก่อเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ

โดยขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ และจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 1 ราย ไว้ได้แล้ว พร้อมทำการสืบสวนสอบสวน เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบปากคำพยาน ส่งตัวผู้บาดเจ็บไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา และจะนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดของผู้ก่อเหตุเป็นสำคัญ

รวมทั้งผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ลงไปกำชับ กวดขัน การปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณที่ทำการของศาลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ได้รับการประสานขอกำลังไปปฎิบัติหน้าที่เพิ่มเติมจากศาล โดยต้องบูรณาการกับฝ่ายรักษาความปลอดภัยของศาลและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบอาวุธ, สิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งให้มีแผนเผชิญเหตุและแนวทางการประสานการปฎิบัติ เพื่อเข้าระงับเหตุและแก้ไขปัญหาได้ทันต่อสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวมีรายงาน ว่า เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ยืนยันเสียชีวิตที่ รพ. 2 คน คือ นายวิจัย สุขรมย์ และ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความคนดัง ส่วนรายละเอียดและสาเหตุเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ความคืบหน้าเหตุยิงกันในห้องพิจารณาคดีในศาลจังหวัดจันทบุรี ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภายในห้องพิจารณาคดีที่ 2 ของศาลจังหวัดจันทบุรี จากการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย นายบัญชา ปรณีศณาภรณ์ เป็นโจทก์ที่ 2 ในคดีนี้และเป็นทนายของโจทก์ ที่ 2 โจทก์ ที่ 3 นายวิจัย สุขรมย์ , นางสุภาพร ปรณีศณาภรณ์ ภรรยา ของ นายบัญชา และ นายวิชัย อุดมธนภัทร ซึ่งทั้ง 4 รายเป็นโจทก์ในคดีที่กำลังพิจารณาและผู้บาดเจ็บที่ 5 ทราบชื่อ คือ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ เป็นจำเลยที่ 3 ในคดีนี้ และเป็นผู้ก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุ ร้อยตำรวจเอกขจร บรรจง ทำหน้าที่ตำรวจศาล ได้ใช้อาวุธปืนประจำกาย ยิงผู้ก่อเหตุเพื่อระงับเหตุ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายบัญชา และนายวิจัย ส่วนสาเหตุ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ผู้ตรวจหารือผู้ว่าโคราชรับมือภัยแล้ง


ผู้ตรวจ หารือผู้ว่าโคราช รับมือภัยแล้ง กำชับเฝ้าระวังโจรกรรมพืชผลอุปกรณ์การเกษตร

นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 13 พร้อมด้วยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นายอำเภอ ทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อหารือข้อราชการตามนโยบายของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และการแก้ไข รับมือกับปัญหาภัยแล้ง พร้อมทั้งย้ำให้ทุกอำเภอจับตาเฝ้าระวังอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเฉพาะการลักขโมยพืชผลทางการเกษตร อุปกรณ์ทางการเกษตรของพี่น้องประชาชน

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

เหยื่อลิขสิทธิ์ ขายกระทงชั่วโมงเดียวได้ 1.6 หมื่นบาท


สาว 15 ปี เหยื่อลิขสิทธิ์กระทงการ์ตูน ขายกระทงชั่วโมงเดียว ได้เงินกว่า 16,000 บาท เผยจะนำเงินเป็นทุนการศึกษาและมอบให้พ่อแม่

ภายหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 พ.ย. 62) น้องอ้อม (นามสมมติ) สาววัย 15 ปี ชาว จ.นครราชสีมา ที่เป็นข่าวดังกรณีถูกล่อซื้อจับกระทงลิขสิทธิ์ลายการ์ตูน ได้นำกระทงไปวางขายภายในงานเทศกาลวันลอยกระทงที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าใน จ.นครราชสีมา ซึ่งปรากฏว่ามีประชาชนแห่ต่อคิวซื้อกระทงอย่างล้มหลาม จนทำให้กระทงที่น้องอ้อมนำมาวางขาย ซึ่งมีตั้งแต่ราคา 50 บาท ถึง 180 บาท จำนวน 360 ใบ ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น

ล่าสุด เช้าวันนี้ (12 พฤศจิกายน 2562) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังน้องอ้อม (นามสมมติ) ได้รับการเปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่สามารถขายกระทงได้หมดทั้ง 360 ใบ ซึ่งตั้งแต่ทำกระทงขายมาในชีวิต ไม่เคยขายกระทงในคืนเดียวได้มากถึงขนาดนี้ เพราะแต่ก่อนเคยขายคืนเดียวได้อย่างมากเพียง 30 กว่าใบเท่านั้น แต่ครั้งนี้ขายได้หมด 360 ใบภายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ รวมเงินที่ขายกระทงได้จำนวน 16,220 บาท เมื่อหักต้นทุนออกไป 50% ก็เหลือกำไรอยู่ 8,110 บาท โดยเงินจำนวนนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา เพราะขณะนี้กำลังเรียนอยู่ ปวช.ปี 1 สาขาการบัญชี และส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้พ่อกับแม่เพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งนี้ตนเองก็ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี คือศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าฯ ที่ให้สถานที่ขายกระทง และขอบคุณลูกค้าทุกคนที่มาอุดหนุนกระทงอย่างเนืองแน่น หลังจากนี้ก็จะตั้งใจเรียน เพื่อเป็นคนดีของสังคมต่อไป

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

อุตุประกาศเตือน ฉบับที่ 1 ไทยตอนบน อากาศหนาวเย็น


กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 1 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบในช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2562)” ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562

ในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส เซลเซียส โดยมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-20 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาวอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงอากาศเย็นในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางบางแห่งในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง

อนึ่ง สำหรับในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

โบลิเวีย ระส่ำ!! ม๊อบบุกยึดสถานีโทรทัศน์-วิทยุของรัฐ
​

วันที่ 11 พ.ย. 2019​

 

นายกเทศมนตรีเมืองเวนิส เตรียมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหลังเกิดน้ำท่วมสูง


เวนิส 13 พ.ย. – เจ้าหน้าที่ทางการอิตาลีเปิดเผยว่า ช่วงที่น้ำขึ้นสูงสุดเมื่อเวลา 22.50 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ระดับน้ำสูงถึง 187 เซนติเมตร ซึ่งถือเป็นระดับน้ำท่วมสูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากระดับ 194 เซนติเมตร เมื่อปี 2509 จนนายกเทศมนตรีเตรียมประกาศให้เวนิสเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือ พร้อมระบุว่า ภัยธรรมชาติครั้งนี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

สถานที่สำคัญๆ ในเวนิส ล้วนถูกน้ำท่วม เช่น จัตุรัสเซนต์มาร์ก ที่น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และมหาวิหาร เซนต์มาร์ก ที่ตลอด 1,200 ปีที่ผ่านมาเพิ่งเคยถูกน้ำท่วมไปเพียง 5 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชาย วัย 78 ปี ที่เสียชีวิตเพราะถูกไฟช็อต จากน้ำที่ท่วมเข้าไปในบ้าน

หลายพื้นที่ของอิตาลีมีฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง สำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า อิตาลีจะยังมีฝนตกต่อเนื่องไปอีกหลายวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณส้นรองเท้าบูทในแผนที่ หรือพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ ขณะที่เวนิสซึ่งแม้จะไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณส้นรองเท้าบูท แต่ก็จะมีฝนต่อเนื่องไปอีกหลายวัน.- สำนักข่าวไทย

ไฟป่าในออสเตรเลีย ลุกลามไปบริเวณรอบนครซิดนีย์แล้ว


ซิดนีย์ 12 พ.ย. – ไฟป่าที่กำลังเกิดขึ้นหลายจุดทั่วพื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ได้ลุกลามไปยังพื้นที่รอบ ๆ นครซิดนีย์แล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ต้องเร่งนำเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์มาพ่นน้ำและสารหน่วงไฟสีแดงในบริเวณรอบๆ เมือง

ไฟป่าสองจุดในเขตชายฝั่งชานเมืองของเขตทูร์รามูร์รา ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางนครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียประมาณ 15 กิโลเมตร ไฟไหม้ผ่านสวนป่ายูคาลิปตัสและเผาไหม้บ้านเรือนเสียหายก่อนจะถูกควบคุมเอาไว้ได้ หลังจากนั้น เมื่อตอนใกล้ค่ำ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า สามารถควบคุมไฟป่าอีกจุดในเขตอุทยานแห่งชาติในเขตชานเมืองด้านใต้ของนครซิดนีย์ได้ สำหรับในช่วงกลางวันที่ผ่านมา ไฟป่ากว่า 300 จุด ได้เผาผลาญบริเวณชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากเกิดลมแรงจัด สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง ทำให้บริเวณดังกล่าวอยู่ในสภาพที่เป็นอันตรายที่สุด ในเขตทูร์รามูร์รา ย่านชานเมืองของนครซิดนีย์ ในเขตสวนปกคลุมไปด้วยควันไฟหนาแน่นที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า รถยนต์ บ้านและถนนหนทางเลอะเทอะไปด้วยสารหน่วงไฟสีแดง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริการดับเพลิงของรัฐนิวเซาธ์เวลส์กล่าวว่า ขณะนี้ อาคารสิบกว่าหลังได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ในวันนี้ มีรายงานผู้บาดเจ็บแต่ไม่รุนแรงถึงชีวิตเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่วิกฤติการณ์ไฟป่ายังไม่จบลงง่าย ๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะต้องทำงานรับมือกับไฟป่าเป็นเวลาอีกหลายวันหรืออาจจะหลายสัปดาห์ขึ้นอยู่กับสภาพความรุนแรงของไฟป่าที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเตือนออกจากพื้นที่ทันทีในหลายจุดที่เผชิญไฟป่า


ซิดนีย์ 13 พ.ย.- เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเตือนออกจากพื้นที่ทันที ซึ่งเป็นคำเตือนระดับสูงสุด ในหลายจุดที่กำลังเผชิญไฟป่าในรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

สำนักงานดับเพลิงและเหตุฉุกเฉินรัฐควีนส์แลนด์ ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินในวันนี้ว่า สถานการณ์ขณะนี้อันตรายมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอาจไม่สามารถสกัดไฟไม่ให้ลุกลามได้ในอีกไม่นาน ไฟป่าอาจจะเป็นอันตรายต่อทุกชีวิตที่อยู่ในเส้นทางโดยตรง ขอให้ประชาชนในหลายพื้นที่ออกจากพื้นที่โดยทันที รวมทั้งนูซา ชายหาดท่องเที่ยวยอดนิยม ห่างจากเมืองบริสเบน เมืองเอกของรัฐไปทางใต้ 150 กิโลเมตร ทางสำนักงานได้ส่งเครื่องบินทิ้งน้ำขึ้นไปช่วยควบคุมไฟแล้ว

สถานการณ์ไฟป่าในรัฐควีนส์แลนด์เลวร้ายลงเพราะสภาพอากาศร้อน แล้ง และลมแรง ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของประเทศเริ่มดีขึ้นเพราะอากาศเย็นลง จนถึงขณะนี้ทั้งสองรัฐมีไฟป่าลุกไหม้ประมาณ 150 จุด เผาพื้นที่ป่าไปแล้วหรือกำลังเผาอยู่ไม่ต่ำกว่า 6.87 ล้านไร่ อย่างไรก็ดี คาดว่าอากาศร้อนและลมแรงจะกลับมาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า.- สำนักข่าวไทย

ไฟป่าออสเตรเลียยังวิกฤติ


ออสเตรเลีย 13 พ.ย.-ไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรีเลียยังคงวิกฤติ บ้านเรือนกว่า 50 หลังได้รับความเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย แต่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่า 13 คนได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่

เจ้าหน้าที่ทางการออสเตรเลียเผยว่าเวลานี้ไฟป่าในรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังคงวิกฤติ ล่าสุดมีบ้านเรือนกว่า 50 หลังได้รับความเสียหายหรือถูกไฟเผาราบคาบ และจนถึงขณะนี้ยังมีไฟป่าที่อยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอีก 7 จุด โดยเฉพาะทางตอนเหนือของรัฐ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย แต่เมื่อคืนนี้มีเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า 13 คนได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ที่อยู่ขึ้นไปทางเหนือยังมีไฟป่ากว่า 50 จุดที่ยังปะทุอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนอย่างน้อย 13 หลังถูกไฟเผาวอด ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าจากนิวซีแลนด์ได้เดินทางมาถึงรัฐควีนส์แลนด์แล้ว เพื่อช่วยปฏิบัติการดับไฟป่า.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงฮ่องกงปิดถนน และเผชิญหน้ากับตำรวจ


ฮ่องกง 13 พ.ย. - สถานการณ์ตึงเครียดในฮ่องกง ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา พยายามสร้างความวุ่นวายให้การจราจร และยังคงเผชิญหน้ากับตำรวจที่มหาวิทยาลัย

ผู้ประท้วงทวีความเดือดดาลยิ่งขึ้น หลังมีเหตุตำรวจยิงนักศึกษาได้รับบาดเจ็บสาหัสไป 1 คนเมื่อวันจันทร์ และยังคงก่อการประท้วงต่อเนื่องในคืนวันอังคาร รวมทั้งตั้งสิ่งกีดขวางตามท้องถนนในย่านธุรกิจที่จอแจ ขณะที่นักศึกษาบางส่วนยังคงปักหลักอยู่ในมหาวิทยาลัย และพยายามปิดถนนโดยรอบ โดยมีรายงานว่าตำรวจเตรียมบุกมหาวิทยาลัยแล้ว

เมื่อวานนี้ผู้ประท้วงได้เผาทำลายรถตำรวจและรถไฟของระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน จนใช้การไม่ได้ไปหลายคัน และได้ประกาศผ่านสื่อสังคมเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมกันสร้างความวุ่นวายให้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถเมล์ ในเช้าวันพุธ ขณะที่นางแคร์รี่ หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงยืนกรานว่ารัฐบาลฮ่องกงจะให้ตำรวจปราบปรามผู้ประท้วง ด้วยความแข็งกร้าวต่อไป.- สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงปิดระบบขนส่งหลายแห่ง


ฮ่องกง 13 พ.ย.-ฮ่องกงต้องเผชิญกับความวุ่นวายจากการชุมนุมประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

ล่าสุดเช้าวันนี้ผู้โดยสารไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งต้องปิดทำการ รถบัสโดยสารก็ต้องยกเลิกให้บริการเช่นเดียวกัน หลังจากเมื่อคืนนี้เกิดความวุ่นวายจากการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม บริเวณมหาวิทยาลัยจีนวิทยาเขตฮ่องกง รวมถึงในย่านธุรกิจ ซึ่งพบว่าผู้ประท้วงมีการจุดไฟเผาห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และฉีดน้ำสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการปาระเบิดเพลิงและก้อนอิฐเข้าใส่ตำรวจ การประท้วงในฮ่องกงยืดเยื้อมานานกว่า 5 เดือนแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงโดยง่าย.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงยังวุ่นวายต่อเนื่อง


ฮ่องกง 13 พ.ย.- การชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ยังคงเกิดความวุ่นวายต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ หลังจากเมื่อคืนนี้เกิดการปะทะกันรอบใหม่ระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจ

สถานการณ์ในฮ่องกงยังคงเป็นไปอย่างวุ่นวายในเช้าวันนี้ ผู้โดยสารรถไฟใต้ดินไม่สามารถใช้บริการได้ เนื่องจากสถานีหลายแห่งต้องปิดทำการขณะที่รถบัสโดยสารก็ต้องยกเลิกให้บริการเช่นกันหลังจากเมื่อวานมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจที่มหาวิทยาลัยจีนวิทยาเขตฮ่องกงและลากยาวไปจนถึงช่วงกลางคืน ผู้ประท้วงพากันจุดไฟเผาภายในมหาวิทยาลัยรวมทั้งห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ทำให้ตำรวจต้องตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา ใช้กระสุนยางและฉีดน้ำสลายการชุมนุม เหตุการณ์ปะทะรอบใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาหลังจากมีผู้ประท้วงคนหนึ่งถูกยิงด้วยกระสุนจริงอาการสาหัส นอกจากนี้ ยังมีชายคนหนึ่งถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผาเนื่องจากแสดงความเห็นต่าง ส่วนสภาพท้องถนนในเช้าวันนี้ยังคงเต็มไปด้วยเศษซากสิ่งของที่ผู้ชุมนุมนำออกมาวางกีดขวางรวมทั้งในย่านมงก๊ก และในวันนี้ผู้ประท้วงมีแผนจะชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งในพื้นที่หลายจุด ข้อมูลของโรงพยาบาลระบุว่าตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมไปแล้ว 81 คน ในจำนวนนี้ 2 คนอาการสาหัส

ด้านนางแครี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวว่า ผู้ประท้วงมีความเห็นแก่ตัวอย่างมากที่พยายามทำให้ฮ่องกงเป็นอัมพาตและหวังว่าสถาบันการศึกษาจะเรียกร้องให้นักเรียนนักศึกษาไม่ไปเข้าร่วมการชุมนุมและก่อเหตุรุนแรง.-สำนักข่าวไทย

สถานการณ์บริเวณฉนวนกาซาทวีความรุนแรงขึ้น


อิสราเอล 13 พ.ย.-สถานการณ์บริเวณฉนวนกาซาทวีความรุนแรงขึ้น หลังกองทัพอิสราเอลสังหารหนึ่งในแกนนำกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ ส่งผลให้กลุ่มนักรบปาเลสไตน์แก้แค้นด้วยการยิงจรวดหลายลูกถล่มอิสราเอล

จรวดหลายลูกถูกยิงจากบริเวณฉนวนกาซา พุ่งเป้ามาที่อิสราเอล ก่อนถูกสกัดโดยระบบต่อต้านขีปนาวุธไอรอนโดมของอิสราเอล สถานการณ์ในบริเวณฉนวนกาซาทวีความรุนแรงขึ้น หลังกองทัพอิสราเอลสังหารนายบาฮา อาบู เอล อัตตา หนึ่งในแกนนำกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารพร้อมภรรยาขณะกำลังนอนหลับอยู่ที่บ้านพักทางตะวันออกของฉนวนกาซา ส่งผลให้กลุ่มนักรบปาเลสไตน์แก้แค้นด้วยการยิงจรวดหลายลูกถล่มอิสราเอล จรวดบางลูกตกไกลถึงนครเทลอาวีฟ ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบโจมตีที่มั่นของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงจีฮัด.-สำนักข่าวไทย

การชุมนุมประท้วง เรียกร้องความเสมอภาคทางสังคมในชิลี ย่างเข้าสู่วันที่ 26


ชิลี 13 พ.ย.-การชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเสมอภาคทางสังคมในชิลีย่างเข้าสู่วันที่ 26 ประกอบกับมีการผละงานประท้วง ส่งผลให้ประเทศอยู่ในภาวะชะงักงัน

การชุมนุมประท้วงเรียกร้องความเสมอภาคทางสังคมในชิลีย่างเข้าสู่วันที่ 26 ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงทั้งในกรุงซานติอาโก เมืองหลวง และอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบกับมีการผละงานประท้วง ส่งผลให้ประเทศอยู่ในภาวะชะงักงัน ระหว่างการชุมนุมประท้วงมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมประท้วงที่ปิดบังใบหน้า ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาและใช้สายสูบฉีดน้ำเพื่อสลายการชุมนุม

การชุมนุมประท้วงในชิลีปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา สาเหตุจากความไม่พอใจการขึ้นค่ารถไฟใต้ดิน ต่อมาบานปลายเป็นการชุมนุมเรียกร้องให้ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุข ไปจนถึงการปฏิรูประบบบำนาญ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน บาดเจ็บอีกว่า 2,000 คน ระหว่างการชุมนุมประท้วง.-สำนักข่าวไทย

ระเบิดหน้า สนญ.ตำรวจในเมดานของอินโดนีเซีย คาดเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย


เมดาน 13 พ.ย.- เกิดระเบิดหน้าสำนักงานใหญ่ตำรวจในเมืองเมดาน เมืองเอกของจังหวัดสุมาตราเหนือของอินโดนีเซียในวันนี้ มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน คาดว่าเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย และมีตำรวจบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง หลังเกิดเหตุอดีตรัฐมนตรีความมั่นคงถูกแทงได้เพียงหนึ่งเดือน

ตำรวจจังหวัดสุมาตราเหนือเผยว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย ภาพข่าวทางโทรทัศน์เห็นคนวิ่งออกจากอาคารต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้สำนักงานใหญ่ตำรวจ ขณะที่โฆษกตำรวจแห่งชาติแถลงว่า เหตุเกิดบริเวณที่จอดรถขณะที่ประชาชนกำลังเข้าแถวขอเอกสารจากตำรวจ แรงระเบิดไปไม่ถึงอาคาร แต่ตำรวจได้เตรียมพร้อมเฝ้าระวังแล้ว

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมเกิดเหตุคนร้ายจ้วงแทงนายพลวิรันโต รัฐมนตรีความมั่นคงในขณะนั้นถึงสองแผลขณะที่เขากำลังลงจากรถในจังหวัดเบนเต็น นายพลวิรันโตลาออกจากตำแหน่งในอีก 10 วันต่อมา เจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายที่ถูกควบคุมตัวได้เป็นสมาชิกกลุ่มเจเอดี (JAD) ที่ก่อเหตุปองร้ายตำรวจหลายครั้งในช่วงหลายปีมานี้.- สำนักข่าวไทย

โบลิเวียยังป่วนแม้ได้รักษาการผู้นำใหม่


โบลิเวีย 13 พ.ย.- สถานการณ์การเมืองในโบลิเวียยังสับสนหลังรองประธานวุฒิสภาประกาศตัวเป็นรักษาการประธานาธิบดีแทนอดีตประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ที่ลาออกแล้วเดินทางไปลี้ภัยทางการเมืองในเม็กซิโก

นางจานีน อาเนส รองประธานวุฒิสภาจากพรรคฝ่ายค้านโบลิเวีย ประกาศตัวเป็นรักษาการประธานาธิบดี หลังนายอีโว โมราเลส ลาออกและเดินทางไปลี้ภัยในเม็กซิโกเมื่อวานนี้ นางอาเนส ระบุว่าตามรัฐธรรมนูญของโบลิเวีย เธอจะต้องทำหน้าที่รักษาการประธานาธิบดี พร้อมกับประกาศจะจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี สมาชิกสภาจากพรรคการเมืองของอดีตประธานาธิบดีโมราเลสคว่ำบาตรทำให้สภาไม่ครบองค์ประชุมในการรับรองการแต่งตั้งนางอาเนส แต่ในที่สุดเธอก็ได้รับการรับรองจากศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อย

ด้านนายโมราเลส ซึ่งอยู่ที่เม็กซิโก ก็ได้ประณามการแต่งตั้งนางอาเนสว่าเป็นวุฒิสมาชิกฝ่ายขวาที่กระหายการทำรัฐประหาร

อย่างไรก็ตาม การประท้วงต่อต้านนายโมราเลสยังคงดำเนินต่อไป จนรัฐบาลสหรัฐ อังกฤษ และออสเตรเลีย ต้องประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังโบลิเวีย จากเหตุประท้วงและความวุ่นวายทางการเมืองโดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 7 คน.-สำนักข่าวไทย

จีนสอบชาวไต้หวัน ต้องสงสัยเป็นภัยความมั่นคงรายที่ 3


ปักกิ่ง 13 พ.ย.- สื่อทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ทางการกำลังสอบสวนชายไต้หวันคนหนึ่ง ฐานต้องสงสัยดำเนินกิจกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นชาวไต้หวันรายที่ 3 ในรอบ 3 เดือน ที่จีนยืนยันว่าถูกสอบสวนในข้อหานี้

หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีรายงานว่า โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของคณะรัฐมนตรีจีนแถลงวันนี้ว่า นายสือ เชิงปิง อาจารย์วัยเกษียณ มหาวิทยาลัยครูแห่งชาติไต้หวันและนักเศรษฐศาสตร์คนสำคัญของหัวเซี่ยกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจใหญ่ของจีน กำลังถูกสอบสวนฐานต้องสงสัยดำเนินกิจกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ นายสือหายไปตั้งแต่เข้าจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน เป็นชาวไต้หวันหนึ่งในสามคนที่ทางการจีนยืนยันว่า ถูกกักตัวหลังเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อสอบสวนเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน ทางการจีนแจ้งว่า ได้กักตัวนายไซ่ ชินชู นักวิชาการชาวไต้หวันที่เป็นหัวหน้าองค์กรส่งเสริมความสัมพันธ์ไต้หวันกับจีนไว้สอบปากคำ สื่อไต้หวันระบุว่า เขาหายไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีก่อน จากนั้นในเดือนเดียวกันจีนแจ้งว่า ได้กักตัวนายลี เมิ่งชู นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวันที่หายไปหลังเดินทางจากฮ่องกงเข้าไปในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ โฆษกจีนกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาทางการจัดการกับกิจกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติตามหลักกฎหมายอยู่เสมอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังจัดการกับคดีนี้ตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด และได้แจ้งให้ครอบครัวของผู้ถูกจับกุมทั้งสามคนทราบแล้ว.- สำนักข่าวไทย

ปลูกถ่ายปอดทั้งสองข้างให้วัยรุ่นอเมริกัน ที่เกือบตายเพราะบุหรี่ไฟฟ้า


ดีทรอยต์ 13 พ.ย.- โรงพยาบาลในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนของสหรัฐปลูกถ่ายปอดทั้งสองข้างในคราวเดียวกันให้แก่วัยรุ่นชายที่เกือบตายเพราะปอดเสียหายหนักจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

โรงพยาบาลเฮนรีฟอร์ดแถลงว่า ศัลยแพทย์ 3 นาย และคณะผู้เชี่ยวชาญช่วยกันปลูกถ่ายปอดทั้งสองข้างให้แก่วัยรุ่นชายวัย 17 ปีคนหนึ่งเมื่อกลางเดือนตุลาคม ไม่เช่นนั้นเขาอาจไม่มีชีวิตรอด ด้านครอบครัวเผยว่า เป็นฝ่ายขอให้โรงพยาบาลแถลงเรื่องนี้เพื่อเตือนให้สาธารณชนทราบถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าว่า การสูบไอจากบุหรี่ไฟฟ้าเพียงไม่กี่ปีได้เปลี่ยนชีวิตคนทั้งครอบครัวไปตลอดกาล เด็กหนุ่มที่เคยมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ใช้ชีวิตได้ตามปกติ เช้าวันหนึ่งต้องตื่นมาพร้อมกับท่อช่วยหายใจและปอดที่ปลูกถ่ายใหม่ทั้งสองข้าง ต้องใช้เวลารักษาตัวอย่างเจ็บปวดและยาวนานเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงและการเคลื่อนไหวที่เสียหายร้ายแรง

ข่าวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันก่อนว่า จะพบกับตัวแทนอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าเพราะรัฐบาลกำลังพิจารณาจะออกระเบียบใหม่ เนื่องจากมีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทั่วประเทศ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) ออกรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า มีผู้ป่วยปอดเสียหายทั้งที่ได้รับการยืนยันและยังไม่ยืนยันว่าเกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว 2,051 ราย และมีผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้ป่วยเกือบร้อยละ 85 ใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมเตตราไฮโดรแคนนาบินอลหรือทีเอชซี (THC) ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชา และผลการตรวจตรวจอย่างเนื้อเยื่อปอดผู้ป่วย 29 รายชี้ว่าทั้งหมดปนเปื้อนวิตามินอีอะซิเตทที่ปกติแล้วใช้เป็นสารกันหืนและให้ความชุ่มชื้นในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว.- สำนักข่าวไทย

หัวเว่ยจะแจกโบนัส พนง.กว่า 8,600 ลบ.ตบรางวัลช่วยรับมือสหรัฐ


เซินเจิ้น 12 พ.ย.- หัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมใหญ่ที่สุดในโลกของจีนจะแจกเงินสดรวม 2,000 ล้านหยวน (ราว 8,660 ล้านบาท) ตบรางวัลพนักงานที่ช่วยกันทำให้บริษัทสามารถต้านทานการถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำได้

รอยเตอร์อ้างประกาศที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของหัวเว่ยแจ้งถึงพนักงานว่า เงินรางวัลนี้เป็นเครื่องหมายยอมรับการทำงานหนักของพนักงานท่ามกลางแรงกดดันจากสหรัฐ โฆษกบริษัทเผยว่า เงินรางวัลนี้จะมอบให้แก่ทีมวิจัยและพัฒนาและทีมที่ช่วยกันย้ายห่วงโซ่อุปทานการผลิตของบริษัทออกจากสหรัฐ นอกจากนี้บริษัทยังจะจ่ายเงินเดือนเดือนนี้เป็นสองเท่าให้แก่พนักงานเกือบทุกคนจากที่มีอยู่ทั้งหมด 190,000 คนด้วย

สหรัฐมีคำสั่งเมื่อเดือนพฤษภาคมห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับหัวเว่ย ทำให้หัวเว่ยมีปัญหาในการหาชิ้นส่วนสำคัญในการผลิต หัวเว่ยประกาศในเวลานั้นว่า กำลังหาฮาร์ดแวร์จากที่อื่นแทนสหรัฐ รัฐบาลสหรัฐระบุว่า อุปกรณ์ของหัวเว่ยโดยเฉพาะอุปกรณ์ 5 จี (5G) เป็นภัยด้านความมั่นคงแห่งชาติเพราะบริษัทมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน นอกจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว หัวเว่ยยังเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับสองของโลก ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นมากช่วยให้ไตรมาสสามของปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27.- สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

องคมนตรีลงพื้นที่นราฯ มอบถุงยังชีพ 60 ชุด


ในหลวงทรงห่วงใยราษฎรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โปรดเกล้าฯ องคมนตรีมอบถุงพระราชทาน เพื่อเป็นกำลังใจที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

ที่กองร้อยทหารพรานที่ 4601 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 60 ถุง ไปมอบแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยมี พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายธรรมรงค์ คงวัดใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองท้องถิ่นและกลุ่มสตรีให้การต้อนรับ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงพระราชทานแก่กำลังพลของหน่วยฯ

ทั้งนี้อำเภอรือเสาะแบ่งการปกครองออกเป็น 9 ตำบล 72 หมู่บ้าน ประชากร 73,394 คน ประชากร 90 % นับถือศาสนาอิสลาม และอีก 10 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนาพุทธ ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ทำสวนยางพารา และสวนผลไม้ จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก แต่ด้วยความเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะกลับมาสู่ความสงบอีกครั้ง

โอกาสนี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี กล่าวว่า การเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีความห่วงใยราษฎร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้รับสั่งให้องคมนตรีเดินทางมาพบปะเยี่ยมเยียน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ และเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญ และกำลังใจ และแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยของพระองค์ท่านที่มีต่อพสกนิกรปวงชนชาวไทยเสมอมา ได้รับทราบต่างปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ปภ.เตือนพื้นที่เสี่ยงภัย รับมือฝนฟ้าคะนอง 13–15 นี้


กอปภ.ก.ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนฟ้าคะนอง อากาศเย็น ในช่วงวันที่ 13 – 15 พ.ย.2562

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 13 – 15 พฤศจิกายน 2562 ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในช่วง 1 – 2 วัน โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2 – 5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่วนภาคกลางอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานจังหวัด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น อีกทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลรักษาสุขภาพ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกาย หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศหนาวเย็น

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกหนักบางพื้นที่ อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร จึงเน้นย้ำให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ชาวนาโคราชเจอภัยแล้งหนัก เร่งสูบน้ำเข้านา


ชาวนาโคราชภัยแล้งหนัก เร่งสูบน้ำเข้านาช่วยข้าวกำลังออกรวง แบกภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้นหลายเท่าตัว

ชาวนาหลายรายในพื้นที่อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งอย่างหนัก แหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่แห้งขอดจนหมด จำเป็นต้องปล่อยให้ข้าวยืนต้นตาย ขณะที่นายพูน บ้านนอก อายุ 74 ปี ชาวนาในพื้นที่อำเภอคงซึ่งลงทุนทำนาปลูกข้าวจำนวน 22 ไร่ กล่าวว่า ช่วงนี้ต้นข้าวกำลังออกรวงใกล้จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีแล้ว แต่กลับขาดน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวหยุดการเจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องนำรถบรรทุกน้ำไปสูบน้ำจากนาข้าวของเพื่อนบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง มาหล่อเลี้ยงต้นข้าวไม่ให้แห้งตาย

เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ต้นข้าวที่กำลังออกรวงจะหยุดการเจริญเติบโต เมล็ดข้าวลีบ จำเป็นต้องลงทุนซื้อน้ำมันใส่เครื่องสูบไว้สูบน้ำใส่นาข้าว ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว แถมผลผลิตข้าวที่ได้ ยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะประสบกับปัญหาภัยแล้งยาวนานหนักสุดในรอบ 50 ปี

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

อุตุฯเผย ไทยตอนบนมีหมอกตอนเช้า-กทม.มีฝน 10%


กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้า ขณะกทม.พบฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีหมอกบางในตอนเช้า โดยบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วยและดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกต่อเนื่อง

อนึ่ง สำหรับในช่วงวันที่ 13-15 พ.ย. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-5 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออกมีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑลพบมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-20 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

เปิดความลับ! เบื้องลึก เปิดดวงเมือง ต้องย้ายเมืองหลวง
​

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2562​

 

อิตาลีเผชิญน้ำท่วมหนักในรอบกว่า 50 ปี


อิตาลี 14 พ.ย.- อิตาลีกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมหนักในรอบกว่า 50 ปี ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน

สถานการณ์น้ำท่วมในอิตาลีครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาพบว่าระดับน้ำในนครเวนิสสูงถึง 187 เซนติเมตร ซึ่งน้อยกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงครั้งประวัติศาตร์เมื่อปี 2509 เพียง 7 เซนติเมตรเท่านั้น น้ำท่วมครั้งล่าสุดนี้ทำให้มีเสียงเรียกร้องในการหาแนวทางป้องกันน้ำท่วมจากปัญหาการเพิ่มระดับของน้ำทะเลที่ดีกว่าเดิม เวลานี้มหาวิหารเซนต์มาร์คในเวนิสต้องจมอยู่ใต้น้ำรวมทั้งโบราณสถานอีกหลายแห่งซึ่งต้องปิดรับนักท่องเที่ยว นายลุยจิ บรุกนาโร นายกเทศมนตรีนครเวนิส กล่าวว่า เวลานี้นครเวนิสได้รับความเสียหายไปทั้งเมืองและว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านยูโร พร้อมกันนี้ ขอให้รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข้อมูลของทางการท้องถิ่นระบุว่าสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมเกิดจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ส่งผลให้น้ำทะเลเพิ่มระดับสูงขึ้น โดยพบว่าระดับน้ำทะเลในขณะนี้สูงกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วถึง 10 เซนติเมตร

ด้านนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต กล่าวว่า โครงการป้องกันน้ำท่วมใต้ทะเลที่เคยออกแบบไว้เมื่อปี 2527 จะต้องเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยขณะนี้โครงการเดินหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 90 สาเหตุที่ทำให้เกิดความล่าช้าเป็นเพราะมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งยังมีการทุจริตและถูกต่อต้านว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้ทะเล คาดว่าระบบป้องกันน้ำท่วมนี้น่าจะเริ่มใช้งานได้ปลายปี 2564.-สำนักข่าวไทย

อิตาลีโทษสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง-คอร์รัปชัน ต้นเหตุน้ำท่วมเวนิส


เวนิส 14 พ.ย. – หลายพื้นที่ของเมืองเวนิสในอิตาลียังคงมีน้ำท่วมในคืนวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกระแสน้ำสูงที่สุดในรอบ 50 ปีเข้าท่วมเมืองประวัติศาสตร์ จนรัฐบาลเตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินภัยธรรมชาติในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อให้รัฐบาลสามารถให้การช่วยเหลือได้โดยรวดเร็วขึ้น

ทางการอิตาลีโทษว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คือสาเหตุของน้ำท่วม ขณะที่บรรดาร้านค้าในพื้นที่โทษว่าสาเหตุที่ทำให้เวนิส ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลก ถูกน้ำท่วมในครั้งนี้ มาจากความล่าช้าของระบบป้องกันน้ำท่วมจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น

อิตาลีเริ่มโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมให้กับเวนิสมาตั้งแต่ปี 2546 โดยเป็นระบบประตูน้ำ 78 บาน ที่สามารถยกขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วงน้ำขึ้นสูง แต่จากการทดสอบครั้งล่าสุดพบว่าระบบป้องกัน ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างมาก และเกรงจะกระทบกับโบราณสถาน ขณะเดียวกันก็ยังพบว่าโครงสร้างเกิดสนิมในหลายจุดแล้วทั้งที่ยังไม่ทันใช้.- สำนักข่าวไทย

กรุงนิวเดลีสั่งปิดโรงเรียน เพราะปัญหาหมอกควันพิษ


นิวเดลี 14 พ.ย. – ทางการอินเดียประกาศว่า คุณภาพอากาศขณะนี้อยู่ในระดับอันตราย และทางการกรุงนิวเดลี ได้สั่งปิดโรงเรียนโดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกัน

ขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่ภาพเด็กๆวิ่งโดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยในงานวิ่งที่จัดโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรแห่งหนึ่ง งานวิ่งดังกล่าวเป็นงานวิ่งประจำปี จัดขึ้นเพื่อรำลึกวันคล้ายวันเกิดของนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดียและเป็นการฉลองวันเด็ก อย่างไรก็ตาม ผู้จัดงานกล่าวว่า ไม่ได้ให้เด็กวิ่งระยะทางไกล และเป็นการวิ่งระยะสั้นๆ เท่านั้น และว่า เป็นการมาร่วมกิจกรรมโดยสมัครใจ และได้รับอนุญาตจากทั้งรัฐบาลและตำรวจแล้ว เจ้าของงานไม่ได้รับคำสั่งจากทางการให้ยกเลิกแต่อย่างใด

คุณภาพอากาศในกรุงนิวเดลียังคงอยู่ระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพติดต่อกันสามวันแล้ว ทำให้สำนักงานควบคุมและป้องกันมลพิษต้องออกคำสั่งปิดโรงเรียนเป็นเวลา 2 วัน โดยมีการส่งคำสั่งไปยังทางการกรุงนิวเดลีและรัฐใกล้เคียง ทางการกรุงนิวเดลีได้สั่งจำกัดการใช้รถส่วนตัวจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน .- สำนักข่าวไทย

จีนระบุมีความเสี่ยงน้อย ที่จะเกิดการระบาดของกาฬโรคปอด


ปักกิ่ง 14 พ.ย. – หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของทางการจีน รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน ระบุมีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดการระบาดของโรคกาฬโรคปอด หลังพบผู้ป่วย 2 ราย ในกรุงปักกิ่งสัปดาห์นี้

รายงานระบุว่า ผู้ป่วย 2 รายถูกส่งตัวมาจากมองโกเลียในโดยรถพยาบาล เพื่อมารับการรักษายังสถานพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง และทั้งคู่ได้ถูกแยกกักตัวไว้แล้ว โดยรายหนึ่งมีอาการวิกฤติ ขณะที่อีกรายมีอาการทรงตัว

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคจีนเปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบผู้ที่เข้าข่ายอาจได้รับเชื้อจากผู้ป่วยทั้งสองราย รวมถึงโรงพยาบาลแล้ว และได้เพิ่มการสอดส่องหาผู้ที่มีอาการคล้ายกัน ทั้งนี้กาฬโรคปอดเป็นโรคที่มีหนูเป็นพาหะ และมีอัตราการเสียชีวิตในมนุษย์ถึงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ หากไม่ได้รับการรักษา

มองโกเลียในประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของประชากรหนู หลังเกิดภัยแล้งรุนแรงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา กาฬโรคได้สร้างความเสียหายให้มองโกเลียในไปกว่า 600 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,562 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย

พบผู้เสียชีวิตรายที่ 4 จากไฟป่าออสเตรเลีย


ออสเตรเลีย 14 พ.ย.-พบผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 4 จากสถานการณ์ไฟป่าทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย คาดว่าเป็นชายอายุ 58 ปี

พบผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 4 จากสถานการณ์ไฟป่าทางภาคตะวันออกของออสเตรเลีย คาดว่าเป็นชายอายุ 58 ปี ซึ่งชาวบ้านพบศพอยู่ในพื้นที่ไฟป่าชานเมืองเคมป์ซีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ หลังจากมีผู้พบเห็นชายคนดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ส่วนผู้เสียชีวิต 3 คนก่อนหน้านี้ก็อยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์เช่นกัน ขณะที่บ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย และจนถึงขณะนี้ยังคงมีไฟป่าที่ยังปะทุอยู่กว่า 100 จุด.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประท้วงฮ่องกงยิงธนูใส่ตำรวจ และสร้างความวุ่นวายในวันทำงานเป็นวันที่ 4


ฮ่องกง 14 พ.ย. - ผู้ประท้วงในฮ่องกง สร้างความวุ่นวายในวันทำงานต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยทั้งยิงธนูใส่ตำรวจ ปิดกั้นถนน และสร้างความวุ่นวายให้การจราจร จนโรงเรียนต้องงดการเรียนการสอน และบรรดากิจการห้างร้านต้องปิดทำการ

เฟซบุ๊กของตำรวจระบุว่า ในเช้าวันนี้ผู้ก่อจลาจลได้ยิงธนูใส่ตำรวจที่ลาดตระเวณอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง พร้อมระบุว่า นักศึกษาได้หันมาใช้อาวุธใหม่ตั้งแต่หนังสติ๊กไปจนถึงธนูที่ขโมยมาจากฝ่ายกีฬา เพื่อนำมาต่อกรกับตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง

การประท้วงในฮ่องกงล่วงเลยเข้าสู่เดือนที่หกแล้ว และได้เปลี่ยนจากการใช้วิธีชุมนุมประท้วงและเดินขบวน มาใช้กลยุทธ “ผลิบานในทุกแห่งหน” ซึ่งเป็นกลยุทธของกลุ่มคนชุดดำที่นำโดยนักศึกษาในการสร้างความวุ่นวายในทุกพื้นที่ให้ทุกภาคส่วนของฮ่องกงเป็นอัมพาต.- สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง เหตุประท้วงรุนแรง


ฮ่องกง 14 พ.ย.- ฮ่องกงต้องสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่ง หลังการประท้วงและการปะทะหนักหน่วงขึ้น ขณะที่ผู้ประท้วงนัดปิดกั้นเส้นทางคมนาคมมากขึ้นอีกในวันนี้

รัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจปิดโรงเรียนทุกแห่งตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมปลายในวันนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน เนื่องจากการปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลและตำรวจยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงที่รวมตัวชุมนุมกันมาถึง 6 เดือนแล้วยังพากันปิดกั้นเครือข่ายระบบขนส่งทั้งรถประจำทางและรถไฟฟ้าใต้ดิน หลังมีการชักชวนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนมหาวิทยาลัยบางแห่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ซึ่งเป็นจุดปะทะรุนแรงเมื่อวันอังคารที่่่ผ่านมา ได้สั่งยกเลิกการเรียนการสอนสำหรับภาคการเรียนที่เหลือทั้งหมด ขณะที่นักศึกษาจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง ตำรวจต้องพาลงเรือหลบหนีไปยังที่ปลอดภัย นอกจากนี้ นักศึกษาจากไต้หวันต่างก็เริ่มเดินทางออกจากฮ่องกงกันแล้ว ส่วนในวันนี้ มีการเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วงปิดกั้นเส้นทางจราจรบนเกาะฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น

ด้านสำนักงานประสานงานของจีนบนเกาะฮ่องกง ออกแถลงการณ์ว่า ฮ่องกงกำลังถลำลึกเข้าสู่การก่อการร้ายเข้าไปทุกที พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงใช้มาตรการเด็ดขาดจัดการกับผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียขอให้ตำรวจและผู้ประท้วงฮ่องกงอดกลั้น


ซิดนีย์ 14 พ.ย.- ออสเตรเลียขอให้ทั้งตำรวจและผู้ประท้วงในฮ่องกงใช้ความอดกลั้น หลังสถานการณ์ทวีความรุนแรง และขอให้ทางการฮ่องกงพิจารณาเปิดการสอบสวนอิสระต่อการกระทำของตำรวจ

นางมารีส เพน รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียย้ำเสียงเรียกร้องของสหภาพยุโรปและสหรัฐที่ให้ฮ่องกงดำเนินมาตรการที่แท้จริงเพื่อลดความตึงเครียด และขอให้ตำรวจฮ่องกงตอบโต้การประท้วงอย่างเหมาะสม ออสเตรเลียขอให้ทางการฮ่องกงทำตามที่คณะผู้เชี่ยวชาญสากลแนะนำให้เปิดการสอบสวนอิสระต่อการกระทำของตำรวจช่วงการประท้วง ส่วนเรื่องที่จีนยืนกรานว่า สถานการณ์ในฮ่องกงเป็นเรื่องภายในของจีนนั้น นางเพนแย้งว่า ออสเตรเลียมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของฮ่องกง เพราะเมืองนี้มีชุมชนชาวออสเตรเลียอาศัยอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเป็นที่ตั้งผลประโยชน์ทางพาณิชย์ของออสเตรเลียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

การประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อผู้ประท้วงเพิ่มการกีดขวางการจราจรและทำลายทรัพย์สินทั่วเมือง ทำให้ตำรวจตอบโต้รุนแรงขึ้น ใช้ทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริงในบางครั้ง คลิปที่ส่งต่อออนไลน์ในวงกว้างมีทั้งคลิปตำรวจนายหนึ่งจงใจขับรถจักรยานยนต์พุ่งเข้าไปในกลุ่มผู้ประท้วง คลิปตำรวจยิงแก๊สน้ำตาอย่างไม่เลือกหน้า หลายครั้งยิงไปยังกลุ่มผู้สื่อข่าว และคลิปตำรวจกระหน่ำตีผู้ประท้วง.- สำนักข่าวไทย

อินโดฯ เข้มความปลอดภัย หลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย


อินโดฯ เข้มความปลอดภัย หลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย

อินโดนีเซีย 14 พ.ย. - สำนักงานใหญ่ตำรวจเมืองเมดานของอินโดนีเซีย คุมเข้มการรักษาความปลอดภัย หลังคนร้ายก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ด้านนอกสำนักงานเมื่อวานนี้ ทำให้มือระเบิดเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 6 คน

โฆษกตำรวจเมืองเมดาน ระบุจากการสืบสวนพบว่า มือระเบิดเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชาย วัย 24 ปี และเชื่อว่าก่อเหตุเพียงลำพัง อย่างไรก็ดี ตำรวจจะสืบสวนต่อไปว่าคนร้ายรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธใดหรือไม่.- สำนักข่าวไทย

รถชนกันในสโลวาเกีย ตาย 12 เจ็บ 17 คน


สโลวาเกีย 14 พ.ย.-รถบัสรับส่งนักเรียนชนกับรถบรรทุกในสโลวาเกีย มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บอีก 17 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 4 คน นายกรัฐมนตรีปีเตอร์ เพลเลกรินี แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต

เกิดอุบัติเหตุรถบัสรับส่งนักเรียนชนกับรถบรรทุกในสโลวาเกีย มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บอีก 17 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 4 คน อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นบนทางหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงบราทิสลาวาไปทางตะวันออกราว 100 กิโลเมตร นายกรัฐมนตรีปีเตอร์ เพลเลกรินี เดินทางไปในที่เกิดเหตุ และกล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของประเทศ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และเตรียมจะเสนอให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาให้ประกันตัวฝ่ายค้านกว่า 70 คน


พนมเปญ 14 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาสั่งให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านกว่า 70 คน ด้วยการประกันตัว หลังจากจับกุมในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนและกล่าวหาว่าวางแผนโค่นล้มรัฐบาล

นายกรัฐมนตรีฮุน เซนกล่าวสุนทรพจน์เปิดโรงงานซีเมนต์แห่งใหม่ในจังหวัดกำปอต ทางใต้ของประเทศในวันนี้ โดยกล่าวไปถึงเจ้าหน้าที่ตุลาการว่า ขอให้เร่งกระบวนการให้ประกันตัวโดยเร็ว เพื่อให้พี่น้องกว่า 70 คน ได้รับการปล่อยตัว และว่านอกจากสั่งให้ฝ่ายค้านได้รับการประกันตัวแล้ว เขายังได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรมเพิกถอนหมายจับนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านคนอื่น ๆ ที่หนีไปไทยหรือหลบซ่อนตัวอยูในกัมพูชาด้วย

ด้านนางมู โซชัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชาหรือซีเอ็นอาร์พี (CNRP) ที่ถูกศาลฎีกาสั่งยุบพรรคไปเมื่อปลายปีก่อนมองว่า เป็นเพียงเทคนิคการยอมอ่อนข้อบางส่วนครั้งใหม่ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน หวังสร้างความแตกแยกในกลุ่มฝ่ายค้าน เพราะเขายังคงขึ้นบัญชีนายสม รังสี ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและคนสนิทอีกหลายคนว่าเป็นกบฏที่พยายามโค่นล้มรัฐบาล ขณะที่นายสม รังสี เผยกับสื่อหลังเดินทางถึงกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียในวันนี้ว่า จะพบกับสมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียและหวังว่าจะได้กลับกัมพูชาในเร็ว ๆ นี้ เขาไม่สามารถขึ้นเครื่องบินของไทยเดินทางจากกรุงปารีสมาไทยเมื่อสัปดาห์ก่อน จึงเปลี่ยนจุดหมายไปมาเลเซีย ก่อนเดินทางต่อมาอินโดนีเซีย

ส่วนเมื่อวันอังคารสหภาพยุโรปหรืออียูออกรายงานเบื้องต้นเรื่องจะเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าที่ให้กัมพูชาส่งสินค้าทุกอย่างยกเว้นอาวุธเข้าอียูโดยไม่ภาษี เนื่องจากกัมพูชากวาดล้างฝ่ายค้าน สื่อ องค์กรนอกภาครัฐ และกำหนดเส้นตายให้กัมพูชาตอบสนองต่อรายงานภายใน 1 เดือน ก่อนที่อียูจะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า.- สำนักข่าวไทย

"สม รังสี" ถึงอินโดนีเซีย


อินโดนีเซีย 14 พ.ย. - นายสม รังสี แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา เดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ไปกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียในวันนี้

ทันทีที่เดินทางถึง นายสมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทุกประเทศในอาเซียนจะต้องบรรลุเป้าหมายในการเป็นประชาธิปไตย แต่จะพัฒนาได้ช้าเร็วต่างกัน ขณะที่กัมพูชาถูกปกครองโดยพรรคการเมืองพรรคเดียวมาตลอด 40 ปี และมีนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ผูกขาดในตำแหน่งมานานถึง 35 ปี ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

นายสม ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสตั้งแต่ 4 ปีก่อน และมีแผนเดินทางกลับไปกัมพูชาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ. - สำนักข่าวไทย

สหรัฐพร้อมปรับขนาดซ้อมรบกับเกาหลีใต้ ขึ้นกับการทูตเกาหลีเหนือ


โซล 14 พ.ย.- นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเผยว่า สหรัฐพร้อมปรับขนาดการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ ขึ้นอยู่กับการทูตเกาหลีเหนือ โดยอาจปรับลดลงเพื่อช่วยให้การทูตดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการยอมอ่อนข้อให้

นายเอสเปอร์เผยกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินระหว่างเดินทางไปกรุงโซลของเกาหลีใต้ เริ่มต้นการตระเวนเยือนเอเชียในวันนี้ว่า สหรัฐจะปรับขนาดการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ให้มากขึ้นหรือลดลงขึ้นกับว่าต้องดำเนินการทางการทูตแบบใด หากลดขนาดการซ้อมรบลงไม่ได้หมายความว่าสหรัฐยอมอ่อนข้อให้เกาหลีเหนือ แต่เป็นการทำให้การทูตยังเดินหน้าได้ต่อไป เขาสนับสนุนให้ใช้การทูตนำเหน้าเสมอ

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกล่าวเรื่องนี้หลังจากสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนืออ้างโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการรัฐว่า สหรัฐยังไม่ยอมใคร่ครวญให้ดีเพื่อยอมรับสิ่งที่เกาหลีเหนือกำหนดอย่างอดทนและใจกว้างให้ยกเลิกการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ภายในสิ้นปีนี้ การซ้อมรบร่วมเท่ากับละเมิดปฏิญญาการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐที่สิงคโปร์ปี 2561 สิ่งที่เกาหลีเหนือรู้สึกได้จากสหรัฐคือการทรยศเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป แต่ไม่ได้ระบุในรายละเอียดว่าจะดำเนินการแบบใหม่กับสหรัฐอย่างไรตามที่เคยขู่ไว้ว่าจะทำหากสหรัฐไม่ทำตามข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือ เอเอฟพีตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมาธิการกิจการรัฐซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลสูงสุดของเกาหลีเหนือปกติแล้วแทบไม่เคยออกแถลงการณ์ลักษณะนี้

การเจรจาระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือชะงักตั้งแต่การประชุมสุดยอดครั้งที่สองที่เวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือตกลงกันไม่ได้เรื่องการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือและสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องทำเพื่อตอบแทน ส่วนการเจรจาระดับคณะทำงานที่สวีเดนเมื่อเดือนก่อนจบลงอย่างรวดเร็ว เกาหลีเหนือโทษสหรัฐว่ายังยึดติดกับทัศนคติเก่า ๆ.- สำนักข่าวไทย

สหรัฐรับรองรักษาการประธานาธิบดีโบลิเวีย


วอชิงตัน 14 พ.ย. - สหรัฐให้การรับรองรักษาการประธานาธิบดีโบลิเวียที่เข้ามารับตำแหน่งหลังประธานาธิบดีอีโว โมราเลสลาออก

นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ยอมรับนางจานีน อาเนซ เป็นรักษาการประธานาธิบดีของโบลิเวีย และแสดงความหวังว่าโบลิเวียจะจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมในเร็ววัน และในโอกาสเดียวกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยังเรียกร้องให้ทั้งผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านอดีตประธานาธิบดีโมราเลสยุติการใช้ความรุนแรงต่อกันด้วย

นางอาเนซ รองประธานวุฒิสภา วัย 52 ปี ประกาศตนเป็นรักษาการประธานาธิบดีเมื่อวันอังคาร และได้รับการรับรองจากศาลรัฐธรรมนูญของโบลิเวีย หลังประธานาธิบดีโมราเลสลาออกเมื่อวันอาทิตย์ และได้ลี้ภัยไปยังเม็กซิโก โดยนางอาเนซประกาศหลังเข้ารับตำแหน่งว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งในเร็ววัน

โบลิเวียเกิดความไม่สงบมาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม หลังอดีตประธานาธิบดีโมราเลส ประกาศว่าได้รับชัยชนะ แต่ผลการนับคะแนนปรากฏว่าเป็นชัยชนะที่ไม่เด็ดขาด และต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง อย่างไรก็ตาม หลังเกิดความไม่สงบทางกองทัพได้ขอให้ประธานาธิบดีโมราเลสลาออก.-สำนักข่าวไทย

แนะผู้ใช้งานออนไลน์ ตั้งสหภาพเรียกค่าตอบแทน จากการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว


ลอนดอน 14 พ.ย.- นักเศรษฐศาสตร์ที่สนับสนุนให้ปฏิรูปออนไลน์ครั้งใหญ่แนะว่า ผู้ใช้งานออนไลน์ควรรวมตัวกันตั้งสหภาพข้อมูลเพื่อเรียกค่าตอบแทนจากการอนุญาตให้เครื่องมือออนไลน์รวบรวมข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้แบ่งปันในโลกออนไลน์

นายเกลน เวล นักวิจัยของไมโครซอฟต์กล่าวในการประชุมประจำปีของมูลนิธิทอมป์สันรอยเตอร์ในวันนี้ว่า ผู้คนถูกหลอกให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่ถูกปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) นำไปเลียนแบบพฤติกรรมของคน แล้วอาจนำไปใช้แทนที่การจ้างงานคนบางตำแหน่งโดยอัตโนมัติ ถือเป็นการทรยศอย่างแท้จริง ข้อมูลเหล่านี้สร้างขึ้นโดยคน แต่บริษัทที่นำไปใช้ประโยชน์กลับอ้างว่าคนเหล่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้อง ทั้งที่ควรได้รับค่าตอบแทน ส่วนจะกำหนดค่าตอบแทนเป็นจำนวนเท่าใดนั้น โดยทั่วไปแล้วควรขึ้นกับขนาดเศรษฐกิจที่ไม่ได้จ้างงานคนอีกต่อไป ยิ่งเอไอแทนที่การจ้างงานคนจากการรวบรวมข้อมูลมากเท่าใด ผู้ใช้งานออนไลน์ควรได้รับค่าตอบแทนมากเท่านั้น อาจมีตั้งแต่ 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,105 บาท) ต่อปีในปัจจุบันไปจนถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 604,235 บาท) ต่อปีในอีก 15 ปีข้างหน้าเพราะในเวลานั้นงานถึงหนึ่งในสามจะทำโดยคอมพิวเตอร์

นายเวลเตือนว่า เป็นเรื่องยากที่ผู้ใช้ออนไลน์จะได้ค่าตอบแทนเป็นราย ๆ หากไม่รวมตัวกันเป็นสหภาพตามประเภทของข้อมูลที่แบ่งปันเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองให้ได้รับค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรม นอกจากนี้สหภาพยังช่วยแก้ไขความกังวลเรื่องการปกป้องความเป็นส่วนตัวได้ด้วย เช่น จำกัดประเภทข้อมูลที่อนุญาตให้รวบรวม จำกัดการนำข้อมูลไปใช้งาน ปัจจุบันมีการตั้งกลุ่มเล็ก ๆ ให้ผู้ใช้ออนไลน์หาค่าตอบแทนจากการแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว หรือต่อรองกับสื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่แล้ว แต่ยังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดความสมดุล ไม่เช่นนั้นบริษัททรงอิทธิพลหรือรัฐบาลกลางจะกลายเป็นผู้ผูกขาดข้อมูลเกือบทั้งหมด.- สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/

 

ผู้สูงอายุเผย ใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ลงชิมช้อปใช้ยาก


ผู้สูงอายุโคราช เผยใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ยาก สุดดีใจที่รัฐบาลกันไว้ให้ 5 แสนคน เตรียมให้ลูกหลานช่วยลงทะเบียน

ภายหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนชิมช้อปใช้เฟสที่ 3 ในวันนี้เป็นวันแรก และได้มีการกันไว้ให้สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมประมาณ 500,000 ราย ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า ผู้สูงอายุ ลงทะเบียนไม่ทัน อีกทั้งไม่มีสมาร์ทโฟนในการใช้ลงทะเบียนด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา สอบถาม ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปพบว่า หลายคนไม่สามารถลงทะเบียนชิมช้อปใช้ ในเฟสที่ 1 และที่ 2 ได้ทัน เนื่องจากไม่รู้จักวิธีการใช้สมาร์ทโฟนในการลงทะเบียน โดยนางบุญสื่อ คงเจริญถิน อายุ 72 ปี ชาวตำบลในเมืองอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยลงทะเบียนชิมช้อปใช้ได้สำเร็จ เพราะว่าไม่รู้จักการใช้วิธีลงทะเบียนด้วยสมาร์ทโฟน อีกทั้งปัจจุบันก็ไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ ใช้เพียงโทรศัพท์บ้านเท่านั้น แม้จะอยากลงทะเบียนชิมช้อปใช้เพียงใด แต่ก็ทำไม่ได้ แต่เมื่อทราบข่าวว่า ทางรัฐบาลจะกันโควต้าไว้ให้ผู้สูงอายุ 500,000 ราย ก็รู้สึกดีใจ และอยากจะลงทะเบียน โดยอาจจะให้ลูกหลาน ช่วยลงทะเบียนให้ เพื่อที่จะนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายซื้อของใช้อุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันต่อไป

ด้านนางน้อย ฉิมทะเล อายุ 80 ปี ชาวตำบลในเมืองอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ครั้งก่อนนั้น รู้ว่า ลงทะเบียนค่อนข้างยาก จึงปล่อยผ่านไป ส่วนสมาร์ทโฟนนั้นใช้ไม่เป็น ต้องให้ลูกเป็นคนจัดการให้ ใช้เป็นแต่โทรศัพท์มีปุ่มกดสำหรับรับสายและโทรออกเท่านั้น ไม่ทราบข่าวว่า รัฐบาลจะกั้นพื้นที่ให้กับผู้สูงอายุก็ขอบคุณรัฐบาลมากๆ ที่ไม่ทอดทิ้งผู้สูงอายุ เพราะปัจจุบันนี้ผู้สูงอายุมีความยากลำบากมากไม่มีเงินใช้ อาศัยเฉพาะเงินอุดหนุนผู้สูงอายุเท่านั้น ครั้งนี้เมื่อมีการลงทะเบียนชิมช้อปใช้ ก็อยากจะให้ลูกหลานเป็นคนลงทะเบียนให้

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

DSI บุกค้น 5 จุด บริษัทนำสารพิษ ผสมในผลิตภัณฑ์


DSI บุกค้น 5 จุดที่ปทุมธานี บริษัทที่นำสารพาราควอตและไกลโพเซต ผสมในผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บูรณาการร่วมกับ กรมวิชาการเกษตร เข้าตรวจค้นบริษัทและแหล่งผลิตและจำหน่ายวัตถุอันตราย จำนวน 5 จุด พร้อมกัน ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจึงได้มอบหมายให้ ตนเข้าร่วมอำนวยการในการตรวจค้นด้วย โดยเข้าค้นจำนวน 5 จุดพร้อมกัน ได้แก่ 1. บริษัท สมาร์ท ไบโอเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืช ยี่ห้อ “สมาร์ทไบโอ” รวมทั้ง มีผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด ตั้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี จำนวน 2 จุด (คดีพิเศษที่ 73/2562) 2. บริษัท วีไอพี คิงดอม 999 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสารชีวภัณฑ์กำจัดวัชพืช ยี่ห้อ “ซุปเปอร์ไลค์” รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด ตั้งอยู่ที่ จ.ปทุมธานี จำนวน 1 จุด และ จ.นครราชสีมา จำนวน 2 จุด (คดีพิเศษที่ 74/2562)

คดีนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค กรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า บริษัททั้ง 2 ดังกล่าวได้มีการนำสารพาราควอตไดคลอไรด์ และไกลโพเซต – ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม ซึ่งเป็นสารควบคุมตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม มาผสมกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามกฏหมานและขายผ่านทางสื่อโซเซียลมีเดีย ทำให้ผู้ซื้อไปใช้เข้าใจผิดคิดว่าผลิตภัณฑ์ชีวภาพดังกล่าวไม่มีผลต่อสุขภาพ เป็นเหตุทำให้ผู้ซื้อได้รับอันตรายต่อสุขภาพจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยคดีนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป และมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัตถุอันตรายดังกล่าวมากว่า 1,000 ราย

นอกจากนี้ อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518 เนื่องจากมีการผลิตปุ๋ยเพื่อการค้า โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ได้รับอนุญาต อันเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิด ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เนื่องจากมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 14(1) อีกด้วย

ส่วน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เนื่องจากกรมวิชาการเกษตรได้มาร้องทุกข์กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่ามีผ็ลักลอบผลิตและจำหน่วยที่มีสารเคมีที่อันตราย 3 ตัว ที่จะประกาศภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีสารที่เป็นอันตรายจริง ในวันนี้จึงมีการเข้าตรวจค้นทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย จ.ปทุมธานี 1 จุด จ.นนทบุรี 2 จุด และจ.นครราชสีมา 2 จุด ส่วนในการสืบสวนทางคดี เราได้พบว่ารายได้จากการกระทำนี้ประมาณ 10 กว่าล้านบาท จากการเข้าตรวจตรวจค้นทั้ง 5 จุด สามารถยึดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้องได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ได้มีการอายัดอุปกรณ์การผลิตไว้เพื่อทำการตรวจสอบ ขยายผลกับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้เร่งดำเนินคดีและสรุปสำนวนเพื่อส่งพนักงานอัยการฟ้องคดีต่อไป

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

โรคใบด่างระบาด เกษตรกรปลูกข้าวไร่แทนมัน


โรคใบด่างระบาดหนัก เกษตรกรโคราช หันมาปลูกข้าวไร่ไว้กินเองแทนมันสำปะหลัง ได้ผลเกินคาด

เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังส่วนหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา หันไปปลูกข้าวไร่แทนการปลูกมันสำปะหลัง หลังช่วงนี้เกิดโรคใบด่างและโรคศัตรูพืชหลายชนิดระบาดในแปลงมันสำปะหลัง ประกอบกับราคาที่ไม่แน่นอน จึงตัดสินใจหันมาปลูกข้าวไว้กินเองภายในครอบครัว เนื่องจากปีนี้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัยในหลายพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อนาข้าวเป็นบริเวณกว้าง

นายสนิท กื๋อกระโทก อายุ 60 ปี เกษตรกรบ้านหนองโค ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เดิมทีปลูกมันสำปะหลังไว้เต็มพื้นที่กว่า 20 ไร่ แต่มาช่วงหลังมันสำปะหลังมีปัญหาเรื่องของราคาที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง จึงหันมาปลูกพืชชนิดอื่นเสริม อาทิ ถั่วลิสง และข้าวโพด เป็นต้น และมาในปีนี้ มันสำปะหลังเกิดการระบาดของโรคใบด่างอีก กับเกิดปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ในหลายพื้นที่ภาคอีสาน จึงตัดสินใจแบ่งเนื้อที่ 2 ไร่ มาทดลองปลูกข้าวไร่ เพื่อเก็บไว้กินเอง ลดภาระค่าใช้จ่ายเพราะเกรงว่าราคาข้าวจะสูง ถือเป็นการทดลองปลูกในปีแรก ได้พันธุ์ข้าวมาจากเพื่อนเกษตรกรในหมู่บ้านที่เคยปลูกมาก่อน เป็นพันธุ์ “ข้าวหอมมะลิแม้ว” ประมาณ 10 กิโลกรัมเศษ หยอดเป็นหลุมสลับฟันปลา ห่างกันประมาณ 40 – 45 เซนติเมตร ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด ผ่านมาประมาณ 3 เดือนเศษ ข้าวก็ตั้งท้องออกรวงสวยงามอย่างที่เห็น ซึ่งใช้ต้นทุนไม่ถึง 10,000 บาท

นายสนิท กล่าวอีกว่า ในปีแรกผลผลิตที่ได้ ถือว่าน่าพอใจอย่างมาก ซึ่งต้องเจอปัญหาเรื่องหนอนกอ บ้าง เพราะปลูกไว้กินเองจึงไม่ได้ใช้สารเคมี แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี คาดว่า น่าจะได้ข้าวเปลือกไม่น้อยกว่า 2 ตัน เพียงพอสำหรับบริโภคในครัวเรือนไปอีกหลายปี และหากว่า ข้าวพันธุ์นี้เป็นที่นิยมสามารถจำหน่ายได้ ก็จะเพิ่มพื้นที่ปลูกเพื่อจำหน่ายบางส่วน เพราะโดยส่วนตัว มองว่า เป็นพืชที่ปลูกและดูแลค่อนข้างง่าย ไม่ต้องใช้สารเคมีก็ได้ และการปลูกข้าวไร่ด้วยระบบน้ำหยด ก็ใช้น้ำน้อยกว่าการทำนาปกติ ซึ่งให้ผลผลิตดีไม่แพ้กัน

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

อุตุฯเผย อีสาน หนาว เหนือ กลาง ตะวันออก กทม.มีฝน


กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ภาคอีสานอากาศเย็นลงอีก 1-3 องศา เหนือ กลาง ตะวันออก รวม กทม.ฝนตกเล็กน้อย - ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนบางแห่ง และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562

ที่มา https://www.innnews.co.th/

 

มหาเธร์ หันสนับสนุนสม รังสี ไทยลำบากแน่​

วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2562​

 

แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย ขนาด 7.1 เสียหายเล็กน้อย มีผู้บาดเจ็บ 2 คน


อินโดนีเซีย 15 พ.ย. - เหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 นอกชายฝั่งเกาะโมลุกกะของอินโดนีเซีย มีรายงานผู้บาดเจ็บ 2 คน บ้านเรือนและโบสถ์เสียหายเล็กน้อย

ความคืบหน้าของเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.1 นอกชายฝั่งเกาะโมลุกกะของอินโดนีเซียเมื่อคืนนี้ ล่าสุดสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแถลงในวันนี้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 2 คน แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้บ้านเรือนประชาชน 6 หลัง และโบสถ์อีก 2 แห่งได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นสร้างความแตกตื่นให้แก่ผู้คนที่พากันหนีขึ้นไปอยู่ในที่สูง เพราะเกรงจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ก่อนที่ทางการจะยกเลิกคำเตือนในราว 2 ชั่วโมงต่อมา และหลังเกิดแผ่นดินไหวแล้วยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมากว่า 90 ครั้ง ขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว. - สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียเร่งป้องกันไฟป่าลาม ก่อนอากาศร้อนขึ้นอีก


เมลเบิร์น 16 พ.ย.- เจ้าหน้าที่ดับเพลิงออสเตรเลีย เร่งเพิ่มการป้องกันไม่ให้ไฟป่าลามก่อนที่อากาศจะร้อนขึ้นอีกในสัปดาห์หน้า

สำนักงานไฟป่ารัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของออสเตรเลียแจ้งว่า จนถึงเช้าวันนี้ยังมีไฟป่าอยู่ 59 จุด ในจำนวนนี้ 13 จุดยังไม่สามารถควบคุมได้ เจ้าหน้าที่เร่งเสริมแนวควบคุมไฟตลอดคืนด้วยการเผาพงหญ้าแห้งรอบไฟป่าภูเขากอสเปอร์สที่กำลังเผาพื้นที่กว่า 250,000 ไร่ ย่านชานเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครซิดนีย์ เป็นภารกิจจำเป็นต้องทำก่อนที่สภาพอากาศจะแย่ลงอีกในสัปดาห์หน้า เพราะคาดว่าอากาศจะร้อนขึ้นและจะไม่มีฝนตกเลย ด้านสำนักงานสิ่งแวดล้อมและมรดกรัฐนิวเซาท์เวล์แจ้งว่า จะปิดอุทยานแห่งชาติส่วนใหญ่ที่อยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางเหนือ รวมทั้งอุทยานแห่งชาติบลูเมาเทนส์จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม เนื่องจากอันตรายจากไฟป่ายังคงสูงมาก ขณะที่ตำรวจแจ้งว่า ได้ตั้งข้อหาชายวัย 51 ปี ที่จุดไฟในย่านนอร์เทิร์นเทเบิลแลนด์ส โดยจะฟ้องศาลว่าเขาจุดไฟเผาพงหญ้าสร้างแนวควบคุมไฟเพื่อปกป้องไร่กัญชาและหวังรายได้จากงานฟื้นฟูไฟป่า โดยไม่พยายามควบคุมไฟที่ลามแต่อย่างใด ไฟป่าในรัฐนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 คน บ้านเรือนถูกเผา 259 หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ส่วนที่รัฐควีนส์แลนด์ ถัดขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านเรือนถูกเผาไป 16 หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีไฟป่าใหญ่จนถึงเช้าวันนี้ 6 จุด สำนักงานไฟป่าและบริการฉุกเฉินแจ้งว่า สภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วรัฐจะแย่ลงช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทุกคนจะต้องร่วมกันผ่านพ้นไปให้ได้.-สำนักข่าวไทย

นครเวนิสของอิตาลี เผชิญกับระดับน้ำสูงท่วมเมืองอีกระลอก


เวนิส 15 พ.ย. – นครเวนิส เมืองท่องเที่ยวสำคัญของอิตาลี ถูกน้ำท่วมอีกระลอกในวันนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากระดับน้ำสูงอย่างผิดปกติ หลังจากที่ไม่กี่วันก่อน นครเวนิสเพิ่งจะถูกน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 50 ปี

จตุรัสเซนต์มาร์ก ศูนย์กลางของเมืองเวนิสถูกน้ำท่วมสูงและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ในขณะที่ร้านค้าและโรงแรมก็โดนน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าวว่า ระดับน้ำขึ้นสูงสุดที่ 154 เซนติเมตร ต่ำกว่าที่คาดหมายกันไว้และต่ำกว่าระดับ 187 เซนติเมตรที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สูงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่เคยบันทึกไว้ที่เมืองเวนิสแห่งนี้ ถึงแม้ระดับน้ำจะต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ แต่ก็ทำให้พื้นที่ของเมืองเวนิสราว 70 เปอร์เซนต์ถูกน้ำท่วม ส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจของชาวบ้านที่ต้องดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่อีกครั้ง รัฐบาลอิตาลีประกาศให้นครเวนิสอยู่ในภาวะฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสบดี และให้งบประมาณ 22 ล้านดอลลาร์ในการแก้ไขความเสียหายเฉพาะหน้า ในขณะที่นายกเทศมนตรีนครเวนิสกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูเมืองจะสูงกว่านี้มาก เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศคาดหมายว่า ระดับน้ำจะสูงประมาณ 110-120 เซนติเมตรในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ในขณะที่ตามปกติระดับน้ำสูง 80-90 เซนติเมตรถือว่าสูงแล้วแต่ยังสามารถจัดการได้ นายกเทศมนตรีกล่าวโทษว่าสาเหตุที่ระดับน้ำสูงผิดปกตินี้เป็นผลมาจากภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.-สำนักข่าวไทย

พบซากหมูติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร ลอยน้ำใกล้ไต้หวัน


ปักกิ่ง 15 พ.ย. – รายงานของสหประชาชาติระบุว่า พบซากหมูติดเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรลอยน้ำใกล้ไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบการระบาดล่าสุดบนจีนแผ่นดินใหญ่

รายงานจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอระบุว่า พบซากหมูลอยน้ำใกล้เกาะเสี่ยวจินเหมินของไต้หวันเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกาะดังกล่าวอยู่ใกล้กับมณฑลฝูเจี้ยนของจีนแผ่นดินใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร สายพันธุ์เดียวกับที่พบในจีนแผ่นดินใหญ่ เอฟเอโอระบุว่า นับเป็นครั้งแรกที่มีรายงานพบซากหมูลอยน้ำนับตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานพบรถบรรทุกหมูติดเชื้อบนทางด่วนในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และในเดือนเดียวกันนี้ ยังพบการระบาดล่าสุดในมณฑลยูนนานด้วย เอฟเอโอระบุจนถึงขณะนี้ พบการระบาดทั้งสิ้น 163 รายใน 32 มณฑล สถิติของทางการระบุว่า นับแต่พบการระบาดครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จีนได้ฆ่าหมูไปแล้วราว 1 ล้านตัว แต่เชื่อว่ากันว่า ตัวเลขดังกล่าวน่าจะต่ำกว่าความเป็นจริง.- สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์พบผู้ป่วยจากโรคที่เกี่ยวพันกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้ารายแรก


มะนิลา 15 พ.ย. – ฟิลิปปินส์รายงานในวันนี้ว่า พบคนไข้ที่มีอาการป่วยที่เกี่ยวเนื่องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นรายแรก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็วิตกเกี่ยวกับการฟ้องร้องที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าได้

กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าวว่า เด็กหญิงวัย 16 ปี ที่อาศัยอยู่ในภาคกลางของฟิลิปปินส์ ซึ่งสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นเวลา 6 เดือน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากมีอาการหายใจไม่สะดวกและมีลักษณะตรงกับอาการบาดเจ็บของถุงลมปอด เด็กหญิงคนดังกล่าวเข้ารับการรักษาโดยแพทย์ระบบทางเดินหายใจในเด็กและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ทางด้านปลัดกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์กล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าควรจะขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ในทันทีและปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีเลิกผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงสาธารณสุขขอให้โรงพยาบาลต่าง ๆ รายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้ที่ป่วยจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและมีการร่างระเบียบควบคุม

แต่มีการฟ้องร้องเกี่ยวกับการออกระเบียบ ส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถใช้บังคับระเบียบได้และคดียังคงอยู่ที่ศาล ซึ่งทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้เรียกร้องให้ศาลมีคำพิพากษาโดยเร็ว รายงานการเสียชีวิตและการล้มป่วยที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในบางประเทศทำให้เกิดกระแสที่อาจกระทบกับความนิยมการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการอ้างว่า มีอันตรายน้อยกว่ายาสูบปกติ แต่อินเดียและรัฐบาลแห่งในสหรัฐได้สั่งให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นข้องต้องห้ามไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

กลุ่มหนุนจีนในฮ่องกง ชุมนุมประณามผู้ประท้วงและให้กำลังใจตำรวจ


ฮ่องกง 16 พ.ย.- ผู้สนับสนุนจีนหลายร้อยคนในฮ่องกง รวมตัวกันในวันนี้เพื่อประณามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และให้กำลังใจตำรวจ ที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของผู้ประท้วงไปแล้ว

ผู้สนับสนุนโบกธงชาติจีนและฮ่องกงที่หน้าสภานิติบัญญัติและสำนักงานใหญ่ตำรวจ บางคนถือป้ายและตะโกนว่าขอเคียงข้างและให้กำลังใจตำรวจ การชุมนุมวันนี้มีทั้งคนหนุ่มสาว คนชรา บางคนนำเด็กเล็กมาด้วย แม่บ้านวัย 49 ปีกล่าวว่า ขอพูดจากใจจริงว่ พวกเธอเชื่อว่าเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่จะสนับสนุนตำรวจปราบปรามผู้ก่อจลาจลเพื่อชาวฮ่องกง คนจำนวนมากนิ่งเงียบเพราะกลัวผู้ก่อจลาจล แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่คนนิ่งเงียบจะลุกขึ้นบอกว่าพอได้แล้ว ชายวัย 34 ปีบอกว่า ผู้ประท้วงน่ารังเกียจเหมือนแมลงสาบ เขาเข้าร่วมการประท้วงร่มปี 2557 ที่เป็นการเคลื่อนไหวอย่างสันติเพื่อปลุกจิตสำนึก แต่การประท้วงขณะนี้กลายเป็นว่าคนไม่เห็นด้วยคือคนที่เป็นศัตรูและจะต้องถูกขว้างระเบิดเพลิง

ผู้สนับสนุนตำรวจยังได้วางดอกไม้สีขาวหน้าที่ทำการรัฐบาลเพื่อไว้อาลัยให้แก่พนักงานทำความสะอาดวัย 70 ปีที่เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากถูกก้อนอิฐขว้างศีรษะระหว่างที่ผู้ประท้วงวิวาทกับชาวบ้านในย่านนั้น ตำรวจระบุว่า คนสวมเสื้อดำอำพรางใบหน้าเป็นคนทำ ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ตำรวจระบุว่า ผู้ก่อจลาจลคนหนึ่งราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาทั้งเป็นชายคนหนึ่งระหว่างโต้เถียงกัน ชายคนนั้นยังอาการสาหัส

ขณะเดียวกันนักศึกษาต่อต้านจีนได้เปลี่ยนมหาวิทยาลัยในฮ่องกงอย่างน้อย 5 แห่งให้กลายเป็นฐานต่อต้านรัฐบาลไปแล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการตั้งเครื่องกีดขวาง นำระเบิดเพลิง ธนู ลูกศร เครื่องยิงหิน และอาวุธต่าง ๆ มารวบรวมไว้ มหาวิทยาลัยหลายแห่งออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า เสียใจที่การตอบสนองของรัฐบาลจนถึงขณะนี้ยังไร้ผล แต่การเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเป็นคนแก้ปัญหาเป็นการพูดโดยไม่นึกถึงความเป็นจริง เพราะสถานการณ์ที่ซับซ้อนท้าทายในขณะนี้สะท้อนถึงความไม่เห็นด้วยของชาวฮ่องกงในวงกว้าง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องเป็นผู้นำในการดำเนินการอย่างทันทีและเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย

ฮ่องกงประท้วงช่วงพักเที่ยง ชูป้ายประณาม "แคร์รี หลำ"


ฮ่องกง 15 พ.ย. - ผู้ประท้วงในฮ่องกง ใช้เวลาในช่วงพักเที่ยงออกมารวมตัวชุมนุมกันอีกครั้งในวันนี้ มีทั้งพนักงานบริษัทและคนกลุ่มอื่นๆ

ผู้ชุมนุมพากันเคลื่อนขบวนไปตามท้องถนนในย่านธรุกิจใจกลางฮ่องกง ต่างชูมือพร้อมทั้งตะโกนถ้อยคำต่อต้านรัฐบาล บางส่วนยังนำเอาก้อนอิฐและหินมาวางบนถนนเพื่อปิดกั้นการจราจร ผู้ประท้วงยืนกรานว่า รัฐบาลจะต้องทำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมให้ครบทั้ง 5 ข้อ และชูป้ายประณามนางแคร์รี หลำ ผู้บริหารสูงสูดของฮ่องกง ว่าเป็นคนขี้ขลาดและไม่สมควรที่จะเป็นชาวฮ่องกง.- สำนักข่าวไทย

รัฐบาลฮ่องกงเตรียมเปิดถนน


ฮ่องกง 16 พ.ย.-รัฐบาลฮ่องกงประกาศจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อยับยั้งการก่อความรุนแรงของผู้ประท้วง และเตรียมเปิดถนนให้สัญจรได้ตามปกติ หลังจากก่อนหน้านี้ถนนหลายสายถูกกลุ่มผู้ประท้วงนำสิ่งของมาวางกีดขวางเอาไว้

รัฐบาลฮ่องกงประกาศจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อยับยั้งการก่อความรุนแรงของผู้ประท้วง นายแมททิว ชุง เลขาธิการ ครม. เผยว่า รัฐบาลมีความคาดหวังว่าสังคมจะกลับคืนสู่ความปกติสุขโดยเร็วที่สุด จากนี้รัฐบาลจะดำเนินการอย่างดีที่สุดในการเปิดถนนให้สามารถสัญจรได้ตามปกติ หลังจากก่อนหน้านี้ถนนหลายสายถูกกลุ่มผู้ประท้วงนำสิ่งของมาวางกีดขวางเอาไว้

การแถลงของรัฐบาลฮ่องกงมีขึ้นหลังจากเมื่อ 2 วันก่อน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวว่าการยับยั้งเหตุรุนแรงถือเป็นภารกิจเร่งด่วนของรัฐบาลฮ่องกง ขณะที่การประท้วงยังมีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้จัดงานเทศกาลดนตรีโลกต้องยกเลิกการจัดงาน ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจอังกฤษกำลังสอบสวน กรณีรัฐมนตรียุติธรรมฮ่องกงโดนทำร้าย


ลอนดอน 15 พ.ย. – ตำรวจอังกฤษเปิดเผยวันนี้ว่า กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีที่นางสาวเทเรซา เจิ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเขตบริหารพิเศษฮ่องกงถูกทำร้ายโดยกลุ่มผู้ประท้วงในกรุงลอนดอน

สำนักงานตำรวจนครบาลของกรุงลอนดอน กล่าวในแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ได้รายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดและว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการจับกุมผู้ใด ตำรวจกล่าวว่า สตรีคนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยมีอาการบาดเจ็บที่แขน ในแถลงการณ์ของตำรวจไม่เอ่ยชื่อนางสาวเจิ้งแต่อย่างใด นางสาวเจิ้ง มีกำหนดที่จะขึ้นบรรยายที่สมาคมสถาบันอนุญาโตตุลาการ ในกรุงลอนดอนในวันพฤหัสบดี แต่ทางสถาบันแจ้งว่า การบรรยายต้องยกเลิกไปเนื่องจากนางสาวเจิ้งถูกทำร้ายโดยกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งทำให้เธอได้รับบาดเจ็บที่แขน ภาพวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่แชร์กับทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นว่า นางสาวเจิ้งถูกกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงรุมล้อม หลังจากที่ติดตามเธอมาจนถึงสำนักงานใหญ่ชองสมาคม

กลุ่มผู้ท้วงร้องตะโกนต่อว่าเธอว่าเป็นฆาตกรและน่าละอายและรุมล้อมจนเธอล้มลงกับพื้นก่อนที่จะมี่คนพาตัวเธอออกมา ทางด้านจีนกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งและเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษให้การคุ้มกันความปลอดภัยที่ดีกว่านี้ นางสาวเจิ้ง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลฮ่องกงที่ตกเป็นเป้าหมายของผู้ประท้วงฮ่องกง เพราะเธอถูกมองว่ามีบทบาทสำคัญในการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ขณะนี้ถูกระงับไปแล้ว แต่เป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงอย่างต่อเนื่องในฮ่องกง.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงเดือดในโบลิเวีย


โบลิเวีย 16 พ.ย.-กลุ่มผู้ปลูกโคคาหลายพันคนในโบลิเวีย ปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง บริเวณชานเมืองโคชาบัมบา มีผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอีโว โมราเลส เสียชีวิตแล้ว 5 คน และถูกจับกุมนับร้อยคน

การประท้วงในโบลิเวียยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ปลูกโคคาหลายพันคน กับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง บริเวณชานเมืองโคชาบัมบา มีผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอีโว โมราเลส เสียชีวิตไป 5 คน ถูกจับกุมนับร้อยคน

เหตุปะทะเกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มผู้ประท้วงพยายามจะเคลื่อนขบวนเข้าไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านนางเจนีน อาเนซ ผู้นำเฉพาะกาล ในเมืองโคชาบัมบา แต่ถูกตำรวจสกัดไม่ให้ข้ามสะพานเข้าไป จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม แล้ว 15 คน มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 400 คน.-สำนักข่าวไทย

โบลิเวียกล่าวหาชาวคิวบาปลุกปั่นและขอให้ จนท.เวเนซุเอลาออกนอกประเทศ


ลาปาซ 16 พ.ย.- รัฐบาลรักษาการโบลิเวียกล่าวหาชาวคิวบาว่า ปลุกปั่นให้เกิดเหตุไม่สงบในประเทศ และขอให้เจ้าหน้าที่เวเนซุเอลาออกนอกประเทศ หลังจากนายอีโว โมราเลส ประธานาธิบดีชนพื้นเมืองคนแรกของประเทศลาออกและลี้ภัยไปเม็กซิโกได้ไม่กี่วัน

รัฐบาลรักษาการโบลิเวียถูกกลุ่มสนับสนุนนายโมราเลสประท้วงหลังจากตั้งขึ้นได้เพียง 4 วัน นางกาเรน ลองการิก รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่เผยว่า เธอได้แจ้งทางการคิวบาว่าพลเมืองคิวบาพัวพันการประท้วง ดังนั้นคิวบาจะนำพลเมืองกลับประเทศ 725 คน ส่วนใหญ่เป็นแพทย์ นอกจากนี้เธอยังได้ขอให้นักการทูตเวเนซุเอลาทั้งหมดออกนอกประเทศด้วยเหตุผลเดียวกัน

รอยเตอร์ระบุว่า คิวบาและเวเนซุเอลาเป็นพันธมิตรกับนายโมราเลส วัย 60 ปี ที่ถูกกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งเป็นสมัยที่ 4 หลังจากอยู่มาตั้งแต่ปี 2549 และเกิดการประท้วงจนกลายเป็นความรุนแรง เขาและรองประธานาธิบดีลาออกแล้วลี้ภัยไปเม็กซิโกเมื่อวันอังคาร ขณะที่กลุ่มสนับสนุนเขารวมตัวประท้วงรัฐบาลรักษาการ

ด้านกระทรวงต่างประเทศคิวบาแถลงปฏิเสธว่า แพทย์คิวบาในโบลิเวียไม่เกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลโบลิเวีย ขณะที่เวเนซุเอลายังไม่แสดงท่าทีใด ๆ ทั้งสองประเทศสนับสนุนข้ออ้างของนายโมราเลสที่ว่ามีต่างชาติอยู่เบื้องหลังการโค่นล้มเขา.-สำนักข่าวไทย

เผยทรัมป์ขอให้ญี่ปุ่น เพิ่มเงินดูแลทหารอเมริกัน


โตเกียว 16 พ.ย.- นิตยสารฟอเรนโพลิซี (Foreign Policy) ในสหรัฐอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้งอดีตและปัจจุบันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้ญี่ปุ่นเพิ่มค่าใช้จ่ายดูแลทหารอเมริกันที่ประจำการในญี่ปุ่นเป็นสี่เท่า

ฟอเรนโพลิซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มค่าใช้จ่ายดูแลทหารอเมริกันในญี่ปุ่นจำนวน 54,000 นายจากปีละ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 60,543 ล้านบาท) เป็น 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 242,174 ล้านบาท) ส่วนข้อตกลงปัจจุบันจะหมดอายุในเดือนมีนาคม 2564 สหรัฐเรียกร้องดังกล่าวในช่วงที่นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ในขณะนั้นและนายแมทธิว พอตทิงเกอร์ ผู้อำนวยการเอเชีย สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐในขณะนั้นเยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม โฆษกกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงปฏิเสธว่า รายงานดังกล่าวไม่ถูกต้อง และยังไม่มีการเจรจาเรื่องข้อตกลงใหม่แต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

กลาโหมสหรัฐย้ำเกาหลีใต้ ควรเพิ่มเงินดูแลทหารอเมริกัน


โซล 15 พ.ย.- นายมาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐกดดันเกาหลีใต้ให้เพิ่มเงินสมทบค่าใช้จ่ายสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ และต่ออายุข้อตกลงแบ่งปันข่าวกรองกับญี่ปุ่นที่เกาหลีใต้จะปล่อยให้หมดอายุในสัปดาห์หน้า

นายเอสเปอร์แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายพลจอง คยองโด รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ในวันนี้ว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศร่ำรวยจึงควรเพิ่มเงินสมทบสำหรับทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ ทั้งสองฝ่ายควรสรุปข้อตกลงกลาโหมที่เกาหลีใต้จะเพิ่มเงินสมทบให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้ ด้านนายพลจองกล่าวว่า เขาและนายเอสเปอร์เห็นพ้องกันว่าข้อตกลงรายปีนี้ควรเจรจาอย่างเป็นธรรมและเห็นด้วยทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ได้เผยว่าเห็นพ้องกันว่าสัดส่วนเท่าใดจึงจะเป็นธรรมหรือไม่ สมาชิกสภาเกาหลีใต้คนหนึ่งเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐเรียกร้องให้เกาหลีใต้จ่ายเงินมากถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 151,076 ล้านบาท) มากกว่าที่เกาหลีใต้ตกลงจ่ายในปีนี้ถึง 5 เท่า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐยืนกรานให้เกาหลีใต้เพิ่มเงินสมทบเพื่อช่วยป้องกันการรุกรานจากเกาหลีเหนือ สถาบันเกาหลีเพื่อการรรวมชาติเผยผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวเกาหลีใต้ร้อยละ 96 คัดค้านการเพิ่มเงินสมทบ ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือลงบทความวันนี้ว่า การเรียกร้องของสหรัฐเป็นความพยายามปล้นทรัพย์ประเทศอื่นและเสริมสร้างการครอบงำทางทหารในภูมิภาคนี้ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ประกาศว่า จะเจรจารอบใหม่กับสหรัฐในวันที่ 18-19 เดือนนี้ที่กรุงโซล

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยังได้เตือนว่า การที่เกาหลีใต้ตัดสินใจไม่ต่ออายุข้อตกลงข้อมูลทางทหารเพื่อความมั่นคงทั่วไปญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ (GSOMIA) ที่จะหมดอายุในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ จะกระทบต่อความพร้อมทางทหาร ประเทศที่จะได้ประโยชน์หากข้อตกลงหมดอายุและญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ยังคงมีความขัดแย้งคือจีนและเกาหลีเหนือเท่านั้น ด้านรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้กล่าวเพียงว่า เกาหลีใต้และญี่ปุ่นจะพยายามลดความเห็นต่างก่อนข้อตกลงจะหมดอายุ อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ชี้ว่า ความขัดแย้งของทั้งสองประเทศยังไม่มีวี่แววจะดีขึ้น นับจากเสื่อมทรามลงเพราะศาลฎีกาเกาหลีใต้มีคำสั่งเมื่อปีก่อนให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยชาวเกาหลีใต้ที่เป็นทาสแรงงานสมัยสงคราม ตามด้วยการที่ญี่ปุ่นจำกัดการส่งออกวัสดุสำคัญทางอุตสาหกรรมให้แก่เกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนกกรฎาคม.- สำนักข่าวไทย

กราดยิงในโรงเรียนสหรัฐ ตาย 2 คน เจ็บ 3 คน


สหรัฐ 15 พ.ย.-นักเรียนชายวัย 16 ปี ก่อเหตุใช้ปืนยิงเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนมัธยมซอกัส เมืองซานตา คลาริตา รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เป็นเหตุให้นักเรียนเสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บอีก 3 คน

หลังจากนั้นมือปืนยิงตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดยังอยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ ขณะนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ระบุไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับลัทธิหัวรุนแรง และคาดว่ามือปืนน่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง.-สำนักข่าวไทย

ที่มา https://tna.mcot.net/