ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เกษม · 18 เมษายน 2015

ผู้นำสหรัฐลั่นโลกร้อนภัยคุกคามโลก

ประธานาธิบดีสหรัฐ เผยภาวะโลกร้อนถือเป็นภัยคุกคามที่สุดของโลก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ กล่าวในคำแถลงประจำสัปดาห์ เนื่องในโอกาสวันเอิร์ธเดย์ 22 เม.ย.ที่จะถึงนี้ว่า ทุกวันนี้ไม่มีภัยอะไรที่ร้ายแรงที่สุดต่อโลกเรามากไปกว่า ภาวะโลกร้อนซึ่งคงจะปฏิเสธหรือทำละเลยไม่ได้อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุด

ทั้งนี้สหรัฐถือเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากจีน ซึ่งประธานาธิบดีโอบามาก็ได้ให้คำมั่นว่า จะหาทางลดมลภาวะทางอากาศให้ได้จากร้อยละ 26-28 ของเมื่อปี 2548 โดยตั้งเป้าลดลงมาให้ได้ภายในปี 2568

ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวย้ำว่าปัญหาโลกร้อนถือเป็นปัญหาใหญ่และร้ายแรงยาวนาน กว่าระยะเวลาของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของเขา และเรื่องโลกร้อนก็ถือเป็นภารกิจสำคัญเร่งด่วนของเขา ในการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหา และยังหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงในการประชุมระดับโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในเดือน ธ.ค.ปีนี้

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 19:01 น.

พายุทรายกระหน่ำปักกิ่ง รุนแรงสุดในรอบ 13 ปี

พายุทรายพัดเข้าปกคลุมกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีแดง และมีค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับสูง จนชาวเน็ตบางคนเรียกว่า 'แซนดาเกดดอน' เปรียบเปรยว่าเป็นการมาถึงของวันสิ้นโลก

เว็บไซต์ข่าวรัสเซียทูเดย์ รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่า สำนักอุตุนิยมวิทยาจีน ประกาศเตือนภัยพายุทรายระดับสีเหลือง ซึ่งถือว่ามีความรุนแรงเป็นอันดับ 3 หลังพายุทรายพัดกระหน่ำกรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ทัศนวิสัยลดลง มีระยะการมองเห็นไม่ถึง 1 กิโลเมตร และทำให้สถานการณ์มลพิษในเมืองหลวงรุนแรงยิ่งขึ้น ในบางพื้นที่ของเมืองสามารถวัดค่าฝุ่นละอองได้มากเกือบ 1,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของประชาชน ส่วนใหญ่ต้องอาศัยหน้ากากและแว่นตาขนาดใหญ่เพื่อป้องกันฝุ่น ทัศนวิสัยที่ต่ำยังส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก

นอกจากปักกิ่งยังมีอีก 11 มณฑล ทางตอนเหนือของประเทศที่ได้รับผลกระทบ ทั้งไฟดับและการจรจาจรติดขัด เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 13 ปี ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตบางรายยกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไปเปรียบเทียบถึงการสิ้นโลก โดยเรียกว่าเป็น 'แซนดาเกดดอน' (Sand-ageddon) ล้อกับคำว่า 'อามาเกดดอน' (Armageddon)

ทั้งนี้ ปรากฏการณ์พายุทรายในจีนเกิดขึ้นเป็นปกติในช่วงฤดูใบไม้ผลิ โดยกระแสลมจะหอบเอาฝุ่นทรายมาจากทะเลทรายในมองโกเลีย ตอนเหนือของประเทศ และบริเวณระเบียงเหอซี.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 05:08 น.

รถบรรทุกขนรังผึ้งคว่ำ ฝูงผึ้งหลายล้านตัวแตกฮือ

รถบรรทุกรังผึ้งเพื่อนำไปช่วยผสมเกสรในสวน เกิดพลิกคว่ำบนถนนในรัฐวอชิงตันของสหรัฐ ฝูงผึ้งกว่าสิบล้านตัวบินว่อน

เว็บไซต์ข่าวซีเอสมอนิเตอร์ รายงานจากรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่า เกิดเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำบนถนนระหว่างรัฐหมายเลข 5 ทางตอนเหนือของเมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ เมื่อเวลา 03.30 น. วันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น (17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) รถคันดังกล่าวบรรทุกรังผึ้ง 458 รัง สำนักข่าวยูเอสเอทูเดย์ประเมินว่า มีผึ้งราว 14 ล้านตัว บางส่วนตายหลังเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ส่วนที่เหลือเริ่มลุกฮือและแตกตื่นเมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างและอุณหภูมิในยามเช้าเริ่มสูงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถกู้ตัวรถได้หากยังควบคุมและจัดการกับผึ้งไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นับว่าโชคยังดีที่คนขับรถไม่ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุหรือถูกผึ้งต่อย

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามฉีดโฟมเข้าใส่ฝูงผึ้งเพื่อฆ่ามัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากคนเลี้ยงผึ้ง จากฟาร์มผึ้งเบลล์วิลล์ฮันนีและบีคีพปิงซัพพลายในเมืองเบอร์ลิงตัน ในการพยายามรวบรวมผึ้งที่ยังมีชีวิตอยู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รายงานเบื้องต้นระบุว่า รถบรรทุกคันดังกล่าวอยู่ระหว่างนำส่งฝูงผึ้งไปยังสวนบลูเบอร์รีในเมืองลินเดน

ทั้งนี้ ผึ้งนับเป็นส่วนสำคัญในภาคการเกษตรของสหรัฐ เว็บไซต์ไซแอนทิฟิค อเมริกัน รายงานว่า ปัจจุบันรายได้หลักของคนเลี้ยงผึ้งไม่ได้มาจากน้ำผึ้ง แต่มาจากการรับจ้างผสมเกสรตามสวนเกษตรต่างๆ ประเภทของผลผลิตและฤดูกาลเพาะปลูกที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ทำให้นักผสมเกสรเป็นที่ต้องการในเวลาที่ต่างกันด้วย โดยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผึ้งจะถูกขนส่งไปยังฟาร์มและไร่ต่างๆ เพื่อช่วยในการเพิ่มผลผลิต การลดจำนวนของผึ้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย (ซีซีดี) ที่เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งอาหาร สภาพแวดล้อม และเชื้อไวรัส อาจกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่เพียงกระทบต่อระบบนิเวศน์ แต่ยังรวมถึงผลผลิตทางการเกษตรของประเทศด้วย.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 05:07 น.

รัสเซียจวกสหรัฐส่ง "ที่ปรึกษาทางทหาร" เข้ายูเครน

รัฐบาลรัสเซียแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังสหรัฐส่ง "ที่ปรึกษาทางทหาร" 300 นาย เดินทางไปยูเครน โดยเตือนจะยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์สู้รบในภาคตะวันออกรุนแรงขึ้นอีก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่านายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับกรณีที่กองทัพสหรัฐทยอยส่ง "ที่ปรึกษาทางทหาร" สังกัดหน่วยพลร่มที่ 173 จำนวน 300 นาย ทยอยเดินทางเข้าไปในยูเครน เพื่อให้ความช่วยเหลือกองทัพรัฐบาลเคียฟเป็นเวลา 6 เดือน ว่าจะยิ่งเป็นการบ่อนทำลายสถานการณ์สู้รบในภาคตะวันออกที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว ให้ยิ่งเลวร้ายและทวีความรุนแรงขึ้นอีก

ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกแถลงการณ์ประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกองทัพสหรัฐอย่างหนักหน่วง ว่าคือการส่งเสริมให้เกิดการนองเลือดในประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซีย และเป็นก้าวแรกของรัฐบาลวอชิงตันสู่การส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธ อย่างเต็มรูปแบบให้แก่กองทัพยูเครนในอนาคต ตามความประสงค์ของรัฐบาลเคียฟ

ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียเชื่อมั่นและกล่าวหารัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ เพื่อโค่นอำนาจประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ซึ่งมีแนวคิดทางการเมืองเอนเอียงไปทางรัฐบาลมอสโก เมื่อปลายปี 2556 และเป็นสาเหตุของการร้าวฉานในความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกในระดับรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่สิ้นสุดยุคสงครามเย็น

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 09:00 น.

โอบามา "ไม่แปลกใจ" รัสเซียกลับมาขายอาวุธให้อิหร่าน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่าไม่ประหลาดใจที่รัสเซียเตรียมกลับมาขายระบบขีปนาวุธให้อิหร่าน เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปี แต่เซอร์ไพรส์ที่รัฐบาลมอสโก สามารถระงับการขายสินค้าให้แก่รัฐบาลเตหะรานได้นานขนาดนี้มากกว่า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวระหว่างให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ผู้นำอิตาลี ภายในทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลรัสเซียเตรียมกลับมาส่งมอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศยาน "เอส-300" ให้แก่รัฐบาลอิหร่านอีกครั้ง ว่าไม่ใช่ความเคลื่อนไหวที่ "น่าประหลาดใจ" ในสายตาของรัฐบาลวอชิงตัน เมื่อมองจากระดับความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างสหรัฐกับรัฐบาลมอสโก และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของรัสเซียที่กำลังอ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม โอบามามองการกลับมาดำเนินธุรกิจด้านอาวุธร่วมกันระหว่างรัสเซียกับอิหร่านในครั้งนี้ เป็นความเคลื่อนไหวอย่าง "มีนัยสำคัญ" เนื่องจากเดิมทีการซื้อขายต้องเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 ที่ในเวลานั้นปูตินอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่สั่งระงับข้อตกลงตามคำขอร้องของรัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรกดดันให้อิหร่านยุติโครงการนิวเคลียร์ พร้อมทั้งแสดงความประหลาดใจอีกครั้งว่า "เหลือเชื่อ" ที่รัสเซียสามารถระงับการขายอาวุธให้อิหร่านได้นานเพียงนี้

แม้อิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงในหลักการร่วมกับกลุ่มมหาอำนาจ "พี 5+1" ที่ประกอบด้วย สหรัฐ อังกฤษ รัสเซีย ฝรั่งเศส จีน และเยอรมนี เมื่อต้นเดือนนี้ แต่เส้นทางสู่การลงนามร่วมกันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 30 มิ.ย. ยังเต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากรัฐบาลเตหะรานยืนกรานกลุ่มมหาอำนาจต้องยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ซึ่งโอบามากล่าวว่า สหรัฐพร้อมเจรจาอย่าง "สร้างสรรค์" กับอิหร่านในเรื่องนี้ แต่ย้ำการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหรือกลับมาบังคับใช้ใหม่ หากรัฐบาลเตหะรานละเมิดข้อตกลง ต้องผ่านการพิจารณาโดยอาศัยปัจจัยหลายด้านเช่นกัน

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 12:55 น.

โบราณวัตถุแหล่งเงินทุนของไอเอส

เตือนกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียและอิรัก ทำลายโบราณสถานที่หาค่ามิได้ พร้อมโจรกรรมโบราณวัตถุ ไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาเป็นทุนในการทำสงคราม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ว่ากลุ่มติดอาวุธในซีเรียและอิรักทำลายโบราณสถานที่ประเมินค่ามิได้ขณะที่ เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปและบรรดาพ่อค้า เตือนให้เพิ่มความระมัดระวังระดับสูงสำหรับโบราณวัตถุขนาดเล็ก ที่ถูกโจรกรรมเพื่อเอาไปขายหาเงินมาใช้เป็นทุนในการทำสงครามของกลุ่มหัวรุนแรงทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินราคาโบราณวัตถุ ที่ถูกโจรกรรมจากซีเรียขณะที่สมาชิกกลุ่มค้าศิลปะโบราณ ระหว่างประเทศหรือไอเอดีเอเอ ในกรุงลอนดอนประเมินว่าตลาดวัตถุโบราณ ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดในปี 2556 มีมูลค่าอยู่ระหว่าง 150-200 ล้านยูโร

ด้านอิตาลีได้เสนอให้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก จัดตั้งกองกำลังปฏิบัติการพิเศษเพื่อปกป้องโบราณสถานในพื้นที่สงคราม แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า มีการดำเนินการน้อยมากในการหยุดกระแสการทำลายโบราณสถานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาต้องรอจนกว่าความขัดแย้งจะยุติ และเฝ้าดูด้วยความตื่นตระหนกขณะที่โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ ที่ประเมินค่ามิได้เหล่านี้ถูกทำลาย และถูกโจรกรรมเพื่อนำไปขายในตลาด

เดลินิวส์ วันศุกร์ 17 เมษายน 2558 เวลา 17:35 น.

บริการไฮเทค 'แช่แข็งมนุษย์' หวังคืนชีพ'หนูน้อยชาวไทย'

2 สามีภรรยาชาวไทยทุ่ม 10 ล้าน ใช้บริการ "แช่แข็งร่างมนุษย์" ของบริษัทด้านเทคโนโลยีการแพทย์ในสหรัฐ เพื่อแช่แข็งร่างกาย-เซลล์ของลูกสาววัย 2 ขวบที่เสียชีวิตด้วยโรคเนื้องอกในสมอง โดยมีความหวังจะช่วยให้ลูกน้อยคืนชีพ

เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ "เดลี เมล" ของอังกฤษ เสนอรายงานเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับเรื่องราวจากครอบครัวของ "น้องไอนส์" เด็กหญิงชาวไทยซึ่งเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 2 ขวบ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา หลังต่อสู้กับอาการป่วยจากโรคเนื้องอกในสมองมาเป็นเวลานาน ที่ทำให้เธอต้องเข้ารับการผ่าตัด 12 ครั้ง และเข้ารับการบำบัดด้วยการฉายรังสีอีก 20 ครั้ง

อย่างไรก็ตามหลังการเสียชีวิตของหนูน้อย บิดามารดาของน้องไอนส์ซึ่งเป็น ดร.คนไทยทั้งคู่ ได้ติดต่อใช้บริการทางการแพทย์ของมูลนิธิ "อัลคอร์ ไลฟ์ เอ็กซ์เทนชั่น" ในรัฐแอริโซนาของสหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการเก็บรักษาเซลล์เชื้อโรค และเซลล์จากร่างกายมนุษย์ รวมถึงร่างกายมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วด้วยวิธีการแช่แข็งภายใต้อุณหภูมิเย็นจัด โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมแล้วสูงกว่า 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10 ล้านบาท )

ทั้งนี้อ้างอิงจากรายงานของเดลี เมล ครอบครัว"น้องไอนส์" เปิดเผยว่า น้องไอนส์เป็นเด็กหลอดแก้วที่เกิดจากแม่อุ้มบุญ โดยบิดาแสดงความหวังว่าการแช่แข็งร่างกาย และเซลล์ต่างๆของน้องไอนส์ อาจปูทางสู่การสร้างโอกาสในการชุบชีวิตบุตรสาวขึ้นมาอีกครั้งในอนาคต หากวิทยาศาสตร์การแพทย์ในเวลานั้นได้รับการพัฒนา และวิธีการนั้นเหมาะสมกับสภาพร่างกายของบุตรสาว ขณะที่ผู้เป็นแม่กล่าวว่า อย่างน้อยครอบครัวได้อุทิศชีวิตของบุตรสาวเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การแพทย์

ข้อมูลเบื้องต้นจากอัลคอร์ระบุด้วยว่า น้องไอนส์เป็นคนไข้ลำดับที่ 134 ของมูลนิธิ ขณะที่การขนส่งร่างกายและเซลล์จากร่างกายของเด็กหญิงได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง และอำนวยความสะดวกจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงเทพฯ ซึ่งส่งน้องไอนส์เดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์มายังนครลอสแองเจลิส ก่อนเดินทางต่อมายังสำนักงานใหญ่ของอัลคอร์ในรัฐแอริโซนา ปัจจุบันเซลล์สมอง และเซลส์ร่างกายส่วนอื่นของน้องไอนส์ได้รับการแช่แข็งในสารไนโตรเจนเหลวท่ามกลางอุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ส่วนร่างกายของน้องไอนส์ได้รับการแช่แข็งเป็นอย่างดีเช่นกัน เพื่อรอ "การรักษา" ที่อาจนำไปสู่การชุบชีวิตหนูน้อยในอนาคต

ด้าน ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการวิจัยรหัสพันธุกรรมเพื่อรักษาโรคมะเร็งในสมองชนิดร้ายแรง ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจาก "น้องไอนส์" ซึ่งป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมองชนิดร้ายแรงว่า ได้ดูแลน้องไอนส์ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสียชีวิต โดยการจัดตั้งกองทุนวิจัยรหัสพันธุกรรมเพื่อรักษาโรคมะเร็งในเด็ก รพ.รามาธิบดี ได้เริ่มมาประมาณ 6 เดือนแล้วโดยได้รับการสนุนจากคุณพ่อและคุณแม่ของน้องไอนส์ ซึ่งเมื่อลูกป่วยก็มีความทุกข์มาก จึงให้ความสนใจเรื่องการรักษาโรคมะเร็งทางสมอง จึงเป็นที่มาของกองทุนนี้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังขาดความรู้ในเรื่องนี้ การวิจัยในบ้านเราส่วนใหญ่จะพึ่งรัฐบาลหมด และเป็นเรื่องยารักษามะเร็งไม่ได้ลงไปที่พันธุกรรม ทั้งที่มะเร็งเกิดจากพันธุกรรมที่กลายพันธุ์ ดังนั้น รพ.รามาธิบดีจึงเป็นแห่งเดี่ยวที่เก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อมะเร็งแบบครบวงจรเพื่อนำมาศึกษา ซึ่งถ้ารู้ตรงนี้จะทำให้รู้ว่ามีการกลายพันธุ์อย่างไร ดังนั้นถ้าได้ความรู้ตรงนี้จะนำไปสู่การผลิตยามะเร็งที่ตรงกับเซลล์มะเร็ง ซึ่งยาในปัจจุบันล้วนนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งกองทุกตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปต้องหาเงินระดมทุนประมาณปีละ 20 ล้านบาท.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 19:06 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

เกษม · 18 เมษายน 2015

เตือนระวังอันตราย 'พายุฤดูร้อน' ประชาชนควรห่างจากต้นไม้ใหญ่

กรมอุตุฯ ชี้ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากจีน แผ่ปกคลุมไทยตอนบน ส่งผลเหนือ อีสาน กลาง และตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อน ชี้ช่วง 21-24 เม.ย. ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก ควรอยู่ห่างต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 21-24 เม.ย. 58 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันอุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 07:47 น.

ชาวน่านสุดเซ็ง กองทัพหนอนบุกบ้าน

ชาวน่านสุดเซ็ง กองทัพหนอนบุกบ้าน

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองน่าน นำโดยนายอาณัติ ต๊ะวิชัยผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสะอาดกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองน่าน ได้เร่งนำเครื่องฉีดพ่นยาฆ่าแมลงไปฉีดพ่นหนอน ลักษณะลำตัวสีดำมีขนขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร จำนวนมากกว่าหมื่นตัว ที่ไต่ออกมาจากต้นประดู่ข้ามกำแพงมาเกาะอยู่ตามต้นไม้พงหญ้า พื้นดิน และตามบ้านเรือนของชาวบ้านอรัญญาวาส ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน หลังจากหนอนดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ชาวบ้าน เพราะขนของหนอนมักติดเสื้อผ้า ตามตัว เวลามีลมพัดผ่าน หลายคนมีอาการแพ้ คัน และเป็นผื่นแดง

นางยุพิน ทิพย์ลือ ชาวจ.น่าน กล่าวว่า หนอนจำนวนมากได้ไต่ออกมาจากต้นประดู่กลางหมู่บ้าน มาเกาะอยู่ตามพื้นดิน และกำแพงบ้าน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากหนอนดังกล่าวมีขนคันและหากมีลมพัดขนจะปลิวมาติดเสื้อผ้า ตามตัว แล้วก็จะมีอาการคันตามผิวหนัง ซึ่งหากใครแพ้ก็จะคันพร้อมมีผื่นแดง ที่ผ่านมากชาวบ้านได้ช่วยกันตีให้ตายแล้วเก็บไปโยนทิ้งพร้อมกับนำปูนขาวมาโรยป้องกันไม่ให้เข้ามาในบ้าน แต่ก็ไม่ไหวเนื่องจากมีจำนวนมากจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยกำจัด สำหรับหนอนมีขนดังกล่าว เป็นหนอนผีเสื้อที่ออกมากินใบอ่อนของต้นไม้ เบื้องต้น ได้ฉีดพ่นยาฆ่าแมลงให้ตายทั้งที่ต้นประดู่และแนวเขตรอบบ้านเรือนชาวบ้าน แต่หนอนผีเสื้อก็ยังไม่หมด ล่าสุดทางชาวบ้านเตรียมแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินที่มีต้นประดู่ดังกล่าวให้เข้าไปดูแล หรือ ตัดต้นไม้ทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้สร้างความเดือดร้อนต่อไป.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 14:05 น.

เร่งสกัดไฟไหม้พรุโต๊ะแดงกว่า 500 ไร่

เจ้าหน้าที่ระดมกำลังควบคุมไฟป่า ที่ลุกลามไหม้พื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง จ.นราธิวาส กว่าสัปดาห์ เผยสาเหตุจากชาวบ้านลอบวางเพลิงเผาป่า เพื่อขยายที่ทำกิน จนลุกลามไหม้กินวงกว้างถึง 593 ไร่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย. นายสิทธิชัย หมัดสีเดิม ผอ.ส่วนควบคุมไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 ปัตตานี นายศักดา จันทร์เดิม หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพรุโต๊ะแดง นายวิวัฒน์ นาคช่วย หัวศูนย์ไฟป่านครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ ศิริอุมากุล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าพรุโต๊ะแดง และนายวรเชษฐ์ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโกลก ร่วมกันอำนวยการและวางแผนส่งชุดเสือไฟ 7 ชุดปฏิบัติการณ์ เข้าดับไฟป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติ หรือป่าพรุโต๊ะแดง บ้านซรายอ หมู่ 1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ซึ่งถูกไฟไหม้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ติดต่อกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากชาวบ้านในพื้นที่ลอบวางเพลิงเพื่อขยายพื้นที่ทำกินจนลุกลามไหม้พื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง เสียหายไปแล้ว 593 ไร่

จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่า ยังคงมีการคุกกรุ่นไหม้อยู่ชั้นใต้ดิน 4-5 จุดใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟ ได้กระจายกำลังกันดับไฟ ด้วยการตีไฟชั้นผิวดิน เพื่อป้องกันการลุกลาม และใช้เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม สูบน้ำในบ่อน้ำที่ขุดขึ้นละแวกจุดเกิดเหตุ ก่อนจะฉีดเข้าไปที่จุดต้นเพลิงชั้นใต้ดินให้เกิดความชื้น ในการป้องกันการลุกลามของต้นเพลิงชั้นใต้ดิน ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถมองเห็น ซึ่งการปฏิบัติของชุดเสือไฟในครั้งนี้ สามารถควบคุมจุดไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยเฉพาะไฟไหม้ในผิวดิน เหลือเพียงไฟคุกกรุ่นอยู่ในชั้นใต้ดินบางจุดเท่านั้น และจากการประเมินคงต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2 ถึง 3 วัน เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟจะสามารถดับไฟไหม้ป่าพรุโต๊ะแดงได้ 100 เปอร์เซ็นต์ หากกระแสลมไม่พัดกระโชกแรงเหมือนที่ผ่านมา.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 18 เมษายน 2558 เวลา 14:13 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/