ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เกษม · 16 เมษายน 2015

แผ่นดินไหวไซปรัส 5.6 แมกนิจูด รุนแรงสุดในรอบ 16 ปี

เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 แมกนิจูด นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซปรัส เมื่อวันพุธ สร้างความแตกตื่นทั่วเมือง แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิโคเซีย ประเทศไซปรัส เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า สำนักงานธรณีวิทยาไซปรัสรายงานการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 แมกนิจูด เมื่อเวลา 11.25 น. วันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น (15.25 น. ตามเวลาประเทศไทย) ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 25 กิโลเมตร ใต้ทะเลนอกชายฝั่งเมืองปาโฟส เมืองท่องเที่ยวทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ หลังเกิดเหตุไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีแผ่นดินไหวตามหรืออาฟเตอร์ช็อคเกิดตามมาอีก 10 ครั้ง แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ถึงกรุงนิโคเซียที่ห่างออกไป 110 กิโลเมตร ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกจนพากันกรูลงจากอาคารมาอยู่ตามถนน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายและผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในระหว่างสำรวจตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น

แม้ไซปรัสจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุด แต่ที่ผ่านมา เกาะแห่งนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดย่อมบ่อยครั้ง เหตุการณ์ครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 แมกนิจูดเมื่อปี 2542 โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไซปรัสคือ แผ่นดินไหวขนาด 6.5 แมกนิจูด เมื่อปี 2539 ที่สร้างความเสียหายทั้งในเมืองปาโฟสและเมืองลีมาซอลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย.

เดลินิวส์ วันพุธ 15 เมษายน 2558 เวลา 19:55 น.

"เอเชียใต้" สมรภูมินิวเคลียร์น่าจับตา

ในขณะที่หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน บางประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้กำลังต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างเงียบๆ เพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำด้านอาวุธนิวเคลียร์ในระดับภูมิภาค

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่าประชาคมโลกกำลังให้ความสนใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการที่อิหร่านสามารถเห็นชอบในหลักการเรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังผ่านการเจรจามาราธอนกับกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ในขณะที่บางประเทศในอีกมุมหนึ่งของโลกกำลังต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างเงียบๆ เพื่อช่วงชิงความเป็นผู้นำด้านอาวุธนิวเคลียร์ในระดับภูมิภาค

เอเชียใต้ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เกิดความรุนแรงซึ่งสั่นคลอนเสถียรภาพด้านความมั่นคงและการเมืองระหว่างประเทศบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับอินเดียและปากีสถาน รวมถึงจีนที่แม้ตามหลักการแบ่งภูมิภาคตามทฤษฎีทางภูมิศาสตร์จะไม่ถือว่าอยู่ในเอเชียใต้ แต่จีนมีพรมแดนส่วนหนึ่งติดกับทั้งอินเดียและปากีสถาน ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า 3 ประเทศนี้มี “ความอันตราย” ไม่แพ้กัน เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างกันนั้นช่างซับซ้อน บนพื้นฐานของความเป็นปรปักษ์และไม่สามารถไว้ใจกันได้อย่างเต็มร้อย

แม้มีปัญหาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่ต้องต่อสู้กับกลุ่มตาลีบันรุมเร้าอยู่ตลอดเวลา แต่ปากีสถานเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก รายงานของสภาวิเทศสัมพันธ์แห่งสหรัฐ ( ซีเอฟอาร์ ) ระบุว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ของกองทัพปากีสถานเพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ทางการเมืองและการทหารของรัฐบาลปากีสถาน เพื่อต่อกรกับ “คู่อริตลอดกาล” นั่นคืออินเดีย ขณะที่นโยบายของรัฐบาลในภาพรวมไม่เคยมีกรอบชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายคนกล่าวว่า ต้องมีไว้เพื่อป้องกันประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลปากีสถานลงนามในข้อตกลงซื้อเรื้อดำน้ำจากจีนจำนวน 8 ลำ แม้ยังไม่มีรายงานใดสามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน ว่าเรือดำน้ำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งติดหัวรบนิวเคลียร์หรือไม่ แต่ข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในสัญญาการซื้อขายอาวุธมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐบาลปักกิ่ง และแน่นอนยิ่งต้องเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในภูมิภาคเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ด้านอาวุธ

รายงานของหนังสือพิมพ์ “เดอะ วอชิงตัน โพสต์” เมื่อต้นเดือนที่แล้ว ระบุว่าปากีสถานทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง “ชาฮีน-3” ที่มีแนวโน้มสูงว่าเป็นขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ และพิสัยการเดินทางของขีปนาวุธนั้นผ่านอินเดียด้วย ขณะที่ 1 เดือนต่อมา หนังสือพิมพ์ “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” รายงานปากีสถานกำลังซุ่มพัฒนาขีปนาวุธพิสัยใกล้ตัวใหม่ ที่แน่นอนว่าอินเดียต้องอยู่ในรัศมีการเดินทางของอาวุธ

อินเดียกับปากีสถานทำสงครามกันอย่างเปิดเผยมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2490 2508 และ 2514 ปัจจุบันรัฐบาลนิวเดลีมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ราว 110 หัว แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอินเดียกำลังเร่งพัฒนาศักยภาพในการผลิต เพื่อเพิ่มจำนวนหัวรบชนิดนี้ให้มากขึ้นอีก ทางการอินเดียทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อปี 2517 ขณะที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำประเทศคนปัจจุบัน ยืนยันแผนยุทธศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอินเดีย คือเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและรักษาความมั่นคงของชาติ

รายงานของคณะกรรมาธิการตรวจสอบด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐ-จีน ( ยูเอสซีซี ) เผยว่าจีนครอบครองหัวรบนิวเคลียร์อยู่ราว 250 หัว สร้างความกังวลให้กับอินเดียไม่น้อย เนื่องจากสิ่งที่จีนมีอยู่นั้น มีครบทั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้ พิสัยกลางและพิสัยไกลข้ามทวีป อีกทั้งยังมีการพัฒนาฐานยิงขีปนาวุธทั้งบนพื้นและบนผิวน้ำ

การแข่งขันกันอย่างเงียบๆแต่หนักหน่วงระหว่างทั้งสามประเทศ เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งด้านนิวเคลียร์ในระดับภูมิภาค ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมการแสดงความวิตกกังวลจากหลายฝ่าย ว่าคือการสั่นคลอนเสถียรภาพด้านความมั่นคงของเอเชียใต้ ที่เผชิญกับปัญหาร้อยแปดมากมายอยู่แล้ว โดยอินเดียและปากีสถานยังปฏิเสธการเข้าร่วมเป็นรัฐภาคีสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ ( เอ็นพีที )

ปัจจุบันสหรัฐและรัสเซียครอบครองอาวุธนิวเคลียร์รวมกันมากกว่าร้อยละ 90 ของอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก แต่เอเชียใต้กำลังจะเป็นภูมิภาคที่น่าจับตามองในเรื่องนี้มากขึ้นแน่นอนในอนาคต

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 12:54 น.

อินโดนีเซียห้ามขายสุราในร้านค้าปลีก

รัฐบาลอินโดนีเซียออกมาตรการ ห้ามร้านค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อในประเทศจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด โดยยกเว้นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารและบาร์เท่านั้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่านายรามัต โกเบล รมว.กระทรวงการค้าอินโดนีเซีย แถลงเรื่องการบังคับใช้มาตรการห้ามมินิมาร์กว่า 16,000 แห่ง และร้านจำหน่ายสินค้าปลีกอีกกว่า 55,000 แห่งทั่วประเทศ จำหน่ายเครื่องอื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท รวมถึงเครื่องดื่มประเภทมิกเซอร์ โดยอนุญาตให้เพียงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงแรม ภัตตาคาร และสถานบันเทิงยามราตรีเท่านั้น ทั้งนี้ คำสั่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม โกเบลเผยรัฐบาลอยู่ระหว่างหารือเรื่องการผ่อนผันข้อบังคับให้กับแหล่งท่องเที่ยวบางแห่ง อาทิ เกาะบาหลี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศมากจนเกินไป ขณะที่บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอินโดนีเซียพากันออกมาแสดง "ความผิดหวัง" อย่างรุนแรง

อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศมีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ประชากรของประเทศกว่าร้อยละ 90 นับถือศาสนาอิสลาม และการบริโภคของมึนเมาถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชารีอะห์

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 14:12 น.

ดารามะกันส่งเสริมนักโทษกินมังสวิรัติ

พาเมลา แอนเดอร์สัน นักแสดงหญิงชื่อดัง ร่วมโปรโมทอาหารมังสวิรัติที่เรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐอริโซนาของสหรัฐ เพื่อหวังเป็นเรือนจำต้นแบบให้สถานกักขังแห่งอื่นดำเนินรอยตาม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากรัฐอริโซนาประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่า บรรดานักโทษที่เรือนจำมาริโคปาเคาน์ตี ในเมืองฟีนิกซ์รัฐอริโซนาของสหรัฐ ได้พบพาเมลาแอนเดอร์สัน นักแสดงหญิงชื่อดังจากเรื่องเบย์วอท์ช ที่มาช่วยส่งเสริมโครงการอาหารมังสวิรัติ ของนายอำเภอโจอาร์ไพโอ ที่บอกว่าการตัดเนื้อสัตว์ออกไปจากเมนูอาหาร ที่เสิร์ฟให้นักโทษกว่า 8,000 คน ช่วยประหยัดเงินได้ปีละ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 6.6 ล้านบาท และตอนนี้ทางเรือนจำเสิร์ฟอาหารมังสวิรัติ มาเป็นเวลา 16 เดือนแล้ว

ทั้งนี้เรือนจำดังกล่าว เสิร์ฟแซนด์วิชเนยถั่วกับผลส้ม พร้อมด้วยขนมปังกรอบให้แก่นักโทษในมื้อกลางวัน ที่รวบเอามื้อเช้ามารวมด้วยกัน ส่วนมื้อค่ำเป็นอาหารหลักประกอบด้วยผักต่างๆ และน้ำซุป สำหรับพาเมลา แอนเดอร์สัน เป็นนักมังสวิรัติมานานแล้ว อีกทั้งยังเป็นโฆษกของกลุ่มพิทักษ์สัตว์พีต้า โดยเธอหวังว่าโครงการริเริ่มอาหารมังสวิรัติที่เรือนจำมาริโคปา จะเป็นเรือนจำต้นแบบให้แก่คุกต่างๆ ทั่วประเทศ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 17:21 น.

ปูตินยันเศรษฐกิจรัสเซียผ่านพ้นวิกฤติ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความเลวร้ายที่สุดของวิกฤติเศรษฐกิจรัสเซีย พ้นผ่านไปแล้ว พร้อมชี้ให้เห็นการแข็งค่าขึ้นของเงินรูเบิล แม้ว่าจะยังเผชิญหน้ากับมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกกรณีความขัดแย้งในยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่าประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างปราศรัยประจำปีกับชาวรัสเซียว่า ค่าเงินรูเบิลกลับมามีเสถียรภาพและแข็งแกร่งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเราได้ผ่านช่วงเวลาของปัญหาที่หนักหน่วงที่สุดไปแล้ว เราได้แก้ไขอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของชาติให้ถูกต้อง ไม่ให้มันเลวร้ายและทุกสิ่งทุกอย่างกำลังได้ผล ทั้งนี้หลังจากค่าเงินรูเบิลดิ่งลงอย่างหนักเมื่อปลายปีที่แล้ว ค่าเงินก็กลับมาแข็งค่าสูงสุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน ก็ลดลงและราคาน้ำมันก็เริ่มนิ่ง

ค่าเงินรูเบิลดิ่งลงต่ำกว่าแนวต้านที่สำคัญทางจิตวิทยาที่ 50 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้วประธานาธิบดีปูตินยกย่องชื่นชมแผนของรัฐบาลว่า เป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจ โดยระบุว่ารัฐบาลดำเนินการด้วยทีมงานที่เป็นมืออาชีพสูง ผู้นำรัสเซียปฏิเสธปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งรวมทั้งภาวะเงินเฟ้อสูง,การว่างงาน และเงินทุนไหลออกซึ่งประมาณว่ามากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว โดยกล่าวว่าเศรษฐกิจรัสเซียรอดพ้นหายนะแล้ว

ปูตินคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้เวลา 2 ปี ในการทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดวิกฤติ แต่กล่าวว่า ขณะนี้การฟื้นตัวอาจเกิดเร็วกว่าเดิมอย่างไรก็ตาม ปูติน กล่าวว่าชาวรัสเซียไม่ควรคาดหวังการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกว่าจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้

รัสเซียอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก ตั้งแต่ผนวกเอาไครเมียจากยูเครนเป็นดินแดนของตัวเอง ในเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และจากนั้น ก็ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรง ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพยูเครนในภาคตะวันออกของยูเครน วิกฤติเศรษฐกิจรัสเซีย ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาวรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้กลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยม ที่พุ่งสูงขึ้นของปูติน ซึ่งทั่วรัสเซียต่างชื่นชมในการเผชิญหน้ากับตะวันตกของเขา

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 18:52 น.

ญี่ปุ่นขึ้นแท่นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ

รัฐบาลญี่ปุ่นครองอันดับ 1 ประเทศถือครองพันธบัตรรัฐบาลวอชิงตันปริมาณมากที่สุด ด้วยมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รัฐบาลจีนตกลงไปอยู่อันดับ 2

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. อ้างข้อมูลจากรายงานประจำเดือนก.พ.ของกระทรวงการคลังสหรัฐ เกี่ยวกับปริมาณตราสารหนี้ของรัฐบาลวอชิงตันที่มีผู้ถือครองเป็นชาวต่างชาติ ว่ามีปริมาณรวมกัน 6.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 203.28 ล้านล้านบาท ) ลดลงร้อยละ 0.9 จากสถิติเมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งอยู่ที่ 6.22 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 205.26 ล้านล้านบาท )

ทั้งนี้ รัฐบาลโตเกียวครองสถิติถือตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐมากที่สุด 1.224.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 40.40 ล้านล้านบาท ) เฉือนรัฐบาลจีนซึ่งแซงหน้ารัฐบาลญี่ปุ่นขึ้นมาครองอันดับ 1 มาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2551 โดยสถิติของทางการปักกิ่งอยู่ที่ 1.223.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 40.38 ล้านล้านบาท )

ขณะที่อันดับ 3 เป็นของกลุ่มสถาบันการเงินในภูมิภาคแคริบเบียน 350,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 11.5 ล้านล้านบาท ) ตามด้วยรัฐบาลเบลเยียมในอันดับที่ 4 ด้วยสถิติ 345,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 11.4 ล้านล้านบาท ) และปิดท้าย 5 อันดับแรกด้วยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน 296,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 9.79 ล้านล้านบาท )

ด้านงบประมาณของรัฐบาลวอชิงตันเมื่อปี 2557 แม้ขาดดุล 483,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 15.93 ล้านล้านบาท ) แต่เป็นสถิติต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 07:36 น.

ปากีสถานทดสอบยิงขีปนาวุธหัวรบนิวเคลียร์

กองทัพปากีสถานประสบความสำเร็จ ในการทดสอบยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ "กอห์รี" พิสัยยิงไกล 1,300 กม. เมื่อวันพุธ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ว่า กองทัพปากีสถานประกาศความสำเร็จ การทดสอบยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ "กอห์รี" ในวันนี้ โดยกอห์รีที่สามารถยิงโจมตีเป้าหมายได้ไกล 1,300 กิโลเมตร สามารถติดตั้งได้ทั้งหัวรบระเบิดแบบธรรมดา และหัวรบนิวเคลียร์ การทดสอบมีขึ้น 1 เดือน หลังความสำเร็จในการยิงทดสอบ ขีปนาวุธแบบพื้น-สู่-พื้น "ชาฮีน 3" ซึ่งติดหัวรบนิวเคลียร์ได้เช่นกัน และมีพิสัยยิงไกลถึง 2,750 กิโลเมตร แถลงการณ์ของกองทัพปากีสถาน ระบุว่า การฝึกซ้อมยิงระบบขีปนาวุธกอห์รี มีเป้าหมายเพื่อทดสอบความพร้อม ทางด้านปฏิบัติการและเทคนิก

ปากีสถานและเพื่อนบ้านคู่ปรปักษ์ อินเดีย ซึ่งทำสงครามสู้รบกัน 3 ครั้ง นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2490 ต่างก็ทดสอบยิงขีปนาวุธแข่งกันเป็นประจำ หลังจากทั้ง 2 ประเทศแสดงตนว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองในปี 2541 ความตึงเครียดต่อกันเพิ่มสูงกว่าปกติอีกครั้ง เมื่อทางการปากีสถานอนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่อนายซากี-อูร์-เรห์มาน ลัคห์วี ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการ การโจมตีของผู้ก่อการร้ายชาวปากีสถาน 10 คน ในเมืองมุมไบของอินเดีย ระหว่างวันที่ 26 - 29 พ.ย. 2551 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 164 ศพ และได้รับบาดเจ็บอย่งาน้อย 308 คน

การปล่อยตัวชั่วคราวดังกล่าว ซึ่งถูกประณามอย่างรุนแรงจากรัฐบาลอินเดีย รวมทั้งทางการสหรัฐและฝรั่งเศส มีขึ้นเกือบ 4 เดือน หลังเกิดความขัดแย้ง ระหว่างเจ้าหน้าที่ของปากีสถาน เกี่ยวกับการควบคุมตัวนายลัคห์วี โดยเมื่อผู้พิพากษาอนุมัติให้ประกันตัวในเดือน ธ.ค. รัฐบาลปากีสถานสั่งคุมขังนายลัคห์วีหลายครั้ง แต่ก็ถูกผู้พิพากษายกเลิกคำสั่งทุกครั้ง.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 01:12 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

เกษม · 16 เมษายน 2015

เศรษฐกิจแย่ เมืองน้ำดำแห่เข้าโรงจำนำ

ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ แห่นำสิ่งของมีค่าต่างๆ ทั้งทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร เข้าจำนำกับสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และเริ่มย่างเข้าสู่ช่วงใกล้เปิดเทอม

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ จำนวนมาก นำสิ่งของมีค่าเข้าจำนำในสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดย นายโพธิวัฒน์ บุญกอบ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ และก่อนเข้าสู่ช่วงเปิดเทอม ประมาณกลางเดือน พ.ค. นี้ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้มีประชาชน รวมถึงผู้ปกครองต่างนำสิ่งของมีค่าต่างๆ โดยเฉพาะทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่เว้นแม้แต่อุปกรณ์เครื่องมือการเกษตร มาใช้บริการจำนำกับสถานธนานุบาลฯ เนื่องจากดอกเบี้ยถูก ทำให้ปัจจุบันมียอดรับจำนำสิ่งของมากถึง 65 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนอย่างน้อยวันละ 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้อนุมัติเงินเพื่อใช้เป็นทุนสำรองให้กับสถานธนานุบาล และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงรองรับการนำสิ่งของจากผู้ปกครองมาจำนำช่วงก่อนเปิดเทอม โดยขณะนี้สถานธนานุบาลมีเงินสดสำรองอยู่จำนวนกว่า 15 ล้านบาท คาดว่าช่วงสิ้นเดือน เม.ย. นี้จะมีผู้ปกครองนำสิ่งของมีค่าเข้ามาจำนำเพิ่มขึ้น เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลาน ซึ่งสถานธนานุบาลยืนยันว่าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอย่างแน่นอน สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท ต่อเดือน เงินต้นเกิน 5,000 บาท แต่ไม่กิน 100,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 15:45 น.

นำคูปองแลกซื้อสารบำรุงดินแน่นสหกรณ์

หนุ่มสวนลำไย นำคูปองส่วนลด "เดลินิวส์" แลกซื้อสารปรับปรุงบำรุงดินสหกรณ์จันทบุรี 1 หมื่นกิโล จ่อเพิ่มปริมาณสินค้า

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่สหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี นายสุรชัย โตประสิทธิ์ ชาวสวนลำไยใน ต.ทับช้าง อ.สอยดาว ผู้ที่นำคูปองส่วนลดจาก นสพ.เดลินิวส์ มาแลกซื้อสารปรับปรุงบำรุงดินอินทรีย์ชีวภาพหรือมูลโคนมชีวภาพ จากสหกรณ์ รวมน้ำหนัก 1 หมื่นกิโลกรัม เพื่อนำไปใช้บำรุงสวนลำไย ให้ออกดอกออกผลเจริญงอกงามมีคุณภาพ

ด้านนายวินนา ศรีสงคราม ประธานสหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สนใจนำคูปอง นสพ.เดลินิวส์ แลกซื้อสินค้าจากสหกรณ์จำนวนมาก และกำลังพิจารณาว่า จะเพิ่มปริมาณมูลโคนมชีวภาพไปอีก 1,000 ตัน เนื่องจากมีชาวสวน และชาวไร่ มีความต้องการมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร รวมทั้งยินดีให้มูลโคนมชีวภาพกับเกษตรกร.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 17:06 น.

ไฟไหม้หญ้าลามติดโรงงานวอด 2 ล้าน

เพลิงไหม้หญ้าลามติดโรงงานเม็ดพลาสติก บางเสาธง สมุทรปราการ วอด 2 ล้านบาท

เมื่อวันที่16 เม.ย. ร.ต.ท.ประสิทธิ์ กาญจนศร พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงงงาน ผลิตเม็ดพลาสติก บริษัท มั่นคงรีไซเคิ้ล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 92/889 ซอยไทยประกัน หมู่ 15 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง ไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก. และ รถดับเพลิงจากเทศบาลบางเสาธง 5 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโรงงานชั้นเดียว เนื้อที่ 2 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด ประตูทางเข้าถูกปิดเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงทำการพังประตูเข้าไป พบว่าเพลิงอยู่ในระหว่างลุกไหม้อาคาร กองวัสดุที่เป็นเม็ดพลาสติก และเครื่องจักร เจ้าหน้าที่ จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำราว 1 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

สอบสวนนายพิทักษ์ โสนทอง กรรมการผู้จัดการบริษัท ให้การว่า บริษัท ประกอบกิจการรีไซเคิลเม็ดพลาสติก ก่อนเกิดเหตุ บริษัทหยุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้ปิดประตูโรงงานเอาไว้ ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่ภายในโรงงาน ตนเองทราบว่าโรงงานถูกเพลิงไหม้จึงรีบมาดู ค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 2 ล้านบาท บริษัทไม่ได้ทำประกันภัยไว้แต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ก่อนเกิดเหตุะน่าจะมีคนจุดไฟเผาหญ้า ด้านหลังโรงงาน จากนั้นไฟได้ลุกลามไหม้ทุ่งหญ้าจนเข้าติดกองวัสดุ และโรงงาน ซึ่งจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 18:56 น.

ไฟไหม้โกดังอะไหล่รถย่านพระราม 2

เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บชิ้นส่วนยางรถยนต์ ของ หจก.สตาร์รับเบอร์ ย่านพระราม 2 เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีกน้ำสกัดประมาณ 30 นาที ถึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เตรียมประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุ

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ร.ต.ท.เชิดชัย ศรีประเสริฐ พนักงานสอบสวน สน.บางมด รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บชิ้นส่วนยางรถยนต์ ของ หจก.สตาร์รับเบอร์ เลขที่ 55/11 ถนนพระราม 2 ซอย 12 แขวงและเขตจอมทอง จึงประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นโกดังความสูง 1 ชั้น ปลูกบนพื้นที่ประมาณ1 ไร่ พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกจากกองยางและอะไหล่บริเวณกลางโกดัง ก่อนลุกลามไปติดสำนักงานซึ่งเป็นบ้านพักเจ้าของ ลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบพื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 100 ตร.ม.

สอบสวน นายปรีชา ประเสริฐศรีชนะ อายุ 76 ปี เจ้าของโกดัง ให้การว่า วันนี้ไม่มีคนงานอยู่ในโกดัง เนื่องจากยังเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ โดยก่อนเกิดเหตุตนพักผ่อนอยู่ในสำนักงาน จู่ๆก็เห็นแสงเพลิงพวยพุ่งขึ้นมาจากกองยางสินค้า จึงพยายามเข้าไปใช้ถังดับเพลิงระงับเหตุ แต่ไม่สามารถดับไฟได้ และถูกไฟลวกที่บริเวณศีรษะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จึงได้ตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนสาเหตุและมูลค่าความเสียหายต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 18:10 น.

ผวาแก๊งลักศพอาละวาด คาดเอาไปทำของขลัง

ชาวบ้านโนนสา จ.อุดรธานี ผวาแก๊งลักศพผีตายโหงในป่าช้าสาธารณะอาละวาด ด้านเจ้าหน้าที่คาดฝีมือพระภิกษุชาวบุรีรัมย์ คาดทำกันเป็นขบวนการ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง หรือพวกคุณไสย

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พ.ต.ท.จำลอง ปัญจนะ สว.สส. สภ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี นำกลังชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบยังป่าช้าสาธารณะ บ้านโนนสา หมู่ 14 ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม หลังได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายมาขโมยศพผีตายโหงในสุสานดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พบว่าศพที่ถูกขโมยไปมีด้วยกัน 2 ศพ คือ ศพของ นายนพรัตน์ หีบแก้ว อายุ 33 ปี ที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุจากการถูกทำร้ายร่างกาย และศพของ นางศิริรัตน์ อัครราช อายุ 36 ปี ที่เสียชีวิตพร้อมกับลูกที่อยู่ในท้องอายุประมาณ 5 เดือน โดย นางอนงค์ หีบแก้ว มารดาของ นายนพรัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก นายวิเชียร บุญพา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ว่า มีชาวบ้านที่เดินเข้าไปหาเก็บของป่าในบริเวณป่าช้าสาธารณะบ้านโนนสา พบว่าหลุมฝังศพของ นายนพรัตน์ลูกชาย ได้ถูกคนร้ายขโมยขุดเอาศพไป นอกจากนี้หลุมซีเมนต์ที่เก็บศพของ นางศิริรัตน์ ที่ฝังอยู่ห่างกันไม่ไกลกัน ก็ถูกคนร้ายใช้ของแข็งทุบที่เบ้าเป็นรู แล้วเอาศีรษะไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้งสองศพนั้น สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านบ้านโนนสาและหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าคนที่มาขโมยเอาศพลูกชายไปครั้งนี้ น่าที่จะนำเอาไปทำสิ่งที่ชั่วร้ายทางไสยศาสตร์

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.ท.จำลอง กล่าวว่า ได้สอบปากคำพยานไปหลายปาก พอที่จะได้เบาะแสว่า เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีพระภิกษุรูปหนึ่ง อายุประมาณ 60-65 ปี อ้างว่ามาจาก จ.บุรีรัมย์ เข้ามาหลอกชาวบ้านที่ชอบเล่นหวย ให้พาไปหาศพที่ตายโหงใหม่ๆเพื่อทำการขูดเอาตัวเลข จนชาวบ้านหลงเชื่อยอมพาไปที่สุสานแห่งนี้ ซึ่งเชื่อว่าพระภิกษุรูปนี้น่าจะย้อนกลับมาขโมยศพไป เนื่องจากหลังเกิดเหตุพระภิกษุรูปดังกล่าวก็ได้หายตัวไปด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อเดือนที่แล้ว ศพเด็กชายสองพี่น้อง อายุ 8 ขวบ และ 9 ขวบ ที่เสียชีวิตจากการตกน้ำตาย และฝังไว้ที่ป่าช้าบ้านเชียงแหว ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ก็ได้ถูกคนร้ายขโมยเอาศีรษะไป จึงคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือพระภิกษุรายเดียวกัน และสันนิษฐานว่าจะนำไปทำไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลัง หรือพวกคุณไสยต่างๆ และน่าจะทำเป็นขบวนการ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 18:48 น.

ซิวหนุ่มผลิตธนบัตรปลอมซื้อมือถือ

ตำรวจคลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุมหนุ่มหัวใสที่ผลิตธนบัตรปลอมใบละ 500 และ 1,000 บาท ไปใช้ตระเวนซื้อมือถือตามร้าน สารภาพศึกษาวิธีการทำธนบัตรปลอมมาจากเพื่อนจนชำนาญ

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ สว.สส.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นำกำลังชุดสืบสวนเข้าจับกุม นายธนากร หรืออ้อ แย้มศิริ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่นำธนบัตรปลอมมาใช้ตระเวนซื้อสินค้า โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ที่ 5 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พ.ต.ท.จิรวัฒน์ เปิดเผยว่า นายธนากรผู้ต้องหารายนี้ ได้นำธนบัตรราคาต่างๆมาซื้อสินค้าจำพวกโทรศัพท์มือถือราคาแพง ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ สภ.คลองหลวง และ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ โดยมีผู้เสียหายหลายราย ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ได้ลงมือก่อเหตุที่ร้านแสงทองโมบาย หัวถนนคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง และจากการตรวจสอบยังพบว่า ผู้ต้องหายังมีหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นอีกคดีหนึ่งด้วย

ด้าน นายธนากร ให้การรับสารภาพว่า ได้ศึกษาการทำธนบัตรปลอมมาจากเพื่อนที่รู้จักกันจนเกิดความชำนาญ จึงมาเริ่มทดลองผลิตเอง และได้นำธนบัตรที่ผลิตเองประกอบด้วย ธนบัตรชนิด 500-1,000 บาท ออกตระเวนซื้อโทรศัพท์มือถือตามร้านค้า เพื่อนำไปขายต่อและนำเงินไปใช้จ่าย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 16 เมษายน 2558 เวลา 15:31 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/