ข้อความจากต่างมิติ-สนามพลังงานคริสตัล 10-10-10 และการล่มสลายของแอตแลนติส

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 10 ตุลาคม 2010.

  1. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649

    เห็นด้วยเราต้องใช้เวลาที่พลึกนั้นอยู่ถึงจะถูก
    ตรงกับของเราเวลาใหนใครรู้บอกที
     
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพ เมตาตรอน

    เรื่อง: การล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติส
    และสนามพลังงานคริสตัล ของวันที่ 10/10/10


    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 10 มิถุนายน 2010
    ที่มา:

    The Fall of Atlantis Revisited: The Crystalline Field of 10-10-10 > Earth Keeper

    ผู้แปล: Kindred

    ตอนที่ 5

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ตำนานแห่งการล่มสลายที่แท้จริงของอาณาจักรแอตแลนติส


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    ที่รักทั้งหลาย,คริสตัลเหล่านี้ได้ถูกปกป้องให้รอดพ้นจากการถูกทำลายในครั้งนั้น
    และในตอนนี้คุณจะได้รับรู้ว่าเพราะเหตุใด เพราะว่ารูปธรรมชีวิตคริสตัลที่งดงามเหล่านั้น
    ได้ให้หลายสิ่งหลายอย่างแก่พวกคุณทุกคนมากมายเหลือเกิน นั่นคือ ได้ให้การขยายตัวทางจิตวิญญาณ
    หรือความเสร็จสมบูรณ์อันศักดิ์สิทธิ์แก่ทุกๆคน!

    มันถึงเวลาที่จะต้องระลึกให้ได้แล้วว่าคุณเคยเป็นใคร เพื่อที่จะได้เป็นในสิ่งที่คุณเป็นทั้งหมดในการตื่นรู้ครั้งนี้
    ซึ่งมันจะนำคุณย้อนกลับไปสู่สนามพลังงานคริสตัลแห่งควอนตัม ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นยุคทอง
    และเป็นยุคที่เฟื่องฟูที่สุดของอาณาจักรแอตแลนติส ก่อนที่มันจะล่มสลายอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ในเวลาต่อมา


    และด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงจะขอเล่าประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของการล่มสลายนี้ให้พวกคุณฟัง


    อาณาจักรแอตแลนติสดำรงอยู่มานานกว่า 200,000 ปี ช่วงเวลาในยุคสมัยของแอตแลนติสส่วนใหญ่
    จะเป็นช่วงเวลาแห่งแสงสว่างแทบทั้งสิ้น ยกเว้นเพียงช่วงสุดท้ายก่อนที่จะถึงกาลอวสานเท่านั้นเอง
    ซึ่งนั่นคือ ในระหว่าง 17,500 BC ถึง 10,500 BC ที่พวกคุณเรียกมันว่ายุคมืด,
    แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่ได้มอบบทเรียนอันมีค่าให้แก่เรา

    .........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • atlantisart.jpg
      atlantisart.jpg
      ขนาดไฟล์:
      302.2 KB
      เปิดดู:
      2,778
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2014
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพ เมตาตรอน

    เรื่อง: การล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติส
    และสนามพลังงานคริสตัล ของวันที่ 10/10/10


    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 10 มิถุนายน 2010
    ที่มา:

    The Fall of Atlantis Revisited: The Crystalline Field of 10-10-10 > Earth Keeper

    ผู้แปล: Kindred

    ตอนที่ 6
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

    ยุคทองของแอตแลนติส


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    เราขอบอกความจริงกับคุณว่า ช่วงเวลาทองของแอตแลนติส เป็นช่วงเวลาที่มนุษย์โลก
    มีระดับจิตสำนึกสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนดาวเคราะห์โลกใบนี้ ซึ่งสูงกว่าระดับจิตสำนึกของชาวเลมูเรีย,
    ชาวอาณาจักรมู, สูงกว่ายุค Rama, และสูงกว่าชาวอิกเนเชียสแห่งลาโฮลา (Ignacious) ซะอีก


    โดยทั่วๆไปคนมักเชื่อกันว่า ชาวเลมูเรียเป็นอารยชนที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูงที่สุด
    ถึงแม้ว่าพวกเขาจะบรรลุสภาวะแห่งความมีจิตสำนึกที่สูงส่งแบบนั้นอยู่ได้ไม่นานนักก็ตาม

    แต่ผู้คนส่วนใหญ่ในยุคนั้น “ไม่ได้อยู่ในรูปกายเนื้ออย่างแท้จริง” เพราะว่าส่วนใหญ่
    พวกเขาจะอยู่ในรูปแบบของกายทิพย์คล้ายๆพวกเทพเทวดาซะมากกว่า
    ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องเผชิญกับปัญหาแบบเดียวกับที่มนุษย์ที่มีกายเนื้อบนโลกทั้งหลาย กำลังเผชิญอยู่เลย



    อันที่จริงแล้วอาณาจักรเลมูเรีย ไม่เคยเจริญก้าวหน้าจนถึงระดับที่อาณาจักรแอตแลนติสเคยไปถึงแล้ว
    ในช่วงยุคทอง คือเมื่อ 40,000 BC ถึง18,000 BC.มาแล้วโน่นเลย

    เพราะว่าในช่วงเวลานั้น อาจเรียกได้เป็น “ช่วงเวลาที่เทพเดินเคียงข้างกับมนุษย์”
    และทุกคนก็แสดงออกแต่ความสุขความเบิกบาน

    มันเป็นช่วงเวลาที่ควรค่าแก่การสักการบูชา เพราะว่าตอนนั้นพวกคุณหลายคน
    ลงมาอยู่ในฐานะ “เด็กจากดวงดาว” (Star Children) แล้วต่อมาจึงเลือกที่จะลงมาเวียนว่ายตายเกิด
    อยู่ในร่างกายเนื้อทางชีวภาพ และเรียนรู้บทเรียนต่างๆบนดาวเคราะห์สีฟ้าที่เรียกว่าโลกดวงนี้

    ดังนั้นเมื่อคุณพิจารณาถึงแอตแลนติส จงอย่าจดจำแต่ตำนานแห่งการล่มสลายที่แสนเศร้าของมันเพียงอย่างเดียว!

    เพราะว่า ถึงแม้ว่ามันเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆก่อนยุคสมัยที่น้ำจะท่วมโลกเท่านั้น
    แต่มันก็ไม่ควรที่จะถูกลืม เพราะว่าหากเราทำความเข้าใจเหตุการณ์ในช่วงสุดท้ายก่อนการล่มสลายนั้นให้ดีแล้ว
    เราก็จะได้ประโยชน์มากมายจากมัน ดังนั้นที่รักทั้งหลายมันจึงเป็นช่วงเวลาที่ควรจะจดจำ


    ................................


    .............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Atlantis14.jpg
      Atlantis14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.9 KB
      เปิดดู:
      6,145
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2014
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพ เมตาตรอน

    เรื่อง: การล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติส
    และสนามพลังงานคริสตัล ของวันที่ 10/10/10


    ผู้รับการสื่อสาร: Tyberonn
    วันที่รับการสื่อสาร: 10 มิถุนายน 2010
    ที่มา:

    The Fall of Atlantis Revisited: The Crystalline Field of 10-10-10 > Earth Keeper

    ผู้แปล: Kindred

    ตอนที่ 7

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> โฮโลแกรมของชาวแอตแลนติส


    เอาหละ เราจะเล่าเรื่องราวของอาณาจักรแอตแลนติสที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่มากๆ ให้พวกคุณทุกคนฟัง
    เพราะว่าเรื่องราวของอาณาจักแอตแลนติส เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของโลกสามมิตินี้

    และสำหรับผู้ที่เคยเกิดในยุคนั้น แล้วย้อนกลับมาเกิดใหม่ในยุคนี้ การได้รื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับแอตแลนติส
    ไม่เพียงแต่จะช่วยบำบัดรักษาพวกเขาได้เท่านั้น แต่สำหรับบางคนแล้ว มันจำเป็นจะต้องได้รับการบำบัดรักษา
    และการชำระล้างอย่างแท้จริงเลยทีเดียว


    แต่สำหรับคนอื่นๆ มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณมีพลังอำนาจและความดีงามมากขึ้นก็ได้
    เพราะว่ามันอาจจะช่วยเรียกความทรงจำในช่วงเวลาที่คุณเคยเปี่ยมไปด้วยความรู้กลับคืนมาก็ได้
    ไม่ว่าในตอนนั้นคุณจะเคยมีตำแหน่งหน้าที่อะไรในแอตแลนติสก็ตาม



    ที่รักทั้งหลาย 70% ของพวกคุณทั้งหมดบนโลกในตอนนี้
    เคยไปเกิดในยุคนั้นมาก่อน และในตอนนี้
    แอตแลนติสกำลังเรียกหาพวกคุณอยู่


    และการเรียกหาในครั้งนี้ ก็ไม่ได้เรียกหาเฉพาะพวกคุณที่เคยอยู่ในกลุ่ม the Law of One เท่านั้น
    แต่มันยังเรียกหาพวกคุณที่เคยเป็นชาวอารยันและ Sons of Belial อีกด้วย


    อันที่จริงแล้วพวกคุณหลายคน ก็เคยเกิดเป็นคนที่อยู่ในลัทธิทั้งสองลัทธินั่น มาหมดแล้วแหละ

    พวกคุณแปลกใจกันไหม?


    …………………….
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    โพสต์ถัดๆไป ผมจะคัดลอกเอามาจากข้อความที่คุณ Kindred เคยโพสต์เอาไว้แล้ว
    ในกระทู้ "ข้อความจากต่างมิติ - ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ฯ"

    จากตรงนี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-a.246190/page-31

    เพราะว่าท่านนำข้อความเดิมมาให้อ่านซ้ำอีกครั้งหนึ่งหนะครับ

    แต่ผมอาจจะมีขัดเกลาสำนวน และ/หรือแก้ไขอะไรเล็กๆน้อยๆให้เธอไปด้วยหนะนะครับ
    เดี๋ยวก็จะโพสต์ไปแก้ไปนั่นแหละครับ

    ดังนั้น ท่านใดที่อ่านไปแล้ววันนี้ ถ้าเข้ามาอ่านใหม่ในคราวหน้า
    เนื้อหาอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้นะครับ


    ....................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2010
  6. ตันติปาละ

    ตันติปาละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    4,421
    ค่าพลัง:
    +4,649
    อันนี้ก็ผลึกสีม่วง ไม่ทราบว่าจะมีผลต่อผู้ใช้หรือเปล่า
    101010 003.jpg 101010 004.jpg 101010 002.jpg
    อะเมทิสต์
    Amethyst เป็น พลอยในตระกูลควอทซ์ที่มีค่ามากที่สุด มีคววามโปร่งใส สีม่วงอ่อนจนถึง สีม่วงเข้ม หรือ ม่วงแดง หลายคนเรียกอะเมทิสต์ว่า พลอยสีดอกตะแบก หรือพลอยจำปาศักดิ์
    คำ ว่า Amethyst มาจากภาษากรีกว่า Amethystos แปลว่าไม่ทำให้มึนเมา หรือปราศจาก ความมึนเมา เป็นพลอยที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นเวลากว่า 7,000 ปีมาแล้ว มีเรื่องเล่า ในนิยายกรีกว่า เทพแบคคลัส (Bacchus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่น โกรธแค้นที่ เทพธิดาไดอานา (Diana) สลัดรัก จึงตัดสินใจที่จะแก้แค้น และได้สาบานว่า ใครก็ตาม ที่เขาพบ เป็นคนแรกในกองคาราวาน จะต้องถูกจับให้เสือกิน ในคราวนั้น มีสาวใช้ผู้เคราะห์ร้าย ชื่อ Amethyst ได้ออกเดินทาง เพื่อไปสักการะที่วิหารของเทพธิดาไดอานา จึงถูกเสือ ของเทพเจ้าแบคคัส ตะโดดเข้าตะปบ นางอะมิทิสต์ ตกใจร้องเรียกให้เทพธิดาไดอานาช่วย เทพธิดาไดอานาจึงแปลงร่าง ของนางอะเมทิสต์ให้กลายเป็นก้อนหิน ใสสะอาดก้อนหนึ่ง เพื่อให้รอดพ้น จากการเป็นเหยื่ออันโอชะของเสือ เทพเจ้าแบคคัสได้เห็นเหตุการณ์ดังนั้น รู้สึกเสียพระทัยเป็นอันมาก จึงเทเหล้าองุ่นลงบนร่างก้อนหิน ของนางอะเมทิสต์ จนกลายเป็น ก้อนหินสีม่วง นับแต่นั้นเป็นต้นมา นอกจากนี้ยังเล่าสืบต่อกันมาอีกด้วยว่า หากใครได้ดื่ม เหล้าองุ่น จากถ้วยที่เจียระไนจากอะเมทิสต์แล้ว จะไม่รู้สึกมึนเมา และชาวกรีกยังเชื่ออีกด้วยว่า หากนำก้อนอะเมทิสต์มาวางไว้ใต้ลิ้น ก็จะให้ผลเช่นเดียวกับ การดื่มไวน์จากแก้ว อะเมทิสต์เจียระไน คือ จะไม่มึนเมา หรือหากมีพิษ ก็จะปราศจากความรู้สึกเป็นพิษใดๆ
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="90%"> <tbody> <tr class="contright"> <td width="75%">ชาว อียิปต์โบราณจะสวมใส่อะมิทิสต์ เพื่อช่วยให้กระทำการรบได้สำเร็จ และช่วยป้องกันให้รอดปลอดภัย จากอันตรายต่างๆ ได้ พลังอำนาจของอะมิทิสต์ สามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะ และปวดฟันได้ โดยการนำอะมิทิสต์ ไปแช่ในน้ำร้อน 2 - 3 นาที แล้วจึงนำมาสัมผัสตรงบริเวณที่ปวด ก็จะช่วยทุเลา ความปวดลงได้ อะมิทิสต์ เป็นพลอยทางศาสนาอีกด้วย เชื่อว่าจะช่วยดลบันดาล ให้เกิดความเที่ยงธรรมแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่ออุดมคติอันสูงส่ง จะเห็นได้ว่าแหวนประดับ ของพระในคริสตศาสนา จะใช้อะมิทิสต์ แม้ในปัจจุบันก็ยังคงสวมใส่กันอยู่
    อะมิทิสต์ เป็นเครื่องประดับของพระมหากษัตริย์ เช่น ฟาโรห์ในอียิปต์ และโมเสสใช้ประดับที่หน้าอก อีกทั้งยังเป็นพลอยที่นักบุญวาเลนไทน์สวมใส่ โดยนำมาทำแหวนรูปกามเทพ

    </td></tr></tbody></table>
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 2

    จุดจบของยุคทอง และ การล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติส

    เราจะมาพูดถึงวันสุดท้ายของอาณาจักรแอตแลนติส ที่นำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักร....
    แต่ว่าอันที่จริงแล้ว มันเป็นการเตรียมการเอาไว้ เพื่อการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ต่างหาก


    เพราะว่าแท้ที่จริงแล้ว พวกคุ
    ณแต่ละคนต้องตื่นรู้ถึงความทรงจำที่เคยหลงลืมไปให้ได้
    พร้อมทั้งปลดปล่อยความกลั
    วและความเจ็บปวดออกไปให้ได้

    พวกคุณได้เก็บรักษาคริสตัลเหล่านี้ไว้
    ให้รอดพ้นจากการถูกทำลาย
    ซึ่งตอนนี้ พวกคุ
    ณจะต้องจดจำให้ได้ว่าทำไม

    และเพราะว่าพวกคุณได้ทำพันธะสัญญาเอาไว้แล้ว จงบำบัดรักษาตั
    วคุณเองเสีย


    เราจะพูดถึงช่วงเวลานั้น และพูดกับพวกคุณทุกคน ผู้ที่เคยอยู่ที่นั่นทั้งที่อยู่ในรูปแบบกายเนื้อ
    และที่อยู่ในรูปแบบของกายทิพย์

    เพราะว่าเรื่องราวของอาณาจักรแอตแลนติส เป็
    นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของมิติแห่งมายาการนี้

    [​IMG]


    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> และสำหรับผู้ที่เคยเกิดในยุคนั้น แล้วย้อนกลับมาเกิดใหม่ในยุคนี้ การได้รับการบำบัดรักษา
    เกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำไว้ในสมัยแอตแลนติส เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น เพื่อให้พวกคุณทุกๆคน

    สามารถผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เข้าสู่สภาวะแห่งเมอร์ขะบะห์ (Merkabic Phase) ได้

    ซึ่งมันคือพลังงานแห่งคริสตัล สำหรับการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกนั่นเอง


    เสียงเรียกนี้ มันไม่ได้เรียกหาเฉพาะพวกคุณที่อยู่
    ในลัทธิเดอะลอว์ออฟวัน (the Law of One) เท่านั้น
    แต่มันยังเป็นการเรียกสำหรั
    บชาวอารยัน ซันออฟเบลิเอล (Sons of Belial) อีกด้วย

    อันที่จริงพวกคุณหลายคน เคยเกิดมาอยู่ในทั้งสองลัทธินั้นมาแล้ว
    คุณประหลาดใจไหม?

    พวกคุณทุกคนต้องถูกปลดปล่อยและบำบัดรักษาตนเอง
    ใครที่รู้สึกเสียใจอยู่, ใครที่รู้สึกสูญเสีย,
    ใครที่รู้สึกว่าถูกทรยศหักหลัง และ ใครที่รู้สึกผิดอยู่....

    มันถึ
    งเวลาแล้ว ที่พวกคุณจะต้องปล่อยพวกมันออกไป มันถึงเวลาแห่งการสามัคคีปรองดองกันแล้ว

    -----------------------------------------------------------------

    เบลิเอลในพระคำภีร์นอกสารบบ พระกิตติคุณ บาร์โธโลมิว(Godspel of Bartholomew)
    บันทึกถึงตอนที่นักบุญบารฺ
    โธโลมิวถามว่า Belial คือใคร...
    Belial ตอบว่า "ตอนแรกเรามีชื่อว่า satanel มีหน้าที่เป็นผู้นำสารของพระเจ้

    แต่เมื่อเราได้ปฏิเสธพระเจ้า ชื่อของเราได้เปลี่ยนมาเป็น Satanas
    นั่นคือเราได้กลายมาเป็นผู้คุ
    มนรก (Tartarus)
    เราคือทูตสวรรค์ลำดั
    บแรกๆในสวรรค์ที่พระเจ้าสร้าง
    หลังจากที่พระเจ้าสร้างเราแล้
    วพระเจ้าก็สร้างมิคาแอลเป็นลำดับสอง
    กาเบรียลเป็นลำดับสาม อูริแอลลำดับสี่ ราฟาแอลลำดับห้า"
    Belial ยังบอกอีกด้วยว่า "เขาถูกสร้างเป็นลำดับต่อไป
    หลังจากพระเจ้าสร้างลูซิเฟอร์
    เป็นฑูตสวรรค์ตนแรกในสวรรค์("I have been created next after Lucifer").
    [Rf. James, The Apocryphal New Testament,God spell of Bartholomew]
    เบลิเอลยังบอกว่าเขาเคยอยู่
    ในกลุ่มทูตสวรรค์ชั้น เซราฟิม(seraphim) และ คุณธรรม(Virtues)
    และเป็นเขาเองที่คอยยั่วยุลูซิเฟอร์ให้ก่อการกบฏนั่นทำให้เขาเป็นทูตสวรรค์ ตนแรกที่ถูกขับออกจากสวรรค์
    ที่มา...มารทั้ง 6 ใน Exorcism of Emily - Windows Live

    --------------------------------------------------------------------------------------------
     
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 3

    อุทกภัยครั้งที่ 2 ของ ช่วงเวลา 17,500 BC – การหมุนวนที่ตกต่ำลง


    หลังการเกิดอุทกภัยครั้งที่สอง ยุคทองของยูโธเปียตกต่ำลง ทวีปแอตแลนติสได้แตกออกเป็น 5 เกาะ
    เกาะหลักสำคัญ3เกาะ คือ โพซิดา(Poseida),อารยันและ Og อีกสองเกาะที่เล็กกว่าคือ Atalya และ Eyre
    ซึ่งอยู่ภายใต้
    การปกครองของอารยัน


    และในเวลาต่อมาหลังการแตกครั้
    งที่สองของทวีปแอตแลนติส
    กฎแห่งความเมตตากรุณาโดยจั
    กรวรรดิ์ ก็ถูกส่งต่อไปยังสหภาพที่มีอำนาจในการบริหารปกครอง
    การปกครองแต่ละเกาะนั้นถูกควบคุ
    มโดยชนชั้นสูง
    ที่มีสองอุดมการณ์ความคิดที่
    ตรงข้ามกัน คือ “ลอว์ ออฟ วัน” สำหรับหมู่เกาะย่อยของ โพซิดา
    และ ‘ซัน ออฟ เบลิเอล สำหรับหมู่เกาะย่อยของอารยัน


    เกาะของอารยัน มีจำนวนประชากรมากที่สุด และมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่
    เหนือ Og, Atalya และEyre.
    โพซีดา เป็นที่ที่มีระบบทางเข้าของ วอร์เท็กซ์ ที่มีพลังมากที่สุดในเวลานั้
    นของแอตแลนติส
    ชาวโพซิด้า จะอยู่อาศัยรวมกันเป็นกลุ่มๆตาม วิหารแห่งการเยียวยา
    ,วิหารแห่
    งเสียง,วิหารแห่งการชุบชีวิต และ วิหารแห่งความรู้
    บ้านของชาวโพซิด้า ส่วนใหญ่จะใช้เป็นศูนย์การเรี
    ยนการสอนที่สำคัญในขั้นที่สูงขึ้นไป


    สถานที่เหล่านี้อยู่ที่ โพซิด้า เพราะว่า มันมีทำเลที่ตั้งที่ได้เปรี
    ยบภายในกริดที่โค้งรับไปตามแนวของโลก
    และใกล้ชิดกับพลังงานคลื่นแม่
    เหล็กไฟฟ้าที่หมุนวนขึ้นจากแกนกลางของโลกที่เป็นประโยชน์
    ศักยภาพอันเหลือเชื่อของการผุ
    ดพลุ่งของน้ำพุแห่งการเยียวยา ทีโพซิดาใกล้ๆกับวิหารแห่งการเยียวยา
    ทำให้เป็นที่มาของเรื่องลึกลับ ‘น้ำพุแห่งความเยาว์วัย' ที่ถูกเล่าขานผ่านมาทางชนพื้
    นเมืองของฟลอริด้า
    และมันก็ยังคงไหลลงสู่มหาสมุ
    ทรใกล้ๆ หมู่เกาะ บิมิไน(Bimini)

    เผ่าพันธ์ที่สูงใหญ่ในยุ
    คทองของแอตแลนติส พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากชาวเพลียะเดี้ยน( Pleadean)
    อาศัยอยู่ใจกลาง โพซีดามีความสูงโดยเฉลี่ย10 ถึง 12 ฟุต เป็นเผ่าพันธ์มนุษย์ร่างยักษ์ที
    ่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน
    พวกเขามีส่วนร่วมในวัฒนธรรมต่
    างๆ งานศิลปะ และทำหน้าที่ให้การศึกษาซึ่งเป็นหัวใจของชาวแอตแลนติส

    โพซีดา เป็นกองบัญชาการและระบบนิวเคลียร์ของโครงข่ายพลังงานคริสตัล
    และระบบอุโมงค์หลากมิติอีกด้วย ความล้ำหน้าที่สุดของความซับซ้
    อนและสวยงามของคริสตัลอยู่ที่นี้
    มันเป็นสิ่งก่อสร้างของชาวอาร์คทู
    เรี่ยน และ ไซเรี่ยน ที่ประสมประสานประสานคริสตัล
    ด้วยการดูดซึมโลหะแพลทตินั่
    มและทองคำมาผสมกัน

    [​IMG]

    วิหารอันโอ่อ่า นั้นถูกสร้างด้วยคริสตัล บ้างก็สร้างจากหินอ่อน,

    บ้างจากแผ่นคริสตัลของธาตุแบริลเรี่ยม,
    ธาตุคอรันดัม
    (corundum...แร่อะลูมินั
    มออกไซด์ซึ่งแข็งเป็นที่สองรองจากเพชร
    เป็นแร่จากธรรมชาติหรือจากการสั
    งเคราะห์...ผู้แปล) และเพชร

    โพซิด้า ยังเป็นเมืองหลวงของเกาะอีกด้วยและถูกเรียกว่า เมืองมรกต(Emerald)
    ชาวแอตแลนติสนั้นเลอเลิศไปวิทยาการของชาวอาร์คทูเรี่ยน ในความสามารถที่จะเพาะคริสตัลของทุกๆโครงสร้าง

    และสามารถใเร่งการเจริญเติบโตของชั้นผลึกคริสตัลที่อยูใต้พื้นดินที่ อาร์คันซอส์, ทิเบต และ บราซิล ได้



    สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณานิ
    คมแอตแลนติส ใช้ทางผ่านเข้าออกโดยระบบอุโมงค์หลากมิติทั่วทั้งแอตแลนติ
    ข่ายพลังงานของคริสตัล ที่เกาะเกี่ยวกันเป็นรูปสามเหลี
    ่ยมและเชื่อมต่อกับแท่งโลหะ ทองสัมฤทธิ(gold-copper)
    ที่อยู่ใต้โดมทรงกลม ซึ่งทำมุมเพื่อที่จะรับคลื่นพลั
    งงานแรงดึงดูด จากดวงดาวและแสงอาทิตย์ได้โดยเฉพาะ
    ดาวเทียมคริสตัลขนาดใหญ่มาก ซึ่งหมายถึงดวงจันทร์ดวงที่
    สองของชาวแอตแลนติส
    ที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้า เพื่อที่จะรับ ขยาย ขัดเกลา และสะท้อน พลังงานกลับไปสู่คริสตัลต่างๆ

    วิหารต่างๆอยู่ภายในโดมของแสงสว่างที่ถูกขยายจากพลั
    งงานคริสตัล
    บางทีก็ดูเหมือนสนามพลังงานที่
    แจ่มจ้า มันมีหลากสีและส่องแสงทั้งวันทั้งคืน

    [​IMG]


    เมืองใหญ่ๆในช่วงยุ
    คทองของแอตแลนติสต่างก็มีโดมพลังงานคริสตัลครอบอยู่เหนือเมืองทั้งสิ้น
    หลังจากอุทกภัยครั้งที่สอง มีเพียงเมืองหลวงของชาวโพซิด้า
    ทีมีโดมพลังงานคริสตัลที่เต็
    มกำลัง และมันส่องแสงสีเขียวมรกตอันน่าพิศวง


    ก่อนการเกิดอุทกภัย ประมาณช่วง 17,500 BC เมืองใหญ่ๆที่สำคัญๆรวมทั้ง Meruvia,

    เมืองหลวงของชาวอารยัน ก็มี
    โดมพลังงานคอบอยู่เหนือปริมณฑล และ มีโดมหนึ่งส่องแสงสีแดงทับทิม

    [​IMG]


    ในยุคทองของอาณาจักรแอตแลนติส มีปิระมิดทั้งชนิด 3ด้านและ 4ด้าน

    ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ โดยทั่วไปสร้างจากหินอ่อน หินแกรนิต และ ส่วนผสมของคริสตัล


    ปิระมิด3ด้าน ใช้เพื่อเป็นเสาอากาศในการดึ
    งและขยายพลังงาน และป้อนพลังงานให้กับ ข่ายกริดที่ลึกลับ
    เพื่อให้พลังงานกับบ้านเรือน โรงงาน และ สร้างสนามพลังงานที่มีประโยชน์
    ในหลายๆด้าน
    ดาวเทียมห์คริสตัล ถูกใช้เพื่อสะท้อนมุมคลื่นพลั
    งงานของดวงดาว เข้าสู่กริดพลังงานสามเหลี่ยมนี
    มีระบบกริดปิระมิดทรงสามเหลี่
    ยมอยู่กว่า100 กริด มันถูกเซ็ทขึ้นให้อยู่ในรูปทรงสามเหลี่ยมที่มีจุดศูนย์กลางร่วมกัน
    และมีอยู่ไปทั่วทั้งดาวเคราะห์


    พวกเขาสร้างระบบเครือข่ายคริสตัลเป็น
    กริดเป็นรูปครึ่งวงกลม
    และพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็
    จะกระจายไป ตามพื้นที่ต่างๆของแอตแลนติส
    อเมริกา แอฟริกา แถบเมดิเตอร์เรเนี่ยน ยูโรป และอเมริกาใต้
    ไปสู่ศูนย์รวมของประชากรภูมิ
    ภาคต่างๆ และยังทำหน้าที่ปรับสภาพอากาศและกระแสน้ำขึ้นน้ำลง
    พื้นที่บริเวณแถบเทื
    อกเขามองโกลเลียและทิเบต เป็นส่วนของระบบเหล่านี้
    ที่เชื่อมต่อกันโดยผ่านทางอุ
    โมงค์เลย์หลากมิติอีกด้วย แต่กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในภูมิลำเนาของแอตแลนติส


    ปิระมิด 4 ด้าน มีความจำเป็นต่อระบบในวิหาร ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนดาวจตุรมุ
    ข8มุมเต็มรูปแบบ
    ถูกใช้เพื่อการเยียวยา การเรียนการสอน,การฟื้นฟูร่
    างกาย และ เป้าหมายทางจิตวิญญาณ
    มันไม่ได้เป็นทรงสามเหลี่ยม และโดยทั่วๆไปจะถูกตั้งไว้ที่
    ตามแนวชายฝั่งทะเล
    เพื่อรับทั้งพลังงานฐานพิ
    ภพและพลังงานจากเบื้องบน


    พื้นดินที่อยู่ใต้ระนาบศูนย์
    กลางลึกลงไปจะพบปิรามิดที่อยู่ด้านล่าง
    มันเป็นโครงสร้างของจตุรมุข 8 มุม ดังนั้นจึงเกิดการเชื่อมต่
    อทางพลังงานทั้งจากทางด้านบนและจากใต้ล่าง


    แนวคิดของ ของกลุ่ม “ลอว์ ออฟ วัน” ของโพซีดา คือ

    ประชาชนที่มีจิตวิญญาณศรั
    ทธาและแสวงหาความเสมอภาค
    ท่ามกลางผู้คนและ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกั
    บความเป็นหนึ่ง (Oneness)
    แม้ว่าวิวัฒนาการและคุณภาพชีวิ
    ตส่วนใหญ่ ได้สิ้นสูญไปในช่วงก่อนการแตกของทวีปแอตแลนติสทั้งสองครั้ง
    (ครั้งแรกเมื่อ 58,000 BC, ครั้งที่สอง 17,500 BC) แต่เทคโนโลยี่ในระดับล้ำหน้
    าเหล่านั้นก็ยังคงหลงเหลืออยู่
    แม้ความปรองดองในยุ
    คทองของแอตแลนติสจะตกต่ำลง หลังการแตกแยกออกเป็นเกาะเล็กเกาะใหญ่ เมื่อ 17,500 BC


    ขณะที่เกาะต่างๆก็เริ่
    มแยกการปกครองตนเอง ที่ก่อให้เกิดอุดมการณ์ทางความคิดที่แตกต่างกันอย่างมาก
    ในช่วงต้นๆที่สับสนวุ่นวาย และเป็นช่วงเวลาแห่งความยุ่
    งยากในการสร้างเมืองใหม่หลังการแตกแยก

    ...............................
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 4
    The Second Moon of Atlantis


    [​IMG]

    ‘ดวงจันทร์ดวงที่2ของแอตแลนติส' และ ข่ายพลังของคริสตัล และ การปล่อยพลังงานคริสตัล
    ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล และถูกปรับวิธีการใช้
    เพื่อมาสนับสนุนความรู้ทางด้านโปรแกรมพันธุศาสตร์ของชาวอารยันแทน
    Atla-Ra สามารถที่จะประวิงเวลาไว้ได้ในตอนต้นๆ แต่ก็ถูกสกัดกั้นไว้
    Atla-Ra รู้ได้ว่าจุดจบกำลังใกล้เข้ามา

    อย่างที่เราเคยกล่าวไว้ในตอนต้นว่า ดวงจันทร์ดวงที่2ของแอตแลนติส
    อันที่จริงก็คือดาวเทียมคริสตัลขนาดมหึมา มันเป็นสิ่งก่อสร้างของชาวอาร์คทูรัส
    และจัดการดูแลโดยเหล่าพระนักวิทยาศาสตร์ ของ Law of One

    ดาวเทียมคริสตัลขนาดมหึมานี้ เป็นทรงกลมที่สุกใสขนาดใหญ่นี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
    มันมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 ไมล์
    มันถูกใช้มาตั้งแต่ ยุคทองของแอตแลนติส และมีจุดมุ่งหมายเพื่อคุณประโยชน์อันมหาศาล
    มันทำหน้าที่ขยายและควบคุมการแผ่รังสีของคริสตัลต่างๆที่ถูกส่งมาจาก การเยียวยาและผลึกพลังงาน

    มันเหมือนการทำงานของคอมพิวเตอร์ ในการหักเห,แบ่งแยก,คัดกรอง
    และ สะท้อนรังสีของพลังงานที่ใช้ในการเกษตร การควบคุมสภาพอากาศ, ควบคุมระดับกระแสน้ำ,
    วิหารแห่งการเยียวยา ,วิหารแห่งการชุบชีวิต
    และ พลังงานของระบบเลย์ ที่กำเนิดมาจาก ระบบคริสตัลอันลึกลับ

    มันปรากฎอยู่รางๆบนท้องฟ้าเหนืออาณาจักรแอตแลนติส
    และเหมือนกับเป็น “ดวงจันทร์แห่งการเก็บเกี่ยวสีทอง”(golden ‘harvest'moon)
    มันมีแถบพลังงานสายรุ้งของพลาสม่าต้านแรงโน้มถ่วงอันละลานตา
    ที่เคลื่อนไหลวนล้อมอยู่รอบทรงกลม
    และมักจะปรากฎเป็นสิ่งซึ่งคุณเรียกขานมันในตอนนี้ว่า แสงออโรร่า หรือ แสงเหนือ

    ดวงจันทร์คริสตัลนี้ไม่ได้ยู่ในวงโคจรของโลก มันเคลื่อนที่เหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้,
    มีทิศทางเป็นของตนเอง,เปลี่ยนตำแหน่งอย่างสม่ำเสมอ
    เพื่อปฎิบัติภาระกิจอันมากมายอยู่ เหนือแอตแลนติส, แอฟริกาและ ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของบราซิล

    หลังจากที่การควบคุมระบบกริดคริสตัลอย่างถูกกฎหมาย ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลาง
    กลุ่มเบลิเลล ก็รวบรวมวิทยาการของพวกเขาเองเข้าสู่กลุ่มวิศวกรรม
    ค่อยๆนำเทคนิคของพวกเขาเข้าแทนที่ในตำแหน่งสำคัญๆ
    Atla-Ra พยายามที่จะขัดขวางการตั้งโปรแกรมดาวเทียมใหม่เพื่อใช้ในการสงคราม

    โดยให้เหตุผลว่า หากดวงจันทร์เกิดโอเวอร์โหลดขึ้
    จะทำให้สนามพลังงานต้านแรงโน้มถ่วงนั้นลดลงจนหมดพลังงาน
    และ การระเบิดอย่างภัยพิบัติจะเกิดขึ้น

    นักวิทยาศาสตร์ของอารยัน โต้แย้งข้อกล่าวอ้างนั้น
    กลุ่มของAtla-Ra บางคนถูกข่มขู่และถูกให้ย้ายออกไป ต่อมาคนอื่นๆก็เริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับ
    ชาวโพซิดันหลายๆคน ถูกคุกคามอย่างไร้ทางสู้

    ในขณะที่รัฐบาลกลาง ยินยอมให้ใช้ดาวเทียมเพื่อเป็นยุทโธปกรณ์
    และแน่นอนมันจึงถูกตั้งโปรแกรมการทำงานขึ้นมาใหม่
    นักวิทยาศาสตร์ของเบลิเอล ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลให้ตั้งโปรแกรมการบายพาสระบบขึ้นใหม่
    และเริ่มที่จะส่งลำแสงการทำลายล้าง ที่ในเบื้องต้นจะเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ
    และแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ กับเหล่าอาณานิคม และเมืองที่ต่อต้านความต้องการของพวกเขา
    พื้นที่เป้าหมายเหล่านี้ คือในบริเวณที่ในปัจจุบันนี้เรียกว่า ประเทศกรีก และตุรกี
    และเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่
    มันทำให้พวกอารยันที่กระตือรือร้นในการทำสงคราม และได้รับผลประโยชน์จาการสู้รบ
    พวกเขาจึงตัดสินใจอย่างบ้าคลั่ง และพวกเขาก็ยินดีที่จะใช้มันให้มากขึ้นไปอีก
    ด้วยการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่

    จุดเริ่มต้นของการล่มสลาย

    ดวงจันทร์คริสตัลถูกใช้งานหนั
    กจนทำให้สนามพลังงานต้านแรงโน้มถ่วงอ่อนแรงลง
    จนกระทั่งมันไม่สามารถลอยตัวอยู่ได้ Atla-Ra เข้าใจได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าเมื่อระบบพังทะลาย
    แต่รัฐบาลก็ไม่ได้สนใจคำร้องใดๆเลย


    ภายในปีนั้นเอง ดาวเทียมเริ่มเปลี่ยนทิศทางเป็นพักๆ และพลังงานเริ่มปิดตัวลง
    การพยายามที่จะแก้ปัญหาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ Atla-Ra ไม่สัมฤทธิผล
    รัฐบาลส่วนใหญ่ปฎิเสธ บางคนที่ตกลงก็พยายามที่จะทำให้ดาวเทียมมีเสถียรภาพมากขึ้น
    โดยพยายามที่จะป้องกันหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น ความพยายามทั้งหมดล้มเหลวไม่เป้นท่า
    รัฐบาลปฎิเสธคำแนะนำให้เผาดาวเทียมให้เป็นจุล
    หากรัฐบาลยอมเชื่อในเรื่องการระเบิดของมัน อย่างน้อยผลที่เกิดตามมาก็จะไม่เป็นอย่างที่เห็นนี้

    .............................
     
  10. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 5

    Poseidaและ the Atla-Ra

    กฎระเบียบขั้นสูงสุด และ นิกายที่พัฒนาของนักบวชที่เป็นนักวิทยาศาสตร์
    เป็นผู้ทรงภูมิทรงภูมิปัญญาและเชี่
    ยวชาญ

    ในการจัดการข่ายกริดพลังงานคริสตัล Atla-Raในระดับสำคัญๆส่วนใหญ่เป็นเผ่าพันธ์ทองคำที่มีร่างสูงใหญ่

    แต่ก็มีสมาชิกที่มาจากชนผิวสี แทน, ชนผิวขาว, ชาวเลมูเรี่ยน ชนผิวเข้ม และเผ่าพันธ์เซเตียน(Cetean)

    ในเวลานั้นยังมีสิ่งมีชีวิตเช่น ปลาโลมาที่เดินด้วย 2เท้าและหายใจทางอากาศได้

    นิกายพระนักวิทยาศาสตร์ หมายถึง Atla- Ra Atla-Ra ยังคงรักษามาตรฐานที่สูงส่งแห่งจิตสำนึกไว้ได้
    และ สามารถสั่นสะเทือนไปยังความถี่ ที่ที่สูงมากๆของจิตสำนึกได้อีกด้วย

    ณ ระดับที่เหนือกว่าระดับของแสงสว่างและพลังงานในมิติที่12 ที่ยังคงความบริสุทธิ์อยู่มากๆ
    และสะท้อนรับกับแนวคอนเซบต์แท้ๆของ ความเป็นหนึ่ง(‘Oneness') แห่งพระผู้สร้าง/พระเจ้า(Creator/God)

    พวกเขาดำรงฐานะในการติดต่อสื่
    อสารทางโทรจิต กับพี่น้องร่วมอวกาศ
    ชาว เพลียะเดี้ยน, อาร์คทูรัส อันโดรเมดา และ ซิริอุส ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าขึ้นไป
    พระ Atla-Ra เป็นที่เคารพบูชาและ มีธรรมเนียมปฎิบัติแยกออกไป

    ซึ่งอยู่เหนือและไม่ขึ้นอยู่กั บการควบคุมจากรัฐบาล
    ดังนั้นจึงสามารถเก็บรักษาความรู้และเป็นผู้ก่อการในระดับอาวุโส
    ของวิทยาการในระบบคริสตัล ที่ทรงภูมิปัญญาอย่างมากมาย
    และเป็นเสมือนหัตถ์แห่งความเมตตากรุณาของนิกาย

    เหล่าช่างเทคนิคและวิศวกรคริสตัลบางคน จะมาจากประชาชนชาวโพซิดัน
    รวมไปถึง ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในนิกาย Atla-Ra
    พระนักวิทยาศาสตร์แห่ง Atla-Ra มีทั้งเพศหญิงทั้งเพศชาย
    และมีความสามารถในการยืดช่วงอายุออกไปได้

    ทั้งโดยผ่านวิธีการเกิดใหม่ โดยใช้พลังจิตและ
    โดยใช้วิทยาการที่เหมือนกันใน วิหารแห่งการชุบชีวิต(Temple of Rejuvenation)
    หลายๆคนมีชีวิตอยู่หลายชาติ
    ภพในร่างเดิมถึง 6,000 ปี บางคนอาจถึง 12,000 ปี!

    นี่คือวิทยาการของการเก็บรักษาผ่านนิกายอันศักดิ์สิทธิ์นี้
    บุคคลที่หลักแหลมที่เคยอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ ที่คุณรู้จักก็มี
    กาลิเลโอ,เซอรฺไอแซค นิวตัน,ไอน์สไตน์, นิโคล่า เทสล่า, เอดิสัน,
    มาร์เซล โวกเกิล, รอนน่า เฮอร์แมน และ ดาวินชี่

    ไทเบอรอน และ โอเนอโรน เป็นส่วนของกลุ่มพระนักวิ ทยาศาสตร์เหล่านี้ ผู้ที่เคยมีชีวิตอยู่ในชาติภพที่ยาวนานเหล่านั้น

    ...........................
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 6

    อารยันและ ระบบอุสาหกรรม


    อารยัน เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนประชากรมากที่สุด
    อารยันเป็นศูนย์กลางที่มีอิทธิ พลทางด้านการค้า, เศรษฐกิจ, การเกษตร และเป็นอนาคตทางกองทัพ

    หลังอุทกภัยครั้งที่2 อารยันกลับถูกควบคุมโดย ชนผิวขาวชั้นหัวกะทิ
    ทั้งในด้านเศรษฐกิจ กองกำลังทหาร และการปกครองภายในเกาะ
    แม้ว่าผู้นำในระดับสำคัญๆจะยั งคงเป็นเผ่าพันธ์ชาวผิวสีชาวอารยันได้ติดสินบน
    ชนชั้นสูงที่มีการปกครองโดยพลั งจิต เพื่อหาโอกาสจะปิดกั้น กลุ่ม ‘ลอว์ ออฟ วัน'
    และหาผลประโยชน์จากวิ ทยาการของแอตแลนติส เพื่อควบคุมโลก
    โดยนำพลังงานคริสตัลมาเพื่อใช้ เป็นอาวุธ และใช้วิทยพันธุศาสตร์

    สำหรับการพัฒนาและเก็บรักษาเผ่าพันธ์ที่ด้อยกว่า เพื่อใช้เป็นแรงงานทาสและการทหาร
    วิศวกรรมพันธุศาสตร์ที่มีพื้นฐานมาจากชาว Meruvia, บนเกาะอารยัน
    แต่ดั้งแต่เดิมมันถูกใช้ไปในวั ตถุประสงค์เพื่อความเมตตากรุณา
    เพื่อแสวงหาวิธีปรับปรุงยานพาหนะของกายเนื้อที่พวกเขาเลือกมาถือกำเนิด
    ที่กลายพันธ์เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายในร่างคน

    กระบวนการและการพัฒนางานทางพันธุศาสตร์ บนเกาะอารยัน
    และนำมาใช้ในการเอาส่วนเกินต่างๆออกไป เช่น, กรงเล็บ,ขน
    และผิวหนังและเกล็ดที่เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ในวิหารแห่งการชำระล้าง(Temple of Purification)

    ซึ่งเป็นบางส่วนของ ศูนย์การแพทย์ชนิดพิเศษ อีกครั้งที่เราขอเน้นความสำคั
    ญที่ว่า
    ระหว่างยุคทองของแอตแลนติส คุณประโยชน์ของมันเพื่อความเมตตากรุณาจริงๆ
    ความล้ำหน้าทางพันธุศาสตร์ที่อั นน่าเกรงขาม ทำให้เกิดความเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ในการโคลนนิ่ง

    และการปรับข้อจำกัดทางกายภาพ สำหรับการมาที่ดีขึ้นด้วยความรับผิดชอบ คุณประโยชน์ในด้านจริยธรรม.
    ในช่วงเวลาแห่งความโกลาหลวุ่นวายของการสร้างเมืองใหม่ ภายหลัง 17,500 BC

    อำนาจควบคุมต่างๆกลับตกเป็นของพวกกลุมเบลิเลล วิศวกรรมพันธุศาสตร์จึงเริ่มเข้าสู่จุดจบแห่งด้านมืด
    การสร้างเผ่าพันธ์เพื่อการรั บใช้เยี่ยงทาส เผ่าพันธ์ผสมของมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์
    ถูกควบคุม อารมณ์ความรู้สึก ระดับเชาน์ปัญญา ด้วยวิธีทางพันธุศาสตร์

    เหมือนกับที่พวกนาซีแห่งเยอรมันขนฝูงชนไปเพื่อพัฒนา ‘เผ่าพันธ์ให้บริสุทธิ์’
    ข้อเท็จจริงทางด้านงานวิจัยและการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์พันธุกรรมหลายอย่าง
    ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในตอนต้นอย่างเป็นความลับ ได้ถูกนำมาใช้
    จนกระทั่งมันกลายเป็นสิ่งสำคั ญมากเกินกว่าที่พวกเขาจะหยุดยั้งได้

    ซึ่งพวกคุณบางคนยังคงรู้สึกถึ งความผิดอันใหญ่หลวงนี้และผลลัพท์ของมันได้ในตอนนี้

    ต่อมาภายหลังเกิ ดโรงงานโคลนทาสขึ้น เพื่อใช้ทำงานเพิ่มผลผลิตต่างๆให้มากขึ้นเท่าที่พวกเขาต้องการ
    และให้ผลกำไรอย่างงดงามให้กับพวกชนชั้นสูงชาวอารยัน
    ครั้งหนึ่งมันได้มีการเปิดเผยขึ้น และชาวอารยันชั้นสูงก็อ้างว่า

    เป็นการผลิตแรงงานสัตว์ มนุษย์กลายพันธ์และมนุษย์ โคลนเหล่านี้ก็กลับกลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป
    เชาวน์ปัญญากลายเป็นพันธุกรรมที่ด้อยค่าลงและสนามพลังงานของอารมณ์ความรู้สึกถูกตัดขาด
    สิ่งนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิ ดการแตกแยกทางด้านศิลธรรมขนานใหญ่

    และแม้แต่พวกชนชั้นกลางของชาวอารยันเอง ก็ยังปิดหูปิดตาและยอมรับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา

    ............................
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 7

    Law of One และ Sons of Belial

    การใช้ประโยชน์จากวิศวพันธุศาสตร์ในทางนี้ นำไปสู่การแตกร้าวที่ยิ่งใหญ่ระหว่าง
    กลุ่มลอว์ออฟวัน และ กลุ่มบุตรแห่งเบลิเอล ซึ่งต่อมาในภายหลัง
    ความทะยานยากในวัตถุนิยมของเครื่องจักรอุตสาหกรรม
    ที่ทำให้พวกเขาสูญเสียการรู้เห็นทางด้านจิตวิญญาณไป มนุษย์กลายพันธ์ถูกสร้างขึ้นมาอีกเป็นร้อยเป็นพัน
    เพื่อให้ทำงาน และสัตว์ประหลาดเหล่านี้ถูกควบคุมจิตเพื่อให้เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่คอยทำตามคำสั่ง
    และมีชีวิคขึ้นอยู่กับ‘เหล่าเจ้านายทั้งหลาย'ของพวกเขา

    มนุษย์เหล่านี้จึงถูกกักขังจิตวิญญาณไว้ในร่างโคลนที่เรียกว่า ‘สิ่งของ' หรือ 'สิ่งอื่นๆ' ด้วยการผ่าตัดสมอง
    (genetic lobotomies…การผ่าตัดสมองเพื่อปรับปรุงพฤติกรรมหรือรักษาอาการทางจิต
    โดยใช้แท่งเหล็กตอกเข้าไปในกะโหลกศีรษะผ่านทางใต้เบ้าตา !!!...ผู้แปล)
    ถูกล้างสมอง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และทางอารมณ์ หลายๆคนถูกขังอยู่ในความชั่วร้
    าย
    หรือ ร่างไร้เพศที่ไม่มีสมอง และยังคงแบกรับความเจ็บปวดอันน่าสยดสยองในครั้งนั้น
    ของการถูกคุมขังอยู่ในร่างกายที่ไม่สามารถพัฒนาจิตวิญญาณหรือแสดงออกทางอารมณ์ได้

    สองกลุ่มอุดมการณ์นี้ ยังคงควบคุมและเป็นตัวแทนอยู่เบื้องหลังการบริหารการปกครองอยู่หลายพันปี
    ในสถานการณ์ที่อับจนหนทางนี้ ชาวโพซีดันซึ่งเป็นพวกที่ไม่ชอบเข้าสังคม และมีธรรมชาติอันอ่อนโยน
    พยายามที่จะต่อสู้กับพวกอารยัน พยายามที่จะอบรมพวกเขา
    และชักนำทางจิตวิญญาณ เพื่อให้พวกอารยัน เปลียนวิธีการของพวกเขา

    ชาวอารยันมีจำนวนประชากรมากกว่าชาวโพซีดัน ถึง 3 ต่อ 1 แต่ก็ไม่กล้าที่จะโจมตีโพซิดา
    เพราะเกรงว่าพวกเขาจะปิดพลังงานคริสตัลที่ ให้พลังงานกับเมืองอยู่

    เมืองอารยันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำและศูนย์กลางทางอุตสาหกรรมที่จำเป็น
    และดังนั้นการแบ่งแยกเกาะออกไปทั้ง5เกาะ ด้วยเครื่องจักรอุตสาหกรรมและการผลิตขนาดใหญ่
    จึงจำเป็นต้องอาศัย วิศวพันธุศาสตร์แรงงานทาส

    ขณะที่สถานีพลังงานคริสตัล ก็มีตั้งอยู่ในทุกเกาะ ตลอดจนในเหล่าอาณานิคมส่วนใหญ่
    ชาวโพซิดันแห่งกลุ่ม ลอร์ออฟวัน และ Atla-Ra เป็นผู้มีความชำนาญในการขับเคลื่อนระบบ
    ดังนั้น การปิดระบบ จากตรวจสอบที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและ
    การคงความสมดุลไว้ได้มาอีก 5000 ปีหลังจากการแตกแยกครั้งที่2 จึงยุติลง

    ด้วยเหตุนี้ คุณจึงเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เกิดความตกต่ำขึ้นในยุคทองของแอตแลนติส
    ที่ยังคงมีอยู่จาก 30,000 BC ถึง 17,500 BC.
    ดังนั้นเมื่อตอนที่เกิดการแตกแยกออกเป็นเกาะต่างๆขึ้นเมื่อ 17,500 BC
    มันจึงเกิดการเร่งความเร็วในการหมุนวนที่ตกต่ำลง

    จากช่วงนั้นมาประมาณ 16,000 BC เกิดการปะทุขึ้นของสงครามอย่างทันทีทันใดระหว่าง
    กองทัพแอตแลนติสที่ควบคุมโดยชาวอารยัน กับ เหล่าอาณานิคมแรกๆของแอตแลนติส
    ที่ตั้งอยู่ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ได้ตัดความสัมพันธ์
    และ ตั้งการปกครองตนเองอย่างเป็นอิสระ

    เหล่าอาณานิคมนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวกรีก และ ตุรกี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมื องแอตแลนติสเมืองใหม่
    ที่มีแต่กองทัพที่เผด็จการและถูกควบคุมโดยชาวอารยัน
    แม้ว่าอารยันจะมีกองทัพที่ได้เปรียบกว่า แต่กลุ่มชาวเมดิเตอร์เรเนี่ยนก็ไม่ได้ยอมจำนน
    และสงครามในเหล่าอาณานิคม จึงแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
    ด้วยว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่มีใครสามารถที่จะใช้อำนาจครอบครองอีกฝ่ายได้

    ชาวอารยันจึงจะแสวงหาผลประโยชน์จากการใช้พลังงานคริสตัลเพื่อจะสยบข้าศึก
    สิ่งนี้ได้รับการปฎิเสธอย่างแข็งขันจาก Atla-Ra และ กลุมของ “ลอว์ ออฟ วัน” ของชาวเมืองโพซีดา

    ในความพยายามอันไร้ผลหลายครั้ งหลายหน ที่ชาวอารยันพยายามที่จะคุกคามชาวโพซีดัน
    และในแต่ละครั้งของการทะเลาะเบาะแว้ง ชาวโพซีดัน ก็จะตอบโต้และแก้เผ็ดชาวอารยันด้วยการด้วยการปิดพลังงาน
    และชาวอารยันก็จะตอบสนองด้วยการงดส่งผลผลิตอาหารและสินค้า หนทางที่แสนจะบีบคั้นจึงบังเกิดขึ้น

    คณะสภาแห่งการทำงานร่วมกันแห่งแอตแลนติส

    โครงการหลอกลวงขนานใหญ่ จากแผนการปลอมๆ ของชาวอารยัน
    สำหรับแนวคิดการรวมกัน อารยันได้วางแผนเข้าไปทาบทามชาวโพซีดัน
    ด้วยการสร้างรูปแบบใหม่ของสภาแห่งชาติที่เคยมีการทำงานที่แตกต่างกัน
    และจะนำความปรองดองมาสู่แอตแลนติส

    โดยการให้ส่งตัวแทนจาก กลุมของ”ลอว์ ออฟ วัน” และตัวแทนจาก
    “ซัน ออฟ เบลิเอล”
    คณะกรรมาธิการถูกจัดตั้งขึ้นใหม่ด้วยการมีสมาชิกที่มาจากทั้งสองกลุ่มเป็นจำนวนเท่าๆกัน
    และทำข้อตกลงกันว่าจะสร้างให้เกิดความสามัคคีให้มากขึ้น
    ข้อตกลงนี้ปรากฎอยู่หลายทศวรรษ ชาวโพซีดันร่วมให้การสนับสนุนและ ลดการอารักขาของพวกเขาลง
    แต่สำหรับ Atla-Ra ยังคงเฝ้าระมัดระวังอยู่ และรู้สึกถึงความไม่น่าไว้วางใจ

    ในตอนแรกสภาแห่งชาติ เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงกฎหมายหลายอย่าง
    ที่จะก่อให้เกิดความเป็นองค์รวม ทั้งยังประเด็นหลักๆที่ตรงข้ามกัน
    แต่การจัดการทาสพันธุกรรม และ เรื่องพลังงานคริสตัล ยังคงไม่มีการตกลงใจ
    แต่อย่างไรก็ตาม

    ผู้นำของกลุ่ม ซัน ออฟ เบเลเลล นั้นมีพรสวรรค์ในการสะกดจิต
    เขาได้เกลี้ยกล่อมฝูงชนชาวแอตแลนติสให้เชื่อว่
    พวกเขาสามารถทำให้ยุคทองของแอตแลนติสกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง
    ผู้นำของกลุ่มนี้ก็คือจิตวิญญาณในร่างมนุษย์ที่คุณรู้จักกันดี ว่า ฮิตเลอร์ และ Himmler
    ผู้นำสูงสุดของนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 ของคุณ

    มีการจัดตั้งกองกำลังทางทหารขนาดใหญ่ และมีการชักชวนทางการเมือง
    และการจัดตั้งกองกำลังอย่างลับๆ

    มนุษยกลายพันธ์ลูกผสมถูกใช้เพื่อคุกคามผู้ที่เป็นปฎิปักษ์ต่อชาวอารยันและOg
    ดังนั้นโอกาสของพวกเขาจึงมาถึง

    กลุ่ม อารยัน ผู้มีอำนาจเข้าควบคุมจัดการและดูแลสื่อ
    พวกเขาแสร้งแสดงแนวคิดดีๆที่ปราศจากข้อขัดแย้ง
    อันเป็นหน้ากากปิดบังเจตนาที่แท้จริงของพวกเขา และทำสัญญาร่วมกัน
    โฆษณาชวนเชื่อซึ่งดูเผินๆเหมือนค่อนข้างจะเป็นไปได้
    และให้ความมั่นใจกับหลายๆคน
    และบางคนจากกลุมของ”ลอว์ ออฟ วัน” ก็หวังให้เกิดความสามัคคีขึ้น

    ในสิ่งที่ปรากฏขึ้นจะเป็นโอกาสสำหรับการแก้ปัญหาที่ดี
    มีร่างกฎหมายหนึ่งที่มีจุดประสงค์เพื่อนำวิศวกรรมพันธุศาสตร์
    ที่ก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดย สหภาพของกลุ่มของอารยัน
    และในทางกลับกันนำระบบคริสตัลที่ลึกลับ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานของรัฐบาลออกมา

    ด้วยจำนวนบุคคลากรที่เท่ากันทั้ง2ฝ่าย
    Atla -Ra ยังคงดำรงตำแหน่งเดิม แต่ไม่ได้รัยการยกเว้นจากรัฐบาลอีกต่อไป
    จึงเกิดการถกเถียงที่รุนแรงขึ้นภายใต้กองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ
    การลงคะแนนตกลงกันได้ ในขณะที ชาวโพซีดัน ถือเสียงเท่ากันในสภา

    .............................
     
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 8

    การทรยศหักหลัง

    ในที่สุดร่างกฎหมายก็ผ่าน จากความเชื่อที่ว่าตัวแทนรัฐบาลใหม่
    สำหรับระบบพลังงานคริ
    สตัลจะมีผู้นำที่มาจากบุคลากรในคณะกรรมการ
    ที่มาจากโพซีดัน 5 ตำแหน่ง และจากชาวอารยัน 4 ตำแหน่ง
    และไม่มีอะไรที่สามารถจะมาเปลี่
    ยนแปลงได้ โดยปราศจากกฎหลักๆของคณะกรรมการ

    ข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มของ “ลอว์ ออฟ วัน” เคยรับหน้าที่ในการควบคุมสำคั
    ญๆที่เด่นชัด
    มันจึงดูเหมือนเป็นสัญญาที่
    ทำเพื่อประชาชนของโพซีดาจริงๆ
    มีการยินยอมให้วิศวกรจากทั้
    งสองพรรค ที่อยู่นอกกลุ่ม Atla-Ra เข้ารับการ โปรแกรมฝึกฝนได้

    ทั้งๆที่ Atla-Ra เฝ้าระมัดระวังอย่างดีแล้ว ในตอนแรกๆระบบการทำงานมีท่าทีที
    ่นำไปสู่ความสมานสามัคคีขึ้น

    2-3 ปีต่อมา สงครามในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนี
    ่ยน กลับปะทุเพิ่มมากขึ้นมาอีก
    มีการกดดันให้ใช้รังสีคริสตัล เพื่อเป็นอาวุธสงคราม
    ภายใต้หน้ากากของคณะความมั่
    นคงแห่งชาติ
    การถกเถียง โต้แย้ง และลงคะแนนถูกกำหนดเพื่อคณะรัฐบาล
    หน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ถูกชักชวนจากความรู้สึกที่ผิ
    ดๆ
    ของการกวาดล้างเพื่อบ้านเมือง จากกลุ่มผู้รักชาติ


    จากนั้น ความหลอกลวงก็เริ่มปรากฎ สร้างความตกตะลึงพรึงเพริ
    ดและความเสียใจครั้งใหญ่ให้กับชาว โพซีดัน

    หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม “ลอว์ ออฟ วัน” และไม่ได้เป็นทั้ง Atla-Ra
    และเผ่าพันธ์ทองคำที่เป็นสมาชิ
    กในคณะกรรมาธิการเกิดการย้ายข้าง
    เขาถูกยกย่องให้เป็นผู้
    นำทางการเมือง เขาเป็นผู้นำที่มีความสามารถ, ผู้เจรจาต่อรองที่น่าเชื่อถือ,
    ผู้ที่ปฎิณญาณตนเพื่อความจงรั
    กภักดีต่อ กลุ่ม “ลอว์ ออฟ วัน”
    และได้รับความไว้วางใจอย่างเต็
    มเปี่ยม

    เขาถูกเกลี้ยกล่อมจากชาวอารยัน และตกเป็นเหยื่
    อเพราะความทะเยอทะยานของเขาเอง

    หลังจากนั้น บุคคลผู้นี้เกิดสำนึกผิดขึ้
    นมาอย่างใหญ่หลวง
    และใช้ชีวิตในอีกหลายชาติภพ เพื่อพยายามที่จะแก้ไขความผิด
    อันที่จริงแล้วเขาไม่ได้รู้ล่
    วงหน้าถึงจุดจบแห่งภัยพิบัติเลย
    จึงทำให้ยินยอมอย่างตาบอด ไปกับพันธสัญญาแห่งอำนาจ & ความยิ่งใหญ่


    ที่รักทั้งหลาย เหตุการณ์เช่นนี้คือ ภาพลวงตาของอำนาจ คุณเข้าใจไหม?
    เมื่อผู้ใดได้รับอำนาจมันมั
    กจะเห็นถูกเป็นผิดจากการล่อลวงของอัตตาตัวตน
    ที่สุดบนถนนของความเป็นผู้มี
    อำนาจเหนือตนเอง จะต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง อำนาจและความรัก

    แม้แต่คนที่คุณเรียกว่า ฮิตเลอร์ ที่คิดว่าเผ่าพันธ์แห่งอำนาจ จะสามารถสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้
    กับโลกได้
    กับแนวคิดในการแปลงร่างเป็นเผ่
    าพันธ์เดียวในที่สุด
    ที่ทุกคนจะสามารถกลั
    บมาเกิดใหม่ในเผ่าพันธ์ที่ทรงอำนาจ, ลดโรคร้าย,
    และกำจัดเผ่าพันธ์ที่แตกต่
    างออกไปโดยการมีเผ่าพันธ์เพียงหนึ่งเดียว

    แม้แต่ผู้ที่คุณเรียกว่า Judas ในคัมภีร์ไบเบิ้ล กับแนวคิดที่วาง Jesua ben Josef
    ไว้กับการกักกัน เขาถูกบังคับให้ใช้พลังอำนาจอั
    นศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึง
    ความมีอำนาจเหนือตนเองของเขาต่
    อชาวโลก!

    อันที่จริงความขัดแย้งก็คือ
    สิ่งซึ่งคุณจำกัดความมันว่า ‘อำนาจ' นั่นเอง

    และมันมักจะเป็นขั้วที่ตรงข้
    ามกับความรัก
    คุณเห็นหรือไม่ว่าอั
    ตตาและอำนาจสามารถหลอกลวงเราได้อย่างไร?
    คุณเห็นไหม?


    แอตแลนติสหลังจากนั้นก็เกิ
    ดการรวมกันเป็นหนึ่งจริงๆ
    แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือความสั
    บสน และการทรยศที่ทำให้เกิดการทำลายล้าง
    และจริงๆมันเป็นการหันเหอนาคตทั้
    งหมดจากความปรองดองที่น่าจะเป็นไปได้
    เข้าไปสู่ความมืดมิด & จุดจบที่หายนะ แทน


    ดังนั้นเพื่อให้ถูกกฎหมาย ระบบและโครงข่ายพลังงานคริสตัล และ ข่ายกริด
    ก็ตกอยู่ใต้อำนาจของคณะรัฐบาลซึ
    ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ กลุ่ม “ซัน ออฟ เบลิเอล” อีกที

    ..........................
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 9

    การเคลื่อนย้ายผลึกคริสตัล

    ไทเบอรอน และ โอเบอโรน ได้รวบรวมกลุ่มผู้ที่จงรักภักดีต่อ Atla-Ra
    และกลุ่มของ “ลอว์ ออฟ วัน” กันเป็นการภายใน
    ในการวางแผนเพื่อตัดวงจร & เคลื่อนย้ายเครื่องยิงและพลังงานคริสตัลไปสู่ที่ๆปลอดภัยก่อนที่ดาวเทียมจะระเบิ
    โดยได้รับความช่วยเหลือและวิทยาการจากชาว ซิริอุส B.

    การเคลื่อนย้ายผลึกคริสตัลสำคัญๆเหล่านี้ นั้นเสี่ยงมาก
    และต้องใช้แผนการที่รอบคอบเป็นอย่างยิ่ง ลับสุดยอด และมันจะต้องทำก่อนที่ดวงจันทร์จะระเบิด

    แอตแลนติส มีผลีกคริสตัลทรงพลังที่อยู่ตามเกาะต่างๆทั้ง5 อยู่เป็นจำนวนมาก
    และตามเส้นทางที่สืบทอดพิเศษในระบบเขาวงกตใต้ดิน
    Atla-ra รู้ว่า หากมีการปรับเมนบอร๋ดของดวงจันทร์คริสตัล และหากเกิดการผันแปรขึ้นมาสักครั้งหนึ่งแล้ว
    ดวงจันทร์คริสตัลจะสูญเสียสนามพลังงานต้านแรงโน้มถ่วง มันจะทำให้เกิดการระเบิดขนานใหญ่อย่างรุนแรง
    และจะทำให้เกิดควันที่ทำลายอย่างรุนแรงตามมาภายหลัง จากพลังงานของผลึกคริสตัลหลักและรองที่อยู่ข้างล่าง
    ก่อให้เกิดการระเบิดแบบนิวเคลียร์ขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ภายในไม่กี่สัปดาห์

    พวกเขาต้องการแน่ใจว่า คริสตัลหลักจะไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดอีกต่อไป
    และเพื่อความปลอดภัย เมื่อถึงเวลาที่มนุษยชาติสามารถที่จะใช้มันได้ตามปรารถนา
    มันจะยังไม่สามารถถูกเคลื่อนย้ายไปไหนได้หลังจากที่ระบบได้พังทะลายลง

    **ผลีกคริสตัลหลักๆ 7 ผลึก และ 2ผลึกคริสตัลรอง ถูกย้ายออกไป
    ผ่านระบบขนส่งขนาดใหญ่ทางอุโมงค์ใต้ดิน
    ที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวดาวซิริอุสบี(Sirius B.)

    3 ผลึกคริสตัลหลัก ถูกย้ายออกไปอยู่ที่สนามพลังงานคริสตัลของแอตแลนติส
    ในมลรัฐอาคันซอ

    **2 ผลึกคริสตัลหลัก ถูกย้ายออกไปอยู่ที่ฟาร์มคริสตัลใต้ดินบริเวณรัฐบาเยีย(Bahia)
    และรัฐมีนัสเชไรส์ (Mineas Gerais)ในประเทศบราซิล

    **ผลึกคริสตัลหลักอีก1 ถูกย้ายออกไปอยู่ที่เหวใต้ภูขาแชสต้า
    และ ผลึกคริสตัลไฟร์ที่ใหญ่สุดอยู่ที่ใต้ทะเล (Sargasso)
    ลึกลงไปใต้หมู่เกาะบิมิไน(Bimini) ในบาฮามาส

    **ผลึกคริสตัลรอง 2ผลึก จากเกาะของชาว OG ถูกย้ายออกไปอยู่
    ในช่องว่างใต้ดินของเมืองเทียฮัวนาโคในโบลิเวีย
    ใกล้ๆกับทะเลสาบ ติติกากา

    ทั้งหมดถูกล็อคไว้ในมิติและถูกควบคุมให้หยุดส่งพลังงานชั่วคราวด้วยวิทยาการของชาวไซเรียน
    ส่วนที่หลงเหลืออยู่ คือประวัติศาสตร์ที่ได้ลืมเลือนความเจ็บปวด จากมุมมองหลักๆของพวกคุณ
    ความรู้สึกจริงๆของคนทั่วๆไป การเหน็บแนมถากถาง, มันไม่ได้เต็มไปด้วยเป้าหมายที่สำคัญของบทเรียนเหล่านี้หรือ!

    ผลจากการโอเวอร์โหลด จึงเกิดการระเบิดของดวงจันทร์ และตามมาด้วยการแผ่ของรังสีมรณะ
    หลังจากนั้น 2-3 เดือน แรงต้านแรงโน้มถ่วงจะอ่อนกำลังลง
    และมันจะถูกชนด้วยดาวหางขนาดใหญ่ที่มีความเร็วสูง

    การระเบิดที่น่ากลัวได้ทำลายล้างชาวOGส่วนใหญ่
    ดาวเคราะห์คริสตัลอันมหึมานี้ ได้แตกกระจัดกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
    ที่ปัจจุบันยังคงหลงเหลือซากอยู่ตามร่องน้ำลึกในมหาสมุทรแอตแลนติก

    กลุ่มหมอกควันที่หนาทึบได้บดบังแสงอาทิตย์ไว้สิ้น เกิดการทำลายล้างจากคลื่นยักษ์ใต้ทะเล
    ทำให้เกาะของอารยันจมหายไป2ใน3ส่วน สถานีพลังงานที่ยังเหลืออยู่จะระเบิดออกภายในไม่กี่นาที
    ด้วยแรงระเบิดนิวเคลียร์ สิ่งหนึ่งที่ยังคงหลงเหลือยู่จากการระเบิดของสถานีพลังงานคริสตัล
    ที่ยังคงสามารถเห็นได้ในทุกวันนี้คือที่บริเวณทางตอนเหนือของ ประเทศบราซิลที่เรียกกันว่า ทะเลสาบ ‘Sete Cidades'.

    แอตแลนติส และชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกและตะวันตกของแอฟริกา
    ถูกทำลายล้างด้วยแผ่นดินไหวที่ตามมาภายหลัง
    ความตื่นตระหนกและความเสียหายจะคงเกิดตามหลังต่อมาอีก3สัปดาห์
    ยังผลให้เกิด การสั่นส่ายของแผ่นดินและ แผ่นดินต่างๆจะเริ่มยุบตัวลงสู่ทะเล
    พื้นดินที่เชื่อมต่อโพซิดา กับ Og ไปถึง แหลมยูคาตัน(Yucatan) ในช่วงแรกๆที่ยังคงอยู่เหนือน้ำ
    และเต็มไปด้วยผู้ที่พยายามจะหลบหนีอย่างชุลมุนนับหมื่นๆ เรือเดินทะเลทุกชนิดเต็มไปด้วยผู้หลบหนีจากมหันตภัย

    จากนั้นพื้นดินก็เริ่มยุบตัวลงสู่ท้องทะเล
    มันเป็นฉาก ของภัยพิบัติในหลายต่อหลายชาติภพ
    และเป็นความทรงจำที่มืดมนสำหรับพวกคุณหลายๆคน ที่เป็นส่วนหนึ่งของมัน
    ที่รักทั้งหลายมันถึงเวลาที่ต้องปล่อยมันไปได้แล้ว

    .............................
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 10

    Intent & Highest Good

    พวกคุณหลายๆคนเชื่อว่าทุกๆสิ่งเกิดขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็น
    อย่างที่มันหมายความว่ามันเป็น ที่รักทั้งหลาย นั่นมันไม่ใช่รูปการณ์.
    สิ่งต่างๆเกิดขึ้นอย่างที่มันเกิด จากชุดของหลายๆความเป็นไปได้
    และอันที่จริงจากเหตุการณ์ในมุมองที่สูงขึ้น เกิดขึ้นเพราะมันถูกเจตนาให้เกิ
    และเราขอเน้น คำว่า เจตนา พวกคุณคือผู้สร้างเหตุการณ์ของ ขอบเขตเหตุการณ์ของคุณเอง


    แต่...ที่รักทั้งหลาย เหตุการณ์ต่างๆจะไม่เกิดคุณงามความดีสูงสุดขึ้น
    จนกว่าคุณจะสร้าง คุณงามความดีที่สูงที่สุด เสียก่อน


    การล่มสลายของอาณาจักรแอตแลนติส ไม่ใช่คุณงามความดีสูงสุด
    และมันจะไม่เป็นจนกว่าคุณจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ ให้เป็นแบบนั้น

    ถ้าทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างที่มันควรจะเกิด คุณจะไม่ต้องกลับมาเกิดใหม่ในโรงเรียนภาพสามมิติแห่งชีวิตนี้
    ‘reality' คุณจะสามารถวงจรชีวิตของคุณและวงจรมันใหม่ได้อีก จนกว่าคุณจะเรียนรู้สิ่งนี้
    คุณเข้าใจหรือไม่ ที่รักทั้งหลาย?


    เวลาและความเป็นไปได้ คือ ความขัดแย้งที่ผิดปกติของมายาที สวยงาม
    ....และนี่คือ เหตุผลที่ทำไมเราจึงบอกพวกคุณว่
    แท้จริงแล้ว ยุคทองของแอตแลนติส...
    คือ ขอบเขตของเหตุการณ์หนึ่งจากอนาคตของคุณที่คุณดึงมันลงมาสู่ ‘สิ่งที่ดูเหมือน’เป็นอดีต!
    .....................................................

    แวะกลับมาแก้ ตกไป3ตอน แหะ แหะ
    มันเยอะจัด เลยตาลาย ขออภัยค่ำ
    เดี๋ยวพักก่อนนะคะ คนโพสต์ ต้องทำงานต่อแระ...
    :d

    ยังมีเหลือ อีกประมาณ 3-4 หน้า A4
    ที่โพสต์มาทั้งหมดประมาณ 9-10 หน้า
    ต่อไป จะเป็นเรื่อง คำอธิบายของรหัส
    8-8-8 , 9-9-9 ,10-10-10 ,11-11-11 และ 12-12-12
    มันคืออะไร


    ....โปรดติดตามตอนต่อไป
    (kiss)
     
  16. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 11

    The Crystals of Arkansas

    [​IMG]

    12500 ปี ให้หลัง อาณานิคมของแอตแลนติสที่ตอนนี้คือ รัฐอาร์คันซอส์

    มีเหตุผลหลายประการที่รัฐอาร์คันซอส์ ถูกเลือกเป็นพิเศษให้เป็นที่เก็
    บ ผลึกคริสตัลหลัก

    1) มันเป็นดินแดนที่พร้อม เพราะ อาคันซอส์เมีเหมืองคริสตั
    ลและเป็นดินแดนที่มีผลิตผล
    เหมือนกับเหตุผลที่ว่ามันเป็น 1 ในอุโมงค์หลากมิติที่สำคัญๆที่
    เคยถูกสร้างขึ้นไว้แล้ว
    เพื่อใช้ในการขนย้ายสำคั
    ญๆจากโพซีดามาที่นี่ ชาวแอตแลนติส มีความก้าวหน้าทางวิทยาการ
    ที่สามารถจะเร่งกระบวนการเจริ
    ญเติบโตของผลึกคริสตัล
    และที่คงมีอยู่ก่อนแล้วในโพรงลึ
    กๆ ที่การทำเหมืองแร่ยังเข้าไม่ถึง

    2) vortex ที่อยู่ในรัฐอาคันซอส์ ถูกเข้าใจว่า มันจะมีบทบาทสำคัญ

    สำหรับการยกระดับของดาวเคราะห์
    โลกในปี 2012

    3) เอกลักษณ์ในทางธรณีวิทยาในรั
    ฐอาคันซอส์ ในความสมบูรณ์ของผลึกควอชท์,
    เพชร, แร่แม่เหล็ก, แร่เหล็ก, หินปูน, และถ้ำขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรั
    บเป็นฟาร์มที่สมบูรณ์ของผลึกคริสตัล
    ธาตุคริสตัลเกิดขึ้นและงอกงามใน รัฐอารคันซอร์ มาเมื่อหลายพันปีก่อนที่จะเกิ
    ดอุทกภัยเสียอีก

    คุณสมบัติพิเศษของธาตุโลหะที่
    อยู่ในชั้นหินต่างๆในผลึกคริสตัล มีสภาพเป็นแม่เหล็ก
    จึงทำให้การควบคุมให้ผลึกคริสตั
    ลของชาวแอตแลนติส เข้าสู่ภาวะหยุดทำงานชั่วคราวได้ง่ายขึ้น

    4) เผ่าพันธุ์ ชนเลมูเรียนผิวสีฟ้า ที่ยังคงอาศัยอยู่ใต้ดินในรั
    ฐอาคันซอส์
    และที่นั่นก็เป็นฐานใต้ดิ
    นของชาวซีเรียนอีกด้วย ทั้งสองเผ่าพันธ์ต่างตกลงกัน
    เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเหล่
    าคริสตัลที่ยังคงสงบนิ่งอยู่
    ปัจจุบันนี้ ผลึกคริสตัลทั้ง3ที่อยู่ที่รั
    ฐอาคันซอส์ ได้ถูกปรับจูนระบบ รวมไปถึง

    ผลึกคริสตัลแห่งคุรุ ทั้ง5 ที่ยังคงอยู่ ในบราซิล, ภูเขาแชสต้า, หมู่เกาะบิมิไน,

    และ อีก2 ผลึกคริสตัลของแอคทูเรียน ที่อยู่ใต้ทะเลสาบติติกากา


    สิ่ง
    ที่พิเศษเหล่านี้ถูกใช้เพื่อ การเยียวยา,ภูมิปัญญา,พลังงาน และ คริสตัลแห่งการเคลื่อนย้าย ใน

    วิหารแห่งการเยียวยา (Temple of Healing)
    วิหารแห่งแสงและเสียง ,(The Temple of Sound and Light),
    วิหารแห่งความรู้ (The Temple of Knowledge), วิหารแห่งความเป็นหนึ่ง,

    วิหารแห่งโธท์ (The Temple of Thoth) ,
    วิหารทับทิมแห่งเพลิง (The Ruby Temple of Fire)

    และ วิหารแห่งการชุบชีวิต (Temple of Regeneration)


    ผลึกคริสตัลทั้งหลาย ถูกจัดวางอย่างเป็นกรณีพิเศษอยู่
    ในพื้นที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
    สำหรับการอุบัติขึ้นของโลกใหม่
    แห่งการยกระดับในปี 2012
    พิ้นที่ต่างๆเหล่านี้ ทำให้การเข้าถึงยังระบบอุโมงค์
    ค์หลากมิติแห่งแอตแลนติส ได้ง่ายดายขึ้น

    มันได้ถูกกำหนดและจัดวางตามนี้
    ไว้แล้ว

    ........................
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 12

    Arkansas :

    1.ผลึกคริสตัลสีฟ้าแห่งความรู้ (Blue Crystal of Knowledge) (Interface)
    8-8-8(8/Aug/08)

    2.ผลึกคริสตัลสีเขียวมรกตแห่
    งการเยียวยา (Emerald Crystal of Healing)
    9-9-9(9/Sep/09)


    3.ผลึกคริสตัลแพลตทินั่มแห่
    งการติดต่อสื่อสาร(Platinum Crystal of Communication)
    การเชื่อมต่อกับชีวิตทั้งมวลที่เกี่ยวข้องกัน(Bio Plasmic Interface)
    11-11-11(11/Nov/11)


    Bimini Bank:

    1. ผลึกคริสตัลไฟร์สีแดงทับทิมแห่
    งการปล่อยพลังงาน
    (The Ruby Fire Crystal of Energy)
    12-12-12 (12/Dec/12)

    Brazil:

    1.ผลึกคริสตัลสีทองแห่งการฟื้
    นฟูการเยียวยา(Gold Crystal of Healing Regeneration)
    9-9-9(9/Sep/09)

    2. ผลึกคริสตัลสีม่วงแห่งคลื่นเสี
    ยง(Violet Crystal of Sound )
    10-10-10 (10/Oct/10)


    Mount Shasta:


    1.ผลึกคริสตัลแห่งการประสานมิติ(The Crystal of Multidimensional Interface)
    9-9-9(9/Sep/09)


    Tiajuanaco-Lake Titicaca, Bolivia:

    1. ผลึกคริสตัลสุริยัน-จันทราแห่
    งแสง(Sun-Moon Crystal of Light)
    9-9-9(9/Sep/09)


    2. ผลึกคริสตัลแห่งโธท์(Crystal of Thoth)
    12-12-12 (12/Dec/12)

    ในปี 2008, ผลึกคริสตัลสีฟ้าแห่งภูมิปั
    ญญาและความรู้ (Blue Crystal of Wisdom and Knowledge)

    ที่จะกลับมาใน ครีษมายัน
    (summer solstice..เป็นการที่ดวงอาทิตย์ โคจรไปถึงจุดหยุด (solstice)
    คือ จุดสุดทางเหนือในราววันที่ 21 มิถุนายน เป็นจุดในหน้าร้อน มีกลางวันยาวนานกว่า กลางคืน)


    มันจะถูกปลุกให้มีพลังงานเกิด
    ขึ้นครึ่งระบบ
    ในรหัส 8-8-8, วันที่ 8 เดือน 8(สิงหาคม)

    ปี 2008 จะเป็นการเริ่มการทำงานของกริ
    ดคริสตัลทั้ง144 กริด ให้เข้าสู่ระบบ ¾ ส่วนของการทำงาน

    และปรับจูนให้ผลึกคริสตัลสีฟ้
    าแห่งความรู้ เกิดพลังงานเกิดขึ้นมาครึ่งระบบ
    มันจะไปสับสวิทซ์โปรแกรมการจั
    ดลำดับเวลาสำหรับการตื่นขึ้นของผลึกคริสตัลอื่นๆ
    แต่ละผลึกจะไปเปิดประตูมิติ ใน วัน เดือนและปี ทั้งสาม(8-8-8)

    ในแต่ละผลึกจะเชื่อมโยงกั
    บการเปิดใช้งานของผลึกที่ 4 ที่ยังอยู่ใน 12 เหลี่ยมมุมของ144 กริด
    ดาวเพนตา-โดเดกาฮีรอน (double penta-dodecahedron…ผลึกมีหกด้
    านสิบสองหน้า
    ลักษณะผิวหน้าเป็นรูปห้าเหลี่ยม จุดยอดมุม 20 มุม เส้นขอบ 30 เส้นทรง)

    [​IMG]
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 13

    การเปิดพลังงาน & การติดตั้งโปรแกรมใหม่

    ไม่มีผลึกใดจะมีพลังงานเต็มที่ ก่อนปี 2012 นอกจากผลึกคริสตัลสีฟ้าแห่งความรู้,
    ผลึกคริสตัลสีเขียวมรกตแห่
    งการเยียวยา และ ผลึกคริสตัลสุริยัน-จันทรา
    จะมีพลังเต็มที่ ในปี 2012 ผลึกอื่นๆงจะต้องใช้เวลานานกว่
    านั้น

    พวกเขาจะถูกปลุก และจากนั้นก็จะเริ่มกระบวนการรี
    บูทเครื่องใหม่ตามมาด้วยการดาวน์โหลดใหม่ และตั้งโปรแกรมไหม่
    การตั้งโปรแกรมไหม่นี้ จะเกิดขึ้นเฉพาะกับผลึกคริสตั
    ลไฟร์ที่บิมิไน( Bimini fire crystal)

    และจะยังทำงานไม่เต็มประสิทธิ
    ภาพ จนถึงปี 2020.
    พลังงานของพวกเขาจะเชื่อมโยงเป็
    นเครือข่ายกับคลื่นความถี่คริสตัลควันตัมของการยกระดับ
    และเชื่อมต่อไปยังรูปแบบพลั
    งงานของ Golden Sun Disc
    พูดได้ว่า มันเป็นตัวแทนพิมพ์เขียวแบบใหม่
    ของ DNA

    อ่านข้อมูล DNA เพิ่มตามนี้ค่ะ
    http://palungjit.org/posts/3733605"]http://palungjit.org/forums/%E0%B8...ml#post3733605

    สำหรับ 144 กริด เป็นผลที่เกิดร่วมกันของการตื่[/B][/COLOR]นขึ้นของคริสตัล,
    144 กริด ที่สมบูรณ์ และ ความสมบูรณ์ของ 12 เกลียวคู่(helix)
    ของ โกลเดน ซันดิสค์(Golden Sun Disc)
    ก็จะเตรียมพร้อมให้โลกเข้าสู่
    การยกระดับ และเป็นดาวเคราะห์ของสนามพลังงานคริสตัลดวงใหม่

    การสัมผัสถึงพลังงานจากคริสตั
    ลเหล่านี้ ในเบื้องต้นจะต้องมีความตั้งใจจริงที่จะรับรู้
    มันละเอียดเบาบางมากทีเดียว อีกทั้งจะไม่สามารถมองเห็นพลั
    งที่ละเอียดเบาบางเหล่านี้ได้ทันทีที่ไปใส่ใจมัน
    (รับรู้ได้เพียงความรู้สึก การหยั่งรู้ หากตั้งใจจดจ่อ มันจะหายไป...ผู้แปล)

    ผลของมันจะให้ความรู้สึกถึงสุ
    ขภาพที่ดีขึ้น, โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในวอร์เท็กซ์ของอาคันซอส์,
    ทะเลสาบติติกากา และ บาเยีย ในบราซิล


    ย่างก้าวแรก เป็นตัวแทนแห่งภูมิปัญญา
    และย่างก้าวที่สองจะเป็นการเยี
    ยวยาทางพลังทิพย์ของแอตแลนติส,
    และ การเชื่อมต่อไปยังยุคใหม่สีทอง


    มันจะเกิดเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนสี
    ทอง(golden rhombus)
    ระหว่าง บราซิล,ทะเลสาบติติกากา,อาคั
    นซอส์ และภูเขาแชสต้า
    และในปี 2020 มันจะกลายเป็นดาวห้าแฉก

    ที่เป็นรูปแบบของเครือข่
    ายของโลก กับ จุดแห่งความเป็นอนันต์ที่ไม่จำกัดทั้งหมด บนดาวเคราะห์โลก
    การตื่นขึ้นของพลังงานจากผลึ
    กคริสตัลต่างๆกำลังเริ่มต้นขึ้นที่ อาคันซอส์

    จะเปิดประตู สำหรับการเปิดกว้างของมิติที่

    แสดงให้เห็นถึงการกลับมาของพี่
    น้องแห่งดวงดาว การกลับมาเป็นการใช้คำที่ผิด

    อันที่จริงแล้วพวกเขาไม่
    เคยจากไปไหนเลย

    .................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)

    วันที่ 17 เมษายน 2008
    ผู้รับการสื่อสาร นาย Tyberonn

    ที่มา: Arkansas: The Atlantean Crystal Awakening - And the Fall of Atlantis > Earth Keeper

    ตอนที่ 14

    ปิดท้าย


    คริสตัลของแอตแลนติส เปิดประตูความเป็นทิพย์ ที่เป็นทางเข้าของมิติ
    ที่จะยอมให้มนุษย์ในฐานะสิ่งมีชี
    วิตจากคาร์บอนเบสต์
    เพื่อเชื่อมต่อกับความเป็นอยู่
    ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกัน (bio-plasmic life)
    เหล่าคุรุทั้งหลาย คุณต้องเข้าใจว่าคุณอยู่ทั้
    งภายในมิติคู่ขนานทั้ง2ที่หลากมิติ
    มันเป็นเรื่องจริง!


    ประตูจะเปิดออกในปี 2008 ในวอร์เท็กซ์คริสตัลที่อาคั
    นซอส์
    และพวกคุณผู้เชื่อมต่อกับผลึกคริสตัลสีฟ้าได้

    จะสามารถพบกับหลากหลายมิติของคุ
    ณเอง
    มันช่างน่าสนุกสนานเสียจริง และในเวลานี้มันก็ค่อนข้างง่
    ายดายจริงๆ

    ที่รักทั้งหลาย ภายในพลังงานที่อยู่ ภายใต้วอร์เท็กซ์ของอาคันซอส์
    การนอนเนื่องของพลังงานคริสตั
    ลนั้น มันเหมือนกับการที่คุณมีประสบการณ์ที่คุณยังไม่เคยพานพบ
    มาตั้งแต่ในยุคทองของแอตแลนติส เมื่อ20,000 ปีมาแล้ว

    ภายใต้ความถี่คริสตัลควอนตัม สามารถเยียวยาคุณได้ในสิ่งที่
    ควรจะต้องถูกเยียวยา
    ภายใต้พลังงานที่กำลังถูกยกขึ้
    นนี้ คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับพลังชีวิตของคริสตัลที่มีชีวิตชีวาได้
    ที่จะช่วยให้สนามพลังงานเมอร์
    คะบะของคุณขยายออก เข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกหลากมิติ

    เพื่อเข้าสู่ ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณเอง! มันเป็นความจริง, ที่รักทั้งหลาย,

    และเวลานั้น นั่นก็คือ เวลานี้ นี่เอง

    เหล่าคุรุทั้งหลาย,มันเป็นจุดสิ
    ้นสุดของการเริ่มต้น!
    นักฝันได้ตื่นขึ้น!

    ข้าพเจ้าคือ เมตราตรอน, และคุณ...คือ ผู้อันเป็นที่รักอย่างสุดซึ้ง!


    ...และ มันก็เป็นเช่นนี้แล....

    .............................
     
  20. blackky

    blackky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2009
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +27
    ดูเพ้อเจ้อกันจังเลยนะครับ ต่อให้เกิดเป็นเรื่องจริงแล้วยังไง ไม่เห็นจะมีไรที่เป็นประโยชน์ส่งเสริมในการปฏิบัติธรรมเลย

    มีแต่จะฟุ้งกันไปต่างๆนานา
     

แชร์หน้านี้

Loading...