การสังเกต++สัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์++สิ่งบอกเหตุ

สิ่งบอกเหตุว่าที่ไหนมีจอมปีศาจ จะเห็นได้จากมีเรื่องพวกนี้เยอะ หรือมีบ่อย ก็คือพวกภัยสงคราม จราจลกลางเมือง ศาสนาที่ถูกบิดเบือน คนคลั่งลัทธิที่่พาให้หลงผิด มีภัยธรรมชาติ







มีความผิดปกติของสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับ ดินฟ้าอากาศ หรือพวกสัตว์ต่างๆ โรคระบาด มีอาชญากรรมร้ายแรง ยาเสพติด การฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย การล่อลวง การล่มสลายทางเศรษฐกิจ และก็การที่ประชาชนในเมืองนั้นๆ หมกมุ่นอยู่แต่กามตัณหาลามก

ส่วนที่ไหน ที่มีปีศาจระดับรองลงไป อย่างพวกหัวหน้าสาขา ก็จะมีเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่ดีกรีจะอ่อนกว่า


ตีวงให้แคบ ในแถบเอเชียที่ยังดีอยู่คือ ลาว กับบูตาน

 

สิ่งที่ปีศาจทำเป็นประจำ แล้วใช้ได้ผลกับคนคือ คอยปั่นหัว คอยจูงใจให้หลงผิด อย่างที่เรียกว่า เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว โดยการเอากิเลสประจำตัวของแต่ละคนมาล่อหลอกนั่นแหละ

 

นี่ก็สิ่งบอกเหตุ เดี๋ยวจะลามไปทั่ว

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวแอลจีเรียนับพันชุมนุมไล่ ปธน.บูเตฟลิกา ตามอย่างตูนีเซีย-อียิปต์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>13 กุมภาพันธ์ 2554 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เอเอฟพี - ความรุนแรงทางการเมืองในทวีปแอฟริกายังไม่ยุติ เมื่อชาวแอลจีเรียกว่า 2,000 คน พยายามฝ่าด่านตำรวจ เพื่อไปรวมตัวประท้วงขับไล่ประธานาธิบดี อับเดลอาซิส บูเตฟลิกา บริเวณจตุรัสแอลเจียร์ วานนี้ (12 กพ.) หลังจากที่ผู้นำตูนีเซียและอียิปต์ ถูกโค่นอำนาจลงโดยประชาชน

ผู้ประท้วงต่างชูป้ายประณามระบอบการปกครอง และร้องตะโกนคำขวัญที่หยิบยืมมาจากการประท้วงในตูนิสและไคโร

อย่างไรก็ตาม ตำรวจปราบจลาจลนับหมื่นนาย ซึ่งมีทั้งอาวุธปืนอัตโนมัติ, กระบอง และโล่ ก็สามารถกันไม่ให้ประชาชน เดินขบวนจากจตุรัส 1 พฤษภาคม ไปถึงจตุรัสมาร์เทอร์สได้สำเร็จ

กลุ่มผู้ประท้วง ยังรวมถึง สะอีด ไซดี หัวหน้ากลุ่มรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมและประชาธิปไตย (RCD) และ อาลี เบลฮัดญ์ อดีตผู้นำกลุ่มอิสลามิสต์ แซลเวชั่น ฟรอนต์ ซึ่งถูกสั่งห้ามลงเล่นการเมือง

โดยตั้งแต่เช้าวานนี้ (12 กพ.) ตำรวจปราบจลาจลเกือบ 30,000 นาย ถูกส่งไปประจำการตลอดแนวถนน ซึ่งผู้ประท้วงจะเดินผ่าน และมีการนำรถหุ้มเกราะร วมถึงปืนฉีดน้ำ ไปติดตั้งใกล้กับจุดเริ่มขบวนด้วย

กระทรวงมหาดไทยแอลจีเรียระบุว่า มีประชาชนถูกจับกุม 14 คน ซึ่งภายหลังได้รับการปล่อยตัวไป

อย่างไรก็ตาม มุสตาฟา บูชาชี หัวหน้ากลุ่มสันนิบาตแอลจีเรียเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน (LADDH) กล่าวว่า มีประชาชนถูกจับมากถึง 300 คน ในกรุงแอลเจียร์, โอราน และ แอนนาบา

ในกรุงแอลเจียร์ กลุ่มคนหนุ่มสาว 40 คน ซึ่งไม่เห็นด้วยกับผู้ประท้วง ได้ออกมาให้การสนับสนุนประธานาธิบดี บูเตฟลิกา

“บูเตฟลิกา ไม่ใช่ มูบารัค” กลุ่มเยาวชนดังกล่าวร้องตะโกน

ทั้งนี้ การเดินขบวน ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในแอลจีเรีย หลังเกิดการประท้วง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ในปี 2001

อนึ่ง บูเตฟลิกา ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยแรกในปี 1999 จากนั้นได้รับเลือกเป็นครั้งที่ 2 และ 3 ในปี 2004 และ 2009 ตามลำดับ และยังแก้ไขรัฐธรรมนูญให้บุคคลสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ โดยไม่จำกัดสมัย


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฝูงวาฬเกยตื้นตายนับร้อยตัวที่นิวซีแลนด์

<HR style="WIDTH: 100%">วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

ฝูงวาฬเกยตื้นตายนับร้อยตัวที่นิวซีแลนด์
<SCRIPT type=text/javascript>var addthis_config = {data_use_flash: false}</SCRIPT> <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js#username=xa-4b2f440f591a0d23"></SCRIPT> <!-- AddThis Button END -->

เกิดเหตุการณ์ฝูงวาฬ 107 ตัว เกยตื้นบนชายหาดของนิวซีแลนด์ ขณะที่ทางการไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้ เพราะจุดที่วาฬเกยตื้นนั้นอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถหาคนมาช่วยเคลื่อนย้ายได้ ประกอบกับน้ำทะเลกำลังลดระดับลงและสภาพอากาศก็ร้อนและแห้งแล้ง


ปลาวาฬเกยตื้นตายในนิวซีแลนด์กว่า 20 ตัว

ปลาวาฬเกยตื้นตายในนิวซีแลนด์กว่า 20 ตัว : ข่าว ข้อมูล - Nurnia.com

( 28 ธ.ค.53 ) สำนักข่าวแห่งชาติรายงาน เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า ปลาวาฬเกยตื้นตายบริเวณชายหาดด้านตะวันออกของประเทศ 21 ตัว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร สามารถช่วยเหลือให้กลับลงทะเลได้อย่างปลอดภัย 40 ตัว หลังจากทั้งหมด เกยตื้นบริเวณชายหาดของคาบสมุทรโคโรมันเดล

อย่างไรก็ดี ยังมีความกังวลว่า ปลาวาฬที่รอดชีวิตจะว่ายน้ำมาเกยตื้นที่ชายหาดอีกครั้ง ระหว่างช่วงน้ำขึ้นครั้งต่อไป ทำให้นักอนุรักษ์ต้องเฝ้าสังเกตชายหาดดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่ง


22 ก.ย.2553
ฝูงวาฬกว่า 70 ตัวเกยตื้นหาดตอนเหนือนิวซีแลนด์

ทางการนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า วาฬ 74 ตัวเกยตื้นชายหาดในอ่าวสปิริตเบย์ พื้นที่ห่างไกลทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ ขณะนี้วาฬที่เกยตื้นเสียชีวิตแล้ว 25 ตัว นอกจากนี้ยังมีฝูงวาฬอีกราว 50 ตัว ว่ายวนเวียนอยู่นอกชายฝั่ง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องการอาสาสมัครจำนวนมากช่วยดูแลวาฬเหล่านี้ ตลอดทั้งคืนไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยในทะเล

เมื่อกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา มีวาฬกว่า 50 ตัวเกยตื้นบริเวณชายหาดใกล้เคียง เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือได้เพียง 9 ตัวเท่านั้น

ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบสาเหตุที่วาฬเหล่านี้พากันมาเกยตื้น

@ข่าวจาก manager 22 ก.ย.2553 http://www.manager.co.th/Home/ViewNe...=9530000133453

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

21 ส.ค.2553
ฝูงวาฬเกยตื้นในนิวซีแลนด์

นักอนุรักษ์ในนิวซีแลนด์พบฝูงวาฬเกยชายหาดทางตอนเหนือของประเทศกว่า 70 ตัว โดยไม่ทราบสาเหตุ







ฝูงวาฬ 73 ตัวขึ้นมาเกยชายหาดทางตอนเหนือของประเทศนิวซีแลนด์เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงดึกของวันพฤหัสบดี ขณะที่เจ้าหน้าที่พบฝูงวาฬในช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่นจึงเข้าช่วยเหลือ แต่พบว่ามีวาฬบางตัวตายไปก่อนแล้ว ด้านกลุ่มนักอนุรักษ์ดังกล่าวต้องใช้รถเครนและอุปกรณ์ช่วยลำเลียงเพื่อลากวาฬที่แต่ละตัวมีน้ำหนักกว่า 1.5 ตันกลับไปทะเล ซึ่งสามารถช่วยได้เพียง 15 ตัวเท่านั้น ที่เหลือ 58 ตัวตายทั้งหมด ขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถระบุได้ว่า อะไรคือสาเหตุที่ฝูงวาฬว่ายน้ำมาเกยตื้นที่หาดนี้ ขณะที่เมื่อ 3 ปีก่อนก็เคยมีฝูงวาฬ กว่า100 ตัว เกยหาดที่นี่เช่นกัน

ข่าวจากเว็บทีวีไทย 21 ส.ค.2553 http://www.thaipbs.or.th/s1000_obj//...tent_id=268302

 

แผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริคเตอร์ที่นิวซีแลนด์




​

เวลลิงตัน 22 ก.พ.-เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ที่เมืองไครส์เชิร์ท เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ภาพทางโทรทัศน์แสดงความตื่นตระหนกของผู้ที่กำลังทำงานอยู่ตามอาคารต่าง ๆ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่าเกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.51 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.51 น. ตามเวลาประเทศไทย

แรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายแก่ถนนหลายสายและอาคารหลายหลังพังถล่ม โดยที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นห่างจากเมืองไครส์เชิร์ท 5 กิโลเมตร และที่ระดับความลึกเพียง 4 กิโลเมตร

ท่าอากาศยานเมืองไครส์เชิร์ทถูกปิด และตำรวจกำลังอพยพประชาชนออกจากศูนย์กลางเมือง มีรายงานว่า ด้านหน้าของอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งที่แล้วได้พังถล่มลงมาบนถนน มีผู้เห็นว่ามีคนถูกทับติดอยู่ภายในด้วย แต่ยังไม่มีรายงานที่ยืนยันการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

วันอังคาร ที่ 22 ก.พ. 2554

 

วาฬนำร่อง 107 ตัวเกยตื้นตายที่ชายหาดในนิวซีแลนด์




​

เวลลิงตัน 21 ก.พ. – กรมอนุรักษ์ธรรมชาติของนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า พบฝูงวาฬนำร่องจำนวน 107 ตัวตาย หลังเกยตื้นบนชายหาดทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ ในจำนวนดังกล่าววาฬ 48 ตัวถูกฉีดยาเพื่อให้ตายอย่างสงบ

กรมอนุรักษ์ธรรมชาติออกแถลงการณ์ว่า นักปีนเขากลุ่มหนึ่งพบฝูงวาฬดังกล่าวเกยตื้นบนชายหาดเกาะสจ๊วต โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว และพบว่าวาฬเหล่านั้นกำลังจะตายหรือตายแล้ว หลังขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาด แต่ระดับน้ำได้ลดลง ทำให้วาฬเหล่านั้นไม่สามารถมีชีวิตรอดรอจนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมาถึง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงฉีดยาให้วาฬ 48 ตัวตายอย่างสงบ เพื่อไม่ให้พวกมันต้องทรมานมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ วาฬมักขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่งของนิวซีแลนด์ โดยเมื่อเดือนที่แล้วพบวาฬ 24 ตัวตาย หลังเกยตื้นบนเกาะเหนือของนิวซีแลนด์ -สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

 

อยู่สุโขทัยค่ะ

สองวันมานี่ ครอบครัวหนูมิคกี้ 4 ตัว ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน(อยู่บนฝ้าเพดาน)

วิ่งพล่านไปมาผิดปกติ เพราะที่ผ่านมาครอบครัวนี้เขาจะอยู่แบบเงียบๆ วิ่งบ้างอะไรบ้างก็ไม่บ่อยนัก แต่สองวันมานี่วิ่งเสียงดังจนต้องตะโกนบอกให้เงียบๆกันได้แล้ว

น่าแปลกใจจัง

 

สัตว์น่าจะมี senses เรื่องภัยธรรมชาติ ลองดูข้อเขียนอันนี้กัน

สัญชาติญาณเตือนภัยพิบัติของสัตว์




สัตว์นั้นมีสัญชาติญาณ สามารถรู้ล่วงหน้าถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้จริงหรือ

ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมแพนด้า ต่างรายงานว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน แพนด้าก็ต่างแสดงอากัปกริยาลุกลี้ลุกลน เหมือนจะรู้ว่ากำลังจะมีภัยร้ายเกิดขึ้น


2518 แผ่นดินไหวเมืองไฮชิง



หลายครั้งที่สัญชาติญาณชี้เตือนภัยของสัตว์ถูกเมิน ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2518 นักวิทยาศาสตร์ในเมืองไฮชิง ประเทศจีน ต่างสงสัยเมื่อแมวแสดงอากัปกริยาหวาดระแวง และหมาก็เริ่มเห่าหอนไม่หยุดหย่อน จนนักวิทยาศาสตร์เกิดความเชื่อมั่นว่ากำลังจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น

เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ทำการอพยพผู้คน หนีภัยออกจากเมืองในทันที เพียง 5 ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่เมือง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ระดับ 7.3 ริกเตอร์ ในครั้งนั้นมีผู้คนเสียชีวิตแค่ 2,000 คน ส่วนตัวเมืองนั้นพังราบ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าหากไม่ได้ทำการอพยพ คงจะมีผู้เสียชีวิตถึง 150,000 คน

นับเป็นครั้งแรกที่เมืองได้รับการอพยพหนีก่อนเกิดแผ่นดินไหว ในครั้งนี้สัตว์ก็ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่าช่วยเตือนถึงอุบัติภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น

2538 แผ่นดินไหวเมืองโกเบ



ในเดือนมกราคม 2538 ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหว ระดับ 7.2 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตถึง 6,400 คน ผู้บาดเจ็บ 27,000 คน โดยก่อนหน้าเกิดแผ่นดินไหว ผู้คนในเมืองต่างสังเกตว่าสุนัขทั่วทั้งเมืองต่างเห่าต่อเนื่อง ไม่มีหยุดตลอดวันตลอดคืน

น.พ.คิโยชิ ชิมามูระ ได้ศึกษาแผ่นดินไหวครั้งนี้โดยละเอียด และพบว่ามีรายงานสุนัขกัดคนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว จึงตั้งสมมุติฐานว่าสัตว์นั้นรู้ล่วงหน้าถึงแผ่นดินไหวจึงเกิดอาการเคร่งเครียด

2547 พายุเฮอริเคนชาร์ลี



ในเดือนสิงหาคม 2547เกิดพายุเฮอริเคนถล่มรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 10 คน ก่อความเสียหาย 16 ล้านดอลลาร์

เมื่อทีมนักชีววิทยาทางทะเลได้กลับมาทบทวนดูข้อมูล ก็พบว่ากลุ่มฉลาม 14 ตัวซึ่งได้ติดเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหว นั้นรู้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าพายุกำลังจะมา จึงได้ว่ายหนีจากพายุไปไกล รอคอยจนภัยพิบััติผ่านพ้นไปแล้วถึงสองสัปดาห์ จึงได้กลับมาหากินแหล่งเดิม คุณมิเชล ฮูเพล นักวิทยาศาสตร์นั้นกล่าวว่า “สัตว์เหล่านี้รับรู้ถึงสภาวะแวดล้อมได้มากกว่าที่เราคิด”

2519 แผ่นดินไหวเมืองตังฉาน



ในเดือนกรกฏาคม 2519 ประเทศจีนถูกแผ่นดินไหว ระดับ 7.8 ริกเตอร์ เมืองตังฉาน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมนั้นถูกกระทบอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตถึง 240,000 คน

ช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดแผ่นดินไหว สถานีวิทยุท้องถิ่นได้รายงานถึงหมีแพนด้าซึ่งเอามือกุมหัว ร้องโหยหวนไม่มีหยุด คนเลี้ยงแพนด้านั้นรู้สึกแปลกใจ แต่ในภายหลังจึงเข้าใจและเชื่อว่าแพนด้าคงรู้สึกได้ล่วงหน้าว่าแผ่นดินไหวกำลังจะมา

2482-2488 สงครามโลกครั้งที่สอง



ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีคนอังกฤษเสียชีวิตกว่า 450,000 คน มีผู้กล่าวว่าคงจะมีผู้เสียชีวิตมากยิ่งกว่านี้อีก ถ้าหากไม่ได้รับเสียงเตือนภัยจากสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์

ในขณะที่เรือบินรบจากเยอรมันกำลังจะเข้ามาทิ้งระเบิดอังกฤษ สุนัขและแมวก็มักจะร้องเห่าหอนเตือนให้เจ้าของหาที่หลบกำบัง

“บางคนคิดว่ามีแรงสั่นไหวเบาๆ ก่อนเกิดเหตุซึ่งคนไม่สามารถรู้สึกได้ บางทฤษฏีก็ว่ามีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบกาซในอากาศหรือประจุไฟฟ้า” คุณรูเพิร์ต เชลล์เดรก นักวิทยาศาสตร์ ผู้ศึกษาถึงประสาทสัมผัสที่หกของสัตว์อย่างลึกซึ้ง กล่าว

“แต่นั่นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าสัตว์รู้ได้อย่างไรว่ากำลังจะถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง”

2542 แผ่นดินไหวเมืองอิซมิท



ในรุ่งเช้าของวันที่ 17 สิงหาคม 2542 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.4 ริกเตอร์ ใกล้กับเมืองอิซมิท ประเทศตุรกี ระยะเวลาเพียงแค่ 37 วินาที แต่ก็ส่งผลให้คน 45,000 คนเสียชีวิต บาดเจ็บ 40,000 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่าล้านคน ส่งผลต่อพื้นที่กว่า 100 ไมล์

ในช่วงหลายวันก่อนเกิดแผ่นดินไหว ชาวบ้านต่างรายงานว่าสุนัขนั้นเห่าหอนไม่มีหยุด รวมทั้งแมว หนู และนก ก็มีพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนผิดปกติ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงน้ันพยายามเตือนถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมา

2547 คลื่นยักษ์สึนามิ คาบสมุทรอินเดีย



ในเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นับเป็นอุบัติภัยทางธรรมชาติที่ส่งผลอาณาเขตกว้างขวางหลายประเทศ และมีรายงานของสัตว์ที่รู้ภัยล่วงหน้าหลายชนิดเช่นเดียวกัน

ที่ประเทศไทยมีรายงานช้างแสดงอาการเคร่งเครียดร้องแผดเสียงอย่างต่อเนื่องหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ และช่วงหนึ่งชั่วโมงก่อนคลื่นยักษ์จะมา มีช้างบางตัวที่วิ่งหนีจากชายทะเลขึ้นพื้นที่สูง คุณคริส ครุซ ครูสอนดำน้ำที่ภูเก็ต นั้นล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจากฝูงโลมา “มันกระโดดไปมาข้างหน้าเรือผมเลย ผมจึงรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ”

ที่ศรีลังกา ค้างคาวซึ่งปกติต้องนอนหลับเวลากลางวัน กลับบินไปมา

ที่อินเดียฝูงฟลามิงโกซึ่งทำรังวางไข่อยู่ได้หนีพื้นที่ราบต่ำขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงเพื่อหนีคลื่นยักษ์สึนามิ



เรียบเรียงโดย น.สพ. กานต์ เลขะกุล

เรียบเรียงจาก
Animals’ early roar-ning system โดย David Lowe
www.thesun.co.uk/sol/homepage/news/article1174441.ece?offset=0

 

/\
/\
/\

ที่ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ ตัวใหญ่ๆแบบนี้แหละ มีเป็็นเข่งๆ เห็นแล้วน่าสงสารมากๆ

 

ที่บ้านผมตอนนี้ไม่รู้มดมาจากไหนครับเยอะมาก เป็นมดคันไฟทั้งนั้นเลยอยู่ในที่นอนก็มีตู้เสื้อผ้าก็มี เยอะมากครับ

 

ครับ...ถ้าเป็นการเลี้ยงเพื่อการส่งออกที่ระนองมีเหมือนกันปูจานขนาด1-2-3กิโลกรัม แต่ปูตัวนี้เป็นปูที่ออกมาจากรูในป่าชายเลยที่มีต้นโกงกางด้านฝั่งตะวันตกของเกาะในพม่า มีชาวพม่าหิ้วมาขาย ปูชนิดนี้คนทางนี้เรียกว่าปูทองหลาง ซึ่งปกติจะไม่ออกจากรูโพรงดินในป่าชายเลน

 

เรื่องนี้ไม่ควรมองข้ามครับ ถ้าออกมาเยอะ ๆ ผิดปกติวิสัยของสัตว์ชนิดนั้นก็น่าจะทะแม่ง ๆ แล้วครับ ภัยจากธรรมชาติ สิ่งที่จะบอกเรา เตือนเราได้ดีที่สุดคือธรรมชาติ เพียงแต่เราจะสังเกตุเห็นหรือไม่เท่านั้น

 

ข่าวฝูงปลามาชุมนุมกัน ที่ชายทะเลในเม็กซิโก

Incredible swarms of fish form off coast of Acapulco: But was surge caused by tsunami thousands of miles away?


By Daily Mail Reporter

Last updated at 8:31 PM on 12th March 2011

• Comments (69)
• Add to My Stories

The shores of Acapulco's beaches were this weekend teeming with masses of fish packed so tightly they looked like an oil slick from above.
Thousands of sardines, anchovies, stripped bass and mackerel surged along the coast of the Mexican resort in an event believed to be linked to the devastating Japanese tsunami.

Delighted fishermen rushed out in wooden motor boats, abandoning their rods and nets and simply scooping the fish up with buckets.





A man photographs a shoal of sardines off the shore of Acapulco




fishermen flocked to the water to take advantage of the surge



Some experts believe the phenomenon is directly related to the Japanese tsunami

'There were about 20 or 30 fishermen and there were people who came with their kids to take advantage of it,' Carlos Morales said.


The fishermen attributed the strange phenomenon to the unusual currents unleashed by tsunami that followed the earthquake in Japan.

More...

• Huge whirlpools form off the coast of Japan as devastating tsunami disrupts currents
• Japan faces nuclear meltdown after explosion at vast power plant caused by earthquake which killed 1,300
• Tsunami wreaks millions of dollars of damage on Californian harbours as giant waves smash U.S. west coast
• Tsunami warnings on West Coast of U.S. as residents told to get to higher ground

Experts couldn't be sure.


'It would fall into that category where you would love to make the connection, but who knows?' said Rich Briggs, a geologist with the U.S. Geological Survey.

'Tsunamis can change local currents, but it's hard to make a firm connection.'





Fishermen in Acapulco say they have never see such large schools of fish so close to the coast



The fish were so tightly packed they looked like an oil slick from above




Some bathers steered clear of the mysterious event and kept out of the water


Read more: www.dailymail.co.uk/news/article-1365538/Japan-earthquake-Swarms-fish-coast-Acapulco-caused-tsunami.html#ixzz1GTOnSQ3Z

ฝูงปลารวมตัวหนาแน่น ที่ชายฝั่งเม็กซิโก เชื่อ เชื่อมโยงสึนามิ

Mthai news: 12 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศ เผยแพร่ภาพปรากฏการณ์ที่ปลาชนิดต่างๆ เช่น แอนโชวี่ซาร์ดีนจำนวนมากรวม กลุ่มกันเป็นฝูงอย่างหนาแน่น ที่บริเวณชายฝั่งของหาดเมทองท่า ประเทศเม็กซิโกตามแนวชายฝั่งของรีสอร์ทเม็กซิกัน


ซึ่งชาวประมงเชื่อว่า ปรากฏการณ์ประหลาดนี้มีความเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่าเกี่ยวกันหรือไม่

 

ถ้าอย่างนั้น ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ต้องเตรียมตัวไว้ให้ แล้วหละ อยู่ใกล้รอยเลื่อน และ รอยต่อแผ่นแปลือกโลกด้วย

 

ดินทรุด อันนี้บอกเหตุอะไร

น่านดินทรุด!! บ้านเสียหายกว่า 10 หลัง - ปภ.ปัดแผ่นดินไหว <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">17 มีนาคม 2554 19:13 น.</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> นายกำธร สุอรุณ นายอำเภอปัว จ.น่าน และนายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พร้อมเจ้าหน้าที่ช่างเทศบาลตำบลปัว ทหารพรานที่ 32 และหน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 น่าน เข้าพื้นที่ อ.ปัว

ตรวจสอบสภาพบ้านเรือนที่บ้านปรางค์พัฒนา 2 หมู่ 8 ตำบลปัว และบ้านร้อง หมู่ 4 ตำบลปัว เมื่อบ่ายวันนี้ (17 มี.ค.) หลังรับแจ้งว่า หมู่บ้านดังกล่าว ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนระหว่างเวลา 21.00-03.00 น.

จากการตรวจสอบพบว่า บ้านเป็นรอยร้าว พื้นกระเบื้องหลุด ผนังแตกเป็นรอยยาว โคนเสาบ้านแตกเป็นรอยเลื่อนออกจากกัน รวมเสียหายทั้งหมด 12 หลัง และเสียหายหนัก 6 หลัง
นายอำเภอปัว คาดว่า อาจเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน จากอากาศที่ร้อนจัดเปลี่ยนมาเป็นหนาวเย็น เพราะฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้ตัวบ้านที่เป็นบ้านตึกสร้างด้วยปูนเกิดรอยแตกดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริงแล้ว และไม่ต้องตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่แผ่นดินไหว และไม่ถึงขั้นต้องอพยพชาวบ้าน เพราะยังสามารถอยู่อาศัยได้ ซึ่งจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือซ่อมแซม