การสังเกต++สัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์++สิ่งบอกเหตุ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย mead, 22 พฤษภาคม 2007.

  1. ดาบจันทรา

    ดาบจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,953
    กำลังบอกใบ้เหรอค่ะ ว่าอีกหน่อยก็ถึงตาเราโดนบ้าง
    [​IMG]
     
  2. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ใครเลี้ยงหมาบ้างครับ ช่วยๆ กันดูพฤติกรรมกันหน่อยนะครับ มีอะไรแปลกๆ
    จากปกติไปบ้างหรือเปล่า เช่นหมารู้สึกตื่นกลัวผิดปกติ เห่าทั้งๆ ที่ไม่มีคนแปลก
    หน้าผ่านมาแถวบ้าน ตัวสั่นๆ หมาใครมีอาการแบบนี้บอกด้วยนะครับ
     
  3. vijit_j

    vijit_j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    739
    ค่าพลัง:
    +2,866
    กำลังบอกใบ้เหรอค่ะ ว่าอีกหน่อยก็ถึงตาเราโดนบ้าง
    [​IMG]



    อะไรทำนองนั้นแหละครับ และไม่มีโอกาสแก้ตัว

    เมื่อสองวันก่อนเห็นตุ๊กแกที่บ้าน สองตัว ปกติไม่ค่อยได้เห็นและจะร้องบ่อยๆ
    <!-- / message -->
     
  4. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ขนาดแมวมีตั้ง 9 ชีวิตยังตายกัยเพียบ แล้วมนุษย์เราจะเหลือ หรือครับ
    ฝึกตายกันดีกว่านะครับ
     
  5. NCK2046

    NCK2046 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    628
    ค่าพลัง:
    +3,793
    เป็นห่วงแมวๆที่บ้านจังเลย

    ขออย่าให้เป็นอะไรเลยนะ

    [​IMG] [​IMG]

    NCK กับน้องลายสุดสวย ใบพลู คุณแม่ของน้องลาย

    น้องลายเป็นแมว เกิดวันสงกรานต์ 15 เมษายน 48 ซึ่ง NCK เป็นคนทำคลอดเองกะมือ
    น้องลายมีพี่น้องทั้งหมด 4 ตัว ชาย 2 หญิง 2 แต่น่าเสียดาย ที่พี่ชายน้องลายทั้งสองตัว ถูกรถชนเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก จึงเหลือแค่น้องลาย กับน้องเลอะเทอะ 2 ตัวเท่านั้น

    น้องลายเป็นแมวน่ารัก เรียบร้อย ร้องเสียงเล็กๆ เหมือนแม่ใบพลู เป็นแมวคุณหนู รักสวยรักงาม แต่ไม่ค่อยชอบเข้าไปอ้อนใครเพราะเป็นแมวถือตัว แต่บางครั้งก็ชอบให้พ่อลูบพุงให้เวลาจะนอน
     
  6. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ปาฏิหาริย์มีจริง! หนุ่มฟื้นคืนชีพหลังแพทย์ชี้สมองตายมานานกว่า 4 เดือน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มีนาคม 2551 04:13 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แซค ดันแลป หนุ่มดวงแข็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี – ชายหนุ่มคนหนึ่งฟื้นขึ้นมาจากความตายขณะที่แพทย์กำลังเตรียมการผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะของเขาไปช่วยผู้ป่วยรายอื่น หลังประสบอุบัติเหตุและได้รับการวินิจฉัยว่าสมองตายเมื่อปลายปีที่แล้ว

    พ่อแม่ของแซค ดันแลป วัย 21 ปี ได้รับการแจ้งจากแพทย์ว่าลูกชายของพวกเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปีที่แล้วขณะพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยูไนเต็ด รีเจินนัล เฮลธ์แคร์ ซิสเต็มในเมืองวิชิตา ฟอลล์ส รัฐเท็กซัส หลังได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 4 ล้อคว่ำ ขณะที่ครอบครัวของเขาอนุญาตให้แพทย์นำอวัยวะของเขาไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้

    อย่างไรก็ตามในอีก 4 เดือนต่อมาหลังจากครอบครัวได้กล่าวคำอำลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย และแพทย์กำลังเตรียมการผ่าตัด แต่ได้ใช้มีดขูดที่เท้า รวมถึงกดที่ใต้เล็บมือของเขา เพื่อเช็คปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งสุดท้าย ปรากฎว่าเท้าและมือของเขากลับเคลื่อนไหวอีกครั้ง ซึ่งหลังจากฟื้นขึ้นมาและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนาน 48 วัน ในที่สุดแพทย์ก็อนุญาตให้เขากลับบ้านได้

    ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ (24) ที่ผ่านมา รายการทูเดย์ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ได้สัมภาษณ์ดันแลปและครอบครัวของเขา โดยชายหนุ่มได้กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีมากทีเดียว แต่มันเป็นเรื่องยาก...ไม่ใช่แค่ว่าต้องอดทนอย่างเดียว”

    ดันแลป กล่าวด้วยว่า เขาจำอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย แต่สามารถจำเรื่องราว 6 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี และจำเรื่องราว 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุได้เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้สิ่งที่เขาจำได้อย่างแม่นยำก็คือ ตอนที่แพทย์บอกกับพ่อแม่ของเขาว่าเขาตายแล้ว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ออกรายการทอล์กโชว์ชื่อดังกับผู้เป็นพ่อ (ซ้าย)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้เก็บมีดพกเล่มที่แพทย์ใช้ขูดเท้าของเขา ซึ่งทำให้ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นครั้งแรก ไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

    “ผมเก็บมีดเล่มนั้นเอาไว้เพราะมันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณหมอที่ไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้ผมฟื้นขึ้นมา คนดีๆ มักจะตายเร็ว ดังนั้นผมจึงไม่ตายง่ายๆ” ดันแลปกล่าวติดตลก

    ดัก พ่อของชายหนุ่มผู้โชคดี กล่าวว่า เขาได้เห็นผลการเอ็กซเรย์สมองของลูกชาย ซึ่งในขณะนั้นสมองไม่ทำงาน และไม่มีเลือดไหลเวียนอยู่เลย

    ขณะที่แพม ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า การที่ลูกชายของเธอฟื้นขึ้นมาในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากที่สุดในชีวิต ซึ่งขณะนี้ลูกชายของเธอมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความจำจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1 ปีหรือมากกว่านั้นในการเยียวยากว่าที่จะหายเป็นปกติ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    สัตว์ใต้ทะเลรอสตัวมหึมา-หลายปัจจัยเกื้อหนุน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิทยาศาสตร์ 23 ชาติที่ทำการสำรวจทะเล รอสในมหาสมุทรแอนตาร์กติกของนิวซีแลนด์ ตามโครงการ "อินเตอร์เนชั่นแนล โพลาร์ เยียร์" พบสัตว์ไซซ์บิ๊กหลายตัว อย่างแมงกะพรุนหนวดยาว 12 ฟุต ปลาดาวตัวใหญ่ 2 ฟุต พลับพลึงทะเลหรือซีลิลลี่สะพรั่งใต้ท้องทะเลเป็นพื้นที่ยาวหลายร้อยเมตร

    นายดอน โรเบิร์ตสัน นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล มีความเห็นว่า อากาศหนาวเย็น จำนวนผู้ล่าน้อย ระดับออกซิเจนในน้ำทะเลสูงและอายุที่ยืนยาว อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้สัตว์ทะเลบางชนิดในบริเวณนี้มีขนาดใหญ่โต และในการเดินทาง 50 วันนักวิทยาศาสตร์ได้จับสัตว์ทะเลมากกว่า 30,000 ตัว คาดว่าหลายร้อยชนิดจะเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB5T0E9PQ==
     
  8. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    เหตุ"นาฬิกาชีวภาพ"เดินเร็ว ทำสัตว์พืชเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีต้นซากุระมาก มาย ราว 30 ปีก่อนซากุระจะเริ่มบานประมาณวันที่ 5 เมษายนของทุกปี แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาซากุระที่ดี.ซี.บานเร็วกว่าปกติ คือเลื่อนขึ้นมาในช่วงปลาย เดือนมีนาคม

    ที่ฟิลาเดลเฟีย ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะเริ่มจามในช่วงเวลาที่เร็วกว่าเดิม เพราะเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีการตรวจพบละอองเกสรของต้นเมเปิ้ลจำนวนมาก ทั้งที่ควรจะมีจำนวนเท่านี้ในปลายเดือนเมษายน

    นายเทอรี่ รู้ท นักชีววิทยาจากสแตนฟอร์ด ยูนิเวอร์ซิตี้ สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า นาฬิกาที่เหล่าพืชและสัตว์ฟังอยู่ตามธรรมชาตินั้นเดินเร็วเกินไป โดยภาวะโลกร้อนที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเวลาของฤดูต่างๆ และส่งผลกระทบต่อพืชและสัตว์บนโลก

    ดาวเทียมจับภาพการเกิดพื้นที่สีเขียวขึ้นบนโลก ซึ่งหมายถึงฤดูใบไม้ผลิก้าวย่างเข้ามาแล้ว พบว่า นับตั้งแต่ พ.ศ.2525 เป็นต้นมา พื้นที่เมสัน-ดิ๊กซันไลน์ มีฤดูใบไม้ผลิเร็วขึ้นปีละ 8 ชั่วโมง พื้นที่ของรัฐฟลอริดา เท็กซัส หลุยเซียน่า มีรูปแบบของการเข้าฤดูใบไม้ผลิแปลกออกไป

    นาฬิกาชีวภาพหรือนาฬิกาตามธรรมชาติเรียกว่า "ฟีโนโลจี" วัดเวลาได้จากการเอียงของโลกขณะโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยนาฬิกาชีวภาพของ ฤดูใบไม้ผลิของปีนี้เริ่มต้นเมื่อเวลา 01.48 น. ของวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา

    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeU5nPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB5T0E9PQ==
     
  9. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>พบไวรัสหมูท้องร่วง กลายพันธุ์จากจีน ตายกว่า 6 แสนตัว </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นักวิจัยจุฬาฯ พบไวรัสหมูท้องร่วงกลายพันธุ์มาจากจีน เป็นครั้งแรกของโลกที่ทำให้หมูตายกว่า 6 แสนตัว ชี้อาจติดถึงคนหลังพบนักวิจัยในห้องปฏิบัติการและคนในฟาร์มท้องร่วง เตรียมขออุจจาระตรวจ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรเผยไวรัสระบาดไม่หยุด ลามจากภาคกลางถึงอีสานแล้ว

    จากเหตุการณ์ลูกหมูในฟาร์มทั่วประเทศไทยตายลงกว่า6 แสนตัว จากการระบาดของ "โรคท้องร่วงติดต่อในสุกร" หรือโรคพีอีดี (Porcine Epidemic Diarrhea หรือ PED) นั้นล่าสุดผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่เกิดโรคระบาดพีอีดีทำให้หมูตายนับแสนตัว นอกจากนี้ผลวิเคราะห์สารพันธุกรรมในไวรัสที่ระบาดยังพบว่าไม่ใช่ไวรัสพีอีดีในไทย แต่เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่มาจากประเทศจีน

    น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช หัวหน้าหน่วยชันสูตรโรคสัตว์และหัวหน้าหน่วยพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า โรคพีอีดีที่ทำให้หมูท้องร่วงนั้นพบในเมืองไทยมานานหลายปี เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสพีอีดี(Porcine Epidemic Diarrhea Virus หรือ PEDV) ในสกุลโคโรนาไวรัส (coronavirus) ที่พบได้ในสัตว์หลายชนิดรวมทั้งในคน ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้จะเข้าไปทำลายเยื่อบุลำไส้เล็ก ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารน้อยลง ลูกหมูจะสูญเสียของเหลวและมีอาการขาดน้ำรุนแรงจนช็อกตาย แต่โรคพีอีดีไม่เคยระบาดรุนแรงจนทำให้ลูกหมูตายไปไม่ต่ำกว่า 5 แสนตัวแบบนี้มาก่อน จึงมีการนำเชื้อพีอีดีที่ระบาดล่าสุดมาวิเคราะห์สารพันธุกรรม ทราบว่าไม่ใช่ไวรัสสายพันธุ์เดิมในเมืองไทย แต่เป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศจีนเมื่อปี พ.ศ. 2547

    "ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกที่โรคระบาดพีอีดีทำให้ลูกหมูท้องร่วงตายกว่า 5 แสนตัว มีรายงานว่าตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เมื่อนำไวรัสพีอีดีจากลูกหมูที่ตายมาถอดรหัสพันธุกรรม ทำให้รู้ว่าเป็นไวรัสกลายพันธุ์ตัวใหม่ไม่เคยระบาดในไทยมาก่อน เพราะสารพันธุกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ไปเหมือนกับสายพันธุ์ที่เคยพบในจีนมาก่อนแล้ว ถือเป็นการพบไวรัสพีอีดีสายพันธุ์นี้ครั้งแรกในไทย" ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสในสุกรกล่าว

    น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า การระบาดของโรคพีอีดีนั้นยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าติดสู่คนหรือไม่ อย่างไรก็ตามเชื้อไวรัสจะติดอยู่ตามเสื้อผ้า มือ รองเท้า หรืออวัยวะของผู้ที่ไปสัมผัสตัวลูกหมูหรืออุจจาระในเล้าหมู หากผู้สัมผัสมีร่างกายอ่อนแออาจมีอาการท้องเสียหรือท้องร่วงประมาณ 1 วัน จากนั้นร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันและสามารถป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ ผู้บริโภคไม่ควรตื่นตระหนกเพราะขณะนี้กำลังศึกษาถึงการก่อโรคในสัตว์และในคนอยู่ ถึงแม้ว่าไวรัสพีอีดีจะเป็นไวรัสในวงศ์เดียวกับไวรัสซาร์สก็ตามแต่ลักษณะทางพันธุกรรมและการก่อโรคจะแตกต่างกันมาก เนื่องจากไวรัสซาร์สไปทำลายระบบหายใจทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ไวรัสพีอีดีหากมีการติดเชื้อสู่คนจริงก็จะมีอาการท้องร่วงแค่ 1-2 ครั้ง จากการสังเกตของผู้เชี่ยวชาญแล้วร่างกายมนุษย์ก็จะสร้างภูมิคุ้มกันได้เองตามธรรมชาติ

    น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์วิเคราะห์สาเหตุที่ไวรัสพีอีดีสายพันธุ์ใหม่จากจีนมาระบาดในฟาร์มสุกรเมืองไทยนั้นอาจเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ 1. นักท่องเที่ยวหรือเจ้าหน้าที่ฟาร์มสุกรที่มาจากแหล่งเกิดโรคระบาดเดินทางมาดูงานในฟาร์มสุกรในไทย รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุกรจากประเทศไทยที่ได้เดินทางไปดูงานยังประเทศดังกล่าว โดยไม่ได้กักโรคก่อนอย่างน้อย 3 วัน เมื่อเข้าฟาร์มสุกร ทำให้เชื้อโรคที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าและร่างกายกระจายไปสู่หมูในเล้าได้

    2. การนำเข้าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่แช่แข็ง เช่น หนังหมู เครื่องในแช่แข็ง รวมทั้งหมูมีชีวิตและน้ำเชื้อเข้าสู่ประเทศโดยไม่มีการตรวจโรคที่รัดกุมก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ระบาดไปสู่ฟาร์มหมูได้ ซึ่งตนกำลังเขียนรายงานเรื่องดังกล่าวร่วมกับคณาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นความร่วมมือของนักวิชาการด้านสุกรในประเทศไทย รวมถึงกำลังศึกษาถึงการผลิตวัคซีนป้องกันโรคพีอีดีเพื่อใช้ในประเทศไทยและอาจส่งออกไปใช้ในประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาเช่นเดียวกันได้

    ส่วนการควบคุมโรคพีอีดีนั้น น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์แนะนำว่าฟาร์มที่เกิดการระบาดครั้งแรก ต้องให้แม่สุกรเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างรวดเร็วทั้งฝูงเพื่อลดความเสียหายหรือความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยการนำลำไส้เล็กของลูกสุกรที่ป่วยในเล้าคลอดมาสับละลายน้ำให้แม่สุกรกินโดยใช้อัตราส่วน ลำไส้เล็กลูกสุกร 1 ตัว ต่อแม่สุกร10-20 ตัว รวมถึงแม่พันธุ์อุ้มท้องด้วยโดยกิน 3 ครั้งทุกๆ 2 วัน ทั้งนี้ต้องระวังการใช้ลูกสุกรที่อายุมากกว่า 3 สัปดาห์ เพราะอาจมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ ได้

    ส่วนลูกสุกรที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อจะมีอาการขาดน้ำมาก ต้องช่วยโดยการให้สารน้ำทดแทนทางช่องท้องจำพวก Dextrose (D-5-S) ตัวละประมาณ 50-100 ซีซี ทั้งนี้การป้องกันและควบคุมโรคพีอีดีที่ได้ผลดีที่สุดคือความเข้มงวดของระบบป้องกันทางชีวภาพ (biosecurity) ที่จะไม่ให้มีการนำเชื้อเข้าสู่ฟาร์มได้โดยคนสัตว์และสิ่งของ เช่น อาบน้ำก่อนเข้าเล้าหมู ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ ฯลฯ

    ด้านนายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า โรคหมูท้องร่วงระบาดจากฟาร์มหมูใน จ.ราชบุรี ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก่อนเชื้อกระจายไปยังฟาร์มหมูจังหวัดใกล้เคียงร้อยละ 90 ของภาคตะวันตกและภาคตะวันออกของประเทศไทย ขณะนี่แพร่ระบาดไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วโดยเชื้อติดไปกับรถขนอาหารสัตว์ ตนทราบมาว่าเป็นเชื้อไวรัสพีอีดีสายพันธุ์ที่เคยระบาดในประเทศจีน เมื่อคนไทยสั่งเครื่องในสัตว์แช่แข็งเข้ามาจากจีนเชื้อไวรัสตัวนี้ก็ติดตามมา จนแพร่ไปทั่วในอากาศ ผู้เลี้ยงหมูก็ไม่รู้ว่าจะป้องกันอย่างไรเพราะยังไม่มีวัคซีนสำหรับโรคพีอีดี

    ทั้งนี้เจ้าของฟาร์มสุกรรายใหญ่ใน จ.ราชบุรี กล่าวว่า ทำฟาร์มเลี้ยงหมูมากว่า 30 ปีแล้ว ไม่เคยมีโรคระบาดอย่างนี้มาก่อน ที่ผ่านมาก็มีแค่โรคปากเปื่อยเท้าเปื่อยซึ่งทำให้หมูตายไปไม่กี่ตัว แต่การระบาดของโรคหมูท้องร่วงนี้ร้ายแรงมากทำให้ลูกหมูตายรุ่นละไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 โดยเริ่มท้องเสียตายตั้งแต่ปลายปีที่แล้วและยังคงตายต่อเนื่องจนถึงเดือนนี้ จึงมีการเพิ่มมาตรการรักษาความสะอาดและห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปในฟาร์มอย่างเด็ดขาด แต่ยังมีลูกหมูท้องเสียตายทุกวันอาจเป็นเพราะเชื้อไวรัสกระจายอยู่ในอากาศ

    "ฟาร์มขนาดเล็กหลายแห่งใน จ.ราชบุรี ปิดตัวไปแล้ว เพราะโรคนี้ยังระบาดอยู่ ตอนนี้มีรายได้จากการเอาลูกหมูท้องเสียตายไปขายให้ร้านทำอาหารสัตว์กิโลกรัมละ 2 บาท คนรับซื้อจะเอาไปสับแล้วให้ปลาช่อนกิน ส่วนเรื่องคนงานอาจติดเชื้อพีอีดีจากลูกหมูนั้น ยังไม่แน่ใจเพราะถ้าคนงานท้องเสียแล้วหาย พวกเขาอาจคิดว่ากินส้มตำแล้วท้องเสียเป็นปกติก็ได้" เจ้าของฟาร์มหมูกล่าว

    ทั้งนี้นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการของคณะสัตวแพทย์แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ประจำห้องแล็บได้นำลำไส้และอุจจาระของลูกหมูที่ตายมาวิเคราะห์นั้น ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทั้งสามคนมีอาการท้องเสียเหมือนกัน จึงตั้งสมมติฐานว่าอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ได้รับเชื้อไวรัสโรคพีอีดีจากการสัมผัส แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่ได้เก็บอุจจาระจากเจ้าหน้าที่มาวิเคราะห์ ถ้าเป็นการติดเชื้อตัวเดียวกันจริงก็จะพบไวรัสสายพันธุ์เดียวกันในอุจจาระของคนเช่นกัน ทั้งนี้การเจาะเลือดตรวจแอนติบอดีไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากในคนก็มีไวรัสโคโรนาเช่นกันที่มีการสร้างภูมิคุ้มกันปกป้องได้ ตนขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในฟาร์มหมูที่มีโรคระบาดสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ท้องเสียหรือไม่ หากพบก็ให้รีบนำอุจจาระไปพบแพทย์เพื่อส่งตรวจ ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่จะวิจัยต่อไปว่าเชื้อไวรัสพีอีดีนั้นสามารถติดต่อมาสู่คนได้หรือไม่

    "อาการท้องเสียของเจ้าหน้าที่ในห้องแล็บอาจติดเชื้อไวรัสพีอีดีจากตัวอย่างส่งตรวจ แต่ยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัดประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะคนที่ได้รับเชื้อไวรัสพีอีดีจะท้องเสียแค่ 1-2 ครั้ง แล้วร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกัน หากไม่สังเกตอาจไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อจากไวรัสตัวนี้ก็ได้" นักวิจัยกล่าว

    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ส่วนควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ข้อมูลว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการติดต่อของไวรัสพีอีดีจากหมูสู่คนแต่อย่างใด เพราะหากมีการระบาดสู่คนจริง สำนักปศุสัตว์ประจำท้องถิ่นต้องรายงานให้ส่วนกลางทราบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>โดย :ฟากฟ้าทะเลฝัน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพฤหัสบดี ที่ 27 มีนาคม 2551 เวลา 14:00 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://variety.teenee.com/science/7128.html
     
  10. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ผลตรวจ3เชื้อไวรัสฆ่าแมวอ่างทอง
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>สัตวแพทย์ มก. เผยสาเหตุแมวอ่างทองตาย จากเชื้อไวรัส 3 ชนิด ไข้หวัด ลำไส้อักเสบ และไวรัสหัด ยันไม่ติดต่อคน แนะผู้เลี้ยงควรฉีดวัคซีนป้องกัน

    วันที่ 28 มีนาคม ที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ ผศ.น.สพ.ดร.ธวัชชัย ศักดิ์ภู่อร่าม คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) แถลงข่าวผลการตรวจพิสูจน์ในห้องทดลอง ของซากแมวที่ติดโรคระบาดตายจำนวนมากที่ จ.อ่างทอง ว่า หลังเกิดเหตุ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มก. ได้นำตัวอย่างซากแมวจำนวน 9 ตัว มาตรวจพิสูจน์ในห้องทดลอง เพื่อหาผลการตายที่แท้จริงของโรคระบาดที่เกิดขึ้น โดยทำการพิสูจน์จากเลือด สารคัดหลั่งจากจมูก อุจจาระ รวมทั้งอวัยวะ และเนื้อเยื่อ ซึ่งจากอาการของแมวที่ได้รับรายงานว่าหลังติดเชื้อแมวมีอาการไข้สูง มีอาการของโรคหวัด
    นอกจากนี้ ยังพบอาการจำเพาะอื่นๆ เช่น บริเวณปากอักเสบ ผิวหนังบริเวณอุ้งเท้าอักเสบ ทั้งนี้จากผลการพิสูจน์ในห้องทดลองโดยการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อโรค ที่คาดว่าจะเป็น พบว่า แมวทั้งหมดติดเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดแมว ที่เกิดจากเชื้อแคลิซิไวรัส (Feline calicivirus) โดยผลการตรวจดีเอ็นเอ พบผลที่เป็นบวกของเชื้อชนิดนี้ในซากแมวทั้ง 9 ตัว นอกจากนี้ ยังพบว่ามีเชื้อโรคอื่นๆ ที่แมวติดเชื้อร่วมด้วย เช่น โรคลำไส้อักเสบในแมว หรือโรคไข้หัดแมว และเชื้อไวรัสบางตัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวที่ติดเชื้ออยู่แล้วเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าแมวที่ติดโรคระบาดตายจำนวนมากนั้น มีสาเหตุมาจากโรคไข้หวัดแมว ชนิดแคลิซิไวรัสดังกล่าว หรือเรียกว่า โรคหวัดปาก และเท้าอักเสบในแมว ทั้งสองโรคจะไม่แพร่เชื้อมายังมนุษย์ และไม่สามารถติดต่อไปยังสุนัข หรือสัตว์อื่นๆ ผู้ที่เลี้ยงแมวที่ติดเชื้ออยู่แล้ว หรือยังไม่ติดเชื้อก็ตาม อย่านำแมวไปปล่อยที่วัด เพราะจะกลายเป็นการนำเชื้อไปแพร่ให้แก่แมวตัวอื่นมากขึ้น ทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้นด้วย สาเหตุการตายของแมวส่วนใหญ่มาจากอาการขาดน้ำ และอาหาร ทั้งนี้ ควรนำแมวที่ติดเชื้อมาพบสัตวแพทย์เพื่อให้การรักษาและให้ยาบำรุง อาจจะทำให้แมวที่ติดเชื้อมีโอกาสรอดได้
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <big>2008-04-06 14:09:51 - Animal Attack - Japan</big>

    <code> GLIDE CODE: AA-20080406-16184-JPN
    Date & Time: 2008-04-06 14:09:51 [UTC]
    Area: Japan, , , Saga city

    Description:

    A swarm of bees has attacked half-marathon runners in south-western Japan, forcing 30 people to be rushed to hospital, rescuers said. During the race in Saga city, athletes were set upon by the bees as they ran near a river bank, according to one of the local fire departments which dispatched five ambulances because of the incident. "I have never experienced anything like this before," chief rescuer Tomomi Koyanagi said. "Many people complained of sickness although no one collapsed. "Some people reported they saw a swarm of bees which looked like a black cloud." "I heard hollow booming behind my head and soon felt pain. When I saw what it was, it was a honeybee," one of the runners told public broadcaster NHK. Another runner said bees got inside his shirt, leading to several bites on his neck and back. Some 3,200 runners took part in the race, organisers said.

    Number of Injured persons: 30 persons
    Damage level: Moderate (Level 2)

    ช่วงนี้มีข่าว ผึ้งต่อยคนเยอะมาก หลายๆ ประเทศ (แต่ไม่ได้เอามาลง)
    </code>
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <big>2008-04-24 04:13:42 - Biological Hazard - New Zealand</big>

    <code> GLIDE CODE: BH-20080424-16456-NZL
    Date & Time: 2008-04-24 04:13:42 [UTC]
    Area: New Zealand, , Baylys Beach, Near Dargaville

    Description:

    The Department of Conservation says it is rare for sea snakes to wash up in our waters. DOC is dealing with a poisonous yellow bellied sea snake found on Baylys Beach, near Dargaville. Its discovery prompted local police to cordon off the area. Although potentially lethal, the snakes are not considered aggressive. DOC biosecurity manager Joanne Perry says the snake has most likely come to New Zealand with currents from somewhere in the Pacific. She says it is not a very common occurrence as DOC might only get one or two reports a year. Ms Perry says few sea snakes survive long in New Zealand's cold waters. Biosecurity New Zealand says the snake is nothing to be concerned about. Spokeswoman Lesley Patston says the fact the snake got to New Zealand on its own means it is not a biosecurity issue.



    ศูนย์ coservation ของนิวซีแลนด์ บอกว่า ยากที่จะมีงูทะเลถูกพัดมาที่ทะเลเค้า ศูนย์ได้ดีลกับ งูทะเลท้องเหลือที่มีพิษ ที่พบบนหาด Baylys Beach, ใกล้ๆ กับ Dargaville การพบครั้งนี้ ทำให้ตำรวจท้องถิ่น ได้ล้อมทะเลส่วนนั้นไว้ ถึงแม้ว่างูชนิดนี้ดไม่ได้ดุก็ตาม

    หัวหน้าศูนย์กล่วว่า งูขนิดนี้อาจมาที่หาดของนิวซีแลนด์ด้วยกระแสน้ำจากทะเลแปซิฟิก เธอยังกล่าวอีกว่า ไม่ธรรมดาเลย ปกติเค้าจะได้รายงานว่ามีงูชนิดนี้ หนึ่งหรือสองหนต่อปี

    เค้ายังบอกว่ามีงูบางชนิดสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ในะทะเลนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นน้ำเย็น ยังบอกอีกว่า งูไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์อะไร (อืมม์)

    Damage level: Moderate (Level 2)</code>
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ลิงพร้อมใจกลับสวนสัตว์หลังกระเจิงหนีพายุ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">10 พฤษภาคม 2551 14:46 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="600"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="600"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"><center>ภาพจากแฟ้ม-- จ๋อตัวน้อยนี้เป็นหนึ่งในบรรดาลิงในฝูงที่หนีกระเจิงจากสวนสัตว์ย่างกุ้งในวันที่พายุนาร์กิสพัดกระหน่ำจนกรงแตก ลิงพวกนี้พร้อมใจกันกลับสวนสัตว์ในวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) หลังพายุผ่านไปเกือบ 1 สัปดาห์ </center></td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    ผู้จัดการออนไลน์-- ลิงน้อยหลายสิบตัวที่หนีออกจากสวนสัตว์ย่างกุ้งช่วงไซโคลนรนาร์กิสพัดกระน่ำเมืองหลวงเก่าของพม่าวันเสาร์ที่แล้ว ตอนนี้ลิงทั้งกลุ่มได้กลับเข้ากรงแล้ว หลังจากที่เดินเร่ร่อนหาอาหารไปตามซากปรักหักพังในตัวเมือง ผู้ดูแลสวนสัตว์กล่าว

    ลิงจำนวนมากหลบหนีอย่างรวดเร็ว เมื่อกรงของพวกมันถูกพายุทำลาย แต่เจ้าลิงพวกนี้ก็กลับไปที่สวนสัตว์อีกครั้งหลังจากที่พายุผ่านไป นอกจากนั้นสัตว์ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นอะไร แม้ว่ากรงสัตว์บางกรงได้ถูกทำลายเพราะแรงพายุ นายมี้นต์เนง (Myint Nyein) ผู้จัดการสวนสัตว์ย่างกุ้งกล่าว

    สำหรับสัตว์ที่มีอันตราย พวกสิงโต เสือ จระเข้และงู ซึ่งอยู่ในกรงที่แข็งแกร่งนั้น โชคดีที่สวนสัตว์นำใส่กรงได้ทันเวลา แต่มีกวางบางตัวได้รับบาดเจ็บจากต้นไม้ล้มทับ ซึ่งได้รับการรักษาแล้ว นายมี้นต์กล่าว

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"><center> เจ้าหน้าที่สวนสัตว์กล่าวว่ามีสัตว์พวกกวางจำนวนหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากเศษวัสดุที่ปลิวว่อนในวันที่พายุพัดกระหน่ำกรุงเก่า แต่สัตว์ทุกชนิดได้กินอาหารและมีน้ำดื่ม </center></td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"><center> ภาพจากแฟ้ม-- เคราะห์ดีที่ลายพาดกลอนสายพันธุ์เบงกอล ไม่หลุดไปด้วย เจ้าหน้าที่กล่าวว่าโชคดีที่นำสัตว์ดุร้ายพวกนี้เข้ากรงที่แข็งแรงได้ทันเวลาพายุมา </center></td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ขณะนี้สัตว์ต่างๆ มีสุขภาพดีแล้ว คาดว่าคงไม่เกิดโรคระบาด สวนสัตว์ย่างกุ้งยังมีอาหารในสต๊อกสำหรับสัตว์ทุกชนิดและมีน้ำสะอาดให้ด้วย นายมี้นต์กล่าว

    สำหรับชาวย่างกุ้งนั้นต่างต้องดิ้นรนหาอาหาร ส่วนใหญ่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำดื่มสะอาด ตั้งแต่พายุไซโคลนนาร์กีสถล่มในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ชาวเมืองต้องการอาหาร ราคาก็สูงขึ้น 2-3 เท่า ตั้งแต่พายุถล่ม และ ยากที่จะจัดหาข้าวให้เพียงพอ.</td></tr></tbody></table>
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    สนามแม่เหล็กโลกมีผลต่อสุขภาพ อาจส่งอิทธิพล ถึงขั้นฆ่าตัวตาย [12 พ.ค. 51 - 00:20]


    <table class="text" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="85%"> <tbody><tr> <td> นักวิทยาศาสตร์รัสเซียสงสัยว่า สนามแม่เหล็กโลกอาจมีอิทธิพลเหนือพฤติกรรมการฆ่าตัวตายของคนเรา
    นายโอเก ชุมิลอฟ แห่งสถานศึกษาปัญหานิเวศวิทยาจากอุตสาหกรรมในรัสเซีย ได้พบในการศึกษาสนามแม่เหล็กโลก ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2491-2540 ได้พบว่ามีช่วงสูงสุดในระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค. และ ก.ค.-ต.ค. และพบว่าสถิติการฆ่าตัวตายของประชาชนในเมืองคิรอฟสค์ ของรัสเซีย ได้เพิ่มสูงขึ้นผิดสังเกตในช่วงระหว่างเวลาเหล่านั้น
    การศึกษาหลายหน ก็เคยพบความเกี่ยวพันของสุขภาพของคนเรากับสนามแม่เหล็กโลก
    นายไมเคิล ไรครอฟท์ อดีตนายกสมาคมธรณีศาสตร์แห่งยุโรปก็เคยพบในการศึกษาทบทวนเมื่อปี พ.ศ.2549 ในเรื่องอนามัยของหัวใจและหลอดเลือด ว่าอาจมีความเป็นไปได้ในเรื่องความเกี่ยวพันและอิทธิพลระหว่างกันอยู่ในระดับสูง และระบุว่าธรณีศาสตร์อาจมีอิทธิพลเหนือประชาชนอยู่มากประมาณ 10-15%
    วารสาร “นิว ไซเอนติสต์” อันมีชื่อเสียงของอังกฤษ รายงานว่า นายไรครอฟท์กล่าวว่า “การศึกษาของคนอื่นด้วยข้อมูลคนละชุด ก็เคยพบสิ่งที่คล้ายคลึงกัน ส่อว่ามีบางอย่างผูกพันปัจจัยทั้งคู่ด้วยกัน”
    ก่อนหน้านี้เมื่อ พ.ศ. 2549 นักวิทยาศาสตร์เมืองจิงโจ้เคยศึกษาส่อว่า มีความเกี่ยวพันระหว่างอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดอยู่กับปฏิกิริยาของสนามแม่เหล็กโลก
    นักจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียแห่งสหรัฐฯ ดร.เคลลี โปสเตอร์ เคยแจ้งว่า ต่อมเมล็ดสนในสมอง ซึ่งมีหน้าที่ในการควบคุมพฤติกรรมที่เกิดเป็นจังหวะในรอบ 24 ชม. และการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน อ่อนไหวต่อสนามแม่เหล็ก.

    http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=89412
    </td> </tr> </tbody></table>
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เดี๋ยวว่างมาแปล

    Quake 'predicted' 5 years ago

    [FONT=Arial,Helvetica,sans-serif]By Zhu Zhe (China Daily)
    Updated: 2008-05-13 06:49[/FONT]

    [FONT=Arial,Helvetica,sans-serif] A seismologist warned more than five years ago that based on historical records and animal studies, a strong earthquake was likely in Sichuan.

    "Sichuan is virtually certain to experience an earthquake measuring above 7 in the next few years,"

    Chen Xuezhong, a senior researcher with the geophysics institute of State Seismological Bureau (SSB), wrote in a paper published in December 2002, in the periodical Recent Developments in World Seismology.

    The article is still available online.
    In the article, Chen said Sichuan stood a big chance of being hit by a huge temblor due to its geographic location, and records since 1800 showed the average interval between major quakes in the province was about 16 years.

    Since 1900, the area had experienced frequent big temblors, and records showed the longest interval between them was 19 years, with the average being 11 years, the paper said.

    "However, the area hasn't seen any earthquake measuring above 7 for 26 years, since a big temblor struck its Songpan and Pingwu counties in 1976," Chen wrote.

    "We must be prepared for a big earthquake after 2003."
    In a telephone interview with China Daily on Monday, Chen said many seismologists had noticed the pattern, which was why he did the study.

    "But the study was published as an academic paper so it didn't receive much attention," he said.

    "However, we can conclude that yesterday's earthquake is in line with the rule and it's natural."

    Zhang Guomin, another researcher with the SSB's earthquake science institute, also said on Monday that Wenchuan is prone to earthquakes as it is on a major fault line - the south-north fault line that runs from Yunnan to Ningxia.

    The county is also on a small fault line known as the Longmen mountain earthquake belt, he said.

    Zhang also warned residents in earthquake-affected of possible aftershocks, which could be as devastating as the main tremor.

    "A big earthquake can release most, but not all of the underground energy, and its aftershocks may cause natural disasters," he said.

    Aftershocks are generally weaker than the main quake, but buildings that have already been damaged are prone to collapse in an aftershock, he said.

    Meanwhile, ahead of Monday's deadly earthquake, many people reported seeing unusual animal behavior.

    On Saturday, local media reported that hundreds of thousands of toads had appeared on the streets of Manzhu, a city about 60 km southeast of Wenchuan.

    A resident surnamed Liu was quoted as saying he saw countless toads killed by passing vehicles as they crossed roads, and that he had never seen anything like it.

    Similarly, on Friday, people in Taizhou, Jiangsu province, also said they saw tens of thousands of toads on the city's streets, local media said.

    Experts have said animals can give advance notice of quakes, as they sense tremors before they happen.

    Unfortunately, no one heeded the toads' "warning".
    In response to questions from the public about the reptilian swarms, officials in both Mianzhu and Taizhou said there was nothing unusual about them.

    "The move is because of the change of weather," Shu Shi, director of the Mianzhu forestry bureau, was quoted as saying by local media.
    [/FONT]
    <!--enpproperty <date>2008-05-13 06:49:29.0</date><author>Zhu Zhe</author><title>Quake 'predicted' 5 years ago</title><keyword>Sichuan, earthquake</keyword><subtitle></subtitle><introtitle></introtitle><siteid>1</siteid><nodeid>1003989</nodeid><nodename>Reaction</nodename><nodesearchname>2@webnews</nodesearchname>/enpproperty--><!--enpcontent--> <!--/enpcontent-->
     
  16. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ได้อะไรบิ๊กๆจากทะเลทีไรเป็นเรื่องทุกที
    เค้าว่ากันว่าสัตว์ที่สามารถอยู่รอดมานานๆจนตัวโต
    มักมีสิ่งพิเศษในตัวเป็นเป็นความสามารถในการเอาตัวรอด
    เมื่อจะเกิดเหตุอันตรายมันรับรู้ได้จึงหนีออกมาจากที่ๆมันอยู่
    มีหลายครั้งที่เจอสัตว์ทะเลแปลกๆแล้วตามมาด้วยภัยทางทะเลในรูปแบบต่างๆ
    จำเค้ามาเล่าสู่กันฟัง
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ที่รวบรวมได้จากข่าว
    มีรายงานว่าช่วงก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเสฉวน
    มีการพบเห็นสัตว์และธรรมชาติส่งสัญญาณเตือนหลายรูปแบบมาก

    -คางคกออกมาเดินเพ่นพ่านกันเต็มถนน
    -นกยูงส่งเสียงร้องก่อนเกิดเหตุ 1 ชม.
    -เสือ-สิงโตในกรงเดินไปเดินมาอยู่ไม่ติดที่และคำรามบ่อยๆ
    -บ่อน้ำใต้ดินน้ำเหือดแห้งหายไปก่อนหน้า 1-2 อาทิตย์
    ฯลฯ
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** คนค้นพบว่า ****

    นก หนู งู...
    ทำท่า นอนตาย เมื่อพายุหมุนจะมาถึงตัว !!!
    เมื่อ พายุผ่านไป....ก็ลุกขึ้น ฟื้นพร้อมกัน !!!!

    ทรมาน... อยากไปเกิดใหม่
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ปลาดาวหนามระบาดทะเลอันดามัน
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1>กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจพบปลาดาวหนามระบาดขั้นรุนแรงบริเวณเกาะแอว และหมู่เกาะสิมิลัน รวมทั้งฝั่งอันดามัน ส่งทีมดำน้ำเร่งจับทำลาย เผยเป็นตัวทำลายปะการังธรรมชาติ


    นายนิพนธ์ พงศ์สุวรรณ นักวิชาการประมง 8 ว. สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันได้สำรวจพบการระบาดขั้นรุนแรงของปลาดาวมงกุฎหนาม หรือปลาดาวหนาม (Crown-of-thorns starfish) ศัตรูสำคัญที่ทำลายปะการังธรรมชาติ โดยเฉพาะปะการังเขากวาง ที่บริเวณเกาะแอว จ.ภูเก็ต และที่หมู่เกาะสิมิลันบริเวณเกาะ 5 รวมทั้งทางใต้ของเกาะ 9 จ.กระบี่ โดยทั้งสามแห่งพบการระบาดของปลาดาวหนามมากกว่า 30 ตัวในพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ขณะที่ปริมาณสมดุลในธรรมชาติควรมีเพียง 1 ตัวต่อ 100 ตารางเมตรเท่านั้น จึงถือเป็นการระบาดในระดับที่รุนแรงมาก ล่าสุดแนวปะการังในบริเวณดังกล่าวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงและเกิดความเสียหายแล้ว โดยเฉพาะที่เกาะแอวพบว่ามีปะการังที่มีชีวิตเหลือเพียง 30-40% เท่านั้น
     
  20. อิน

    อิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +36
    ปรากฎการณ์เมฆเรืองแสงเกิดขึ้นเหนือท้องฟ้าจีนก่อนเกิดเหตุธรณีพิบัติราว 30 นาที คาดว่าเป็นการเตือนเหตุก่อนเกิดบันทึกที่ 'ชานซี'

    [vdo]http://www.matichon.co.th/flvmovie/movies/451.flv[/vdo]

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=31362&catid=6
     

แชร์หน้านี้

Loading...