[IMG] วันเสาร์นี้ มีพระธรรม มานำจิต ให้มิ่งมิตร คิดพูดทำ ตามประสงค์ ให้ศีลธรรม นำใจ ให้ยืนยง ให้ได้ปลง ในจิตว่าง หนทางดี ให้สดชื่น ตื่นมา คราใดเล่า ให้ทุกข์เศร้า หลีกจาก ห่างพรากหนี ให้เพื่อนยา ได้สุขพรั่ง ดั่งนที ให้คุณมี แต่ความสุข ไร้ทุกข์ใจ
[IMG] สายฝนโปรย ปอนเปียก เรียกว่าชื้น ใจระรื่น ตื่นตา คราฟ้าใส เหมือนคลายทุกข์ ห่างโศรก วิโยคไป จิตสบาย ไม่ไหวสั่น วันฝนจาง อันฝนมา ฟ้าปิด เห็นมิดมืด แล้วกลายจืด สว่างตา คราฟ้าสาง โลกหนอโลก เวียนว่าย ไปตามทาง ไม่ระวัง จะสะดุด หยุดก้าวเดิน อันหนทาง ทุกย่างก้าว ยังยาวห่าง แม้นมัวแวะ กลางทาง ยิ่งห่างเหิน กลกิเลศ ละให้ไกล อย่าได้เพลิน เดี๋ยวจะเดิน ไปไกลหนอ ว่าหล่อไม่เตือน ฉุกฉัน วันเกิด เด้อ แม่หนู๋
ยินดีขอรับ ^^ ประโยชน์อีกอย่างนึงของการแบ่งวรรค คือเราจะรู้ว่าเราจะทิ้งน้ำหนักเสียงของประโยคตรงไหน ซึ่งมีผลทำให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อความได้ง่ายขึ้น ^^
[IMG] http://www.youtube.com/v/LSfq1N8vcuc...</param><embed <<< ว่าด้วยการเปรียนแปลง สภาวอากาศด้วย พลังงาน Scalar Energy Vortex
[IMG] เช้าวันนี้ มีพระธรรม อำนวยให้ จิตสบาย ให้กุศล ดลให้ท่าน กายอยู่ดี ใจมีสุข ทุกวี่วัน ทำการงาน ใดใด ได้ดีเอย
[IMG] ขอจงมี ใจจิต คิดเข้มแข็ง ให้มีแรง แห่งพระธรรม จำให้มั่น ปิดกิเลศ เหตุเศร้าหมอง ต้องให้ทัน ขอให้ท่าน มีพระธรรม ค้ำจุนตน
อ่า...^^ คุณเพียงนามกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ถ้าอ่านไม่คล่องปาก ซึ่งอาจเป็นเพราะภาษาที่เราไม่ชินให้อ่านไปก่อนหนึ่งรอบ หรือสองรอบ แล้วเราจะเห็นว่ามีข้อความที่ซ้ำๆเดิมๆ คล้ายๆกับบทสวดมนต์ พอเราอ่านผ่านไปสักพักจะรู้สึกคล่องขึ้น ถ้าไม่ได้จริงๆไม่รู้ว่าจะหายใจตรงไหน หรือวรรคตรงไหน ลองทำแบบนี้ดูนะครับ รอบแรกที่อ่านไว้แล้ว ให้เราเคาะวรรคเอาไว้ อาจทำตัวหนังสือให้สีแตกต่างกันในแต่ละวรรค จะได้สะดวกในการประมาณลมในปอดตัวเอง เวลาบันทึกเสียงถ้าอ่านผิด ก็อ่านอันที่ถูกต่อไปเลย จะได้ไม่ต้องบันทึกใหม่บ่อยๆ เมื่ออ่านจบแล้ว จึงตัดข้อความที่อ่านผิดนั้นออก น้ำเสียงและอารมณ์จะได้ต่อเนื่อง ถ้ามาอ่านซ่อมทีหลัง ความหนักเบาอาจจะไม่เท่ากันครับ ^^ ลองดูข้อความย่อหน้าข้างบนนะครับที่ผมทำตัวหนังสือสีแดงสลับสีดำเอาไว้ ทำแบบนี้จะสะดวกเวลาอ่านบันทึก การพูด หรือการอ่าน อาจไม่ต้องแบ่งวรรคให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยมากนัก ถ้าแบบนั้นลมในปอดเราอาจจะไม่พอ บางครั้งอ่านไปสามสี่คำก็วรรคได้แล้ว เพื่อให้การอ่านมีจังหวะจะโคน และมีน้ำหนักชวนฟัง อ่านให้ชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงธรรมดาของเราที่ไม่ต้องพยายามบังคับให้เสียงสวยหรือเสียงหล่อ มีคนบอกผมว่าเสียงที่ดีที่สุดคือเสียงธรรมชาติของเรานี่เอง การอ่านเร็วเกินไปอาจไม่เหมาะกับงานนี้ เพราะเสียงของเราจะกระชากความรู้สึกของผู้ฟังทำให้ไม่มีสมาธิในการฟัง เช่นกันถ้าเราพยายามอ่านให้มันเยิ่นเย้อหรือยานคางเกินไป ก็อาจทำให้น่าเบื่อได้ เอาแค่ช้าพอให้ชัดถ้อยชัดคำ มีน้ำหนัก สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือวิญญาณของตัวละครที่เรากำลังสวมอยู่ เหมือนการแสดงเลยครับ แต่เนื่องจากเป็นการอ่านพระไตรไม่ใช่การพากย์หนังจึงจำเป็นต้องใช้เสียงเดียว เลือกเสียงที่มีความสุขที่สุดของเรานั่นแหละครับ นึกถึงผู้ฟังที่เป็นเด็กๆ ตาบอด เราเป็นพี่เลี้ยงอ่านพระธรรมให้ฟัง แล้วเสียงของคุณก็จะกลายเป็นเสียงพี่เลี้ยงใจดีขึ้นมาทันที ^^