“สสส.”เดินหน้าสนับสนุนพระสงฆ์ เป็นผู้นำสังคม สร้างสังคมสุขภาวะช่วยเลิกสูบบุหรี่

พระปัญญา จิตตปัญโญ, ดร. เจ้าอาวาสวัดโคกสำเริง ตำบลมะกอกหวาน อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ผู้ประสานงานเครือข่ายสังฆะเพื่อสังคมในภาคกลาง กล่าวถึงการขับเคลื่อนให้พระสงฆ์เป็นแกนในการลดปัจจัยเสี่ยงว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีพระสงฆ์ในอำเภอโคกเจริญ อาพาธและมรณภาพกระทันหลายรูป ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีพฤติกรรมสูบบุหรี่เกินขนาด จึงเกิดแรงบันดาลใจในการดำเนินการโครงการวัดปลอดบุหรี่ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์มีความตระหนักในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าคณะอำเภอให้วัดเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ และลดการสูบบุหรี่ในพระภิกษุสงฆ์ให้มากที่สุด



พร้อมกันนี้ ได้บูรณาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ในการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เช่น “ชุนชนคนสู้เหล้า” “วัดปลอดบุหรี่ เหล้า พนัน” รวมทั้งเครือข่ายของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการให้สุขภาวะของพระสงฆ์ดีขึ้น จึงได้ประสานไปยังพื้นที่ที่สนใจในเรื่องนี้ 2 อำเภอ ได้แก่ วัดในอำเภอโคกเจริญ 45 แห่ง และวัดในอำเภอพัฒนนิคม 75 แห่ง ในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้วัดเป็นต้นแบบการปลอดบุหรี่ เหล้า พนัน โดยกลุ่มเป้าหมายที่ดำเนินการ คือ แกนนำพระสงฆ์ ตั้งแต่เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าอาวาสตำบล เป็นแกนนำหลัก ในการขับเคลื่อนงาน นอกจากนี้ ยังมีเครือข่าย “บวร” คือ “บ้าน วัด และราชการ” เพื่อให้เกิดกลไกในการดูแลร่วมกัน โดยจากผลการสำรวจการสูบบุหรี่ของพระสงฆ์ในพื้นที่อำเภอโคกเจริญ พบพระสงฆ์สูบบุหรี่ 29 รูป ไม่เคยสูบบุหรี่ ร้อยละ 20 เคยสูบแต่เลิกแล้ว ร้อยละ 27 และยังมีพฤติกรรมสูบบุหรี่อยู่ร้อยละ 51



ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตั้งแต่ระดับอำเภอ 1 คณะ ระดับตำบล 5 คณะ สร้างความเข้าใจกับพระสงฆ์ด้วยกัน พร้อมได้กำหนดพื้นที่สร้างสรรค์ คือ กำหนดให้วัดในอำเภอโคกเจริญเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ทั้งอำเภอ โดยจัดสภาพแวดล้อมของวัดให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ โดยติดป้ายวัดปลอดบุหรี่ และยังได้ดำเนินโครงการชวนพระสงฆ์ด้วยกันเลิกบุหรี่ อบรวมสร้างความเข้าใจ พร้อมประกาศเป็นนโยบาย ให้วัดในอำเภอโคกเจริญจะเป็นเขตพื้นที่ปลอดบุหรี่ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี โดยการดำเนินงานที่ผ่านมา มีพระสงฆ์และสามเณรรุ่นใหม่เข้าร่วมโครงการมากขึ้น ทำให้วัดกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชน มีวัดที่เต็มใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น เพราะเห็นถึงพิษภัยของบุหรี่ พระสงฆ์มีความตระหนัก และพยายามลด ละ เลิกบุหรี่ ซึ่งถือว่าการทำงานในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย จากความร่วมมือของภาคส่วน และในอนาคตจะมีการขยายไปในพื้นที่อื่น ๆ โดยนำความสำเร็จในเลิกบุหรี่ของพระสงฆ์ในจังหวัดลพบุรีมาเป็นต้นแบบให้กับภาคอื่น ๆ ต่อไป



“พระสงฆ์ถือเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชน ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตทางสังคมและทางสุขภาพ พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำหลักในการต่อสู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา และประคับประคองให้กำลังใจกับชาวบ้านในพื้นที่” พระปัญญา กล่าวย้ำ

ขณะที่ พระครูสุวัฒน์จันทโชติ เจ้าคณะอำเภอโคกเจริญ เจ้าอาวาสวัดสามัคคีประชาราม จังหวัดลพบุรี กล่าวว่า วัดปลอดบุหรี่เป็นนโยบายสำคัญของคณะสงฆ์อำเภอโคกเจริญ เพราะส่วนหนึ่งเป็นกฎหมายที่จะต้องมีการช่วยกันรณรงค์ โดยอาตมาเป็นผู้ให้นโยบายในการประชุมเจ้าคณะตำบล รวมถึงสนับสนุนให้รองเจ้าคณะอำเภอเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อทำความเข้าใจในโครงการนี้ และขยายไปสู่ในประชาชน ให้เกิดความร่วมมือระหว่าง บ้าน วัด และราชการ ทำให้เกิดการเข้าใจในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย ซึ่งหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือแก้ไขทันที



สิ่งที่อยากฝากไปยังคนที่สูบบุหรี่ คือ ความตั้งใจในการสูบบุหรี่ ทุกคนมีกำลังใจไม่เหมือนกัน แต่ทางวัดมีหน้าที่หลัก คือ การพูดให้ทุกคนเห็นถึงคุณค่า และประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ส่วนการปฎิบัติขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล โดยเบื้องต้นทางวัดได้ปรับสภาพแวดล้อมภายในวัด ติดป้ายรณรงค์การงดสูบบุหรี่ภายในวัด พร้อมนำพระสงฆ์ที่สามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ มาให้ความรู้ให้พระสงฆ์รูปอื่น ๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับทุกคนในพื้นที่หันมาเลิกสูบบุรี่ เพื่อสุขภาพของตนเอง

ด้านพระครูสิริธรรมประยุต เจ้าอาวาสวัดหัวเขาสามัคคี รองเจ้าคณะอำเภอโคกเจริญ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมาบวชเป็นพระเคยสูบบุหรี่มา 15 ปี เนื่องจากมีความรู้สึก อยากรู้ อยากลอง พยายามเลิกหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เมื่อเห็นคนอื่นสูบบุหรี่ ทำให้กลับมาสูบอีก แต่หลังจากได้บวชเป็นพระ จึงตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่อีกครั้ง ซึ่งตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เลิกสูบมาได้ 35 ปีแล้ว จึงเชิญชวนพระสงฆ์รูปอื่น ๆ และชาวบ้าน มาเลิกสูบบุหรี่ เพราะเมื่อตนเองทำได้ คนอื่นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ในความตั้งใจที่จะเลิกได้สำเร็จ



“อยากฝากไปถึงทุกคนคนที่สูบบุหรี่ว่า เงินที่ซื้อบุหรี่ สามารถนำมาทำประโยชน์ได้อีกมาก หรือแม้กระทั่งซื้อกับข้าวให้กับครอบครัว ก็น่าจะเป็นเรื่องดีกว่า เพราะสามารถกินได้ทั้งครอบครัว” พระครูสิริธรรมประยุต กล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณที่มา
https://siamrath.co.th/n/323974