ในนี้มีใครใช้สมาธิใช้งานได้ไหมครับ(คือนึกปั้บได้เลย) แล้วทําไงครับ

คือพระอรหันต์ อย่างพระโมคคัลานะ ตอนท่านไปปราบ พญานาค ทิฐิ พญานานคเลยนะครับ (ลองคิดดูตัวใหญ่พ้นไฟ) แล้วเร็วขนาดไหนคิดดู พระโมคคัลานะ เข้ากสิน ปราบ เลย คําถามคือทําไง

คือผมอยาก เก่ง เข้าฌาน นึกปุ้บได้ปั้บ ไปต้องวอร์มอัพ แบบไปเลย

ถ้าทรงฌาน ผมจะเล่นคาถาใดๆก็สบายๆ เจริญกสินนี่ สบายๆเลย เอากสินลม ไปไหนก็ได้ (กะจะชาตินี้ถ้าอายุ 20-30 กะจะ สักช่วงนี้เจริญกสิน กะจะไปสวรรค์เป็นๆสักครั้งอยากเห็นเป็นไง) เอากสินดินกับกสินสีเหลือง ทําทองเองเลย (อันนี้ได้ยินมา แต่ต้องพิสูจน์ดูว่าได้ไหม)

แต่ที่ไหนๆ ผมจะตัดสังโยชน์ ให้ขาด

 

คุณตัองฝึกฝนกรรมฐาน ฝึกการนั่งสมาธิฝึกพื้นฐานให้ได้จริงๆ ก่อน การฝึกอะไรก็ต้องมีครูอาจารย์คอยสอนชี้แนะแก้ไขให้คะ พอฝึกฝนได้ก็ไม่ยากคะ แตตต่ครูอาจารย์ที่จะสอนให้ก็ต้องเก่งจริงๆ ไม่มุ่งหวังลาภสักการะ หรืออยากลอง อยากทดสอบวิชาตนเอง และผู้ที่จะฝึกฝนเรียนรู้ก็อย่าเอาจิตปรุงแต่ง คะ บุญรักษานะคะ

 

อยากเก่งก็ทำไปเรื่อยๆครับ
เท่าที่ผมเฝ้าดูบอร์ดนี้ คนที่เก่งในด้านฌานสมาบัติ เลิกเล่นไปหมดแล้วครับ

 

ผัสสะกับสิ่งใด ๆ แล้วไม่ปรุงแต่ง ....พอใจแล้วครับ

 

บรรลุไปแล้ว ก็เลิก ...หากยังไม่เลิก คือ ยังไม่บรรลุ ฮ่า ๆ ผมด้วยครับ

 

นิทานแบบนี้ ยังเชื่ออีกหรือ

 

หนึ่งคือฝันเอา
สองคือไม่ฝันแต่ลืมตา
อย่าลืมลมหายใจ

สมาธิใช้กับเวทนา
อย่าเวทนาน
เดี๋ยวอสงขัย

ปัญญาใช้กับจิต

อย่าลืมสติใช้กับผัสสะ
ผัสสะไหน
กายผัสสะ

ทำอะไรให้มีสติหรือไม่อย่างไรขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

เรื่องหลอกเดก ในบอร์นี้ให้ร้อยเปอร์เซนไม่มีใครทำใด้ท่าใด้ช่วยทำไห้เวบบอร์ดนี้เปนสีทองให้หน่อย

 

ระวังนะครับ คนที่บอกว่าหลอกเด็ก.... ปฎิบัติรึเปล่าครับ แล้วปฎิบัติติดต่อกันไหม หรือ ปฎิบัติทิ้งๆขวาง หรือไม่ปฎิบัติเลย ... แล้วมาบอกว่าหลอก เหมือนกับคนฝึกสมาธิ เป็นปีๆบอกว่า ศาสนาพุทธไม่เห็นมีไร ทําแล้วไม่ได้ไร (แต่จริงๆ ทําไม่จริงทําเล่นแล้วจะได้ดียังไง)
เอาง่ายๆ นิวรณ์ยังกวนใจเป็นปกติไหม (สําหรับผม ผมนักปฎิบัติขั้นเลว กิเลสเต็มหัวยอมรับ ไม่ใช่คนดีอะไร)

 

ฝึกให้มี สติ ก็ฝึกไป ถ้าฝึกแล้ว สติแตก มันจะไม่ดี

 

..................นี่คือ อริยปัญญาขันธิ์ อันว่าด้วย----คำของพระอานนท์---ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นใหวอย่างนี้แล้ว เธอ ชักนำจิตไปเพื่อญานทัสนะ---(และ)----ชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ----(และ)----ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใสไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยนควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นใหวเช่นนี้แล้ว เธอ ชักนำจิตไป เพื่อ อิทธิวิธี(เครื่องแสดงฤทธิื)----(และ)---เพื่อโสตธาตุอันเป็นทิพย์------เพื่อญานกำหนดรู้ใจผู้อื่น----เพื่อ ปุพเพนิวาสานุสติญาน(ระลึกชาติ)-----เพื่อ ญานเครื่องรู้ จุติและอุปปาติกะ------------------เพื่อ อาสวักขยญาน ย่อมรู้ตามที่เป็นจริงว่า นี่ทุกข์ นี่เหตุแห่งทุกข์ นี่ความดับไม่เหลือของทุกข์ และนี่คือทางดับไม่เหลือของทุกข์ (และเรื่องเกี่ยวกับอาสวะที้งหลาย) สิกขาสาม มีศิลขันธิ์ สมาธิขันธิ์ ปัญญาขันธิ์................การภาวนาเรื่มต้นที่ เจริญกุศล ละ อกุศล.....จึงขึ้นต้นที่ ...ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส.....ถ้ายัง เล่นเป็นไอ้มดแดง คิดดูสิ ว่า จะทำได้ใหม?

 

ไฟกำลังแรง แต่จะทนนาน อนาคตไม่แน่ ^^

 

อ่อนี่จริงครับ พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ตรัส สิ่งเดี่ยวคือ ละความชั่วทั้งหมด ทําความดี ทําจิตใจให้บริสุทธิ์ พระพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ตรัสเหมือนกันหมด

คือผมคิดว่า กรรมฐานของพระพุทธเจ้า ผมอายุ16 เจริญอานาปนุสติ ถ้าทรงฌาน4 ขึ้นมา ถ้าทรงฌานอานาปานุสติ นี่ กรรมฐานกสิน ทุกกองไม่เกินปีหนึ่ง ทรงได้ (ดีไม่ดีจะเข้าจะออกเก่งโคตร) แต่ ความจริงจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ก็ยังมีโอกาศตกนรก ถ้า ไม่เป็นพระอริยเจ้า จะเป็นพระอรหันต์อาศัยฌาน4 ก็ง่ายนิดเดียว ( ฌานนี่มันกดกิเลสจริงๆ เจริญวิปัสสานา นี่เข้าไปกิเลสตาย) แต่มันยากคือต้องเอาจริง ทําเล่นๆครึ่งกลางๆไม่ได้ (แต่ผมกะทําตอนนอน กับตอนว่างๆสบายๆ) แต่ผู้ทรงฌาน คงไม่ว่างมาคุยเวปนี้แน่ คงนั่งสมาธิจิตเป็นสุข เวปนี้บางคอมเม้น อ่านไปก็ฟุ้งซ่านโกรธ ทําให้เสียสมาธิ ก็มี

ขอบคุณครับที่เตือน สติแตกอันนี้อาการมันเป็นไงครับ ? ถ้าปฎิบัติสายกลาง มรรคมีองค์8 (ขอเน้น สัมมาทิฐิ) ยังไงก็ มีแต่เจริญอย่างเดียวแน่ๆ (แต่ยากตรงที่ชีวิตฆราวาส จะปฎิบัติจริงๆ แบบพระไม่ได้ เพราะหน้าที่การงานไรพวกนี้บ้างหรือต้องเจอพบพวกคนไรพวกนี้ แต่ เวลา) ถ้าพระ(พระดีๆ) อะไรคือตัวถ่วงของการปฎิบัติธรรม ตัดหมด อันนี้ น่านับถือ ควรจะปฎิบัติ

แต่ผมกลัวบวชพระ สมมุติ จิตมืด(หน้ามืด) โดนสึกออก แล้วอดมรรคผลนิพพานไป กลัวผมจะลง อเวจี กลัวตรงนี้ กะจะเป็นพระอริยเจ้า (ถ้าจะดีพระอนาคามี จะดีมาก) ออกบวชนี่สบายๆ

 

ไม่ต้องไป รอบวช แล้วทำผิด แล้ว จะตก นรกอเวจี หรอก

เอาแค่ ตอนนี้ เข้าใจธรรมปฏิบัติผิด กล่าวผิดๆ แค่ กระทู้สองกระทู้
เท่านี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็น เหตุปัจจัยให้ ตกนรก

แล้ว คนนอกศาสนา เวลา เขาปรามาส พระพุทธศาสนา
กับ คนที่ออกปากว่าเป็นคนในศาสนา แล้ว ปรามาสัทธรรม
ถามว่า ใครตกนรกมากกว่ากัน

คนนอกศาสนาจะตกนรก สมมติ 1 หน่วย คนในศาสนาที่
ปรามาสธรรมะ เพราะ เข้าใจผิด จะตกนรกเป็น แสนเป็น
ล้านเท่าของคนนอกศาสนา

แล้ว คุณ เสียสติ เข้าใจธรรมผิด ตรงไหน

ก็ตรงที่ไปปรารภว่า " อานาปานสติ เป็นเรื่อง การทรงฌาณ "
อันนี้ โดนหลอก โดนธรรมอันเลว หลอกให้เข้าใจผิด ไขว้เขว

อานาปานสตินั้น เป็นเรื่องของ การปฏิบัตที่มีจิตไม่ห่างจาก ฌาณ

คำว่า มีจิตที่ไม่ห่างจาก ฌาณ มันไม่ได้แปลว่า ทรงฌาณ มันคน
ละเรื่อง เหมือน ฟ้า กับ เหวนรก

อานาปานสติ หากฝึกอย่างถูกต้อง จิตจะไม่ซ่องเสพความเป็นภพ
แม้นว่า อานาปานสติเมื่อปฏิบัตแล้วจะให้ ฌาณได้ครบ8 หรือ 9 ก็ตาม

แต่ความที่ ภพ ยังไงก็ต้องเกิด อานาปานสติ จึงเป็นตัวซักฟอก ทำ
ให้จิตที่ปักในภพ ที่เป็น ฌาณจิต ทั้งหลาย ถูกตีแผ่ว่ามันเป็นตัวทุกข์
เพราะ มันหลอกให้เราเข้าใจได้ตลอดว่า สุขมาก แบบ เฮียๆ!!

พระพุทธองค์ ตอนที่สำเร็จฌาณ8 จากการเรียนจาก ฤาษี ดาบส ท่าน
ไม่โง่ ท่านเห็นทันทีว่า มันเป็น ภพ ฤาษี ดาบษ นั้น จึงหลอกให้
ท่านพอใจ แล้วหยุดอยู่เพียงแค่ ฌาณสุขมาก ไม่ได้ แหกตา คนที่
มีธรรม มีทิฏฐิ มีสติ ถูกต้องไม่ได้

***************

อนึ่ง ความที่ ฤาษี ดาบส ที่สอน ฌาณ8 ให้กับ พระพุทธองค์นั้น
เมื่อ พระพุทธองค์ออกปากที่จะขอไปแสวงหาธรรมอื่นที่ยิ่งกว่า
ท่าน ก็ไม่ได้รั้งไว้

ความที่ท่านไม่รั้งใครไว้ให้อยู่ใต้อานัติ ไม่ได้รั้งไว้เพื่อเรียกเอา
ศรัทธา เงินทอง หรือ ค่ากัณฑ์เทศน์ แต่ เข้าอกเข้าใจในการ
จากไป ที่ศิษย์จะได้ ดีกว่าตน ตรงนี้ จึงเป็นเรื่องของบุคคลที่
เป็น ทักขิไนย สามารถกราบไหว้ได้

ซึ่งจะต่างกันมากกับ ฤาษี ดาบศ ที่ เรียกร้องหา เครื่องกัณฑ์เทศน์
หรือ ศรัทธา หรือ การอยู่ภายใต้การครอบงำ


******************

กรณีที่ คนที่สำเร็จอรหันต์แล้ว เราจะเห็นว่า วิหารธรรมส่วนใหญ่
ที่พระอรหันต์จะปฏิบัติต่อ เนืองๆ มากกว่า วิหารธรรมชนิดอื่น ก็
คือ อานาปานสติ

เพราะ แม้แต่ การทรงอารมณ์นิพพาน ก็ต้อง ละ ออกด้วยการใช้
อานาปานสติ มาเป็นเครื่องขัดเกลา

 

คุณเจ้าของกะทู้ น่าจะทำความเข้าใจเรื่อง ของเก่าสักหน่อย เพราะเรื่องที่จะไปดูสวรรค์ แปรวัตถุเป็นทอง อภิญญา รึอะไรก็แล้วแต่ที่ยังข้องกับภพนี่ ถ้าไม่มีของเก่า ก็ทำไปเถอะ สักสี่ห้าแสนชาติถึงจะมีหน่อยๆ อย่างคุณแม่บุณเรือนนี่ ท่านไม่สำเร็จอภิญญาข้อหูทิพย์(ท่านกล่่าวเอง)เพราะท่านไม่มีของเก่า เป็นต้น ... ให้คุณรู้ลงกับปัจจุบัน ทำปัจจุบันตรงหน้า ด้วยความรู้สึกตัว แล้วเรื่องพวกนี้ถ้ามันมีของเก่า มันก็จะเป็นไปตามเหตุที่คุณเคยสร้างเอง ไม่ต้องห่วง.

 

เคยทำได้ค่ะ ตอนนั้นอยู่ ม.3 เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเรียนนะคะ
เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วนะค่ะ แต่รู้วิธีการปฏิบัติ
คุณอยากฟังหรือเปล่าหละคะ ต้องถามก่อน เดี๋ยวมีใครเหล่

 

อะฮ้า.... แค่สมาธิ จะมีฤทธิ์ อะไรได้ สมาธิเป็นเพียงเครื่องประกอบชิ้นหนึ่งในการประกอบกิจกรรมต่างๆเท่านั้น มนุษย์ทุกคน(ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์)ล้วนมีสมาธิโดยสภาพสิ่งแวดล้อมเป็นตัวขัดเกลา โดยกรรมพันธ์เป็นปัจจัย จะไปนั่งส้วมก็ยังต้องมีสมาธิ จะทำอะไรก็ต้องมีสมาธิเป็นเครื่องประกอบทั้งนั้น ตัวสมาธิ เพียงตัวเดียวไม่สามารถทำให้คุณทำอะไรได้อย่างใจนึกดอกขอรับ ลองคิดพิจารณาดู ที่ข้าพเจ้ายกตัวอย่างว่า จะไปนั่งส้วมยังต้องมีสมาธิ ก่อนจะไปส้วม มีเหตุ หรือมีอะไรที่ทำให้ต้องไปส้วม อิ อิ อิ อิ เท่านี้แหละขอรับอ่านแล้วพิจารณาให้ดี อย่าเพ้อเจ้อเข้าใจผิดคิดว่า สมาธิอย่างเดียวจะทำให้มีฤทธิ์มีเดช ฝันไปเถอะ.....

 

กราบเรียนท่านผู้ที่ว่าท่านทรงปฐมฌาน

ยิ่งรู้ยิ่งอยาก ยิ่งอยากยิ่งไม่รู้ ยิ่งรีบยิ่งช้า ยิ่งชักช้า กลับยิ่งช้า. . .

 

เอ่อ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไรหรอกนะครับแต่ผมความคิดผมนะ ศาสนาพุทธดีที่สุด(อันนี้ไม่ได้ยกย่องแต่เห็นตามความจริง) ศาสนาอื่นตรงที่ อริยสัจสี่ ศาสดาคนอื่นก็ดีเก่งจริงรู้จริง (แต่รู้ไม่ครบ) อย่างศาสนาพราหม์ สอนฌานสมาบัติ โยคีเก่งๆเยอะแยะไป แต่ยังรู้ไม่ครบ เท่าพระพุทธเจ้าของเรา

แล้วผมก็บอกไปแล้วว่า ฌานถึงมันจะสุขจริง ถ้าพิจารณาไป ก็ความทุกข์หยาบๆ แล้วผมเสียสติตรงไหน ? ผมคิดว่า การทรงฌานในอานาปานุสติ คือ รู้ลมเป็นปกติ เข้าฌานออกฌานได้ วสีอ่าครับพี่ แล้วผมก็ไม่เคยบอกว่า อานาปานุสติ คือการทรงฌาน แต่ถ้าผมทรงฌานในอานาปนุสติ (คือชินดูลมหายใจรู้ลมเป็นปกติ ถ้าจะดี ทรงฌาน4 แล้ววสีด้วย)

จริงๆผมก็ขี้เกียจเขียนมาก รําคาญ เถียงไปไม่มีประโยชน์เสียเวลา ผมมาปฎิบัติดีกว่า เข้าใจเอง ไม่ต้องให้ใครยืนยัน ดีไม่ดีคนที่ตอบ ถ้าไม่ใช้นักปฎิบัติ ทรงตํารานิวรณ์กินใจเป็นปกติ มาแล้วผมก็ซวย!เลย

ปล.การติดในฌาน เป็นสังโยชน์อันหนึ่งเหมือนกัน ผมอ่านมาให้คิดว่า ฌานสมาบัติที่ได้ คือบรรใดไปแดนพระนิพพาน อย่าติด ถ้าติดก็เป็นพรหม ยังต้องเกิดอยู่ดี จริงไหม ?

 

คุณมาขอคำแนะนำ แล้วกลับมาบอกว่าขี้เกียจเขียน รำคาญ เถียงไปไม่มีประโยชน์ อะไรทำนองนี้ ทั้งๆที่ปาวๆขอคำแนะนำ นี่กิเลสล้วนๆเลยนะ ไม่มีธรรมเลย คิดว่าตัวเองปฏิบัติธรรมอยู่ จริงๆโดนกิเลสยำอยู่ ติดดี ติดอยาก ไม่ต่างกับคนที่ไม่เคยภาวนาเลย ...ควรให้ผู้รู้จริงช่วยสอน หรือไม่ก็ไปพบครูบาอาจารย์บ้าง เดินเรือแบบไม่มีต้นหน มีแต่แผนที่ แรกๆก็วนอยู่กับที่หล่ะครับ.