ใครอยากเรียนสะกดจิตเข้ามา!!!

ใครอยู่แถวๆ พิษณุโลกแล้วอยากเรียนสะกดจิตกับอาจารย์กาจพลเชิญเข้ามาค่ะ PM มาหาเราก็ได้ จะเปิดสอนเมื่อรวมตัวกันได้ 5 คนขึ้นไปค่ะ
คือเราอยากเรียนสะกดจิตอยู่แล้ว แล้วพอไปอ่านรีวิวอาจารย์ก็ยิ่งทึ่งค่ะ เลยโทรติดต่ออาจารย์ว่าอยากเรียน อาจารย์ก็กรุณาจะมาสอนให้ค่ะ ถ้าจับกลุ่มกันได้ครบพอดี การเรียนการสอนน่าจะมีขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ค่ะ 2 วัน ติดต่อกันมาเยอะๆนะค้าาา


ข้างล่างเป็น review อาจารย์นะคะ จากคุณรักไร้พ่ายแห่ง yantip
สั่งจิตพิชิตกรรม ดูเบอร์มือถือกระพือทรัพย์ กับ อาจารย์ "ดร.กาจพล" นักพลังจิตญาณทิพย์ - ห้องญาณทิพย์ - หน้าแรก ญาณทิพย์ - Powered by Discuz!

สั่งจิตพิชิตกรรม ดูเบอร์มือถือกระพือทรัพย์ กับ อาจารย์ "ดร.กาจพล" นักพลังจิตญาณทิพย์
คนมีญาณที่ผมได้นำเสนอผ่านเว็บญาณทิพย์ไปหลายๆท่านนั้นต่างมีวิธีการดูกรรม ดูดวง ที่แตกต่างกันไป แต่แทบจะทุกคนมีแนวทาง
แก้ไขปัญหาชีวิตที่คล้ายๆกัน นั่นคือการ แนะนำให้คนนั้นไปทำบุญด้วยวิธีการต่างๆทั้ง ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
และอุทิศบุญให้ผู้เป็นเจ้าหนี้กรรม
แนวทางนี้ เป็นวิถีทางที่ถูกต้องและได้รับการยอมรับได้มากกว่าแนวทางอื่น

แต่คนมีญาณที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ มีวิธีการตรวจกรรมที่คล้ายกับ อ.ท่านอื่นๆในเว็บนี้ แต่ที่ต่างกันคือ การแก้ไขปัญหาชีวิตนั้น
ไม่ใช่แค่การแนะนำให้ไปทำบุญ อย่างเดียว แต่ อ.ท่านนี้ใช้วิธีการของวิทยาศาสตร์ทางจิตหลายๆแขนงมาร่วมแก้ไขด้วย
ไม่ว่าจะเป็น การสะกดจิต Hypnosis
พลังจักรวาล หรือ
หลักแห่ง Mathology เลขศาสตร์ผงาดฟ้า ซึ่งอาจะเป็นสิ่งใหม่ และชาวญาณทิพย์อาจไม่คุ้นเคยนัก แต่ขอบอกว่า
ผลที่ได้นั้นน่าทึ่งอย่างยิ่ง

เรื่องราวของ อ.คนนี้ขอบอกว่า น่าสนใจและไม่ธรรมดาทั้งทางโลกและทางธรรม โดยศาสตร์ทางจิตของแกนั้น
น่าศึกษาเรียนรู้อย่างยิ่ง

ขอแนะนำให้รู้จักกับ

"อ.ดร.กาจพล"




อ.กาจพล มีดีกรีเป็นถึง ด๊อกเตอร์ จบปริญญาเอก ปัจจุบันทำงานรับราชการ และเป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาลัย
และยังเป็นที่ปรึกษากับหน่วยงานทหารต่างๆ และเป็นกุนซื่อด้านการลงทุน ให้กับนุกธุรกิจ นักเล่นหุ้น

ชีวิตทางโลกของ อ.กาจพล ถือว่ามีเกียรติอย่างยิ่งและมีต้นทุนทางสังคมที่สูงมาก

แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ในอีกมุมหนึ่งของชีวิต อ.กาจพล จะต้องมาข้องแวะ เกี่ยวเนื่องโยงใยกับเรื่องจิตวิญญาณ
เรื่องกรรม และที่สำคัญ เท้าข้างหนึ่งต้องมาย่างกรายเดินทางสายนี้ แต่ไม่ใช่เป็นการเดินด้วยเท้า แต่เดินด้วยใจ
ใจที่ปารถนาจะนำวิชาความรู้ และศาสตร์แขนงต่างๆที่แกค้นพบมาเป็นฉนวนจุดประกายไฟแห่งความสว่างนำทางผู้คน
สู่ชีวิตที่ดีกว่าในกรอบของศีลธรรม และพุทธธรรม ภายใต้วิถีทางแห่งจิตวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยหลักการแห่งวิทยาศาสตร์ทางจิต
และศาสตร์แห่งการพยากรณ์ชีวิตรูปแบบใหม่ที่ลึกล้ำ น่าทึ่งอย่างยิ่ง

อีกทั้ง อ.กาจพล ยังช่วยคนโดยไม่กำหนดค่าครู ค่าดู แล้วแต่จะให้ตามกำลังศรัทธา อ.ถือว่าการได้ชี้ทางสว่างให้ผู้อื่นออกมุมทุกข์ที่มืดมนได้
นั่นคือ กำไรชีวิตแล้ว

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเว็บญาณทิพย์ที่มี คนมีญาณ ปณิธานช่วยเหลือคน เพราะเว็บญาณทิพย์คือแหล่งกบดาล อาจารย์มีญาณดีๆมากมาย
นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ รักไร้พ่าย ที่เจอคนมีญาณระดับ ด๊อกเตอร์ เพราะผมได้เคยเชิญ คนมีญาณระดับ ด๊อกเตอร์ มากระจุกที่นี่หลายรายแล้ว

แต่สิ่งที่แปลก และใหม่ สำหรับทั้งเว็บญาณทิพย์และรักไร้พ่าย คือ

การได้เจอคนมีญาณที่ใช้ญาณในการทำนายด้วยศาสตร์ทางการสะกดจิต
โดยวิธีแก้ไขชีวิตด้วยศาสตร์การสั่งจิตใต้สำนึกที่บันทึกผลกรรมของผู้คนฝังแน่นในนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนนั้นมีพฤติ
กรรมด้านลบกับตัวเองและผู้อื่น ทำให้ชีวิตติดขัดในด้าน การงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก คุณภาพชีวิต
ความไม่มั่นใจในตัวเอง การมองโลกแง่ร้าย ให้หายขาดได้

นอกจากนี้ อ.กาจพล ยังใช้หลักการพยากรณ์ด้วยตัวเลขศาสตร์ในเบอร์โทรศัพท์มือถือของแต่ละคน คุณรู้หรือไม่ว่า
เบอร์โทรที่คุณใช้อยู่นี้ บ่งบอกความเป็นตัวคุณในแง่ของวิถีชีวิต ผลกรรม และโชคลาภและเคราะห์กรรมของคุณไว้หมด
แล้ว หากใช้เบอร์โทรที่มีเลขศาสตร์ที่ไม่ดี ชีวิตผู้นั้นย่อมติดขัดไปด้วย

ฟังๆดูแล้วหลายคนอาจสงสัยว่า

มีงี้ด้วยหรา !!

เบอร์โทรไม่ดี เบอร์ซิมไม่แจ่ม ทำให้ชีวิตอับเฉาไปด้วย

ไม่เพียงแต่คุณที่สงสัย แม้แต่ผมในเบื้องต้นที่ฟัง อ.สาธยายมา ก็ยัง งง เหมือนกัน และดูแล้วไม่น่าจะเป็น ว.ท.ย.ศ
วิทยาศาสตร์ตามแนวทางของ อ.เลย

แต่ว่าคนอย่าง อ.กาจพล ที่เป็นถึงด๊อกเตอร์ เป็นครูสอนมหาลัย เป็นนักปฏิบัติธรรมที่เคร่งครัดคนหนึ่ง กลับเชื่อเรื่องนี้ได้

หากคุณอ่านบทความนี้จบคุณจะร้อง อ๊าก เอ๊ย เรื่อง อ๋อ ทีเดียว เพราะทุกศาสตร์ที่ อ.แกใช้นั้นสามารถ explainable อธิบายเป็น ว ท ย ศ ได้ทั้งหมด

ชีวิตของ อ.กาจพล ก่อนจะมาเป็นอาจารย์ผู้นำทางสว่างให้ผู้คนทั้งทางโลก ทางธรรม และทางจิตวิญญาณได้นั้น
ก็ต้องแลกด้วยการเผชิญมรสุมชีวิตมากมาย ตั้งแต่ปัญหาชีวิตรุมเร้า เคยโดนเพื่อนโกงเงินเป็นสิบล้าน ชีวิตถึงจุดหักเห
ต้องเบี่ยงมาเดินทางธรรมไม่ใช่เพราะศรัทธาในธรรมะ แต่เพื่อหารค้นหาชีวิตตามแนวทางของธรรม
อ.ได้พิสูจน์ค้นคว้าและทดลองทางจิต ด้วยการฝึกปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง จนวันหนึ่งได้นั่งสมาธิและเกิดนิมิตเห็นพระเกจิ
ชื่อดังรูปหนึ่งที่มีฉายาว่า เทวดาเดินดิน มาสื่อกับ อ. และได้ชี้แนะ ชี้นำทางเดินชีวิตใหม่ ให้ อ.กาจพล ได้เข้าใจชีวิตที่มีคุณค่า คือการสร้างคุณค่าให้ผู้อื่น

และจากการที่เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ชอบทดลอง หาเหตุและผลของสิ่งต่างๆ จึงได้เสาะหาสรรพความรู้มากมายเกี่ยวกับ จิตวิญญาณ จน อ.กาจพล
เข้าถึงแก่นแท้ของศาสตร์ต่างๆ ที่มีรากฐานมาจากแหล่งเดียวกัน คือ ธรรมชาติ และ อ.กาจพล ได้นำศาสตร์เหล่านั้นมาประยุกต์
ใช้เพื่อในการช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการตรวจกรรม แนะนำทางออกชีวิตให้ ตั้งแต่นั้นมา

ศาสตร์ของ อ.กาจพล มีมากมาย แต่ที่เด่นจริงๆมีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน
คือ

1.การตรวจกรรมผ่านญาณครูบาอาจารย์

2.การสั่งจิตใต้สำนึก การสะกดจิตเพื่อ delete พฤติกรรมขยะ ทัศนคติที่ไม่ถูกต้องในจิตใต้สำนึก
และโปรแกรมจิตใหม่ในสิ่งดีงามและให้สมหวังในเรื่องที่ต้องการ

3.วิชาพลังจักรวาล จักระ ตาที่สาม

4.การพยากรณ์ด้วยวิชาเลขศาสตร์จากเบอร์โทรมือถือ หรือ Mathology

อ.กาจพลไม่ใช้เพียงใช้ศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง แต่จะใช้ทั้งหมดผสมผสานกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการช่วยเหลือคน
และไม่น่าแปลกที่ ในแต่ละวันจะมีผู้คนในทุกระดับสังคมมาขอความช่วยเหลือจาก อ.กาพล มากมาย ทั้งคนที่ทุกข์
คนที่จะฆ่าตัวตาย คนทำแท้ง คนติดกรรมหนัก วิญญาณไล่ล่า หรือ พ่อค้า แม่ขาย

หรือ เป็นที่ปรึกษาการลงทุน การเงินให้กับเหล่านักธุรกิจ คนเล่นหุ้น
มาให้ อ.ชี้แนะบ่อยมาก รวมถึงคนขายที่ดิน ขายบ้าน และธุรกิจต่างๆอีกมากมาย

ขนาดว่า บรรดาเหล่าเศรษฐี มหาเศรษฐีต่างต้องการตัว อ.กาจพล ไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวด้สนธุรกิจการลงทุนด้วยการทุ่มเงินซื้อ
ตัว อ.ด้วยเงินมหาศาล แต่ อ.กลับ say no เพราะคนอย่าง กาจพล เงินซื้อไม่ได้ แต่ขอแค่ชนะใจเขาได้ด้วยคุณงามความดี
อ.คนนี้ทุ่มสุดใจเพื่อช่วยเต็มที่

ทำไม อ.กาจพล คนนี้จึงเป็นที่หมายปองขอคนใหญ่คนโต

เหตุผลเพราะว่า 1.ศาสตร์ของ อ.กาจพล สามารถแก้ไขปัญหาคนได้ทุกระดับ ไม่เพียงแต่ปัดเป่าทุกข์ แต่ชี้ทางทำกินให้คนได้
2.เพราะ อ.ช่วยคนด้วยใจ และทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อให้ชีวิตได้ดีขึ้น และให้ผู้คนรู้จักกับการให้ รู้จักทำบุญ


ผมได้รู้จักกับ อ.กาจพล เพราะ อ.เป็นสมาชิกเว็บญาณทิพย์นี้อยู่แล้ว แบบว่า แอบซุ่มดูอยู่พักหนึ่ง เมื่อแกคิดว่าคงถึงวาระจะได้มาร่วมตั้งวง
ก๊งญาณ กับเว็บญาณทิพย์ แกจึงมาติดต่อกับผมเอง เหตุจูงใจแกอยากมาช่วยคนทีนี่ เพราะเห็นว่า เป็นแนวทางเดียวกัน

ลองมาอ่านบทสนทนาระหว่างผมกับ อ.กาจพล ดูนะครับ หลังจากได้คุยกับ อ.ผ่านเว็บแล้ว
ผมได้ขอเบอร์ติดต่อเพื่อทำการพูดคุยกัน ผมโทรไปหา อ.และได้ทักทายกันพอหอมปากหมอคอ จากนั้น ก็

รักไร้พ่าย : ไม่ทราบว่า อ อยู่ กทม ไหม

อ.กาจพล : เปล่าครับ ผมอยู่จังหวัดปราจีนบุรี ครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ แล้วทำงานอะไรอยู่ครับ

อ.กาจพล : ผมรับราชการครับ และเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ในหลายๆมหาลัยครับ เป็นที่ปรึกษาทางองค์กรธุรกิจครับ
และก็กำลังทำงานถวายความรู้พระภิกษุสงฆ์ในวิชาการทางโลกครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ ทำหลายอย่างเลยครับ อ.มีญาณตรวจกรรมให้คนด้วยวิธีไหนครับ

อ.กาจพล : ผมใช้จิตเข้าไปดูสาเหตุของเรื่องที่เขาประสบทุกข์ครับ ส่วนทางแก้ไขนั้นผมอาจมีแนวทางไม่เหมือนกับผู้มีญาณท่านอื่นนะครับ

รักไร้พ่าย : เหรอ แก้ด้วยแนวทางไหนครับ

อ.กาจพล : ส่วนใหญ่ผมจะแก้ไขด้วยศาสตร์การสั่งจิตใต้สำนึก

รักไร้พ่าย : สั่งจิตใต้สำนึกเหรอ

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : สะกดจิตใช่ไหม

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ เป็นอะไรที่ แหวกแนวมาก ไม่คิดว่า เรื่อง Hypnosis จะสามารถมาโยงกับเรื่องกรรมได้

อ.กาจพล : จริงๆ ศาสตร์แต่ละศาสตร์มีรากฐานมาจากธรรมชาติครับ ชีวิตคนเรามีองค์ประกอบเพียงแค่รูปกับนาม
หรือ กาย กับจิต คนส่วนใหญ่เข้าใจเรื่องนี้อย่างแท้จริงน้อยมาก ทำให้เข้าใจชีวิตตัวเองไม่มากพอ คนเราจะทำตามความรู้
ความเชื่อ และ ความเข้าใจของตัวเองเป็นหลัก หลายคนมองโลกในแง่ร้าย แต่หารู้ไม่ว่า ไม่ว่าคนนั้นจะคิดยังไง
จิตใต้สำนึกได้บันทึกเรื่องราว ความรู้สึกไปแล้ว และจะส่งผลให้เป็นชะตาชีวิตให้เขาต้องเผชิญตามจิตที่คิด

รักไร้พ่าย : อ่อ เพราะจิตมันฝังลงไปใน sub conscious mind มันเลยแก้ยาก เพราะเป็นพฤติกรรมขยะ
ที่คนนั้นจะทำออกมาโดยไม่รู้ตัว จึงต้องมีการเข้าไปจัดการมันที่ต้นตอ คือ จิตใต้สำนึก

อ.กาจพล : ใช่ครับ จิตของคนเรามันจะโปรแกรมสิ่งที่เราคิด เราทำ โดยเฉพาะการได้ย้ำคิด ย้ำทำเรื่องใดซ้ำๆ
ไมว่าจะดีหรือไม่ดี sub conscious mind จะน้อมนำให้คนนั้นต้องพบเจอเรื่องนั้นๆผ่านชะตาชีวิต



รักไร้พ่าย : แต่แนวทางการแก้ด้วย hypnosis นี้จะทำให้คนเชื่อเรื่องบุญ เรื่องกรรมเข้าใจได้เหรอ การสะกดจิตแบบนี้
มันน่าจะเป็นคนละแนวทางกับเรื่องญาณ

อ.กาจพล : เพราะแต่ละคนยึดติดหลักการแบบตายตัว ประยุกต์ไม่ได้ จึงไม่อาจเข้าถึงเรื่องของจิต จึงเป็นหน้าที่ของผม
อีกด้สนหนึ่งที่จะให้ความเข้าใจคนๆนั้นเรื่องเหล่านี้ด้วย

รักไร้พ่าย : ผมเห็นหลายๆ อ.ที่เชี่ยวชาญด้านการสะกดจิต ตามสถาบันจิตวิทยา เหมือนกับของ อ.ไหม

อ.กาจพล : แนวทางเดียวกันครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ แบบว่า เอากระดาษตัดตะเกียบได้ ผมเคยไปฝึกอบรมสะกดจิตมา จะเหมือนของ อ.รึป่าว
ของเขาสั่งให้จิตสำนึกให้อยู่ในภวังค์ก่อน คือ เคลิ้มๆ แล้วให้จิตใต้สำนึกที่มีพลังอำนาจมากกว่าได้ทำหน้าที่
สามารถทำตามที่เราต้องการได้

อ.กาจพล : แนวทางจะเหมือนกันครับ แต่ผมจะง่ายกว่า ถ้าคุณจะใช้กระดาษตัดตะเกียบ ผมแค่บอกคุณว่า
ตัดได้ คุณก็จะตัดได้เลยครับ ไม่ต้องให้คุณต้องเข้าภวังค์ก่อนเลย

รักไร้พ่าย : โอ้โห ขนาดนั้นเลยเหรอ

อ.กาจพล : ถ้าเข้าถึงแก่นของศาสตร์นั้นก็ไม่ยากที่จะทำได้

รักไร้พ่าย : ครับ เรื่องเอากระดาษตัดตะเกียบ งอช้อน ส้อมได้ด้วยจิต จริงๆเป็นกุศโลบาย เพื่อให้คนนั้นได้รู้ว่า
อำนาจจิตใต้สำนึกนั้น ยิ่งใหญ่มากสามารถทำสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ให้เป็นไปได้หรือเรียกว่า ปาฏิหาริย์

อ.กาจพล : ใช่ ครับ อาศัยความเชื่อมั่นและจินตนาการด้วยครับ คนที่มีจินตนาการที่สูง จะเข้าถึงศาสตร์นี้ได้เร็ว

รักไร้พ่าย : อึมๆ ผมชอบเรื่องนี้มาก การใช้จินตนาการบันดาลความสำเร็จ ผมอยู่กับมัน อยู่กับ imagine และเข้าถึงมัน นี่คือ secret ของชีวิตเลย
ความสำเร็จทุกอย่างเริ่มต้นด้วย imagine และตามด้วยความเชื่อมั่น มีแค่ 2 อย่างนี้ และหล่อเลี้ยงมันด้วยความรักอย่างสม่ำเสมอ
แล้วทุกอย่างจะน้อมนำมาให้เราเอง โดยไม่ต้องเหนื่อยเลย จินตนาการอย่างทะเยอทะยาน และ เชื่อมั่น

อ.กาจพล :ใช่ครับ แสดงว่า คุณเข้าใจแก่นแท้ของจิตได้ดีเลย

รักไร้พ่าย : แต่หลายๆคนไปเข้าใจเรื่องจิตต่างกัน ตามตำราบ้าง หรือความเชื่ออื่นบ้าง จึงไม่เข้าใจแก่นของมัน ไม่งั้นชีวิตเขาจะง่ายกว่าที่เป็นอยู่เยอะ

อ.กาจพล : ใช่ครับ ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยา ธรรมะ ญาณ จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นศาสตร์หรือหลักวิชาการใดก็ตามที
ก็คือจิตเดียวกัน ชีวิตคนเรา มีแค่ นาม กับรูป หรือ กาย กับจิต เป็นสภาวธรรมของธรรมชาติ วิชาต่างๆเหล่านี้มีเพื่อ
จะเข้าใจและควบคุมมันให้เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ


รักไร้พ่าย : อึมๆ ใช่ๆ

อ.กาจพล : โดยเฉพาะศักยภาพของจิตคนเรา ทำได้ทุกอย่างตามที่เราต้องการครับ อำนาจจิตมีพลังมากที่สุด
ใครสามารถค้นพบมันได้ และใช้มันเป็น ก็จะสมปรารถนาทุกอย่างในชีวิต

รักไร้พ่าย : แสดงว่าแนวทางของ อ.ไม่เหมือนกับการสะกดจิตทั่วๆไป

อ.กาจพล : การสะกดจิตทั่วไป แบบนั้นมัน pure เกินไปครับที่จะนำมาแก้ไขปัญหาชีวิตได้สมบูรณ์
ชีวิตคนเรามีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์และสุข จะแก้ไขมันด้วยการสะกดจิตอย่างเดียวไม่ได้ครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ

อ.กาจพล : บางคนอยากรวย แล้วมาขอรับการสะกดจิต แต่จะรวยได้นั้น มันมีหลายปัจจัย ผมจึงแนะนำให้คนเข้าใจเรื่องนี้ก่อน
ก็คือ ต้องดูเหตุเก่าที่สร้างมา ทานบารมีมากพอไหม และ เหตุใหม่ คือวิริยะความมุ่งมันขันขันแข็งมีมากไหม คุณธรรมมีพอไหม
นี่ไงครับ มีหลายๆปัจจัย ต้องเข้าใจกับมันก่อน

รักไร้พ่าย : ใช่ๆ จะดูแค่เรื่องเดียวไม่ได้

อ.กาจพล : แนวทางผมคือการประยุกต์รวมกันระหว่าง ญาณ ธรรมะ การสั่งจิต เพื่อแก้ไขปัญหาชีวิต
และเพื่อให้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ

รักไร้พ่าย : อ่อ แนวทางของ อ.เป็นทั้งยาบำบัดและยาบำรุง

อ.กาจพล : ครับ

รักไร้พ่าย : ถ้าสมมติมีคนที่มีปัญหาชีวิต การงาน การเงิน ความรัก ครอบครัว หรือ สุขภาพ มาให้
อ.ช่วย อ.มีขั้นตอนการช่วยยังไงตามแนวทางของ อ.

อ.กาจพล : ผมจะหาสาเหตุของปัญหาของเขาก่อน ว่าเกิดจากอะไร

รักไร้พ่าย : ด้วยวิธีไหนครับ

อ.กาจพล : ผมใช้หลายๆศาสตร์เพื่อตรวจสอบสาเหตุครับ ทั้งหลักศาสตร์การพยากรณ์ หรือการดูจากญาณครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ อ.ใช้ญาณ ด้วยเหรอ

อ.กาจพล : จะใช้คำว่าญาณหรืออะไรก็ตาม ถ้าให้เข้าใจง่ายๆคือ เป็นการใช้จิตละเอียดเพื่อมองเห็นสภาวะทิพย์

รักไร้พ่าย : อ่อ คือใช้ญาณทิพย์ มองสาเหตุของปัญญาคนๆนั้น

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : อ.ได้ญาณมายังไงครับ

อ.กาจพล : ผมฝึกปฏิบัติธรรม จนได้สัมผัสกับญาณของพระสงฆ์รูปหนึ่ง คุณเคยได้ยิน เทวดาเดินดินไหมครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ หลวงปู่สวง

อ.กาจพล : ใช่ครับ ท่านมาในนิมิตและแนะนำผมมากมาย และชี้แนะผมในการช่วยเหลือคน ก่อนที่คุณจะโทรมานี้
ผมก็ถามกับท่านว่า คนๆนี้ ผมคบหาได้ไหม

รักไร้พ่าย : แล้วท่านว่าไง

อ.กาจพล : ท่านว่าได้ครับ ผมเลยมาคุยกับคุณ

รักไร้พ่าย : อ่อ มาต่อที่คุยกันเมื่อกี้ พอรู้ปัญหาของเขาแล้ว อ.จะใช้วิธีไหน แก้ไขปัญหาให้เขา

อ.กาจพล : อยู่ที่ว่าจริตของคนๆนั้นจะเข้าถึงวิธีไหนได้ดีกว่า เช่น บางคนเชื่อเรื่องหลักของกรรม คือเชื่อว่า
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเขา เพราะมาจากกรรมที่เขาสร้างไว้ ผมก็แนะนำให้เขาทำบุญให้ตรงกับกรรมที่ทำมา

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.กาจพล : แต่ถ้าบางคนหัวสมัยใหม่ ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรมมากนัก แต่ยอมรับเรื่องทางวิทยาศาสตร์ทางจิต
ผมก็ใช้การสั่งจิตเพื่อไป delete โปรแกรมที่ทำให้เขาประสบปัญหา และสร้างโปรแกรมใหม่ให้จิตใต้สำนึก แล้วชีวิตเขาจะเดินไปตามโปรแกรมใหม่

รักไร้พ่าย : แล้วแก้ด้วยการทำบุญ กับแก้ด้วยการสั่งจิต ได้ผลเหมือนกันเหรอ แสดงว่าเรื่องกรรมกับเรื่อง
จิตใต้สำนึกคือเรื่องเดียวกัน

อ.กาจพล : ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆนะครับ มีอยู่เคสนึง เป็นผู้หญิงคนนึง เธอไปเหยียบแมลงสาปตาย เธอเชื่อเรื่องกรรมมากๆ
เป็นคนศึกษาเรื่องธรรมเรื่องกรรม เธอได้รับการบอกเล่ามาว่า ถ้าไปฆ่าแมลงสาปจะทำให้เป็นโรคผิวหนัง
เพราะผลกรรมฆ่าแมลงสาป ซึ่งเป็นแมลงที่มีผิวหยาบๆ
สกปรก จะทำให้มีผิวเหมือนแมลงสาป เธอไปฝังใจเรื่องนี้ และเชื่อเช่นนั้นและย้ำคิดแต่เรื่องนี้ จนในที่สุดเธอก็เป็นโรคผิวหนังจริงๆ

รักไร้พ่าย : อึมๆ เพราะความเชื่อเลยสร้างความจริงให้เกิดขึ้นได้

อ.กาจพล : ความเชื่อมันมีอิทธิพลกับชีวิตมากที่สุด จิตใต้สำนึกมันกรั่นกรองแยกแยะถูกผิดไม่ได้
มันรับคำสั่งจากจิตสำนึก หรือ จิตคิดรู้ เท่านั้น และมันมีหน้าที่น้อมนำให้เป็นไปตามความเชื่อ
อย่างเคสนี้ ไม่ใช่โยงมาจากผลกรรม เธอไปเหยียบแมลงสาปตาย
แต่เธอไม่ได้ตั้งใจ เพราะกรรมขึ้นอยู่กับเจตนา ถ้าไม่มีเจตนาฆ่า ก็ไม่เป็นกรรมที่จะส่งผลมาเป็นวิบากกรรมให้ต้องชดใช้
แต่เพราะความเชื่อและฝังใจของเธอ ทำให้จิตใต้สำนึกมันโปรแกรมคำสั่งว่า ต้องมีผิวไม่สวย ผิวหยาบ และเป็นโรคผิวหนัง
มันเลยน้อมนำให้เป็นไปตามที่จิตสั่งมา เหมือนเป็นการอธิษฐานกับจิตตัวเองให้ผิวหยาบ

รักไร้พ่าย : อ่อ แสดงว่าจิตใต้สำนึก มันน้อมนำตามความเชื่อที่ย้ำคิดบ่อยๆ

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : แล้ว อ.บอกทางแก้เขายังไง

อ.กาจพล : ผมต้องปูพื้นความเข้าใจให้เขาใหม่ ด้วยหลักธรรมะที่ถูกต้องและ เรื่องจิตใต้สำนึกให้เขาเข้าใจ
เมื่อเขายอมรับแนวทางนี้ได้ ก็เกิดความเชื่อใหม่ และจะลบโปรแกรมเดิมๆที่เป็นด้านลบกับตัวเอง และสร้างโปรแกรมใหม่ที่ดีลงไปในจิตใต้สำนึก


รักไร้พ่าย : แล้วผลเป็นไง

อ.กาจพล : เธอก็หายครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นปาฏิหาริย์นะ แต่เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตจริงๆ

อ.กาจพล : ความเชื่อของคนเราสำคัญที่สุด เขาจะเชื่ออะไร จะทำตามความเชื่อนั้น และผลทุกอย่างเกิดจากการความเชื่อ
มีอีกเคสนึงอยากจะเล่าให้ฟัง เป็นอาม่าคนนึงมาให้ผมช่วย แกเป็นมะเร็งครับ ผมถามคุณว่า มะเร็งในความคิดของคุณเกิดจากอะไร

รักไร้พ่าย : เกิดจากโรคกรรม

อ.กาจพล : เห็นมั๊ยครับ อยู่ที่ความเชื่อของคุณ คุณคลุกคลีกับเรื่องกรรม เรื่องญาณ คุณจะเชื่อในทางนี้
แต่ถ้าผมถามหมอ ถามแพทย์เขาจะบอกว่าเกิดจากเนื้อร้ายหรือเนื้อเสีย ถ้าไปถามหมอดู เขาจะบอกว่าเกิดจากดวงตก
ปีนี้ กำลังเข้าเคราะห์หรือราหูแทรก ถ้าไปถามหมอไสย์ เขาจะตอบว่าโดนคนทำของใส่หรือ โดนวิญญาณเล่นงาน
สาเหตุมันมาจากหลายๆความเชื่อของคนหลายๆกลุ่ม แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า อันไหนคือสาเหตุที่แท้จริง

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.กาจพล : แต่คุณเชื่อไหม ว่า อาม่า คนนี้ แกเป็นมะเร็ง ไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่ผมบอกมาทั้งหมด

รักไร้พ่าย : เหรอ

อ.กาจพล : คือ แกเป็นคนเหงามาก แกมีลูกหลานเยอะ แต่ลูกหลานไม่ยอมมาดูแลเยี่ยมเยือนแก
พอแกป่วยจึงค่อยมีลูกหลานมาเยี่ยม แต่พอแกหายป่วย ลูกหลานก็ไม่มาอีก ดังนั้นแกจึงต้องแกล้งป่วยบ่อยๆเพื่อ
หวังให้ลูกหลานมาดูแลแก แกย้ำคิดบ่อยๆว่า ถ้าป่วยเป็นโรคร้าย จะมีลูกหลานมาเยี่ยมบ่อยๆ สุดท้ายแกก็ป่วยเป็นมะเร็งจริงๆ
ซึ่งมะเร็งนี้ ผมตรวจด้วยญาณแล้ว ไม่ได้เกิดจากกรรมของแก หรือแกไปตรวจสุขภาพทางหมอบอกไม่ได้เกิดจาก
การผิดปรกติของเซลล์ หรือไม่ได้รับสารพิษมา แต่จริงๆเป็นเพราะความเชื่อของแกเอง ที่เชื่อว่า ต้องป่วยเป็นโรคร้าย
ลูกหลานจะได้มาอยู่ดูแลนานๆ

รักไร้พ่าย : อ่อ ยังงี้นี่เอง ความเชื่อมันส่งผลให้เป็นไปตามนั้น

อ.กาจพล : ใช่ครับ เพราะยังงี้ แนวทางการรักษาหรือการช่วยของผมจึงไมได้ตายตัวว่า ต้องแก้ด้วยกรรม ต้องไปทำบุญ
หรือต้องแก้ที่จิตคนนั้น ต้องดู case by case

รักไร้พ่าย : อ.เข้าถึงศาสตร์หลายๆแขนง และนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเคสของแต่ละคน

อ.กาจพล : ครับ ถ้าผมจะศึกษาหรือเดินทางสายไหนแบบจริงจัง เรื่องนั้นผมต้องพิสูจน์ได้ ทดลองได้และเห็นผลได้จริง ผมจึงใช้วิธีนั้นในการช่วยคน

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ

อ.กาจพล : ทุกศาสตร์ที่ผมเรียนรู้จนเข้าใจ ไม่มีศาสตร์ไหนอยู่บนความงามงาย และความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้
ทุกสิ่งที่ผมทำ หรือที่ผมใช้ ต้องสามารถอธิบายเป็นตรรกะและเหตุผลได้ครับ

รักไร้พ่าย : ผมเข้าใจครับ เพราะวิสัยของผู้เป็นด็อกเตอร์ มักยึดหลักนี้แหละครับ แล้วแนวทางบำบัดทางจิตของ อ.ช่วยด้านไหนได้บ้างครับ

อ.กาจพล : จะเอาด้านไหนหละครับ

รักไร้พ่าย : อย่างผมนี่ นอนได้น้อย แต่ตื่นเร็ว วันนึงนอนแค่ 4 ชม ยังงี้แก้ได้ไหม

อ.กาจพล : ได้ครับ สบายมากเลย

รักไร้พ่าย : แล้วถ้า ขาดความมั่นใจในตัวเอง เรื่องชอบผัดวันประกันพรุ่ง ที่เป็นข้อเสียของผมแก้ได้ไหม

อ.กาจพล : แก้ได้หมดครับ

รักไร้พ่าย : โอ้

อ.กาจพล : เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ พฤติกรรมขยะของคน อาการซึมเศร้า โรคเครียด คิดมาก นอนหลับยาก
ขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่กล้าแสดงออก วิตกจริต ย้ำคิดย้ำทำ ขี้กลัว ชอบคิดแต่อดีตเลวร้ายฝังใจ หรือ
เรื่องเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดี มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีภาวะผู้นำ และทุกๆเรื่องสามารถแก้ได้หมดครับ

รักไร้พ่าย : น่าอัศจรรย์มากๆ

อ.กาจพล : หรือแม้แต่ การสั่งจิตให้คนนั้นย้อนกลับไปดูอดีตชาติตัวเองก็ทำได้ครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ จริงเหรอนี่

อ.กาจพล : ที่ผมบอกมานี้ ยังเป็นแค่เศษเสี้ยวเท่านั้นนะครับแต่จริงๆมีมากกว่านี้เยอะในศาสตร์ของการปรับเปลี่ยนตัวเองผ่านการสั่งจิตใต้สำนึก

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.กาจพล : ฟังๆแล้วอาจดูเหลือเชื่อ แต่ถ้าเราเข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้แล้ว และรู้ว่าจิตคนเรามันบันดาล
ความสำเร็จและความล้มเหลวให้กับเราเอง โดย ไม่มีใคร ไม่มีเทพใดบันดาลให้เราได้มากกว่าจิตเราอีกแล้ว
หากเราเข้าใจจิตเราเอง และคุมมันได้ เราจะคุมชีวิตเราได้ เพราะชีวิตเราที่เป็นไปนี้ เป็นไปตามจิตที่ถูก
โปรแกรมด้วยความเชื่อทั้งนั้น ชีวิตนี้มีแต่ จิตกับกายเท่านั้นเองครับและกายก็เป็นเพียงเครื่องมือของจิต

รักไร้พ่าย : ใช่ สุดท้ายอยู่มี่ใจ ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ใจเป็นใหญ่เป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ
คุมจิตได้ ก็คุมทุกอย่างได้ เรื่องธรรม กับ เรื่องวิทยาศาสตร์ทางจิตก็คือเรื่องเดียวกัน

อ.กาจพล : ใช่ครับ ถ้าคนเราเข้าใจแก่นของมัน จะเรียกธรรมะหรือเรียกอะไรก็เหมือนกัน
อย่างตอนที่เราทำบุญ แล้วอธิษฐานจิต ก็คือการโปรแกรมสิ่งที่อยากได้ ลงในจิตใต้สำนึกไงครับ จิตที่เกิดจากการทำบุญขฯะนั้นจะมีกำลัง จะสลายจิต
โลภที่เป็นตัวหน่วงพลังจิตให้ออกไป จิตเลยมีกำลังขณะนั้น
ก็เหมือนการ คือ สร้างความเชื่อมั่นให้จิตไร้อัตตาชั่วคราว ดังนั้นการะสะกดจิตคือการกำหนดความต้องการลงไปในจิตใต้สำนึก
ให้มันน้อมนำให้เราได้พบเจอและประสบกับสิ่งที่เราต้องการ

รักไร้พ่าย : อ่อ ก็คืออย่างเดียวกันนั่นเอง

อ.กาจพล : สิ่งสำคัญในทุกแนวทางไม่ว่าจะเป็นทางธรรม หรือ วิทยาศาสตร์ทางจิต คือ การ
Positive thinking ครับ

รักไร้พ่าย : คือการคิดดี กับตัวเอง และผู้อื่น

อ.กาจพล : ใช่ครับ ฝึกทำตรงนี้ให้เป็นนิสัยแล้วเราจะมีชีวิตที่ดีได้

รักไร้พ่าย : แต่คนทั่วไปก็ฟังเรื่องนี้มาเยอะ คิดดี ทำดี เขาฟังมาเยอะแต่ทำไมได้

อ.กาจพล : เขาแค่ฟังมาแต่โปรแกรมเก่าของเขายังฝังเรื่องแย่ๆ เป็น negative thinking อยู่
เลยเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีไม่ได้

รักไร้พ่าย : อ่อ ต้องไป delete ของเก่าก่อน

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : เรื่องจิตใต้สำนึกที่บันทึกรูปแบบการกระทำของคนเรา ก็คืออนุสัยกิเลสที่ฝังแน่น แก้ได้ยาก ก็คืออันเดียวกัน

อ.กาจพล : การแก้ไข มี 2 ทาง คือแก้ด้วยตัวองก่อน หากคนนั้นได้ปฏิบัติธรรม และสามารถลงลึกไปในจิตใต้สำนึกได้

รักไร้พ่าย : อ่อ การสร้างสมาธิเพื่อหยุดความคิดฟุ้งซ่านซึ่งเป็นจิตด้านลบไม่ให้ขุ่นมัวไปตามโปรแกรมเดิม และอีกทางนึงหละ

อ.กาจพล : อีกทางคือการให้ผู้เชี่ยวชาญทำการสะกดจิต สั่งจิตใต้สำนึกใหม่

รักไร้พ่าย : การสั่งจิตของ อ.เป็นแนวไหนครับ จะเหมือนกับของนักสะกดจิตคนอื่นไหม
คือ ปล่อยจิตสำนึกให้ผ่อนคลาย สั่งให้ร่างกายผ่อนคลาย และจินตนาการดำดิ่งในทะเล หรือ ตกจากเหว
ให้ตัวเบา และนึกถึงสถานที่สวยๆ แล้วขณะเคลิ้มๆ ก็สั่งจิตใต้สำนึกตอนนั้น

อ.กาจพล : ใช่ครับ คล้ายกันครับ แต่ผมไมได้ใช้เวลานานขนาดนั้น

รักไร้พ่าย : อ่อ แล้วต้องมาเจอตัว อ.หรือ ต้องหาสถานที่เงียบๆ รึป่าว

อ.กาจพล : ไม่จำเป็นครับ ผมใช้การสั่งจิต ผ่านทางโทรศัพท์ได้ครับ ขอให้คนนั้นอยู่ ในห้องเงียบๆก็ได้แล้วครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ แต่การบำบัดด้วยวิธีนี้ ยังไงก็ต้องใช้เวลานานพอสมควรนะ ไม่เหมือนกับการตรวจกรรมทั่วๆไป

อ.กาจพล : ใช่ครับ เวลาผมคุยกับใครหรืออยู่ระหว่างการช่วยคนทางการโทรศัพท์ ผมจะไม่เร่งเวลาครับ
ผมจะคุยสบายๆไปเรื่อยๆให้เขาผ่อนคลาย เพื่อให้เขาได้รับคำแนะนำ และวิธีการที่ถูกต้องครับ
การจะช่วยใครสักคน เราต้องพร้อมเรื่องใจและเรื่องเวลาครับ

รักไร้พ่าย : โอ้ อ.มีแนวคิดที่ดีมากๆครับ และศาสตร์ของ อ.ก็ช่วยคนได้ถึงแก่นเลย

อ.กาจพล : ปกติผมจะใช้ 4 ศาสตร์หลักๆ คือ ญาณ การสั่งจิต พลังจักรวาล และ Mathology

รักไร้พ่าย : โอ้ อะไรนะ อันสุดท้าย

อ.กาจพล : Mathology เป็นศาสตร์ของตัวเลขในโทรศัพท์มือถือของคนๆนั้น ที่บ่งบอกชีวิตคนนั้น

รักไร้พ่าย : มีวิชาแบบนี้ด้วยเหรอ

อ.กาจพล : จริงๆผมศึกษาและค้นคว้าด้านนี้มานานมากและได้ทำการทดลอง พิสูจน์และเห็นว่ามันได้ผล เลยนำมาใช้

รักไร้พ่าย : เบอร์โทรในโทรศัพท์มือถือของเรานี่เหรอครับ มีอิทธิพลกับชีวิตเรา ผมเชื่อว่ามีส่วนนะ
แต่ไม่คิดว่ามันจะมีมากขนาดเอามาศึกษาเป็นวิชา วิชาอะไรนะ

อ.กาจพล : Mathology ครับ คือวิชานี้ ไม่ได้เกี่ยวกับบุญ กรรม แต่เป็นศาสตร์ทางสถิติที่เก็บค่า
ความน่าจะเป็นถึงตัวเลขที่เกี่ยวเนื่องกับความเป็นไปของชีวิตคนเรา คนที่ถือครองเลขไม่ดี
คือรหัสลบ จะน้อมนำให้ให้พบเจอ รหัสลบในชีวิต คือเจอเรื่องไม่ดี
ในทางกลับกันถ้าคนนั้นถือครองเลขรหัสบวก ก็น้อมนำให้ไปเจอบวก

รักไร้พ่าย : ที่เขาเรียกว่าเป็นโฉลกใช่ไหม

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : เป็นเลขในเบอร์มือถือเหรอ

อ.กาจพล : ใช่ครับ

รักไร้พ่าย : เป็นเลขที่บ้าน เบอร์บัญชีธนาคาร ได้ไหม

อ.กาจพล : ไม่ได้ครับ Mathology จะเป็นเบอร์มืออย่างเดียวครับ

รักไร้พ่าย : ผมก็ไม่เข้าใจว่า มันจะมีผลกระทบกับคนเราได้ไง

อ.กาจพล : เอางี้ดีกว่า คุณบอกเบอร์มือถือที่คุณใช้อยู่มา แล้วผมจะทำนายให้ดู

รักไร้พ่าย : โอ้ เหรอ ได้ครับ

แล้วผมก็บอกเบอร์มือถือผมไป

อ.กาจพล : ผมพูดได้เลยว่า คุณเป็นคนร่างท้วม

รักไร้พ่าย : ใช่ครับ อ.เห็นผมมาก่อนรึป่าว

อ.กาจพล : ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ

รักไร้พ่าย : อ่อ แล้วรู้ได้ไง

อ.กาจพล : ก็จากเบอร์มือถือไง

รักไร้พ่าย : โอ้

อ.กาจพล : เบอร์นี้ คุณใช้มาสิบปีพอดีเลยนะ

รักไร้พ่าย : เหรอ

อ.กาจพล : ใช่ ลองไล่นับดูสิ

รักไร้พ่าย : เออ ใช่ 10 ปี พอดีเลย อ รู้ได้ไงนี่

อ.กาจพล : เบอร์นี้เป็นเบอร์หนักนะครับ ตลอดระยะเวลาที่คุณใช้เบอร์นี้ คุณจะแบกรับภาระมากมายอยู่คนเดียว
ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะมาทางสายนี้ด้วย

รักไร้พ่าย : ใช่ เรื่องแบกภาระงาน ภาระมากมาย ผมแบกจนไหล่จะหลุดอยู่แล้ว ตั้งแต่ทำงานประจำเมื่อหลายปีก่อน

อ.กาจพล : เบอร์นี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุญกุศลเลยครับ แต่เป็นเพราะแรงบุญคุณหนุนนำให้ทำ

รักไร้พ่าย : เหรอ แสดงว่าเบอร์ไม่ดีสิครับ

อ.กาจพล : มันไม่ได้เกื้อหนุนในเรื่องบุญและเรื่องเงินด้วย มันมีแต่ภาระที่ต้องแบกไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

รักไร้พ่าย : โอ้ ที่ผ่านมาเป็นแบบนี้เลยครับ

อ.กาจพล : และคุณก็ต้องเจอความกดดันแบบกลืนไม่เข้า คลายไม่ออก บางเรื่องคิดจะทำแต่ก็ติดขัด
จะไปข้างหน้าก็ไปไมได้ ถ้าจะถอยก็ไม่ได้

รักไร้พ่าย : ใช่เลยครับ

อ.กาจพล : ผมจะดีไซน์เบอร์มือถือให้คุณใหม่เอาไหมครับ

รักไร้พ่าย : ดีครับๆ แล้ว อ.คิดราคาเท่าไหร่ครับ

อ.กาจพล : ไม่คิดเงินครับ ผมดีไซน์ให้ฟรีเลย

รักไร้พ่าย : ขอบคุณมากครับ

อ.กาจพล : แต่คุณจะเอาแบบไหนหละ เอาแบบเน้นบุญ เน้นเงิน เน้นความสำเร็จ เน้นการติดต่อ

รักไร้พ่าย : โห เลือกได้เลยเหรอ

อ.กาจพล : แต่คุณต้องบอกผมตรงๆนะ คือ ใจคุณมาทำด้านนี้ ถือว่าเป็นด้านกุศล แต่ถามใจลึกๆของคุณว่า
ต้องการบุญที่สุดหรือว่า ต้องการเงินที่สุด ขอให้บอกผมตรงๆ

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.กาจพล : ถ้าจะเอาบุญ ก็ได้บุญเต็มๆ แต่เงินไมได้นะ ขอบอกไว้ก่อน

รักไร้พ่าย : ผมอยากบอก อ.ว่า ใจจริงๆ ผมไม่ต้องการบุญที่สุด หรือ ต้องการเงินที่สุด ผมทำอะไรไม่ได้ทำเพื่อบุญ
หรือทำเพื่อเงิน แต่ผมทำเพราะใจผมอยากจะทำ ทำเพราะแรงบันดาลใจในตัวเองบัญชามา เพราะได้ทำในสิ่งที่รัก
ที่ใฝ่ฝันแล้ว มันมีความสุขเป็นรางวัล เป็นผลตอบแทนให้ผมในตัวอยู่แล้ว แต่สิ่งไหนที่ผมไมได้รักมัน ต่อให้ได้เงินมาก
แค่ไหนผมก็ไม่ทำ ถ้าผมได้ทำในสิ่งที่ผมรักมัน ทำให้ได้เห็นคุณค่าของตัวเอง นั่นคือ ตัวตนของผม ไม่ว่าจะได้เงินหรือไม่ ไม่สำคัญ
ไม่ว่าจะได้บุญหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น ผมขอแค่ได้ชื่นชมความฝันของผมที่มันได้แปรออกมาเป็น
รูปธรรมที่ผมและคนอื่นๆสัมผัสได้ และสำเร็จแบบลุล่วงและชนะอุปสรรคที่มาขวางกันก็พอแล้ว

อ.กาจพล : ได้ครับ เรื่องนี้ผมจะจัดการให้ครับ

รักไร้พ่าย : ขอบคุณมากครับ ว่าแต่ที่ผมรับรู้จาก อ.ตั้งแต่ต้นมาว่า อ.ทำสิ่งใด เรื่องนั้นต้องพิสูจน์ได้ แต่ทำไมศาสตร์ Maa..

อ.กาจพล : Mathology ครับ

รักไร้พ่าย : อึมๆ เลขมือถือนี้ มันเป็นวิทยาศาสตร์ตรงไหน

อ.กาจพล : เลขรหัสเบอร์มือถือ มันเหมือนเลขประจำตัวของคนๆนั้น เป็นเลขที่เป็น Identification
ถ้าผมจะติดต่อคุณ ผมต้องโทรหาคุณ โดยผ่านเบอร์มือถือของคุณ และเลขมือถือนั้น ก็คือตัวแทนตัวตนของคุณ
เลขมือถือเป็นเบอร์ส่วนตัวของแต่ละคน เมื่อคุณรับสาย หรือ โทรออกก็ตาม คุณจะใช้เบอร์ส่วนตัวนั้น
และเบอร์นั้นจะเริ่มทำงาน รหัสตัวเลขประจำเบอร์นั้นถูกส่งผ่านดาวเทียม ผ่านท้องฟ้า ดวงอาทิตย์
และดวงดาว ซึ่งเป็นต้นกระแสพลังงานที่จะประจุพลังบวกและลบลงในตัวเลขนั้นและ ส่งกลับไปถึงตัวเจ้าของ
เลขแต่ละตัวมีประจุเป็นลบ กับ บวก ซึ่งจะส่งผล ดีและร้าย ขึ้นกับว่าจะมีเลข บวกหรือลบมากกว่าในเบอร์นั้น
และส่งผลเด่นด้านใด ก็ขึ้นกับการเรียงตัวกันของแต่ละหมายเลข ซึ่งจะบ่งบอกถึงลักษณะต่างๆและชี้ทิศทางชีวิต
คนนั้นว่าไปทางไหน ทางการเงิน การงาน ความรัก การติดต่อ ความสำเร็จ ซึ่งมีทั้งบวกและลบ

รักไร้พ่าย : โอ้ เข้าใจละเอียดเลยครับ เป็นอะไรที่แปลกมากๆเลยครับ กับศาสตร์นี้ แล้วมีคนสนใจเรื่องนี้เยอะไหม

อ.กาจพล : เยอะมากครับ ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน สนใจเรื่องนี้ ผมก็ช่วยเขาไปไม่น้อย

รักไร้พ่าย : อึมๆ ว่าแต่ อ.รู้จักเว็บญาณทิพย์ได้ไงครับ

อ.กาจพล : อ๋อ วันนึงอยู่ๆความคิดในหัวผมก็ผุดคำว่า ญาณทิพย์ ขึ้นมา ผมได้ไปลอง search คำนี้ ใน google พบว่ามีเว็บชื่อ
ญาณทิพย์ เลยลองเข้าไปดู ผมเห็นมีคนมีญาณ มีอะไรเหมือนผมอยู่ และหลายคนก็ช่วยคนด้วยใจกัน ผมก็บอกตัวเองว่า เห้ย เอาด้วยๆ
ผมคิดว่าที่นี้มีหลายอย่างที่ผมสามารถร่วมเดินทางได้

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ ขอบคุณที่จะมีอาจารย์ระดับด๊อกเตอร์ให้เกียรติมาร่วมทางด้วยกัน ผมก็อยากถาม
อ.ตรงๆเหมือนกันครับว่าจุดประสงค์จริงๆของ อ. ที่มาที่นี่ เพื่อจะช่วยเหลือคน หรือ เพื่อผลประโยชน์รึป่าวครับ
พูดกันตรงๆเลยนะครับ คือก่อนหน้านี้ ผมเจอคนมีญาณมาหลากหลายแบบ ที่ผมรู้สึกแย่ที่สุด คือตอนคุยกันแรกๆ
บอกว่ามาเพื่ออุดมการณ์แต่พออยู่ที่นี่ไปสักพักก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น จนผมต้องเอาออกจากเว็บไป
ซึ่งผมไม่อยากเจอแบบนั้นอีก จึงอยากถาม อ.ตรงๆเลย

อ.กาจพล : ผมขอบอกคุณว่า ผมเป็นคน clear and clean นะครับ ผมพูดอะไร จะอยู่บนพื้นฐานของความจริงและชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ผมได้ช่วยเหลือคนมามาก กลุ่มคนที่มาให้ผมช่วยมีทั้งหลากหลายอาชีพ
ผมช่วยคนไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนแบบกำหนดตายตัว แต่เชื่อไหมครับว่า ที่ผมไมได้เรียกร้องนั้น เขาให้ผมเท่าไหร่

รักไร้พ่าย : เท่าไหร่ครับ

อ.กาจพล : เขาให้ผมไม่ใช่หลักพัน หลักหมื่น นะครับ เขาให้ผมเป็นหลักแสน หลักล้าน

รักไร้พ่าย : โอ้

อ.กาจพล : เพราะผมช่วยชี้แนะเรื่องการลงทุนให้กับ นักลงทุน คนเล่นหุ้นโทรมาถามผมเยอะมาก
หุ้นวันนี้จะขายดีไหม นักลงทุนมาปรึกษาผมจะลงทุนกับธุรกิจดีไหม นักอสังหาริมทรัพย์ ถามผมว่าลงทุนซื้อ
ที่แปลงนี้จะคุ้มไหม ซึ่งแต่ละคนเป็นเศรษฐีระดับร้อยล้านขึ้นไป แต่ละคนที่ผมแนะนำไป เมื่อเขาประสบความสำเร็จในการลงทุน
เขาก็มาตอบแทนผมทีละเป็นแสน หรือเป็นล้าน และเขาก็บอกต่อๆกันไป ดังนั้นถ้าผมจะหารายได้จากทางนี้
จริงๆ ผมว่า ผมมีช่องทางที่ดีกว่าในเว็บญาณทิพย์ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่กลุ่มคนรวยหรือเป็นเศรษฐี
และฐานะของผมตอนนี้ก็ไม่ได้ลำบาก ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเลย และการได้มีโอกาสมาช่วยคนที่เว็บญาณทิพย์
คือการ clear and clean ที่สุด คือ มาช่วยคนในกลุ่มที่ไม่ใช่ระดับเศรษฐี

รักไร้พ่าย : อ่อ ครับผม อ.ช่วยคนแบบไหนบ้างครับ

อ.กาจพล : ทุกแนวครับ แต่ที่เจอมากสุดคือ คนที่จะฆ่าตัวตาย เจอเคสหนักๆมาให้ช่วยเยอะครับ

รักไร้พ่าย : อึมๆ

อ.กาจพล : ผมผ่านการช่วยคนมาทุกรูปแบบแล้วครับ ยิ่งช่วยคนผมก็ยิ่งเรียนรู้ชีวิตและนำกลับมาสอนตัวเอง

รักไร้พ่าย : ประสบการณ์ของ อ.เยอะมากเลยครับ

อ.กาจพล : ผมคิดว่าวิชาต่างๆที่ผมได้มานี้ จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับผู้คนมากที่สุด
เพราะชีวิตคนเราทุกคนเริ่มต้นที่ศูนย์และจบลงที่ศูนย์ ไม่ว่าเราจะหามาได้มากหรือน้อยก็จบลงเท่ากัน เงินทอง
บ้านช่อง หรือแม้แต่ร่างกายเรา เอาอะไรไปไม่ได้เลย แต่สิ่งหนึ่งที่เราเอาไปได้ คือ บุญกุศล
ซึ่งผมตั้งใจจะเอาเวลาที่พอมีอยู่นี้ มาสร้างสรรค์คุณค่าให้เกิดกับผู้คนให้มากที่สุด
รักไร้พ่าย : อ่อ ครับ

อ.กาจพล : ผมเคยมีชีวิตที่ตกต่ำและย่ำแย่มาก่อน ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ผมยังอยู่ทางโลกแบบยึดติดสุข
ตะเวนหาความบันเทิงรูปแบบต่างๆ จนวันนึงต้องเจอมรสุมชีวิต โดนโกงบ้าง ปัญหาการงาน การเงินบ้าง
สุดท้ายผมต้องมาหาคำตอบให้กับตัวเอง และเริ่มหาจุดหมายที่แท้จริงของชีวิตว่า เราควรเดินไปทางไหน
โดยการค้นหาทางจิต ทั้งการปฏิบัติทางจิตตามทางพุทธ และทางจิตวิทยา แลศาสตร์ทางจิตหลายๆแขนง
และรู้คำตอบว่า ชีวิตคนเราต้องเดินให้ถูกธรรม เพราะจุดสุดท้ายของธรรมคือ ความว่างเปล่า ไม่มีตัวตน
หากไปยึดติดกับสิ่งที่แปรปรวนย่อมเดินผิดธรรม ย่อมเกิดทุกข์ ผมจึงเข้าใจมันและพยายามสร้าง
คุณค่าให้กับตัวเอด้วยการสร้างคุณค่าและสิ่งดีงามให้กับคนอื่น

 

ขาดอีก 3 คนค่ะ

 

ประมาณวันที่เท่าไหร่ค่ะอยากไปเหมือนกัน

 

สาธุคะ โมทนาบุญคะและขออนุโมทนาบุญ กับอาจารย์ดร. กาจพล ด้วยคะ ที่ช่วยเหลือคน โดยไม่เห็นแก่ลาภสักการะคะ บุญรักษานะคะ

 

อยากเรียนด้วยครับต้องทำไงบ้าง..

 

อ.กาจพล : ผมเคยมีชีวิตที่ตกต่ำและย่ำแย่มาก่อน ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เป็นแบบนี้นะ ผมยังอยู่ทางโลกแบบยึดติดสุข
ตะเวนหาความบันเทิงรูปแบบต่างๆ จนวันนึงต้องเจอมรสุมชีวิต โดนโกงบ้าง ปัญหาการงาน การเงินบ้าง
สุดท้ายผมต้องมาหาคำตอบให้กับตัวเอง และเริ่มหาจุดหมายที่แท้จริงของชีวิตว่า เราควรเดินไปทางไหน
โดยการค้นหาทางจิต ทั้งการปฏิบัติทางจิตตามทางพุทธ และทางจิตวิทยา แลศาสตร์ทางจิตหลายๆแขนง
และรู้คำตอบว่า ชีวิตคนเราต้องเดินให้ถูกธรรม เพราะจุดสุดท้ายของธรรมคือ ความว่างเปล่า ไม่มีตัวตน
หากไปยึดติดกับสิ่งที่แปรปรวนย่อมเดินผิดธรรม ย่อมเกิดทุกข์ ผมจึงเข้าใจมันและพยายามสร้าง
คุณค่าให้กับตัวเอด้วยการสร้างคุณค่าและสิ่งดีงามให้กับคนอื่น

ชอบมากครับ

ร่วมอนุโมทนาด้วยคนครับ
บุญยิ่งใหญ่มาด้วยน้ำใจที่ใหญ่กว่า
อยากบอกว่าขอบคุณมากๆครับ

 

สนใจเหมือนกันค่ะ แต่อยู่ใกลม๊ากกก มากก ทำไงดี?

 

ชอบบรรทัดทองนี้ครับ

"......หากไปยึดติดกับสิ่งที่แปรปรวนย่อมเดินผิดธรรม ย่อมเกิดทุกข์ ผมจึงเข้าใจมันและพยายามสร้าง
คุณค่าให้กับตัวเองด้วยการสร้างคุณค่าและสิ่งดีงามให้กับคนอื่น"

 

อยากเรียนด้วย อยากปรึกษาปัญหาชีวิตด้วย จะ
ติดต่ออ.กาจพลยังไงค่ะ

 

อยากเรียนเหมือนกันค่ะ
น่าสนใจมาก

 

ครูติงๆไปเรียนมาแล้วมาสอนด้วยนะ

 

อยากเรียนสกดจิต

ผมต้องการเรียนการสกดจิต โครงการยังมีอยู่หรือไม่ ช่วยอัพเดทให้ทราบด้วยครับ

 

ยกมือ อยากเรียนด้วยคนค่ะ

 

ยกมืิอ อยากเรียนด้วยคนเจ้าค่ะ และอยากให้ช่วยแก้ไขชี้แนะแนวทางใหม่ให้้ด้วยเป็นกุศลทานนะเจ้าค่ะ ช่วยคนที่เดินทางเกวียนมาค่อนชีวิต ให้เดินทางเท้านะเจ้าค่ะ ขอความเมตตาเจ้าค่ะ เข้าห้องญาณทิพย์ไม่ได้เพราะทำงานอยู่ประเทศจีน ไม่มี google ,facebook ,youtoobe เล่นwehateได้ค่ะ เลยเข้าurl เวปพลังจิตได้ค่ะ

 

อยากเรียนค่ะ