โรคด่างขาว

โรคด่างขาว

คอลัมน์ พบแพทย์จุฬาฯ

โดย นพ.ประวิตร อัศวานนท์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



การรักษาโรคด่างขาว

ในปัจจุบันเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคด่างขาวเกิดจากสาเหตุอะไร ทราบแต่เพียงว่าส่วนใหญ่น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ภูมิต้านทานของร่างกายซึ่งปกติมีหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอม เช่น เนื้องอก มะเร็ง เชื้อโรคต่างๆ เกิดทำงานผิดพลาดขึ้น และหันมาทำลายเซลล์ของร่างกายตัวเราเอง ซึ่งในกรณีของด่างขาว เซลล์ที่ถูกทำลายนี้ก็คือ เซลล์สร้างสีของผิวหนัง

วิธีรักษาโรคด่างขาว

ในการรักษาด่างขาวส่วนมากแพทย์มักพิจารณาว่าผื่นด่างขาวนั้นมีมากน้อย หรือกินบริเวณกว้างแค่ไหน ถ้าเป็นไม่มากนัก เช่น ไม่เกิน 5-10% ของผิวหนัง การรักษาที่เหมาะสมจะเป็นยาทา ซึ่งยาที่ใช้ได้สำหรับการรักษาด่างขาวก็มีหลายตัว อาทิ สเตียรอยด์ แคลซิโปไทรออล (calcipotriol) ทาโครลิมัส (tacrolimus) พิเมโครลิมัส (pimecrolimus) ทั้งนี้ ในการรักษาด้วยยาแต่ละชนิดจะมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งจำเป็นที่ผู้ป่วยจะต้องปรึกษากับแพทย์โดยละเอียดเป็นกรณีๆ ไป

การรักษาอีกลักษณะหนึ่งซึ่งใช้กันมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผื่นด่างขาวที่กินบริเวณกว้าง หรือเป็นหลายๆ ที่ทั่วตัว คือ การรักษาด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี) ซึ่งที่จริงเป็นการรักษาโดยเลียนแบบธรรมชาติ คนโบราณตั้งแต่สมัยอียิปต์ทราบกันมานานแล้วว่าแสงแดดนั้นใช้รักษาโรคผิวหนังต่างๆ รวมทั้งด่างขาวได้ รูปแบบของการรักษานั้นมีตั้งแต่ใช้แสงยูวีเปล่าๆ โดยไม่ใช้ยา (narrowband UVB phototherapy) การใช้ยูวีร่วมกับยาทั้งชนิดทาหรือกิน (photochemotherapy, PUVA) ไปจนถึงการใช้เลเซอร์ (308-nm excimer laser) ทั้งนี้ ขึ้นกับความเหมาะสมและดุลพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา

การรักษาข้างต้นนั้นเป็นการรักษาที่มุ่งหวังให้สีผิวกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ในกรณีที่ด่างขาวกินบริเวณกว้างมากๆ การจะทำให้ผิวหนังกลับมามีสีเหมือนเดิมอาจเป็นสิ่งที่ยากมาก ซึ่งในกรณีนี้แพทย์อาจพิจารณาใช้ยากำจัดสีผิวปกติให้ขาวเสมอกันทั่วตัว

ref.http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01lif07080250&day=2007/02/08&sectionid=0132