แนะปรับวิธีสอนให้"ครูพระ"เชื่อดึงเด็กเข้าถึงธรรมะ-กลัวทำบาป

​

" ธรรมะ" ช่วยขัดเกลาจิตใจมนุษย์ให้บริสุทธิ์ผ่องใสได้ แต่ครูสอนศีลธรรมในโรงเรียน หรือ "ครูพระ" ในฐานะผู้สื่อสาร ถ่ายทอดธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจำนวนกว่า 2 หมื่นรูป จากผลงานการวิจัยของ "พระราชรัตนมงคล" (มนตรี ยางธิสาร

พระนิสิตปริญญาเอก ภาควิชาศึกษาผู้ใหญ่ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) พบว่ายังขาดเทคนิคและประสบการณ์ในการ "สอนธรรม" แต่ทุกปัญหามีทางออกหากรัฐจัดฝึกอบรมครูพระ ปรับวิธีการสอน ใช้สื่อเหมาะสม เพื่อเข้าถึงเด็ก ปัญหาสังคมจะลดลง

พระราชรัตนมงคล (มนตรี ยางธิสาร) เปิดเผยถึงงานวิจัยการฝึกอบรมการสอนศีลธรรมให้พระสงฆ์ เพื่อนำความรู้ไปสอนนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นว่า งานวิจัยในระดับปริญญาเอกได้จากประสบการณ์ที่บวชมานาน ทำให้เห็นการเรียนการสอนศีลธรรมในโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่จะใช้พระที่เรียนอยู่ในวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง เราเรียกพระกลุ่มที่ไปสอนในโรงเรียนว่าพระธรรมวิทยากร เป็นเสมือนพระอาสาสมัครที่เข้าไปสอนในโรงเรียน ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมของนิสิตพระที่ทำขึ้นเพราะใจรักอยากเผยแผ่ธรรมะ สอนศีลธรรมให้เด็กๆ ในโรงเรียน ต่อจากนั้นก็ได้รับความสนใจจากทางราชการบ้าง มีกรมศาสนาเข้ามาสนับสนุนการสอนศีลธรรมในโรงเรียนบ้างแต่ก็ยังน้อย ในสมัยนั้นมีจำนวนไม่ถึง 600 รูป

ในช่วง พ.ศ. 2548 มีโอกาสได้นำเสนอโครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนต่อ รมช.ศึกษาธิการ ในสมัยนั้นคือ คุณสิริกร มณีรินทร์ โดยได้นำเสนอว่า พระที่อยู่ในวัดต่างๆ สำเร็จการศึกษามีความรู้ในหลายระดับตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก ควรจะได้ใช้ความรู้ไปสอนศีลธรรมในโรงเรียน จากเดิมที่มีพระสงฆ์ไปสอนในโรงเรียนเพียง 600 รูปจากโรงเรียนทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 4,000 รูป และ 1 หมื่นรูป โดยทำผ่านนโยบายทางการศึกษาของรัฐ ผ่านกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)

งานวิจัยในระดับปริญญาเอกได้ต่อยอดแนวคิดจากการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ได้ศึกษาในภาควิชาศึกษาผู้ใหญ่ มศว พบว่าการสอนศีลธรรมของพระในโรงเรียนต่างๆ นั้น ยังไม่มีหลักสูตรที่แน่นอน ระยะเวลาในการจัดการเรียนการสอนจึงนำมาสู่การทำวิจัยในระดับปริญญาเอก ซึ่งต้องการพัฒนาหลักสูตร เพราะการสอนศีลธรรมในโรงเรียนเพื่อให้เด็กเติบโตเป็นคนดีมีศีลธรรมและเกรงกลัวต่อการทำบาปนั้น มิได้หมายความว่าจะสอนอะไรก็ได้ หากแต่ต้องออกแบบการสอนให้เหมาะกับเด็ก

"พระสงฆ์ที่เข้าไปสอนในโรงเรียนส่วนใหญ่เด็กจะไม่ค่อยสนใจเรียน เนื่องจากพระสอนน่าเบื่อ พระไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอน หลักการบรรยาย วิธีการสนทนาโต้ตอบกับเด็ก วิธีการสอนด้วยการสาธิตให้เด็กดูหรือให้เด็กมีส่วนร่วมในการออกมาแสดงกิจกรรมต่างๆ เรื่องราวของธรรมะนั้นต้องเน้นการสาธิตในชั้นเรียนเพื่อให้เด็กเห็นจริง จะแก้อาการน่าเบื่อของนักเรียนได้"

งานวิจัยการฝึกอบรมการสอนศีลธรรมให้พระสงฆ์ เพื่อนำความรู้ไปสอนนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้ทำการศึกษาวิจัยนี้ พระสงฆ์ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้สอนนักเรียนในระดับประถมและมัธยมหรือระดับที่สูงกว่าก็ได้ สิ่งสำคัญในการสอนศีลธรรมให้นักเรียนในโรงเรียนต้องใช้สื่อที่เหมาะสม จากนั้นให้เด็กจัดกลุ่มวิเคราะห์ วิพากษ์ พูดคุยกันและนำเสนอผลงาน การเรียนการสอนในลักษณะนี้จะทำให้ผู้เรียนไม่ง่วงและสิ่งสำคัญผู้เรียนจะจดจำและสามารถเข้าถึงวิชาศีลธรรมได้ดีกว่าการสอนโดยที่พระเป็นผู้บรรยายอย่างเดียว ถ้าพระสงฆ์ที่สอนศีลธรรมในโรงเรียนเปลี่ยนวิธีการสอน จะทำให้เด็กไทยคิดได้มากขึ้นเกี่ยวกับคุณงามความดี ศีลธรรม รู้จักแยกแยะและสามารถนำหลักคิดทางพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

"ที่ผ่านมาการสอนศีลธรรมในโรงเรียนล้มเหลวไม่ได้ผล เพราะพระยังใช้วิธีสอนแบบเดิม ปัจจุบันมีพระที่สอนศีลธรรมในโรงเรียนทั่วประเทศ ประมาณ 2 หมื่นกว่ารูป ที่ยังไม่ได้รับการอบรมวิธีการสอนศีลธรรมให้เด็ก ถ้าพระสงฆ์เหล่านี้ได้รับการอบรมวิธีการสอน เชื่อว่าจะทำให้การเรียนการสอนศีลธรรมในโรงเรียนมีคุณภาพ และเข้าถึงชีวิตเด็กๆ มากขึ้น

อาตมาอยากเห็นรัฐบาลสนใจและให้การสนับสนุนเพื่อยกระดับพระสงฆ์ที่ต้องเข้าไปสอนศีลธรรมในโรงเรียน ซึ่งจะทำให้พระสงฆ์เหล่านั้นมีคุณภาพและเข้าไปสอนได้อย่างมีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการลดปัญหาสังคมได้อย่างดี เพราะเมื่อไหร่ที่นักเรียนเข้าใจ เข้าถึงศีลธรรม หลักคำสอนทางศาสนา เขาจะเกรงกลัวต่อบาป และเข้าใจผลของการกระทำมากขึ้น และปัญหาสังคมที่เกี่ยวกับเด็กจะเริ่มลดลง" พระราชรัตนมงคล ฝากทิ้งท้าย

http://www.komchadluek.net/detail/2...้ครูพระเชื่อดึงเด็กเข้าถึงธรรมะกลัวทำบาป.html

 

satu satu satu.....chrilden are the important to be taught in the good basic of religion to be better when they are grow up.

 

เป็นเรื่อง ดี มากๆ ครับ

 

สนับสนุนเลยค่ะ.................