แก้ปัญหาชีวิตด้วย ทาน ศีล ภาวนา โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย หัว-หอม, 30 ธันวาคม 2012.

  1. หัว-หอม

    หัว-หอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +1,547
    [​IMG]
    ดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย

    ณ ขุนแม่ยะ จ.เชียงใหม่





    พูดถึงปัญหาของชีวิตมันก็มีสารพัดอย่าง แต่ปัญหาส่วนใหญ่ก็เกิดจากเรื่องความรัก และเรื่องเงินทอง ฐานะความเป็นอยู่ วิธีแก้ปัญหาของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป สำหรับความเห็นของอาจารย์ การแก้ปัญหาทุกเรื่อง ต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อน


    อาจารย์เคยพบกับพระองค์หนึ่ง ก่อนที่จะบวชพระเขาก็เป็นคนที่มีฐานะดี เป็นลูกชายของผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในสังคมไทย เขาเล่าประสบการณ์ให้อาจารย์ฟังว่า หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ทำงานสร้างฐานะ เมื่อมีเงินเขาก็ชอบเที่ยวเหมือนผู้ชายทั่วไป กินเหล้าเมายา มีเพื่อนผู้หญิง เที่ยวกลางคืน ใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญนี่แหละ แต่แล้ววันหนึ่งธุรกิจของเขาเกิดปัญหา มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่เขามีปัญหาอยู่นี้ เขาก็ได้พบกับอุบาสิกาคนหนึ่ง อุบาสิกาคนนี้แนะนำวิธีแก้ปัญหาให้เขา3ข้อ


    1.ให้ทาน เขากำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินอยู่หลายล้านแต่อุบาสิกาแนะนำให้เขาทำบุญให้ทานเป็นข้อแรก

    2.รักษาศีล ต้องหยุดเที่ยวกลางคืน เลิกอบายมุข หยุดกินเหล้าเมายา ตั้งใจรักษาศีล5

    3.เจริญเมตตาภาวนา ให้ฝึกทำสมาธิเพื่อให้ใจสงบ มีความสุขใจ


    เขาก็เชื่อฟังอุบาสิกา ปฏิบัติตามคำแนะนำคือ ทำบุญให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ปรากฏว่าไม่นานชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป แก้ปัญหาได้ ภาระหนี้สินค่อยๆหมดไป จนในที่สุดเมื่อจัดการทุกเรื่องเรียบร้อย เขาก็บวชพระอยู่จนถึงปัจจุบัน อุบาสิกาซึ่งเคยให้คำแนะนำแก่เขาก็ได้เข้ามปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดเดียวกันนี่แหละ


    เมื่อเขาบวชเป็นพระแล้ว เวลามีโยมผู้หญิงมากราบ มาปรึกษาปัญหา ท่านก็ให้อุบาสิกาช่วยรับแขก ทุกข์ของผู้หญิงส่วนมากก็มี2เรื่องนั่นแหละ คือผิดหวังในความรัก กับเรื่องหนี้สินเงินทอง อุบาสิกาก็สอนวิธีแก้ปัญหาในชีวิต ให้ปฏิบัติตาม 3 ข้อนี้ คือ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ใครปฏิบัติตามนี้แล้วก็แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง



    [​IMG]



    การให้ทาน บางคนอาจจะคิดว่า ถ้าตัวเองมีปัญหาหนี้สินอยู่จะมีเงินที่ไหนไปทำบุญให้ทาน จริงๆแล้ว การทำบุญให้ทานนั้น ไม่จำกัดอยู่เฉพาะการทำบุญกับวัด กับพระเท่านั้น ไม่ว่าจะให้แก่พ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน ให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนหรือกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็เรียกว่าเป็นทานทั้งสิ้น จะให้มากให้น้อยก็แล้วแต่กำลังศรัทธาและกำลังทรัพย์ของผู้ให้


    การให้ทานเป็นอุบายอย่างหนึ่งที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาเคยทะเลาะกัน ไม่พูดกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งแสดงน้ำใจด้วยการซื้อขนมหรือผลไม้มาฝาก ก็จะช่วยให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน เปลี่ยนความรู้สึกที่เคยขุ่นเคืองต่อกันมาเป็นมิตรได้ มีอานิสงส์เหมือนการทำบุญให้ทานเหมือนกัน


    นอกจากการให้ทรัพย์สินเงินทองแล้ว การทำทานก็มีหลายวิธี ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร ก็สามารถเป็นผู้ให้ได้เสมอ ตามหลักการบำเพ็ญทาน10ประการได้แก่



    1.ให้ทานด้วยทรัพย์สินเงินทอง
    2.ให้ทานด้วยสายตาที่เมตตาปรานี
    3.ให้ทานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
    4.ให้ทานด้วยวาจาที่ไพเราะน่าฟัง
    5.ให้ทานด้วยแรงงานช่วยเหลือผู้อื่น
    6.ให้ทานด้วยการอนุโมทนายินดีเมื่อผู้อื่นทำดี
    7.ให้ทานด้วยการให้อาสนะ (ที่นั่ง)
    8.ให้ทานด้วยการให้ที่พัก
    9.ให้ทานด้วยการให้อภัย
    10.ให้ทานด้วยการให้ธรรมะ


    การรักษาศีล เมื่อมีปัญหาให้เราสำรวจตัวเองก่อนว่า ตัวเรานั้นสำรวมกาย วาจา ใจเรียบร้อยหรือไม่ บางทีเราอาจขี้บ่น คำพูดหรือการแสดงออกของเราสร้างปัญหาแก่ตัวเองแก่ผู้อื่นหรือไม่ ให้สำรวจตัวเองด้วยใจเป็นธรรม เพื่อที่เราจะได้ปรับปรุงตัวเอง ตั้งเจตนาในการรักษาศีล5ให้สมบูรณ์ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นกรอบทำให้เราไม่เบียดเบียนผู้อื่น


    หัวใจของศีลคือ ความไม่เบียดเบียน ตามปกติก็ให้เรารักษาศีลก่อน เมื่อเรารักษาศีลสมบูรณ์ ศีลเกิดขึ้นแล้ว ในที่สุดศีลก็จะรักษาเรา


    การเจริญภาวนา เมื่อมีปัญหาอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะแก้ปัญหาภายนอก ให้ตั้งสติ หยุดทำ หยุดพูด หยุดคิด หยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้ก่อน กำหนดรู้ลมหายใจออกยาวๆ ลมหายใจเข้าลึกๆ ให้มีสติ มีความรู้สึกตัวกับลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ติดต่อกันต่อเนื่องกัน มีสมาธิตั้งมั่นกับลมหายใจ ปล่อยวางความรู้สึกที่ไม่ดี ปล่อยวางจิตใจให้ว่างๆ ว่างจากอดีต ว่างจากอนาคต ว่างจากความไม่สบายใจ เหลือแต่จิตที่มีความรู้สึกตัว โอปนยิโก น้อมเข้าไปหาธรรมชาติของจิตที่เป็นประภัสสร บริสุทธิ์ผ่องใส เมื่อจิตสงบเบาสบายแล้ว จึงค่อยๆคิดแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา เมื่อจิตใจดี สบายใจแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะค่อยๆดีขึ้น ไม่ว่าจะมีวิกฤติหรือเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับเรา สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือ รักษาใจของเราให้ดี เพราะใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจดี ก็คิดดี พูดดี ทำดี ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นได้ตามเหตุปัจจัย




    [​IMG]




    ที่มา : หนังสือ "เราเกิดมาทำไม" หน้า 55-62

    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  3. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253

    ไม่ใช่เพียงท่านกล่าวแค่คำอนุโมทนาอย่างเดียวนะครับ...ท่านต้องมีความเพียรพยายามในการที่จะบรรลุธรรมด้วยนะครับ...ทาน... ศีล...สมาธิ..และปัญญาให้ ทำควบคู่กันไปด้วย พิจารณาสภาวะธรรมต่าง ๆไปด้วย...สวัสดี...ขอให้สำเร็จในธรรมที่ท่านต้องการด้วยตามประการที่กล่าวไว้แล้วข้างบนด้วยเทอญ...
     
  4. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    รู้ตามที่เขาบอก...คือความรู้ในธรรมยังมิใช่ความรู้แจ้ง..แต่เมื่อไหร่เรานำเอาความรู้ธรรมนั้นมาพิจารณาจนเกิดความเห็นจริงไปตามนั้น อย่างถี่ถ้วนแล้วจึงนับได้ว่าเป็นความรู้แจ้งเห็นจริงในธรรมนั้น...และจะเป็นความรู้ที่จะไม่มีวันลบเลือนจางหาย...แต่บางครั้งก็ยากที่จะอธิบายให้ใครต่อใครเข้าใจได้...มันจึงเป็นสิ่งที่จะรู้ได้เฉพาะตนจริง ๆ...สวัสดี...
     
  5. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ครับผม ขออนุโมทนาสาธุครับผม
     
  6. jutjan

    jutjan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...