เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 15 กันยายน 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,343
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,343
    วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทางวัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี สภาพอากาศก็เหมือนกับเข้าสู่ช่วงต้นหนาวแล้ว ก็คือฝนฟ้าหายหมด แถมยังมีลมหนาวพัดมาอีกต่างหาก อากาศที่เปลี่ยนรุนแรงขนาดนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า กระผม/อาตมภาพจะมีสุขภาพร่างกายอย่างไร ?!

    ได้แต่นั่งทำใจว่า "ธรรมดาของร่างกายเราเป็นเช่นนี้ มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ มีเสื่อมไปเป็นธรรมดา กายนี้เป็นรังของโรค รักษาได้ก็รักษา รักษาไม่ได้ถ้าอยู่ไม่ไหวก็พร้อมที่จะไปทันที" เอาสภาพจิตเกาะภาพพระเอาไว้เพื่อความไม่ประมาท องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดเลยนอกจากพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน

    ตอนนี้ทางวัดท่าขนุนกลายเป็นจุดมุ่งหมายของบุคคลหลาย ๆ หน่วยงานที่มาขอข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อไปช่วยเหลือน้ำท่วมภาคเหนือ ซึ่งทางวัดท่าขนุนเราก็ยินดีและเต็มใจ จัดไปให้อย่างจุใจทุกแห่ง แม้แต่ในเรื่องของเงินทองก็บริจาคร่วมกับส่วนงานอื่น ๆ ไปแล้ว เช่น ในส่วนของคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง เป็นต้น

    สำหรับปีนี้นั้น ทั้งประเทศจีน ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม ประสบอุทกภัยกันหนักหนาสาหัสทีเดียว ๕ - ๖ ประเทศพร้อมกัน แต่ว่าทุกประเทศก็ไม่เหมือนกับประเทศไทย เนื่องเพราะว่าประเทศไทยเรานั้น
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้นำถุงยังชีพพระราชทานขึ้นเครื่องบินไปส่งถึงสถานที่น้ำท่วม และเสด็จออกเยี่ยมเยือนประชาชนที่โดนน้ำท่วมด้วยพระองค์เอง โดยที่ไม่ได้แจ้งนักข่าวหรือส่วนราชการอื่น ๆ เลย เพราะเกรงว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นกำลังช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอยู่ เมื่อทราบว่าพระองค์ไปถึง อาจจะต้องทิ้งการช่วยเหลือประชาชนเพื่อมาถวายการต้อนรับ จึงทรงปฏิบัติงานอยู่ในลักษณะ "ปิดทองหลังพระ"

    ส่วนทางด้านทหารและพระภิกษุสงฆ์นั้น ก็ทุ่มเทสรรพกำลังออกไปช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่มีคนแชร์กลับมาอย่างน่าทึ่งที่สุดก็คือ น้ำท่วมไม่มีไฟฟ้าใช้ ปรากฏว่าบุคคลผู้นั้นได้รับเทียนพรรษามาเพื่อใช้เป็นแสงสว่าง เทียนพรรษาต้นนั้นคือเทียนที่บุคคลผู้นั้นได้ถวายไปเมื่อช่วงเข้าพรรษามานี่เอง..! ได้ย้อนกลับมากลายเป็นบุญทันตาให้ท่านได้ใช้ชาตินี้เลยทีเดียว และมีผู้แชร์ออกไปเป็นจำนวนมากว่า ตนเองก็เคยได้รับเทียนพรรษาที่ถวายวัดไปมาช่วยเหลือในตอนน้ำท่วมเช่นกัน
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,343
    อีกส่วนหนึ่งก็คือทางด้านหน่วยกู้ภัยและจิตอาสาต่าง ๆ ที่ออกทุ่มเทช่วยเหลือประชาชนแบบไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ตนเองแทบจะไม่ได้กินไม่ได้นอนก็ไม่คิดถึง หากแต่เกรงว่าบุคคลผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลือช้าจนเกินไป ถึงขนาดปีนขึ้นหลังคาเพื่อไปส่งอาหาร ส่งน้ำดื่ม ด้วยความที่ไม่ทราบว่าช่วยเขาหมดแรงแล้ว หรือไม่คุ้นชินกับพื้นที่แบบนั้น จึงได้ตกลงมา ยังโชคดีที่ว่ามีน้ำขังอยู่ พอที่จะบรรเทาได้บ้าง ไม่เช่นนั้นก็อาจจะถึงขนาดบาดเจ็บสาหัสกันเลยทีเดียว..!

    โดยเฉพาะทีมแชมป์โลกเจ็ตสกีชาวไทย ที่ต่างประเทศทึ่งกันมากว่า คนไทยของเราไม่มีคำว่าศักดิ์ศรีแชมป์โลก ถ้าคิดจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้ว คำว่าแชมป์โลกก็กองไว้บนหิ้งก่อน หากแต่พาพรรคพวกเพื่อนฝูงออกไปช่วยเหลือประชาชน ด้วยการนำเจ็ตสกีที่กินน้ำไม่ลึก วิ่งออกไปช่วยเหลือได้แบบคล่องตัวมาก สามารถพาผู้ที่ติดน้ำท่วมมาส่งยังที่สูง หรือว่านำข้าวปลาอาหารไปให้บุคคลที่ติดมาแล้วหลายวัน เป็นต้น

    ในส่วนของทหารเรือก็นำเอารถสะเทินน้ำสะเทินบก หรือว่ารถยกพลขึ้นบก บุกเข้าไปช่วยเหลือประชาชน จนเพื่อนบ้านอย่างพม่าหรือว่าลาวยังกล่าวว่า บ้านเขามีรถหรือว่าเครื่องมือทางทหารเอาไว้สำหรับทำร้ายประชาชน หรือว่าเอาไว้เพื่อช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มคนของตนเอง ไม่เหมือนกับประเทศไทยที่ช่วยเหลือเขาทั่วไปหมด

    โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ที่นำเอาอาหารไปหย่อนให้พี่น้องทางด้านฝั่งท่าขี้เหล็ก ที่ติดอยู่บนหลังคามาหลายวันแล้ว ถึงขนาดมีผู้คนนำเอาไปลงเป็นข่าวต่างประเทศ ชมเชยกันยกใหญ่ว่า
    ประเทศไหนก็ไม่เหมือนกับประเทศไทย ถึงเวลามีเหตุอะไรเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทย ก็ทุ่มเทสรรพกำลังไปช่วยเหลือกันทุกครั้ง

    ส่วนหนึ่งที่เป็นปัญหามากที่กระผม/อาตมภาพเห็นก็คือที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อน้ำลดแล้ว ปรากฏว่ามีดินโคลนกองอยู่ในบ้านหนาเป็นฟุตเลยทีเดียว..!

    ตรงส่วนนี้ในครั้งแรกที่เกิดน้ำป่าหลากที่เกาะพระฤๅษี ซึ่งกระผม/อาตมภาพไปสร้างเป็นที่พักสงฆ์ไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ ปรากฏว่าเมื่อน้ำป่าหลากครั้งแรกนั้น ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์จึงปล่อยให้น้ำแห้งก่อน แล้วค่อยไปทำความสะอาดสถานที่ ผลก็คือเหนื่อยเกือบตาย..! เพราะว่าต้องไปหิ้วน้ำในลำห้วยขึ้นมาล้างพื้นทีละถัง..!
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,343
    เมื่อน้ำท่วมน้ำหลากครั้งต่อไป จึงใช้วิธีเมื่อเห็นว่าน้ำลดจนเหลือประมาณ ๖ - ๗ นิ้วแล้ว ก็รีบเอาไม้กวาดไปกวาดทำความสะอาดเป็นการใหญ่ เพื่อกวนให้ตะกอนดินโคลนทั้งหลายเหล่านั้นลอยหน้าขึ้นมา แล้วไหลไปกับน้ำเลย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการไปหอบหิ้วน้ำมาล้างทีหลัง ซึ่งถ้าเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ก็จะไม่เดือดร้อน เห็นว่าน้ำลดลงเหลือน้อยแล้วก็จะรีบทำความสะอาด ล้างโคลนต่าง ๆ ด้วยน้ำที่ท่วมอยู่นั่นเอง เมื่อเรากวนจนตะกอนฟุ้งขึ้นมา ตะกอนส่วนใหญ่ก็จะไหลไปกับน้ำจนหมด

    น่าสงสารที่ว่าพี่น้องชาวอำเภอแม่สายของเรานั้นไม่มีประสบการณ์น้ำท่วม ก็เลยทำให้ต้องยากลำบากในการขนเอาขี้โคลนออกจากบ้านเรือนของตนเอง และเจ้ากรรมเถอะ..ท่อประปาก็มาแตกอีกต่างหาก..! จนไม่มีน้ำที่จะล้าง คาดว่าทางอำเภอแม่สายคงจะต้องปวดหัวกับการทำความสะอาดบ้านเมืองของตนเองไปอีกหลายวัน

    ในส่วนของภัยธรรมชาติต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากกรรมอทินนาทานเก่าของเรา ก็คือไปเคยลักขโมยหยิบฉวยช่วงชิงสิ่งของจากคนอื่นเขา เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินสิ่งของต่าง ๆ ไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ตลอดจนกระทั่งภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น ถ้าหากว่าโดนกันเป็นจำนวนหมู่มาก แปลว่าในสมัยก่อนเคยร่วมกันไปเป็นกองทัพ ปล้นบ้านตีเมืองของคนอื่นเขา

    ถ้าญาติโยมสังเกตจะเห็นว่า บรรดาบุคคลที่โดนนั้นก็คือ บุคคลที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศลาว ประเทศเวียดนาม แสดงว่าในอดีตเคยมีกรรมร่วมกันมา ถึงเวลาต้องชดใช้กรรมก็ชดใช้ไปพร้อม ๆ กัน..!

    แต่ในขณะเดียวกัน ท่านทั้งหลายก็ไม่ได้สร้างกรรมอย่างเดียว หากแต่ว่าได้สร้างบุญสร้างกุศลเอาไว้ด้วย เมื่อถึงเวลาลำบากเดือดร้อน แม้แต่คณะสงฆ์ก็ต้องรีบลงไปช่วยเหลือเป็นการใหญ่ พูดง่าย ๆ ว่า "บุญก็ทำ กรรมก็สร้าง" ในส่วนที่ไม่ดีเราก็ยอมรับว่าเราเคยทำเอาไว้ ในส่วนที่ดี เราก็ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้นไปได้

    เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมา ก็คือใครทำใครได้ ท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็นว่า กระผม/อาตมภาพเคยกราบขอบารมีพระในตอนปลุกเสกวัตถุมงคลแล้วเล่าให้ฟังหลายวาระว่า ถ้าหากว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสูญเสียทรัพย์สินสิ่งของก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รอดชีวิตเอาไว้ก่อน ถ้าหากว่าเรารอดชีวิตมาได้ โอกาสที่จะแก้ไขให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนดีมาก็ย่อมเป็นไปได้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,195
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +26,343
    ประเทศชาติของเรานั้นมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน มีทางสถาบันศาสนาที่บุกเข้าไปแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของญาติโยม ที่เคยทำบุญหรือไม่เคยทำบุญกับท่านก็ตาม ทุกคนต่างเห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ท่านจะเคยทำบุญกับทางวัดหรือไม่เคยทำบุญกับทางวัด ถึงเวลาเราก็ให้ความช่วยเหลือเสมอหน้ากัน

    เหมือนกับที่กระผม/อาตมภาพได้ให้พระภิกษุสามเณรหรือแม่ชีวัดท่าขนุน นำอาหารไปมอบให้กับผู้จรจัดหรือว่าบุคคลไร้บ้าน ซึ่งเข้ามาอาศัยกินอาหารชั่วครั้งชั่วคราว โดยที่บอกกล่าวว่า "แม้แต่หมาเราก็เลี้ยงเอาไว้เต็มวัด นี่เขาเป็นคน ถ้าไม่เดือดร้อนจริง ๆ จะมีใครบากหน้ามาอาศัยวัดเล่า ? เลี้ยงเขาได้ก็เลี้ยงเขาไปเถิด"

    บุคคลเหล่านี้มีกระทั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาด้วย บางคนมาในลักษณะที่ว่าแม้แต่เงินในกระเป๋าสักบาทก็ไม่มี..! ไม่ทราบเหมือนกันว่าโดนลักขโมยหรือว่าหมดไปด้วยวิธีการใด แต่ว่าพวกเราก็ให้ที่พัก ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้รับประทานอาหาร สองวันสามวันผ่านไป พอมีเรี่ยวมีแรง แข็งแรงขึ้นมาเขาก็ลาไปตามทางของตนเอง

    เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าไม่ได้มากล่าวถึงตรงนี้ ท่านทั้งหลายก็คงจะคิด
    ไม่ถึง คิดแต่ว่าถ้าเป็นฝรั่งแล้วจะต้องร่ำรวยจะต้องยิ่งใหญ่กว่าเราทั้งสิ้น แต่กลายเป็นว่า ความจริงแล้วฝรั่งนั้นหลายต่อหลายประเทศ ก็ล้วนแต่ยากลำบากกว่าบ้านเราเมืองเราทั้งสิ้น เพราะว่าเขาไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นที่เคารพนับถือ ไม่มีหลักธรรมอยู่ในจิตใจ ถึงเวลาก็ตัวใครตัวมัน น้อยคนที่จะยื่นมือช่วยเหลือบุคคลอื่นด้วยคุณงามความดีเฉพาะตัวของตน จึงทำให้เวลาที่พวกเขาลำบากก็ลำบากกันจริง ๆ ไม่เหมือนกับบ้านเรา ถึงลำบากอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วต้องมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือจนได้

    ดังนั้น..
    สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอยู่คู่ประเทศชาติของเราสืบไปชั่วกาลนาน ถึงเวลาเราก็จะเห็นคุณค่าเองว่าสถาบันทั้งหลายเหล่านี้ สร้างคุณงามความดีแก่ประเทศชาติอย่างไรบ้าง อย่าได้สิ้นสติหรือว่าสิ้นคิด ไปประพฤติปฏิบัติตามบุคคลที่เห็นฝรั่งเป็นพ่อ..! ถึงเวลาก็มา "ด้อยค่า" ประเทศชาติของเราเอง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...